Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

คลิปวีดีโอการผลิตรถยนต์ New Mini




















อุตสาหกรรมการบิน ประกาศความสำเร็จก้าวสู่ทศวรรษ พร้อมที่จะนำพาประเทศไทยมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการซ่อมอากาศยานในระดับภูมิภาคอาเซียน

บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด ผู้ให้บริการซ่อมบำรุงอากาศยานครบวงจรระดับมาตรฐานสากลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก  ประกาศความสำเร็จของการให้บริการซ่อมบำรุงอากาศยานครบวงจรระดับมาตรฐานสากลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ตั้งเป้าเติบโตปีละ 10-15% โกยรายได้ปีนี้ 2,700 ล้าน

พลอากาศเอก วีรนันท์ หาญสวธา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลในปี 2546 ที่วางเป้าหมายให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการบินในการให้บริการซ่อมบำรุงอากาศยานครบวงจรระดับมาตรฐานสากลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อกระตุ้นให้กิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับการบินขยายตัวเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความต้องการในการซ่อมบำรุงอากาศยานเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ประเทศไทยในขณะนั้นยังไม่มีศูนย์ซ่อมอากาศยานในประเทศ ดังนั้นรัฐบาลไทยจึงได้มีการจัดตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานขึ้นในประเทศไทยขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2547 ภายใต้วิสัยทัศน์ในการ มุ่งมั่น พัฒนา และปรับปรุงในการให้บริการทางด้านอากาศยาน อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนอง ความต้องการสูงสุดของลูกค้า ในระดับมาตรฐานสากล

ตลอด 9 ปีของการดำเนินกิจการ ศูนย์ซ่อมอากาศยานครบวจร  นั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า และตลาดเป้าหมายก็มีการเติบโต และขยายตัวอย่างต่อเนื่อง  โดยกลุ่มลูกค้าหลักของศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน  จะมุ่งเน้นการให้บริการซ่อมบำรุงอากาศยานในหน่วยงานภาครัฐ และวางเป้าหมายขยายการให้บริการ เพื่อรองรับการซ่อมบำรุงอากาศยานส่วนบุคคล และเครื่องบินพาณิชย์ ให้เพิ่มขึ้นทั้งในและนอกประเทศ  ในอนาคตต่อไปอีกด้วย

ปัจจุบัน บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด  ให้บริการซ่อมบำรุงอากาศยานทางทหารของกองทัพ หน่วยงานภาครัฐ และเครื่องบินพาณิชย์หลากหลายแบบ
  • : 2 CT-4, PC-9, T-41 Flight Line Depot
  • : C-130, G-222, Avro 748, Learjet 35A, CN 235 CASA-212
  • : F-16 L-39 (Upgrade) F-16 Falcon Up, Falcon Star L-39
  • : UH-1H, Bell Euro copter 205, 206, 212, 412, AS350 B2
  • :   Boeing 737-300, 737-400, Airbus 319CJ

นอกจากนี้ ขอบเขตการให้บริการของศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน  ยังสามารถให้บริการ ซ่อมบำรุงบริภัณฑ์อากาศยาน  โดยการตรวจซ่อมและซ่อมใหญ่อุปกรณ์ได้หลากหลายชนิด  ตั้งแต่ใบพัด Directional Gyros รวมถึงการซ่อมใหญ่อุปกรณ์ Avionics ซึ่งได้แก่เครื่องวัดประกอบการบิน, วิทยุสื่อสาร, เรดาห์ตรวจอากาศ, Air Traffic Control, Radar Warning Receiver เป็นต้น

การบริการซ่อมเครื่องยนต์  บริษัท ฯ มีหน่วยงานสนับสนุนการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ อาทิ เครื่องยนต์ลูกสูบ เครื่องยนต์ General Electric J85, เครื่องยนต์ Honey Well T53 และมีแผนพัฒนาความสามารถในการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ Roll Royce Allison T56 และเครื่องยนต์ Pratt & Whitney F100

ศูนย์ปรับเทียบมาตรฐานเครื่องมือและเครื่องวัด  บริษัท ฯ ได้เปิดให้บริการปรับเทียบอุปกรณ์ และเครื่องมือในส่วนของ Aviation Test Equipment, Electrical Instrument, Physical/Mechanical Instrument, Optic/Laser and Dimension

ศูนย์ซ่อมอุปกรณ์สื่อสารอิเล็กโทรนิกส์ ภาคอากาศ มีความสามารถในการซ่อมบำรุง ระบบวิทยุภาคอากาศ, ระบบเครื่องช่วยเดินภาคอากาศ, ระบบเรดาห์ภาคอากาศ

กลุ่มลูกค้าที่มีการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือ ภาคเอกชน โดยเฉพาะสายการบินโลว์คอร์ส  อาทิ นกแอร์  แอร์เอเชีย และสายการบินอื่นๆ  ในช่วงนี้นับเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทในตลาดการให้บริการซ่อมบำรุง เพราะสายการบินโลว์คอร์ส มีอัตราการเติบโตสูงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เนื่องจากสายการบินโลว์คอร์สไม่มี      นโยบาลลงทุนสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยานเอง  ทั้งนี้เพื่อประหยัดต้นทุนการในให้บริการ  

อย่างไรก็ตามใน1-2 ปีนี้ บริษัทมีนโยบายลงทุน ประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงเก็บเครื่องบินโลว์คอร์ส อาทิ โบอิ้ง 737, โบอิ้ง 767  และแอร์บัส 320  เนื่องจากโรงเก็บเครื่องบินเดิมมีขนาดเล็ก ไม่เพียงพอต่อการให้บริการที่มีการขยายตัว


ด้านรายได้ตลอด 9 ปี ของการดำเนินธุรกิจ และจะครบรอบ 10 ปีในเดือนกันยายน 2556 นี้ บริษัทอุตสาหกรรมการบินมีการขยายตัวของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง  คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้ 2,700 ล้านบาท  และมีการเติบโตต่อเนื่องทุกปี 10-15 %  กรรมการผู้จัดการกล่าว

ปัจจุบัน  บริษัท ฯ มีบุคลากรทางด้านวิศวกรรมและการช่างอากาศยาน ที่มากด้วยประสบการณ์และความชำนาญจากกองทัพอากาศ มากกว่า 600 คน มีนโยบายสร้างความสัมพันธ์กับบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินชั้นนำของโลก บริษัทซ่อมบำรุงอากาศยาน และบริษัทจำหน่ายอะไหล่อากาศยานต่าง ๆ เพื่อความร่วมมือในส่วนการค้า การสนับสนุน ด้านเทคนิค วิศวกรรม พัสดุอะไหล่ และการฝึกอบรม เช่น บริษัท Lockheed Martin, Pratt & Whitney, Bell Helicopter Textron, Derco Aerospace, Samsung Aero, ST Aero, Rolls Royce และ British Aerospace เป็นต้น

“ซูบารุ”ระเบิดศึก “แตะรถ ชิงรถ ครั้งที่ 6” เฟ้นหา 10 สุดยอดคนไทยเหินฟ้าลุยแข่งสิงคโปร์ชิงรถยนต์เอ็กซ์วี

เปิดฉากประลองความอดทนกับเกมส์การแข่งขันสุดมันส์ Subaru Thailand Palm Challenge 2013 “Hold it, Win it” หรือ แตะรถ ชิงรถ ครั้งที่ 6 เฟ้นหา 10 สุดยอดตัวแทนประเทศไทยเหินฟ้าร่วมลงแข่งขันในรายการ MediaCorp Subaru Challenge - The Asian Face-Off 2013 ที่ประเทศสิงคโปร์ร่วมกับตัวแทนอีก 9 ประเทศ ระหว่างวันที่    ตุลาคมนี้ ชิงรางวัล Subaru XV มูลค่า 1.35 ล้านบาท 
นายอภิชัย ธรรมศิรารักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุอย่างเป็นทางการ เปิดเผยว่า กิจกรรมการแข่งขัน Subaru Thailand Palm Challenge 2013 “Hold it, Win it” หรือ แตะรถ ชิงรถ ครั้งที่  6 เพื่อเฟ้นหาผู้ที่สามารถแตะรถยนต์ซูบารุได้นานที่สุดและผ่านบททดสอบต่าง ๆ  ในแต่ละชั่วโมง เพื่อทดสอบสภาพจิตใจและความอดทน รวมทั้งสมาธิของผู้เข้าแข่งขัน     จนเหลือ 10 คนสุดท้ายจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขัในรายการ MediaCorp Subaru Challenge - The Asian Face-Off 2013 ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 25-30 ตุลาคม 2556 ร่วมกับตัวแทนอีก 9 ประเทศ เพื่อชิงรางวัลใหญ่ รถยนต์ Subaru XV สุดยอดรถยนต์ Crossover จำนวน 1 คัน มูลค่า 1.35 ล้านบาท
นายอภิชัย กล่าวว่า แนวคิดในการจัดกิจกรรมแตะรถ ชิงรถนั้น  เนื่องจากเล็งเห็นว่าการแข่งขันดังกล่าวจะทำให้ผู้เข้าแข่งขันมีสมาธิ  มีความพยายามและความอดทนสูง ประกอบกับสภาพร่างกายและจิตใจต้องพร้อมรับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา รวมทั้งมีความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ซูบารุก็มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนา สร้างแบรนด์และผลิตภัณฑ์ให้มีศักยภาพที่โดดเด่น เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเป็นที่ยอมรับและเข้าถึงผู้บริโภคได้ในทุกระดับ
สำหรับผู้ชนะ 10 คนนอกจากจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันที่ประเทศสิงคโปร์แล้ว ยังได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์, พ๊อกเกตมันนี่, พร้อมโรงแรมที่พักฟรีตลอดการแข่งขัน ซึ่งบริษัทฯ หวังว่าตัวแทนจากประเทศไทยจะผ่านบททดสอบและแตะรถยนต์ซูบารุได้นานที่สุดในการแข่งขันที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย

อย่างไรก็ตามการแข่งขันในรายการ MediaCorp Subaru Challenge - The Asian Face-Off 2012          ที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อปีที่ผ่านมา ปรากฎว่านายสมัชญ์ เทพเสน ตัวแทนจากประเทศไทยเพียงคนเดียวที่สามารถยืนหยัดและทำสถิติแตะรถยนต์ซูบารุได้นานที่สุดตลอดระยะเวลาการแข่งขัน 3  วัน 3 คืนเต็ม จนได้อันดับที่ 3 จากผู้เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 400 คน โดยใช้เวลาในการแตะรถนานถึง 76 ชั่วโมง 9 นาที 20 วินาที    

Suzuki Swift จัดงานขอบคุณลูกค้า หนุนครองแชมป์เบอร์ 1 อีโคคาร์ 4 เดือนติด

บริษัท  ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดย มร. ทาคายูคิ ซูกิยามา กรรมการผู้จัดการใหญ่ จัดงาน “Swift Avenue” ขอบคุณลูกค้า ณ เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์ พร้อมร่วมฉลอง Suzuki Swift ครองแชมป์เบอร์ 1 อีโคคาร์ 4 เดือนซ้อน ตั้งแต่ เมษายน – กรกฎาคม ที่ผ่านมา  ดันรถยนต์ซูซูกิโดยรวมแซงขึ้นอันดับ 4 ตลาดรถยนต์นั่งไทย คาดการณ์ยอดขายสิ้นปีนี้ที่ 47,500 คัน

ซูซูกิ ได้จัดไฮไลท์พิเศษ “Suzuki Swift แฟชั่นโชว์” ครั้งแรกที่ขบวนรถสปอร์ตคอมแพ็คแล่นขึ้นเวที พาเหล่านายแบบ-นางแบบรับเชิญ นำโดย กันต์ กันตถาวร, วุ้นเส้น วิริฒิพา แย้มนาม, แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ และ บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ ขึ้นเดินแบบบนแคทวอล์ค กับเสื้อผ้าคอลเล็คชั่นพิเศษที่ออกแบบเข้ากับรถ Suzuki Swift แต่ละคัน ที่ได้รับการแต่งให้ดูสุดเก๋ เท่ ชิค โดยฝีมือของเหล่า Swifter

ชาว Swifter” คือกลุ่มลูกค้าของ Suzuki Swift ที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีความเป็นตัวของตัวเอง  มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เช่น ชอบเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ที่แปลกใหม่หรือเป็นที่นิยมอย่างสนุกสนาน สรรหาร้านอาหาร สถานที่ช็อปปิ้ง ฟังดนตรี ท่องเที่ยว ในแบบที่ตัวเองชอบ ดังนั้นซูซูกิ จึงได้จัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย

ภายในงานยังมีรถ Suzuki Swift ของชาว Swifter ที่พร้อมใจกันมาจอดเรียงรายตามสีอย่างสวยงามกว่าร้อยคัน และแขกรับเชิญมาร่วมงานอย่างมากมาย ซึ่งภาพแห่งความสำเร็จของการจัดงานในครั้งนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่า Suzuki Swift เป็นรถยนต์นั่งยอดนิยมที่ตอบทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างไม่มีข้อสงสัย  โดยซูซูกิพบว่า ปัจจัยสำคัญคือ คุณภาพของสินค้า ดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร  สมรรถนะที่ลูกค้าพึงพอใจ  และประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยม   รวมไปถึงการพัฒนาด้านบริการหลังการขายที่เดินรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องทั้งจำนวนโชว์รูมและคุณภาพของศูนย์บริการกว่า 70 แห่งทั่วประเทศ   ลูกค้าส่วนใหญ่จึงได้ให้การสนับสนุนและรอคอย Suzuki Swift อย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจได้ว่า Suzuki Swift จะยังคงประสบความสำเร็จในด้านยอดขาย ยาวถึงปีหน้าอย่างแน่นอน

มาสด้า2 กระหึ่มมอเตอร์สปอร์ตลงสนามแรกขึ้นแท่นยืนโพเดี่ยม

กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 20 สิงหาคม 2556 – มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด ส่งทีมมอเตอร์สปอร์ต Innovation Motorsports ลงสู้ศึก Thailand Super Series 2013 สนามที่ 3-4 ที่จัดขึ้นสนามพีระ เซอร์กิต พัทยา โดยเฉพาะสนามนี้มาสด้า2 ได้ประกาศศักดาบนสังเวียนมอเตอร์สปอร์ตประเดิมสนามแรกได้อย่างสวยสดงดงาม กับ 2 คู่หู พีท ทองเจือ ที่ควบมาสด้า2 สปอร์ต แฮตช์แบค 5 ประตู หมายเลข 17 เข้าเส้นชัยอันดับที่ 4 ทั้ง 2 สนาม ส่วนไมค์ ฟรีแมน ที่ควบมาสด้า2 เอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู หมายเลข 55 สามารถจบการแข่งขันในอันดับที่ 12 และ 19
การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศเทศไทย รายการ Thailand Super Series 2013 เริ่มต้นขึ้นแล้ว สำหรับสนามที่ 3-4 ที่สนามพีระ เซอร์กิต เมืองพัทยา ซึ่งเป็นสนามแรกที่จัดการแข่งขันในประเทศไทย โดยมาสด้าส่งรถรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 เข้าร่วมการแข่งขัน 2 คัน ในรุ่น Thailand Super Production ซึ่งมีรถแข่งเข้าร่วมการแข่งขันทั้ง Class A, Class B และ Class C รวมกันทั้งสิ้น 29 คัน ซึ่งมาสด้า2 สปอร์ตตัวจี๊ดที่ลงประลองความเร็วในการแข่งขันสนามนี้เป็นสนามแรกเช่นกัน และก็ไม่ทำให้แฟนๆ ที่เข้าร่วมเชียร์และชมการแข่งขันผิดหวัง สามารถก้าวขึ้นโพเดี่ยมทันทีหลังการจบการแข่งขัน 18 รอบสนาม คว้าชัยชนะอันดับที่ 4 ได้ทั้ง 2 สนาม
สำหรับการแข่งขันในสนามนี้นี้ถือเป็นครั้งแรกของทั้ง  2 นักแข่ง ที่จะได้ควบมาสด้า2 คู่ใจลงทำการแข่งขัน ซึ่งในรอบจัดอันดับวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมนั้นสองนักแข่งทำได้ดีทีเดียว ออกสตาร์ทในตำแหน่งที่ 7 สำหรับพีท ทองเจือ และตำแหน่งที่ 8 สำหรับไมค์ ฟรีแมน การแข่งขันในสนามที่ 3 หลังไฟเขียวดวงที่ห้าดับลง สองนักแข่งจากทีมมาสด้า ก็พุ่งออกตัวไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะขยับอันดับขึ้นมาอยู่ในกลุ่มผู้นำทันที หลังจากผ่านโค้งแรกก็ขึ้นมาอยู่ที่ 3-4 ทันที ก่อนที่จบจบการแข่งขั้นในอันดับที่ 4 สำหรับพีท ทองเจือ ส่วนไมค์ ฟรีแมน ในช่วงเข้าโค้งก่อนทางตรงเกิดการรถเกิดการเบียดกับคู่แข่งทำให้เสียการทรงตัวหมุนไปหนึ่งรอบ แต่ก็สามารถประคองรถเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 12 ในสนามแรก
ส่วนสนามที่ 4 ทำการแข่งขันในวันอาทิตย์ สองนักแข่งก็แท็กทีมลงสู้กันต่อ พีท ทองเจือ ออกสตาร์ทอันดับที่สอง สามารถคว้าอันดับที่ 4 ได้อีกสนาม ส่วนไมค์ ฟรีแมน ออกสตาร์ทอันดับสุดท้าย สามารถจบการแข่งขันในอันดับที่ 19
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาด  กล่าวว่า สำหรับแฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตไม่ควรพลาดกับกีฬาสุดมันส์ สามารถร่วมเชียร์และส่งกำลังใจให้กับ 2 นักแข่งของมาสด้า สนามถัดไปสามารถลุ้นต่อได้ในส่วนของสนามที่ 5-6 วันที่ 5-6 ตุลาคม ที่สนามพีระ เซอร์กิต เช่นเดียวกัน ส่วนในสนามสุดท้ายซึ่งถือเป็นไฮไลท์เด็ดของการแข่งขัน นั่นคือการปิดถนนเลียบชายหาดบางแสน โดยจะจัดให้มีขึ้นในระหว่างวันที่ 14-15 ธันวาคมนี้ หรือสามารถเข้าไปอัพเดรสความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/mazda2life
รายละเอียดเกี่ยวกับรถสปอร์ตมาสด้า2
ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นสปอร์ตมาสด้า2 ด้วยรูปโฉมที่สปอร์ตตั้งแต่ดีไซน์ของกระจังหน้า กระจังหน้าส่วนล่าง ไฟหน้า กรอบไฟตัดหมอก ไฟท้าย และเส้นสายโฉบเฉี่ยวรอบคัน เสริมความสปอร์ตอีกขั้นด้วยชุดสปอร์ตของกันชนหน้า-หลัง สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง เครื่องยนต์ MZR ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOCH) 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1500 ซีซี 103 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 135 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ S-VT (Sequential Valve Timing) และระบบวาล์วควบคุมการไหลเวียนของไอดี TSCV (Tumble Swirl Control Value) ตอบสนองการขับขี่ทุกจังหวะความเร็วและแม่นยำ พวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า EPAS (Electric Power Assistance Steering) แม่นยำคุมได้ได้ตามสั่ง

ยางนิตโตะ เอาใจสิงห์บลู และคอบอล ปล่อย Mobile App เกมส์เดาะบอล NITTO-CHELSEA ลุยตลาด Digital Marketing

หลังจากยางนิตโตะเช็นต์สัญญาทุ่มงบ 120 ล้านบาท สนับสนุนสโมสรสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี อย่างเป็นทางการแล้ว และเพื่อเป็นการเอาใจชาวสิงห์บลูในไทย และกลุ่มผู้ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดยางรถยนต์นิตโตะ ยางนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น 100% เปิดตัวแคมเปญใหม่สำหรับยุคสมาร์ทโฟน จัดทำ Mobile Application NITTO – CHELSEA ภายใต้ชื่อ “Nitto Lifting Ball” ซึ่งรองรับการใช้งานทั้งระบบปฏิบัติการ ios และ Androil เอาใจกลุ่มลูกค้าผู้ใช้ยางรถยนต์ และกลุ่มผู้ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลโดยเฉพาะ
นายอภิชัย  ตั้งวงศ์ศิริ  กรรมการผู้จัดการ  บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล  จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยางนิตโตะ กล่าวถึง การตัดสินใจลงทุน เปิดตัว Mobile Application ในครั้งนี้ โดยทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ในการทำกิจกรรมด้าน Digital Marketing เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานในยุค Digital โดยจัดทำ Mobile Application ใช้ชื่อว่า “Nitto Lifting Ball” เป็น Application แรกของยางนิตโตะ ซึ่งลักษณะเกมส์จะเป็นเกมส์การเดาะลูกฟุตบอล เสมือนเป็นการได้เดาะลูกฟุตบอลในสนามจริง ซึ่งมีรางวัลมากมายสำหรับผู้ร่วมเล่น Application ดังกล่าว อาทิเช่น รางวัลบัตรกำนัลแทนเงินสด สำหรับแลกซื้อยางรถยนต์, ของ Premium สุดเท่ห์จาก NITTO – CHELSEA, และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมายตลอดปี 2556 นี้ โดยเชื่อว่า Application “Nitto Lifting Ball” จะได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวสิงห์บลู และคอบอล รวมถึงลูกค้าผู้ใช้รถยนต์โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถดาวน์โหลด App ดังกล่าวได้ฟรีแล้วตั้งแต่วันนี้ หรือติดตามรายละเอียดกิจกรรมอื่นๆ ของนิตโตะ ได้ที่ Facebook / NittoTireThailand
และสำหรับกิจกรรมของทางนิตโตะ  ที่จัดเพื่อเป็นการเอาใจเหล่าสิงห์บลูยังมีต่อเนื่องอีก โดยในช่วงเดือนตุลาคม 2556 บริษัทฯ จะพาแฟนบอลเกาะติดขอบสนาม บิดลัดฟ้าสู้ประเทศอังกฤษ เพื่อเป็นการต้อนรับการมาเยือนของทีมสโมสรเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ซิตี้ ณ สนามแสตมป์ฟอร์ดบริจ ประเทศอังกฤษ และกิจกรรม Meet & Greet กับนักเตะเชลซีแบบใกล้ชิด ซึ่งกิจกรรมต่างๆ กับเชลซีจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่เป็น Partner กับสโมสรเชลซี ฟุตบอลคลับ เพื่อให้เป็นไปตามกลยุทธ์ และความสำเร็จตามที่บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายไว้ และเพื่อให้ยางนิตโตะเติบโตก้าวไปเป็นแบรนด์ในใจคนไทย นายอภิชัย กล่าวปิดท้าย

สู่ระดับมาสเตอร์พีซ! ฮอนด้าเปิดตัว Scoopy i CLUB12 ดีไซน์โมเดิร์น-เทคโนโลยี พร้อมดึง เจ-มณฑล จิรา ถ่ายทอดไลฟ์สไตล์เหนือชั้นภายใต้คอนเซปต์ “Why So Common”



ฮอนด้า ผู้นำไลฟสไตล์ความสนุกแห่งวงการรถจักรยานยนต์ไทย สร้างเทรนด์ใหม่ให้วัยรุ่นไทยได้ฮือฮากันอีกครั้ง กับการเปิดตัวฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ คลับ ทเวลฟ์ (New Honda Scoopy i CLUB 12) ควบคู่ไปกับการปรากฏตัวของพรีเซนเตอร์สุดหล่อขวัญใจเด็กแนว เจ-มณฑล จิรา ดีเจ และศิลปินชื่อดัง ภายใต้คอนเซปต์ “Why So Common ธรรมดาไม่เป็น” โดดเด่นทุกองศาตั้งแต่หน้าจรดท้ายด้วยสีตัดแบบทูโทน และลายเส้นกราฟิกแบบโมเดิร์นเทคโนโลยี คมชัดด้วยเทคนิคการพิมพ์แบบซี.เอ็ม.วาย.เค. (CMYK) เสมือนจริง เท่ลงตัวไปกับล้อแม็กขนาด 12 นิ้ว พร้อมยางแบบทิวบ์เลส หน้ายางกว้างพิเศษให้ลุคเท่ เกาะถนนเป็นเยี่ยม, เครื่องยนต์ 4 จังหวะระบบหัวฉีด PGM-FI ประหยัดน้ำมันถึง 53 กิโลเมตร/ลิตร ตามมาตรฐานการทดสอบ MODE ECE R40, ปลอดภัยด้วยคอมบายเบรกช่วยกระจายแรงเบรกหน้า-หลัง ทำงานผ่านคาลิปเปอร์ไฮดรอลิคแบบ 3 ลูกสูบ เลือกที่จะไม่ธรรมดากับ 4 คู่โทนสีสุดเจ็บ เทา, น้ำเงิน-ขาว, ดำ-แดง, ขาว-ม่วง ด้วยราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 49,900 บาท ตั้งเป้าการจำหน่ายไว้ที่ 60,000 คันต่อปี
มร.จิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหาร  บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด  เปิดเผยว่า “ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้ ภายใต้แนวคิดชีวิตสนุกถ้าไม่หยุดค้นหาอะไรใหม่ๆว้าว! เราได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นใหม่ไปแล้วถึง 11 รุ่นด้วยกัน เช่นเดียวกับการทำกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดเพื่อสร้างดีมานด์ในกลุ่มผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ครึ่งปีหลังนี้ เราได้เตรียมความสนุกไว้ส่งมอบให้กับคนไทยอีกมากมาย หนึ่งในนั้นคือฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ คลับ ทเวลฟ์ รถเอ.ที.แนวโมเดิร์น โดดเด่นด้วยล้อแม็กขนาด 12 นิ้ว พร้อมระบบเบรคแบบ 3 Pots Hydraulic Caliper ที่ทำงานร่วมกับระบบกระจายแรงเบรกหน้า-หลัง จึงให้ประสิทธิภาพในการหยุดรถที่เหนือกว่า ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวนี้เคยได้รับการติดตั้งในรถเอ.ที.ราคาสูงอย่าง PCX150 และ Zoomer-X มาแล้ว ในขณะเดียวกันเราได้ออกแบบรถทั้งคันให้มีความสวยงามทันสมัยในทุกรายละเอียด เพื่อให้เป็นรถสำหรับคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง”

สำหรับ ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ คลับ ทเวลฟ์ (Honda Scoopy i CLUB 12) ได้รับการออกแบบให้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ภายใต้คอนเซปต์ “Why So Common?” ด้วยการใช้สีสันและลายเส้นแบบโมเดิร์นเทคโนโลยี โดยใช้เทคนิคการพิมพ์แบบซี.เอ็ม.วาย.เค. (CMYK) เสมือนจริง บนรูปทรงของรถเอ.ที.สไตล์โมเดิร์นคลาสสิก สะท้อนรสนิยมและอัตลักษณ์ที่โดนเด่นของผู้ขับขี่ เท่เกินใครด้วยล้อแม็ก 12 นิ้ว พร้อมยางทิวบ์เลส (Tubeless) ไร้ปัญหาเรื่องยางรั่วซึม หน้ายางกว้างเกาะถนนเป็นเยี่ยม ทันสมัยด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์แท้ Exclusive Head Light พร้อมหลอดฮาโลเจน และวงแหวนสีฟ้า Blue Ring ทั้งเท่ทั้งคมชัด, Senior Tail Light ไฟท้ายพร้อมไฟเลี้ยวโคมใสแบบบิวท์อิน สอดรับกับ Ribbon Rear Grab มือจับหลังอลูมิเนียมอย่างลงตัว, Chronograph Meter เรือนไมล์ที่รวมทุกฟังก์ชันไว้ในหนึ่งเดียว, Helmet-In L Size U-Box กล่องเก็บของขนาดใหญ่ความจุ 15.4 ลิตร เก็บหมวกกันน็อคแบบเจ็ตได้ทั้งใบ, มั่นใจในความปลอดภัยด้วยคอมบายเบรกช่วยกระจายแรงเบรกหน้า-หลัง พร้อมคาลิปเปอร์ไฮดรอลิค 3 ลูกสูบ, Side Stand Switch ตัดการทำงานของเครื่องยนต์ทันทีที่เอาขาตั้งข้างลง และ Key Shutter กุญแจนิรภัยสองชั้นเพื่อความอุ่นใจ
ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ คลับ ทเวลฟ์ มาพร้อมกับเครื่องยนต์  4 จังหวะขนาด 108cc. ระบบหัวฉีด PGM-FI ตอบสนองทันใจในทุกอัตราเร่ง และมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่สูงถึง 53 กิโลเมตร/ลิตร (วัดตามมาตรฐาน สมอ. MODE ECE R40) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานค่าไอเสียระดับ 6 และรองรับน้ำมัน E20
 

นอกจากนี้ เพื่อให้การสื่อสารภาพลักษณ์ของฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ คลับ ทเวลฟ์ เป็นไปอย่างชัดเจน  ฮอนด้ายังได้เปิดตัว เจ-มณฑล จิรา ดีเจและศิลปินชื่อดัง ในฐานะพรีเซนเตอร์คนใหม่ที่จะมาถ่ายทอดความไม่ธรรมดาให้กับรถรุ่นนี้อีกด้วย
“ไลฟ์สไตล์ของ เจ-มณฑล สะท้อนคาแรกเตอร์ของฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ คลับ ทเวลฟ์ ที่เน้นความทันสมัย และฟังก์ชันการใช้งานที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีได้อย่างลงตัวที่สุด เจ-มณฑล คือคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางแก็ดเจ็ท ทั้งในอาชีพการเป็นดีเจ และการใช้เวลาว่าง ดังนั้น ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ คลับทเวลฟ์ จึงกลายเป็นรถที่ตอบโจทย์ที่สุด” มร.จิอากิ กล่าวถึงพรีเซนเตอร์คนล่าสุด
ฮอนด้าวางแผนจำหน่ายฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ คลับ ทเวลฟ์ ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่ 13 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 โทนสีได้แก่เทา, น้ำเงิน-ขาว, ดำ-แดง, ขาว-ม่วง ราคาจำหน่ายโดยประมาณเริ่มต้นที่ 49,900 บาท วางเป้าหมายในการจำหน่ายไว้ที่ 60,000 คันต่อปี ติดตามรายละเอียดของรถเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.aphonda.co.th และเฟซบุ๊ค www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved