Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

ดุดันถึงใจสายลุย! ฮอนด้าเปิดตัว New CB500X บิ๊กไบค์แอดเวนเจอร์สุดเท่ ดีไซน์ล้ำสมัยกว่าเดิม พร้อมฟังก์ชันใหม่เพื่อการขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น

   

            บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ในประเทศไทย เปิดตัว New Honda CB500X รถบิ๊กไบค์แบบแอดเวนเจอร์ ดีไซน์โครงสร้างด้านข้างและกราฟิกใหม่ ให้ทั้งความปราดเปรียและความดุดันยิ่งขึ้นกว่าเดิม ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่โดนใจคนชอบลุย ไม่ว่าจะเป็นวินชีลด์ที่สูงขึ้นและถังน้ำมันที่จุได้มากขึ้น โช้คหน้าและก้านเบรกปรับระดับได้ พร้อมวางจำหน่ายแล้วที่ศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิงทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
            นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถฮอนด้าบิ๊กไบค์ในประเทศไทยเปิดเผยว่า ตลาดรถบิ๊กไบค์ในเมืองไทยมีอัตราการเติบโตสูงและมีความต่อเนื่อง ในช่วงหลายปีมานี้ผู้บริโภคก็มีทางเลือกมากขึ้นเรื่อยๆจากโมเดลใหม่ๆที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ รวมถึงกลุ่มคนที่ชอบรถในสไตล์ผจญภัยหรือแอดเวนเจอร์ก็เช่นกัน โดยโมเดลที่ได้รับความนิยมและมียอดจำหน่ายสูงที่สุดในกลุ่มนี้ตลอด ปีที่ผ่านมาก็คือ Honda CB500X ซึ่งเป็นรถบิ๊กไบค์ขนาดกลางที่มีองค์ประกอบลงตัวทั้งด้านดีไซน์ ความแข็งแกร่ง และสมรรถะที่โดดเด่น
            “อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ฮอนด้าได้พัฒนา New CB500X ขึ้นมาใหม่ให้เป็นรถแอดเวนเจอร์ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวและล้ำสมัย พร้อมฟังก์ชันใหม่ๆที่เหมาะกับการขับขี่ท่องเที่ยวนอกเมืองหรือลุยไปบนเส้นทางที่ท้าทาย ทั้งยังสามารถตกแต่งรถเพิ่มเติมได้อย่างง่ายดายและสวยงามขึ้นด้วยอุปกรณ์เสริมต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการรถที่โดดเด่น แข็งแกร่ง และขับขี่ด้วยความสนุกเร้าใจ
New Honda CB500X มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่ดูลงตัวและปราดเปรียว พร้อมสีสันและกราฟิกที่สะท้อนให้เห็นถึงความสนุกสนานสำหรับผู้รักการผจญภัย ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED ให้ความสว่างและสวยงามล้ำสมัย วินด์ชีลด์ใหม่สูงขึ้นกว่าเดิม 10 เซนติเมตร ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ช่วยป้องกันแรงปะทะจากลมแต่เพิ่มอากาศไหลเวียนระหว่างด้านหน้าและด้านหลังของผู้ขับขี่อย่างสมดุล ถังน้ำมันขนาดใหญ่ 17.7 ลิตรช่วยลดความถื่ในการเติมน้ำมัน พร้อมก้านเบรกหน้าปรับได้ ระดับเพิ่มความสบายในการขับขี่
New Honda CB500X มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบDOHC ขนาด 500cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมระบบการเปลี่ยนเกียร์ใหม่ที่ให้ความนุ่มนวลขึ้น โช้คหน้าใหม่พร้อม Preload Adjuster ปรับระดับได้สำหรับการรองรับน้ำหนักหลากหลายรูปแบบ โช้คหลังแบบ Prolink® Rear Suspension ปรับระดับได้ 9 ระดั เสริมความมั่นใจด้วยระบบเบรก ABS และกุญแจแบบเวฟคีย์ฝังชิพพิเศษป้องกันการโจรกรรม
ฮอนด้าพร้อมวางจำหน่าย New Honda CB500X ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ที่ศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิงทั่วประเทศ ด้วยราคาจำหน่าย 220,000 บาท โดยมีให้เลือกทั้งสิ้น สี ได้แก่ สีแดงมิลเลนเนียมเรดสีน้ำตาลแมตเฟรสโกบราวน์สีขาวแมตเพิร์ลซัมมิทไวท์ และสีดำแมตกันพาวเดอร์แบล็กเมทัลลิก
นอกจากนี้ ฮอนด้ายังได้มอบข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า New Honda CB500X 11 คนแรกของฮอนด้าบิ๊กวิงแต่ละสาขา รับทันทีกล้องบันทึกวีดีโอ GoPro Hero มูลค่า 4,590 บาท
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ New Honda CB500X ได้ที่เว็บไซต์ www.hondabigbike.com พร้อมอัพเดทความเคลื่อนไหวของฮอนด้าบิ๊กไบค์ได้ที่ www.facebook.com/hondabigbikeTH

ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิค จัดฝึกอบรมระบบการวัดระดับความพึงพอใจของลูกค้าปอร์เช่รูปแบบใหม่แก่ เอเอเอสฯ ในฐานะผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ

เพื่อที่สุดของความพึงพอใจสูงสุดของท่านลูกค้าปอร์เช่ ประเทศไทย

ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิค จัดฝึกอบรมระบบการวัดระดับความพึงพอใจของลูกค้าปอร์เช่รูปแบบใหม่แก่ เอเอเอสฯ ในฐานะผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ

กรุงเทพฯ. ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้รับการฝึกอบรมระบบการวัดระดับความพึงพอใจของลูกค้าปอร์เช่รูปแบบใหม่โดยตรงจากปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิค เพื่อการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งในการสร้างความประทับใจสูงสุดจากการดูแลและบริการลูกค้าทุกท่านในฐานะผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ  เมื่อวันที่ 16 – 17 พฤศจิกายน 2015 ที่ผ่านมา

ในการอบรมครั้งนี้ ได้มี Mr. Tim Walkowiak, Customer Relations Executive และ Mr. Alexander Schuchert, Sale Manager จาก Porsche Asia Pacific เป็นผู้ให้ข้อมูลและคำแนะนำในการใช้งานระบบใหม่ที่เรียกว่า Electronic  Porsche Satisfaction Survey (ePSS) ระบบสอบถามความพึงพอใจต่อการซื้อรถยนต์ปอร์เช่ และ Electronic
Service Satisfaction Survey (eSSS)  ระบบสอบถามความพึงพอใจต่อการนำรถยนต์ปอร์เช่เข้ารับบริการ เพื่อความสะดวกสบายของท่านเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่ในการให้ข้อมูล คำแนะนำและติชมทางออนไลน์ เพื่อนำมาพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพการบริการให้ดียิ่งขึ้น

เสียงตอบรับและความคิดเห็นของท่านลูกค้า เป็นสิ่งที่เอเอเอสฯ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่ขั้นตอนแรกในการพิจารณาเลือกซื้อรถ จนถึงการนำรถเข้ารับบริการ เราใส่ใจในทุกๆ ขั้นตอน เพื่อดูแลท่านและรถยนต์ของท่านให้ดีที่สุด ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อก้าวเข้าสู่คำว่า AAS The Name you can Trust ความไว้วางใจที่ให้คุณได้มากกว่า ตลอดระยะเวลาดำเนินการมา กว่า 30 ปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th

“ซูซูกิ” แรงไม่หยุด คว้าแชมป์ 3 สนามติด รายการ FMSCT Thailand Supercross


ซูซูกิ ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่คว้าแชมป์ 2 สนามติด ในสนามที่ 6 และ 7 แล้ว  ในรายการ FMSCT Thailand Supercross ล่าสุดในสนามที่ 8 สามารถระเบิดฟอร์มกด Triple Champs มาครองได้อย่างสุดมันส์ ซึ่ง มร.ยูตะ อิเคกาย่า นักแข่งชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น แห่งทีม ซูซูกิ เรดสตาร์ ยังคงบิด Suzuki RM-Z 250 อย่างเร้าใจแฟนๆและผู้ชม โดยในสนามที่ 8 นี้ได้แข่งขันที่สนามสุพรรณบุรี มอเตอร์สปอร์ต แลนด์ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นสนามสุดโหดที่จะใช้ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก World MX GP ในปีหน้าด้วย และในสนามนี้ยูตะได้โชว์ความสามารถที่ยอดเยี่ยม บิดเข้าเส้นชัยคว้าแชมป์เป็นอันดับที่ 1  เรียกเสียงเชียร์ให้ดังกระหึ่มตลอดการแข่งขัน เมื่อเร็วๆนี้ ร่วมเป็นแรงใจเชียร์ให้ ซูซูกิ เป็นแชมป์ในสนามสุดท้าย ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 - 6 ธันวาคม 2558 ณ สนามนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

“ลิควิโมลี่ (Liqui Moly) จับมือมอเตอร์สปอร์ตแลนด์ร่วมยกระดับ Motor Sport เมืองไทย สู่มาตรฐานสากล”



บริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน) จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาสีรถยนต์ ภายใต้ชื่อ “คาร์แลค 68” และผู้บริหารศูนย์เคลือบสีรถ “โมลีแคร์” อีกทั้งเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาเครื่องยนต์คุณภาพระดับโลกจากประเทศเยอรมันภายใต้แบรนด์ “ลิควิโมลี่” (Liqui Moly)  ซึ่งผ่านการทดสอบประสิทธิภาพจนเป็นที่ยอมรับและเชื่อถืออย่างกว้างขวางในตลาดรถยนต์ทั่วโลก จับมือกับสนามโกคาร์ท มอเตอร์สปอร์ตแลนด์ร่วมยกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ต (Motor Sport) ของเมืองไทยให้สู่มาตรฐานสากล  พร้อมทั้งรุกตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อตอกย้ำความสำเร็จ

นายกฤษฏ์ กาญจนบัตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน) จำกัด กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า “บริษัทฯ ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าน้ำมันเครื่องและสารเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์แบรนด์พรีเมียม “ลิควิโมลี่” จากประเทศเยอรมนี มาตั้งแต่ปี 2552 โดยได้วางจำหน่ายที่ศูนย์บริการรถยนต์ บี-ควิก กว่า 100 สาขาทั่วประเทศ รวมทั้งที่กลุ่มอีซูซุ อึ้งง่วนไต้ ออโต้แบคส์และอู่ซ่อมชั้นนำ รวมทั้งร้านค้าประดับยนต์ทั่วประเทศ   สำหรับสินค้าประเภทน้ำมันเครื่องและสารเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ของลิควิโมลี่  เหมาะสำหรับกลุ่มที่ใช้ได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน รถใช้แก็ส และดีเซล โดยในปีนี้ทางบริษัทฯ  ได้ขยายกลุ่มน้ำมันเครื่องให้ครอบคลุมมากขึ้นทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด  ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซด์โดยเน้นเป็นกลุ่มบิคไบค์ แอดเวนเจอร์และสปอร์ต  รวมถึงเจาะกลุ่มตลาดวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพราะทางลิควิโมลี่มีสินค้าชนิดพิเศษที่เหมาะสำหรับรถที่มีการปรับแต่งเครื่องยนต์ที่ใช้ในการแข่งขัน”
ทั้งนี้ นายกฤษฏ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า “ลิควิโมลี่ ได้เข้ามาสนับสนุนทีมแข่งต่างๆ ในวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย เพื่อเป็นแรงเสริมช่วยหนุนให้วงการนักแข่งไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้น  สามารถยกระดับให้สู่มาตรฐานสากลระดับโลกได้  สำหรับการจัดกิจกรรมการตลาดและแคมเปญต่างๆ  เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นกลุ่มผู้รักรถได้รับรู้ถึงแบรนด์ลิควิโมลี่มากขึ้น  ทางเราได้ร่วมมือกับสนามโกคาร์ท มอเตอร์สปอร์ตแลนด์ซึ่งโกคาร์ทถือเป็นพื้นฐานของกีฬาแข่งรถ ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับนักแข่งรุ่นเยาว์และนักแข่งมืออาชีพไว้สำหรับฝึกทดสอบความสามารถ  เพื่อช่วยเสริมให้ประเทศไทยผลิตนักแข่งที่มีความสามารถต่อไปในอนาคต  อีกทั้งเรายังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างครบวงจรเพื่อเน้นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น อีกทั้งทางบริษัทได้รับความไว้วางใจจากลิควิโมลี่เยอรมันให้สิทธิ์ทางเมืองไทยจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลิควิโมลี่ที่ลาวอีกด้วย  ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทได้เข้าไปสำรวจและศึกษาตลาดที่เวียงจันทร์ โดยจะบุกรุกตลาดเริ่มจากเวียงจันทร์ก่อนในปีหน้าแล้วจะขยายไปสู่เมืองอื่นๆ และสำหรับงาน Motor Expo ที่จะถึงนี้ ทางบริษัทได้จัดแคมเปญใหญ่สำหรับงานสุดท้ายของปีนี้ พร้อมตั้งเป้าการเติบโตในปีหน้า 2559  อีก 20% หรือ 160 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีนี้ ”  

นายกฤษฎ์  กล่าวต่ออีกว่า  “ ในปีหน้านี้ เรายังคงใช้ กีกี้-ศักดิ์ นานา เป็นพรีเซ็นเตอร์ต่ออีกเป็นปีที่ 3 เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของสินค้าอย่างต่อเนื่อง  เพราะกีกี้ ถือเป็นมือหนึ่งและเป็นกูรูดริฟท์คิงส์ของเมืองไทย ซึ่งสอดคล้องกับบุคลิกของแบรนด์ลิควิโมลี่ที่เน้นความท้าทายของผู้ใช้รถที่ต้องการใช้รถอย่างเต็มประสิทธิภาพกว่าเดิมและลิควิโมลี่ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถเติมเต็มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ”  

นายโรแลนด์ บราวน์  (MR. Roland  Braun) ผู้จัดการฝ่ายส่งออกลิควิโมลี่เยอรมัน  กล่าวว่า “ปัจจุบันลิควิโมลี่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 50 ปี เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมรถยนต์โดยมีสินค้าวางจำหน่ายกว่า 110 ประเทศทั่วโลก มีสินค้ากว่า 4,000 รายการ  ที่ผ่านมาทางลิควิโมลี่ได้ปรับภาพลักษณ์และพัฒนาสินค้าในกลุ่มมอเตอร์ไซด์และกลุ่มมอเตอร์สปอร์ตให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยลิควิโมลี่ได้เข้าไปเป็นผู้สนันสนุนน้ำมันเครื่องหลักอย่างเป็นทางการสำหรับการแข่งขัน Moto GP และเข้าร่วมการแข่งขันงาน TCR  International Series  ภายใต้ทีม Engstler ซึ่งเป็นงานแข่งรถยนต์ทางเรียบระดับโลก  ในการแข่งขันครั้งนี้จะทำให้สามารถเพิ่มการรับรู้แบรนด์ของลิควิโมลี่ในหมู่แฟนกีฬากว่า 2.4 ล้านคนที่เดินทางไปร่วมชมการแข่งขันในแต่ละปี  อีกทั้งยังมีผู้ชมโทรทัศน์อีกหลายร้อยล้านคนที่รอดูการแข่งขันทุกวันหยุด

ในขณะเดียวกันแบรนด์ของลิควิโมลี่ได้ถูกเผยแพร่ในสื่อต่างๆ ตลอดฤดูกาลการแข่งขัน เช่น แทร็คในสนามแข่ง (trackside advertising)  ซึ่งสิ่งนี้จะเพิ่มความคุ้นเคยของผลิตภัณฑ์เรากับผู้ชมทั่วโลกได้เป็นอย่างดี และในปีหน้า 2559 ลิควิโมลี่ก็วางเป้าหมายจะก้าวเข้าสู่วงการนักแข่งเพื่อสนับสนุนวงการมอเตอร์สปอร์ตให้ได้ครอบ  คลุมมากยิ่งขึ้น” นายโรแลน กล่าวทิ้งท้าย

เอ.พี. ฮอนด้า ยกระดับแข่งรถประหยัดเชื้อเพลิงปีที่ 18 สู่การเรียนรู้แบบ 360 องศา หนุนเยาวชนออกแบบและประดิษฐ์ตัวถังรถขึ้นเอง 100% พร้อมเปลี่ยนสนามแข่งสู่แทรคระด้บโลก


เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ประกาศยกระดับการแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิงHonda Eco Mileage Challenge ครั้งที่ 18 ประจำปี 2558 ให้เป็นกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ของเยาวชนไทยอย่างแท้จริงโดยเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถในการออกแบบและประดิษฐ์รถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงตั้งแต่จุดเริ่มต้น นักเรียน-นักศึกษา แห่สมัครล้นหลามถึง 592 ทีมจากทั่วประเทศ พร้อมมอบประสบการณ์ระดับโลกให้กับผู้เข้าแข่งขันด้วยการจัดการแข่งขัน ณ สนามช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยความมุ่งมั่นของเอ.พี. ฮอนด้า ในการตอบแทนสังคมไทย เราได้สร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อเยาวชนอย่างหลากหลายและต่อเนื่อง ซึ่งการแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิง Honda Eco Mileage Challenge ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราให้ความสำคัญมากเพราะเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในสาขาช่างยนต์และวิศวกรรมยานยนต์ได้นำความรู้จากห้องเรียนมาต่อยอดด้วยการลงมือประดิษฐ์รถ และค้นหานวัตกรรมที่ทำให้รถวิ่งด้วยอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด กิจกรรมนี้ยังช่วยส่งเสริมให้เยาวชนรู้จักการทำงานเป็นทีม และปลูกจิตสำนึกในการใช้พลังงานอย่างประหยัดไปพร้อมๆกัน

ในปีที่ 18 ของการแข่งขันรายการนี้ เราได้เตรียมยกระดับกิจกรรมให้เกิดประโยชน์ต่อเยาวชนสูงสุด ด้วยการส่งเสริมให้ผู้เข้าแข่งขันทุกรายทำการออกแบบและประดิษฐ์ตัวรถแข่งด้วยตนเองโดยไม่ซื้อโครงสร้างสำเร็จรูปมาใช้ ซึ่งกติกานี้จะทำให้ทุกทีมต้องเรียนรู้ตั้งแต่จุดเริ่มต้นอย่างเช่นการดีไซน์รถตามหลักอากาศพลศาสตร์ การเลือกใช้วัสดุต่างๆที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง การวางเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ของฮอนด้าให้เข้ากับรถ ไปจนถึงประสิทธิภาพในการขับเคลื่อน ทั้งหมดนี้จะส่งผลดีในแง่ของการวิจัยและพัฒนา เกิดเป็นโนว์ฮาวใหม่ๆของแต่ละสถาบัน และจะทำให้เยาวชนที่เข้าแข่งขันมีความสามารถมากขึ้น ส่งผลดีต่อวงการอาชีวะและวิศวกรรมยานยนต์ของไทยในอนาคต

นอกจากนี้ เรายังได้เตรียมมอบประสบการณ์ระดับโลกให้กับเยาวชนที่เข้าแข่งขันในครั้งนี้ ด้วยการเปลี่ยนสนามแข่งมาสู่สนามช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต ซึ่งเป็นสนามที่มีมาตรฐานสูงสุดไม่ว่าจะเป็นพื้นแทรคและความปลอดภัย โดยการแข่งขันในปีนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มีทีมเข้าร่วมสมัครมากถึง 592 ทีมจากทุกภูมิภาค เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 20% แสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวของเยาวชนที่มีต่อกิจกรรมนี้

สำหรับการแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิง Honda Eco Mileage Challenge แบ่งออกเป็น ประเภท ประกอบด้วยประเภทรถประดิษฐ์ และประเภทรถตลาด โดยในประเภทรถประดิษฐ์นั้นจะมีการแบ่งผู้เข้าแข่งขันออกเป็น ระดับ ได้แก่ระดับอาชีวศึกษาระดับอุดมศึกษาและระดับประชาชนทั่วไป กำหนดกติกาให้รถที่เข้าแข่งขันทุกคันใช้ตัวถังที่ประดิษฐ์ขึ้นเองและติดตั้งเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ของฮอนด้า ส่วนในประเภทรถตลาด เอ.พี. ฮอนด้าเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปเข้าแข่งขันได้โดยใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ110ไอ โดยสามารถดัดแปลงหรือปรับแต่งเครื่องยนต์ได้ตามกติกาที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ผู้เข้าแข่งขันทุกทีมจะต้องพัฒนาเทคนิคที่ประหยัดน้ำมันที่สุดจากการวิ่งตามระยะทางที่ได้กำหนดไว้โดยใช้น้ำมัน Gasohol91 และต้องใช้ความเร็วไม่น้อยกว่า 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ผู้ชนะเลิศหรือทีมที่ทำสถิติประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดจะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมรับเชิญเข้าร่วมแสดงผลงานและทัศนศึกษาในการแข่งขันระดับนานาชาติรายการ Honda Soichiro Cup ที่ประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่ทีมที่มีสถิติสูงสุดเป็นอันดับที่ จะได้รับเชิญเข้าร่วมแสดงผลงานและทัศนศึกษาในการแข่งขันระดับนานาชาติที่ประเทศจีน

การแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิงครั้งที่ 18 จะจัดขึ้นที่สนามช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 26 -27พฤศจิกายน 2558 ติดตามผลและชมภาพบรรยากาศการแข่งขันได้ที่ www.hondaeconothai.com
 

“MOTOR EXPO 2015” พร้อม! ค่ายรถอัดแคมเปญแรง ก่อนปรับภาษีใหม่ คาดเงินสะพัดกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท




“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32” จัดยิ่งใหญ่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปี ทุกค่ายเตรียมข้อเสนอพิเศษสุดก่อนปรับราคาตามโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ “สื่อสากล” คืนกำไรให้ผู้ร่วมชมงานด้วยโปรโมชั่น แจกรถยนต์ บิ๊กไบค์ และรางวัลพิเศษมากมาย รวมมูลค่ากว่า ล้านบาท พบกัน 2 - 13 ธันวาคมนี้ ที่ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่32" หรือ “The 32nd Thailand International MOTOR EXPO 2015” เผยว่าปีนี้จัดงานภายใต้แนวคิด “มาตรฐานใหม่ ยานยนต์ไทยใส่ใจโลก” หรือ “NEW STANDARDS … THAI VEHICLES CARE ABOUT THE EARTH” ซึ่งขณะนี้งานมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ค่ายรถที่ร่วมงานมีจำนวน 34 ยี่ห้อจาก 11 ประเทศ และรถจักรยานยนต์อีก 15 ยี่ห้อ จาก 8 ประเทศ ไฮไลท์ของงานคือ รถต้นแบบถึง 4 คัน เปิดตัวรถรุ่นใหม่ภายในงานกว่า 10 รุ่น มั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภค รวมถึงผู้ประกอบการอย่างกว้างขวาง พร้อมคาดการณ์ยอดจองรถยนต์ในงานสูงถึง 50,000 คัน รถบิ๊กไบค์ 3,000 คัน และผู้ชมงาน 1.5 ล้านคน เม็ดเงินสะพัดในงานกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท
รถยนต์จำนวน 34 ยี่ห้อ ได้แก่ BMW, CARLSSON, CHANGAN, CHEVROLET, DFSK, FORD, FOTON, FUSO, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, JAGUAR, LAMBORGHINI, LAND ROVER, LEXUS, MAZDA, MCLAREN, MERCEDES-BENZ, MG, MINI, MITSUBISHI, MOKE, NISSAN, PEUGEOT, PORSCHE, SAMMITR GREEN POWER, SUBARU, SUZUKI, SWIFT, TATA, TESLA, TOYOTA, VOLKSWAGEN และ VOLVO
รถจักรยานยนต์ 15 ยี่ห้อ ได้แก่ BENELLI, BMW, DUCATI, GPX, HARLEY-DAVIDSON, HONDA, KAWASAKI, KEEWAY, KTM, Royal Enfield, SUZUKI, TRIUMPH, UDA, VESPA และ YAMAHA
สำหรับกิจกรรมคืนกำไรแก่ผู้เข้าชมงาน ซึ่งมีรางวัลรวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ได้แก่ ซื้อรถ ชิงรถซื้อบัตร ชิงรถ, SMS ชิงรถ, ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ชิงบิ๊กไบค์, ซื้อสินค้า ชิงรางวัล ฯลฯ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1.      ซื้อรถ...ชิง MITSUBISHI PAJERO SPORT” เมื่อจองหรือซื้อรถยนต์ใหม่ภายในงาน มีสิทธิ์ชิงรางวัลรถยนต์ MITSUBISHI PAJERO SPORT รุ่น GLS-LTD (2WD) มูลค่า 1,138,000บาท จำนวน รางวัล
2.      “ซื้อบัตร...ชิง MERCEDES-BENZ” ผู้ที่ซื้อบัตรชมงาน มีสิทธิ์ชิงโชครถยนต์ MERCEDES-BENZ รุ่นGLA 200 มูลค่า2,090,000 บาท จำนวน รางวัล
3.   “SMS ชิงรถ” หรือ กิจกรรม “ร่วมลุ้นแบบคนรุ่นใหม่” เพียงกด *144 แล้วโทรออก (ค่าบริการครั้งละ 6 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) หรือร่วมกิจกรรมผ่าน  MOTOR EXPO APPLICATION บน โทรศัพท์มือถือ SMART PHONE (ค่าบริการสิทธิ์ละ 6 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สามารถร่วมลุ้น ชิงรถยนต์ SUZUKI CIAZ รุ่น GLX มูลค่า 625,000 บาท จำนวน 1 รางวัล พร้อมรางวัลพิเศษอีกมากมาย
4.      ซื้อมอเตอร์ไซค์ ชิงบิ๊กไบค์ เมื่อจองหรือซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ในงานมีสิทธิ์ชิงรางวัลรถจักรยานยนต์ HONDA รุ่น NC750Xมูลค่า 356,000 บาท จำนวน รางวัล
5.      “ซื้อสินค้า ชิงรางวัล” เมื่อซื้อสินค้าภายในงานจากร้านเดียวกันทุกๆ 1,000 บาท จะได้รับคูปอง ชิงโชค ใบ เพื่อลุ้นรางวัลมากมาย รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท
6.      MOTOR EXPO SMART PRETTY VOTE 2015 โหวท PRETTY ในงาน ชิงสร้อยคอทองคำ และของรางวัลมูลค่ารวมกว่าแสนบาท


นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การประกวดภาพถ่ายตามหัวข้อ “CONNECT: เชื่อมไกลมาใกล้กัน ผูกพันด้วยภาพถ่ายพร้อมข้อความบรรยายภาพเข้าร่วมประกวด “MOTOR EXPO PHOTO CONTEST 2015” ผู้ชนะเลิศรับถ้วยรางวัลเกียรติยศ พร้อมกล้องถ่ายรูปCANON รุ่น EOS 7D MARK II (Body) และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท
ห้ามพลาด! มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32” ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 พร้อมรับชมการถ่ายทอดสดงานได้ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง ในวันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 14.00 – 16.00 นติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.motorexpo.co.th

แอ็กซอลตา โค้ทติ้ง ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) ร่วมกับ เบเยอร์ สนับสนุนผลิตภัณฑ์สีพ่นรถยนต์ เพื่อช่วยในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานไทย



ภัสสร อิริยาภิชาติ (ที่สามจากขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็กซอลตา โค้ทติ้ง ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ ดร.จารุรัตน์ ชัยยศบูรณะ (ที่สองจากขวา) รองประธานบริหาร กลุ่มบริษัท เบเยอร์ จำกัด ทำพิธีมอบผลิตภัณฑ์สีพ่นรถยนต์แก่ กรีฑา สพโชค (ที่สี่จากขวา) อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อนำไปใช้โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 แห่ง สำหรับการฝึกอบรมที่จัดให้สำหรับแรงงานช่างซ่อมสีรถยนต์ โดยมี อัจฉรา แก้วกำชัยเจริญ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนามาตรฐานและทดสอบฝีมือแรงงาน และบุปผา สุวรรณวรางกูล ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และเครือข่ายพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ บริษัท แอ็กซอลตา โค้ทติ้ง ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด 

กรุงเทพมหานคร พฤศจิกายน 2015 - - บริษัท แอ็กซอลตา โค้ทติ้ง ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำระบบสีพ่นรถยนต์อันดับหนึ่งของโลก ทั้งสีน้ำและสีฝุ่น ร่วมกับกลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ ผู้นำนวัตกรรมสีรักษ์โลก รักคุณ เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาเนื้อไม้ สีทาอาคาร และสีอุตสาหกรรมคุณภาพสูงครบวงจร เพื่อช่วยในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานไทยด้วยการสนับสนุนผลิตภัณฑ์สีพ่นรถยนต์ Axalta และ Nason 493 ให้กับสถาบันต่างๆ ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานรวม 12 แห่งทั่วประเทศ การสนับสนุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในพันธะสัญญาของ แอ็กซอลตา เพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมสีพ่นรถยนต์ที่แข็งแกร่งในประเทศไทยและเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาฝีมือแรงงานและทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคตของอุตสาหกรรมงานซ่อมสีรถยนต์                  
   
นางสาวภัสสร อิริยาภิชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็กซอลตา โค้ทติ้ง ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เรารู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคมซึ่งมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการพัฒนาทักษะแรงงานไทย สอดคล้องกับพันธะสัญญาของเราในการส่งเสริมอุตสาหกรรมสีพ่นรถยนต์ให้แข็งแกร่งในประเทศไทยและเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาฝีมือแรงงานและทักษะที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมงานซ่อมสีรถยนต์ในอนาคต ในปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมานซ่อมสีรถยนต์ความสามารถของแรงงานไทยยังต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการจ้างงานในตลาด ทางแอ็กซอลตาเองก็ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาฝีมือแรงงาช่างซ่อมสีรถยนต์ โดยได้ร่วมสนับสนุนโครงการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานกับทางกรมพัฒนาฝือแรงงานมาโดยตลอด

ผลิตภัณฑ์จะนำไปใช้โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 แห่ง สำหรับการฝึกอบรมที่จัดให้สำหรับแรงงานช่างสีไทย สถาบัน 12แห่ง ได้แก่ สถาบันในจังหวัดสมุทรปราการ สุพรรณบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก ลำปาง สุราษฎร์ธานี และสงขลา

ดร.จารุรัตน์ ชัยยศบูรณะ รองประธานบริหาร กลุ่มบริษัท เบเยอร์ จำกัด กล่าวถึงการเข้าร่วมสนับสนุนโครงการพัฒนาฝีมือแรงงานในครั้งนี้ว่า บริษัท เบเยอร์ มีปณิธานในการดำเนินงานที่แตกต่างจากผู้ผลิตรายอื่น เราไม่ได้เป็นแค่ผู้ผลิตสีทั่วไป หากแต่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับงานสีที่เป็นประโยชน์และใช้งานได้จริงให้กับผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินค้าเพียงอย่างเดียว หากแต่ผู้นำสินค้าไปใช้งานจริง ซึ่งในที่นี้ ก็คือ ช่างสีก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน เพราะถ้าช่างสีขาดความสามารถ และทักษะที่ดีในการทำงานแล้ว งานที่ออกมาก็จะขาดความสมบูรณ์และไม่ได้มาตรฐานตามที่ต้องการ เบเยอร์ตระหนักถึงความสำคัญในส่วนนี้เป็นอย่างมากจึงได้เข้าร่วมสนับสนุนโครงการกับ แอ็กซอลตา โค้ทติ้ง ซิสเต็มส์ เพื่อช่วยพัฒนาทักษะและเพิ่มมูลค่าในการสร้างอาชีพให้แก่ช่างสี ซึ่งเบเยอร์เองก็ได้ทำกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมเช่นนี้มาโดยตลอด

แอ็กซอลตาตระหนักอยู่เสมอว่าวิถีแห่งความยั่งยืนเป็นกระบวนการที่จะต้องดำเนินต่อไปตามพันธกิจที่ได้วางไว้ การพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นหัวใจที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจของแอ็กซอลตา การเป็นเพื่อนบ้านที่ดีกับชุมชนที่ดำเนินธุรกิจอยู่ ตลอดจนการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับคู่ค้า เป็นพื้นฐานในการเติบโตและความสำเร็จของเรา


เกี่ยวกับ บริษัท แอ็กซอลตา โค้ทติ้ง ซิสเต็มส์

แอ็กซอลตา โค้ทติ้ง ซิสเต็มส์ เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก ด้วยประสบการณ์กว่า 150 ปี ในธุรกิจสีเคลือบสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ การขนส่ง อุตสาหกรรมทั่วไป สถาปัตยกรรมเฉพาะด้าน และการตกแต่งภายใน  เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลาย ด้วยพนักงานกว่า12,800 คน   ลูกค้ามากกว่า 120,000 คน ดำเนินธุรกิจใน 130 ประเทศทั่วโลก  แอ็กซอลตาพร้อมตอบสนองลูกค้าด้วยการบริการแบบเต็มระบบ   ครบวงจร การนำเสนอเทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สามารถเข้าไปดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  www.axalta.co.th

ไทยโชว์ศักยภาพ จัดงาน “AAITF Bangkok 2015” สุดยอดงานแสดงสินค้าเจรจาธุรกิจ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อะไหล่ทดแทน และอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ จากทุกมุมโลก โอกาสดีที่ผู้ประกอบการไทยห้ามพลาด !!



ผู้ประกอบการอะไหล่รถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่ง แห่ร่วมงาน “AAITF Bangkok 2015” (Automotive Aftermarket Industry and Tuning Trade Fair Bangkok 2015) จัดโดย “TARSUS GROUP” ผู้จัดงานแสดงสินค้าระดับแนวหน้าจากประเทศอังกฤษ ร่วมกับ “สื่อสากล” จัดงาน “AAITF Bangkok 2015” งานแสดงสินค้าเจรจาธุรกิจ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และอะไหล่ทดแทน อุปกรณ์ตกแต่ง และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32” โดยงานนี้เน้นการเจรจาธุรกิจเป็นหลัก (Business Matching) โดยมีตัวแทนผู้ขาย ผู้นำเข้า ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าปลีกชั้นนำของไทย กลุ่มประเทศอาเซียน และต่างประเทศ ร่วมจัดแสดงอุปกรณ์ยานยนต์ ประเภท Aftermarket ทั้งชิ้นส่วน อะไหล่ทดแทน อุปกรณ์ซ่อมบำรุง อุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์ ระบบเชื่อมต่อ เครื่องเสียง และอุปกรณ์ตกแต่ง บนพื้นที่จัดงานกว่า 3,500 ตารางเมตร ระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม 2558 ณ อิมแพ็ค ฟอรัม (ฮอลล์ 9) งานนี้ผู้ประกอบการไทยพลาดไม่ได้ !! 

          มร.ปีเตอร์ แมสซี่ (MR.PETER MASSEY) PROJECT DIRECTOR บริษัท TARSUS GROUP LTD. กล่าวว่า TARSUS เราเป็นผู้นำในการจัดงานแสดงสินค้า Business To Business การเจรจาการค้าระดับแนวหน้าของโลก จากประเทศอังกฤษ โดยการจัดงาน AAITF ได้เริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2006 ที่เมืองกวางโจว ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งปัจจุบันใช้พื้นที่จัดงานมากกว่า 200,000 ตรม. โดยมีกลุ่มสินค้าหลัก ประเภทถูกจัดแสดง มีสินค้ามากกว่า 3,000 ยี่ห้อ จาก 48 ประเทศ เข้าร่วมงาน และยังมีสินค้าใหม่เปิดตัวมากกว่า 20,000 รายการในแต่ละปี เงินหมุนเวียนภายในงานกว่า 25,200 ล้านหยวน และคาดว่าในประเทศไทยจะมีเงินสะพัดในปีแรกกว่า 1,200 ล้านบาท 

ทั้งนี้เวทีการเจรจาการค้า จะเน้นกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นหลัก ผู้ชมงานที่เป็นนักธุรกิจจากประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศไทย จะมีสัดส่วนประมาณ 70 % ตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง คือ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ประมาณ 20% กลุ่มประเทศสิงคโปร์ บรูไน และฟิลิปปินส์ อีกประมาณ 10%

ทางด้าน นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้นำตลาดการจัดงาน มหกรรมยานยนต์” หรือ THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่เราร่วมมือจัดงาน “AAITF Bangkok 2015” (Automotive Aftermarket Industry and Tuning Trade Fair Bangkok 2015) กับทางบริษัท TARSUS จากประเทศอังกฤษ โดยงานนี้จะเน้นการเจรจาธุรกิจเป็นหลัก (Business to Business Platform) เพื่อส่งเสริมการผลิต และจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาค อาทิ อุปกรณ์ตกแต่ง เครื่องเสียง ระบบเชื่อมต่อ ผลิตภัณฑ์บำรุงรักษา อุปกรณ์ซ่อมบำรุง อะไหล่ทดแทน และอีกมากมาย ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมงานจาก 11 ประเทศ เปิดโอกาสให้พบกับผู้ซื้อจากหลายประเทศ ที่มีความพร้อมในการสั่งซื้อสินค้า และถือเป็นโอกาสดีในการขยายตลาดอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องยานยนต์ของผู้ประกอบการไทยสู่ภูมิภาคอาเซียน งาน AAITF Bangkok 2015 จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุม อิมแพคท์ ฟอรัม ระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม 2558 พร้อมกับงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32” ที่คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 1.3 ล้านคน 

ส่วนงาน  AAITF Bangkok 2015 ตั้งเป้าผู้ชมงานที่เป็นผู้ประกอบการประมาณ 5,000 คน ที่กำลังมองหาสินค้า และนวัตกรรมใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมสินค้าเกี่ยวเนื่องยานยนต์ โดยเฉพาะกลุ่ม ผู้ผลิตและผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ และอะไหล่ทดแทน ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการ ผู้ประกอบการ Automotive Aftermarket อู่ซ่อม อู่สี ร้านตกแต่ง และธุรกิจค้าปลีก คาดว่างานนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการตลาดให้เกิดความคุ้มค่า และสร้างภาพลักษณ์ที่ดี พร้อมทั้งยกระดับงานแสดงยานยนต์ขึ้นสู่ระดับสากล ซึ่งขณะนี้มีผู้ร่วมงานตอบรับจาก 11 ประเทศ ด้แก่ อังกฤษ อิตาลี สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อินเดีย จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย นอกจากนี้ยังมีการจัดสัมมนาพิเศษสำหรับผู้เข้าร่วมงาน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมโอกาสในการประชาสัมพันธ์สินค้า และยังมีพื้นที่สาธิตสินค้าสำหรับกลุ่ม Modification and Tuning ให้กับลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการอีกด้วย 

ทางด้าน นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ในฐานะองค์กรภาครัฐ ทีเส็บมีพันธกิจเพื่อสนับสนุน ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ รวมถึงการสร้างโอกาสทางการตลาดและการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยในตลาดโลก อันจะนำประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางของการจัดงานระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ และชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติและมีการเติบโตสูงมากในภูมิภาคเอเชีย ด้วยเหตุนี้ ทีเส็บได้ให้การสนับสนุนการจัดงาน AAITF Bangkok 2015 ในการทำกิจกรรมการตลาดในต่างประเทศ เพื่อดึงกลุ่มนักธุรกิจเข้าร่วมงานและทำการจับคู่ธุรกิจภายในงาน ภายใต้ แคมเปญ “Connect Businesses” รวมถึงการสนับสนุนห้องพักสำหรับผู้ซื้อรายใหญ่จากทั่วโลก โดยทีเส็บหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการจับคู่ธุรกิจ เจรจาซื้อขายและต่อยอดโอกาสทางการค้าให้กับผู้ที่มาร่วมออกงานและร่วมชมงานในปีนี้ 

งาน AAITF Bangkok 2015 จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุม อิมแพคท์ ฟอรัม ระหว่างวันที่9-11 ธันวาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 10.00 น - 18.00 น. จัดขึ้นพร้อมงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32”

“ZIC” น้ำมันเครื่องเบอร์ 1 จากแดนกิมจิ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ZIC X Series” ดึง “ซิโก้” (ZICO) เป็นพรีเซนเตอร์




นายเสกสรร ศรีศุภโอฬาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอราโนส จำกัด ในเครือ เค.เอ็ม. กรุ๊ป ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายน้ำมันเครื่อง ZIC น้ำมันเครื่องแบรนด์เบอร์ 1 ของเกาหลีใต้ พร้อมด้วยผู้บริหารจาก SK Lubricants โรงกลั่นใหญ่อันดับ 2 ของโลก ร่วมเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องตัวใหม่ “ZIC X Series” น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงเกรดพรีเมี่ยม โดยมี ซิโก้ (ZICO) เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นพรีเซนเตอร์ งานจัดขึ้น ณ โรงแรมพูลแมน แกรนด์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง ZIC เป็นน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงและมีความน่าเชื่อถือ ผลิตจาก SK Lubricants โรงกลั่นใหญ่อันดับ 2 ของโลก ในเครือของ SK Group บริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ โดยน้ำมันเครื่อง ZIC ตั้งเป้าจะชิงส่วนแบ่ง 5% จากตลาดมูลค่า 2 หมื่นล้านบาทในประเทศไทย

รถจักรยานยนต์ฮอนด้าคว้ารางวัลสุดยอดแบรนด์แห่งปี ซูเปอร์แบรนด์ไทยแลนด์ 2015


นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย รับมอบรางวัลสุดยอดแบรนด์แห่งปีหรือซูเปอร์แบรนด์ไทยแลนด์ 2015 (Superbrands Thailand 2015) จากการคัดสรรโดยคณะกรรมการซูเปอร์แบรนด์ประเทศไทย ในฐานะแบรนด์รถจักรยานยนต์ที่ได้รับความไว้วางใจและเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคมากที่สุด โดยมีมร.ไมค์ อิงลิช กรรมการผู้จัดการ สถาบันซูเปอร์แบรนด์ประเทศอังกฤษให้เกียรติเป็นผู้มอบ ณ ลานไลฟ์สไตล์ฮอลล์ สยามพารากอน เมื่อเร็วๆนี้
สำหรับรางวัลซูเปอร์แบรนด์ ถือกำเนิดขึ้นในประเทศอังกฤษตั้งแต่ปี 1994 ก่อนจะขยายการดำเนินงานไปสู่ 93 ประเทศทั่วโลกในปัจจุบัน และได้รับการยอมรับในฐานะรางวัลจากองค์กรอิสระที่ทำงานด้านการวัดและประเมินความเป็นเลิศของการสร้างแบรนด์ โดยคณะกรรมการที่ทำการคัดเลือกคือผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในวงการการตลาด โฆษณา และประชาสัมพันธ์ของแต่ละประเทศ
รางวัลซูเปอร์แบรนด์ไทยแลนด์มีเกณฑ์พิจารณาใน 3 ด้านหลักประกอบด้วย คุณภาพของแบรนด์ (Brand Quality) ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค (Brand Affinity) และเอกลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Personality) ผ่านการคัดเลือกโดยการโหวตจากผู้บริโภค 10,000 คนทั่วประเทศไทยในขั้นแรก มาสู่การโหวตโดยผู้อำนวยการผู้จัดการและเจ้าหน้าที่ทางด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์พร้อมทั้งบริษัทโฆษณาและประชาสัมพันธ์รวม 3,500 คน ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการโหวตขั้นสุดท้ายโดยคณะกรรมการอิสระผู้ทรงคุณวุฒิของซูเปอร์แบรนด์
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved