Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

อีซูซุเปิดตัวยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรี ใหม่! เจ้าแห่งรถบรรทุก “Isuzu King of Trucks” 6 รุ่น ฉลอง 60 ปี อีซูซุ



อีซูซุเปิดตัวยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรี ใหม่! เจ้าแห่งรถบรรทุก “Isuzu King of Trucks” 6 รุ่น ฉลอง 60 ปี อีซูซุ

อีซูซุสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ยิ่งใหญ่! สะเทือนวงการขนส่งเมืองไทย เปิดตัวสุดยอดรถบรรทุกอีซูซุ ใหม่! เจ้าแห่งรถบรรทุก “Isuzu King of Trucks” (NEW! ISUZU KING OF TRUCKS) 6 รุ่น ทั้งตระกูล F และ G พร้อมกัน ในวาระฉลองครบรอบ 6 ทศวรรษของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นยอดรถบรรทุกที่อยู่คู่วงการขนส่งเมืองไทย และผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดรถบรรทุกขนาด 2 ตันขึ้นไปของอีซูซุ เพื่อก้าวสู่ความเป็นที่หนึ่งร่วมกันของธุรกิจขนส่งยุคใหม่ในเมืองไทย ภายใต้แนวคิด “อีซูซุ...คู่คิดมืออาชีพ”


งานเปิดตัว ใหม่! เจ้าแห่งรถบรรทุก “Isuzu King of Trucks” ที่ยิ่งใหญ่อลังการครั้งนี้ จัดขึ้น ณ ชาเลนเจอร์ 1 อิมแพค เมืองทองธานี โดยได้รับเกียรติจากนายประหยัด บุญสูง ประธานกรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด มร. ซูซูมุ โฮโซอิ ประธานกรรมการ บริษัท อีซูซุมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น มร. คาซูชิ โอคาวะ รองประธานบริหาร บริษัท มิตซูบิชิคอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติในวงการขนส่งเมืองไทย และสื่อมวลชนกว่า 1,600 คนที่ให้ความสนใจต่อการเผยโฉมรถบรรทุกอีซูซุรุ่นใหม่ทั้ง 6 รุ่น ได้แก่ GXZ, FYH, FXZ, FVZ, FVM, และ FTR ซึ่งจะเป็นมาตรฐานใหม่แห่งยานยนต์เพื่อการขนส่งยุคใหม่ที่รวมความเป็นสุดยอดในทุกด้าน ทั้งดีไซน์ ความสะดวกสบาย สมรรถนะ ความแข็งแกร่งทนทาน ความปลอดภัย พร้อมความประหยัดน้ำมันอย่างยอดเยี่ยมตามแบบฉบับอีซูซุที่คนในวงการขนส่งยอมรับ ก่อนจบท้ายด้วยการแสดงพิเศษของศิลปินมากคุณภาพ หนึ่งเดียวคนนี้ – ปุ๊ อัญชลี จงคดีกิจ และ Dancing Queen คริสติน่า อากีล่าร์



กลุ่มตรีเพชร มร. โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวทิ้งท้ายว่า “อีซูซุ คือ ยอดรถบรรทุกที่อยู่คู่วงการขนส่งเมืองไทยมากว่า 6 ทศวรรษ โดยไม่เคยหยุดยั้งที่จะสรรสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้พร้อมตอบสนองการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น จนได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการธุรกิจขนส่ง ทำให้อีซูซุสามารถรักษาความสำเร็จมียอดขายเป็นอันดับ 1 ของไทยมาโดยตลอดนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 ที่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลจนถึงปัจจุบัน ใหม่! เจ้าแห่งรถบรรทุก “Isuzu King of Trucks” ที่เปิดตัวในวันนี้ เป็นรถที่อีซูซุมั่นใจว่าจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยได้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น และเชื่อมั่นว่ารถบรรทุกอีซูซุจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยได้มากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน”


ความยอดเยี่ยมของ ใหม่! เจ้าแห่งรถบรรทุก “Isuzu King of Trucks” ประกอบด้วย

ใหม่! ยอดแห่งดีไซน์ ภายนอกออกแบบใหม่ด้วยแนวคิด ISUZU FUTURE FUNCTIONAL FORM ที่รวมดีไซน์ล้ำสมัยและการใช้งานที่สมบูรณ์แบบไว้ด้วยกัน หัวเก๋งออกแบบใหม่ทุกรุ่น ที่สูงขึ้น บึกบึนและสง่างาม พร้อมเป็นสปอยเลอร์ในตัว ช่วยให้ลู่ลม ประหยัดน้ำมัน และยังเสริมความโดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหม่ ที่มาพร้อมความพิเศษด้วยโครเมี่ยมในรุ่น GXZ 360, FYH 360 และ FXZ 360 พร้อมสัญลักษณ์ ISUZU ขนาดใหญ่ ติดตั้งบนตำแหน่งที่สูงขึ้น สมกับเป็นเจ้าแห่งรถบรรทุกยุคใหม่

ใหม่! ยอดแห่งความสะดวกสบาย ห้องโดยสารออกแบบใหม่! ให้ทุกการขนส่งทั้งใกล้และไกลสบายยิ่งขึ้น เพิ่มมุมมองการมองเห็นให้กว้างและชัดเจน สวยทันสมัยด้วยกรอบคอนโซลด้านหน้าสีเข้มแบบทูโทน และคอนโซลกลางจัดวางตำแหน่งใหม่ให้ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมได้ง่าย นั่งสบายด้วยระบบรองรับหัวเก๋งแบบลอยตัว (Full-floating) ในรุ่น GXZ 360, FYH 360 และ FXZ 360 และกึ่งลอยตัว (Semi-floating) ในรุ่น GXZ 345, FXZ 345, FVZ, FVM และ FTR พร้อมใหม่! เบาะนั่งคนขับแบบถุงลม (Air Suspension Driver Seat) ปรับความนุ่มนวลตามน้ำหนักของคนขับเพื่อลดความเมื่อยล้า อีกทั้งยังกว้างขวาง สะดวกสบาย ด้วยแนวคิด ISUZU UNIVERSAL DESIGN ออกแบบให้ทุกฟังก์ชั่นง่ายต่อการใช้งาน รองรับหลากหลายไลฟ์สไตล์การขับขี่ของทุกท่านอย่างลงตัว

ใหม่! ยอดแห่งสมรรถนะและการประหยัดน้ำมัน ด้วยเอกลักษณ์แห่งเครื่องยนต์ดีเซลทรงพลัง “อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล” ให้กำลังแรงจัด แรงบิดสูงแบบ Flat Torque ให้กำลังต่อเนื่อง เร่งแซงหรือปีนไต่ทางชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และยังประหยัดน้ำมันเหนือชั้น ให้ความมั่นใจด้วยการเกาะถนนและทรงตัวที่เป็นเลิศตามแบบฉบับอีซูซุ พร้อมความหลากหลายของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังสมบูรณ์แบบ และความแข็งแกร่งทนทานที่ออกแบบมาเพื่องานบรรทุกหนักโดยเฉพาะ สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกประเภท ลุยงานได้เต็มที่ยิ่งกว่า


ใหม่! ยอดแห่งความแข็งแกร่งทนทาน ด้วยชื่อเสียงด้านความทนทานที่ได้รับการกล่าวขวัญมาตลอด ใหม่! เจ้าแห่งรถบรรทุก “Isuzu King of Trucks” ได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รองรับงานบรรทุกหนักได้ดีขึ้นด้วย ใหม่! แชสซีส์แบบเรียบขนาดใหญ่ขึ้น ไร้หัวรีเวท (Rivetless Chassis) ใหม่! ช่วงล่างแบบแหนบและแขนรับแรงบิดรูปตัว V (V-type Torque Rod) ใหม่! เพลาหามแหนบ และเพลาหน้าดีไซน์ใหม่! รับน้ำหนักได้มากถึง 7,500 กก. พร้อมบุกตะลุยในทุกสภาพถนนได้เหนือชั้นกว่าเดิม และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายและระยะเวลาสูญเปล่าในการซ่อมบำรุง

ใหม่! ยอดแห่งความปลอดภัย เพราะความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญของการขนส่ง นอกเหนือจากระบบความปลอดภัยเหนือชั้นที่ช่วยป้องกันและปกป้องในทุกสถานการณ์แล้ว อีซูซุยังได้พัฒนา ใหม่! ระบบควบคุมการทรงตัวอัจฉริยะ IESC (Isuzu Electronic Stability Control) ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยระบบ IESC จะช่วยควบคุมการทรงตัวของรถในขณะขับขี่โดยอัตโนมัติ พร้อม ใหม่! ระบบเบรกช่วยแบบ ISUZU ENGINE RETARDER ที่จะช่วยลดความเร็วของรถ และระบบเบรกลมล้วน ที่จะช่วยป้องกันและปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารแม้เจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน

ใหม่! ยอดแห่งคู่คิดมืออาชีพ อีซูซุไม่เพียงแค่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์การขนส่งอย่างดีที่สุด แต่ยังพร้อมเป็นคู่คิดมืออาชีพกับธุรกิจขนส่ง ด้วยการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าแบบ 360 องศา ตั้งแต่แนะนำผลิตภัณฑ์ บริการหลังการขาย จนถึงการให้ความสนับสนุนในการพัฒนาธุรกิจ โดยอีซูซุได้จัดตั้งหน่วยงานต่างๆ เพื่อส่งมอบบริการที่ดีที่สุดแบบครบวงจรตลอดอายุการใช้งานให้ผู้ประกอบการ

ใหม่! เจ้าแห่งรถบรรทุก “Isuzu King of Trucks” พร้อมแล้วที่จะตอกย้ำความเป็นอันดับหนึ่งของวงการขนส่งเมืองไทย ภายใต้การสนับสนุนที่ดีเยี่ยมตามแนวคิด “อีซูซุ...คู่คิดมืออาชีพ” เพื่อก้าวสู่ความเป็นหนึ่งในธุรกิจขนส่งยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าไปด้วยกัน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com และ Facebook: ISUZU TRUCKS THAILAND OFFICIAL

ฮอนด้า บิ๊กไบค์ เปิดประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟโลดแล่นบนแทร็กระดับโลกสนามช้างฯ ชวนสัมผัส DNA รถแข่ง MotoGP สู่ท้องถนน กับ Honda RC213V-S และCBR series



ฮอนด้า บิ๊กไบค์ เปิดประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟโลดแล่นบนแทร็กระดับโลกสนามช้างฯ ชวนสัมผัส DNA รถแข่ง MotoGP สู่ท้องถนน กับ Honda RC213V-S และCBR series

เอ.พี. ฮอนด้า เปิดประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ จัดกิจกรรม Honda BigBike VIP track day, The Ultimate Riding Xperience กระหึ่ม! แทร็กสนามแข่งระดับโลก ณ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมชวนลูกค้าระดับวีไอพี เซเล็บบริตี้ชื่อดัง ร่วมสัมผัส Honda RC213V-S ซูเปอร์ไบค์แฮนด์เมดหนึ่งเดียวของโลกที่ถ่ายทอด DNA ของรถแข่ง MotoGP พร้อมกันนี้ยังได้สัมผัสประสบการณ์ไปกับสุดยอดรถสายพันธุ์สปอร์ตอย่าง All New Honda CBR1000RR โฉมใหม่ รวมถึง New CBR650F และ New CBR500R

มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “กิจกรรม VIP สุดเอ็กซ์คลูซีฟในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เป็นเจ้าของ RC213V-S มีโอกาสนำรถ RC213V-S คู่ใจมาโลดแล่นอยู่ในสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ สนามแข่งระดับโลกหนึ่งเดียวของไทย ซึ่งจะเป็นสนามที่จัดรายการแข่งขัน MotoGP ในอนาคตอันใกล้ และเพื่อความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เจ้าของ RC213V-S ทุกท่านจะได้รับการดูแลโดยนักแข่งและทีมช่างมืออาชีพจากทีม A.P. Honda Racing Thailand”


“ผมเชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้ จะส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ในรูปแบบMotorsport ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งถ่ายทอดผ่านรถ RC213V-S สุดยอดซูเปอร์ไบค์สายพันธุ์ MotoGP ขนานแท้ และยังมีรถ CBR series ที่จำหน่ายใน Honda BigWing มาให้ทดสอบ เพื่อให้สัมผัสถึงความสุดยอดในสมรรถนะรถสายพันธุ์สปอร์ตของฮอนด้าที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรถ MotoGP เช่นกัน”

สำหรับ Honda RC213V-S คือ สุดยอดซูเปอร์ไบค์ที่ถ่ายถอดแบบมาจากรถแข่ง Honda RC213V เพื่อให้สามารถใช้งานได้บนถนนจริง โดยได้รับการพัฒนา เพื่อคงไว้ซึ่งสัญชาตญาณรถแข่งอย่างครบถ้วน ด้วยการเลือกใช้ชิ้นส่วนอย่างเหมาะสม รวมถึงส่วนประกอบที่ถูกต้องแม่นยำ เข้ากับฝีมือการประกอบจากช่างที่มีประสบการณ์ พร้อมด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ V4 ขนาด 1,000 ซี.ซี. ให้แรงม้าล้นเหลือเหมือนรถแข่ง RC213V ที่ใช้แข่งขันจริง ให้กำลังสูงสุด 159 แรงม้า ที่ 11,000 รอบต่อนาที ทั้งยังสามารถเสริมสมรรถนะด้วยของแต่งเฉพาะจากฮอนด้า โดยเพิ่มพละกำลังได้ถึง 215 แรงม้า ที่ 13,000 รอบต่อนาที และเอ็กซ์คูลซีฟยิ่งกว่าด้วยจำนวนการผลิตทั้งสิ้น 213 คันทั้วโลก ซึ่งในเมืองไทยมีเพียง 10 คัน สนนราคาที่คันละ 8.7ล้านบาท และได้ทำการส่งมอบไปเมื่องานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2016 ที่ผ่านมา

ในส่วนของ All New Honda CBR1000RR โฉมใหม่ ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้ถูกรังสรรค์ด้วยแนวคิด “Total Control” โดดเด่นทั้งขุมพลังเครื่องยนต์ ที่ถ่ายทอดจากสนามแข่ง และที่สุดแห่งการควบคุม เสริมด้วยเทคโนโลยีการขับขี่กับชุดอุปกรณ์ควบคุม อิเล็กทรอนิคที่จะช่วยเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบขนาด 1000 ซี.ซี.อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 ให้กำลังสูงสุด 141 กิโลวัตต์ ที่ 13,000 รอบต่อนาที เพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่สนุกมากยิ่งขึ้น เช่น TBW & APS เทคโนโลยีคันเร่งไฟฟ้า (Throttle by Wire) ทำงานประสานกับเซ็นเซอร์ APS ที่ฝังอยู่ในHandlebar grip เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ตอบสนองกับแรงบิดของผู้ขับขี่, Power Selector ระบบการตั้งค่าการขับขี่ โดยผู้ขับขี่เลือกตั้งค่ากำลังจากเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับแรงบิดคันเร่ง

ขับขี่สนุกด้วยความเร็ว HSTC (Honda Selectable Torque Control) หรือระบบควบคุมแรงบิดแบบเลือกได้ เพื่อตรวจจับความเร็วล้อด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยให้ควบคุมรถอย่างราบรื่น และ Engine Brake Control ที่ปรับเลือกได้ตามโหมดขับขี่ที่ตั้งไว้เป็นค่ามาตรฐานหรือผู้ใช้เลือกตั้งค่าได้ตามต้องการ

ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ Honda RC213V-S สุดยอดซูเปอร์ไบค์สายพันธุ์ MotoGP และรถฮอนด้า บิ๊กไบค์ ทุกรุ่น พร้อมทั้งรับข้อเสนอพิเศษ เพื่อเป็นเจ้าของรถบิ๊กไบค์ฮอนด้าได้ที่ www.hondabigbike.comและwww.facebook.com/hondabigbikeTH

ร.ย.ส.ท. จัดงานฉลองแชมป์ประเทศไทย รับถ้วยพระราชทานฯ “RAAT Champions Day 2016”


ร.ย.ส.ท. จัดงานฉลองแชมป์ประเทศไทย รับถ้วยพระราชทานฯ
 
“RAAT Champions Day 2016”

ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา จัดงานฉลองแชมป์ RAAT Champions Day 2016 มอบถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมทั้งฉลองแชมป์ให้แก่นักแข่ง และทีมแข่งที่ประสบความสำเร็จจากการชิงชัยในฤดูกาลที่ผ่านมา ท่ามกลางบุคลากรด้านกีฬายานยนต์ที่เดินทางเข้าร่วมเป็นเกียรติและแสดงความยินดีกันอย่างหนาแน่นภายในงาน

ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา หรือ ร.ย.ส.ท. ร่วมกับผู้ให้การสนับสนุน จัดงาน RAAT Champions Day 2016 ในวันที่24 เมษายน 2560 ณ ห้องประชุมมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก โดยบรรยากาศของงาน RAAT Champions Day 2016 เป็นไปอย่างชื่นมื่นจากบุคลากรด้านกีฬายานยนต์ที่เดินทางมาร่วมเป็นเกียรติ และแสดงความยินดีกับนักแข่งทุกท่าน ที่ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งพระราชทานให้กับแชมป์ประเทศไทย 9 รางวัล 


ได้แก่ 1.รถคาร์ท รุ่น 125 Senior Open 2.รถยนต์แรลลี่ รุ่น RAAT SUPER 1600 cc 3.รถยนต์ออฟโรด รุ่น OPEN–B 4.รถยนต์ทางเรียบ รุ่น Super Car ประเภทบุคคล 5.รถยนต์ทางเรียบมาราธอน รุ่น OVER ALL 6.รถยนต์ออโต้ครอส รุ่น ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า โอเพ่น 7.รถยนต์ Touring Car 8.รถยนต์ Pick Up 9. รถคาร์ท รุ่น Mini Kart 60 CC และยังมีการมอบ ถ้วยรางวัลเกียรติยศจากสมาคมฯ ให้กับแชมป์ประจำปีในประเภท รถยนต์ทางเรียบมาราธอน รุ่น 1200 ซี.ซี., รถยนต์ทางเรียบมาราธอน รุ่น 1600 ซี.ซี., รถคาร์ท, ไทยแลนด์ทัวริ่งคาร์, ซูเปอร์คาร์, รถยนต์ทางเรียบ และรถยนต์ประเภทออโต้ครอส

โดย ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคม ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา ประธานในพิธีได้กล่าวแสดงความยินดีกับความสำเร็จของนักแข่งและทีมแข่งที่คว้าแชมป์ได้จากการแข่งขันในฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งยังพร้อมที่จะร่วมผลักดันวงการมอเตอร์สปอร์ตที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ให้ก้าวเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องและยกระดับมาตรฐานการแข่งขันให้ทัดเทียมนานาประเทศ
นอกจากนี้ ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมป์ สมาคมกีฬา ยังได้มอบโล่เพื่อเป็นการขอบคุณ ผู้จัดการแข่งขันรวมถึงผู้ให้การสนับสนุน ในค่ำคืนที่ผ่านมา

สำหรับนักแข่ง ทีมแข่ง ของประเทศไทย และต่างประเทศ ที่สนใจในกีฬามอเตอร์สปอร์ต สามารถสอบถามรายละเอียดของการแข่งขันรุ่นต่างๆได้ที่ ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา
02-9395770-3

เปิดค่าย “ลมหายใจไร้มลทิน” สร้างเครือข่ายเยาวชนหัวใจใสสะอาด



เปิดค่าย “ลมหายใจไร้มลทิน”
สร้างเครือข่ายเยาวชนหัวใจใสสะอาด


มูลนิธิ “ลมหายใจไร้มลทิน” ก้าวสู่ปีที่ 11 จับมือ กรมกิจการเด็กและเยาวชน จัดค่ายสร้างจิตสำนึกความซื่อสัตย์สุจริต ขยายเครือข่ายเยาวชนรุ่นใหม่ จากรุ่นพี่สู่รุ่นน้องให้สังคมไทยใสสะอาด

สุกานดา ปภัสร์พงษ์ กรรมการกิตติมศักดิ์ มูลนิธิลมหายใจไร้มลทิน เผยว่า มูลนิธิฯ ได้ดำเนินกิจกรรมสู่ปีที่ 11 โดยบริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงาน "มหกรรมยานยนต์" ร่วมกับกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) คัดเลือกเยาวชนจากโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ สร้างเครือข่ายเยาวชนมากว่า 20,000 คน และปีนี้ยังคงจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อย้ำให้เยาวชนเห็นถึงภัยร้ายของการทุจริตคอรัปชัน

ค่ายเยาวชน “ลมหายใจไร้มลทิน” รุ่นที่ 6 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 22 เมษายน 2560 โดยเปิดโอกาสให้รุ่นพี่ที่รวมตัวกันในนาม “ชมรมลมหายใจไร้มลทิน” มาร่วมถ่ายทอดความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่น่าประทับใจของค่ายเยาวชนฯ ให้รุ่นน้อง เพื่อเดินหน้าสร้างเครือข่ายพลังเยาวชนรักความซื่อสัตย์สุจริตให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ภายในค่ายเยาวชนฯ ณ สถาบันพระประชาบดี ปทุมธานี เยาวชน อายุระหว่าง 13-18 ปี จำนวนกว่า 70 คน และครูจำนวน 20 คน ได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่น รวมถึงทำกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ วอล์คแรลลี่ เน้นความรู้คู่ความสนุกสนาน รวมถึงเสวนาหัวข้อต่างๆ อาทิ “สร้างเครือข่ายลมหายใจไร้มลทิน”โดย “ชมรมลมหายใจไร้มลทิน” รวมถึงสอดแทรกเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตในกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น

ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว และรายละเอียดมูลนิธิลมหายใจไร้มลทิน ได้ที่ www.lomhaijai.org และ www.opp.go.th หรือ โทร 0-2641-8444 ต่อ 215 นอกจากนี้ยังเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับเยาวชนโดยตรงผ่านสังคมออนไลน์ที่ http://www.facebook.com/lomhaijaimotorexpo

โรลส์-รอยซ์ ร่วมกับสุดยอดศิลปินระดับตำนานแห่งอังกฤษ สร้างสรรค์สุดยอดยานยนต์รุ่นพิเศษ Wraith ‘Inspired by British Music’



โรลส์-รอยซ์ ร่วมกับสุดยอดศิลปินระดับตำนานแห่งอังกฤษ สร้างสรรค์สุดยอดยานยนต์รุ่นพิเศษ
Wraith ‘Inspired by British Music’

   - โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ร่วมมือกับศิลปินร็อคและนักร้องระดับตำนานแห่งสหราชอาณาจักรสร้างสรรค์สุดยอดยนตกรรมในฝันของเหล่านักสะสมรถยนต์ระดับสูง
        - รถยนต์รุ่น Wraith ‘Inspired by British Music จำนวน 9 คันถูกสร้างสรรค์จากแรงบันดาลใจทางดนตรีของเหล่าศิลปินชื่อดังแห่งเครือจักรภพ อาทิ โรเจอร์ ดัลตรีย์ ซีบีอีดาม เชอร์ลีย์ บาสซีย์,เซอร์ เรย์ เดวีส์รอนนี วูด และอื่นๆ       
  -รายได้บางส่วนจากการจำหน่ายรถยนต์แต่ละคัน จะนำไปบริจาคแก่องค์กรการกุศลที่คัดเลือกโดยศิลปิน อาทิ องค์กรช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งในวัยรุ่น
      - รถยนต์รุ่นพิเศษนี้ผลิตขึ้นเพื่อการเฉลิมฉลองที่ โรลส์-รอยซ์ เป็นแบรนด์ยานยนต์อันเปี่ยมเสน่ห์ระดับโลกที่อยู่คู่เหล่าศิลปินผู้ยิ่งใหญ่มาอย่างยาวนาน

โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ประกาศการผลิตยานยนต์ซีรี่ส์ใหม่ Wraith ‘Inspired by British Music’ (เรธ อินสไปร์ บาย มิวสิค) ที่สร้างสรรค์จากแรงบันดาลใจทางดนตรีของเหล่าศิลปินร็อคและนักร้องชื่อดังของเครือจักรภพอังกฤษ เพื่อการประกาศความยิ่งใหญ่ของวัฒนธรรมทางดนตรีและความสำเร็จของแบรนด์ยานยนต์ระดับโลกแห่งราชอาณาจักรที่ทั่วโลกจับตามอง

รถยนต์รุ่นพิเศษ 4 คันแรกได้จัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ที่โรงแรมแซนเดอร์สันย่านเฟิตซ์โรเวียแห่งกรุงลอนดอน โดยเกิดจากการร่วมมือระหว่างโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส กับ 4 ศิลปินชื่อก้องโลก อาทิ โรเจอร์ ดัลตรีย์ ซีบีอี แห่งวง The Whoเซอร์ เรย์ เดวีส์ แห่งวง The Kinksและ ไจล์ส มาร์ติน ผู้อำนวยการผลิตและนักประพันธ์เพลงชื่อดังระดับโลก และเป็นบุตรชายของนักประพันธ์เพลงและผู้อำนวยการเพลงชื่อดังในตำนาน เซอร์ จอร์จ มาร์ติน    

ยานยนต์รุ่น Wraith ‘Inspired by British Music’ แต่ละคันถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจทางดนตรีของเหล่าศิลปินชื่อดังของเครือจักรภพ ได้รับการออกแบบและผลิตด้วยมือโดยช่างฝีมือระดับสูงของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เพื่อนำเสนอความงดงามของสุดยอดยานยนต์ที่สื่อถึงภาพลักษณ์ของศิลปินร็อคและนักร้องเพลงพ็อพระดับตำนานแต่ละคนอย่างชัดเจน โดยศิลปินทุกคนได้รับคำเชิญแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้เดินทางไปเยือนสำนักงานใหญ่ของโรลส์-รอยซ์ ในเมืองกู้ดวูด ประเทศอังกฤษ และทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบรถยนต์ของโรลส์-รอยซ์ อย่างใกล้ชิด เพื่อดึงเอกลักษณ์แนวเพลงของแต่ละคนและถ่ายทอดลงในงานออกแบบให้ได้มากที่สุด จนกระทั่งปรากฏเป็นสุดยอดยนตกรรมที่เปี่ยมด้วยความงดงามขั้นสูงสุดที่บรรดาแฟนๆ ที่หลงใหลในศิลปินระดับตำนานเหล่านี้จะไม่ยอมพลาดการเป็นเจ้าของอย่างแน่นอน โดยโรลส์-รอยซ์ มีแผนการวางจำหน่ายภายในปี 2560 รายได้บางส่วนจากการจำหน่ายรถยนต์แต่ละรุ่น จะนำไปบริจาคแก่องค์กรการกุศลที่คัดเลือกโดยศิลปิน อาทิ องค์กรช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งในวัยรุ่น เป็นต้น

หนึ่งในความโดดเด่นของยานยนต์ Wraith คือการนำองค์ประกอบอันโดดเด่นของอัลบั้มยอดฮิตของศิลปินมาตกแต่งในส่วนประกอบต่างๆ ของรถได้อย่างงดงาม อาทิ การนำภาพปกอัลบั้ม Tommy ของวง The Who มาตกแต่งบนฝากระโปรงรถ หรือการนำบทเพลงฮิตอันดับหนึ่งของเซอร์ จอร์จ มาร์ติน มาปักลายบนแผ่นหนังระหว่างเบาะนั่งสไตล์ Waterfall ซึ่งเป็นดีไซน์ซิกเนเจอร์ของโรลส์-รอยซ์ และการจารึกเนื้อเพลงและคำพูดของศิลปินในรูปแบบตัวเขียนที่สวยงามบนแผ่นทองแดงประดับด้านในประตูที่เรียกว่า Door Flight การตกแต่งองค์ประกอบเหล่านี้ สื่อให้เห็นถึงความล้ำค่าทางดนตรีของเหล่าศิลปินระดับตำนานแห่งอังกฤษได้อย่างสมบูรณ์แบบ

โดยรถยนต์ที่เปิดตัวในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Wraith ‘Inspired by Music’ Bespoke Collection ซึ่งเป็นยานยนต์ซีรี่ส์ใหม่ที่สร้างสรรค์เพื่อการเฉลิมฉลองที่แบรนด์ โรลส์-รอยซ์ อยู่คู่วงการดนตรีมาอย่างยาวนาน รถยนต์แต่ละคันถูกรังสรรค์ขึ้นจากฝีมือช่างระดับมาสเตอร์ของโรลส์-รอยซ์ เพื่อนำเสนอเอกลักษณ์ของศิลปินแต่ละคน โดยมีการสลักชื่อศิลปินลงบนแผ่นตกแต่งขอบประตูและบนฐานของสัญลักษณ์ Spirit of Ecstasy ที่ประดับอยู่บนกระโปรงรถยนต์ Wraith อีกด้วย

อีกหนึ่งรูปแบบการตกแต่งสำหรับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ คือการทำสีตัวรถภายนอกแบบ “Lyrical Copper” ที่มอบความสวยงามมากเป็นพิเศษและเติมเต็มความหรูหราด้วยการประดับสัญลักษณ์ธงสหภาพบนเสาหลังคาด้านท้ายของตัวรถ (C-pillar) เพื่อสื่อให้เห็นถึงการฉลองความสำเร็จของวัฒนธรรมดนตรีอันน่าภาคภูมิของราชอาณาจักรอย่างชัดเจน

ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิร์ส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด กล่าวว่า “เสน่ห์อันน่าหลงใหลผ่านกาลเวลาของรถยนต์โรลส์-รอยซ์ เป็นที่ยอมรับในหมู่ศิลปินชื่อดังระดับโลกมาเป็นระยะเวลานาน หลายคนนิยมใช้รถโรลส์-รอยซ์เพื่อประกาศความสำเร็จ ผ่านภาพลักษณ์ที่หรูหราที่ผสานกับแบบฉบับของยานยนต์ดั้งเดิมเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างกลมกลืน การร่วมมือกับศิลปินชื่อดังระดับตำนานของอังกฤษในครั้งนี้ เพื่อสร้างอีกหนึ่งตำนานแห่งวงการยานยนต์ ด้วยคอลเล็กชั่นรถยนต์รุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นเพื่อกิจกรรมการกุศลโดยเฉพาะ”     
โรลส์-รอยซ์ ซีรี่ส์ Wraith ‘Inspired by British Music’
โรลส์-รอยซ์ ได้รับการยกย่องให้เป็นรถยนต์แห่งความหรูหราที่แท้จริง ซึ่งมีพื้นฐานจากการยึดมั่นในแนวคิดที่ว่า บุคคลที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ล้วนปรารถนาความเป็นเลิศแห่งยานยนต์ การสร้างสรรค์รถยนต์รุ่นพิเศษนี้จึงเกิดจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างเหล่าศิลปินกับนักออกแบบรถยนต์ โดยศิลปินได้รับคำเชิญให้เดินทางมาเยือนที่ศูนย์การดำเนินงานของโรลส์-รอยซ์ เพื่อเติมเต็มความเข้าใจในการสร้างสรรค์ยานยนต์แห่งความสำเร็จรุ่นนี้ ให้สมบูรณ์แบบที่สุด

แมทธิว ดันตัน นักออกแบบรถยนต์สั่งผลิต ภายใต้การนำของ จิลส์ เทย์เลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายนักออกแบบ  ได้ทำงานร่วมกับเหล่าศิลปินเพื่อดึงเอกลักษณ์และองค์ประกอบมาจากผลงานของเขาเหล่านั้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ปรากฏคืองานออกแบบรถยนต์ที่สวยงามเพียงหนึ่งเดียวสำหรับนักสะสมรถยนต์ระดับหรูตัวจริง

จิลส์ เทย์เลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายนักออกแบบ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เปิดเผยว่า “ศิลปินที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ได้ทำงานร่วมกับทีมนักออกแบบและทีมช่างฝีมือรถยนต์รุ่นสั่งผลิตอย่าใกล้ชิด เพื่อมอบชีวิตให้กับงานที่พวกเขาหลงใหลในครั้งนี้ ผลงานระดับมาสเตอร์พีซเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างศิลปิน บุคคลที่มีชื่อเสียง และช่างฝีมือ ซึ่งเป็นแนวทางการผลิตรถยนต์รุ่นพิเศษนี้ และช่วยตอกย้ำสถานะของ โรลส์-รอยซ์ ในฐานะยานยนต์แห่งความหรูหราระดับโลก”

การทำงานร่วมกับศิลปินแต่ละคนมีจุดประสงค์เพื่อการนำเสนอยานยนต์ในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายของโรลส์-รอยซ์ ในยุโรปจะทำการเชิญเหล่านักสะสมรถยนต์ระดับสูงที่ต้องการครอบครองรถยนต์รุ่นพิเศษเหล่านี้และร่วมสั่นสะเทือนประวัติศาสตร์แห่งวงการรถยนต์ไปด้วยกัน รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายรุ่ Wraith ‘Inspired by Music’ Bespoke Collection จะนำไปบริจาคแก่องค์กรช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งในวัยรุ่น และองค์กรการกุศลอื่นๆ ที่คัดเลือกโดยศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน

เกียรติธนาขนส่ง รุกขยายธุรกิจ ตั้งบริษัทลูก ลุยธุรกิจโซลูชั่นขับขี่ปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีย้ำอุบัติเหตุกว่า 70% มาจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่รถ เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ Guardian System



เกียรติธนาขนส่ง รุกขยายธุรกิจ ตั้งบริษัทลูก ลุยธุรกิจโซลูชั่นขับขี่ปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีย้ำอุบัติเหตุกว่า 70% มาจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่รถ
เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ Guardian System ป้องกันอุบัติเหตุด้วยเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะพร้อมระบบเตือนภายในห้องโดยสารแบบเรียลไทม์ได้ผลจริง


20 เมษายน 2560: บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) รุกก่อตั้ง บริษัท เคจีพี จำกัด บริษัทใหม่ในกลุ่มเกียรติธนาขนส่ง ผู้ให้บริการด้านโซลูชั่นความปลอดภัยและการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการขับขี่ของผู้ขับขี่รถบรรทุก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยได้รับแต่งตั้งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเทคโนโลยีจาก Guardian System ประเทศออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมแนะนำระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการละสายตาและการหลับในของผู้ขับขี่รถบรรทุกขนาดใหญ่ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เป็นการนำร่องในธุรกิจขับขี่ปลอดภัยของบริษัทในกลุ่ม KIAT ตั้งเป้าเติบโตรวม 10% ในปีนี้

นายคีรินทร์ ชูธรรมสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT ผู้นำด้านการให้บริการโซลูชั่นโลจิสติกส์ และการขนส่งวัตถุอันตราย และสินค้าพิเศษในประเทศไทย เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ก่อตั้ง บริษัท เคจีพี จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 62.5 ล้านบาท เป็นบริษัทใหม่ในกลุ่มเกียรติธนาขนส่ง เพื่อดำเนินธุรกิจเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านความปลอดภัยและการปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่ของผู้ขับขี่รถบรรทุกด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายการเติบโต พร้อมทั้งพัฒนาธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจปัจจุบัน ควบคู่กับการเติบโตในธุรกิจหลักของบริษัทฯ โดยมุ่งยกระดับมาตรฐานการขนส่งของประเทศสู่มาตรฐานสากล โดยเฉพาะมาตรฐานด้านความปลอดภัย

“KIAT กำหนดทิศทางในการดำเนินธุรกิจ เติบโตรวม 10% ในปี 2560 นี้และตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่องจากธุรกิจใหม่ นอกเหนือจากการเติบโตจากธุรกิจหลักในฐานะผู้ให้บริการโซลูชั่นโลจิสติกส์และการขนส่งวัตถุอันตราย และสินค้าพิเศษ ธุรกิจใหม่ภายใต้บริษัท เคจีพี จำกัด ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย ซึ่งในประเทศไทยยังไม่มีเทคโนโลยีที่ช่วยป้องกันเรื่องการขับขี่ปลอดภัยโดยตรง โดยเฉพาะกับรถบรรทุกขนส่งที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูงสุด” นายคีรินทร์กล่าว

ล่าสุด บริษัท เคจีพี จำกัด ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าและเทคโนโลยีทั้งหมดจาก Guardian System แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมได้นำระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการละสายตาและการหลับในของผู้ขับขี่รถบรรทุกขนาดใหญ่ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด จาก Guardian System เข้ามาทำตลาดในประเทศ เพื่อเป็นการนำร่องในธุรกิจขับขี่ปลอดภัยของบริษัทในกลุ่ม KIAT โดยระบบดังกล่าวเป็นโซลูชั่นป้องกันอุบัติเหตุตั้งแต่ในห้องโดยสารของผู้ขับขี่รถบรรทุกขนาดใหญ่ ทั้งนี้ KIAT คาดหวังว่าระบบดังกล่าว จะช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของระบบการขนส่งบนท้องถนนในประเทศ และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการขนส่งในทุกภาคอุตสาหกรรมของประเทศ” นายคีรินทร์กล่าว


ทางด้าน นายเมฆ มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคจีพี จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การขนส่งสินค้าบนท้องถนนมีความปลอดภัยนั้น นอกจากความพร้อมในด้านตัวรถที่ต้องมีมาตรฐานสูงแล้ว ผู้ขับขี่รถ ยังถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญ รวมไปถึงสภาพแวดล้อมอื่นๆ บนท้องถนน ซึ่งจากข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พบว่ากว่า 70 % ของสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ ได้แก่ การขับรถเร็วเกินกำหนด การละสายตา การหลับใน และสาเหตุอื่น ๆ

“จากสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุทำให้มีการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การควบคุมชั่วโมงการขับขี่และการพักผ่อน การจัดหลักสูตรขับขี่ปลอดภัย นโยบายหยุดงาน การย้ำเตือน การสุ่มตรวจ รวมถึงการใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยี เช่น อุปกรณ์ GPS และ กล้อง IVMS ซึ่งยังไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุที่ผู้ขับขี่ได้ บริษัท เคจีพี จำกัด จึงได้นำระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการละสายตาและการหลับในของผู้ขับขี่รถบรรทุกขนาดใหญ่ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด จาก Guardian System เข้ามาแนะนำให้กับผู้ประกอบการ หลังจากได้ทดลองใช้จริงกับรถขนส่งทุกคันของ KIAT เราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานการขับขี่ปลอดภัยของรถบรรทุกขนาดใหญ่เพื่อการขนส่งของประเทศ เพื่อความปลอดภัยให้กับคนในภาคอุตสาหกรรมขนส่งในประเทศและสังคมโดยรวม” นายเมฆกล่าว

นายเมฆ กล่าวต่อว่าในเบื้องต้น บริษัทฯ ได้แนะนำระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการละสายตาและการหลับในของผู้ขับขี่รถบรรทุกขนาดใหญ่ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด จาก Guardian System ซึ่งเป็นโซลูชั่นด้านความปลอดภัยของผู้ขับขี่รถบรรทุกด้วยเทคโนโลยี โดยระบบดังกล่าวประกอบด้วย กล้องจับสายตาของผู้ขับขี่ กล้องส่องถนน อินฟราเรท กล่องรับสัญญาณ มอเตอร์สั่นใต้ที่นั่งผู้ขับขี่ และกล่องประมวลผล ชุดอุปกรณ์ที่ติดตั้งภายในห้องโดยสารของผู้ขับขี่นี้จะทำหน้าที่ตรวจสอบคนขับพร้อมส่งเสียงเตือนผู้ขับขี่แบบ Real Time ตลอดเวลาของการขับขี่ ด้วยการสื่อสารผ่านดาวเทียมส่งข้อมูลและบันทึกภาพเคลื่อนไหวของผู้ขับขี่ตลอดการปฏิบัติหน้าที่แบบ Real Time ซึ่งจะมีการตรวจสอบและประมวลผลตลอดเวลา ทันทีที่ตรวจพบเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการละสายตาหรือการเหนื่อยล้า หรือการหลับในของผู้ขับขี่ ระบบจะส่งสัญญาณไปที่มอเตอร์ให้ทำการสั่นเตือนจากใต้ที่นั่งของคนขับพร้อมส่งเสียงเตือนผู้ขับขี่ ในขณะเดียวกัน ระบบก็จะส่งรายงานเหตุการณ์ไปยัง SafeGuard Center ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการกลางของ Guardian System เพื่อวิเคราะห์เหตุการณ์ ก่อนส่งกลับมาให้ผู้ประกอบการที่ใช้ระบบดังกล่าว โดยกระบวนการทั้งหมดนี้ จะใช้เวลาทั้งหมดเพียง 2 นาที โดยที่ทีมงานบริหารการขนส่งของผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบรถบรรทุกทุกคันของบริษัทผ่านการเชื่อมต่อทาง Internet ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“การนำระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการละสายตาและการหลับในของผู้ขับขี่รถบรรทุกขนาดใหญ่ จาก Guardian System มาใช้นี้ นับเป็นการมีส่วนสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในการรณรงค์เรื่องความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยยกระดับมาตรฐานธุรกิจการขนส่งในประเทศสู่ระดับสากล ขับเคลื่อนให้ธุรกิจขนส่งไทยเติบโตบนรากฐานความมั่นคงอย่างยั่งยืน ในปีนี้ เรามีแผนการตลาดที่จะเน้นด้านการสื่อสารเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบดังกล่าว ให้เป็นที่รู้จักกับผู้ประกอบการขนส่ง ลูกค้าองค์กรที่ต้องบริหารการขนส่ง และผู้ให้บริการขนส่งเพื่อการบริการสาธารณะ นอกจากนี้ เราตั้งใจจะสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของระบบดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย โดยใช้การประชาสัมพันธ์เป็นเครื่องมือหลัก ทั้งนี้ ตั้งเป้ายอดขายที่ 1,500 ชุดในปีนี้ และ 5,000 ชุดในอีก 3 ปีข้างหน้า” นายเมฆกล่าวทิ้งท้าย

ระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการละสายตาและการหลับในของผู้ขับขี่รถบรรทุกขนาดใหญ่ จาก Guardian System มีให้เลือกใช้บริการ 2 รูปแบบ คือ การซื้อระบบ หรือ การใช้บริการระบบประจำแบบรายเดือน กรณีซื้อระบบ ราคาอุปกรณ์เริ่มต้นที่ 59,500 บาท ต่อคัน และมีค่าใช้บริการโปรแกรม SafeGuard เดือนละ 2,000 บาทต่อคัน กรณีใช้บริการระบบประจำแบบรายเดือน ราคาค่าใช้บริการอุปกรณ์และค่าใช้บริการโปรแกรม Safe Guard ราคาเริ่มต้นเดือนละ 4,500 บาท ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อเบอร์โทรศัพท์ 0-2501-7330-8

เอ.พี. ฮอนด้า “รณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์" เปิดจุดบริการแวะพักรถพิเศษ พร้อมชูกิจกรรม “ใส่หมวกกันน็อค-ตรวจเช็ครถฟรี- หนุนอาชีวะอาสาบริการประชาชน” เพื่อให้พี่น้องชาวไทยเดินทางกลั บบ้านอย่างปลอดภัย


เอ.พี. ฮอนด้า “รณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์" เปิดจุดบริการแวะพักรถพิเศษ พร้อมชูกิจกรรม “ใส่หมวกกันน็อค-ตรวจเช็ครถฟรี- หนุนอาชีวะอาสาบริการประชาชน” เพื่อให้พี่น้องชาวไทยเดินทางกลั บบ้านอย่างปลอดภัย

เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้ าในประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นดำเนินกิจกรร มด้านการขับขี่ปลอดภัยในเมืองไท ยอย่างต่อเนื่อง ประกาศเปิดแคมเปญรณรงค์ลดอุบัติ เหตุทางถนนเทศกาลสงกรานต์ 2560 ภายใต้โครงการ “ฮอนด้าเมืองไทยขับขี่ปลอดภัย” ร่วมใจรณรงค์มุ่งสู่เป้าหมายที่ ยิ่งใหญ่ให้คนไทยกลับบ้านอย่างป ลอดภัย พร้อมผนึกกำลังภาครัฐ เอกชน และองค์กรอิสระ เปิดให้บริการตรวจเช็ครถจักรยาน ยนต์ฟรี ที่ ศูนย์ฮอนด้า วิง เซ็นเตอร์ ทั่วประเทศระหว่าง 6-8 เมษายนนี้ จัดตั้งจุด Honda Rest Station ณ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ผู้ขับขี่ได้พักเหนื่อยและนำรถเ ข้าซ่อมบำรุงได้สำหรับรถจักรยาน ยนต์ทุกประเภท และสนับสนุนโครงการ “อาชีวะอาสาบริการประชาชน” โดยร่วมกับผู้แทนจำหน่ายฯ จัดฝึกอบรมเตรียมความพร้อมให้กั บนักศึกษาก่อนออกหน่วยบริการประ ชาชน เปิดจุดบริการ 251 แห่งทั่วประเทศ ระหว่าง 11-17 เมษายน 2560 พร้อมมอบน้ำมันเครื่องจำนวน 9,036 ขวด มูลค่ากว่า900,000 บาท ให้กับสำนักงานคณะกรรมการการอาชี วศึกษา

นายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในประ เทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากอุ บัติเหตุทางถนนเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ของไทย ทั้งเทศกาลปีใหม่ หรือ สงกรานต์ มีจำนวนอุบัติเหตุที่สูงกว่าปกติ ฮอนด้าคาดหวังว่าจะได้เป็นส่วนห นึ่งในการช่วยลดอุบัติเหตุบนท้อ งถนน เพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ให้คนไ ทยกลับบ้านอย่างปลอดภัย ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2560

"เทศกาลวันสงกรานต์ปี 2560 นี้ จะเป็นเทศกาลแห่งความสุขอย่างสม บูรณ์แบบได้ โดยไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้น ซึ่งเราตระหนักในสิ่งนี้ แคมเปญ รณรงค์ ลด อุบัติเหตุทางถนน เทศกาลสงกรานต์ 2560 เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วง เทศกาลวันหยุดยาว โดยได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายล ดอุบัติเหตุ ได้แก่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษ า และ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด มาช่วยกันรณรงค์เพื่อกระตุ้นและ สร้างจิตสำนึกให้คนไทยได้ตระหนั กถึงอุบัติเหตุ และผลักดันแคมเปญนี้ไปพร้อมๆ กัน" นายอารักษ์ กล่าว

สำหรับการรณรงค์และดำเนินกิจกรร มในเทศกาลวันหยุดยาวสงกรานต์ปี2560 เอ.พี.ฮอนด้า ได้ยกระดับโครงการรณรงค์ลดอุบัติ เหตุทางถนนอย่างครบวงจร ผ่าน 4 กิจกรรมหลัก เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ให้คนไทยกลับบ้านอย่างปลอดภั ยในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้

กิจกรรมที่แรก : “ตรวจรถก่อนใช้เดินทางปลอดภัย” การเตรียมรถให้พร้อมและปลอดภัยใ นการขับขี่ผ่านการให้บริการตรวจ เช็ครถจักรยานยนต์ฟรี กับแคมเปญสงกรานต์นี้เย็นใจ เที่ยวไหนก็เช็คฟรี (ตรวจเช็ครถฟรี พร้อมอะไหล่ราคาพิเศษ) ตั้งแต่วันที่ 6-8 เมษายน 2560 ณ ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center กว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ

กิจกรรมที่สอง : สนับสนุนโครงการ “อาชีวะอาสาบริการประชาชน” โดยร่วมกับร้านผู้จำหน่ายรถจักร ยานยนต์ฮอนด้า จัดฝึกอบรม เสริมทักษะ ประสบการณ์ ในการเตรียมความพร้อมให้กับนักศึ กษาก่อนออกหน่วยบริการประชาชน เพื่อเปิดจุดบริการ 251 แห่งทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2560 พร้อมทั้งมอบน้ำมันเครื่องจำนวน 9,036 ขวด มูลค่ากว่า 900,000 บาท ให้กับสำนักงานคณะกรรมการการอาชี วศึกษา เพื่อมาให้บริการประชาชนในช่วงเ ทศกาลสงกรานต์ปี 2560 นี้

กิจกรรมสาม : “Honda Rest Station” เอ.พี. ฮอนด้า ได้จัดจุดบริการพักรถ สำหรับนักเดินทาง เพื่อรณรงค์ลดอุบัติเหตุบนท้องถ นน ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว และเพื่อให้บริการจุดพักรถ ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ ในการเดินทางออกต่างจังหวัด เพื่อสร้างให้สภาพร่างกายและสภา พรถพร้อมปราศจากอุบัติเหตุ จังหวัดสระบุรีเป็นจังหวัดที่ปร ะตูสู่ภาคตะวันออกและภาคตะวันออ กเฉียงเหนือ ในช่วงเทศกาลแต่ละปีจะมีรถหนาแน่ นมาก และจำนวนรถก็เพิ่มขึ้นทุกปีสิ่ง ที่ตามมาคืออุบัติเหตุ สาเหตุหลักคือหลับในจากร่างกายอ่ อนล้าเพราะรถจะติดในเส้นทางดั งกล่าวเป็นช่วงเวลานาน 5-10 ชั่วโมง โดยจัดให้บริการ ณ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ระหว่างวันที่ 12-17 เมษายน 2560

กิจกรรมที่สี่ : มุ่งเน้นการสร้างจิตสำนึกให้เกิ ดความพร้อม ผ่านแคมเปญ "สังคมหัวแข็ง" ที่สร้างจิตสำนึกให้คนไทยหันมาใ ส่หมวกกันน็อกจนเป็นนิสัยเมื่อใ ช้รถจักรยานยนต์
 
สำหรับบริการตรวจเช็ครถฟรี (Free Service) ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสามาร ถนำรถเข้ารับตรวจฟรี 10 รายการ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องราคาพิ เศษเพียง 30 บาท และส่วนลดพิเศษ30% สำหรับอะไหล่ ยางนอก และแบตเตอรี่ ณ ศูนย์จำหน่ายและบริการที่ศูนย์ฮ อนด้า วิง เซ็นเตอร์ ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 12-13 เมษายน 2560 ในส่วนของจุดแวะพักพิเศษ (Honda Rest Station) ตั้งอยู่ในเส้นทางถนนสายมิตรภาพ กม.15 เทศบาลตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ระหว่างวันที่ 12-17เมษายน 2560 โดยไม่คิดค่าบริการแต่อย่างใด ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเ พิ่มเติมได้ที่ www.aphonda.co.th

ควายทอง มอเตอร์ เปิดตัวรถเมล์ไฟฟ้า แบรนด์คนไทย “ควายทอง”


ควายทอง มอเตอร์ เปิดตัวรถเมล์ไฟฟ้า แบรนด์คนไทย “ควายทอง”

ควายทอง มอเตอร์ เปิดตัวรถเมล์ไฟฟ้าแบรนด์คนไทย “ควายทอง” โดดเด่นด้วยแบตเตอรี่คุณภาพสูงจากสหรัฐอเมริกา เตรียมพร้อมเข้าบุกตลาดรถเมล์ไฟฟ้าของไทย

คุณสัก กอแสงเรือง ประธาน บริษัท ควายทอง มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ควายทอง มอเตอร์ ได้ศึกษาตลาดยานยนต์ไฟฟ้ามาระยะหนึ่งแล้ว และมองเห็นโอกาสการเติบโตในอนาคต อีกทั้งพลังงานไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานที่ประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงขยายธุรกิจสู่ตลาดรถเมล์ไฟฟ้าของไทย เปิดตัวรถเมล์ไฟฟ้าแบรนด์คนไทย “ควายทอง” ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียม ไททาเนต ผลิตจากสหรัฐอเมริกา สมรรถนะสูง ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากบริษัท ไฮบริด คิเนติค กรุ๊ป จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและค้นคว้าผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับยานยนต์


รถเมล์ไฟฟ้าควายทอง เป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า100% จุดเด่นคือ ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และควันพิษ ไร้มลภาวะทางเสียง ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม ไททาเนต ที่ผลิตจากสหรัฐอเมริกา ขนาดความจุ116 กิโลวัตต์/ชั่วโมง แรงดัน 600 โวลต์ ซึ่งมีจุดเด่นหลายประการ เช่น การใช้ระยะเวลาชาร์จสั้นมาก สามารถชาร์จแบบรวดเร็วหรือควิกชาร์จได้ในเวลาเพียง 10-15 นาที เมื่อชาร์จแบบเติมเต็ม (top-up charging) ทำให้รถเมล์สามารถออกวิ่งรับผู้โดยสารได้วันละหลายรอบ ตัวแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเป็นสิบปี มีอายุการชาร์จ ราว 35,000 ครั้ง และเป็นแบตเตอรี่ที่ผ่านการทดสอบว่ามีความปลอดภัยสูง

นอกจากนี้ รถเมล์ไฟฟ้าควายทอง ยังขับเคลื่อนด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวร ที่มีกำลังขับสูงสุด (Max power) ที่ 200 กิโลวัตต์ หรือ 268 แรงม้า มอเตอร์ ใช้เทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา สำหรับตัวรถมีความยาว 12 เมตร กว้าง 2.53 เมตร และสูง3.34 เมตร ตัวถังรถสร้างแบบโมโนค็อกแชสซีโดยใช้เทคโนโลยีของผู้ผลิตชั้นนำ คือ บริษัทเอ็มเอเอ็น(MAN) ประเทศเยอรมันนี ทำให้รถเมล์ไฟฟ้าควายทองมีโครงสร้างที่เสถียรและทนทาน รับน้ำหนักผู้โดยสารได้เกิน 80 คน และมีความปลอดภัยสูง

คุณจาง ควายทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ควายทอง มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยแผนธุรกิจในปี 2560 นี้ ว่า บริษัทได้วางแผนนำรถเมล์ไฟฟ้าควายทองเข้าร่วมประมูลการจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายเพื่อใช้ในการพาณิชย์ทั่วไป เช่น รถโดยสารประจำทางที่ได้รับสัมปทานจาก ขสมก. หรือรถรับ-ส่งพนักงานตามโรงงานหรือหน่วยงานราชการต่างๆ

ฮอนด้าเปิดตัว All New Scoopy i โฉมใหม จัดเต็มฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยีที่ สมบูรณ์แบบที่สุดสู่รถ เอ.ที.ยอดนิยมของคนไทย



ฮอนด้าเปิดตัว All New Scoopy i โฉมใหม จัดเต็มฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยีที่ สมบูรณ์แบบที่สุดสู่รถ เอ.ที.ยอดนิยมของคนไทย

บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดตัวโมเดลใหม่ล่าสุด All New Scoopy i โฉมใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ My First Ride, My Way ครั้งแรกกับการจัดเต็มฮอนด้ าสมาร์ทเทคโนโลยีที่สมบูรณ์ แบบที่สุดสู่รถ เอ.ที.ยอดนิยมของคนไทย ตอบโจทย์ไลฟสไตล์ในยุคปัจจุบั นกับอุปกรณ์ที่ชาร์ จไฟสำรองในรถจักรยานยนต์ (AC Socket) พร้อมดึงสองพรีเซ็นเตอร์ “โทนี่-ธีรชัย วิมลชัยฤกษ์” และ “ต้าเหนิง-กัญญาวีร์ สองเมือง” มาร่วมถ่ายทอดคาแร็กเตอร์อั นโดดเด่นในสไตล์มินิมอล เริ่มวางตลาดตั้งแต่วันนี้เป็ นต้นไป ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า “ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2017 บริษัทฯ มีไฮไลท์นำมาจัดแสดงมากมาย โดยหนึ่งในนั้นที่สำคัญมาก คือ การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ All NewScoopy i รถ เอ.ที.ยอดนิยมของคนไทยที่ได้รั บการออกแบบใหม่หมด ด้วยการเปลี่ยนรูปโฉมและเติมเต็ มฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยี ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดในกลุ่มรถเอ.ที.ของฮอนด้าที่ติดตั้ งเทคโนโลยีดังกล่าวไปก่อนหน้ าครบแล้ว นับเป็นการสร้างมาตราฐานใหม่ ในวงการรถจักรยานยนต์ เอ.ที. ของเมืองไทยเลยก็ว่าได้”

“สำหรับฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยี ประกอบด้วย เครื่องยนต์ eSP ที่ให้ประสิทธิ ภาพสูงสุด ทั้งการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ แบบและมีอัตราการประหยัดน้ำมั นเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยม, ระบบหยุ ดเครื่องยนต์อัจฉริยะ Idling Stop และระบบการกระจายแรงเบรค C ombi Brake เพิ่มความปลอดภัยในการหยุ ดรถได้อย่างมั่นใจ พร้อมทั้งยังได้ติดตั้งไฟ Eco Lamp ที่จะคอยแจ้งเตือนเมื่อเข้าสู้ โหมดการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ฮอนด้ าในฐานะที่เป็นผู้นำแห่ งวงการรถจักรยานยนต์ไทย ตั้งใจพัฒนาขึ้นมาเพื่อหวั งยกระดับเทคโนโลยีให้เป็ นมาตรฐานใหม่ในรถกลุ่มนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเรายังได้เพิ่ มเติมอุปกรณ์ที่เหมาะกั บไลฟสไตล์คนในยุคปัจจุบันอย่ างที่ชาร์จไฟสำรอง (AC Socket) อีกด้วย ”

All New Scoopy i โฉมใหม่ ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “My First Ride, My Way ครั้งแรกมีความหมายเสมอ” โดดเด่นด้วยการออกแบบใหม่ ในสไตล์มินิมอล ดีไซน์เก๋ลงตัว พร้อมนำเทรนด์ครั้งแรกของ Scoop y i ด้วยฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยี เครื่องยนต์ eSP ขนาด 110 ซีซี. 4 จังหวะ ระบบหัวฉีด PGM Fi ระบายความร้อนด้วยอากาศ ระบบหยุดเครื่องยนต์อัจฉริยะ ( Idling Stop system) เทคโนโลยีกระจายแรงเบรค (Combi Brake system) และฟังก์ชั่นใหม่ ไฟแจ้งเตือน Eco Mode เมื่อเข้าสู่โหมดการขับขี่ แบบประหยัดน้ำมัน พร้อมให้อัตราประหยัดสูงสุดถึง 62.5 กม./ลิตร (เมื่อเปิดใช้ ระบบ Idling Stop system) มีค่าไอเสียที่สะอาดถึ งระดับ 6 และรองรับน้ำมัน E20 ด้ วย

ครั้งแรกของดีไซน์ไฟหน้าสุดเฉี ยบ ด้วยไฟหน้า LED Projector แบบ Ring Light ไฟท้ายแบบบิ้วท์อินติดตั้ งไฟเลี้ยวในตัว รวมถึงการเพิ่มที่ชาร์จ AC Socket ใต้คอนโซลหน้า และพื้นที่เก็บของใต้เบาะ U box แบบจุใจถึง 15.4 ลิตร ซึ่ง All New Scoopy i โฉมใหม่ เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Centerทั่วประเทศ โดยรุ่น Club 12 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ น้ำเงิน-ดำ, ดำ และขาว ราคาแนะนำโดยประมาณเริ่มต้นที่ 51,100 บาท ในรุ่น Prestige มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ขาว-น้ำตาล, แดง-น้ำตาล และดำ-น้ำตาล ราคาแนะนำโดยประมาณเริ่มต้นที่ 48,600 บาท และในรุ่น Urban team มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ชมพู-ขาว, น้ำเงิน-ขาว และส้ม-ขาว ราคาแนะนำโดยประมาณเริ่มต้นที่ 48,100 บาท

นอกจากนี้ยังมีรุ่นตกแต่งพิ เศษเป็นอีกทางเลือก ให้ลูกค้าชาวไทยเพิ่มความเก๋ แบบมินิมอลให้สุดทาง ด้วยชุดแต่งจาก H2C มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีขาว ราคาแนะนำโดยประมาณเริ่มต้นที่ 54,000 บาท และ 53,800 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ สำหรับผู้สนใจสามารถติ ดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ All NewScoopy i โฉมใหม่ ได้ที่ www.aphonda.co.th และhttps://www.facebook.com/ hondamotorcyclethailand/

เปิดตัวอย่างเป็นทางการ YZF-R6 ยามาฮ่ามอบราคาสุดพิเศษ 549,000 บาทในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2017




เปิดตัวอย่างเป็นทางการ YZF-R6 ยามาฮ่ามอบราคาสุดพิเศษ 549,000 บาทในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2017 

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดตัว Yamaha YZF-R6 โฉมใหม่ ปี 2017 อย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศราคาสุดพิเศษ 549,000 บาท ที่บูธ “Yamaha - Beyond The Limits” ภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2017 ครั้งที่ 38 โดย Yamaha YZF-R6 เป็นรถซูเปอร์สปอร์ตขนาด 600 ซีซี ที่ถูกถ่ายทอด DNA จาก YZR-M1 รถแข่งที่ดีที่สุดในโลกจากยามาฮ่า พร้อมทั้งดีไซน์ใหม่หมดตั้งแต่หัวจรดท้าย ยามาฮ่า YZF-R6 มาพร้อมกับเทคโนโลยี แอสซิส แอนด์ สลิปเปอร์คลัตช์ ระบบดูดอากาศจากด้านหน้า แบบเดียวกับ Yamaha YZR-M1 ออกแบบระบบแอโรไดนามิกมากขึ้นกว่าเดิมถึง 8% พร้อมระบบ Quick Shift System เปลี่ยนเกียร์ได้เร็วขึ้น และ Drive mode ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเลือก Mode การขับขี่ได้ดั่งใจ ตอบสนองในทุกความต้องการ



เชิญสัมผัส Yamaha YZF-R6 โฉมใหม่ ปี 2017 ได้แล้วภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2017 ครั้งที่ 38 ที่บูธ “Yamaha - Beyond The Limits” ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม - 9 เมษายน 2560 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และทดลองขับขี่ได้ที่  Yamaha Riders’ club ทั่วประเทศ



สามารถติดตามความเคลื่อนไหว และข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ที่
Website  : www.yamaha-motor.co.th
Facebook  : Yamaha Society Thailand
Instagram  : Yamaha Society Thailand
Youtube  : Yamaha Society Thailand

donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved