Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

“วอลโว่” เปิดปี 2559 ชูธงรบครั้งใหญ่ ส่ง The all-new XC90 หนึ่งในรถที่ปลอดภัยที่สุดในโลก




วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ส่ง The all-new XC90 รถเอสยูวี ที่นั่ง มาพร้อมกันถึง เครื่องยนต์ หนึ่งในนั้น คือ เครื่องยนต์ ปลั๊กอิน ไฮบริด คงความหรูหราและพิถีพิถันตามแบบสวีเดน สะท้อนภาพลักษณ์ใหม่และทิศทางตลาดในอนาคตของแบรนด์ นำทัพวงการ ยานยนต์สู่ผู้นำแห่งโลกเทคโนโลยีความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบรายแรกของโลก  

          นางสาวแอเน็ต แอนเดอร์สัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า วันนี้เป็นอีกวันที่เรารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เปิดตัวรถ The all-new XC90 ยนตกรรมระดับโลกให้คนไทยได้ยลโฉมเป็นครั้งแรก ซึ่งรถรุ่นนี้ มีความสำคัญกับแบรนด์วอลโว่อย่างยิ่ง สอดรับกับคอนเซปต์ที่ว่า “A New Beginning” อันหมายถึงจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์และทิศทางในอนาคตของแบรนด์วอลโว่ทั่วโลก การชูธงในเรื่องความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความปลอดภัยของรถที่เราคิดค้นและพัฒนาขึ้นเป็นรายแรกของโลก

“ประเทศไทย เป็นตลาดที่สำคัญสำหรับวอลโว่ คนไทยรู้จักวอลโว่มานานกว่า 44 ปี ในฐานะรถยนต์หรูจากสวีเดนที่มีความเป็นเลิศ และในปีนี้วอลโว่จะมีสีสันและคึกคักมากขึ้น ด้วยกลยุทธ์ตลาดเชิงรุก ซึ่งนอกเหนือจากการเปิดตัวรถในวันนี้ เรายังมีแผนการรุกตลาดอย่างต่อเนื่องครอบคลุมทุกสื่อที่หลากหลายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้คนไทยได้ใกล้ชิดกับแบรนด์ในทุกมิติยิ่งขึ้น เพราะเรามองว่ารถคือปัจจัยที่ห้า และวอลโว่มีรถที่ไม่ใช่เป็นเพียงรถหรูที่มีความปลอดภัยสูงเท่านั้น แต่รถทุกรุ่นของวอลโว่ยังเป็นรถที่มีความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างสูงสุด โดยยึดหลักการออกแบบที่ให้มนุษย์เป็นศูนย์กลาง รวมถึงดีไซน์ที่เชื่อมั่นว่าจะสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างแน่นอน”      แอเน็ต กล่าว

นางสาวแอเน็ต กล่าวอีกว่า “The all-new XC90 คันนี้ถือเป็นรถ SUV 7 ที่นั่งที่มีความหรูหรามากที่สุดในตลาดเมืองไทย ด้วยการออกแบบอย่างพิถีพิถันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวสวีเดน ยิ่งกว่านั้นยังมาพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ซึ่งครอบคลุมด้วยเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก เติมเต็มด้วย 2 นวัตกรรมความปลอดภัยครั้งแรกของโลก ได้แก่ ระบบปกป้องเมื่อเกิดการวิ่งตกถนนหรือลื่นไถลออกนอกถนน(Run-Off Road Protection) และ ระบบเบรกอัตโนมัติบริเวณทางร่วมแยก (Auto Brake at Intersection) เพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดอันตรายจากการชนกับรถที่วิ่งสวนมาที่ทางแยก โดยวอลโว่เป็นผู้นำในการคิดค้นระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Intellisafe ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องและป้องกันผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถเท่านั้น แต่ยังปกป้องผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกับเราด้วย

“ปีนี้เราวางแผนยกระดับตัวแทนจำหน่ายผ่านการปรับรูปโฉมโชว์รูมซึ่งเน้นสะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นสแกนดิเนเวียนออกมาอย่างชัดเจนโดยนำร่องที่ศูนย์พระราม 3 เป็นโชว์รูมแรกและมีแผนดำเนินการปรับโชว์รูมรูปโฉมใหม่อย่างน้อยอีก 3 แห่งในปีนี้ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น”
ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาและสร้างนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งนี้ เราจึงเชื่อว่าวอลโว่จะเป็นรถคันแรกที่ให้สุนทรียศาสตร์บนพื้นฐานของแพลตฟอร์ม SPA ด้วยแนวคิด “ออกแบบมาเพื่อคุณ” (Designed Around You) เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ด้านความปลอดภัยของวอลโว่ที่ว่า ภายในปี ค.ศ. 2020 จะต้องไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสในรถวอลโว่รุ่นใหม่ อีกต่อไป
การออกแบบ DESIGN
วอลโว่โฉมใหม่ Volvo’s new face

The all-new XC90 ใหม่จะเป็นบทบัญญัติหน้าใหม่ในประวัติศาสตร์ของรถยนต์วอลโว่ ชี้นำทิศทางการออกแบบรถยนต์ในอนาคตได้ชัดเจน ผนวกไว้ซึ่งเทคโนโลยีทันสมัยที่เป็นตัวตน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมบนแพลตฟอร์มใหม่ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ วอลโว่ นั่นคือ Scalable Product Architecture (SPA)

XC90 ใหม่ เป็นรถรุ่นแรกที่เผยโฉมด้วยตราสัญลักษณ์/เครื่องหมายการค้าใหม่ของ Volvo ซึ่งออกแบบให้ส่วนของวงแหวนลูกศรสวยสง่างามมากขึ้น ช่วยให้กระจังหน้ารถดูสง่าภูมิฐานเต็มคุณค่ายิ่งขึ้น ส่วนตัวรถผสมผสานการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียอย่างมีรสนิยม ทั้งภายนอกและภายในทำให้ XC90 ใหม่โดดเด่นบนท้องถนน ชัดเจนด้วยรูปทรงไฟหน้าที่จำลองแบบ “ฆ้อนแห่งเทพเจ้าธอร์”หรือ Thor’s Hammer ที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง “Norse God of Thunder Thor”  แบบแอลอีดี (LED) ผนวกกับกระจังหน้าสวยหรูที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ดูทรงพลังสะท้อนความกล้าแกร่งแต่นุ่มนวล

XC90 ฝากระโปรงหน้าปั้มเส้นสันใหม่ สอดรับกับเส้นสายที่คมชัดตลอดแนวยาวระดับหน้าต่างขอบล่าง ไฟท้ายรูปทรงใหม่ก็เป็นส่วนสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่บ่งบอกเอกลักษณ์ ล้วนสะท้อนบอกรถยนต์แต่ละรุ่นของ Volvo ด้วยรูปลักษณ์ที่สง่าหรูหราและดูทรงพลัง

การตกแต่งภายในสุดหรู (Luxurious interior)

          ภายในห้องโดยสารที่โดดเด่นด้วย Sensus ระบบสื่อสารควบคุมรถยนต์เทคโนโลยีล้ำยุค ใช้งานง่าย และควบคุมสั่งการระบบหลักๆของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นระบบข้อมูลขับขี่อัจฉริยะที่มาพร้อมเครื่องเสียงบันเทิงเริงรมย์ โทรศัพท์ติดรถยนต์ ระบบนำทางผ่านดาวเทียม และระบบต่อเชื่อมสัญญาณสื่อสารไร้สาย การตกแต่งห้องโดยสารสไตล์สแกนดิเนเวียนั้นเลอเลิศ ให้ความอภิรมย์ผ่อนคลายเพราะเรียบง่าย วัสดุตกแต่งทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็นหนังหรือว่าลายไม้ล้วนคัดสรร แต่ยังคงความเป็นรถยนต์ SUV ที่ขับลุยใช้งานได้จริง
          อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่ที่จอภาพควบคุมระบบสัมผัสจำลองแบบ tablet ขนาด 9 นิ้วที่คอนโซล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของระบบควบคุมรถยนต์รุ่นใหม่ ใช้งานง่าย ในห้องโดยสารของ XC90 ใหม่ผสมผสานวัสดุที่ได้รับการเลือกสรร เช่น หนัง Nappa แท้เนื้อนุ่ม คิ้วไม้คัดลายดุจเครื่องเรือนสูงค่าจากช่างฝีมือเอก รวมทั้งหัวคันเกียร์ที่ทำจากแก้วเจียระไนของ Orrefors ชื่อดังของสวีเดน ปุ่มควบคุมที่มีพื้นผิวสัมผัสเป็นโลหะลายเหลี่ยมเพชรที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครสำหรับการสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์ รวมถึงปุ่มควบคุมระดับเสียง

เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ (New Seats)

          วอลโว่ภูมิใจที่ได้ชื่อว่าเป็นรถยนต์นั่งยี่ห้อหนึ่งในอันดับต้นๆที่ออกแบบเบาะนั่งได้สะดวกสบายที่สุดในกระบวนบริษัทผลิตรถยนต์ XC90 ตอกย้ำชื่อเสียงอันนั้นด้วยนวัตกรรมเบาะนั่งรถยนต์ที่ช่วยเพิ่มเนื้อที่ในห้องโดยสารให้กับผู้โดยสารเบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 มากขึ้น สมกับเป็นรถยนต์ SUV 7 ที่นั่งอย่างแท้จริง
เบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 ปรับเลื่อนระยะเพิ่มเนื้อที่ได้(Individual second row seat and more space in the third row)
          เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกเป็น 3 ที่นั่ง พนักพิงปรับเอนหลังได้อิสระจากกัน สามารถปรับเลื่อนเดินหน้า/ถอยหลังเพิ่มระยะวางเท้าให้กับผู้โดยสารเบาะนั่งแถวที่ 3 ได้ด้วย หรือปรับเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระท้ายรถในกรณีที่พนักพิงเบาะนั่งแถวที่ 3 พับราบลง เบาะรองนั่งสำหรับเด็กถูกออกแบบให้รวมเป็นหนึ่งเดียวกับเบาะนั่งตัวกลาง
          เบาะนั่งแถวที่ 3 ซึ่งออกแบบให้นั่งสบายมากที่สุดในกระบวนรถ SUV ด้วยกัน ผู้โดยสารที่ร่างกายสูง 170 เซนติเมตรสามารถนั่งได้สบายโดยไม่ต้องก้มตัวให้ปวดเหมื่อยต้นคอนั้น ติดตั้งอยู่ตรงกลางตัวรถ เพื่อให้ผู้โดยสารตอนท้ายมองเห็นทิวทัศน์หรือภาพถนนเบื้องหน้าได้แฉกเช่นที่นั่งในโรงภาพยนตร์ หรือ Theatre-seat-inspired view และสามารถสอดเท้าใต้เบาะนั่งแถวที่ 2 เพิ่มระยะวางเท้าได้สบายกว่า นอกนั้น มัณฑนากรยังให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายในการเข้า/ออก-ลุก/นั่งของผู้โดยสารเบาะนั่งแถวที่ 3 เป็นพิเศษ
          ทุกที่นั่งติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดรัดพร้อมระบบปรับตึงอัตโนมัติ(Pre-tensioners) ม่านนิรภัยหรือ Inflatable Curtain Airbags ยาวตลอดครอบคลุมเบาะนั่งได้ทุกแถวนับแต่เบาะหน้าจรดท้ายรถ ปกป้องคนในรถจากกรณีชนด้านข้างและ/หรือรถพลิกคว่ำ

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติกระจายความเย็น 4 โซน (Four-Zone Climate System)

บรรยากาศที่น่ารื่นรมย์ ด้วยอากาศเย็นสดชื่น ในห้องโดยสาร เป็นสิ่งที่จำเป็นของคุณภาพชีวิตขณะขับขี่โดยสาร XC90 มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติกระจายความเย็น 4 โซน แยกปรับความเย็นได้อิสระกับที่นั่งตอนหน้าและแถวที่ 2 ส่วนระบบปรับอากาศสำหรับเบาะนั่งแถวที่ 3 แยกอิสระ ระบบกรองอากาศอัจฉริยะ CleanZone air purification system ของวอลโว่ หนึ่งในระบบกรองอากาศในห้องโดยสารรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากสุด ได้รับการพัฒนาใหม่โดยเพิ่มกรองพิเศษที่มีประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาคเล็กจิ๋ว ละอองเกสร และฝุ่นผง ที่ปะปนมากับอากาศก่อให้เกิดอากาศระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจและโรคภูมิแพ้

Sensus:
ระบบควบคุมสื่อสารและสั่งการรถยนต์อัจฉริยะที่มาพร้อมจอภาพระบบสัมผัสขนาดใหญ่ขนาด 9 นิ้ว ในรถยนต์ใช้งานง่าย
Sensus คือ ระบบอัจฉริยะควบคุมสื่อสารและสั่งการรถยนต์ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยสุดในตลาดรถยนต์วันนี้ ปฏิวัติรูปแบบการควบคุมสั่งการตัวรถยนต์โดยคนขับ
การใช้ปุ่มสวิตช์บังคับตามวัฒนธรรมดังเดิมถูกแทนที่ด้วยจอภาพระบบสัมผัส(Tablet-Like Touch Screen) ใช้งานง่ายที่ปลายนิ้วมือ ปุ่มสัมผัสที่พวงมาลัยรถ หรือไม่ก็สั่งการด้วยเสียงของผู้ขับขี่ อย่างหนึ่งใด มาตรวัดและข้อมูลการขับขี่ปรากฏเป็นตัวเลขดิจิตอล รวมทั้ง Head-Up Display ที่ปรากฏบนกระจกบังลมตรงหน้าผู้ขับขี่ ล้วนเป็นข้อมูลที่ชัดเจนแจ้งบอกให้ผู้ขับขี่ทราบและตัดสินใจได้
Sensus สามารถเชื่อมต่อกับการสื่อสารไร้สายและผ่านสัญญาณดาวเทียมได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นสถานีวิทยุผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ระบบนำทางผ่านดาวเทียม เพลงโปรด และอื่นๆ โดยปรากฏหน้าจอโทรศัพท์มือถือบนจอภาพหน้ารถ ไม่ว่าเครื่องโทรศัพท์มือถือจะเป็นระบบ Apple หรือว่า Android ก็ตาม สามารถเชื่อมต่อโดย Hot Spot ได้อย่างสะดวก
Sensus ปรับข้อมูลใน application ต่างๆให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการจราจร แผนที่เส้นทาง Up-date ล่าสุดให้ฟรีเพื่อใช้กับระบบนำทางผ่านดาวเทียม Sensus Navigation และยังมี Apple Car Play (เฉพาะบางรุ่น) ให้เล่นได้ในรถอีก



ระบบเครื่องเสียงที่ดีที่สุดระบบหนึ่งในโลก (One of the top audio systems in the world)
ระบบเครื่องเสียงในรถยนต์ XC90 ใหม่ มี 2 ระดับด้วยกัน
Premium Sound โดย Bowers & Wilkins : XC90 มีระบบเครื่องเสียงที่ดีที่สุดระบบหนึ่งในโลกยานยนต์ระบบที่เหนือชั้นใน XC90 ประกอบด้วย เครื่องขยายเสียง คลาส ดี 1400 วัตต์ และลำโพงชุด 19 ตัวของ Bowers & Wilkins ซึ่งมีการนำถือเป็นครั้งแรกที่มีการนำซับวูฟเฟอร์พร้อมช่องระบายความร้อนมาใส่ไว้ในรถอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จึงทำให้พื้นที่ภายในกลายเป็นซับวูฟเฟอร์อันใหญ่อีกด้วย Bowers & Wilkins ออกแบบระบบเสียงของเครื่องเสียงติดรถยนต์ให้กับ XC90 ใหม่โดยเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยีเสียงที่ละเอียดอ่อนแบบ Bespoke Acoustic Technology ที่ได้รับการวิจัยพัฒนามาตลอด 5 ทศวรรษ พร้อมชุดลำโพงที่กำหนดแบบมาให้กลมกลืนกับสไตล์การตกแต่งภายในห้องโดยสารรถรุ่นนี้ ระบบเสียงนี้เป็นที่สุดของเครื่องเสียงติดรถยนต์ เสมือนหนึ่งนำการแสดงสดระดับโลกในโรงละครระดับเวิร์ลคลาสมาอยู่ในรถ (มีอยู่ใน Volvo XC90 T8 Engine Inscription)
High performance Sound: เพื่อประสิทธิภาพที่เสียงสมจริง ระบบเสียงนี้ใช้แอมปลิไฟเออร์แยก 6 ทิศทาง ส่งพลัง 330 วัตต์ไปยังลำโพง 10 ตัว ด้วยประสิทธิภาพระบบเสียงดีเยี่ยม มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว และพวงมาลัยที่มีปุ่มเลื่อนขึ้นลงเพื่อปรับฟีเจอร์ต่างๆในรถ (มีอยู่ใน Volvo XC90 D5 AWD Momentum and Volvo XC90 T8 Twin Engine Momentum)
 โครงสร้างและระบบส่งกำลัง(Chassis & Powertrain)
โครงสร้างตัวรถใหม่หมด(Completely New Chassis)
          เมื่อเรากล่าวถึงเรื่องคุณลักษณะการขับขี่ XC90 ให้คุณสมบัติในการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ นิ่มนวลราบเรียบ ยึดเกาะถนนได้หนึบแน่นมั่นคง ตอบสนองการบังคับขับขี่ได้แม่นยำรวดเร็วทันใจ สมกับเป็นรถระดับพรีเมี่ยม SUV เพราะมีระบบกันสะเทือนแบบใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
          ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระในรูปแบบของปีกนก 2 ชั้น (Double Wishbone) และ ระบบกันสะเทือนหลังถูกออกแบบมาด้วยแขนกลต่างๆ ที่ทำงานสัมพันธ์กับเหล็กสปริงแบบแบนวางขวางลำตัวรถ หรือ Transverse Leaf Spring เป็นวัสดุคุณภาพสูงน้ำหนักเบา  ซึ่งทำให้ใช้พื้นที่สำหรับชุดกันกระเทือนหลังน้อยลง และเพิ่มพื้นที่ตรงที่แถวแถว 3 ได้มากขึ้น
The all-new XC90 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ Drive-E Powertrains ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ให้ตลาดเป็นความลงตัวระหว่างสมรรถนะกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกหยดอย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง เครื่องยนต์ 2,000 ซี.ซี. แถวเรียง 4 สูบรูปแบบใหม่ ซึ่งมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลนี้ ติดตั้งเทอร์โบชาร์จจัดสรรพลังแรงได้ครอบคลุมและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแรงม้าสูงๆ แรงบิดมหาศาล และการใช้เชื้อเพลิงทุกหยดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง

          โดย XC90 ตัวท๊อป คือ Twin-Engine เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2,000 ซี.ซี.ที่ผสมผสานคุณสมบัติเด่นของเทอร์โบชาร์จ(Turbocharger) ซูเปอร์ชาร์จ(Supercharger) และมอเตอร์ไฟฟ้า(Electric Motor) เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว จัดสรรพลังระดับ 407 แรงม้า มลภาวะไอเสียต่ำมาก 53 กรัม/กิโลเมตร (ตามมาตรฐานตรวจสอบของ NEDC) นอกนั้น SPA ยังสามารถกำหนดแบบให้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าพลังงานขับเคลื่อนซ่อนรวมอยู่ในบริเวณต่างๆของตัวรถได้โดยไม่รุกล้ำเนื้อที่ห้องโดยสารภายใน หรือเปลืองพื้นที่บรรทุกสัมภาระท้ายรถได้อย่างกลมกลืน

การขับขี่ในสภาพปกติ ตัวรถถูกปรับตั้งไว้ในอยู่ในโหมดไฮบริดพลังงานผสมระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า หลังจากที่กดปุ่มสตาร์ท ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว XC90 ใหม่สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางไกลและต่อเนื่องได้ถึง 40 กิโลเมตร ซึ่งหมายถึงว่า วิ่งได้เงียบและไร้มลภาวะ   ไอเสียเหมาะสำหรับการขับขี่ใช้งานในเมืองที่ต้องการลดมลภาวะอย่างมาก และในทันทีที่บิดสวิตช์กลับ    ตัวรถจะกลับเข้าสู่โหมดการทำงานร่วมระหว่างเครื่องยนต์เบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้า เรียกพลังจากแรงบิดสูงถึง 640 นิวตัน-เมตร ซึ่งให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ในเวลาเพียง 5.6 วินาทีเท่านั้น

Volvo XC90 ใหม่2 หนึ่งในรถที่ปลอดภัยที่สุดในโลก
XC90 ใหม่ มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัยที่มากกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบัน วิวัฒนาการแห่งเทคโนโลยีนี้ตอบรับกับ ปณิธานอันสูงสุดของวอลโว่ ที่ว่า “ในปี ค.ศ. 2020 จะต้องไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสในรถวอลโว่รุ่นใหม่”  
Volvo XC90 ใหม่ รถยนต์ SUV 7 ที่นั่ง เติมเต็มด้วย 2 นวัตกรรมความปลอดภัยครั้งแรกของโลก ได้แก่

ระบบปกป้องเมื่อเกิดการวิ่งตกถนน (Run-Off Protectionเมื่อตัวรถยนต์ใกล้จุดหรือโอกาสเสี่ยงที่จะลื่นไถลหรือวิ่งตกถนน Volvo XC90 ใหม่ จะประมวลสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวรถ ณ เสี้ยววินาทีนั้น แล้วสั่งการให้เข็มขัดนิรภัยคู่หน้ากระชับรัดตรึงร่างกายผู้ขับขี่และผู้นั่งโดยสารเบาะหน้าซ้ายให้ติดแนบแน่นกับเบาะนั่งในทันที และเข็มขัดจะรัดตรึงกระชับไว้อย่างนั้นจนกว่าตัวรถจะหยุดเคลื่อนไหว เพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกสันหลังเกิดการกระแทกที่รุนแรง จนอาจบาดเจ็บสาหัสและ/หรือพิการ จากกรณีที่ตัวรถยนต์พุ่งกระแทกรุนแรงกับคันดินหรือไหล่ถนน จึงมีการเสริมหนุนส่วนดูดซับแรงกระแทกในส่วนระหว่างเบาะนั่งกับโครงสร้างเบาะ ลดแรงกระแทกกระดอนในแนวตั้งน้อยลงได้ประมาณ 1 ใน 3 ของแรงทั้งหมด
ระบบเบรกอัตโนมัติหลีกเลี่ยงการชนประสานงาบริเวณทางร่วมแยก(Auto Brake at Intersections)  XC90 ใหม่เป็นรถรุ่นแรกในโลกที่ติดตั้งระบบเบรกอัตโนมัติอัจฉริยะนี้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุชนกับรถที่วิ่งสวนทางมา อุบัติเหตุจากกรณีชนประสานงาเกิดขึ้นบ่อยมากบริเวณทางร่วมแยกทั้งในเมืองและทั้งบนทางหลวงที่ผู้คนใช้ความเร็วค่อนข้างสูง ระบบจะตรวจจับข้อมูลขับขี่แล้วประมวลผลแนวโน้มที่จะเกิดการชนประสานงาและเบรกให้รถหยุดโดยอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนและ/หรือบรรเทาความรุนแรงจากการชนประสานงาให้น้อยลง

ระบบความปลอดภัยขั้นสูงอื่นๆ ใน Volvo XC90 ใหม่ (Broad Range of Safety features for the all-new XC90)
ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันและปกป้อง (Preventive&Protective& Safety)
·      ระบบป้องกันการชนพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน ผู้ขับขี่จักรยานและสัตว์ขนาดใหญ่พร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถอัตโนมัติ (City Safety and Auto Braking function)
·      ระบบป้องกันจากกรณีถูกชนท้ายรถ (Pre-crash protection in rear impacts) 
·      ระบบแจ้งเตือนป้ายจราจรบนหน้าปัดรถ (Extended Road Sign Information)
·      ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลังออกจากที่จอด (Cross Traffic Alert)
·      ระบบแจ้งเตือนเมื่อมียานพาหนะบริเวณจุดบอดสายตา (Cover the Blind Spot)
·      ระบบหยุดและออกตัวรถโดยอัตโนมัติ (Queue Assist)
·      ระบบป้องกันและปกป้องกรณีรถพลิกคว่ำ (Groundbreaking Rollover Prevention and Protection)
·      ระบบช่วยในการขึ้นที่ลาดชัน (Hill Start Assist)
·      ระบบช่วยในกาลงที่ลาดชัน (Hill Descent Control)
·      ระบบช่วยในการจอดรถอัตโนมัติ แบบถอยหลังเข้าซองและขนานขอบทาง (Park Assist Pilot-Perpendicular & Parallel Parking)
·      กล้องช่วยในการจอดรถพร้อมจอแสดงผลด้วยภาพ 360 องศา Park Assist Camera -360 degree

        

เพื่อปกป้องคุ้มภัยให้กับคนในรถจากการกระแทกชนรุนแรง XC90 ใหม่แข็งแรงปลอดภัยมากขึ้นในทุกด้าน ผลพวงจากการนำเหล็กกล้า Boron ที่ทนต่อยืด-บิดตัวสูงมากแต่น้ำหนักเบากว่าเหล็กทั่วไปที่ทำมาผลิตตัวถังรถยนต์ บริเวณส่วนหน้าและท้ายรถซึ่งออกแบบให้ยับย่นเมื่อถูกชนเพื่อซับแรงกระแทกให้น้อยลง หรือที่เรียกว่า Safety Cage นั้น ถูกเสริมความแข็งแรงมากขึ้นโดยคุณสมบัติของเหล็กกล้า Boron เพื่อปกป้องคุ้มภัยให้คนในรถจากอุบัติเหตุชนกระแทกรุนแรงได้อย่างมั่นใจกว่า XC90 ใหม่เลือกใช้เหล็กกล้า Boron คิดเท่ากับ 40% ของน้ำหนักตัวถังรถ



วอลโว่ XC90 ใหม่ในประเทศไทยมีด้วยกัน 3 สี ได้แก่ Onyx Black Metallic (สีดำเมทาลิค) Luminous Sand Metallic (สีทองเมทาลิค) และ Ice White Metallic (สีขาว)



รุ่นรถที่จำหน่ายในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 3 รุ่น ได้แก่      
1.     The All-New Volvo XC90 D5  AWD Momentum
2.     The All-New Volvo XC90 T8 Twin Engine Momentum
3.     The All-New Volvo XC90 T8 Twin Engine Inscription

          เครื่องยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทย(Full Range of Other Engine Options)

          Volvo XC90 ใหม่ เสนอตลาดด้วย 2 ขนาดเครื่องยนต์ ได้แก่ รุ่น D5 เครื่องยนต์ดีเซล-คอมมอนเรล-ทวินเทอร์โบ 225 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตัน-เมตร นอกจากแรงขนาดแล้ว ยังประหยัดเชื้อเพลิง 16.7 กม./ลิตร และ T8 เบนซินเทอร์โบ/ซูเปอร์ชาร์จ 407 แรงม้า แรงบิด 640 นิวตัน-เมตร



          เครื่องยนต์ D5           :         รหัส A4 (D4204T11)

4 สูบแถวเรียง ดีเซลคอมมอนเรล-ทวินเทอร์โบ

          ขนาดความจุกระบอกสูบ          :         1,969 ซี.ซี.

          ระบบส่งกำลังขับเคลื่อน :         ขับเคลื่อนทุกล้อ(All-Wheel-Drive)

          กำลังสูงสุด                :         225 แรงม้า ที่ 4,250 รอบ/นาที

          แรงบิดสูงสุด              :         470 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที

          เกียร์ส่งกำลัง              :         อัตโนมัติเดินหน้า 8 สปีดพร้อม Geartronic

          อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.         :         7.8 วินาที

          ความเร็วสูงสุด            :         220 กม./ชม.

          ประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ย  :         15.4  กม./ลิตร



          เครื่องยนต์ T8           :         รหัส BA (B4204T35)

4 สูบแถวเรียง เบนซิน เทอร์โบชาร์จ/ซูเปอร์ชาร์จ

          ขนาดความจุกระบอกสูบ          :         1,969 ซี.ซี.

          กำลังสูงสุด                :         320 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที

          แรงบิดสูงสุด              :         400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,200-5,400 รอบ/นาที

          ระบบส่งกำลังขับเคลื่อน :         ขับเคลื่อนทุกล้ออัตโนมัติ (เครื่องยนต์/ล้อหน้า, มอเตอร์ไฟฟ้า/ล้อหลัง)

          มอเตอร์ไฟฟ้า             :         87 แรงม้า

          แรงบิด                     :         240 นิวตัน-เมตร

          พลังงานผสมเครื่องยนต์/มอเตอร์ไฟฟ้า

          กำลังสูงสุด(รวม)         :         407 แรงม้า

          แรงบิด(รวม)              :         640 นิวตัน-เมตร

          เกียร์ส่งกำลัง              :         อัตโนมัติ เดินหน้า 8 สปีดพร้อม Geartronic

          อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.         :         5.6 วินาที

          ความเร็วสูงสุด            :         230 กม./ชม.

          ประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ย  :         45.5 กม./ลิตร

          อัตราการชาร์จไฟฟ้า

          กระแสไฟฟ้า 6 แอมป์   :         6 ชั่วโมง

          กระแสไฟฟ้า 10 แอมป์ :         3.5 ชั่วโมง

          กระแสไฟฟ้า 13 แอมป์ :         2.5 ชั่วโมง

          พลังงานไฟฟ้าวิ่งได้ไกลสุด:       40* กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมและน้ำหนักบรรทุก)

          การชาร์จแบตเตอรี่ (230V)

          6 แอมป์ 6 ชม. ,10 แอมป์ 3.5 ชม. ,13 แอมป์ 2.5 ชม.
ข้อเสนอพิเศษ
The all-new Volvo XC90 มาพร้อมกับบริการหลังการขายระดับมาตรฐาน ซึ่งเราได้จัดบริการ Volvo Maintenance ลูกค้าที่ซื้อรถวอลโว่ใหม่จากนี้ไป จะได้รับบริการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 100,000 ก.ม. ขณะที่การรับประกันอยู่ที่ 3 ปี หรือ 100,000 ก.ม. และบริการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ช.ม. เป็นเวลา 3 ปีด้วยเช่นเดียวกันและพิเศษสุดสำหรับท่านที่จองรถ 50 ท่านแรกจะได้รับลำโพง Bowers & Wilkins New Zeppelin Wireless ลำโพงไร้สายที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าที่สุดในโลก และ ให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fidelity อย่างเหนือชั้น 
The all-new XC90 ที่สุดแห่งยนตรกรรมความปลอดภัยระดับโลก พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้ววันนี้ ได้ที่โชว์รูมวอลโว่ทั่วประเทศ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-305-4499 หรือ WWW.VOLVOCARS.COM/TH
ModelRetail price (including Vat)
Volvo XC90 D5 AWD Momentum4,890,000
Volvo XC90 T8 Twin Engine Momentum 5,390,000
Volvo XC90 T8 Twin Engine Inscription5,990,000

โตโยต้า เปิดตัว ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นพิเศษ TRD Sportivo “ความท้าทายแห่งศักดิ์ศรีที่เหนือกว่า”

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ New Fortuner TRD Sportivo เมื่อวันที่   
8 มีนาคม 2559 ที่ K Village สุขุมวิท ซอย 26


รถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ เจนเนอเรชั่นที่ 2 ได้มีการแนะนำสู่ตลาดเมืองไทยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 และได้รับการตอบรับอย่างดี สามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ซึ่งกวาดยอดขายอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ ด้วยชื่อเสียงอันเป็นที่ยอมรับในคุณภาพการผลิตมาตรฐานระดับโลก รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ประหยัดน้ำมันและประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า ทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถอเนกประสงค์ประเภท PPV ในประเทศไทย ด้วยยอดขายกว่า 29,286 คัน*
*(ยอดขายถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2559)

นายวุฒิกร กล่าวว่า โตโยต้าแนะนำรถยนต์รุ่นพิเศษ TRD Sportivo ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 และฟอร์จูนเนอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้เปิดตัวรุ่นพิเศษ Fortuner TRD Sportivo เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบรถยนต์อเนกประสงค์ แต่ยังคงไว้ด้วยความสปอร์ต ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี 

สำหรับ New Fortuner TRD Sportivo นี้มาพร้อมกับเอกลักษณ์และความโดดเด่น ด้วยดีไซน์ที่ดุดัน โฉบเฉี่ยว ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงสมรรถนะในการขับขี่ที่น่าหลงใหล โดยเฉพาะช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่แบบสปอร์ตมากขึ้น ที่สำคัญ New Fortuner TRD Sportivo ได้รับการพัฒนาแนวคิดการออกแบบ โดยวิศวกรคนไทยจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย   แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งยนตรกรรมแห่งความภาคภูมิใจของคนไทยอย่างเต็มภาคภูมิ”

New Fortuner TRD Sportivo
“รถยนต์คุณภาพระดับโลก”  ยนตรกรรมแห่งความภาคภูมิใจของวิศวกรคนไทย
New Fortuner TRD Sportivo ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจในการออกแบบและพัฒนาร่วมกันระหว่าง วิศวกรคนไทยจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง และ Toyota Racing Developmentภายใต้แนวคิด “Premium Sport” ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์รถยนต์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าคนไทยมากที่สุด เพิ่มภาพลักษณ์ความสปอร์ตผสมผสานกับความหรูหราอย่างลงตัว ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมระบบช่วงล่างที่ปรับปรุงใหม่รองรับการขับขี่สไตล์สปอร์ต ตลอดจนระบบมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก ทำให้ New Fortuner TRD Sportivo คือ ยนตรกรรมแห่งความภาคภูมิใจของคนไทย ที่จะมีบทบาทในการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทยให้ก้าวสู่ระดับโลก 

ภายนอก...เหนือกว่าทุกดีไซน์ โดดเด่นกว่าที่เคยสัมผัส
é กระจังหน้าแบบรมดำพร้อมกันชนหน้าดีไซน์ใหม่  สปอร์ตเท่ลงตัว โดดเด่นทุกมุมมอง
é ล้ออัลลอย TRD 20 นิ้ว ดีไซน์ใหม่  เผยเอกลักษณ์แห่งความสปอร์ตเหนือชั้น
é หลังคาแบบสปอร์ต Black Top … แตกต่างอย่างมีระดับ ด้วยหลังคาเคลือบฟิล์มดำสุดโฉบเฉี่ยว
é สคัฟเพลทพร้อมไฟเรืองแสงสัญลักษณ์ TRD  บ่งบอกความสปอร์ตที่เป็นคุณ
é กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ TRD Sportivo พร้อมแถบโครเมียมประตูท้ายรมดำ  เผยความสปอร์ต  
     อย่างลงตัว
é ท่อไอเสียสแตนเลส TRD ดีไซน์สปอร์ต  หรูมีสไตล์ เร้าใจเต็มขั้น
é สัญลักษณ์รุ่น TRD Sportivo  ตอบสนองตัวตนสปอร์ตเหนือชั้น 
é ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟสัญลักษณ์ TRD … สว่างชัดเต็มอารมณ์สปอร์ต

ภายใน … เหนือกว่าทุกภาพลักษณ์ สะท้อนรสนิยมแห่งความมีระดับ
é ภายในสีดำแดงสไตล์สปอร์ต  สู่สัมผัสใหม่แห่งความสปอร์ตหรูมีระดับด้วยวัสดุหนังสีดำสลับแดง พร้อมชุดแต่งลายเคฟลาร์ และแถบโครเมียมรมดำ
é เบาะหนังและหนังสังเคราะห์สีดำสลับแดง … พร้อมเดินด้ายแดง สไตล์สปอร์ต
é มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron ดีไซน์ใหม่ … ด้วยลายเคฟลาร์ และไฟแสดงผลสีแดง
é ชุดเครื่องเสียง Premium Audio พาวเวอร์แอมป์ และลำโพง JBL ตำแหน่ง 11 ลำโพง … ให้พลังเสียงคุณภาพรอบทิศทาง
é ระบบนำทาง (Navigator) รองรับ T-Connect … พร้อมเครื่องเล่น DVD หน้าจอแบบสัมผัสขนาด นิ้ว เชื่อมต่อ Bluetooth และกล้องมองหลัง
é ปุ่ม Push Start พร้อมสัญลักษณ์ TRD … เติมเต็มอารมณ์สปอร์ต 
é กุญแจ Smart Key พร้อมสัญลักษณ์ TRD … สะท้อนความสปอร์ตมีระดับ
ขุมพลังแห่งการขับเคลื่อนที่เหนือชั้น … เหนือกว่าทุกการเคลื่อนไหว เร้าใจกว่าที่เคยรู้สึก
é เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) … กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ (177 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,400 รอบ/นาที
é ระบบขับเคลื่อนซิกม่าโฟร์ … ชนะทุกความท้าทาย ก้าวข้ามทุกอุปสรรคแห่งการเดินทาง ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ที่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ดั่งใจ ทั้งโหมด H2 H4 และ L4 ผสานการทำงานร่วมกับระบบ DAC และ A-TRC
é ดิสก์เบรก ล้อ … โลดแล่นมั่นใจสไตล์สปอร์ต ด้วยดิสก์เบรกขนาดใหญ่ทั้ง 4 ล้อ 
é ชุดแต่งช่วงล่าง TRD Sportivo … ตอบรับทุกการขับขี่สไตล์สปอร์ต นุ่มนวลเหนือชั้น ทรงตัวและเกาะถนนดีเยี่ยมในทุกสภาพถนน

นายวุฒิกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ผมเชื่อมั่นว่า New Fortuner TRD Sportivo นี้ จะตอบโจทย์ทุกความต้องการในด้านการขับขี่ของลูกค้าที่ชอบแนวสปอร์ตแต่ยังคงความหรูหรา ถือว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่จะสร้างความแตกต่างให้กับตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ และผมมั่นใจว่าผู้ที่ครอบครอง New Fortuner TRD Sportivo จะมีความภาคภูมิในการเป็นเจ้าของสุดยอดยนตรกรรมนี้อย่างแน่นอน”

เลือกเป็นเจ้าของ New Fortuner TRD Sportivo ได้ 2 สี
é สีขาวมุก ... White Pearl CS  (สามารถเลือกเพิ่มฟิลม์ดำ Black Top)
é สีดำ … Attitude Black Mica

ร่วมสัมผัส New Fortuner TRD Sportivo
ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า 452 แห่งทั่วประเทศ
ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2559

“ZIC” (ซิค) ทุ่มงบกว่า 80 ล้านบาท สร้างแบรนด์ต่อเนื่อง ทั้งอะโบฟและบีโลว์เดอะไลน์หวังโตอีกเท่าตัว


“ZIC” (ซิค) น้ำมันเครื่องระดับพรีเมียมจากเกาหลีใต้ เผยผลประกอบการปี 2558 โตสูงกว่า 5%  รุกหนักสร้างแบรนด์ต่อเนื่อง อัดงบ 80 ล้านบาท จัดเต็มกลยุทธ์ทั้งอะโบฟและบีโลว์เดอะไลน์ พร้อมดึง ซิโก้” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ หวังโตอีกเท่าตัวในตลาดเมืองไทย
นายเสกสรร ศรีศุภโอฬาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอราโนส จำกัด ในเครือ เค.เอ็ม. กรุ๊ป ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายน้ำมันเครื่อง ZIC (ซิค) จากกลุ่มบริษัท SK Group ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่าผลประกอบการของน้ำมันเครื่อง ZIC ในปี 2558 เป็นที่น่าพึงพอใจ โดยมีอัตราเติบโตกว่า 5% ซึ่งถือว่าเติบโตสูงกว่าตลาดโดยรวม หลังบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมบีโลว์เดอะไลน์กับผู้แทนขาย (Dealers) ที่มีอยู่ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องทุกๆ เดือน รวมทั้งร่วมสนับสนุนรายการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ อาทิ การแข่งขัน D1 Grand Prix Thailand, การแข่งขัน Big Bike รายการ ZIC Big Day การสนับสนุนทีมสโมสรฟุตบอลราชประชา เป็นต้น ทำให้น้ำมันเครื่อง ZIC เริ่มเป็นที่สนใจทดลองใช้ในกลุ่มผู้บริโภค ด้านยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านผู้แทนขายที่มีอยู่เกือบ 2,000 ร้านค้า มีอัตราเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน โดย 15% ของผู้แทนขายขึ้นป้ายจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ZIC ในสัดส่วน 100% 
สำหรับภาวะตลาดน้ำมันเครื่องของประเทศไทยในปีนี้มีแนวโน้มซบเซาต่อเนื่องตามสภาพเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผู้เล่นหลักต่างโหมโฆษณาและอัดโปรโมชั่นเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดของตน รวมทั้งบริษัทโอราโนสในฐานะผู้แทนจำหน่ายน้ำมันเครื่อง ZIC ในเมืองไทย พร้อมทุ่มงบการตลาดราว 80ล้านบาท เปิดเกมรุกสื่อสารการตลาดครบวงจร ทั้งอะโบฟเดอะไลน์ บีโลว์เดอะไลน์ และโซเชี่ยลมีเดีย เน้นสร้างแบรนด์ ZIC ให้เป็นที่รู้จักและใกล้ชิดกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ศึกษาเรื่องยานยนต์และรักรถมากเป็นพิเศษ
“น้ำมันเครื่อง ZIC ผลิตจาก SK Lubricants โรงกลั่นน้ำมันใหญ่อันดับ ของโลก ในเครือของ SK Group และมีจำหน่ายมากกว่า 43 ประเทศทั่วโลก เนื่องจากทาง SK Group เล็งเห็นว่าตลาดน้ำมันเครื่องในประเทศไทยมีศักยภาพในการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ดังนั้น ถือเป็นปีแรกที่บริษัทฯ ใช้งบการตลาดสูงสุดตั้งแต่นำผลิตภัณฑ์ ZIC เข้าสู่ตลาดน้ำมันเครื่องเมืองไทยเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว และเป็นปีแรกที่ทำตลาดอะโบฟเดอะไลน์อย่างจริงจังในสัดส่วนสูงถึง 50% โดยช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไป บริษัทฯ เตรียมส่งสปอตโฆษณาออกอากาศทางโทรทัศน์จำนวน ชุด เพื่อสร้างความตระหนักในแบรนด์โดยสร้างความแตกต่างภายใต้แนวคิด ทำไมต้องเลือกใช้น้ำมันเครื่อง ZIC’
ที่สำคัญบริษัทฯ  ได้แต่งตั้ง ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักฟุตบอลทีมชาติไทยและอดีตนักเตะระดับตำนานขวัญใจมหาชน มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับน้ำมันเครื่อง ‘ZIC’ การที่ชื่อของคุณซิโก้สะกดด้วย ZICO สามารถเชื่อมโยงถึงแบรนด์ ZIC ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การสื่อสารแบรนด์ผ่านคุณซิโก้จะยิ่งทำให้ผู้บริโภคจดจำชื่อแบรนด์ได้ง่ายขึ้น และมั่นใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง ZIC มากขึ้นไปอีก”
นายภูวเดช เทียนวุฒิชัย   รองกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายขาย กล่าวถึงจุดเด่นของน้ำมันเครื่อง ZIC ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มลูกค้าตลาดพรีเมียมว่าเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมนำเข้า 100% ที่มีความโดดเด่นด้านคุณภาพของวัตถุดิบพื้นฐานในน้ำมันเครื่อง คือ Base Oil Group 3 ลิขสิทธิ์เฉพาะของ SK Lubricants ที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยมจนมียอดจำหน่ายติดอันดับ 1 ของโลกความบริสุทธิ์และค่าความหนืดที่มีอยู่สูงในน้ำมัน ช่วยทำความสะอาดและปกป้องการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม เครื่องยนต์เดินเงียบขึ้นอย่างชัดเจน  นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้านการประหยัดเชื้อเพลิงและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ และตอบโจทย์ความคุ้มค่าในการใช้งานทุกบาททุกสตางค์
นอกจากนี้ น้ำมันเครื่อง ZIC ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สามารถใช้งานได้กับรถยนต์ทุกประเภท ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล และแก๊ส ตั้งแต่ไฮเปอร์คาร์ซูเปอร์คาร์สปอร์ตอีโคคาร์รถเอนกประสงค์กระบะ รถตู้ไปจนถึงรถจักรยานยนต์ และบิ๊กไบค์ นับเป็นอีกจุดแข็งหนึ่งที่ทำให้น้ำมันเครื่อง ZIC มีการเติบโตตามการขยายตัวของตลาดยานยนต์ในประเทศไทยที่มีกว่า 30 ล้านคันในปัจจุบัน 
“ปีนี้เราจะเน้นทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกับผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ ซื้อน้ำมันเครื่อง ZIC แถมเสื้อคุณซิโก้ หรือซื้อน้ำมันเครื่องดีเซลแถมน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซด์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่บริษัทฯ เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งแคมเปญชิงโชคพาลูกค้าผู้โชคดีไปทำกิจกรรมคู่กับแบรนด์แอมบาสเดอร์ กิจกรรมการออกทรูปกับลูกค้าทั่วประเทศ เป็นต้น สำหรับปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายประมาณเท่าหนึ่ง อีก ปีข้างหน้าจะต้องครองส่วนแบ่งการตลาด 3% ของตลาดน้ำมันเครื่องโดยรวมในประเทศไทย สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง คือ กลุ่มอีโคคาร์ และกลุ่มบิ๊กไบค์ ซึ่งเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ โดยหวังว่าจะสามารถสร้างอัตราการเติบโตประมาณ 10% ในกลุ่มผู้ใช้น้ำมันเครื่องบิ๊กไบค์”

โตโย ไทร์ จับมือ เคน บล็อก ยอดนักแข่งระดับโลก ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์



โอซากา ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 - Mr. Takashi Shimizu ประธาน บริษัท โตโย ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด ประกาศให้ทราบถึงการตกลงทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับนักแข่งรถชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง เคน บล็อก และทีมงานของเขา (Hoonigan Racing Division) โดยบริษัทได้แต่งตั้งให้ เคน บล็อก เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของ โตโย ไทร์ และจะลุยกิจกรรมส่งเสริมการขายทั่วโลก เพื่อโปรโมท สมรรถนะอันทรงพลังของยาง โตโย ไทร์ 
             
เคน บล็อก เป็นนักขับรถแข่ง และนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จในกีฬามากมาย ปัจจุบัน เคน บล็อก โฟกัสที่การแข่งขันขับรถแบบแรลลี่ และประสบความสำเร็จอย่างสูงกับการทำวิดีโอ “Gymkhana” อันเป็นที่รู้จักอย่างมากมายบนโลกสังคมออนไลน์ ซึ่งมีผู้รับชมมากกว่า 350  ล้านวิว  ทั้งนี้ Gymkhana 8  ได้เปิดตัวทาง YouTube ในวันที 29 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 21.00 โดยมีการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของรถ Ford Fiesta ST RX43 ใหม่ทั้งหมด พร้อมควบคู่มากับยาง Toyo Proxes R1R   สำหรับวิดีโอนี้จะช่วยให้ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ทั่วโลก ได้เห็นประสิทธิภาพของ Proxes R1R ที่ยึดเกาะเหนือชั้น อย่างใกล้ชิด โดย Gymkhana 8 ถือว่าเป็นโปรเจ็คแรกในการร่วมมือกันระหว่าง เคน บล็อก และโตโย ไทร์   สามารถรับชมวีดีโอได้ที่https://www.youtube.com/watch?v=8-UEF6OJOT4
             
งานนี้นอกจากแฟนคลับของ เคน บล็อกจะได้รับชมการขับขี่ของ เคน บล็อก บนรถ ฟอร์ด เฟียสต้า แล้วนั้น พวกเขายังจะได้รับชมสมรรถภาพของยางโตโย ไทร์ อีกด้วย  โดย โตโย ไทร์ จะให้การสนับสนุน เคน บล็อก ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ และความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้เพิ่มระดับของการยอมรับในการเป็นแบรนด์ระดับโลก  ผ่านการรับชมทางวีดีโอของนักแข่ง  และกิจกรรมการแข่งรถต่างๆ

ฮอนด้าเปิดประสบการณ์ความมันส์ครั้งใหม่ ระเบิดกิจกรรมสุดฟิน The The Clutcher Night Fight Party ครั้งแรกในไทยกับ Entertainment Night Track


 
รถจักรยานยนต์ฮอนด้า จัดปาร์ตี้สุดมันส์ให้วัยรุ่นเมืองกรุงได้ลองขับขี่ Honda MSX125SF ในรูปแบบจิมคาน่าบน Entertainment Night Track ครั้งแรกในเมืองไทย ภายใต้ชื่องาน The Clutcher Night Fight Party โดยมีศิลปินและเหล่าบรรดาเซเลบในวงการบันเทิงแท็กทีมร่วมประชันฝีมือการขับขี่มากมาย ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์
 
นางมนสิชา สังข์สุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ฮอนด้าได้เปิดตัว Honda MSX125SF ภายใต้คอนเซปต์ Endorphins Clutcher ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็ได้พบกับกระแสตอบรับที่ค่อนข้างแรงจากกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนเมืองรุ่นใหม่ และมีผู้ที่สนใจอยากลองขับขี่รถรุ่นนี้เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มที่เราเรียกว่า The Clutcher หรือกลุ่มที่หลงไหลในรถแบบมีคลัทช์ ดั้งนั้นทางฮอนด้าจึงได้เปิดตัวกิจกรรมรูปแบบใหม่ล่าสุดในเมืองไทยที่เรียกว่า The Clutcher Night Fight Party เพื่อเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้ได้มาลองขับขี่ Honda MSX125SF ในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน เพราะเราได้เนรมิต Entertainment Night Track ขึ้นมาให้เป็นสนามจิมคาน่าแบบแฝด ติดตั้งแสงสีเสียงเพื่อความสนุกในการขับขี่ ประกอบไปด้วยด่านต่างๆ ให้ผู้ขับขี่ได้ใช้ทักษะผสานกับความคล่องตัวของรถมาแข่งกันทีละคู่เพื่อชิงรางวัลภายในงาน ซึ่งนอกจากกลุ่ม The Clutcher และสมาชิกจากคลับมอเตอร์ไซค์ รวมถึงวัยรุ่นทั่วไปที่มาร่วมสนุกแล้ว ยังมีศิลปินดารารวมถึงเซเลบในวงการบันเทิงอีกหลายคนให้ความสนใจมาร่วมขับขี่แข่งขันกันภายในงาน สร้างความครึกครื้นได้ตลอดทั้งคืน
 
สำหรับเซเลบในวงการบันเทิงที่มาร่วมประชันฝีมือการขับขี่ในครั้งนี้ประกอบด้วย กิก-ดนัย จารุจินดาเชน-ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์ภูริ หิรัญพฤกษ์ดีเจแดนนี่เปิ้ล-นาคร ศิลาชัยอองตวน ปินโต นักมวยไทยชื่อดัง นอกจากนี้ ทางฮอนด้ายังได้จัดไฟท์พิเศษเป็นการดวลความฮาระหว่างเซเลบแห่งโลกออนไลน์อย่างพ่อบ้านใจกล้า และอีเจี๊ยบเลียบด่วน โดยมีพิธีกรภาคสนามคนพิเศษอย่าง แพท-ณปภา ตันตระกูล มาช่วยสร้างความคึกคักให้กับผู้ที่มาร่วมงาน
 
นอกจากการไฟท์ใน Entertainment Night Track แล้ว ภายในงานยังได้จัดให้มีการประชันกันของสตรีทฟู้ดจากฝั่งตะวันตกและตะวันออก การดวลความเซ็กซี่ของดีเจสาวสวยที่มาช่วยสร้างสีสันผ่านดนตรีในสไตล์ EDM อันสนุกเร้าใจ ปิดท้ายปาร์ตี้แบบสุดมันส์ด้วยการดวลไมค์ในมินิคอนเสิร์ตของศิลปินดัง 25Hours และ Mild
 
สำหรับผู้ที่พลาดไปไม่ต้องเสียใจ เพราะฮอนด้ากำลังจะจัดกิจกรรมนี้ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ที่ตลาดอู้ฟู่ จ.ขอนแก่นวันที่ 26 มีนาคม ที่เซ็นทรัลแอร์พอร์ต จ.เชียงใหม่วันที่ 2 เมษายน ที่ตลาดไดมอนด์ จ.สุราษฏร์ธานี และวันที่ 30 เมษายน ที่ลานหน้าที่ว่าการอำเภอ จ.ชลบุรี อัพเดทรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทีwww.facebook.com/hondamotorcyclethailand    

มาสด้าออกตัวแรงยอดขายพุ่ง 30% เทคโนโลยีสกายแอคทีฟตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการความแรงและประหยัดน้ำมัน


กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 7 มีนาคม 2559 – เริ่มต้นปีวอกได้อย่างสวยสดงดงามสำหรับมาสด้าหลังจากปีที่ผ่านมาทำยอดขายทะลุเป้า และสร้างเซอร์ไพรส์เป็นแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตสูงสุด กระแสตอบรับยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่องข้ามปี โดยสองเดือนแรกของปีนี้ยอดขายยังคงแรงก้าวกระโดดทะลุเกิน 7,000 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะมาสด้า2 ยอดขายสองเดือนแรกกวาดไปแล้วกว่า 4,000 คัน ในขณะที่ CX-3 สมรรถนะโดนใจลูกค้าแบบเต็มๆ ตอกย้ำความสำเร็จให้แบรนด์มาสด้ากับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของโลกยานยนต์ในปัจจุบัน
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ยอดขายรถมาสด้าสองเดือนแรกในปีนี้ยังคงโตไม่หยุด (มกราคม-กุมภาพันธ์) โดยยอดขายรวมทุกรุ่นมีสูงถึง 7,033 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 5,408 คัน โดยรุ่นที่สร้างยอดขายมากที่สุดคือรถยนต์นั่งมาสด้า2 สปอร์ตพรีเมียมขนาดซับคอมแพ็คคาร์ที่ได้รับความนิยมมาข้ามปี พร้อมเพิ่มเติมความคุ้มค่าด้วยการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มเติม อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี ส่งผลให้ยอดขายยังคงพุ่งแรงถึง 3,831 คัน เพิ่มขึ้นถึง 89% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งยอดขายอยู่ที่ 2,025 คัน
อีกรุ่นน้องใหม่ของมาสด้าที่มีกระแสนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ กับ All New Mazda CX-3 ฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างยอดเยี่ยมมียอดขายไปแล้วถึง 2,421 คัน และถือเป็นหนึ่งรุ่นที่สร้างความคึกคักดึงลูกค้าเข้าให้โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มยอดขายให้รถรุ่นอื่นๆ ของมาสด้าอีกด้วย ซึ่งสามารถปิดยอดขายเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้ถึง 1,100 คัน และมีแนวโน้มที่จะสร้างยอดขายให้มาสด้าเติบโตต่อเนื่อง
สำหรับรุ่นอื่นๆ ของมาสด้าที่อยู่ภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ และเทคโนโลยีสกายแอคทีฟอย่างรถยนต์นั่ง All New Mazda3 อีกหนึ่งคอมแพ็คคาร์ของมาสด้า ยอดขายอยู่ที่ 799 คัน อีกหนึ่งรุ่นที่มาสด้าเผยโฉมใหม่ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมากับ New Mazda CX-5 ซึ่งกำลังสร้างสีสันให้กับรถอเนกประสงค์หรือ SUVกลับมาคึกคักอีกครั้งและเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของรถเอนกประสงค์ ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงที่ครบครันและดีที่สุด โดยมียอดขายอยู่ที่ 365 คัน ส่วนปิกอัพสายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้า Mazda BT-50 PRO มียอดขายอยู่ที่ 935 คัน สำหรับรถที่ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวมาสด้ากับรถสปอร์ตโรดสเตอร์ระดับแบรนด์ไอคอน All New Mazda MX-5 เจนเนอเรชั่นล่าสุดเจ้าของรางวัลอันทรงเกียรติ รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งประเทศญี่ปุ่นปีล่าสุด Japan Car of the Year 2015-2016 ที่พร้อมรูปลักษณ์ใหม่ทั้งคันเมื่อปีที่ผ่านมา ที่จะสร้างประสบการณ์ขับขี่สนุกสนาน เร้าใจ ในปีนี้จนถึงเดือนกุมภาพันธ์มียอดขายอยู่ที่ 3 คัน
สำหรับยอดขายเฉพาะเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทะลุถึง 3,542 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกันช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มียอดขาย 2,664 คัน โดยเฉพาะมาสด้า2 มียอดขายมากที่สุดถึง 1,881 คัน เพิ่มขึ้น 98% ตามมาด้วยน้องใหม่ล่าสุดอย่างมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 จำนวน 566 คัน รถยนต์นั่งมาสด้า3 จำนวน 361 รถอเนกประสงค์เอสยูวีที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 จำนวน 278 คัน รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 455 คัน และรถสปอร์ตโรดสเตอร์มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 อีก 1 คัน

“ยอดขายโดยรวมของรถยนต์มาสด้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการเริ่มต้นปีอย่างสวยงาม และสวนทางกับตลาดรวม ถือเป็นความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ลูกค้าของเราให้ความเชื่อมั่นกับแบรนด์มาสด้า และให้ความมั่นใจกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่มาสด้าได้เพียรพยายามคิดค้น สร้างสรรค์ มุ่งมั่นพัฒนา ทุ่มเทแรงกายแรงใจมาทั้งหมดเพื่อลูกค้า ได้ก้าวข้ามผ่านทุกอุปสรรค และขีดจำกัดจนกลายมาเป็นหัวใจที่อยู่ในรถยนต์มาสด้าทั่วโลก ถือเป็นสุดยอดเทคโนโลยีของยานยนต์ของโลก เมื่อผสมผสานกับรูปลักษณ์ที่งดงามภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ กลายเป็นรถยนต์ที่เป็นมากกว่าแค่ยานพาหนะ แต่ยังบ่งบอกถึงรสนิยม และยกระดับความเป็นพรีเมียมของแบรนด์ ถือเป็นเครื่องยืนยันว่าแบรนด์มาสด้านั้นได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างรวดเร็ว” ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ กล่าวเพิ่มเติม
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved