Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยประกาศแต่งตั้งคุณปิยะนุช จตุรภัทร์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายและพัฒนาเครือข่าย



เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยประกาศแต่งตั้งคุณปิยะนุช จตุรภัทร์ 
ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายและพัฒนาเครือข่าย


กรุงเทพฯ – เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยประกาศแต่งตั้งคุณปิยะนุช จตุรภัทร์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายและพัฒนาเครือข่ายคนใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้

คุณปิยะนุชจะประจำอยู่ในกรุงเทพฯ และรายงานต่อมร. เวล เอ. ฟาร์กาลี กรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม ประเทศไทย และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย บทบาทหน้าที่หลักของคุณปิยะนุชคือ การกำกับดูแลการปฏิบัติงานด้านการขายและเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายของแบรนด์เชฟโรเลตในประเทศไทย

“เรามีความยินดีที่ได้ต้อนรับคุณปิยะนุชเข้าร่วมทีมผู้บริหารของจีเอ็ม ประเทศไทย” มร. ฟาร์กาลีกล่าว “คุณปิยะนุชมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ยาวนานหลายปี ทั้งด้านการขาย การพัฒนาเครือข่าย การฝึกอบรมการขาย การบริหารจัดการลูกค้า และการตลาด ความเชี่ยวชาญของเธอจะช่วยให้เราเดินหน้าสร้างแบรนด์เชฟโรเลตให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเสริมความแข็งแกร่งให้ผู้จัดจำหน่ายของเราในตลาดเมืองไทยที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง”

ก่อนร่วมงานกับเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย คุณปิยะนุชเคยทำงานกับบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 อีกทั้งยังเคยเป็นผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริหารปฏิบัติการขาย และผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริหารจัดการลูกค้าและฝึกอบรมที่นิสสัน

คุณปิยะนุชเริ่มทำงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่บริษัท ออโต เทคนิค (ประเทศไทย) จำกัด ก่อนจะดำรงตำแหน่งผู้จัดการอาวุโสฝ่ายฝึกอบรมการขายที่บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด คุณปิยะนุชสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี บริหารธุรกิจบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เชฟโรเลตจัดจำหน่ายรถทั้งหมด 14,931 คันในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว โดยได้แรงขับเคลื่อนมาจากการเปิดตัวรถกระบะโคโลราโด และรถเอสยูวีเทรลเบลเซอร์ที่ผลิตในประเทศไทย สำหรับในปี 2560 เชฟโรเลตจะเปิดตัวรถเพิ่มเติมและยกระดับการบริการ รวมถึงการนำเสนอคอนเน็คชั่น เซ็นเตอร์ที่ผู้จัดจำหน่ายเชฟโรเลตทั่วประเทศ

ตรวจเช็คฟรี 24 จุด ด้วยมาตรฐานจากโรงงานปอร์เช่ เยอรมนี พร้อมส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้า เอเอเอสฯ เท่านั้น



ตรวจเช็คฟรี 24 จุด ด้วยมาตรฐานจากโรงงานปอร์เช่ เยอรมนี พร้อมส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้า เอเอเอสฯ เท่านั้น

กรุงเทพ. ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มอบการบริการสุดพิเศษสำหรับเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่ คาเยนน์รุ่นแรก หรือ Cayenne E1 ด้วยงาน Porsche Cayenne E1 Service Clinic บริการและดูแลพิเศษตรวจเช็ค 24 จุด ด้วยมาตรฐานโรงงาน โดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถยนต์ปอร์เช่ พร้อมเครื่องมือดูแลและบำรุงรักษาครบครัน ซึ่งแคมเปญพิเศษจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ – 10 มีนาคม 2560 ณ ศูนย์บริการ Porsche Centre Bangkok (ดอนเมือง) และ ศูนย์บริการ Porsche Centre Pattanakarn (พัฒนาการ)

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า เอเอเอสฯ เมื่อนำรถ Cayenne E1 เข้ารับบริการ Porsche Cayenne E1 Service Clinic

น้ำมันเครื่อง Mobil ฟรี สำหรับลูกค้า 20 ท่านแรก
ส่วนลดพิเศษค่าอะไหล่ ค่าแรง และชุดแต่ง Tequipment
ส่วนลดพิเศษสำหรับการบริการทำสีและตัวถัง (Body & Paint)
ส่วนลดพิเศษสินค้า Porsche Driver’s Selection
บำรุงรักษารถยนต์ปอร์เช่ด้วยการล้างและเคลือบสีจากผลิตภัณฑ์ Autoglym ฟรี หลังรับบริการ
ส่วนลดพิเศษผลิตภัณฑ์บำรุงรักษารถยนต์ Autoglym (เฉพาะรายการ)
ทดลองขับรถยนต์ปอร์เช่หลากหลายรุ่น
รับส่วนลดเพิ่มทันที 5% เมื่อมียอดใช้จ่าย 50,000 บาท ขึ้นไป

** เอกสิทธิ์สำหรับลูกค้าปอร์เช่ เอเอเอสฯ เท่านั้น **

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกรของเราให้มีคุณภาพสูงสุดตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า AAS The Name you can Trust ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Porsche Centre Bangkok ถ.วิภาวดีรังสิต โทร. 02-522-6655
Porsche Centre Pattanakarn ถ.พัฒนาการ โทร. 02-369-1111
Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911

“ฟู้ดแพชชั่น” มั่นใจเลือกใช้ปิกอัพอีซูซุ เป็นผู้ช่วยส่งมอบความสุข



“ฟู้ดแพชชั่น” มั่นใจเลือกใช้ปิกอัพอีซูซุ เป็นผู้ช่วยส่งมอบความสุข

กลุ่มตรีเพชร โดย มร.โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย มร.ฮิโรยาสุ ซาโต้ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมส่งมอบรถปิกอัพ “อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ทั้งรุ่นสปาร์ค และ แค็บ แชสซีส์ (Cab Chassis) รวม 18 คัน ให้แก่ คุณชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายวรสิทธิ์ ปานช้าง ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตและโลจิสติก บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ภายใต้การบริหารงานของบริษัทฯ จำนวน 3แบรนด์ ได้แก่ บาร์บีคิวพลาซ่า จุ่มแซ่บฮัท และ ฮ็อท สตาร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งและกระจายสินค้าของแบรนด์ร้านอาหารยอดนิยมของคนไทย ณ อาคารสำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จัดงาน BMW Motorrad Days 2017 เอาใจคนรักบิ๊กไบค์ทุกค่าย



บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จัดงาน BMW Motorrad Days 2017 เอาใจคนรักบิ๊กไบค์ทุกค่าย
  
กรุงเทพฯ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย จัดกิจกรรม BMW Motorrad Days 2017 งานเทศกาลของคนรักบิ๊กไบค์แห่งปี พร้อมเชิญชวนแฟนรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ไม่จำกัดค่ายร่วมสังสรรค์และสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ในวันที่ 4 – 5 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.00 – 24.00 น. ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ ฟร้อนท์ โดยไม่เสียค่าผ่านประตูใดๆ ทั้งสิ้น

ภายในงาน พบกับการเปิดตัวของรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมตื่นตาตื่นใจกับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สตั้นท์ โชว์ ครั้งแรกในไทยจาก BigJim นักขี่มอเตอร์ไซค์ผาดโผนชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงระดับโลก คอนเสิร์ตสุดมันส์จากศิลปินชั้นนำที่ยกขบวนมาสร้างสีสัน ได้แก่ วงนูโว วงฟลัวร์ ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์ และวิน สควีซแอนนิมอล เพลิดเพลินกับร้านค้าและกิจกรรมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ตกแต่ง เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย การบริการตรวจเช็ครถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูเบื้องต้น และพิเศษกับคอลเลคชั่นของสะสมBMW Motorrad Days จำหน่ายเฉพาะในงานนี้เท่านั้น

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.facebook.com/BMWMotorradTH  หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมที่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย 1-800-269-269

สมาคมรถโบราณฯ จัด “คาราวานชานกรุง” ส่งเสริมการท่องเที่ยวย้อนยุค


สมาคมรถโบราณฯ จัด “คาราวานชานกรุง”
ส่งเสริมการท่องเที่ยวย้อนยุค
            สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย จัดงาน “คาราวานชานกรุง” รวมสมาชิกขับรถโบราณ และรถคลาสสิคกว่า 50 คัน อวดความงามและความเก๋า ชมสถานที่น่าสนใจในเขตทวีวัฒนา อาทิ หอศิลป์พุทธะ หมู่บ้านโขน ณ เดอะศาลายา เมืองมายา หอภาพยนตร์แห่งชาติ และสวนมุทิตาธรรมาราม
            ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานเขตทวีวัฒนา และสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย จัดงาน คาราวานชานกรุง” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตทวีวัฒนา และบริเวณใกล้เคียง ผ่านความสวยงามของขบวนรถโบราณและรถคลาสสิคที่พร้อมใจอวดโฉมให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดกว่า 50 คันตลอดการเดินทาง
ขบวนคาราวานเริ่มต้นจาก โรงพยาบาลธนบุรี 2 มุ่งหน้าสู่ ถนนอุทยาน สำนักงานเขตทวีวัฒนา ซึ่งเป็นจุดทำพิธีปล่อยขบวนรถโบราณอย่างเป็นทางการ จากนั้น เดินทางไปที่ หอศิลป์พุทธะ ชมนิทรรศการพุทธประวัติ ซึ่งจัดแสดงภาพจิตรกรรมสมัยใหม่ในแบบ Digital Art Printing ช่วยผ่อนคลายความสับสนจากสังคมเมือง ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไป เดอะศาลายา คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ครบครันทันสมัย แต่ยังคงร่วมอนุรักษ์ศิลปวัฒนะธรรมไทยด้วยการจัดตั้ง หมู่บ้านโขน และยังมีพิพิธภัณฑ์พระบรมสารีริกธาตุ ในบริเวณเดียวกันด้วย
ช่วงบ่ายคาราวานรถโบราณชานกรุง ออกเดินทางไป ชมเมืองมายา ณ หอภาพยนตร์แห่งชาติ เป็นเมืองจำลองสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ในรูปแบบฉากถ่ายหนังที่อลังการ เช่น ร้านกาแฟกรองด์คาเฟ่ สถานที่ฉายหนังครั้งแรกของโลกที่ประเทศฝรั่งเศส พร้อมมุมถ่ายภาพย้อนยุคมากมาย
หลังจากนั้น สมาชิกสมาคมรถโบราณฯ ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคม มอบทุนการศึกษาและของจำเป็น ที่โรงเรียนคลองบางกระทึก ก่อนมุ่งหน้าสู่จุดหมายสุดท้ายชมความงามของธรรมชาติที่แฝงไว้ด้วยศิลปะที่ หอศิลป์ธรรมะ สวนมุทิตาธรรมาราม พร้อมมอบเกียรติบัตรให้แก่เจ้าของรถโบราณที่ร่วมกิจกรรม
นายกสมาคมฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สมาคมฯ ยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตทวีวัฒนา  และหวังว่าจะได้ร่วมกิจกรรมในปีต่อๆ ไป ส่วนประชาชนทั่วไปที่พลาดชมกิจกรรมครั้งนี้ สามารถติดตามความงดงามของรถโบราณได้ที่ http://www.vintagecarclub.or.th

ต.สยาม ปักหมุด รามอินทรา เปิด GRIP by จรัสล้อแม็กซ์ เซอร์วิสประเดิมปี 60



ต.สยาม ปักหมุด รามอินทรา
เปิด GRIP by จรัสล้อแม็กซ์ เซอร์วิสประเดิมปี 60


บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายยาง TOYO TIRES , NITTO TIREและ KUMHO TIRE อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เสริมความแกร่ง ย่านรามอินทรา เปิดตัวศูนย์บริการยางรถยนต์ครบวงจร GRIP by จรัสล้อแม็กซ์ เซอร์วิส ตั้งอยู่ ถนน รามอินทรา แขวง รามอินทรา เขต คันนายาว กรุงเทพมหานคร โดยมี นายอภิชัย ตั้งวงศ์ศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด เป็นประธานในพิธีเปิด

ศูนย์บริการยางรถยนต์ “GRIP by จรัสล้อแม็กซ์ เซอร์วิส” เป็นศูนย์บริการและจำหน่ายยางรถยนต์ และ สินค้าตกแต่งรถยนต์ ให้บริการครบทุกด้าน เช่น จำหน่ายยางรถยนต์ ภายใต้แบรนด์ระดับโลก อาทิ TOYO TIRES, NITTO TIRE และKUMHO TIRE และจำหน่ายล้อแม็กซ์มากมายหลายรูปแบบ และหลายขนาดให้เลือกสรร นอกจากนั้นยังมีบริการ ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ ซึ่งครบครันด้วยเครื่องมือ และอุปกรณ์ในการตรวจสอบที่ทันสมัยพร้อมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่มากด้วยประสบการณ์ในด้านการดูแลรักษารถยนต์ โดยเปิดให้บริการลูกค้า ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ถึง 18.30 น.

สำหรับชาวกรุงเทพฯ และที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียงที่สนใจใช้บริการเปลี่ยนยางรถยนต์ สามารถเข้าไปใช้บริการได้แล้ววันนี้ ที่ร้าน GRIP by จรัส ล้อแม็กซ์ เซอร์วิส สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 091-112-1113 และเตรียมพบกับร้าน GRIP สาขาต่อไปใกล้บ้านท่านเร็วๆนี้




เอ.พี. ฮอนด้า เปิดเกมบุกวางกลยุทธ์พลิกวงการรถจักรยานยนต์ไทยสู่ยุคดิจิตอล เผย 3 กลยุทธ์เด็ดมัดใจผู้บริโภคคนไทย พร้อมประเดิมศักราชด้วย Honda Rebel 300



เอ.พี. ฮอนด้า เปิดเกมบุกวางกลยุทธ์พลิกวงการรถจักรยานยนต์ไทยสู่ยุคดิจิตอลเผย 3 กลยุทธ์เด็ดมัดใจผู้บริโภคคนไทย พร้อมประเดิมศักราชด้วย Honda Rebel 300

เอ.พี. ฮอนด้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งวงการรถจักรยานยนต์ไทยเป็นปีที่ 28 ติดต่อกันด้วยยอดจำหน่าย 1.37 ล้านคัน จากตลาดรวมทั้งสิ้น 1.74 ล้านคัน วางเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน ผ่านกลยุทธ์หลักที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เหนือความคาดหวังของลูกค้า ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ของรถจักรยานยนต์ ด้วยการนำเสนอโมเดลใหม่ถึง 19 รุ่นภายใน 3 ปีข้างหน้า และตั้งเป้าวางจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมส่งมอบประสบการณ์ การขับขี่หลากหลายในแบบฉบับของฮอนด้าเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไป นอกจากนี้ฮอนด้ายังมุ่งแบ่งปันความสุขสู่สังคม โดยเน้นเรื่องความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมอันเป็นแกนหลัก พร้อมผนึกกำลังดำเนินกับเครื่อข่ายผู้จำหน่ายฯ เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่สังคมปรารถนาให้ดำรงอยู่อย่างแท้จริง วางเป้าการจำหน่ายปี 2017 ไว้ที่ 1.38 ล้านคัน จากตลาดรวม 1.75 ล้านคัน ประเดิมเปิดศักราชด้วยการเปิดตัว รถรุ่นแรกHonda Rebel 300 รถคัสต้อมบ็อบเบอร์ โดดเด่นสะดุดตาด้วยโครงสร้างแบบ มินิมอล

มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยเปิดเผยว่า “ในปี 2016 ที่ผ่านมา ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยได้เริ่มมีสัญญาณเติบโตที่ดีขึ้นหลังจากตกติดต่อกันมาเป็นเวลา 3 ปี โดยมีปริมาณตลาดรวม 1.74 ล้านคัน เติบโตเพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนหน้า สำหรับฮอนด้ามียอดการจำหน่าย 1.37 ล้านคัน เติบโตขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านม่า ในส่วนของตลาดรถ Big Bike เรามียอดจำหน่าย 9,000 คัน จากตลาดรวม 23,000 คัน ซึ่งทำให้ฮอนด้าเป็นอันดับ 1 ในรถทุกประเภท และเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ติดต่อกันถึง 28 ปีติดต่อกัน”
“ความเป็นผู้นำตลาดยิ่งถือเป็นแรงผลักดันให้ฮอนด้าก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง เราคำนึงถึงสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนไปสู่ยุคดิจิตอลที่ทุกผลิตภัณฑ์สามารถเชื่อมโยงกับอินเตอร์เน็ต และนำเราไปสู่สิ่งที่เราคาดไม่ถึงมากมาย ส่งผลให้วิถึการดำเนินชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก รวมถึงความคาดหวังของลูกค้าที่ต้องการสิ่งที่ดีขึ้นและแสดงความเป็นตัวตนมากขึ้น จากแนวโน้มที่เกิดขึ้นฮอนด้าได้วางแผนการดำเนินงานในอีก 3 ปีข้างหน้า (ปี 2017 – 2019) มุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนด้วยการสร้างสรรค์และแบ่งปัน ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก”

กลยุทธ์ที่หนึ่ง คือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เหนือความคาดหวังของลูกค้า ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ของรถจักรยานยนต์ นำเทคโนโลยีที่ยกระดับความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ สะดวกสบายต่อผู้ใช้มาบรรจุในรถจักรยานยนต์ อาทิเช่น ไฟหน้าLED, Smart Technology, AC Socket มาสู่รถทุกรุ่น ตลอดจนนำเสนอสินค้าคุณค่าใหม่ที่ไม่เพียงมอบความสุขในการขับขี่ แต่ยังมอบความภาคภูมิใจในการครอบครอง รวมไปถึงนำเสนอรถสำหรับอนาคตโดยเตรียมวางจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถตอบสนองการใช้งานในประเทศไทยอย่างแท้จริง ทั้งนี้ฮอนด้าตั้งเป้าวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ 19 รุ่นภายใน 3 ปีต่อจากนี้

กลยุทธ์ที่สอง คือการสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายในแบบฉบับของฮอนด้า (Honda Experiences) เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ในยุคดิจิตัล ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงการบริการและเครื่องมือส่งเสริมการขายต่างๆภายใน ฮอนด้า วิง เซ็นเตอร์ ให้ตอบรับยุคดิจิตอลมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่สะดวกกว่า เร็วกว่า มั่นใจกว่า ให้แก่ผู้บริโภค นอกจากนั้นเรายังมุ่งมั่นพัฒนาเครือข่ายใหม่เพื่อส่งเสริมไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่แตกต่าง เริ่มจากการขยายสาขา Honda BigWing เพิ่มอีก 5 แห่ง รวมเป็น 24 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2017 รวมไปถึงมอบประสบการณ์การขับขี่เพื่อให้ผู้ใช้ได้เพิ่มความรู้และทักษะความปลอดภัยในการขับขี่กับ Honda Safety Riding Park และสร้างMotorsport Experience ของฮอนด้า ที่สร้างนักแข่งและทีมช่างไทยสู่การแข่งขันระดับโลก โดยปี 2017 นี้วางเป้าหมายสำหรับทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในการคว้าแชมป์รายการแข่งขัน Asia Road Racing Championship”

และกลยุทธ์สุดท้าย คือการแบ่งปันความสุขสู่สังคม ฮอนด้าได้ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมเป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจมาตลอด และเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุในประเทศไทย ฮอนด้าได้ริเริ่มโครงการสำรวจอุบัติเหตุเชิงลึก เป็นจำนวน 1,000 เคส ในระยะเวลา 4 ปี เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์และหลักสูตรการฝึกอบรมต่อไป สำหรับด้านสิ่งแวดล้อมที่ผ่านมาเราได้ร่วมกับเครือข่ายผู้จำหน่ายฯ ดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการ Green Dealer ซึ่งปีนี้เราตั้งเป้ายกระดับให้ลูกค้าได้รับรู้และเชิญชวนเข้าร่วมโครงการบริหารจัดการของเสียที่ Honda Wing Center ให้เพิ่มขึ้น

สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปี 2017 คาดการณ์ว่าตลาดรถจักรยานยนต์เติบโตรวมจะมีปริมาณ 1.75 ล้านคัน โดยฮอนด้าตั้งเป้าหมายการจำหน่านที่ 1.38 ล้านคัน ในส่วนของตลาดรถบิ๊กไบค์น่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องคาดการณ์ที่ 27,000 คัน โดยฮอนด้าตั้งเป้าหมายไว้ที่ 10,800 คัน
พร้อมกันนี้ เอ.พี. ฮอนด้า ยังได้เปิดตัว Honda Rebel 300 รถคัสต้อมบ็อบเบอร์ดีไซน์ ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Express Yourself เป็นตัวเอง…ให้ที่สุด” ดีไซน์โดดเด่นสะดุดตาด้วยโครงสร้างแบบมินิมอลโชว์ให้เห็นความดุดัน ขับขี่สบายด้วยเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ขนาด 300ซีซี เตรียมวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศด้วยราคาแนะนำโดยประมาณที่ 145,000 บาท

พิเศษสุดในช่วงเปิดตัวฮอนด้าได้จัด Honda Rebel 300 รุ่นแต่งพิเศษ Rebel Raw Edition Red และ Honda Raw Edition Black ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คัน ด้วยราคาแนะนำโดยประมาณที่ 154,200 บาทและ 162,200 บาทตามลำดับ ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.aphonda.co.th และติดตามกิจกรรมต่างๆของเอ.พี. ฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊ค www.facebook.com/hondamotorcyclethailand.com

เผยแนวคิด “MOTOR EXPO 2017” “ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง”



เผยแนวคิด “MOTOR EXPO 2017”
“ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง”
“IMC-สื่อสากล” แถลงแนวคิดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” จุดประกายให้ผู้ผลิต จัดแสดงยานยนต์ที่มีคุณสมบัติสมบูรณ์แบบทุกด้าน ซึ่งเป็นจริงแล้วในปัจจุบัน

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34" เปิดเผยถึงความเป็นมาของแนวคิดปีนี้ว่า “ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ความฝันของผู้ผลิตและผู้บริโภคถึงยานยนต์ที่มีคุณสมบัติสมบูรณ์พร้อมไม่อาจเป็นจริงด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยีที่ยังไม่ก้าวหน้าเพียงพอ เช่น เราไม่สามารถผลิตเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูง แต่ประหยัดเชื้อเพลิง หรือสร้างสรรค์ช่วงล่างที่เกาะถนนทรงตัวดีเยี่ยม แต่ให้ความรู้สึกนิ่มนวลแก่ผู้โดยสาร ตลอดจนไม่สามารถแก้ปัญหามลพิษจากไอเสียที่ปล่อยออกมา รวมถึงป้องกันอุบัติเหตุอันเกิดจากความบกพร่องและความประมาทของผู้ขับ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความพยายามอย่างแข็งขันของวิศวกร ประกอบกับเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ทำให้ยานยนต์ยุคใหม่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ฝันไว้ทุกประการ นั่นคือ เป็นยานยนต์ที่ทั้งแรง ประหยัด สะดวกสบาย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ความฝันถึงยานยนต์ที่มีคุณสมบัติหลากหลายในหนึ่งเดียว นำไปสู่การพัฒนาอันน่าทึ่งหลายประการ เช่น การใช้วัสดุที่แข็งแรง ทนทาน ไม่แพ้เหล็กกล้า แต่มีน้ำหนักเบากว่า เช่น อลูมิเนียม และพลาสติคคุณภาพสูงมาผลิตโครงสร้าง และตัวถัง การผลิตเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลง แต่ให้กำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ การนำมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ขับเคลื่อนร่วมกับเครื่องยนต์ ที่เรียกว่าระบบไฮบริด รวมถึงการขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ทั้งแบบที่ใช้แบทเตอรี เป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้า และแบบที่ใช้ไฮโดรเจน หรือเซลส์เชื้อเพลิง ซึ่งทำให้ปลอดมลพิษโดยสมบูรณ์

ขณะเดียวกัน ระบบรองรับ และระบบความปลอดภัย ทั้งเชิงป้องกัน และเชิงแก้ไข ก็มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมมาก โดยการนำระบบเซนเซอร์ และระบบสั่งการอัตโนมัติมาเสริม ช่วยให้นั่งสบาย และลดการเกิดอุบัติเหตุอย่างได้ผล ในทุกระดับความเร็ว และทุกสภาพเส้นทาง

นอกจากนี้ ห้องโดยสารเต็มไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ ภายในรถ เพื่อรับทราบข้อมูล และควบคุมผ่านการสั่งการด้วยเสียงและการสัมผัส รวมทั้งยังเชื่อมต่อสื่อสารกับโลกภายนอก ซึ่งเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ยุคยานยนต์อัตโนมัติ หรือยานยนต์ไร้คนขับในอนาคตอันใกล้

คุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมา ล้วนเคยเป็นเพียงฝันไกล ที่ไม่มีทางเป็นไปไม่ได้ ในความคิดของคนยุคก่อน แต่ได้ปรากฏเป็นจริงแล้วในยานยนต์ยุคปัจจุบัน และจะล้ำหน้ายิ่งขึ้นในยุคต่อๆ ไป

ด้วยเหตุนี้ เราจึงกำหนดคำขวัญซึ่งเป็นแนวคิดของงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” ว่า “ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง” หรือ “New Age Vehicles … A Distant Dream Come True” เพื่อให้ผู้บริโภคได้ชมยานยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติที่พวกเขาเคยฝันไว้ และเพื่อยืนยันว่า ทุกความฝันเป็นจริงได้ในโลกยานยนต์”

พบกับงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” ณ อาคาร CHALLENGERIMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคม 2560 และสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.motorexpo.co.th

โรลส์-รอยซ์ บีสโป๊ก แฟนธอม รุ่นฐานล้อยาว ที่แพงที่สุด 2 คัน ใช้ทองคำในการตกแต่งให้กับโรงแรม THE 13 ที่มาเก๊า



โรลส์-รอยซ์ บีสโป๊ก แฟนธอม รุ่นฐานล้อยาว ที่แพงที่สุด 2 คัน
ใช้ทองคำในการตกแต่งให้กับโรงแรม THE 13 ที่มาเก๊า 


24 มกราคม 2560 – กู้ดวูด 

สืบเนื่องจากที่มร. สตีเฟน ฮุง ประธานบริหารร่วม บริษัท เดอะ 13 โฮลดิ้ง จำกัด ได้สั่งผลิตยนตรกรรม      โรลส์-รอยซ์ แฟนธอม รุ่นฐานล้อยาว จำนวน 30 คัน โดยมี 2 คันที่ตกแต่งด้วยสีผสมทองคำนั้น ขณะนี้      ยนตรกรรมที่สร้างสรรค์ผ่านบริการสั่งทำพิเศษ (บีสโป๊ก) ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ และแนวคิดการออกแบบของเขาและของโรงแรม พร้อมรับรองแขกพิเศษของโรงแรม THE 13 ในมาเก๊า  

แขกพิเศษของโรงแรมเท่านั้นที่จะได้รับการรับรองโดยยนตรกรรมหรูที่สร้างสรรค์โดยมร. ฮุง ผ่านบริการบีสโป๊ก เพื่อมอบประสบการณ์แห่งความหรูหรา สะดวกสบายและง่ายดายในแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์  ยนตรกรรมหรูนี้มีความโดดเด่นและง่ายต่อการจดจำ ด้วยการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในด้วยทองคำ 24 เค จึงทำให้         ยนตรกรรมทั้ง 2 คันเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมของคอลเล็กชั่นนี้ และยังเป็นโรลส์-รอยซ์ที่มีราคาสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมานับจาก ณ เวลาที่สั่งผลิต  

มร.ฮุง ตัดสินใจเลือกโรลส์-รอยซ์ เพราะทราบดีว่าทีมงานและช่างฝีมือของโรลส์-รอยซ์นั้นจะสามารถถ่ายทอดจินตนาการและความปรารถนาของเขาออกมาได้อย่างไร้ที่ติ  ความใส่ใจในเรื่องของเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลและในรายละเอียด สามารถเห็นได้จากสีภายนอกของรถ ที่มีส่วนผสมของทองคำ 23.75 เค ซึ่งเป็นน้ำหนักที่พอเหมาะเพื่อให้ทองคำถูกเกลี่ยผสมได้อย่างทั่วถึง ผลลัพท์ที่ได้คือ สีภายนอกที่ราคาสูงที่สุดและใช้เทคนิคในการผสมสีอย่างพิถีพิถันมากที่สุดเท่าที่เคยทำมา ซึ่งนับว่าเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับผู้เชี่ยวชาญของเราที่บ้านของโรลส์-รอยซ์ที่กู้ดวูด 

มร. ไจล์ส เทย์เลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด กล่าวว่า “ยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ถูกสั่งผลิตขึ้นเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงรสนิยม ความปรารถนา และไลฟสไตล์ของลูกค้า และเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงทักษะด้านงานหัตถศิลป์ของโรลส์-รอยซ์อันยอดเยี่ยมที่ส่งผ่านในผลงานยนตรกรรมหรู  และนี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราต้องเผชิญกับความท้าทายในเรื่องเทคนิคการออกแบบ แต่ในที่สุดเราสามารถทำได้สำเร็จอย่างงดงาม”    

ศูนย์ตกแต่งและทำสีที่บ้านของโรลส์-รอยซ์ในกู้ดวูด ได้ติดตั้งเครื่องมือเฉพาะทางเครื่องใหม่เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดความเสียหายในขณะที่มีการพ่นสีของยนตรกรรมทั้ง 2 คัน ซึ่งในการพ่นสีนั้นได้ใช้สีมากกว่าปกติที่ใช้ในโรลส์-รอยซ์ แฟนธอมถึง 250% ด้วยการพ่นถึง 10 ชั้น โดยชั้นหนึ่งจะมีส่วนผสมของทองคำปริมาณ            40 ไมครอน แก้ว และอลูมิเนียมเพื่อให้สีมีความวาวสะดุดตา  

“มีเพียงที่บ้านของโรลส์-รอยซ์ที่ทีมงานทั้งหมดจะช่วยกันระดมสมองในการสร้างสรรค์ผลงานประหนึ่งว่าทีมงานทุกคนคือเจ้าของยนตรกรรม พวกเรายอมรับผลงานที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน การผสมสีใช้ความพยายามถึง 8 ครั้งกว่าจะได้เฉดสีที่ใช่ตามต้องการ และเลข 8 ยังเป็นเลขมงคลของมาเก๊าบ้านของโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม 2 คันนี้อีกด้วย” มร. นิค กีแฮน ผู้ชำนาญด้านวัสดุศาสตร์ บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด กล่าว

สัญลักษณ์ สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี ชุบทองคำ 24 เค ประดับโดดเด่นอยู่บนกระจังหน้าและป้ายโลโก้ RR สีทองที่ทำจากทองคำ 18 เคในปริมาณ 97.1 กรัม ก่อนที่จะชุบด้วยทองคำ 24 เคอีกครั้ง เพื่อให้เข้ากับห้องโดยสารที่ใช้สีทองในการตกแต่ง   ส่วนป้ายโลโก้ RR บนกระจังหน้านั้นอักษร RR ทำมาจากพอร์ซเลนเคลือบชั้นดี ล้อมรอบด้วยเพชรน้ำงามจำนวน 336 เม็ด  ในส่วนของเส้นคู่โคชไลน์รังสรรค์ขึ้นจากการวาดด้วยมือของมร.มาร์ค คอร์ท ผู้เชี่ยวชาญด้านการวาดเส้นโคชไลน์ โดยใช้พู่กันขนกระรอกในการวาด  

ภายในบานประตูเป็นที่เก็บร่มโรลส์-รอยซ์ที่มีชื่อเสียง และได้ถูกรังสรรค์ขึ้นเฉพาะโดยมีด้ามร่มสีทอง เข้ากับตัวร่มขอบทอง เพื่อให้เป็นไปในแนวการตกแต่งเดียวกับของโรงแรม อีกทั้ง ยังตกแต่งกาบบันได้ด้วยป้ายแกะสลักเขียนว่า “‘PHANTOM Specially Commissioned by Stephen Hung’ เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้กับผู้โดยสารว่ายนตรกรรมหรูคันนี้เป็นการสั่งผลิตขึ้นพิเศษโดยมร. สตีเฟน ฮุง   

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการจารึกประวัติศาสตร์เหตุการณ์สำคัญของโรงแรม THE 13 ผ่านยนตรกรรมหรูแฟนธอมทั้ง 2 คัน การตกแต่งภายในด้วยหลังคาสตาร์ไลท์ ช่วยจำลองบรรยากาศท้องฟ้ายามค่ำคืนของวันที่มีการวางศิลาฤกษ์ในการก่อสร้างโรงแรม ด้ายทองถูกถักทอด้วยมือได้เรียงร้อยเป็นท้องฟ้า และกลุ่มดาวที่ปรากฏในค่ำคืนนั้น พร้อมด้วยป้ายทองคำสลักรายละเอียดของวันเดือนปีและสถานที่ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงสถานที่ตั้งของโรงแรมหรูแห่งใหม่ในมาเก๊า  

บริเวณทางเข้าของโรงแรมที่โอ่อ่าสะท้อนถึงภายในห้องโดยสารของยนตรกรรมแฟนธอมทั้ง 2 คันนี้ได้เป็นอย่างดี เมื่อก้าวขึ้นโรลส์-รอยซ์แฟนธอม รุ่นฐานล้อยาว แขกจะได้พบกับเบาะที่นั่งลายหมากรุกขาว-ดำที่เป็นลายเดียวกับพื้นหินอ่อนบริเวณทางเข้าของโรงแรม  ด้วยฝีมือด้านงานหัตถศิลป์อันยอดเยี่ยมของทีมช่าง         โรลส์-รอยซ์ที่มีประสบการณ์ในการทำอานม้า จึงสามารถสร้างสรรค์เบาะที่นั่งบุด้วยหนังทอมือสีขาว-ดำที่งดงามเพิ่มความมีมิติให้กับห้องโดยสาร  หนังเย็บขอบเบาะสีทองประกายมุกช่วยมอบประสบการณ์การเดินทางอันเพลิดเพลินในมาเก๊าให้แก่ผู้โดยสาร     

การออกแบบยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ทุกคันได้รับการใส่ใจในทุกรายละเอียด รวมถึงการออกแบบแผงหน้าปัดและนาฬิกาที่มาในสีแดงและทองเข้ากับโรงแรม THE 13 ตัวเรือนนาฬิกาเป็นผลงานจากการร่วมงานกับ Graff ร้านเครื่องประดับหรูชื่อดังของอังกฤษ  

ยนตรกรรมแฟนธอมบีสโป๊กทั้ง 30 คันเพื่อโรงแรม THE 13 นี้ ถือว่าเป็นการสั่งซื้อภายในครั้งเดียวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโรลส์-รอยซ์ที่เคยมีมา

มาสด้าเปิดตัว มาสด้า3 ใหม่ ใส่เทคโนโลยีใหม่ล้นคัน เติมเต็มความสมบูรณ์แบบ สร้างมาตรฐานใหม่ตลาดรถเก๋ง



มาสด้าเปิดตัว มาสด้า3 ใหม่ ใส่เทคโนโลยีใหม่ล้นคัน เติมเต็มความสมบูรณ์แบบ สร้างมาตรฐานใหม่ตลาดรถเก๋ง

มาสด้า3 ใหม่ เหนือชั้นด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมด้วยเทคโนโลยีใหม่ อัดแน่นด้วยความล้ำสมัยระดับโลก เทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ครั้งแรกที่ผสานการทำงานของรถเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เตรียมใส่ในรถมาสด้าทุกรุ่นหลังจากนี้

กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 24 มกราคม 2560 – มาสด้าเปิดตัวแนะนำมาสด้า3 รุ่นปรับโฉมใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์การออกแบบใหม่ล่าสุด “โคโดะ ดีไซน์ เจนเนอเรชั่นใหม่” ที่สะท้อนถึงพลังของจิตวิญญาณที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเคลื่อนไหวอันสวยงามมากยิ่งขึ้น ผนวกกับวิวัฒนาการที่ก้าวไปอีกขั้นของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ เป็นครั้งแรกที่มาสด้าใส่ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ซึ่งจะส่งผลทำให้มาสด้า3 โดดเด่นเหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน พบกับมาสด้า3 ใหม่ มาพร้อมคอนเซ็ปต์สุดล้ำ “BEYOND IMAGINATION ความสมบูรณ์แบบ...ไม่ใช่แค่จินตนาการ” เติมเต็มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้นคัน ลูกค้าสามารถจองและรับรถได้ทันที ทุกรุ่น ทุกสี ทุกโชว์รูมทั่วประเทศ

มาสด้า3 ใหม่ เหนือชั้นกว่า เติมเต็มความสมบูรณ์แบบของรถยนต์นั่งขนาดกลางในเมืองไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่ยังคงความแรงและประหยัดน้ำมัน ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ผนวกกับรูปลักษณ์อันงดงามภายใต้การออกแบบของ โคโดะ ดีไซน์ รวมถึงเทคโนโลยีการเชื่อมต่อโลกการสื่อสารด้วย MZD CONNECT พร้อมหน้าจอดีไซน์ใหม่ และระบบความปลอดภัยระดับโลก i-ACTIVSENSE ที่ครบครันยิ่งขึ้น เพิ่มเติมความพรีเมียม และฟังชั่นก์การใช้งานให้ลงตัวยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้าผู้นำเทรนด์ มีไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น หลงใหลในเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมยึดบัลลังก์ผู้นำด้านเทคโนโลยีแห่งอนาคตในรถยนต์นั่งขนาดกลาง

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้า3 ถือเป็นรถยนต์รุ่นหลักของมาสด้ามาตลอดทั้งในประเทศไทยและในระดับโลก เพราะรถรุ่นนี้มียอดขายทั่วโลกไปแล้วกว่า 5 ล้านคัน และในประเทศไทย มาสด้า3 ถือเป็นรุ่นหลักสำคัญของเราเสมอมาด้วยยอดขายกว่า 62,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ ปี 2547 การเปิดตัวมาสด้า3 รุ่นปรับโฉมใหม่ในวันนี้ คืออีกหนึ่งในความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของเราชาวมาสด้า ที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จทางด้านยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งปีนี้มาสด้าตั้งไว้สูงถึง 50,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 18% การแนะนำมาสด้า3 จะเข้ามาเติมเต็มในเซ็กเม้นต์ที่สำคัญ คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า เฉพาะมาสด้า3 เราตั้งเป้ายอดขายรุ่นนี้ไว้สูงถึง 5,500 คันต่อปี เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 33% ที่สำคัญจะเป็นโมเดลหลักที่จะทำให้มาสด้าสามารถครองอันดับ 3 อย่างถาวรในตลาดรถยนต์นั่งแบบไร้คู่แข่ง และขยับเข้าใกล้กับอันดับสองได้มากที่สุด

การปรับโฉมใหม่ของมาสด้า3 ในประเทศไทยในวันนี้ มาสด้าวางตำแหน่งการเข้าสู่ตลาดในกลุ่ม C-segment ระดับพรีเมียมเทียบเท่ากับคู่แข่งรถยนต์จากค่ายยุโรป ซึ่งมาสด้ากำลังจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์นั่งของประเทศไทย เนื่องจากเต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟอย่างเต็มรูปแบบ ที่ให้ทั้งในเรื่องสมรรถนะขับขี่ การประหยัดน้ำมัน สมบูรณ์แบบด้วย i-ACTIVSENSE ความปลอดภัยระดับโลกที่เพียบพร้อมกว่าเดิม ระบบ MZD CONNECT เวอร์ชั่นใหม่ ที่จะเชื่อมโยงเครือข่ายการสื่อสารในโลกปัจจุบัน

“ผมมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าวันนี้มาสด้าได้ยืนยันถึงแนวทางที่ชัดเจนเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในโลก และมาสด้าประเทศไทยกำลังผลักดันรถยนต์รุ่นอื่นๆ ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ GVC เพื่อลูกค้าชาวไทยได้เป็นเจ้าของในอีกหลากหลายรุ่น” นายชาญชัย กล่าวเสริม

ทางด้านผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ กล่าวถึงการวางกลยุทธ์ด้านการตลาดที่จะทำให้มาสด้า3 ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับทุกรุ่นที่ผ่านมาว่า “มาสด้า3 รุ่นปรับโฉมใหม่ มาพร้อมแนวคิด “BEYOND IMAGINATION ความสมบูรณ์แบบ...ไม่ใช่แค่จินตนาการ” โดยจุดขายของมาสด้า3 ใหม่นี้คือ เป็นรถที่มีความสมบูรณ์แบบรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์โดดเด่น เทคโนโลยีที่ทันสมัยใหม่ล่าสุด และสมรรถนะดีที่สุดเทียบเท่ารถยุโรป สมกับที่เป็น “Statement of Driving” มาสด้ามุ่งหวังเจาะกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่ม “Sophisticated Progressive Mind” คือเป็นคนวัยทำงานอายุ 30 ปีขึ้นไป ทันสมัย เป็นผู้นำเทรนด์ และมีไลฟ์สไตล์ในแบบฉบับของตัวเองไม่เหมือนใคร รวมไปถึงมีความชื่นชอบและสนใจนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ”

“การเปิดตัวมาสด้า3 รุ่นปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้ นอกเหนือจากจะมาพร้อมอีกขั้นของความหรูหราแล้ว มาสด้า3 ใหม่ยังเปิดตัวมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากมาสด้า นั่นคือ SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ที่มาพร้อม G-VECTORING CONTROL ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ หรือ GVC ที่จะช่วยให้การทรงตัวของรถเป็นไปอย่างนิ่มนวล ส่งผลให้เกิดการยึดเกาะถนนดียิ่งขึ้น เพิ่มความปลอดภัยและความสบายในทุกสภาวะการขับขี่ โดยเทคโนโลยี GVC ภายใต้ SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS สำหรับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากมาสด้านี้จะถูกส่งต่อคุณค่าไปสู่รถมาสด้ารุ่นใหม่ทุกรุ่นนับจากนี้เป็นต้นไป” นายธีร์ กล่าวเพิ่มเติม

ราคาจำหน่าย

สำหรับมาสด้า3 ใหม่ ได้มีการเพิ่มรุ่นย่อยของซีดาน 4 ประตู ขึ้นมาอีก 1 รุ่น คือ รุ่น 2.0 SP ที่อัดแน่นด้วยอุปกรณ์มาตรฐานเทียบเท่าแบบ 5 ประตู รุ่น 2.0 SP Sports ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ชื่อชอบรถสไตล์ซีดาน 4 ประตู เต็มเปี่ยมไปด้วยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม และเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงอย่างครบครัน และในทุกรุ่นย่อยจะมีอุปกรณ์มาตรฐานที่ถูกติดตั้งเพิ่มเติม จึงทำให้มาสด้า3 ใหม่ เป็นรถที่ตอบโจทย์ความต้องการได้มากที่สุด โดยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 847,000 บาท

สมรรถนะที่สมบูรณ์แบบ

เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากมาสด้า SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ซึ่งถูกนำมาใส่ในมาสด้า3 ใหม่ เป็นรุ่นแรก พร้อมที่จะสร้างประสบการณ์ขับขี่ที่สนุกสนาน เร้าใจ รวมถึงการสัมผัสกับความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างคนและรถได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบ G-VECTORING CONTROL ซึ่งเป็นระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ หรือ GVC แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นรถสปอร์ต ผสานกับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ที่ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน โดยมีอัตราส่วนการอัดสูงที่สุด 14.0:1 ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.6 กม./ลิตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ที่ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ

รูปลักษณ์ใหม่เพิ่มความหรูหราพรีเมียม

ปรับปรุงดีไซน์ใหม่ ภายนอกให้ความเป็นสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้า กันชนหน้า ไฟตัดหมอก ที่ถูกดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light ดีไซน์ใหม่ รวมไปถึงไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ และกันชนท้ายดีไซน์ใหม่ในรุ่น 5 ประตู สีภายนอกมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 7 สี คือ สีแดง โซล เรด, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช, สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิค และเพิ่มเติม 3 สีใหม่ คือ สีดำ เจ็ท แบล็ก, สีเทา เมทิเออ เกรย์ ไมก้า และสีน้ำเงิน อีเทอนอล บลู

ภายในสปอร์ตพรีเมียมมากกว่าเดิม

อุปกรณ์ตกแต่งภายในเพิ่มความเป็นรถสปอร์ตพรีเมียม โดยเลือกใช้สีแบบทูโทนภายในห้องโดยสาร โดดเด่นด้วยเบาะหนังทูโทน น้ำตาล-ดำ หรูหรายิ่งขึ้นกับแผงประตูที่เพิ่มวัสดุสีเงิน สีดำวาว Piano Black และคอนโซล พวงมาลัย มาตรวัดความเร็ว ในดีไซน์รูปแบบใหม่ อีกทั้งจอ Active Driving Display เปลี่ยนเป็นแบบสีเพื่อการแสดงข้อมูลที่ชัดเจน

ความสะดวกสบายด้วยอุปกรณ์มาตรฐานของการขับขี่ที่ครบครันมากขึ้น


สะดวกยิ่งขึ้นด้วยจอ Center Display ดีไซน์ใหม่แบบ Touch Screen ขนาด 7 นิ้ว และเพิ่มระบบเบรคมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)

เทคโนโลยีความปลอดภัยที่เหนือชั้นด้วย i-ACTIVSENSEที่ครบครัน และดีที่สุดของมาสด้าในระดับโลก

ล้ำสมัยที่สุดในคลาสจากการเพิ่มฟังชั่นก์ความปลอดภัยใหม่ ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ประกอบด้วย

ALH (Adaptive LED Headlamps) ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำ

แยกอิสระซ้าย-ขวา

MRCC (Mazda Radar Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมปรับระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า

SBS (Smart Brake Support) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ

DAA (Driver Attention Alert) ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่

LAS (Lane-Keep Assist System) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน

LDWS (Lane Departure Warning System) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน

SCBS (Smart City Brake Support) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ

SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง

ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน

RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง

ความปลอดภัยเชิงปกป้องเมื่อเกิดเหตุ (Passive Safety) ด้วยระบบ ESS (EMERGENCY SIGNAL SYSTEM) สัญญาณไฟกระพริบเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกรถอย่างกระทันในภาวะฉุกเฉิน เพื่อส่งสัญญาณเตือนรถคันหลังให้ลดความเร็วลง และเมื่อผู้ขับขี่เอาเท้าออกจากแป้นเบรก สัญญาณไฟเตือนฉุกเฉินจะดับลงโดยอัตโนมัติ หากผู้ขับขี่เหยียบเบรกอย่างกะทันหันจนกระทั่งรถหยุดนิ่ง สัญญาณไฟเตือนฉุกเฉินจะยังคงกระพริบเตือนรถคันหลังให้ระวัง และลดความเร็ว

นอกจากนี้ยังมี ABS ทั้ง 4 ล้อ พร้อม EBD ที่ช่วยกระจายแรงเบรก, ถุงลงนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย, DSC (Dynamic Stability Control) ช่วยควบคุมเสถียรภาพ และการทรงตัวของรถ, HLA (Hill Launch Assist) ช่วยในการออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน และ TCS (Traction Control System) ช่วยป้องกันรถเลื่อนไถล จากองค์ประกอบที่กล่าวมาทั้งสิ้น สัมผัสได้ถึงการให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงผู้ร่วมจราจรบนท้องถนน ที่มาสด้าพยายามคิดค้น และเติมเต็มความปลอดภัยให้ครอบคลุมมากที่สุดด้วยเทคโนโลยีจากมาสด้า

เทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารที่เหนือชั้นด้วย MZD CONNECT ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับ ให้ผู้ขับขี่ไม่พลาดการติดต่อสื่อสาร เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์แม้ขณะอยู่ในรถ ระบบความบันเทิงในรถ และการเชื่อมต่อกับโลกโซเชียล ค้นหาข้อมูลได้แม้ในขณะเดินทาง พร้อมทะยานสู่ความสำเร็จได้ทุกเวลา ระบบนำทางผ่านจอ Touch Screen ขนาด 7” เพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นได้อย่างสะดวกสบาย

นี่คือรถยนต์นั่งมาสด้า3 รุ่นปรับโฉมใหม่ ที่เต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำอนาคต ที่กำลังจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์เมืองไทย สนใจจองและเป็นเจ้งของได้แล้วันนี้ทุกโชว์รูมมาสด้าทั้ง 147 แห่ง ทั่วประเทศ พร้อมรับฟรีประกันภัยชั้น 1 ที่สำคัญลูกค้าสามารถรับรถได้ทันที ทุกรุ่น ทุกสี พร้อมกันนี้ลูกค้าที่จองและออกรถก่อนวันที่ 31 มกราคมนี้ รับนาฬิกาข้อมือสุดเท่จากมาสด้ามูลค่า 5,000 บาท มีจำนวนจำกัดเพียง 300 เรือนเท่านั้น
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved