Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

มาสด้าเนรมิตรถแต่งพิเศษแน่นงานออโต้ซาลอน ตอกย้ำสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งเปิดตัวทีมแข่งลุยมอเตอร์สปอร์ต

มาสด้าเนรมิตรถแต่งพิเศษแน่นงานออโต้ซาลอน
ตอกย้ำสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งเปิดตัวทีมแข่งลุยมอเตอร์สปอร์ต
กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 22 มิถุนายน 2559 – บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เติมเต็มภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ตอย่างเต็มตัว เดินหน้าสู่การตลาดสปอร์ตมาเก็ตติ้ง เนรมิตรถยนต์มาสด้าภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟทุกรุ่น เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ต สวมชุดแต่งเต็มคันกับคอนเซ็ปต์สุดเก๋ Racing Concept พร้อมเผยโฉมการตกแต่งครั้งแรกของรถครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ CX-5 ด้วยชุดแอร์โร่พาร์ทพิเศษสั่งตรงจากสำนักแต่งชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวทีมแข่งที่พร้อมควบมาสด้า2 คลีนดีเซล ลงชิงชัยในรายการไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรี่ส์ ยกขบวนทั้งหมดมาไว้ที่บูธมาสด้าในงานออโต้ซาลอน ให้ลูกค้าผู้หลงใหลความสปอร์ตได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ระหว่างวันที่ 22-26 มิถุนายนนี้ เพียง 5 วันเท่านั้น ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี  
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยสปิริตและจิตวิญญาณของชาวมาสด้าที่ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นเรื่องง่าย เฉกเช่นเดียวกับการมุ่งมั่นในการพัฒนารถยนต์มาสด้า งานออโต้ซาลอนในครั้งนี้มาสด้านำรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดมาตกแต่งพิเศษเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดภายใต้คอนเซ็ปต์ Racing Concept ให้ลูกค้ามาสด้าที่ชื่อชอบความเป็นสปอร์ตซึ่งถือเป็น DNA ของมาสด้าได้เป็นแนวทางในการที่จะนำไปตกแต่ง
นอกจากมาสด้าจะชูคอนเซ็ปต์ความเป็นสปอร์ตแล้ว ยังเปิดตัวทีมแข่งในชื่อทีม Mazda Innovation Motor Sport ที่จะลุยสู้ศึกในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบปีนี้ หลังจากที่ลงชิมลางไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา โดยได้ 2 นักแข่งฝีมือฉกาจที่โลดแล่นในสนามมาอย่างโชกโชน อย่างฝรั่งหัวใจไทย มร. ไมเคิล ฟรีแมน และนักแข่งสาวน้อยร่างเล็กอย่างน้องพลอย ธัชพรรณ วิจิตรานนท์ ที่จะควบรถมาสด้า2 เครื่องยนต์คลีนดีเซล เพื่อลงทำการแข่งขันในรายการไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรี่ส์ รวมทั้งหมด 8 เรซ สำหรับรถที่ใช้ในการแข่งขัน ประกอบด้วย รถยนต์นั่งมาสด้า2 เครื่องยนต์ คลีนดีเซล ขนาด 1500 ซีซี ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแฮตช์แบค 5 ประตู ซึ่งสองเรซสุดท้ายเตรียมเชียร์กันได้ที่สนามบางแสน เซอร์กิต
ทางด้านผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ กล่าวว่า ความมุ่งมั่นเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จของชาวมาสด้านั้น เกิดจากสปิริตอันแรงกล้าที่ไม่เคยย่อท้อ ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค เฉกเช่นเดียวกับความ “สปอร์ต” ที่อยู่คู่กับแบรนด์มาสด้ามาอย่างยาวนานจนกลายเป็นแบรนด์ที่สามารถสื่อสารคุณค่าของแบรนด์ได้ชัดเจนมากที่สุด การสื่อสารคาแรคเตอร์ของแบรนด์ด้วยจุดเด่นในด้านความเป็น “สปอร์ต” ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เกิดจากความมุ่งมั่นอุตสาหะที่มาสด้าทุ่มเทพัฒนารถยนต์จนก่อเกิดเป็น DNA ของมาสด้ามาอย่างยาวนานนับตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน
ภายในงาน Bangkok International Auto Salon แห่ง มาสด้าตอกย้ำจิตวิญญาณความเป็นสปอร์ตตัวจริง ด้วยการเผยโฉมรถสปอร์ตครอสโอเวอร์เอสยูวีใหม่ล่าสุด ในรูปแบบการดีไซน์และอุปกรณ์แต่งพิเศษขึ้นเป็นครั้งแรก เน้นความสปอร์ตพรีเมียมภายใต้การออกแบบที่น่าดึงดูดใจในสไตล์โคโดะ มาให้ลูกค้าได้ยลโฉมเป็นครั้งแรกเฉพาะงานนี้เท่านั้น กับมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 Racing Concept นอกจากนี้มาสด้าเอาใจลูกค้าที่หลงใหลความเป็นสปอร์ต ด้วยการจับเอารถยนต์นั่งมาสด้าทุกรุ่น มาตกแต่งพิเศษ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Racing Concept” ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟและรูปลักษณ์การออกแบบ โคโดะ ดีไซน์ ให้ลูกค้าได้ยลโฉมรถแต่งครบทุกเซ็กเม้นต์ อาทิ ฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์น้องใหม่ล่าสุด Mazda CX-3, Mazda2 รวมทั้งรถแข่ง Mazda2 Clean Diesel อีก 2 คัน
ด้านมอเตอร์สปอร์ตเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา มาสด้าได้เริ่มพัฒนารถแข่งขึ้นมาใหม่ 2 คัน โดยจับเอามาสด้า 2 สกายแอคทีฟ เครื่องยนต์คลีนดีเซลขนาด 1500 ซีซี แต่เป็นเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด  นำมาพัฒนาเพื่อลงทำการแข่งขัน ซึ่งสร้างความฮือฮาในวงการมอเตอร์สปอร์ตเป็นอย่างมาก กับการนำเครื่องยนต์ดีเซลเข้าร่วมแข่งขันในประเภท Super Production เป็นครั้งแรกแต่ผลงานยังไม่เป็นที่พึงพอใจมีขึ้นโพเดียมได้บางสนามเท่านั้น
สำหรับปีนี้ถือเป็นปีที่ 2 ของรถแข่งมาสด้า 2 สกายแอคทีฟ-ดี ของทั้งสองคัน ได้พัฒนาสมรรถนะความแรงให้เพิ่มขึ้น อาทิ ปรับใช้เกียร์ธรรมดา สกายแอ็คทีฟ-เอ็มที (SKYACTIV-MT) จากเดิมที่เป็นเกียร์อัตโนมัติเพื่อให้เกิดการตอบสนองอย่างทรงพลัง อัพเกรดระบบช่วงล่าง และเบรก เพื่อสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งปรับจูนเครื่องยนต์ให้มีแรงม้าที่สูงขึ้น แรงบิดมหาศาล และลงประลองความเร็วในรายการแข่งไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรี่ส์ เช่นเคย แต่ในปีนี้จะลงแข่งในคลาส Super Compact ซึ่งเป็นคลาสเปิดใหม่ปีนี้เป็นปีแรก โดยความน่าสนใจของคลาสนี้ คือ มีความหลากหลายของรถที่ลงแข่งโดยไม่จำกัดขนาดเครื่องยนต์ มีความหลากหลายของรถที่ลงสนามมากขึ้น ทำให้การแข่งขันสนุกสนาน เข้มข้น และวัดศักยภาพทีมแข่งอย่างแท้จริง ซึ่งสองสนามแรกที่ผ่านมาจัดขึ้นที่ สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 21-22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทั้ง มร.ไมเคิล ฟรีแมน และ น้องพลอย ธัชพรรณ วิจิตรานนท์ สามารถขึ้นโพเดียมได้สำเร็จอยู่ในอันดับที่ 3 และ 4 ตามลำดับ ส่วนสนามที่ 2 ยังครองโพเดียมตำแหน่งที่ 4 และ 5 ตามลำดับ ส่งผลให้มีคะแนนรวมประเภททีมอยู่ในอันดับที่ 1 จึงมีลุ้นที่จะคว้าแชมป์ในรายการต้องติดตามลุ้นต่อไป และด้วยความภาคภูมิใจในการเป็นสิงห์เรซซิ่งของมาสด้า จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจของการตกแต่งเหล่าสกายแอคทีฟภายใต้ เรซซิ่ง คอนเซ็ปต์ และจะเป็นครั้งแรกของการเผยโฉมมาสด้า CX-5 ใหม่ ที่ถูกแปลงโฉมมาในลุคสปอร์ตขั้นเทพ ในสไตล์ เรซซิ่ง คอนเซ็ปต์
New Mazda CX-5 Racing concept
ถูกเนรมิตรูปอย่างเต็มขั้นกับชุดแต่งเต็มคันภายใต้ เรซซิ่ง คอนเซ็ปต์ กับลุคสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ดึงดูดทุกสายตาด้วยรูปลักษณ์ภายนอกด้วยสติ๊กเกอร์รับกับตัวถังสีพิเศษ เซรามิก เมทาลิค สปอร์ตมากขึ้นกับหลังคาสีดำเงา (Black Roof) ผสานกับดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ CX-5 ได้อย่างลงตัว เพิ่มความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยด์สีเทาเมทัลลิกขนาด 20 นิ้ว ยาง Yokohama รุ่น Prada Spec-X ขนาด 255/45 R20 105V เสริมช่วงล่างด้วยสปริงโหลด ให้การขับขี่แบบสปอร์ต เพิ่มสมรรถนะการทรงตัวตอบรับได้ดีเยี่ยมกับทุกพื้นผิวขับขี่ จัดเต็มมากยิ่งขึ้นด้วยเบรก 4 Pot ที่มีสมรรถนะสูง สะดุดตาด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีแดง และยังมีชุดแต่งบอดี้พาร์ตสปอร์ตรอบคันจาก Kenstyle ที่บรรจงสร้างโดยสำนักแต่งชื่อดังจากต้นกำเนิดมาสด้า ประเทศญี่ปุ่น การตกแต่งภายในห้องโดยสารยังคงความสปอร์ตเรียบหรูด้วยวัสดุหนังแท้สีดำ-แดง ตอบรับสไตล์การขับขี่สไตล์สปอร์ตของคนเจนใหม่
New Mazda CX-3 Racing Concept
เน้นจิตวิญญาณแห่งความสปอร์ตในแบบฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์ด้วยชุดแต่งดีไซน์เต็มพิกัดรอบคัน เพิ่มความโดดเด่นสไตล์สปอร์ตทั้งภายนอกและภายในอย่างอิสระไร้ขีดจำกัดกับชุดแต่งเสกิร์ตรอบคันจาก Mazdaspeed ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมไปอีกขั้นด้วยการตกแต่งกรอบหลังคาสีดำ เพิ่มความดุดันด้วยกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงาและสติ๊กเกอร์ออกแบบมาโดยเฉพาะตกแต่งรอบคันในสไตล์สปอร์ต และโดดเด่นกว่าใครด้วยล้ออัลลอยด์สีดำเงาพิเศษขนาด 20 นิ้ว VSF1 พร้อมดุมล้อสีดำจาก Rays และยาง Nitto รุ่น NT555 ขนาด 245/35 R20 (หน้า) และขนาด 275/30 R20 (หลัง) โดดเด่นมีสไตล์ในทุกจังหวะการขับขี่ด้วยระบบเบรกหน้าดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อนขนาด 380 มม. พร้อมคาลิเปอร์เบรก 4 พอต สีแดง และระบบเบรกหลังดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อนขนาด 355 มม. พร้อมคาลิเปอร์เบรก 4 พอต สีแดง เสริมสมรรถนะความปลอดภัยให้คุณมั่นใจในทุกจังหวะความแรงกับระบบช่วงล่างแบบ Street Sport ขับขี่ได้อย่างมั่นใจในสไตล์ที่ดุดัน
Mazda2 Sport Racing Concept
ถูกออกแบบเพิ่มดีกรีความสปอร์ตดุดันให้ครบทุกองศาความเร้าใจ ภายนอกปลุกเร้าทุกสายตาด้วยดีไซน์สปอร์ตสุดล้ำ โดดเด่นด้วยไฟหน้าโฉบเฉี่ยวด้วย LED รมดำพร้อมไฟส่องสว่าง Day Time Running Light สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ดีไซน์เร้าใจสปอร์ตทุกมุมมองด้วยชุดสเกิร์ตรอบคันสีดำเงาตกแต่งด้วยด้ายสีแดงและกระจังหน้าห้าเหลี่ยมแบบ Signature Wing สีแดง เอกลักษณ์โดดเด่นของมาสด้า เร้าใจด้วยหลังคาและสปอยเลอร์หลังสีดำ กระจกมองข้างตกแต่งด้วยลวดลายเคฟล่าสุดเท่ ล้ออัลลอยด์สีดำเงาขนาดใหญ่ ดีไซน์เข้มทุกมุมมอง Volk Rays Gramlight Valkyrie 2015 พร้อมยาง Nitto T1R  ขนาด 215/45 R17 คาลิเปอร์เบรคสีแดง ผสานกับลายกราฟฟิกดีไซน์สปอร์ตรอบคันได้อย่างลงตัว การออกแบบภายในสปอร์ตเข้มเต็มอารมณ์ ด้วยเบาะนั่งคู่หน้าสไตล์สปอร์ตเรสซิ่ง BRIDE Stradia II Low Max Series พวงมาลัยหนังสีดำผสานกับด้ายสีแดง สวิทช์ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift และแป้นเบรกสไตล์สปอร์ตที่ให้อารมณ์สปอร์ตตามแบบฉบับเรสซิ่งตัวจริง เพิ่มสมรรถนะและความปลอดภัยด้วยระบบเบรกหน้าดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อนขนาด 330 มม. พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดง 4 พอต ระบบเบรกหลังดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อนขนาด 315 มม. พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดง 2 พอต เพิ่มสมรรถนะแห่งความเร้าใจกับระบบช่วงล่างด้วยชุดสปริงโหลด
Mazda2 Sedan Racing Concept
การออกแบบภายนอก เสริมความดุดันเพิ่มความสปอร์ตเต็มขั้น ด้วยชุดสเกิร์ตรอบคันสีดำเงาตกแต่งด้วยสีแดง และสปอยเลอร์ด้านหลังสีดำ โฉบเฉี่ยว ดุดัน ด้วยกระจังหน้าสีแดง หลังคาสีดำ Signature Wing สีดำเงา กระจกมองข้างตกแต่งด้วยเคฟล่า พร้อมชุดไฟหน้าแบบ LED รมดำพร้อมไฟส่องสว่าง Day Time Running Light  สำหรับการขับขี่เวลากลางวัน เท่สุดล้ำไปกับล้ออัลลอยด์สีดำเงา SSR Executor พร้อมยาง Nitto NT555  ขนาด 225/30 R18 ผสานความลงตัว ด้วยระบบเบรกหน้าดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อนขนาด 330 มม. พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดง 4 พอต และระบบเบรกหลัง ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อนขนาด 315 มม. พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดง 2 พอต การออกแบบภายในให้ความโดดเด่นสะดุดทุกสายตา ให้ความรู้สึกสปอร์ตพรีเมียม ด้วยเบาะนั่ง BRIDE Stradia II Low Max Series รุ่นพิเศษ พร้อมตะเข็บด้ายสีแดงและลวดลายเคฟล่า พวงมาลัยหุ้มหนังสีดำตกแต่งด้วยสีแดง พร้อมสวิทช์ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) และแป้นเบรกสไตล์สปอร์ตสุดเร้าใจ  พร้อมแล้วที่ให้ผู้ที่มีจิตวิญญาณหัวใจสปอร์ตหรู แรง สไตล์เรสซิ่ง

นอกจากขบวนรถแต่งสายสปอร์ตแล้วยังมี สปอร์ตโรดสเตอร์ที่ไม่มีวันตายของรถสปอร์ตเปิดประทุน 2 ที่นั่งอย่าง ออล นิว มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 ตามมาด้วย สปอร์ตคอมแพ็คคาร์ ออล นิว มาสด้า3 และซับคอมแพ็คคาร์ ออล นิว มาสด้า 2 ให้ได้สัมผัสตัวตนของมาสด้าทั้งเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่มาพร้อมรูปลักษณ์อันแสนงดงามด้วยแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ ล้ำสมัยด้วยระบบความปลอดภัยระดับโลก i-ACTIVSENSE และระบบเชื่อมต่อสื่อสารด้วย MZD CONNECT พร้อมด้วยอุปกรณ์ตกแต่งลิขสิทธิ์แท้ และสินค้าจากแบรนด์มาสด้าให้เลือกช็อปกันอย่างครบครันด้วย ตั้งแต่วันนี้ – 26 มิถุนายน นี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี

Niche Cars Group and Simpson Marine bring superyachts to Bangkok

Niche Cars Group and Simpson Marine  bring superyachts to Bangkok

Bangkok – Niche Marine, part of Niche Cars Group an authorized dealership in Thailand for supercars such as Lamborghini, McLaren, Lotus, Hummer Pagani and Koenigsegg, is taking luxury travel ‘off-road’ and broadening its horizons with a high-profile partnership with prestigious Simpson Marine Ltd., Asia’s leading new yacht sales, brokerage, service and management company.

Thailand is the ‘Riviera of Asia’ and Niche Marine, under the Niche Cars Group, is promoting reputable yacht brands from the exclusive Simpson Marine portfolio, namely, Monte Carlo Yachts, Beneteau Sail and Power, Lagoon, CNB and Viking. With 20 offices in seven Asian countries, including an office opened in Phuket close to 15 years ago, Simpson Marine has helped develop Thailand’s rising interest in yachts. Founder Mike Simpson is highly regarded as a pioneer of Asia’s yachting industry. Currently, Simpson Marine operates offices in Phuket Ao Po Marina and Ocean Marina in Pattaya.

The new partnership with luxury Bangkok car dealer Niche Cars brings the world of yachting to the city through Niche Marine and is a natural choice for Simpson Marine according to Sergio Loiacono, Simpson Marine Thailand Country Manager. “With our 30 plus years of yachting expertize combined with the established reputation of Niche Cars in Bangkok and beyond we believe this new partnership will really make yachting easier and more enjoyable for the excellent and discerning network of Niche Car customers. We currently have a Superyacht Division in Hong Kong and Niche Cars is bringing that same focus on luxury yacht experiences to Thailand.”

Niche Cars deal in the top, global luxury car brands and the Group’s Managing Director, Vittawat Chinabarramee is positive about showcasing the Simpson Marine yacht range. “There is a growing interest in yachting in general in Thailand and many of our customers in Bangkok, who appreciate the absolute best in automobiles, also enjoy the luxury yacht experience. Simpson Marine provide excellent yacht management and care, along with charter programs which are all part of the exciting yachting services we are promoting here at Niche Marine, through Niche Cars, as part of our role as a local contact for yacht enthusiasts and novices alike. While yachting may be well-established in Phuket, our center in Bangkok opens up access to customers in the city and even our clients from further afield such as North Thailand.”

Sailing toward success, Niche Cars and Simpson Marine celebrated their partnership with a handover event in the first weekend of June with the purchase of the iconic Monte Carlo Yachts 86 model in Bangkok. Celebrated Italian design duo, Nuvolari-Lenard designed the iconic superyacht which is currently docked in Pattaya’s Ocean Marina. High-end brand name interiors, excellent manufacturing details and incredible customization are all hallmarks of this yacht. European furnishings and a spacious lounge area on the stunning Portuguese bow define the yacht’s regal and timeless beauty.

Both partners will work on future events in Bangkok to bring the growing yachting community together and offer memorable experiences on the water.

ตรีเพชรอีซูซุมั่นใจประสบการณ์ 60 ปี เปิดตลาดกัมพูชา ลั่นขอส่วนแบ่ง 30% ภายใน 5 ปี

ตรีเพชรอีซูซุมั่นใจประสบการณ์ 60 ปี เปิดตลาดกัมพูชา ลั่นขอส่วนแบ่ง 30% ภายใน 5 ปี

บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด  ประกาศปลุกแบรนด์  “อีซูซุ” ในตลาดรถกัมพูชาเต็มรูปแบบ   เดินหน้าทำตลาดในฐานะผู้จัดจำหน่ายรถอีซูซุอย่างเป็นทางการในประเทศกัมพูชา  ในโอกาสแถลงข่าวเปิดตัว   “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์” และ “ใหม่! อีซูซุมิว-เอ็กซ์ บลูเพาเวอร์” อย่างอลังการ ลั่นมั่นใจประสบการณ์ 60 ปีในไทย ช่วยหนุนธุรกิจในกัมพูชาอย่างแน่นอน ยกระดับการขายและการบริการหลังการขาย พร้อมตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์กัมพูชา 30% ภายใน 5 ปี

งานแถลงข่าวเปิดตัว   “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์” และ “ใหม่! อีซูซุมิว-เอ็กซ์ บลูเพาเวอร์” จัดขึ้น ณ โรงแรมโซฟิเทล พนมเปญ โภคีทารา กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา นำทีมโดย มร.โทชิอากิ มาเอคาวะ  กรรมการผู้จัดการ คุณปนัดดา เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส  มร.ฮิโรยาสุ ซาโต้ รองกรรมการผู้จัดการ และ มร.อากิระ โอดางากิ ผู้จัดการทั่วไปและผู้รับผิดชอบตลาดกัมพูชาและลาว ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนกัมพูชาทุกแขนงที่ให้ความสนใจมาร่วมงานอย่างคับคั่ง ทุกบทสัมภาษณ์ที่ถามมาต่างได้รับคำตอบแบบไขทุกข้อข้องใจ นับเป็นก้าวสำคัญก้าวแรกของตรีเพชรอีซูซุเซลส์  และแบรนด์อีซูซุในตลาดอาเซียน

มร. โทชิอากิ มาเอคาวะ  กรรมการผู้จัดการ  บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า      “เนื่องจากตรีเพชรอีซูซุมีผลงานดีเด่นมากในประเทศไทย จึงได้รับความไว้วางใจจาก             บริษัทอีซูซุมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่นให้เป็นผู้รับผิดชอบดูแลการจัดจำหน่ายรถอีซูซุในตลาดกัมพูชาและลาว ซึ่งหมายถึงการดูแลแบรนด์อีซูซุในตลาดอาเซียนนอกเหนือจากในประเทศไทยเป็นครั้งแรก นับเป็นก้าวย่างใหม่อันสำคัญของประวัติศาสตร์ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ซึ่งจะครบรอบ 60 ปีของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของธุรกิจอีซูซุในประเทศไทยในปีหน้า  โดยได้มีพิธีเปิดสำนักงานบริษัท     ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด สาขากัมพูชาเป็นแห่งแรกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และการแนะนำรถปิกอัพ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์” และรถอเนกประสงค์ “ใหม่! อีซูซุมิว-เอ็กซ์ บลูเพาเวอร์”    2 ยนตรกรรมคุณภาพที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดรถยนต์เมืองไทย เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนนี้เนื่องจากเล็งเห็นว่ากัมพูชาเป็นประเทศในอาเซียนที่มีศักยภาพการเติบโตด้านเศรษฐกิจ GDP สูงถึง 7%  และคาดว่าจะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 7% ในอีก 3 ปีข้างหน้า  ดังนั้นอีซูซุจึงได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งในการตลาดรถยนต์กัมพูชาเป็น 10% ภายใน 3 ปี และ 30% ภายใน 5 ปี  โดยใช้นโยบายที่จะสร้าง “ความเป็นเลิศ” ให้กับแบรนด์อีซูซุตามปรัชญาในการดำเนินธุรกิจตลอด 6 ทศวรรษในประเทศไทย นั่นคือ “วิถีอีซูซุ”-- “ผู้ใช้สุขใจ เพิ่มพูนรายได้ ช่วยให้สังคมพัฒนา” และใช้ตามเป็นแม่แบบทางการตลาดของอีซูซุทั่วโลก หรือที่เรียกกันว่า “ตรีเพชรอีซูซุมาร์เก็ตติ้งสคูล”  (Tri Petch Isuzu Marketing School)  ที่ในแต่ละปีจะมีทั้งผู้จัดจำหน่ายอีซูซุ  ผู้แทนจำหน่ายอีซูซุจากทั่วโลกเดินทางมาเยี่ยมชมธุรกิจและศึกษาหลักสูตรทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้แบรนด์อีซูซุและ "ประชาคมอีซูซุ" เติบโตอย่างแข็งแกร่งได้เช่นเดียวกับในประเทศไทย”

นอกจากนี้ มร. อาคิระ โอดางากิ ผู้จัดการทั่วไปและผู้รับผิดชอบการตลาดกัมพูชาและลาว ยังกล่าวเสริมว่า” เรายินดีให้การสนับสนุนนโยบายของสถาบันยานยนต์กัมพูชา (Cambodia Automotive Industry Federation) ที่ส่งเสริมให้ผู้บริโภคชาวกัมพูชา หันมาสนใจซื้อรถยนต์ใหม่จากผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแทนการซื้อรถเก่าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เพราะนอกจากจะได้รถที่มีคุณภาพสูงแล้ว ยังได้รับการบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานอีกด้วย ซึ่งตรงกับนโยบายหลักของอีซูซุ และเพื่อเป็นการสร้างความพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าชาวกัมพูชา เราจึงได้นำ “อีซูซุอินไซท์” เทคโนโลยีอัจฉริยะเอกลักษณ์เฉพาะอีซูซุ ที่สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่เพื่อพัฒนาผู้ใช้รถให้สามารถขับขี่ได้อย่างประหยัดน้ำมัน และปลอดภัยยิ่งขึ้น มาพร้อมข้อเสนอพิเศษโดยลูกค้าอีซูซุที่ได้คะแนน “อีซูซุอินไซท์” สูง จะได้รับส่วนลดในการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์จากบริษัทประกันชั้นนำ FORTE ของประเทศกัมพูชาอีกด้วย และ Isuzu Connect World เทคโนโลยีเชื่อมต่อสมบูรณ์แบบเข้าถึงทุกข้อมูลและทุกความบันเทิงได้ง่ายดายเพื่อให้ทุกผู้โดยสาร รถ และทั้งโลกเป็นหนึ่งเดียวกัน เรามั่นใจว่า “อีซูซุ” จะได้เข้าไปอยู่ในใจของผู้ใช้รถชาวกัมพูชาได้อย่างแน่นอน”

สำหรับงานเลี้ยงเปิดตัวรถ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์” และ “ใหม่! อีซูซุมิว-เอ็กซ์  บลูเพาเวอร์” ในช่วงค่ำได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติมาร่วมงานอย่างคับคั่ง วินาทีแห่งการเผยโฉมรถรุ่นใหม่พร้อมเสียงกระหึ่มของกลองสะบัดชัยจากประเทศไทย สะกดทุกสายตาของผู้ร่วมงานทุกท่าน เรียกเสียงฮือฮาจนทุกคนไม่สามารถนั่งติดอยู่กับที่ได้ “ใหม่! อีซูซุ        ดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์” และ “ใหม่! อีซูซุมิว-เอ็กซ์ บลูเพาเวอร์” ทุกคันหนาแน่นไปด้วยผู้คนที่อยากสัมผัสและชื่นชมอย่างใกล้ชิด เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนพิเศษที่จะอยู่ในความทรงจำที่ได้จารึกไว้ในบันทึกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ของอีซูซุในอุตสาหกรรมยานยนต์กัมพูชา

นี่เป็นเพียงก้าวแรกแห่งความสำเร็จของบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ในตลาดต่างประเทศ เท่านั้น หลังจากนี้ตรีเพชรฯ จะทำกิจกรรมการตลาดอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องเพื่อยกระดับ แบรนด์ “อีซูซุ” สู่แบรนด์รถยนต์ชั้นนำในกัมพูชาในอนาคตอันใกล้

มาสด้า RX-VISION คว้ารางวัลรถยนต์ออกแบบยอดเยี่ยมจากอิตาลี

มาสด้า RX-VISION คว้ารางวัลรถยนต์ออกแบบยอดเยี่ยมจากอิตาลี

รถสปอร์ตต้นแบบขุมพลังโรตารีคว้ารางวัลการออกแบบรถต้นแบบยอดเยี่ยมประจำปี 2559
อีกหนึ่งรางวัลอันทรงเกียรติแห่งความภาคภูมิใจของทีมดีไซเนอร์จากมาสด้าที่นำพาชัยชนะมาสู่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น


ตูริน/ เลเวอร์คูเซน, วันที่ 20 มิถุนายน 2559 รถสปอร์ตต้นแบบมาสด้า RX-VISION ได้นำความภาคภูมิใจมาสู่ชาวมาสด้าอีกครั้ง ด้วยการก้าวไปคว้ารางวัลชนะเลิศด้านการออกแบบรถยนต์ ประเภท Concept Car หรือรถต้นแบบในพิธีมอบรางวัลออกแบบรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2016 (2559) นับเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่มอบให้กับผลงานการออกแบบรถต้นแบบที่จะมีอิทธิพลกับวิวัฒนาการด้านการออกแบบรถยนต์ในอนาคต และนับเป็นหนึ่งอีกรางวัลความสำเร็จสำหรับรถสปอร์ตต้นแบบของมาสด้าที่มีรูปลักษณ์อันโดดเด่นและเป็นที่เชิดหน้าชูตาต่อทีมดีไซเนอร์ของมาสด้า โดยมี นายเควิน ไรซ์ ผู้อำนวยการงานออกแบบภาคพื้นยุโรป เป็นผู้เข้ารับมอบรางวัลในครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นภายในงาน Turin Motor Show Parco Valentino ประเทศอิตาลี

นายเควิน ไรซ์ หนึ่งในทีมนักออกแบบทั่วโลกของมาสด้า ซึ่งกวาดรางวัลไปถึง 3 รางวัล รวมถึงรางวัลทีมนักออกแบบแห่งปี Team of the Year เมื่อปีที่ผ่านมา จากการประกวด Automotive Brand Contest 2015 กล่าวว่า “ แน่นอนว่าผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อการตอบรับอย่างดีเยี่ยมในรถยนต์มาสด้า นี่คือผลงานอันปราณีตที่เกิดจากความพากเพียรอุตสาหะของเราชาวมาสด้า รางวัลนี้ไม่ได้มอบให้เพียงงานออกแบบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเทคโนโลยีล่าสุดที่ช่วยให้รถสปอร์ตของเราสามารถส่งมอบสมรรถนะอันเป็นเลิศ ทัดเทียมกับรูปลักษณ์อันโดดเด่นสง่างาม ไม่ว่าเราจะนำไปจัดแสดงที่ไหน รถมาสด้า อาร์เอ็กซ์-วิชั่น ก็จะได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างล้นหลาม ที่เข้ามาชื่นชมถึงความสวยงามอย่างน่าตื่นตาตื่นใจของรถคันนี้อยู่เสมอ และนี่คือการตอบรับที่ดีเยี่ยมเหนือความคาดหวังของเรา”

MAZDA RX-VISION
สามารถคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง Alpine Vision Concept, BMW 3.0 CSL Hommage, Pinninfarina H2 Speed Concept และ Porsche Mission E Concept ที่สำคัญก่อนหน้านี้ มาสด้า อาร์เอ็กซ์-วิชั่น ก็เคยคว้ารางวัลรถรถต้นแบบที่สวยที่สุดแห่งปี จากงาน Festival Automobile International ครั้งที่ 31 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่เผยโฉมสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกของโลกในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ ประจำปี 2015 (2558)

เพื่อสืบสานตำนานความเป็นรถสปอร์ตอันลือชื่อของมาสด้าด้วยเครื่องยนต์วางหน้าและขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยรูปลักษณ์อันโฉบเฉี่ยวปราดเปรียวของ อาร์เอ็กซ์-วิชั่น ด้วยแนวคิดการออกแบบภายใต้ปรัชญา โคโดะ ดีไซน์ Soul of Motion หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว เป็นสิ่งที่แสดงออกได้อย่างชัดเจนถึงสมรรถนะอันทรงพลัง รูปทรงที่ลาดต่ำลงแสดงให้เห็นขุมพลังที่จัดวางในพื้นที่กะทัดรัดที่ซ่อนอยู่ใต้ฝากระโปรงรถ นั่นคือ ขุมพลังของเครื่องยนต์โรตารี สกายแอคทีฟ-อาร์ SKYACTIV-R ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบ่งบอกถึงความสำเร็จของมาสด้าที่แสดงให้เห็นว่ามาสด้ามีความมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ จนประสบความสำเร็จได้มาซึ่งเครื่องยนต์โรตารีที่สามารถนำมาใช้งานได้จริงบนท้องถนน

รางวัลรถยนต์ออกแบบยอดเยี่ยมประจำปี 2016 (2559) แบ่งออกเป็น 3 ประเภท รวมทั้งรถที่ผลิตเพื่อการจำหน่าย และการสื่อสารการออกแบบแบรนด์ โดยได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งหมด 11 ท่าน ซึ่งมาจากบรรณาธิการและตัวแทนจากนิตยสารรถยนต์ชั้นนำของโลกจากทั้งหมด 4 ทวีป เป็นผู้คัดเลือกรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่เปิดตัวแนะนำภายในปี 2015 (2558) โดยรางวัลนี้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1984 (2527) และดำเนินงานโดยนิตยสาร Auto & Design ซึ่งได้ทำการรื้อฟื้นการมอบรางวัลนี้ขึ้นมาอีกครั้งในปีนี้หลังจากที่หยุดดำเนินการไปกว่า 19 ปี

โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 – เอกลักษณ์หรูแห่งอนาคต


โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 – เอกลักษณ์หรูแห่งอนาคต

16 มิถุนายน 2559 – ลอนดอน
บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด เผยโฉมยนตรกรรมหรูต้นแบบแห่งโลกอนาคต โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 (Rolls-Royce VISION NEXT 100) ภายใต้รหัสชื่อ 103EX ที่จะเป็น “ยนตรกรรมต้นแบบ” สำหรับอนาคตอย่างแท้จริงคันแรกของบริษัทฯ ณ ราวด์เฮ้าส์ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

“วันนี้ โรลส์-รอยซ์ ในฐานะผู้นำแบรนด์หรูระดับโลก ได้กำหนดนิยามใหม่ของยนตรกรรมหรูแห่งโลกอนาคต ด้วยการเผยโฉมโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 ที่บ่งบอกถึงแผนในอนาคตของโรลส์-รอยซ์อย่างชัดเจน ในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมตามความต้องการเฉพาะบุคคลของลูกค้าให้สมบูรณ์แบบเพื่อผลงานที่มีอัตลักษณ์อย่างแท้จริง ผ่านการผสมผสานอย่างลงตัวของเทคโนโลยี การออกแบบ และฝีมืองานหัตถศิลป์ของ       โรลส์-รอยซ์”  มร. ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด กล่าว

โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 เป็นการคาดเดาถึงความต้องการของลูกค้าที่มีต่อยนตรกรรมในอนาคต และสร้างสรรค์ขึ้นหลังจากใช้เวลาหลายเดือนในการศึกษา และปรึกษากับกลุ่มลูกค้าปัจจุบันของแบรนด์           ยนตรกรรมต้นแบบนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่ชัดเจนของแผนในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมหรูที่มีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลของแบรนด์จะยังคงดำเนินต่อไปด้วยการคงไว้ซึ่งคุณลักษณะหลักของโรลส์-รอยซ์ที่ทำให้โรลส์-รอยซ์ เป็นแบรนด์ยนตรกรรมหรูที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าที่มีระดับและทรงอิทธิพลของโลกมากว่าศตวรรษ  

ที่มาของโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100
“ยนตรกรรมต้นแบบ” เป็นหนึ่งใน 4 หัวข้อที่ทางบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประกาศในงาน “THE NEXT 100 YEARS” เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2559 ที่มิวนิค  ทั้งนี้ปีพ.ศ. 2559 นี้ไม่เพียงแต่เป็นการฉลองครบรอบ 100 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แต่ยังเป็นปีที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ครั้งสำคัญให้กับโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส อีกด้วย

สำหรับโรลส์-รอยซ์ การยุติการผลิตยนตรกรรมแฟนธอม เจนเนอเรชั่น 7 ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น             “ยนตรกรรมที่ดีที่สุดในโลก” นั้น เปรียบเสมือนบทส่งท้ายสำหรับเฟสแรกของแบรนด์โรลส์-รอยซ์ยุคใหม่ภายใต้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป  ความสำเร็จของยนตรกรรม “แฟนธอม”  “โกสต์”  “เรธ” และ“ดอว์น” เป็นการปูทางให้กับโรลส์-รอยซ์ในอนาคต

ความสำเร็จอย่างสูงของโรลส์-รอยซ์ในฐานะแบรนด์หรูที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลกที่ผ่านมา เกิดจากความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดยั้งในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 – วิสัยทัศน์แห่งยนตรกรรมหรูสำหรับอนาคต
ในการรังสรรค์โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 ทีมออกแบบของบริษัทฯ นำโดยมร. ไจลส์ เทย์เลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ ได้ตั้งคำถามว่า “เราจะสามารถเปลี่ยนรูปแบบของยนตรกรรมหรูในอีก 100 ปีข้างหน้าได้อย่างไร” และจากคำถามนี้ทำให้ทีมออกแบบเกิดคำถามตามมาอีก 2 ข้อนั่นคือ “อะไรคือสิ่งที่ลูกค้าของโรลส์-รอยซ์คาดหวังที่จะเห็นในยนตรกรรมของเขา/เธอในอนาคต” และ “โรลส์-รอยซ์จะทำอย่างไรในปัจจุบันเพื่อตอบสนองความคาดหวังที่จะเกิดขึ้น”  คำถามเหล่านี้ทำให้ทีมออกแบบสามารถฝันถึงความเป็นไปได้ที่สามารถจะเกิดขึ้นในอนาคตของโรลส์-รอยซ์

โรลส์-รอยซ์ เข้าใจลูกค้า และความต้องการของลูกค้า ตลอดจนแรงบันดาลใจที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี บริษัทฯ เข้าใจดีว่าความหรูหราอย่างแท้จริงต้องสามารถสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล และสิ่งนี้เองที่ทำให้ยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ทุกคันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเป็นกุญแจสำคัญที่จะพาไปสู่อนาคต ดังนั้น ทีมออกแบบได้คำนึงถึงองค์ประกอบหลัก 4 ประการที่ไม่เพียงเป็นรากฐานของโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 แต่ยังเป็นทุกสิ่งของที่สุดแห่งยนตรกรรมหรูสำหรับอนาคต
การสะท้อนถึงอัตลักษณ์ การเดินทางที่สะดวกสบาย ห้องโดยสารที่หรูหราโอ่อ่าการถึงที่หมายอย่างมีสไตล์ 

ในการสร้างสรรค์โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 บริษัทฯ ได้ปฏิเสธความคิดแบบเดิมที่ว่ายนตรกรรมแห่งอนาคตต้องคำนึงถึงประโยชน์การใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ  โรลส์-รอยซ์ได้ก้าวผ่านจุดนั้นเพื่อให้รถยนต์ต้นแบบสำหรับอนาคตคันนี้เป็นระบบขับขี่อัตโนมัติที่สมบูรณ์แบบ  การรังสรรค์ตัวถังรถแก่ลูกค้าตามต้องการ เพื่อให้เกิดความมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์รถยนต์ของตนเองมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้ไปสู่องค์ประกอบข้อแรก คือ การสะท้อนถึงอัตลักษณ์  

การสะท้อนถึงอัตลักษณ์  
โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 ยนตรกรรมต้นแบบนี้เป็นตัวอย่างของความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์      โรลส์-รอยซ์แบบเฉพาะบุคคลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  ซึ่งนับว่าเป็นการปฏิวัติประสบการณ์บริการบีสโป๊กของโรลส์-รอยซ์ในปัจจุบัน รสนิยมของลูกค้าจะมีบทบาทสำคัญในการออกแบบ และขั้นตอนการสร้างสรรค์โรลส์-รอยซ์ของเขา/เธอ
 
ในส่วนของโครงสร้าง โรลส์-รอยซ์จะรังสรรค์แชสซีสำหรับอนาคต ที่ทำจากมือด้วยวัสดุอันทันสมัยและใช้ระบบส่งกำลังที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้หลักการปล่อยของเสียเป็นศูนย์ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้าทำให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการออกแบบรูปร่าง  ขนาด และเส้นรอบคันของโรลส์-รอยซ์ของเขามากยิ่งขึ้น  ลูกค้าในอนาคตจะสามารถสั่งทำรถได้ตามต้องการ  ทั้งนี้ บริษัทฯ จะออกแบบและผลิตยนตรกรรมแต่ละคันตามแนวคิดที่ลูกค้าวางไว้ ซึ่งทำให้โรลส์-รอยซ์ทุกคันเป็นผลงานที่โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะ

โดยสรุป โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 ใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทันสมัยในการสร้างสรรค์ตัวถังรถที่มีรูปลักษณ์แบบดั้งเดิม

“ลูกค้าในอนาคตของโรลส์-รอยซ์จะยังคงเป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียง ผมจึงเล็งเห็นว่าโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 จะมีบทบาทสำคัญในชีวิตของพวกเขาในฐานะที่จะเป็นพาหนะพาเขาไปทุกหนทุกแห่งได้อย่างสะดวกสบายและสง่างาม” มร. เทย์เลอร์ กล่าว

การเดินทางที่สะดวกสบาย
นับแต่ปีพ.ศ. 2454 เป็นเวลา 105 ปีที่สัญลักษณ์ สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี ออกแบบโดยประติมากรและศิลปิน มร. ชาร์ลส ไซค์ส  โดยมีมิสเอเลนอร์  ธอร์นตันเป็นแบบ ทำหน้าที่ประหนึ่งเข็มทิศนำทางให้โรลส์-รอยซ์ทุกคัน และผู้ครอบครองเดินทางผ่านเหตุการณ์มากมายในชีวิต และได้ยืนเด่นเป็นสง่าในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์หลายต่อหลายครั้ง

วันนี้ ฟังก์ชั่น “Voice of Eleanor” ได้เข้าไปอยู่ในโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 ส่งมอบความฝันแห่ง       ยนตรกรรมอนาคตให้กับผู้เป็นเจ้าของ โดยเชื่อมต่อข้อมูลของเจ้าของรถ และสภาวะโดยรอบอย่างละเอียดผ่านระบบดิจิทัลทำให้ฟังก์ชั่นอัจฉริยะนี้เป็นทั้งผู้ช่วยส่วนตัวและคนขับที่มอบความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น  โดยระบบจะแจ้งให้เจ้าของรถทราบถึงกำหนดการการเดินทาง ตารางเวลา และเส้นทางเพื่อเลือกใช้ในการเดินทางก่อนออกจากที่พักอาศัย รวมทั้งแจ้งเตือนการนัดหมาย หรือกิจกรรมการงานต่างๆ ตลอดจนให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

ระบบอัจฉริยะนี้จะขับพารถยนต์มารับผู้โดยสารเมื่อพร้อมที่จะออกเดินทาง และควบคุมการขับขี่ไปยังจุดหมายถัดไป อีกทั้งยังช่วยแนะนำ และให้ข้อมูลโดยสรุปก่อนถึงที่หมายเพื่อให้ผู้โดยสารเตรียมตัวก่อนล่วงหน้า นอกจากนี้ ระบบจะมีการคำนวณและคาดเดาเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนนเบื้องหน้า หรือลักษณะพื้นถนนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

การเดินทางที่สะดวกสบายนี้ ตอกย้ำคุณสมบัติเด่นอีกข้อของโรลส์-รอยซ์ คือ “ประหนึ่งนั่งอยู่บนพรมวิเศษ” ด้วยการผสมผสานระหว่างระบบส่งกำลังทรงพลังทันสมัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และระบบช่วงล่างที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น เหมาะกับการขับขี่ในทุกสภาพพื้นผิวถนน

ห้องโดยสารที่โอ่อ่าหรูหรา  
เมื่อก้าวขึ้นในโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 จะพบกับห้องโดยสารที่หรูหรา ให้ความรู้สึกประหนึ่งก้าวขึ้นรถม้าในสมัยโบราณอย่างสง่างาม และเมื่อพร้อมออกเดินทาง ประตูรถก็จะค่อยๆ ปิดลงแบบไร้เสียงรบกวน

สิ่งหนึ่งที่หลายคนคาดหวังจากโรลส์-รอยซ์ คือ ภายในห้องโดยสารที่สร้างสรรค์จากวัสดุหรูหราคุณภาพสูง แต่ที่อาจคาดไม่ถึงคือ ความรู้สึกที่เบาสบาย เรียบง่าย ซึ่งเป็นความสง่างามโดยไม่ต้องปรุงแต่ง

ห้องโดยสารภายในตกแต่งโดยรอบด้วยไม้ Macassar คุณภาพดีตั้งแต่ด้านในประตู รวมถึงพื้นที่บริเวณรอบด้านข้างจอ OLED (Organic Light Emitting Diodes) ขนาดใหญ่ และด้านข้างของที่นั่งของผู้โดยสารที่ 2 ตลอดถึงด้านข้างของโซฟา เพื่อความสวยงาม สะอาดตา และปิดหน้าจอเมื่อไม่ใช้งาน

จุดเด่นในห้องโดยสารอีกจุดหนึ่ง คือเบาะที่นั่งแบบโซฟาที่สวยงาม เป็นการตีความของการออกแบบเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่ หุ้มด้วยผ้าบุที่หรูหรา ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยไปในอากาศขณะที่นั่งอยู่ในห้องโดยสาร เนื่องจากวัสดุที่ใช้มีน้ำหนักเบา และทันสมัย

โซฟานี้ได้รับแรงบันดาลใจจากโรลส์-รอยซ์รุ่นแรกๆ และจากผลงานชิ้นยอดอย่างแฟนธอม เซเรนนิตี้ ในปีพ.ศ. 2558  ทีมออกแบบจึงเลือกใช้วัสดุที่แสดงออกถึงความหรูหรา คือ การใช้ผ้าไหมซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติ ผสมกับขนสัตว์ในการหุ้มเบาะโซฟาสีขาวงาช้าง ที่มอบผิวสัมผัสของเส้นใยที่งดงามแก่ที่นั่งในห้องโดยสารประหนึ่งว่าผู้โดยสารกำลังนั่งบนบัลลังก์อย่างสง่างาม

อีกหนึ่งจุดที่โดดเด่นภายในห้องโดยสาร คือ พรมขนสัตว์สีขาวงาช้างที่ทอขึ้นพิเศษจากกรุงลอนดอน และเนื่องจากเป็นรถที่ไม่มีคนขับทำให้ ผู้ใช้รถสามารถใช้พื้นที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นในการผ่อนคลายระหว่างการเดินทาง

การใช้งานของพื้นที่ภายในที่เน้นเรื่องทัศนวิสัยของผู้โดยสารเมื่อมองผ่านออกไปนอกรถโดยสายตาไม่ถูกรบกวนด้วยที่นั่งคนขับ หรือพวงมาลัย  หากผู้โดยสารเลือกที่จะพักสายตาจากการมองไปด้านนอกสักครู่ ก็สามารถสั่งงานผ่านระบบ “Voice of Eleanor” เพื่อขอดูข้อมูลต่างๆ ผ่านจอ OLED ที่อยู่ส่วนหน้าของห้องโดยสาร โดยจอดังกล่าวจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง จุดหมายปลายทาง และบุคคลที่จะพบ หรือจะเลือกชมภาพยนตร์สุดโปรดเพื่อความบันเทิงก็สามารถทำได้  

นอกจากนี้ ผู้โดยสารสามารถดูเวลาได้จากนาฬิกาที่อยู่ตรงกลางเหนือจอภาพ รังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงเซอร์ เฮนรี่ รอยซ์ ในฐานะที่เคยเป็นผู้บุกเบิกด้านไฟฟ้า และได้ประดิษฐ์เครื่องปั่นไฟ อีกทั้งยังเป็นเครื่องเตือนใจว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่าที่สุด

การถึงที่หมายอย่างมีสไตล์
โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 ยนตรกรรมต้นแบบแห่งอนาคต ที่จะมอบประสบการณ์ของการถึงที่หมายได้อย่างสง่างามและมีสไตล์ ในขณะที่รถยนต์ต้นแบบนี้สะท้อนถึงความหรูหราแห่งอนาคตอย่างเด่นชัด แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณลักษณะของโรลส์-รอยซ์ที่มีอยู่ในตัวทุกคัน ได้แก่ สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี กระจังหน้าขนาดใหญ่ ฝากระโปรงหน้ายาว รูปร่างและสัดส่วนของรถที่มีเอกลักษณ์

โรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 มีขนาดความยาว 5.9 เมตร  สูง 1.6 เมตร ขนาดเดียวกับแฟนธอม รุ่น ขยายฐานล้อโดยเน้นพื้นที่ในการบรรทุก  ในขณะที่สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี ย้อนยุคกลับไปในแบบของแฟนธอมยุค 1920 รังสรรค์โดยช่างเป่าแก้วชาวยุโรปฝีมือดี  โดยสปิริต ออฟ เอ็กสตาซี จะอยู่ด้านบนของกระจังหน้าแบบใหม่ที่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นโรลส์-รอยซ์ พร้อมกับโลโก้ RR สีแดง

การใช้เหล็กขัดเงาในส่วนต่างๆ ได้แก่ กระจังหน้า ส่วนรอบฐานของสปิริต ออฟ เอ็กสตาซี  และขอบบนของกรอบไฟหน้า ไปจนถึงเส้นด้านข้างของฝากระโปรงหน้าที่ทำหน้าที่แบ่งสัดส่วนระหว่างด้านบน และด้านล่างของรถ

เส้นแบ่งนี้ช่วยเน้นสีภายนอกที่เป็นทูโทนของรถให้เด่นขึ้น  โดยส่วนบนของรถทั้งหมดเป็นแก้วสีดำที่ลาดยาวไปจนถึงหลังคารถ ทำให้ผู้โดยสารมีความเป็นส่วนตัวไม่ว่าจะยามค่ำคืน หรือมองผ่านออกไปทางด้านหน้ารถ      

ส่วนภายนอกของตัวรถด้านล่างจะเป็นสีฟ้าอ่อน เพิ่มความสว่างให้กับตัวรถ ทำให้ไม่ว่าจะมองมุมไหนของโรลส์-รอยซ์ วิชั้น เน็กซ์ 100 ก็จะได้ความรู้สึกเหมือนว่ากำลังล่องลอยไปในอากาศแม้ขณะรถวิ่ง หรือจอดสนิท  

การวางมอเตอร์ที่ใช้ในการบังคับล้อไว้ในซุ้มล้อ ทำให้ไม่มีส่วนของซุ้มเพลามาเกะกะผู้โดยสารขณะนั่งในรถ  ส่วนเครื่องยนต์ซึ่งปกติจะอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้าของรถ ก็กลายเป็นห้องเก็บสัมภาระที่อยู่หลังของล้อหน้า สามารถเปิดจากทางด้านข้างอัตโนมัติเมื่อถึงที่หมาย และลงจากรถ โดยภายในจะพบกับกระเป๋าเดินทางแบบแกรนด์ ทัวเรอร์ 2 ใบ ซึ่งแต่ละใบจะปักชื่อย่อของชาล์ส  โรลส์ (CS Rolls) และ เฮนรี่ รอยซ์ (FH Royce)    

ส่วนกระจังหน้าใหม่ในโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 ได้รับแรงบันดาลใจจากโรลส์-รอยซ์ในยุค1920 ทำจากวัสดุน้ำหนักเบา แต่ทนทาน ทำให้ตัวรถลอยเหนือพื้นถนนเนื่องจากตัวรถช่วงล่างยึดติดกับล้อด้วยท่อนยึด  ปีกนกล่าง

ล้อรถขนาดสูง 28 นิ้วแต่หน้าแคบ ประกอบมือจากอลูมิเนียม 65 ชิ้น

ถ้ามองจากด้านข้าง ตัวรถจะให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้โดยสาร เนื่องจากส่วนท้ายที่ถูกยกสูงขึ้น

ในขณะที่การออกแบบใหม่นี้สะท้อนถึงความสะดวกสบาย แต่ต้องขอบคุณการพัฒนาด้านกระแสลมในขณะรถวิ่ง และการลดแรงต้านลมที่ทำให้ตลอดการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น

การจอดเมื่อถึงจุดหมายของโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 นั้น จะเห็นได้จากสปิริต ออฟ เอ็กสตาซี และกระจังหน้ามีไฟสว่างขึ้น  ในขณะที่กำลังจะเข้าจอด โดยไฟจะค่อยๆ ติดไล่จากขอบด้านข้างของซุ้มล้อหน้า ไปยังบานประตูหลัง เพื่อส่งสัญญาณว่าโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 กำลังจะเข้าจอดแล้ว  

หลังคากระจกจะถูกยกขึ้นเพื่อให้ผู้โดยสารยืนเตรียมลงจากรถ ประตูแบบรถม้าบานเดียวเปิดออก ผู้โดยสารเหยียบบนบันไดเพื่อก้าวออกจากรถ ไฟสีแดงใต้บันไดติดขึ้นประหนึ่งว่าเดินบนพรมแดง

“ลักษณะการจอดของโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 สร้างความสำคัญให้กับผู้โดยสารเมื่อเขาเหล่านั้นเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทาง  มันเป็นการแสดงออกถึงความเข้าใจของเราเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของแบรนด์สินค้าหรู และความต้องการของลูกค้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”  มร. เทย์เลอร์ กล่าวทิ้งท้าย

โดยสรุป การสะท้อนถึงอัตลักษณ์  การเดินทางที่สะดวกสบาย  ห้องโดยสารที่หรูหราโอ่อ่า และการถึงที่หมายอย่างมีสไตล์ คือคำจำกัดความของโรลส์-รอยซ์ วิชั่น เน็กซ์ 100 ยนตรกรรมหรูแห่งโลกอนาคต

นักแข่งไทยสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นโพเดี่ยมอีกครั้งใน Porsche Carrera Cup Asia 2016 ที่ญี่ปุ่น


วุฒิกร จาก est cola Thailand โชว์ฟอร์มเจ๋ง ณ สนาม Fuji International Speedway
ประเทศไทย. est cola Thailand Team (THA) โดยวุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ นักแข่งไทย ซิ่ง Porsche โชว์ฟอร์มสุดร้อนแรง สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นครองโพเดี่ยมได้อีกครั้งในรายการ Porsche Carrera Cup Asia 2016 สนามที่ 4 – 5 โดยคว้าอันดับ 2 และ 3 ในรุ่นคลาสบี เมื่อวันที่ 4-5 มิถุนายน 2016 ที่ผ่านมา ณ สนามแข่ง Fuji International Speedway ประเทศญี่ปุ่น

ปอร์เช่ประเทศไทย โดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรผ่านการทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 10 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนถึงการให้ความสำคัญในเรื่องการให้บริการหลังการขายของ เอเอเอส โดยทุ่มเทงบการอบรมวิศวกรของเราให้มีคุณภาพสูงสุดตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” “AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า AAS The Name you can Trust ซึ่งได้พิสูจน์ให้ท่าน
เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินการมากกว่า 30 ปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Porsche Centre Bangkok ถ.วิภาวดีรังสิต โทร. 02-522-6655
Porsche Centre Pattanakarn ถ.พัฒนาการ โทร. 02-369-1111
Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911

Niche Cars Group welcomes Thai-Cambodia Business Networking


Bangkok – Niche Cars Group, an authorized supercar dealer for top global brands such as Lamborghini, McLaren, Lotus, Hummer Pagani and Koenigsegg recently welcomed representatives from a Thai-Cambodia Business Networking group. More than 40 supercars and superbikes travelled from Cambodia’s Phnom Penh to Bangkok’s Niche Cars showroom, the biggest of its kind in the region. With close to 700 kilometers between the two neighboring capitals, the networking rally, organized by the Thai Department of International Trade Promotion and the Ministry of Commerce is aimed at strengthening trade relations between the two countries.

MOTOR EXPO 2016 เนื้อหอมค่ายรถแห่จองพื้นที่ มั่นใจปลายปีตลาดคึกคักแน่ บริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง พร้อมใจร่วมงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33" ส่งสัญญาณไตรมาสสุดท้ายตลาดรถสดใส


ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33” (The 33rd Thailand International Motor Expo 2016) เปิดเผยถึงบรรยากาศการเปิดจองพื้นที่งานว่า ได้รับความสนใจจากบริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตลอดจนอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง จับจองพื้นที่คึกคักเช่นทุกปีที่ผ่านมา แม้ว่าตลาดจะเผชิญกับภาวะชะลอตัวมาตั้งแต่ต้นปี อย่างไรก็ดีเมื่อประเมินสถานการณ์ในอีก 6 เดือนข้างหน้ามั่นใจว่าตลาดจะฟื้นตัวตามลำดับ โดยกำลังซื้อจะเริ่มกลับมาตอนปลายปี ซึ่งเป็นช่วงที่จัดงานพอดี

เหตุผลที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าเป็นพิเศษ คือ ช่วงเวลาของการจัดงานมหกรรมยานยนต์ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและดีที่สุดของปี มีปัจจัยที่สนับสนุนการซื้อขายหลายประการ อาทิ การปรับเงินเดือน การได้รับโบนัส รวมถึงการเปิดตัวรถใหม่หลากหลายรุ่น การจัดแคมเปญร่วมกับสถาบันการเงิน  รวมถึงโปรโมชันจากค่ายรถ ที่มีทั้งลดแลกแจกแถมมากมาย

“นอกจากนี้ บริษัทรถยนต์ ยังมีความเชื่อมั่นในมาตราฐานการจัดงานระดับสากลของเราซึ่งได้รับการรับรอง ในฐานะสมาชิกของสมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก (UFI: Union des Foires Internationales) ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน

งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33” ใช้พื้นที่จัดงานรวมทั้งสิ้น 80,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น ภายในอาคารชาเลนเจอร์ 60,000 ตารางเมตร จัดแสดงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง โดยพื้นที่แสดงรถยนต์ใหญ่ที่สุดขนาด 1,890 ตารางเมตร และพื้นที่ภายนอกอาคารอีก20,000 ตารางเมตร สำหรับจัดกิจกรรมอื่นๆ มากมาย

MOTOR EXPO 2016” จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เชื่อมโลก...เชื่อมคน ยานยนต์อัจฉริยะ” หรือ “Connect the World...Connect People: Smart Vehicles” เพื่อต้อนรับยานยนต์ยุคใหม่ที่ผสาน รถ คน โลก เป็นหนึ่งเดียวด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อล้ำสมัย” ขวัญชัย กล่าวทิ้งท้าย

พลาดไม่ได้กับงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33” ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 Impact เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม2559 เวลาเปิด-ปิดงาน วันธรรมดา เวลา 12.00-22.00 น. เสาร์และอาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 11.00 - 22.00 น. ปิดการจำหน่ายบัตรเข้างาน เวลา 21.00 น. ของทุกวัน สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง http://www.motorexpo.co.th  

เปิดสนาม “NITTO KING OF DRAG 2016” ชิงความเป็นหนึ่ง ศึกแดร็กสายพันธุ์ดีเซล แรงกระหึ่มแทร็ก ลั่นสนามบางกอกแดร็ก อเวนิว คลอง 5



ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด จับมือ TNG DRAG จัดเต็มศึกสายแดร็ก ดีเซล “NITTO KING OF DRAG 2016” พิสูจน์ประสิทธิภาพ ยางนิตโตะ รุ่น NT420S โดยภายในงานเต็มไปด้วยสุดยอดนักแข่ง ตั้งแต่ตัวแรงรุ่นเก๋าขาซิ่ง หรือรุ่นโจ๋หัดแข่ง ที่มาวาดลวดลาย ประชันความแรงบนสนามแข่งกันอย่างร้อนแรง ณ สนาม สนามบางกอกแดร็ก อเวนิว รังสิตคลอง 5 นอกจากนั้นแล้ว ภายในงานยังมีโชว์สุดพิเศษจากศิลปิน RAP IS NOW ที่ยกทีมกันมาโชว์พลังแร๊พขั้นเทพให้ชมกันอย่างสนุกสนานภายในงาน และร่วมลุ้นโชคทองสำหรับผู้เข้าชม มูลค่า 15,000 บาท ภายในงานอีกด้วย
โดยในสนามนี้ ได้รับเกียรติจาก คุณปฎิภาณ อนันต์รัตนสุข ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด ผู้นำเข้า และจัดหน่ายยางนิตโตะ ได้ให้เกียรติเข้าร่วมในพิธีเปิด พร้อมทั้งให้กำลังใจนักแข่งทุกคนอย่างใกล้ชิด ตลอดทั้งการแข่งขันอีกด้วย และเตรียมพบกับความมันส์ทะลุเป็น 2 เท่า ในศึก “NITTO KING OF DRAG 2016” สนามที่ 2 ในวันที่ 11 มิถุนายน2559 นี้ ณ สนามน้ำพอง จ.ขอนแก่น


สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ http://www.nittotire.in.th หรือ Facebook: Nitto Tire Thailand

เบ็นดิกซ์ ตั้งไทยเป็นฐานการผลิตประจำภูมิภาค เปิดโรงงานใหม่ นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จ. ระยอง



เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2559 บริษัท เอฟ เอ็ม พี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เอฟ เอ็ม พี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ผ้าเบรกเบ็นดิกซ์ จัดพิธีเปิดโรงงานเบ็นดิกซ์เฟสที่ 2 อย่างเป็นทางการ โดยมี นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เข้าร่วมเปิดงาน พร้อมด้วย Mr. Graeme Dixon ผู้จัดการทั่วไป Mr. David Woolfson ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด และนายประพัฒน์ อัศวาดิศยางกูร ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจำภูมิภาค และคณะผู้บริหารร่วมเป็นสักขีพยาน

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า “การเปิดโรงงานเบ็นดิกซ์เฟสที่2 ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง สำหรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ของจังหวัดระยอง และประเทศไทย ให้เติบโตยิ่งขึ้นไป การขยายโรงงานของเบ็นดิกซ์ ถือเป็นการตอกย้ำจุดยืนของประเทศในการเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่สำคัญของโลกได้เป็นอย่างดี เพราะปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ นับเป็นอุตสาหกรรมหลักที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดระยอง และประเทศไทยเป็นอย่างมาก และขอชื่นชมการใส่ใจในคุณภาพ และสิ่งแวดล้อมของทุกกระบวนการผลิตของโรงงานเบ็นดิกซ์แห่งนี้ ที่ได้มีการบริหาร และจัดการสภาพแวดล้อมในการทำงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งการันตีด้วยการได้รับรางวัล “อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry)”จากในปีที่ผ่านๆมา”

นายประพัฒน์ อัศวาดิศยางกูร ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจำภูมิภาค บริษัทเอฟ เอ็ม พี ดิสทริบิวชั่น จำกัด เปิดเผยถึงความสำเร็จทางยอดจำหน่ายผ้าเบรกเบ็นดิกซ์ในปีที่ผ่านมาว่า “จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของผ้าเบรกเบ็นดิกซ์ กำลังการผลิตจากเดิมที่ได้ประมาณ 6 ล้านชิ้นต่อปี นั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการในตลาด เราจึงได้มีการลงทุนเพิ่มเติมในการสร้างโรงงานผลิตผ้าเบรกเบ็นดิกซ์เฟสที่ 2 ขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ได้ทุ่มงบครั้งใหญ่ 140 ล้านบาท ไม่รวมมูลค่าที่ดิน สร้างโรงงานเฟส 2 ในบริเวณเดียวกับโรงงานแรก เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตหลักประจำภูมิภาค โดยสามารถขยายกำลังผลิตเพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว ทำให้เพิ่มจำนวนการผลิตได้รวมได้มากกว่า 13 ล้านชิ้นต่อปี รวมทั้งมีการจ้างงานเพิ่มกว่าเท่าตัว จำนวนพนักงานรวม 250 คน
ซึ่งจะสามารถรองรับความต้องการตลาดที่มีสูงมากทั้งใน และต่างประเทศ และในส่วนของสายการผลิตนั้นทางบริษัทฯ ได้มีการนำเทคโนโลยีการผลิตล่าสุด Hybrid Fusion Technology เข้ามาช่วยพัฒนาผ้าเบรกให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ภายใต้นโยบาย“โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว”

สำหรับ ในปี 2558 ที่ผ่านมานั้นบริษัทมียอดจัดจำหน่ายรวมมากกว่า 800 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20 % เมื่อเทียบกับปี 2557 ในปี 2559 นั้น ทางบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าการเติบโตไว้มากกว่า 40% ยอดขายโดยรวมจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1,100 ล้านบาท หากภาวะเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น และคาดหวังว่าการเติบโตของบริษัท ฯ จะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่ช่วยผลักดันภาคเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตยิ่งขึ้น

ทางด้านการตลาด และการประชาสัมพันธ์ ในปีนี้ทางบริษัทฯ ได้จัดเตรียมงบประมาณอีกไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ รวมไปถึงการขยายจำนวนร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และฝึกอบรมเทคนิคการรักษาระบบเบรกแก่ช่าง ที่เป็นศูนย์บริการตัวแทนของผ้าเบรกเบ็นดิกซ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าที่เข้ารับบริการ และเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกระดับ นอกจากนั้น ยังมีการจัดกิจกรรม และโปรโมชั่นต่างๆให้กับร้านค้า ตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภค รวมถึงการสนับสนุนมอเตอร์สปอร์ต เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำของผ้าเบรกเบ็นดิกซ์ และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคต่อไป” นายประพัฒน์ กล่าวปิดท้าย
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved