Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

มาสด้าขึ้นไลน์ผลิตรถอีโคคาร์เฟส2 รายแรก ทุ่ม 1.2 หมื่นล้าน ปั้นไทยเป็นฐานผลิตรถประหยัดพลังงานป้อนตลาดโลก

Ø    มาสด้าประกาศเปิดสายการผลิตมาสด้า อีโคคาร์ เป็นรายแรก ภายใต้โครงการอีโคคาร์ เฟส 2  
Ø    มาสด้า อีโคคาร์ ใช้เทคโนโลยี สกายแอคทีฟเต็มคัน พร้อมเครื่องยนต์คลีนดีเซล
Ø    มาสด้า2 เริ่มผลิตที่โรงงานเอเอที จ.ระยอง เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกทั่วโลก
กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 6 พฤศจิกายน 2557, มาสด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับโรงงานผลิตรถยนต์มาสด้า ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) ส่งความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจประเทศไทย ด้วยเงินลงทุนหนึ่งหมื่นสองพันล้านบาท เพื่อเริ่มสายการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะที่ 2 ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟเต็มคัน และเครื่องยนต์คลีนดีเซล พร้อมทั้งเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์ใหม่ โดยสามารถเริ่มสายการผลิตในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2558ส่งเสริมประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์มาสด้าที่ใหญ่สุดในอาเซียน พร้อมส่งออกรถยนต์คุณภาพเยี่ยมจากฝีมือคนไทยไปยังตลาดโลก
มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ร่วมฉลองพิธีเปิดสายการผลิตรถยนต์ในโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะที่ 2หรือโครงการอีโคคาร์  เฟส 2 เป็นรายแรก โดยได้รับเกียรติอย่างสูงจาก ผู้แทนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช เป็นประธานพิธีเปิดงานฯ อย่างเป็นทางการ ร่วมด้วย ฯพณฯ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย มร. ซิเกะคะสุ ซะโต รวมทั้งแขกผู้มีเกียรติจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงจาก บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย, มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดสายการผลิตรถยนต์นั่งมาสด้า2 อย่างเป็นทางการ ณ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวว่า  “รัฐบาลทุกสมัยได้มีการวางทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่ชัดเจน และต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีการพัฒนาสอดคล้องับทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกที่มุ่งพัฒนาไปสู่ “Sustainable Mobility” โดยอาศัยกลไกของโครงสร้างภาษีและการส่งเสริมการลงทุน เริ่มต้นจากการที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ โดยเปลี่ยนหลักเกณฑ์การให้สิทธิลดหย่อนอัตราภาษีสรรพสามิต จากรถยนต์ที่มีขนาด ซี.ซี.ต่ำ แรงม้าน้อยมาเป็นรถยนต์ที่มีคุณสมบัติ สะอาด ประหยัด ปลอดภัย แล้วต่อมา กระทรวงอุตสาหกรรมได้เปิดให้มี
การส่งเสริมกิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะที่ 2 ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสในการลงทุนให้กับผู้ประกอบการ 5 รายเดิมในการขยายกำลังการผลิตอีโคคาร์ รวมทั้ง เพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการทุกรายในการผลิตอีโคคาร์ รุ่นที่ 2 ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าอีโคคาร์รุ่นแรก ทั้งในด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่  นโยบายส่งเสริมการลงทุนอีโคคาร์ ระยะที่ 2 มีผู้ยื่นขอรับการส่งเสริมถึง 10 ราย (ซึ่งรวมถึง บริษัท มาสด้าฯ ด้วย) นับเป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อประเทศไทยเป็นอย่างดี รวมทั้ง เน้นย้ำให้เห็นถึงความสำเร็จของการดำเนินนโยบายของภาครัฐในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์นั่ง เครื่องยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลกที่ครบวงจร”
รถยนต์ “Mazda2”เป็นอีโคคาร์ที่มีลักษณะเด่น 2 ประการ คือ 1) เป็นรถยนต์นั่งเครื่องยนต์ดีเซลคันแรกที่จะใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย โดยเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ซึ่งพบว่า เครื่องยนต์ดีเซลเทคโนโลยีชั้นสูง (Advanced Diesel)มีแนวโน้มจะเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์เบนซินมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ 2) เป็นรถยนต์นั่งคันแรกที่มาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) โดยมีระบบห้ามล้อแบบป้องกันการล็อก (ABS) ซึ่งได้ติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ESC) ตามข้อกำหนดทางเทคนิค UN Reg.13H
“Mazda2”  เป็นอีโคคาร์ รุ่นที่ 2 ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าอีโคคาร์รุ่นแรก และรถยนต์นั่งแบบ B ในทุกด้าน ทั้งในด้านการประหยัดพลังงานที่เหนือกว่า (มีอัตราการใช้พลังงาน 4.3 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 23 กิโลเมตรต่อลิตร) ด้านการปล่อยมลพิษที่น้อยลง(มาตรฐานมลพิษระดับ ยูโร 5 โดยมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 100 กรัมต่อกิโลเมตร) และด้านความปลอดภัยระดับสากลที่สูงกว่า โดยเป็นมาตรฐานความปลอดภัยในระดับเดียวกับที่บังคับใช้ในสหภาพยุโรป ได้แก่ คุณสมบัติการป้องกันอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้าและการชนด้านข้าง รวมทั้ง คุณสมบัติด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) ดังที่กล่าวมาแล้ว สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า รถยนต์ “Mazda2” เป็นรถยนต์คุณภาพสูงที่สามารถรองรับความต้องการใช้ยานพาหนะส่วนบุคคลของผู้บริโภคในสังคมยุคใหม่ได้อย่างครบถ้วน
มร. ยูจิ นากามิเน่ ผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ผมและทีมงานมาสด้าทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในวันนี้ ที่รถยนต์มาสด้า2 ใหม่ ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการและเป็นรายแรกของโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ Eco Car ระยะที่ 2 ด้วยการผ่านข้อกำหนดอันเข้มงวดที่สุดในโลก รวมถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำกว่า 100 กรัม/กิโลเมตร ผมขอถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูง ทั้งทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ (BOI) กระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ที่ได้ให้วิสัยทัศน์และมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี การได้รับอนุมัติโครงการในครั้งนี้จะช่วยให้มาสด้าสามารถนำเสนอรถยนต์นั่งขนาดกะทัดรัดที่อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติต่างๆ มากมายแก่ลูกค้าชาวไทยในอัตราภาษีที่ดีขึ้นได้ การผลิตรถยนต์มาสด้า2 ใหม่ ในประเทศไทยจะช่วยยกระดับมาตรฐานทางเทคนิคของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยด้วยการร่วมมือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ภายในประเทศ นอกจากนี้ เนื่องจากรถมาสด้า2 นั้นเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ดังนั้นการผลิตรถยนต์มาสด้า2 ใหม่ เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและเพื่อการส่งออกนี้จึงจะมีส่วนสำคัญในการสร้างความเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างมีนัยสำคัญ”
รถยนต์มาสด้า2 ใหม่ รุ่นนี้เพิ่งทำการเปิดตัวแนะนำในประเทศญี่ปุ่น สามารถคว้ารางวัล Japan Car of the Year ของประเทศญี่ปุ่น นับเป็นรถยนต์มาสด้ารุ่นที่ 5 แล้วที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ต่อจาก Mazda CX-5 เมื่อปี พ.ศ. 2555 ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้กำลังจะทำการเปิดตัวสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกของโลกในงานมหกรรมยานยนต์ช่วงปลายเดือนนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีหน้า มาสด้ามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่ารถยนต์รุ่นนี้จะสามารถเอาชนะใจลูกค้าชาวไทยและทำให้ลูกค้าหันมาเห็นคุณค่าของความสนุกสนานในการขับขี่ได้อีกครั้ง”
มร. ยูจิ นากามิเน่ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “มาสด้ามีความตั้งใจที่จะแสดงให้เห็นความเชื่อมั่นของมาสด้าที่มีต่อประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา โดยเฉพาะในเดือนมกราคมปีหน้า มาสด้าจะเริ่มสายการผลิตระบบเกียร์อัตโนมัติที่โรงงานผลิตเกียร์อันทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของมาสด้า โดยจะผลิตระบบเกียร์อัตโนมัติให้กับทั้งเอเอทีและโรงงานอื่นๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ มาสด้ายังได้เพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์นั่งที่โรงงานเอเอทีจาก 50,000 คันต่อปี เป็น 120,000 คันต่อปี นอกจากนี้มาสด้ากำลังดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์แห่งใหม่ในบริเวณเดียวกับโรงงานผลิตระบบเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งโรงงานผลิตเครื่องยนต์แห่งใหม่นี้จะเริ่มสายการผลิตได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2558 นอกจากนี้มาสด้ายังมุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานในสไตล์ของมาสด้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะเข้ามาเติมเต็มชีวิตของลูกค้าชาวไทย ด้วยการเป็นแบรนด์ที่สามารถสร้างสายสัมพันธ์พิเศษให้กับลูกค้า และไม่มีรถยนต์แบรนด์อื่นใดเข้ามาทดแทนได้”

ข้อมูลเพิ่มเติม
มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น
สำนักงานใหญ่มาสด้าตั้งอยู่ที่เมืองฮิโรชิมา บนที่ราบลุ่มแม่น้ำโอตะอันเงียบสงบ ท่ามกลางภูมิประเทศอันสวยงามระหว่างทิวเขาและท้องทะเลสีคราม เป็นศูนย์รวมของการบริหารรูปแบบใหม่ และยังเป็นที่ตั้งของการออกแบบ การทดสอบรวมถึงการผลิตและประกอบรถยนต์ที่ครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีกำลังการผลิตสูงถึง 1,400,00 คันต่อปี ส่งออกไปทั่วโลกมาสด้าเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น ด้วยเกียรติภูมิของตัวเองเป็นระยะเวลายาวนานถึง 92 ปี ทั้งในด้านการออกแบบที่ยอดเยี่ยม การนำเสนอรถยนต์ที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งลูกค้าล้วนรับรู้ถึงภาพลักษณ์ความเป็นยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตอย่างแท้จริง และสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจ เป็นยานยนต์ที่ขับสนุก นอกจากนี้มาสด้ายังเป็นบริษัทรถยนต์ชั้นแนวหน้าในด้านเทคโนโลยีเครื่องยนต์  ระบบช่วงล่างที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเครื่องยนต์แบบโรตารี่ ที่ทำให้มาสด้าได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขัน เลอ มังค์ ในปี 1991 ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายแรกและรายเดียวที่ได้รับรางวัลนี้
ข้อมูลโรงงานผลิตรถยนต์ออโต้อัลลายแอนซ์
บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นโรงงานผลิตรถยนต์ร่วมทุนระหว่าง มาสด้า มอเตอร์ คอปอร์เรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) และ ฟอร์ด มอเตอร์ คมปานี (สหรัฐอเมริกา) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2538 โรงงานแห่งนี้ทำการผลิตรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสำหรับจำหน่ายในประเทศไทยและเพื่อการส่งออกไปจำหน่ายกว่า 100 ตลาดทั่วโลก ทั้งในทวีปยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกากลาง อเมริกาใต้ อัฟริกา และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย เป็นต้น โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง ประเทศไทย และมีพนักงานกว่า 9,000 คน มีกำลังการผลิตสูงสุดสำหรับรถยนต์สำเร็จรูปหรือ CBU อยู่ที่ 260,000 คันต่อปี รถยนต์ที่ผลิตจากออโต้อัลลายแอนซ์ในปัจจุบัน ประกอบด้วย มาสด้า บีที-50 โปร มาสด้า2 มาสด้า3 ฟอร์ด เรนเจอร์และฟอร์ด เอเวอร์เรสต์
รายละเอียดข้อมูลมาตรฐานโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงาน
รายละเอียด
โครงการอีโคคาร์ เฟส 1
โครงการอีโคคาร์ เฟส 2
1. ผลิตภัณฑ์
อัตราการประหยัดพลังงาน


มาตรฐานด้านความปลอดภัย











มาตรฐานมลพิษ


ขนาดของเครื่องยนต์

-          ไม่เกินกว่า 5 ลิตร/100 กิโลเมตร (20 กม./ลิตร)

-          คุณสมบัติป้องกันผู้โดยสารจากการชน  ด้านหน้ารถ UNECE R94 และด้านข้าง UNECE R95, Rev.1 หรือระดับสูงกว่า
-          คุณสมบัติด้านความปลอดภัยเชิง ป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุเหตุ (Active Safety)






-          มาตรฐาน EURO4, CO2 ไม่เกินกว่า 120g/km

-          เครื่องยนต์เบนซินขนาดความจุไม่เกิน 1.3 ลิตร
-          เครื่องยนต์ดีเซลขนาดความจุไม่เกิน 1.4 ลิตร

-          ไม่เกินกว่า 4.3 ลิตร ต่อ/ 100 กิโลเมตร (23.25 กม./ลิตร)

-          คุณสมบัติป้องกันผู้โดยสารจากการชนด้านหน้ารถ UNECE R94 และด้านข้าง UNECE R95, Rev.1 หรือระดับสูงกว่า
-          คุณสมบัติด้านความปลอดภัยเชิง ป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ  (Active Safety) ตามข้อกำหนดทางเทคนิค UNECE R13H Rev.2 หรือระดับสูงกว่า โดยอย่างน้อยต้องมีระบบห้ามล้อแบบป้องกันการล็อก ABS ซึ่งติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเลคทรอนิกส์ ESC

-          มาตรฐาน EURO5, CO2 ไม่เกินกว่า 100g/km

-          เครื่องยนต์เบนซินขนาดความจุไม่เกิน 1.3 ลิตร
-          เครื่องยนต์ดีเซลขนาดความจุไม่เกิน 1.5 ลิตร
2. กำลังการผลิต
-          ไม่น้อยกว่า 100,000 คันต่อปีตั้งแต่ปีที่ 5 ถึงปีที่ 8
-          ไม่น้อยกว่า 100,00 คันต่อปี ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไปและต้องดำเนินการผลิตภายในปี พ..2562
3. จำนวนเงินลงทุน
-          ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท
-          ต้องมีขั้นตอนการผลิตชิ้นส่วนหลักของเครื่องยนต์ อย่างน้อย 4 ใน 5 ได้แก่ (Cylinder Head, Cylinder Block, Crankshaft, Camshaft และ Connecting Rod โดยมีขั้นตอน Machining ของ Cylinder Head Cylinder Block, Crankshaft เป็นอย่างน้อย)
-          ไม่ต่ำกว่า 6,500 ล้านบาท
-          และสามารถลงทุนเพิ่มได้ในส่วนการสนับสนุนทางด้าน STI หรือการพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศมูลค่า 500 หรือ 800 ล้านบาท
-          ต้องมีขั้นตอนการผลิตชิ้นส่วนหลักของเครื่องยนต์ อย่างน้อย 4 ใน 5 ได้แก่ (Cylinder Head, Cylinder Block, Crankshaft, Camshaft และ Connecting Rod โดยมีขั้นตอน Machining ของ Cylinder Head Cylinder Block, Crankshaft เป็นอย่างน้อย)
4. สิทธิพิเศษ
-          ได้รับการยกเว้นภาษีนิติบุคล 8 ปี
-          ได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับเครื่องจักร
-          สำหรับชิ้นส่วนและวัสดุ 90%
-          ได้รับการยกเว้นภาษีนิติบุคล 6-8  ปี (ในปีที่ 7 และ 8 จะได้รับสิทธิเมื่อลงทุนทางด้าน STI มูลค่า 500 และ 800 ล้านบาท ตามลำดับ)
-          ได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับเครื่องจักร
-          สำหรับชิ้นส่วนและวัสดุ 90%

เมนทาแกรมเปิดตัว GoPro 4 กล้องสปอร์ตแอคชั่นทรงพลัง 3 แบบ 3 สไตล์ ปลดปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์ในตัวคุณ

กรุงเทพฯ 4 พฤศจิกายน 2557: บริษัท เมนทาแกรม จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกล้องโกโปรแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเปิดตัวกล้องโกโปรรุ่นใหม่ล่าสุด GoPro 4 กล้องสปอร์ตแอคชั่นทรงพลังให้คุณได้เลือกเพื่อปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์และความเป็นฮีโร่ในตัวคุณ ได้แก่ HERO4 Black และ HERO4 Silver ด้วยเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพระดับรางวัลเอ็มมี่ ผนวกกับความง่ายในการใช้งานและฟีเจอร์ใหม่ทรงพลัง เช่น การถ่ายวิดีโอ 4K30, 2.7K50, และ 1080p120 (Black) พร้อมหน้าจอสัมผัส (Silver) เพื่อให้ผู้บริโภคบันทึกและแบ่งปันเรื่องราวจากประสบการณ์โปรดทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
ด้วยคุณภาพระดับมืออาชีพ
นอกจากนี้ ยังเปิดตัว HEROกล้องโกโปรราคาเบาๆ สำหรับผู้เริ่มต้นหัดใช้กล้องโกโปร
HERO4 Black มอบประสิทธิภาพทรงพลังกว่าเดิมถึง 2 เท่า โดยสามารถบันทึกวิดีโอคุณภาพ 4K ได้อย่างคมชัดสวยงาม
ดั่งภาพยนตร์ในอัตรา
30 เฟรมต่อวินาที (fps) ถ่ายวิดีโอ 2.7K ที่ 50fps และ 1080p ที่ 120fps โดยสามารถลดข้อด้อยจากกระบวนการบันทึกภาพแบบ rolling shutter พร้อมเพิ่มฟีเจอร์การถ่าย slow motion นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบระบบเสียงใหม่ที่ให้บันทึกเสียงคุณภาพสูงด้วย dynamic range มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า นอกจากนี้ ยังปรับปรุงคุณภาพของภาพ ความสามารถในการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ติดแท็กช่วงเวลาโปรดบนวิดีโอ และปรับปรุง user interface เพื่อความง่ายในการใช้งานและเข้าถึงฟีเจอร์และฟังก์ชั่นการควบคุมต่างๆ HERO4 Black จึงเป็นกล้องโกโปรที่ทรงพลังที่สุดในปัจจุบัน
HERO4 Silver มอบภาพถ่ายคุณภาพเดียวกับ HERO4 Black ยกเว้นความสามารถในการถ่ายวิดีโอบางอย่าง เช่น การถ่ายวิดีโอ 4K30, 2.7K50 และ 1080p120 ซึ่งมีเฉพาะใน Black เท่านั้น กล้อง HERO4 Silverมีหน้าจอสัมผัส LCD ติดกับตัวกล้อง เพิ่มความสะดวกและความง่ายในการใช้งาน
“กล้อง GoPro 4 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการบันทึกภาพขณะทำกิจกรรมโปรดอย่างสร้างสรรค์ ความพยายามด้านการออกแบบและวิศวกรรมทำให้กล้อง GoPro4 เป็นกล้องที่ทรงพลังที่สุดของโกโปรในปัจจุบัน นายณัฐพล ปัทมพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมนทาแกรม จำกัด
HERO4 Blackประสิทธิภาพเหนือกว่า 2 เท่า
·        กล้อง GoPro HERO4 Black สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับรางวัลเอมมี่ มอบความทรงพลังในการสร้างสรรค์ภาพถ่าย ใช้งานได้หลากหลายด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่า
·        ถ่ายวิดีโอความคมชัดสูงระดับ 4K ที่ 30fps พร้อมความสามารถในการดึงภาพ 8.3 เมกะพิกเซล มาทำเป็นภาพนิ่ง
·        อัตราความเร็วของภาพสูงขึ้น โดยถ่ายวิดีโอ 2.7K ที่อัตรา 50fps และ 1080p ที่120fps
·        ภาพถ่ายขนาด 12 เมกะพิกเซล ที่มอบคุณภาพระดับปกนิตยสาร ในอัตรา 30 ภาพต่อวินาที (burst speed)
·        User interface ได้รับการปรับปรุงเพื่อการใช้งานและเข้าถึงฟังก์ชั่นการควบคุมกล้องได้ง่ายขึ้น
·        เชี่อมต่อ Wi-Fi เร็วขึ้น 50% พร้อม Bluetooth นอกจากนี้แอพ GoPro ยังได้รับการพัฒนามากขึ้น
จัดการพลังงานได้ดียิ่งขึ้น
·        จำหน่ายในราคา 18,500 บาท
“ปัญหาอีกอย่างคือการจะเลือกว่าจะถ่ายวิดีโอหรือภาพนิ่ง แต่ปัญหานี้จะหมดไปเพราะแต่ละเฟรมของวิดีโอระดับ 4K30
จะมีคุณภาพ
ใกล้เคียงกับภาพนิ่ง 8.3 เมกะพิกเซล นั่นหมายความว่า ขณะที่คุณถ่ายวิดีโอ 4K30 คุณก็จะได้ภาพนิ่งคุณภาพใกล้เคียงกับขนาด 8.3 เมกะพิกเซลไปด้วยในอัตรา 30 ภาพต่อวินาที” นายณัฐพลกล่าวเสริม
HERO4 Silverคุณภาพระดับมืออาชีพ สะดวกด้วยหน้าจอสัมผัส
HERO4 Silver สร้างปรากฏการณ์ความสะดวกและการใช้งานง่ายด้วยการเป็นกล้องโกโปรตัวแรกที่มีหน้าจอสัมผัสติดตั้งมาด้วย
·        หน้าจอ LCD ระบบสัมผัสติดตั้งมาด้วย ให้คุณควบคุมกล้องได้ง่ายขึ้น ถ่ายภาพและเล่นวิดีโอได้สะดวกขึ้น
·        ถ่ายภาพวิดีโอระดับมืออาชีพทั้งแบบ 2.7K30, 1080p60 และ 720p120
·        ถ่ายภาพขนาด 12 เมกะพิกเซลในอัตรา 30 ภาพต่อวินาที (burst shot)
·        เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้เร็วกว่าเดิม 50% พร้อม Bluetooth และแอพโกโปรที่ได้รับการปรับปรุง และการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น
·        จำหน่ายในราคา 14,800 บาท
HERO กล้องน้องเล็ก จิ๋วแต่แจ๋ว สำหรับผู้เริ่มเล่นโกโปร
โกโปรภูมิใจนำเสนอ HERO กล้องโกโปรสำหรับผู้เริ่มเล่น ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายพร้อมกล่องกันน้ำ (housing) สามารถถ่ายวิดีโอคุณภาพสูง 1080p ที่อัตรา 30 ภาพต่อวินาที และวิดีโอ 720p อัตราความเร็ว 60 ภาพต่อวินาที โดยสามารถเก็บภาพ
อันน่าตื่นตะลึงแบบเดียวกับหลายๆ ภาพถ่ายและวิดีโอที่ทำให้โกโปรเป็นกล้องที่ขายดีที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก บรรจุในกล่องเรียบง่าย ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาเพียง
4,999 บาท



ฟีเจอร์ใหม่ๆ เฉพาะ HERO4 Black และ Silver ช่วยขยายศักยภาพของ GoPro
·        ProtuneTM สำหรับภาพนิ่งและวิดีโอ
สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมการทำงานของโกโปรด้วยตัวเองเพื่อเพิ่มความหลากหลายและขยายศักยภาพ เราเพิ่มความสามารถให้ Protune เพื่อให้คุณควบคุมสี ความคมชัด ISO และการเปิดรับแสงทั้งภาพนิ่งและวิดีโอได้ด้วยตัวเอง
·        การตั้งค่าใหม่สำหรับการถ่ายภาพกลางคืน
ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพทางช้างเผือก หรือการแคมป์ไฟ เพียงแค่ใช้ฟังก์ชั่น Night Photo และ Night Lapse ก็จะได้ภาพนิ่งที่สวยงาม พร้อมความสามารถในการปรับแต่งการรับแสงได้สูงสุดถึง 30 วินาที
·        ระบุช่วงเวลาที่ดีที่สุด
ฟังก์ชั่น HiLight Tag ช่วยให้คุณระบุช่วงเวลาสำคัญบนวิดีโอด้วยการกดปุ่ม on-camera ขณะที่กำลังบันทึก เพิ่มความสะดวกโดยช่วยค้นหา เล่นวิดีโอ และแบ่งปัน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดผ่าน GoPro Studio หรือแอพ GoPro บนมือถือ รวมถึง Smart Remote ได้อีกด้วย
·        QuikCapture มอบความเร็วและความสะดวกในการถ่ายภาพ
QuikCapture ทำให้การเปิดกล้องและบันทึกภาพง่ายขึ้นด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว เริ่มต้นถ่ายวิดีโอง่ายๆ เพียงกดปุ่มครั้งเดียวขณะที่ใช้งานอยู่ หรือกดค้างเพื่อถ่าย Time Lapse
·        บันทึกเสียงได้ดียิ่งขึ้น
ระบบเสียงภายในได้รับการออกแบบใหม่โดยผนวกรวมไมโครโฟนที่ทันสมัยเพื่อเก็บเสียงได้ในคุณภาพสูงด้วย dynamic rangeมากขึ้นสองเท่าจากรุ่นก่อน
อุปกรณ์เสริมใหม่ ช่วยให้คุณบันทึกภาพและแบ่งปันได้สะดวก
·        Smart Remote รีโมตอัจฉริยะที่สามารถสั่งการกล้องโกโปรได้ไกลถึง 183 เมตร โดยสามารถสวมใส่และกันน้ำได้ สามารถทำเครื่องหมายช่วงเวลาสำคัญบนวิดีโอด้วยปุ่มHiLight Tag
·        The Handler มือจับขนาดเล็กลอยน้ำได้ น้ำหนักเบา ทนทาน
·        BacPac แบตเตอรี่สำรองที่มอบพลังให้กับกล้องมากเป็นสองเท่าของแบตเตอรี่ที่อยู่ในตัวกล้อง โดยเป็นหน้าจอ LCD ที่ฝังแบตสำรองไว้ มอบระบบสัมผัสที่ตอบสนองได้ดีขึ้น และประสิทธิภาพในการ swipe เมื่อใช้คู่กับ HERO4 Black
แอพ GoPro และ GoPro Studio
โกโปรปล่อยอัพเดตให้กับ GoPro Studio ซอฟท์แวร์ตัดต่อสำหรับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และแอพ GoPro สำหรับมือถือ
GoPro Studio ช่วยให้ง่ายต่อการนำวิดีโอจากกล้องโกโปรไปไว้บนคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างสรรค์วิดีโอคุณภาพสูง ฟีเจอร์ GoPro Edit Template ซึ่งเป็นเทมเพลตของวิดีโอโกโปรยอดนิยม เพียงแค่คลิกเพื่อทดแทนวิดีโอต้นฉบับด้วยวิดีโอของคุณ วิดีโอของคุณก็จะผ่านการตัดต่อในสไตล์เดียวกับที่วิดีโอที่ทำให้ GoPro มีชื่อเสียง GoPro Studio รองรับฟีเจอร์ HiLight Tag ระบุช่วงเวลาที่ดีที่สุดบนวิดีโอ ช่วยให้ตัดต่อได้ง่ายและเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมี Flux เครื่องมือในการสร้างภาพ slow motion และเร่งเวลา ทำให้สร้างเอ็ฟเฟ็ค time-shifting รวมทั้งสามารถกำหนดคลิปโปรดเพื่อแบ่งปันบนอินเตอร์เน็ตได้
ส่วนแอพ GoPro บนสมาร์ทโฟน ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณเข้าถึงช่อง GoPro Channel และเนื้อหาอันน่าตื่นเต้นอื่นๆ ซึ่งทำให้เป็นช่องรายการอันดับหนึ่งบน YouTube เท่านั้น แต่ยังให้คุณควบคุม HERO4 Black และ Silver พร้อมให้เปลี่ยนไปยังโหมดอื่นหรือการตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย แอพ GoPro รุ่นปรับปรุงใหม่ รองรับ HERO4 รองรับ HiLight Tagging ขณะบันทึกภาพ พร้อมค้นหา tag ระหว่างการฉายซ้ำ พร้อมมี shot preview เล่นวิดีโอ รวมถึงการแบ่งปันภาพและวิดีโอผ่านอีเมล์ ข้อความ Facebook Twitter และอีกมาก
เลือกเป็นเจ้าของกล้องโกโปรเพื่อปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์และความเป็นฮีโร่ในแบบของคุณได้แล้วที่ร้านตัวแทนจำหน่าย เช่น ร้านจำหน่ายกล้อง อุปกรณ์ไอที และกีฬาชั้นนำ ตรวจสอบได้ที่ http://gopro.mentagram.com/2013/gopro.com/dealer.php

สมาคมรถโบราณฯ จับมือ โรงแรมเชอราตัน หัวหิน จัด “หัวหิน วินเทจคาร์ พาเหรด ครั้งที่ 12” “ชื่นชะอำ ฉ่ำหัวหิน ความทรงจำไม่สิ้นสุด”


สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ร่วมกับ โรงแรม เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา เทศบาลเมืองชะอํา เทศบาลเมืองหัวหิน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัด หัวหิน วินเทจคาร์ พาเหรด ครั้งที่ 12” ภายใต้แนวคิด ชื่นชะอำ ฉ่ำหัวหิน ความทรงจำไม่สิ้นสุดใน วันที่ 12-14 ธันวาคมนี้
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กิจกรรม หัวหิน วินเทจคาร์ พาเหรด ครั้งนี้เป็นการฉลองครบรอบ 12 ปีของการจัดคาราวานรถโบราณเยือนเมืองหัวหิน เพื่อให้ประชาชนได้ชม และหวนรำลึกถึงบรรยากาศในอดีต รวมถึงเป็นการรส่งเสริมการท่องเที่ยวในอำเภอชะอำ และหัวหิน โดยปีนี้สมาคมฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรใหม่อย่าง โรงแรมในเครือเชอราตัน และได้รับการสนับสนุนจาก เทศบาลเมืองชะอำ เทศบาลเมืองหัวหิน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ชะอำ และ หัวหิน เป็นแหล่งท่องเที่ยว คู่แฝด ยอดนิยม ตั้งแต่อดีตจวบปัจจุบัน ได้ต้อนรับผู้คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า ทั้งที่มารำลึกความทรงจำครั้งเก่า และสร้างความทรงจำครั้งใหม่ ต่อเนื่องไปไม่รู้จบ ดังนั้น งานในปีนี้จึงจัดภายใต้แนวคิด ชื่นชะอำ ฉ่ำหัวหิน ความทรงจำ ไม่สิ้นสุด
คุณสิทธิรัตน์ ห่อทองคำ ผู้จัดการโรงแรม เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ผู้ร่วมจัดงาน     หัวหิน วินเทจคาร์ พาเหรด ครั้งที่12” เผยว่า “ทางรีสอร์ท ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติและความไว้ใจจากทางสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ให้ร่วมเป็นหนึ่งในงานวินเทจคาร์ พาเหรดครั้งที่ 12 นี้ ซึ่งงานหัวหินวินเทจคาร์ พาเหรด นี้มีชื่อเสียงมามากกว่าสิบปี และถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ชาวเมือง และนักท่องเที่ยวขาประจำตั้งตารอ ซึ่งทางเชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา และเชอราตันหัวหิน ปราณบุรีวิลล่า เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ทางรีสอร์ทมีศักยภาพ และความพร้อม ทั้งในด้านสถานที่ และทีมงานที่เป็นมืออาชีพ รวมถึงการได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดนี้คือส่วนสำคัญ ที่จะช่วยผลักดัน, สร้างสรรค์ และสร้างคุณค่าในเอกลักษณ์ของรถโบราณ ให้เป็นที่สนใจมากขึ้นในวงกว้าง
ทั้งนี้ทั้งนั้น เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปาพร้อมสร้างสมดุลสู่ความยั่งยืนทางการท่องเที่ยวในพื้นที่ของประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี  และด้วยศักยภาพของศูนย์ประชุมแห่งใหม่ เดอะ แชนเดอเลียร์ ที่จะมาช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ พร้อมผลักดันให้รถโบราณทุกคัน เปล่งประกายด้วยคุณค่า ในอีกมุมมองที่คุณอาจคาดไม่ถึง กับคอนเซปต์ The old world charm in a new luxury เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา เปิดประตูต้อนรับทุกท่านครับ
งาน หัวหิน วินเทจ คาร์ พาเหรด ครั้งที่ 12” จัดขึ้น ณ โรงแรม เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ประชาชนทั่วไปสามารถสัมผัสคาราวานรถโบราณที่เต็มไปด้วยความทรงจำไม่สิ้นสุดได้ตลอดเส้นทางกรุงเทพฯ ชะอำ หัวหิน ระหว่างวันที่ 12 - 14 ธันวาคมนี้
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved