ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ นี้ มีการปรับแต่งรูปลักษณ์ภายนอกให้โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น ด้วยกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ โคมไฟหน้าสีเงินแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ กระจังหน้าแบบโครเมียมดีไซน์ใหม่ สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยไฟท้ายและคิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียมพร้อมสปอยเล่อร์หลัง ล้ออัลลอยดีไซน์ ใหม่ ให้ความเหนือระดับภายในห้องโดยสารด้วยเบาะหนัง เพิ่มความผ่อนคลายแก่ผู้โดยสารตลอดการเดินทางด้วยพนักเท้าแขนทั้งผู้โดยสารแถวหน้าและแถว 2 พร้อมทั้งให้ความบันเทิงเต็มรูปแบบด้วยระบบเครื่องเสียงแบบวิทยุ MP3 พร้อมจอ LCD ระบบสัมผัส 7 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง ผู้โดยสารตอนหลังยังเพลิดเพลินไปกับเครื่องเล่นดีวีดี พร้อมจอ LCD ขนาด 10 นิ้ว และอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับด้วยสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยและการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth (เฉพาะรุ่น EL) เพื่อเติมเต็มความสุขให้กับผู้โดยสารในทุกรูปแบบการใช้ชีวิต และยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำในรถระดับเดียวกันด้วยประตูข้างสไลด์อัตโนมัติ ซ้าย-ขวา อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของฮอนด้า ฟรีด
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “การเปิดตัวฮอนด้า ฟรีด ใหม่นี้เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของฮอนด้าในการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่พร้อมเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ เทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ผู้บริโภคเริ่มมองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์เรื่องการใช้งานเป็นหลัก รถยนต์ต้องมีฟังก์ชั่นการใช้สอยแบบสารพัดประโยชน์ รถยนต์อเนกประสงค์ หรือ Multipurpose Utility Vehicle (MUV) จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาด และเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในตลาดต่างๆ รวมไปถึงในญี่ปุ่นและยุโรป
“สำหรับในประเทศไทยเอง เราก็มีการศึกษารูปแบบการใช้ชีวิตของคนเมืองในปัจจุบัน แล้วก็พบว่า ลูกค้ามีความสนใจรถยนต์อเนกประสงค์เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งคนในวัยทำงานมีกิจกรรมประจำวันมากขึ้น ทั้งที่ทำงานและที่บ้าน รวมไปถึงกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัวและเพื่อนฝูง หรือแม้แต่การใช้ในการประกอบธุรกิจส่วนตัว ฮอนด้าเล็งเห็นกระแสความต้องการในตลาด และเป็นผู้สร้างเทรนด์รถยนต์อเนกประสงค์ด้วยการนำฮอนด้า ฟรีด เข้ามาทำตลาด ด้วยเราเชื่อมั่นว่า รถยนต์อเนกประสงค์มีแนวโน้มจะเติบโตเพิ่มขึ้นในเมืองไทย” นายพิทักษ์กล่าว
ฮอนด้า ฟรีด เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่เปิดตัวครั้งแรกที่ญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม 2551 และมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ และนับเป็นรถยอดนิยมอีกรุ่นหนึ่งในตลาดญี่ปุ่น ภายในหนึ่งปี ฟรีด สามารถทำยอดการจำหน่ายได้สูงถึง 77,000 คัน และยังได้รับรางวัล “รถยนต์อันทรงคุณค่า” ประจำปี 2551-2552 ในประเทศญี่ปุ่น สำหรับประเทศไทย ฮอนด้ามีการนำเข้ามาจำหน่ายตั้งแต่ช่วงปลายปี 2552 เป็นต้นมา และได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยยอดขาย 11,400 คัน (ม.ค. 2553 – ก.ค. 2555)
นายสมภพ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการส่วนงานการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ฟรีด มีจุดเด่นในด้านห้องโดยสารที่กว้างขวางและการจัดวางพื้นที่ใช้สอย รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ขับขี่ง่าย ปลอดภัย ห้องโดยสารของฟรีดได้รับการออกแบบสไตล์ Open Cafe ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 คน เบาะนั่งแถว 3 สามารถปรับพับได้เพื่อการบรรทุกสัมภาระและการใช้งานที่หลากหลาย มีพื้นที่ว่างแนวกลางที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการเดินถึงกันได้แบบ Walk Through มีประตูสไลด์อัตโนมัติทั้งด้านซ้ายและขวา ให้ความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงหรือขนย้ายสัมภาระแม้จอดในพื้นที่แคบ
“ฮอนด้า ฟรีด ถือเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับไลฟ์สไตล์กลุ่มคนเมืองครบทั้ง 3 มิติ มิติที่ 1 เป็นรถยนต์ที่อำนวยความสะดวกสำหรับงานอดิเรกในวันว่าง เช่น เล่นกีฬาที่มีอุปกรณ์ เช่น ตีกอล์ฟ เล่นเซิร์ฟบอร์ด ขี่จักรยาน มิติที่ 2 เติมความสุขให้กับสมาชิกในครอบครัวตลอดการเดินทาง ทั้งยังได้ขยายไปสู่มิติที่ 3 คือให้ความคล่องตัวในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องพกพาเครื่องมืออุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ เช่น ช่างภาพ สถาปนิก หรือทำธุรกิจต่างๆ ฮอนด้า ฟรีด จึงถือได้ว่าเป็นยานพาหนะคู่ใจแบบ All-in-One ที่ครบครันด้วยประโยชน์ใช้สอยเหมาะกับทุกคน ทุกครอบครัว ทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่ผู้เริ่มสร้างครอบครัวไปจนถึงชีวิตครอบครัวใหญ่” นายสมภพ อธิบาย
“สำหรับด้านการสื่อสารการตลาดจะมุ่งไปที่ประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขใน ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Journey of Love โดยฮอนด้าจัดทำภาพยนตร์โฆษณา ซึ่งเป็นเรื่องราวน่ารักๆ ของการพบรักของเจ้าของร้านดอกไม้กับร้านดนตรี โดยมีฮอนด้า ฟรีด เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของความรัก สำหรับเพลงประกอบหนังโฆษณาชุดนี้ ได้เลือกใช้เพลง “คนข้างๆ” ของศิลปินแนวอินดี้วง 25 Hours ซึ่งมีเนื้อร้องที่เข้ากันกับเนื้อเรื่องอย่างลงตัว โดยจะออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 5 กันยายน และนอกจากนี้ยังมีซีรี่ส์ The Journey of Love อีก 3 ตอน ซึ่งสามารถติดตามรับชม ซีรี่ส์ของฮอนด้า ฟรีด ใหม่ได้ที่
www.honda.co.th/Freedฮอนด้า ฟรีด เป็นยนตรกรรมขนาด 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมพลังขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC
ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 118 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ Grade Logic Control ให้การตอบสนองฉับไว สนุกทุกการขับขี่ พร้อม Direct Control และ Shift Hold Control ช่วยรักษาความเร็วขณะเข้าโค้ง ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียนและเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPS) รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.2 เมตร
ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น SE ราคา 839,000 บาท ที่มาพร้อมกระจังหน้าแบบโครเมียม กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ โคมไฟหน้าสีเงินแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ ไฟท้ายและคิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียมพร้อมสปอยเล่อร์หลัง ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ เบาะนั่งด้านคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ นอกจากนี้ยังมีพนักเท้าแขนทั้งผู้โดยสารแถวหน้าและแถว 2 ให้ความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายยิ่งขึ้นตลอดการเดินทาง
ส่วนรุ่น EL ราคา 949,000 บาท เพิ่มความเหนือระดับยิ่งขึ้น ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ เบาะหนังที่ให้ความสบายแก่ทุกที่นั่ง ระบบเครื่องเสียงแบบวิทยุ MP3 พร้อมจอ LCD ระบบสัมผัส 7 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยและระบบการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth กล้องส่องภาพด้านหลัง ช่วยให้ถอยจอดได้อย่างมั่นใจ สำหรับผู้โดยสารตอนหลังได้รับความเพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยเครื่องเล่นดีวีดี พร้อม LCD ขนาด 10 นิ้ว
ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาวบริลเลียนท์ (มุก) (เพิ่ม 10,000 บาท), สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และสีใหม่ คือ สีน้ำตาลสปาร์คลิ่ง (เมทัลลิก)
นายพิทักษ์ สรุปในตอนท้ายว่า “ฮอนด้าหวังว่า ฮอนด้า ฟรีด ใหม่ ที่ปรับโฉมล่าสุดนี้ จะเป็นเพื่อนร่วมทางเคียงข้างการใช้ชีวิตประจำวันของคนไทย ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นเคย ฮอนด้ายังคงเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งมอบประสบการณ์ความสุขในการใช้รถยนต์ให้กับลูกค้าต่อไปให้สมกับที่เราได้รับความไว้วางใจจากคนไทยตลอดมา”
ทั้งนี้ภายหลังจากการกลับมาดำเนินการของบริษัทฯ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ฮอนด้าได้กลับมาอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รุกกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันได้มีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาดเพิ่มเติมถึง 4 รุ่น คือ ซีวิค ใหม่ แจ๊ซไฮบริด ซิตี้ ซีเอนจี รวมถึงรุ่นฮอนด้า ฟรีด ใหม่ ในวันนี้
ลูกค้าที่สนใจฮอนด้า ฟรีด ใหม่ สามารถแวะชมรถหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมฮอนด้า
ทั่วประเทศ หรือ
www.honda.co.th/Freed หรือ Honda Call Center ที่โทร. 02-341-7777, 02-341-7888, 02-341-7999
เกี่ยวกับบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด มีโรงงานผลิตตั้งอยู่บนเนื้อที่ 530 ไร่ ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโรงงานผลิตที่ใหญ่เป็นอันดับหกของโรงงานฮอนด้าทั่วโลก รองจากญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน แคนาดาและสหราชอาณาจักร และเป็นหนึ่งในโรงงานที่ก้าวหน้าที่สุดและทันสมัยที่สุดในโลกของฮอนด้าทั้งในด้านเทคโนโลยีการผลิต มาตรฐานสิ่งแวดล้อม และการออกแบบสายการผลิตที่เหมาะสมกับการทำงานของพนักงาน ปัจจุบัน มีการจ้างงานพนักงานรวมกว่า 6,400 คน และมีกำลังผลิต 240,000 คันต่อปี ผลิตรถยนต์ฮอนด้าทั้งหมด 8 รุ่นได้แก่ บริโอ้ แจ๊ซ แจ๊ซ ไฮบริด ซิตี้ ซิตี้ ซีเอ็นจี ซีวิค แอคคอร์ด และซีอาร์-วี สำหรับจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกไปยังประเทศต่างๆ กว่า 56 ประเทศทั่วโลก