Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

YOKOHAMA เติมเกมรุกส่งยาง A.drive เจาะกลุ่มรถ Mid-Size Sedan ขยายร้านค้าฯ และ YCN ทั่วไทย สู้วิกฤติตลาดซบเซา-เศรษฐกิจชะลอตัว


 
YOKOHAMA กางแผนธุรกิจปี 2558 เดินหน้าขยายดีลเลอร์เพิ่มอีก 40 แห่ง และศูนย์ฯ “YCN”ครบ 49 แห่ง ขณะที่ “YCN TRUCK & BUS” ศูนย์ยางเพื่อรถบรรทุกขนาดใหญ่ เปิดรับ “AEC” แน่ ภายในต้นปี 2559 พร้อมทั้งเติมเกมรุกบุกตลาด ส่ง “A.drive” ยางสำหรับรถกลุ่ม Mid-Size Sedan ยอดนิยม ทั้ง โตโยต้า อัลติสฮอนด้า ซีวิคมาสด้า3 และะเชฟโรเลต ครูซ ฯลฯ ลงตลาดรับไตรมาสสอง ราคา 2,100-3,100 บาท ต่อเส้น วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้ ขณะที่ GEOLANDAR H/T G056” ยางเพื่อรถยนต์ Pick-up, SUV, PPV ยังเป็นผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ ช่วยเติมยอดขายช่วง 5 เดือนแรกของปีเติบโตเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา มั่นใจแม้ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวกำลังซื้อหดตัว แต่ด้วยความหลากหลายของกลยุทธ์ทางการตลาด จะทำให้ปิดยอดขายตามที่ตั้งเป้าไว้ 
          มร.ทาเคโตชิ โมริตะ (Mr.Taketoshi Morita) : Managing Director) บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการจัดงานประชุมและเลี้ยงขอบคุณร้านค้าเครือข่ายยางรถยนต์ YOKOHAMA ทั่วประเทศและศูนย์บริการยางรถยนต์มาตรฐานสากล “YCN : YOKOHAMA Club Network” เพื่อมอบนโยบายและแผนงานธุรกิจประจำปี 2558 จัดขึ้นที่โรงแรมคอนราด ภายใต้ชื่องาน “YOKOHAMA Thank You Party Dealer 2015 The way to Happiness” เพื่อให้เครือข่ายและบริษัท ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข ส่งมอบผลิตภัณฑ์และการบริการที่สามารถสร้างความพึงพอใจเหนือความคาดหมายให้แก่ผู้บริโภค แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ ทั้งเรื่องการแข่งขันในตลาดและสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ถือเป็นการส่งสัญญาณการขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดของบริษัทที่จะดำเนินงานอย่างเข้มข้น
ปัจจุบันมีร้านค้าผู้แทนจำหน่าย 232 แห่งทั่วประเทศไทย (ไม่นับรวมศูนย์บริการแบบ Quick Service เช่น B-Quik) แผนงานในปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 40 แห่ง ขณะที่ศูนย์บริการยาง “YCN : YOKOHAMA Club Network” เปิดให้บริการแล้ว 35 แห่งทั่วประเทศไทย ภายในสิ้นปี 2558 จะเปิดให้ครบ 49 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งบริษัทได้สนับสนุนงบประมาณ 1-2 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับขนาดของศูนย์ฯ) โดยมีทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดจะเน้นพื้นที่ภาคอีสานและภาคใต้ เพื่อรองรับการเปิด AEC เพราะจากสถิติที่ผ่านมาพบว่า บางจังหวัดในภาคอีสานมีพี่น้องชาวลาวเข้ามาใช้บริการบ่อยครั้ง ส่วนสิ่งที่เน้นย้ำเป็นพิเศษ นอกเหนือจากการให้บริการที่ดีและส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานเข้มงวดของ YOKOHAMA แล้วคือ การบริหารจัดการสต็อกยาง YOKOHAMA ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ในส่วนของ YCN เน้นการสร้างเครือข่ายการบริการ ส่งเสริมการขาย รวมถึงปรับปรุงสภาพร้านให้มีเอกลักษณ์ที่เป็นหนึ่งเดียวควบคู่ไปด้วย” 
ด้านความคืบหน้า “YCN TRUCK & BUS” ยางเพื่อรถขนาดใหญ่ YOKOHAMA ได้เร่งพัฒนาการขายยางรถยนต์ใหญ่กับร้านค้าผู้แทนจำหน่าย และเพิ่มช่องทางการขายในพื้นที่เป้าหมาย พร้อมทั้งทำการคัดเลือกร้านค้าฯ เหล่านี้ เพื่อยกระดับให้เป็นศูนย์ YCN TRUCK & BUS ที่จะเกิดขึ้นในปี 2559ล่าสุดภายในงานประชุมมอบนโยบายครั้งนี้ ได้จัดงาน “YCN 2nd MEETING” โดยเชิญกูรูทางการตลาดชื่อดัง ดร.พนม ปีย์เจริญ มาเป็นวิทยากรให้ความรู้และแนะนำกลยุทธ์ทำการตลาด เพื่อเสริมศักยภาพและเปิดวิสัยทัศน์ให้แก่ผู้บริหาร YCN ทั้ง 35 แห่ง และผู้ประกอบการรายใหม่อีกด้วย
          มร.ทาเคโตชิ โมริตะ กล่าวว่า จากภาวะเงินเฟ้อ ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ล่าสุดอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ปรับยอดจำหน่ายรถยนต์ลดลงไม่ถึง 900,000 คันจากที่คาดไว้ 960,000 คัน ทั้งนี้ YOKOHAMA ประเมินภาพรวมตลาดยางรถยนต์จะรับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยปี 2558 คาดว่าจะไม่เติบโตไปกว่าปีที่ผ่านมา ที่จำนวนไม่ถึง 10 ล้านเส้น
อย่างไรก็ตาม การที่ YOKOHAMA แนะนำยางรุ่นใหม่ GEOLANDAR H/T G056” ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เพื่อให้การขับขี่รถ Pick-up, SUV, PPV ที่นุ่มเงียบ พัฒนาภายใต้นวัตกรรมการออกแบบโครงสร้างยางส่วนผสมเนื้อยางและดอกยางใหม่ ให้ความมั่นใจในความนุ่มเงียบได้ยาวนาน พัฒนาบล็อกดอกยางให้มีขนาดต่างกันถึง 5 ขนาด ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดี ร่องยางแบบ 3D และร่องยาง Multiple Lug ช่วยให้ผู้ขับขี่บังคับควบคุมรถได้แม่นยำ ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง ให้สมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ให้ระยะเบรกที่สั้นกว่า มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่ารุ่นเดิมถึง 21% มีให้เลือกใช้ตั้งแต่ขอบ 15-20 นิ้ว รวม 13 ขนาด ราคาจำหน่าย 2,125-6,500 บาท เมื่อปลายไตรมาสแรกที่ผ่านมา มีส่วนช่วยให้ยอดจำหน่ายยางของ YOKOHAMA เป็นไปตามที่คาดไว้
"5 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-พ.ค.2558) YOKOHAMA มียอดขายที่เติบโตขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ไตรมาสสองนี้ได้แนะนำผลิตภัณฑ์อีกรุ่นคือ A.drive : AA01 เป็นยางรุ่นเดิมที่นำกลับมาทำตลาดใหม่อีกครั้ง ผลิตและมีจำหน่ายเฉพาะตลาดในประเทศไทย มีให้เลือกใช้ 5 ขนาด คือ 195/60R15, 195/65R15, 205/65R15, 205/55R16, 215/60R16 ราคา 2,100-3,100 บาท ต่อเส้น มีคุณสมบัติโดดเด่นคือ หน้ายางมีการสัมผัสพื้นผิวถนนที่เต็มพื้นที่ ทำให้ยึดเกาะถนนดีตลอดการขับขี่ แม้อุณหภูมิของยางจะสูงขึ้น ร่องดอกยาง 3 ร่องที่ลึกและกว้าง ช่วยรีดน้ำได้ดี ทนทานสูงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คาดว่าจะมาสร้างสีสันให้กับตลาดยางรถยนต์กลุ่ม Mid-Size Sedan ให้มีความคึกคัก รองรับกลุ่มรถยนต์นั่งยอดนิยม อาทิ โตโยต้า อัลติสฮอนด้า ซีวิคมาสด้า3 และเชฟโรเลต ครูซ เป็นต้น วางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ ณ ร้านค้าผู้แทนจำหน่ายกว่า 232 แห่ง และ YCN 35 แห่งทั่วประเทศไทย
มร.ทาเคโตชิ โมริตะ กล่าวในท้ายสุดว่า ด้วยกลยุทธ์การตลาดต่างๆ ที่จะดำเนินอย่างเข้มข้นในปี 2558 ทั้งในรูปแบบ Push, Pull และ Motor Sport Marketing ผ่านการสนับสนุนการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการใหญ่ระดับประเทศ การยกระดับการบริการร้านค้าผู้แทนจำหน่าย การเปิดศูนย์ฯ YCN และการแนะนำยางรถยนต์รุ่นใหม่ 2 รุ่น คือ“GEOLANDAR H/T G056” (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) และ A.drive : AA01 จะช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายยอดขายตามที่ตั้งไว้แน่นอน

EXP 10 SPEED 6 – ที่สุดของการออกแบบและประสิทธิภาพยอดเยี่ยมของเบนท์ลี่ย์


  • รถสปอร์ต 2 ที่นั่ง
  • รูปแบบการออกแบบที่เน้นโลกอนาคต แต่ยังคงความเป็นเบนท์ลี่ย์ที่หรูหราทันสมัย
  • พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นรุ่นในอนาคต
(เมือง Crewe / กรุงเจนีวา) เบนท์ลี่ย์โชว์นวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตและคำตอบของคำว่าหรูหราและประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมด้วยรถรุ่น EXP 10 Speed 6 ในงานมหกรรมยานยนต์ 2015 Geneva International Motor Show โดยรถคันนี้มีแนวคิดคือการผสมผสานความเป็นรถหรูจากประเทศอังกฤษแบบรถสปอร์ต 2 ที่นั่งเข้าไว้กับการออกแบบที่ล้ำสมัย งานฝีมือจากช่างที่มีทักษะสูง วัสดุที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และเทคโนโลยีชั้นนำ
จากความสำเร็จของรถแข่งจากเบนท์ลี่ย์ในปีที่ผ่านมา จนมาถึงความสำเร็จในวงการมอเตอร์สปอร์ตแบบสากลทั่วโลกในวันนี้ ทำให้ ‘Speed’ กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของสายเลือดเบนท์ลี่ย์ และแรงบันดาลใจเหล่านี้ได้ถูกส่งออกมาให้เห็นผ่าน EXP10 Speed 6 ซึ่งมีรูปลักษณ์การออกแบบที่เฉพาะจากเบนท์ลี่ย์ เต็มไปด้วยงานเทคนิคหัตถกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ส่วนประกอบ Copper ได้ถูกนำมาใช้ทั้งกับภายนอกและภายในของรถ เพื่อเป็นการเน้นให้เห็นถึงประสิทธิภาพของไฮบริดที่นำมาใช้เป็นระบบขับเคลื่อนใหม่ล่าสุด อีกหนึ่งจุดประสงค์หลักในเรื่องสมรรถนะของรถคือความเร็ว ที่ได้รับการตั้งค่าไว้ให้มีความท้าทายมากที่สุด และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ อีกด้วย  
Wolfgang Dürheimer ประธานบริหารของเบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ ได้กล่าวว่า:
“EXP 10 Speed 6 คือเบนท์ลี่ย์ในอนาคตที่เต็มไปด้วยความทรงพลังของพละกำลังเครื่องยนต์ ความโดดเด่น และมีแนวคิดเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร จะกลายมาเป็นรถสปอร์ต 2 ประตูสุดหรูใหม่ล่าสุด เน้นประสิทธิภาพของผู้ขับขี่เป็นหลัก และจะเป็นเบนท์ลี่ย์ที่หรูหราและทันสมัยอีกด้วย”
รถรุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ในอนาคต พร้อมกับคอนติเนนทัล จีที (Continental GT) ที่โดดเด่นในกลุ่มตลาดรถเดียวกัน ด้วยรูปลักษณ์ของ EXP 10 Speed 6 จะสามารถสร้างอิทธิพลในการขยายสมาชิกให้กับเบนท์ลี่ย์ได้อย่างแน่นอน และนี่ไม่ใช่แค่แนวคิดรถสปอร์ตแบบใหม่ แต่นี่คือโอกาสที่จะทำให้เบนทลี่ย์มีความมั่นคงในอนาคตมากยิ่งขึ้น

รูปลักษณ์ที่ร่วมสมัย และไม่ผิดเพี้ยนจากความเป็นเบนท์ลี่ย์
รูปลักษณ์ภายนอกของ EXP 10 Speed 6 แสดงให้เห็นถึงความทรงพลัง รูปลักษณ์ที่ถูกต้องและแรงบันดาลใจในการพัฒนาตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งนำหลักการของอากาศยานมาใช้ในส่วนปีกรถอีกด้วย รูปแบบและรูปลักษณ์ ของรถได้รับการพัฒนาขึ้นให้มีความร่วมสมัย แต่ยังคงหลักการของรูปลักษณ์เบนท์ลี่ย์ ซึ่งเป็นการผสมผสานความสวยงามเข้าไว้กับความแม่นยำได้อย่างลงตัว ผลลัพธ์ที่ได้คือ ความเป็นเบนท์ลี่ย์ที่ไม่ผิดเพี้ยนนั่นเอง
ไอเดียที่ใช้ในการสร้างสรรค์ความทันสมัย จากจุดคลาสสิคมีให้เห็นในทุกรายละเอียดโดยด้านหน้าจะพบกับกระจังหน้าแบบตะแกรงเมทริกซ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลี่ย์ ไฟหน้าแบบ 4 วง สีของรถที่มีความลึกหลายชั้น เข้ม และเคลือบเมทัลลิกอย่างดี คือ British Racing Green เป็นการสร้างความหรูหราให้กับเบนท์ลีย์ ได้รับการนำมาใช้ในหนทางใหม่ๆ และใช้ร่วมกับเทคโนโลยีและเทคนิคของรถ
เส้นสายและสัดส่วนของ EXP 10 Speed 6 นำเสนอถึงรูปลักษณ์ของรถที่เปี่ยมไปด้วยความคล่องตัวสูง สร้างความกลมกลืนได้ดีระหว่างเส้นสายของรถที่คมชัด ไปถึงพื้นผิวรถที่โดดเด่น มีการออกแบบให้ฝากระโปรงมีความยาว ทรงพลังมากขึ้น และยังเป็นรูปลักษณ์ภายนอกที่แสดงให้เห็นถึงความเร็วแรงของรถด้วยเช่นกัน
วัสดุและรายละเอียดของรูปลักษณ์ภายนอกได้รับการออกแบบในรูปแบบทันสมัยที่มีความเฉพาะตามรูปแบบเบนท์ลี่ย์ ตะแกรงลายตาข่ายทางด้านหน้าทำจากเทคโนโลยี 3D รวมถึงปลายท่อ ที่จับประตู ช่องดักอากาศด้านข้าง ล้วนแล้วแต่ทำจากเทคโนโลยีชั้นนำและการใส่ใจในการออกแบบรายละเอียดต่างๆ ตะแกรงตาข่ายทางที่เป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลี่ย์ ซึ่งจะมีมิติความลึกมากยิ่งขึ้นตามรูปแบบ 3D และมองเห็นรายละเอียดได้หลายมุมองศา
ส่วนต่างๆ ของภายนอกรถเหล่านี้คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงเบนท์ลี่ย์สำหรับเจเนอเรชั่นต่อไป เรียบหรู แม่นยำ รวมถึงรายละเอียดที่นำมาใช้ในการออกแบบล้วนแต่เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นเบนท์ลี่ย์ความโดดเด่น ทั้งจากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
เบนท์ลี่ย์กับประสิทธิภาพที่มากที่สุด – ภายในห้องโดยสารที่เน้นความหรูหรา
ภายในห้องโดยสารได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นสายต่างๆ ที่ทอดยาวภายในอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่คอนโซลไปยังด้านข้างก่อนจะเข้าสู่ส่วนของประตูและย้อนกลับเข้าสู่ที่พักแขน เบาะหนังแบบสปอร์ตได้รับการวางตำแหน่งทั้งสองข้างอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานของรถได้อย่างง่ายดาย และมาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว คุณสมบัติและจุดเด่นเหล่านี้ได้ถูกรวบรวมขึ้นจากเทคโนโลยีของโลกอนาคตและผสมผสานเข้ากับงานหัตถกรรมชั้นเลิศที่โด่งดังตามรูปแบบเบนท์ลี่ย์นั่นเอง
แต่ละรายละเอียดนำมาจากหลักการและแบบเฉพาะของเบนท์ลี่ย์ เช่น ปุ่มต่างๆ คือจุดเด่นในการใช้ควบคุมรถ และถูกทำขึ้นจากเหล็กรวมถึงนำเทคโนโลยี 3D เข้ามาใช้ในการผลิต
ประตูของ EXP 10 Speed 6 มีรอยตะเข็บแบบ 3D และเย็บเข้าร่วมกับเนื้อไม้แบบ Cherry โดยตรง สร้างความโดดเด่นได้อย่างสง่างาม
คอนโซลกลางได้กลายเป็นศูนย์รวมข้อมูลแบบดิจิตอลที่ทำการควบคุมผ่านหน้าจอระบบสัมผัสที่มีโครงสร้างและก้านเกียร์ที่ทำจากอลูมิเนียม ผสมผสานเข้ากับ Copper และเนื้อไม้ Cherry       รอบเครื่องยนต์แสดงผลแบบดิจิตอล ซึ่งผสมผสานระหว่างความสมดุลของความทันสมัยและอนาล็อกได้อย่างลงตัวเช่นกัน
ที่ว่างทางด้านหลังได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่องเพื่อเก็บสัมภาระและสามารถใส่กระเป๋าเดินทางได้ถึง 4 ใบ ขอบต่างๆ ทางด้านหลังได้รับการตกแต่งโดยงานฝีมือชั้นเยี่ยมของเบนท์ลี่ย์ด้วยหนังแบบ Poltrona Frau ที่มีคุณภาพสูง
ข้อความจากผู้เขียน
เบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ คือแบรนด์รถหรูที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง บริษัทแม่ตั้งอยู่ที่เมือง Crewe โดยเป็นที่ตั้งของทีมออกแบบ ทีมวิจัยและพัฒนา ทีมวิศวกร และเป็นสถานที่ใช้ในการผลิตรถทั้ง 3 รุ่นของเบนท์ลี่ย์นั่นคือ คอนติเนนทัล (Continental) ฟลายอิ้ง สเปอร์ (Flying Spur) และมูซาน (Mulsanne) ฝีมือและทักษะงานหัตถกรรมชั้นเยี่ยมได้ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมด้วยความเชี่ยวชาญทางทักษะของวิศวกรและเทคโนโลยีชั้นนำคือความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่หรูหราอย่างเบนท์ลี่ย์ และเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของโรงงานผลิตรถยนต์คุณภาพสูงของอังกฤษ ซึ่งมีพนักงานถึง 3,800 คนที่เมือง Crewe เลยทีเดียว

สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาหรือสอบถามเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ได้จาก บริษัท            เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษโดยตรง คอยให้บริการรถยนต์เบนท์ลี่ย์ของท่าน  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ได้ที่แผนกขายโทร.
02-261-1050-1 หรือ 02-610-9880 และท่านสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่  www.thailand.bentleymotors.com

เปิดตัวแรง! MOTOR EXPO 2015 บริษัทรถแห่จองพื้นที่ สวนกระแสตลาด



สื่อสากล เปิดจองพื้นที่ มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 หรือ MOTOR EXPO 2015 บริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง ร่วมจองคับคั่ง มั่นใจมาตรฐานการจัดงานระดับสากล ส่งสัญญาณอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปลายปีคึกคักแน่นอน
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “The 32ndThailand International MOTOR EXPO 2015” กล่าวถึงการเปิดจองพื้นที่งานว่า “แม้สภาวะตลาดช่วงนี้จะซบเซาแต่บริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตลอดจนอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องยังให้ความสนใจเข้าร่วมงานเหมือนเช่นทุกปี บางค่ายต้องการเพิ่มพื้นที่เพื่อออกแบบบูธตามแนวคิดและสร้างความโดดเด่นให้แบรนด์ของตน
สื่อสากลได้พัฒนาการจัดงานอย่างต่อเนื่องจนได้รับการรับรองและเป็นสมาชิก สมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก (UFI: Union des Foires Internationales) ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน บ่งบอกถึงความชัดเจน โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนการจัดงาน ซึ่งทำให้มีผู้สนใจจองพื้นที่เป็นจำนวนมาก
สำหรับเกณฑ์การให้คะแนนรถยนต์ที่บริษัทต่างๆ แจ้งว่าจะนำมาแสดง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาให้จองพื้นที่ แบ่งเป็น รถที่นำมาจัดแสดงครั้งแรกในโลก ครั้งแรกในทวีปเอเชีย ครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน ครั้งแรกในประเทศไทย รวมถึงการนำรถแนวคิดและรถต้นแบบมาจัดแสดง จะได้รับคะแนนและอัตราส่วนลดค่าพื้นที่แตกต่างกัน”
 “อีกเหตุผลหนึ่งที่ลูกค้าให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ได้แก่ ช่วงเวลาของการจัดงานมหกรรมยานยนต์ นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและดีที่สุดของปี มีปัจจัยที่เอื้อและสนับสนุนการซื้อขายหลายประการ อาทิ การเปิดตัวรถใหม่หลากหลายรุ่น การจัดแคมเปญร่วมกับสถาบันการเงิน  โปรโมชันจากค่ายรถมีทั้งลดแลกแจกแถม รวมถึงผู้ชมงานวางแผนใช้เงินโบนัสซื้อรถ และยังมีกิจกรรมจากผู้จัดงานมากมาย ช่วยเพิ่มบรรยากาศการ ซื้อ-ขายให้น่าสนใจ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลให้ตลาดรถยนต์กลับมาคึกคักส่งท้ายปี”
นอกจากนี้สื่อสากลยังจัดงาน  AAITF Bangkok 2015 (Automotive Aftermarket Industry and Tuning Trade Fair for Southeast Asia) ขึ้นเป็นครั้งแรกภายในงานมหกรรมยานยนต์ ระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม 2558 ณ อิมแพ็ค ฟอรัม (ฮอลล์9) โดยจัดแสดงสินค้า อะไหล่ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรกล เกี่ยวกับยานยนต์มากมาย พร้อมเปิดเวทีให้ผู้ประกอบการ ตัวแทนจำหน่าย ผู้นำเข้า ผู้ค้าส่ง และค้าปลีก ในกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้เจรจาธุรกิจกัน
“งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 ใช้พื้นที่จัดงานรวมทั้งสิ้น 80,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น ภายในอาคารชาเลนเจอร์ 60,000 ตารางเมตร และด้านนอกอาคารอีก 20,000 ตารางเมตร สำหรับจัดแสดงเครื่องเสียงรวมถึงจัดกิจกรรมอื่นๆ มากมาย โดยผังของปีนี้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา” ขวัญชัยกล่าวทิ้งท้าย
อย่าพลาด..งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 2 - 13 ธันวาคม 2558 เวลาเปิด-ปิดงาน วันธรรมดา เวลา 12.00-22.00 น. เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 11.00-22.00 น. ปิดการจำหน่ายบัตรเข้างาน เวลา 21.00 น. ของทุกวัน    สามารถติดตามข่าวสารงาน MOTOR EXPO 2015 ได้ทาง http://www.motorexpo.co.th  

มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 เอสยูวีสุดฮิตของคนทั่วโลก มียอดการผลิตทะลุหนึ่งล้านคันแล้ว

ฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น – มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ออกประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ ว่ารถสปอร์ต อเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ได้รับความนิยมอย่างสูงจากลูกค้าทั่วโลก โดยมียอดการผลิตทั่วโลกทะลุ 1 ล้านคันแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ด้วยระยะเวลาเพียง 3 ปี 5 เดือน นับตั้งแต่เริ่มสายการผลิตในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ซึ่งทำให้มาสด้า CX-5 กลายเป็นรถยนต์จากมาสด้าที่มียอดการผลิตทะลุ 1 ล้านคันอย่างรวดเร็ว และเป็นอันดับสองรองจากรถยนต์นั่งมาสด้า 3 ไปแล้ว
รถสปอร์ตอเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 นับเป็นรถยนต์ในเจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดและเป็นรถยนต์รุ่นแรกของมาสด้าที่ใช้เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ และแนวคิดการออกแบบภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ Soul of Motion หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว โดยเริ่มสายการผลิตขึ้นครั้งแรกที่โรงงานยูจินา ในเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ต่อจากนั้นก็ได้มีการขยายฐานการผลิตไปสู่ ฉางอัน มาสด้า ออโต้โมบิล ในประเทศจีน และมีการขึ้นไลน์ประกอบที่ประเทศรัสเซีย ณ มาสด้า โซลเลอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง, มาสด้า มาเลเซีย ประเทศมาเลเซีย และ วินา มาสด้า ออโต้โมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศเวียดนาม*1
รถอเนกประสงค์มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 เปิดตัวสู่ตลาดครอสโอเวอร์ เอสยูวี ครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 นับตั้งแต่เปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้เป็นต้นมา มาสด้า CX-5 ได้รับรางวัลไปแล้วกว่า 60 รางวัลทั่วโลก*2 รวมถึงรางวัลอันทรงเกียรติ  นั่นคือ รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีประเทศญี่ปุ่น ปี 2555-2556 ( Japan Car of the Year 2012-2013) มาสด้า CX-5 ได้กลายเป็นรถยนต์รุ่นหลักของมาสด้าทั่วโลกและเป็นรถ SUV ที่มียอดขายสูงสุดในประเทศญี่ปุ่นในปี 2555-2556 *3
นายมาซาชิ โอสึกะ ผู้จัดการโครงการมาสด้า CX-5 กล่าวว่า “ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นมาสด้า CX-5 ประสบความสำเร็จ มียอดการผลิตทะลุ 1 ล้านคัน ภายในเวลาระยะเพียง 3 ปี 5 เดือน หลังจากเริ่มต้นเปิดสายการผลิต ผมขอขอบคุณลูกค้าจากทั่วโลกเป็นอย่างสูงที่เห็นคุณค่าของมาสด้า CX-5 และให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี พวกเรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนารถยนต์รุ่นนี้ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปในอนาคตเพื่อให้ CX-5 ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ไม่หยุดนิ่ง และยังดึงดูดลูกค้าเพิ่มมากขึ้นในอนาคต”
ในอนาคตข้างหน้านี้ มาสด้ายังคงพัฒนารถยนต์ที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ควบคู่ไปกับการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและให้ความปลอดภัยเป็นเลิศ ด้วยเป้าหมายที่จะเติมเต็มชีวิตของผู้คนและกลายเป็นแบรนด์ที่มีสายสัมพันธ์พิเศษกับลูกค้าเป็นสำคัญ

ยางคึมโฮ บุกสนามระดับโลก ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สู้ศึก Honda Jazz One Make Race สนามที่ 2



คุณเอกพงษ์ ลิมปวรกุล ผู้จัดการฝ่ายขาย ผลิตภัณฑ์คึมโฮ ไทร์ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล ร่วมให้กำลังใจนักแข่ง รุ่น Honda Jazz One Make Race รายการ Grand Prix Racing League 2015 สนามที่ 2 เรซ 3-4 ของฤดูกาล แบบติดขอบสนาม ปิดสนามดวลความเร็วกันที่ สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ด้วยความเร็วและมันส์แบบจัดเต็มของขาซิ่งทั้งหน้าเก่า และใหม่ ซึ่งต่างประทับใจในประสิทธิภาพยางคึมโฮ V720พร้อมเสียงเชียร์ของเหล่าแฟนๆ และผู้ที่รักความเร็ว ไม่หวั่นแม้สภาพอากาศที่แดดร้อนจ้า ที่ต่างร่วมลุ้นกันแบบไม่ติดเก้าอี้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

เอ.พี.ฮอนด้า เปิดศึก CBR300R Thailand Dream Cup เอเชีย เรซซิ่ง ทีม คว้าชัยสนามแรกที่ ไทยแลนด์ เซอร์กิต



บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้นำแห่งวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย เปิดศึกดวลความเร็วรายการชิงแชมป์ประเทศไทย CBR300R Thailand Dream Cup สานฝันผู้ใช้รถจักรยานยนต์รุ่นซูเปอร์ไบค์ ได้บิดรถคู่ใจลงแข่งบนสนามจริงเหมือนเวทีระดับโลก โดยแชมป์สนามแรกประเดิมฤดูกาลที่สนามไทยแลนด์ เซอร์กิต นครชัยศรี ตกเป็นของนักแข่งจาก เอเชีย เรซซิ่ง ทีม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2558

ศึกรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์ประเทศไทย CBR300R Thailand Dream Cup รายการใหญ่ที่ทาง บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดโอกาสให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั่วไปที่มีความฝันอยากประลองความเร็วได้บนแทร็กอย่างมืออาชีพ แต่ไม่มีเวทีให้ลงแข่งขันได้วัดความเร็วกัน โดยได้เปิดศึกทำการแข่งขันสนามแรกไปแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ สนาม ไทยแลนด์ เซอร์กิต นครชัยศรี

บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก เนื่องจากมีทีมแข่งเข้าร่วมประชันเป็นจำนวนมากถึง 28 ทีม ประกอบด้วยทีมจากร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า 20 ทีม, ทีมแข่งอิสระจากร้านแต่งรถจักรยานยนต์ 7 ทีม และทีมจากฮอนด้าบิ๊กวิง 1 ทีม ซึ่งนักแข่งแต่ละทีมล้วนเป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั่วไปไม่เคยมีประสบการณ์ลงแข่งหรือได้แชมป์ระดับอาชีพและสมัครเล่นมาก่อน พร้อมทีมงานแบ่งเป็นทีมช่างเทคนิค 2 คน, ผู้จัดการทีม 1 คน และผู้ประสานงาน 1 คน เรียกว่าจำลองการทำทีมแบบเดียวกับการแข่งระดับโลก

ขณะเดียวกัน ภายในงานก็มีกิจกรรมมากมายให้ผู้เข้าชมการแข่งขันได้ร่วมสนุกกัน รวมถึงกิจกรรมการประกวด “เรซ ควีน” หาสาวสวยริมแทร็กที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในงาน สร้างสีสันให้กับคนดูในสนามได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากการชิงชัยความเร็วของทีมแข่งทั้งหมด 28 ทีม ซึ่งหมายมั่นปั้นมือเก็บชัยชนะสนามแรกเอาฤกษ์เอาชัยก่อนลุยต่ออีก 6 สนามที่เหลือของรายการ ภายใต้รถจักรยานยนต์รุ่น Honda CBR300R ที่เป็นรถพื้นฐาน แต่สามารถปรับแต่งได้เต็มที่ภายใต้กติกาที่กำหนด

สำหรับผลการควอลิฟายจัดกริดสตาร์ทให้กับนักแข่งเมื่อวันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทีม NUI Racing Project Team ตัวแทนจากจังหวัดกรุงเทพฯ (ราษฏร์บูรณะ) ที่ส่ง นาย ชนะชล ภูพันนา ลงทำการแข่งขัน คว้าตำแหน่งโพล โพซิชั่น มาครองด้วยเวลาต่อรอบที่เร็วที่สุด 1 นาที 36.301 วินาที ขณะที่อันดับ 2 มาจากทีม Asia Racing Team คือนาย อัครเดช อารยะสัจพงษ์ เวลาตามหลัง 0.315 วินาที ส่วนอันดับ 3 คือนาย ศิริพจน์ พราหมณ์โสภณ จาก พรนุภาพทีม เวลาตามหลัง 0.837 วินาที

ขณะที่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม ทั้งหมด 12 รอบ ปรากฏว่าแชมป์สนามแรกตกเป็นของทีมAsia Racing Team ที่ส่ง อัครเดช อารยะสัจพงษ์ นักแข่งวัย 17 ปี ลงแข่งขัน โดยช่วงออกสตาร์ท อัครเดช บิดคันเร่งออกจากกริดอันดับ 2 แต่ออกตัวได้ดีแซงขึ้นนำเป็นอันดับ 1 ตั้งแต่รอบแรก ก่อนวิ่งเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 19 นาที 19.288 วินาที ส่วนอันดับ 2 และอันดับ 3 เป็นของ ชนะชล ภูพันนา จากทีม NUI Racing Project Team และ ณรงค์ศักดิ์ อิทธิพล จาก Sinthanee LG Racing Team

หลังจบการแข่งขัน “น้องกาย” อัครเดช อารยะสัจพงษ์ ผู้ชนะสนามแรก กล่าวรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากกับบรรยากาศที่สนาม เนื่องจากมีคนดูเป็นจำนวนมากทำให้รู้สึกกดดันพอสมควร แถมยังเป็นการลงแข่งขันรายการแรกในชีวิตด้วย พร้อมกันนี้ยังรู้สึกดีใจมากที่ได้แชมป์มาครองเพราะการออกตัวที่ดีตั้งแต่เริ่ม สุดท้ายเจ้าตัวตั้งเป้าจะเก็บชัยชนะให้ได้อีก 6 สนามที่เหลือ เพื่อสร้างชื่อเป็นแชมป์คนแรกของรายการนี้

ขณะเดียวกัน นักบิดวัย 17 ปี จากโครงการ ฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล ที่เก็บ 20 คะแนนแรกเข้ากระเป๋า และเป็นผู้นำบนตารางเวลานี้ ก็ได้กล่าวขอบคุณ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ที่เปิดโอกาสให้ตนและเพื่อนๆที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักแข่งแต่ไม่มีประสบการณ์และเวทีให้ลงแข่งขันในเมืองไทย ได้สัมผัสประสบการณ์แข่งและการทำงานแบบมืออาชีพอีกด้วย

สำหรับการแข่งขัน CBR300R Thailand Dream Cup สนามถัดไปจะลงแข่งกันที่สนามพีระ เซอร์กิต เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 27-28 มิถุนายน นี้

สแกนเนีย คัด 16 สุดยอดนักขับรถขนส่ง เตรียมชิงชัย สแกนเนีย ไดร์เวอร์ คอมเพททิชั่น ไทยแลนด์ 2015 การแข่งขันทักษะการขับขี่รถบรรทุกและรถโดยสาร รายการใหญ่ของไทย ชิงรางวัลรวมกว่า 1,900,000 บาท




สแกนเนีย เปิดศูนย์บริการเชียงใหม่เป็นสนามแข่ง  สแกนเนีย ไดร์เวอร์ คอมเพททิชั่น ไทยแลนด์ 2015 การแข่งขันทักษะการขับขี่รถบรรทุกและรถโดยสารรายการใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งของไทย เพื่อคัด 16 สุดยอดนักขับรถขนส่งจากทั่วประเทศเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศที่ กรุงเทพฯ ชิงรางวัลรวมกว่า 1,900,000 บาท

นายภูริวัทน์ รักอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการประจำภูมิภาค บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวถึงความสำคัญของตลาดรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ในภาคเหนือและการจัดการแข่งขัน สแกนเนีย ไดร์เวอร์ คอมเพททิชั่น ไทยแลนด์ 2015 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า  สแกนเนีย มองตลาดรถขนส่งและรถโดยสารในภาคเหนือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยในกลุ่มรถขนส่งสินค้าสามารถวิ่งในเส้นทางที่เชื่อต่อกับประเทศเพื่อนบ้านได้หลายประเทศ ซึ่งหลังจากการเปิด AEC อย่างเป็นทางการจะทำให้การขนส่งในภาคเหนือมีความคึกคักและปริมาณมากขึ้น ส่วนในกลุ่มรถโดยสารนั้น เชียงใหม่นับเป็นจังหวัดสำคัญของการท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากปริมาณของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในภาคเหนือและจังหวัดเชียงใหม่มีปริมาณสูงขึ้นทุกปี จึงทำให้ตลาดรถโดยสารมีการเติบโตขึ้นตามไปด้วย จากปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้เชียงใหม่เป็นจังหวัดศูนย์กลางการขนส่งของภาคเหนืออย่างแท้จริง การจัดการแข่งขัน สแกนเนีย ไดร์เวอร์ คอมเพททิชั่น ไทยแลนด์ 2015 ที่ศูนย์บริการ สแกนเนีย ที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงเป็นเหมือนการที่ สแกนเนีย เปิดประตูบ้านสร้างความสัมพันธ์เพื่อตอนรับกลุ่มลูกค้าจากภาคเหนือและจังหวัดเชียงใหม่ให้มีความใกล้ชิดกับเรามากขึ้น และ ยังเป็นการแสดงถึงความจริงใจและความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ของภาคเหนือให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันและร่วมผลักดันให้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางในการขนส่งทางภาคเหนือของไทยอย่างแท้จริง

ด้าน นางสาวทัศนันท์ ปิยะอักษรศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารและการตลาด บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวถึงการจัดการแข่งขัน สแกนเนีย ไดร์เวอร์ คอมเพททิชั่น ไทยแลนด์ 2015 ซึ่งเป็นการแข่งขันทักษะการขับขี่รถบรรทุกและรถโดยสารรายการใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งของไทยว่า การแข่งขันรายการนี้เป็นการแข่งขันด้านทักษะความสามารถในการขับขี่ที่เน้นเรื่องความปลอดภัย การใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการขับแบบลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ในทวีปยุโรปได้มีการจัดการแข่งขันนี้มาอย่างต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ซึ่งในปีนี้มีประเทศที่เข้าร่วมการจัดการแข่งขันรายการนี้ถึง 50 ประเทศ และมีผู้สมัครเข้าร่วมแข่งขันรวมกว่า 2 แสนคน

สำหรับประเทศไทยการจัดการแข่งขัน สแกนเนีย ไดร์เวอร์ คอมเพททิชั่น ไทยแลนด์ 2015 ครั้งที่ 3ได้รับการสนับสนุนจากกรมการขนส่งทางบก สถาบันยานยนต์ กองทุนง่วงอย่าขับ ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มูลนิธิรามาธิบดี บริษัท มิชลินสยาม จำกัด และ สถาบันสอนขับรถไอดี ไดร์ฟเวอร์  ซึ่งใช้มาตรฐานการแข่งขัน กฎและกติกาเดียวกับที่จัดในทวีปยุโรป โดย สแกนเนีย สยาม ตั้งใจพร้อมทุ่มงบประมาณในการจัดการแข่งขันกว่า 10 ล้านบาท เพื่อให้การแข่งขันรายการนี้มีความยิ่งใหญ่กว่าครั้งที่ผ่านมา เพื่อดึงดูดและคัดเลือกสุดยอดนักขับรถขนส่งมืออาชีพ ทั้งประเภทนักขับรถบัสโดยสารและนักขับรถบรรทุกที่มีความสามารถเข้ามาร่วมการแข่งขัน และ ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1,900,000 บาท สำหรับผลตอบรับในการรับสมัครถือว่าประสบความสำเร็จและน่าพอใจเป็นอย่างมากเพราะมีผู้นักขับรถขนส่งใบสมัครเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 1,500 คน และผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ 64 คน ซึ่งการแข่งขันจัดขึ้น ณ ศูนย์บริการ สแกนเนีย จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2558 เพื่อคัด 16 สุดยอดนักขับมืออาชีพ โดยแบ่งเป็นประเภทนักขับรถโดยสาร 8 คน และ นักขับรถบรรทุก 8 คน และ ทั้งหมดจะต้องเข้าชิงชัยรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 13 มิถุนายน 2558 ต่อไป ณ เมโทร ไลฟ์ ปาร์ค (ถนนพระราม9) กรุงเทพฯ

บริษัท บริดจสโตน เอเชีย แปซิฟิค เทคนิคอล เซ็นเตอร์ เปิดศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่อย่ างเป็นทางการ


สิงคโปร์ (18 พฤษภาคม 2558); บริษัท บริดจสโตน เอเชีย แปซิฟิค จำกัด แถลงข่าวการเปิดศูนย์ปฏิบัติการ แห่งใหม่ของบริษัท บริดจสโตน เอเชีย แปซิฟิค เทคนิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด อย่างเป็นทางการ ณ จังหวัดปทุมธานี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยในการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ของบริดจสโตน เพื่อตอบสนองให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมทั้งภูมิภาค
 
บริษัท บริดจสโตน เอเชีย แปซิฟิค เทคนิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด ในชื่อย่อ APTC เริ่มเปิดดำเนินการในปี 2556 โดยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคในภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิค ทั้งการสนับสนุนในด้านเทคนิค การวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ่านการสำรวจข้อมูลและศึกษาในด้านต่างๆของผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะช่วยนำมาซึ่งการพัฒนาด้านการออกแบบรวมทั้งองค์ประกอบ ของผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ เพื่อตอบสนองในด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความทนทาน  และทั้งหมดนี้คือศักยภาพของ APTC ที่มีครบทั้งการบริหารคุณภาพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ การพัฒนาด้านกระบวนการจัดสรรวัตถุดิบและการจัดซื้อ รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต
ปัจจุบัน APTC มีพนักงาน 90 คน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากประเทศต่างๆ ประกอบด้วยอินเดีย, อินโดนีเซีย, อิตาลี, ญี่ปุ่น และประเทศไทยทำงานร่วมกัน ซึ่งการย้ายสำนักงานสู่ศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่ขนาดใหญ่ ทำให้สามารถติดตั้งเครื่องจักรใหม่ๆ ประกอบด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะช่วยส่งเสริมศัยภาพการเป็นผู้นำในตลาดยางรถยนต์ของบริดจสโตนในตลาดเอเชีย แปซิฟิค
 
มร. ฮิเดกิ โคมัทซึ, รองประธานและเจ้าหน้าที่อาวุโส ด้านนวัตกรรมจากบริดจสโตนคอร์ปอเรชั่น ได้กล่าวถึงความสำคัญของ APTC ว่า “บริดจสโตน เชื่อมั่นว่า APTC จะสร้างความแข็งแกร่งในการปฏิบัติงานทั้งด้านการวิจัยและพัฒนา ซึ่งจะช่วยยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และดำเนินธุรกิจ เพื่อตอบสนองผู้บริโภคอันหลากหลายได้อย่างตรงความต้องการที่สุด ซึ่งจะช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิค ที่มีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”
มร. นาโอโตะ ยามากิชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริดจสโตน เอเชีย แปซิฟิค เทคนิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า "จากการทำงานอย่างใกล้ชิดกับตลาดในภูมิภาค APTC จะช่วยให้บริดจสโตนสามารถเข้าถึงผู้บริโภคและสะท้อนความต้องการอันหลากหลาย และนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา เป้าหมายที่สำคัญของ APTC คือการเป็น “ศูนย์กลางทางด้านเทคนิคอย่างแท้จริง” ของภูมิภาคนี้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับสูงทั้งคุณภาพและความปลอดภัย เพื่อสร้างความพึงพอใจของผู้บริโภคอย่างสูงสุด”
กลุ่มบริดจสโตนได้กำหนดยุทธศาสตร์สำคัญ ในการเสริมสร้างศักยภาพในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ผ่านการค้นคว้า วิจัย เทคโนโลยีและพัฒนาตั้งแต่การจัดการด้านวัตถุดิบ กระบวนการผลิตที่ทันสมัย รวมทั้งการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์และการบริการที่เปี่ยมคุณภาพ ด้วยหลักปรัชญาของบริดจสโตนที่เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลก คือ “รับใช้สังคมด้วยคุณภาพที่เหนือกว่า” 

มาสด้าส่งมาสด้า2 สกายแอคทีฟ เครื่องยนต์คลีนดีเซล ลงพิสูจน์ความแรงบนสนามแข่ง


กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 15 พฤษภาคม 2558บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าลุยสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง เตรียมประกาศศักดาบนสนามแข่งรถยนต์ทางเรียบอีกครั้ง ด้วยการเนรมิตรถยนต์นั่งสปอร์ตตัวจี๊ด all-new Mazda2 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล ก้าวเข้าสู่วงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทยอย่างเต็มภาคภูมิ ตอกย้ำรถยนต์ที่ให้ทั้งความแรงและการประหยัดน้ำมัน ลงประเดิมชิงชัยสนามแรกที่จังหวัดบุรีรัมย์ ในรายการไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซี่รี่ส์ รายการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่ยิ่งใหญ่และได้รับความสนใจที่มากสุดของประเทศไทย
สำหรับทีม Mazda Innovation Motorsports เป็นทีมแข่งที่รวบรวมเอาบุคลากรและทีมงานที่มากด้วยประสบการณ์ของมอเตอร์สปอร์ตมาร่วมกันพัฒนารถแข่งเพื่อลงทำการแข่งขันจำนวน 2 คัน ได้แก่ รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 สปอร์ต รุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู รุ่นใหม่ล่าสุดมาพร้อมเครื่องยนต์คลีนดีเซล สกายแอคทีฟ-ดี ขนาด 1500 ซีซี หมายเลข 55 ซึ่งขับขี่โดย มร. ไมค์ ฟรีแมน ซึ่งเป็นนักขับมากประสบการณ์ และในปีนี้ทางทีมมีสมาชิกน้องใหม่ น้องพลอย ธัชพรรณ วิจิตรานนท์ สาวน้อยอายุเพียง 17 ปี ที่จะนั่งควบรถยนต์นั่งสปอร์ต มาสด้า2 เอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู หมายเลข 44 สำหรับรถแข่งมาสด้า2 ทั้ง 2 รุ่น จะลงทำการแข่งขันในรายการไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรี่ส์ ในประเภท Super Production ทั้ง 8 สนามในปีนี้
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า มาสด้าเดินหน้าเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทยอย่างเต็มความภาคภูมิ หลังจากที่เริ่มส่งมาสด้า2 รุ่นที่แล้ว ลงสนามแข่งมาได้เพียง 2 ปี ก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ที่สำคัญในปีนี้มาสด้าได้สร้างรถแข่งขึ้นมาใหม่ 2 คัน โดยจับเอามาสด้า2 สกายแอคทีฟ-ดี เครื่องยนต์คลีนดีเซลมาพัฒนาเพื่อส่งลงสนามแข่งในปีนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลร่วมลงทำการแข่งขันในรายการ Super Production ซึ่งแน่นอนว่าการลงแข่งในสนามแรกมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในเรื่องการปรับจูนเพิ่มเติมหลังจากที่เก็บเกี่ยวข้อมูลต่างๆจากการลงแข่ง และเชื่อว่าผลงานในสนามถัดไปจะดีขึ้นกว่าเดิม
สำหรับทีมแข่งขัน "MAZDA INNOVATION MOTORSPORTS" เป็นความร่วมกันระหว่างมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากแม่บริษัทแม่ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงทีมงานที่กำกับดูแลกิจกรรมด้านMotor Sports Team จนสามารถทำให้เราสามารถสร้างรถแข่งที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพรวมทั้งทีมแข่งขันที่แข็งแกร่งเพื่อลงชิงชัยในสนามการแข่งขันรถยนต์ในปีนี้มีทั้งหมด 8 สนาม ที่สำคัญการที่มาสด้านำเอารถยนต์นั่งสปอร์ต มาสด้า2 ใหม่ภายใต้เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ที่ได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งประเทศญี่ปุ่นปี 2014-2015 ล่าสุด Japan Car of The Year 2014-2015 เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงสมรรถนะอันทรงพลัง ตลอดจนการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์รถยนต์ที่สามารถถ่ายทอดความเป็นรถยนต์สายพันธุ์สปอร์ตออกมาได้โดดเด่นที่สุด และสามารถสื่อสารโดยตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน
สำหรับการลงชิงชัยในสนามแรกและสนามที่ 2 ผ่านไปได้ด้วยดี ผลงานการลงสนามครั้งแรกปรากฏว่า น้องพลอย สามารถก้าวขึ้นโพเดี่ยมคว้าอันดับที่ 3 มาครองได้สำเร็จ ส่วนไมเคิล สามารถนำรถเข้าเส้นชัยจนจบการแข่งขัน สำหรับแฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตไม่ควรพลาดกับกีฬาสุดมันส์ สามารถร่วมเชียร์และส่งกำลังใจให้กับ 2 นักแข่งของมาสด้า ในรายการไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรี่ส์ สำหรับปี 2558 ซึ่งจะมีให้ร่วมลุ้นกันทั้งหมด 8 สนาม ซึ่งมาสด้าจะลงทำการแข่งขันในสนามที่ 3-4 ของรายการจัดการแข่งขันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ในระหว่างวันที่ 26-27 กรกฎาคมนี้ ที่ และสามารถลุ้นต่อได้ในส่วนของสนามที่ 5-6 วันที่ 11-13 กันยายน ที่สนามพีระ เซอร์กิต ส่วนในสนามสุดท้ายซึ่งถือเป็นไฮไลท์เด็ดของการแข่งขัน นั่นคือการปิดถนนเลียบชายหาดบางแสน โดยจะจัดให้มีขึ้นในระหว่างวันที่ 24-29 พฤศจิกายนนี้ หรือสามารถเข้าไปอัพเดรสความเคลื่อนไหวได้ที่ www.mazda.co.th และ เฟสบุ๊ค www.facebook.com/MazdaThailandOfficial
รายละเอียดเกี่ยวกับรถสปอร์ตมาสด้า2
รถมาสด้า2 ใหม่ใช้เครื่องยนต์สกายแอคทีฟซึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซลสะอาดที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุด SKYACTIV-D 1.5L และระบบส่งกำลังใหม่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE ที่พัฒนาขึ้นเพื่อทำงานร่วมกับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟขนาดเล็กโดยเฉพาะเครื่องยนต์ SKYACTIV-D 1.5L เป็นเครื่องยนต์ดีเซลสะอาดที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุดให้แรงบิดมหาศาล อัตราส่วนการอัด 14.8:1 กำลังสูงสุด 77 kW แรงบิดสูงสุด 250 Nm ระบบเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุดเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6สปีด ขนาดกะทัดรัดช่วยให้ประหยัดน้ำมันให้ความตอบสนองที่แม่นยำในการเปลี่ยนเกียร์ให้ความรู้สึกเช่นเดียวกับเกียร์ธรรมดา

มาสด้าจับมือโตโยต้าร่วมกันพัฒนายานยนต์แห่งอนาคต



กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โตโยต้า มอเตอร์ คอปอร์เรชั่น ร่วมมือกับมาสด้า มอเตอร์ คอปอร์เรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ทำข้อตกลงเป็นพันธมิตรร่วมกันอย่างยั่งยืนด้วยการใช้ทรัพยากรจากทั้งสองบริษัทในการส่งเสริมพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีระหว่างกัน การร่วมมือกันครั้งนี้จะก่อให้เกิดรถยนต์ที่สวยดึงดูดใจและตอบโจทย์ความต้องการและรสนิยมของลูกค้าทั่วโลกให้ดียิ่งขึ้น
หลังจากนี้จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมจากทั้ง 2 องค์กร เพื่อประเมินวิธีการที่ดีที่สุด เพื่อนำเอาจุดแข็งของแต่ละบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งคณะกรรมที่กำลังจะตั้งขึ้นมาใหม่นี้จะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันในสาขาต่างๆ รวมทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย
นายอากิโอะ โทโยดะ ประธาน บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอปอร์เรชั่น กล่าวให้สัมภาษณ์ในระหว่างทำข้อตกลงว่า “จากเทคโนโลยี สกายแอคทีฟ และแนวคิดการออกแบบ ภายใต้โคโดะ ดีไซน์ หรือ จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันงดงามที่เป็นที่รู้จักกันดี มาสด้าได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามาสด้านั้นมองไปข้างหน้าเสมอในเรื่องของรถยนต์และเทคโนโลยี แต่ก็ยังยืนหยัดอยู่บนแนวคิดพื้นฐานของการผลิตรถยนต์เสมอ ดังนั้น มาสด้าจึงมีแนวคิดที่สอดคล้องกับโตโยต้าในการสร้างสรรค์รถยนต์ให้ดียิ่งขึ้นมากกว่าเดิม ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งว่าทั้ง 2 บริษัท จะสามารถแบ่งปันวิสัยทัศน์และทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดีเพื่อมุ่งมั่นในการพัฒนารถยนต์ให้ดียิ่งขึ้น คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่ทั้งโตโยต้าและมาสด้าจะร่วมกันพิสูจน์ให้โลกได้เห็นว่า ในอีก 100 ปีข้างหน้า รถยนต์จะยังคงส่งมอบความสนุกสนานให้กับผู้ขับขี่อย่างที่เป็นมาโดยตลอด”
นายมาซามิชิ โคไก ประธานและผู้บริหารสูงสุดของ มาสด้า มอเตอร์ คอปอร์เรชั่น กล่าวว่า “โตโยต้าเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของโลก และอนาคตของการผลิตรถยนต์มาโดยตลอด ผมมีความเคารพอย่างสูงต่อการอุทิศตนอย่างไม่หยุดยั้งของโตโยต้าในการรังสรรค์นวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้ได้ผลผลิตรถยนต์ที่ให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญนอกเหนือไปกว่านั้น มาสด้าเองก็มีความคล้ายคลึงกันกับโตโยต้าในการให้ความเคารพในถิ่นกำเนิดและในสังคมที่เราเกี่ยวข้องหรือดำเนินกิจการ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่โตโยต้านั้นเป็นองค์กรที่ได้รับความเคารพอย่างสูงจากทุกภาคส่วน ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการทำงานร่วมกันในครั้งนี้เพื่อมุ่งมั่นพัฒนารถยนต์ให้ดีขึ้นกว่าเดิมนี้ เราจะสามารถยกระดับคุณค่าของรถยนต์ในสายตาของลูกค้า และพัฒนาขีดความสามารถในการผลิตรถยนต์ของเราที่เมืองฮิโรชิมา บ้านเกิดของมาสด้า และในชุมชนอื่นๆ ที่เรามีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน”
ความร่วมมือกันระหว่างมาสด้าและโตโยต้าเมื่อก่อนที่ผ่านมา รวมถึงการอนุญาตให้มาสด้าใช้เทคโนโลยีไฮบริดของโตโยต้า และการที่มาสด้าทำการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กให้กับโตโยต้าในโรงงานของมาสด้าที่ประเทศเม็กซิโก
โตโยต้าและมาสด้าตระหนักดีว่าทั้งสององค์กรนั้นมีจุดมุ่งหมายร่วมกันอยู่หลายประการ อาทิ ปรัชญาของมาสด้า คือ การนำเอาความสุขสนุกสนานสู่ชีวิตของลูกค้าด้วยการสร้างรถยนต์ที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ และการอุทิศตนของโตโยต้าในการพัฒนารถยนต์ให้ดียิ่งขึ้นสืบไป รวมถึงการอุทิศตนในการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งข้อตกลงล่าสุดนี้จะมีความแตกต่างจากการร่วมมือกันในแบบเดิมๆ ที่ผ่านมา เพราะการร่วมมือในครั้งนี้จะมุ่งเน้นที่ต้องการสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้แก่รถยนต์ด้วยความร่วมมือกันในระยะกลางและระยะยาว
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved