Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

ยูม่า มอเตอร์ส กรุ๊ป ทุ่ม 40 ล้านบาทเนรมิตพื้นที่ 420 ตรม. ส่ง “บราบัส สมาร์ท อัลติเมท (Brabus Smart 120 Ultimate) และบราบัส เอสแอล บี50 (Brabus SL B50)” เปิดตัวครั้งแรกในเอเซียพร้อมนำทัพยนตกรรม หรูเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29


ยูม่า มอเตอร์ส กรุ๊ป ตัวแทนจำหน่ายยนตกรรมหรูแบรนด์ บราบัส (Brabus) วิสมันน์ (Wiesmann)  และผู้นำเข้า ยนตกรรมหรูระดับซุปเปอร์ ลักชัวร์รี่ คาร์ ทุ่มงบประมาณมูลค่า 40 ล้านบาท เนรมิตรพื้นที่ 420 ตารางเมตร ให้เป็นห้องรับรองเพื่อคนพิเศษ ภายใต้คอนเซปต์Expected & Ultimate – Unexpected หรือ “ตอบรับความคาดหวังที่เหนือความคาดหมาย” พร้อมแนะนำแบรนด์ใหม่ล่าสุด “สตาร์เทค” หนึ่งในสายพานการผลิตรถยนต์หรูเปี่ยมสมรรถนะจากประเทศเยอรมนี โดยเปิดตัวสตาร์เทค เอสดี 22 (STARTECH SD 22) ครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2555

นายชัชวัฏ สุวรรณโณชิน ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ยูม่า มอเตอร์ส กรุ๊ป จำกัดกล่าวว่า ในปี 2555 ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ของการเป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์หรูหรา ภายใต้แบรนด์บราบัส (Brabus) วิสมันน์ (Wiesmann) โดยที่ผ่านมาทั้ง 2 แบรนด์  ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าที่ชื่นชอบยานยนต์สมรรถนะสูง และรถที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นรถที่มีจุดเด่นทางด้านเทคโนโลยี เครื่องยนต์ ระบบรองรับน้ำหนัก และโครงสร้างการออกแบบ ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบสนองความสนใจของกลุ่มลูกค้า บริษัทจึงได้เข้าร่วม งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29”  ซึ่งเป็นงานแสดงยนตกรรมระดับนานชาติและเป็นช่วงฤดูการขายส่งท้ายปี

ยูม่า มอเตอร์ส กรุ๊ป  ได้นำยนตกรรมรุ่นใหม่จากบราบัส (Brabus) วิสมันน์ (Wiesmann)  มาจัดแสดงสำหรับลูกค้าที่หลงไหลในความแรงของเครื่องยนต์ โดยในปีนี้ยนตกรรมที่หรูหราแบรนด์บราบัสจัดแสดงรถยนต์หรูไฮไลท์ 2 รุ่น ที่เป็นการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิก คือ บราบัส สมาร์ท 120 อัลติเมท (Brabus Smart 120 Ultimate) และบราบัส เอสแอล บี50 (Brabus SL B50) 


นอกจากนี้ ยูม่า มอเตอร์ส กรุ๊ป   ยังได้ขยายผลิตภัณฑ์การจัดจำหน่ายเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นจากกลุ่มเดิม โดยแนะนำแบรนด์น้องใหม่ล่าสุด คือ  สตาร์เทค (Startech) หนึ่งในสายพานการผลิตรถยนต์สมรรณะสูงอีกหนึ่งแบรนด์ ซึ่งรถยนต์แบรนด์สตาร์เทครุ่นแรกที่เข้ามาเปิดตลาดเมืองไทย ได้แก่ สตาร์เทค เอสดี 22 ที่พัฒนามาจากพื้นฐานของเรนจ์โรเวอร์ อิโวค เอสดี 4 (Range Rover Evoque SD4) สตาร์เทค เอสดี 22 นั้นถือเป็นรถเอสยูวีที่มีความสมบูรณ์ในการตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มที่ชื่นชอบรถยนต์เอนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ระดับไฮเอนด์

เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจกรรมการขายของบราบัส และฉลองการเปิดตัวครั้งแรกในเอเซีย-แปซิฟิกของ สมาร์ท อัลติเมท 120 (Brabus Smart Ultimate 120) และบราบัส เอสแอล บี50 (Brabus SL B50) ยูม่า มอเตอร์ส จึงเตรียมแคมเปญส่งเสริมการขายสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถจากยูม่าฯ ระว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2555 อาทิ... ซื้อรถยนต์ แถมรถจักรยานยนต์ Ducati Monster 795ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์จากยูม่า มอเตอร์สทุกคันสามารถขึ้นทางด่วนฟรีถึง     5 ปีทันที  ในขณะที่ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์บราบัสจะได้รับแพคเกจเยี่ยมชมโรงงานบราบัส ณ ประเทศเยอรมนี กิน ดื่ม      ช้อป ฟรีตลอดการเดินทาง หรือเลือกรับทะเบียนสวยจากค่ายยูม่า มอเตอร์สจักรยาน Vanmoof Urban Bike หรือเลือกรับการบริการดูแลรักษา (เคลือบแก้ว) ฟรีทันที


ในส่วนของเครือข่ายการบริการหลังการขาย บริษัทฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญของงานการบริการและการดูแลเอาใจใส่อย่างมีคุณภาพ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการรวมถึงการบริการหลังการขายที่มีความพร้อม ครบวงจรด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถซ่อมบำรุงได้รวดเร็ว บริษัทจึงมุ่งเน้นเรื่องการดูแล และบริการหลังการขายให้แก่ลูกค้าตลอดระยะเวลาการใช้งานเป็นหัวใจสำคัญ         


สำหรับการเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 นี้ “ยูม่า มอเตอร์ส เชื่อว่าจะสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้น 50 คันหรือมูลค่าประมาณ 250 ล้านบาท” นายชัชวัฏกล่าว

ทั้งนี้ ในบูธของยูม่าฯ ประกอบไปด้วยรถจัดแสดง รวม 9 คัน ประกอบไปด้วย บราบัส อัลติเมท 120 (Brabus Ultimate 120), บราบัส เอสแอลเค บี 25 เอส (Brabus SLK B25 S), บราบัส เอสแอล บี50 (Brabus SL B50),



 บราบัส ซีแอลเอส ดี4II (Brabus CLS D4II),



บราบัส ซี-คูเป้ บี18เอส (Brabus C-Coupe B18S), บราบัส อี 6.1 (Brabus E 6.1), บราบัส เอ็มแอล ดี4II (Brabus ML D4II), สตาร์เทค เอสดี 22 (Startech SD22)

และวิสมันน์ เอ็มเอฟ 5 (Wiesmann Mf 5) โดยผู้ที่สนใจสุดยอดยนตกรรมหรู… สามารถเข้าเยี่ยมชมพร้อมรับข้อเสนอ และการบริการ หลังการขายแบบคนพิเศษ หรือทดลองขับได้ที่ยูม่า มอเตอร์ส บูธ B13 ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2555 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี

อีซูซุส่งท้ายนโยบายรถคันแรก เปิดบูธสัมผัสประสบการณ์ชีวิตสไตล์เอ็กซ์ (X) ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29


 หลังจากเสร็จสิ้นการเฉลิมฉลองยอดการผลิตรถอีซูซุในประเทศไทยครบ 3 ล้านคันไปเมื่อไม่นานมานี้ อีซูซุไม่รอช้าส่งท้ายนโยบายรถคันแรกด้วยการเปิดบูธอีซูซุจัดกิจกรรมสนุกๆ ให้เหล่าคนรักรถได้สัมผัสกับประสบการณ์ชีวิตสไตล์ “เอ็กซ์” ตอบโจทย์ความสนุกกับชีวิตอินเทรนด์ นำทัพโดย ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ รุ่นพิเศษ!”    ที่มากับความเท่  โฉบเฉี่ยว  ร้อนแรงในโทนสีแดง-ดำอันเป็นเอกลักษณ์ รถปิกอัพ“ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์”  หลายรุ่นหลากสไตล์ พร้อมด้วย “อีซูซุมิว-เซเว่น ช้อยส์ ใหม่!” รถอเนกประสงค์สปอร์ตหรู เพิ่มความสนุกกับชีวิตที่เลือกได้...ในสไตล์คุณ พร้อมความบันเทิงสุดเร้าใจ ณ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดทัพรถอีซูซุทุกรุ่นทุกเครื่องยนต์มาเต็มพิกัด  ส่งท้ายนโยบายรถคันแรกที่จะหมดเขตในสิ้นปีนี้ ร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29    (The 29th Thailand International Motor Expo 2012) สร้างสรรค์บูธตามคอนเซ็ป “UNLEASH YOUR   X-LIFE…ฉีกทุกกฎ...สู่ชีวิตสไตล์ X เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และสะท้อนรูปแบบการใช้ชีวิตแบบสุดๆ ของคนรุ่นใหม่ สนุกไปกับรถอีซูซุคู่ใจที่ตอบสนองได้อย่างไร้ขีดจำกัด

โดดเด่นกลางบูธด้วย “ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ รุ่นพิเศษ!”  ปิกอัพสุดเท่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงานฉลองยอดการผลิตรถอีซูซุครบ 3 ล้านคันในประเทศไทย  มาพร้อมกับรูปโฉมใหม่ โฉบเฉี่ยวทั้งภายนอกและภายใน ดีไซน์สำหรับคนหัวใจสปอร์ต  ร้อนแรงในโทนสีแดง-ดำ  เอกลักษณ์เฉพาะ “X-Series”  พร้อมลายคาดคู่หน้า-หลังบอกตัวตนที่ชัดเจน สเกิร์ตหน้า- หลังสุดโฉบเฉี่ยวและ Sport Bar ยกระดับชีวิตสปอร์ตเพิ่มความลู่ลมสวยงามลงตัว พร้อมด้วย Bed liner ออกแบบพิเศษ  กล้องมองหลังแบบ Built-in ใหม่ และครั้งแรกในรถปิกอัพของเมืองไทย กับ เสาอากาศแบบ “Shark Fin Antenna”  เทคโนโลยีรับสัญญาณแบบ “Dual Function” สามารถรับสัญญาณ GPS และวิทยุได้พร้อมกันให้ความชัดเจนที่มากขึ้น   และ Isuzu Genius Entry  ระบบกุญแจอัจฉริยะ ล้ำสมัย  เปิด-ปิดล็อคประตู และสตาร์ทรถโดยไม่ต้องใช้กุญแจหรือรีโมท พร้อมระบบ Entertainment เต็มรูปแบบจาก ISUZU Media Solutions  ชุดเครื่องเสียง Hi-end พร้อมเชื่อมต่อความบันเทิงได้โดยตรงโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม สูบฉีดความเร้าใจใหม่ให้พร้อมสำหรับทุกจังหวะชีวิต พร้อมระบบ ECO Function เพื่อการขับขี่อย่างประหยัดน้ำมัน  และระบบแจ้งเตือนสภาพการจราจรแบบ Real-time Traffic Information พุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยขุมพลังเกินขีดจำกัดของเครื่องยนต์ 2,500 ซีซี แบบ DOHC 16 วาล์ว VGS TURBO พร้อมชุดเกียร์ออโตเมติก 5 สปีด อัตราทดต่อเนื่อง เร้าใจสุดกับ REV TRONIC ขับขี่ให้อารมณ์สปอร์ตแบบเกียร์ธรรมดา  และชุดเกียร์ธรรมดา 5 สปีดแบบ SPORT-SHIFT   ช่วงชักสั้น เข้าเกียร์ง่าย เร็ว กระชับ เพิ่มความสนุกในการขับขี่ โดยรถ “อีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ รุ่นพิเศษ!” ที่นำมาโชว์โฉมในครั้งนี้มีให้เลือกเท่สองโทนสีคือสีขาวและสีดำ   และมีให้เลือกในรุ่น Hi-Lander 2 ประตู,  Hi-Lander 4 ประตู   และ รุ่น Speed
ตามติดมาด้วยรถ   “อีซูซุมิว-เซเว่น ช้อยส์ ใหม่!   รถอเนกประสงค์สปอร์ตหรูที่       อินเทรนด์สุดๆ พร้อมความบันเทิงที่ไร้ขีดจำกัด  ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ลงตัว  ค้นหาไลฟ์สไตล์สุดชิค พาชีวิตเริงร่าเติมเต็มความสนุกได้ทั้งครอบครัว โฉบเฉี่ยวด้วย ใหม่ชุดกันชนพร้อมสปอยเลอร์ด้านหน้าและด้านท้ายสปอร์ตมีสไตล์  ดีไซน์ลงตัวกับชุดไฟหน้าและไฟท้าย แบบ Smoked Chrome ห้องโดยสารสุดสปอร์ต เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำแบบ Red Stitch ดีไซน์เข้าชุดกับคอนโซลลายไม้ Black Wood Grain บ่งบอกไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง สนุกอินเทรนด์กับความบันเทิงไร้ขีดจำกัด ใหม่สุดล้ำกับ Multimedia Entertainment System รุ่นล่าสุด อัพมาเต็มพิกัด ให้ระบบประมวลผลเร็วขึ้น ใช้งานง่าย เพียงปลายนิ้วสัมผัส กับหน้าจอระบบ Touch Screen สนุกกับฟังก์ชั่นโดนๆ และสามารถแสดงเส้นทางด้วย ไอ-จินนี่ ระบบเพื่อนนำทางอัจฉริยะ ที่รองรับ TIS (Traffic Information System) ข้อมูลสภาพการจราจร ให้คุณมุ่งสู่เส้นทางที่อยากไปได้ตามใจปรารถนา พร้อมจอภาพ LCD ใหม่ขนาดใหญ่ 10.2 นิ้ว ติดตั้งบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง  จัดมาให้สัมผัสกันเต็มที่ทั้งสีดำไมก้าและสีขาวเอเวอเรสต์   
นอกจากนี้อีซูซุยังนำ “ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์  (All-New Isuzu D-Max) รถปิกอัพสำหรับคนทั้งโลก ครบทุกรุ่น ทุกเครื่องยนต์ มาให้เลือกชมและสัมผัสพร้อมมาตรฐานใหม่ของรถปิกอัพที่ตอบสนองทุกความต้องการของผู้ใช้รถโดยมี “ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์ วี-ครอส 4x4”          4 ประตู ตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์ทั้งคัน พร้อมชุดแต่งพิเศษ เสริมความเท่อีกระดับ อาทิ ล้ออัลลอยด์ “Weld” ขนาด 10” x 20” พร้อมยาง BF Goodrich : All Terrain ขนาด 325/60 R 20 ชุดช่วงล่างจาก Race Runner สปอตไลต์แบบ LED ยี่ห้อ PIAA ขอลากเรือ พร้อมชุดแต่งเสริมไลฟ์สไตล์พิเศษ เช่น แร็กกระบะท้าย อุปกรณ์ยึดจับจักรยาน เป็นต้น

พร้อมจัดสรรประสบการณ์แบบสุดๆ สไตล์เอ็กซ์ภายในบูธอีซูซุ  ได้แก่ 
·          โซนมอเตอร์สปอร์ต (Motor Sport Corner) ตอกย้ำความสำเร็จของรถ “ออล-นิวอีซูซุดีแมคซ์” บนเวทีงานแข่งขันครอสคันทรีแรลลี่สุดหฤโหดระดับโลก นำโดยรถปิกอัพอีซูซุ      ดีแมคซ์ วีครอส 4x4 มาตรฐานโรงงานที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะอันทรงพลัง นำ 2 นักแข่งชาวไทย ผ่านการแข่งขัน 9 วันบนเส้นทางสุดโหดกว่า 3,000 กม. ในรายการ “ออสเตรเลเชี่ยน ซาฟารี 2012”  (Australasian Safari 2012) จนคว้าชัยได้ถึง 4 รางวัล ได้แก่ รางวัลที่ 1 ในรุ่นโมดิฟายโปรดักชั่นดีเซลโอเพ่น, รางวัลนักขับต่างชาติยอดเยี่ยม, รางวัลผู้นำทางต่างชาติยอดเยี่ยม, และรางวัลอันดับ 7 โอเวอร์ออล (OR) ตามมาด้วยการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ “NITTO 3K ISUZU ONE MAKE RACE 2012 การแข่งขันที่ใช้รถปิกอัพ “ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์ สเปซแคบ รุ่นใหม่หมด!”  โดยปีนี้ได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ภายใต้มาตรฐานเดียวกันคือไม่ได้ปรับแต่งเครื่องยนต์หรือระบบส่งกำลังแต่อย่างใด ชิงเงินรางวัลรวม 100,000 บาท  พร้อมถ้วยประทานจากพระเจ้า วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ ในรอบชิงชนะเลิศ แข่งขันสนามสุดท้ายปลายปีนี้ในวันที่ 8-9 ธันวาคม ณ สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต พัทยา จังหวัดชลบุรี   
·            ตื่นตากับการสร้างสีสันบนกำแพงสไตล์กราฟฟิตี้กับศิลปินสุดอาร์ต MAMAFAKA  สะท้อนจินตนาการไร้ขอบเขตตามแนวคิดแบบ  X-Series : UNLEASH YOUR X-LIFE
·            แฟชั่นโชว์สุดเซ็กซี่สไตล์เรซซิ่งจากสาวๆ Allure Girls ให้ความรู้สึกเหมือนเกาะติดสนามรถแข่งระดับนานาชาติ
·            ปลุกจังหวะหัวใจให้โลดแล่นไปกับจังหวะเพลงสุดมันส์กับเหล่าเลดี้ดีเจ
·            ไม่พลาดกับการอัพเดทความเคลื่อนไหวต่างๆ ผ่าน Facebook Register พร้อมเกมส์เท่ๆ ในบูธอีซูซุ
·            การประกวดภาพถ่าย All-new Isuzu D-Max Photo Contest 2012 ส่งภาพที่คุณถ่ายจากกล้องDigital หรือ ผ่าน Instagram เพียงใส่ Hashtag #isuzuinstagram ลุ้นรับรางวัลบาดใจรวมกว่า 100,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีพิธีกรสาวสวยจากรายการ “สตรอเบอรี่ ชีสเค้ก” (Strawberry Cheesecake) ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาสร้างความสนุกสนาน ณ บูธอีซูซุ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน -10 ธันวาคม 2555 ณ อาคารชาเลนเจอร์       อิมแพ็ค เมืองทองธานี

เอ็มไพร์ มอเตอร์ สปอร์ต ประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ชูกลยุทธ์เชิงรุกรับปี 56 พร้อมพัฒนาคุณภาพงานบริการรับการขยายฐานลูกค้า “มาเซอร์ราติ” ในไทย คาดปี 56 สามารถสร้างอัตราเติบโตกว่า 15% -ล่าสุดปรับโฉมโชว์รูมบนห้างหรูสยามพารากอน ตอกย้ำศักยภาพผู้นำ-


เอ็มไพร์  มอเตอร์ สปอร์ต ผู้นำเข้าและจำหน่าย “มาเซอร์ราติ” สุดยอดยนตรกรรมที่ผสานความเร็วและดีไซน์กลิ่นไอความสปอร์ต บนรูปโฉมห้องโดยสารสุดหรูที่เน้นความหรูหราสะดวกสบายอย่างเหนือกว่า เดินหน้าประกาศศักยภาพรับปี 56 แบบเต็มสูบ ด้วยการเผยโฉมโชว์รูมใหม่บนศูนย์การค้าสยามพารากอน หลังตลอดปี 55 รุกหนักด้านพัฒนาคุณภาพงานบริการระดับโลกส่งทีมเซอร์วิสเยือนแดนมักกะโรนี อัดหลักสูตรแบบครบครัน มั่นใจตลาด Luxury High Performance Car  เมืองไทยยังไปได้ไกล คาดหลังเปิดเสรีการค้าภายใต้กรอบ AEC ตลาดดังกล่าวจะโตแบบก้าวกระโดด

นางสาวพรศริน  เมธีวัชรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มไพร์ มอเตอร์ สปอร์ต จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มาเซอร์ราติอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา “มาเซอร์ราติ” ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เพราะเอกลักษณ์ของความหรูหรามีระดับพร้อมทั้งแรงของขุมพลังเครื่องยนต์ที่ผสานความนุ่มนวลในการขับขี่ที่ยังคงไว้ซึ่งสายพันธุ์สปอร์ตหรูที่ขับได้ทุกวัน  ทำให้มาเซอร์ราติเป็นรถที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่   ในเมืองและการขับขี่ท่องเที่ยวทางไกลอย่างลงตัว ที่ถือเป็นคุณสมบัติที่หาไม่ได้ง่ายนักในบรรดารถสปอร์ตที่เสนอขายอยู่ในปัจจุบัน โดยในปี 2555 มาเซอร์ราติ ยังคงสามารถรักษาการเติบโตทางธุรกิจไว้ในอัตราที่คาดการณ์ไว้ ในขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการเติบโตของยอดขายในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ ทำให้บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์สร้างความพร้อมของทีมบริการ ปัจจุบันมีทีมบริการรวม 18 คน เพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าในอนาคตด้วยการส่งพนักงานในส่วนงานบริการเข้าร่วมอบรมหลักสูตรบริการระดับโลก ณ สำนักงานใหญ่ ประเทศอิตาลีตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา

“เราวางกลยุทธ์เชิงรุกทุกมุมเพื่อรับการเติบโตในปีหน้าที่วางไว้ประมาณ 10-15% อันเนื่องมาจากแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่กว่า 3 รุ่นในปี 56” นางสาวพรศริน เมธีวัชรานนท์ กล่าวอย่างเชื่อมั่น “สำหรับพฤติกรรมความชื่นชอบและการยอมรับของผู้บริโภคชาวไทยที่มีต่อรถยนต์สัญชาตอิตาลีนั้น ปัจจุบันมีจำนวนมากขึ้นกว่าอดีตมาก ปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกมาเซอร์ราติ คือ สมรรถนะการขับขี่และรูปลักษณ์การดีไซน์ที่ตอบสนองได้ทุกความต้องการ ความหรูหรามีระดับที่มาพร้อมกับความเร็วและความสบายในการขับขี่”

ด้านนายภควัต  สาธร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ  บริษัท เอ็มไพร์ มอเตอร์ สปอร์ต จำกัด กล่าวว่า      “มาเซอร์ราติคืองานดีไซน์ในสไตล์อิตาลีที่มีความเป็นงานศิลปะ มีความคลาสสิคในตัวเอง ความโดดเด่นของ  มาเซอร์ราติคือ รถสปอร์ตในร่างเอ็กซ์คลูซีพคาร์ ที่มีเส้นสายแห่งดีไซน์ที่โค้งมน หรูหรา เป็นรถสปอร์ตที่มีให้เลือกทั้งแบบ 2 และ 4 ประตู ซึ่งหาได้ยากในแบรนด์อื่นๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ที่รักความแรงและรักความสบายนุ่มนวลสามารถขับมาเซอร์ราติไปได้ในทุกแห่งที่ต้องการหากพิจารณาแล้วตลาดรถสปอร์ตยังไม่มี      แบรนด์ใดที่สามารถตอบโจทย์ทั้ง 2 เรื่องนี้ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ มาเซอร์ราติ ยังเป็นงานแฮนด์เมดที่ลูกค้าสามารถสั่งได้ตามต้องการทุกจุดแม้แต่งานตัดเย็บ ขณะที่รถสปอร์ตหรูยี่ห้ออื่นไม่มีบริการดังกล่าวให้ ทั้งยังตั้งราคาจำหน่ายที่ไม่สูงเกินไป ทำให้ตลาดเมืองไทยเริ่มหันมามองเห็นสเน่ห์ของ มาเซอร์ราติ ในส่วนนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งตลอดปี 2556 มาเซอร์ราติ จะใช้กลยุทธ์เชิงรุกเจาะเข้าหากลุ่มเป้าหมายโดยตรง เพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์ตรงจากการขับขี่ มาเซอร์ราติ ทั้งในวันทำงานและวันหยุดสำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยว ซึ่งการปรับโฉมโชว์รูมครั้งใหม่นี้ จะเพิ่มศักยภาพการรองรับลูกค้ากลุ่มใหม่ได้มากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันฐานลูกค้าชาวไทยมีอยู่ประมาณ 80% ในขณะที่ 20% ที่เหลือคือกลุ่มชาวต่างชาติ”

รายละเอียดรถมาเซอร์ราติที่มีจำหน่ายในประเทศไทย  รวมทั้งสิ้น 10 รุ่น ประกอบด้วย QUATTROPORTE, QUATTROPORTE S, QUATTROPORTE SPORT GT S, GRANTURISMO, GRANTURISMO S, GRANTURISMO S AUTOMATIC, GRANTURISMO SPORT, GRANTURISMO MC STRADALE, GRANCABRIO และ GRANCABRIO SPORT โดยเสนอราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 12.5 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถชมรายละเอียดของ มาเซอร์ราติ เพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมสำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต 02-900-5353  และโชว์รูมชั้น 2 สยามพารากอน 02-610-9444 หรือ www.MaseratiThailand.com

แลนด์โรเวอร์ เตรียมเปิดตัว ออล-นิว เรนจ์โรเวอร์ ครั้งแรกในเอเชีย ณ มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29


กรุงเทพฯ - แลนด์โรเวอร์ แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ชั้นหรูอันดับหนึ่งของโลก ประกาศเตรียมเปิดตัว “ออล-นิว เรนจ์โรเวอร์ (All-New Range Rover)” ยอดยนตกรรมสมรรถนะเหนือชั้นภายใต้รูปลักษณ์ที่ภูมิฐานสง่างาม เป็นครั้งแรกในเอเชีย ภายในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2555 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็คเมืองทองธานี พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษมากมายสำหรับลูกค้าภายในงาน

ออล-นิว เรนจ์โรเวอร์ (All-New Range Rover) มอบสมรรถนะที่เหนือชั้นและภาพลักษณ์ที่ภูมิฐานสง่างามจากผลงานการออกแบบขั้นสุดยอด พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่พร้อมพาคุณพุ่งทะยานไปอย่างมั่นคงและสมบูรณ์แบบในทุกสภาวะการขับขี่ โดยได้รับการออกแบบและวางโครงสร้างในศูนย์พัฒนายานยนต์ของแลนด์โรเวอร์ในประเทศอังกฤษ และผลิตในโรงงานซึ่งใช้เทคโนโลยีระดับสูงในเมืองโซลิฮัลล์ จึงมั่นใจได้ถึงความพิถีพิถันและความเรียบร้อยของชิ้นงาน ทั้งในเรื่องการดีไซน์และระบบวิศวกรรมสมัยใหม่เพื่อให้สมเป็นยานยนต์ระดับโลก

สำหรับยานยนต์ ออล-นิว  เรนจ์โรเวอร์ (All-New Range Rover) ซึ่งบริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์แลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการเพียงรายเดียวในประเทศไทย เตรียมนำมาอวดโฉมครั้งแรกในเอเชีย ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 นี้ คือ รุ่น SDV8 นอกจากนั้นยังมียนตกรรมยอดนิยมรุ่นอื่นๆ จากแลนด์โรเวอร์ที่ยกขบวนมาให้แฟน ๆ ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ได้แก่ เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต (Range Rover Sport), อีโวค ไดนามิก (Evoque Dynamic), ดิสคัฟเวอรี่ 4 HSE (Discovery 4 HSE) และ ดีเฟนเดอร์ (Defender)

นายดนัย จันทรงาม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด เผยว่า “การเปิดตัว ออล-นิว เรนจ์โรเวอร์ (All-New Range Rover) คืออีกหนึ่งหลักชัยสำคัญของแบรนด์แลนด์โรเวอร์ ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงจากการทุ่มทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อยานยนต์ระดับพรีเมี่ยมด้วยการออกแบบที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอน และในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ เรายังมอบข้อเสนอระดับเอ็กซคลูซีฟพิเศษสุดสำหรับลูกค้าผู้ซื้อยานยนต์แลนด์โรเวอร์ภายในงาน เราจึงขอเชิญชวนทุกท่านมาเยี่ยมชมบูธของเรา เพื่อร่วมสัมผัสกับความหรูหราล้ำสมัยของ ออล-นิว เรนจ์โรเวอร์ (All-New Range Rover) ยนตกรรมล่าสุดจากแลนด์โรเวอร์ ที่สั่นสะเทือนวงการยานยนต์อเนกประสงค์ชั้นหรูระดับโลก”

ทั้งนี้บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์แลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการเพียงรายเดียวในประเทศไทย มีความพร้อมอย่างเต็มที่ทั้งในด้านการนำเข้า จัดจำหน่าย และให้บริการหลังการขาย  สำหรับรถยนต์แลนด์โรเวอร์ทุกรุ่นในประเทศไทย และเมื่อเร็วๆ นี้ ซิตี้ ออโต้โมบิล ได้ทุ่มงบลงทุนก้อนใหญ่ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาโชว์รูมและศูนย์บริการ พร้อมจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีล้ำสมัยตามมาตรฐานของแลนด์โรเวอร์ และมอบบริการโดยช่างซ่อมบำรุงและเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างครบถ้วนจากแลนด์โรเวอร์

โดยศูนย์บริการที่ถนนวิทยุ กำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงใหม่ให้มีมาตรฐานระดับโลก เพื่อเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในเร็ว ๆ นี้ และบริษัทฯ ยังเตรียมเปิดศูนย์บริการแห่งใหม่ที่ถนนพระราม 4  ซึ่งมีกำหนดเปิดประมาณกลางปี 2556 เพื่อมอบบริการการขายและซ่อมบำรุงชั้นเลิศแก่ลูกค้าแลนด์โรเวอร์ในเมืองไทยได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือข้อมูลด้านเทคนิคของยานยนต์แลนด์โรเวอร์ กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.landroverthailand.com

นับถอยหลัง “MOTOR EXPO 2012” มหกรรมรถที่คนไทยรอคอย จ้องทุบสถิติยอดจอง 50,000 คัน ส่งท้ายนโยบายรถคันแรก


“มหกรรมยานยนต์  ครั้งที่ 29” พร้อมกระหึ่มชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี โชว์สุดยอดนวัตกรรมรถต้นแบบ และรถใหม่เปิดตัวเพียบ ผู้จัดมั่นใจคนไทยแห่จองช่วงโค้งสุดท้ายก่อนปิดนโยบายคืนภาษีรถคันแรก คาดเม็ดเงินสะพัดในงาน 5.5 หมื่นล้านบาท อย่าพลาด..ทดลองขับและเลือกซื้อรถที่ชอบได้วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคมนี้ พร้อมลุ้นแคมเปญใหญ่แจกรถ 3 คัน และรางวัลพิเศษมากมาย รวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29" หรือ “The 29th Thailand International Motor Expo 2012” เปิดเผยว่าขณะนี้ได้เตรียมความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์แล้วทั้งสถานที่จัดงานและแคมเปญต่างๆ ในส่วนของค่ายรถที่ร่วมงานมีจำนวน 38 ยี่ห้อและรถจักรยานยนต์อีก 9 ยี่ห้อ ซึ่งมั่นใจว่างานปีนี้จะคึกคักกว่าทุกปีเป็นผลพวงจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลที่จะสิ้นสุดลงในเดือนธันวาคมนี้ โดยคาดการณ์ยอดจองรถในงานสูงถึง 50,000 คัน (ปี 2554 ยอดจองประมาณ 30,000 คัน) ผู้ชมงานราว 1.6 ล้านคน (ปี 2554 ผู้ชมงานกว่า 1.3 ล้านคน) สร้างเม็ดเงินสะพัดในงานมูลค่าประมาณ 5.5 หมื่นล้านบาท

“งานปีนี้จะสะท้อนโลกยานยนต์ปัจจุบันที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอนาคต 4 ประการ ได้แก่ สะดวก ประหยัด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับแนวคิด “ยานยนต์วันหน้า ที่มาวันนี้” หรือ “Meet Tomorrow’s Cars Today” ซึ่งน่าติดตามอย่างยิ่ง รวมถึงไฮไลท์เด่นอีกมากมายทั้งรถต้นแบบที่จะมาโชว์ในงานขณะเดียวกันหลายค่ายจะระดมเปิดตัวรถรุ่นใหม่เพราะผู้จัดได้มอบสิทธิประโยชน์พร้อมส่วนลดต่างๆ แก่ค่ายรถที่นำรถใหม่มาเปิดตัวลดหลั่นกันไป ได้แก่ รถที่นำมาจัดแสดงครั้งแรกในประเทศไทย, ครั้งแรกในอาเซียน, ครั้งแรกในเอเชีย และครั้งแรกในโลก” ขวัญชัย กล่าว

นอกจากนี้ผู้จัดได้ยกระดับงานให้เป็นมาตรฐานสากลและเป็นผู้นำการจัดแสดงและจำหน่ายรถยนต์แห่งภูมิภาคอาเซียน โดยเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาคมงานแสดงสินค้าโลก หรือ UFI (The Global Association of the Exhibition Industry) ซึ่งการได้รับรองจากสมาคมดังกล่าว ทำให้บริษัทรถยนต์เพิ่มความเชื่อมั่นในมาตรฐานการจัดงานมากยิ่งขึ้น

ิ่งกว่านั้นยังเตรียมความพร้อมสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) รวมถึงเปิดกว้างสู่ประเทศในแถบเอเชีย โดยร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)       (สสปน.) ที่ได้ให้การสนับสนุน 2 แคมเปญหลัก คือ “100 a head” และ “Be My Guest” โดยในส่วนของ “100 a head” สสปน.จะพิจารณามอบเงินสนับสนุนแก่องค์กรธุรกิจ,สมาคมธุรกิจการค้า,หอการค้า,ตัวแทนท่องเที่ยว,องค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร ในประเทศกลุ่มเออีซี รวมถึง จีน,ไต้หวัน,มาเก๊า,ฮ่องกง,อินเดีย,บังกลาเทศ,ภูฏาน,เนปาล,ศรีลังกา,เกาหลี,ญี่ปุ่น,นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ที่ประสงค์จะเดินทางมาเยี่ยมชมงานมอเตอร์ เอกซ์โป เป็นมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อท่าน

ขณะที่แคมเปญ “Be My Guest” ให้สิทธิ์แก่ผู้จัดพิจารณามอบที่พักฟรีแก่ลูกค้าและผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่เดินทางมาร่วมงาน รวม 50 คืน ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการประกาศความพร้อมจัดงานสู่ระดับสากล

ขวัญชัย กล่าวอีกว่า ผู้จัดได้เตรียมแคมเปญที่พิเศษกว่าทุกปี พร้อมด้วยหลากหลายกิจกรรมน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ซื้อรถ ชิงรถ, บัตรฟรี ชิงรถ, SMS ชิงรถ, ซื้อสินค้า ชิงรางวัล และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อคืนกำไรแก่ผู้ชมงาน รวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท อาทิ

“ซื้อรถ ชิงรถ” เมื่อลูกค้าจองหรือซื้อรถยนต์ใหม่ในงาน มีสิทธิ์ได้รับคูปองชิงรางวัลรถยนต์ รถยนต์ SUBARU XV 2.0i มูลค่า 1,350,000 บาท จำนวน 1 รางวัล
“บัตรฟรี ชิงรถ” ลูกค้าที่ซื้อบัตรชมงานในราคาเต็ม (100 บาท) สามารถแลกเป็นคูปองกรอกชื่อ – ที่อยู่ ลุ้นชิงรางวัลรถยนต์ HYUNDAI ELANTRA 1.8G มูลค่า1,198,000 บาท จำนวน 1 รางวัล พร้อมรางวัลพิเศษอีกมากมาย
“SMS ชิงรถ” หรือ กิจกรรม “ร่วมลุ้นแบบคนรุ่นใหม่” สำหรับลูกค้าที่ใช้โทรศัพท์มือถือในระบบเครือข่าย TRUEMOVE สามารถร่วมลุ้น รถยนต์ ALL NEW SUZUKI SWIFT รุ่น GLXมูลค่า 559,000 บาท จำนวน 1 รางวัล พร้อมรางวัลพิเศษอีกมากมาย
“ซื้อสินค้า ชิงรางวัล” เมื่อซื้อสินค้าภายในงานจากร้านเดียวกันทุกๆ 1,000 บาท จะได้รับคูปอง ชิงโชค 1 ใบ เพื่อลุ้นรางวัลเครื่องนวดไฟฟ้าและเก้าอี้นวดไฟฟ้า รวมมูลค่า 348,700บาท
ในส่วนโซนรถจักรยานยนต์  ปีนี้เป็นเป็นปีที่ 2 ซึ่งผู้จัดร่วมกับบริษัท นิตยสารโมโตครอส จำกัด เปิดพื้นที่สำหรับคนรักรถจักรยานยนต์ได้มาร่วมสัมผัสการเปิดตัวรุ่นโมเดลใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งปีนี้มีค่ายรถตบเท้าเข้าร่วมถึง 9 ยี่ห้อ

เริ่มจากค่ายใหญ่ฮอนดาซึ่งมาในรูปแบบ“Honda BigWing”เตรียมเซอร์ไพรส์ “เปิดตัวรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์รุ่นใหม่ล่าสุด” ภายในบูธอย่างยิ่งใหญ่ ตามด้วยค่ายคาวาซากิที่มีไฮไลท์การเปิดตัวโมเดลรถรุ่นใหม่ “Ninja 250R” พร้อมรถเวอร์ชั่น 2013 อีกหลากหลายรุ่น ขณะที่ไทรอัมพ์แบรนด์ดังจากอังกฤษเตรียมเผยรถรุ่นล่าสุดที่จะมาทำตลาดในเมืองไทย

ยิ่งกว่านั้นยังมีรถไฟฟ้าพลังงานทางเลือกจากยูดา และค่ายที่กำลังมาแรงในฝั่งทางฝุ่นอย่างจีพีเอกซ์ เรซซิ่ง รวมถึงค่ายที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมากมายอย่างคีย์เวย์ และแบรนด์อิตาเลียนล่าสุดที่เน้นการทำรถบิ๊กไบค์โดยเฉพาะอย่างบเนลลี (Benelli) นอกจากนี้ยังมีค่ายจักรยานยนต์ชั้นนำอย่างดูคาติ และซูซูกิ รวมถึงผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งรถบิ๊กไบค์อย่างเรซซิ่ง บอย ร่วมแสดงเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์อย่างครบครัน   ซึ่งคนรักมอเตอร์ไซค์ทุกสายพันธุ์เตรียมสัมผัสความเร้าใจได้แน่นอน

โดยปีนี้มี รถยนต์จำนวน 38 ยี่ห้อ ได้แก่ AUDI, BMW, BRABUS, CHEVROLET, CITROEN, DEVA, DFSK, FORD,GRAND CARRYBOY, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, JAGUAR, KIA, LAND ROVER, LEXUS, MAZDA, MERCEDES-BENZ, MINI, MITSUBISHI, MITSUOKA, MTM, NISSAN, PEUGEOT, PROTON, RUF, SAMMITR GREEN POWER, SKODA, SSANGYONG, SUBARU, SUZUKI, TATA, TOYOTA, VOLKSWAGEN, VOLVO, WIESMANN และอีก 2 ยี่ห้อจากบริษัทผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์อิสระ

รวมถึง รถจักรยานยนต์อีก 9 ยี่ห้อ ได้แก่ BENELLI, DUCATI, GPX, HONDA, KAWASAKI, KEEWAY, SUZUKI, TRIUMPH, UDA

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29” มีพื้นที่จัดแสดงงานทั้งภายในและภายนอกอาคารทั้งสิ้น 85,000 ตารางเมตร มีความพร้อมในทุกด้านทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่จอดรถ อีกทั้งยังติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อใช้ควบคุมและดูแลจราจรในพื้นที่โดยรอบ เพื่อลดปัญหาจราจรติดขัดอีกทางหนึ่ง

อย่าพลาด.. “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29” ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน -10 ธันวาคม 2555 พร้อมรับชมการถ่ายทอดสดงานได้ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ในวันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2555 ตั้งแต่เวลา 13.50 – 15.40 น.

มาสด้าแผลงฤทธิ์ 10 เดือน ยอดทะลักเกือบ 60,000 คัน เตรียมแผนเด็ดพิชิตใจลูกค้าด้วยโปรโมชั่นเด็ดมอเตอร์เอ็กซ์โป


    รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 2 ปี หรือดอกเบี้ย 1.99% รับรถทันทีไม่ต้องรอ
    รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 ฟรีค่าบำรุงรักษานาน 2 ปี
    รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ ฟรีประกันภัยชั้น 1 และดอกเบี้ย 2.35%
กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 5 พฤศจิกายน 2555 – บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตลาดรถยนต์ของประเทศไทยในช่วงโค้งสุดท้ายกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดชนิดมันส์หยดติ๋งติ๋งกันเลยทีเดียว ในขณะที่หลายๆ ค่ายเริ่มงัดกลยุทธ์เด็ดๆ ออกมาเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบ โดยเฉพาะค่ายมาสด้าที่ออกประกาศลงดวนศึกกับโครงการรถยนต์คันแรกอย่างเต็มตัวมาตั้งแต่ต้น ยกที่สองอัดแคมเปญพิเศษหวังตรึงลูกค้าให้อยู่หมัด ทั้งฟรีประกันภัยชั้น1 นานถึง 2 ปี ฟรีค่าบำรุงรักษานาน 2 ปี หรือดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้น 1.99 แม้ว่ายอดขายจะประสบความสำเร็จถล่มทะลายเกินเป้าหมายและเติบโตแบบก้าวกระโดดมาตลอดทั้งปี โดยเฉพาะเดือนตุลาคมที่ผ่านมายังทำสถิติใหม่อีก มาสด้า2 ทำสถิติยอดขายสูงสุดในรอบปี 3,616 คัน แถมพ่วงด้วยปิกอัพสไตล์เก๋ง มาสด้า บีที-50 โปรใหม่ ที่ทำสถิติโตสูงสุดถึง 309 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 3,115 คัน ส่งให้เดือนตุลาคมยอดขายทะลุ 7 พันคัน เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน

นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวว่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ในปีนี้มีโอกาสได้เห็นการเติบโตตลาดรถยนต์ของประเทศไทย ทั้งตัวเลขยอดขายที่เกิน 1 ล้านคัน รวมทั้งยอดการผลิตที่เกิน 2 ล้านคัน ภายในปีเดียวกัน ที่สำคัญมาสด้าก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดเช่นเดียวกัน ซึ่งในปีนี้อาจเห็นตัวเลขยอดขายที่มากกว่า 70,000 คัน โดยเฉพาะมาสด้า2 กับมาสด้า บีที-50 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ด้วยสมรรถนะและคุณภาพอันยอดเยี่ยม ประกอบเข้ากับการได้รับสิทธิ์จากโครงการรถคันแรกแบบเต็มๆ ส่งผลให้ยอดการจำหน่าย 10 เดือนของปีนี้ (มกราคม-ตุลาคม) มียอดขายทะลุเกือบ 60,000 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 69% เกินเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี
สำหรับยอดขายรถยนต์มาสด้าในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาตลาดรถยนต์มีความคึกคักมากยิ่งขึ้นกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมาส่งผลให้ยอดขายรถยนต์มาสด้าทะลุเกิน 7,000 คันเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยมียอดขายสูงถึง 7,201 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 119% โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมาสด้า2 ทั้งรุ่นสปอร์ต แฮตช์แบค 5 ประตู และเอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู สามารถทำยอดขายสูงสุดในรอบปี มียอดขายจำนวน 3,616 เพิ่มขึ้น 58% และรถปิกอัพฮีโร่มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ จำนวน 3,115 คัน เติบโตสูงสุดถึง 306% รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 ใหม่ เครื่องยนต์ 1.6 และ 2.0 ลิตรใหม่ จำนวน 470 เพิ่มขึ้น 106% และรถยนต์ประเภทพรีเมี่ยมคาร์ จำนวน 1 คัน ส่งผลให้ยอดขายรวม 10 เดือนทะลุถึง 59,372 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นสูงถึง 69 เปอร์เซ็นต์
ทางด้านผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี กล่าวว่า นี่คือโค้งสุดท้ายของผู้ขายและผู้ซื้อจริงๆ ไม่มีเวลาให้ตัดสินใจอีกแล้ว ถ้ายังมีความลังเลอาจทำให้พลาดโอกาสงามๆ ไป เพราะตั้งแต่หลังเกิดวิกฤตน้ำท่วมเป็นต้นมาตลาดรถยนต์เริ่มดีดกลับ ความต้องการของลูกค้ามีสูงมาก แต่ไม่สามารถตอบสนองได้ทันตามความต้องการ พร้อมๆ กับการถูกกระตุ้นจากโครงการรถคันแรก ส่งผลให้ทุกค่ายต่างแบกรับยอดจองไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของมาสด้าก็มียอดจองเข้ามามากเช่นเดียวกัน แต่ได้มีการปรับกลยุทธ์ทั้งการผลิตการส่งออกทำให้เราสามามรถบริหารยอดจองกับยอดส่งมอบได้ในสัดส่วนที่ลงตัว นอกจากนี้ในเดือนต่อๆ ไปมาสด้าจะมียอดการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ฉะนั้นระยะเวลาในการส่งมอบจะสั้นลง ลูกค้าจะได้รับรถใหม่เร็วขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการเปิดโปรโมชั่นพิเศษใหม่นี้เพื่อขอบคุณที่ลูกค้าให้ความสนใจในรถยนต์มาสด้า และเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อของลูกค้าในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้
นางสาวสุรีทิพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับลูกค้าที่ต้องการได้รับสิทธิ์รถยนต์คันแรก โอกาสทองมาถึงแล้ววันนี้ นอกจากจะได้รับสิทธิ์ในการคืนภาษีเต็มจำนวน 100,000 บาทแล้ว มาสด้ายังจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษขอบคุณลูกค้าเฉพาะเดือนนี้เท่านั้นสำหรับรถยนต์นั่งมาสด้า2 มาสด้าช่วยดูแลด้วยการมอบฟรีค่าบำรุงรักษานานถึง 2 ปี (สำหรับรุ่น V และ R) ฟรีประกันภัยชั้น 1 ด้วยเงินดาวน์เพียง 25% ดอกเบี้ยเพียง 2.35% ผ่านนานสูงสุด 48 เดือน สำหรับรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ รับเงินคืนสูงสุด 96,000 บาท รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งทุกรุ่น ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.35% ผ่านนานสูงสุด 48 เดือน รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 เครื่องยนต์ 1.6 และ 2.0 ลิตรใหม่ ฟรีประกันภัยชั้น 1 นานถึง 2 ปี ดาวน์ 25% หรือเลือกรับดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 1.99% ผ่อนนาน 48 เดือน และที่สำคัญจองวันนี้ สามารถรับรถได้ทันทีทุกรุ่นทุกสี รถยนต์มาสด้าทุกรุ่นยังรับประกันคุณภาพนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และบริการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ฉะนั้นรีบตัดสินใจโอกาสเดียวเท่านั้น หาไม่ได้อีกแล้ว
ตารางยอดจำหน่ายรวมรถยนต์มาสด้า มกราคม – ตุลาคม ปี พ.ศ. 2555 เปรียบเทียบ ปี พ.ศ. 2554
Modelตุลาคม 55ตุลาคม 54เปลี่ยนแปลง% ม.ค.-ต.ค. 55ม.ค.-ต.ค. 54เปลี่ยนแปลง%
Mazda2
3,616
2,288
+ 58%
 
32,090
22,231
+ 44%
Mazda3
470
228
+ 106%
 
4,837
4,566
+ 6%
Mazda BT-50
3,115
768
+ 306%
 
22,423
8,302
+ 170%
Premium car
1
0
+ 100%
 
22
32
- 31%
ยอดรวม
7,202
3,284
119%
 
59,372
35,131
+ 69%

http://www.mazda.co.th
Zoom-Zoom เราใส่ความเป็นสปอร์ตลงไปในรถทุกคันที่เราผลิต

นิสสัน ประกาศแผนลงทุนเพิ่ม 11,000 ล้านบาท - เตรียมผุดโรงงานใหม่ รองรับการเติบโต -

*เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตอีกจำนวน 75,000 คันในเดือนสิงหาคม 2557 และพร้อมที่จะขยายเพิ่มกำลังการผลิตเป็นจำนวน 150,000คันต่อปีในอนาคตข้างหน้า
*โรงงานใหม่จะเพิ่มแรงงานให้กับประเทศอีก 2,000 คน
*ประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อการส่งออกของภูมิภาคอาเซียน

กรุงเทพมหานคร วันที่ 2 พฤศจิกายน 2555 : บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศแผนลงทุนใหม่ มูลค่า 11,000 ล้านบาท (หรือ 358 ล้านดอลลาร์สหรัฐ*) เพื่อสร้างโรงงานประกอบรถยนต์แห่งที่ 2 ในประเทศไทย โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการผลิตในเดือนสิงหาคม 2557 ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับกลยุทธ์การเติบโตของนิสสัน ในภูมิภาคอาเซียนและเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับโรงงานนิสสัน ในประเทศไทย โดยโรงงานใหม่แห่งนี้จะมีกำลังการผลิตต่อปีในช่วงเริ่มต้นของการเปิดดำเนินการที่จำนวน75,000 คันและจะขยายเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 150,000 คันต่อปีในอนาคต

“โรงงานแห่งใหม่นี้ จะทำให้นิสสันประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน” มร. ฮิโรโตะ ไซกาวา รองประธานบริหาร บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด กล่าว “การลงทุนครั้งนี้ เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายของแผนธุรกิจ Nissan Power 88 – ที่มุ่งผลักดันให้นิสสันทั่วโลกเติบโตทั้งในส่วนแบ่งทางการตลาดและผลกำไรที่ยั่งยืนของภูมิภาคที่สำคัญนี้”

“การเพิ่มกำลังการผลิตอีก 150,000 คัน ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของตลาดภายในประเทศ แต่ยังตอกย้ำว่าประเทศไทยคือศูนย์กลางการผลิตเพื่อการส่งออกที่สำคัญของนิสสันอีกด้วย” มร. ไซกาวา กล่าวเสริม

ปัจจุบัน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์นั่งและรถกระบะภายใต้ชื่อแบรนด์นิสสัน อยู่ที่ถนนบางนา-ตราด กม 21 จังหวัดสมุทรปราการ มีกำลังการผลิตที่ 220,000 คันต่อปี และมีการจ้างงานในส่วนของโรงงานทั้งสิ้น 6,000 คน



สำหรับโรงงานแห่งใหม่ของนิสสันจะตั้งอยู่บริเวณถนนบางนา-ตราด โดยในช่วงแรกจะเป็นโรงงานใหม่ที่ใช้ประกอบรถกระบะนิสสัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดประเทศ และเพื่อส่งออกไปยังตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยเมื่อโรงงานแห่งนี้เสร็จสมบูรณ์และเปิดดำเนินการผลิตเต็มกำลัง จะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 370,000 คันต่อปี

“การลงทุนครั้งนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 15 % ภายในปี 2559 ซึ่งเราได้ตั้งเป้าไว้ในแผนธุรกิจของประเทศไทย Power Up 2016” มร.ทาคายูกิ คิมูระ ประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว และเสริมว่า “การเพิ่มศักยภาพในการผลิตที่นี่ เป็นการยืนยันพันธสัญญาและแสดงเชื่อมั่นต่อตลาดในประเทศไทย เราคาดว่าโรงงานแห่งนี้จะสร้างงานและรายได้ให้กับประชาชนชาวไทยเพิ่มขึ้นกว่า 2,000 อัตรา”

นิสสัน ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายแรกที่เริ่มบุกเบิกตลาดในประเทศไทย โดยเริ่มดำเนินการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ 2495 ตลอดระยะเวลา 60 ปีแล้วที่นิสสันได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ปัจจุบัน นิสสัน มีรถยนต์และรถกระบะที่ทำตลาดในประเทศอยู่ทั้งหมด 7 รุ่น ได้แก่ นิสสัน เทียน่า นิสสัน ซิลฟี นิสสัน ทีด้า นิสสัน อัลเมร่า นิสสัน มาร์ช นิสสัน เอ็กซ์เทรล และนิสสัน นาวาร่า

*ค่าเงินสกุลดอลลาห์สหรัฐมีไว้เพื่อความสะดวกของผู้อ่าน โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ 30.6804933 บาท/ดอลลาร์

สแกนเนีย เปิดกลยุทธ์ ชิงพื้นที่ยุทธ์ศาสตร์ รุกศูนย์บริการทั่วประเทศรับ AEC พร้อมจัด Scania Driver Competitions Thailand 2012 การแข่งขันทักษะการขับขี่รถบรรทุกและรถโดยสารที่ใหญ่ที่สุดของไทย ชิงรางวัลเงินสดและของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท หวังยกระดับนักขับรถมืออาชีพไทยสู่ระดับสากล


ตลาดรถบรรทุกและรถโดยสาร คึกรับ AEC สแกนเนีย ชูแผนยุทธ์ศาสตร์ ชิงพื้นที่สำคัญเปิดศูนย์บริการทั่วประเทศ ชี้ประเทศไทยได้เปรียบเพราะเป็นศูนย์กลางการขนส่งของอาเซียน พร้อมใช้จุดเด่นเทคโนโลยียุโรปพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพสูง ประหยัด ปลอดภัย และ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ล่าสุดร่วมมือกับภาครัฐและองค์กรที่เกี่ยวข้องจัดการแข่งขันรถบรรทุกและรถโดยสารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย สแกนเนีย ไดร์เวอร์ คอมเพททิชั่น 2012 (Scania Thailand Driver Competitions Thailand 2012) ชิงเงินสดและของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท หวังยกระดับความสามารถและทักษะการขับขี่นักขับรถไทยให้สามารถแข่งขันในอาเซียนได้

นายภูริวัทน์ รักอินทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด (Mr. Phuriwat Rak-Intr, General Manager of Scania Siam Co., Ltd) เปิดเผยถึงนโยบายและแผนยุทธ์ศาสตร์ของ สแกนเนีย ที่มีต่อประเทศไทยว่า จะมีการดำเนินยุทธ์ศาสตร์ในเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมขนส่งของไทยมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ ที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ของอาเซียน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2558 ที่จะมีการร่วมกลุ่มกันเป็นเขตเศรษฐกิจเสรีการค้าอาเซียน (AEC) จะทำให้ภาคอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ของไทยได้รับอานิสงค์เติบโตขึ้นอย่างมาก

โดยการเติบโตของตลาดรถบรรทุกเติบโตประมาณปีละ 20% และตลาดรถโดยสารปกติจะเติมโตประมาณปีละ 10% แต่ในปีที่ผ่านมาจะมีการชะลอตัวไปบ้างจากการเกิดปัญหาอุทกภัย ทำให้ยอดรวมของรถบรรทุกและรถโดยสารในปีที่แล้ว (2554) อยู่ที่ 14,800 คัน แต่ในปีนี้ (2555) คาดว่าจะยอดรวมของตลาดจะกลับมาเป็นปกติ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 17,200 คัน ซึ่งในส่วนของ สแกนเนีย นั้น ปีที่ผ่านมา (2554) มียอดขายร่วมรถบรรทุกและรถโดยสารอยู่ที่ 307 คัน สำหรับในปีนี้ (2555) คาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 14% หรือประมาณ 350 คัน

นอกจากนั้น สแกนเนีย ยังมีนโยบายในการขยายศูนย์บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น โดยเลือกจังหวัดที่เป็นจุดยุทธ์ศาสตร์สำคัญด้านการขนส่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 6 แห่ง คือ สมุทรปราการ หาดใหญ่ แหลมฉบัง สระบุรี สุราษฏ์ธานี และ ตาก โดยจะขยายเพิ่มอีก 8 แห่งในปี 2556 - 2557 คือ ขอนแก่น


เชียงใหม่ นครสวรรค์ นครราชสีมา นครปฐม ระยอง มุกดาหาร และปทุมธานี เพื่อให้บริการแก่ลูกค้า และ รองรับเส้นทางการค้า การขนส่งสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย


สำหรับด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์นั้ สแกนเนีย ใช้เทคโนโลยีการพัฒนาผลิตภัณฑ์มาตรฐานเดียวกันกับยุโรป เน้นที่การพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิ์ภาพสูง ประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 5-10% ให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ด้วยการออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ความปลอดภัยสูง และ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังมีการพัฒนาความสามารถและทักษะของผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจขนส่ง ให้สามารถควบคุมและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิ์ภาพ

ล่าสุด สแกนเนีย ได้ร่วมมือกับ กระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก สถาบันยานยนต์ สถานทูตฑูตสวีเดน มูลนิธิง่วงอย่าขับ ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และบริษัท มิชลินสยาม จำกัด จัดการแข่งขัน สแกนเนีย ไดร์เวอร์ คอมเพ็ดทิชั่น 2012  (Scania Driver Competitions Thailand 2012) การแข่งขันทักษะการขับขี่รถบรรทุกและรถโดยสารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยขึ้น ชิงเงินสดและรางวัลมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท โดยการแข่งขันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นในประเทศไทย เพื่อค้นหาสุดยอดนักขับรถมืออาชีพ พร้อมยกระดับความสามารถและทักษะของผู้ขับขี่รถบรรทุกและรถโดยสารให้มีการขับขี่อย่างปลอดภัย ลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนน ลดมลภาวะทางอากาศ และ ลดปริมาณการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในการขับขี่ สำหรับกฏและกติกาต่างๆ ที่ใช้ในการแข่งขันนั้น จะใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับการแข่งขัน Scania Driver Competitions ทั่วโลก ทั้งนี้เพื่อต้องการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนักขับไทยที่มีความสามารถและมีมาตรฐานทัดเทียมกันกับนักขับทั่วโลก

โดยการแข่งขันจะแบบเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทรถบรรทุก และ รถโดยสาร ซึ่งในปีนี้มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมการแข่งขันจำนวนมากกว่า 1,000 คน และผู้สมัครเพียง 10 คนเท่านั้นที่จะผ่านการทดสอบในรอบคัดเลือก เพื่อเข้าไปแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2555 ที่ เมโทร ไลฟ์ พาร์ค (Metro Life Park) ถนนพระราม9 ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมการแข่งขันครั้งนี้ได้ฟรี ซึ่งการแข่งขัน สแกนเนีย ไดร์เวอร์ คอมเพททิชั่น 2012  Scania Driver Competitions Thailand 2012 ครั้งนี้ นอกจากจะช่วยยกระดับนักขับรถบรรทุกและรถโดยสารของไทยแล้ว ยังเป็นต้นแบบให้กับการจัดการแข่งขันรถบรรทุกและรถโดยสารให้กับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved