Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

ปอร์เช่ โร้ดสเตอร์ (Roadster) ใหม่ล่าสุด



เปิดตัว บ็อกซเตอร์ สไปเดอร์ (Boxster Spyder) อย่างเป็นทางการ ณ มหกรรมยานยนต์
New York International Auto Show 2015

สตุ๊ดการ์ท. ปอร์เช่เปิดตัวบ็อกซเตอร์ สไปเดอร์ (Boxster Spyder) อย่างเป็นทางการเพื่อเฉลิมฉลองการเริ่มต้นของรถเปิดประทุนในปี 2015 ณ มหกรรมยานยนต์ New York International Auto Show โดยรถเปิดประทุน 2 ที่นั่งรุ่นใหม่ล่าสุดคันนี้ยังคงเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครไว้ได้อย่างโดดเด่น เช่นการใช้หลังคาผ้าใบที่เปิดปิดด้วยมือ และมีเพียงระบบเกียร์ธรรมดาเท่านั้นที่สามารถติดตั้งกับรถคันนี้ได้

ด้วยการที่เป็นโร้ดสเตอร์ (Roadster) อย่างแท้จริงทำให้ บ็อกซเตอร์ สไปเดอร์ (Boxster Spyder) ส่งผ่านประสบการณ์การขับขี่แบบรถสปอร์ตพร้อมด้วยสมรรถนะและประสิทธิภาพของรถที่ทันสมัยให้ผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มที่ ด้วยระบบช่วงล่างแบบสปอร์ตมีความแข็งแกร่งสูงและสามารถลดระดับความสูงได้ถึง 20 มิลลิเมตร ระบบเบรกนำมาจากรุ่น
911 คาร์เรร่า (911 Carrera) ที่ให้ความแม่นยำต่อการตอบสนองมากขึ้น เครื่องยนต์ขนาด 3.8 ลิตร 6 สูบ มาพร้อมกับพละกำลังสูงสุดที่ 375 แรงม้า (276 กิโลวัตต์) ซึ่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะได้รับประสบการณ์ความเป็นรถสปอร์อย่างแท้จริง รวมถึงความคล่องตัวในการขับขี่ของบ็อกซเตอร์ (Boxster) ที่มีน้ำหนักเบาแต่ให้ประสิทธิภาพได้อย่างยอดเยี่ยม โดยอัตราเร่งของ บ็อกซเตอร์ สไปเดอร์ (Boxster Spyder) จาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในเวลาเพียง 4.5 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 290 กิโลเมตร/ชั่วโมง และอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงตามวงจรการขับขี่แบบ NEDC ต่ำเพียง 9.9 ลิตร/100 กิโลเมตร (10.10 กิโลเมตร/ลิตร) เท่านั้น

การออกแบบที่โดดเด่นของ บ็อกซเตอร์ สไปเดอร์ (Boxster Spyder) ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตำนานของรถสปอร์ตและรถแข่งจากปอร์เช่เช่นรุ่น 718 สไปเดอร์ (718 Spyder) ในช่วงทศวรรษ 1960 โดยนำรูปแบบมาใช้ในการสรรสร้างชิ้นส่วนฝากระโปรงทางด้านหลัง และพนักพิงศรีษะแบบ 2 ชิ้น ส่วนการทำงานของหลังคาสามารถเปิดปิดบางส่วนด้วยมือ การใช้ชิ้นส่วนด้านบนที่มีน้ำหนักเบาทำให้เหมาะสมกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังเป็นการระลึกถึงโร้ดสเตอร์ (Roadster) ในวันวานอีกด้วย แน่นอนการออกแบบครีบตัวรถที่ยาวถึงด้านหลังได้กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ บ็อกซเตอร์ สไปเดอร์ (Boxter Spyder) ไปแล้ว ส่วนทางด้านหน้าและด้านหลังรถได้นำการออกแบบของเคย์แมน GT4 (Cayman GT4) มาเสริมความโดดเด่นให้มากขึ้น

ภายในห้องโดยสารของ บ็อกซเตอร์ สไปเดอร์ (Boxster Spyder) สามารถสัมผัสถึงความสุนทรีย์ในการขับขี่ซึ่งมากกว่ารุ่นบ็อกซเตอร์ (Boxster) อื่นๆ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะนั่งอยู่บนเบาะ Bucket seats ที่มีน้ำหนักเบาและมาพร้อมกับเบาะหนุนด้านข้างขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น ในขณะที่พวงมาลัยโฉมใหม่ด้วยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 360 มิลลิเมตร ช่วยให้โร้ดสเตอร์ (Roadster) เครื่องยนต์วางกลางคันนี้สามารถขับขี่ได้แม่นยำและมั่นคงมากยิ่งขึ้น

เพื่อให้สอดคล้องกับการออกแบบที่พิถีพิถัน จึงทำให้วิทยุและระบบเครื่องปรับอากาศไม่ได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อเป็นการลดน้ำหนักของรถ อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ระบบสามารถสั่งติดตั้งเป็นอุปกรณ์เสริมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และหากต้องการติดตั้งระบบเครื่องเสียงหรือระบบให้ความบันเทิงอื่นๆ ให้กับบ็อกซเตอร์ (Boxster) ท่านสามารถเลือกติดตั้งได้เช่นกันโดยมีค่าใช้จ่าย เช่นระบบ Porsche Communication Management (PCM) เป็นต้น

บ็อกซเตอร์ สไปเดอร์ (Boxster Spyder): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงในเมือง 14.2 ลิตร/100 กิโลเมตร;
(7.04 กิโลเมตร/ลิตร) นอกเมือง 7.5 ลิตร/100 กิโลเมตร; (13.33 กิโลเมตร/ลิตร) แบบเฉลี่ย 9.9 ลิตร/100 กิโลเมตร; (10.10 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 230 กรัม/กิโลเมตร;

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรง พร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award และ The Highest Score of Porsche Service Support Mission 2014 จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง(Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่านตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า  “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th

สไปเดอร์ ออโต้ อิมพอร์ท เผยแผนการตลาด 2558 งัดหมัดเด็ดตีตลาด Grey market อันดับ 1 ของเมืองไทย



กรุงเทพมหานคร, 8 เมษายน 2558: สไปเดอร์ ออโต้ อิมพอร์ท ศูนย์รวมยนตรกรรมรถนำเข้าจากยุโรป ที่มีความทันสมัยแบบครบวงจร  แถลงถึงแผนการตลาดปี 2558 งัดหมัดเด็ดปีนี้รุกหนักตลาดรถนำเข้าอิสระ(Grey market) วิเคราะห์ภาพรวมของตลาด รวมถึงเปิดเผยโปรโมชั่นเด็ดสุดคุ้ม 2 โปรโมชั่นต้อนรับซัมเมอร์อยู่ในขณะนี้
นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์กรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สไปเดอร์ ออโต้ อิมพอร์ท  จำกัด เปิดเผยว่า ทางโชว์รูมของเรามีรถนำเข้าหลายรุ่น อาทิ porsche , Mercedes-Benz, BMW, AUDI, Toyota  โดยเราเริ่มทำจากการทำเล็กๆ สั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 5 ปี ซึ่งตอนนี้ถือว่ามีความพร้อมแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นบุคคลากรเฉพาะทางชำนาญนับสิบปี,ความพร้อมของสถานที่ Facilities, เครื่องมืออุปกรณ์ครบครัน ทันสมัย โดยเฉพาะเครื่องมือ Software Piwis IIที่วิเคราะห์ความผิดพลาดของระบบเครื่องยนต์ Porsche อันนี้เป็นจุดขายของเรา,มีบริการครบวงจร ,ดีลกับบริษัทประกันภัยชั้นนำ,ราคาสมเหตุสมผล รวมถึงอะไหล่แท้ ที่ได้มารวดเร็ว เพราะเราสั่งตรงนำเข้าจากต่างประเทศ สำหรับแผนการตลาดทางเรามีการระดมความคิดทุกวัน วางแผนออกกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อรับมือคู่แข่ง และกับสภาพตลาดที่ผันผวนตลอด อาจจะต้องมีการคาดคะเนล่วงหน้า โดยใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมา เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด และปีนี้จะมีรถรุ่นใหม่ๆออกมาเยอะ เราหวังบุกตลาดหนักในปีนี้ จุดขายเราจะเน้นที่โปรโมชั่นจะมีแคมเปญใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ ตอนนี้มีโปรโมชั่นเด็ด 2 โปรโมชั่น โดยโปรโมชั่นแรกเมื่อออกรถ Porsche ให้วารันตี 9 ปี/100,000 .. และโปรโมชั่นต่อมาเมื่อออกรถโตโยต้า Vellfire, Alphard, Harrier ให้วารันตี  5 ปี/100,000 .. ซึ่งโปรโมชั่นนี้น่าจะถูกใจลูกค้าอย่างมาก ส่วนภาพรวมของวงการตลาดนำเข้าอิสระ(Grey market)ในตอนนี้มีการหดตัวมากกว่า 2-3 ปีก่อน กว่า 50% แต่ก็แลกมากับการแข่งขันที่ลดลง ซึ่งหากจะมองว่าดีก็ดี เป็นตัวคัดกรองและตอกย้ำว่าผู้ประกอบการตัวจริงเท่านั้นที่จะอยู่รอดในตลาดนี้ได้ เรื่องมูลค่าธุรกิจตอนนี้เราใช้เงินหมุนเวียนประมาณ 200 ล้านบาท งบการตลาดอยู่ที่ 4-5 ล้านบาท เน้นรถนำเข้ายุโรป 70% รถญี่ปุ่น 30% รายได้รวมแบ่งเป็น ยูนีควัน (เลือกสเปคตามที่ลูกค้าต้องการ) 40% ,รถในสต็อคมีสินค้าเลย 40%,ศูนย์เซอร์วิสซ่อมบริการหลังการขาย 20%  ฐานลูกค้าอยู่ที่ 1,500 ราย ช่วงต้นปีที่ผ่านมาอยู่ในช่วงขาขึ้น ค่อยๆ ดีขึ้นไม่ได้แบบก้าวกระโดด แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจประเทศโดยรวมเป็นหลักนายจักรกฤติ กล่าวทิ้งท้าย

สแกนเนีย สยาม เปิดบ้านต้อนรับคณะทำงาน บริษัท ขนส่ง จำกัด และ บริษัท บัส คาร์เร้นท์ กรุ๊ป จำกัด เข้าเยี่ยมชมศูนย์บริการฯ สำนักงานใหญ่





นายบันเทิง เจาะปาด ผู้จัดการฝ่ายเทคนิค  บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัดเป็นตัวแทนต้อนรับคณะทำงานหน่วยงานซ่อมบำรุงและตรวจสภาพรถ (รังสิต) บริษัท ขนส่ง จำกัด และ บริษัท บัส คาร์เร้นท์ กรุ๊ป จำกัดเพื่อให้ความรู้ด้านนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเครื่องยนต์ ระบบความปลอดภัย การประหยัดพลังงาน และนำชมความพร้อมในการให้บริการดูแลและซ่อมบำรุงรถบัสโดยสารและรถบรรทุกณ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้


“Rabbit Auto Craft” เหยียบคันเร่งเจาะเทรนโลก นำเข้าเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเจ้าแรกในประเทศไทย





“แรบบิท ออโต้ คราฟท์” ทุ่มงบกว่า 7 หลัก ทำฝันคนรุ่นใหม่รักสิ่งแวดล้อมให้เป็นจริง นำเข้ารถยนต์ไฮบริดคลาสหรูและเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจากยุโรป ช่วยลดมลพิษทางถนนและประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง สะท้อนถึงการพัฒนาอย่างล้ำหน้าของโชว์รูมรถนำเข้า และสุดยอดรถสปอร์ต ตั้งเป้าติดเครื่องชาร์จตามสถานที่สำคัญให้คนไทยได้เป็นผู้นำการใช้รถยนต์ไฟฟ้า-ไฮบริดระดับ AEC พร้อมฉลองครบรอบ 3 ปี จัดงาน ” The First, The Fastest, The Smartest Electric Cars and Charger” พร้อมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Porsche Panamera S E-hybrid 2015, Porsche Cayenne S E-hybrid 2015, BMW i8, BMW i3 อัดโปรโมชั่นรับสิทธิพิเศษมากถึง 3 ต่อ มูลค่ากว่า 1,000,000 บาท ฟรีประกัน    2 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ต่อที่ 1 : ลดราคารถยนต์สูงสุด 800,000 บาท ต่อที่ 2 : ฟรี เครื่องชาร์จไฟฟ้า KEBA จากยุโรป คุณภาพระดับโลก มูลค่า 100,000 บาท ต่อที่ 3 : ลุ้นไปเที่ยวเยอรมัน เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Porsche มูลค่า 100,000 บาท ตั้งเป้าจำหน่ายเครื่องชาร์ตไฟฟ้า 100 เครื่องต่อปี

นายกล้ายุทธ จินตนะกุล หนึ่งในคณะกรรมการผู้จัดการบริษัท แรบบิท ออโต้ คราฟท์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันอัตราการใช้พลังงานของคนไทยนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ทรัพยากรธรรมชาติมีปริมาณลดลง และผลจากการใช้พลังงานบางส่วนยังก่อให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ขณะนี้การพัฒนาของเทคโนโลยีด้านการใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถใช้งานได้อย่างแพร่หลายและขณะนี้เป็นไปได้จริงแล้ว ไม่ใช่ภาพที่ฝันไว้อีกต่อไป ที่ผ่านมาผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะต้องไปชาร์จไฟที่ปั้มเติมพลังงานไฟฟ้าที่มีไม่มากในประเทศเท่านั้น แรบบิท ออโต้ คราฟท์ จึงนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงและมีคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายทั่วโลก และได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท เคบ้า (Keba) ในการนำเข้าเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศออสเตรีย ตรงตามมาตรฐาน IEC 62196 มีคุณภาพสูงและอายุการใช้ยาวถึง 25 ปี ทำให้คนไทยได้มีทางเลือกในใช้รถยนต์ไฟฟ้าทัดเทียมมาตรฐานโลก สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เองที่บ้านหรือที่ทำงาน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดมลพิษทางอากาศอย่างยาวนาน
เครื่องใช้รถยนต์ไฟฟ้ามีระบบ m10 ในการอัพเดทข้อมูลการชาร์จรถและเพื่อการพัฒนาเมืองขนาดใหญ่ เช่น การสร้างเครือข่ายรถไฟฟ้า และยังมีระบบข้อมูลในหัวชาร์จรถเพื่อที่จะปล่อยกระแสไฟฟ้าให้เหมาะสมกับรถแต่รถรุ่น มีหลายแบบให้เลือกสรร เช่น ชนิดเล็ก 10 amp ใช้สำหรับชาร์จข้ามคืน ใช้เวลาชาร์จประมาณ 8ชม. ราคาเริ่มต้น 59,000 บาท ขนาดกลาง 32 amp ใช้เวลาในการชาร์จ 1-2 ชม. ราคาเริ่มต้น 79,000 บาท สามารถติดตั้งในที่ทำงาน ร้านกาแฟ  และที่จอดรถตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ มีความมสะดวกในการชาร์จมาก  และขนาดใหญ่ 400 ampใช้เวลาชาร์จ 15-20 นาที เหมาะกับการตั้งเป็นสเตชั่นหรือปั้มรถยนต์ไฟฟ้า ราคาเริ่มต้น 1 ล้านบาท

นอกจากนี้ Rabbit Auto Craft ยังได้ฉลองครบรอบ 3 ปี” จึงได้จัดงาน The First, The Fastest, The Smartest Electric Cars and Chargerพร้อมโปรโมชั่นรับสิทธิพิเศษมากถึง 3 ต่อ มูลค่ากว่า 1,000,000 บาท ฟรีประกัน 2 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ต่อที่ 1 : ลดราคารถยนต์สูงสุด 800,000 บาท ต่อที่ 2 : ฟรี เครื่องชาร์จไฟฟ้า KEBA จากยุโรป คุณภาพระดับโลก มูลค่า 100,000 บาท ต่อที่ 3 : ลุ้นไปเที่ยวเยอรมัน เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Porsche มูลค่า 100,000 บาท

ที่จริงแล้วการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่ยอมรับและใช้อย่างแพร่หลายในระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นประเทศในทวีปยุโรป ประเทศญี่ปุ่น และสหัรัฐอเมริกา แรบบิทมีเป้าหมายจะติดตั้งเครื่องนี้ที่ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สถานที่ราชการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าและตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ในอนาคต เป็นที่แน่ชัดว่าระบบไฟฟ้าจะเข้ามาแทนระบบน้ำมันจึงอยากเชิญชวนให้คนไทยเห็นความสำคัญและพิจารณาการใช้รถยนต์ทางเลือกเพื่อความเป็นอยู่ทีดีของคนไทย นายกล้ายุทธ กล่าว

รุ่นรถยนต์ที่สามารถใช้เครื่องชาร์จไฟฟ้าได้ขณะนี้เช่น Chevrolet Volt, Ford Focus electric, Mia electric, Mitsubishi i-MiEV, Nissan Leaf, Toyota Prius Plug-in Hybrid, Volvo C30 electric drive, BMW i3, Mercedes SLS AMG ED, Porsche Panamera S E-Hybrid,Porsche Cayenne S E-Hybrid,Tesla Model S, Volkswagen e-Up และ Volvo V60 Plug-in Hybrid

ปัจจุบัน ประเทศไทยยังถือเป็นจุดเริ่มต้น ปีนี้เองที่เริ่มมีการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ในต่างประเทศได้หันมาให้ความสนใจในการขายรถยนต์ประเภทนี้เป็นอย่างมาก ทำให้เราเชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว เฉกเช่นในประเทศอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และทวีปยุโรป ซึ่งมีการใช้รถประเภทนี้อย่างแพร่หลายในทุกวันนี้ โดยในปี 2557 ที่ผ่านมา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 69% หรือกว่า 300,000คัน ในประเทศจีนมีตัวเลขการใช้รถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 120% หรือกว่า 100,000 คัน รองลงมาคือประเทศญี่ปุ่นมียอดเติบโตมากถึง 45% หรือกว่า 110,000 คัน และมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน แรบบิท ออโต้ คราฟท์ มองว่าคนไทยควรได้มีโอกาสใช้เทคโนโลยีระดับโลกเช่นกัน
นายกล้ายุทธ กล่าวต่อไปว่า Rabbit Auto Craft คือผู้นำเข้ารถยนต์อิสระพร้อมศูนย์บริการมาตรฐานที่ถูกต้องตามกฎหมายรถยนต์ทุกคันได้รับการจดทะเบียนที่ถูกต้อง จุดมุ่งหมายคือการเป็นโชว์รูมที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยการคัดสรรยานยนต์ระดับโลกที่เป็นที่นิยมทุกยี่ห้อ รวมถึงการรับสั่งรถยนต์ที่มีออพชั่นพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าได้ขับขี่ยานพาหนะคู่ใจอย่างโดดเด่นและแตกต่างในสไตล์ของตนเอง มากไปกว่านั้น Rabbit Auto Craft มีศูนย์บริการครบวงจรและมีมาตรฐาน ดำเนินการโดยผู้บริหารและทีมช่างที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี พร้อมทั้งอุปกรณ์และเครื่องมือพิเศษต่างๆใน การตรวจเช็คสำหรับรถยนต์ทุกรุ่น รวมถึงการตรวจเช็ครถยนต์ตามระยะหรือการซ่อมแซม อีกทั้งอะไหล่ทุกชิ้นที่ใช้กับรถของลูกค้าคืออะไหล่แท้และสั่งจากต่างประเทศทั้งหมด ปัจจุบัน Rabbit มียอดขายสำหรับรถซูเปอร์คาร์ประมาณ 200 คัน และตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าโดยตั้งเป้าไว้สำหรับปีหน้าประมาณ 200 คัน รวมแล้วประมาณ 400 คันต่อปี และตั้งเป้ายอดขายเครื่องชาร์ตไฟฟ้าในปีแรกไว้ประมาณ 100 เครื่อง

นอกจากนี้ เรามุ่งเน้นการบริการหลังการขายแบบ exclusive ผ่านเลขาส่วนตัว ตลอด 24 ชั่วโมงที่จะคอยดูแลให้ท่านใช้รถยนต์คันโปรดได้อย่างสบายใจไร้กังวล ตัวอย่างการบริการเลขาส่วนตัวเช่น เมื่อรถท่านเกิดอุบัติเหตุ ส่วนมากมักเป็นเรื่องระหว่างลูกค้ากับประกันภัยเท่านั้น แต่ที่แรบบิท ออโต้ คราฟท์ เลขาส่วนตัวจะเป็นผู้ช่วยติดต่อประสานงานตั้งแต่ต้นจนจบ เพียงแค่ท่านยกสายหาเลขาส่วนตัว ปัญหาทุกอย่างก็จะถูกคลี่คลายอย่างรวดเร็ว

สนใจสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์ชาร์จได้ที่ บริษัท แรบบิท ออโต้ คราฟท์ จำกัด เบอร์ 089-425-2222 หรือ 092-259-8998

เอ.พี.ฮอนด้าคว้ารางวัลสุดยอดองค์กรแห่งปี Thailand Top Company Awards 2015


นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เป็นตัวแทนรับมอบรางวัล Thailand Top Company Awards 2015 ในฐานะองค์กรธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมในอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรีให้เกียรติเป็นผู้มอบรางวัล ณ ห้องเบญจสิริบอลรูม โรงแรมแมริออท สุขุมวิท กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆนี้
สำหรับรางวัล Thailand Top Company Awards ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี 2013 โดยความร่วมมือระหว่างนิตยสาร Business+ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพื่อเป็นรางวัลอันทรงเกียรติมอบให้แก่องค์กรธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมในแต่ละอุตสาหกรรม ทั้งด้านความสามารถในการแข่งขัน การบริหารจัดการที่โดดเด่น รวมถึงจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ ผ่านกระบวนการพิจารณาตัดสินอย่างรอบคอบและเป็นธรรม เพื่อให้เป็นองค์กรตัวอย่างสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของเศรษฐกิจไทยในภาพรวม
ทั้งนี้ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ถือเป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ที่ได้รับรางวัลนี้

The 36th Bangkok International Motor Show สร้างเงินสะพัดกว่า 4 หมื่นล้านบาท ยอดจอง 37,027 คัน ผู้เข้าชม 1.7 ล้านคน


กรุงเทพฯ - บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36” ประกาศความสำเร็จอย่างสวยหรู สร้างเงินสะพัดกว่า หมื่นล้านบาท จากยอดจองรถยนต์ 37,027 คัน ด้วยเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ทั้งในด้านมูลค่ารวม หรือเทียบมูลค่าต่อหน่วย มีผู้ชมงานกว่า 1.7 ล้านคน ปลุกอุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยไม่มีแรงกระตุ้นจากนโยบายรถคันแรก หรือการเปิดตัว อีโคคาร์รุ่นใหม่ๆ เหมือนในช่วงเกือบ ปีที่ผ่านมา นับเป็นความสำเร็จตลอดการจัดงานทั้ง 12 วัน
ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานจัดงานฯเผยว่า “งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 จัดขึ้นระหว่าง 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี เป็นความสำเร็จของคนไทยทุกๆ คน ภายในงานมีการจัดแสดงพร้อมจำหน่ายรถยนต์หรือจักรยานยนต์หลายรุ่น ครบทุกเซ็กเมนต์ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เข้าชมงานได้ครอบคลุม”
“มีการจัดแสดงนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยในคอนเซ็ปต์คาร์ หรือได้รับการติดตั้งในรถรุ่นใหม่พร้อมจำหน่าย ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทำให้ในปีนี้มีผู้เข้าชมงานจำนวนสูงถึง 1.7 ล้านคน นับเป็นตัวเลขใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา จึงเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่า  งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ คืองานแสดงยานยนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ ของไทย และกลายเป็นไอคอนของอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับโลก”
ทางด้าน นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ กรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะรองประธานจัดงานฯ เปิดเผยถึงภาพรวมในปีนี้ว่า “งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 มีการเปิดตัวรถยนต์ใหม่หลายรุ่น รวมไปถึงการจัดแสดงนวัตกรรมยานยนต์ที่ทันสมัย มีผู้สนใจเข้าชมตลอดการจัดงาน 12 วัน รวมมากกว่า 1.7 ล้านคน โดยส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน และให้ความสนใจรถยนต์ในระดับราคา 7 แสนบาทขึ้นไป ขณะที่รถยนต์ในกลุ่มราคา 2 ล้านบาท ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน”
“สำหรับการจัดงานในปีนี้ มียอดจองรถยนต์รวม 37,027 คัน หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยยอดจองรถยนต์ใกล้เคียงกับจำนวนที่ทางผู้จัดได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า แต่ด้วยมูลค่ารวมที่เกิดจากการจองรถเพียงอย่างเดียว มียอดทะลุถึง หมื่นล้านบาท นับเป็นจำนวนที่เกินความคาดหมาย และมีมูลค่าสูงเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้พอสมควร”
“จากการพิจารณาและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับ ปัจจัยบางส่วนมีสาเหตุมาจากบริษัทรถยนต์ยังไม่มีการเปิดตัว “อีโคคาร์ เฟส 2” ในช่วงนี้ เพราะหลายค่ายต่างรอข้อสรุปที่ชัดเจน ทำให้อีโคคาร์ราคาประมาณ 3-4 แสนบาท ไม่เกิดยอดจำหน่ายขึ้น ผู้บริโภคจึงหันมาให้ความสนใจกับรถยนต์รุ่นที่จำหน่ายราคาตั้งแต่ แสนบาทขึ้นไป รวมไปถึงในรุ่นที่มีระดับราคาประมาณ 2 ล้านบาท ต่างมียอดจำหน่ายมากขึ้น เมื่อนับเฉพาะแค่ยอดจองรถเพียงอย่างเดียว มีมูลค่าเงินสะพัดกว่า หมื่นล้านบาท นับเป็นความสำเร็จในเชิงมูลค่า ไม่ใช่เชิงปริมาณเหมือนในช่วง ปีที่ผ่านมา”
นายจาตุรนต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความสำเร็จจากการจัดงานในปีนี้ ผมขอขอบคุณคนไทยทุกๆ คน ที่ให้การสนับสนุนงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ด้วยดีเสมอมา และขอขอบคุณบริษัทรถยนต์ ผู้บริหาร พนักงาน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุ่มเทให้กับการทำงานมาโดยตลอด ทุกคนเป็นส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของเราในครั้งนี้”
สำหรับรถยนต์แบรนด์หลักในตลาด มียอดจองเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้านกลุ่ม “ลักชัวรี่คาร์” มียอดจองเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ในส่วนค่ายรถพรีเมียมแบรนด์ “โรลส์-รอยซ์” หรือกลุ่มซูเปอร์คาร์ เช่น แอสตัน มาร์ติน, เบนท์ลีย์ และลัมบอร์กินี มีผู้บริโภคให้ความสนใจ พร้อมสั่งจองในงานเป็นจำนวนมากเช่นกัน
สรุปยอดจองรถยนต์ตลอดการจัดงานทั้ง 12 วัน มีจำนวนทั้งหมด 37,027 คัน โดยค่ายที่ครองแชมป์ยอดจองสูงสุด คือ โตโยต้า มียอดจอง 6,144 คันฮอนด้า 5,069 คัน,มาสด้า 4,584 คัน, อีซูซุ 4,485 คัน และนิสสัน 4,042 คัน
ด้านค่ายจักรยานยนต์ มียอดจองรวมทั้งหมด 1,898 คัน (ไม่นับเคทีเอ็ม) หรือคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท โดยค่ายคาวาซากิ มียอดจอง 370 คัน, ยามาฮ่า มียอดจอง 333 คัน และฮอนด้า มียอดจอง 306 คัน
ภายหลังเสร็จสิ้นการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ค่าย “กรังด์ปรีซ์กรุ๊ป” ยังมีอีก โปรเจ็กต์ใหญ่รออยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง สำหรับ “มหกรรมยานยนต์นำเข้าและรถมือสอง ครั้งที่ 7” (The 7th Bangkok Imported car & Used car Show) ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมที่กำลังจะถึงนี้

มาสด้าเดินหน้าพัฒนาคุณภาพเซอร์วิส ช่างเทคนิคไทยผงาดคว้าแชมป์เอเชีย



กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 7 เมษายน 2558 บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมยกระดับคุณภาพของการบริการหลังการขาย เพื่อก้าวขึ้นไปครองอันดับหนึ่งด้านความพึงพอใจสูงสุดจากลูกค้า พร้อมส่งช่างเทคนิคจากศูนย์บริการมาสด้าในประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ความเป็นสุดยอดของช่างบริการมาสด้าประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ในรายการ MAZTECH Mazda Technician Contest 2015 ครั้งที่ 3 โดยมีตัวแทนช่างเทคนิคที่ชนะเลิศในแต่ละประเทศเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ทั้งหมด 8 ทีม จากมาสด้าในกลุ่มประเทศในโซนเอเชียและโอเชียเนีย ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่สองในประเทศไทย
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการบริการหลังการขายเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดเกินความคาดหมายของลูกค้า โดยจัดให้มีการฝึกอบรมช่างเทคนิคมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาทักษะให้เกิดความเชี่ยวชาญในด้านการบริการ สำหรับการแข่งขันทักษะช่างเทคนิครายการ MAZTECH Mazda Technician Contest Asia & Oceania 2015 ในครั้งนี้ เป็นการแข่งขันฝีมือช่างเทคนิคของมาสด้าในทวีปเอเชียรวมถึงประเทศใกล้เคียง ซึ่งจัดขึ้นมาเป็นครั้งที่ 3 การจัดแข่งขันในครั้งนี้จัดขึ้นในประเทศไทย โดยใช้พื้นที่ของศูนย์ฝึกอบรมมาสด้า หรือ Mazda Thailand Training Center ซึ่งนับเป็นความภูมใจของคนไทยอีกครั้งที่ Mazda Motor Corporationประเทศญี่ปุ่น ได้เลือกประเทศไทยเพื่อจัดการแข่งขันลักษณะนี้ขึ้นเป็นครั้งที่สอง และถือว่าการแข่งขันครั้งนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพและมาตรฐานฝีมือช่างเทคนิคของมาสด้าทุกคนให้เกิดความมุ่งมั่นและใส่ใจในการให้บริการลูกค้าเพิ่มสูงขึ้น
มาสด้าประสบผลสำเร็จในระดับโลกนั้น ไม่ใช่เพียงแค่การผลิตรถยนต์ออกมาภายใต้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยเท่านั้น หากแต่มาสด้ายังได้ผนวกเอาสุดยอดแห่ง เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ที่ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน รวมทั้งรูปลักษณ์การออกแบบภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ Soul of Motion หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันงดงาม ที่ทำให้รถยนต์มาสด้าทุกคันมีเอกลักษณ์เฉพาะ ให้ความสนุกสนานและตืนเต้นเร้าใจในการขับขี่ แต่สิ่งที่สำคัญสูงสุดของมาสด้า คือ การเอาใจใส่ดูแลลูกค้าเสมือนหนึ่งในครอบครัว เพื่อรักษาความพึงพอใจและสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า สำหรับประเทศไทยนั้นการสร้างยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นต้องอาศัยระยะเวลา อาศัยความผูกพันเป็นเวลานาน ในการให้บริการกับลูกค้าของแต่ละโชว์รูมต้องกระตุ้นให้มีการบริการที่ยอดเยี่ยม ฉะนั้นมาสด้าจึงต้องมีการปรับปรุงความรู้ความสามารถต่างๆ เพิ่มทักษะของบุคลากรในศูนย์บริการให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น ความชำนาญและความเชี่ยวชาญนั้นต้องมีการพัฒนาทุกวัน ยุทธศาสตร์สำคัญที่มาสด้าตั้งใจไว้ นั่นก็คือต้องการพัฒนาเรื่องทีมช่าง  การให้บริการหลังการขายสู่ความเป็นเลิศ สามารถตอบสนองเกินความคาดหวังของลูกค้าอย่างเต็มที่ เราต้องการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี การแก้ไขปัญหาในทุกๆด้านด้วยความพร้อมของทักษะที่ดี การสร้างมาตรฐานการบริการที่ดีในทุกๆศูนย์บริการมาสด้าคือเป้าหมายที่สำคัญเพราะมาสด้ามุ่งมั่นมอบสิ่งดีๆ ให้กับลูกค้าทุกๆ วัน มร.ฮิเดสึเกะ กล่าวเสริม
สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ต้องการหาผู้ชนะเลิศ 3 ทีม เพื่อเข้าไปแข่งขันช่างเทคนิคในระดับโลกที่ญี่ปุ่น ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้นั้นมีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 8 ทีม จากทั้งหมด 8 ประเทศ โดยแต่ละทีมมีอยู่ 3 ท่าน ประกอบด้วยผู้ประสานงาน 1 ท่าน และช่างเทคนิคที่เข้าแข่งขันอีก 2 ท่าน การแข่งขันแบ่งออกเป็น 4 สถานีย่อยแต่ละสถานีก็วางปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งคาดว่าการแข่งขันในครั้งนี้เป็นการแข่งขันที่สนุกสนานและเข้มข้นมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาว่าใครคือผู้ชนะนั้นไม่สำคัญเท่ากับการตั้งใจให้บริการกับลูกค้าในตลาดของมาสด้าให้ดีที่สุด
สำหรับช่างเทคนิคที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้มีทั้งหมด 8 ประเทศ ประกอบไปด้วย  ทีมแรก คือ เจ้าภาพจากประเทศไทย ถัดมาเป็นทีมจากประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม ออสเตรเลีย และจากประเทศจีนอีก 2 ทีม สำหรับทีมมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ที่ส่งเข้าแข่งขันในครั้งนี้มากจากผู้ชนะเลิศจากการแข่งขันที่มาสด้าได้จัดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาจากการจัดการแข่งขันช่างเทคนิคที่เข้าร่วมงานจากทั่วประเทศ ประกอบด้วย อาจารย์ธนาสิทธิ์ สิทธิ์ฤทธิ์ ผู้ประสานงาน กับผู้เข้าแข่งขัน 2 คน คือ นายสุริยงค์ พุ่มศิริ จากศูนย์บริการมาสด้า โชคชัย (1991) สวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย และนายกฤษณะ กนกวัฒนะพันธ์ จากศูนย์บริการ มาสด้าบิซ มอเตอร์ส สาขาสุขุมวิท 65 กรุงเทพมหานคร
สรุปผลการแข่งขัน “MAZTECH Mazda Technician Contest Asia & Oceania 2015”   ทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศมาครองในครั้งนี้ ได้แก่ทีมจากประเทศไทย รองชนะเลิศตกเป็นของทีมจากประเทศออสเตรเลีย โดยทั้ง 2 ทีมนี้ จะได้เข้าร่วมงานฉลองความสำเร็จพร้อมกับผู้แทนจากแต่ละภูมิภาค ในงาน “MAZTECH World Final” ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนกรกฎาคม 2558 ซึ่งถือเป็นการชุมนุมใหญ่ด้านช่างเทคนิคของโลก

มูลนิธิสันติภาพนานาชาติ วางใจเลือก “VW Caravelle”


เมื่อเร็วๆ นี้ ศาสตร์จารย์บรู๊ซ เอ. บอทเลอร์ : Prof.Bruce A.Beutler (คนซ้ายมือ)  ผู้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาแพทย์ ปี 2011 และดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์พันธุศาสตร์ ศูนย์การแพทย์เท็กซัสตะวันตกเฉียงใต้  ในรัฐดัสลัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แสดงปาฐกถา เรื่อง “การต่อสู้กับโรคติดเชื้อของคนทั่วโลก” ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริ อันเป็นหนึ่งในกิจกรรมของโครงการ “สานสัมพันธ์สู่สันติวัฒนธรรม ครั้งที่ 5 ประจำภูมิภาคอาเซียน” The 5th ASEAN event series “Bridges - Dialogues Towards a Culture of Peace”)  ที่จัดขึ้นโดยมูลนิธิสันติภาพนานาชาติ (The International Peace Foundation) และมอบความไว้วางใจในการเลือกรถยนต์  โฟล์คสวาเกน รุ่นเดอะ นิว คาราเวล จาก บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ในเครือ “กลุ่มไทยยานยนตร์” เป็นยานพาหนะสำหรับการเดินทางในกิจกรรมครั้งนี้

ค่าย “เด็กปั้น: ปันความสุข ปลูกความรู้ สู่อนาคตยั่งยืน” ค่ายเยาวชน น้องม.ต้น จากทั่วประเทศ ต่อยอดความคิด ประกวดโครงการพัฒนาโรงเรียน โตโยต้า ลีสซิ่ง ร่วมมือกับ สพฐ. และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปั้นเด็กไทยรู้จักคิด วิเคราะห์ มอบโอกาส และทุนการศึกษา



บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ และ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดโครงการ “เด็กปั้น ปันความสุข ปลูกความรู้ สู่อนาคตยั่งยืน” เพื่อปั้นเยาวชน ในระดับมัธยมต้น (ม.1-ม.3) จากทั่วประเทศ ร่วมสร้างสรรค์โครงการคิดดี ทำดี แก้ไขปัญหาภายในโรงเรียน  มอบทุนการศึกษามูลค่ากว่า 600,000 บาท พร้อมจัดค่ายเยาวชนเรียนรู้ การคิดวิเคราะห์ตามหลักไคเซ็น (Kaizen) ซึ่งสร้างความสำเร็จในการทำงานภายในองค์กร  ขยายผล ปั้นเด็กไทยให้รู้จัก คิด วิเคราะห์ พัฒนาได้อย่างยั่งยืนในอนาคต  โดยมีโรงเรียนทั่วประเทศไทยร่วมสมัคร และผ่านการคัดเลือกแผนงาน ร่างโครงการที่จะช่วยแก้ปัญหาและเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน  ภายใต้หัวข้อ “เด็กปั้น:  รวมพลังความคิด พิชิตปัญหา พัฒนาโรงเรียนให้ยั่งยืน" จำนวน 30 โรงเรียน 



 'ค่ายเด็กปั้นจะมีขึ้นในวันที 24-26 มี.ค. 2558 นี้  เพื่อติดอาวุธ "ไคเซ็น" ให้เป็นเครื่องมือที่เด็กจะนำไปใช้พัฒนาตนเอง และชุมชนต่อไป  โดยหลังจากจบค่ายแล้ว แต่ละโรงเรียนจะส่งแผนโครงการที่ถูกจัดทำขึ้นตามหลักไคเซ็นส่งเข้าประกวด เพื่อเฟ้นหา 3 สุดยอดโรงเรียนเด็กปั้น ชิงเงินรางวัล โรงเรียนละ 1 แสนบาท ให้สามารถนำไปจัดทำโครงการพัฒนาให้เกิดขึ้นจริงที่โรงเรียน โดยตลอดระยะเวลาในการทำแผนและดำเนินโครงการ จะมีพนักงานจิตอาสาของ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ที่อยู่ตามสำนักงานสาขาจังหวัดต่างๆ ที่แต่ละโรงเรียนตั้งอยู่ ไปช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้ในแต่ละ โรงเรียน ด้วย ซึ่งโครงการได้เริ่มดำเนินการรับสมัคร มาตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา เพื่อผ่านเข้าสู่กระบวนการประกวดโครงการ เพื่อคัดเลือกผู้ชนะ ซึ่งจะเสร็จสิ้นราวเดือนกรกฎาคม
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved