มอเตอร์สตาร์ทหมุนทำงานแต่เครื่องไม่ติด ในสภาพเครื่องยนต์ร้อนแล้วดับ ถ้าทิ้งไว้ให้เครื่องยนต์เย็นลง ก็จะสตาร์ทติด
รถยนต์ที่เกิดอาการเหมือนกับปัญหาที่ว่านี้ จะเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งพอจะ จำแนกถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ
ดังกล่าวได้ดังนี้
- ส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศบาง (ปริมาณอากาศมากเกินไป)
- คอยล์จุดระเบิดเสื่อม
- ระบบจุดระเบิดเกิดปัญหา
- ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงแบบไฟฟ้าเสื่อม
ส่วนผสมบาง โดยปกติแล้วการปรับแต่งส่วนผสมไอดี (อากาศและน้ำมัน) ของเครื่องยนต์จะต้องได้รับการปรับแต่งจาก
บุคคลหรือช่างที่มีความชำนาญ หรือไม่ก็ช่างจากศูนย์บริการ ถ้ามีการปรับแต่งให้ส่วนผสมบางเกินไป นั่นก็คือทำให้น้ำมันเข้า
น้อยแต่อากาศเข้ามาก เวลาที่เครื่องยนต์ร้อน จึงทำให้ส่วนผสมบางลง เป็นเหตุให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดยาก หรือไม่ติดนั่นเอง
การแก้ไข สามารถทำได้โดยการให้ช่าง หรือศูนย์บริการ ทำการปรับตั้งให้อยู่ในสภาวะปกติ เพราะว่า ส่วนผสมไอดีที่มีการ
เปลี่ยนแปลง ก็จะส่งผลถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ด้วย ท่านเจ้าของรถเอง คงจะทำการแก้ไขได้ยาก เพราะต้องใช้เครื่องที่
ทันสมัยช่วยในการปรับตั้ง
คอยล์จุดระเบิดเสื่อม คอยจุดระเบิดเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากในเครื่องยนต์เบนซิน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์รุ่นเก่า
หรือใหม่ จะต้องใช้คอยล์จุดระเบิดสร้างไฟฟ้าแรงสูง ถ้าคอยล์จุดระเบิดเสื่อมหรือ ร้อนจัด ก็จะทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด
ต้องรอจนกว่าเครื่องยนต์และคอยล์จุดระเบิดเย็นลง จึงจะ สตาร์ทเครื่องยนต์ติด ปัญหาลักษณะแบบนี้ ถ้าคอยล์จุดระเบิดร้อนจัด
เกินไปให้ทำ
การแก้ไข โดยการนำผ้าชุบน้ำมาหุ้มที่ตัว คอยล์จุดระเบิดเพื่อให้ตัวคอยล์เย็นลงก็สามารถที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ติดและ
ขับต่อไปหาช่างเพื่อทำการแก้ไขได้ ถ้าเกิดปัญหาแบบนี้ วิธีแก้ไขก็คือ การเปลี่ยนคอยล์จุดระเบิดใหม่
ระบบจุดระเบิดเกิดปัญหา ในระบบจุดระเบิด นอกเหนือจากคอยล์จุดระเบิดที่ได้กล่าวไว้แล้ว ยังมีส่วนอื่นๆ ประกอบกัน
เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ อาจมีอุปกรณ์ตัวหนึ่งตัวใดของระบบจุดระเบิดเสีย หรือเสื่อม ก็จะส่งผลให้เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด
ซึ่งลักษณะแบบนี้เจ้าของรถคงจะแก้ไขด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องให้ช่างเป็นผู้ทำการแก้ไขให้
การแก้ไข ก็ต้องให้ช่างที่มีความรู้ความชำนาญ ทำการตรวจเช็คและแก้ไขให้เป็นปกติ มิฉะนั้นก็จะเกิดปัญหาขึ้นมาอีก
เวลาเครื่องยนต์ร้อน