Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

NISSAN เปิดตัว NP300 NAVARA Single Cab ใหม่ โครงสร้างแข็งแกร่ง สู้งานหนัก

– ชูจุดเด่น ครั้งแรกกับกล้องมองหลังและที่เหยียบขึ้นกระบะด้านข้างเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
กรุงเทพมหานคร (วันที่ 28 มกราคม 2558) : บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว  รถกระบะเอ็นพี 300 นาวารา รุ่น ซิงเกิ้ลแค็บ ใหม่ ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น สมรรถนะเหนือชั้น แข็งแกร่งด้วยโครงสร้างพิเศษเพื่อรองรับงานหนัก ครั้งแรกในตลาดรถกระบะตอนเดียวที่ติดตั้งกล้องมองหลังและที่เหยียบขึ้นกระบะด้านข้างเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน  พร้อมเพิ่มทางเลือกด้วยเครื่องยนต์เบนซินในทุกแบบตัวถัง
นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า “หลังจากที่นิสสัน ได้เปิดตัว  นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา ใหม่ เป็นครั้งแรกในโลกเมื่อปีที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซปต์  แกร่งเกินคาด ฉลาดเกินใคร    นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเพื่อตอบสนองความพึงพอใจและการใช้งานของลูกค้า พร้อมตอกย้ำชื่อเสียงอันยาวนานด้านสมรรถนะพันธุ์แกร่งของนิสสัน    ในปีนี้ บริษัทฯ จึงได้เปิดตัว นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา ในรุ่นซิงเกิ้ลแค็บ และเปิดตัวเครื่องยนต์เบนซินในกระบะนาวารา ใหม่ ในทุกแบบตัวถัง”
เครื่องยนต์ดีเซล
เครื่องยนต์เบนซิน
นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา ซิงเกิ้ลแค็บ ใหม่  มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร คอมมอนเรล 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังแรงสุดถึง 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 403 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ ระบบหัวฉีดมัลติพอยท์ ให้กำลังแรงสูงสุด 169 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 241 นิวตันเมตร โดยทั้งสองเครื่องยนต์ยังมาพร้อมกับระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เหมาะกับทุกสภาพการใช้งาน ทั้งสมรรถนะการขับขี่และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ได้รับการพัฒนาให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นกว่าเดิมสูงสุดถึง 22 %
นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา นับเป็นปิคอัพพันธุ์แกร่ง  เท่ คุ้มค่า และฉลาดเหนือชั้น ที่สร้างความมั่นใจด้วยโครงสร้างเหล็กกล้าไร้รอยต่อ รองรับน้ำหนักบรรทุกได้ในปริมาณมาก  และเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้านความสะดวกสบายยิ่งขึ้น นิสสันยังติดตั้งกล้องมองหลัง และที่เหยียบขึ้นกระบะด้านข้างโดยเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ได้รับการติดตั้งจากโรงงานในทุกรุ่น (ยกเว้นรุ่นแชสซีส์แค็บ) “ถือเป็นครั้งแรกของกลุ่มตลาดกระบะตอนเดียว  ที่มีการติดตั้งกล้องมองหลัง และติดตั้งที่เหยียบขึ้นกระบะด้านข้าง ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่น”
กล้องมองหลังจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยในขณะถอยจอด  
โดยเฉพาะเมื่อของที่บรรทุกบดบังทัศนวิสัยในการขับขี่
และที่เหยียบขึ้นกระบะด้านข้างบันไดติดตั้งเพิ่มในรถรุ่นนี้  
จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น เมื่อต้องขนถ่ายสัมภาระจากด้านท้ายรถ


NISSAN NP300 NAVARA Single Cab ใหม่  ได้รับการออกแบบห้องโดยสารให้มีความสะดวกสบายด้วยพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง เบาะนั่งที่ออกแบบเพื่อช่วยให้อยู่ในท่านั่งที่สบาย พร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆอย่างครบครัน


ปอร์เช่ ขนทัพรถสปอร์ตสุดหรู ร่วมงาน BIG Motor Sale 2015

กรุงเทพฯ. ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ขอเชิญทุกท่านพบกับสุดยอดยนตกรรมจากค่ายรถยนต์ปอร์เช่ภายในงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2015 หรือ BIG Motor Sale 2015 มหกรรมยานยนต์เพื่อขายที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ระหว่างวันที่ 1 – 9 สิงหาคม 2015 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ซึ่งในครั้งนี้      เอเอเอสฯ ขนทัพยนตกรรมสปอร์ตที่ไม่ได้เป็นแค่รถยนต์ในคลาสหรู แต่ยังมาพร้อมกับความคุ้มค่าในทุกการขับขี่ อาทิ ปอร์เช่ มาคันน์ (Macan), พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid), คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด       (Cayenne S E–Hybrid) มากไปกว่านั้นยังเตรียมข้อเสนอและแคมเปญสุดพิเศษที่พลาดไม่ได้สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ปอร์เช่จากเอเอเอสฯ ภายในงานนี้เท่านั้น
ข้อเสนอสุดพิเศษเมื่อซื้อรถยนต์ปอร์เช่จากเอเอเอสฯ ภายในงาน
เริ่มต้นด้วยแคมเปญผ่อนเงินจอง 0% นาน 10 เดือนสำหรับบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย
มากกว่านั้น เอเอเอสฯ ขอมอบบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 100,000 บาท
พร้อมการรับประกันจากโรงงานปอร์เช่ ประเทศเยอรมนี นาน 9 ปี (9 years Factory Warranty)
การบริการดูแลและบำรุงรักษารถยนต์ปอร์เช่ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ นาน 4 ปี
(4 years Free Service Package)
รวมถึงรับจดหมายรับประกันการนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฏหมาย
มาคันน์ (Macan) ใหม่ล่าสุด รถสปอร์ตอเนกประสงค์ขนาดคอมแพ็ค (Compact SUV) จากปอร์เช่ ผู้นำมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ในกลุ่มนี้ ด้วยความคล่องตัวและความสนุกสนานในการขับขี่ ทุกๆ สภาวะของถนนด้วยการขับเคลื่อนที่  โดดเด่นแต่แรกเห็น ไม่ว่าจะเป็นอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยม ประสิทธิภาพการเบรกที่ทรงพลัง และรูปลักษณ์ภายนอกยังคงเส้นสายความเป็นสปอร์ต โดดเด่นด้วยด้านข้างตกแต่ง Slide Blades สี Lava Black ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น เครื่องยนต์ Bi-Turbo ขนาด 2 ลิตร 4 สูบ เบนซิน มาพร้อมกับ Turbocharging อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำเพียง 13.88 กิโลเมตร/ลิตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 233 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด Porsche Doppelkupplung (PDK) ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในโลก สามารถตอบสนองผู้ขับขี่ได้อย่างลงตัวทั้งในด้านสมรรถนะที่มีประสิทธิภาพ ความสะดวกสบายในการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันและสนุกสนานในทุกการขับขี่ อีกทั้งประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมให้ท่านครอบครองด้วยราคาเพียง 5.99 ล้านบาทเท่านั้น 
พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid) รถสปอร์ตซาลูนสุดหรูที่มาพร้อมความคุ้มค่า ด้วยสมรรถนะสูง     แต่ยังคงความเป็นสปอร์ต รถยนต์ไฮบริดที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ครบครันด้วยความสะดวกสบายอย่างไร้ที่ติ สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 36 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 135 กิโลเมตร/ชั่วโมง ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพียง 32 กิโลเมตร/ลิตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 5.5 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุด 270 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟด้วยกระแสไฟบ้านได้ในเวลาเพียงแค่ 4 ชั่วโมง พร้อมให้ท่านครอบครองด้วยราคา 10.25 ล้านบาทเท่านั้น
คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E–Hybrid)  รถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) ระดับพรีเมี่ยมคันแรกของโลกที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี แบตเตอรี่แบบความดันสูงสามารถชาร์จพลังงานผ่านอุปกรณ์ชาร์จหรือชาร์จระหว่างที่รถกำลังขับเคลื่อนได้ และอีกหนึ่งจุดที่โดดเด่นคือเบรกคาลิปเปอร์สีเขียว Acid ที่มาพร้อมกับคำว่า “Porsche” อย่างโดดเด่นสะดุดตา สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ไกลถึง   18-36 กิโลเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 5.9 วินาทีเท่านั้น ด้วยความเร็วสูงสุด 243 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมให้ท่านครอบครองด้วยราคา 7.99 ล้านบาทเท่านั้น
และพลาดไม่ได้สำหรับนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบในสินค้า Accessories ของรถยนต์ปอร์เช่ เพราะในงานนี้เอเอเอสฯได้นำสินค้าและของที่ระลึกต่างๆ จาก Porsche Driver’s Selection คอลเลคชั่นใหม่ ซึ่งได้รับการออกแบบตามแบบฉบับของความเป็นปอร์เช่ อาทิ โมเดลรถ เสื้อT-Shirt เสื้อโปโล หมวก พวงกุญแจและอีกมากมาย มาให้ทุกท่านได้เลือกเก็บสะสมในราคาพิเศษเฉพาะงานนี้เท่านั้น
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่  HYPERLINK "http://www.porsche.co.thwww.porsche.co.th

BIG Motor Sale 2015 เริ่มแล้ว 1-9 สิงหาคม ศกนี้ พบกับ World Premiere Cars รุ่นใหม่ 2 รุ่นที่เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย และอีกสารพัดรถรุ่นใหม่ พร้อมแคมเปญเด็ด ดันยอดตลาดรถไตรมาส 3 พุ่ง


งาน Bangkok International Grand Motor Sale 2015 หรือ BIG Motor Sale 2015 จัดโดย บริษัท ยานยนต์ สแควร์ กรุ๊ป จำกัด มหกรรมของยานยนต์ เพื่อขายแห่งชาติ ได้เปิดฉากแล้วอย่างยิ่งใหญ่อลังการ  ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบ เทค บางนา  ระหว่างวันที่ 1-9 สิงหาคม 2558   โดยได้รับเกียรติจาก ดร.อรรชกา  สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม  เป็นประธานในพิธีเปิดงาน      เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา  ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์  ชั้น 2  ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติในแวดวงอุตสาหกรรมรถยนต์ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่างๆ ที่เข้าร่วมแสดงผลิตภัณฑ์  ตลอดจนสื่อมวลชนทุกแขนง
นายจรวย  ขันมณี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยานยนต์ สแควร์ กรุ๊ป จำกัด ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน   เผยว่า    “ผมขอขอบคุณในความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกฝ่ายในวงการยานยนต์และรถจักรยานยนต์เมืองไทยที่ร่วมกันจัดหนัก จัดเต็มในงานนี้ เพื่อที่จะช่วยกันลบคำว่า “โลว์ซีซั่น” ให้หายไปกลายเป็น “นิวซีซั่น”  กระตุ้นตลาดรถไตรมาส 3 ให้พุ่งขึ้นไปด้วยกัน  ในฐานะผู้จัด เราเชื่อมั่นว่างาน BIG Motor Sale 2015 จะมีส่วนช่วยในการผลักดันยอดขายรถยนต์ในปีนี้ให้บรรลุถึงเป้าหมาย 750,000-800,000 คันตามที่รัฐบาลได้มุ่งหวังไว้ หลังจากตลาดรถยนต์เมืองไทยมีการชะลอตัวในช่วงครึ่งปีแรก นั่นเพราะงานนี้ได้เป็นที่รวมของรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดหลากหลายรุ่นที่พร้อมใจกันทยอยเปิดตัวในช่วงกลางปีนี้อย่างคึกคัก หรือมีการนำเสนอรถยนต์รุ่นพิเศษในแบบ Limited Edition และที่พิเศษกว่านั้น คือ งาน BIG Motor Sale 2015 ได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการรถยนต์ระดับโลกที่ตั้งใจกำหนดให้มีการเปิดตัว และจำหน่ายรถยนต์รุ่นใหม่ในระดับที่เรียกว่า World Premiere Cars หรือการเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยถึง 2 รุ่น       ให้คนไทยได้ชมและได้ใช้ก่อนเป็นชาติแรกก่อนที่จะส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก ได้แก่  “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” (Mitsubishi Pajero Sport) ที่มาเปิดตัวในวันเดียวกับพิธีเปิด งานในวันที่ 1 สิงหาคมนี้เช่นเดียวกัน  และ “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ โฉมใหม่” (Toyota All-New Fortuner) ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมาก็พร้อมให้จับจองเป็นเจ้าของ นอกจากนี้ยังมีมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์รุ่นใหม่ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องกับยานยนต์อีกมากมาย  รวมทั้งแต่ละค่ายยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสุดเพื่อกระตุ้นยอดขายกันอีกด้วย  ซึ่งทั้งหมดเป็นไฮไลท์ของงานในปีนี้  ที่เชื่อว่าจะเป็นที่ถูกใจของผู้ที่กำลังตัดสินใจจะซื้อรถอย่างแน่นอน”
งาน BIG Motor Sale 2015 จัดแสดงบนพื้นที่กว่า 37,000 ตารางเมตร เป็นงานจัดแสดงและจำหน่ายรถยนต์ รถปิกอัพ รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ และอุปกรณ์ตกแต่งที่เกี่ยวเนื่องกับยานยนต์ มีผู้ประกอบการ ผู้ผลิต/จำหน่าย และผู้บริหาร เข้าร่วมแสดงผลิตภัณฑ์ในงานจำนวนมาก   นับเป็นมหกรรมของยานยนต์เพื่อขายที่ครบวงจร มอบความคุ้มค่าให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เรียกว่าอยากได้รถ จบในงานเดียว มีทุกแบรนด์ ทุกระดับราคา นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมความบันเทิงมากมาย เพื่อความอลังการ ครบครัน สำหรับผู้เข้าชมงานตลอด 9 วัน ซึ่งไม่ควรพลาด  
 
“ตลาดที่น่าจับตามองในช่วงนี้ คือ ตลาดรถอเนกประสงค์ที่มาจากปิกอัพดัดแปลง หรือ     พีพีวี (PPV)  ซึ่งจะนำความสดใหม่และความเป็นรุ่น พิเศษมาเป็นไฮไลท์ของงาน  มีทั้งหมด 5 แบรนด์  ได้แก่ เชฟโรเลต เทลเบลเซอร์  (CHEVROLET Trailblazer) ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ (FORD Everest)   อีซูซุมิว-เอ็กซ์ (ISUZU MU-X) มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต (MITSUBISHI All-New Pajero Sport)  และ   โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ (TOYOTA All-New Fortuner)  5 แบรนด์ดังจัดใหญ่ จัดเต็มครบเครื่องแน่นอน และพลาดไม่ได้กับรถปิกอัพอีก 8 แบรนด์ ได้แก่ อีซูซุดีแมคซ์ (ISUZU D-Max) เชฟโรเลต    โคโรราโด (CHEVROLET Colorado) ฟอร์ด เรนเจอร์ (FORD Ranger) มาสด้า บีที-50 โปร (MAZDA BT-50 Pro) ที่จะเปิดตัวในวันที่ 7 สิงหาคม ก็มีมาให้ชมอย่างใกล้ชิดและเปิดรับจองในงานช่วงวันที่ 7-9 สิงหาคม มิตซูบิชิ ไทรทัน  (MITSUBISHI Triton) นิสสัน เอ็นพี300 นาวารา (NISSAN NP300 Navara)     โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว (TOYOTA Hilux Revo)  และ ทาทา ซีนอน (TATA Xenon)  ส่วนรถเก๋งซีดานที่แม้จะไม่มีโมเดลใหม่ แต่ก็มีรุ่นปรับโฉมใหม่มาให้เลือก  เช่น  ซูซูกิ เซียส (SUZUKI Ciaz)  เอ็มจี 6 (MG6)  และเชฟโลเล็ต ครูซ ที่มาเปิดตัวรุ่นลุ่ดและพร้อมจำหน่ายในงานนี้เช่นกัน    ซึ่งด้วยบรรยากาศที่เปี่ยมสุขของการซื้อ-ขายในครั้งนี้ ทำให้ผมพร้อมฟันธงว่าจะสร้างยอดขายรถยนต์มากกว่า 25,000 คัน โดยยอดขายรถกระบะดัดแปลง หรือ PPV   จะมียอดขายรวมเป็นอันดับหนึ่งไม่ต่ำกว่า 10,000 คัน  รถปิกอัพ 10,000 คัน และรถเก๋งซีดาน 7,000 คัน และสร้างสถิติใหม่ยอดขายบิ๊กไบค์มากกว่า 4,000 คัน    เงินสะพัดในงานมากกว่า 30,000 ล้านบาท  และมียอดผู้เข้าชมงานมากกว่า 1,300,000 คนแน่นอน”  นายจรวยกล่าว
 
สำหรับแคมเปญพิเศษ และกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นๆ ทั้งการให้ของแถม จัดชิงโชค ส่วนลดพิเศษ และร่วมสนุกต่างๆ ของแต่ละบูธในงานขอให้ติดตามกันอย่างใกล้ชิด ผ่านสื่อออนไลน์ facebook : Bigmotorsale   ส่วนกิจกรรมชิงโชคหลักของงานที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมงานทุกท่านมีสิทธิ์ลุ้นโชคจากบัตรเข้าชม งาน  ชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1,846,000 บาท ได้แก่ รถยนต์ 3 รางวัล ได้แก่ รถยนต์ซูซูกิ เซียส (SUZUKI Ciaz) รถยนต์มิตซูบิชิ แอททราจ (MITSUBISHI Attrage) รถยนต์เอ็มจี3  (MG3) และรถมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า แกรนด์ ฟิลาโน (YAMAHA Grand Filano)  อีก 6 รางวัลอีกด้วย
เช่นเดียวกับปีที่แล้ว ยานยนต์ สแควร์ กรุ๊ป จะหักรายได้จากการขายบัตร 10 บาทต่อบัตร ไม่ว่าจะจำหน่ายในราคาเต็ม 100 บาท หรือจำหน่ายครึ่งราคาจากการใช้คูปองลดราคาต่างๆ เหลือ 50 บาท  เพื่อมอบให้สภากาชาดไทยเพื่อการกุศล  พร้อมกับเปิดจุดให้สภากาชาดรับบริจาคอวัยวะและร่างกายเพื่อการศึกษาอันเป็นกุศลทานอันสูงสุดเพื่อช่วยชีวิตผู้อื่นอีกต่อไปฟรีต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีในส่วนของกรมการขนส่งทางบกที่จะมาเปิดให้บริการทำใบขับขี่แบบสมาร์ทการ์ด มอบความสะดวกให้แก่ผู้เข้าชมงาน
 
“งานนี้ผมตั้งใจมากๆ ไม่ต้องการคำว่า “กำไร” แต่อยากได้ “ใจ”  ต้องการลงมือทำเพื่อเป็นแรงสนับสนุนให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง  ต้องการให้งานนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของผู้บริโภค และผู้ประกอบการด้านยานยนต์  เป็นเทศกาลงานขายที่มีความครบวงจร เราภูมิใจที่ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่การจัดงานขายรถในช่วงที่ไม่น่าเป็นไปได้ ให้เป็นไปได้  ภูมิใจที่ทำให้รถขายได้เยอะในช่วงฤดูวิกฤตเพื่อช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ไตรมาส 3 ให้พุ่งขึ้นจากเดิมที่เคยเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของตลาดรถยนต์เมืองไทย แค่นี้เราก็ถือว่าเป็นความสำเร็จระดับบวกบวกแล้วครับ”  ประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน BIG Motor Sale 2015 กล่าวทิ้งท้าย

งาน BIG Motor Sale 2015 จัดระหว่างวันที่ 1-9 สิงหาคม ศกนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบ เทค บางนา  โดยได้จัดโปรโมชั่นร่วมกับร้าน 7-Eleven  โดยการซื้อสินค้าผ่านบัตร 7-Card ครบ 40 บาทขึ้นไป สามารถนำใบเสร็จดังกล่าวมาแลกรับส่วนลดค่าบัตรเข้างานได้ถึง 50 % จากราคาปกติ 100 บาท เหลือเพียง 50 บาท   เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายนเป็นต้นมา หรือเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. สามารถขอรับบัตรฟรี 1 บัตรต่อ 1 ใบเสร็จ ได้ตั้งแต่ 10 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม หรือการใช้บริการโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสเพื่อมาชมงาน BIG Motor Sale 2015 ที่ไบเทค  สามารถซื้อบัตรเข้าชมงานในราคา 50 บาทเช่นกัน
สำหรับผู้จองหรือซื้อรถ ทั้งรถยนต์และบิ๊กไบค์ในงาน สามารถนำเอกสารการจองหรือซื้อมารับตุ๊กตา JR Mascot ได้คันละ 1 ตัว แจกไม่อั้น จัดตามจำนวนความคาดหมายตัวเลขการซื้อขายของรถในงาน

เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ มาแรง ส่งมาสด้าขึ้นแท่นครองอันดับ 3 ครึ่งปีหลังเสริมทัพอีก 3 รุ่นรวด ทั้งปิกอัพ สปอร์ต รถอเนกประสงค์


รุงเทพฯ ประเทศไทย, 28 กรกฎาคม 2558 - บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยตัวเลขยอดขายรถยนต์มาสด้าประจำเดือนมิถุนายน 2558 ทะลุ 2,900 คัน สามารถขยับขึ้นมาครองอันดับที่ 3 ของตลาดรถยนต์นั่งได้สำเร็จ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะรถยนต์ภายใต้เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ทั้ง 3 รุ่น ในขณะที่รถยนต์นั่งมาสด้า3 ก้าวขึ้นครองอันดับที่2 ของตลาด C-Segment ส่วนแบ่งการตลาด 18% รถยนต์นั่งมาสด้า2 ครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 11% นี่คือบทพิสูจน์ในความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์จนทำให้ลูกค้าเกิดความความเชื่อมั่นใน    แบรนด์มาสด้าจนสามารถยืนหยัดและรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ได้ ส่งผลให้ยอดขายรวมครึ่งปีแรกยังสดใสสามารถเติบโตทะลุ 16,000 คัน ลั่นครึ่งปีหลังรุกหนักรอบทิศทาง เตรียมส่งรถใหม่เสริมทัพอีก 3 รุ่นรวด ครอบคลุมเซ็กเม้นต์หลักๆ ทั้งปิกอัพ รถสปอร์ต และรถอเนกประสงค์

นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยในครึ่งปีแรกยังคงชะลอตัว โดยได้รับผลพวงอย่างเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ 6 เดือนแรกของตลาดอยู่ที่ประมาณ 368,000 คัน หรือลดลงประมาณ 16% ส่วนในครึ่งปีหลังคาดว่าสถานการณ์มีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้น ในส่วนของมาสด้ายอดการขายโดยรวมยังคงทรงตัวไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 16,837 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งแม้ว่ายอดขายจะทรงตัวแต่ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
สำหรับยอดขายรถยนต์มาสด้าในเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา มียอดขายรวมทั้งสิ้น 2,939 คัน โดยรุ่นที่มียอดขายสูงสุดได้แก่รถยนต์นั่งมาสด้า2 มียอดขายสูงถึง 1,513 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 158% และครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดถึง 11% ก้าวขึ้นมาครองอันดับที่ 5 ของตลาดบีคาร์รวมกับอีโคคาร์ และกำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมียอดขายเพิ่มขึ้นทุกๆ เดือน ถัดมาได้แก่รถยนต์นั่งมาสด้า3 มียอดขาย 557 คัน สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 18% ก้าวขึ้นมาครองอันดับ 2 ของตลาดซีเซ็กเม้นต์ ตามมาด้วยรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ยอดขายรวม 653 คัน และรถอเนกประสงค์มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 มียอดขายรวม 216 คัน ทั้งนี้ในเดือนมิถุนายนสำหรับตลาดรถยนต์นั่ง มาสด้าสามารถก้าวขึ้นมาครองอันดับ 3 ในตลาดได้สำเร็จ ด้วยยอดขายรวมทั้งสิ้น 2,070 คัน
ในขณะที่ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มาสด้าดำเนินนโยบายการตลาดในเชิงรุกทั้งด้านการขายและบริการหลังการขาย จากการประเมินสภาวะการตลาดรถยนต์ไทยในช่วงที่ผ่านมาได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และกำลังจะทะยานขึ้น โดยตลาดเก๋งของมาสด้าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมาสด้า2 ได้รับกระแสตอบรับเพิ่มขึ้นอย่างมากๆ จากการประเมินตั้งแต่ต้นปีเราคิดว่าตลาดรถเก๋งเล็กและขนาดกลาง รวมถึงตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ยังมีแนวโน้มและทิศทางที่เป็นบวก และยอดขายรถเก๋งของเราเติบโตเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะมาสด้า2 เรามียอดการจำหน่ายรวมทั้งสิ้น7,220 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 110% มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 7% และคาดว่าเดือนกรกฎาคมนี้จะเพิ่มขึ้นทะลุ 1,800 คัน
ในส่วนของรถรถยนต์ภายใต้เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนให้มาสด้าเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาสด้า3 โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 3,751 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 4% ครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 17% ส่วนอเนกประสงค์เอสยูวี Mazda CX-5 ยอดการจำหน่ายก็เป็นไปในทางที่ดีเช่นกัน ปัจจุบันมียอดขายรวมทั้งสิ้นสูงถึง1,734 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 4% ส่วนยอดขายรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร อยู่ที่ 4,117 คัน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และคาดว่ายอดการจำหน่ายจะเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากมาสด้ากำลังจะเปิดตัวเข้าสู่ตลาดในเร็วๆ นี้
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่าในช่วงครึ่งปีแรกนั้นมาสด้าให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการนำรถยนต์มาสด้า2 ใหม่ ทั้งเครื่องยนต์คลีนดีเซลและเครื่องยนต์เบนซิน เข้าสู่ตลาด ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม พร้อมกับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้นส่งผลให้วันนี้มาสด้า2 กลายเป็นรถยนต์นั่งที่ร้อนแรงที่สุดในยุคนี้ และในช่วงเวลา 5 เดือนกว่าจากนี้ไป มาสด้าพร้อมรุกเต็มที่ เราคาดว่าตลาดจะกลับมาดีขึ้นอย่างมาก เห็นได้จากเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนยอดขายเริ่มดีขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าในช่วงครึ่งหลังปีนี้มาสด้าเตรียมเปิดตัวรถยนต์หลายรุ่นที่จะเสริมทัพเข้ามาทำตลาด ได้แก่ รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ รถสปอร์ตโรดสเตอร์ มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 และรถยนต์อเนกประสงค์ที่ทุกคนรอคอย มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่มีรสนิยมแตกต่างไม่เหมือนใคร
นอกจากนี้การผลักดัน เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ให้เป็นที่ประจักษ์และประสบผลสำเร็จในทุกตลาด คือ เป้าหมายหลักในการดำเนินธุรกิจของมาสด้าในอนาคต การคิดค้นนวัตกรรมใหม่คือหัวใจสำคัญของมาสด้า เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ที่มาสด้ามุ่งมั่นพัฒนาเพื่อให้เครื่องยนต์เผาไหม้ภายในทำงานได้อย่างเหมาะสมให้ผลลัพธ์สูงสุดและงานวิศวกรรมที่ใช้วัสดุน้ำหนักเบา เทคโนโลยีเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ในรถมาสด้าใหม่ทุกรุ่น และเป็นยานยนต์สีเขียวที่มีราคาไม่แพง เทคโนโลยีนี้จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้ามาสด้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่มาสด้านำมาผลิตกับรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งคัน ที่สำคัญลูกค้าสามารถรับรู้และสัมผัสถึงประสิทธิภาพของตัวรถจนเกิดการบอกต่อปากต่อปากทำให้ความร้อนแรงของมาสด้าแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
“มาสด้ามุ่งมั่นเพื่อยกระดับแบรนด์สู่ความเป็นพรีเมียม ภายใต้แนวคิด สึนาการิ (Tsunagari)” อันเป็นปรัชญาของมาสด้าในการมุ่งมั่นพัฒนาให้กลายเป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่ลูกค้าเลือก ในครึ่งหลังของปีนี้ มาสด้าก็ยังคงมุ่งเน้นการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นให้เป็นพรีเมียมแบรนด์ และสร้างความแตกต่างของแบรนด์มาสด้าให้เด่นชัดยิ่งขึ้น อันจะเห็นได้จากการปรับรูปลักษณ์ของโชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและยกระดับภาพลักษณ์ของโชว์รูมให้ดูพรีเมียมมากขึ้น” นายธีร์ กล่าวเสริม
ยอดการจำหน่ายรถยนต์มาสด้าประจำเดือนมิถุนายน 2558 เปรียบเทียบกับปี 2557
ข้อมูลขายรถ
มิถุนายน 2558
มิถุนายน 2557
ส่วนแบ่งการตลาด
มาสด้า2
1,513
586
10.6%
มาสด้า3
557
846
18.3%
มาสด้า CX-5
216
606
3.2%
มาสด้า บีที-50 โปร
653
1,084
2.3%
ยอดขายมาสด้า
2,939
3,127
4.9%
ยอดการจำหน่ายรถยนต์มาสด้าเปรียบเทียบ ปี 2557-2558
ข้อมูลขายรถ
6 เดือน ปี 2558
6 เดือน ปี 2557
เปลี่ยนแปลง%
ส่วนแบ่งการตลาด
มาสด้า2
7,220
3,435
+ 110
6.9%
มาสด้า3
3,751
3,618
+ 4
16.8%
มาสด้า CX-5
1,734
2,974
- 42
4.1%
มาสด้า บีที-50 โปร
4,117
7,109
- 42
2.6%
พรีเมียมคาร์
15
12
+ 25
na
ยอดขายมาสด้า
16,837
17,144
- 1.8
4.6%

ทำไมต้องเหมือนใคร??? ฮอนด้าปลุกกระแสความเท่นอกกรอบครั้งใหม่ เปิดตัว All New Zoomer-X เอ.ที.ดีไซน์ใหม่สไตล์ Real Naked ชูคอนเซปต์ Unblocker I AM



เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำเทรนด์แห่งเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์นอกกรอบด้วยการเปิดตัว All New Zoomer-X รถเอ.ที.แบบเปลือยดีไซน์ใหม่ ที่ให้ทั้งความเท่และดิบยิ่งกว่าเดิมด้วยโครงสร้างเหล็กแบบทัฟเฟรมรอบคัน โชว์ความเปลือยของตัวถังแบบ Real Naked รับกับขนาดของพื้นที่ใต้เบาะขนาดใหญ่ที่สะกดทุกสายตาด้วยดีไซน์โปร่งรอบด้านอย่างลงตัว ไฟหน้าแบบใหม่ออกแบบให้มีความดุดันมากขึ้น ล้ำสมัยด้วยหน้าปัดเรือนไมล์แบบ Full Digital LCD รองรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยโช้กหัวกลับที่รองรับแรงกระแทกได้ดีกว่า ขับขี่สนุกเร้าใจและประหยัดขึ้นอีกระดับด้วย Honda Smart Technology เตรียมวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่ 4 สิงหาคม 2558 ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศด้วยราคาแนะนำโดยประมาณที่ 55,300 บาท พร้อมดึง Influencers หรือผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อกลุ่มคนที่ไม่ชอบดำเนินชีวิตเหมือนใคร และมีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตแบบสร้างสรรค์มาร่วมจุดประกายแนวคิดผ่านแคมเปญออนไลน์ภายใต้คอนเซปต์ Unblocker I AM เพื่อให้กลุ่มคนที่อยากใช้ชีวิตอย่างแตกต่างได้ออกมาแสดงความเป็นตัวของตัวเอง

          นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.  ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยเปิดเผยว่า ฮอนด้าไม่เคยหยุดนิ่งในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนไทยด้วยดีไซน์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย และที่สำคัญที่สุดคือการนำเสนอไลฟ์สไตล์ใหม่ๆให้กับผู้ขับขี่ ดั่งที่เราได้เปิดตัวรถ Zoomer-X เจเนอเรชันแรกในปี 2012 จนได้รับการตอบรับอย่างเหนือความคาดหมายทันทีที่วางตลาด เพราะ Zoomer-X เป็นรถที่แตกต่างจากรถกระแสหลัก ก่อให้เกิดเทรนด์ใหม่ในกลุ่มคนที่ไม่อยากเหมือนใครได้มีโอกาสแสดงออกให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงผ่านการตกแต่ง Zoomer-X ในสไตล์ที่ชอบ

ในปี 2015 นี้ เราได้พัฒนา All New Zoomer-X ขึ้นใหม่ เป็นเจเนอร์เรชันที่ 2 ที่เหนือระดับขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการออกแบบให้เป็นรถสำหรับผู้ใช้ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และกล้าที่จะคิดและทำอย่างแตกต่าง ดังนั้นดีไซน์ของรถจึงมีรูปแบบฟรีฟอร์ม ดูแข็งแกร่งมากขึ้น มีส่วนที่โปร่งหรือพื้นที่ว่างมากขึ้น ในขณะเดียวกันเรายังได้นำเทคโนโลยีชั้นสูงอย่าง Honda Smart Technology เข้ามาติดตั้งในรถรุ่นนี้เป็นครั้งแรก เพื่อความสมบูรณ์แบบและความลงตัวระหว่างดีไซน์ สมรรถนะ ความมั่นใจและความประหยัด

ในส่วนของการทำการตลาด ครั้งนี้เราได้ดึงตัว influencers หรือผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อผู้ที่ชอบความแตกต่างและมีคาแรกเตอร์ตรงกับ All New Zoomer-X รวม 10 รายมาร่วมจุดประกายแนวคิดนอกกรอบผ่านมินิอาร์ตแกลลอรี่ แล้วนำไปจัดแสดงตามสถานที่ที่เป็นจุดนัดพบของคนรุ่นใหม่ พร้อมกับทำแคมเปญออนไลน์เพื่อสร้างการรับรู้ผ่านแฮชแท็ก I AM NOT และแฮชแท็ก Unblocker I AM ให้ทุกคนได้แสดงความเป็นตัวของตัวเองอย่างสร้างสรรค์ โดย Influencers เหล่านี้ต่างก็มาจากหลากหลายวงการ หลากหลายอาชีพ แต่ละคนล้วนแต่มีสไตล์ของตัวเองไม่นิยมเลียนแบบความคิดของใคร จึงได้รับการยอมให้เป็นผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดอย่างแท้จริง

      สำหรับ All New Zoomer-X ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งคันภายใต้คอนเซปต์ “Unblocker I AM” ให้อารมณ์ของความเท่และดิบยิ่งกว่าเดิมด้วยโครงสร้างเหล็กแบบทัฟเฟรม (Tough Frame) เน้นความโปร่งเป็นพิเศษในสไตล์เรียลเนคเกด (Real Naked) พื้นที่ Free Space ขนาดใหญ่ไซส์ XL ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ออกแบบให้มีความดุดันมากขึ้น เข้าชุดกับโช้กหัวกลับรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ทุกสภาพถนน แผงหน้าปัดสุดล้ำแบบ Full Digital LCD พร้อมล้อแม็กดีไซน์ใหม่และยางแบบจุ๊บเลส

All New Zoomer-X ล้ำหน้าด้วย Honda Smart Technology ที่รวมที่สุดของ 3 เทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบเข้าไว้ด้วยกัน ประกอบด้วยเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง eSP(Enhanced Smart Power) ขนาด110ซีซี ระบบหัวฉีด PGM-FIที่มีระบบการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ สมรรถนะสูง แรงเสียดทานต่ำ ทำงานร่วมกับระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ Idling Stop System จึงมีอัตราประหยัดน้ำมันที่สูงถึง 62.3 กิโลเมตร/ลิตร (วัดตามมาตรฐาน สมอ. ECE R40 Mode) และติดตั้งระบบกระจายแรงเบรกหน้-หลัง Combi Brake System เพื่อความมั่นใจ ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยค่าไอเสียที่สะอาดผ่านมาตรฐานระดับ 6 และรองรับน้ำมัน E20

         เอ.พี. ฮอนด้าพร้อมวางจำหน่าย All New Zoomer-X พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที4 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไป ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ ด้วยราคาแนะนำโดยประมาณที่ 55,300 บาท มีให้เลือกถึง 6 สีได้แก่สีดำออบซิเดียนแบล็ค, สีขาวไอคอนิคไวท์, สีแดงเลเซอร์เรด, สีเงินกรู๊ฟวี่ซิลเวอร์, สีน้ำเงินแมกเนติคบลู, และสีเหลืองซูพรีมเยลโลว์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนอกกรอบทางอินสตาแกรมและเฟซบุ๊คเพียงติดแฮชแท็ก #UNBLOCKERIAM

อัพเดทข่าวสารของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้ทางเว็บไซต์ www.aphonda.co.th และ เฟซบุ๊คwww.facebook.com/hondamotorcyclethailand

ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด จับมือ โตโย ไทร์ ค่ายยางยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น ลุยขยายตลาดยางรถยนต์ในไทย เดินหน้าเต็มกำลังเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด



เดินหน้าสร้างปรากฎการณ์ให้กับวงการยางรถยนต์เมืองไทยอย่างต่อเนื่อง สำหรับ “บริษัท          ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยางรถยนต์นำเข้าชั้นนำของเมืองไทย ที่ล่าสุดผนึกกำลังครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งกับ “บริษัท โตโย ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด (Toyo Tire & Rubber Co.,Ltd.) ประเทศญี่ปุ่น” แถลงข่าวเปิดตัว ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย ยางโตโย ไทร์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยมี นายอภิชัย  ตั้งวงศ์ศิริ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด พร้อมด้วย Mr.Takashi Shimizu, Senior Corporate Officer. General Manager, Tire Planning Division, Tire Business Group Headquarters. บริษัท โตโย ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด (Toyo Tire & Rubber Co.,Ltd.) เป็นประธานในการแถลงข่าว ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2558
จากความสำเร็จของ บริษัท ต.สยามฯ ในการเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยางรถยนต์นำเข้า ตลอดระยะเวลา 46 ปี ที่ผ่านมา รวมถึงการขยายตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง และการได้รับการยอมรับจากทั้งร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และจากลูกค้าทั่วประเทศ ในประสิทธิภาพของยางรถยนต์ภายใต้การนำเข้า และบริการหลังการขายของ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด จึงทำให้  บริษัท โตโย ไทร์ ประเทศญี่ปุ่น บริษัทแม่ผู้ผลิตยางรถยนต์โตโย ไทร์ เล็งเห็นศักยภาพของ บริษัท ต.สยามฯ จึงได้แต่งตั้งให้เป็นผู้นำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายยางโตโย ไทร์ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมเปิดตัวแคมเปญใหม่ “ขับสบายไร้กังวล บาด บวม แตก ตำ เปลี่ยนฟรี 60 วัน” เมื่อซื้อยางโตโย ไทร์ และยางนิตโตะ ทุกรุ่น ตั้งแต่      1 ส.ค. – 31 ธ.ค. 2558 นี้ ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ ทั่วประเทศ
ยางโตโย ไทร์ ยางนำเข้าจากต่างประเทศ 100% ชูจุดเด่น เป็นยางรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูง สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ยางสำหรับรถสปอร์ต, รถซีดาน, รถยนต์ประเภทเอสยูวีและรถขับเคลื่อน ล้อ, รถปิคอัพหรือรถบรรทุกขนาดเล็ก ตลอดจนรถยนต์นั่งขนาดกลางหรือขนาดเล็ก ด้วยเทคโนโลยีวิศวกรรมการผลิตขั้นสูงจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ได้ยางรถยนต์ที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นผิวถนนของประเทศไทยมากที่สุด ทั้งสมรรถนะการยึดเกาะถนนและความนุ่มนวลในการขับขี่ รวมถึงประสิทธิภาพในการลดเสียงรบกวนขณะขับขี่บนพื้นถนน จึงทำให้ยางโตโย ไทร์ มีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมพร้อมมอบความปลอดภัยสูงสุดบนท้องถนน

“นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัทฯ ที่ได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท โตโย ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย “ยางโตโย ไทร์” ซึ่งเป็นแบรนด์ยางรถยนต์อันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นยางรถยนต์ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ทั้งจากในด้านมอเตอร์สปอร์ต และการสนับสนุนกีฬาระดับโลกอย่างมากมาย ซึ่งหลังจากนี้ทางบริษัทฯ เตรียมเดินหน้ารุกตลาดยางรถยนต์แบบเต็มกำลัง พร้อมกลยุทธ์และแผนการตลาดสำหรับการจัดจำหน่ายยางโตโย ไทร์ ผ่านการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ อย่างครบวงจรเต็มรูปแบบ อาทิ โทรทัศน์, วิทยุ, ป้ายโฆษณา, สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อด้านดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง ทั้งเฟสบุ๊ค, อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ รวมถึงการเป็นผู้สนับสนุนรายการมอเตอร์สปอร์ตแถวหน้าของเมืองไทยหลากหลายรายการ พร้อมกิจกรรมทางการตลาด และการส่งเสริมการขายอื่นๆ ทั้งที่จัดร่วมกับร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และการจัดโรดโชว์ไปยังหัวเมืองต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคทั่วประเทศ โดยในปีนี้ ตั้งเป้าขยายร้านค้าตัวแทนจำหน่ายให้ครบ 500 ร้านค้าทั่วประเทศ เพื่อรองรับความต้องการตลาดยางรถยนต์ในไทย และการบริการลูกค้าที่ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่มากยิ่งขึ้น
และด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ในการเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยางรถยนต์ชั้นนำระดับแนวหน้าของประเทศ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาโดยตลอด จากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศและลูกค้าที่ไว้วางใจในประสิทธิภาพและสมรรถนะของยางรถยนต์ ภายใต้การนำเข้าของบริษัท ต.สยามฯ จึงทำให้ตนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ยางโตโย ไทร์ จะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ยางรถยนต์นำเข้า ที่จะได้รับการตอบรับจากตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภคที่ดีด้วยเช่นกัน และเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ยางรถยนต์ที่จะอยู่ในใจผู้บริโภคทุกครั้งที่นึกถึงยางคุณภาพ “ยางโตโย ไทร์” พร้อมให้ผู้บริโภคสัมผัสอีกหนึ่งนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะจากญี่ปุ่น ขับเคลื่อนด้วยสมรรถนะระดับโลก พร้อมการรับประกันคุณภาพจากการผลิต    ตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งมีเพียงเจ้าเดียวในประเทศไทย พร้อมอีกหนึ่งแคมเปญใหม่ “ขับสบายไร้กังวล บาด บวม แตก ตำ เปลี่ยนฟรี 60 วัน” ตั้งแต่ ส.ค. – 31 ธ.ค. 2558 นี้ ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายยางของ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล ทั่วประเทศกว่า 400 ร้านค้าในปัจจุบัน” นายอภิชัย กล่าวปิดท้าย
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved