Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

อ้างอิง

อ้างอิง 

  • http://www.iwebgas.com/smf/index.php?topic=925.0;wap2
  • http://safe-a.orgfree.com/page12.html
  • http://www.tatc.ac.th/external_newsblog.php?links=4453
  • http://www.tatc.ac.th/external_newsblog.php?links=4446
  • http://www.srdriving.com/main/content/view/64/54/
  • http://www.uttvc.ac.th/uttvc/wbi2553/safety1.html
  • http://www.rmutphysics.com/charud/howstuffwork/howstuff1/engine/enginethai8.htm

นับถอยหลังสู่ TiT 2015“มหกรรมรถบรรทุกนานาชาติ” ครั้งแรกในอาเซียน นิชิโอะฯ ผนึกกำลัง สหพันธ์ขนส่งฯ ขนทัพนวัตกรรมรถบรรทุก ขยายฐานการขนส่งสู่ AEC


กรุงเทพฯ 2558 ; นิชิโอะ – พาราบ๊อกซ์ ทุ่มทุนจัดงาน Thailand International TRUCK SHOW 2015 (TiT 2015) ครั้งแรกในประเทศไทย จำลองต้นแบบจาก “Tokyo Truck Show” เสริมทัพด้วยสหพันธ์การขนส่งทางบกฯ จัดประชุม AEC Logistics Summitขานรับสหพันธ์การขนส่งทางถนนแห่งอาเซียน  พุ่งเป้าการพัฒนาระบบขนส่งด้วยรถบรรทุก โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 กันยายน 2558 ฮอลล์ 7-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
Mr.Kazunori Shibamotoประธานคณะกรรมการจัดงาน Thailand International TRUCK SHOW กล่าวว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน การเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้มาจากภาคอุตสาหกรรมการขนส่ง ดังนั้นเราจึงวางเป้าหมายหลักคือต้องการให้ระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทยมีความเติบโตก้าวหน้า มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถเชื่อมโยงกับระบบขนส่งกับกลุ่มประเทศ AEC ได้อย่างแท้จริง ดังนั้น บริษัท นิชิโอะ เร้นท์ ออล จำกัด ผู้มีความชำนาญในการติดตั้งและการจัดงานแสดงจากประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท พาราบ๊อกซ์ จำกัด ผู้ริเริ่มงาน Tokyo Truck Show จึงได้ตัดสินใจจัดงานนี้ขึ้นภายใต้แนวคิด Buyers Meet Sellers, TRUCK Day!
“รูปแบบงานคือ Business to Business หรือ B2B เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อและผู้ขายเจรจาธุรกิจกันโดยตรง ผู้ประกอบการด้านขนส่งสามารถมองหารถบรรทุกและอุปกรณ์ตรงตามความต้องการได้ภายในงาน และผู้ผลิตสามารถนำเสนอขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ซื้อได้โดยตรง นับว่างาน TiT 2015 ครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นศักราชใหม่ของวงการรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ของภูมิภาคอาเซียน และเป็นโอกาสของผู้ผลิตที่จะเพิ่มฐานลูกค้า, ตลาดสินค้าและบริการใหม่ๆ ได้ภายในงานอีกด้วย
Mr. Yukio Okuda  เลขาธิการคณะกรรมการจัดงาน เปิดเผยว่าTiT 2015 เจาะจงที่กลุ่มรถบรรทุก แนวทางการจัดงานมีความชัดเจน นับว่ามีความแตกต่างจากการจัดงานอื่นๆ ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนี้จะเป็นมหกรรมงานรถบรรทุกที่ยิ่งใหญ่ครั้งแรกของเมืองไทย ที่สำคัญคือการได้รับความร่วมมือจากองค์กรและสมาคมต่างๆ โดยเฉพาะสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ในการร่วมกันประชาสัมพันธ์และเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าชมงาน เรามั่นใจว่าจะได้รับความสนใจทั้งจากผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน รวมถึงจะมีผู้ประกอบการจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกเข้าร่วมงาน เพื่อนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านยานยนต์บรรทุกอย่างแน่นอน
คุณยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ร่วมจัดงานกล่าวว่า สหพันธ์ร่วมกับสมาคมต่างๆ 12 สมาคมด้านการขนส่งในประเทศไทย ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์การจัดงานโดยวางแผนร่วมกันมากว่า 1 ปีแล้ว และในปีหน้าจะก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) นับเป็นโอกาสอันดีที่งานนี้จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจภาคการขนส่งทางถนนของประเทศ ให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น
“จุดมุ่งหมายของการจัดประชุม AEC Logistics Summit ในหัวข้อ “Enhanced Cooperation towards an ASEAN Land Transport Federation”เพื่อวางกรอบมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกันคือ “สหพันธ์การขนส่งทางถนนแห่งอาเซี่ยน” โดยมีคุณสัญญวิทย์ เศรษฐโภคิน นายกสมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย เป็นประธานการจัดงานประชุมความร่วมมือ 10 ประเทศอาเซียนในครั้งนี้”

เตรียมนับถอยหลังร่วมกัน วันที่ 17-19 กันยายน 2558 ฮอลล์ 7-8  อิมแพ็ค เมืองทองธานี

มาสด้าเสริมทัพผู้บริหารสร้างความแข็งแกร่งให้องค์กร เน้นสร้างความพึงพอใจสูงสุดกับลูกค้า


กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 18 สิงหาคม 2558 – บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเสริมทัพผู้บริหารเพื่อเพิ่มศักยภาพการบริหารงานขององค์กร ดึงผู้บริหารระดับสูงฝีมือฉกาจจากเอเอที นายชาญชัย ตระการอุดมสุข เข้ามาดำรงตำแหน่งรองประธานบริหารอาวุโส เพื่อเน้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้เกิดความแข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว ภายใต้นโยบายการทำงานเป็นทีม “One Mazda” หลอมรวมทุกหน่วยงานเข้าสู่รูปแบบการทำงานร่วมกันอย่างมืออาชีพ ให้ก้าวไปสู่เป้าหมายที่วางไว้
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า การเสริมทัพในครั้งนี้สำคัญอย่างยิ่งสำหรับมาสด้า เนื่องจากคุณชาญชัย ถือเป็นผู้บริหารที่ทำงานร่วมกับมาสด้ามาตั้งแต่เริ่มสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ออโต้อัลลายแอนซ์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ และในอุตสาหกรรมรถยนต์ จึงเป็นจุดแข็งที่สามารถยกระดับการบริหารงานขององค์กรสู่ความเป็นสากลมียุทธศาสตร์ในการทำงานเด่นชัด โดยการเสริมทัพในครั้งนี้มีเป้าหมายในการสร้างความพอใจแก่ลูกค้าสูงสุดในทุกๆองค์ประกอบ

สำหรับคุณชาญชัย ตระการอุดมสุข เริ่มทำงานกับมาสด้ามาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2558 เป็นต้นมา ในตำแหน่ง รองประธานบริหารอาวุโส ฝ่ายวางแผนองค์กร โดยคุณชายชัยมีประสบการณ์การทำงานอย่างยาวนานโดยเริ่มทำงานในตำแน่งผู้จัดการมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโรงงานจนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลากว่า 20 ปีและล่าสุดดำรงตำแหน่งรองประธานบริหารอาวุโส โรงงานผลิตรถยนต์มาสด้า ออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย

มาสด้าเปิดโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติ สกายแอคทีฟ แห่งแรกของประเทศ งบลงทุนกว่า 7.3 พันล้าน


  • โรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟแห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น
  • เงินลงทุนมหาศาล 26,000 ล้านเยน หรือ กว่า 7,300 ล้านบาท
  • กำลังการผลิตสูงถึง 400,000 ลูกต่อปี
ชลบุรี – ประเทศไทย, 10 สิงหาคม 2558 – มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับ มาสด้า พาวเวอร์เทรน เมนูแฟคเจอร์ริ่ง ประเทศไทย พร้อมด้วย มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ประกาศเริ่มเปิดสายการผลิตเกียร์อัตโนมัติ สกายแอคทีฟ อย่างเป็นทางการ โรงงานแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี นับเป็นโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟแห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 26,000 ล้านเยน หรือ ประมาณ 7,300 ล้านบาท เพื่อทำการผลิตชุดเกียร์อัตโนมัติ SKYCATIV-DRIVE ด้วยกำลังการผลิต 400,000 ยูนิต ต่อปี ซึ่งการผลิตเกียร์อัตโนมัติในครั้งนี้เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของมาสด้า ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟของมาสด้า สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วและเริ่มเดินสายการผลิตในวันนี้ เพื่อป้อนเข้าสู่โรงงานผลิตรถยนต์ออโต้อัลลายแอนซ์  และเพื่อทำการส่งออกสู่ตลาดทั่วโลก
มาสด้าจัดพิธีเฉลิมฉลองเปิดสายการผลิตเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ ณ โรงงานมาสด้า พาวเวอร์เทรน เมนูแฟคเจอร์ริ่ง ประเทศไทย ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีฯ โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากสำนักงานใหญ่มาสด้าประเทศญี่ปุ่นเข้าเฝ้ารับเสด็จฯ ประกอบด้วย นายมาซามิชิ โคไก ประธานและซีอีโอ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น นายฮิเดโนริ คาวากามิ ประธานกรรมการ มาสด้า พาวเวอร์เทรน เมนูแฟคเจอร์ริ่ง ประเทศไทย และนายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ให้เกียรติเดินทางมาร่วมงานเพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการ เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟอันผลิตขึ้นที่นี่นับเป็นการส่งต่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่นสู่ประเทศไทย ซึ่งจะทำให้มาสด้าสามารถเพิ่มศักยภาพของการเป็นผู้ผลิตทั้งการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์เทคโนโลยีขั้นสูงได้อย่างครอบคลุมและเป็นส่วนสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สำหรับเกียร์อัตโนมัติ สกายแอคทีฟ ที่ผลิตขึ้นนี้จะผลิตเพื่อป้อนให้กับโรงงานที่ทำการผลิตรถยนต์นั่งมาสด้า2 รถยนต์นั่งมาสด้า3 รถอเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 และรถยนต์นั่งมาสด้า6
นายมาซามิชิ โคไก ประธานและซีอีโอ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า มาสด้าให้ความสำคัญต่อประเทศไทยอย่างยิ่ง และมุ่งหวังที่จะขยายธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งขึ้น มาสด้าจึงได้มีการก่อตั้งโรงงานมาสด้า พาวเวอร์เทรน เมนูแฟคเจอร์ริ่ง ประเทศไทย ขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ซึ่งโรงงานแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการ
ผลิตชิ้นส่วนที่สำคัญที่สุดของตัวรถ รวมถึงเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง เพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตรถยนต์มาสด้า ดังนั้นโรงงานมาสด้าแห่งนี้จึงมีระบบการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับโลก นับตั้งแต่มีการจัดตั้งโรงงานแห่งนี้ขึ้น พนักงานของเราทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวไทยได้ร่วมมือทำงานกันอย่างอุตสาหะเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ดีที่สุด ถึงแม้จะมีอุปสรรคต่างๆ มากมาย แต่โรงงานมาสด้า พาวเวอร์เทรน เมนูแฟคเจอร์ริ่ง ประเทศไทย ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการเริ่มต้นสายการผลิตเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และในอนาคตภายภาคหน้าเราจะเพิ่มกำลังการผลิตสูงขึ้นเป็น 400,000 ลูกต่อปี
นอกจากนี้มาสด้าก็จะเพิ่มเดินสายการผลิตเครื่องยนต์ไปด้วย เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 ณ ปัจจุบันเราก็ได้เริ่มการไพลอตการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลสะอาดสกายแอคทีฟไปแล้ว ซึ่งเครื่องยนต์และเกียร์อัตโนมัติที่ผลิตขึ้นที่แห่งนี้จะส่งออกไปยังฐานการผลิตรถยนต์มาสด้าทั่วโลก อาทิ โรงงานในประเทศมาเลเซีย เวียดนาม เม็กซิโก จีน และในประเทศไทยด้วยเช่นกัน การเปิดสายการผลิตที่โรงงาน MPMT นี้ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศแรกนอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น ที่ทำการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ต่างๆ ทั้งเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ อย่างครอบคลุมมากที่สุด  ดังนั้น เราจึงสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า ประเทศไทยได้กลายเป็นฐานการผลิตรถยนต์มาสด้าที่มีความสำคัญเทียบเท่าประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว ซึ่งทางมาสด้าให้คำมั่นสัญญาว่าเราก็จะไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้ เราจะเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืนยิ่งๆ ขึ้นไปในอนาคต” โคไก กล่าวเพิ่มเติม
ข้อมูลเกี่ยวกับโรงงาน MPMT
ชื่อบริษัท
บริษัท มาสด้า พาวเวอร์เทรน เมนูแฟคเจอร์ริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MPMT
สถานที่ตั้ง
จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย
ขนาดพื้นที่ทั้งหมด
พื้นที่บริเวณโรงงาน 209,000 ตรม.  พื้นที่โรงงาน 49,000 ตรม. (โรงงานเกียร์อัตโนมัติ)
พื้นที่บริเวณโรงงาน 133,650 ตรม.  พื้นที่โรงงาน 12,200 ตรม. (โรงงานเครื่องยนต์)
จำนวนเงินลงทุน
26,000 ล้านเยน หรือประมาณ 7,300 ล้านบาท
ผู้ลงทุน
มาสด้า 100%
ผลิตภัณฑ์
ผลิตและจำหน่ายชุดเกียร์อัตโนมัติและเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์มาสด้า
จำนวนพนักงาน
ประมาณ 500 อัตรา
ประธานกรรมการ
มร. ฮิเดโนริ คาวาคามิ
วันเริ่มก่อตั้งสถานประกอบการ
กุมภาพันธ์ 2556

ตันจงกรุ๊ปฯ เร่งขยายตลาดรถบรรทุก MAN ส่งหัวลาก TGS 6x4 อวดสมรรถนะในงาน TiT2015 หวังขยายฐานตลาดในภูมิภาคอาเซี่ยน มั่นใจศักยภาพของกลุ่มสหพันธ์รถบรรทุก


คุณชัยนันท์ ศรีต่ายขำ รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็ม.เอ.เอ็น. คอมเมอร์เชียล วีฮีเคิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (MCVT) เปิดเผยว่า เอ็มซีวีที อยู่ภายใต้ร่มเงาของ บริษัท ตันจงอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถบรรทุกและรถโดยสารยี่ห้อ เอ็ม เอ เอ็น จากประเทศเยอมรมนีภายในประเทศไทย และสำหรับงาน Thailand International TRUCK SHOW 2015 ที่จะมาถึงนี้ทาง MCVT ก็ได้เตรียมรถบรรทุกรุ่น TGS 6x4 ขนาด 400 แรงม้า เข้าไปโชว์ภายในงาน ซึ่งถือว่าเป็นโปรดักส์ ไฮไลท์ ของทาง MCVT เลยก็ว่าได้
“สำหรับรถบรรทุก MAN รุ่น TGS 6x4 ที่นำไปโชว์มีขนาดเครื่องยนต์ 400 แรงม้า แคป ผลิตและประกอบนำเข้าจากเยอรมนีทั้งคัน (CBU) เป็นเกียร์ออโตเมติค 12 เกียร์ เป็นเครื่องยนต์ดีเซล สูบ แถวเรียง ระบบหัวฉีดอิเล็คทรอนิกส์ (คอมมอนเรล) รุ่น MAN D2066 EURO3มีแรงบิดสูงสุด 2,100 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,600-1,900  รอบต่อนาที เครื่องยนต์มีความจุกระบอกลูกสูบ 10 ลิตร แต่สามารถสร้างแรงม้าได้เทียบเท่า และแรงบิดได้มากกว่าคู่แข่ง ซึ่งจะช่วยในเรื่องการประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับคู่แข่งในสเปคที่เท่ากัน เหมาะกับผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ กลุ่มเหมืองแร่ กลุ่มก่อสร้าง กลุ่มขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ และผู้ประกอบการอื่นๆ ที่ทำธุรกิจขนส่งสินค้าใน AEC ซึ่งนับว่าเหมาะมากที่นำเข้ามาร่วมโชว์ในงานนี้”
คุณชัยนันท์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเป้าหมายภายในงานโดยธรรมชาติก็ตั้งเป้าที่จะขายได้ในงาน แต่ก็เข้าใจธรรมชาติของการซื้อขายที่ต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาตลอดจนถึงเรื่องของไฟแนนซ์ ส่วนสาเหตุที่เราตัดสินใจเข้าร่วมงาน TiT2015 ซึ่งจัดในครั้งแรกในประเทศไทย เนื่องจาก MCVT เล็งเห็นศักยภาพของผู้จัดงาน ตลอดจนถึงการได้รับสนับสนุนจากกลุ่มที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกับสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และ สสปน. ซึ่งถือว่างานนี้เป็นงานระดับอาเซี่ยน มีกลุ่มเพื่อนบ้านให้ความสนใจ โดยเฉพาะประเทศพม่า, ลาว และกัมพูชา เป็นกลุ่มเป้าหมายที่เรามองว่ารถบรรทุก MAN มีศักยภาพที่จะวิ่งงานในกลุ่มประเทศเหล่านั้นได้อย่างสบาย วิ่งระยะทางไกลและบรรทุกหนักได้จริงและที่สำคัญ MAN มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อรถในงานหรือมีส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการซื้อโฟล์คลิฟท์ มูลค่า 100,000บาท
นอกจากรุ่น TGS 6x4 แล้ว MCVT ยังมีรุ่น 6X2 ให้กับกลุ่มลูกค้าได้เลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสมกับธุรกิจ รวมถึงหัวลากรถบรรทุก 10 ล้อ และแชสซีส์สำหรับมิกเซอร์ ซึ่งถือว่าครอบคลุมทุกเซกเม้นท์ของกลุ่มรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์
            พบกับรถบรรทุก MAN TGS ได้ภายในงาน Thailand International TRUCK SHOW 2015 ระหว่างวันที่ 17-19 กันยายน 2558นี้ ที่ ฮอลล์ 7-8 ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพค เมืองทองธานี 

ซูซูกิ เปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด ในงาน Big Motor Sale 2015


บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ร่วมเปิดบูธแสดงรถจักรยานยนต์ซูซูกิอย่างยิ่งใหญ่ ในงาน “Bangkok International Grand Motor Sale 2015” มหกรรมของยานยนต์เพื่อขายแห่งชาติ พร้อมเปิดตัวรถจักรยานยนต์ซูซูกิรุ่นใหม่ล่าสุดถึง 2 รุ่น โดยงานนี้ได้รับเกียรติจาก มร.ซาโทชิ อูชิดะ กรรมการผู้อำนวยการ, คุณเลิศศักดิ์ นววิมาน กรรมการบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด และคุณบุญเลิศ ลาภาโรจน์กิจ ประธานกรรมการ บริษัท บ้านซูซูกิ จำกัด พร้อมด้วยคุณจรวย ขันมณี ประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2015 ร่วมเปิดตัวรถจักรยานยนต์ Suzuki GSX-S1000 และ Suzuki GSX-S1000F

Suzuki GSX-S1000 และ Suzuki GSX-S1000F มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 999 ซีซี DOHC 4 จังหวะ 4 สูบ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้กระบอกสูบแบบอะลูมิเนียมผ่านกระบวนการเคลือบสาร Suzuki Composite Electrochemical Material (SCEM) เทคโนโลยีจากสนามแข่ง ลดการสึกหรอและระบายความร้อนได้ดี ลูกสูบแบบ Finite Element Method (FEM) ทำให้น้ำหนักเบา เครื่องยนต์แข็งแกร่งทนทาน พร้อมระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดทำงานร่วมกับ Suzuki Dual Throttle Valve (SDTV) ทำให้อากาศไหลผ่านได้เต็มประสิทธิภาพ ให้แรงบิดที่ดีในทุกย่านความเร็ว และยังมีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี สามารถตอบสนองอัตราเร่งได้อย่างฉับไว และบิดคันเร่งได้อย่างใจต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสภาวะการขับขี่ทั่วไปหรือขับขี่ระยะทางไกลให้ความรู้สึกสบายในการขับขี่ในทุกการเดินทาง
Suzuki GSX-S1000 และ Suzuki GSX-S1000F มาพร้อมระบบ Traction Control ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้ระบบได้ถึง 3 โหมด ทั้งสปอร์ต, ขับขี่ในเมือง และถนนเปียกลื่น ทำให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ และป้องกันการลื่นไถลในทุกสภาพการขับขี่ พร้อมระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล็อค แบบหน้า-หลัง สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่อย่างดีเยี่ยม และออกแบบตำแหน่งท่านั่งการขับขี่ใหม่ ทำให้ผู้ขับขี่ไม่เหนื่อยและเมื่อยล้า

Suzuki GSX-S1000 และ Suzuki GSX-S1000F ยังโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย สวยงาม สปอร์ตด้วยไฟแบบมัลติรีเฟรกเตอร์ และชุดแผงหน้าปัดแสดงผลแบบ LCD พร้อมมาตรวัดอย่างครบครัน
นอกจากนี้ Suzuki GSX -S1000 สไตล์ Naked และ Suzuki GSX-S1000F สไตล์ Full Fairing มีให้เลือกตามสไตล์คุณ 3 สี มาพร้อมกับราคาแนะนำสุดพิเศษ 579,000 บาท สำหรับ GSX-S1000 และ 599,000 บาท สำหรับ GSX-S1000F เพียง 100 คันแรกเท่านั้น อีกทั้งยังมีรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นหลากหลายรุ่น อาทิ Suzuki GSX1300R Hayabusa, Suzuki GSX-R1000, Suzuki V-Strom Series, Suzuki Gladius 650 ABS และรุ่นอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมโปรโมชั่นสุดเร้าใจ ท่านที่สนใจสามารถชมรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ได้ที่บูธรถจักรยานยนต์ซูซูกิ ฮอลล์ 106 ณ ศูนย์นิทรรศการ ไบเทค บางนา ตั้งแต่วันนี้ – 9 สิงหาคม 2558

DURAMAX ENGINE IDENTIFICATION DURAMAX ENGINE ID BY VIN NUMBER






Many model years were crossover or transitional years for the Duramax diesel, thus it is often necessary to decipher the engine model/version using the vehicle's VIN number. The chart below may be used to identify which Duramax engine your truck has based on the 8th digit of the vehicle identification number (VIN). Note that this is the vehicle identification number, not the engine serial number. The VIN number is located on the driver side door pillar, the driver side dash-mounted VIN plate, and the vehicle's title or registration card. It is important to identify which engine your have under the hood because not all components are identical nor interchangeable and may be specific to your engine version.

Duramax VIN number example

DURAMAX VIN CHART

Model Year(s)
8th Digit of VIN
Duramax Model & Notes
2001 - 2004
LB7 
2
LLY (introduced midyear 2004)
2005
2
LLY (only engine offered for 2005)
2006
LLY (2006 version, different from 2005 version) 
D
LBZ (introduced late 2006)
2007
D
LBZ 
6
LMM
2008 - 2010
6
LMM (only Duramax offered during these years)
2011 - Current
8
LML
L
LGH

Volvo S90 and V90: big Volvo S90s are back in 2016

Following hot on the heels of the XC90 come the new 2016 Volvo S90 and V90 twins - plunging Volvo back into the large premium car heartland. 
Nominally replacing the S80 and V70, the new 90 series models will be aimed at the executive set of the Audi A6, BMW 5-series and Mercedes E-class.
As Volvo’s badging hierarchy indicates, the S90 is the saloon; the V90 the more versatile estate. A jacked-up V90 Cross Country version will follow, replacing today's XC70.

Large Volvos rediscover style

Remember the Volvo Concept Estate shown at the 2014 Geneva motor show, and pictured here? That’s the blueprint for the new top-end Volvos.
‘[The S90] very clearly demonstrates the transition to where we’re heading, more so than an estate or another XC product,’ said Nick Connor, managing director Volvo Car UK. ‘The S90 will surprise, and have more impact than just another large Volvo estate car.
‘The dimensions are much more premium than today’s S80’s. The interior is the next step from XC90 but with a higher level of quality; we’ve recruited Robin Page from Bentley to head up our interior design and it really shows. People will say this is very different and distinctive compared with the Germans. It will have the benefit of MMI, infotainment that is easy to use, Drive-E engines and clean Scandinavian lines that look stunning.’
The Drive-E motors are the four-cylinder-only engine family powering the XC90 range. 

Volvo S90 and V90 join the XC90

The new saloon and wagon twins will partner the XC90 crossover, recently launched and driven by CAR magazine as the flagship of the rejuvenated Volvo range. 
Want an idea of the Swedes’ ambition? They plan to replace the entire range by 2020, using an $11bn fighting fund raised separately from parent company Geely.
All cars will be spun off the Scalable Product Architecture (SPA), apart from the V40 replacement destined to use a 'CMA' platform co-developed in China with Geely. Both platforms are plug-in hybrid compatible.
‘We couldn’t do it any faster, this timeline of launches is right for us,’ added Connor. ‘To replace the entire product line-up in four years is pretty good by anyone’s standards.’

Global growth: Volvo chases the Germans

Gothenburg is gunning for 800,000 sales by 2020, up from 460k in 2014. In the UK, Volvo is projecting a sales increase from 45k to 60k. That’s a 2% market share.
Sounds reasonable, but remember that Volvo currently sells only 400 S80s a year in Great Britain!

Prices up too

Expect Volvo to nudge prices upwards; buoyed by the success of £70k XC90 First Edition (54 of the 1927 produced will come to the UK). ‘If we have the right product, price is less important,’ said Connor. ‘If you have old product that’s less competitive, you have to sell on price.’
That, in a nutshell, is the end game of the premium product conundrum. To be rewarded for desirable, quality products with strong, undiscounted pricing.


Duramax I-4 Starts Production In Thailand, Headed For U.S. Colorado & Canyon

General Motors has announced the 2.8-liter Duramax inline four-cylinder turbodiesel slotted for the 2016Chevrolet Colorado and GMC Canyon has started production in GM’s Thailand assembly plant.
Details are still sparse on the engine’s output specs and fuel economy ratings, but GM estimates the engine will be fine-tuned to produce 181 horsepower and 369 pound-feet of torque. Fuel economy should be respectable, with its highway average hovering in the mid 30’s mpg. The Duramax is also expected to help increase the Colorado and Canyon’s towing capacity past its current 7,000-pound maximum.
The baby Duramax, as it’s been lovingly coined by industry analysts, uses a water-cooled, variable-geometry turbocharger and a high-pressure, common-rail fuel system pushing diesel at 29,000 psi. Also in the mix is a balance shaft that counter-rotates to quell vibrations.
The 2.8-liter I-4 is designed to pass all Euro-4 emissions regulations and can be upgraded to pass Euro-5 and Euro-6 regulations if GM were to make the Duramax available in Europe.
The engine will be shipped to North America and will enter production trucks beginning in the third quarter of 2015, with sales of the diesel-equipped Colorado and Canyon starting in sometime in the fourth quarter. Once at dealers, General Motors is sure to sell a handsome number of Duramax-equipped trucks, thanks to their outstanding capabilities and expected fuel economy. There is still no word on what GM will charge to upgrade from the 3.6-liter V-6 to the baby Duramax.

Why It Matters

The 2.8-liter Duramax is a highly anticipated addition to GM’s mid-size truck category that has been pined for since the Colorado and Canyon twins were introduced in 2014. The torque-rich engine will be a great choice for owners who often tow trailers or haul cargo, or those whose commutes include long highway jaunts but also need the capability of a truck.
While its sad GM isn’t producing this engine in the U.S., the global-focused automaker already has the infrastructure in place to handle the job. What’s more, having Thailand’s existing plant construct the engine keeps costs down by eliminating the need to build additional manufacturing facilities in North America, though it would help stimulate the economy by creating jobs.
All that aside, it will be great to finally have the 2.8-liter Duramax inside the GM mid-sized twins.

Press Release

General Motors Thailand will start regular production of 2.8L DURAMAX four-cylinder turbo-charged diesel engines slated for export to the United States of America. Manufactured by GM Powertrain Thailand, it is based on the same DURAMAX engine that powers the Chevrolet Colorado and Trailblazer built in Thailand and sold globally. The export-version DURAMAX will be used in the U.S. and Canadian versions of the Colorado and GMC Canyon midsize pickup trucks.
Duramax I-4 Starts Production in Thailand, Headed For U.S. Colorado & Canyon
Speaking at the event to celebrate the start of regular production of the US-bound DURAMAX engines, Marcos Purty, Managing Director of GM Thailand and Chevrolet Sales Thailand said, “The export of the DURAMAX 2.8L to the U.S. increases our output and improves GM Powertrain Thailand’s economies of scale.”
According to Watcharin Sayamrattanakit, Manufacturing Director, GM Powertrain Thailand, the DURAMAX engines bound for U.S and Canadian markets is based on the same DURAMAX installed in the Chevrolet Colorado pickup truck and Trailblazer SUV available in Thailand and the region.
“This is solid proof and recognition that our product, built right here in Thailand to the highest standards, is of world-class quality and good enough to be in demand in one of the most competitive and demanding automotive markets in the world,” Sayamrattanakit said.
U.S. and Canadian customers will benefit from the second-generation DURAMAX engines found in the Colorado and Trailblazer, engineered in Europe and the US with global application as one of its developmental objectives. Owing to emission requirements and operating conditions in the US and Canada, the export DURAMAX 2.8L is estimated to produce 181 hp (135 kW ) and 500Nm (369 lb-ft of torque).
One of the key to DURAMAX’s performance is efficiency. It features water-cooled, variable-geometry turbocharger and high-pressure common-rail fuel delivery system capable of charges of up to 2,000 Bar (29,000 PSI). An electronic engine control module fully developed by General Motors - the new Duramax engine is the first of two users of this control module
It also features a balance-shaft that counter-rotates to cancel out vibrations and enhance smoother and quieter operation at all engine revolutions. In addition to compliance with US emission standards, the DURAMAX 2.8L is Euro-4 compliant and can be upgraded to meet Euro-5, -6 standards.
The first generation of the four-cylinder DURAMAX started regular production in Thailand in 2011. The second-generation DURAMAX was launched in 2013. GM Powertrain Thailand builds both the 2.8 and 2.5L variants.
The USD $200-million facility opened in September 2011, and represents GM’s most significant powertrain investment in Southeast Asia. It is GM’s first diesel powertrain facility in Thailand and the Southeast Asian region and the first powertrain facility in the world to manufacture the four-cylinder family of DURAMAX engines.
The Powertrain Plant sits on a 54,275 square-meter site, adjacent to GM Thailand’s vehicle manufacturing facility. In 2012, the plant started regular production of engine blocks, previously imported from other facilities. The facility celebrated the 100,000th engine build in 2013. It currently employs more than 320 people.
The powertrain facility employs a common, company-wide production system according to the principles of lean production. Main elements of this principle include employee involvement, continuous improvement, Standardization, Short Lead Time and Built-in Quality. It is an ISO 9001:2008 certified facility, demonstrating an ability to consistently provide product that meets customer and applicable statutory and regulatory requirements.
Shipment of 2.8L DURAMAX to the US and Canada will start in the third quarter of this year with vehicle production beginning later this fall.


Mazda Offers First Details On The Refreshed BT-50

Mazda has just released the first details on its mildly refreshed BT-50 mid-size pickup truck. The BT-50 is Mazda’s global pickup that competes with the Toyota Hilux and Chevrolet Colorado. Based on the global Ford Ranger, the BT-50 carries all the Ranger’s mechanicals but provides truck buyers with what Mazda calls, an “active lifestyle vehicle.”
In other words, the BT-50 has a sportier style than the Ranger.
This marks the first major refresh for the Mazda truck since its introduction back in 2011. Designers were modest in the restyling, only concentrating on the front grille, headlights and taillights. The interior also features a new feel that Mazda says is higher quality than before. A rear-view camera also makes its appearance for the first time on the truck.
More specifically, the grille now has Mazda’s current corporate design, with the large horizontal bar backing the Mazda logo. Smoked headlights now have a more premium look. Similarly, the taillights share the smoked look, imparting a more premium feel to the exterior. Finally, a new set of aluminum wheels replace the outgoing design.
All the greasy bits carry over unchanged. That means the truck’s base engine is the 2.2-liter four-cylinder turbodiesel making 158 horsepower. Optional is the 3.2-liter inline five-cylinder turbodiesel making 197 horsepower. The truck can be had with a manual or automatic transmission, as well as two- or four-wheel drive.
The Mazda BT-50 will go on sale in the third quarter of 2015 starting in Thailand and Australia, with sales expanding beyond that in time.

Why It Matters

Mazda’s refresh of the BT-50 coincides with the recent refresh of the Ford Ranger. The Ranger’s new design focuses on more luxury and capability while the Mazda offers a more youthful approach. Though the BT-50 doesn’t get the extensive updates found on the Ranger, the visual updates are welcomed nonetheless.
The two diesel engine options offer a respectable amount of power for a variety of tasks. Though even the optional five-cylinder won’t be able to compete with the U.S.-spec 2.8-liter Duramax four-cylinder turbodiesel headed for the 2016 Chevy Colorado in terms of outright horsepower and torque, it’s still a workhorse.
In light of all this, it’s fascinating to know that Ford and Mazda still produce copycat versions of the same mid-size pickup truck as the two had before here in the U.S. Still, Americans shouldn’t expect to see Mazda import the BT-50 any more than Ford importing the Ranger. Both appear to be impossibilities at this point.

Press Release

Mazda Motor Corporation has announced that production of the refreshed Mazda BT-50 utility has commenced at the company’s manufacturing plant in Thailand, Auto Alliance (Thailand) Co., Ltd. (AAT).
Mazda plans to start introducing the updated model from the second half of 2015, starting with Thailand and Australia.
The BT-50 defied the conventional image of the pickup truck when the current model was introduced in 2011 as an "active lifestyle vehicle" with modern and refined styling.
Since then it has gained great popularity thanks to its excellent driving performance and highly functional interior and cargo space which make it ideal for both personal and business use.
Customers with active lifestyles have found that the BT-50 suits their needs for a wide variety of purposes, from transporting the family to facilitating leisure activities.
The new BT-50 maintains the versatile practicality and exhilarating driving performance of the current model but the design has been updated to give it a sportier and more powerful presence than ever before.
The new styling incorporates a newly designed front face, rear combination lamps and aluminium wheels.
In addition, the interior has also been refined to give a higher-quality feel, and for the first time a rear-view camera has been added to the list of safety equipment available on the BT-50.
The powertrain and body-type line-up is unchanged from the previous model.

donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved