Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

“เอนเนอร์จี รีฟอร์ม” ย้ำผู้นำแก๊สรถยนต์เบอร์ 1 ของเมืองไทย เปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ชูจุดเด่นผลตอบแทนโครงการสดใส ตั้งเป้าขยายศูนย์ตัวแทนฯกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ

เอนเนอร์จี รีฟอร์ม”  ย้ำภาพผู้นำด้านเทคโนโลยีแก๊สรถยนต์เบอร์ 1 ของเมืองไทย เร่งปฏิรูปและยกระดับมาตรฐานการติดตั้งให้กับตัวแทนจำหน่าย  พร้อมเปิดตัวศูนย์ต้นแบบที่ลาดกระบัง เพื่อให้นักลงทุนและผู้ประกอบการที่สนใจในในธุรกิจพลังงานทดแทนได้ศึกษาการปฎิบัติงานจริงและระบบภายในของศูนย์บริการอย่างเป็นขั้นตอนซึ่งจะเป็นศูนย์ติดตั้งแก็สครบวงจรให้บริการทั้งระบบแก็สและน้ำมันครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ ซึ่งมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเป็นตัวแทนฯแล้วกว่า 20 ราย ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด      ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่เเละสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคที่ต้องการติดตั้งแก็สในศูนย์บริการมาตรฐานอย่างแท้จริง  อีกทั้งเพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของธุรกิจแก็สรถยนต์ที่สร้างผลตอบแทนให้กับเจ้าของกิจการที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามประชากรรถยนต์ ภาวะเศรษฐกิจและราคาน้ำมัน.   ตั้งเป้าขยายศูนย์ที่ได้มาตรฐานเพื่อรองรับลูกค้าจำนวนกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ
 
              นายสุรศักดิ์ นิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม จำกัด  ผู้นำด้านเทคโนโลยีแก๊สรถยนต์คุณภาพอันดับ 1 ของโลกจากอิตาลี  เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ติดตั้งแก๊สรถยนต์ทั้งในระบบ NGV และ LPG มากกว่า 1,300,000 คัน  ราย  หรือคิดเป็นสัดส่วน 33%  ของรถยนต์ที่จดทะเบียนในเมืองไทย  และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านคันในอีก 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้พบว่าจากสถิติรถจดทะเบียนที่กรมขนส่งทางบกฯ ยังมีรถยนต์อีก 33% หรือราว 2,500,000 คันที่ต้องการติดตั้งแก๊สรถยนต์ ซึ่งยังไม่รวมรถยนต์ใหม่ป้ายแดงที่จดทะเบียนเพิ่มขึ้นทุกปี. ซึ่งเป็นโอกาสของผู้ประกอบการธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ในการดำเนินธุรกิจ   ในฐานะที่เอนเนอร์จี รีฟอร์ม เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแก๊สรถยนต์ทั้งระบบ NGV , LPG และเครื่องยนต์ดีเซล ด้วยชุดอุปกรณ์ระบบหัวฉีดก๊าซจากอิตาลี ที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับระดับโลก จึงมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปและยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมธุรกิจติดตั้งอุปกรณ์แก๊สรถยนต์ให้ดีขึ้น เพื่อจูงใจให้เจ้าของรถหันมาใช้พลังงานทางเลือกที่ถูกกว่าและสะอาดกว่า เป็นมิตรกับสิงแวดล้อม และช่วยลดภาระค่าเชื้อเพลิงได้มากกว่า 60% ต่อเดือน แต่ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะและความปลอดภัยที่เอนเนอร์จี รีฟอร์ม ให้ความสำคัญมาโดยตลอดกว่า 7 ปี.    โดยโครงการนี้ได้พร้อมเชิญชวนนักลงทุน  ผู้ประกอบการธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ รวมถึงผู้ประกอบการในธุรกิจอื่นๆ ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (Exclusive Dealer)  ให้มากขึ้น โดยบริษัทพร้อมให้การสนับสนุนเรื่องของการฝึกอบรมทางด้านเทคนิค การปฏิบัติงานทุกขั้นตอนทั้งระบบ รวมถึงให้การสนับสนุนการตลาดเต็มรูปแบบ
 
              ด้านนายสุรชัย นิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม ได้เปิดศูนย์บริการลาดกระบังขึ้น บนถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง บนพื้นที่ 2 ไร่ ด้วยงบลงทุนกว่า 16 ล้านบาท เพื่อเป็นศูนย์ให้บริการต้นแบบและศูนย์แห่งการเรียนรู้ทั้งระบบ การติดตั้งแก๊สที่ได้มาตรฐานระดับโลก  อุปกรณ์ติดตั้งแก๊สของ เอนเนอร์จี รีฟอร์ม คัดเลือกสินค้าที่ดีที่สุด นำเข้าจากประเทศอิตาลี ผ่านมาตรฐาน ยุโรปรับรอง ECE67 R01 และ ECE R110 ซึ่งถือเป็นมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ที่บังคับใช้กับอุปกรณ์แก๊สรถยนต์ และผ่านข้อบังคับของกรมการขนส่งทางบก  นอกจากนี้ ศูนย์ต้นแบบ เอนเนอร์จี รีฟอร์ม ยังได้มาตรฐานต่างๆ ประกอบไปด้วย มาตรฐานการออกแบบทั้งภายนอกและภายในศูนย์บริการครบวงจร เอาใจใส่ทุกขั้นตอน การให้บริการและการทำงานมาตรฐานการติดตั้ง ราคา และการรับประกัน เหมือนกันทั่วประเทศ มาตรฐานระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ตั้งแต่การนัดลูกค้า เปิดจ๊อป การติดตั้งชุดอุปกรณ์แก็ส คลังสินค้า ตลอดจนระบบบัญชี-การเงิน และที่สำคัญมาตรฐานการควบคุมคุณภาพและฝึกอบรม 
 
             ทั้งนี้รูปแบบการลงทุนศูนย์บริการใช้เงินลงทุนประมาณ 4-15 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับทำเล ที่ตั้ง ขนาดของศูนย์บริการ และลักษณะการให้บริการ  โดยการลงทุนดังกล่าวจะมีระยะเวลาการคืนทุนประมาณ 2 ปี และผลตอบแทนโครงการ (IRR) สูงมากกว่า 50% 
                “ในธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง นอกเหนือจากคุณภาพของระบบแก็สแล้ว คือศูนย์บริการที่ต้องได้มาตรฐาน เพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน  การสนับสนุนและยกระดับผู้ประกอบการติดตั้งแก๊สรถยนต์ให้มีมาตรฐานถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ดังนั้นบริษัทจึงมุ่งมั่นศึกษาและพัฒนาเพื่อเป็นต้นแบบให้นักลงทุน ผู้ประกอบการธุรกิจอื่นๆ และผู้ประกอบการธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ได้เห็นถึงความมุ่งมั่นและบริการที่ดี และพร้อมจะพัฒนาธุรกิจให้เดินไปข้างหน้า โดยเอนเนอร์จี รีฟอร์มพร้อมจะให้คำปรึกษาและแนะนำ รวมถึงการฝึกอบรม และการตลาดแบบครบวงจรด้วย”
 
                ปัจจุบันศูนย์ Exclusive Dealer แห่งแรกของ ENERGY REFORM  ตั้งอยู่ที่ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 12 แห่ง ประกอบไปด้วย ห้างหุ้นส่วนสามัญ สมานแก๊ส เซอร์วิส ลาดพร้าว , บริษัท ไฮ ฟิวเจอร์ จำกัด (พระราม 3) , บริษัทโอท๊อป เซอร์วิส จำกัด พระยาสุเรนท์ , บริษัท เอสเคทีแอ็คเซสเซอรี่ จำกัด นนทบุรี , บริษัท ไฮฟิวเจอร์ จำกัด (กิ่งแก้ว) สมุทรปราการ , บริษัท เค ซี ออโต้ชอพ จำกัด ชลบุรี , บริษัท เอสทีอาร์ 2013 จากัด ระยอง , บริษัทซี เค ออโต้เวอร์ค จำกัด ระยอง บริษัทมิตรดีเซลกำแพงเพชร 2013 จำกัด กำแพงเพชร , บริษัทเอ็กซ์-ไลน์ แอลพีจี จำกัด นครสวรรค์ , บริษัท สุรนคร ออโต้ จำกัด นครราชสีมา , บริษัท ซี เค ออโต้คาร์ เซ็นเตอร์ จำกัดพิษณุโลก และ Volvo  ขอนแก่น รายอื่นนอกจากนี้ อยู่ในช่วง เขียนแบบและขออนุญาตก่อสร้าง
 
                 “แนวโน้มการติดตั้งแก๊สรถยนต์ในเมืองไทยพบว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากนโยบายรถคันแรกที่ส่งผลให้มีรถยนต์เพิ่มขึ้นในท้องถนนกว่า 1.2 ล้านคัน  โดยคาดว่าตลอด 5 ปีนับจากนี้ไปสัดส่วนรถยนต์ติดตั้งแก๊สจะเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าร้อยละ  20% ต่อปี”

มาสด้าเสริมความคุ้มค่าให้คนรักความสปอร์ต จับมาสด้า3 ใส่อุปกรณ์ล้นคัน แซงหน้าคู่แข่งไปอีกก้าว



กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 27 มิถุนายน 2556 – บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเดินหน้าสร้างความแปลกใหม่ให้ตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางหรือซีเซ็กเม้นต์ในประเทศไทย ประกาศเปิดตัวรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 ใหม่ รุ่นปี 2013 ปรับโฉมเสริมความเป็นสปอร์ตรอบคันทั้งภายในและภายนอก ทั้งเครื่องยนต์ 1.6 และเครื่องยนต์ 2.0 ที่ถูกถ่ายทอดความเป็นสปอร์ตจาก DNA ของรถต้นแบบสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขับสนุกมาสด้า MX-5 กับคอนเซ็ปต์ “Jinba-Ittai” หรือ “Oneness” เมื่อคุณกับรถเป็นหนึ่งเดียวกัน พร้อมฉีกหนีคู่แข่งไปอีกขึ้นด้วยอุปกรณ์ตกแต่งหนึ่งเดียวในคลาส ไฟหน้าไบ-ซีนอน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือ Cruise Control ซันรูฟเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์เสริมความสปอร์ตรอบคัน ย้ำขายราคาเดิมเริ่มต้น 755,000 บาทเท่านั้น
นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 คือรถยนต์ที่ได้รับการการันตีมาแล้วจากลูกค้าทั่วโลกกว่า 3 ล้านคัน รวมทั้งลูกค้าชาวไทยอีกกว่า 4 หมื่นคัน สำหรับการปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่ให้กับมาสด้า3 ในครั้งนี้ จะส่งผลให้รถมาสด้า3 เป็นรถยนต์ให้ความสปอร์ตมากที่สุด รวมทั้งการเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลากหลายและโดดเด่นเหนือคู่แข่ง คาดว่าจะส่งผลให้ยอดขายรถมาสด้า3 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นไปอีก ผมมั่นใจว่าการเพิ่มความคุ้มค่าให้กับรถมาสด้า3 โฉมใหม่ในครั้งนี้ จะทำให้ลูกค้าเกิดความภาคภูมิใจมากยิ่งขึ้น และนั่นคือจุดมุ่งหมายหลักของแนวทางของ ซูม-ซูม แบบยั่งยืนของมาสด้า
“ปัจจุบันเรามียอดจำหน่ายมาสด้า3 ไปแล้วมากกว่า 40,000 คัน และรถมาสด้า3 ยังช่วยส่งเสริมให้ยอดขายและภาพลักษณ์ของมาสด้าแข็งแกร่งยิ่งขึ้น สำหรับการเปิดตัวมาสด้า3 ใหม่ ในครั้งนี้คาดว่าจะทำให้ยอดขายของมาสด้าเติบโตและครองใจผู้บริโภคในกลุ่มรถยนต์นั่ง คาดว่าภายในสิ้นปีนี้มาสด้าจะมียอดการจำหน่ายอยู่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของภาพลักษณ์ต่อไปยิ่งๆ ขึ้นอีกด้วย” นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวเพิ่มเติม
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ตลาดรถยนต์นั่งคอมแพ็คคาร์ หรือ ซี-คาร์ เป็นกลุ่มรถหลักในตลาดประเทศไทย และเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่ทรงตัวมาโดยตลอด และมีโอกาสที่เราจะสามารถขยายฐานลูกค้าได้กว้างมากยิ่งขึ้น ลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นลูกค้าที่มีความคาดหวังค่อนข้างสูง ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ดีไซน์ที่งามสง่า สมรรถนะการขับขี่ ความคุ้มค่าคุ้มราคา อุปกรณ์ที่เพิ่มความหรูหราสะดวกสบาย คุณภาพของวัสดุที่นำมาประกอบ และระบบความปลอดภัยที่มั่นใจ รวมถึงความประหยัดทั้งค่าบำรุงดูแลรักษาและการประหยัดน้ำมัน สำหรับมาสด้า3 ใหม่ นอกจากเป็นรถยนต์ที่มีอุปกรณ์ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ มีความคุ้มค่าสมราคาแล้ว ยังมีความสปอร์ตที่โดดเด่นเหนือกว่ารถอื่นในคลาสเดียวกัน ด้วยรูปลักษณ์ความสวยงามของดีไซน์ทั้งภายในภายนอก ซึ่งแตกต่างจากรถในกลุ่มคอมแพ็คที่มักเน้นแต่ความหรูหราเพียงอย่างเดียว ซึ่งจุดขายนี้โดนใจลูกค้ากลุ่มพรีเมียมผู้รักรถสปอร์ตหรู การปรับโฉมเข้าสู่ตลาดในครั้งนี้จะส่งผลเราสามารถสร้างความแตกต่างจากรถยนต์แบบเดิมๆ
รถยนต์นั่งสปอร์ต Mazda3 ใหม่ ได้รับการออกแบบใหม่หมดทั้งภายนอกและภายใน ภายใต้ DNA ของมาสด้า รูปลักษณ์ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวให้ความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น เป็นรถยนต์นั่งที่โฉมเฉี่ยวสไตล์ ซูม-ซูม รวมถึงเครื่องยนต์อันทรงพลัง 2000 ซีซี. และเครื่องยนต์ 1600 ซีซี. ที่ได้รับการปรับแต่งให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ให้กำลังแรงม้าสูงสุดถึง 147 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที และให้กำลังแรงบิดสูงสุดถึง 182 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด มาพร้อมกับระบบ Sports Paddle Shift และระบบควบคุมเกียร์ AAS (Active Adaptive Shift) สามารถควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะโดยอัตโนมัติตามสไตล์ของผู้ขับขี่ให้สัมผัสถึงความเป็นสปอร์ตและควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ (สำหรับเครื่องยนต์ 2.0L) และอีกหนึ่งฟังค์ชั่น สปอร์ตแอคทีฟเมติค ที่สามารถควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบเกียร์ธรรมดา พัฒนามาให้มีความนุ่มนวล ต่อเนื่องและตอบสนองได้โดยอย่างแม่นยำ
ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบไบ-ซีนอนพร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟท้ายแบบ LED รูปทรงสปอร์ต ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry เปิด-ปิดประตูโดยไม้ต้องใช้กุญแจหรือรีโมท พร้อมระบบ Push Start Button เพียงปลายนิ้วสัมผัส ซันรูฟเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ระบบการควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัว (Dynamic Stability Control, DSC) ให้ความมั่นใจทุกการเข้าโค้ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและการลื่นไถล (Traction Control) ล้ออัลลอยด์ลายสปอร์ตเรียบหรูขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางซีรี่ต่ำเช่นเดียวกับรถสปอร์ตชั้นนำ
สำหรับราคาจำหน่ายรถยนต์ New Mazda3 รุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1600 ซีซี. เริ่มต้นเพียง 755,000 บาท และยังเพิ่มรุ่นอีก 3 รุ่น คือ รุ่น 1.6L Spirit Sports Plus 5 ประตู, รุ่น 1.6L Spirit Plus 4 ประตู และ รุ่น 2.0L Spirit Plus 4 ประตู มาพร้อมกับ เบาะหนังสไตล์สปอร์ต ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) และระบบ Push Start สัญญาณกะระยะถอยหลัง 4 จุด ช่องเชื่อมต่อ AUX/USB และอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆอย่างครบครัน ซึ่งนับว่าคุ้มค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน คุณภาพของระดับสูง ระบบความปลอดภัย ประโยชน์ใช้สอยรอบคัน และอุปกรณ์ตกแต่งสไตล์สปอร์ตที่มาพร้อมกับตัวรถ รถมาสด้า3 ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 8 สี และพิเศษสีขาวมุก สโนว์แฟล็กซ์* ซึ่งเป็นสีใหม่ ที่มาคู่กับล้ออัลลอยด์สีใหม่ สีเงิน ไบรท์ซิลเวอร์ เพื่อความพิเศษยิ่งขึ้น โดยเพิ่มเงินเพียง 10,000 บาท
หมายเหตุ: * สีใหม่ ขาวมุก สโนว์แฟล็กซ์ จะมีให้เลือกเฉพาะรุ่น 1.6L Spirit Plus, 1.6L Spirit Sports Plus, 2.0L Spirit Plus, 2.0L Maxx, 2.0L Maxx Sports


มาสด้า3 รุ่น 4 ประตู
เครื่องยนต์
ราคาจำหน่าย
Mazda3 Groove
MZR 1600cc
755,000 บาท
Mazda3 Spirit
MZR 1600cc
825,000 บาท
Mazda3 Spirit Plus
MZR 1600cc
880,000 บาท**
Mazda3 Spirit Plus
MZR 2000cc
989,000 บาท**
Mazda3 Maxx S/R
MZR 2000cc
1,079,000 บาท**
มาสด้า3 รุ่น 5 ประตู
เครื่องยนต์
ราคาจำหน่าย
Mazda3 Spirit Sports
MZR 1600cc
869,000 บาท**
Mazda3 Spirit Sports Plus
MZR 1600cc
895,000 บาท**
Mazda3 Maxx Sports S/R
MZR 2000cc
1,079,000 บาท**
หมายเหตุ: ** ราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้น 10,000 บาท สำหรับสีขาวมุก สโนว์แฟล็กซ์

เชิญสัมผัสและทดลองขับรถยนต์มาสด้า2 สปอร์ต และมาสด้า2 เอลิแกนซ์ รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 2.0ลิตร และ 1.6 ใหม่ ปิกอัพสไตล์เก๋ง มาสด้า บีที-50 โปร และรถสปอร์ตโรดสเตอร์มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 และรถสปอร์ตครอสโอเวอร์หรู 7 ที่นั่ง มาสด้า ซีเอ็กซ์-9 ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานของมาสด้า 145 แห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มาสด้า สปีดไลน์ หมายเลขโทรศัพท์ (02) 664-4888 หรือต่างจังหวัดโทรฟรี ได้ที่หมายเลข1-800-226-408

รถจักรยานยนต์ฮอนด้าครองความเชื่อมั่นสูงสุดจากผู้บริโภคทั่วเอเชีย เทคะแนนให้เป็นรถจักรยานยนต์ที่น่าไว้วางใจสูงที่สุดถึง 5 ปีซ้อน


บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ตอกย้ำผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์และผู้นำไลฟสไตล์ความสนุกตัวจริง      คว้ารางวัลแบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุดระดับโกลด์ หรือ TRUSTED BRANDS AWARD ประจำปี2013 ประเภทรถจักรยานยนต์เป็นปีที่ ติดต่อกัน (2009 - 2013) สะท้อนความสำเร็จในฐานะผู้นำตลาดอย่างแท้จริงด้วยคะแนนความไว้วางใจที่สูงที่สุดมากกว่าตราสินค้าอื่นๆ ในประเภทเดียวกัน จากผลการวิจัยศึกษาที่สำรวจความคิดเห็นและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเอเชีย ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ฮ่องกง อินเดีย มาเลเซีย ฟิลิปินส์ สิงค์โปร์ และไต้หวัน ซึ่งดำเนินการโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของนิตยสารทรงอิทธิพลระดับโลก รีดเดอร์ส ไดเจทส์        ด้านผู้บริหารค่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้ากล่าวขอบคุณผู้ใช้ มุ่งมันในการเป็นผู้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดตลอดไป พร้อมทั้งนำเสนอความสนุกผ่านกิจกรรมตอบแทนผู้ใช้อย่างยิ่งใหญ่แทนคำขอบคุณ
ดร. อรรณพ พรประภา รองประธานกรรมการบริหารบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่กับรางวัล TRUSTED BRANDS AWARD 2013 ระดับโกลด์ ที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้รับการโหวตให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความไว้วางใจสูงที่สุดอย่างต่อเนื่องถึง ปีซ้อนในครั้งนี้ว่า ฮอนด้ามุ่งมั่นมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเพื่อสังคม นำเสนอสินค้าที่หลากหลายเพื่อสร้างความพึงพอใจต่อผู้ใช้ให้ได้มากที่สุด ดังนั้นการได้รับความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐานสูงระดับโลกจึงเป็นพันธกิจหลักที่ฮอนด้าให้ความสำคัญ ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมส่งมอบความสุขและความสนุกโดยเฉพาะในตลาดประเทศไทย เพื่อตอบแทนในความไว้วางใจในการเลือกใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าจนมียอดจำหน่ายสูงที่สุดอย่างต่อเนื่องติดต่อกันมากกว่า 24 ปี     
“ในฐานะผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยที่มียอดจำหน่ายสูงทีสุดต่อเนื่องมายาวนาน สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือสูงสุดของฮอนด้า ที่ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพรถจักรยานยนต์ที่มีมาตรฐานสูงระดับโลก  ในฐานะผู้นำตลาดเรามีปณิธานแน่วแน่ในการส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มคุณค่าให้สินค้าของเรามีความทันสมัยตลอดเวลา เราเป็นเจ้าแรกที่ริเริ่มนำเทคโนโลยีระบบหัวฉีด PGM-Fi มาใช้   จนในปัจจุบันฮอนด้าเป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์เพียงรายเดียวในประเทศไทยที่เปลี่ยนไลน์การผลิตเข้าสู่ยุคหัวฉีดได้ 100% นอกจากการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพสูงและเทคโนโลยีล้ำสมัยแล้ว เรายังพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายของเราให้แข็งแกร่ง มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมและครบวงจรมากที่สุดจากการวางกลยุทธ์ 5S (Sales, Service, Spare Parts, Safety Riding และ Second Hand Motorcycle) รวมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม และกิจกรรมส่งเสริม    การขายที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย ปัจจุบันความแตกต่างกันตามคาแรกเตอร์ผู้ใช้มีเพิ่มมากขึ้น เราจึงมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้และครอบคลุมไลฟสไลต์ตามคาแรกเตอร์ผู้ใช้ให้ได้มาก”
“สำหรับกิจกรรม ปีนี้เรานำเสนอกิจกรรมตอบแทนผู้ใช้ภายใต้แบรนด์แคมเปญ “ชีวิตสนุก  ถ้าไม่หยุดค้นหาอะไรใหม่ ๆ ว้าวว” เพือยกระดับความมันส์ มอบความสนุกให้ผู้ใช้อย่างเหนือความคาดหมายมากที่สุด      เช่น กิจกรรม ฮอนด้ามันส์เลือกได้ ว้าว!” กับการเป็นผู้สนับสนุนรายเดียวในประเทศไทย ที่เปิดโอกาสให้       แฟนบอลชาวไทยได้ร่วมลุ้นเข้าชมสามทีมยักษ์ใหญ่ แมนฯยูฯ – ลิเวอร์พูล บาร์เซโลน่า อย่างใกล้ชิดติดขอบสนามราชมังคลาฯ หรือกิจกรรมด้านส่งเสริมการกีฬา สพฐ.- เ อ.พี.ฮอนด้า เรดแชมเปี้ยน” ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้ฝึกทักษะใน Soccer School ของทีมแมนฯยูฯ และลิเวอร์พูลที่ประเทศอังกฤษ ในด้านดนตรี         รถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับแชนแนล (วี) ไทยแลนด์ เพื่อนำเสนอกิจกรรมทางดนตรีที่โดนใจวัยรุ่นไทยให้ได้มากที่สุดเช่นกัน ดังนั้นการได้รับรางวัลชนะเลิศระดับโกลด์ TRUSTED BRANDS AWARD   5 ปีซ้อน ที่สะท้อนความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในรถจักรยานยนต์ฮอนด้าอย่างสูงนั้น จึงถือเป็นความสำเร็จและเป็นความภาคภูมิใจเป็นที่สุดของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า นับเป็นแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ให้เรานำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดต่อสังคมต่อไป พร้อมทั้งมุ่งมั่นนำเสนอความสนุกผ่านกิจกรรมตอบแทนผู้ใช้อย่างยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการขอบคุณและตอบแทนความไว้วางใจที่มีให้รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามาโดยตลอด ดร.อรรณพ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับรางวัล Trusted Brand Award ได้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1999 เพื่อสำรวจแบรนด์สินค้าหรือธุรกิจที่ได้รับความไว้วางใจสูงที่สุดในทวีปเอเชีย ผ่านการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคโดยนิตยสาร Reader’s Digest โดยมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณามอบรางวัล ข้อได้แก่ ความน่าเชื่อถือ, คุณภาพสินค้า, ความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป, ความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภค, มีนวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเสมอ รวมทั้งมีความรับผิดชอบต่อสังคม  โดยรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้รับการโหวตคะแนนจากผู้บริโภคสูงสุดในทุกๆ ด้าน สะท้อนถึงการยอมรับอย่างสูงที่สุดของผู้บริโภค ที่มีความเชื่อมั่นต่อตราสินค้า ฮอนด้า” การันตีความสามารถในการตอบสนองต่อความ พึงพอใจสูงสุดของผู้บริโภคได้ในทุก ๆ ประเด็น 

บริดจสโตนจัดกิจกรรม "Bridgestone Lifestyle Idea Contest 2013" ชวนคนรุ่นใหม่ ประกวดไอเดียสร้างสรรค์ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 350,000 บาท



[กรุงเทพฯ] (21 มิถุนายน 2556) – บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรม "Bridgestone Lifestyle Idea Contest 2013" โดยเชิญชวนผู้สนใจร่วมประกวด “ของใช้ ไอเดียดี มีประโยชน์” ไม่ว่าจะเป็นของแต่งบ้าน ของแต่งตัว หรือของใช้ในชีวิตประจำวัน ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 รับเงินรางวัล 100,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 รับเงินรางวัล 5,000 บาท นอกจากนี้  20 ผลงานที่ผ่านเข้ารอบจะได้ร่วมกิจกรรม Workshop กับผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบที่มีชื่อเสียง เพื่อพัฒนาต่อยอดสู่การเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง พร้อมรับเงินทุน 5,000 บาท ในการผลิตผลงานเพื่อนำมาจัดแสดงในงานประกาศผลรางวัลต่อไป  นอกจากนี้ ประชาชนทั่วไปยังสามารถร่วมสนุกกับกิจกรรมโดยร่วมโหวตผลงานที่ตนชื่นชอบ เพื่อลุ้นรับรางวัล Samsung Galaxy S4
เปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมประกวดตั้งแต่วันนี้  ถึง 15 สิงหาคม 2556 และร่วมโหวตได้จนถึง 19 สิงหาคม 2556 

กิจกรรม "Bridgestone Lifestyle Idea Contest 2013" เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร ภายใต้แนวคิด "Bridgestone Always With You-เคียงข้างคุณทุกเส้นทาง" ซึ่งบริดจสโตนนำเสนอแคมเปญนี้อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนในการสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ (Innovation Lifestyle) โดยทุกรูปแบบของกิจกรรมและการสื่อสารต่างๆนั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์บริดจสโตนที่ทันสมัยและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ตลอดจนสร้างการรับรู้ถึงสินค้าและการบริการที่ดีเยี่ยมในวงกว้าง เพื่อครองความเป็นที่ “หนึ่ง” ในใจของผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเพิ่มความผูกพันธ์กับบริดจสโตนในระยะยาวต่อไป

ติดตามรายละเอียด หลักเกณฑ์ กติกา และร่วมกิจกรรม ผ่านทาง www.facebook.com/BridgestoneAlwaysWithYou

“คาร์ดินอล” พลิกโฉมตลาดฟิล์มกรองแสง ชูมาตรฐานอากาศยานเจาะคนรุ่นใหม่

ฟิล์มคุณภาพระดับโลก : เธนไชย เอี่ยมธงทอง (ขวาสุด) และ อธิ พิสุทธิพันธุ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท อินนิแฟตโต้ จำกัด (ที่สองจากซ้าย) พร้อมด้วย Mr.Chris Vogues ประธานกรรมการบริษัท Plastic View International Co., Ltd. (ซ้ายสุด) ร่วมลงนามสัญญาเป็นตัวแทนผู้จัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงมาตรฐานอากาศยานนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ภายใต้แบรนด์ “คาร์ดินอล” ครั้งแรกในเมืองไทย ภายในงาน Auto Salon 2013 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันก่อน

กรุงเทพฯ : ตลาดฟิล์มแข่งดุ คาร์ดินอล ฟิล์มนำเข้าจากอเมริกา พร้อมโดดลงสนามรุกตลาดพรีเมี่ยม ชูมาตรฐานอากาศยานระดับโลก มัดใจคนรุ่นใหม่เน้นคุณภาพ ตั้งเป้าโกยรายได้กว่า 70 ล้านบาท

นายเธนไชย เอี่ยมธงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินนิแฟตโต้ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์ภายใต้แบรนด์ “คาร์ดินอล” จากสหรัฐอเมริกากล่าวว่า แม้ฟิล์มคาร์ดินอลจะเป็นแบรนด์ที่เพิ่งทำตลาดอย่างจริงจังแต่ก็ไม่ใช่แบรนด์ใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านฟิล์มกรองแสง หากแต่ได้ดำเนินการธุรกิจขายส่งฟิล์มกรองแสงมากว่า 25 ปี โดยมีโรงงาน ทีมงานและคลังสินค้าที่ได้มาตรฐาน จึงมั่นใจได้ในเรื่องของสินค้าและบริการ

“ด้วยการอยากควบคุมคุณภาพและภาพลักษณ์ของแบรนด์มากขึ้น และจากปัญหาตัวแทนจำหน่ายเริ่มจะดำเนินงานในทิศทางที่ไม่สอดคล้องกับบริษัท ทางทีมผู้บริหารจึงมีแนวคิดที่จะทำตลาดฟิล์มคุณภาพที่มีความแปลกใหม่ทั้งด้านคุณสมบัติและการทำตลาด จากการคัดเลือกฟิล์มคุณภาพทำให้ได้มาพบกับ Mr. Chris Vogues ผู้บริหาร Plastic View International Inc. สหรัฐอเมริกา ประทับใจกับคุณภาพและมาตรฐานของฟิล์มที่หอควบคุมการบินทั่วโลกเลือกใช้มากว่า 60 ปีและเป็นฟิล์มยอดนิยมใน 60 ประเทศทั่วโลก จนได้ตกลงเป็นตัวแทนจำหน่ายฟิล์มในประเทศไทย”

 กล่าวต่อว่า ตลาดฟิล์มกรองแสงในปัจจุบันว่ามีการแข่งขันสูงมาก มีหลายรายที่แข่งกันด้วยราคาและโปรโมชั่นต่างๆ กับตัวแทนจำหน่าย ซึ่งการแข่งขันเหล่านั้นไม่เป็นผลดีต่อผู้ใช้รถ เพราะราคาที่ต่ำจะทำให้ไม่สามารถขายสินค้าคุณภาพสูงได้ โดยหลายยี่ห้อหาก็ใช้ฟิล์มคุณภาพทั่วไปแทนเพื่อพยุงตัวเอง ส่วนตัวแทนจำหน่ายก็ตัดราคากันเองเพื่อแย่งลูกค้า ทางบริษัทจึงมองเห็นถึงโอกาสในการพลิกโฉมตลาดใหม่เพราะเราเชื่อว่าการสร้างตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่งมีมาตรฐานจะให้ประโยชน์กับผู้บริโภคในระยะยาวในส่วนของบริการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นหากยังมีการแข่งขันที่หวังผลระยะสั้นเท่านั้น ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,500 -2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดรถใหม่ 700 - 900 ล้านบาท และตลาดรถเก่า 800 – 1,000 ล้านทั้งนี้คาดว่าตลาดฟิล์มกรองแสงคาดว่าในปีนี้จะมีการหดตัวลง มาจากปัจจัยหลัก 3 ประการคือ ยอดขายรถใหม่ที่ลดลงโดยเฉพาะในกลุ่มรถที่ได้สิทธิภาษีรถคันแรก,กำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงจากภาระหนี้สินที่สูงทำให้ความต้องการของฟิล์มเกรดล่างราคาถูกมีมากขึ้น และการแข่งขันที่รุนแรงทำให้ราคาขายของแต่ละค่ายต้องปรับลดลงมากขึ้น

นายเธนไชย กล่าวว่า การทำตลาดของฟิล์มคาร์ดินอลจะเน้นหลักการสร้างคุณค่าให้กับตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภค เป็นสำคัญ คือการตลาดแบบ Win-Win โดยไม่ใช้ราคาแต่ใช้คุณภาพสินค้าที่แปลกใหม่กับบริการพิเศษเป็นหลักเกณฑ์ในการทำตลาด เพราะไม่เชื่อว่าการแข่งขันด้วยราคาเพียงอย่างเดียวจะสามารถให้ผลประโยชน์ในระยะยาวได้ มุ่งการทำตลาดที่แตกต่างโดยมีเป้าหมายทำให้ฟิล์มคาร์ดินอลเป็นฟิล์มเกรดพรีเมี่ยมที่มีคุณค่าสามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าในรูปแบบต่างๆ ได้ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของฟิล์มคาร์ดินอลคือกลุ่ม Smart Targeting ผู้ชายอายุ 25 – 35 ปีที่เปิดรับของคุณภาพใหม่ๆ พร้อมให้ความสำคัญกับคุณค่ามากกว่าราคา

สำหรับแผนในปีนี้ในส่วนของตัวแทนจำหน่าย จะเน้นการสื่อสารและประสานงานที่สะดวกรวดเร็ว เน้นสินค้าที่มีคุณภาพที่ติดตั้งง่ายและมีมาตรฐาน อบรมและพัฒนาสถานที่และอุปกรณ์ติดตั้งให้ได้มาตรฐานเพื่อลดการสิ้นเปลืองที่ไม่จำเป็น ทางด้านของผู้บริโภคจะเน้นการทำตลาดที่เพิ่มมูลค่าเช่น ใช้ฟิล์มที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานกันร้อนสูง ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนฟิล์มบ่อยและเสริมบริการหลังการขายในส่วนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ผ่านพันธมิตรที่ร่วมรายการ
ทั้งนี้ทางบริษัทได้ทุ่มงบไปกว่า 25 ล้านบาท เพื่อใช้ในการส่งเสริมการตลาด โดยทำตลาดผ่านช่องทางหลักคือการส่งเสริมการตลาด ณ จุดขายร่วมกับตัวแทนจำหน่าย, การจัดกิจกรรม Below the line ในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงการร่วมออกบูธแสดงสินค้า และทางโชเชียลเน็ตเวิร์ก พร้อมทั้งเว็บไซต์ของบริษัท โดยในปีนี้ทางบริษัทมีแผนที่จะเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการตอกย้ำแบรนด์สินค้าและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มากที่สุดโดยทางบริษัทได้วางเป้าส่วนแบ่งการตลาดไว้ที่ 10% ในปี 2013 นี้ ซึ่งใน 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ ทางบริษัทมียอดรายได้รวมประมาณ 25 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถกวาดรายได้ทั้งปีกว่า 70 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน

“ฮอนด้า โมดูโล่” โชว์นวัตกรรมชุดแต่งรถใหม่ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต ซาลอน 2013

กรุงเทพฯ ; (20 มิถุนายน 2556)  บริษัท ฮอนด้าแอคเซส เอเชีย แอนด์ โอเชียเนียจำกัด ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าตกแต่งรถยนต์เพิ่มขึ้นในอนาคตหลังเร่งทำการตลาดสร้างแบรนด์อุปกรณ์ตกแต่ง “โมดูโล่” เพื่อสนับสนุนผู้ใช้รถยนต์ฮอนด้า  บริษัทฯ พัฒนานวัตกรรมใหม่โฉบเฉี่ยว สวยงาม คุณภาพเยี่ยม ในราคาเหมาะสม สร้างแรงจูงใจให้คนหันมาสนใจแต่งรถเพิ่ม บริษัทฯ มั่นใจว่างานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล ออโต ซาลอน 2013 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 20- 30 มิ.ย.นี้ สามารถทำให้ลูกค้าได้ชมและสัมผัสชุดแต่งโมดูโล่แบบเต็มรูปแบบ ฮอนด้าเตรียมนำเสนอผลงานชุดแต่งรถยนต์ต้นแบบใหม่ล่าสุดในฮอนด้าซีอาร์วี แจ๊ซ  ซีวิค แอคคอร์ด บริโอ้ และ บริโอ้ อเมซ บนพื้นที่ถึง 500 ตารางเมตร เชื่อปีนี้กระแสตอบรับเยี่ยมเหมือนปีที่ผ่านมา

มร.ฮาจิเมะ ฟุรุยะ ประธานบริษัท ฮอนด้าแอคเซส เอเชีย แอนด์ โอเชียเนีย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดแต่งรถยนต์ภายใต้แบรนด์ “โมดูโล่” เปิดเผยถึงการเข้าร่วมมหกรรมแสดงสินค้านวัตกรรมใหม่ของอุปกรณ์ชุดตกแต่งรถยนต์ฮอนด้าภายใต้แบรนด์โมดูโล่ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งแท้อย่างเป็นทางการรายเดียวของฮอนด้า ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต ซาลอน 2013 งานที่รวบรวมอุปกรณ์แต่งรถยนต์ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยงานจัดขึ้นถึง 11   วัน ตั้งแต่วันที่ 20- 30 มิถุนายน 2556 ณ เมืองทองธานี งานนี้ฮอนด้า โมดูโล่ ได้รวบรวมชุดแต่งรถยนต์ไว้มากมาย โดยอุปกรณ์แต่งรถยนต์ของโมดูโล่มีความพิเศษเนื่องจากเป็นชุดแต่งรถยนต์มาตรฐานฮอนด้าที่มีทีมนักออกแบบและวิศวกรฮอนด้าควบคุมการออกแบบและผลิตโดยคำนึงถึงคุณภาพ ประโยชน์ใช้สอย และสไตล์ที่โฉบเฉี่ยวลงตัวกับรถยนต์ฮอนด้า ภายในงานนี้มีการนำเสนอรถยนต์ฮอนด้า 6 รุ่น 6 คันที่ตกแต่งโดยอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์แท้โมดูโล่ซึ่งได้คุณภาพตามมาตรฐานฮอนด้า โดยหัวใจหลักคือความต้องการสร้างความตระหนักถึงคุณค่าของชุดแต่งรถยนต์แท้ภายใต้คุณภาพของฮอนด้าทั้งนี้ภายในงานมีการนำเสนอชุดแต่งรถยนต์ต้นแบบ2 รุ่น ที่นำมาให้สัมผัสครั้งแรกกับชุดแต่งใหม่ในรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี รุ่นอาร์เอ็ม-วี (RM-V) และฮอนด้า แจ๊ส รุ่นอาร์เอ็ม-ซีร์ทู(RM-Z2) นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ฮอนด้าที่หลากหลายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการตกแต่งรถยนต์อีก 4 รุ่น ที่มาจัดแสดงภายในงานทั้งฮอนด้าซีวิค แอคคอร์ด บริโอ้และ บริโอ้
อเมซ
นอกจากนี้ เพื่อย้ำความมั่นใจในคุณภาพและมาตรฐาน โมดูโล่จึงมีการรับประกันสูงสุด ถึง 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร เนื่องจากอุปกรณ์ชุดแต่งรถยนต์แต่ละชิ้นส่วนจะถูกออกแบบและทดสอบในทุกขั้นตอนและหลายครั้งตามหลักวิศวกรรมอย่างพิถีพิถันเทียบเท่ามาตรฐานการผลิตรถยนต์ฮอนด้า
ั้งนี้บริษัท ฮอนด้าแอคเซส เอเชีย แอนด์ โอเชียเนีย จำกัด ไม่หยุดยั้งในการพัฒนาชุดแต่งรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์สวยงาม โฉบเฉี่ยว คุณภาพและมาตรฐานระดับสูง รวมทั้งพัฒนาให้ชุดแต่งรถยนต์ของแท้ภายใต้การคิดค้นนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาชุดแต่งรถยนต์ของแท้ให้มีราคาที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ในอนาคต โดยคาดว่าในระยะยาวชุดแต่งรถยนต์ของแท้จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นได้จากปัจจุบัน ประกอบกับกลยุทธ์ทางการตลาดที่สนับสนุนให้ผู้ซื้อรถยนต์ฮอนด้าสามารถใช้สินเชื่อฮอนด้าลิสซิ่งร่วมกับอุปกรณ์ชุดตกแต่งรถยนต์ โมดูโล่ทำให้ผู้ซื้อรถยนต์มีแนวคิดตกแต่งรถยนต์มากขึ้น บริษัท ฮอนด้าแอคเซส เอเชีย แอนด์ โอเชียเนีย จำกัด เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ให้ความสำคัญการพัฒนาอุปกรณ์ชุดแต่งรถยนต์เพื่อสร้างตลาดให้ขยายตัวมากขึ้นโดยเน้นสร้างแบรนด์ “โมดูโล่”

ฮอนด้า ซีอาร์-วี : Modulo Accessories concept (RM-V)ใหม่
                โมดูโล่ขอนำเสนอชุดแต่งต้นแบบCR-V ที่เพิ่มเติมความโฉบเฉี่ยว ให้ทั้งภายใน และภายนอก กับการดีไซน์ใหม่ในแบบสปอร์ต ตั้งแต่ กันชนหน้าที่เพิ่มความดุดันแบบทูโทนสปอร์ต และโดดเด่นได้แม้การขับขี่ในช่วงเวลากลางวันกับ Daytime Running Light   ลงตัวด้วยรายละเอียด แบบตะแกรงรังผึ้ง ที่เข้าคู่กับกระจังหน้าแบบพิเศษ และเข้ากับกันชนท้ายแบบสปอร์ต ที่โดนเด่นด้วยเส้นโครเมียม  RM-V Modulo Accessories concept มาพร้อมกับ ล้อแม็ก 19 นิ้ว สีดำกันพาวเดอร์และเพิ่มความทันสมัยยิ่งขึ้นด้วยสปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์โมดูโล่สะดวกสบายด้วยบันไดข้างแบบสไตล์ลิช ที่ ที่ลงตัวสมบูรณ์แบบ ในทุกชิ้นงาน และทุกขั้นตอน

                                            

 ฮอนด้า แจ๊ซ : Modulo  Accessories concept(RM-Z2) ใหม่
                โดดเด่นให้ทุกสายตา จากความเป็นสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ด้วยกระจังหน้าสีแดงตัดกับตัวรถ และ สเกิร์ตหน้า ทรงสปอร์ต ดีไซน์ใหม่ ที่ได้แรงบันดาลใจจากต้นแบบ RM-Z1 ที่เข้าคู่เป็นอย่างดีกับ สเกิร์ตข้างและหลัง ที่ได้รับการดีไซน์ใหม่ทั้งหมดจากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญในสไตล์ทูโทน เสริมความเป็นสปอร์ตให้มากยิ่งขึ้นด้วยสปอยเลอร์หลังเข้าชุดกัน รวมถึงชุดไฟเลี้ยวข้างรถพร้อมสัญลักษณ์โมดูโล่ให้รถสะท้อนความเป็นตนของคุณ รวมทั้งDaytime Running Light ส่องสว่างในเวลากลางวัน และล้อแม็กแต่งพิเศษขนา17 นิ้ว ทั้งหมดนี้เพื่อให้คุณมั่นใจในสมรรถนะตลอดการขับขี่ จากคุณภาพของโมดูโล่
                                       

ฮอนด้า แอคคอร์ดสีโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก)
                สุนทรียภาพในการขับขี่ที่ลงตัวระหว่างความหรูหรา และความเป็น สปอร์ต กับฮอนด้า แอคคอร์ดสีโมเดิร์นสตีล เมทัลลิก  การออกแบบเฉพาะตัวจาก โมดูโล่จะดึงเอาสมรรถนะของรถ ขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นกับชุดการออกแบบ ของ กระจังหน้าโครเมียม สเกิร์ตหน้าและหลังพร้อมคิ้วโครเมียม สเกิร์ตข้างพร้อมตกแต่งด้วยไฟส่องพื้นด้านข้างรถดุดันด้วย สปอยเลอร์หลังแบบวิง พร้อมไฟเบรกที่ผ่านการทดสอบมาเป็นอย่างดี และเพิ่มลูกเล่นให้แก่ รถคันโปรดของคุณกับ ชุดตกแต่งประตูคิ้วครเมียมที่เสริมความหรูหราอันโดดเด่น พร้อมด้วยคิ้วกันสาด คิ้วบันไดสเตนเลสแอลอีดีและล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว สไตล์สีทูโทน เพื่อการขับขี่ที่เหนือขึ้นไปอีกระดับจากโมดูโล่
    
  


ฮอนด้า ซีวิคสีดำคริสตัล (มุก)
                อีกหนึ่งความล้ำสมัย ที่แซงหน้าทั้งความงาม และปราดเปรียว กับฮอนด้า ซีวิค สีดำคริสตัล(มุก) สะดุดตาตั้งแต่ กระจังหน้าโครเมียม และ สเกิร์ตหน้า ที่ผสมผสานกันได้อย่างดีกับ สเกิร์ตข้าง และหลัง รับทุกความท้าทายบนท้องถนนกับล้อแม็กพิเศษ ขนาด 18นิ้ว Moduloเพิ่มความเท่ไปอีกขั้น กับคิ้วข้างประตูแต่งโครเมียม และสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก สบายในทุกการขับขี่ในทุกช่วงเวลากับ กระจกตัดแสงอัตโนมัติภายในเสริมด้วยชุดตกแต่งคอนโซลหน้า เมทัลลิกแฮร์ไลน์ ปรับโฉมให้รถที่คุณชื่นชอบเท่ไปอีกขั้น
        
ฮอนด้าบริโอ้ อเมซสีแดงคาเนเลียน
                ออกจากชีวิตเดิมๆ ของสังคมคนเมืองกับรถที่เหมาะกับชีวิตยุคใหม่กับรถยนต์ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ สีแดงคาเนเลียน คันนี้  ไม่ว่าจะภายนอกของตัวรถกับ กระจังหน้า โครเมียมแบบสปอร์ต พร้อมด้วยสเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลังสปอยเลอร์หลัง ที่ทั้งหมดนี้ได้มาตรฐาน ทั้งความสวยงามโฉบเฉียว และคุณภาพที่วางใจได้หนึ่งเดียวกับรถยนต์ฮอนด้า รวมถึงการเปิดสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมกับ ล้อแม็กก้านคู่ลายสปอร์ตขนาด 14 นิ้ว และไฟตัดหมอก ภายในแปลกใหม่ด้วย ชุดตกแต่งคอนโซลหน้า ลายคาร์บอน และประโยชน์ใช้สอยที่มากขึ้นกับชุดถาดใส่ของอเนกประสงค์หลังพนักพิง และใหม่ วิทยุพร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์ฮอนด้า จอภาพขนาด 7นิ้ว พร้อมกล้องส่องหลัง หน้าจอระบบสัมผัสcapacitive screen ที่ทันสมัยสุดๆ กับความสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านการใช้งาน wifi ได้ และเพิ่มความสุนทรีภาพของเสียงดนตรีภายในห้องโดยสารกับ ระบบเครื่องเสียงภายในรถยนต์
     
ฮอนด้า บริโอ้สีเทาด้าน
                อีกหนึ่งสไตล์ของฮอนด้า บริโอ้กับการตกแต่งด้วยสติกเกอร์สีเทาด้านคันนี้ ที่จะพาทุกท่านไปสู่อีกด้านของชีวิต กับความโฉบเฉียวในการดีไซน์ภายนอก ไล่ตั้งแต่กระจังหน้าแบบสปอร์ต และสเกิร์ตรอบคันที่เพิ่มความมั่นใจให้รถคุณดูโดดเด่นน่าหลงใหล ไปจนถึง ล้อแม็กก้านคู่ปัดเงา ขนาด 14” นิ้ว พร้อมไฟตัดหมอกด้านหน้า  ที่จะทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกกว่าที่เคย   ภายใน สะดวกสบายด้วยจอภาพวิทยุ Display audio ที่รองรับการใช้งานของระบบ Honda Link และตกแต่งพิเศษด้วย ชุดลำโพงพร้อมระบบเครื่องเสียงจาก Pioneer จึงทำให้บริโอ้คันนี้ ดูโดดเด่น พิเศษ และไม่เหมือนใคร

              

                ขอเชิญท่านที่สนใจอุปกรณ์ตกแต่งฮอนด้า โมดูโล่ ทุกรุ่นเข้าเยี่ยมชมได้ที่บูธฮอนด้า แอคเซส ณ. ชาเลนเจอร์ 2 บูธ A4 ตั้งแต่วันที่ 20- 30มิ..นี้

มาสด้าเสริมยุทธ์ศาสตร์หวังครองใจลูกค้าทั่วประเทศ ชูสปอร์ตมาเก็ตติ้งพร้อมลงนามสนับสนุนฟุตบอลไทย

กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 10 มิถุนายน 2556 – นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จับมือกับ นายยูจิ นากามิเน ผู้บริหารระดับสูง มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วย ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ร่วมงานแถลงข่าวลงนามสนับสนุนสโมสรฟุตบอลในประเทศไทยเป็นครั้งแรก พร้อมเดินหน้าพัฒนาวงการฟุตบอลของประเทศไทย ตอกย้ำการทำสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการกับสโมสรนครราชสีมา เอฟซี หรือ สวาทแคท เป็นระยะเวลานานถึง 3 ปี โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการก้าวขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดของประเทศ
วงการฟุตบอลของดิวิชั่นหนึ่งคึกคักขึ้นมาทันตา  หลังจากมีบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นให้ความสนใจกีฬาฟุตบอลลีกของประเทศไทย ด้วยการให้การสนับสนุนด้านงบประมาณจำนวนหนึ่งเพื่อยกระดับทีมในระดับภูมิภาคให้ก้าวขึ้นไปเล่นลีกสูงสุดในประเทศ ด้วยการลงนามเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการสนับสนุนทีมเป็นระยะเวลานานถึง 3 ปี ซึ่งมาสด้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการให้การสนับสนุนด้านกีฬาฟุตบอลอาชีพในครั้งนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแรงกระตุ้นให้คนไทยหันมาชมกีฬาในประเทศมากขึ้น อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างความสนใจในกีฬาและออกกำลังกายให้แก่เยาวชนไทย ที่สำคัญที่สุดคือช่วยส่งเสริมยกระดับวงการฟุตบอลในประเทศให้ทัดเทียมกับวงการฟุตบอลของต่างชาติ
นายยูจิ นากามิเน ผู้บริหารระดับสูง มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ประเทศไทย คือ ยุทธศาสตร์สำคัญของมาสด้า สำหรับการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ๆ รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือและการสนับสนุนด้วยดีจากชาวไทยมาโดยตลอด นอกจากการพัฒนาด้านยานยนต์แล้ว มาสด้ายังตระหนักถึงความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาด้านสังคมในทุกๆ ประเทศที่มาสด้าได้เข้าไปทำธุรกิจ โดยเฉพาะด้านการเสริมสร้างทรัพยากรมนุษย์ มาสด้าให้ความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาวงการกีฬามาแล้วทั่วโลก ทั้ง มอเตอร์สปอร์ต ฟุตบอล เบสบอล แบดมินตัน และกีฬาอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลซึ่งเป็นกีฬาของมวลมนุษยชาติที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และมีผู้คนหลงใหลในกีฬาชนิดนี้อย่างกว้างขวาง ที่สำคัญการให้การสนับสนุนฟุตบอลของประเทศไทยในครั้งนี้จะเป็นฟันเฟืองอีกตัวที่จะช่วยเติมเต็มให้กับวงการฟุตบอลของไทยเติบโตขึ้นเพื่อก้าวไปสู่จุดหมายหมายที่วางไว้ นั่นคือ ทีมชาติไทยจะสามารถทะลุเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก
นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าให้ความสำคัญต่อวงการกีฬาทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในประเทศไทยมาสด้าได้ดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาแล้วกับ การแข่งขันวอลเล่บอลชายหาดหญิงชิงแชมป์โลกมาแล้ว สำหรับการให้การสนับสนุนกีฬาในเวทีระดับโลกนั้นมาสด้าได้ให้การสนับสนุนทีมฟุตบอลลีกสูงสุดของอิตาลี นั่นคือทีม ฟิออเรนตินา ส่วนในประเทศญี่ปุ่นมาสด้าก็ได้ให้การสนับสนุนกีฬาหลากหลายประเภท โดยเฉพาะกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างสูงของชาวญี่ปุ่นนั่นคือ กีฬาเบสบอล ที่มาสด้าร่วมสร้างทีมขึ้นมาและถือเป็นทีมประจำเมืองฮิโรชิมา และมีสนามเป็นของตนเอง ชื่อ มาสด้า ซูม-ซูม สเตเดียม และสนับสนุนทีมชื่อ ฮิโรชิมา คาร์ป พร้อมกันนี้ยังเป็นผู้สนับสนุนหลักของทีมฟุตบอลสโมสรซานเฟเซ่-ฮิโรชิมา ที่สามารถความแชมป์ เจ-ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศในฤดูกาลที่ผ่านมา นี่คือความสำเร็จของมาสด้าที่กำลังถูกส่งผ่านมาสู่ประเทศไทย
รศ.ดร. ชาญชัย อินทรประวัติ รองประธานสโมสรนครราชสีมา-มาสด้า เอฟซี ด้วยการสนับสนุนอย่างดียิ่งของท่านประธานที่ปรึกษาของสโมสร ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ เรามุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างมากเพื่อสร้างทีมให้เกิดความแข็งแกร่ง หลังจากเราได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่งจากมาสด้าในครั้งนี้ ยังมีหลากหลายเอกชนที่ได้แจ้งความจำนงเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับทางสโมสร ซึ่งเป้าหมายใหญ่ของสโมสร นครราชสีมา-มาสด้า เอฟซี ในฤดูกาลนี้ คือ ต้องการเลื่อนชั้นขึ้นไปสู้ศึกไทยพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้า การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้จะเริ่มทันที ด้วยการเสริมทัพนักแตะฝีเท้าดีเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมในช่วงเลคที่ 2 พร้อมกันนี้เรายังมีหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่มากประสบการณ์ ชื่อชั้นของ ''ขงเบ้งลูกหนัง'' อ.อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ คือกุนซือแม่ทัพใหญ่ของสวาดแคทที่จะพาเราก้าวไปสู่ชัยชนะ ด้วยฝีไม้ลายมือและประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวของ อ.อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ ในวงการฟุตบอลที่ไม่ต้องสาธยาย รวมไปถึงการคุมทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ผ่านงานระดับ เอเชียนเกมส์ รวมถึงสปิริตของทีมที่มีความมุ่งมั่นและกระหายต่อชัยชนะซึ่งจะทำให้เราสามารถก้าวไปสู่เป้าหมายของเราในเร็วๆ นี้
มาสด้าถือเป็นค่ายรถยนต์เพียงค่ายเดียวที่ลงทำให้การสนับสนุนในกีฬาฟุตบอลของประเทศไทย  ด้วยความตั้งใจจริงที่จะพัฒนาและยกระดับฟุตบอลของประเทศไทยให้ก้าวไปสู่การแข่งขันในทัวร์นาเม้นต์ระดับโลก  ถือเป็นการจุดประกายและเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นนิมิตหมายอันดีที่บริษัทเอกชนที่มีวิสัยทัศน์และความตั้งใจจริงที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาวงการฟุตบอลของประเทศไทยให้สามารถก้าวต่อไปในอนาคต
ทางด้าน “บิ๊กโต” สส. วัชรพล โตมรศักดิ์ ผู้จัดการทีม นครราชสีมา-มาสด้า เอฟซี กล่าวว่า เพราะสโมสรนครราชสีมา-มาสด้า เอฟซี เป็นทีมที่เปี่ยมด้วยศักยภาพที่เพียบพร้อม เรามีนักเตะที่ดีมากความสามารถ เราเล่นบอลกันเป็นทีม เรามีแฟนบอลที่ติดตามชมทุกแม็ทต์เฉลี่ยกว่า 10,000 คน และสนามเราสามารถจุผู้ชมมากกว่า 20,000 ดังนั้น บอร์ดบริหารทีมนครราชสีมา-มาสด้า เอฟซี เล็งเห็นว่าศึกไทยพรีเมียร์ลีกเท่านั้นที่ทัพสวาดแคทควรก้าวไปให้ถึง เราจะต้องเดินหน้าเพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าซึ่งต้องทำทุกวิถีทางที่จะนำพาทีมก้าวขึ้นไปสู้ศึกไทยพรีเมียร์ลีกให้ได้ภายหลังจบฤดูกาลนี้ หลังจากเมื่อฤดูกาลที่แล้วเราลองผิดลองถูกมามากมายและหลังจากจบในช่วงซีซั่นส์แรกจะต้องเปลี่ยนแปลงทีมไปในทิศทางที่ดีขึ้น ต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อเป้าหมายในการเข้าไปเล่นในศึกไทยพรีเมียร์ลีกให้ได้

มหกรรม FAST Auto Show Thailand 2013 ชวนคนไทยเลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่ ทุ่มงบ 50 ล้าน จัดยิ่งใหญ่ หวังปลุกตลาดรถยนต์ครึ่งปีหลังคึกคัก

กรุงเทพฯ — 6 มิถุนายน 2556 — บริษัท คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ จำกัด เตรียมนับถอยหลัง มหกรรมแสดงและจำหน่ายรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้ว FAST Auto Show Thailand 2013 เอาใจคนอยากมีรถ ทั้งรถใหม่ป้ายแดงจาก 16 ค่ายรถยนต์ชั้นนำและรถใช้แล้ว (รถมือสอง) จากเต็นท์รถ ชั้นนำ ภายใต้คอนเซปต์ FAST ที่มาพร้อมเงื่อนไขพิเศษจากธนาคารเกียรตินาคิน อนุมัติสินเชื่อเร็ว ซื้อง่าย ขายคล่อง ให้เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่ จุใจ 5 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 17 – 21 กรกฎาคม 2556 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ฮอลล์ 106 บนพื้นที่จัดงานกว่า 10,000 ตร.ม. คาดยอดผู้เข้าชมงาน 400,000 คน ยอดจองรถใหม่ 4,000 คัน และยอดซื้อรถมือสอง 2,000 คัน

นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธาน ฝ่ายรถใหม่ “มหกรรม FAST Auto Show Thailand 2013” เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในปีนี้ ยอดขายสะสม 4 เดือนแรกมีปริมาณการขาย 522,929 คัน สูงสุดเป็นสถิติใหม่ของยอดขายสะสม 4 เดือนแรก ด้วยอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 42.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 76.9% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 20.9 % ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการทยอยส่งมอบรถยนต์ในโครงการรถยนต์คันแรก ประกอบกับความนิยมอย่างต่อเนื่องในรถยนต์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์นั่ง ขณะที่ในเดือนพฤษภาคม มีแนวโน้มทรงตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ลูกค้าส่วนใหญ่ที่จองรถยนต์เพื่อใช้สิทธิรถยนต์คันแรกตั้งแต่ปีที่ผ่านมาได้ทยอยรับรถเรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ดี การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัทรถยนต์ต่างๆ จะเป็นปัจจัยบวกในการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ต่อไป
     
ทั้งนี้ บริษัท คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ จำกัด ได้ร่วมกับพันธมิตร คือ ธนาคารเกียรตินาคิน และบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ในฐานะผู้อุปถัมภ์ เตรียมจัดงาน “มหกรรม FAST Auto Show Thailand 2013” ที่ไบเทค บางนา เนื่องจากพบว่ากลุ่มผู้บริโภคในโซนกรุงเทพตะวันออก และสมุทรปราการ มีกำลังซื้อสูง และยังคงตอบรับงานเป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้บริโภคในย่านนี้ได้เข้าถึงรถยนต์ที่ต้องการได้ง่ายขึ้น โดยไฮไลท์ของงานจะเป็นแหล่งรวมรถยนต์ใหม่จาก 16 ค่ายรถยนต์ชั้นนำ และรถยนต์มือสองจากเต็นท์รถที่เชื่อถือได้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ FAST มาพร้อมเงื่อนไขพิเศษจากธนาคารเกียรตินาคิน อนุมัติสินเชื่อเร็ว ซื้อง่าย ขายคล่อง ถูกใจคันไหนก็ตัดสินใจซื้อเป็นเจ้าของได้เลย โดยตั้งเป้าผู้เข้าชมงานปีนี้ทะลุ 400,000 คน ยอดจองรถ 6,000 คัน แบ่งเป็นรถใหม่ 4,000 คัน และรถมือสอง 2,000 คัน งบประมาณการลงทุนในการจัดงานอยู่ที่ 50 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 10 ล้านบาท

นายชลัทชัย กล่าวอีกว่า “ในช่วงกลางปีจะเป็นช่วงที่ตลาดรถยนต์เริ่มกลับมาฟื้นตัว เนื่องจากการส่งมอบรถยนต์จะแล้วเสร็จในช่วงนี้ ส่งผลให้เกิดความต้องการที่แท้จริงในตลาด ซึ่งเป็นช่วงเหมาะสมกับที่เราจัด“มหกรรม FAST Auto Show Thailand 2013” โดยมั่นใจว่าตลาดรถยนต์ในช่วงกลางปีนี้จะกลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน ทั้งนี้ เพื่อให้งานได้รับความสนใจในวงกว้างยิ่งขึ้น เราได้เพิ่มงบโฆษณาจากปีที่แล้วขึ้นอีก 30 % โดยเน้นครอบคลุมทุกสื่อ ตั้งแต่โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ บิลบอร์ด แผ่นพับ ใบปลิว นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรอย่างเนชั่นแชนเนลที่ทำการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและจะทำการถ่ายทอดสดงานด้วย และยังมี AIS ที่จะส่ง SMS เชิญชวนลูกค้ามาร่วมงาน รวมถึง B-Quik ที่จะแจกใบปลิว 1 ล้านใบ ทั้งยังมีการแจกบัตรเข้างาน 1 ล้านใบตามสำนักงานและแหล่งชุมชนต่างๆ”

งานนี้มีค่ายรถยนต์ชั้นนำให้การตอบรับเข้าร่วมงานอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเชฟโรเลต (Chevrolet) ซีตรอง (Citroen) เดวา (Deva) ฟอร์ด (Ford) ฮอนด้า (Honda) ฮุนได (Hyundai) อีซูซุ (Isuzu) เกีย (Kia) มาสด้า (Mazda) มิตซูบิชิ (Mitsubishi) นิสสัน (Nissan)สามมิตร กรีนพาวเวอร์ (Sammitr Green Power) สโกด้า (Skoda) ซูบารุ (Subaru) โตโยต้า (Toyota) ซูซุกิ (Suzuki) และ DFSK
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีโปรโมชันพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อและจองรถยนต์ ลุ้นรับบัตรเติมน้ำมันฟรี จาก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด มูลค่า 100,000 บาท จำนวน 5 รางวัล สำหรับผู้เข้าชมงาน มีสิทธิ์ลุ้นรับ LED TV เป็นประจำทุกวันตลอดงาน

นายอัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ รองประธานจัดงาน ฝ่ายรถใช้แล้ว กล่าวถึงภาพรวมตลาดรถยนต์มือสองว่า ตลาดรถยนต์มือสองในขณะนี้ยังถือว่าทรงตัว แต่เมื่อเทียบกับปีที่แล้วถือว่ามีภาพรวมที่ดีกว่า เนื่องจากผลกระทบจากโครงการรถคันแรกทำให้คนหันไปให้ความสนใจรถยนต์มือหนึ่งเป็นจำนวนมาก สำหรับเทรนด์ความนิยมรถยนต์มือสองปีนี้นับว่าเป็นโอกาสทองของตลาดรถยนต์มือสองที่มีเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 ซีซี เนื่องจากคนส่วนใหญ่ให้ความนิยม ประกอบกับราคาที่เหมาะสม อยู่ที่ประมาณ 3-4 แสนบาท สำหรับเทรนด์ความนิยมรถที่มีเครื่องยนต์ 1,500 ซีซี ขึ้นไป รวมไปถึงรถยุโรป นับว่ายังคงเป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากรถยนต์เหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดจากโครงการรถคันแรก

สำหรับงาน FAST Auto Show Thailand 2013 ได้รับความร่วมมือจากค่ายรถยนต์มือสอง รายใหญ่ จากทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มาร่วมภายในงาน โดยรถทุกคันจะผ่านการคัดเลือกและตรวจสอบคุณภาพโดย อาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์มือสองคุณภาพดีได้อย่างรวดเร็ว โดยในปีนี้ เราตั้งเป้าไว้ว่าจะมียอดซื้อรถยนต์มือสองภายในงานประมาณ 2,000 คัน หรือคิดเป็น 500 คันต่อวัน

“งาน “มหกรรม FAST Auto Show Thailand 2013” ต้องการให้ผู้ซื้อผู้ขายสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้อย่างรวดเร็ว พึงพอใจทั้งสองฝ่าย นอกจากการแสดงและจำหน่ายทั้งรถใหม่และรถใช้แล้วทุกประเภท ยังมีเวทีกลางเพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย สนามทดลองขับสำหรับผู้ต้องการซื้อไว้ไม่ไกลจากบริเวณงาน รถใช้แล้วทุกคันผ่านการตรวจสอบคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญรถมือสอง และเชื่อมั่นว่างานนี้จะสร้างบรรยากาศการซื้อขายทำให้ตลาดรถยนต์คึกคักในช่วงกลางปี ส่งผลบวกแก่ธุรกิจรถยนต์ไปตลอดทั้งปีแน่นอน” นายอัษฎาวุธ กล่าวทิ้งท้าย

บริดจสโตนส่งมอบประสบการณ์ความสนุกเคียงข้างคุณทุกเส้นทางทั่วไทย ผ่านกิจกรรม “Always with you Roadshow”

[กรุงเทพฯ] (7 มิถุนายน 2556) – บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย มร.ชินอิจิ ซาโตะ กรรมการผู้จัดการ จัดกิจกรรม “Always with you Roadshow” หนึ่งในกิจกรรมหลักภายใต้แคมเปญ“Bridgestone Always with you”เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความสนุกแก่กลุ่มผู้บริโภคในต่างจังหวัด ภายในงานจะได้พบกับกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ อาทิ การแสดง Beat Box Show ร่วมสร้างสรรค์กรอบรูปแบบ D.I.Y สนุกสนานกับการเทสีมหัศจรรย์ พร้อมชมมินิคอนเสริ์ตสุดคูลจากศิลปินชื่อดังและกิจกรรมอื่นๆ พร้อมลุ้นรับของรางวัลมากมายตลอดงาน
ผู้สนใจสามารถร่วมสนุกกับกิจกรรม“Always with you Roadshow” ได้ตามสถานที่สุดชิค ในจังหวัดต่างๆ ดังนี้
    10 มิถุนายน 2556 พบกันที่ Central Festival Pattaya ชมมินิคอนเสิรต์ Room 39
    13 กรกฎาคม 2556 พบกันที่ Central Airport Plaza เชียงใหม่ ชมมินิคอนเสิรต์ ว่าน ธนกฤต
    12 สิงหาคม 2556 พบกันที่ Central Plaza ขอนแก่น ชมมินิคอนเสิรต์ ป๊อบ แคลลอรี่ บลาบลา


Always with you Roadshow เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร ภายใต้แนวคิด "Bridgestone Always With You-เคียงข้างคุณทุกเส้นทาง" โดยบริษัทได้จัดแคมเปญนี้อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งกิจกรรม Roadshow นี้เป็นส่วนหนึ่งในอีกหลากหลายกิจกรรมที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี เพื่อสื่อสารและสร้างการรับรู้ถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีเยี่ยมของ บริดจสโตนซึ่งพร้อมอยู่เคียงข้างและตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่


สามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/BridgestoneAlwaysWithYou

ยางนิตโตะ จัดหนัก ประกาศร่วมเป็นพันธมิตรทีมสิงห์โตน้ำเงินคราม เชลซี หวังกวาดฐานแฟนลูกหนังกว่า 1 ล้านราย สร้างฐานลูกค้ายางรถยนต์ใหม่ มั่นใจโตเกิน 20%

ยางนิตโตะ ยางสัญชาติญี่ปุ่น 100% เขย่าวงการลูกหนังโลก ร่วมเซ็นสัญญาสนับสนุนเป็นเวลา 3 ปีเต็ม ให้แก่ทีม "สิงห์โตน้ำเงินคราม เชลซี" สโมสรฟุตบอลอันดับหนึ่งของโลก ตามการจัดอันดับของสหพันธ์ประวัติศาสตร์ฟุตบอล และ สถิตินานาชาติ ปีล่าสุด ซึ่งเพิ่งได้รับรางวัลแชมป์รายการ UEFA Europa League Champion 2013 มาครองได้สำเร็จอีกด้วย พร้อมดึงตัว เดนนิส ไวส์ นักเตะในตำนาน ร่วมเปิดตัวแคมเปญ "DRIVING WITH CHAMPION" อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 56 ณ.ศูนย์การค้าสยามพารากอน ที่ผ่านมา
โดยนายอภิชัย ตั้งวงศ์ศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยางนิตโตะ ยางนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น 100% เปิดเผยถึงการร่วมสนับสนุน สโมสรเชลซี ฟุตบอลคลับ ในฐานะ ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ว่าการสนับสนุน ดังกล่าว ตนรู้สึกภูมิใจที่เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ที่เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยทีมงานคนไทย 100%
ได้เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ กับทีมฟุตบอลในระดับแถวหน้าของโลกอย่างสโมสร เชลซี ซึ่งเป็นสโมสรที่มีผลงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกฤดูการ รวมถึงในส่วนของฐานแฟนคลับของ ทีมเชลซี ในประเทศไทยนั้น ปัจจุบันก็ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ แบรนด์นิตโตะ นั้นได้เติบโตก้าวเป็นแบรนด์ในใจคนไทยเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว พร้อมตั้งเป้าหมายยอดขายโตขึ้น 20% จากการร่วมสนับสนุน ทีมฟุตบอล สโมสร เชลซี ดังกล่าว
จากความสำเร็จของทางบริษัทฯ ในการจำหน่ายยางรถยนต์คุณภาพสูง จากประเทศญี่ปุ่น ในช่วงปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการบอกต่อแบบปากต่อปาก ถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับราคา จากกลุ่มผู้ใช้ตัวจริง ผ่านสื่อต่าง ๆ และ การสร้างฐานร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่งของทางบริษัท ทำให้ ยางนิตโตะ สามารถเป็นที่รู้จักและยอมรับในด้านคุณภาพและราคาจำหน่ายในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งกลยุทธ์ในการรับประกันคุณภาพยางจากการผลิตตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งมีเพียงเจ้าเดียวในประเทศไทยของทางบริษัท นั้น จึงทำให้บริษัท ได้ปรับกลยุทธ์การตลาดออกไปในแนวกว้าง มากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะเข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกระดับ ตอบรับกับทุกความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม จึงได้เล็งเห็นถึง กีฬาฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬาที่เป็นที่ยอมรับ และมีชื่อเสียงในประเทศไทยเป็นอย่างมาก รวมถึงได้เล็งเห็นกระแสแฟนคลับของ ทีมสโมสรเชลซี ซึ่งมีอยู่ในเมืองไทยเป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อที่จะสอดคล้องกับการ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของยางนิตโต ที่จะมีผลิตภัณฑ์ ในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก และ ขนาดกลาง เพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลาอันใกล้"
ซึ่งการที่ทางบริษัทฯ ได้เข้าร่วมสนับสนุนทีมระดับโลกดังกล่าวนั้น ตลอดฤดูกาล นี้ ทางบริษัทฯ ก็ได้เดินหน้าผลักดันกิจกรรมการตลาดในด้าน Sport marketing อย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเต็มรูปแบบ เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมในกลุ่ม Motor Sport ที่ได้ดำเนินการมาโดยตลอดแล้วนั้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรม NITTO - CHELSEA FOOTBALL CLINIC, กิจกรรม Meet & Greet กับนักเตะ เชลซี ที่ สนามแสตมป์ฟอร์ดบริจ ประเทศอังกฤษ รวมถึงกิจกรรม Road Show ต่าง ๆ ที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องกับกลุ่มพันธมิตรที่เป็น Official Partner ของสโมสร เชลซี ฟุตบอลคลับ ไม่ว่าจะเป็น Samsung, Adidas และ สิงห์ โดยนำกลยุทธ์ win win strategy มาใช้ร่วมด้วย เพื่อความสำเร็จในเป้าหมายที่ตั้งไว้ของทุกฝ่าย
สำหรับในปีนี้ ทางบริษัทฯ ก็ได้เลือกใช้กลยุทธ์ IMC แบบเต็มรูปแบบมาปรับใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์และสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแบบ 4 มิติ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สื่อโฆษณา Mass Media หรือ Print Media เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถรับทราบถึง ตัวผลิตภัณฑ์ หรือกิจกรรมการตลาดที่กำลังดำเนินการอยู่ พร้อมกันนี้ในส่วนของ Digital Marketing ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในปัจจุบันที่ทางบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญทำการตลาดด้าน Digital & Social Media อย่างต่อเนื่องและจริงจัง โดยในปัจจุบัน Fan page ของ Nitto Tire Thailand กำลังก้าวเข้าสู่ 100,000 Fan page ซึ่งเป็น Fan page ยางรถยนต์ที่มีผู้ติดตาม และ พูดถึงมากที่สุด ซึ่งการร่วมสนับสนุน สโมสรเชลซี ฟุตบอลคลับ ในครั้งนี้ ทางบริษัทฯ ก็ได้มีการพัฒนา แอพพลิเคชั่น ใหม่ ๆ เพื่อให้ตอบรับกับ Life style ของแฟนบอลเชลซี และ แฟนบอลทีมอื่น ๆ ในประเทศไทย ให้สามารถร่วมสนุก พร้อม รับรู้ข่าวสารของผลิตภัณฑ์และกิจกรรมของ ยางนิตโตะ รวมถึง ข่าวสารในวงการฟุตบอล ผ่านแอพพลิเคชั่น ดังกล่าวได้ ซึ่งตลอดฤดูกาลในปีนี้ ทางบริษัทฯ ก็จะทยอย ออกแอพพลิเคชั่น ต่าง ๆ มามัดใจแฟนฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถติดตามและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/NittoTireThailand นายอภิชัย กล่าวสรุปทิ้งท้าย
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved