Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

Honda Jazz โฉมยุโรป สีสวย เครื่องประหยัด

ฮอนด้า แจ๊ส (Honda Jazz 2014) โฉมยุโรป
 
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก autoblog

          Honda เตรียมเปิดตัว Honda Jazz รุ่นปี 2014 โฉมยุโรป แย้มตัวถังสีไวน์แดง พร้อมเครื่องยนต์ Earth Dream รุ่นใหม่

          คนรักรถชาวไทยหลายคนคงได้สัมผัสกับแฮทช์แบ็ครุ่นยอดฮิตอย่าง ฮอนด้า แจ๊ส (Honda Jazz) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับชาวยุโรปนั้น ฮอนด้าเพิ่งจะเผยภาพแรกของเจ้าแฮทช์แบ็ครุ่นที่จะจำหน่ายในบ้านเขาออกมา ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน

          เริ่มกันที่ภายนอก แม้จะมีรูปลักษณ์เหมือนกับโฉมในเอเชียและอเมริกา แต่กลับโดดเด่นสะดุดตายิ่งกว่าด้วยตัวถังสีไวน์แดง หรูหราสวยงามไม่ใช่น้อย ทั้งยังมาพร้อมล้ออัลลอย 6 ก้าน เรียบเท่ ส่วนภายในยังไม่มีการเปิดเผยแต่คาดว่าคงไม่มีความแตกต่างจากของในไทยมากนัก

          ทีเด็ดอีกอย่างหนึ่งของฮอนด้า แจ๊สโฉมยุโรปคือได้ใช้เครื่องยนต์ Earth Dream รุ่นใหม่ ขนาด 1,300 ซีซี เลือกจับคู่ได้ทั้งกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งตัวเลขรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งแรงม้าและค่าประหยัดน้ำมันจะได้ทราบกันในวันเปิดตัว

          ฮอนด้าจะเปิดตัว ฮอนด้า แจ๊ส รุ่นปี 2014 โฉมยุโรปภายในงาน Paris Motor Show ปี 2014 ช่วงเดือนตุลาคมนี้

ซูซูกิ ไฮบริด “อัลโต้-สวิฟท์“ ลูกผสม “ญี่ปุ่น-อินเดีย“

  มารูติ ซูซูกิ อินเดีย ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในประเทศอินเดีย อยู่ในระหว่างการพัฒนารถยนต์ เทคโนโลยีโลว์คอสต์-ไฮบริด ในราคาจำหน่ายที่ต่ำและประหยัดพลังงาน โดยมารูติตั้งเป้าว่าจะผลิตรถยนต์ที่ราคาจับต้องได้ง่าย สามารถประหยัดพลังงานได้มากขึ้น 20-30% และต้องการนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใส่ในรถยนต์รุ่นอัลโต้ (Alto) ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นที่ราคาต่ำที่สุดของซูซูกิในพอร์ตโฟลิโอ ไปจนถึงรถยนต์แฮตช์แบ็กรุ่นสวิฟท์ (Swift) ภายใน 3-4 ปี

 
นับจากนี้แหล่งข่าวจากมารูติ ซูซูกิ เปิดเผยว่า มันไม่ใช่แค่คอนเซ็ปต์อีกต่อไป นี่คือการทำงานของเราเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นที่สูงขึ้น การพัฒนาครั้งนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับวิศวกรรมด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอินเดีย และรถยนต์รุ่นดังกล่าวจะถูกจำหน่ายในราคาที่ไม่แตกต่างจากราคารถยนต์ที่ใช้น้ำมันมากนัก
     ส่วนใหญ่รถยนต์ไฮบริดจะมีระบบที่แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไปคือ มีมอเตอร์ไฟฟ้าที่เพิ่มเข้าไปเพื่อช่วยขับเคลื่อนและเสริมแรงจากพลังงานของเครื่องยนต์และเมื่อทำการเบรก ระบบก็จะดึงพลังงานส่วนเกินกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ ทำให้รถยนต์ไฮบริดสามารถประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มากกว่า แต่ด้วยราคารถประเภทดังกล่าวที่สูง ทำให้เป็นอุปสรรคต่อผู้บริโภค การขยายตัวของรถไฮบริดในตลาดโลกจึงค่อนข้างช้า
     อาร์ซี บาร์กาวา (RC Bhargava) ประธานบริษัท มารูติ กล่าวว่า การทำงานร่วมกันระกว่างบริษัทแม่กับมารูติ ซึ่งมารูติเป็นค่ายรถยนต์ที่มียอดขายอันดับหนึ่งในอินเดียนั้น ได้เริ่มต้นทำงานกันที่เทคโนโลยีไฮบริด ซึ่งมารูติมองว่าลูกค้ามีความต้องการรถยนต์ไฮบริดที่มีความเหมาะสมกับสภาพตลาด นั่นคือระบบไฮบริดที่สามารถติดตั้งได้ในรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ราคาประหยัด ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวถือว่ามีความจำเป็นและเป็นที่ต้องการมาก

  ก่อนหน้านี้ มารูติได้แนะนำระบบส่งกำลัง "เอเอ็มที" หรือระบบเกียร์ที่ควบรวมระหว่างแมนวลและออโต้ ที่ติดตั้งภายในรถยนต์ซูซูกิ เซเลริโอ ซึ่งผสานความประหยัดของระบบแมนวลเข้ากับความสะดวกสบายของระบบเกียร์ออโต้ ซึ่งสามารถดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี
     ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มารูติน่าจะสามารถทำรถไฮบริดที่สามารถประหยัดพลังงานได้มากกว่า 25 กิโลเมตรต่อลิตรอย่างแน่นอน ซึ่งซูซูกิเองก็มีเทคโนโลยีดี ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งอาจสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ทั้งเกียร์เอเอ็มที, เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ และรถยนต์ที่ไม่ต้องใช้คลัตช์ (Clutch-less car) แต่เรื่องสำคัญที่ต้องติดตามต่อไปคือ ยอดขายที่จะคาดว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งยิ่งมียอดขายที่สูงย่อมส่งผลต่อราคาจำหน่ายที่ต่ำลงด้วย เนื่องจากความสำเร็จของรถยนต์ไฮบริดขึ้นอยู่กับความสามารถในการเป็นเจ้าของสำหรับลูกค้าอินเดียเป็นสำคัญ
     ขณะเดียวกันบริษัทแม่ของซูซูกิในประเทศญี่ปุ่นก็ได้พัฒนารถยนต์ไฮบริดเวอร์ชั่นสำหรับรุ่นสวิฟท์เรียบร้อยแล้วแต่ไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในกลุ่มรถยนต์โลว์คอสต์ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อย2-3 ปี จึงจะสามารถทำตลาดได้

 
     อย่างไรก็ตาม มารูติเองก็ไม่ใช่ค่ายรถเพียงรายเดียวที่สนใจแนวคิดดังกล่าว เพราะค่ายรถ "มหินทรา" ก็กำลังพัฒนารถยนต์ไฮบริดเช่นกัน ภายใต้เทคโนโลยีรถยนต์ ดีเซล-ไฮบริด ที่ใช้ระบบส่งกำลังเกียร์ธรรมดา ในชื่อรหัสโปรเจ็กต์คือ "W202" คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายรถยนต์รุ่นดังกล่าวได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า
     ทั้งนี้ รัฐบาลกลางอินเดียก็กำลังพิจารณาเพิ่มการซับซิไดซ์สำหรับรถยนต์ไฮบริด ภายใต้แผนการพัฒนายานยนต์อิเล็กทริกส์แห่งชาติ ที่ตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มจำนวนรถยนต์อิเล็กทริกส์ (รวมถึงรถไฮบริดด้วย) ให้มากขึ้นเพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายในปี 2563 ตามแผนที่จะลดการใช้เชื้อเพลิงเหลวอย่างน้อย 0.4 ล้านตัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์อิเล็กทริกและไฮบริดจะอยู่ที่ 1.4 ล้านคัน ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์อินเดียต้องมองหาทางเลือกที่ปฏิบัติได้จริงในการลดการนำเข้าน้ำมัน

Volkswagen รุกหนักอาเซียน ตั้งโรงงานทั้งในไทยและอินโด

Volkswagen รุกหนักอาเซียน ตั้งโรงงานทั้งในไทยและอินโด
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก livelifedrive

          Volkswagen รุกหนักภูมิภาคอาเซียน เตรียมเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ทั้งในไทยและอินโดนีเซีย หวังเทียบชั้น Toyota

          โฟล์กสวาเกน (Volkswagen) ถือเป็นค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกจากเยอรมนีที่ยังไม่สามารถบุกตลาดในประชาคมอาเซียนเต็มที่นักเมื่อเทียบกับค่ายในระดับเดียวกัน แต่ล่าสุด โฟล์กก็ได้เผยรายละเอียดที่น่าตื่นเต้นเมื่อพวกเขาเตรียมเปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่พร้อมกันถึง 2 แห่ง ในสองประเทศชั้นนำด้านยานยนต์ของภูมิภาคอาเซียนอย่างไทยและอินโดนีเซีย

          เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวบิซิเนสเรคคอร์ดเดอร์ รายงานว่า BOI เตรียมอนุมัติการจัดตั้งโรงงานของโฟล์กสวาเกนในประเทศไทย โดยการลงทุนครั้งนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขของโครงการอีโค่คาร์เฟส 2 ซึ่งโฟล์กจะต้องผลิตรถยนต์ประหยัดน้ำมันจำหน่ายและส่งออกรวมกันให้ได้ 100,000 คัน ภายในปี 2019 โดยมีข่าวลือว่าโรงงานของโฟล์สวาเกนในไทยจะใช้เงินลงทุนถึง 1,000 ล้านยูโร (ประมาณ 41,000 ล้านบาท) และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกเลยทีเดียว

          นอกจากการลงทุนในประเทศไทยแล้ว บริษัท พีที โฟล์กสวาเกน ตัวแทนจำหน่ายโฟล์กสวาเกนในประเทศอินโดนีเซียยังได้เปิดเผยข้อมูลในงานแสดงรถยนต์ Indonesia International Motor Show 2014 ว่า ทางโฟล์กสวาเกนยังสนใจสร้างโรงงานในอินโดนีเซียด้วย โดยริเริ่มโครงการดังกล่าวตั้งแต่ปี 2013 แต่ต้องหยุดชะงักเนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้โฟล์กสวาเกนก็พร้อมจะกลับมาสานต่อโครงการภายในปี 2015 ด้วย
          นับเป็นทิศทางที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับตลาดรถยนต์ต้อนรับการมาถึงของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากแผนการของโฟล์กสวาเกนสำเร็จ กำลังการผลิตอันยอดเยี่ยมของไทยและอินโดนีเซียอาจส่งให้โฟล์กสวาเกนทำยอดขายในระดับโลกเข้าใกล้โตโยต้า (Toyota) และฟอร์ด (Ford) มากขึ้นก็เป็นได้ครับ

Honda CR-V 2015 ปรับโฉม เฉี่ยวคมขึ้น

Honda CR-V 2015
 เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก worldcarfans

          เผยภาพแรกของ Honda CR-V รุ่นปรับโฉมปี 2015 ปรับดีไซน์เล็กน้อยเพื่อรับกับแนวทางการออกแบบใหม่ล่าสุด

          หลังจากที่ฮอนด้า (Honda) ได้ส่งฮอนด้า ซีอาร์-วี (Honda CR-V) รุ่นปัจจุบันออกมาทำตลาดได้สักพักใหญ่  ในที่สุดก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องปรับโฉมให้กับรถครอสโอเวอร์รุ่นยอดนิยมคันนี้เสียที ซึ่งล่าสุดก็ได้มีการเผยภาพแรกของฮอนด้า ซีอาร์-วีรุ่นปรับโฉมประจำปี 2015 ออกมาให้แฟน ๆ ได้ชมกันแล้ว
          ภาพดังกล่าวเป็นการเผยโฉมเพียงแค่ด้านหน้าของตัวรถเท่านั้น ซึ่งมีการปรับปรุงรายละเอียดการออกแบบที่ชัดเจน ทั้งไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ล้อมกรอบด้วยไฟเดย์ไลท์ LED เติมด้วยเส้นสายโครเมียมรอบด้านบนและล่างของกระจังหน้าเชื่อมต่อกับเส้นสายไฟ LED ส่วนด้านล่างโชว์โคมไฟตัดหมอกรูปสี่เหลี่ยมล้อมกรอบโครเมียมดีไซน์ใหม่ โดยทั้งหมดนี้เป็นการออกแบบให้เหมาะสมกับแนวทาง Exciting H Design อันเป็นแนวทางที่ฮอนด้ายึดกับรถยนต์รุ่นใหม่ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป
Honda CR-V 2013

          ด้านรายละเอียดทางวิศวกรรมคาดว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ รวมทั้งเครื่องยนต์ โดยยังคงใช้เครื่องยนต์เดียวกันกับรุ่นที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ทุกประการ

          ฮอนด้าเตรียมเปิดตัวซีอาร์-วี รุ่นปรับโฉมในเร็ว ๆ นี้ ส่วนชาวไทยเองก็มีลุ้นจะได้ใช้ตามโฉมในภาพนี้ภายในปี 2015 แน่นอนครับ
 

 

ยางนิตโตะ รุกตลาด SUV เต็มตัว เผยโฉม “NITTO NT850+ Premium CUV” ยางตัวจริง สำหรับรถ SUV



ยางนิตโตะ ยางนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น 100% เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “NITTO NT850+ Premium CUV” ยางสำหรับรถ SUV ตัวจริง! ชูจุดเด่น นุ่ม..เงียบ..มั่นใจทุกการควบคุม ด้วยนวัตกรรมการผลิตและการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง จึงทำให้ยางนิตโตะ NT850+ Premium CUVเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการเกาะถนน ลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ได้ต่ำสุด ยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่า พร้อมตอบสนองความมั่นใจทุกช่วงความเร็ว โดยมีให้เลือกตั้งแต่ ขอบ 17” – 20”
นายอภิชัย  ตั้งวงศ์ศิริ  กรรมการผู้จัดการ  บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยางนิตโตะกล่าวถึงการแนะนำยางนิตโตะ NT850+ Premium CUV ครั้งนี้ ว่า “ยางนิตโตะยังคงมุ่งมั่นคิดค้นและวิจัยยางรถยนต์ เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดยางรถยนต์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น บริษัทฯ เล็งเห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใช้รถยนต์อเนกประสงค์ หรือรถ SUV ที่เน้นการขับขี่ในเมืองมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงมีความต้องการสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ นุ่ม..เงียบ เสมือนรถซีดาน ดังนั้นยางนิตโตะ NT850+ Premium CUV จึงได้ถูกค้นคว้าและวิจัยด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยสูตรเฉพาะของยางนิตโตะ ให้ตอบโจทย์ประสิทธิภาพการขับขี่ที่ลงตัว สำหรับรถ SUVได้เป็นอย่างดี”
“สำหรับยาง “NITTO NT850+ Premium CUV” มาพร้อมคอนเซ็ป นุ่ม..เงียบ..มั่นใจทุกการควบคุม ยางของรถ SUV ตัวจริง! มาพร้อมด้วยคุณสมบัติการออกแบบโครงสร้างของยาง เพื่อรองรับรถยนต์ประเภท SUV โดยเฉพาะ จากการออกแบบผนังของร่องดอกยางแบบซิกแซก เทคโนโลยีแห่งความเงียบ สำหรับลดเสียงรบกวนจากรถยนต์ขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี, การออกแบบผนังร่องดอกยางแบบเกลียว ที่มีรูปทรง 3 มิติ ช่วยปรับผิวสัมผัสของหน้ายางให้อยู่ในระนาบเดียวกับพื้นถนน จึงทำให้ดอกยางสึกเรียบสม่ำเสมอ พร้อมด้วยดอกยางต่อเนื่องขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมร่องตรงรีดน้ำขนาดกว้าง 4 ร่อง จึงทำให้ “NITTO NT850+ Premium CUV” มีประสิทธิภาพการเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยมทั้งบนถนนแห้ง และเปียก จากคุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ผนวกกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ได้รับการออกแบบให้เป็นยางที่มีประสิทธิภาพและเทคโนโลยีที่เหนือชั้นกว่ายางในประเภทเดียว จึงทำให้มั่นใจได้ว่า ยางนิตโตะ NT850+ Premium CUVจะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของยางนิตโตะที่ครองใจผู้ใช้งานรถประเภท SUV ซึ่งสามารถตอบสนองได้ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ เติมเต็มทุกประสบการณ์แห่งความประทับใจ” นายอภิชัย กล่าวปิดท้าย

วิธีการเปลี่ยนพูเล่ตัวใหม่ของไดชาร์จเครื่องยนต์ของรถยนต์ยี่ห้อVW / AUDI /SEAT / SKODA


ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ คูเป้ ประกาศความสง่างามแห่งยานยนต์ในโลกศิลปะ โดยฝีมือ ทิม เลย์เซลล์ ศิลปินระดับโลก



ภาพข่าว: เอียน แคลลัม (ซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายการออกแบบ จากัวร์ สหราชอาณาจักร และ ทิม เลย์เซลล์ (ขวา) ศิลปินนักวาดภาพรถยนต์ระดับโลกชาวอังกฤษ ฉลองการจัดแสดงผลงานภาพ ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ คูเป้ ซึ่งเป็นสุดยอดยานยนต์ที่ ซิตี้ ออโต้โมบิล ได้จัดงานเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้

กรุงเทพฯ, 17 กันยายน 2557 - ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ คูเป้ สุดยอดนวัตกรรมยานยนต์จากจากัวร์ ซึ่ง ซิตี้ ออโต้โมบิล ผู้แทนจัดจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จัดงานเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ถูกถ่ายทอดความงดงามลงบนผืนผ้าใบโดย ทิม เลย์เซลล์ ศิลปินนักวาดภาพรถยนต์ชั้นแนวหน้าของโลกชาวอังกฤษ ซึ่งเคยสร้างสรรค์ผลงานที่คว้ารางวัลจากสโมสรนักแข่งรถอังกฤษ (British Racing Driver Club) เมื่อมีอายุเพียง 13 ปี และเมื่อทิมอายุได้ 19 ปี ผลงานของเขาก็เป็นที่หมายตาของบรรดานักสะสมงานศิลป์ระดับสูงทั่วโลก ซึ่งจากัวร์คือแบรนด์สุดโปรดและถูกใช้เป็นต้นแบบในการสร้างสรรค์ผลงานของทิมมาโดยตลอด โดยหนึ่งในผลงานของทิมที่ได้รับรางวัลจากสโมสรนักแข่งรถอังกฤษคือภาพ จากัวร์ ซี-ไทป์ ซึ่งเป็นรุ่นที่ชนะเลิศรายการ เลอ ม็องส์ ปี 1953 การสร้างสรรค์ภาพ ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ คูเป้ ครั้งนี้ จึงถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจครั้งสำคัญของทิม

ทิม เลย์เซลล์ ศิลปินเจ้าของผลงานระดับโลก กล่าวว่า “เอฟ-ไทป์ คูเป้ สมบูรณ์แบบด้วยทุกสิ่งที่รถสปอร์ตพึงมี ทั้งภาพลักษณ์ที่สง่างาม สรรถนะความเร็วที่เป็นเลิศ และเสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ที่เร้าอารมณ์ แน่นอน ผมตื่นเต้นมากที่ได้สร้างสรรค์ผลงานจากยานยนต์รุ่นนี้”  ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ คูเป้ คือสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์แห่งความเร็วและสมรรถนะที่สมบูรณ์แบบที่สุดจากจากัวร์ ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากรถสปอร์ตคูเป้รุ่น เอฟ-ไทป์ คอนเวอร์ทิเบิล ที่เคยคว้ารางวัลงานออกแบบรถยนต์โลก (World Car Design of the Year) ประจำปี 2013 โดยถูกออกแบบเพื่อมอบประสบการณ์แห่งการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบทั้งพลังในการพุ่งทะยาน ความคล่องตัวในการขับขี่ และมนต์เสน่ห์ที่จะสะกดทุกสายตา ด้วยสโลแกน “COME ALIVE

ภาพลักษณ์อันสง่างามของ จากัวร์ เอฟ-ไทป์ คูเป้ เกิดจากการออกแบบต่อยอดจากงานดีไซน์ของรุ่น จากัวร์ ซี-เอ็กซ์ 16 (C-X16) ซึ่งเป็นต้นแบบรถสปอร์ตคูเป้ที่กวาดรางวัลระดับโลกจากงาน 2011 Frankfurt Motor Show ผ่านการใช้เส้นดีไซน์หลัก 3 เส้นในการสร้างสรรค์

ทิม บรรยายถึงภาพนี้ว่า “มุมดีไซน์ของเอฟ-ไทป์ คูเป้ ที่ผมรู้สึกประทับใจและเลือกนำเสนอในภาพนี้คือไฟท้ายดีไซน์เฉี่ยว ปีกหลังอันบึกบึน และแนวเส้นหลังคาที่พลิ้วสวย โดยสื่อผ่านช่วงเวลาที่เราต้องการสัมผัสมากที่สุด นั่นคือในขณะที่ยานยนต์โลดแล่นลัดเลาะไปตามหุบเขาท่ามกลางแสงแดดและเงื้อมเงาที่ทอดยาวในยามบ่าย โดยกำลังวิ่งไล่ตามสุดยอดยานยนต์อีกรุ่นหนึ่งที่อยู่เบื้องหน้า นั่นก็คือ เอฟ-ไทป์ คอนเวอร์ทิเบิล นั่นเอง!   

เส้นดีไซน์แรกถูกใช้ในการออกแบบตั้งแต่ส่วนช่องลมให้แลดูน่าเกรงขามด้วยรูปทรง เหงือกฉลามที่เปิดอยู่ด้านข้าง ซึ่งเป็นตัวสร้างรูปทรงที่เพรียวสวยของโครงรถ ส่วนเส้นดีไซน์ที่สองซึ่งยังคงนำมาจากรุ่นคอนเวอร์ทิเบิล เริ่มต้นจากขอบหลังของประตูรถ โดยดึงแนวสายตาให้แผ่ออกด้านข้างและเฉียงขึ้นด้านบน เพื่อเน้นส่วนโค้งของกรอบล้อหลังให้แลดูใหญ่และทรงพลังในการขับขี่ ก่อนเคลื่อนต่ำผ่านไฟท้ายลงในแนวดิ่ง และเส้นดีไซน์ที่สามถือเป็นเส้นสำคัญที่สร้างความอัศจรรย์แห่งงานดีไซน์นั้น ใช้ในส่วนของห้องโดยสารด้านหลังและโครงหลังคารถเพื่อเน้นรูปทรงลู่ลม ทำให้ห้องโดยสารเสมือนได้รับการปกป้องจากช่วงท้ายที่ให้ความรู้สึกบึกบึนทรงพลัง พร้อมสมรรถนะที่เป็นเยี่ยมของจากัวร์
ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดและข้อมูลได้ที่  บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัดโทร 02 651 4545 หรือ sales@jaguarthailand.com


การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบด้วยสมรรถนะที่เป็นเลิศ
ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ คูเป้ นำเสนอสุดยอดยนตกรรมจากตระกูล เอฟ-ไทป์ ด้วยเครื่องยนต์ระบบซูเปอร์ชาร์จ V8 ขนาด 5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 550 แรงม้า/แรงบิด 680 นิวตันเมตร โดยรุ่น เอฟ-ไทป์ อาร์ คูเป้ มอบอัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร/ชม. ในเวลาเพียง 4 วินาที และพุ่งทะยานด้วยความเร็วสูงสุดที่ 299 กิโลเมตร/ชม. โดยใช้เวลาเร่งที่ระดับความเร็ว 80-120 กิโลเมตร/ชม.ในเวลาเพียง 2.4 วินาที ส่วนรุ่นจากัวร์ เอฟ-ไทป์ เอส คูเป้ ใช้เครื่องยนต์เบนซินระบบซูเปอร์ชาร์จ V6 ขนาด 3 ลิตร มอบอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชม. ในเวลา 4.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 275 กิโลเมตร/ชม.

###

เกี่ยวกับ ซิตี้ ออโต้โมบิล

บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ในประเทศไทย นำเสนอยนตกรรมระดับพรีเมี่ยมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านดีไซน์ที่เหนือระดับและสมรรถนะที่โดนใจ พร้อมโชว์รูมที่ทันสมัยและศูนย์บริการครบวงจรสาขาถนนวิทยุ และศูนย์บริการแห่งใหม่สาขาพระราม 3  เพื่อมอบบริการทั้งก่อนและหลังการขาย ตลอดจนการซ่อมบำรุงด้วยมาตรฐานระดับสากลของจากัวร์และแลนด์โรเวอร์สำหรับลูกค้าในประเทศไทย

สแกนเนีย โชว์ยอดจำหน่ายเครื่องยนต์อุตสาหกรรมแตะ 85,000 เครื่อง/ปี ลั่นพร้อมเคลื่อนทัพบุกตลาดอาเซียน ล่าสุดจับมือ ซี แอนด์ อาร์ เทคโนโลยี เดินหน้ารุกตลาดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในไทย




ตลาดเครื่องยนต์อุตสาหกรรมอาเซียนเนื้อหอมรับเปิด AECสแกนเนียสบช่องเคลื่อนทัพบุกตลาดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในไทย มั่นใจชูความเป็นหนึ่งในผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีเครื่องยนต์ระดับโลกมัดใจลูกค้า ล่าสุด สแกนเนีย สยาม รับลูกจับมือ ซี แอนด์ อาร์ เทคโนโลยี ผู้จัดจำหน่ายและเชี่ยวชาญด้านการดูแลบำรุงรักษาเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เดินหน้าชิงเค้กตลาดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในไทย จับกลุ่มลูกค้าหน่วยงานภาครัฐและเอกชน คาดผลตอบรับดีจากความต้องการของตลาดและความเชื่อมั่นในสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมากขึ้น
มร.เจมส์ อาร์มสตรอง กรรมการผู้จัดการ สแกนเนีย ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวถึงตลาดเครื่องยนต์อุตสาหกรรมอาเซียนขณะนี้ว่า มีแนวโน้มความต้องการและการเติบโตอยู่ในระดับสูง จากการเร่งพัฒนาศักยภาพของทั้งภาครัฐและเอกชนในแต่ละประเทศเพื่อมุ่งสู่การแข่งขันในตลาดระดับสากล โดยมีตัวผลักดันสำคัญคือ การร่วมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่ สแกนเนีย จะเดินหน้าทำตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องยนต์อุตสาหกรรมอาเซียนให้มากขึ้น หลังจากที่สแกนเนียประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในทุกประเทศที่ได้สัมผัสกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีเครื่องยนต์สแกนเนีย ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 100 ปี
ปัจจุบัน สแกนเนีย มีวิศวกรประจำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ถึง 3,000 คน และใช้วิศวกร 1 ใน 3 หรือ 1,000 คน เพื่อร่วมกันออกแบบพัฒนาเครื่องยนต์ภายใต้แนวคิด เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ Scania Ecolutionเพื่อให้ได้เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูง ทนทาน มีความสะดวกในการใช้งาน สะดวกในการติดตั้งและการซ่อมบำรุง ทั้งยังประหยัดเชื้อเพลิงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย จากความทุ่มเทดังกล่าวทำให้ปัจจุบัน สแกนเนีย มียอดจำหน่ายเครื่องยนต์ทั่วโลกสูงถึง 85,000 เครื่อง/ต่อปี (รวมเครื่องยนต์รถบรรทุกและรถบัส) สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์อุตสาหกรรมของ สแกนเนีย นั้น แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเครื่องยนต์ที่ใช้ในเครื่องจักรอุสาหกรรม (Industrial) กลุ่มเครื่องยนต์เรือ (Marine) และกลุ่มเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Power generation & Gensets) ซึ่งในตลาดอาเซียนนั้นกลุ่มเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตมากที่สุด
ด้าน นายภูริวัทน์ รักอินทร์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวถึงการจับมือกับ ซี แอนด์ อาร์ เทคโนโลยี เพื่อร่วมเป็นพันธมิตรในการบุกตลาดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในประเทศไทยว่า นับเป็นโอกาสอันดีอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เพราะ สแกนเนีย มีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับอยู่มากมาย โดยมองว่าตลาดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของไทยเป็นตลาดที่กำลังเติบโตและมีความต้องการสูงมาก การจับมือกับ ซี แอนด์ อาร์ เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทผู้จัดจำหน่าย มีประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านการดูแลบำรุงรักษาเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จะช่วยให้กลุ่มลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสแกนเนีย และเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจลูกค้ามากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า Scania Gentsets ที่จะนำเข้ามาทำตลาดจะเป็นรุ่นที่ให้ความถี่กระแสไฟฟ้าที่ 50 เฮิรตซ์ (Power output 50 Hz: 250-550 kVA PRP, 275-600 kVA ESP) และรุ่นที่ให้ความถี่กระแสไฟฟ้าที่ 60 เฮิรตซ์ (Power output 60 Hz: 275-600 kVA PRP, 300-600 kVA ESP) ซึ่งให้กำลังไฟสูงเหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าทั้งที่เป็นหน่วยงานราชการ โรงแรม คอนโดมิเนียม โรงงานอุสาหกรรม โรงพยาบาล ผู้ให้บริการสำรองข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (Data Center) ธนาคารพาณิชย์ บริษัทโทรคมนาคม อุตสาหกรรมก่อสร้าง รวมไปถึงอุตสาหกรรมเหมืองแร่ จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์เครื่องกำเนิดไฟฟ้านั้นมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายล้วนแต่เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงและมีความพร้อมในการลงทุน ประกอบกับสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากการมีการจัดตั้งรัฐบาล และ คาดว่ารัฐบาลจะเร่งเดินหน้าโครงการต่างๆ ที่ส่งผลกับการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรมอย่างเร่งด่วน โดยจะส่งผลดีมาสู่การจับจ่ายของภาคประชาชนและการลงทุนของภาคเอกชนด้วย
            ด้าน นายรักษพล โสมนะพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี แอนด์ อาร์ เทคโนโลยี จำกัด กล่าวถึงการได้รับความไว้วางให้เป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสแกนเนียในประเทศไทยว่า รู้สึกยินดีและมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งการร่วมมือในครั้งนี้ทำให้ ซี แอนด์ อาร์ เทคโนโลยี มีโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์กับกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเครื่องกำเนิดไฟฟ้ารุ่นที่ให้กำลังไฟสูง ซึ่งส่วนใหญ่จะรู้จัก
และเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของเครื่องยนต์สแกนเนียอยู่แล้ว จึงทำให้ไม่ยากที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด โดยกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าไปทำตลาดมีทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ส่วนในเรื่องของการบริการหลังการขาย ทั้งในด้านของการดูแลบำรุงรักษา อะไหล่ และการฝึกอบรมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้น บริษัทฯ จะทำงานร่วมกับ สแกนเนีย สยาม ซึ่งมีศูนย์บริการอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ จึงมั่นใจได้ว่ากลุ่มลูกค้าจะได้รับประโยชน์สูงสุดอย่างแน่นอน

CHEVROLET COLORADO เครื่องยนต์ New Duramax กระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง

เริ่มต้นศักราชใหม่ เชฟโรเลต สร้างความคึกคักให้กับตลาดรถปิกอัพในไทยตั้งแต่ต้นปี ด้วยการแนะนำและโปรโมท Chevrolet Colorado โดยเน้นไปที่เครื่องยนต์ DURAMAX ตัวใหม่ล่าสุด พร้อมกับอัดโปรโมชั่นเงินผ่อน ให้สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น
 
เครื่อง DURAMAX DIESEL ที่สุดแห่งความแกร่ง ขุมพลังและการประหยัดน้ำมัน
ไม่ว่าใครๆ ก็อยากได้รถกระบะที่มีความครบถ้วน สมบูรณ์แบบ ทั้งความแกร่ง พร้อมลุยทุกสภาวะ เครื่องยนต์ให้พลังที่สูง ขับสนุก สั่งได้ดั่งใจ เร่งแซงทันใจ และประหยัดน้ำมัน ทั้งหมดนี้มีให้ครบทุกข้อในเครื่องยนต์ Duramax รุ่นล่าสุด ถือเป็นจุดขายที่สำคัญอย่างหนึ่งของ Colorado แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าดีอย่างไร เป็นเหตุผลที่ Chevrolet พยายามสื่อสารให้ถึงผู้บริโภคมากขึ้นในช่วงต้นปีนี้

เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ทำงานเงียบ แต่ยังคงความแรงและประหยัดน้ำมัน คุณลักษณะที่เพิ่มขึ้นมีระบบเทอร์โบแปรผัน, ระบบ Double Overhead Camshaft, ตัวปรับวาล์วอัตโนมัติ, ไส้กรองน้ำมันเครื่อง, ระบบ Common Rail แบบหัวฉีด Direct Injection และเพลาถ่วงสมดุล (สำหรับ 2.8L)
ความแรงที่ยังคงความประหยัดนั้น ได้จากการพัฒนาของการใช้หัวฉีด Direct Injection มากไปกว่านั้นยังมีระบบเทอร์โบแปรผันกับไส้กรองอากาศ ข้างระบบหล่อเย็นที่ช่วยปรับอุณหภูมิและความหนาแน่นของอากาศในเครื่องยนต์ เพื่อการเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพ


สมบัติทัวร์ให้ความไว้วางใจเลือกใช้บริการจากธนบุรีบัสบอดี้ ออกแบบและผลิตตัวถังรถโดยสารล็อตใหม่


                          กรุงเทพมหานคร - บริษัท ธนบุรีบัสบอดี้ จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านการออกแบบ, ผลิตตัวถังรถโดยสาร และบริการซ่อมตัวถังรถภายใต้ระบบมาตรฐาน ISO 9001 :2008 ได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท เทพสมบัติ จำกัด (สมบัติทัวร์) บริษัทผู้ประกอบการขนส่งผู้โดยสารจากกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัด ทั้งภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ในการเลือกให้เป็นผู้ออกแบบและผลิตตัวถังรถโดยสารล็อตใหม่

ภายใต้ข้อตกลงด้านการออกแบบและผลิตตัวถังรถ บริษัท ธนบุรีบัสบอดี้ จำกัด จะเป็นผู้ผลิตตัวถังรถแก่ บริษัท เทพสมบัติ จำกัด โดยในการผลิตครั้งนี้ได้ใช้ทีมงานที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ดำเนินการประกอบตัวถังรถ12 คัน เพื่อเปิดให้บริการในเส้นทาง กรุงเทพฯ – ศรีสะเกษ, กรุงเทพฯ – สุรินทร์ และ กรุงเทพ – เชียงใหม่
                
นาย ภาคภูมิ วิริยะพันธุ์, รองผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและบริการหลังการขาย บริษัท ธนบุรีบัสบอดี้ จำกัด กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทางสมบัติทัวร์ให้ความไว้วางใจเลือกให้ บริษัท ธนบุรีบัสบอดี้ จำกัด เป็นผู้ให้บริการผลิตและต่อเติมตัวถังรถ เพื่อนำมาประกอบรถโดยสารให้กับทางสมบัติทัวร์ โดยทางธนบุรีบัสบอดี้ขึ้นตัวถังบน Jig (อุปกรณ์จับยึดเพื่อให้ขนาดของโครงสร้างรถได้มาตรฐาน) ให้และเลือกใช้เหล็กที่ได้มาตรฐานตามแบบโครงสร้างที่แข็งแรงมีการตรวจสอบคุณภาพงานเชื่อมโดยผู้เชี่ยวชาญและยังมี ที่ปรึกษาทางด้านเทคนิคด้านการต่อตัวถังของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) มาดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบริการดังกล่าวดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในด้านการผลิตและทดสอบความปลอดภัยของตัวถังรถ ด้วยระบบการผลิต และพนักงานผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 100 คน คอยให้บริการตลอดการดำเนินการผลิตรถของสมบัติทัวร์อีกด้วย ทั้งนี้ทางบริษัท ธนบุรี บอดี้ จำกัด มุ่งหวังที่จะทำงานกับ บริษัท เทพสมบัติ จำกัด (สมบัติทัวร์) ในการให้บริการระดับดีที่สุดและปลอดภัยสูงสุดแก่ลูกค้าของบริษัทเช่นกัน”
            
นาย ภาคภูมิ วิริยะพันธุ์ กล่าวสรุปว่า “การตกลงเซ็นสัญญาครั้งสำคัญนี้ เป็นการยืนยันถึงความแข็งแกร่งของ บริษัท ธนบุรีบัสบอดี้ จำกัด ในฐานะผู้นำด้านการออกแบบ, ผลิตตัวถังรถโดยสาร และบริการซ่อมตัวถังรถที่ใหญ่ที่สุด และมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับมากที่สุดในประเทศไทย”
                 
นายฑิศ วงศ์บพิธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทพสมบัติ จำกัด กล่าวเสริม “สำหรับธุรกิจการเดินรถโดยสารในประเทศไทยมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศประกอบกับ การตอบรับการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศและการจะก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะส่งผลให้เกิดการคมนาคมเดินทางระหว่างภูมิภาคมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การสร้างพันธมิตรขนส่งผู้โดยสารทางถนนระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้รับการตื่นตัวจากทั้งภาครัฐและเอกชน สมบัติทัวร์เอง เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจรถโดยสาร ที่มีการคำนึงถึงหลักความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้โดยสารเป็นสำคัญ ทางเรามีความมั่นใจในการให้บริการด้านการต่อเติมและผลิตตัวถังรถ จากทาง บริษัท ธนบุรีบัสบอดี้ จำกัด ว่ามีมาตรฐานตามหลักวิศวกรรมที่มีทั้งความแข็งแกร่งและปลอดภัยสูงสุด ครั้งนี้ เราจึงมีความมั่นใจที่จะเลือกรับบริการจากธนบุรีบัสบอดี้ เพราะเราเชื่อมั่นว่าการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพมากว่า 30ปี นั้นเป็นหลักรับประกันการบริการที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพอย่างดีเยี่ยม ทั้งด้วยความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ และศักยภาพในการควบคุมการผลิต”
            
ความเชี่ยวชาญของ บริษัท ธนบุรีบัสบอดี้ จำกัด ในเรื่องผู้นำด้านการออกแบบ, ผลิตตัวถังรถโดยสาร และบริการซ่อมตัวถังรถภายใต้ระบบมาตรฐาน ISO 9001 :2008 สะท้อนออกมาในการออกแบบรถโดยสาร ที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษด้วยอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีอุตสาหกรรมในการผลิตชั้นนำ เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของอุตสาหกรรมการต่อเติมรถ
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved