รายละเอียด | โครงการอีโคคาร์ เฟส 1 | โครงการอีโคคาร์ เฟส 2 |
1. ผลิตภัณฑ์ อัตราการประหยัดพลังงาน มาตรฐานด้านความปลอดภัย มาตรฐานมลพิษ ขนาดของเครื่องยนต์ | - ไม่เกินกว่า 5 ลิตร/100 กิโลเมตร (20 กม./ลิตร) - คุณสมบัติป้องกันผู้โดยสารจากการชน ด้านหน้ารถ UNECE R94 และด้านข้าง UNECE R95, Rev.1 หรือระดับสูงกว่า - คุณสมบัติด้านความปลอดภัยเชิง ป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุเหตุ (Active Safety) - มาตรฐาน EURO4, CO2 ไม่เกินกว่า 120g/km - เครื่องยนต์เบนซินขนาดความจุไม่เกิน 1.3 ลิตร - เครื่องยนต์ดีเซลขนาดความจุไม่เกิน 1.4 ลิตร | - ไม่เกินกว่า 4.3 ลิตร ต่อ/ 100 กิโลเมตร (23.25 กม./ลิตร) - คุณสมบัติป้องกันผู้โดยสารจากการชนด้านหน้ารถ UNECE R94 และด้านข้าง UNECE R95, Rev.1 หรือระดับสูงกว่า - คุณสมบัติด้านความปลอดภัยเชิง ป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ (Active Safety) ตามข้อกำหนดทางเทคนิค UNECE R13H Rev.2 หรือระดับสูงกว่า โดยอย่างน้อยต้องมีระบบห้ามล้อแบบป้องกันการล็อก ABS ซึ่งติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเลคทรอนิกส์ ESC - มาตรฐาน EURO5, CO2 ไม่เกินกว่า 100g/km - เครื่องยนต์เบนซินขนาดความจุไม่เกิน 1.3 ลิตร - เครื่องยนต์ดีเซลขนาดความจุไม่เกิน 1.5 ลิตร |
2. กำลังการผลิต | - ไม่น้อยกว่า 100,000 คันต่อปีตั้งแต่ปีที่ 5 ถึงปีที่ 8 | - ไม่น้อยกว่า 100,00 คันต่อปี ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไปและต้องดำเนินการผลิตภายในปี พ.ศ.2562 |
3. จำนวนเงินลงทุน | - ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท - ต้องมีขั้นตอนการผลิตชิ้นส่วนหลักของเครื่องยนต์ อย่างน้อย 4 ใน 5 ได้แก่ (Cylinder Head, Cylinder Block, Crankshaft, Camshaft และ Connecting Rod โดยมีขั้นตอน Machining ของ Cylinder Head Cylinder Block, Crankshaft เป็นอย่างน้อย) | - ไม่ต่ำกว่า 6,500 ล้านบาท - และสามารถลงทุนเพิ่มได้ในส่วนการสนับสนุนทางด้าน STI หรือการพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศมูลค่า 500 หรือ 800 ล้านบาท - ต้องมีขั้นตอนการผลิตชิ้นส่วนหลักของเครื่องยนต์ อย่างน้อย 4 ใน 5 ได้แก่ (Cylinder Head, Cylinder Block, Crankshaft, Camshaft และ Connecting Rod โดยมีขั้นตอน Machining ของ Cylinder Head Cylinder Block, Crankshaft เป็นอย่างน้อย) |
4. สิทธิพิเศษ | - ได้รับการยกเว้นภาษีนิติบุคล 8 ปี - ได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับเครื่องจักร - สำหรับชิ้นส่วนและวัสดุ 90% | - ได้รับการยกเว้นภาษีนิติบุคล 6-8 ปี (ในปีที่ 7 และ 8 จะได้รับสิทธิเมื่อลงทุนทางด้าน STI มูลค่า 500 และ 800 ล้านบาท ตามลำดับ) - ได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับเครื่องจักร - สำหรับชิ้นส่วนและวัสดุ 90% |
มาสด้าขึ้นไลน์ผลิตรถอีโคคาร์เฟส2 รายแรก ทุ่ม 1.2 หมื่นล้าน ปั้นไทยเป็นฐานผลิตรถประหยัดพลังงานป้อนตลาดโลก
Posted by Contemporary industry
Posted on 01:34
Ø มาสด้าประกาศเปิดสายการผลิตมาสด้า อีโคคาร์ เป็นรายแรก ภายใต้โครงการอีโคคาร์ เฟส 2
Ø มาสด้า อีโคคาร์ ใช้เทคโนโลยี สกายแอคทีฟเต็มคัน พร้อมเครื่องยนต์คลีนดีเซล
Ø มาสด้า2 เริ่มผลิตที่โรงงานเอเอที จ.ระยอง เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกทั่วโลก
กรุงเทพฯ – ประเทศไทย – 6 พฤศจิกายน 2557, มาสด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับโรงงานผลิตรถยนต์มาสด้า ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) ส่งความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจประเทศไทย ด้วยเงินลงทุนหนึ่งหมื่นสองพันล้านบาท เพื่อเริ่มสายการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะที่ 2 ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟเต็มคัน และเครื่องยนต์คลีนดีเซล พร้อมทั้งเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์ใหม่ โดยสามารถเริ่มสายการผลิตในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2558ส่งเสริมประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์มาสด้าที่ใหญ่สุดในอาเซียน พร้อมส่งออกรถยนต์คุณภาพเยี่ยมจากฝีมือคนไทยไปยังตลาดโลก
มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ร่วมฉลองพิธีเปิดสายการผลิตรถยนต์ในโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะที่ 2หรือโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 เป็นรายแรก โดยได้รับเกียรติอย่างสูงจาก ผู้แทนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช เป็นประธานพิธีเปิดงานฯ อย่างเป็นทางการ ร่วมด้วย ฯพณฯ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย มร. ซิเกะคะสุ ซะโต รวมทั้งแขกผู้มีเกียรติจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงจาก บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย, มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดสายการผลิตรถยนต์นั่งมาสด้า2 อย่างเป็นทางการ ณ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวว่า “รัฐบาลทุกสมัยได้มีการวางทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่ชัดเจน และต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีการพัฒนาสอดคล้องกับทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกที่มุ่งพัฒนาไปสู่ “Sustainable Mobility” โดยอาศัยกลไกของโครงสร้างภาษีและการส่งเสริมการลงทุน เริ่มต้นจากการที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ โดยเปลี่ยนหลักเกณฑ์การให้สิทธิลดหย่อนอัตราภาษีสรรพสามิต จากรถยนต์ที่มีขนาด “ซี.ซี.ต่ำ แรงม้าน้อย” มาเป็นรถยนต์ที่มีคุณสมบัติ “สะอาด ประหยัด ปลอดภัย” แล้วต่อมา กระทรวงอุตสาหกรรมได้เปิดให้มี
การส่งเสริมกิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะที่ 2 ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสในการลงทุนให้กับผู้ประกอบการ 5 รายเดิมในการขยายกำลังการผลิตอีโคคาร์ รวมทั้ง เพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการทุกรายในการผลิตอีโคคาร์ รุ่นที่ 2 ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าอีโคคาร์รุ่นแรก ทั้งในด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่ นโยบายส่งเสริมการลงทุนอีโคคาร์ ระยะที่ 2 มีผู้ยื่นขอรับการส่งเสริมถึง 10 ราย (ซึ่งรวมถึง บริษัท มาสด้าฯ ด้วย) นับเป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อประเทศไทยเป็นอย่างดี รวมทั้ง เน้นย้ำให้เห็นถึงความสำเร็จของการดำเนินนโยบายของภาครัฐในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์นั่ง เครื่องยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลกที่ครบวงจร”
รถยนต์ “Mazda2”เป็นอีโคคาร์ที่มีลักษณะเด่น 2 ประการ คือ 1) เป็นรถยนต์นั่งเครื่องยนต์ดีเซลคันแรกที่จะใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย โดยเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ซึ่งพบว่า เครื่องยนต์ดีเซลเทคโนโลยีชั้นสูง (Advanced Diesel)มีแนวโน้มจะเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์เบนซินมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ 2) เป็นรถยนต์นั่งคันแรกที่มาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) โดยมีระบบห้ามล้อแบบป้องกันการล็อก (ABS) ซึ่งได้ติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ESC) ตามข้อกำหนดทางเทคนิค UN Reg.13H
“Mazda2” เป็นอีโคคาร์ รุ่นที่ 2 ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าอีโคคาร์รุ่นแรก และรถยนต์นั่งแบบ B ในทุกด้าน ทั้งในด้านการประหยัดพลังงานที่เหนือกว่า (มีอัตราการใช้พลังงาน 4.3 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 23 กิโลเมตรต่อลิตร) ด้านการปล่อยมลพิษที่น้อยลง(มาตรฐานมลพิษระดับ ยูโร 5 โดยมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 100 กรัมต่อกิโลเมตร) และด้านความปลอดภัยระดับสากลที่สูงกว่า โดยเป็นมาตรฐานความปลอดภัยในระดับเดียวกับที่บังคับใช้ในสหภาพยุโรป ได้แก่ คุณสมบัติการป้องกันอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้าและการชนด้านข้าง รวมทั้ง คุณสมบัติด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) ดังที่กล่าวมาแล้ว สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า รถยนต์ “Mazda2” เป็นรถยนต์คุณภาพสูงที่สามารถรองรับความต้องการใช้ยานพาหนะส่วนบุคคลของผู้บริโภคในสังคมยุคใหม่ได้อย่างครบถ้วน
มร. ยูจิ นากามิเน่ ผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ผมและทีมงานมาสด้าทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในวันนี้ ที่รถยนต์มาสด้า2 ใหม่ ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการและเป็นรายแรกของโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ Eco Car ระยะที่ 2 ด้วยการผ่านข้อกำหนดอันเข้มงวดที่สุดในโลก รวมถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำกว่า 100 กรัม/กิโลเมตร ผมขอถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูง ทั้งทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ (BOI) กระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ที่ได้ให้วิสัยทัศน์และมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี การได้รับอนุมัติโครงการในครั้งนี้จะช่วยให้มาสด้าสามารถนำเสนอรถยนต์นั่งขนาดกะทัดรัดที่อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติต่างๆ มากมายแก่ลูกค้าชาวไทยในอัตราภาษีที่ดีขึ้นได้ การผลิตรถยนต์มาสด้า2 ใหม่ ในประเทศไทยจะช่วยยกระดับมาตรฐานทางเทคนิคของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยด้วยการร่วมมือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ภายในประเทศ นอกจากนี้ เนื่องจากรถมาสด้า2 นั้นเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ดังนั้นการผลิตรถยนต์มาสด้า2 ใหม่ เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและเพื่อการส่งออกนี้จึงจะมีส่วนสำคัญในการสร้างความเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างมีนัยสำคัญ”
รถยนต์มาสด้า2 ใหม่ รุ่นนี้เพิ่งทำการเปิดตัวแนะนำในประเทศญี่ปุ่น สามารถคว้ารางวัล Japan Car of the Year ของประเทศญี่ปุ่น นับเป็นรถยนต์มาสด้ารุ่นที่ 5 แล้วที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ต่อจาก Mazda CX-5 เมื่อปี พ.ศ. 2555 ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้กำลังจะทำการเปิดตัวสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกของโลกในงานมหกรรมยานยนต์ช่วงปลายเดือนนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีหน้า มาสด้ามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่ารถยนต์รุ่นนี้จะสามารถเอาชนะใจลูกค้าชาวไทยและทำให้ลูกค้าหันมาเห็นคุณค่าของความสนุกสนานในการขับขี่ได้อีกครั้ง”
มร. ยูจิ นากามิเน่ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “มาสด้ามีความตั้งใจที่จะแสดงให้เห็นความเชื่อมั่นของมาสด้าที่มีต่อประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา โดยเฉพาะในเดือนมกราคมปีหน้า มาสด้าจะเริ่มสายการผลิตระบบเกียร์อัตโนมัติที่โรงงานผลิตเกียร์อันทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของมาสด้า โดยจะผลิตระบบเกียร์อัตโนมัติให้กับทั้งเอเอทีและโรงงานอื่นๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ มาสด้ายังได้เพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์นั่งที่โรงงานเอเอทีจาก 50,000 คันต่อปี เป็น 120,000 คันต่อปี นอกจากนี้มาสด้ากำลังดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์แห่งใหม่ในบริเวณเดียวกับโรงงานผลิตระบบเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งโรงงานผลิตเครื่องยนต์แห่งใหม่นี้จะเริ่มสายการผลิตได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2558 นอกจากนี้มาสด้ายังมุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานในสไตล์ของมาสด้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะเข้ามาเติมเต็มชีวิตของลูกค้าชาวไทย ด้วยการเป็นแบรนด์ที่สามารถสร้างสายสัมพันธ์พิเศษให้กับลูกค้า และไม่มีรถยนต์แบรนด์อื่นใดเข้ามาทดแทนได้”
ข้อมูลเพิ่มเติม
มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น
สำนักงานใหญ่มาสด้าตั้งอยู่ที่เมืองฮิโรชิมา บนที่ราบลุ่มแม่น้ำโอตะอันเงียบสงบ ท่ามกลางภูมิประเทศอันสวยงามระหว่างทิวเขาและท้องทะเลสีคราม เป็นศูนย์รวมของการบริหารรูปแบบใหม่ และยังเป็นที่ตั้งของการออกแบบ การทดสอบรวมถึงการผลิตและประกอบรถยนต์ที่ครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีกำลังการผลิตสูงถึง 1,400,00 คันต่อปี ส่งออกไปทั่วโลกมาสด้าเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น ด้วยเกียรติภูมิของตัวเองเป็นระยะเวลายาวนานถึง 92 ปี ทั้งในด้านการออกแบบที่ยอดเยี่ยม การนำเสนอรถยนต์ที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งลูกค้าล้วนรับรู้ถึงภาพลักษณ์ความเป็นยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตอย่างแท้จริง และสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจ เป็นยานยนต์ที่ขับสนุก นอกจากนี้มาสด้ายังเป็นบริษัทรถยนต์ชั้นแนวหน้าในด้านเทคโนโลยีเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่างที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเครื่องยนต์แบบโรตารี่ ที่ทำให้มาสด้าได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขัน เลอ มังค์ ในปี 1991 ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายแรกและรายเดียวที่ได้รับรางวัลนี้
ข้อมูลโรงงานผลิตรถยนต์ออโต้อัลลายแอนซ์
บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นโรงงานผลิตรถยนต์ร่วมทุนระหว่าง มาสด้า มอเตอร์ คอปอร์เรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) และ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปานี (สหรัฐอเมริกา) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2538 โรงงานแห่งนี้ทำการผลิตรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสำหรับจำหน่ายในประเทศไทยและเพื่อการส่งออกไปจำหน่ายกว่า 100 ตลาดทั่วโลก ทั้งในทวีปยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกากลาง อเมริกาใต้ อัฟริกา และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย เป็นต้น โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง ประเทศไทย และมีพนักงานกว่า 9,000 คน มีกำลังการผลิตสูงสุดสำหรับรถยนต์สำเร็จรูปหรือ CBU อยู่ที่ 260,000 คันต่อปี รถยนต์ที่ผลิตจากออโต้อัลลายแอนซ์ในปัจจุบัน ประกอบด้วย มาสด้า บีที-50 โปร มาสด้า2 มาสด้า3 ฟอร์ด เรนเจอร์และฟอร์ด เอเวอร์เรสต์
รายละเอียดข้อมูลมาตรฐานโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงาน
เมนทาแกรมเปิดตัว GoPro 4 กล้องสปอร์ตแอคชั่นทรงพลัง 3 แบบ 3 สไตล์ ปลดปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์ในตัวคุณ
Posted by Contemporary industry
Posted on 21:59
กรุงเทพฯ – 4 พฤศจิกายน 2557: บริษัท เมนทาแกรม จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกล้ องโกโปรแต่เพียงผู้เดี ยวในประเทศไทยเปิดตัวกล้ องโกโปรรุ่นใหม่ล่าสุด GoPro 4 กล้องสปอร์ตแอคชั่นทรงพลังให้คุ ณได้เลือกเพื่อปลดปล่อยความคิ ดสร้างสรรค์และความเป็นฮีโร่ ในตัวคุณ ได้แก่ HERO4 Black และ HERO4 Silver ด้วยเทคโนโลยีด้านการถ่ ายภาพระดับรางวัลเอ็มมี่ ผนวกกับความง่ายในการใช้ งานและฟีเจอร์ใหม่ทรงพลัง เช่น การถ่ายวิดีโอ 4K30, 2.7K50, และ 1080p120 (Black) พร้อมหน้าจอสัมผัส (Silver) เพื่อให้ผู้บริโภคบันทึกและแบ่ งปันเรื่องราวจากประสบการณ์ โปรดทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
ด้วยคุณภาพระดับมืออาชีพ นอกจากนี้ ยังเปิดตัว HEROกล้องโกโปรราคาเบาๆ สำหรับผู้เริ่มต้นหัดใช้กล้ องโกโปร
ด้วยคุณภาพระดับมืออาชีพ นอกจากนี้ ยังเปิดตัว HEROกล้องโกโปรราคาเบาๆ สำหรับผู้เริ่มต้นหัดใช้กล้
HERO4 Black มอบประสิทธิภาพทรงพลังกว่าเดิ มถึง 2 เท่า โดยสามารถบันทึกวิดีโอคุณภาพ 4K ได้อย่างคมชัดสวยงาม
ดั่งภาพยนตร์ในอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที (fps) ถ่ายวิดีโอ 2.7K ที่ 50fps และ 1080p ที่ 120fps โดยสามารถลดข้อด้ อยจากกระบวนการบันทึกภาพแบบ rolling shutter พร้อมเพิ่มฟีเจอร์การถ่าย slow motion นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบระบบเสียงใหม่ที่ ให้บันทึกเสียงคุณภาพสูงด้วย dynamic range มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า นอกจากนี้ ยังปรับปรุงคุณภาพของภาพ ความสามารถในการถ่ายภาพในที่ แสงน้อย ติดแท็กช่วงเวลาโปรดบนวิดีโอ และปรับปรุง user interface เพื่อความง่ายในการใช้งานและเข้ าถึงฟีเจอร์และฟังก์ชั่ นการควบคุมต่างๆ HERO4 Black จึงเป็นกล้องโกโปรที่ทรงพลังที่ สุดในปัจจุบัน
ดั่งภาพยนตร์ในอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที (fps) ถ่ายวิดีโอ 2.7K ที่ 50fps และ 1080p ที่ 120fps โดยสามารถลดข้อด้
HERO4 Silver มอบภาพถ่ายคุณภาพเดียวกับ HERO4 Black ยกเว้นความสามารถในการถ่ายวิดี โอบางอย่าง เช่น การถ่ายวิดีโอ 4K30, 2.7K50 และ 1080p120 ซึ่งมีเฉพาะใน Black เท่านั้น กล้อง HERO4 Silverมีหน้าจอสัมผัส LCD ติดกับตัวกล้อง เพิ่มความสะดวกและความง่ ายในการใช้งาน
“กล้อง GoPro 4 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการบันทึ กภาพขณะทำกิจกรรมโปรดอย่างสร้ างสรรค์ ความพยายามด้านการออกแบบและวิ ศวกรรมทำให้กล้อง GoPro4 เป็นกล้องที่ทรงพลังที่สุ ดของโกโปรในปัจจุบัน” นายณัฐพล ปัทมพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมนทาแกรม จำกัด
HERO4 Black – ประสิทธิภาพเหนือกว่า 2 เท่า
· กล้อง GoPro HERO4 Black สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่ได้รั บรางวัลเอมมี่ มอบความทรงพลังในการสร้างสรรค์ ภาพถ่าย ใช้งานได้หลากหลายด้วยประสิทธิ ภาพที่เหนือกว่า
· ถ่ายวิดีโอความคมชัดสูงระดับ 4K ที่ 30fps พร้อมความสามารถในการดึงภาพ 8.3 เมกะพิกเซล มาทำเป็นภาพนิ่ง
· อัตราความเร็วของภาพสูงขึ้น โดยถ่ายวิดีโอ 2.7K ที่อัตรา 50fps และ 1080p ที่120fps
· ภาพถ่ายขนาด 12 เมกะพิกเซล ที่มอบคุณภาพระดับปกนิตยสาร ในอัตรา 30 ภาพต่อวินาที (burst speed)
· User interface ได้รับการปรับปรุงเพื่อการใช้ งานและเข้าถึงฟังก์ชั่นการควบคุ มกล้องได้ง่ายขึ้น
· เชี่อมต่อ Wi-Fi เร็วขึ้น 50% พร้อม Bluetooth นอกจากนี้แอพ GoPro ยังได้รับการพัฒนามากขึ้น
จัดการพลังงานได้ดียิ่งขึ้น
จัดการพลังงานได้ดียิ่งขึ้น
· จำหน่ายในราคา 18,500 บาท
“ปัญหาอีกอย่างคือการจะเลือกว่ าจะถ่ายวิดีโอหรือภาพนิ่ง แต่ปัญหานี้จะหมดไปเพราะแต่ ละเฟรมของวิดีโอระดับ 4K30
จะมีคุณภาพใกล้เคียงกับภาพนิ่ง 8.3 เมกะพิกเซล นั่นหมายความว่า ขณะที่คุณถ่ายวิดีโอ 4K30 คุณก็จะได้ภาพนิ่งคุณภาพใกล้เคี ยงกับขนาด 8.3 เมกะพิกเซลไปด้วยในอัตรา 30 ภาพต่อวินาที” นายณัฐพลกล่าวเสริม
จะมีคุณภาพใกล้เคียงกับภาพนิ่ง 8.3 เมกะพิกเซล นั่นหมายความว่า ขณะที่คุณถ่ายวิดีโอ 4K30 คุณก็จะได้ภาพนิ่งคุณภาพใกล้เคี
HERO4 Silver – คุณภาพระดับมืออาชีพ สะดวกด้วยหน้าจอสัมผัส
HERO4 Silver สร้างปรากฏการณ์ ความสะดวกและการใช้งานง่ายด้ วยการเป็นกล้องโกโปรตัวแรกที่มี หน้าจอสัมผัสติดตั้งมาด้วย
· หน้าจอ LCD ระบบสัมผัสติดตั้งมาด้วย ให้คุณควบคุมกล้องได้ง่ายขึ้น ถ่ายภาพและเล่นวิดีโอได้สะดวกขึ ้น
· ถ่ายภาพวิดีโอระดับมืออาชีพทั้ งแบบ 2.7K30, 1080p60 และ 720p120
· ถ่ายภาพขนาด 12 เมกะพิกเซลในอัตรา 30 ภาพต่อวินาที (burst shot)
· เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้เร็วกว่าเดิม 50% พร้อม Bluetooth และแอพโกโปรที่ได้รับการปรับปรุ ง และการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น
· จำหน่ายในราคา 14,800 บาท
HERO – กล้องน้องเล็ก จิ๋วแต่แจ๋ว สำหรับผู้เริ่มเล่นโกโปร
โกโปรภูมิใจนำเสนอ HERO กล้องโกโปรสำหรับผู้เริ่มเล่น ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายพร้อมกล่ องกันน้ำ (housing) สามารถถ่ายวิดีโอคุณภาพสูง 1080p ที่อัตรา 30 ภาพต่อวินาที และวิดีโอ 720p อัตราความเร็ว 60 ภาพต่อวินาที โดยสามารถเก็บภาพ
อันน่าตื่นตะลึงแบบเดียวกั บหลายๆ ภาพถ่ายและวิดีโอที่ทำให้ โกโปรเป็นกล้องที่ขายดีที่สุ ดแบรนด์หนึ่งของโลก บรรจุในกล่องเรียบง่าย ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ ในราคาเพียง 4,999 บาท
อันน่าตื่นตะลึงแบบเดียวกั
ฟีเจอร์ใหม่ๆ เฉพาะ HERO4 Black และ Silver ช่วยขยายศักยภาพของ GoPro
· ProtuneTM สำหรับภาพนิ่งและวิดีโอ
สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุ มการทำงานของโกโปรด้วยตัวเองเพื ่อเพิ่มความหลากหลายและขยายศั กยภาพ เราเพิ่มความสามารถให้ Protune เพื่อให้คุณควบคุมสี ความคมชัด ISO และการเปิดรับแสงทั้งภาพนิ่ งและวิดีโอได้ด้วยตัวเอง
· การตั้งค่าใหม่สำหรับการถ่ ายภาพกลางคืน
ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพทางช้างเผือก หรือการแคมป์ไฟ เพียงแค่ใช้ฟังก์ชั่น Night Photo และ Night Lapse ก็จะได้ภาพนิ่งที่สวยงาม พร้อมความสามารถในการปรับแต่ งการรับแสงได้สูงสุดถึง 30 วินาที
· ระบุช่วงเวลาที่ดีที่สุด
ฟังก์ชั่น HiLight Tag ช่วยให้คุณระบุช่วงเวลาสำคั ญบนวิดีโอด้วยการกดปุ่ม on-camera ขณะที่กำลังบันทึก เพิ่มความสะดวกโดยช่วยค้นหา เล่นวิดีโอ และแบ่งปัน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดผ่าน GoPro Studio หรือแอพ GoPro บนมือถือ รวมถึง Smart Remote ได้อีกด้วย
· QuikCapture มอบความเร็วและความสะดวกในการถ่ ายภาพ
QuikCapture ทำให้การเปิดกล้องและบันทึ กภาพง่ายขึ้นด้วยการกดปุ่มเพี ยงครั้งเดียว เริ่มต้นถ่ายวิดีโอง่ายๆ เพียงกดปุ่มครั้งเดียวขณะที่ใช้ งานอยู่ หรือกดค้างเพื่อถ่าย Time Lapse
· บันทึกเสียงได้ดียิ่งขึ้น
ระบบเสียงภายในได้รั บการออกแบบใหม่ โดยผนวกรวมไมโครโฟนที่ทันสมั ยเพื่อเก็บเสียงได้ในคุณภาพสู งด้วย dynamic rangeมากขึ้นสองเท่าจากรุ่นก่อน
อุปกรณ์เสริมใหม่ ช่วยให้คุณบันทึกภาพและแบ่งปั นได้สะดวก
· Smart Remote รีโมตอัจฉริยะที่สามารถสั่ งการกล้องโกโปรได้ไกลถึง 183 เมตร โดยสามารถสวมใส่และกันน้ำได้ สามารถทำเครื่องหมายช่ วงเวลาสำคัญบนวิดีโอด้วยปุ่มHiLight Tag
· The Handler มือจับขนาดเล็กลอยน้ำได้ น้ำหนักเบา ทนทาน
· BacPac แบตเตอรี่สำรองที่มอบพลังให้กั บกล้องมากเป็นสองเท่ าของแบตเตอรี่ที่อยู่ในตัวกล้อง โดยเป็นหน้าจอ LCD ที่ฝังแบตสำรองไว้ มอบระบบสัมผัสที่ตอบสนองได้ดีขึ ้น และประสิทธิภาพในการ swipe เมื่อใช้คู่กับ HERO4 Black
แอพ GoPro และ GoPro Studio
โกโปรปล่อยอัพเดตให้กับ GoPro Studio ซอฟท์แวร์ตัดต่อสำหรับคอมพิ วเตอร์ตั้งโต๊ะ และแอพ GoPro สำหรับมือถือ
GoPro Studio ช่วยให้ง่ายต่อการนำวิดี โอจากกล้องโกโปรไปไว้บนคอมพิ วเตอร์เพื่อสร้างสรรค์วิดีโอคุ ณภาพสูง ฟีเจอร์ GoPro Edit Template ซึ่งเป็นเทมเพลตของวิดี โอโกโปรยอดนิยม เพียงแค่คลิกเพื่อทดแทนวิดีโอต้ นฉบับด้วยวิดีโอของคุณ วิดีโอของคุณก็จะผ่านการตัดต่ อในสไตล์เดียวกับที่วิดีโอที่ ทำให้ GoPro มีชื่อเสียง GoPro Studio รองรับฟีเจอร์ HiLight Tag ระบุช่วงเวลาที่ดีที่สุดบนวิดี โอ ช่วยให้ตัดต่อได้ง่ายและเร็วขึ้ น นอกจากนี้ยังมี Flux เครื่องมือในการสร้างภาพ slow motion และเร่งเวลา ทำให้สร้างเอ็ฟเฟ็ค time-shifting รวมทั้งสามารถกำหนดคลิปโปรดเพื่ อแบ่งปันบนอินเตอร์เน็ตได้
ส่วนแอพ GoPro บนสมาร์ทโฟน ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณเข้าถึ งช่อง GoPro Channel และเนื้อหาอันน่าตื่นเต้นอื่นๆ ซึ่งทำให้เป็นช่องรายการอันดั บหนึ่งบน YouTube เท่านั้น แต่ยังให้คุณควบคุม HERO4 Black และ Silver พร้อมให้เปลี่ยนไปยังโหมดอื่ นหรือการตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย แอพ GoPro รุ่นปรับปรุงใหม่ รองรับ HERO4 รองรับ HiLight Tagging ขณะบันทึกภาพ พร้อมค้นหา tag ระหว่างการฉายซ้ำ พร้อมมี shot preview เล่นวิดีโอ รวมถึงการแบ่งปันภาพและวิดีโอผ่ านอีเมล์ ข้อความ Facebook Twitter และอีกมาก
เลือกเป็นเจ้าของกล้องโกโปรเพื่ อปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์ และความเป็นฮีโร่ในแบบของคุณได้ แล้วที่ร้านตัวแทนจำหน่าย เช่น ร้านจำหน่ายกล้อง อุปกรณ์ไอที และกีฬาชั้นนำ ตรวจสอบได้ที่ http://gopro.mentagram.com/201 3/gopro.com/dealer.php
สมาคมรถโบราณฯ จับมือ โรงแรมเชอราตัน หัวหิน จัด “หัวหิน วินเทจคาร์ พาเหรด ครั้งที่ 12” “ชื่นชะอำ ฉ่ำหัวหิน ความทรงจำไม่สิ้นสุด”
Posted by Contemporary industry
Posted on 01:08
สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ร่วมกับ โรงแรม เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา เทศบาลเมืองชะอํา เทศบาลเมืองหัวหิน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัด “หัวหิน วินเทจคาร์ พาเหรด ครั้งที่ 12” ภายใต้แนวคิด “ชื่นชะอำ ฉ่ำหัวหิน ความทรงจำไม่สิ้นสุด” ใน วันที่ 12-14 ธันวาคมนี้
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “กิจกรรม หัวหิน วินเทจคาร์ พาเหรด ครั้งนี้เป็นการฉลองครบรอบ 12 ปีของการจัดคาราวานรถโบราณเยือนเมืองหัวหิน เพื่อให้ประชาชนได้ชม และหวนรำลึกถึงบรรยากาศในอดีต รวมถึงเป็นการรส่งเสริมการท่องเที่ยวในอำเภอชะอำ และหัวหิน โดยปีนี้สมาคมฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรใหม่อย่าง โรงแรมในเครือเชอราตัน และได้รับการสนับสนุนจาก เทศบาลเมืองชะอำ เทศบาลเมืองหัวหิน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)”
ชะอำ และ หัวหิน เป็นแหล่งท่องเที่ยว “คู่แฝด” ยอดนิยม ตั้งแต่อดีตจวบปัจจุบัน ได้ต้อนรับผู้คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า ทั้งที่มารำลึกความทรงจำครั้งเก่า และสร้างความทรงจำครั้งใหม่ ต่อเนื่องไปไม่รู้จบ ดังนั้น งานในปีนี้จึงจัดภายใต้แนวคิด “ชื่นชะอำ ฉ่ำหัวหิน ความทรงจำ ไม่สิ้นสุด”
คุณสิทธิรัตน์ ห่อทองคำ ผู้จัดการโรงแรม เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ผู้ร่วมจัดงาน “หัวหิน วินเทจคาร์ พาเหรด ครั้งที่12” เผยว่า “ทางรีสอร์ท ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติและความไว้ใจจากทางสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ให้ร่วมเป็นหนึ่งในงานวินเทจคาร์ พาเหรดครั้งที่ 12 นี้ ซึ่งงานหัวหินวินเทจคาร์ พาเหรด นี้มีชื่อเสียงมามากกว่าสิบปี และถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ชาวเมือง และนักท่องเที่ยวขาประจำตั้งตารอ ซึ่งทางเชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา และเชอราตันหัวหิน ปราณบุรีวิลล่า เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ทางรีสอร์ทมีศักยภาพ และความพร้อม ทั้งในด้านสถานที่ และทีมงานที่เป็นมืออาชีพ รวมถึงการได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดนี้คือส่วนสำคัญ ที่จะช่วยผลักดัน, สร้างสรรค์ และสร้างคุณค่าในเอกลักษณ์ของรถโบราณ ให้เป็นที่สนใจมากขึ้นในวงกว้าง
ทั้งนี้ทั้งนั้น เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปาพร้อมสร้างสมดุลสู่ความยั่งยืนทางการท่องเที่ยวในพื้นที่ของประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี และด้วยศักยภาพของศูนย์ประชุมแห่งใหม่ เดอะ แชนเดอเลียร์ ที่จะมาช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ พร้อมผลักดันให้รถโบราณทุกคัน เปล่งประกายด้วยคุณค่า ในอีกมุมมองที่คุณอาจคาดไม่ถึง กับคอนเซปต์ The old world charm in a new luxury เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา เปิดประตูต้อนรับทุกท่านครับ”
งาน “หัวหิน วินเทจ คาร์ พาเหรด ครั้งที่ 12” จัดขึ้น ณ โรงแรม เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ประชาชนทั่วไปสามารถสัมผัสคาราวานรถโบราณที่เต็มไปด้วยความทรงจำไม่สิ้นสุดได้ตลอดเส้นทางกรุงเทพฯ ชะอำ หัวหิน ระหว่างวันที่ 12 - 14 ธันวาคมนี้
ความรู้เกี่ยวกับมอเตอร์สตาร์ทของรถยนต์
Posted by Contemporary industry
Posted on 18:55
มอเตอร์สตาร์ทของรถยนต์ใช้กระแสไฟตรง (D.C.) ที่มีแรงดันไฟฟ้าต่ำ เป็นตัวเปลี่ยนแปลง พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากแบตเตอรี่ กลายเป็นพลังงานกลซึ่งสามารถฉุดเครื่องยนต์ให้สามารถทำงานได้
มอเตอร์สตาร์ทที่นำมาใช้ในรถยนต์มีคุณลักษณะที่สำคัญโดยรวมดังนี้
1. มีแรงบิดมากพอที่จะขับให้เครื่องยนต์หมุนได้
2. ความเร็วรอบและกำลังของมอเตอร์ที่ใช้ต้องมีความสัมพันธ์กับประเภทและขนาด ของเครื่องยนต์ และความจุของแบตเตอรี่
3. มีความสามารถในการเข้าขบกับล้อช่วยแรง (Flywheel) ได้เป็นอย่างดี
4. มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา สะดวกและง่ายต่อการติดตั้ง
โครงสร้างมอเตอร์สตาร์ท (Construction of Starter)
มอเตอร์ ประกอบด้วยทุ่นอาร์เมเจอร์ มีขดลวดพันอยู่รอบๆ ในร่องของแกนเหล็กอ่อนแผ่นบางที่วางซ้อนกัน ปลายของขดลวดเชื่อมต่อกับคอมมิวเตเตอร์ และต่อแบบอนุกรมเข้ากับวงจรของอาร์เมเจอร์
สวิตช์แม่เหล็กของโซลินอยด์ เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ตัด และต่อกระแสไฟที่ป้อนให้แก่มอเตอร์ พร้อมทั้งเป็นตัวเลื่อนชุดของคลัทช์และเฟืองขับ เพื่อให้เฟืองขับสามารถขบกับเฟืองของล้อช่วยแรง
แผ่นสะพานไฟ ทำหน้าที่ตัดหรือต่อกระแสไฟที่ป้อนให้แก่มอเตอร์ โดยเคลื่อนที่ไปพร้อมกับแกนของแกนพลันเยอร์
พลันเยอร์ เป็นแกนเหล็กอ่อนที่เชื่อมต่อระหว่างโซลินอยด์กับมอเตอร์ ทำหน้าที่เคลื่อนที่ไปมาเมื่อเกิดอำนาจแม่เหล็กขึ้นรอบๆ จึงสามารถตัดหรือต่อขั้วหลักของวงจร กับขั้วที่ต่อเข้ากับมอเตอร์ได้ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นตัวเลื่อนชุดคลัทช์และเฟืองขับ มอเตอร์ไปในตัวอีกด้วย
ขดลวดชุดยึด ทำหน้าที่สร้างอำนาจแม่เหล็กขึ้นสำหรับยึดพลันเยอร์ ไม่ให้เคลื่อนที่กลับขณะที่ต่อเข้ากับชุดของสะพานไฟ
สปริงดันกลับ ทำหน้าที่ดันพลันเยอร์กลับตำแหน่งเดิม
คลัทช์มอเตอร์ (Starter Clutch) ทำหน้าที่ต่อหรือตัดกำลังจากมอเตอร์ไปยังล้อช่วย แรงของเครื่องยนต์
การทำงานของคลัทช์มอเตอร์แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่
ถ่ายทอดแรงบิด เมื่อเฟืองขับเลื่อนเข้าไปขบกับเฟืองของล้อช่วยแรงและอาร์เมเจอร์ แล้วจะทำให้ทั้งสองส่วนเริ่มหมุน จะเกิดเป็นความฝืดขึ้น เนื่องจากแรงเสียดทานระหว่างปลอกถังในกับลูกปืน ทำให้ลูกปืนถูกดันให้เข้าไปอยู่ในส่วนที่แคบ เป็นเหตุให้ทั้งปลอกนอกและในถูกขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน ป้องกันแรงบิด หลังจากเครื่องยนต์ทำงาน เฟืองขับจะถูกขับโดยเฟืองของล้อช่วยแรง ซึ่งมีความเร็วมากกว่าความเร็วของอาร์เมเจอร์ จึงทำให้ปลอกนอกหยุดอยู่กับที่ จะเหลือเพียงเฟืองปลอกในเท่านั้นที่เคลื่อนที่ ในขณะเดียวกันลูกปืนจะเคลื่อนที่ออกมาสู่ส่วนที่กว้างขึ้น ทำให้ลูกปืนเป็นอิสระและหยุดถ่ายทอดแรงบิด
อาร์เมเจอร์ ประกอบด้วยแกนเหล็กซึ่งมีเพลาสวมอยู่ ระหว่างแกนเหล็กเจาะ เป็นร่องสำหรับบรรจุขดลวดอาร์เมเจอร์อยู่รอบแกน ปลายขดลวดต่อเข้ากับตัวคอมมิวเตเตอร์ อาร์เมเจอร์จะหมุนอยู่ระหว่างขั้วแม่เหล็กซึ่งติดตั้งที่ด้านทั้งสอง เพื่อเป็นการลดความสูญเสียของเส้นแรงแม่เหล็กที่เกิดขึ้น
ขดลวดอาร์เมเจอร์ทำด้วยทองแดงหนาๆ เพื่อต้องการให้รับกระแสไฟฟ้าได้สูงสุด ขดลวดอาร์เมเจอร์แต่ละขดประกอบด้วยลวดเพียงรอบเดียว โดยการพันเส้นลวดต้องให้แนบสนิทกับร่องของแกนเหล็ก เพื่อทำให้กระแสจากขดลวดสนามแม่เหล็ก สามารถไหลผ่านขดลวดอาร์เมเจอร์ได้ทุกคอยล์ในเวลาเดียวกัน จึงเกิดเป็นสนามแม่เหล็กรอบขดลวดนี้ขึ้น พร้อมทั้งทำให้เกิดแรงผลักดันโดยรอบอาร์เมเจอร์ขึ้นด้วย
การทำงานของมอเตอร์สตาร์ท
เริ่มต้นจากเฟืองขับของมอเตอร์สตาร์ท จะส่งกำลังเข้าไปขับเฟืองล้อช่วยแรงของเครื่องยนต์ ซึ่งทำหน้าที่ในการต่อหรือตัดวงจรออกจากเฟืองล้อช่วยแรงได้โดยอัตโนมัติ จำนวนฟันเฟืองขับของมอเตอร์สตาร์ทมักจะน้อยกว่าจำนวนฟันเฟืองล้อช่วยแรง จึงทำให้มีกำลังสูงขึ้นในขณะขับเครื่องยนต์ อัตราการทดของเฟืองทั้งสองประมาณ 12: 1
ในขณะเครื่องยนต์ทำงานแล้ว ถ้าเฟืองขับยังคงขบอยู่กับเฟืองล้อช่วยแรง จะทำให้เพลาของอาร์เมเจอร์หมุนด้วยแรงเหวี่ยงอย่างแรง จะทำให้เกิดความเสียหายได้ จึงต้องมีกลไกมาช่วยในการตัดวงจรการส่งกำลังออกจากกัน
เริ่มต้นจากเฟืองขับของมอเตอร์สตาร์ท จะส่งกำลังเข้าไปขับเฟืองล้อช่วยแรงของเครื่องยนต์ ซึ่งทำหน้าที่ในการต่อหรือตัดวงจรออกจากเฟืองล้อช่วยแรงได้โดยอัตโนมัติ จำนวนฟันเฟืองขับของมอเตอร์สตาร์ทมักจะน้อยกว่าจำนวนฟันเฟืองล้อช่วยแรง จึงทำให้มีกำลังสูงขึ้นในขณะขับเครื่องยนต์ อัตราการทดของเฟืองทั้งสองประมาณ 12: 1
ในขณะเครื่องยนต์ทำงานแล้ว ถ้าเฟืองขับยังคงขบอยู่กับเฟืองล้อช่วยแรง จะทำให้เพลาของอาร์เมเจอร์หมุนด้วยแรงเหวี่ยงอย่างแรง จะทำให้เกิดความเสียหายได้ จึงต้องมีกลไกมาช่วยในการตัดวงจรการส่งกำลังออกจากกัน
คลัทช์โอเวอร์รันนิ่ง ใช้คันโยกในการเลื่อนเฟืองขับของมอเตอร์สตาร์ทเข้าขบกับเฟืองล้อช่วยแรง อาศัยการควบคุมการทำงานโดยชุดของสวิตช์โซลินอยด์ โดย ตำแหน่งของคลัทช์โอเวอร์รันนิ่งติดอยู่ด้านหลังของเฟืองขับ ทำหน้าที่ส่งกำลังขับเคลื่อนจากแกน ของอาร์เมเจอร์เข้าขบกับเฟืองของล้อช่วยแรงได้ในทิศทางเดียว และจะหมุนเป็นอิสระในทิศทาง ตรงกันข้าม ลักษณะของคลัทช์โอเวอร์รันนิ่งเป็นแบบปลอกสวมติดอยู่กับแกนของอาร์เมเจอร์ โดยปลอกและเฟืองขับจะสวมกันแบบแนบสนิทกับปลอกของมัน
คลัทช์เบนดิกซ์ (Bendix Clutch) ทำงานโดยอาศัยเฟืองแบบเกลียว และใช้แรงเฉื่อยเพื่อเข้ากับเฟืองของล้อช่วยแรง ซึ่งมีเฟืองสวมอยู่กับสกรู เมื่อมอเตอร์สตาร์ทเริ่มหมุนมันก็จะเหวี่ยง ตัวเองโดยการเคลื่อนที่ไปตามสกรู เข้าขับกับเฟืองของล้อช่วยแรงหมุนเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์ ทำงานเองได้แล้วจะหมุนเร็วกว่าเฟืองขับของมอเตอร์ ทำให้เฟืองมอเตอร์สตาร์ทเลื่อนออกจาก เฟืองของล้อช่วยแรงได้
นอกจากนี้แล้วยังมีกลไกขับด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อสำหรับต่อและตัดการขับของเฟือง โดยอาศัยคลัทช์ประเภทอื่น ๆ เป็นตัวช่วย ได้แก่ ไดเออร์คลัทช์(Dyer Clutch) สแปรกคลัทช์(Sprag Clutch) เป็นต้น
การทดสอบวงจรสตาร์ท (Starting Circuit Testing)
การทดสอบและวิเคราะห์วงจรต้องปฏิบัติกับวงจรที่สมบูรณ์ก่อนการถอดส่วนประกอบหรือ ชิ้นส่วนใดๆ ซึ่งถือว่าเป็นการทดสอบสมรรถนะของมอเตอร์สตาร์ท โดยมักทำการทดสอบใน ขณะที่ไม่มีภาระงานของมอเตอร์สตาร์ท หรือเรียกว่า การทดสอบตัวเปล่า
เมื่อทดสอบสมรรถนะของมอเตอร์สตาร์ทแล้ว ผลปรากฏว่าการทำงานไม่เป็นผล ตามค่าที่กำหนดก็จำเป็นที่ต้องได้รับการบริการ รวมไปถึงการถอดประกอบชิ้นส่วนออกมาตรวจสภาพและทดสอบ หลังจากนั้นจึงประกอบชิ้นส่วนกลับคืน แล้วทดสอบการทำงานให้เป็นไปตามค่าที่กำหนด
โดยทั่วๆ ไปแล้วการทดสอบสภาพทางกล เช่น การทดสอบเพลาอาร์เมเจอร์
แปลงถ่าน หรือกลไกการขับอื่นๆ สามารถตรวจได้โดยง่ายด้วยการตรวจพินิจหรือการทดสอบง่ายๆ ยกเว้นข้อขัดข้องที่เกี่ยวกับขดลวดซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้การทดสอบอย่างละเอียดมากขึ้น เช่น การทดสอบการขาดของขดลวดอาร์เมเจอร์ การทดสอบการลัดวงจรของขดลวด การทดสอบการรั่ว ลงดินของขดลวดอาร์เมเจอร์ และการทดสอบชุดลวดฟิวส์ เป็นต้น
แปลงถ่าน หรือกลไกการขับอื่นๆ สามารถตรวจได้โดยง่ายด้วยการตรวจพินิจหรือการทดสอบง่ายๆ ยกเว้นข้อขัดข้องที่เกี่ยวกับขดลวดซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้การทดสอบอย่างละเอียดมากขึ้น เช่น การทดสอบการขาดของขดลวดอาร์เมเจอร์ การทดสอบการลัดวงจรของขดลวด การทดสอบการรั่ว ลงดินของขดลวดอาร์เมเจอร์ และการทดสอบชุดลวดฟิวส์ เป็นต้น
หลังจากการทดสอบชิ้นส่วนต่างๆ พร้อมทั้งประกอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ควรจะต้องมี การตรวจสอบการประกอบขั้นสุดท้าย คือ
1. การตรวจสอบการทำงานตัวเปล่าของมอเตอร์สตาร์ท เพื่อเป็นการทดสอบสมรรถนะ ของมอเตอร์อีกครั้งก่อนใช้งานจริง
2. การตรวจสอบระยะห่างของเฟืองขับกับแหวนกันเฟืองกระแทก โดยระยะห่างที่ เหมาะสมประมาณ 0.1-0.6 มิลลิเมตร
3. การตรวจสอบสวิตช์ควบคุมวงจร ซึ่งสามารถกระทำได้โดยการทดสอบ โดยใช้มือตรวจสอบ โดยใช้โซลินอยด์ และการตรวจสอบโดยใช้แม่เหล็ก เป็นต้น
การบำรุงรักษามอเตอร์สตาร์ท
1. ตรวจแปลงถ่าน ตรวจดูสภาพของแปลงถ่านและ คอมมิวเตเตอร์ ถ้าเกิดสกปรก มีฝุ่นหรือคราบน้ำมันจับอยู่ ควรล้างออกด้วยน้ำมันเบนซิน หรือใช้ผ้าที่สะอาดเช็ดออก
2. การสตาร์ทเครื่องยนต์แต่ละครั้งไม่ควรเกิน 30 วินาที และควรทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้เย็นลง จากนั้นจึงเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่
3. ยึดมอเตอร์สตาร์ทให้แน่นอยู่เสมอ รวมทั้งรักษากลไกการขับเคลื่อนให้อยู่ในสภาพที่ดีเสมอ
4. ควรให้การหล่อลื่นลูกปืน โดยใช้น้ำมันชนิดใสหยอดประมาณ 2-3 หยด
5. ไม่ควรใช้น้ำมันชะโลมล้าง หรือแช่ขดลวดอาร์เมเจอร์ และขดลวดแม่เหล็ก เพราะ น้ำมันอาจจะแทรกเข้าไปทำให้ฉนวนต่างๆ เสียหายได้
6. ขณะทำงานบริการ (บำรุงรักษา) มอเตอร์สตาร์ท ควรถอดสายไฟขั้วสายดินของ แบตเตอรี่ออกก่อน และไม่ควรวางเครื่องมืออื่นๆ ไว้บนแบตเตอรี่
ป้ายกำกับ:
เครื่องยนต์,
ซ่อม,
ไดสตาร์ท,
แบตเตอรี่,
ไฟฟ้ารถยนต์,
อะไหล่เครื่องยนต์
วิธีตรวจสอบหาสาเหตุของอาการเครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติดและสตาร์ทไม่ได้
Posted by Contemporary industry
Posted on 18:47
ถ้าคุณขับรถอยู่แล้วรถคุณดับ สตาร์ทเท่าไหร่ก็ไม่ติดหรือสตาร์ไม่ติดคุณจะทำอย่างไร ถ้าผู้ขับขี่ที่มีพื้นฐานความรู้ด้านช่างอยู่บ้างก็คงจะพอแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ แต่ถ้าเป็นผู้ขับขี่มือใหม่คงจะต้องโทรตามช่าง หรือไม่ก็สอบถามผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เพื่อที่จะทำการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ขับต่อไปได้ เพราะฉะนั้นแล้วในวันนี้ทางผู้เขียนจะมีข้อแนะนำของอาการเครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติดและสตาร์ทไม่ได้แต่ละอาการมาฝากกันครับ
บิดกุญแจแล้วเครื่องยนต์ไม่หมุนแต่ มีเสียงดังแชะ ๆ หรือไม่ดัง ถ้าอาการนี้เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ ให้สันนิษฐานเบื้องต้นว่า แบตเตอรี่ หรือ ไดสตาร์ทมีปัญหา ให้คุณลองบีบแตร ดูอาการว่าแตรดังปกติหรือไม่ แบตเตอรี่อาจจะอ่อนเกือบหมด ทำให้หมุนไดสตาร์ทไม่ไหว ได้แค่กระตุ้นโซลินอยด์ เบา ๆ แต่หมุนไม่ไหวจึงมีเสียงแชะๆ ถ้าหากแบตเตอรี่มีไฟ ไดสตาร์ทอาจขัดข้อง ถ้าไดสตาร์ทขัดข้องให้ทดลองหาท่อนไม้มาเคาะไดสตาร์ท(ต้องระมัดระวังอย่าให้โดนอุปกรณ์อื่นๆด้วย) ถ้าสตาร์ทติดแสดงว่าไดสตาร์ทสกปรก แต่หลังจากนั้นก็ต้องถอดไปทำความสะอาดด้วยนะครับ แต่ถ้าเคาะแล้วยังไม่ทำงานก็ต้องถอดออกไปซ่อมครับ บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนอืดๆ ไม่ยอมทำงานเอง ถ้าคุณได้ยินเสียงไดสตาร์ท และการหมุนของเครื่องยนต์ แต่เป็นการหมุนช้าๆ หรืออืด ๆ อาการนี้ มักจะมีปัญหามาจากแบตเตอรี่ไฟอ่อน แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือ ไดชาร์จไม่ปกติ ไม่ใช่ปัญหาที่ตัวเครื่องยนต์ อาการขัดข้องแบบนี้ถ้าเป็นระบบเกียร์ธรรมดา สามารถเข็นโดยเข้าเกียร์ 2 กระตุกติดเครื่องยนต์ได้ หรือถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติก็สามารถพ่วงแบตเตอรี่จากภายนอกเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดได้ครับ เมื่อเครื่องยนต์ทำงานแล้วให้ดูไฟรูปแบตเตอรี่ที่หน้าปัด ว่าสว่าง หรือเรือนราง ถ้าไฟรูปแบตเตอรี่ไม่สว่างแสดงว่าการชาร์จไฟปกติ แต่ถ้ารูปไฟแบตเตอรี่สว่างขึ้นโชว์ไม่ดับ แนะนำให้นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจเช็คการชาร์จไฟของไดร์ชาร์จโดยด่วน เพราะถ้าคุณขับรถต่อไปเครื่องยนต์อาจจะดับเองได้อีก บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนเร็วด้วยไดสตาร์ท แต่เครื่องไม่ติด อาการลักษณะนี้หลายท่านอาจเข้าใจผิดว่าแบตเตอรี่เสีย หรือไดสตาร์ทเสีย เตรียมหาแบตเตอรี่มาพ่วงทั้งที่ความจริงแล้วแบตเตอรี่ และไดสตาร์ทเป็นปกติ เพราะเมื่อบิดกุญแจแล้วเครื่องยนต์หมุนได้เร็วด้วยไดสตาร์ท แต่เครื่องยนต์ไม่สามารถทำงานหรือติดได้เอง เมื่อปล่อยการบิดกุญแจเครื่องยนต์ก็หยุดหมุนปัญหาอยู่ที่ตัวเครื่องยนต์ เพราะแบตเตอรี่และไดสตาร์ทปกติดี แนะนำให้ตรวจสอบที่ตัวเครื่องยนต์ เช่น มีไฟเลี้ยงระบบหรือไม่ ปั๊มส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทำงานดีหรือเปล่า โดยต้องตรวจสอบระบบต่างๆ ฯลฯ อาการลักษณะนี้ยากที่จะแก้ไขด้วยตนเองได้ แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการเพื่อให้ช่างผู้ชำนาญการทำการตรวจสอบจะดีที่สุดครับ อาการสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติดนั้นจะเห็นได้ว่าไม่ใช่มีเพียง แบตเตอรี่หรือไดสตาร์ท เท่านั้นที่ทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ของเครื่องยนต์อีกหลายชิ้นส่วนที่เป็นต้นเหตุให้สตาร์ทไม่ติด ท้ายนี้หวังว่าผู้อ่านทุกท่านคงจะพอเข้าใจอาการเครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติดไม่มากก็น้อย แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า ขอให้ผู้อ่านทุกท่านโชคดีร่ำรวยทุกท่านครับ. แก้ไขได้ไม่ยากนัก. (ถ้าวิเคราะห์ดี) แผนก เทคนิคและฝึกอบรม บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (กรุงเทพฯ)
บิดกุญแจแล้วเครื่องยนต์ไม่หมุนแต่ มีเสียงดังแชะ ๆ หรือไม่ดัง ถ้าอาการนี้เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ ให้สันนิษฐานเบื้องต้นว่า แบตเตอรี่ หรือ ไดสตาร์ทมีปัญหา ให้คุณลองบีบแตร ดูอาการว่าแตรดังปกติหรือไม่ แบตเตอรี่อาจจะอ่อนเกือบหมด ทำให้หมุนไดสตาร์ทไม่ไหว ได้แค่กระตุ้นโซลินอยด์ เบา ๆ แต่หมุนไม่ไหวจึงมีเสียงแชะๆ ถ้าหากแบตเตอรี่มีไฟ ไดสตาร์ทอาจขัดข้อง ถ้าไดสตาร์ทขัดข้องให้ทดลองหาท่อนไม้มาเคาะไดสตาร์ท(ต้องระมัดระวังอย่าให้โดนอุปกรณ์อื่นๆด้วย) ถ้าสตาร์ทติดแสดงว่าไดสตาร์ทสกปรก แต่หลังจากนั้นก็ต้องถอดไปทำความสะอาดด้วยนะครับ แต่ถ้าเคาะแล้วยังไม่ทำงานก็ต้องถอดออกไปซ่อมครับ บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนอืดๆ ไม่ยอมทำงานเอง ถ้าคุณได้ยินเสียงไดสตาร์ท และการหมุนของเครื่องยนต์ แต่เป็นการหมุนช้าๆ หรืออืด ๆ อาการนี้ มักจะมีปัญหามาจากแบตเตอรี่ไฟอ่อน แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือ ไดชาร์จไม่ปกติ ไม่ใช่ปัญหาที่ตัวเครื่องยนต์ อาการขัดข้องแบบนี้ถ้าเป็นระบบเกียร์ธรรมดา สามารถเข็นโดยเข้าเกียร์ 2 กระตุกติดเครื่องยนต์ได้ หรือถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติก็สามารถพ่วงแบตเตอรี่จากภายนอกเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดได้ครับ เมื่อเครื่องยนต์ทำงานแล้วให้ดูไฟรูปแบตเตอรี่ที่หน้าปัด ว่าสว่าง หรือเรือนราง ถ้าไฟรูปแบตเตอรี่ไม่สว่างแสดงว่าการชาร์จไฟปกติ แต่ถ้ารูปไฟแบตเตอรี่สว่างขึ้นโชว์ไม่ดับ แนะนำให้นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจเช็คการชาร์จไฟของไดร์ชาร์จโดยด่วน เพราะถ้าคุณขับรถต่อไปเครื่องยนต์อาจจะดับเองได้อีก บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนเร็วด้วยไดสตาร์ท แต่เครื่องไม่ติด อาการลักษณะนี้หลายท่านอาจเข้าใจผิดว่าแบตเตอรี่เสีย หรือไดสตาร์ทเสีย เตรียมหาแบตเตอรี่มาพ่วงทั้งที่ความจริงแล้วแบตเตอรี่ และไดสตาร์ทเป็นปกติ เพราะเมื่อบิดกุญแจแล้วเครื่องยนต์หมุนได้เร็วด้วยไดสตาร์ท แต่เครื่องยนต์ไม่สามารถทำงานหรือติดได้เอง เมื่อปล่อยการบิดกุญแจเครื่องยนต์ก็หยุดหมุนปัญหาอยู่ที่ตัวเครื่องยนต์ เพราะแบตเตอรี่และไดสตาร์ทปกติดี แนะนำให้ตรวจสอบที่ตัวเครื่องยนต์ เช่น มีไฟเลี้ยงระบบหรือไม่ ปั๊มส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทำงานดีหรือเปล่า โดยต้องตรวจสอบระบบต่างๆ ฯลฯ อาการลักษณะนี้ยากที่จะแก้ไขด้วยตนเองได้ แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการเพื่อให้ช่างผู้ชำนาญการทำการตรวจสอบจะดีที่สุดครับ อาการสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติดนั้นจะเห็นได้ว่าไม่ใช่มีเพียง แบตเตอรี่หรือไดสตาร์ท เท่านั้นที่ทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ของเครื่องยนต์อีกหลายชิ้นส่วนที่เป็นต้นเหตุให้สตาร์ทไม่ติด ท้ายนี้หวังว่าผู้อ่านทุกท่านคงจะพอเข้าใจอาการเครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติดไม่มากก็น้อย แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า ขอให้ผู้อ่านทุกท่านโชคดีร่ำรวยทุกท่านครับ. แก้ไขได้ไม่ยากนัก. (ถ้าวิเคราะห์ดี) แผนก เทคนิคและฝึกอบรม บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (กรุงเทพฯ)
ป้ายกำกับ:
เครื่องยนต์,
ซ่อม,
ไดสตาร์ท,
แบตเตอรี่,
ไฟฟ้ารถยนต์,
อะไหล่เครื่องยนต์
จากัวร์ ประเทศไทย ร่วมยินดีครบรอบ 10 ปี จากัวร์เดมเลอร์คลับไทยแลนด์
Posted by Contemporary industry
Posted on 22:32
บุคคลในภาพข่าว: ฯพณฯ มาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย และมิสมาร์ทีเน่ เคนท์ ภริยา (กลาง) ร่วมกับ มร.ริชาร์ด เฮก ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จํากัด (ที่ 3 จากซ้าย), นายมนัส สาธิตสมิธพงษ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานจากัวร์เดมเลอร์คลับไทยแลนด์ (ขวาสุด), นพ.สมคนึง ตัณฑ์วรกุล คณะกรรมการจากัวร์เดมเลอร์คลับไทยแลนด์ (ที่ 2 จากขวา), และ ดร.นิรุตติ์ คุณวัฒน์ คณะกรรมการ จากัวร์เดมเลอร์คลับไทยแลนด์ (ที่ 3 จากขวา) ร่วมแสดงความยินดีในงานครบรอบ 10 ปี จากัวร์เดมเลอร์คลับไทยแลนด์ โดยมี นายดนัย จันทรงาม ผู้อํานวยการฝ่ายการขาย บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จํากัด (ซ้ายสุด) และ มร.แกรี่ เคมป์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเทคนิค บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จํากัด (ที่ 2 จากซ้าย) ร่วมนำเสนอโปรโมชั่นบริการหลังการขายให้แก่ลูกค้าจากัวร์ภายในงาน
โปรแกรมบัตรวีไอพี ของ ซิตี้ ออโต้โมบิล นำเสนอบริการหลังการขายชั้นเลิศเพื่อมอบความอุ่นใจที่เหนือระดับสำหรับเจ้าของรถยนต์จากัวร์ในประเทศไทย อาทิ ส่วนลดค่าบริการดูแลหลังการขาย 10% รวมไปถึงแคมเปญและโปรโมชั่นอีกมากมายเพื่อมอบความปลอดภัยบนท้องถนนขั้นสูงสุดแก่ผู้บริโภค ด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ได้รับการอัพเกรดประสิทธิภาพให้เทียบเท่าศูนย์บริการระดับสากล และดำเนินงานโดยช่างผู้ชำนาญที่ผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐานของจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ สหราชอาณาจักร
ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยานยนต์และข้อมูลเชิงเทคนิคได้ที่เว็บไซต์ www.landroverthailand.com และ www.jaguarthailand.com
หมวดหมู่ยานยนต์
- 014 Chevrolet Silverado HD (1)
- 10 เคล็ดลับขับปลอดภัยเมื่อน้ำท่วม (1)
- 2014 Volvo S80 (1)
- 2015 Lincoln MKC crossover (1)
- 2015 Volvo S60 T6 (1)
- 2015 Volvo V40 (1)
- 2016 Chevrolet (1)
- 2016Chevrolet Colorado (1)
- 2016 Toyota Fortuner (1)
- 2018 Mazda CX-5 (1)
- 2018 Toyota Rush (2)
- 2 Stroke Engine (1)
- 5 ประตู (6)
- กระบวนการผลิต (19)
- กระบอกสูบ (1)
- กราฟกำลัง (1)
- กราฟแรงบิด (1)
- ก้านสูบ (1)
- การขับรถอย่างปลอดภัย (1)
- การใช้ไฟอย่างถูกต้อง เมื่อฝนตกหนัก (1)
- การดูแลรักษารถด้วยตนเอง (2)
- การเติมลม (1)
- การเติมลม กับ ล้อแม็กซ์ (1)
- การถ่วงล้อ (1)
- การบำรุงรักษา (4)
- การบำรุงรักษาและตรวจเช็คประจำวันรถยนต์คู่ใจ ควรทำอย่างไร (1)
- การปลี่ยนขนาด ยางรถยนต์ (1)
- การเปลี่ยนพลังงานความร้อนเป็นพลังงานกลของเครื่องยนต์ (1)
- การเผาไหม้ (11)
- การเผ่าไหม้ (1)
- การวิเคราะห์ปัญหาเครื่องยนต์ (1)
- การหยุดรถ และการจอดรถ (1)
- การออกแบบ (10)
- แก๊สโซลีน (3)
- ข้อควรปฏิบัติทั่วไป ในการใช้รถยนต์ (1)
- ข้อควรปฏิบัติ เมื่อการขับขี่ในพื้นที่ลักษณะต่างๆ (1)
- ขับเคลื่อน (13)
- ขับอย่างไรเพื่อยืดอายุยาง (1)
- ข่าวยานยนต์ (4)
- ควรจะทำอย่างไรเมื่อยางรถระเบิดขณะขับรถอยู่ (1)
- คว้านเสื้อสูบ (2)
- ความรู้ (3)
- คอมมอนเรล (1)
- คอยล์จุดระเบิด (8)
- คำศัพท์น่ารู้ (1)
- เครื่องมือ (1)
- เครื่องยนต์ (64)
- เครื่องยนต์ 2 จังหวะ (1)
- เครื่องยนต์ 4 จังหวะ (1)
- เครื่องยนต์คอมมอนเรล (1)
- เครื่องยนต์ดีเซล (3)
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร (1)
- เครื่องยนต์ดีเซลตระกูล GD รุ่นใหม่ (1)
- เครื่องยนต์เบนซิน (1)
- เครื่องยนต์แบบโรตารี่ (1)
- เครื่องยนต์ร้อนแล้วดับ สตาร์ทติดยาก เกิดจากสาเหตุใด และแก้ไขอย่างไร (1)
- เครื่องยนต์เล็ก (2)
- เครื่องยนต์สตาร์ทติดยากตอนอากาศชื้นเกิดจากอะไร ? (1)
- เครื่องยนต์สันดาปภายใน (3)
- เครื่องยนต์หัวฉีด (1)
- เครื่องยนต์ EFI (2)
- เครื่องยนต์V8 (1)
- เคล็ดลับ (2)
- จอดรถให้ปลอดภัย (1)
- จักรยานยนต์ (1)
- จังหวะการฉีดเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ EFI (1)
- ชิ้นส่วนยานยนต์ (1)
- ชื่อชิ้นส่วนเครื่องยนต์ภาษาไทย และอังกฤษพร้อมรูป คลิปวีดีโอ (1)
- เชฟโรเลต (1)
- เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 (1)
- โช๊คอัพ (5)
- ซ่อม (21)
- ซ่อมเครื่องยนต์ (7)
- ซ่อมบำรุง (6)
- ซุปเปอร์คาร์ (3)
- ซูซุูกิ (2)
- ซูซูกิ ไฮบริด (1)
- โซลินอย (1)
- ดัดแปลง (3)
- ไดชาร์จ (2)
- ไดร์สตาร์ท (10)
- ไดสตาร์ท (12)
- ตรวจสอบเครื่องยนต์ (1)
- ตลับลูกปืน (2)
- ตัวอักษรบนยาง บอกอะไร? (1)
- ตีปลอก (1)
- โตโยต้า (21)
- โตโยต้า 2015 (1)
- ถุงลมนิรภัย (1)
- ที่นั่งเด็ก (5)
- เทคนิคการขับรถป้องกันเชิงอุบัติเหตุ (1)
- เทคนิคการใช้รถและการดูแลรถอย่างง่ายๆ (1)
- เทคโนโลยียานยนต์ (53)
- เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ (8)
- เทอร์โบ (1)
- เทอร์โบแปรผัน (7)
- น้ำมันเชื้อเพลิง (14)
- น้ำมันดีเซล (6)
- น้ำมันเบนซิน (4)
- นิตยสาร (3)
- นิสสัน (11)
- บำรุงรักษาเครื่องยนต์ (1)
- บีเอ็มดับเบิ้ลยู (1)
- เบรค (22)
- เบาะรถยนต์ (5)
- เบาะสำหรับเด็ก (5)
- แบตเตอรี่ (3)
- แบรนด์รถยนต์ (1)
- แบริ่ง (1)
- ไบโอดีเซล (2)
- ประกอบเครื่องยนต์ (5)
- ประกอบรถยนต์ (13)
- ประดับยนต์ (5)
- ประเภทรถยนต์ (1)
- ปอร์เช่ (2)
- ปัญหารถยนต์ (1)
- ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ 2015 (1)
- ปิกอัพ (4)
- ปี2017 (3)
- เปลี่ยนอะไหล่ (3)
- ผลิตรถยนต์ (16)
- แผนภาพจังหวะการเปิดของลิ้น (Valve Timing Diagram) เครื่องยนต์ 4 สูบ และ 6 สูบ (1)
- แผนภาพต้นกำลังงานของรถยนต์ (1)
- ฝาสูบ (4)
- พจนานุกรมศัพท์ยานยนต์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๔๒ (1)
- พูเล่ (1)
- เพลาข้อเหวี่ยง (1)
- เพลาท้าย (2)
- ฟอร์ด (1)
- ฟิล์มกรองแสง ติดดี หรือ ไม่ติดดี มีประโยชน์อย่างไร วันนี้ทีคำตอบ (1)
- เฟอรารี่ (3)
- เฟืองท้าย (14)
- ไฟฉุกเฉิน ไม่จำเป็นและไร้สาระ (1)
- ไฟฟ้ารถยนต์ (24)
- ภาพโครงสร้างเครื่องยนต์ EFI (1)
- ภาพรวมรถยนต์ (9)
- มาสด้า (3)
- มิตซูบิชิ (6)
- มินิ (2)
- โมเดลรถยนต์ (3)
- ยนตกรรม (1)
- ยานยนต์ อุตสาหกรรม (26)
- ยาริส (15)
- รถกระบะ (9)
- รถกระบะ Revo (1)
- รถเก๋ง (51)
- รถแข่ง (2)
- รถจิ๊บ (1)
- รถเบนซ์ (19)
- รถยก (27)
- รถยก อุตสาหกรรม (26)
- รถยก อุตสาหกรรมม (1)
- รถยนต์ (3)
- รถยนต์ไฟฟ้า (4)
- รถรุ่นเก่า (1)
- รถศูนย์ (16)
- รถสปอร์ต (10)
- รถหรู (1)
- รถใหม่ (41)
- ระบบขับอัตโนมัติ (1)
- ระบบความร้อน (2)
- ระบบจุดระเบิด (10)
- ระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีน (Gasoline Fuel Injection System) (1)
- ระบบช่วงล่าง (27)
- ระบบเบรค (22)
- ระบบไฟฟ้า (14)
- ระบบรองรับ (5)
- ระบบระบายความร้อน (6)
- ระบบลม (3)
- ระบบส่งกำลัง (1)
- ระบบหล่อเย็น (2)
- ระบบหัวฉีด (1)
- ระบบห้ามล้อ (14)
- ระบบ Hybrid (1)
- ราคารถยนต์ (5)
- รางร่วม (1)
- รีเลย์ (6)
- รีวิว (15)
- รีวิวรถยนต์ (11)
- รู้ไว้ก่อน : การเปลี่ยนขนาดยาง (1)
- เรื่อง น้ำมันเครื่อง (1)
- โรงงานผลิตรถยนต์ (13)
- ล้อตุนกำลัง (1)
- ลักษณะดอก ยางรถยนต์ (1)
- ลากรถอย่างไรเมื่อรถเสีย (1)
- ลำดับการจุดระเบิด (1)
- ลูกปืนกลม (1)
- ลูกสูบ (3)
- วงจรไฟฟ้า (7)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด ECCS Nissan RB20E (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด ECI-multi Mitsubishi 4G61 (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด EFI เครื่องยนต์ Toyota 4A-GE (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด Honda B16A VTEC DOHC รุ่นแรก (1)
- วิชาช่างยนต์ (10)
- วี8 (1)
- สเปกรถยนต์ (5)
- สร้างเครื่องยนต์ (1)
- สร้างโมเดลรถยนต์ (1)
- สายพานเครื่องยนต์ (2)
- สีรถ (8)
- เสื้อสูบ (5)
- หนังสือรถยนต์ (7)
- หม้อน้ำ (2)
- หลักการทำงาน (2)
- หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน 4 จังหวะ (1)
- หลักการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซล 4 จังหวะ (1)
- หัวเทียน (24)
- ห้ามล้อ (14)
- แหวนลูกสูบ (1)
- องค์ประกอบการสันดาปของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน (1)
- ออกแบบรถยนต์ (22)
- อะไหล่เครื่องยนต์ (3)
- อะไหล่ยนต์ (1)
- อัตราค่าปรับ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 (1)
- อัตราส่วนผสมอากาศต่อเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน (1)
- อาการหัวเทียน (12)
- อินเตอร์คูลเลอร์ (6)
- อีโก้คาร์ (5)
- อุตสาหกรรม รถยก (27)
- อุปกรณ์เสริม (6)
- แอร์เริ่มไม่เย็น และส่งกลิ่นอับเวลาเปิดแอร์ใหม่ ควรทำอย่างไร ? (1)
- ไอดี (3)
- ไอเสีย (6)
- ฮอนด้า (6)
- ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด (2)
- Accessories (5)
- All New toyota yaris 2013 2014 (1)
- Alternator (1)
- alternators (1)
- Ativ (7)
- Audi (2)
- Audi A4 (1)
- Automatic drive (1)
- Ball Bearing (1)
- bearing (1)
- biodiesel (2)
- BMW (4)
- Brake (23)
- Brake system (23)
- BT-50 (1)
- Car Family (1)
- Cars (61)
- CAT (Catalytic Converter) เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยา (1)
- Check Engine (1)
- Chevrolet (1)
- CHEVROLET COLORADO (2)
- Colorado (1)
- commonrail (1)
- Common Rail (1)
- Common Rail Engine (1)
- Concept Car (1)
- Connecting rod (1)
- Crankshaft (1)
- Cylinder head (1)
- Diesel Engine (3)
- Diesel fuel (6)
- differential (12)
- DIY (8)
- DURAMAX ENGINE (1)
- DURAMAX VIN CHART (1)
- ECCS (1)
- EFI (1)
- EGR (Exhaust Gas Recirculation) หรือการหมุนเวียนไอเสีย (1)
- Electric car (4)
- Electric cars (4)
- Electronic Fuel Injection Engine (1)
- Engine (37)
- Engine Block (1)
- Engine Curve (1)
- Ferrari (3)
- Flywheel (1)
- Ford (4)
- Ford Ranger (2)
- Fuel (14)
- gasoline (3)
- Gasoline engine (1)
- General Motors (2)
- GMC Canyon (1)
- Honda (11)
- Honda Accord (1)
- HONDA ACCORD HYBRID ใหม่ (1)
- Honda CR-V 2015 (1)
- Honda HR-V (1)
- Honda HRV 2015 (1)
- Honda Jazz (1)
- Honda Vezel (1)
- Hydrogen cars (1)
- i-DTEC (1)
- Ignition Coil (8)
- Ignition System (1)
- i-MMD (1)
- Intercooler (6)
- internal combustion engine (3)
- Jeeb (1)
- lamborghini (4)
- Lamborghini Revuelto (2)
- Mazda (4)
- Mercedes Benz (21)
- Mini (2)
- MINI Cooper (2)
- Mitsubishi (9)
- Mustang (1)
- Navara (2)
- NGV (1)
- Nissan (11)
- nissan np300 navara (1)
- NP300 (1)
- NP300 NAVARA Single Cab (1)
- pickup (6)
- pickup truck. (5)
- Piston (3)
- Piston Ring (1)
- Porsche (2)
- Port Timing Diagram ของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ (1)
- Ranger (1)
- Rear axle (1)
- Relay (6)
- Revuelto (1)
- Rotary Engine (1)
- S60 (1)
- S90 (1)
- SEAT (1)
- Self Diagnosis System (1)
- Shock Absorbers (5)
- SKODA (1)
- SKYACTIV-D เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล (1)
- solenoid (4)
- Spark Plugs (20)
- Starter (6)
- Supper Car (4)
- Suspension System (3)
- Suzuki (2)
- TCCS (1)
- Tesla Model X (1)
- TOYOTA (29)
- Toyota และ Lexus (1)
- Toyota Hilux Revo (1)
- Triton (1)
- V60 (1)
- Ⅴ8 (1)
- Variable Nozzle Turbo (2)
- VGT (5)
- Volkswagen (1)
- Volvo (4)
- Volvo purchased the Polestar brand (1)
- Volvo S90 (1)
- Wankel Engine (1)
- XC90 (1)
- Yaris (15)