Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

ชุดแต่ง Aerokit ใหม่ล่าสุดสำหรับปอร์เช่ 911 เทอร์โบ (911 Turbo) และ 911 เทอร์โบ เอส (911 Turbo S)




สตุ้ดการ์ท. ปอร์เช่ เอ็กซ์คลูซีฟ (Porsche Exclusive) นำเสนอชุดแต่ง Aerokit ใหม่ล่าสุดให้กับรุ่น 911 เทอร์โบ (911 Turbo) โดยแพ็คเกจชุดแต่งนี้จะมาพร้อมกับ แผงสปอยเลอร์หน้าที่โดดเด่น และท้ายรถด้านหลังที่ได้รับการออกแบบใหม่ที่มีทั้งปีกด้านข้างที่ไดรับการออกแบบให้มีมุมเฉพาะเพื่อช่วยในด้านอากาศพลศาสตร์ รวมถึงปีกหลังของรถที่ขยายและพับเก็บได้โดยจะทำการเปลี่ยนองศาไปตามลมที่ปะทะ ลิ้นสปอยเลอร์ด้านหน้าและด้านหลังจะเพิ่มความเป็นสปอร์ตให้กับ 911 เทอร์โบ (911 Turbo) ได้มากยิ่งขึ้น


นอกเหนือจากรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของรถแล้ว ปอร์เช่ยังได้เน้นการทำงานตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ โดยการทดสอบชุดแต่ง Aerokit Turbo อย่างหนักจากอุโมงค์ลมและการทดสอบการขับขี่บนสนามแข่งที่ศูนย์พัฒนา Porsche Development Centre ที่เมือง Weissach โดยมีจุดประสงค์หลักในการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่และเพิ่มแรงกดให้มากขึ้น ในขณะที่ยังคงค่าสัมประสิทธิเสียดทานไว้ได้อย่างดีเยี่ยมตามแบบฉบับของรถยนต์ปอร์เช่อีกด้วย  และยังเป็นการเน้นย้ำให้มั่นใจว่า Aerokit จะช่วยในการไหลผ่านของลมได้อย่างสมดุลที่สุด ส่งผลให้ 911 ประสิทธิภาพสูงคันนี้มีความสมดุลมากยิ่งขึ้น เช่น ชิ้นส่วนตามหลักอากาศพลศาสตร์ของชุดแต่ง "Aerokit Turbo" จะสร้างแรงกดทางด้านเพลาหน้าและเพลาหลังให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในความเร็วสูง โดยรวมแล้วแรงกดของ 911 เทอร์โบ (911 Turbo) ขณะความเร็วที่ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพิ่มขึ้นจาก 17 กิโลกรัม เป็น 26 กิโลกรัม เมื่อตั้งค่าที่ Speed และจาก 18 กิโลเมตร เป็น 150 กิโลกรัม เมื่ออยู่ในการตั้งค่าที่ Performance

ท่านสามารถเลือกสั่งชุดแต่ง "Aerokit Turbo" ได้ 2 รูปแบบ นั่นคือเลือกติดตั้งให้เป็นสีเดียวกับตัวรถหรือเลือกเป็นสีดำแบบพ่นเงา และยังทำการพ่นสีสเกิร์ตด้านข้างและแผงด้านหลังที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถด้วย หากตัวรถเป็นสีดำแผ่นครีบช่องดักอากาศบนฝาท้ายได้รับการออกแบบเป็นสีดำเพื่อความเหมาะสมกับปีกหลังที่จะขยายออกมาด้วยเช่นกัน

ชุดแต่ง Aerokit สำหรับ 911 เทอร์โบ (911 Turbo) และ 911 เทอร์โบ เอส (911 Turbo S) สามารถเลือกสั่งได้ผ่านทาง Porsche Exclusive หรือสามารถติดตั้งที่หลังได้โดยผ่านโปรแกรมชุดแต่ง Porsche Tequipment
ปอร์เช่ 911 เทอร์โบ (911 Turbo) และ 911 เทอร์โบ เอส (911 Turbo S): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบในเมืองอยู่ที่ 13.2 ลิตร/100 กิโลเมตร (7.57 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบนอกเมืองอยู่ที่ 7.7 ลิตร/100 กิโลเมตร (13 กิโลเมตร/ลิตร) แบบเฉลี่ยอยู่ที่ 9.7 ลิตร/100 กิโลเมตร (10.30 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซ (CO2 ) อยู่ที่ 227 กรัม/กิโลเมตร


ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรง พร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award และ The Highest Score of Porsche Service Support Mission 2014 จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง(Zertifizierter Porsche
Techniker – Gold Expert
) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่านตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า  เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณหรือ AAS Looking after YOU and your CAR” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th

เบนท์ลี่ย์ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดจาก WIRED MAGAZINE



 (เมือง Crewe,) เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล GT3-R (Bentley Continental GT3-R) สมาชิกครอบครัวคอนติเนนทัล (Continental) แกรนด์ ทัวเร่อร์ (Grand tourer) ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นรถที่มีความคล่องตัวที่สุด ชนะการโหวตจากนิตยสาร Wired magazine ฉบับพิเศษประจำปี

วารสารฉบับพิเศษนี้มีทั้งหมด 15 หน้าและจัดทำขึ้นทุกๆ เดือนธันวาคมเพื่อทำการสรรหาที่สุดของการออกแบบ (Design), เสียง และ ภาพ (Vision & Sound), การขับขี่ (Rides), สปอร์ต และ สันทนาการ (Sport & Leisure), นาฬิกา (Watches) และสิ่งเหล่านี้จะกลายมาเป็นรายการ      Wired list ของสินค้าที่ได้รับการจัดอันดับว่าดีที่สุดระหว่างปีอีกด้วย

Jeremy White Product Editor กล่าวไว้ว่า เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที3อาร์                  (Bentley Continental GT3-R) ได้ถูกจัดไว้ในกลุ่ม Rides เพราะพวกเราคิดว่าสิ่งนี้คือผลงานนวัตกรรมชั้นเยี่ยมและหรูหราอย่างแท้จริง ได้รับแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์การแข่งขันที่ประสบความสำเร็จของแบรนด์ ผสมผสานเข้ากับชิ้นส่วนต่างๆ ที่ทันสมัย เสริมทัพด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ ทำให้กลายมาเป็นรถสปอร์ตที่โดดเด่นเช่นนี้

เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที3อาร์ (Bentley Continental GT3-R) เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Goodwood Festival of Speed ซึ่งเป็นรถที่มีอัตราเร่งที่เร็วที่สุดที่เบนท์ลี่ย์เคยมีมา ได้รับแรงบันดาลใจจากการชนะการแข่งขันเบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที3 (Continental GT3) มาพร้อมกับเครื่องยนต์รถแข่งขนาด 4.0 ลิตร V8 ให้พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดที่ 580 PS แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 700 นิวตันเมตร ลดลงมาได้อีก 100 กิโลกรัม และยังสามารถปรับเปลี่ยนระบบส่งกำลังให้มีการเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น

เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที3 (Bentley Continental GT3-R) มีจำนวนการผลิตเพียง 300 คัน สร้างขึ้นจากงานฝีมือที่เมือง Crewe จากนั้นจะเสร็จสิ้นกระบวนการผลิตที่แผนกมอเตอร์สปอร์ตของเบนท์ลี่ย์

เดือนกุมภาพันธ์ 2015 เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที3อาร์ (Bentley Continental GT3-R) จะไปขับขี่อยู่บนถนนน้ำแข็งที่ประเทศฟินแลนด์ในงาน Power on Ice เพื่อเพิ่มประสบการณ์เหนือระดับอย่างหาใครเปรียบเทียบไม่ได้ และแนวคิดของการขับขี่ที่เต็มพิกัดบนทางน้ำแข็ง ทำการขับขี่โดย     Juha Kankkunen แชมป์รายการ World Rally Champion ถึง 4 สมัยซ้อนเลยทีเดียว

ข้อความจากผู้เขียน
    สำนักงานใหญ่ของเบนท์ลี่ย์ตั้งอยู่ที่เมือง Crewe โดยเป็นที่ตั้งของทีมออกแบบ ทีมวิจัยและพัฒนา ทีมวิศวกรและเป็นสถานที่ใช้ในการผลิตรถทั้ง 3รุ่นของเบนท์ลี่ย์นั่นคือ คอนติเนนทัล ฟลายอิ้งสเปอร์ และมูซาน การใช้งานหัตถกรรมชั้นเยี่ยมเข้ามาผสมผสานนั้นได้ถูกถ่ายทอดเข้าสู่รุ่นต่อรุ่น พร้อมด้วยความเชี่ยวชาญทางทักษะของวิศวกรและเทคโนโลยีชั้นนำคือความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่หรูหราอย่างเบนท์ลี่ย์ และเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการที่เป็นโรงงานผลิตรถยนต์คุณภาพสูงของอังกฤษ ซึ่งมีพนักงานถึง 3,700 ที่เมือง Crewe เลยทีเดียว
สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาหรือสอบถามเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ได้จาก บริษัท            เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษโดยตรง คอยให้บริการรถยนต์เบนท์ลี่ย์ของท่าน  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ได้ที่แผนกขายโทร. 02-261-1050-1 หรือ 02-610-9911-3และท่านสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่  www.thailand.bentleymotors.com

ทีเอสแอล เปิดเกมรุก ปีมะแม นำเข้าโฉมใหม่ล่าสุดของเวลไฟร์ และ อัลพาร์ด พร้อมรับประกัน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร เป็นรายแรกในตลาดผู้นำเข้าอิสระ




“ทีเอสแอล“ ประเดิมปี 2015 นำเข้ายนตรกรรม 2 รุ่น โตโยต้า เวลไฟร์ และ อัลพาร์ด โฉมใหม่ล่าสุดทั้งเบนซินและไฮบริด พร้อมรับประกันเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร เป็นรายแรกในวงการผู้นำเข้าอิสระที่ออกโรงการันตีลูกค้า เริ่มดีเดย์ 13 กุมภาพันธ์ นี้ เปิดจองพร้อมกัน 4 สาขา ทั่วประเทศ แจ้งวัฒนะ สาทร ทองหล่อ และภูเก็ต ราคาเริ่มต้นที่ 2.99 ล้านบาท ทั้งเวลไฟร์และอัลพาร์ด

นางสาวสุรีย์ภรณ์  อุดมผลวณิช  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายยนตรกรรมชั้นนำจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า “ในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ ได้นำเข้ารถรุ่นใหม่ล่าสุดปี 2015 มาจำหน่ายเพิ่มขึ้น 2 รุ่น คือ โตโยต้า นิว อัลพาร์ด (TOYOTA New Alphard) และ โตโยต้า นิว เวลไฟร์ (TOYOTA New Vellfire) ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร 182 แรงม้า และไฮบริด ขนาด 2.5 ลิตร จำนวน 152 แรงม้า พร้อมการรับประกันทั้งเครื่องยนต์และแบตเตอรี่เป็นเวลานานถึง 5 ปี หรือระยะทาง 100,000 กิโลเมตร ซึ่งลูกค้าสามารถใช้รถได้อย่างไม่ต้องกังวลในเรื่องของการดูแลรักษาระหว่างการใช้งาน และเรามั่นใจว่าทีเอสแอลเป็นรายแรกและรายเดียวในตลาดผู้นำเข้าอิสระที่กล้ารับประกันอย่างนี้ให้กับลูกค้า

สำหรับจุดเด่นของรถทั้ง 2 รุ่นนี้ นอกจากการรับประกันเครื่องยนต์และแบตเตอรี่แล้ว ส่วนของรูปร่างภายนอกจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น กระจังหน้าจะนูนออกมาดูทันสมัยมากขึ้น ส่วนของเครื่องยนต์จะเป็นระบบ Start & Stop System คือเครื่องยนต์จะดับเมื่อรถจอดสนิทหยุดนิ่งเช่นรถจอดติดไฟแดงหรือหยุดจอดทำธุระ ในขณะที่ระบบแอร์ก็ยังจะปล่อยลมเย็นออกมาและเครื่องยนต์จะสตาร์ทติดอีกทีเมื่อผู้ขับขี่เหยียบคันเร่ง เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้วระบบแอร์ก็จะทำความเย็นโดยอัตโนมัติ ซึ่งระบบดังกล่าวนี้เป็นระบบที่ล้ำสมัยและจะเป็นการช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

“จุดเด่นอีกอย่างคือระบบ Smart Entry หรือ Welcome Power Slide Door & Lock คือเมื่อผู้โดยสารต้องการเข้าไปในรถ และเข้าไปใกล้ในระยะสัญญาณระหว่างกุญแจกับตัวรถผู้โดยสารกดปุ่มประตูสไลด์ที่กุญแจ ประตูก็จะเปิดโดยอัตโนมัติ และเมื่อต้องการจะออกจากรถเพียงแค่นำมือไปแตะที่เปิด-ปิดประตูเท่านั้นก็สามารถเปิดได้”


โดยจะเริ่มเปิดตัวให้ลูกค้าได้ยลโฉมและจับจองเป็นเจ้าของก่อนใครดีเดย์ตั้งแต่วันนี้ (11 กุมภาพันธ์ 2558) เป็นต้นไป หรือพบกันที่บู๊ธทีเอสแอล ณ เซ็นทรัล พระราม 9 ตั้งแต่วันที่ 11-18 กุมภาพันธ์  เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ระหว่างวันที่ 16-22 กุมภาพันธ์ และ เซ็นทรัลเวิร์ล ระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ถึง 1 มีนาคม 2558 หรือทั้ง 4 สาขาของทีเอสแอล คือ แจ้งวัฒนะ สาทร ทองหล่อ และภูเก็ต

“บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์อิสระรายใหญ่รายหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะรถอัลพาร์ด ได้เริ่มนำเข้ามาจำหน่ายตั้งแต่ปี 2002 2008 ซึ่งถือเป็นยุคเจนเนอเรชั่นที่ 1 ของอัลพาร์ด พอมาถึงยุคเจนเนอเรชั่นที่ 2 ช่วงปี 2008 – 2015 ทีเอสแอลเป็นผู้นำเข้าอิสระรายแรกที่นำเข้ารถอัลพาร์ด เครื่องยนต์ไฮบริด เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย พร้อมกับการพัฒนาศูนย์บริการเพื่อรองรับการดูแลเครื่องยนต์ไฮบริดเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าผู้มีอุปการะคุณมากขึ้น และล่าสุด อัลพาร์ด โฉมใหม่ปี 2015 นี้ ถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 และจากประสบการณ์ที่สะสมมาเป็นเครื่องยืนยันได้ถึงความสามารถในการรองรับการบริการหลังการขายให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นางสาวสุรีย์ภรณ์กล่าวเสริมในตอนท้าย

มาสด้าพุ่งเป้าสร้างแบรนด์หนึ่งเดียวที่ลูกค้ารัก ลุยกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตเดย์มอบความสุขให้กับลูกค้ามาสด้าทุกรุ่น


กรุงเทพฯ – ประเทศไทย – 11 กุมภาพันธ์ 2558 – มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรมครั้งแรกและครั้งยิ่งใหญ่ในงาน “Mazda Motorsport Day” กับปรากฏการณ์การรวมตัวของคนที่มีจิตวิญญาณของนักแข่ง โดยรวมลูกค้าผู้ใช้รถยนต์มาสด้ากว่า 300 ราย เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นระหว่างมาสด้ากับลูกค้า และระหว่างลูกค้าด้วยกัน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับแบรนด์ ตอกย้ำการเป็นแบรนด์รถยนต์หนึ่งเดียวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ได้รับความรักและการยอมรับจากลูกค้าที่มีความหลงใหลและมีความศรัทธา ถึงแม้ว่ามาสด้าจะไม่ใช่แบรนด์ยักษ์ใหญ่ แต่จะเป็นแบรนด์ที่เป็นหนึ่ง (One) และหนึ่งเดียว (Only) ที่ลูกค้าชื่นชอบด้วยเอกลักษณ์ของมาสด้าในสไตล์ ซูม-ซูม
มาสด้าถือเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่สร้างความแตกต่างไม่เหมือนใคร DEFY CONVENTION กล้า...ที่จะแตกต่าง เพราะทุกก้าวคือการพัฒนา พร้อมฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มากมายในอดีตจนถึงทุกวันนี้ และนี่คือแนวทางการทำงานและมุ่งสู่ชัยชนะอันเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า ขณะที่ผู้อื่นจะมองสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าดีอยู่แล้วคือมาตรฐานและควรปฏิบัติตามต่อไป แต่สำหรับมาสด้ากลับมองว่านี่คือความท้าทายเพื่อให้เกิดการพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดียิ่งขึ้นเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ แนวคิดและมุมมองในการทำงานเหล่านี้ทำให้เราสามารถบรรลุถึงการปฏิวัติการพัฒนางานวิศวกรรมที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน นั่นคือ Spirit ซึ่งสามารถสัมผัสได้ในรถยนต์มาสด้าทุกๆ คัน ที่มาสด้ามีความภาคภูมิใจและจะยืนหยัดในหลักการและแนวทางนี้ตลอดไป
นายพาสกาล เศรษฐบุตร รองประธาน ฝ่ายขายและบริหารความพึงพอใจลูกค้า บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ในการกิจกรรมเพื่อลูกค้าในครั้งนี้  กล่าวว่า มาสด้าให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดกิจกรรม มาสด้า มอเตอร์ สปอร์ต   สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พัทยา  เพื่อให้ลูกค้ามาสด้าได้มีโอกาสได้สัมผัสกับประสบการณ์สุด Exclusive ที่มาสด้ามอบให้ สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับจากลูกค้ามาสด้าเป็นอย่างดี   และมาสด้ายังคงส่งมอบบริการที่ดีให้ลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจ (Customer Satisfaction) และก่อให้เกิดสัมพันธภาพอันเหนียวแน่นกับลูกค้า (Customer Relationship)เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึ่งพอใจสูงสุด ตลอดจนการสร้างฐานให้ลูกค้ามีความสัมพันธ์ในระยะยาว และก่อให้เกิดความจงรักภักดีกับตราสินค้าหรือบริการของเราตลอดไป (Customer Loyalty)ดังนั้นการเอาใจใส่ดูแลลูกค้าคือสิ่งที่มาสด้ายึดมั่นมาโดยตลอด
มาสด้ายังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และจะก้าวสู่ความเป็นเลิศด้านการบริการหลังการขาย โดยนัดรวมพลลูกค้ามาสด้า ที่มีหัวใจสปอร์ตสไตล์ ซูม-ซูม กว่า 300 ราย ประกอบด้วย ลูกค้ารถสปอร์ตโรดสเตอร์มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 ลูกค้ารถสปอร์ตอเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ลูกค้ารถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 ลูกค้ารถยนต์นั่งซับคอมแพ็คมาสด้า2 รวมทั้งลูกค้ารถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร เข้าร่วมกิจกรรมสุด Exclusive กับงาน “Mazda Motorsport Day”โดยมีวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรมกับทางมาสด้าได้สัมผัสกับช่วงเวลาพิเศษ ได้เรียนรู้เทคนิคการขับขี่ชั้นสูงในสนามแข่งจากนักแข่งมืออาชีพจากทีม มาสด้า มอเตอร์ สปอร์ต ซึ่งนำทีมโดยดารานักแข่งรถชื่อดัง พีท ทองเจือ และแชมป์ประเทศไทย นายไมเคิล ฟรีแมน รวมทั้งนักแข่งสาวน้อยน้องใหม่ที่เพิ่งก้าวขึ้นมาร่วมทีมนักแข่งในปีนี้ น้องพลอย ธัชพรรณ วิจิตรานนท์
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้มาสด้าเตรียมกิจกรรมความสนุกสนานต่างๆ ไว้มากมาย อาทิ การให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของมาสด้าตั้งแต่อดีตจนถึงอนาคต พร้อมทั้งการเสริมความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี สกายแอคทีฟ โดยเฉพาะเครื่องยนต์คลีนดีเซล สกายแอคทีฟ-ดี รวมทั้งเทคโนโลยีอื่นๆ ของมาสด้าอย่างครบครัน พร้อมกันนี้ลูกค้ายังได้สัมผัสสมรรถนะในการขับขี่กับรถมาสด้า2 สกายแอคทีฟ “Clean Diesel” รวมทั้งได้ทดลองสมรรถนะของรถมาสด้า BT-50 PRO และ CX-5 กับประสบการณ์การขับขี่บนเส้นทางออฟโรด นอกจากนี้ลูกค้ามาสด้ายังได้ความรู้ต่างๆ มากมายเกี่ยวกับการตกแต่งรถยนต์รวมทั้งเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญกับการแต่งรถจากทีมINNOVATION Motorsport ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ รวมทั้งทีมนี้ยังทำการแต่งรถให้กับรถแข่ง ของมาสด้า พร้อมการสาธิต เทคนิคต่างๆ มากมาย  รวมถึงลูกค้าที่มาร่วมงานยังได้สัมผัสประสบการณ์สุดมันส์บนสนามแข่งจริง พร้อมเทคนิคคำแนะนำจากนักแข่งมืออาชีพอย่างใกล้ชิดติดขอบสนามกันเลยทีเดียว
ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ลูกค้ายังได้ลุ้นเป็นผู้โชคดี ในช่วงท้ายของกิจกรรมที่จะได้สัมผัสใกล้ชิด กับนักแข่งมืออาชีพ กับรถมาสด้า  สปอร์ตสุดเร้าใจ แบบ Exclusive ในช่วง Hot lap กับ Mazda RX-7 Drag & Racing, Mazda 2 Racing, All New Mazda3 SKYACTIV,  All New Mazda2 SKYACTIV ใหม่ และสุดท้ายเป็นการโชว์สุดมันส์ จาก Mazda RX-8 Racing สำหรับกิจกรรมต่างๆ ของมาสด้าลูกค้าสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเว็บไซน์ของมาสด้า www.mazda.co.thและทาง Facebook Mazda official ของมาสด้า https://www.facebook.com/MazdaThailandOfficial

สนับสนุนนักเตะ “ศุลกากรยูไนเต็ด”



พิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ ค่ายรถยนต์โฟตอน-คัมมินส์ ผู้ประกอบและจัดจำหน่ายรถยนต์โฟตอน-คัมมินส์(ที่ จากซ้าย) ร่วมถ่ายภาพในฐานะผู้ให้การสนับสนุนอย่างเป็นทางการ ในงานเปิดตัวนักเตะสโมสรฟุตบอลศุลกากร ทีมศุลกากรยูไนเต็ด”(CUSTOMS UNITED) ในการแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค (ลีกดิวิชั่น 2) ประจำปี 2015 โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร และประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ทีมฟุตบอลศุลกากรยูไนเต็ด (ที่ จากซ้าย) เป็นประธานเปิดงาน ณ บริเวณห้องโถงอาคาร กรมศุลกากร

“อินเดียน-วิคตอรี่” สยายปีกรุกตลาดบิ๊กไบค์ไฮเอนท์ภูธรรองรับเปิด (AEC) ประเดิมเปิดดีลเลอร์รายแรกเมืองโคราชก่อนขยายเครือข่ายครบ 4 ภูมิภาค


         
อินเดียน-วิคตอรี่ เปิดเกมรุกบุกขยายตลาดบิ๊กไบค์ระดับไฮเอนท์นอกกรุงฯ ประเดิมเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการ“Indian & Victory Motorcycle of Nakhon Ratchasima” ที่นครราชสีมา ดีลเลอร์รายแรกในแดนสยาม เพื่อรองรับความต้องการผู้รักการขับขี่ระดับพรีเมี่ยมและการเติบโตของตลาด เผยเล็งผุดเพิ่มอีก แห่งในอนาคตอันใกล้ ทั้งภาคเหนือและภาคใต้ เพื่อสร้างเครือข่ายการให้บริการที่ครอบคลุมทั่วไทย ทุกศูนย์ต้องบริการภายใต้มาตรฐาน 6Sเพื่อความพึงพอใจสูงสุดของผู้รักการขับขี่ และเตรียมพร้อมการเปิดรับ (AEC)
          นายณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเดียน-วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถบิ๊กไบค์ไฮเอนท์ ทั้งรถบิ๊กไบค์คลาสสิคระดับตำนาน Indian และรถบิ๊กไบค์สมรรถนะสูง Victory แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยถึงการเปิดตัวดีลเลอร์รายแรกว่า อินเดียนแอนด์วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล ออฟ นครราชสีมา (Indian & Victory Motorcycle of Nakhon Ratchasima) ครบครันเพียบพร้อมการบริการด้านโชว์รูมและศูนย์บริการ ที่สมบูรณ์แบบมาตรฐานเดียวกับสหรัฐอเมริกาเป็นแห่งที่สองในเมืองไทยต่อจากโชว์รูมและศูนย์บริการ ซอยพัฒนาการ 76 (สำนักงานใหญ่ในประเทศไทย)และเป็นแห่งแรกที่ดำเนินการโดยความร่วมมือระหว่างบริษัท และผู้แทนจำหน่าย ภายใต้การบริหารของ นายวีรศักดิ์ อนุสรสนธิวงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท การาจไบค์แอนด์เซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูงในจังหวัดนครราชสีมาและพื้นที่ใกล้เคียง
          ผมมีโอกาสพบปะนักธุรกิจหลายท่าน ที่มีแนวทางการทำธุรกิจที่น่าสนใจ มีเงินลงทุนสูง แสดงความสนใจ แต่เราไม่ได้พิจารณาในมิติเดียว เพราะหัวใจหลักการทำธุรกิจนี้คือ ต้องรักการขับขี่จริงๆ พร้อมที่จะทุ่มเทเพื่อคนที่มีจุดหมายปลายทางเดียวกัน เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดด้วยใจให้เพื่อนที่มีรสนิยมเดียวกันอย่างผูกพันกันไปตลอด ดังนั้นคนรักการขับขี่เหมือนกันจะเข้าใจกัน ทั้งหมดนี้ คุณจิระเดช” มีคุณสมบัติครบถ้วน ส่วนการเลือกเปิดดีลเลอร์ที่นครราชสีมาแห่งนี้ เพราะที่นี่เป็นจุดยุทธศาสตร์เป็นเมืองหน้าด่านประตูสู่อีสาน ประกอบกับภาครัฐมีแผนจะสร้างมอเตอร์เวย์จากกรุงเทพฯ เข้าสู่โคราช หากนับร่วมถึงการเปิด (AEC) จังหวัดนครราชสีมาจะเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่จะกระจายปัจจัยต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การคมนาคมเกษตรกรรม การท่องเที่ยวสู่พื้นที่อื่นๆ  ทั่วประเทศและเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งลาวเวียดนามกัมพูชา และจีน นอกจากนี้ คุณวีรศักดิ์” ยังมีศักยภาพในพื้นที่ใกล้เคียงได้อีก เพื่อต่อยอดการเติบโตกับเราอย่างยั่งยืน
อินเดียน แอนด์ วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล ออฟ นครราชสีมา นับเป็น “The destination for riders” หรือจุดหมายปลายทางของผู้รักการขับขี่แบบครบวงจรเช่นเดียวกับที่สาขาแรกในกรุงเทพฯ (ซอยพัฒนาการ 76) พร้อมทั้งวางจำหน่ายรถบิ๊กไบค์ระดับไฮเอนท์ครบทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรถบิ๊กไบค์คลาสสิคระดับตำนาน Indian ครบทุกรุ่นรวมถึงรุ่นใหม่ล่าสุดปี 2015 ซึ่งนำมาแนะนำพร้อมกับการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ ตลอดจนถึงรถบิ๊กไบค์สมรรถนะสูง Victory หลากหลายรุ่น
นายวีรศักดิ์ อนุสรสนธิวงษ์ กล่าวย้ำว่า บริษัทได้วางกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ 360 องศา เช่น กิจกรรมโรดโชว์ตามงานBike Week ที่จัดขึ้นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์และเปิดบริการภายใต้มาตรฐานเดียวกับINDIAN MOTORCYCLE สหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย Sales : จำหน่ายรถที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาที่ถูกต้องตามกฎหมายService : ซ่อมบำรุงด้วยเครื่องมือทันสมัยพร้อมทีมช่างที่ผ่านการอบรมมาจาก INDIAN MOTORCYCLE สหรัฐอเมริกา Spare Parts : จัดหาและสต็อกอะไหล่แท้ Second Hand : เป็นสื่อกลางซื้อขายแลกเปลี่ยน Safety Riding : จัดฝึกอบรมการขับขี่รถบิ๊กไบค์อย่างถูกวิธีและปลอดภัย และ Society : เป็นศูนย์กลางจัดกิจกรรมสันทนาการพบปะสังสรรค์ เพื่อชาวไบค์เกอร์ INDIAN MOTORCYCLE และ VICTORY ทุกคน
          นายวีรศักดิ์ อนุสรสนธิวงษ์ ในฐานะผู้บริหารดีลเลอร์รายแรกของเมืองไทย กล่าวว่า ได้ใช้เงินลงทุนกว่า 25 ล้านบาท (ไม่รวมมูลค่าที่ดิน) โชว์รูมและศูนย์บริการแห่งนี้ มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันกว่า 270 ตารางเมตร  ตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาล ป.แพทย์ ถนนมหาดไทย ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
          “ผมตั้งใจจะเปิดศูนย์ซ่อมบำรุงรถบิ๊กไบค์อยู่แล้ว ประกอบกับเป็นคนรักการขับขี่และหลงใหลในความเป็น Indian ครั้นได้รับความไว้วางใจจากบริษัทแม่ในประเทศไทย ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ทำในสิ่งที่รัก การเปิดตลาดที่นครราชสีมาครั้งนี้ จะกลายเป็นทางเลือกใหม่ของนักขับขี่ ไม่ใช่มีอยู่ไม่กี่แบรนด์ให้เลือกขับขี่ และเราจะทำตลาดโดยมุ่งเน้นความรู้สึกและมิตรภาพบนรถสองล้อที่ไม่จำกัดเรื่องของแบรนด์ ที่นี่จะกลายเป็นจุดพักรถตรวจเช็กรถ และเติมพลังให้กับเพื่อนนักขับขี่ทุกคน ไม่ว่าจะขับขี่มาท่องเที่ยวที่เขาใหญ่หรือตามแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด หรือจะเดินทางไปยังจุดอื่นๆ ทั้งในภาคอีสานและประเทศเพื่อนบ้าน ในอนาคตผมมีแนวคิดจะขยายสาขาไปในพื้นที่ใกล้เคียง โดยกำลังศึกษาความเป็นไปได้ทั้งทิศทางและโอกาสทางการตลาด” นายวีรศักดิ์ อนุสรสนธิวงษ์ กล่าวและเปิดเผยต่อไปว่า
ตั้งเป้าจำหน่ายรถภายในปีนี้ที่ 20 คัน ทั้ง Victory และ Indian เบื้องต้นจะเร่งสร้างความเข้าใจให้กับผู้ใช้รถในพื้นที่ ซึ่งมีทัศนคติว่า การนำรถเข้ามารับบริการที่ศูนย์ฯ เสียค่าใช้จ่ายแพง แต่ข้อเท็จจริงคือ จ่ายใกล้เคียงกัน แต่ที่สำคัญกว่าคือ เมื่อนำรถเข้ารับบริการภายในศูนย์ฯ ลูกค้าจะได้อะไรที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มค่า ความมั่นใจ และมาตรฐานทางเทคโนโลยีจากอเมริกา ด้วยเครื่องมือทันสมัย ทีมช่างที่มีทักษะสูง คาดว่าจะมีผู้ใช้รถเข้ามารับบริการเดือนละ 30 คัน
          นายณัฐพล ไตรณัฐี กล่าวสรุปในท้ายสุดถึงการก่อตั้ง “อินเดียน แอนด์ วิคตอรี่ มอเตอร์ไซค์เคิล นครราชสีมา” ในครั้งนี้ว่า เกิดจากวิสัยทัศน์ร่วมในการพัฒนาธุรกิจรถบิ๊กไบค์แบบครบวงจรให้เกิดขึ้นในเมืองไทย เชื่อมั่นว่าโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานแห่งนี้จะตอบสนองความต้องการ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้รักการขับขี่รถบิ๊กไบค์ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก คุณจิระเดช” มีคุณสมบัติพิเศษตรงตามแนวทางของบริษัท ซึ่งหลังจากนี้มีแผนที่จะขยายการให้บริการไปทั่วประเทศ โดยจะทยอยเปิดเพิ่มอีก 2-3 แห่ง ตามหัวเมืองใหญ่ทางภาคเหนือและภาคใต้ ภายในปี 2559”
          “อินเดียนแอนด์วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล ออฟ นครราชสีมา” (Indian & Victory Motorcycle of Nakhon Ratchasima) ครบครันเพียบพร้อมการบริการด้านโชว์รูมและบริการ ที่สมบูรณ์แบบมาตรฐานเดียวกับสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่เลขที่ 246 ถนนมหาดไทย ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โทร.0-4425-3610-1 Fax 0-4425-3612 เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 น.- 19:00 น.

สายการผลิตรถยนต์ Honda Civic และ CR-V ของโรงประกอบ ที่ Swindon, UK

การผลิตรถยนต์ Honda Civic ของสายการผลิตของโรงานประกอบของบริษัท Honda Car ที่ประเทศ สวีเดน



การผลิตและประกอบรถยนต์ Honda ที่โรงงานประกอบบริษัท Honda Car ที่ประเทศ อินเดีย



เผยแล้ว…แนวคิดงาน “Motor Expo2015” “มาตรฐานใหม่ ยานยนต์ไทยใส่ใจโลก”




สื่อสากล แถลงแนวคิดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32” มุ่งส่งเสริมมาตรฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้พัฒนาไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมยานยนต์โลก พร้อมสนับสนุน การผลิต ยานยนต์ที่สะอาด ประหยัด และปลอดภัย เพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างภาษีใหม่
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือThe 32nd Thailand International Motor Expo 2015 เปิดเผยว่า “ด้วยเหตุที่ยานยนต์เป็นตัวการสำคัญในการปล่อย “แกสเรือนกระจก” ออกสู่บรรยากาศ ซึ่งก่อให้เกิดวิกฤตโลกร้อน บรรดาผู้ผลิตจึงพยายามพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสรรค์ยานยนต์ที่สะอาด และประหยัดพลังงาน รวมถึงแสวงหาพลังงานทดแทนที่ปราศจากมลพิษ เช่น พลังงานไฟฟ้า และไฮโดรเจน เป็นต้น”

              ด้วยเหตุที่ยานยนต์ เป็นตัวการสำคัญในการปล่อย “แกสเรือนกระจก” ออกสู่บรรยากาศ ซึ่งก่อให้เกิดวิกฤตโลกร้อน การกำหนดมาตรฐานการปล่อยมลพิษในต่างประเทศ จึงมีความเข้มงวดขึ้นเป็นลำดับ เช่น ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2558 รถยนต์ที่จำหน่ายในยุโรปทุกคันจะต้องผ่านมาตรฐานยูโร 6 ซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่การลดปริมาณไนตรัสออกไซด์ หนึ่งในแกสเรือนกระจก ที่ส่วนใหญ่จะปล่อยออกมาจากเครื่องยนต์ดีเซล
              สำหรับในประเทศไทย เป็นที่น่ายินดีว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนด “แผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ พศ. 2555-2559”  โดยมีเป้าหมายสำคัญ อยู่ที่การพัฒนายานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน มีกระบวนการผลิตที่สะอาด มีมาตรฐานมลพิษ และความปลอดภัยระดับสูงอันนำไปสู่การกำหนด “มาตรฐานใหม่” ของยานยนต์ไทยที่แสดงความเอาใจใส่ต่อสภาพแวดล้อมของโลก อย่างเห็นได้ชัด
              โดยในอนาคต กรมควบคุมมลพิษ วางแผนจะบังคับใช้มาตรฐานไอเสียระดับยูโร 6 กับรถยนต์ใหม่ตั้งแต่ปี 2563 ส่วนรถจักรยานยนต์ ต้องผ่านมาตรฐานยูโร 5 ขณะที่มาตรฐานของน้ำมันเชื้อเพลิงก็ต้องสอดคล้องกัน โดยจะลดกำมะถันเหลือเพียง 10 พีพีเอม หรือลดลงถึง 5 เท่าจากปัจจุบัน
              โครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะ 2 หรือ “อีโคคาร์ 2” ก็ต้องผ่านมาตรฐานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่สูงขึ้นเช่นกัน ได้แก่ มาตรฐานมลพิษ ยูโร 5 และอัตราการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร
              ยิ่งกว่านั้น ผู้ผลิตยังต้องยกระดับมาตรฐานการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ในรถยนต์นั่งและรถกระบะ  เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์โครงสร้างใหม่ ที่กำหนดบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป
              ทั้งนี้เนื่องจาก โครงสร้างภาษีใหม่จะพิจารณาจัดเก็บจากอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ของรถยนต์ แทนการจัดเก็บตามปริมาณความจุกระบอกสูบ โดยรถยนต์ที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อย จะเสียภาษีต่ำกว่ารถยนต์ที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มาก
              ตัวอย่างเช่น รถยนต์นั่งขนาดต่ำกว่า 3,000 ซีซี หากปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่า 150 กรัมต่อกิโลเมตร จะเสียภาษีร้อยละ 30 แต่ถ้าปล่อยมากกว่านั้นจะต้องเสียภาษีร้อยละ 35 ถึงร้อยละ 40
              ส่วน อีโคคาร์ ถ้าปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่า 100 กรัมต่อกิโลเมตร เสียภาษีเพียงร้อยละ 14 เกินกว่านั้นเสียร้อยละ 17
              ดังนั้น เพื่อสนับสนุนให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยพัฒนาไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมยานยนต์โลก พร้อมสร้างสรรค์ยานยนต์ยุคใหม่ที่สะอาด ประหยัด และปลอดภัย เราจึงจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32” ขึ้นภายใต้แนวคิด “มาตรฐานใหม่ ยานยนต์ไทยใส่ใจโลก” หรือ “NEW STANDARDS … THAI VEHICLES CARE ABOUT THE EARTH
              พบกับงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32” ได้ ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved