Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

Mitsubishi จับมือ Fiat พัฒนารถกระบะรุ่นใหม่


Mitsubishi จับมือ Fiat พัฒนารถกระบะรุ่นใหม่


          Mitsubishi ประกาศจับมือกับ Fiat อย่างเป็นทางการ ร่วมมือกันสร้างรถกระบะขนาดกลาง ต่อยอดลุยตลาดยุโรป

          มิตซูบิชิ (Mitsubishi) ผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ เฟียต (Fiat) ค่ายรถยนต์จากอิตาลี หลังจากลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) เรื่องการร่วมกันพัฒนารถกระบะขนาดกลางรุ่นใหม่สำหรับตลาดโลก หลังจากมีข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับเรื่องนี้

          เมื่อปี 2013 มิตซูบิชิได้เผยแนวทางการทำตลาดรถยนต์ของตนเองใหม่โดยจะเน้นไปที่บรรดารถกระบะและครอสโอเวอร์ รวมทั้งรถไฮบริดด้วย ซึ่งปัจจุบัน มิตซูบิชิมีรถกระบะอย่าง มิตซูบิชิ แอล-200 (Mitsubishi L-200) หรือมิตซูบิชิ ไทรทัน (Mitsubishi Triton) ในประเทศไทยอยู่แล้ว ซึ่งมิตซูบิชิได้ให้เฟียตเป็นผู้ผลิตและจัดการจำหน่ายในยุโรป
          ทางด้านเฟียตเองก็มีความพยายามจะผลักดันรถกระบะของตนเองเช่นกัน โดยเคยร่วมมือกับทาทา (Tata) ค่ายรถยนต์จากอินเดียเมื่อปี 2008 นำโครงสร้างจากทาทา ซีนอน (Tata Xenon) มาดัดแปลง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาด การร่วมมือกับมิตซูบิชิซึ่งมีกระบะที่นิยมอยู่แล้วจึงเป็นทางออกที่ดีกว่า

          ทั้งนี้ในการลงนามยังไม่ได้เปิดเผยว่ารถกระบะรุ่นใหม่ผลงานของมิตซูบิชิและเฟียตจะเป็นอย่างไร แต่คาดว่าจะต่อยอดจากรถต้นแบบกระบะดีเซลไฮบริด มิตซูบิชิ จีอาร์-เอชอีวี (Mitsubishi GR-HEV) ซึ่งคนไทยจะได้สัมผัสกับกระบะรุ่นดังกล่าวแน่นอนในฐานะของมิตซูบิชิ ไทรทันโฉมใหม่ภายในปี 2016 ครับ

เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 กระบะสุดหล่อเฉพาะชาวสหรัฐฯ เท่านั้น


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก netcarshow  

          เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 US Spec กระบะ Mid-Size เพื่อชาวสหรัฐฯ ดึงดีไซน์จาก Chevrolet Silverlado พร้อมสมรรถนะยอดเยี่ยมเกินตัว

          เชฟโรเลต (Chevrolet) ค่ายรถยนต์จากสหรัฐฯ ได้เปิดตัวรถกระบะขนาดกลางหรือ Mid-Size Truck อย่าง เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 (Chevrolet Corolado) ล่าสุดที่ออกแบบเพื่อชาวสหรัฐฯ สืบสานดีเอ็นเอการออกแบบมาจากกระบะรุ่นใหญ่ยอดนิยม พร้อมด้วยสมรรถนะยอดเยี่ยมเกินขนาด

          เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 คันนี้เป็นคนละโฉมกับที่จำหน่ายในบ้านเราและประเทศอื่น ๆ ออกแบบโดยนำแรงบันดาลใจมาจากเชฟโรเลต ซิลเวอร์ลาโด (Chevrolet Silverlado) โดดเด่นด้วยกระจังหน้าสีดำและไฟหน้าดวงเล็กรมดำเข้มขรึม เส้นฝากระโปรงเรียบหรู ซุ้มล้อเป็นทรงเหลี่ยมมุมมนดูแกร่งแต่ไม่ทิ้งความนุ่มนวล ลงตัวกับล้ออัลลอยลายสวยขนาด 17 นิ้ว ด้านหลังใช้เส้นสายเรียบง่ายตัดกับรายละเอียดเหลี่ยมมุมของกันชนซึ่งเจาะช่องไว้สำหรับก้าวขึ้นเก็บของท้ายกระบะได้อย่างง่ายดาย

 ภายในเน้นความเรียบง่าย แต่มีอุปกรณ์ให้ใช้งานอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 4 ก้าน หน้าจอแสดงผลตรงกลางรถขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบ MyLink, Onstar สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและระบบนำทาง ช่องเก็บของคอนโซลกลางขนาดใหญ่สำหรับเก็บสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต พื้นที่โดยสารภายในเองก็มีขนาดใหญ่ เบาะนั่งลวดลายสวยพร้อมช่องเก็บของใต้เบาะ สะดวกในการใช้งาน

          เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 ของชาวสหรัฐฯ มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 รุ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2,500 ซีซี กำลัง 193 แรงม้า แรงบิด 235 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3,600 ซีซี กำลัง 302 แรงม้า และแรงบิด 366 นิวตันเมตร ตัวเครื่องและกระบอกสูบทำจากอะลูมิเนียม จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งสามารถปรับอัตราทดให้เหมาะสมสำหรับงานลากจูงได้ นอกจากนี้ เชฟโรเลตยังเตรียมติดตั้งเครื่องยนต์ Duramax ขนาด 2,800 ซีซี ให้กับกระบะรุ่นดังกล่าวในอนาคตด้วย

          ระบบความปลอดภัยในการขับขี่ก็จัดมาให้เต็ม ๆ ทั้งถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ดิสก์เบรก 4 ล้อ กล้องมองหลัง ระบบตรวจจับวัตถุด้านหน้า ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง ระบบช่วยขับขึ้นและลงเนิน ระบบรักษาสมดุลของรถ StabiliTrak รวมทั้งมีระบบอำนวยความสะดวกด้านการลากจูงทั้งตัวล็อกรถจูง EZ-Lift ที่แข็งแรงแต่ปลดง่ายด้วยมือข้างเดียว ทำงานร่วมกับตัวควบคุมการแกว่งของเทรลเลอร์ เสริมความปลอดภัยในการขับขี่เป็นอย่างดี

          อย่างไรก็ตาม โฉมนี้จะเป็นรุ่นที่จำหน่ายเพียงแต่ในสหรัฐฯ และแคนาดาเท่านั้น เพราะโคโรลาโดในบ้านเราเพิ่งเผยโฉมใหม่และเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่อาจถูกใช้เป็นดีไซน์ในรุ่นปรับโฉมหรือรุ่นใหม่ที่จะจำหน่ายในอนาคตก็เป็นได้ครับ










Toyota และ Lexus เตรียมใช้วัสดุอะลูมิเนียมในปี 2015


Toyota และ Lexus เตรียมใช้วัสดุอะลูมิเนียมในปี 2015
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก autoblog

          Toyota และ Lexus เตรียมใช้ส่วนประกอบทำจากอะลูมิเนียมเป็นครั้งแรกกับรุ่นยอดฮิต คาดเผยโฉมในปี 2015

          วัสดุอะลูมิเนียมถือเป็นมิติใหม่ในการพัฒนารถยนต์ ทั้งแข็งแรงและมีน้ำหนักเบา จึงช่วยทั้งความปลอดภัยและการประหยัดน้ำมันไปพร้อมกัน ค่ายรถยนต์ทั้งหลายจึงหันมาใช้วัสดุดังกล่าวกันมากขึ้น ซึ่งล่าสุด เป็นคราวของโตโยต้า (Toyota) ที่เตรียมนำอะลูมิเนียมมาเป็นส่วนประกอบของรถยนต์รุ่นใหม่ในอีกไม่กี่ปีนี้
          โตโยต้าเตรียมใช้วัสดุอะลูมิเนียมกับรถยนต์ในเครือของตน เริ่มต้นด้วยครอสโอเวอร์หรู เล็กซัส อาร์เอ็กซ์ (Lexus RX) รุ่นปี 2016 ตามด้วยโตโยต้า แคมรี่ (Toyota Camry) รุ่นปี 2018

          เดิมทีแล้ว โตโยต้าเองก็เคยสร้างรถยนต์ที่ทำจากอะลูมิเนียมอยู่หลายรุ่นทั้ง โตโยต้า พรีอุส (Toyota Prius) และโตโยต้า 86 (Toyota 86) ที่ผลิตตามสเปคญี่ปุ่น แต่คราวนี้จะเป็นครั้งแรกที่โตโยต้าจะนำวัสดุอะลูมิเนียมมาใช้ในรถยนต์ที่จำหน่ายในต่างประเทศและเป็นรถยนต์รุ่นยอดนิยมอีกด้วย

          แต่อย่างไรก็ตามโตโยต้าจะเลือกใช้อะลูมิเนียมในบางชิ้นส่วนเท่านั้น ซึ่งช่วยให้รถได้น้ำหนักเบาพอประมาณ และสามารถจำหน่ายได้ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไปนัก ส่วนวัสดุอะลูมิเนียมของโตโยต้าจะผลิตโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างโตโยต้า ซูโช กับโกเบ สตีล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ โดยตั้งเป้าผลิตให้ได้ถึง 100,000 ตันต่อปี เพื่อรองรับความต้องการของรถยนต์ยอดนิยมทั้ง 2 รุ่น อย่างเพียงพอ

การผลิตรถยนต์สปอร์ต lamborghini aventador ที่โรงงานประกอบรถยนต์ของlamborghini โดยตรงที่สามารถผลิตได้ตามสั่ง


       ถ้าพูดถึงรถประเภทSuper Car แบบแรงๆขนาดของเครื่องV12 และที่มีกำลังม้าสูงแล้ว   ก็จะหนีไม่พ้นที่จะนึกถึงชื่อของlamborghini ตัวแรง  ซึ่งก็จะเป็นรถยนต์สปอร์ตคันงามและหรูหราสุดไฮเทคที่อยู่ในฝันของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้ และต่อไปนี้ก็จะได้เห็นกันจากคลิปนี้เลยว่า ความลับในการผลิตและประกอบรถสปอร์ต lamborghini aventador ของทางบริษัทlamborghini เขามีขั้นตอนการสร้างกันแบบไหนถึงได้มีราคาแพงตั้งหลาย10ล้าน   และกว่าจะได้ออกมาวิ่งบนถนนได้แต่ละคันนั้น มันจะยากเย็นแค่ไหนต้องมาดูกัน
































Honda Jazz โฉมยุโรป สีสวย เครื่องประหยัด

ฮอนด้า แจ๊ส (Honda Jazz 2014) โฉมยุโรป
 
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก autoblog

          Honda เตรียมเปิดตัว Honda Jazz รุ่นปี 2014 โฉมยุโรป แย้มตัวถังสีไวน์แดง พร้อมเครื่องยนต์ Earth Dream รุ่นใหม่

          คนรักรถชาวไทยหลายคนคงได้สัมผัสกับแฮทช์แบ็ครุ่นยอดฮิตอย่าง ฮอนด้า แจ๊ส (Honda Jazz) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับชาวยุโรปนั้น ฮอนด้าเพิ่งจะเผยภาพแรกของเจ้าแฮทช์แบ็ครุ่นที่จะจำหน่ายในบ้านเขาออกมา ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน

          เริ่มกันที่ภายนอก แม้จะมีรูปลักษณ์เหมือนกับโฉมในเอเชียและอเมริกา แต่กลับโดดเด่นสะดุดตายิ่งกว่าด้วยตัวถังสีไวน์แดง หรูหราสวยงามไม่ใช่น้อย ทั้งยังมาพร้อมล้ออัลลอย 6 ก้าน เรียบเท่ ส่วนภายในยังไม่มีการเปิดเผยแต่คาดว่าคงไม่มีความแตกต่างจากของในไทยมากนัก

          ทีเด็ดอีกอย่างหนึ่งของฮอนด้า แจ๊สโฉมยุโรปคือได้ใช้เครื่องยนต์ Earth Dream รุ่นใหม่ ขนาด 1,300 ซีซี เลือกจับคู่ได้ทั้งกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งตัวเลขรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งแรงม้าและค่าประหยัดน้ำมันจะได้ทราบกันในวันเปิดตัว

          ฮอนด้าจะเปิดตัว ฮอนด้า แจ๊ส รุ่นปี 2014 โฉมยุโรปภายในงาน Paris Motor Show ปี 2014 ช่วงเดือนตุลาคมนี้

ซูซูกิ ไฮบริด “อัลโต้-สวิฟท์“ ลูกผสม “ญี่ปุ่น-อินเดีย“

  มารูติ ซูซูกิ อินเดีย ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในประเทศอินเดีย อยู่ในระหว่างการพัฒนารถยนต์ เทคโนโลยีโลว์คอสต์-ไฮบริด ในราคาจำหน่ายที่ต่ำและประหยัดพลังงาน โดยมารูติตั้งเป้าว่าจะผลิตรถยนต์ที่ราคาจับต้องได้ง่าย สามารถประหยัดพลังงานได้มากขึ้น 20-30% และต้องการนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใส่ในรถยนต์รุ่นอัลโต้ (Alto) ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นที่ราคาต่ำที่สุดของซูซูกิในพอร์ตโฟลิโอ ไปจนถึงรถยนต์แฮตช์แบ็กรุ่นสวิฟท์ (Swift) ภายใน 3-4 ปี

 
นับจากนี้แหล่งข่าวจากมารูติ ซูซูกิ เปิดเผยว่า มันไม่ใช่แค่คอนเซ็ปต์อีกต่อไป นี่คือการทำงานของเราเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นที่สูงขึ้น การพัฒนาครั้งนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับวิศวกรรมด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอินเดีย และรถยนต์รุ่นดังกล่าวจะถูกจำหน่ายในราคาที่ไม่แตกต่างจากราคารถยนต์ที่ใช้น้ำมันมากนัก
     ส่วนใหญ่รถยนต์ไฮบริดจะมีระบบที่แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไปคือ มีมอเตอร์ไฟฟ้าที่เพิ่มเข้าไปเพื่อช่วยขับเคลื่อนและเสริมแรงจากพลังงานของเครื่องยนต์และเมื่อทำการเบรก ระบบก็จะดึงพลังงานส่วนเกินกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ ทำให้รถยนต์ไฮบริดสามารถประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มากกว่า แต่ด้วยราคารถประเภทดังกล่าวที่สูง ทำให้เป็นอุปสรรคต่อผู้บริโภค การขยายตัวของรถไฮบริดในตลาดโลกจึงค่อนข้างช้า
     อาร์ซี บาร์กาวา (RC Bhargava) ประธานบริษัท มารูติ กล่าวว่า การทำงานร่วมกันระกว่างบริษัทแม่กับมารูติ ซึ่งมารูติเป็นค่ายรถยนต์ที่มียอดขายอันดับหนึ่งในอินเดียนั้น ได้เริ่มต้นทำงานกันที่เทคโนโลยีไฮบริด ซึ่งมารูติมองว่าลูกค้ามีความต้องการรถยนต์ไฮบริดที่มีความเหมาะสมกับสภาพตลาด นั่นคือระบบไฮบริดที่สามารถติดตั้งได้ในรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ราคาประหยัด ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวถือว่ามีความจำเป็นและเป็นที่ต้องการมาก

  ก่อนหน้านี้ มารูติได้แนะนำระบบส่งกำลัง "เอเอ็มที" หรือระบบเกียร์ที่ควบรวมระหว่างแมนวลและออโต้ ที่ติดตั้งภายในรถยนต์ซูซูกิ เซเลริโอ ซึ่งผสานความประหยัดของระบบแมนวลเข้ากับความสะดวกสบายของระบบเกียร์ออโต้ ซึ่งสามารถดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี
     ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มารูติน่าจะสามารถทำรถไฮบริดที่สามารถประหยัดพลังงานได้มากกว่า 25 กิโลเมตรต่อลิตรอย่างแน่นอน ซึ่งซูซูกิเองก็มีเทคโนโลยีดี ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งอาจสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ทั้งเกียร์เอเอ็มที, เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ และรถยนต์ที่ไม่ต้องใช้คลัตช์ (Clutch-less car) แต่เรื่องสำคัญที่ต้องติดตามต่อไปคือ ยอดขายที่จะคาดว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งยิ่งมียอดขายที่สูงย่อมส่งผลต่อราคาจำหน่ายที่ต่ำลงด้วย เนื่องจากความสำเร็จของรถยนต์ไฮบริดขึ้นอยู่กับความสามารถในการเป็นเจ้าของสำหรับลูกค้าอินเดียเป็นสำคัญ
     ขณะเดียวกันบริษัทแม่ของซูซูกิในประเทศญี่ปุ่นก็ได้พัฒนารถยนต์ไฮบริดเวอร์ชั่นสำหรับรุ่นสวิฟท์เรียบร้อยแล้วแต่ไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในกลุ่มรถยนต์โลว์คอสต์ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อย2-3 ปี จึงจะสามารถทำตลาดได้

 
     อย่างไรก็ตาม มารูติเองก็ไม่ใช่ค่ายรถเพียงรายเดียวที่สนใจแนวคิดดังกล่าว เพราะค่ายรถ "มหินทรา" ก็กำลังพัฒนารถยนต์ไฮบริดเช่นกัน ภายใต้เทคโนโลยีรถยนต์ ดีเซล-ไฮบริด ที่ใช้ระบบส่งกำลังเกียร์ธรรมดา ในชื่อรหัสโปรเจ็กต์คือ "W202" คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายรถยนต์รุ่นดังกล่าวได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า
     ทั้งนี้ รัฐบาลกลางอินเดียก็กำลังพิจารณาเพิ่มการซับซิไดซ์สำหรับรถยนต์ไฮบริด ภายใต้แผนการพัฒนายานยนต์อิเล็กทริกส์แห่งชาติ ที่ตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มจำนวนรถยนต์อิเล็กทริกส์ (รวมถึงรถไฮบริดด้วย) ให้มากขึ้นเพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายในปี 2563 ตามแผนที่จะลดการใช้เชื้อเพลิงเหลวอย่างน้อย 0.4 ล้านตัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์อิเล็กทริกและไฮบริดจะอยู่ที่ 1.4 ล้านคัน ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์อินเดียต้องมองหาทางเลือกที่ปฏิบัติได้จริงในการลดการนำเข้าน้ำมัน
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved