Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

พละกำลังเพิ่มขึ้น 35 แรงม้า ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงยิ่งกว่าเดิมถึง 13 เปอร์เซ็นต์ ปอร์เช่ 718 Boxster ใหม่ รถสปอร์ตโร้ดสเตอร์เครื่องยนต์ 4 สูบวางกลาง

พละกำลังเพิ่มขึ้น 35 แรงม้า ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงยิ่งกว่าเดิมถึง 13 เปอร์เซ็นต์

ปอร์เช่ 718 Boxster ใหม่ รถสปอร์ตโร้ดสเตอร์เครื่องยนต์ 4 สูบวางกลาง

สตุ๊ดการ์ท. กว่า 20 ปี หลังจากการเปิดตัวครั้งแรกของรถยนต์ ปอร์เช่บ็อกซเตอร์ (Boxster) โดยขณะนี้คือเวลาของ
ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster) ใหม่ รถสปอร์ตโร้ดสเตอร์เครื่องยนต์ 4 สูบวางกลาง ที่ได้รับการรังสรรค์จาก
ปอร์เช่ด้วยโครงสร้างวิศวกรรมและงานดีไซน์ เพื่อที่สุดของยานยนต์แห่งอนาคต  ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster) และ ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ เอส (718 Boxster S) คือรถสปอร์ตเปิดประทุน 2 ที่นั่ง ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและทรงพลังยิ่งขึ้น ด้วยการสานต่อเทคโนโลยีเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงนอนในตำนาน จากรถสปอร์ตปอร์เช่ 718 ซึ่งเคยคว้าชัยชนะในการแข่งขันรายการ Targa Florio และ Le Mans เมื่อปี 1950 และ 1960

หัวใจหลักของการพัฒนารถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุดนี้คือ เครื่องยนต์ 4 สูบเรียงนอนพร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ ส่งผลให้ ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster) มีพละกำลังสูงสุดถึง 300 แรงม้า (220 กิโลวัตต์) จากขนาดความจุเครื่องยนต์เพียง 2.0 ลิตร และสำหรับปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ เอส (718 Boxster S) สามารถสร้างพละกำลังได้สูงสุดกว่า 350 แรงม้า (257 กิโลวัตต์) จากขนาดความจุเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรเท่านั้น เช่นเดียวกันกับสุดยอดรถสปอร์ตปอร์เช่ 911 เครื่องยนต์ของ ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ เอส (718 Boxster S) ได้รับการติดตั้งระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จแบบแปรผัน (VTG-variable turbine geometry) ซึ่งปอร์เช่เป็นผู้ผลิตรถยนต์เพียงหนึ่งเดียวในปัจจุบัน ที่นำเทคโนโลยีล้ำหน้าดังกล่าวมาใช้ในเครื่องยนต์เบนซินของรถยนต์ที่ออกจากสายการผลิตปกติ และด้วยนวัตกรรมนี้ส่งผลให้ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์
(718 Boxster) มีแรงม้าเพิ่มขึ้นถึง 35 แรงม้า (26 กิโลวัตต์) พร้อมประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง
13 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับบ็อกซเตอร์ (Boxster) รุ่นเดิม

ระบบตัวถังใหม่ ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อตอบสนองการขับขี่สไตล์สปอร์ตอย่างสมบูรณ์แบบ การออกแบบเส้นสายของตัวถังภายนอกเต็มไปด้วยรูปแบบอันล้ำยุค ในทุกจุดของตัวรถล้วนแต่ผ่านการสร้างสรรค์ขึ้นอย่างประณีตบรรจง ตั้งแต่หัวจรดท้าย ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรง กระจกบังลมหน้า ภายในของหลังคาประทุน รวมไปถึงชุดแผงหน้าปัดและคอนโซลที่ได้รับการดีไซน์ขึ้นใหม่ทั้งหมด ติดตั้งระบบติดต่อสื่อสารและความบันเทิง Porsche Communication Management (PCM) ควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานด้วยหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยสามารถสั่งติดตั้งระบบนำทางผ่านดาวเทียมเป็นอุปกรณ์พิเศษได้
ขีดสุดแห่งสมรรถนะจากเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบ
รถสปอร์ตปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster) ใหม่ ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งของสุดยอดเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงนอนจากปอร์เช่ นับจากการเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1960 ด้วยประสิทธิภาพอันเต็มเปี่ยมจากระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ ส่งผลให้เครื่องยนต์ที่มีขนาดความจุเพียง 2.0 ลิตร ของปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster) สร้างแรงบิดมหาศาลได้สูงสุดถึง 380 นิวตันเมตร (มากกว่ารุ่นเดิม 100 นิวตันเมตร) ที่รอบการทำงาน 1,950 ถึง 4,500 รอบต่อนาทีสำหรับเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ใน ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ เอส (718 Boxster S) มีแรงบิดสูงสุดถึง 420 นิวตันเมตร (มากกว่ารุ่นเดิม 60 นิวตันเมตร) ที่รอบการทำงาน 1,900 ถึง 4,500 รอบต่อนาที

ด้วยพละกำลังที่มากยิ่งขึ้นทำให้ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster) ใหม่ มีสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม ในรุ่นที่ติดตั้งระบบเกียร์ PDK และชุดแต่งสปอร์ตโครโน (Sport Chrono Package) สามารถเร่งออกตัวจากจุดสตาร์ทไปยังความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 4.7 วินาที (เร็วกว่ารุ่นเดิม 0.8 วินาที) ความเร็วสูงสุดที่ 275 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในรุ่น 718 บ็อกซเตอร์ เอส (718 Boxster S) ที่ติดตั้งอุปกรณ์พิเศษแบบเดียวกัน สามารถทำได้ด้วยระยะเวลาเพียง 4.2 วินาทีเท่านั้น (เร็วกว่ารุ่นเดิม 0.6 วินาที) ความเร็วสูงสุดที่ 285 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภายใต้แนวคิดการพัฒนาระบบเครื่องยนต์เทอร์โบของปอร์เช่ คือการเพิ่มสมรรถนะให้แก่เครื่องยนต์พร้อมกับการเพิ่มอัตราการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เครื่องยนต์ 4 สูบเรียงนอนของปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster)  ที่ติดตั้งระบบกียร์ PDK ผ่านการทดสอบอัตราการสิ้นเปลืองตามมาตรฐาน NEDC ของยุโรปที่ 14.49 กิโลเมตรต่อลิตร (6.9 ลิตร/100 กิโลเมตร) สำหรับปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ เอส (718 Boxster S) เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ที่ติดตั้งระบบเกียร์ PDK มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 13.69 กิโลเมตรต่อลิตร (7.3 ลิตร/100 กิโลเมตร)  

ปอร์เช่ 718 ทุกรุ่น ติดตั้งระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานส่วนระบบเกียร์ PDK (Porsche Doppelkupplungsgetriebe) สามารถเลือกติดตั้งเพิ่มเติมเป็นอุปกรณ์พิเศษได้

แนวคิดการดีไซน์ใหม่ที่เน้นย้ำถึงความเฉียบคม
ปอร์เช่ 718 คือรถยนต์ที่โดดเด่น สามารถสะกดทุกสายตาเพียงแรกเห็น ตัวถังด้านหน้าบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ใหม่ของรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ได้รับการออกแบบอย่างสง่างาม ด้วยการขยายความกว้างของกันชนหน้าและเพิ่มมุมมองที่เปิดเผยถึงความกร้าวแกร่งยิ่งขึ้น ช่องดักอากาศเข้าเครื่องยนต์ขนาดใหญ่คือสิ่งที่สร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดของรถสปอร์ตที่ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบสมรรถนะสูง ไฟหน้าไบซีนอน ดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (daytime running lights) แบบ LED รวมอยู่ในโคมเดียวกันและสามารถเลือกสั่งติดตั้งชุดไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ 4 ลำแสงเป็นอุปกรณ์พิเศษ

ตัวถังด้านข้างรังสรรค์ขึ้นอย่างสวยงามด้วยเส้นสายที่ต่อเนื่องเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ช่องรับอากาศด้านข้างพร้อมครีบดักอากาศคู่ขนาดใหญ่ เน้นภาพลักษณ์ความสปอร์ตให้โดดเด่นยิ่งขึ้น มือเปิดประตูดีไซน์ใหม่ พร้อมล้ออัลลอยด์ขนาด
19 นิ้วติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น 718 บ็อกซเตอร์ เอส (718 Boxster S) และสามารถเลือกติดตั้งล้ออลัลอยด์ขนาด 20 นิ้วเป็นอุปกรณ์พิเศษ

ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster) ได้รับการดีไซน์ด้านท้ายรถใหม่ให้กว้างและงามสง่ายิ่งขึ้น เน้นความชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณสัญลักษณ์ปอร์เช่ ซึ่งติดตั้งอยู่ระหว่างไฟท้ายทั้งสองข้าง โคมไฟท้ายโดดเด่นสวยงามด้วยเทคโนโลยี LED 3 มิติ และไฟเบรกแบบ 4 ลำแสง

ปรับแต่งระบบช่วงล่างเพื่อตอบสนองรูปแบบการขับขี่สไตล์สปอร์ต
รถสปอร์ตโร้ดสเตอร์รุ่นใหม่ ได้สืบทอดสมรรถนะการขับขี่จากรถแข่งปอร์เช่ 718 ในอดีต โดยได้รับการพัฒนาและปรับแต่งระบบช่วงล่างอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการขับขี่ทุกสภาวะ ระบบพวงมาลัยอิเล็กโทรเมคคานิกส์
(Electromechanically) ได้รับการปรับจูนให้มีความแม่นยำเพิ่มขึ้นถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์
(718 Boxster) ตอบสนองการบังคับควบคุมได้อย่างเฉียบคมยิ่งกว่า ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนสนามแข่งหรือสภาพการจราจรบนท้องถนนสาธารณะ

ระบบควบคุมช่วงล่างด้วยอิเล็กทรอนิกส์ Porsche Active Suspension Management
อุปกรณ์พิเศษสำหรับประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหนือกว่าของรถสปอร์ตโร้ดสเตอร์ คือระบบควบคุมช่วงล่างด้วยอิเล็กทรอนิกส์ Porsche Active Suspension Management (PASM) ด้วยการลดระดับความสูงของช่วงล่างลง 10 มิลลิเมตร และขีดสุดแห่งสมรรถนะการยึดเกาะถนนด้วยระบบช่วงล่าง PASM sport ลดระดับความสูงของช่วงล่างลงถึง 20 มิลลิเมตร เป็นอุปกรณ์ติดตั้งพิเศษเฉพาะ 718 บ็อกซเตอร์ เอส (718 Boxster S) เท่านั้น ด้วยความเชี่ยวชาญในการปรับแต่งช่วงล่างของปอร์เช่ ผู้ขับขี่สามารถมั่นใจได้ทุกลักษณะการใช้งานที่ครอบคลุมทั้งการเดินทางที่เน้นความสะดวกสบายหรือการขับขี่แบบสปอร์ตที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการวิ่งบนสนามแข่ง

ชุดแต่งสปอร์ตโครโน (Sport Chrono Package) เพื่อที่สุดของประสบการณ์การขับขี่
เช่นเดียวกับปอร์เช่ 911 พิเศษยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่งสปอร์ตโครโน (Sport Chrono Package) ที่เสริมฟังก์ชั่นการเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ 3 ลักษณะการใช้งาน คือ Normal Sport และ Sport Plus สำหรับรถที่ติดตั้งระบบเกียร์ PDK จะได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยสวิทช์ Sport Response Button ซึ่งติดตั้งบริเวณกึ่งกลางของตำแหน่งสวิทช์เลือกรูปแบบการขับขี่โดยได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากรถแข่งในสนาม ระบบดังกล่าวจะสั่งการให้เครื่องยนต์และเกียร์ตอบสนองต่อการบังคับควบคุมของผู้ขับขี่อย่างเต็มสมรรถนะ

อุปกรณ์มาตรฐานภายในห้องโดยสารใหม่ ด้วยระบบ Porsche Communication Management
เมื่อนั่งอยู่ภายในห้องโดยสารของปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster) ผู้ขับขี่จะสามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่คุ้นเคยเช่นเดียวกันกับรถยนต์ปอร์เช่ทุกรุ่น การตกแต่งได้รับการเลือกสรรค์ด้วยวัสดุคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นส่วนของแผงหน้าปัด หรือชุดคอนโซลซึ่งถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด พร้อมติดตั้งระบบติดต่อสื่อสารและความบันเทิงใหม่ Porsche Communication Management (PCM) เพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือ และชุดเครื่องเสียงกำลังขับสูงถึง
110 วัตต์

ปอร์เช่มีกำหนดการวางตลาดรถสปอร์ตโร้ดสเตอร์เครื่องยนต์วางกลางรุ่นใหม่นี้ ในวันที่ 30 เมษายน โดยเริ่มต้นจากภูมิภาคยุโรปเป็นที่แรก

ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 13.5 – 14.4 กิโลเมตรต่อลิตร; (7.4-6.9 ลิตร/100 กิโลเมตร) สำหรับการขับขี่ในเมือง 10.1 – 11.1 กิโลเมตรต่อลิตร; (9.9-9.0 ลิตร/กิโลเมตร) สำหรับการขับขี่นอกเมือง 16.6 – 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร; (6.0-5.7 ลิตร/100 กิโลเมตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ (CO2) อยู่ที่ 168 – 158 กรัม/กิโลเมตร

ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ เอส (718 Boxster S): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 12.3 – 13.6 กิโลเมตรต่อลิตร;
(8.1-7.3 ลิตร/100 กิโลเมตร) สำหรับการขับขี่ในเมือง 9.3 – 10.52 กิโลเมตรต่อลิตร; (10.7-9.5 ลิตร/100 กิโลเมตร) สำหรับการขับขี่นอกเมือง 15.3 – 16.6 กิโลเมตรต่อลิตร; (6.5-6.0 ลิตร/100 กิโลเมตร) อัตรการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ (CO2) อยู่ที่ 184 – 167 กรัม/กิโลเมตร

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อก้าวเข้าสู่คำว่า AAS The Name you can Trust ความไว้วางใจที่ให้คุณได้มากกว่า ตลอดระยะเวลาดำเนินการมา กว่า 30 ปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Porsche Centre Bangkok ถ.วิภาวดีรังสิต โทร. 02-522-6655
Porsche Centre Pattanakarn ถ.พัฒนาการ โทร. 02-369-1111
Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-991

เผยแนวคิดใหม่ “MOTOR EXPO 2016” “เชื่อมโลก...เชื่อมคน ยานยนต์อัจฉริยะ”


สื่อสากล แถลงแนวคิดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33” ต้อนรับยุคยานยนต์ไร้คนขับผสาน รถ คน โลก เป็นหนึ่งเดียวด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อล้ำสมัย
              ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33" เปิดเผยถึงความเป็นมาของแนวคิดปีนี้ว่า โลกกำลังก้าวสู่ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกวาระหนึ่ง นั่นคือ การปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคที่ 4 หรือ อุตสาหกรรม 4.0” ซึ่งจะมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัล และอินเตอร์เนทมาใช้ในโรงงาน เพื่อเชื่อมต่อความต้องการของผู้บริโภคเข้ากับกระบวนการผลิต ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้ตรงตามความต้องการของตลาดมากขึ้น ขณะเดียวกันสินค้าหลายประเภทสามารถเชื่อมต่อกับผู้ใช้ผ่านสมาร์ทโฟน โนทบุค และแทบเลทได้ตลอดเวลา
              ยานยนต์ยุคปัจจุบัน นับเป็นตัวอย่างของสินค้าในยุค “อุตสาหกรรม 4.0” เพราะมีระบบเชื่อมต่อระหว่างคนกับรถยนต์อันล้ำสมัย สามารถใช้งานและควบคุมระบบต่างๆ ได้ด้วยการพูด หรือสัมผัสหน้าจอสมาร์ทฟรอนท์เอนด์ที่ติดตั้งมาจากโรงงาน หรือสั่งการผ่านแอพพลิเคชันในสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี CAR PLAY และ ANDROID AUTO ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสถานะปัจจุบันของรถ เตือนการโจรกรรม วิเคราะห์ความผิดปกติของเครื่องยนต์ ฯลฯ อีกทั้งยังมีระบบเชื่อมต่อรถและคนกับโลกภายนอกด้วย ที่เห็นได้ชัดคือ ระบบนำทาง และระบบค้นหาตำแหน่ง ที่ต้องทำงานร่วมกับดาวเทียม 
              สาเหตุหนึ่งที่เทคโนโลยีของระบบเชื่อมต่อระหว่างรถกับคน และโลกภายนอกได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมันคือปัจจัยแห่งความสำเร็จของยานยนต์อัตโนมัติ หรือ ยานยนต์ไร้คนขับ ซึ่งเป็นเป้าหมายของผู้ผลิตทั้งรายเก่าและรายใหม่นั่นเอง
              คุณสมบัติสำคัญที่สุดของยานยนต์ไร้คนขับ คือต้องสามารถนำพาผู้โดยสารไปถึงที่หมายได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย รวมทั้งต้องใช้เส้นทางร่วมกับยานยนต์ทั่วไปได้โดยไม่สร้างปัญหา
              ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ยานยนต์ไร้คนขับของผู้ผลิตหลายรายได้รับการทดสอบ และทดลองใช้งานจริงจนประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งหมายความว่า อีกไม่นานเกินรอ เราจะมีโอกาสได้สัมผัสกับยานยนต์อัจฉริยะ ซึ่งเพียบพร้อมด้วยสุดยอดเทคโนโลยี ที่จะทำให้รถ คน และโลกเชื่อมต่อถึงกันโดยสมบูรณ์
              ดังนั้น เพื่อเชิญชวนให้ผู้ผลิตจัดแสดงยานยนต์ปัจจุบัน และอนาคตที่บรรจุระบบเชื่อมต่ออันน่าทึ่ง รวมถึงต้อนรับการมาของยุค ยานยนต์ไร้คนขับ และ อุตสาหกรรม 4.0” ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัล และอินเตอร์เนทจะมีบทบาทสำคัญยิ่ง เราจึงจัดงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33” ขึ้น ภายใต้แนวคิด เชื่อมโลก...เชื่อมคน ยานยนต์อัจฉริยะ หรือ Connect the World ... Connect People: Smart Vehicles
              พบกับงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33” ณ อาคารชาลเลนเจอร์ อิมแพคท์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2559

เปิดฉาก BMF2016 สุดคึก 14 ค่ายมอเตอร์ไซค์จับมือร้านอุปกรณ์ของแต่ง อัดโปรฯ แรงแห่งปี


            เปิดฉากแล้ว แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2016” (BMF 2016) จัดระหว่าง 27-31  มกราคมนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) 1ค่ายมอเตอร์ไซค์แบรนด์ดัง ประสานใจจับมือร้านค้าอุปกรณ์ของตกแต่งรถ-ชุดแต่งกายกว่า 40 ยี่ห้อดังทั้งไทยและเทศ ร่วมมอบโปรโมชั่นแรงแห่งปี ดอกเบี้ยต่ำ ส่วนลดและของแถมมากมาย  ผู้จัดมั่นใจด้วยความยิ่งใหญ่ของงานที่สามารถตอบโจทย์คนรักมอเตอร์ไซค์อย่างแท้จริง คาดมียอดจองรถกว่า 700 คัน เงินสะพัดกว่า 600 ล้านบาท ผู้ชมกว่า 1.2 ล้านคน
         
นายณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซเคิล คัลเจอร์ โชว์ จำกัด ผู้จัดงาน แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2016” (Bangkok Motorbike Festival 2016 หรือ BMF 2016) สุดยอดเทศกาลมอเตอร์ไซค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดระหว่างวันที่ 27-31 มกราคม 2559 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) กล่าวว่า ปีนี้ใช้งบจัดงานกว่า 15 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตร ทั้งภายในและด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) และจัดงานภายใต้คอนเซ็ปต์ “Ride With Respect” เพื่อสร้างสรรค์วัฒนธรรมและแสดงน้ำใจการขับขี่อันดีงามบนท้องถนน ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ ให้ผู้เข้าชมได้เพลิดเพลิน อาทิ โซนแสดงรถคัสตอมไบค์โซน Motorcycle Club, การ ประกวดตกแต่งมอเตอร์ไซค์จากค่ายรถและสำนักแต่งรถต่างๆ ณ บริเวณลานหน้าเซ็นทรัล เวิลด์ และช่วงเย็นมีลานเบียร์และดนตรีสด เพื่อให้เป็นมุมพบปะสังสรรค์ของชาวไบค์เกอร์ทุกคน                    
 
นอกจากนี้ ลานด้านหน้าศูนย์การค้าฯ ได้จัดเตรียมพื้นที่ไว้จอดรถมอเตอร์ไซค์ได้มากกว่า 1,000 คัน เพื่อให้ชาวไบค์เกอร์สามารถขับขี่รถมาจอดหน้างานได้เลย และเป็นการยกระดับให้งานนี้เป็นจุดนัดพบของคนรักสองล้ออย่างแท้จริง ภายใต้บรรยากาศเฉลิมฉลองแบบเฟสติวัลเหมือนกับชื่องาน ขณะที่ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) เป็นโซนที่ค่ายรถต่างๆ จะนำรถรุ่นไฮไลท์มาจัดแสดงและเปิดรับจองด้วยโปรโมชั่นพิเศษสุดที่มีเฉพาะในงานนี้เท่านั้น ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างค่ายรถและสถาบันทางการเงินชั้นนำ ทั้งดอกเบี้ยต่ำ ของแถมส่วนลด ฟรีกันภัย และของตกแต่งรถมากมาย นอกจากนี้ จะมีค่ายรถมอเตอร์ไซค์บางค่ายจะใช้โอกาสนี้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ภายในงานอีกด้วย
 
“บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณ 14 ค่ายมอเตอร์ไซค์ ประกอบด้วย BMW, Benelli, GPX Racing, Honda Bigbike, Indian, Kawasaki, KTM, Suzuki, Scomadi, Ural, Vespa, Victory, Yamaha, Zero Engineering และกว่า 40ร้านค้าอุปกรณ์ของตกแต่งและชุดแต่งกายทั้งของเมืองไทยและต่างประเทศ ที่ให้ความร่วมมือร่วมใจกับบริษัทฯ ในการมอบโปรโมชั่นพิเศษสุดแห่งปีที่มีเฉพาะในงานให้แก่ผู้รักการขับขี่และผู้สนใจทั่วไป ซึ่งโปรโมชั่นนี้ ถือว่าพิเศษจริงๆ และจะช่วยสร้างบรรยากาศให้งานคึกคัก คาดว่าจะมีผู้ชมงานกว่า 1.2 ล้าน มียอดจองรถกว่า 700 คัน เงินสะพัดกว่า 600 ล้านบาท (รวมอุปกรณ์ของแต่งรถและเสื้อผ้า) นายณัฐพล ไตรณัฐี พร้อมเน้นย้ำถึงความยิ่งใหญ่ของงาน BMF 2016 ต่อไปว่า “นอกจากนี้ ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำบางค่ายจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ และเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการหลังจากเผยแพร่ตัวรถให้เป็นที่รับรู้ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา อาทิ BMW และ Honda Bigbike Scomadi และ YAMAHA จะเปิดตัวแนะนำรถรุ่นใหม่และรุ่นพิเศษ พร้อมทั้งเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ”
 
          14 ค่ายมอเตอร์ไซค์เปิดโปรโมชั่นสุดพิเศษ ที่มีเฉพาะในงาน “BMF 2016W เท่านั้น
BMW เปิดตัวแนะนำรถโมเดลใหม่รวดเดียว 3 รุ่น ประกอบด้วย
          1.BMW G 310 R มอเตอร์ไซค์รุ่น Middle-Class รุ่นแรกของ BMW Motorrad เครื่องยนต์ขนาด 310 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 34 แรงม้า เปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นที่แรกในเอเชีย และแห่งที่ 2 ของโลกหลังจากที่มิลานในงานEICMA
          2.BMW R 1200 GS พร้อม GS Trophy Package เพื่อเฉลิมฉลองงาน International GS Trophy 2016โดย BMW Thailand ได้จัดแสดง R 1200 GS พร้อมชุดแต่งที่ได้แรงบันดาลใจมาจากมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ในงานInternational GS Trophy
          3.BMW S 1000 RR สีใหม่ Black Storm Metallic / Racing Red ฉลองความสำเร็จของ S 1000 RR ด้วยสีใหม่สำหรับปี 2016 ที่สะท้อนอารมณ์สปอร์ต
            Benelli : ยกทัพรถในสังกัดที่น่าสนใจมาร่วมจัดแสดง อาทิ TNT 135 รถสไตล์มินิสปอร์ต และรุ่น TNT 25 สไตล์ Naked Bike ดีไซน์โฉบเฉี่ยว เป็นต้น จองรถในงานรับทันที ฟรีค่าจดทะเบียน+พรบ.+ประกันภัยชั้น 1+ชุดกิ๊ฟเซ็ทบำรุงรักษาโซ่+น้ำยาล้างโซ่+น้ำยาหล่อลื่นโซ่ และแปรงทำความสะอาดโซ่
พิเศษสำหรับรุ่นรถ 250 cc รับ  Gift Voucher เงินสด สำหรับซื้อของแต่งที่ร้าน มูลค่า 2,000-3,000 บาท
          GPX Racing รถจักรยานยนต์สัญชาติไทย มอบโปรโมชั่นโดนใจ จองรถในงานรับทันที Gift Voucherมูลค่า 1,000 บาท พร้อมรับกิ๊ฟเซ็ท (หมวกกันน็อค เสื้อ พวงกุญแจ กระเป๋าคาดเอว และน้ำมันเครื่องจำนวน ลิตร)
Honda BigBike : ยกขบวนบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ล่าสุด โดยเฉพาะตระกูล 500 Series ทั้ง 3 รุ่นประกอบด้วยCBR500R, CB500F, CB500ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งขนทัพรถบิ๊กไบค์รุ่นไฮไลท์หลากหลายรุ่นมาอวดโฉมเปิดรับจองในราคาพิเศษและโปรโมชั่นสุดพิเศษเช่นกัน มากไปกว่านั้นจะเปิดราคาจำหน่าย New Honda AFRICA TWIN รถสไตล์แอดแวนเจอร์อย่างเป็นทางการอีกด้วย อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษให้แฟนพันธุ์แท้และผู้สนใจได้ชมฟรีตลอดทั้ง 5 วันของการจัดงาน
Indian : รถบิ๊กไบค์คลาสสิกระดับตำนาน จัดโปรโมชั่นมอบราคาพิเศษทั้ง Indian Scout, Indian Chief และIndian Roadmaster พิเศษสุดมอบส่วนลดสูงสุดกว่า 100,000 บาท (เฉพาะรุ่น)
KAWASAKI : จัดเต็มรถทุกรุ่นทุกสไตล์ โดยขนทัพรถมาร่วมจัดแสดงและเปิดรับจองด้วยโปรโมชั่นพิเศษแห่งปี
1.ฟรีประกันชั้น 1 ตั้งแต่ 250-1400 cc (ยกเว้น Ninja ZX-10R, Ninja H2)
2.บริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 2 ปี นับตั้งแต่วันแรกที่รับรถ
3.รับฟรี GIFT VOUCHER เมื่อซื้อรถรุ่นต่างๆ ดังต่อไปนี้
250 cc รับ Gift Voucher มูลค่า 1,500 บาท พร้อมรับฟรี Jacket TAICHI มูลค่า 2,500
   บาท ฟรี!!
300 cc รับ Gift Voucher มูลค่า 3,000 บาท รับฟรีหมวกกันน็อค SHARK มูลค่า 12,000      
   บาท หรือเลือกรับโปรโมชั่น Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
* KLX 250 / DTX รับฟรี Gift Voucher 10,000 บาท
650-800 cc รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 6,000 บาท (Package A)
* Z800 (เขียว/ขาว) รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 8,000 บาท (Package A)
650-800 cc รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท (Package B)
* Z800 (เขียว/ขาว) รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 20,000 บาท (Package B)
* IMPORT MODEL 1000 cc รับฟรี Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท
* Z1000 ABS รับฟรี Gift Voucher 30,000 บาท ดอกเบี้ยพิเศษเฉพาะในงานต่ำสุด
   3.49% เมื่อดาวน์ 30% ขึ้นไป
4.สำหรับ 650-800 cc มีให้เลือก Package ดังนี้
Package A :   เลือกอัตราดอกเบี้ยการผ่อน-ดาวน์ได้ต่ำสุด 1.99% ยาวนาน 4 ปี เมื่อดาวน์ในอัตรา 30% ขึ้นไป และได้รับ Gift Voucher มูลค่า 6,000 บาท ยกเว้น Z800 2016 (สีน้ำเงิน/แดง/ดำ) ไม่มี Gift Voucher *สำหรับ Z800 สีเขียว/ขาว รับทันทีVoucher มูลค่า 8,000 บาท
Package B :   สำหรับผู้สนใจที่สนใจ Gift Voucher สามารถรับโปรโมชั่นนี้ได้สุดคุ้มด้วย
                    Gift voucher 18,000 บาท (ใช้แทนเงินสดเมื่อซื้อสินค้าจากทางร้าน)
สำหรับ Z800 สีเขียวและขาว รับทันที Gift Voucher มูลค่า 20,000 บาท
5.โปรโมชั่นสำหรับ 1000 cc หรือรถ IMPORT MODEL (รถนำเข้า) รุ่นที่ร่วมรายการมีดังนี้
Z1000, Versys 1000, Ninja 1000, Ninja ZX-14รับ Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท
**ยกเว้น Z1000 ABS รับ Gift Voucher 30,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 4 ปี เมื่อ
ดาวน์ 30% ภายในงาน
6. ทุกรุ่นรับประกันคุณภาพศูนย์ 3 ปี (Warranty 3 Years) *** สำหรับ Ninja H2 และ Ninja ZX-10ไม่เข้าร่วมเฉพาะบางรายการ (สอบถามรายละเอียดเฉพาะรุ่นได้ที่ตัวแทนคาวาซากิทั่วประเทศ***)
          KTM :  นอกจากจะยกทัพรถมาร่วมจัดแสดงและเปิดรับจองด้วยมอบโปรโมชั่นพิเศษมากมาย อาทิ ดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ ของแถมและส่วนลด และที่สำคัญจะใช้เวทีนี้ เปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุดต่อหน้าสาธารณชนคือ Duke 690 R
Scomadi : รถสกู๊ตเตอร์แนวโมเดิร์นคลาสสิกจากประเทศอังกฤษ นอกจากจะนำสกู๊ตเตอร์ Scomadi Turismo Leggera TL125 ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักขับมาให้ชมแล้ว หากจองรถวันนี้ สามารถรับรถได้เลยวันรุ่งขึ้น พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษรับฟรีทะเบียน+พ..บ. พร้อมหมวกกันน็อคสุดเท่ 1 ใบ มากไปกว่านั้น ยังเปิดตัวแนะนำรถใหม่สีพิเศษอย่างเป็นทางการภายในงานอีก 2 สีด้วย
Suzuki : ขนทัพรถรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมาร่วมงานคับคั่ง อาทิ Suzuki Boulevard, Suzuki GSX1300R Hayabusa , Suzuki GSX-R1000, Suzuki GSX-S1000, Suzuki GSX-S1000F, Suzuki V-Strom 1000 ABS, Suzuki V-Strom Series มีด้วยกัน 2 รุ่น คือ V-Strom650 ABS และ V-Strom650XT ABSนอกจากนี้ยังมี Suzuki Gladius 650 ABS, Suzuki Burgman 200 ABS, Suzuki VanVan 125, Suzuki GD110  และ Suzuki Smash FI V-Limited โดยรถทุกรุ่นมาพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษและของแถมที่มีเฉพาะในงานเท่านั้น อาทิ ดาว์น 30% ดอกเบี้ย 0% นาน ปี มอบ Gift Voucher มูลค่าสูงสุด 40,000 บาท (แล้วแต่รุ่น) รวมทั้งมอบฟรีค่าจดทะเบียน+พรบ.+ประกันภัยชั้น 1+ชุดกิ๊ฟเซ็ท (แล้วแต่รุ่น) เป็นต้น
Vespa : ร่วมกับพันธมิตรสถาบันทางการเงินที่ใจดี กรุงศรี ออโต้ ร่วมกันจัดเต็มขนโปรโมชั่นพิเศษมาให้สาวกสกู๊ตเตอร์ Vespa ม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยอัตราพิเศษเริ่มต้นเพียง 0.75% ต่อเดือน ผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,348 บาทสำหรับรุ่น 125 cc หรือ 3,271 บาทสำหรับรุ่น 150 cc แถมฟรี ค่าจดทะเบียน พ..บ. และประกันรถหาย* พิเศษสุดรับของพรีเมียมเมื่อจองรถสกู๊ตเตอร์ทุกคันภายในงาน
หมายเหตุ *ค่าจดทะเบียน พ..บ. และประกันรถหายแถมให้กับรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าเฉพาะรุ่นกรุณาตรวจสอบรายละเอียดกับพนักงานขาย
Victory : รถบิ๊กไบค์สมรรถนะสูงขับขี่สนุก มอบโปรโมชั่นราคาพิเศษเมื่อจองรถทุกรุ่น มากไปกว่านั้น ยังมอบส่วนลดสูงสุดกว่า 200,000 บาท
YAMAHA : พบกับการเปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทยของสุดยอดรถจักรยานยนต์ MT-07 Moto Cage และBolt-R 2016  (Special Color) ที่จะเกิดขึ้นภายในงาน พร้อมทั้งมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3.49% ***(เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ) ฟรีทะเบียน+พ.ร.บ. และประกันภัยชั้น 1 เมื่อจองรถทุกรุ่น อาทิ MT-03, GT125, Fino125NMAX และ Yamaha YZF-R3 เป็นต้น
ส่วน 2 ค่ายสุดท้ายที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ คือ Ural Motorcycles มอเตอร์ไซค์พ่วงข้างจากรัสเซีย และ Zero Engineering มอเตอร์ไซค์ดีไซน์สวย มอบโปรโมชั่นสุดพิเศษ ทั้งราคาพิเศษ ของแถม ส่วนลด และอัตราดอกเบี้ยต่ำ
 
สัมผัสความยิ่งใหญ่ แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2015 (BMF 2015) สุดยอดเทศกาลมอเตอร์ไซค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเลือกรถบิ๊กไบค์ คันที่ใช่! และหาซื้ออุปกรณ์ของตกแต่งรถ คอลเลคชั่นชุดแต่งกายเสื้อผ้าได้อย่างจุใจ ระหว่าง 27-31 มกราคมนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) ชมฟรี! ตลอดงาน

ฮอนด้าบิ๊กไบค์เสริมแกร่งภาพลักษณ์ผู้นำในงานไบค์เฟส 2016 เปิดจอง Africa Twin เป็นครั้งแรกในเมืองไทย พร้อมเปิดตัว 650Series สีสันใหม่สุดดุดัน และจัดประกวดบิ๊กไบค์ Motorbike Idea Challenge


เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถฮอนด้าบิ๊กไบค์ในประเทศไทย เปิดมิติใหม่ให้กับผู้รักการขับขี่รถบิ๊กไบค์บนทางฝุ่นด้วยการเปิดจอง All New Honda Africa Twin รถแอดเวนเจอร์สายพันธุ์ดุเป็นครั้งแรกในเมืองไทย มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา และเกียร์แบบ DCT พร้อมทั้งเปิดตัว New 650Series สีใหม่และกราฟิกใหม่ มาดเข้มดุดันสไตล์ซูเปอร์สปอร์ตเต็มขั้น พบกับข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อรถฮอนด้าบิ๊กไบค์ในงาน Bangkok Motorbike Festival 2016 ระหว่างวันที่ 27 - 31 มกราคมนี้ ที่บูธ A9 โซนเซ็นทรัลคอร์ด ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมเชิญชวนแฟนบิ๊กไบค์ในเมืองไทยร่วมชมการแข่งขันประกวดแต่งรถบิ๊กไบค์ในรายการ Motorbike Idea Challenge 2016

มร.โนบุฮิเดะ นางาตะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “ในปีที่ผ่านมาตลาดรถบิ๊กไบค์ในเมืองไทยมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 20% ในขณะที่ฮอนด้ามียอดจำหน่ายที่สูงขึ้นราว 26% ครองความเป็นผู้นำตลาดเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และในงาน Bangkok Motorbike Festival 2016 นี้ ฮอนด้าในฐานะผู้นำตลาดได้นำความเร้าใจใหม่ๆภายใต้คอนเซปต์ Honda BigBike Excites the World มาให้คนไทยได้สัมผัสตั้งแต่ต้นปี นั่นก็คือ All New Honda Africa Twin รถแอดเวนเจอร์ไบค์ระดับท็อปคลาสที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในฐานะแชมป์แรลลี่ดาการ์หลายสมัย ครั้งนี้ All New Honda Africa Twin ได้รับการดีไซน์ขึ้นมาใหม่ทั้งคัน มีทั้งความสวยงาม และความแข็งแกร่ง ทั้งยังติดตั้งเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่ล้ำยุคอย่างระบบเกียร์แบบ DCT สามารถใช้งานได้ทั้งทางเรียบและทางฝุ่น และในงานเดียวกันนี้ เรายังได้เปิดตัว New Honda CBR650F และ CB650F สีใหม่และกราฟิกใหม่ที่ให้ความดุดันมากยิ่งขึ้นไปอีก โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ของความเป็นซูเปอร์สปอร์ตเต็มขั้น เป็นบิ๊กไบค์ที่ตอบโจทย์ทางด้านอารมณ์ของผู้ขับขี่มากที่สุด และเป็นความเร้าใจครั้งใหม่ที่สาวกฮอนด้าบิ๊กไบค์จะได้สัมผัส”


“นอกจากบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ๆจากฮอนด้าแล้ว แฟนบิ๊กไบค์ยังจะได้ร่วมชมการประกวดแต่งรถบิ๊กไบค์ในรายการ Motorbike Idea Challenge 2016 อีกด้วย โดยรายการนี้ถือเป็นการรวบรวมร้านแต่งฝีมือดีมากที่สุดมาประชันผลงานแต่งรถฮอนด้าบิ๊กไบค์ในตระกูล 500Series ให้ไบค์เกอร์ได้ชมอย่างใกล้ชิด เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งรถให้กับเจ้าของรถฮอนด้าบิ๊กไบค์”

สำหรับ All New Honda Africa Twin หรือ CRF1000L ถือเป็นรถบิ๊กไบค์ทางฝุ่นตัวท็อปของตระกูล CRF ทั้งหมด มีดีไซน์ที่โดดเด่น แข็งแกร่งและทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1,000cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ และติดตั้งระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ช่วยควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์และการส่งแรงขับเคลื่อนไปยังล้อหลังเพื่อปรับรูปแบบการขับขี่ให้เข้ากับเส้นทาง โช้คหน้าแบบหัวกลับปรับระดับได้ ระบบกันสะเทือนหลังแบบ Pro-Link® ปรับระดับได้ ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มแบบอะลูมิเนียม มั่นใจด้วยระบบเบรกแบบ ABS ที่สามารถเลือกเปิดปิดที่ล้อหลังได้เพื่อการใช้งานที่แตกต่าง เบาะนั่งปรับระดับได้ มีให้เลือกทั้งระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 550,000 บาท มีให้เลือก 2 สี และเกียร์แบบ DCT (Dual Clutch Transmission) 6 สปีด เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ราคา 580,000 บาท มีให้เลือก 2 สีเช่นเดียวกัน
New 650Series ดุดันเร้าใจสไตล์ซูเปอร์สปอร์ตเต็มขั้นด้วยสีสันและกราฟิกใหม่แบบ Contrast ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังที่อัดแน่นจากเครื่องยนต์ 650cc 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมระบบเบรก ABS ทำงานร่วมกับดิสก์เบรกหน้าแบบจานคู่ สวิงอาร์มอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งทนทาน สนนราคา New Honda CBR650F สปอร์ตฟูลแฟริ่ง อยู่ที่ 303,000 บาท มีให้เลือก 2 สีได้แก่สีดำด้าน-แดง และสีดำด้าน-ขาว ในขณะที่ New Honda CB650F เน็กเก็ดไบค์ มีราคาจำหน่ายที่ 288,000 บาท มีให้เลือก 3 สีได้แก่ สีดำด้าน-แดง, สีดำด้าน-ขาว, และไตรคัลเลอร์

ฮอนด้าจัดแสดงและเปิดรับจองโมเดลใหม่ทั้ง 3 รุ่นเป็นครั้งแรกพร้อมด้วยข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับผู้จองฮอนด้าบิ๊กไบค์ในงาน Bangkok Motorbike Festival 2016 ภายในบูธฮอนด้าบิ๊กไบค์ หมายเลข A9 โซนเซ็นทรัลคอร์ด(ลิฟท์แก้ว) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 27 ถึง 31 มกราคม 2559 แต่ในส่วนพื้นที่งานการจัดประกวดแต่งรถ Motorbike Idea Challenge จะตั้งอยู่ที่โซนด้านหน้าศูนย์การค้าฯฝั่งอิเซตัน
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและข่าวสารจากฮอนด้าบิ๊กไบค์ได้ที่ www.hondabigbike.com และร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆได้ที่ www.facebook.com/HondaBigBike

BRG Group รุกตลาดต่อเนื่อง ชูบริการหลังขาย ตั้งเป้าโต 550 คัน


BRG Group รุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้า 550 คัน ชูพัฒนาคุณภาพบริการหลังการขาย ผุดศูนย์แห่งใหม่อีก 1 แห่ง พร้อมดันรถใหม่รุกตลาดกว่า 6 รุ่น เร่งรัฐเคลียร์ปัญหาโครงสร้างภาษีรถใหม่
คุณสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส ประธานกรรมการบริหาร BRG Group ผู้จำหน่ายรถยนต์นำเข้าอิสระระดับชั้นแนวหน้าของประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้ ทาง BRG Group มีนโยบายในการรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าจำหน่ายรถยนต์ในเครือ รวมทั้งสิ้น 550 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเพียงเล็กน้อย  ซึ่งทำยอดจำหน่ายได้ 523 คัน ทั้งนี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมมีการชะลอตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจอุตหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบจากนโยบายการเปิดการค้าเสรีประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และโครงสร้างภาษีใหม่ที่มีการจัดเก็บตามอัตราการปล่อยไอเสีย ซึ่งขณะนี้ยังมีปัญหาในเรื่องของอุปกรณ์ในการตรวจสอบมาตรฐานไอเสียที่มีปริมาณไม่เพียงพอและไม่สามารถตรวจสอบมาตรฐานไอเสียรถยนต์ทุกรุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยด้วย ด้วยเหตุนี้ อาจมีผลต่อการแจ้งราคาจำหน่ายให้แก่ลูกค้าที่ต้องการซื้อรถยนต์รุ่นนั้น  และกระทบต่อยอดจำหน่ายรถยนต์ ซึ่งคาดว่าทางกระทรวงการคลังและกระทรวงอุตสาหกรรมจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
สำหรับตลาดธุรกิจผู้นำเข้าอิสระในปีนี้ คาดว่าการแข่งขันจะยังคงทวีความรุนแรงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดแคมเปญส่งเสริมการจำหน่าย ลดแลกแจกแถม ที่ทุกค่ายมีจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ BRG Group จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพด้านการจำหน่ายและด้านบริการให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น และตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ และความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้บริโภคคนไทย โดยในปีนี้ ทางบริษัทฯ จะมีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่อีกหลายรุ่น อาทิ โมค (Moke) รถยนต์คลาสสิคจากอังกฤษ, เมอร์ซิเดส เบนซ์, ฟอร์ด, ออดี้,  ปอร์เช่ และแบรนด์รถยนต์จากญี่ปุ่น เครื่องยนต์ขนาด 1000 ซี.ซี.อีก 1 รุ่น นอกจากนี้  ยังมีชุดแต่งสไตล์สปอร์ตจาก Carlsson และ M-z Speed ชุดแต่งชื่อดังจากญี่ปุ่น
ในด้านบริการ ทาง BRG Group มีนโยบายที่จะลงทุนในการก่อสร้างและเปิดศูนย์บริการหลังการขายเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ จะมีบริการครบวงจรแบบ One Stop Service ได้แก่ แผนกตรวจเช็ค เครื่องยนต์ สี และตัวถัง พร้อมบริการอื่นๆ อาทิ งานซ่อมลายไม้ เบาะหนัง การเปลี่ยนกระจกบังลม รวมทั้งบริการขัดเคลือบสี จาก AutoWorks  ทั้งยังมีการจัดเตรียมอะไหล่รถยนต์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค พร้อมการรับประกันคุณภาพอะไหล่แท้ 1 ปีเต็ม
“สำหรับการเปิดศูนย์บริการหลังการขาย คาดว่าจะทำให้ BRG Group มีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากปีที่แล้ว 10% จากเดิมมีรายได้ 152 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้นเป็น 167 ล้านบาท ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการหาทำเลและสถานที่ตั้ง คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในช่วงไตรมาสที่ 3”
คุณสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนี้ ทาง BRG Group จะเน้นการจัดกิจกรรมการจัดแสดงรถยนต์ใน เครือ BRG Group ตามห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าขนาดใหญ่ รวมทั้งการร่วมงานแสดงโชว์รถยนต์ระดับชาติ อาทิ งาน Big Motor Sales ในช่วงกลางปี และงาน International Motor Expo ในช่วงปลายปี  ล่าสุด ได้จัดงานที่ห้างสรรพสินค้า “เซ็นทรัลพลาซ่า” จ.ชลบุรี ตั้งแต่วันนี้ ถึง-31 มกราคม 59 และอีก 2 แห่ง ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า “เซ็นทรัลพลาซ่า” จ.ขอนแก่น และห้างสรรพสินค้า “เซ็นทรัลพลาซ่า”ปิ่นเกล้า โดยจัดพร้อมกัน ในระหว่างวันที่ 2-8 กุมภาพันธ์ 2559
พร้อมกันนี้ ทาง BRG Group จะเน้นการทำตลาดที่เข้าถึงและตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยผ่านสื่อ Social Media และการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยล่าสุด ได้จัดแคมเปญฉลองเทศกาลตรุษจีน ภายใต้ชื่อ “Happy Chinese New Year 2016” เพียงท่านซื้อรถยนต์ยี่ห้อ และรุ่น ที่ BRG Group จำหน่ายในปัจจุบัน รับฟรี! ทันที “ทองคำ” หนัก 5 บาท มูลค่าเกือบ 1 แสนบาท หรือเลือกรับข้อเสนอพิเศษอื่นๆ ที่รองรับทุกความพึ่งพอใจ เริ่มวันนี้ – 29 ก.พ.ศกนี้ ผู้ใดสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โชว์รูมและศูนย์บริการ BRG Group ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ สาขารัชโยธิน โทร.094-4843977, สาขาศรีนครินทร์ โทร.081-9165643, สาขารามคำแหง โทร.085-1238170 และสาขาภูเก็ต โทร.098-0179868

เอ็มจี เชิญร่วมกิจกรรมสุดมันส์ไปอีกขั้นกับ NEW MG5 ทั่วประเทศ


·       กิจกรรมโรดโชว์ NEW MG5...Be Progressive จัดขึ้นใน 11 จังหวัดทั่วประเทศ
·       พบข้อเสนอสุดพิเศษ พร้อมกิจกรรมสนุกๆ และความบันเทิงมากมาย
·       ทดสอบ NEW MG5 รถซีดานสไตล์คูเป้ เร้าใจด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ แรงสุด 129 แรงม้า




กรุงเทพฯ 26 มกราคม 2559  – บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ เอ็มจี แบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากประเทศอังกฤษชวนทุกท่านร่วมงาน “NEW MG5…Be Progressive” อีกขั้นของชีวิต อีกขั้นของยนตรกรรม พบสุดยอดยนตรกรรมภายใต้แนวคิด บริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่เพียบพร้อมทั้งความโดดเด่นด้านดีไซน์ แรงเร้าใจด้วยเครื่องยนต์ การควบคุม และอุปกรณ์ความปลอดภัยระบบสื่อสารอัจฉริยะ inkaNet (อินคาเน็ต) ที่พร้อมมามอบความสนุกและประสบการณ์การขับขี่ของชีวิตที่เต็มที่ไปอีกขั้นในทุกเส้นทางให้แก่ลูกค้าและผู้ที่สนใจทั่วประเทศ

กิจกรรมสุดมันส์ “NEW MG5…Be Progressive” ได้เริ่มขึ้นแล้ว 2 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ และสงขลา (หาดใหญ่) และกำลังจะเกิดขึ้นในอีกจังหวัดทั่วประเทศ โดยภายในกิจกรรมทางเอ็มจี ได้จัดเตรียมความสนุกและความบันเทิงไว้มากมาย และที่สำคัญผู้ร่วมงานจะได้สัมผัสกับสุดยอดยนตรกรรมพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ เทอร์โบ 1.5 ลิตร แรงสุด 129 แรงม้า รวมทั้งระบบความปลอดภัยแบบเต็มพิกัด 9 Integrated Active Safety Systems และระบบ inkaNet (อินคาเน็ต) เทคโนโลยีการสื่อสารอัจฉริยะระหว่างคนกับรถยนต์ เอ็มจี ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย ที่พร้อมให้ทุกท่านได้สัมผัสและทดสอบความแรงด้วยตัวท่านเองกับกิจกรรมทดสอบขับ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะภายในงานเท่านั้น

ภายในงานยังสนุกไปกับกิจกรรมสุดมันส์  มินิคอนเสิร์ตจากดารานักร้องมากมาย อาทิ คิว วงฟลัว โทนี ผี มาเรียม บีไฟว์ ว่าน ธนกฤต และโจอี้ บอย ตื่นเต้นไปกับโชว์การขับขี่ผาดโผน อีกทั้งยังได้ท่องโลก inkaNet (อินคาเน็ต) แบบสามมิติที่ทั้งสนุกตื่นเต้นแบบมีสาระ พร้อมกิจกรรมสนุกๆ ที่เตรียมไว้สำหรับครอบครัวและคุณหนูอีกมาก เต็มอิ่มด้วยอาหารและเครื่องดื่ม ฟรีตลอดงาน

เตรียมพบกับกิจกรรมสนุกสุดมันส์ กับ “NEW MG5…Be Progressive” ในจังหวัดต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นตามวันและสถานที่ ดังต่อไปนี้
·       วันที่ 30-31 มกราคม 2559 พบกันที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า พิษณุโลก
และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า สุราษฎร์ธานี
·       วันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2559 พบกันที่ ลานกิจกรรมหน้าศาลากลางชลบุรี
และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ศาลายา นครปฐม
·       27-28 กุมภาพันธ์ 2559 พบกันที่ ลานกิจกรรมหน้าเซฟวัน นครราชสีมา
และลานปราณบุรีพลาซ่า ข้างโลตัส ปราณบุรี
·       5-6 มีนาคม 2559 พบกันที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า อุดรธานี

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ MG Call Centre โทร. 1-800-999-988 (สำหรับโทรศัพท์บ้านพื้นฐาน) และ1-401-999-988 (สำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่) หรือ โชว์รูม เอ็มจี ใกล้บ้าน

เกี่ยวกับเอ็มจี
เอ็มจี ก่อตั้งขึ้นในปี 1924 โดยชื่อ MG นั้นย่อมาจาก Morris Garages เอ็มจีนับว่าเป็นแบรนด์สัญชาติอังกฤษที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นตลอดระยะเวลา 90 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันแบรนด์เอ็มจีอยู่ภายใต้การดูแลของ เอสเอไอซี  โดย เอ็มจี มีศูนย์กลางทางด้านการออกแบบ ฟังก์ชั่นการใช้งาน และการออกแบบด้านเทคนิคที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เอ็มจี เป็น
แบรนด์รถยนต์อังกฤษที่ใช้เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมตามแบบฉบับยุโรป โดยได้รับการสนับสนุนจาก เอสเอไอซี ทั้งในเรื่องการจัดหาวัสดุจากทั่วโลก รวมถึงการจัดการด้านซัพพลายเชนเกี่ยวกับส่วนประกอบของรถยนต์ ตลอดจนการจัดการด้านการควบคุมคุณภาพ รวมถึงบริการด้านอื่นๆ เอ็มจี เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากรถยนต์ 2 ที่นั่งรุ่น MGB Roadster ที่เปิดตัวออกมาครั้งแรกในปี 1962 ในวันนี้ เอ็มจีผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเพื่อการจัดจำหน่ายไปทั่วโลก

เกี่ยวกับเอ็มจี ประเทศไทย
บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 เพื่อกำกับดูแลงานด้านการขาย การตลาด และบริการหลังการขายของแบรนด์รถยนต์ เอ็มจี ในประเทศไทย และกำกับดูแลเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายของ เอ็มจี ทั้งที่เป็นบริษัทร่วมทุน และที่เป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และเอสเอไอซี ทั้งนี้ บริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น (เอสเอ-ไอซี) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมและมีขนาดใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งของประเทศไทย ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ขึ้นเพื่อผลิตรถยนต์ เอ็มจี และจำหน่ายภายในประเทศไทย รวมทั้งการส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยโรงงานผลิตรถยนต์ของบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช จังหวัดชลบุรี
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved