Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

ฮอนด้าเปิดตัว CBR1000RR 2 ลายใหม่โดนใจคนรักบิ๊กไบค์ในงานบางกอกไบค์เฟสฯ พร้อมเปิดรับจอง CB500X แล้วตั้งแต่ 30 มกราคมนี้เป็นต้นไป





ศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิง สร้างความร้อนแรงให้กับงาน Bangkok Motorbike Festival 2013 ด้วยการเปิดตัว Honda CBR1000RR สองลายใหม่ล่าสุดนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ทั้งแบบ Tri-Color สุดโฉบเฉี่ยว กับการผสมผสานที่ลงตัวที่สุดของเส้นสายสีแดงและน้ำเงิน บนตัวรถสีขาว หรือเลือกเติมเต็มความสปอร์ตในหัวใจกับ Repsol Version ที่ถอดแบบความเท่มาจากรถแข่งของทีม Repsol Honda แห่งศึกโมโตจีพี สนนราคา 829,000 บาท และ 843,000 บาท ตามลำดับ พร้อมทั้งเปิดรับจอง Honda CB500X บิ๊กไบค์แบบ Crossover สำหรับคนชอบผจญภัย ที่ถูกเปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้วด้วยราคา 215,000 บาท

          สำหรับ Honda CBR1000RR ถูกออกแบบให้สะกดทุกสายตาตั้งแต่หัวจรดท้ายด้วยไฟหน้าคู่ และแฟริ่งที่ผสานเข้ากับโครงสร้างตัวถังที่ปราดเปรียว ทะยานแรงด้วยเครื่องยนต์ สูบ 16 วาล์ว หัวฉีด PGM-FI 1,000cc. เกียร์ สปีด ระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ BPF(Big Piston Fork) และกันสะเทือนหลังแบบอิสระออกแบบพิเศษจากค่าย Showa ดิสก์เบรกหน้าแบบจานคู่พร้อมคาลิปเปอร์รวมลูกสูบ ทำงานควบคู่ไปกับระบบกระจายแรงเบรก Combined ABS เพื่อความปลอดภัยในทุกระดับความเร็ว

          


ในส่วนของ Honda CB500X ใช้เครื่องยนต์ สูบแบบ DOHC หัวฉีด PGM-FI ขนาด 500 cc. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขับขี่คล่องตัวด้วยโครงสร้างที่เพรียวลม ระบบกันสะเทือนหน้าถูกปรับให้มีระยะยุบที่มากกว่า พร้อมระบบกันสะเทือนหลังแบบโปรลิงค์ ท่านั่งของผู้ขับขี่ถูกปรับให้มีความเหมาะสมสำหรับทุกเส้นทางเพื่อความสนุกทั้งบนทางเรียบ และทางฝุ่น ทันสมัยด้วยมาตรวัดแสดงผลความเร็ว รอบเครื่อง และน้ำมันแบบ LCD

          ผู้ที่สนใจ Honda CBR1000RR และ Honda CB500X สามารถแวะชมรถจริงพร้อมทั้งจับจองเป็นเจ้าของได้ภายในงาน Bangkok Motorbike Festival 2013 ซี่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มกราคม จนถึง 3กุมภาพันธ์นี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

เอเอเอสฯ เปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมหรูจากอังกฤษ เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที สปีด (CONTINENTAL GT SPEED) รุ่นที่เรียกว่าเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา


บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมหรูจากอังกฤษ ที่สุดของความสมบูรณ์แบบและความทรงพลังอย่างเต็มพิกัด เบนท์ลี่ย์  คอนติเนนทอล จีที สปีด(Continental GT SPEED) ในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ณ โชว์รูม Performance Auto Gallery (PAG) ชั้น สยามพารากอน

·          เปิดตัวในงาน Goodwood Festival of Speed 2012
·          625 PS,  800 นิวตันเมตร สามารถทะยานไปได้ถึง 205 ไมล์ต่อชั่วโมง (329 กม./ชม.)
·          ลดระดับความสูงของตัวถัง เพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบช่วงล่าง เพื่อความเป็นสปอร์ตมากขึ้นและให้ประสบการณ์การขับขี่อย่างเบนท์ลี่ย์ที่สมบูรณ์แบบ
·          การออกแบบในรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์แบบ Speed design cues และห้องโดยสารที่ตกแต่งด้วย Mulliner
·          ระบบส่งผ่านกำลังอัตโนมัติ สปีด  

เมือง Creweประเทศอังกฤษ. เบนท์ลี่ย์ส่งรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพความเร็วสูงสุดออกมาให้ได้ยลโฉมแล้ว นั่นคือ คอนติเนนทัล จีที สปีด คูเป้ (Continental GT Speed Coupeซึ่งสามารถทะยานไปได้ไกลอย่างไม่หยุดยั้งถึง 205 ไมล์ต่อชม. (329 กม./ชม.จีที สปีด (GT Speedคันนี้จะออกมาตอบโจทย์บรรดาแฟนๆ ผู้ที่      ชื่นชอบและหลงใหลรถที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพที่โดดเด่น ปราดเปรียว มีรูปลักษณ์การออกแบบที่ไม่เหมือนใครและเต็มไปด้วยความสปอร์ตที่หรูหราอย่างมีระดับได้เป็นอย่างดี
 พละกำลังเครื่องยนต์ของคอนติเนนทัล จีที สปีด (Continental GT Speedใหม่ล่าสุดได้มาจากเครื่องยนต์ขนาด ลิตร 48 วาล์ว ทวินเทอร์โบW12 และสามารถสร้างกำลังเครื่องยนต์ได้สูงสุดถึง 616 แรงม้า หรือ 460 กิโลวัตต์ ที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 800นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 4.2 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 329 กม./ชม.

พละกำลังเครื่องยนต์ที่เหนือชั้นของรุ่นจีที สปีด (GT Speed) ใหม่ล่าสุดนี้จะส่งผ่านกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ จังหวะที่มีอัตราการทดเกียร์ที่สั้นและทรงประสิทธิภาพเหนือใคร ผู้ขับขี่จะปรับเปลี่ยนระดับเกียร์ผ่านการควบคุมด้วยซอต์ฟแวร์เพื่อการทำงานที่ลงตัว อีกทั้งยังช่วยในการลดอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงลงอีก 12% และช่วยลดอัตราการปล่อยมลพิษอีกด้วย

ความท้าทายในการพัฒนาประสิทธิภาพของจีที สปีด (GT Speed) คันนี้คือการปรับเปลี่ยนตัวถังซึ่งรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบพวงมาลัย ระบบกันสะเทือน และระดับความสูงต่ำของรถด้วยเช่นกัน ล้อมาตรฐานกับล้อ 21 นิ้วลาย Speed Wheels ที่มาพร้อมกับยาง Pirelli PZeroขนาด 275 35 R21 ที่ทำงานคู่กันได้อย่างลงตัว ผลลัพธ์ที่ได้คือความสปอร์ตที่เพิ่มมากขึ้น การรักษาเสถียรภาพของรถได้มากขึ้น และแน่นอนการทรงตัวและการเกาะถนนก็ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

มร. Wolfgang Dürheimer ประธานกรรมการและกรรมการบริหารจากเบนท์ลี่ย์ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ จีที สปีด         (GT Speed) ใหม่ล่าสุดนี้ไว้ว่า:

เกือบจะทศวรรษแล้วที่เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที (Continental GT) ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นแกรนด์ทัวริ่งที่ เหนือชั้นทั้งในเรื่องของความหรูหรา ความทรงพลัง และพละกำลังที่มหาศาลจากเครื่องยนต์ W12 ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และในตอนนี้จีที สปีด (GT Speed) ใหม่ล่าสุดนี้จะออกมาพร้อมกับความเป็นสปอร์ตมากขึ้น และพร้อมจะเข้าไปทำตลาดในส่วนของตลาดคูเป้แล้ว
 การออกแบบเน้นในเรื่องของรูปลักษณ์ที่ให้สัมผัสถึงความเป็นสปอร์ตที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างตัวรถที่แข็งแกร่ง หรือความลงตัวของรูปทรงที่สง่างาม ตามรูปแบบความเป็นคอนติเนนทัล คูเป้ (Contiental Coupe) อีกชิ้นส่วนที่โดดเด่นคือตระแกรงหน้าแบบเมทริกซ์สีดำที่มาพร้อมกับช่องดักอากาศด้านล่างและปลายท่อไอเสียแบบ ‘rifled’ ที่ผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว
จีที สปีด (GT Speed) ใหม่ล่าสุดนี้เต็มไปด้วยประสิทธิภาพของรถที่เหนือชั้น และมาพร้อมกับความสะดวกสบาย และงานฝีมือที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ อุปกรณ์และชิ้นส่วนภายในต่างๆ ได้รับการคัดสรรและเลือกใช้แต่วัสดุที่มีคุณภาพ ภายในห้องโดยสารได้รับการตกแต่งด้วย Mulliner Driving Specification มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการผสมผสานความร่วมสมัยที่หรูหราอย่างมีระดับเข้าไว้กับลักษณะความเป็นสปอร์ตได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
ระบบขับเคลื่อนจะใช้ระบบเดียวกันกับที่ใช้ในคอนติเนนทัล (Continental) รุ่นอื่นๆ นั่นคือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Permanent all-wheel driveที่ติดตั้งควบคู่กับชุดเฟืองท้าย Torsen differential เพื่อให้ได้มาซึ่งพละกำลังที่มหาศาลรวมไปถึงแรงบิดที่เหนือชั้นสำหรับจีที สปีด (GT Speed)ใหม่ล่าสุดคันนี้ อีกทั้งยังสร้างความมั่นใจในเรื่องของการ เกาะถนนและทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยมไม่ว่าจะอยู่สภาพถนนหรือสภาพอากาศแบบใดก็ตามที   
จีที สปีด (GT Speed) ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Goodwood Festival of Speed ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และจะเริ่มส่งมอบได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นต้นไป
สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาหรือสอบถามเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้จาก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ พร้อมให้บริการรถเบนท์ลี่ย์ของท่าน และซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากทางเอเอเอสฯ เท่านั้นที่สามารถได้สิทธิ์การรับประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมการบริการดูแลและบำรุงรักษารถยนต์เบนท์ลี่ย์จากผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ ตลอด 5 ปี (5 Years Free Service Package) มากกว่านั้นเอเอเอสฯ ยังมอบบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงตลอดระยะเวลารับประกัน และบริการสายด่วนให้คำแนะนำปรึกษาทางเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมง* โดยรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ซื้อจากทางเอเอเอสฯ เท่านั้น ที่จะสามารถเข้ารับบริการจากศูนย์บริการของทาง        เอเอเอสฯ ได้ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่ ทร. 02-522-6703 หรือ 02-610-9911 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่  www.bentleymotors.com
*Terms & Condition Apply

 ข้อความจากผู้เขียน
1. จีที สปีด (GT Speed) ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่น ‘Speed’ ที่เป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่ของเบนท์ลี่ย์ในปี 1923 จากนั้นเบนท์ลี่ย์ประสบความสำเร็จอย่างมากในเรื่องของการเกาะถนน การรักษาเสถียรภาพของรถ และการเบรกจากเครื่องยนต์เบนท์ลี่ย์ขนาด ลิตร แต่ W.O. Bentley ผู้ก่อตั้งบริษัทได้มองเห็นความเป็นไปได้ว่าบรรดาผู้ที่ชื่นชอบเบนท์ลี่ย์นั้นคงต้องการประสิทธิภาพของรถที่เหนือชั้นขึ้นไปอีก เขาจึงตอบสนองความต้องการนี้ด้วยการสร้างรุ่น ‘Speed Model’ ขึ้นมา ซึ่งเป็นรุ่นที่ติดตั้ง SU carburettors เข้าไป และทำให้เครื่องยนต์มีสัดส่วนกำลังอัดที่สูงขึ้น และได้กลายมาเป็นหลักการในการพัฒนารถยนต์เบนท์ลี่ย์เรื่อยมา จีที สปีด (GT Speed) เจเนอเรชั่นแรกได้รับการแนะนำขึ้นในปี 2007 และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและได้รับการตอบรับอย่างดีทั่วโลกอีกด้วย
2. เบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ คือบริษัทผลิตรถยนต์ในประเทศอังกฤษที่มีอัตราการลงทุนเพื่อการพัฒนามาเป็นอันดับสาม และเปิดทำการมานาน บริษัทมีพนักงานกว่า 4,000 คนที่เมือง Crewe ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งของบริษัท มีทั้งแผนกออกแบบ แผนกวิจัยและพัฒนา วิศวกร และโรงงานผลิต เกือบทุกชิ้นส่วนของรถนั้นทำจากงานฝีมือของช่างที่มีความเชี่ยวชาญมาหลายยุคหลายสมัย และรถทุกคันยังได้รับการพัฒนาขึ้นจากวิศวกรยานยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและแตกต่างจากโรงงานผลิตรถยนต์หรูหราค่ายอื่นๆ อีกทั้งรถยนต์จากเบนท์ลี่ย์เป็นรถยนต์จากอังกฤษที่มีคุณค่าสูง เบนท์ลี่ย์มีการส่งออกสินค้าที่มีมูลค่ากว่า 500 ล้านปอนด์ในแต่ละปี เพื่อสร้างฐานตลาดให้ มากขึ้นเหมือนในสหรัฐอเมริกา เช่น เจาะตลาดในประเทศจีน และประเทศทางอเมริกาใต้

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์บนท์ลี่ย์  ได้ที่
แผนก
การตลาดและประชาสัมพันธ์  โทร. 02-522-6655 ต่อ 448
บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด  
ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย 

“ทีเอสแอล” จัดกิจกรรม TSL Film Festival 2013 ครั้งที่ 100 กระชับสัมพันธ์ลูกค้าร่วมชมภาพยนตร์แอคชั่น Hansel and Gretel


จากภาพ   บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายยนตรกรรมชั้นนำจากต่างประเทศแบบครบวงจร ขอประเดิมศักราชใหม่ปี 2556 ด้วยการจัดกิจกรรม “TSL Film Festival” ในคอนเซปท์ “ชมภาพยนตร์ครั้งที่ 100” เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างบริษัทฯ และลูกค้าคนพิเศษให้แนบแน่นยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ได้เชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์เข้าร่วมสัมผัสกับความตื่นเต้นสุดระทึกในภาพยนตร์เรื่อง Hansel and Gretel:นักล่าแม่มดพันธุ์ดิบ ภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น-ทริลเลอร์ฟอร์มใหญ่แห่งปี ณ โรงภาพยนตร์ SF World Cinema ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา

ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำอันดับหนึ่งรถยนต์นำเข้าอิสระ “ทีเอสแอล” ทุ่มงบสนับสนุนด้านการกีฬา ประเดิมที่แรก “สโมสรภูเก็ต เอฟซี”


“ทีเอสแอล” ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งรถยนต์นำเข้าอิสระของเมืองไทย เดินหน้าเสริมภาพลักษณ์มุ่งเน้นด้าน Sport Marketing ทุ่มงบ 1 ล้านบาท สานต่อโครงการ “ทีเอสแอล แชร์ริ่ง เลิฟ” ให้การสนับสนุนสโมสร “ภูเก็ต เอฟซี” ทีมฟุตบอลประจำจังหวัดภูเก็ต
นายชนาสิน บำรุงชน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายยนตรกรรมชั้นนำจากต่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า “หลังจากการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแบบครบวงจร ณ จังหวัดภูเก็ต เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา ทีเอสแอลก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณและร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับชาวภูเก็ต ทีเอสแอลจึงได้เข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ตมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรม TSL Film Festival @ Central Festival Phuket ครั้งที่ 1 ที่ทีเอสแอลเชิญชวนลูกค้าของสาขาภูเก็ตมาชมภาพยนตร์ร่วมกัน เพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างบริษัทกับลูกค้า, กิจกรรมสืบสานประเพณีท้องถิ่น “อิ่มบุญกับเทศกาลกินเจภูเก็ต” ที่จัดขึ้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา” ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงกิจกรรมบางส่วนที่ ทีเอสแอลเข้าร่วมกับชาวภูเก็ต

และในปีนี้ ทีเอสแอลยังคงสานต่อเจตนารมณ์ในการเข้าร่วมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งกับชาวภูเก็ต โดยบริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เข้าร่วมสนับสนุนทีมฟุตบอล “ภูเก็ต เอฟซี” นำทีมโดย “คุณปมุข อัจฉริยะฉาย” ดำรงตำแหน่งประธานสโมสรภูเก็ต เอฟซี โดยในฤดูกาล 2556 นี้ ทีมภูเก็ต เอฟซี ได้เลื่อนชั้นเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 1 จากตารางการแข่งขันของปี 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งสโมสรภูเก็ต เอฟซี มีเป้าหมายที่สำคัญในการแข่งขันก็คือ การก้าวไปสู่การแข่งขันไทย พรีเมียร์ ลีกภายในระยะเวลา 2 ปี และจากความมุ่งมั่นดังกล่าวของสโมสรภูเก็ต เอฟซี ยิ่งทำให้ ทีเอสแอล ต้องการที่จะให้การสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อทางสโมสรฯ ได้มีการจัดตั้ง “โครงการนักเตะภูเก็ต” และ “โครงการคลีนิกฟุตบอลเพื่อเยาวชน” ขึ้น ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์หลักของโครงการ “ทีเอสแอล แชร์ริ่ง เลิฟ” ที่มีแผนจะสนับสนุนเยาวชนในจังหวัดภูเก็ตที่มีความสามารถด้านกีฬา แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้ได้พัฒนาทักษะเฉพาะด้าน เพื่อก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพในอนาคต

นอกจากนี้ ด้วยงบประมาณจำนวน 1 ล้านบาท ที่ดำเนินการผ่านโครงการ ทีเอสแอล แชร์ริ่ง เลิฟ ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักๆ คือ เพื่อต้องการตอบแทนสังคมผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ในรูปแบบต่างๆ โดย ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด “ดำรงค์ นิลรังษี” ได้กล่าวถึงความตั้งใจของบริษัทฯ กับโครงการ ทีเอสแอล แชร์ริ่ง เลิฟ เพิ่มเติมว่า “โครงการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาโครงการนี้มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับเยาวชนในรูปแบบของการให้ทุนการศึกษา โดยเยาวชนทั้งหมดของโครงการนี้ได้ผ่านการคัดสรรจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แต่ในปีนี้โครงการ ทีเอสแอล แชร์ริ่ง เลิฟ ไม่ได้มุ่งเน้นที่จะให้การสนับสนุนเฉพาะเยาวชนเท่านั้น เพราะทีเอสแอลได้มุ่งเน้นการเข้าไปมีส่วนร่วมกับสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมท้องถิ่นอย่างจังหวัดภูเก็ต ที่เป็นบ้านอีกหนึ่งหลังของทีเอสแอล

สำหรับความเคลื่อนไหวของสโมสรภูเก็ต เอฟซี หลังจากจบฤดูกาล 2555 ที่ผ่านมานั้น ทีมภูเก็ต เอฟซี ได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในหลายๆ ด้าน โดย “โกเอี๊ยม” คุณเอี่ยม ถาวรว่องวงศ์ ได้ส่งมอบตำแหน่งผู้จัดการทีมให้แก่ “โกเจี๊ยบ” คุณจักภพ สู้งาน รับหน้าที่ต่อ พร้อมทั้งได้ “โค้ชตู่” คุณพนิพล เกิดแย้ม จากทีมอาร์มี่ ยูไนเต็ด มาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ซึ่งทั้งสองท่านนี้ก็ได้ช่วยกันคัดสรรนักเตะจากหลากหลายทีมที่มีคุณภาพเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมภูเก็ต เอฟซี อาทิ “ดูดู้” หลุยซ์ เอดูอาร์โด้ ปูร์ซิโน ดาวยิงชาวบราซิเลียนจากทีมโอสถสภา เอ็ม150 สระบุรี, จอร์จี้ มาคูลิเซ่ ปีกจอมเทคนิคจากทีมบางกอกกล๊าซ เอฟซี, เจฟฟี่ย์ ดูแม็งก์ จอมทัพชาวฝรั่งเศสจากทีมชลบุรี เอฟซี ร่วมด้วย อดิศักดิ์ ดวงศรี, ยากิน ชุน และธนาเทพ เจียระดับ จากทีม ปตท.ระยอง, กฤษดา สาแก้ว กองกลางจากทีมสิงห์ ท่าเรือ, สะการียา กอและ และ นินูรุดดีน นิเดร์หะ เจ้าของฉายา “สไปเดอร์-มิง” จากทีมปัตตานี เอฟซี เป็นต้น

ทั้งหมดนี้คือ ความตั้งใจของทีเอสแอลและชาวภูเก็ตทุกคนที่ต้องการจะทำให้ “ทีมภูเก็ต เอฟซี” กลายเป็นทีมฟุตบอลที่เป็นความภาคภูมิใจของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งนอกเหนือจากภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวทางชายทะเลในระดับโลกแล้ว รวมทั้งยังเป็นการดำเนินงานตามนโยบายส่งเสริมการกีฬาควบคู่กับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอีกด้วย

ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยฮอตส่งท้ายปีมะโรง ทำนิวไฮที่ 2.13 ล้านคัน! เติบโตถึง 6% ฮอนด้าแชมป์ 24 ปีซ้อน พร้อมทำสถิติจำหน่ายทะลุ 20 ล้านคันเป็นรายแรกในไทย

รายงานตัวเลขยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไทยเดือนธันวาคม 2012 ร้อนแรงส่งท้ายปี ฮอนด้ามาแรงโตแซงตลาดพร้อมทำสถิติคว้าแชมป์ยอดจำหน่ายสะสมสูงสุดเป็นปีที่ 24 ติดต่อกัน พ่วงด้วยการทำสถิติยอดจำหน่ายทะลุหลัก 20 ล้านคันเป็นรายแรกในประเทศไทย และเป็นรายที่ 4 ของโลกที่ทำสถิติดังกล่าวได้สำเร็จ สะท้อนความมั่นใจที่คนไทยมีต่อแบรนด์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ในฐานะสินค้าคุณภาพระดับโลก ที่ตอบทุกโจทย์ความต้องการของคนไทยมาอย่างยาวนาน

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหารบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในเดือนสุดท้ายของปียังคงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจรอบด้านที่เป็นไปในทางบวกไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจ้างงาน ราคาสินค้าเกษตร ได้ส่งผลให้กำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมายโดยทั่วไปยังคงมีสูง โดยตัวเลขล่าสุดจากกรมการขนส่งทางบก พบว่าในเดือนธันวาคมที่ผ่านมานั้น ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยมียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 152,894 คัน เติบโตขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 25% ในขณะที่ยอดจดทะเบียนรวมตลอดทั้งปี 2012 อยู่ที่ 2,130,067 คัน เติบโตสูงขึ้นจากปี 2011 ที่ 6% และยังเป็นสถิติที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการรถจักรยานยนต์ไทยอีกด้วย”
“ทั้งนี้ ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนเดือนธันวาคมสูงสุดในตลาดที่ 109,816 คัน เติบโตจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 55% และมียอดจดทะเบียนรวมตลอดทั้งปีอยู่ที่ 1,485,312 คัน ถือเป็นสถิติที่สูงที่สุดของฮอนด้าด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ฮอนด้าเติบโตจากปี 2011 ที่ 7% มากกว่าตลาดรวม 1% พร้อมทั้งครองแชมป์ยอดจำหน่ายสูงสุดเป็นปีที่ 24 ติดต่อกัน”
นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังได้ส่งผลให้ฮอนด้ามียอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทะลุหลัก 20 ล้านคันเป็นรายแรกในประเทศไทย อ้างอิงจากยอดจำหน่ายตั้งแต่ปี 1986 ถึงปี 2012

นายสุชาติ กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า “รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามียอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่ปี 1986 ซึ่งเป็นปีแรกที่เราได้ก่อตั้งบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จนถึงสิ้นปี 2012 อยู่ที่ 20,062,754 คัน ทำให้ฮอนด้ากลายเป็นแบรนด์แรก และแบรนด์เดียวในไทยที่ทำยอดจำหน่ายได้มากกว่า 20 ล้านคัน อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ 4 ของโลกรองจากญี่ปุ่น อินเดีย และอินโดนีเซียที่สามารถทำลายสถิติดังกล่าวได้ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจทั้งในตัวผลิตภัณฑ์และบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ฮอนด้าขอขอบคุณชาวไทยทุกคนเป็นอย่างสูง และขอสัญญาว่าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเพื่อผู้บริโภคชาวไทยตลอดไป

สรุปตัวเลขตลาดรถจักรยานยนต์ไทยประจำเดือนธันวาคม 2012 มียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 152,894 คัน แบ่งเป็นรถแบบ เอ.ที. 75,717 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 50%, รถแบบครอบครัว 70,419 คัน อัตราส่วน 46%, รถแบบออนโรด-ออฟโรด 2,994คัน อัตราส่วน 2%, รถแบบสปอร์ต 2,239 คัน อัตราส่วน 1%, และรถแบบอื่นๆ รวมกันอีก 1,525 คัน เมื่อตามรายชื่อผู้ผลิต พบว่าฮอนด้ามียอดจดทะเบียนเป็นอันดับแรกในตลาดรวมที่ 109,816 คัน สัดส่วนครองตลาด 72% ตามด้วยยามาฮ่า 31,404 คัน สัดส่วนครองตลาด 21%, ซูซูกิ 5,438 คัน สัดส่วนครองตลาด 4% และคาวาซากิ 3,017 คัน สัดส่วนครองตลาด 2%, ในขณะที่ยี่ห้ออื่นๆ ที่เหลือมียอดจดทะเบียนรวมกันที่ 3,219 คัน
ในส่วนของตลาดรถจักรยานยนต์ไทยประจำปี 2012 ปรากฏว่ามียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 2,130,067 คัน ประกอบด้วยรถแบบ เอ.ที. 1,062,494 คัน คิดเป็นอัตราส่วน 50%, รถแบบครอบครัว 981,865 คัน อัตราส่วน 46%, รถแบบออนโรด-ออฟโรด32,726 คัน อัตราส่วน 2%, รถแบบสปอร์ต 32,083 คัน อัตราส่วน 2%, และรถแบบอื่นๆ รวมกันอีก 20,899 คัน เมื่อแยกตามรายชื่อผู้ผลิตจะพบว่า ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนเป็นอันดับหนึ่งที่ 1,485,312 คัน มีสัดส่วนครองตลาด 70% ตามด้วยยามาฮ่า489,892 คัน สัดส่วนครองตลาด 23%, ซูซูกิ 76,268 คัน สัดส่วนครองตลาด 4% และคาวาซากิ 34,555 คัน สัดส่วนครองตลาด 2%, ในขณะที่ยี่ห้ออื่นๆ ที่เหลือมียอดจดทะเบียนรวมกันที่ 44,040 คัน

สาวสวยจากบูธ ทีเอสแอล “น้องเชอร์รี่” คว้าตำแหน่ง “ขวัญใจ โซเชียล เน็ตเวิร์ค”



น้องเชอร์รี่ - นริศรา คงสมจิตต์ พริตตี้สาวสวยสุดเซ็กซี่  จากบูธ “ทีเอสแอล” คว้าอันดับ 1 ตำแหน่ง “ขวัญใจ โซเชียล เน็ตเวิร์ค” จากการประกวด “Motor Expo Smart Pretty Vote 2012” ภายในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29” ที่ผ่านมา ด้วยคะแนนทิ้งขาดคู่แข่งถึง 55.66 เปอร์เซ็นต์
ท่านสามารถชมภาพความสวยงามของน้องเชอร์รี่ เพิ่มเติม ได้ที่ www.facebook.com/tslauto หรือ www.tsl.co.th หากสนใจรถสวยๆ ที่น้องเชอร์รี่เป็นผู้แนะนำสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ TSL Call Center 02-269-9999

14 ค่ายรถบิ๊กไบค์ร่วมงาน “แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2013” ระดมทัพรถพร้อมอัดแคมเปญพิเศษคาดเงินสะพัดกว่า 200 ล้านบาท BANGKOK MOTORBIKE FESTIVAL 2013


 14 แบรนด์ค่ายมอเตอร์ไซค์ดังขานรับร่วมงาน แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2013” สุดยอดเทศกาลมอเตอร์ไซค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดระหว่าง 30มกราคม–3 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) ระดมทัพรถใหม่พร้อมอัดแคมเปญเด็ดที่มีเฉพาะในงาน และจัดกิจกรรมพิเศษหลากหลายเพื่อเอาใจคนรักมอเตอร์ไซค์ ฮือฮาสุดๆ กับการจัดแข่งทักษะขับขี่มอเตอร์ไซค์แบบ “สลาลม” ครั้งแรกในไทย “BMF Gymkhana 2013”  ชิงถ้วยรางวัลและเงินรางวัลมากมาย คาดตลอด 5 วันที่จัดงาน มีเงินสะพัดกว่า 200 ล้านบาท  ผู้ชมงานกว่า 1.2 ล้านคน    


นายณัฐบูร และนายณัฐพล ไตรณัฐี ผู้จัดงานเทศกาลเพื่อคนที่หลงใหลรถจักรยานยนต์ แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2013” จัด โดยใช้พื้นที่ภายในและหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิล์ด (ราชประสงค์) เป็นพื้นที่เกือบ 20,000 ตารางเมตรเพื่อใช้ในการจัดแสดง และใช้งบประมาณในการจัดงานกว่า 15 ล้านบาท จัดภายใต้คอนเซ็ปต์ “Fuel of Life หรือ เชื้อเพลิงแห่งชีวิต เพื่อสะท้อนรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนนอกเหนือจากการใช้ชีวิตไปกับการทำงานแล้ว การพักผ่อนถือเป็นการเติมพลังให้ทุกคนมีชีวิตชีวาในการดำรงชีพอย่างมีความสุข โดยเฉพาะคนรักมอเตอร์ไซค์สามารถนำมอเตอร์ไซค์มาใช้ในการพักผ่อนเพื่อเติม เชื้อเพลิงแห่งชีวิต” เปิดเผยว่า จากความสำเร็จการจัดงาน 4 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นยอดขายมอเตอร์ไซค์ อุปกรณ์ของแต่งและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ผนวกกับความต้องการตลาดที่มีสูง และการเติบโตแบบก้าวกระโดดของวงการรถบิ๊กไบค์เมืองไทยในปัจจุบัน มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน

ปีนี้มีพื้นที่จัดงานเพิ่มขึ้นจากเดิม 2,500 ตารางเมตร   คือบริเวณฮอลล์ชั้น 8   จะโซนการจัดแสดงค่ายรถมอเตอร์ไซค์แบรนด์ต่างๆ รวมถึงเวทีที่ใช้ในการจัดกิจกรรมความบันเทิง นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์ที่น่าสนใจภายในงาน เช่น Vintage Bike ที่จะจัดแสดงมอเตอร์ไซค์โบราณ BMW ของกลุ่ม “Vintage Bike Thailand“ จำนวน 24 คัน แต่ละคันเป็นรถที่หาดูได้ยาก เนื่องจากมีอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป เรียกว่าทุกชั้นและเกือบทุกพื้นที่ภายในเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) จะมีรถมอเตอร์ไซค์ตลอดจนถึงอุปกรณ์และสินค้าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้คนรักมอเตอร์ไซค์เลือกชมและซื้ออย่างจุใจ ด้วยโปรโมชั่นพิเศษที่มีเฉพาะในงานนี้เท่านั้น

ส่วนบริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ จะเนรมิตให้เป็นสนามแข่งขันทักษะขับขี่รถจักรยานยนต์สลาลม “BMF Gymkhana 2013” เปิดให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ทุกคนและทุกระดับที่สนใจมาลงแข่งขัน ซึ่งคนที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์ในกรุงเทพฯ เป็นคนที่มีทักษะขับขี่แบบจิมคาน่าอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ทราบว่าตัวเองมีทักษะ เพราะต้องขับขี่ซอกแซกไปมาและไม่ได้ใช้ความเร็วสูงไปตามท้องถนน จึงอยากให้ทุกคนได้สัมผัสมากขึ้น เพียงแค่นำมารถมอเตอร์ไซค์ตนเองเข้ามาลงแข่งที่สนามได้เลย การแข่งขันนี้มุ่งเน้นที่ทักษะขับขี่บนพื้นสนามที่อาจมีความลื่นมากกว่าผิวถนน โดยไม่ต้องใช้ความเร็วหรือมุ่งแต่ชัยชนะและจบการแข่งในเวลาเป็นหลัก

สำหรับข้อกำหนดการแข่งขันมีเพียงแค่การควบคุมรถ โดยไม่ให้เท้าแตะพื้นหรือสัมผัสไพลอน (กรวยยาง) สามารถคว้าชัยชนะเพื่อรับถ้วยและเงินรางวัล ด้วยความที่ต้องการให้ทุกคนส้มผัสรูปแบบท้าทายความสามารถอย่างแท้จริง       จึงได้ปรับรูปแบบการแข่งขันเป็นรุ่นเครื่องยนต์ต่ำกว่า 150 ซี.ซี. เนื่องจากเป็นรถที่มีผู้ใช้มากที่สุดและเหมาะกับสนามแข่ง โดยทาง M2F และ Fast Bike สองพันธมิตรสำคัญได้สนับสนุนค่าสมัครแก่ผู้สนใจ มั่นใจจะสร้างมาตรฐานและปรากฏการณ์ใหม่ให้กีฬามอเตอร์สปอร์ตและคนรักมอเตอร์ไซค์อย่างแน่นอน โดยผู้แข่งขันต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป รถที่แข่งขันต้องมีสภาพถูกต้องตามกฎหมายและใส่เครื่องป้องกันครบถ้วน เปิดให้ดาวน์โหลดใบสมัครที่ www.thailandmotorbikefestival.com

สำหรับค่ายมอเตอร์ไซค์ที่เข้าร่วมงานประกอบด้วย 14 แบรนด์ คือ ฮอนด้าฮาร์เล่ย์-เดวิดสันไทรอัมพ์เคทีเอ็มซูซุกิคาวาซากิยามาฮ่าไทเกอร์สตาเลี่ยน, เอ็มวีออกุสต้าแอลเอ็มแอลวิคตอรี่ซีโร่ เอ็นจิเนียริ่ง และโพลาริส ขณะเดียวกันยังได้รวบรวมสินค้าสำหรับคนรักมอเตอร์ไซค์ไว้อย่างหลากหลาย ประกอบด้วย ตัวแทนร้านค้าผู้จำหน่ายสินค้าชั้นนำต่างๆ อาทิ อะไหล่อุปกรณ์ตกแต่ง,อุปกรณ์ป้องกันเครื่องแต่งกาย และบริการต่างๆ ที่พร้อมใจมอบโปรโมชั่นโดนใจ ทั้งลดแลกแจกแถมมาให้แฟนรถสองล้อได้เลือกซื้อกันเป็นพิเศษเฉพาะในงาน

“คาดว่าตลอด 5 วันที่จัดงานจะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 200 ล้านบาท มีผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่า 1.2 ล้านคน เนื่องจากทำเลที่ตั้งของงานอยู่ใจกลางเมือง เดินทางได้สะดวกและหลากหลายช่องทาง รวมถึงกลุ่มคนที่ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์และติดตามงานนี้ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้เข้าเยี่ยมชมงานมีหลากหลายมากขึ้น ไม่เฉพาะแต่ผู้ที่สนใจรถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น แต่มีกลุ่มคนที่ติดตามเพื่อมาเลือกซื้อสินค้า พักผ่อน ทานอาหาร และช่วยเชียร์ให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น และชาวต่างชาติที่เดินทางมาช็อปปิ้งที่ศูนย์การค้าฯ และในบริเวณใกล้เคียง
อีกทั้งปัจจุบันนักขับขี่อาเซียนรู้จักงาน แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล” มากขึ้น ทั้งจากการประชาสัมพันธ์ การเชิญสื่อจากนานาชาติเข้าร่วมงาน และขับรถบิ๊กไบค์ไปตามเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองไทย พร้อมร่วมทำกิจกรรม CSR ด้วยการมอบอุปกรณ์กีฬาและสื่อการเรียนการสอนให้แก่น้องๆ ตามโรงงานที่อยู่ห่างไกลความเจริญ อย่างสิงคโปร์ได้บรรจุงานของ BMF 2013 เข้าไปอยู่ในปฏิทินงานประจำปี รวมถึง Chain โรงแรมใหญ่ๆ นำไปโปรโมทเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าชาวต่างชาติที่สนใจเลือกเข้าพัก เพื่อที่จะได้เข้าชมงานได้สะดวก รวมไปถึงสำนักแต่งรถมอเตอร์ไซค์ในหลายประเทศเริ่มมีการติดต่อเข้ามาเพื่อขอเข้าร่วมงาน โดยปีนี้มีสำนักแต่งรถจากญี่ปุ่นเข้ามาร่วมโชว์ภายในงานด้วย”

นายณัฐบูร และนายณัฐพล ไตรณัฐี กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2556 ถือเป็นปีทองของวงการรถบิ๊กไบค์เมืองไทยอย่างแท้จริง เนื่องจากค่ายมอเตอร์ไซค์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นทุกค่าย เดินหน้าทำตลาดรถประเภทนี้อย่างจริงจัง โดยนำเข้าและเปิดตัวรถรุ่นใหม่จากหลายค่าย รวมถึงการขึ้นไลน์ผลิตรถบิ๊กไบค์ที่โรงงานผลิตในประเทศไทยและใช้ไทยเป็นศูนย์การผลิตเพื่อส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก ประกอบกับมีค่ายรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ๆ ทั้งจากยุโรป-สหรัฐอเมริกาและเอเชีย เข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาดเมืองไทยเพิ่มมากขึ้น โดยประเทศทางตะวันตกประสบปัญหาจากวิกฤติการเงินและเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ต้องมองหาตลาดใหม่ๆ เข้ามาทดแทน รวมถึงทุกประเทศกำลังสนใจตลาดใหม่อย่างภูมิภาคเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งมีศักยภาพความพร้อมในหลายๆ ด้าน ส่งผลให้ไทยกลายเป็นเป้าหมายสำคัญ


“ภาพรวมตลาดรถบิ๊กไบค์เมืองไทย (500 ซี.ซี.ขึ้นไป) ปีที่ผ่านมามียอดขายอยู่ในระดับเกือบ 10,000 คัน ทั้งที่จดทะเบียนถูกต้องและไม่ได้จดทะเบียน และจากที่ร่วมพูดคุยและวิเคราะห์กับผู้ประกอบการในวงการ ปี 2556 คาดว่าน่าจะมีปริมาณเพิ่มกว่าปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับ 13,000-14,000 คัน


นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจไว้อย่างหลากหลาย เพื่อให้ผู้สนใจได้เพลิดเพลินและสัมผัสบรรยากาศงานแสดงรถบิ๊กไบค์อย่างจุใจ ทั้งโซนจัดแสดงรถคัสตอมไบค์โซน Motorcycle Club, การประกวดตกแต่งมอเตอร์ไซค์จากค่ายรถและสำนักแต่งรถต่างๆทอล์คโชว์จากบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการมอเตอร์ไซค์ของเมืองไทย ในช่วงเย็นยังมีบริการลานเบียร์และดนตรีสดบริเวณหน้าศูนย์การค้าให้ได้พบปะสังสรรค์กันอย่างเต็มที่ ตลอดทั้ง 5 วันของการจัดแสดง เรียกได้ว่างานนี้เป็นสวรรค์สำหรับคนรักมอเตอร์ไซค์อย่างแท้จริง
แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2013” สุดยอดเทศกาลมอเตอร์ไซค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดระหว่าง 30 มกราคม–3 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) ชมฟรีตลอดงาน
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved