Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เทคโนโลยียานยนต์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เทคโนโลยียานยนต์ แสดงบทความทั้งหมด

การทำงานของระบบส่งกำลังและระบบห้ามล้อของรถยนต์


อธิบายการทำงานของระบบช่วงล่างของรถยนต์ ในระบบส่งกำลังและห้ามล้อ

การขับขี่ที่ลดการเกิดอุบัติเหตุกับเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างระบบ PRE-SAFE® PLUSในรถยนต์ Mercedes-Benz C-Class Saloon

การช่วยการขับขี่และความปลอดภัยในระบบPRE-SAFE® Plus ของ Mercedes-Benz C-Class Saloon
ข้อได้เปรียบสำหรับการป้องกันในกรณีที่จะมีการชนกันทางด้านท้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น
ระบบ PRE-SAFE® PLUS อาจจะถูกกระตุ้นการทำงานได้เมื่อกำลังจะมีการชนท้ายใกล้เข้ามาเพื่อเป็นมาตรการในการป้องกันของผู้โดยสาร
ถ้าตรวจพบอันตรายจากอุบัติเหตุในการชนท้าย PRE-SAFE® PLUS จะเปิดการทำงานสัญญาณเตือนอันตรายด้านหลังเพื่อเป็นการเตือนให้กับคนขับที่กำลังขับตามมาด้วยความถี่ในการกระพริบที่สูง นอกจากนี้ การป้องกันมาตรการในการป้องกันผู้โดยสาร PRE-SAFE® จะถูกกระตุ้นการทำงาน ตัวอย่างเช่น ตัวดึงเข็มขัดนิรภัยที่สามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้เพื่อทำการยึดแน่นคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าและเพื่อเป็นการเตรียมการสำหรับกรณีที่เกิดการชนกันให้ดีขึ้น

ถ้ายานพาหนะหยุดนิ่ง PRE-SAFE® PLUS จะสามารถเบรกยานพาหนะให้นิ่งในกรณีที่เกิดการชนกัน และซึ่งจะเป็นการลดการถูกกระชากไปข้างหน้าลงได้ สิ่งนี้จะสามารถทำให้ในกรณีที่มีการโหลดผู้โดยสาร อีกทั้งในการลดความเสี่ยงของสิ่งที่เรียกว่าการบาดเจ็บจากการถูกเหวี่ยงลงได้อย่างเห็นได้ชัด

จะมีให้ใช้เฉพาะโดยเป็นส่วนประกอบของแพ็คเกจการช่วยเหลือการขับขี่แบบ Plus เท่านั้น

Mercedes-Benz C-Class Saloon กับ ระบบช่วยเหลือการขับขี่และความปลอดภัยมากขึ้น

ระบบช่วยเหลือการขับขี่และความปลอดภัย
ระบบ Distance Pilot DISTRONIC

 ภาพประกอบจะแสดงให้เห็นถึงการทำงานของตัวนำร่องระยะห่าง DISTRONIC ที่จะช่วยรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยไปยังผู้ขับขี่ด้านหน้าของท่านได้โดยอัตโนมัติ

ระยะห่างที่ปลอดภัย ความสะดวกสบายสูง
ระบบ Distance Pilot DISTRONIC ช่วยลดความเสี่ยงในของการชนปะทะทางด้านหลังและให้การเดินทางไกลมีความผ่อนคลายมากเป็นพิเศษรวมถึงในสภาพการจราจรที่ติดขัดด้วย
นวัตกรรมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถยนต์ที่วิ่งอยู่ด้านหน้า
ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติจะส่งสัญญาณเตือนด้วยภาพและเสียงถ้าระยะห่างที่ปลอดภัยลดต่ำลง
ระบบที่ทำงานบนพื้นฐานการทำงานของเรด้าร์เรดาร์จะสั่งให้ความเร็วของรถลดต่ำลงตามความจำเป็นและเร่งความเร็วจนถึงระดับที่พึงพอใจอีกครั้งเมื่อมีความเป็นไปได้

ระบบ Distance Pilot DISTRONIC ทำงานที่ระดับความเร็วตั้งแต่ 0 ถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การใช้ข้อมูลจากเซนเซอร์เรดาร์เรด้าร์ช่วยให้ผู้ขับขี่มีปฏิกิริยาตอบสนองในทันทีที่มีรถยนต์วิ่งตัดเข้ามาในช่องทางวิ่งหรือรถยนต์ที่วิ่งอยู่ด้านหน้า
การเบรกอัตโนมัติจะทำให้ระยะทางลดลง 5 เมตรต่อวินาที ในสถานการณ์ที่เรียกร้องเวลาในการให้ลดความเร็วยาวนานมากขึ้นผู้ขับขี่จะได้รับการเตือนด้วยสัญญาณภาพและเสียง

ประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นของระบบ Distance Pilot DISTRONIC:
พลังในการขับเคลื่อนตามที่ต้องการ
การเลือกโหมดการขับขี่  "Comfort" หรือ  "Sport" ยังได้รับความประทับใจในบุคลิกการขับขี่เพิ่มเติมจากฟังก์ชันการควบคุมระยะโดยอัตโนมัติด้วย ตัวอย่างเช่น ในโหมด "Sport" อัตราเร่งจะเรียกใช้ได้อย่างรวดเร็วและมีพลังมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนช่องทางวิ่ง ความนุ่มนวลสะดวกสบายจะเพิ่มมากขึ้นในโหมด "Comfort"
สนับสนุนโดยอัตโนมัติบนทางด่วน
การแซงที่ผิดกฎจราจรในช่องทางวิ่งช้าบนทางด่วนและในลักษณะเดียวบนถนนสายหลักจะได้รับการปกป้องโดยการจำกัดระยะห่างกับรถยนต์ที่วิ่งอยู่ในช่องทางด่วนอย่างเหมาะสม

Mercedes-Benz C-Class Saloon กับ ฟังก์ชั่นการทำงานของเทคโนโลยีระบบ DYNAMIC SELECT


การใช้ระบบ DYNAMIC SELECT ทำให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนบุคลิกการบังคับควบคุมให้เหมาะสมกับความพึงพอใจส่วนตัวยิ่งขึ้น ของ Mercedes-Benz C-Class Saloon

Mercedes-Benz C-Class Saloon กับการขับขี่ที่ง่ายดายและสะดวกสบาย


บุคลิกการบังคับควบคุม
เปลี่ยนแปลงได้ง่ายดาย จากความผ่อนคลายไปถึงความกระฉับกระเฉงคล่องแคล่วรวดเร็ว ในMercedes-Benz C-Class Saloon
การประสานการทำงานของชุดแพ็คเกจ แพ็กเกจ AIRMATIC Dynamic
Handling กับระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 สปีดและ7G-TRONIC ทำให้บุคลิกการบังคับควบคุมสัมผัสรับรู้ได้อย่างชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่เน้นในด้านของความนุ่มนวลสะดวกสบายไปจนถึงรูปแบบสปอร์ต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความตัองการของผู้ขับขี่ C-Class Saloon สามารถเปลี่ยนให้เป็นรถยนต์นั่งแบบซาลูนสำหรับการเดินทางไกลที่ยอดเยี่ยมพร้อมกับการจัดเก็บทุกแรงสั่นสะเทือนไม่ให้เข้ามา
รบกวนความสนุกสนานเพลิดเพลินของผู้ที่อยู่ภายในห้องโดยสารหรือการส่งมอบสมรรถนะที่รวดเร็วพร้อมการสร้างความประทับใจให้กับผู้ขับขี่ด้วยการบังคับเลี้ยวที่เที่ยงตรงแม่นยำและการรับแรงสั่นสะเทือนที่มั่นคงแข็งแรง

ระบบ Active Parking พร้อมกล้องแสดงภาพ 360 องศา ใน Mercedes-Benz C-Class Saloon


ทุกสิ่งทุกอย่างปรากฏอยู่ในภาพเมื่อนำรถเข้าจอด
ระบบจะแสดงภาพเสมือนจริงรอบตัวรถเมื่อนำรถเข้าจอดและการขับขี่หลบหลีกด้วยการทำงานของกล้อง 4 ตัวซึ่งภาพที่แสดงให้เห็นจะเป็นภาพมุมสูงของตัวรถและพื้นที่โดยรอบ

สิ่งกีดขวางที่อยู่ต่ำกว่าระดับขอบกระจกหน้าต่างจะถูกแสดงให้ผู้ขับขี่รับรู้ด้วยเช่นกัน
ระบบ Active Parking พร้อมกล้องแสดงภาพ 360 องศาถูกกระตุ้นให้ทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อผู้ขับขี่เข้าเกียร์ถอย กดปุ่มสั่งการทำงานในส่วนที่เกี่ยวข้องหรือผ่านทางเมนูรายการ

ของระบบ COMAND Online ถึงแม้ภาพจะเปลี่ยนแปลงไปโดยอัตโนมัติแต่สามารถเลือกอย่างเป็นอิสระได้ด้วยเช่นกัน

ระบบ PRE-SAFE® ของ Mercedes-Benz C-Class Saloon


การปกป้องพิเศษในกรณีที่กำลังจะเกิดการชนปะทะทางด้านหลัง

ระบบ PRE-SAFE® จะตรวจสอบข้อมูลที่ได้จากเซนเซอร์ต่างๆ เช่น  โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® และระบบช่วยเบรกอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
ทำให้สามารถรับรู้ได้ถึงการขับขี่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น  การเกิดอาการโอเวอร์เสตียร์หรืออันเดอร์เสตียร์และการหยุดรถอย่างกะทันทัน

ถ้าอันตรายจากการชนปะทะทางด้านหลังถูกตรวจพบ ระบบ PRE-SAFE® จะสั่งการให้สัญญาณไฟเตือนฉุกเฉินทางด้านหลังทำงานในแบบไฟกระพริบกะพริบพร้อมความถี่ในการทำงานสูงเพื่อเตือนผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ตามหลังมาให้รับรู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ถ้ารถจอดอยู่กับที่แรงดันเบรกจะถูกสั่งให้เพิ่มขึ้นเพื่อลดน้ำหนักของแรงปะทะที่เข้ามาในห้องโดยสารระหว่างเกิดการชนปะทะ

ระบบ Distance Pilot DISTRONIC ของ Mercedes-Benz C-Class Saloon


รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย
ระบบ Distance Pilot DISTRONIC ช่วยลดความเสี่ยงในการชนปะทะทางด้านหลังและให้การเดินทางไกลมีความผ่อนคลายมากเป็นพิเศษรวมถึงในสภาพการจราจรที่ติดขัดด้วย
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ทำงานโดยอัตโนมัติช่วยให้ C-Class อยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถยนต์ที่วิ่งอยู่ด้านหน้า
นอกจากนี้ยังสามารถที่จะรับรู้ถึงรถยนต์ที่แซงตัดเข้ามาในช่องทางวิ่งขึ้นมาและทำปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในทันที
ลดความเร็วถ้ามีความจำเป็นและจากนั้นเร่งความเร็วขึ้นไปจนถึงระดับที่กำหนดไว้เมื่อมีความเป็นไปได้

ระบบ LED ส่องสว่างอัจฉริยะของ Mercedes-Benz C-Class Saloon

เห็นได้มากขึ้นในทุกสถานการณ์
เพื่อทัศนวิสัยในการมองเห็นที่ดีที่สุดบนเส้นทางสายรองและทางด่วนพิเศษ เมื่อเลี้ยวกลับรถหรือเข้าโค้ง ระบบ LED ส่องสว่างอัจฉริยะปรับการทำงานไปตามสถานการณ์ของแสงและเงื่อนไขในการขับขี่

นอกเหนือจากความสวยงามสะดุดตาแล้ว เทคโนโลยีไฟ
LED ยังส่งมอบพลังของการส่องสว่างที่ดีเยี่ยมและลดการทำให้เกิดสายตาพร่ามัว
ไฟท้าย LED 2 สีในกรอบไฟท้ายแนวนอนนอกจากจะให้ความประทับใจในรูปแบบแล้วยังเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นมากยิ่งขึ้นด้วย

อัตราการสิ้นเปลีองน้ำมันเชื้อเพลิงของ Mercedes-Benz C-Class Saloon


C 350 e ความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 2.4 - 2.1 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร
ค่าเฉลี่ยไอเสียจากคาร์บอนไดออกไซด์: 54 - 48 กรัมต่อกิโลเมตร

ตัวเลขค่าความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าไอเสียก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นผลที่ได้จากกระบวนการตรวจวัดตามที่มีการกำหนดใช้ (§2 Nos. 5, 6, 6a ของ "Pkw-EnVKV" [German Ordinance of Fuel Consumption Labelling for Cars] ตามที่มีการแก้ไขปรับปรุงใหม่) ตัวเลขดังกล่าวไม่ได้ใช้เป็นพื้นฐานอ้างอิงสำหรับรถยนต์รุ่นพิเศษเฉพาะบุคคลและไม่ได้ใช้เป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอของผลิตภัณฑ์ ตัวเลขดังกล่าวถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการเปรียบเทียบระหว่างรถยนต์ต่างโมเดลรุ่นเท่านั้น ค่าตัวเลขอาจมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงเนื่องจากขนาดของล้อและยางที่ใช้

Mercedes-Benz C-Class Saloon การขับขี่อัจฉริยะ Mercedes-Benz Intelligent Drive

ความสะดวกสบายที่เปลี่ยนเป็นพลังงานและความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม


ไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาเร่งด่วน การขับขี่ในช่วงเวลากลางคืนหรือบนเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย
C-Class Saloon รับรู้ถึงความเครียดโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น
สิ่งนี้ใช้พื้นฐานของแนวคิดการรวมรถยนต์ทั้งหมดของเราไว้ด้วยกัน และการทำให้ทุกการเดินทางในรถยนต์ Mercedes มีรูปแบบพิเศษเฉพาะตัว การขับขี่อัจฉริยะ Intelligent Drive

เพราะว่าเวลาที่คุณใช้ไปหลังพวงมาลัยเป็นเวลาของคุณเอง เวลาเพื่อการผ่อนคลาย เวลาเพื่อฟื้นฟูพลังงานของคุณ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการนำคุณสู่จุดหมายปลายทางด้วยความปลอดภัย ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ในเวลาที่อยู่กับเรา



Mercedes-Benz C-Class Saloon เหมาะสมเป็นพิเศษด้วยชุดแต่ง AMG Line


AMG ชื่อที่บ่งบอกถึงดีไซน์ในการแสดงออกถึงพลังในการขับเคลื่อนด้วยรูปแบบสปอร์ตเร้าใจ
ชุดแต่ง AMG Line พร้อมชุดแต่งตัวถัง AMG bodystyling ให้ความโดดเด่นดึงดูดความสนใจได้สูงสุดไม่ว่าจะมองจากมุมไหน

Mercedes-Benz C-Class Saloon มาพร้อมคุณภาพแจ่มกับคุณสมบัติที่ดีเยี่ยม



ความสามารถรอบตัว
เพียงแค่กำหนดให้เป็นรูปแบบมาตรฐานก็ประทับใจได้แล้ว: C-Class Saloon เพิ่มความสะดวกสบายที่โดดเด่นมากขึ้น
การผลิตด้วยความประณีตพิถีพิถันเป็นพิเศษและยังประกอบด้วยนวัตกรรมทางเทคนิคที่ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
ความงดงาม พลังในการขับเคลื่อน และประสิทธิภาพสามารถยกระดับเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการ

ภาพออกแบบ 2018 Suzuki Jimny รถยนต์ซีรีส์ตำนานอีกรุ่นของ Suzuki

ชมภาพ ซูซูกิ จิมนี่ (Suzuki Jimny) รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2018 นี้

ถือเป็นอีกรุ่นตำนานของค่าย Suzuki ที่ไม่ว่าจะออกรุ่นใหม่ เจนเนเรชั่นใหม่ขนาดไหน ก็ยังสามารถคงเอกลักษณ์ และเค้าโครงรุ่นเดิมได้ตลอดเวลา แถมยังมีความสวยงามทันสมัยตามยุคอีกด้วย กับ Suzuki Jimny

วันนี้ใกล้เวลาเปิดตัวโฉมใหม่อีกครั้ง ซึ่งแน่นอนภาพที่นำมาให้ชมกันยังคงเป็นแค่ภาพร่างการออกแบบ แต่คาดว่าคันจริงจะไม่แตกต่างจากในภาพสักเท่าใดนัก เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ก่อนมีผู้พบเห็นและถ่ายระหว่าง ทดสอบการขับขี่บนถนนจริงๆ พร้อมพรางตัวตามปรกติ
สำหรับรุ่นใหม่คาดการณ์ว่าจะมีมิติตัวถังรถยนต์ที่ใหญ่มากยิ่งขึ้น ความเป็นเหลี่ยมสันชัดเจนมากขึ้น เมิงเผินๆ อาจนึกว่าเป็นรถสมบุกสมบันแบรนด์ Jeep ก็เป็นได้ แต่นี่คือเอกลักษณ์อีกอย่างของ Suzuki Jimny อย่างที่บอกไปในช่วงต้นว่า รูปแบบการออกแบบเส้นสายเค้าเป็นแบบนี้มาเป็นสิบๆ ปี แล้ว
ในส่วนการเปิดตัวน่าจะมีความเป็นไปได้สูงที่จะได้พบกันในงาน โตเกียว มอเตอร์โชว์ 2017 ที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือน ตุลาคม นี้้ และพร้อมขายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2018 ต่อไป

ที่มา : www.autospinn.com

Suzuki เตรียมผลิตรถยนต์พลังไฟฟ้าให้ Toyota ในอินเดีย


โตโยต้าและซูซูกิ บรรลุข้อตกลงการผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในอินเดีย ซึ่งจะเกิดขึ้นภายในปี 2020

กรอบข้อตกลงดังกล่าวถูกลงนามโดยทั้งสองฝ่ายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะบรรลุข้อตกลงในรายละเอียดซึ่งซูซูกิจะไม่เพียงผลิตรถยนต์พลังไฟฟ้าเพื่อจัดจำหน่ายเองเท่านั้น แต่ยังผลิตและจัดส่งรถยนต์ให้โตโยต้าอีกด้วย ขณะที่โตโยต้าจะให้การสนับสนุนทางเทคนิค

ทั้งสองบริษัทยังร่วมมือกับศึกษาและดำเนินมาตรการหลายด้านที่จะช่วยกระตุ้นความนิยมในรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในอินเดียให้ลูกค้ายอมรับในวงกว้าง

มาตรการต่างๆ ครอบคลุมถึงการขยายสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้า การพัฒนาทรัพยากรบุคคลทั้งก่อนและหลังการขาย รวมถึงการศึกษาระบบการจัดการแบตเตอรี่ที่หมดอายุการใช้งานแล้วด้วย

ซูซูกิยังประกาศด้วยว่ากำลังวางแผนก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในอินเดียเพื่อทำการผลิตทั้งแบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนสำคัญอื่นๆ โดยโรงงานดังกล่าวจะตั้งอยู่ภายในพื้นที่โรงงานประกอบรถยนต์แห่งใหม่ที่ซูซูกิเพิ่งเปิดทำการเมื่อไม่นานนี้

ค่ายรถจากญี่ปุ่นรายนี้ระบุด้วยว่า แผนการส่งเสริมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอินเดียภายใต้แนวคิดริเริ่ม “Make in India”

ที่มา : www.autospinn.com

นักวิชาการชี้ควรวางแผนพัฒนา “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” อย่างเป็นระบบ



นักวิชาการเตือนรัฐวางแผนรับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นระบบ ก่อนกระทบเศรษฐกิจมหภาคสูญเสียภาษีเงินได้มหาศาล

นักวิชาการเตือนรัฐวางแผนรับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นระบบ ก่อนกระทบเศรษฐกิจมหภาคสูญเสียภาษีเงินได้มหาศาล บีโอไอพร้อมส่งเสริมการลงทุนทุกรูปแบบ ด้านศูนย์วิจัยกสิกรชี้ปีหน้าเศรษฐกิจดียอดขายรถเพิ่ม

ธิบดี หาญประเสริฐ นายกสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ไทย เปิดเผยในการเสวนาทศวรรษใหม่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย หัวข้อ “A New Vision for Mobility” ว่า รัฐบาลหันมาส่งเสริมการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงไปถึงเป้าหมาย แต่สิ่งที่ต้องการสะท้อนให้เห็นจากนี้จะเป็นภาพรวมที่รัฐต้องตระหนักและควรวางแผนอย่างเป็นระบบเพื่อไม่ให้ไทยก้าวก้าวผิดจังหวะกระทบเศรษฐกิจมหภาคและสูญเสียภาษีเงินได้

ทั้งนี้ หากพิจารณาผลกระทบด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค ปัจจุบันรัฐไทยเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2559 ประมาณ 7 แสนกว่าล้านบาท เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกองทุนอนุรักษ์พลังงานได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากไทยเน้นเรื่องการผลิตและใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง มาตรการทางด้านภาษีตรงนี้จะเป็นอย่างไรเพราะรัฐต้องสูญเสียรายได้ในส่วนนี้ รวมทั้งยังไม่สามารถเก็บภาษีรายได้นิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจน้ำมันอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์



“ผมไม่ได้คัดค้านเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า แต่ต้องการให้ภาครัฐช่วยวิเคราะห์การเกิดขึ้นในภาพรวม และช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยให้อยู่รอด เพราะที่ผ่านมาเราส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ปีละประมาณ 5.8 แสนล้านบาท หากรัฐก้าวผิดจังหวะ นักลงทุนต่างชาติอาจขยับไปลงทุนที่เวียดนามกับอินโดนีเซียแทน”

นอกจากนี้ ผลกระทบที่จะตามมาจะทำให้จำนวนการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหลังการขายระบบดีลเลอร์ทั้งหมดจะล่มสลาย เพราะรถยนต์ไฟฟ้าไม่ต้องมีการบริการ

โชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ในส่วนของบีโอไอพร้อมสนับสนุนการลงทุนทุกรูปแบบ อาจแตกต่างตรงส่งเสริมชิ้นส่วนเก่าน้อยกว่าชิ้นส่วนใหม่ ซึ่งที่ผ่านมา เทคโนโลยีไฮบริด มีบริษัทโตโยต้ารายเดียวที่ยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ แต่ก็ยังมีเวลาถึงสิ้นปีนี้ ส่วนปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า ยังมีเวลาถึงปีหน้า

พิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์โดยยังเป็นปัจจัยบวกมากกว่าปัจจัยลบ อัตราดอกเบี้ยน่าจะทรงตัวในระดับต่ำเป็นปีสุดท้าย และตลาดรถยนต์จะฟื้นตัวในส่วนของผู้มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป เช่นเดียวกับเศรษฐกิจที่ยังเติบโตไม่ทั่วถึงทุกธุรกิจ

จาการสำรวจผู้บริโภคไทยสนใจรถยนต์ไฟฟ้าแต่ราคาหรือส่วนต่างกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต้องไม่ถึง 2 แสนบาท ซึ่งในส่วนนี้ไทยอาจได้รับผลกระทบจาก FTA ไทย-จีน ที่มีสิทธิ์นำเข้ารถโดยมีภาษีที่ 0%

ณัฐพล รังสิตพล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย รัฐบาลสนับสนุนให้ผู้ผลิตในตลาดปรับเปลี่ยนการผลิตสู่เทคโนโลยีใหม่
ซึ่งหากพิจารณาปริมาณการผลิตภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะประเทศจีน ผลิตรถเกินความต้องการอยู่มา ขณะที่ประเทศอังกฤษและอเมริกา ตัวเลขคนรุ่นใหม่เริ่มมีผูัทำใบขับขี่น้อยลง ความต้องการรถยนต์ของคนรุ่นใหม่ลดลงจากผลกระทบของเทคโนโลยี จึงเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังสำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นฐานการผลิต

“เราอาจต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของโลก ซึ่งอนาคตไทยอาจต้องปรับตัวใหม่ไม่ใช่เป็นเพียงฐานการผลิตเท่านั้น”

ที่มา : www.autospinn.com

Toyota Rush มินิเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง พี่ไทยไม่ต้องรอ มีขายเฉพาะอินโดนีเซีย


ผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะชวาเป็นร้อยๆ ล้าน ทำให้ Toyota หาหนทางที่จะปรุงแต่งรถครอบครัวแบบเอ็มพีวี หรือรถที่มีทรงแบบกล่องสำหรับขนครอบครัวเดินทางไปทั้งหมดเพื่อส่งขายในประเทศมุสลิมแห่งนี้ รถแนวเอ็มพีวีได้รับความนิยมอย่างมากบนเกาะชวา จากรูปแบบความอเนกประสงค์ แม้จะขับไม่ค่อยจะได้เรื่องได้ราว แต่ความจุผู้โดยสารที่เป็นจุดขายของรถประเภทนี้โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซียที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมเดินทางไปกันทีเดียวทั้งครอบครัว ทำให้บรรดาค่ายรถญี่ปุ่นซึ่งนำโดยหัวเรือใหญ่อย่างค่ายสามห่วง Toyota ปล่อยรถเอ็มพีวีออกมาอย่างต่อเนื่อง

Toyota Rush เป็นมินิเอ็มพีวีแบบ 7 ที่นั่ง วางเครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2NR แบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร DOHC Dual VVT-i กำลังสูงสุด 104 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 136 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังหรือเกียร์มีให้คนอินโดฯ เลือกสองแบบ แบบแรกคือเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ แบบที่สองเป็นเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ Toyota Rush เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง คาดว่าการขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลังจะทำให้มันขับได้ดีกว่าการใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า

มิติตัวถังของ Toyota Rush ยาว 4,435 กว้าง 1,695 สูงประมาณ 1,680 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,685 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องล่อไปถึง 220 มิลลิเมตร สูงปรี้ดอย่างกับเอสยูวีกันเลยทีเดียว เทียบกับรถคู่แข่งอย่าง Honda BR-V ที่มีความยาว 4,455 กว้าง 1,735 x และสูง 1,650 มิลลิเมตร จะพบว่าทั้งพี่โตและ BR-V มีเรือนร่างที่สูสีกันมาก สำหรับประเทศไทยไม่ต้องรอให้เมื่อย เพราะ Rush จะขายแค่ในอินโดนีเซียเท่านั้น.


ที่มา : www.thairath.co.th

เปิดตัว MG ZS ท้าดวลครอสโอเวอร์ Honda HR-V และ Mazda CX-3

เมื่อ MG เปิดตัว ZS รถเอสยูวีรุ่นใหม่ออกทำตลาดด้วยราคาค่าตัวที่น่าสนใจ ทำให้ลูกค้าที่มองหารถอเนกประสงค์ได้มีทางเลือกเพิ่มเติมขึ้นมาทันที
ถึงแม้ MG ZS จะมีขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กกว่าคู่แข่ง แต่ด้วยราคาจำหน่ายที่ย่อมเยากว่าอย่างชัดเจน ทำให้คนที่กำลังตัดสินใจเลือกรถเอสยูวีขนาดเล็กสักคันย่อมต้องเกิดอาการลังเล เราขอรวบรวมข้อมูลของรถในกลุ่มนี้ทั้ง MG ZS, Honda HR-V และ Mazda CX-3 มาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ

Honda HR-V


โดดเด่นด้วยรูปทรงที่เน้นความสปอร์ตผสมผสานกับความหรูหราตามตำแหน่งการตลาด “สปอร์ต+พรีเมียม” มือจับเปิดประตูด้านท้ายซ่อนอยู่บริเวณเสาหลังคาหลังเพื่อให้ตัวรถดูปราดเปรียวยิ่งขึ้น อ็อปชั่นตัวท็อปค่อนข้างครบครันอย่างมาก แต่เราขอนำเสนอรุ่นล่างสุดคือรหัส S ที่ถูกตัดทอนอุปกรณ์หลายชิ้นไป

เอชอาร์-วี รุ่น S ไม่มีหลังคาซันรูฟ ไฟหน้าเป็นแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ ไม่มีเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ ไฟท้ายเป็นแอลอีดี มีระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ไม่มีไฟตัดหมอก ล้ออัลลอยใช้ขนาด 17 นิ้ว พร้อมกับมีสปอยเลอร์หลัง


โครงสร้างภายในโดยรวมคล้ายกับฮอนด้า แจ๊ส ตกแต่งด้วยสีดำ แผงคอนโซลเอียงเข้าหาคนขับซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถฮอนด้าเกือบทุกรุ่น ใช้วัสดุผ้าสลับกับหนังสังเคราะห์ มีระบบตาร์ทเครื่องยนต์แบบปุ่มสตาร์ท ระบบฮอนด้า สมาร์ท คีย์ ระบบปรับอากาศควบคุมด้วยการสัมผัส เบาะที่นั่งปรับมือ เครื่องเสียงรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธตามสมัยนิยม มีลำโพง 4 ตัว ระบบความปลอดภัยครบครันพอตัวเหมือนกับรุ่นท็อป แต่ขาดถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะและม่านนิรภัยซึ่งมีเฉพาะในรุ่นที่สูงกว่า

เครื่องยนต์มีขนาดใหญ่พอตัว บล็อกเบนซิน 4 สูบ SOHC i-VTEC ความจุ 1.8 ลิตรแบบเดียวกับฮอนด้า ซีวิค ให้พละกำลัง 141 แรงม้า แรงบิด 172 นิวตันเมตร ประกบกับเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง CVT พร้อมโหมด Paddle Shift 7 สปีด รองรับน้ำมัน E85 ขับเคลื่อนล้อหน้า

สำหรับราคาจำหน่าย รุ่นเริ่มต้น S อยู่ที่ 9.33 แสนบาท รุ่น E ราคา 9.99 แสนบาท รุ่น E Limited ราคา 1.05 ล้านบาท และรุ่นท็อปไลน์ EL ค่าตัว 1.099 ล้านบาท

Mazda CX-3


มาพร้อมแนวคิด “ฟรีสไตล์ ครอสโอเวอร์” มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่ม “YUCCIES” หรือ Young Urban Creatives ทั้งในและนอกเมือง การออกแบบภายนอกสะดุดตาด้วยเอกลักษณ์ดีไซน์โคโดะ จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว คนที่ชื่นชอบเส้นสายพลิ้วปราดเปรียวแบบสปอร์ตย่อมถูกอกถูกใจเจ้าซีเอ็กซ์-3 แน่นอน

สำหรับซีเอ็กซ์-3 รุ่นเริ่มต้นใช้รหัส 2.0 E ไฟหน้าเป็นแบบฮาโลเจน ไม่มีทั้งไฟตัดหมอกและเดย์ไลท์ บั้นท้ายมีสปอยเลอร์ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว เสาอากาศแบบครีบฉลาม และท่อไอเสียคู่แบบสปอร์ตพร้อมปลายท่อโครเมียม

ภายในห้องโดยสาร ไม่มีระบบสมาร์คีย์ แต่มีปุ่มสตาร์ทเช่นกัน การตกแต่งใช้ผ้าสีดำทั้งหมด ส่วนวัสดุหุ้มเบาะที่นั่งเป็นสีดำสลับกับสีเทา วัสดุหุ้มพวงมาลัยเป็นยูริเทนเหมือนกับเอชอาร์-วี เบาะพับแยกส่วน 60:40 เช่นกัน มีฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อบลูทูธ ระบบสั่งการด้วยเสียง เครื่องเสียงตามมาตรฐานพร้อมลำโพงติดตั้งมาให้ 4 ตัวเหมือนกับคู่แข่งจากฮอนด้า

ระบบความปลอดภัยในรุ่น 2.0 อีนั้นถูกตัดออกไปเกือบทั้งหมด แต่ก็ยังมีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ระบบป้องกันล้อล็อกเอบีเอส และถุงลมนิรภัยคู่หน้า


เครื่องยนต์ของรุ่นเริ่มต้นเป็นบล็อกเบนซิน สกายแอคทีฟ-จี ขนาด 2.0 ลิตร พละกำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตันเมตร อัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 16.4 กม./ลิตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ-ไดรฟ์ 6 สปีด

ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 2.0 E ราคา 8.35 แสนบาท รุ่น 2.0 C ราคา 9.1 แสนบาท รุ่น 2.0 S ค่าตัว 9.75 แสนบาท รุ่น 2.0 SP ราคา 1.083 ล้านบาท และตัวท็อป 1.5 XDL เคาะราคาที่ 1.193 ล้านบาท

MG ZS


เปิดตัวเรียกเสียงฮือฮาด้วยราคาจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่ายเกินคาด มาพร้อมแนวคิดสมาร์ทเอสยูวีด้วยระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ เทคโนโลยีไอสมาร์ท (i-SMART) สามารถรองรับการสั่งงานด้วยเสียงเป็นภาษาไทยครั้งแรกของโลก เอ็ทจี แซดเอสถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มการใช้งานในเมือง และพร้อมรองรับการใช้งานนอกเมืองได้อย่างสบาย

ด้วยรราคาจำหน่ายที่ย่อมเยา เราจึงหยิบแซดเอส ตัวท็อปไลน์รหัส X มาเปรียบเทียบให้เห็นกับคู่แข่ง ไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์และระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ มีไฟเดย์ไลท์ แหงนมองหลังคามีซันรูฟแบบพาโนรามา มีไฟตัดหมอกหน้า-หลัง ไฟท้ายแอลอีดี และไฟเบรกดวงที่สามแบบแอลอีดี กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว มีสปอยเลอร์หลังและราวหลัง

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีน้ำตาลและดำ วัสดุเป็นหนังสังเคราะห์แบบซอฟต์ทัชให้ผิวสัมผัสนุ่มนวล มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เบาะพับได้ 60:40 มีหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล และปุ่มสตาร์ท

ไฮไลท์อยู่ที่ระบบไอสมาร์ทที่สามารถสั่งการตัวรถได้ด้วยการออกเสียงภาษาไทย ทั้งซันรูฟ การใช้โทรศัพท์ พร้อมกับสามารถใช้หน้าจอสั่งการระบบนำทางและระบบเลขาส่วนตัว ผู้ใช้งานยังสามารถใช้โทรศัพท์เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนในการสั่งการเปิดระบบแอร์ การล็อกประตู วางแผนการเดินทาง และอื่นๆ อีกมากมาย

ระบบความปลอดภัยเริ่มจากระบบเบรกป้องกันล้อล็อก และกระจายแรงเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบควบคุมการเบรกในโค้ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและป้องกันการลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย เรียกว่าแซดเอสมาพร้อมอ็อปชั่นครบครันกว่าใครเพื่อน


แต่จุดด้อยของรถยนต์สัญชาติอังกฤษรุ่นนี้คือ เครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กกว่าเพื่อน บล็อกเบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังแรงม้าที่ 114 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Maunal Mode

ราคาจำหน่ายของ MG ZS เริ่มต้นรุ่น C ราคา 6.79 แสนบาท รุ่นกลาง D ราคา 7.29 แสนบาท และรุ่นสูงสุด X ราคา 7.89 แสนบาท

ที่มา : www.autospinn.com

Ford ติดตั้งระบบ “สตาร์ทเงียบ” ไว้ใน Mustang ไม่รบกวนชาวบ้านอีกต่อไป



ฟอร์ดอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ต้องการออกไปทำงานแต่เช้า (หรือพ่อบ้านใจกล้าที่จะหนีเที่ยว) ด้วยการติดตั้งระบบท่อไอเสียแบบแอคทีฟที่ทำงานเงียบเชียบไว้ในมัสแตง จีที รุ่นใหม่

ระบบดังกล่าวมีชื่อว่า Quiet Start ซึ่งช่วยให้มัสแตง จีทีที่มาพร้อมขุมพลังวี8 มีเสียงขณะสตาร์ทเครื่องยนต์และจอดนิ่งที่เงียบเชียบกว่าปกติ โดยสามารถปรับตั้งเวลาให้ระบบนี้ทำงานได้ อาทิช่วง 2 ทุ่มไปจนถึง 7 โมงเช้าเป็นต้นเพื่อที่จะไม่รบกวนชาวบ้านข้างเคียง

สตีฟ ฟอน โฟสเตอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของฟอร์ดกล่าวว่า “ผมชื่นชอบเสียงขุมพลังวี8 แต่บางครั้งมันอาจดังเกินไปและทำให้เพื่อบ้านรำคาญได้ เราจึงทำการติดตั้งระบบควบคุมเสียงเครื่องยนต์ให้ผู้ขับขี่ปรับได้ตามใจชอบ”

โฟสเตอร์ระบุว่า การพัฒนาระบบ Quiet Start เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรง เมื่อเพื่อนบ้านของเขาโทรแจ้งตำรวจว่าท่อไอเสียดังของเชลบี้ จีที350 ของเขามีเสียงดังเกินไปขณะสตาร์ทและถอยออกจากโรงจอดรถในบ้าน

ระบบ Quiet Start สามารถปรับตั้งได้ทั้งจากพวงมาลัยและบนหน้าจอบนคอนโซล ทางฟอร์ดระบุว่าที่เป็นครั้งแรกที่ผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งเสียงท่อไอเสียและเลือกช่วงเวลาได้อย่างยืดหยุ่น

ที่มา : www.autospinn.com

การนำเอาระบบขับขี่รถยนต์แบบอัตโนมัติ จะเริ่มใช้เต็มรูปแบบที่ประเทศอังกฤษ



รัฐบาลอังกฤษนำเสนอร่างกฎหมายที่จะเป็นการปูทางสู่การใช้งาน “รถยนต์ขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ” บนถนนสาธารณะภายในปี 2021 เป็นต้นไป

มีรายงานว่า ฟิลิปส์ แฮมมอนด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอังกฤษเตรียมประกาศเปลี่ยนแปลงงบประมาณแผ่นดินที่เกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้รถไร้คนขับบนถนนสาธารณะทั่วประเทศโดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุมหรือนั่งอยู่ภายในรถได้ ซึ่งนับเป็นประเทศแรกในโลกที่เตรียมการสู่การใช้งานเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ

หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดี้ยนรายงานว่า แฮมมอนด์ต้องการสร้างความมั่นใจว่า อังกฤษจะยืนอยู่แถวหน้าของเทคโนโลยีนี้เมื่อจะอำลาจากสหภาพยุโรปภายในปี 2019

ด้านไมค์ ฮอว์ส ประธานกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ของอังกฤษเปิดเผยว่า การนำเสนอร่างกฎหมายด้านงบประมาณดังกล่าวเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของอังกฤษอย่างมาก

“เราสนับสนุนมาตรการของรัฐบาลเพื่อให้สหราชอาณาจักรเป็นตลาดที่ดีที่สุดที่จะพัฒนา ทดสอบ และทำตลาดรถขับขี่อัตโนมัติซึ่งจะพลิกโฉมการเดินทางบนท้องถนนไปอย่างสิ้นเชิง ช่วยลดอุบัติเหตุและรักษาชีวิตผู้คนได้มากมาย” ฮอว์สกล่าว

ที่มา : www.autospinn.com
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved