Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

ซูบารุได้ 10 สุดยอดตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมแข่งขัน “แตะรถ ชิงรถ” ที่สิงคโปร์


นายอภิชัย ธรรมศิรารักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุอย่างเป็นทางการ มอบรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขัน Subaru Thailand Palm Challenge 2012 หรือ แตะรถ ชิงรถ ครั้งที่ 5 จำนวน 10 คนที่สามารถแตะรถยนต์ซูบารุได้นานที่สุดท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวและฝนตกหนักตลอดทั้งวัน โดยการแข่งขันใช้เวลาแตะรถนานถึง 8 ชั่วโมง 26 นาที 46 วินาที  ซึ่งผู้ชนะจะได้รางวัลตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์, พ๊อกเกตมันนี่, และที่พักฟรี พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมแข่งขันต่อในรายการ MediaCorp Subaru Challenge - The Asian Face-Off 2012 ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 26- 31 ตุลาคม 2555 เพื่อชิงรางวัลใหญ่รถยนต์ Subaru XV ใหม่ จำนวน 1 คัน

หมายเหตุ
รายชื่อ10 คนสุดท้ายที่แตะรถยนต์ซูบารุได้นานที่สุด  คือ
      1.นายเชษฐศักดิ์ ศรีเลา
      2.นายกิตติธร วัชรเสวี
      3.นายสมัชญ์ เทพเสน
      4.นายภัทรพล จันทร์เวียง
      5.นายชัยธัช ชุณหะ
      6.นายวรเดช พิกุลทอง
      7.นายพัศพงศ์ หยาดคำ
      8.นายภูรีพัชร์ เจตน์จันทร์
      9.นายพิเชษฐ อนันต์วัฒนกิจ
      10.นายชวณัฐ รัตนงาม

“ทีเอสแอล” ชูจุดเด่นด้านการตลาด มอบ WARRANTY ไม่จำกัดระยะทางนาน 3 ปี เพื่อสิทธิประโยชน์สูงสุดของลูกค้า


“ทีเอสแอล” เดินหน้าด้านการตลาดเชิงรุกช่วงครึ่งปีหลัง เน้นครองใจลูกค้าด้วยบริการแบบครบวงจร พร้อมจัดเต็มเรื่องการรับประกัน “WARRANTY” เพื่อมอบสิทธิประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าให้สามารถครอบครองรถสุดรูได้อย่างสุขใจมากยิ่งขึ้น

นายชนาสิน บำรุงชน  ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทีเอสแอล ออโต้       คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายยนตรกรรมชั้นนำจากต่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า “จากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจด้านรถยนต์ที่มีมายาวนานกว่า 30 ปี ในฐานะศูนย์ซ่อมและบริการรถยนต์ Mercedes-Benz ภายใต้ชื่อ เบนซ์แจ้งวัฒนะ ซึ่งจากประสบการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้บริหารของบริษัทฯ เกิดความคิดริเริ่มในการทำธุรกิจรถยนต์นำเข้าอิสระ ที่จัดตั้งขึ้นภายใต้ชื่อ           “ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น” และด้วยระยะเวลากว่า 9 ปีของการดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อนี้ ทำให้ทีเอสแอลเข้าใจและเข้าถึงทุกความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี อันเป็นที่มาของการตลาดยุคใหม่ที่เน้นหนักด้านไลฟ์สไตล์ของลูกค้าคนพิเศษ โดยทีเอสแอลได้ทุ่มงบกว่า 20% ให้กับการดูแลลูกค้า ซึ่งในช่วงครึ่งปีนี้ ทีเอสแอลจะเน้นหนักในการทำตลาดเชิงรุก ด้วยนโยบายการบริการลูกค้าหลังการขายแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น สิทธิประโยชน์จาก “บัตรมิราเคิล การ์ด” ที่มุ่งเน้นความสามารถในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกๆ ไลฟ์สไตล์ ทั้งส่วนลดในการซื้อรถกับทีเอสแอล ความสะดวกสบายเรื่องศูนย์บริการ รวมถึงสิทธิประโยชน์เฉพาะลูกค้าของทีเอสแอลอย่าง บริการสำรองที่จอดรถตามศูนย์การค้าชั้นนำ และเสริมทัพด้วยส่วนลดจากร้านอาหาร ร้านสปา และอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับเรื่องของการรับประกันคืออีกสิ่งหนึ่งที่ทีเอสแอลไม่เคยมองข้าม โดยนอกจากการสรรหารถยนต์คุณภาพเยี่ยมมามอบให้กับลกค้าแล้ว การบริการหลังการขายก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทีเอสแอลให้ความสำคัญ โดยได้จัดตั้งโปรโมชั่นพิเศษ “Warranty Unlimited Mile” หรือการรับประกันแบบไม่จำกัดระยะทางนานถึง 3 ปี สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ Mercedes-Benz CLS 250 รุ่น CDI SPORT และโปรโมชั่น “Warranty 300,000 km.” หรือการรับประกันระยะทาง 300,000 กิโลเมตร สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์พรีเมี่ยมแบรนด์ดังจากญี่ปุ่นอย่าง Toyota Alphard, Vellfire และ Estima

นอกจากนี้ นายชนาสิน กล่าวเพิ่มเติมว่า “หลังจากที่ได้มีการแนะนำ “บัตรมิราเคิล การ์ด” ของทีเอสแอลออกไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาพบว่า ได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าในระดับที่ดีมาก ซึ่งสิ่งนี้คือปัจจัยสำคัญของการวางแผนเรื่องงบประมาณในการบริหารบัตรมิราเคิล การ์ดในแต่ละปี โดยปัจจุบันทีเอสแอลมีจำนวนสมาชิกผู้ถือบัตรมิราเคิล การ์ดมากกว่า 5,000 ราย และเชื่อว่าในอนาคตข้างหน้า ทีเอสแอลจะมีจำนวนสมาชิกบัตรมิราเคิล การ์ดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน เห็นได้จากการที่ทีเอสแอลได้รับการ Repurchase จากกลุ่มลูกค้าเก่าที่มีจำนวนกว่า 10,000 ราย เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30% ในปีนี้ โดยเป็นผลมาจากการบริการที่จริงใจของทีเอสแอลที่ทำให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจกับทีเอสแอล”

อย่างไรก็ตาม สิทธิประโยชน์ของบัตรมิราเคิล การ์ดจะได้รับการเปลี่ยนแปลง และเพิ่มสิทธิประโยชน์ตามผลการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าที่ฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจของทีเอสแอล ได้ดำเนินการสำรวจเป็นประจำทุกปี โดยสิทธิประโยชน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ การสำรองที่จอดรถตามศูนย์การค้าและสถานที่ชั้นนำต่างๆ อาทิ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 2, เซ็นทรัลซิตี้ บางนา, เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว และอิมแพ็ค เมืองทองธานี

นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ในส่วนของการบริการหลังการขายอย่าง ศูนย์บริการ SMRT ของทีเอสแอลก็เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยและทีมช่างที่มีความชำนาญด้านการซ่อมบำรุงรถยนต์นำเข้า รวมถึงแคมเปญพิเศษอย่าง PIWIS Master ที่ให้บริการสำหรับรถยนต์ปอร์เช่โดยเฉพาะ ขณะเดียวกัน สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์นำเข้าจากที่อื่น แต่ต้องการจะเข้ามาใช้ศูนย์บริการ SMRT นี้ทางทีเอสแอลก็ได้จัดแคมเปญพิเศษ “Miracle Card Prepaid Package” อีกหนึ่งแคมเปญทางเลือก ซึ่งแคมเปญนี้จะมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับลูกค้า เช่น เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการกับศูนย์บริการ SMRT จะได้รับมูลค่าวงเงิน Top Up ฟรีทันที 5% สำหรับการเติมเงินตั้งแต่ 40,000 บาทขึ้นไป และการเติมเงินหรือใช้จ่ายผ่านบัตรทุกๆ 25 บาท และลูกค้าจะได้รับคะแนนสะสม jewel point เพื่อนำมาแลกของรางวัลและสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกทั้งยังมีส่วนลดค่าแรง 20% และค่าอะไหล่อีก 15% ด้วย

ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดยุคใหม่ที่เน้นความเข้าใจเรื่องไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเป็นหลัก ผนวกกับทีมการตลาดที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดากลุ่มบริษัทธุรกิจนำเข้ารถยนต์อิสระ นับว่าเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ทีเอสแอลเติบโต และยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำในวงการธุรกิจนำเข้ารถยนต์อิสระของเมืองไทยได้อย่างไม่ต้องกังวล” คุณชนาสิน กล่าวทิ้งท้าย

ทีเอสแอลเตรียมดึง 3 ชุดแต่งแบรนด์ดังเอาใจสาวกรถหรูชาวไทย

ทีเอสแอล ออโต้ เตรียมลุยตลาดชุดแต่ง ด้วยการนำเข้าชุดแต่งจาก 3 สำนักแต่งชื่อดังของโลก หวังเอาใจสาวกรถหรูที่หลงใหลการแต่งรถ ไม่ว่าจะเป็น Mercedes Benz, Porsche และ Range Rover

นายชนาสิน บำรุงชน กล่าวเพิ่มเติมถึงเรื่องนี้ว่า “ขณะนี้ทีเอสแอลอยู่ระหว่างขั้นตอนของการดำเนินการนำเข้าชุดแต่งเกรดพรีเมี่ยมเข้ามาในประเทศไทย ได้แก่ VATH ชุดแต่งสำหรับ Mercedes Benz ตามมาด้วย Onyx Concept ชุดแต่งของ Range Rover Evoke และ LUMMA-Design ชุดแต่งสำหรับ PORSCHE โดยทีเอสแอลเล็งเห็นว่า รถยนต์ทั้ง 3 แบรนด์เป็นกลุ่มรถยนต์ที่มีการเติบโตค่อนข้างเร็ว ส่งผลให้ลูกค้าของรถกลุ่มนี้ที่ชื่นชอบการตกแต่งรถมักจะถามหาออพชั่นชุดแต่งเพิ่มเติม ทั้งนี้ ทีเอสแอลเชื่อว่าเมื่อมีการนำชุดแต่งทั้ง 3 รุ่นเข้ามาเปิดตลาดในเมืองไทย ก็น่าจะสามารถเรียกกระแสการตกแต่งรถของลูกค้าที่ชื่นชอบรถหรูในสไตล์พิเศษได้เป็นอย่างดี”

มาสด้า3 รางวัลเกียรติยศสำหรับผู้ชนะที่ปฏิเสธความธรรมดา


กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 24 สิงหาคม 2555 – นายภาณุพงศ์ อัฐฐะประภาส ผู้จัดการฝ่ายสื่อสาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด มอบรางวัลเกียรติยศสำหรับผู้ชนะเลิศแห่งรายการทาเลนต์โชว์ระดับโลกอย่าง “ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 2 แค่กล้าก็ชนะแล้ว” เป็นรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 ใหม่ 1.6 ลิตร รุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู รถสำหรับคนที่ปฏิเสธ...ทุกความธรรมดา มูลค่า 869,000 บาท ให้กับ นายราชนิกร แก้วดี “เล้ง” ผู้ครองใจมหาชนคว้าตำแหน่งชนะเลิศด้วยลีลาผาดโผนของกายกรรมปีนผ้า โดย “เล้ง” ได้กล่าวถึงความรู้สึกในระหว่างพิธีมอบรถว่า “มาสด้า3 เป็นรถในฝันของผมมาตั้งแต่เด็กๆ ผมตื่นเต้นมากครับที่ได้รับรางวัลนี้ จริงๆ แล้ว ปัจจุบันผมก็ใช้รถมาสด้า2 เอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตูอยู่ รางวัลนี้ก็ทำให้ผมเหมือนได้อัพเกรดไปใช้รถที่ผมใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งความสปอร์ตเร้าใจในการขับขี่แบบ ซูม-ซูม ซึ่งแบรนด์มาสด้าก็สอดคล้องไปกับลีลาการโชว์กายกรรมปีนผ้าของผมที่มีความโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว”
มาสด้าได้ร่วมสนับสนุนรายการทาเลนต์โชว์ระดับโลก อย่าง “ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์” เป็นปีที่2 ติดต่อกัน เพราะมองว่า รูปแบบรายการรวมถึงการโชว์ความสามารถของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน สอดคล้องไปกับแบรนด์ DNA ของมาสด้า “ซูม-ซูม” ที่มุ่งเน้นถ่ายทอดถึงประสบการณ์ความสนุกเร้าใจในการขับขี่ ผ่านการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ และการให้การสนับสนุนรายการนี้ ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มาสด้าภายใต้ยุทธศาสตร์ ซูม-ซูม อย่างยั่งยืน (Sustainable Zoom-Zoom) โดยพิธีมอบรางวัลได้จัดขึ้น ณ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เมื่อเร็วๆ นี้

“ซูบารุ” เปิดศึกแตะรถ ชิงรถ ครั้งที่ 5 เฟ้นหา 10 สุดยอดคนไทยลุยแข่งสิงคโปร์


ปิดฉากความมันส์กับการแข่งขัน Subaru Thailand Palm Challenge 2012 Hold it, Win it หรือ แตะรถ ชิงรถ ครั้งที่ 5 เฟ้นหา 10 สุดยอดตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ MediaCorp Subaru Challenge - The Asian Face-Off 2012 ที่ประเทศสิงคโปร์ ชิงรางวัลใหญ่รถยนต์    Subaru XV ใหม่ จำนวน 1 คัน  ณ ลานกิจกรรมด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

นายอภิชัย ธรรมศิรารักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุอย่างเป็นทางการ เปิดเผยว่า กิจกรรม Subaru Thailand Palm Challenge 2012 Hold it, Win it หรือ แตะรถ ชิงรถ จัดขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 5 เพื่อเฟ้นหา 10 ตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วมกิจกรรมในรายการ MediaCorp Subaru Challenge - The Asian Face-Off 2012 ที่ประเทศสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 26 – 31 ตุลาคม 2555 ร่วมกับตัวแทนอีก 9 ประเทศ ได้แก่ จีนกัมพูชาฮ่องกงอินโดนีเซียมาเลเซียฟิลิปปินส์ไต้หวันเวียดนาม และสิงคโปร์ เพื่อชิงรางวัลใหญ่รถยนต์ Subaru XV ใหม่ สุดยอดรถยนต์ Crossover จำนวน 1 คัน

สำหรับการเฟ้นหา 10 สุดยอดคนไทยในครั้งนี้ จะเริ่มการแข่งขันแตะรถตั้งแต่เวลา 10.00  19.00 น. โดยผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะต้องวางมือขวาลงบนสัญลักษณ์รูปมือตามหมายเลขที่ผู้แข่งขันจับสลากได้ ผู้ที่สามารถแตะรถได้นานที่สุดซึ่งผ่านบททดสอบต่าง ๆ ในแต่ละชั่วโมงจนเหลือ 10 คนสุดท้ายจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันที่ประเทศสิงคโปร์ต่อไป

นายอภิชัย กล่าวต่อว่า 10 สุดยอดตัวแทนประเทศไทย จะได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์, พ๊อกเกตมันนี่พร้อมโรงแรมที่พักฟรีตลอดระยะเวลาการแข่งขัน  ประกอบกับผู้เข้าแข่งขันที่สามารถแตะรถได้นานที่สุดระหว่างคนไทยด้วยกัน จะได้รับรางวัลเงินสด จำนวน 1,000 สิงคโปร์ดอลล่าร์ หรือ ประมาณ 25,000 บาท

BENZ NK ส่งมอบรถ C180 SPORT PLUS+ คันแรกในไทย

นายพิตินันทน์ กฤษดาธานนท์ กรรมการผู้จัดการ เอ็น.เค. ออโต้ อิมพอร์ต ให้การต้อนรับ พร้อมส่งมอบรถ NEW C180 AMG SPORT PLUS+ คันแรกในเมืองไทย ซึ่งถือเป็นรุ่นท็อปสุดของคลาส พร้อมการตกแต่งพิเศษ และมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวให้กับ เนย-โชติกา วงศ์วิลาศ ดาราสาวดาวรุ่งของวิกสามสี ได้มอบความไว้วางใจซื้อกับทางเอ็น.เค. สามารถชมรูปภาพพร้อมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.benznk.com

คุณอโณทัย เอี่ยมลำเนา และคุณสายฟ้า เศรษฐบุตร นำทีมออโต้ – ไลฟ์ รับรางวัล “ช่อสะอาด” ประจำปี 2555 จาก คณะกรรมการ ป.ป.ช.


คุณอโณทัย เอี่ยมลำเนา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร และคุณสายฟ้า เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการผลิตรายการ บริษัท ออโต้  ไลฟ์ จำกัด ผู้ผลิตรายการ “เพชรตาแมว” ออกอากาศทางช่อง กรังด์ปรีซ์ แชนแนลPSI 111 ) นำทีมงานเข้ารับรางวัล “รางวัลช่อสะอาด ประจำปี 2555 ที่จัดขึ้นโดย คณะกรรมการ ป้องกัน ละปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบภาคประชาชน (People's Anti-Corruption Movement: PACM )หรือ ป.ป.ช.
“ช่อสะอาด”เป็นรางวัลที่มอบแก่ สื่อที่มีผลงานดีเด่น สนับสนุนและส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มีเกณฑ์การคัดสรรและพิจารณาโดยคำนึง การสร้างสรรค์ผลงานด้านสื่อในการส่งเสริมคุณธรรม ตลอดจนป้องกันและปราบปรามการทุจริต เพื่อเป็นการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ผลิตละครโทรทัศน์ ภาพยนต์โฆษณา สื่อประชาสัมพันธ์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทุจริตซึ่งเผยแพร่ทางสถานนี โทรทัศน์ และ/หรือเคเบิลทีวี ที่เผยแพร่ในประเทศไทย อันเป็นการปลูกจิตสำนึกให้เกิดค่านิยมในความซื่อสัตย์สุจริตป็นสำคัญ

ซึ่งรายการ “เพชรตาแมว” จากช่อง กรังด์ปรีซ์ แชนแนล สามารถคว้ารางวัลเกียรติบัตร ผู้ผลิตข่าวหรือสารคดีเชิงข่าว จาก 2 ตอนดีเด่นในรายการ ได้แก่ ตอน แกะรอยรถจดประกอบ (รถป้ายเทา)  ผลงานจากนางสาวสิรินทิพย์ ครีบเขียว และส่วยป้ายดำ ผลงานจากนายณัฐวุฒิ ปัญเจริญ  โดยมีนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ  ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ให้เกียรติมอบรางวัล พร้อมด้วยนายณรงค์ รัฐอมฤต รองเลขาธิการ ป.ป.ช.ร่วมเป็นเกียรติในพิธีฯ ท่ามกลางสื่อมวลชนที่มาร่วมเป็นสักขีพยานและร่วมทพข่าวกันอย่างคับคั่ง โดยงานนี้ ถูกจัดขึ้น ณ หอประชุมใหญ่ กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา

เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที (BENTLEY CONTINENTAL GT) ใหม่ล่าสุดมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8



20 กันยายน 2555 - บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ร่วมกับเบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากประเทศอังกฤษ จัดงานแสดงโชว์นวัตกรรมยานยนต์ครั้งยิ่งใหญ่โดยขนทัพขบวนรถยนต์เบนท์ลี่ย์สุดหรู พร้อมนิทรรศการแสดงความปราณีตที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของความเป็นเบนท์ลี่ย์ที่ส่งตรงมาจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ รวมทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญและช่างฝีมือที่บินตรงจากเมือง Crewe ประเทศอังกฤษ มาสาธิตและให้คำแนะนำเกี่ยวกับงานหัตถกรรมและงานฝีมือชั้นเยี่ยมที่โด่งดังของเบนท์ลี่ย์ ภายใต้ชื่องาน “The World of Bentley” เอกลักษณ์ที่สรรสร้างจากความปราณีต เพื่อความพิเศษแก่เบนท์ลี่ย์ เชิญร่วมค้นหาและสัมผัสกับที่สุดของเบนท์ลี่ย์ได้ที่บริเวณ Hall of Frame ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ 20 กันยายน – 3 ตุลาคม 2555

เบนท์ลี่ย์ทุ่มเทเพื่อการพัฒนาคุณภาพงานฝีมือชั้นเยี่ยมสรรสร้างความพึงพอใจอย่างสูงสุด ด้วยวัสดุจากธรรมชาติที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี และกระบวนการผลิตที่มาจากความพิถีพิถัน ปราณีต เพราะชื่อเสียงของเบนท์ลี่ย์นั้นคือการสร้างความน่าหลงใหล จากทักษะงานฝีมือที่สั่งสมมาและถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น และภายในงานนี้ อีกทั้งยังมีการสาธิตการเย็บหนังจากผู้เชี่ยวชาญงานฝีมือที่บินตรงมาจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ที่เมืองครูว์ (CREWE) ให้ท่านได้สัมผัสถึงความปราณีตอย่างใกล้ชิด ระหว่างวันที่ 20 – 21 กันยายน 2555

สำหรับขบวนทัพรถหรูครั้งยิ่งใหญ่ที่เบนท์ลี่ย์ภาคภูมิใจนำเสนอในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ประกอบด้วย ที่สุดของยนตรกรรมอังกฤษ เบนท์ลี่ย์ มูซาน (Mulsanne) ต่อด้วยความหรูหราและกว้างขวางอย่างมีระดับ เบนท์ลี่ย์ คอนติ เนนทอล ฟลายอิ้ง สเปอร์ (Continental Flying Spur) ไม่เพียงเท่านี้ รุ่นที่เพิ่งได้รับการเปิดตัวไปอย่าง คอนติเนนทัล จีที และ จีทีซี วี8(Continental GT and GTC V8) มารวมตัวเพื่อความยิ่งใหญ่ครั้งนี้อีกด้วย ที่ขาดไม่ได้คือรถไฮไลท์ของงานนั่นคือ คอนติเนนทัล ซูเปอร์สปอร์ต ไอเอสอาร์ (Continental Supersport ISR)

สำหรับงานในครั้งนี้เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการเท่านั้นที่สามารถรังสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ผสมผสานกับศิลปกรรมจากงานฝีมือชั้นเยี่ยมนำมาซึ่งความเป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลี่ย์ที่บินตรงจากโรงงานเมืองครูว์ ประเทศอังกฤษมาให้ท่านได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด


เบนท์ลี่ย์ มูซาน (Bentley Mulsanne)

มูซาน (Mulsanne) รถแกรนทัวริ่ง (Grand Touring) จากเบนท์ลี่ย์ที่ได้ผสมผสานเอาความละเมียดละไมในการสร้างสรรค์แต่ละชิ้นส่วนให้มีความหรูหราและงานหัตถกรรมหรืองานฝีมือชั้นเยี่ยมรวมไว้กับพละกำลังของเครื่องยนต์ที่โดดเด่นและสปอร์ตเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ส่งผลให้รถคันนี้สามารถสร้างประสบการณ์การขับขี่ให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้อย่างพิเศษแบบไม่เหมือนใคร เพราะนี่คือรถยนต์หรูที่เน้นในเรื่องของความสุนทรีย์ในการขับขี่เป็นสำคัญ และยังกลายเป็นรถยนต์หรูที่โดดเด่นที่สุดจากประเทศอังกฤษอีกด้วย

พละกำลังเครื่องยนต์มีความเหนือชั้นด้วยอัตราการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียงแค่ 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 296 กม./ชม. แรงม้าสูงสุดที่ 505 แรงม้า (512 PS/377 กิโลวัตต์) ด้วยอัตราเหล่านี้เองที่พิสูจน์ให้เห็นว่ามูซาน (Mulsanne) เป็นรถซาลูนหรูที่มีประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่ดีเยี่ยม ลูกค้าสามารถเลือก Mulliner Driving Specification เพื่อเสริมรูปลักษณ์ และสร้างสัมผัสถึงความเป็นสปอร์ตให้กับมูซาน (Mulsanne) ได้มากขึ้น

ความสมดุลและลงตัวในทุกๆ สัดส่วนของมูซาน (Mulsanne) ทำให้สัมผัสถึงความคล่องตัวในการขับเคลื่อนที่โดดเด่น สัดส่วนต่างๆ ได้รับการออกแบบให้เห็นถึงรูปทรงของรถที่ทรงพลัง สง่างาม เส้นสายของรถมีความโดดเด่นคมชัด แสดงให้เห็นถึงพละกำลังและแรงบิดที่พร้อมจะแสดงศักยภาพและสมรรถนะความเหนือชั้นออกมาได้ทุกเวลา
 

เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล ฟลายอิ้ง สเปอร์ (Continental Flying Spur)

คอนติเนนทอล ฟลายอิ้ง สเปอร์ (Continental Flying Spur) เต็มไปด้วยความสปอร์ตด้วยความเร็วสูงสุดที่ 200 ไมล์ต่อชั่วโมง (322 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) รุ่นฟลายอิ้ง สเปอร์ สปีด (Flying Spur Speed) เป็นรถยนต์แกรนด์ ทัวร์เรอร์ 4 ประตูที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ของเบนท์ลี่ย์ และถือได้ว่าขายดีที่สุดในโลกสำหรับตลาดรถยนต์ซาลูนที่หรูหราเป็นพิเศษ

เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที และ จีทีซี วี8 (Continental GT and GTC V8)

คอนติเนนทัล จีที (Continental GT) คูเป้ และ จีทีซี (GTC) เปิดประทุน มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 4.0 ลิตร twin turbocharged V8 และมีความสมดุลระหว่างพละกำลังเครื่องยนต์ต่อมลพิษที่เหนือชั้นในคลาสรถสปอร์ตชั้นหรูระดับ พรีเมี่ยมอีกด้วย
 

เครื่องยนต์ V8 จากเบนท์ลี่ย์ใหม่ล่าสุดนี้มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 500 แรงม้า (507PS/373 กิโลวัตต์) ที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 660 นิวตันเมตร (487 lb ft) ที่ระหว่างรอบเครื่องยนต์ 1,700 ถึง 5,000 รอบ/นาที ถือได้ว่าเป็นรถที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพและมีพละกำลังที่เหนือชั้นตามแบบฉบับของเบนท์ลี่ย์ทุกประการ เสริมด้วยระบบส่งกำลังหรือระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่ทำการปรับเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วขึ้น ทำให้รถคันนี้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียงแค่ 5 วินาทีกว่าๆ เท่านั้น อีกทั้งยังมีความเร็วสูงสุดที่ 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอีกด้วย

ในขณะเดียวกัน คอนติเนนทัล (Continental) เครื่องยนต์ V8 คันนี้ มีอัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยม และยังมีการปล่อยมลพิษหรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำลงอีกด้วย หากเปรียบเทียบกับรถคันอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังรถเบนท์ลี่ย์เครื่องยนต์ V8 คันนี้จะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรเลยทีเดียว

เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล ซูเปอร์สปอร์ต เปิดประทุน ไอเอสอาร์ (Continental Supersports Convertible ISR)

สำหรับรุ่นที่เป็นไฮไลท์ของงานในครั้งนี้คือ คอนติเนนทอล ซูเปอร์สปอร์ต เปิดประทุน ไอเอสอาร์ (Continental Supersports Convertible ISR (Ice Speed Record)) รถยนต์เปิดประทุนที่เต็มไปด้วยพละกำลังและมีสไตล์ที่ชัดเจนมากที่สุดจากเบนท์ลี่ย์ รถรุ่นพิเศษคันนี้มีจำนวนจำกัดอยู่แค่เพียง 100 คันทั่วโลกเท่านั้นและออกมาเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จของเบนท์ลี่ย์จากการทำสถิติระดับโลกในรายการ world ice speed record ที่ขับโดย Juha Kankkunen แชมป์แรลลี่ 4 สมัยของโลก ณ ประเทศฟินแลนด์

เบนท์ลี่ย์คันนี้มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ขนาด 6 ลิตร ไบโอดีเซล 12 สูบ ได้แสดงพลังที่เหนือชั้นด้วยการวิ่งไปบนถนนน้ำแข็งนอกชายฝั่งบอลติกประเทศฟินแลนด์โดยการควบคุมรถของ Kankkunen ซึ่งสามารถทำเวลาได้อย่างดีเยี่ยมด้วยการวิ่งไปด้วยความเร็วสูงสุดถึง 205.48 ไมล์ต่อชั่วโมง (330.695 กิโลเมตร/ชม.) สามารถทำลายสถิติของตัวเองที่เคยสร้างไว้ด้วยการขับรุ่นคอนติเนนทอล จีที (Continental GT) ในปี 2007 ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 321.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง อีกด้วย


ข้อเสนอพิเศษภายในงาน The World of Bentley

· การรับประกันจากโรงงาน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
· บริการดูแลและบำรุงรักษารถยนต์เบนท์ลี่ย์จากผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ ตลอด 5 ปี (5 Years Free Service Package)*
· บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ตลอดระยะเวลารับประกัน*
· บริการสายด่วนให้คำแนะนำปรึกษาทางเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมง*

*Terms & Condition Apply

สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาหรือสอบถามเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้จาก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ พร้อมให้บริการรถเบนท์ลี่ย์ของท่าน และซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากทางเอเอเอสฯ เท่านั้นที่สามารถได้สิทธิ์การรับประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง โดยรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ซื้อจากทางเอเอเอสฯ เท่านั้น ที่จะสามารถเข้ารับบริการจากศูนย์บริการของทาง เอเอเอสฯ ได้ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่ โทร. 02-522-6704 หรือ 02-610-9911 เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.bentleymotors.com และwww.thailand.bentleymotors.com 

มาสด้าสยายปีกผุดดีลเลอร์ใหม่ยึดตลาดรถยนต์ภาคตะวันออก


กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 20 กันยายน 2555 – บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าเต็มสูบ เปิดแนวรุกเตรียมบุกยึดตลาดรถยนต์ทางภาคตะวันออก พร้อมผุดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ที่ทันสมัยและไฉไลกว่าเดิม เติมเต็มการบริการแบบครบวงจร เอาใจชาวสวนผลไม้ ซึ่งมาสด้าจังหวัดตราด นับเป็นแห่งที่ 16 ในเขตภาคตะวันออก
แผนการบุกตลาดของมาสด้าเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อย หลังจากที่เปิดแนวรุกบุกกรุงเทพได้ไม่นานก็เสริมแนวรุกในต่างจังหวัดต่อทันที คราวนี้เป็นฝั่งด้านภาคตะวันออกของไทย สุดชายแดนของประเทศ นั่นคือ มาสด้า สาขาจังหวัดตราด เพื่อหวังยึดพื้นที่ดูแลลูกค้าตามแนวชายฝั่งทะเลและชาวสวนผลไม้ โดยได้นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ไฟแรงเจ้าของพื้นที่เดิม ที่พร้อมขยายธุรกิจเพิ่มเติมจากตัวเมืองจันทร์บุรี หลังประสบความสำเร็จและสร้างความแข็งแกร่งให้กับตลาดในจังหวัดจันทร์บุรีจนเป็นที่ประจักษ์ต่อลูกค้ากับการบริการแบบถึงลูกถึงคน ด้วยการบริการจากหัวใจเอาใจเขามาใส่ใจเรา สร้างความประทับให้กับลูกค้าทั้งจังหวัด
นายชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์มาสด้าในภาคตะวันออกมีความคึกคักเป็นอย่างมาก ไล่มาตั้งแต่ชลบุรี ระยอง มาจันทร์บุรี สระแก้ว นครนายก ปราจีนบุรีและรายล่าสุดคือจังหวัดตราด รวมทั้งสิ้นมีถึง 16 โชว์รูม ซึ่งตลาดในภูมิภาคแห่งนี้กำลังจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ที่สำคัญมาสด้า มหาราช ถือเป็นผู้จำหน่ายที่เก่าแก่และอยู่กับลูกค้ามายาวนาน การเปิดโชว์รูมมาสด้าที่จังหวัดตราดในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้ภาพลักษณ์แบรนด์มาสด้ามีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
นายบัณฑิต ตรัยศิริเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้ามหาราช จำกัด กล่าวว่า รถยนต์มาสด้าเป็นที่เชื่อถือและมีชื่อเสียงอย่างมากในเขตจังหวัดจันทร์บุรีมายาวนาน และสำหรับคนที่นี่จะเรียกรถกระบะว่า “รถมาสด้า” เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาในเขตนี้มีแต่รถยนต์มาสด้า หลังจากที่ทาง มาสด้า มหาราช เข้ามาดำเนินธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ในเขตนี้มาก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ ส่งผลให้เราสามารถครองใจลูกค้าไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ปรกอบกับการขยายโชว์รูมไปยังจังหวัดตราดในครั้งนี้จะทำให้เราประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นด้วยอดขายเฉลี่ยน่าจะเกินเดือนละ 100 คัน  ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปีสามารถขายรถยนต์มาสด้าไปแล้วมากว่า 600 คัน ซึ่งน่าจะทะลุเกินเป้าหมายที่เราวางไว้
สำหรับโชว์รูม มาสด้า มหาราช ในกลุ่มของบริษัทฯ มีจำนวนทั้งสิ้น โชว์รูม โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในตัวเมืองจันทร์บุรี มีโชว์รูมในตัวเมืองจำนวน แห่ง และที่อำเภอสอยดาว แห่ง สำหรับโชว์รูมแห่งใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้อยู่ในตัวอำเภอเมืองจังหวัดตราด ตั้งอยู่เลขที่ 369 หมู่ ถ. สุขุมวิท ต.วังกระแจะ อ. เมือง จ. ตราด 22000 โทรศัพท์หมายเลข 039-523-777 เปิดให้บริการทุกวัน โดยได้รับเกียรติเป็นอย่างสูงจาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นายนภดล ศรีสุข พร้อมด้วยคุณโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการโดยคุณพ่อ ยอด เสนารักษ์ (อุปสังฆราช) เป็นการการประกอบพิธีตามแบบคริสต์ศาสนาเพื่อความเป็นสิริมงคล

“ทีเอสแอล” ประเดิมอวดโฉม 7 พริตตี้สาวสวยผ่านเฟสบุ๊ก พร้อมกิจกรรมค้นหา “หวานใจ ทีเอสแอล”


ทีเอสแอล” เผยโฉม พริตตี้สุดเซ็กซี่ประเดิมที่แรกทางเฟสบุ๊ก ทีเอสแอล ในกิจกรรม ทีเอสแอล พริตตี้ คอนเทสต์ 2012 เพื่อเฟ้นหา “หวานใจ ทีเอสแอล” สาวสวยเพียงหนึ่งเดียวที่เซ็กซี่โดนใจและมีคะแนนโหวตมากที่สุด เริ่มปฏิบัติการส่งโหวตได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2555 “คน Like...ก็ได้ลุ้น

บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอรชั่น จำกัด จัดกิจกรรม “ทีเอสแอล พริตตี้ คอนเทสต์ 2012 กิจกรรมเฟ้นหาสาวสวยเพียงหนึ่งเดียวจากพริตตี้ที่ผ่านการคัดเลือกในรอบสุดท้าย โดยพริตตี้ที่ได้คะแนนโหวตจากการคลิ๊ก Like ในหน้าแฟนเพจของทีเอสแอล ออโต้มากที่สุดจะได้รับตำแหน่ง     “หวานใจ ทีเอสแอล” ประจำปี 2012 ไปครอง พร้อมรับเงินรางวัล 5,00บาท และผู้ที่ร่วมโหวตให้กับเจ้าของตำแหน่ง “หวานใจ ทีเอสแอล” ก็มีสิทธิลุ้นเป็นผู้โชคดีที่จะได้รับเงินรางวัลอีก 5,000 บาทด้วยเช่นเดียวกัน

รายละเอียดเกี่ยวกับพริ้ตตี้สาวสวยที่เข้าร่วมกิจกรรม “หวานใจ ทีเอสแอล” ปี 2555 มีดังนี้
T1 ทราย นางสาวจิตติมา วิสุทธิปราณี อายุ 22 ปี
T2 กิ๊ก นางสาวศศิพร ขันคำนันต๊ะ อายุ 25 ปี
T3 ลูกโบว์ นางสาวพณิดา กีรติพิพัฒน์พงศ์ อายุ 25 ปี
T4 พัช นางสาวภัชพิชชา มาตร์มงคล อายุ 25 ปี
T5 เชอรี่ นางสาวนริศรา คงสมจิตต์ อายุ 24 ปี
T6 อเล็ก นางสาวสโรชา งามดี อายุ 27 ปี
T7 จ๊ะโอ๋ นางสาวพิชาญชุ์ เฉียบวุฒิ อายุ 21 ปี

ริ้ตตี้สาวสวยคนไหนจะคว้าตำแหน่ง “หวานใจ ทีเอสแอล” คุณคือผู้ตัดสิน ด้วยการร่วมกิจกรรมง่ายๆ เพียงแค่คลิ๊ก Like ทีหน้าแฟนเพจของทีเอสแอล www.facebook.com/tslauto หลังจากนั้นสามารถคลิ๊กโหวตให้กับสาวสวยที่ถูกใจได้ทันที พบกับพริตตี้สาวสวยทั้งหมดได้ที่บูธทีเอสแอล ออโต้ ในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 หรือ Thailand International Motor Expo 2012 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2555 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

พบกับรถสวยๆ พร้อมข้อเสนอแรงๆ ได้ที่โชว์รูมทีเอสแอลทุกสาขา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ทีเอสแอล คอล เซ็นเตอร์ โทร. 02-269-9999 หรือทางเว็บไซต์ www.tsl.co.th

ฮอนด้าเปิดตัว ฟรีด ใหม่ นำเทรนด์รถอเนกประสงค์ อิสระลงตัวของทุกรูปแบบการใช้ชีวิต


 
กรุงเทพฯ วันที่ 4 กันยายน 2555 – บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัว ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ นำเทรนด์รถครอบครัว ด้วยดีไซน์ปรับใหม่ เพิ่มความโฉบเฉี่ยว แนวสปอร์ต สะดุดตาในทุกมุมมอง มอบความสะดวกสบาย เพลิดเพลินตลอดการเดินทาง ทั้งยังคุ้มค่าในการใช้งานอย่างลงตัว ฟรีดใหม่มี 2 รุ่น คือ รุ่น SE ราคา 839,000 บาท และรุ่น EL ราคา 949,000 บาท ตั้งเป้าขายที่ 12,000 คันภายในหนึ่งปี

ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ นี้ มีการปรับแต่งรูปลักษณ์ภายนอกให้โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น ด้วยกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ โคมไฟหน้าสีเงินแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ กระจังหน้าแบบโครเมียมดีไซน์ใหม่ สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยไฟท้ายและคิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียมพร้อมสปอยเล่อร์หลัง ล้ออัลลอยดีไซน์ ใหม่ ให้ความเหนือระดับภายในห้องโดยสารด้วยเบาะหนัง เพิ่มความผ่อนคลายแก่ผู้โดยสารตลอดการเดินทางด้วยพนักเท้าแขนทั้งผู้โดยสารแถวหน้าและแถว 2 พร้อมทั้งให้ความบันเทิงเต็มรูปแบบด้วยระบบเครื่องเสียงแบบวิทยุ MP3 พร้อมจอ LCD ระบบสัมผัส 7 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง ผู้โดยสารตอนหลังยังเพลิดเพลินไปกับเครื่องเล่นดีวีดี พร้อมจอ LCD ขนาด 10 นิ้ว และอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับด้วยสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยและการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth (เฉพาะรุ่น EL) เพื่อเติมเต็มความสุขให้กับผู้โดยสารในทุกรูปแบบการใช้ชีวิต และยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำในรถระดับเดียวกันด้วยประตูข้างสไลด์อัตโนมัติ ซ้าย-ขวา อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของฮอนด้า ฟรีด



นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “การเปิดตัวฮอนด้า ฟรีด ใหม่นี้เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของฮอนด้าในการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่พร้อมเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ เทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ผู้บริโภคเริ่มมองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์เรื่องการใช้งานเป็นหลัก รถยนต์ต้องมีฟังก์ชั่นการใช้สอยแบบสารพัดประโยชน์ รถยนต์อเนกประสงค์ หรือ Multipurpose Utility Vehicle (MUV) จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาด และเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในตลาดต่างๆ รวมไปถึงในญี่ปุ่นและยุโรป

“สำหรับในประเทศไทยเอง เราก็มีการศึกษารูปแบบการใช้ชีวิตของคนเมืองในปัจจุบัน แล้วก็พบว่า ลูกค้ามีความสนใจรถยนต์อเนกประสงค์เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งคนในวัยทำงานมีกิจกรรมประจำวันมากขึ้น ทั้งที่ทำงานและที่บ้าน รวมไปถึงกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัวและเพื่อนฝูง หรือแม้แต่การใช้ในการประกอบธุรกิจส่วนตัว ฮอนด้าเล็งเห็นกระแสความต้องการในตลาด และเป็นผู้สร้างเทรนด์รถยนต์อเนกประสงค์ด้วยการนำฮอนด้า ฟรีด เข้ามาทำตลาด ด้วยเราเชื่อมั่นว่า รถยนต์อเนกประสงค์มีแนวโน้มจะเติบโตเพิ่มขึ้นในเมืองไทย” นายพิทักษ์กล่าว
ฮอนด้า ฟรีด เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่เปิดตัวครั้งแรกที่ญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม 2551 และมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ และนับเป็นรถยอดนิยมอีกรุ่นหนึ่งในตลาดญี่ปุ่น ภายในหนึ่งปี ฟรีด สามารถทำยอดการจำหน่ายได้สูงถึง 77,000 คัน และยังได้รับรางวัล “รถยนต์อันทรงคุณค่า” ประจำปี 2551-2552 ในประเทศญี่ปุ่น สำหรับประเทศไทย ฮอนด้ามีการนำเข้ามาจำหน่ายตั้งแต่ช่วงปลายปี 2552 เป็นต้นมา และได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยยอดขาย 11,400 คัน (ม.ค. 2553 – ก.ค. 2555)

นายสมภพ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการส่วนงานการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ฟรีด มีจุดเด่นในด้านห้องโดยสารที่กว้างขวางและการจัดวางพื้นที่ใช้สอย รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ขับขี่ง่าย ปลอดภัย ห้องโดยสารของฟรีดได้รับการออกแบบสไตล์ Open Cafe ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 คน เบาะนั่งแถว 3 สามารถปรับพับได้เพื่อการบรรทุกสัมภาระและการใช้งานที่หลากหลาย มีพื้นที่ว่างแนวกลางที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการเดินถึงกันได้แบบ Walk Through มีประตูสไลด์อัตโนมัติทั้งด้านซ้ายและขวา ให้ความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงหรือขนย้ายสัมภาระแม้จอดในพื้นที่แคบ


“ฮอนด้า ฟรีด ถือเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับไลฟ์สไตล์กลุ่มคนเมืองครบทั้ง 3 มิติ มิติที่ 1 เป็นรถยนต์ที่อำนวยความสะดวกสำหรับงานอดิเรกในวันว่าง เช่น เล่นกีฬาที่มีอุปกรณ์ เช่น ตีกอล์ฟ เล่นเซิร์ฟบอร์ด ขี่จักรยาน มิติที่ 2 เติมความสุขให้กับสมาชิกในครอบครัวตลอดการเดินทาง ทั้งยังได้ขยายไปสู่มิติที่ 3 คือให้ความคล่องตัวในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องพกพาเครื่องมืออุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ เช่น ช่างภาพ สถาปนิก หรือทำธุรกิจต่างๆ ฮอนด้า ฟรีด จึงถือได้ว่าเป็นยานพาหนะคู่ใจแบบ All-in-One ที่ครบครันด้วยประโยชน์ใช้สอยเหมาะกับทุกคน ทุกครอบครัว ทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่ผู้เริ่มสร้างครอบครัวไปจนถึงชีวิตครอบครัวใหญ่” นายสมภพ อธิบาย


“สำหรับด้านการสื่อสารการตลาดจะมุ่งไปที่ประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขใน ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Journey of Love โดยฮอนด้าจัดทำภาพยนตร์โฆษณา ซึ่งเป็นเรื่องราวน่ารักๆ ของการพบรักของเจ้าของร้านดอกไม้กับร้านดนตรี โดยมีฮอนด้า ฟรีด เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของความรัก สำหรับเพลงประกอบหนังโฆษณาชุดนี้ ได้เลือกใช้เพลง “คนข้างๆ” ของศิลปินแนวอินดี้วง 25 Hours ซึ่งมีเนื้อร้องที่เข้ากันกับเนื้อเรื่องอย่างลงตัว โดยจะออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 5 กันยายน และนอกจากนี้ยังมีซีรี่ส์ The Journey of Love อีก 3 ตอน ซึ่งสามารถติดตามรับชม ซีรี่ส์ของฮอนด้า ฟรีด ใหม่ได้ที่ www.honda.co.th/Freed


ฮอนด้า ฟรีด เป็นยนตรกรรมขนาด 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมพลังขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC
ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 118 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ Grade Logic Control ให้การตอบสนองฉับไว สนุกทุกการขับขี่ พร้อม Direct Control และ Shift Hold Control ช่วยรักษาความเร็วขณะเข้าโค้ง ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียนและเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPS) รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.2 เมตร
ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น SE ราคา 839,000 บาท ที่มาพร้อมกระจังหน้าแบบโครเมียม กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ โคมไฟหน้าสีเงินแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ ไฟท้ายและคิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียมพร้อมสปอยเล่อร์หลัง ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ เบาะนั่งด้านคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ นอกจากนี้ยังมีพนักเท้าแขนทั้งผู้โดยสารแถวหน้าและแถว 2 ให้ความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายยิ่งขึ้นตลอดการเดินทาง

ส่วนรุ่น EL ราคา 949,000 บาท เพิ่มความเหนือระดับยิ่งขึ้น ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ เบาะหนังที่ให้ความสบายแก่ทุกที่นั่ง ระบบเครื่องเสียงแบบวิทยุ MP3 พร้อมจอ LCD ระบบสัมผัส 7 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยและระบบการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth กล้องส่องภาพด้านหลัง ช่วยให้ถอยจอดได้อย่างมั่นใจ สำหรับผู้โดยสารตอนหลังได้รับความเพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยเครื่องเล่นดีวีดี พร้อม LCD ขนาด 10 นิ้ว

ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาวบริลเลียนท์ (มุก) (เพิ่ม 10,000 บาท), สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และสีใหม่ คือ สีน้ำตาลสปาร์คลิ่ง (เมทัลลิก)

นายพิทักษ์ สรุปในตอนท้ายว่า “ฮอนด้าหวังว่า ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ ที่ปรับโฉมล่าสุดนี้ จะเป็นเพื่อนร่วมทางเคียงข้างการใช้ชีวิตประจำวันของคนไทย ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นเคย ฮอนด้ายังคงเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งมอบประสบการณ์ความสุขในการใช้รถยนต์ให้กับลูกค้าต่อไปให้สมกับที่เราได้รับความไว้วางใจจากคนไทยตลอดมา”



ทั้งนี้ภายหลังจากการกลับมาดำเนินการของบริษัทฯ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ฮอนด้าได้กลับมาอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รุกกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันได้มีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาดเพิ่มเติมถึง 4 รุ่น คือ ซีวิค ใหม่ แจ๊ซไฮบริด ซิตี้ ซีเอนจี รวมถึงรุ่นฮอนด้า ฟรีด ใหม่ ในวันนี้

ลูกค้าที่สนใจฮอนด้า ฟรีด ใหม่ สามารถแวะชมรถหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมฮอนด้า

ทั่วประเทศ หรือ www.honda.co.th/Freed หรือ Honda Call Center ที่โทร. 02-341-7777, 02-341-7888, 02-341-7999


เกี่ยวกับบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด 

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด มีโรงงานผลิตตั้งอยู่บนเนื้อที่ 530 ไร่ ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโรงงานผลิตที่ใหญ่เป็นอันดับหกของโรงงานฮอนด้าทั่วโลก รองจากญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน แคนาดาและสหราชอาณาจักร และเป็นหนึ่งในโรงงานที่ก้าวหน้าที่สุดและทันสมัยที่สุดในโลกของฮอนด้าทั้งในด้านเทคโนโลยีการผลิต มาตรฐานสิ่งแวดล้อม และการออกแบบสายการผลิตที่เหมาะสมกับการทำงานของพนักงาน ปัจจุบัน มีการจ้างงานพนักงานรวมกว่า 6,400 คน และมีกำลังผลิต 240,000 คันต่อปี ผลิตรถยนต์ฮอนด้าทั้งหมด 8 รุ่นได้แก่ บริโอ้ แจ๊ซ แจ๊ซ ไฮบริด ซิตี้ ซิตี้ ซีเอ็นจี ซีวิค แอคคอร์ด และซีอาร์-วี สำหรับจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกไปยังประเทศต่างๆ กว่า 56 ประเทศทั่วโลก

donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved