Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

มาสด้าเขย่าตลาดเก๋งเล็กยกมาตรฐานซับคอมแพ็คคาร์ ใส่เทคโนโลยีเต็มคัน ดึงนาย ณภัทร เป็นพรีเซนเตอร์



มาสด้าเขย่าตลาดเก๋งเล็กยกมาตรฐานซับคอมแพ็คคาร์
ใส่เทคโนโลยีเต็มคัน ดึงนาย ณภัทร เป็นพรีเซนเตอร์


กรุงเทพฯ – ประเทศไทย - 15 กุมภาพันธ์ 2560, บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าสร้างความคึกคักให้กับตลาดรถยนต์เมืองไทยกลับมาร้อนระอุอีกครั้ง โหมกระหน่ำเปิดตัวรถรุ่นใหม่ต่อเนื่อง 2 รุ่นรวด หลังจากส่งมาสด้า3ใหม่ ลงสู่ตลาดและกำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ ก็ถึงเวลาส่งสปอร์ตตัวจี๊ดที่เตรียมออกมาบุกตลาดเก๋งเล็ก เปิดตัวแนะนำรถยนต์นั่งมาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่ ปี 2017 ด้วยพิธีการเปิดตัวรูปแบบใหม่สุดอลังการ ที่พร้อมสั่นสะเทือนทุกความเชื่อ และสร้างคุณค่าใหม่ๆ ที่เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด “THE NEXT LEVEL OF EXCITEMENT” ดึงดารานักแสดงที่กำลังโด่งดัง ณภัทร เสียงสมบุญ มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ที่มาพร้อมกับระบบ G-VECTORING CONTROL อันเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของเทคโนโลยีด้านการควบคุมการขับขี่ พร้อมใส่อุปกรณ์มาตรฐานเต็มคัน ปรับราคาขึ้นเริ่มต้น 1,000 บาท เพิ่มความคุ้มค่า

การเปิดตัวแนะนำรถยนต์นั่งมาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่ในวันนี้ ถือเป็นการเปิดตัวรถยนต์ในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศไทย ภายในงานเป็นการจัดแสดงในรูปแบบการเปิดตัวผสมผสานกับคอนเสิร์ตแบบเต็มวงมาเป็นลีดในการนำเข้าสู่การเปิดตัว โดยเริ่มต้นด้วยดนตรีแนวเพลงป็อบเบาๆ จาก แพรว คณิตกุล มาสร้างบรรยากาศเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาแฟนคลับได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าความสนุกสนาน ความตื่นเต้น ความเร้าใจยังไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้ ช่วงไฮไลท์สำคัญมาสด้าได้เปิดตัวแนะนำแบรนด์แอมบาสเดอร์ ณภัทร เสียงสมบุญ หรือ “นาย” นักแสดง ดารา นายแบบ คนรุ่นใหม่ มากความสามารถ และกำลังร้อนแรงในวงการบันเทิงเมืองไทย ที่ออกมาพร้อมกับการขับรถ New Mazda2 มาบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์ในช่วง 1 ปี ที่ใช้ชีวิตกับรถยนต์คันนี้ในการเดินทาง และการทำงานในฐานะเป็นพรีเซนเตอร์ของมาสด้า ต่อจากนั้นเป็นการเซอร์ไพรส์ครั้งสำคัญบนเวทีคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกกับวงร็อคอันดับหนึ่งของเมืองไทย Bodyslam ที่มาสร้างความฮือฮาให้กบสาวกขาร็อคได้สนุกสนานกันอย่างเต็มอิ่ม

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าตลาดรถยนต์ในปีที่ผ่านมาจะไม่มีการเติบโตมากนัก โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้นกว่า 767,798 คัน ลดลงเล็กน้อยประมาณ 4% แต่ในปีนี้คาดว่าตลาดรถยนต์จะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดตัวรถยนต์รถใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด ซึ่งในปีที่ผ่านมาจะเห็นว่ารถยนต์ในแต่ละเซ็กเม้นมีอัตราการเติบโตน้อยมาก โดยตลาดรถปิกอัพเป็นตลาดเดียวที่มีการเติบโต โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 333,415 คัน เพิ่มขึ้นเพียง 2% ส่วนตลาดรองลงมาคือรถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือบี-คาร์ที่รวมกับอีโคคาร์ มีจำนวนทั้งสิ้น 192,518 คัน ลดลง 11% และตลาดรถอเนกประสงค์มีจำนวนทั้งสิ้น 111,481 คัน ลดลง 11% จะเห็นได้ว่าทั้ง 3 เซกเม้นต์นี้ มีปริมาณยอดขายรวมกันสูงมาก การเปิดตัวมาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่ในวันนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กกลับมาคึกคักอีกครั้จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กกลับมาคึกคักอีกครั้ง



“สิ่งสำคัญที่จะทำให้มาสด้าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้คือ การเปิดตัวมาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้ จะทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้น เพราะถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ซึ่งจะเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคจากความเชื่อแบบเดิมๆ ไปจนหมดสิ้น โดยเฉพาะการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนมาใส่ในรถยนต์นั่งขนาดเล็ก อาทิ เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ-วีฮิเคิล ไดนามิกส์ และเทคโนโลยี i-ACTIVSENE ให้ความนุ่มนวลและเกาะถนนมากยิ่งขึ้นควบคุมทุกการเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ ทำให้มาสด้า2 คือรถยนต์ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานในสไตล์ของมาสด้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามาสด้า2 จะเข้ามาเติมเต็มชีวิตของลูกค้าชาวไทย” นายชาญชัย กล่าวเสริม

มาสด้า2 ถือเป็นรถยนต์รุ่นหลักของมาสด้าในประเทศไทยมาตลอด เพราะรถรุ่นนี้มียอดขายในประเทศไทยมากกว่า 165,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2552 โดยมียอดขายสูงถึง 121,000 คัน และรุ่นเจนเนอเรชั่นปัจจุบันที่ใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ เปิดตัวเมื่อปี 2558 มียอดขายสูงถึง 44,000 การเปิดตัวมาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่ในวันนี้ คืออีกหนึ่งในความสำคัญที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จทางด้านยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งในปีนี้มาสด้าวางเป้ายอดขายไว้สูงถึง 50,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 18% การแนะนำมาสด้า2 จะเข้ามาเติมเต็มในเซกเมนต์ที่สำคัญ แน่นอนว่าหลังการเปิดตัวมาสด้า3 เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่มาสด้าจับใส่เทคโนโลยีใหม่เข้าไปได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากลูกค้า และต่อยอดด้วยการนำเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาใส่ในมาสด้า2 คาดว่าจะทำให้มาสด้า2 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าเช่นเดียวกัน โดยมาสด้าตั้งเป้ายอดขายรถรุ่นนี้ไว้สูงถึง 27,000 คันต่อปี เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 16% ต้องจับตาดูชนิดที่ว่าอย่ากระพริบตาเพราะเริ่มต้นปีมามาสด้าก็โหมกระหน่ำอย่างตอเนื่อง

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด กล่าวว่า การเปิดตัวแนะนำมาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นการฉีกรูปแบบการเปิดตัวรถยนต์แบบเดิมๆ โดยสิ้นเชิง เพราะมาสด้าเป็น แบรนด์ที่มีความแตกต่าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ตามใคร สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาทุกท่านในวันนี้ คือ การเนรมิตรูปแบบการเปิดตัวที่แตกต่าง เพื่อตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามาสด้า เพื่อให้ลูกค้าได้เร้าใจกับทุกเส้นทางที่เป็นตัวของตัวเองอย่างไร้ข้อจำกัด ซึ่งคาเรคเตอร์ของลูกค้ามาสด้า2 นั้นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะให้ความสำคัญกับสุนทรียภาพทางด้านงานศิลปะ ควบคู่ไปกับการมองหาเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยและความคุ้มค่า ชอบสิ่งที่ร่วมสมัย เป็นผู้นำเทรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ ตามเทรนด์โลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คอยมองหาแรงบันดาลใจและความตื่นเต้นใหม่ๆ ไม่ยึดติดอยู่กับกรอบความคิดแบบเดิมๆ ดังนั้นการเปิดตัวในสไตล์ใหม่ๆ คือสิ่งที่มาสด้าตั้งใจนำมาให้ผู้บริโภคกับความเร้าใจที่สมบูรณ์แบบ


มาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่ ปี 2017 มาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟใหม่ล่าสุด ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน และธีมการออกแบบของรถมาสด้าเจเนอเรชั่นใหม่ โคโดะ ดีไซน์ ที่สวยงามเปรียบได้กับงานศิลปะ มาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคัน เครื่องยนต์เบนซินประสิทธิภาพสูงขนาด 1.3 ลิตร และเครื่องยนต์คลีนดีเซล ขนาด 1500 ซีซี เทอร์โบแปรผันอินเตอร์คูลเลอร์ ครั้งแรกของประเทศไทยที่มาสด้านำเอาเครื่องยนต์คลีนดีเซลขนาดคอมแพ็คเข้ามาใส่ไว้ในรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร ระบบเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด เทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก i-ACTIVSENSE เทคโนโลยีเชื่อมต่อกับโลกโซเชียลด้วย MZD CONNECT เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ระบบประหยัดพลังงานอัจฉริยะ i-ELOOP ทำงานควบคู่กับระบบ i-Stop และล่าสุดระบบ G-VECTORING CONTROL หรือระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ หนึ่งในชุดเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS นี่คือการสร้างมาตรฐานใหม่กับตลาดรถยนต์นั่งบี-คาร์และรถอีโคคาร์

SKYACTIV TECHNOLOGY เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ทั้งแรง ทั้งประหยัด นี่คือ นวัตกรรมทางวิศวกรรมยานยนต์ขั้นล้ำหน้าของมาสด้าที่พัฒนารถทั้งคันขึ้นมาใหม่ เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดของรถยนต์ในปัจจุบัน สู่ยนตรกรรมที่ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะแรงทรงพลังในหนึ่งเดียว ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของ New Gen ได้และให้ความสนุกเร้าใจได้อย่างแท้จริง

SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS อีกขั้นของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ครั้งแรกที่ผสานและควบคุมการทำงานของรถทั้งคัน ตั้งแต่เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ โครงสร้างตัวถัง ไปจนถึงช่วงล่าง ให้ทำงานสอดประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ขับสัมผัสได้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับรถมากขึ้น ในขณะที่ผู้โดยสารก็รู้สึกสบายตลอดการเดินทาง เพื่อมอบประสบการณ์ความสนุกในการขับขี่ตามแนวคิด จินบะ - อิไต (Jinba-Ittai) ของมาสด้า

SKYACTIV-D เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล เทคโนโลยีขั้นสูงที่ส่วนใหญ่มีอยู่ในรถยุโรปหรู ให้แรงบิดสูง ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1500cc พร้อมเทอร์โบแปรผันอินเตอร์คูลเลอร์ ให้อัตราเร่งด้วยแรงบิดสูงถึง 250 นิวตัน-เมตร พร้อมหัวฉีดโซลีนอยด์ ที่ฉีดน้ำมันได้แม่นยำ มีประสิทธิภาพและอัตราส่วนการอัดต่ำเพียง 14.8:1 เผาไหม้หมดจด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านมาตรฐานมลพิษ Euro 5 ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ต่ำเพียง 100 กรัม/กม.โดดเด่นที่สุดเรื่องการประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร* * ผลการทดสอบตามมาตรฐานยุโรป UN R101 Combine Mode

SKYACTIV-G 1.3 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1300cc เครื่องยนต์ เผาไหม้สมบูรณ์ที่สุดด้วยอัตราส่วนการอัดสูงถึง 12.0:1 ให้แรงม้าสูงถึง 93 แรงม้า และแรงบิดสูง 123 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร* ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ต่ำเพียง 100 กรัม/กม.* ผ่านมาตรฐานข้อบังคับมลพิษระดับ Euro 5 ของยุโรป * ผลการทดสอบตามมาตรฐานยุโรป UN R101 Combine Mode

SKYACTIV-DRIVE เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ รวมข้อดีของเกียร์อัตโนมัติทุกระบบไว้ด้วยกัน ควบคุมแบบอิเลคทรอนิกส์ ตอบสนองได้แม่นยำ เปลี่ยนเกียร์ราบรื่น ให้อัตราเร่งต่อเนื่อง และประหยัดน้ำมันในทุกรอบความเร็ว

DRIVE SELECTION สวิตซ์ Drive Selection** เลือกขับในโหมด Sport ได้เมื่อต้องการเร่งแซง ให้อัตราเร่งที่เพิ่มขึ้นในรอบเครื่องยนต์สูง สนุกเร้าใจเหมือนขับเกียร์ธรรมดา ** เฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน

SKYACTIV-BODY โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ โครงสร้างตัวถัง ผลิตจากเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High Tensile Steel) น้ำหนักเบา แต่เหนียวและแข็งแกร่งกว่า ช่วยลดแรงสะเทือนจากถนน และกระจายแรงปะทะที่เข้าสู่ห้องโดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

SKYACTIV-CHASSIS ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวสกายแอคทีฟ คล่องตัวกว่าที่เคย ด้วยระบบช่วงล่างที่เกาะถนนมั่นคง พร้อมระบบบังคับเลี้ยวที่ช่วยให้เข้าโค้งได้แม่นยำ ถือเป็นหนึ่งในระบบช่วงล่างที่ปลอดภัยและสมบูรณ์แบบที่สุดในปัจจุบัน

ระบบประหยัดพลังงานอัจฉริยะ i-ELOOP (Mazda Regenerative Braking System) ไอ-อีลูป นวัตกรรมของมาสด้าที่พัฒนาได้เทียบเท่าเทคโนโลยีรถยุโรประดับพรีเมียม โดยระบบจะเปลี่ยนพลังงานที่สูญเสียจากการลดความเร็วให้เป็นพลังงานไฟฟ้าและเก็บไว้ในอุปกรณ์เก็บประจุไฟฟ้า เพื่อนำไปใช้เลี้ยงระบบไฟฟ้าของอุปกรณ์ภายในรถ ซึ่งทำให้พลังงานจากเครื่องยนต์ถูกใช้ในการขับเคลื่อนของรถได้อย่างเต็มที่ ช่วยประหยัดพลังงานและน้ำมันเชื้อเพลิงลงได้ถึง 10%*** *** เมื่อใช้ร่วมกับระบบประหยัดน้ำมัน i-STOP

ระบบ i-STOP (Idling Stop System) ระบบประหยัดน้ำมันที่สั่งให้เครื่องยนต์หยุดการทำงานชั่วคราวเมื่อรถจอดนิ่ง ขณะที่อุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถยังคงทำงานตามปกติ ด้วยพลังงานไฟฟ้าจาก i-ELOOP ทั้ง สองระบบทำงานคู่กัน เพื่อประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเครื่องยนต์จะทำงานอัตโนมัติทันทีเมื่อรถพร้อมออกตัว

ระบบ i-ACTIVSENSE: Worry-free Excitement เส้นทางไหนก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ สนุกเร้าใจ... แบบไร้กังวล อีกขั้นของความปลอดภัย ให้คุณสนุกกับทุกความท้าทายได้เต็มที่ ครั้งแรก กับเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ในมาสด้า 2 ใหม่ ที่ช่วยเตือนเมื่อมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ ให้คุณมั่นใจและพุ่งทะยานไปกับทุกเส้นทางที่เป็นตัวเองได้ ไม่มีอะไรต้องกังวล

ระบบ MZD CONNECT: CONNECTIVITY AT YOUR FINGERTIPS การเดินทางจะไม่สามารถปิดกั้นจินตนาการ และไม่เป็นอุปสรรคกับการต่อติดโลกโซเชียลของคุณอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อออนไลน์ MZD CONNECT ในมาสด้า2 ใหม่ ที่สะดวกและครบทุกฟังก์ชั่นให้คุณเพลิดเพลินกับไลฟ์สไตล์ดิจิตอลบนรถทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย หรือรับ-ส่ง ข้อความ SMS จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth พร้อม Infotainment ที่มีให้เลือกมากมายในแอพพลิเคชั่น AHA by HARMANTM รวมถึงระบบนำทาง Navigator เพื่อนเดินทางที่พาคุณสู่จุดมุ่งหมายอย่างปลอดภัยและประหยัดเวลา **** สามารถติดตั้งเป็นอุปกรณ์เสริม

ระบบ ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ช่วยส่งสัญญาณเตือน หากตรวจพบรถในเลนด้านข้างที่กําลังแซงขึ้นมา และอยู่ในจุดที่ผู้ขับอาจมองไม่เห็น

ระบบ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถใน

จุดอับสายตาในขณะถอยหลัง ซึ่งจะส่งสัญญาณเสียงเตือน พร้อมไฟกะพริบเตือนที่กระจกมองข้างในขณะขับรถถอยหลัง หากตรวจพบความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุกับรถที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาด้านหลัง

THE NEXT LEVEL OF EXCITEMENT อีกขั้นของความเร้าใจที่หยุดไม่ได้ เพราะความเร้าใจไม่มีคำว่าสิ้นสุด เช่นเดียวกับมาสด้า 2 ใหม่ ยนตรกรรมที่สะท้อนตัวตนสปอร์ต เร้าใจ ในแบบที่ไม่ซ้ำทางใคร ด้วยดีไซน์ที่บ่งบอกถึงจิตวิญญาณสปอร์ตทุกมิติ ครั้งแรกกับนวัตกรรมใหม่สุดล้ำอีกขั้นของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ SKYACTIV – VECHICLE DYNAMICS เพื่อควบคุมสมรรถนะการขับขี่อย่างเหนือชั้น และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ i-ACTIVSENSE ครบครันด้วยฟังก์ชั่นที่พร้อมตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อให้คุณเร้าใจกับทุกเส้นทางที่เป็นตัวเองอย่างไรข้อจำกัด

360° European Touch ทุกมิติ คือความสปอร์ตพรีเมียมมาตรฐานยุโรป สะท้อนตัวตนเร้าใจในแบบคุณ ด้วยห้องโดยสารสปอร์ตพรีเมียมสไตล์รถยุโรป พิถีพิถันทุกรายละเอียดด้วยวัสดุเกรดพรีเมียม โดดเด่นไม่ซ้ำใครด้วยการตกแต่งแบบทูโทน พร้อมเบาะหนังดีไซน์ใหม่ ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย อุปกรณ์ภายในจัดวางในตำแหน่งที่สะดวกใช้งาน พนักพิงเบาะนั่งด้านหลังแบบพับได้ ช่วยเพิ่มพื้นที่กว้างให้กับสัมภาระขนาดใหญ่ และยังแยกพับซ้าย-ขวา 60:40 ได้อิสระตามความต้องการ

ภายในห้องโดยสาร Two-tone Color Decoration โดดเด่นทุกมุมมองด้วยการตกแต่งแบบทูโทน

Active Driving Display จอสกรีนใส แสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญ ระดับความเร็ว และข้อมูลระบบนำทาง Navigator ในรูปแบบสีที่ชัดเจนและอ่านง่ายในระดับสายตา ทำให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนนและมีสมาธิกับการขับขี่ได้อย่างเต็มที่

ระบบ Sports Paddle Shift ระบบการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

ระบบ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วคงที่

ระบบ Steering Wheel พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ กระชับมือ ตกแต่งด้วยโครเมียม พร้อมปุ่มควบคุมการทำงานที่พวงมาลัย



รถยนต์มาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่ มีรูปแบบตัวถังให้เลือกทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู โดยในแต่ละรูปแบบตัวถังจะมี 7 รุ่นย่อย แบ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 รุ่นและเครื่องยนต์คลีนดีเซล 3 รุ่น โดยสีภายนอกมีความสำคัญเช่นเดียวกับอุปกรณ์อื่นๆ มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย สีแดง โซลเรด และสีขาว สโนว์เฟค ไวท์ เพิร์ล เป็นสีสำหรับการเปิดตัว สีน้ำตาล ไททาเนียมแฟลช, สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิค สำหรับสีใหม่มีด้วยกัน 3 สี ประกอบด้วย สีน้ำเงิน อีเทอนอล บลู, สีเทา เมทิเออ เกรย์ ไมก้า เมทัลลิก และ สีดำ เจ็ท แบล็ก,

มาสด้าวางเป้าหมายเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับพรีเมียม การตั้งราคาที่เหมาะสมที่เป็นอีกหนึ่งความสำคัญเพื่อให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ และเพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบสมรรถนะของเครื่องยนต์คลีนดีเซล ซึ่งหาไม่ได้จากรถในระดับเดียวกัน มาสด้านำมาพิจารณาในการนำมาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ลงสู่ตลาดด้วยราคาเริ่มต้นที่ 5 แสนต้นๆ ในขณะที่รุ่นท็อป ซึ่งทั้งภายนอก ภายใน และชุดเสริมความสปอร์ตที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ราคายังต่ำกว่า 8 แสนบาท เมื่อเทียบคุณสมบัติที่มาสด้า2 ใหม่ มีมาให้กับราคา นับว่าเป็นรถยนต์อีกรุ่นหนึ่งในตลาดที่คุ้มค่ามาก มาสด้า2 ใหม่ มีให้เลือกด้วยกัน 14 รุ่น คือ

มาสด้า2 เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.3 ลิตร Hatchback & Sedan

Mazda2 Standard เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 530,000 บาท

Mazda2 High เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย590,000 บาท

Mazda2 High Connect เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 620,000 บาท

Mazda2High Plus เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 670,000 บาท

มาสด้า2 เครื่องยนต์คลีนดีเซล ขนาด 1.5 ลิตร Hatchback & Sedan

Mazda2 รุ่น XD เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 680,000 บาท

Mazda2 รุ่น XD High Connect เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 750,000 บาท

Mazda2 รุ่น XD High Plus เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 789,000 บาท

นี่คือรถยนต์นั่งมาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่ ที่เต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำอนาคต และกำลังจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์นั่งซับคอมแพคคาร์เมืองไทย สนใจจองและเป็นเจ้งของได้แล้วันนี้ทุกโชว์รูมมาสด้าทั้ง 147 แห่ง ทั่วประเทศ พร้อมรับฟรีประกันชั้น1

เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยประกาศแต่งตั้งคุณปิยะนุช จตุรภัทร์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายและพัฒนาเครือข่าย



เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยประกาศแต่งตั้งคุณปิยะนุช จตุรภัทร์ 
ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายและพัฒนาเครือข่าย


กรุงเทพฯ – เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยประกาศแต่งตั้งคุณปิยะนุช จตุรภัทร์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายและพัฒนาเครือข่ายคนใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้

คุณปิยะนุชจะประจำอยู่ในกรุงเทพฯ และรายงานต่อมร. เวล เอ. ฟาร์กาลี กรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม ประเทศไทย และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย บทบาทหน้าที่หลักของคุณปิยะนุชคือ การกำกับดูแลการปฏิบัติงานด้านการขายและเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายของแบรนด์เชฟโรเลตในประเทศไทย

“เรามีความยินดีที่ได้ต้อนรับคุณปิยะนุชเข้าร่วมทีมผู้บริหารของจีเอ็ม ประเทศไทย” มร. ฟาร์กาลีกล่าว “คุณปิยะนุชมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ยาวนานหลายปี ทั้งด้านการขาย การพัฒนาเครือข่าย การฝึกอบรมการขาย การบริหารจัดการลูกค้า และการตลาด ความเชี่ยวชาญของเธอจะช่วยให้เราเดินหน้าสร้างแบรนด์เชฟโรเลตให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเสริมความแข็งแกร่งให้ผู้จัดจำหน่ายของเราในตลาดเมืองไทยที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง”

ก่อนร่วมงานกับเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย คุณปิยะนุชเคยทำงานกับบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 อีกทั้งยังเคยเป็นผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริหารปฏิบัติการขาย และผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริหารจัดการลูกค้าและฝึกอบรมที่นิสสัน

คุณปิยะนุชเริ่มทำงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่บริษัท ออโต เทคนิค (ประเทศไทย) จำกัด ก่อนจะดำรงตำแหน่งผู้จัดการอาวุโสฝ่ายฝึกอบรมการขายที่บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด คุณปิยะนุชสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี บริหารธุรกิจบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เชฟโรเลตจัดจำหน่ายรถทั้งหมด 14,931 คันในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว โดยได้แรงขับเคลื่อนมาจากการเปิดตัวรถกระบะโคโลราโด และรถเอสยูวีเทรลเบลเซอร์ที่ผลิตในประเทศไทย สำหรับในปี 2560 เชฟโรเลตจะเปิดตัวรถเพิ่มเติมและยกระดับการบริการ รวมถึงการนำเสนอคอนเน็คชั่น เซ็นเตอร์ที่ผู้จัดจำหน่ายเชฟโรเลตทั่วประเทศ

ตรวจเช็คฟรี 24 จุด ด้วยมาตรฐานจากโรงงานปอร์เช่ เยอรมนี พร้อมส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้า เอเอเอสฯ เท่านั้น



ตรวจเช็คฟรี 24 จุด ด้วยมาตรฐานจากโรงงานปอร์เช่ เยอรมนี พร้อมส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้า เอเอเอสฯ เท่านั้น

กรุงเทพ. ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มอบการบริการสุดพิเศษสำหรับเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่ คาเยนน์รุ่นแรก หรือ Cayenne E1 ด้วยงาน Porsche Cayenne E1 Service Clinic บริการและดูแลพิเศษตรวจเช็ค 24 จุด ด้วยมาตรฐานโรงงาน โดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถยนต์ปอร์เช่ พร้อมเครื่องมือดูแลและบำรุงรักษาครบครัน ซึ่งแคมเปญพิเศษจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ – 10 มีนาคม 2560 ณ ศูนย์บริการ Porsche Centre Bangkok (ดอนเมือง) และ ศูนย์บริการ Porsche Centre Pattanakarn (พัฒนาการ)

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า เอเอเอสฯ เมื่อนำรถ Cayenne E1 เข้ารับบริการ Porsche Cayenne E1 Service Clinic

น้ำมันเครื่อง Mobil ฟรี สำหรับลูกค้า 20 ท่านแรก
ส่วนลดพิเศษค่าอะไหล่ ค่าแรง และชุดแต่ง Tequipment
ส่วนลดพิเศษสำหรับการบริการทำสีและตัวถัง (Body & Paint)
ส่วนลดพิเศษสินค้า Porsche Driver’s Selection
บำรุงรักษารถยนต์ปอร์เช่ด้วยการล้างและเคลือบสีจากผลิตภัณฑ์ Autoglym ฟรี หลังรับบริการ
ส่วนลดพิเศษผลิตภัณฑ์บำรุงรักษารถยนต์ Autoglym (เฉพาะรายการ)
ทดลองขับรถยนต์ปอร์เช่หลากหลายรุ่น
รับส่วนลดเพิ่มทันที 5% เมื่อมียอดใช้จ่าย 50,000 บาท ขึ้นไป

** เอกสิทธิ์สำหรับลูกค้าปอร์เช่ เอเอเอสฯ เท่านั้น **

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกรของเราให้มีคุณภาพสูงสุดตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า AAS The Name you can Trust ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Porsche Centre Bangkok ถ.วิภาวดีรังสิต โทร. 02-522-6655
Porsche Centre Pattanakarn ถ.พัฒนาการ โทร. 02-369-1111
Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911

“ฟู้ดแพชชั่น” มั่นใจเลือกใช้ปิกอัพอีซูซุ เป็นผู้ช่วยส่งมอบความสุข



“ฟู้ดแพชชั่น” มั่นใจเลือกใช้ปิกอัพอีซูซุ เป็นผู้ช่วยส่งมอบความสุข

กลุ่มตรีเพชร โดย มร.โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย มร.ฮิโรยาสุ ซาโต้ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมส่งมอบรถปิกอัพ “อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ทั้งรุ่นสปาร์ค และ แค็บ แชสซีส์ (Cab Chassis) รวม 18 คัน ให้แก่ คุณชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายวรสิทธิ์ ปานช้าง ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตและโลจิสติก บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ภายใต้การบริหารงานของบริษัทฯ จำนวน 3แบรนด์ ได้แก่ บาร์บีคิวพลาซ่า จุ่มแซ่บฮัท และ ฮ็อท สตาร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งและกระจายสินค้าของแบรนด์ร้านอาหารยอดนิยมของคนไทย ณ อาคารสำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จัดงาน BMW Motorrad Days 2017 เอาใจคนรักบิ๊กไบค์ทุกค่าย



บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จัดงาน BMW Motorrad Days 2017 เอาใจคนรักบิ๊กไบค์ทุกค่าย
  
กรุงเทพฯ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย จัดกิจกรรม BMW Motorrad Days 2017 งานเทศกาลของคนรักบิ๊กไบค์แห่งปี พร้อมเชิญชวนแฟนรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ไม่จำกัดค่ายร่วมสังสรรค์และสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ในวันที่ 4 – 5 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.00 – 24.00 น. ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ ฟร้อนท์ โดยไม่เสียค่าผ่านประตูใดๆ ทั้งสิ้น

ภายในงาน พบกับการเปิดตัวของรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมตื่นตาตื่นใจกับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สตั้นท์ โชว์ ครั้งแรกในไทยจาก BigJim นักขี่มอเตอร์ไซค์ผาดโผนชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงระดับโลก คอนเสิร์ตสุดมันส์จากศิลปินชั้นนำที่ยกขบวนมาสร้างสีสัน ได้แก่ วงนูโว วงฟลัวร์ ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์ และวิน สควีซแอนนิมอล เพลิดเพลินกับร้านค้าและกิจกรรมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ตกแต่ง เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย การบริการตรวจเช็ครถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูเบื้องต้น และพิเศษกับคอลเลคชั่นของสะสมBMW Motorrad Days จำหน่ายเฉพาะในงานนี้เท่านั้น

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.facebook.com/BMWMotorradTH  หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมที่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย 1-800-269-269

สมาคมรถโบราณฯ จัด “คาราวานชานกรุง” ส่งเสริมการท่องเที่ยวย้อนยุค


สมาคมรถโบราณฯ จัด “คาราวานชานกรุง”
ส่งเสริมการท่องเที่ยวย้อนยุค
            สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย จัดงาน “คาราวานชานกรุง” รวมสมาชิกขับรถโบราณ และรถคลาสสิคกว่า 50 คัน อวดความงามและความเก๋า ชมสถานที่น่าสนใจในเขตทวีวัฒนา อาทิ หอศิลป์พุทธะ หมู่บ้านโขน ณ เดอะศาลายา เมืองมายา หอภาพยนตร์แห่งชาติ และสวนมุทิตาธรรมาราม
            ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานเขตทวีวัฒนา และสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย จัดงาน คาราวานชานกรุง” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตทวีวัฒนา และบริเวณใกล้เคียง ผ่านความสวยงามของขบวนรถโบราณและรถคลาสสิคที่พร้อมใจอวดโฉมให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดกว่า 50 คันตลอดการเดินทาง
ขบวนคาราวานเริ่มต้นจาก โรงพยาบาลธนบุรี 2 มุ่งหน้าสู่ ถนนอุทยาน สำนักงานเขตทวีวัฒนา ซึ่งเป็นจุดทำพิธีปล่อยขบวนรถโบราณอย่างเป็นทางการ จากนั้น เดินทางไปที่ หอศิลป์พุทธะ ชมนิทรรศการพุทธประวัติ ซึ่งจัดแสดงภาพจิตรกรรมสมัยใหม่ในแบบ Digital Art Printing ช่วยผ่อนคลายความสับสนจากสังคมเมือง ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไป เดอะศาลายา คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ครบครันทันสมัย แต่ยังคงร่วมอนุรักษ์ศิลปวัฒนะธรรมไทยด้วยการจัดตั้ง หมู่บ้านโขน และยังมีพิพิธภัณฑ์พระบรมสารีริกธาตุ ในบริเวณเดียวกันด้วย
ช่วงบ่ายคาราวานรถโบราณชานกรุง ออกเดินทางไป ชมเมืองมายา ณ หอภาพยนตร์แห่งชาติ เป็นเมืองจำลองสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ในรูปแบบฉากถ่ายหนังที่อลังการ เช่น ร้านกาแฟกรองด์คาเฟ่ สถานที่ฉายหนังครั้งแรกของโลกที่ประเทศฝรั่งเศส พร้อมมุมถ่ายภาพย้อนยุคมากมาย
หลังจากนั้น สมาชิกสมาคมรถโบราณฯ ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคม มอบทุนการศึกษาและของจำเป็น ที่โรงเรียนคลองบางกระทึก ก่อนมุ่งหน้าสู่จุดหมายสุดท้ายชมความงามของธรรมชาติที่แฝงไว้ด้วยศิลปะที่ หอศิลป์ธรรมะ สวนมุทิตาธรรมาราม พร้อมมอบเกียรติบัตรให้แก่เจ้าของรถโบราณที่ร่วมกิจกรรม
นายกสมาคมฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สมาคมฯ ยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตทวีวัฒนา  และหวังว่าจะได้ร่วมกิจกรรมในปีต่อๆ ไป ส่วนประชาชนทั่วไปที่พลาดชมกิจกรรมครั้งนี้ สามารถติดตามความงดงามของรถโบราณได้ที่ http://www.vintagecarclub.or.th

ต.สยาม ปักหมุด รามอินทรา เปิด GRIP by จรัสล้อแม็กซ์ เซอร์วิสประเดิมปี 60



ต.สยาม ปักหมุด รามอินทรา
เปิด GRIP by จรัสล้อแม็กซ์ เซอร์วิสประเดิมปี 60


บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายยาง TOYO TIRES , NITTO TIREและ KUMHO TIRE อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เสริมความแกร่ง ย่านรามอินทรา เปิดตัวศูนย์บริการยางรถยนต์ครบวงจร GRIP by จรัสล้อแม็กซ์ เซอร์วิส ตั้งอยู่ ถนน รามอินทรา แขวง รามอินทรา เขต คันนายาว กรุงเทพมหานคร โดยมี นายอภิชัย ตั้งวงศ์ศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด เป็นประธานในพิธีเปิด

ศูนย์บริการยางรถยนต์ “GRIP by จรัสล้อแม็กซ์ เซอร์วิส” เป็นศูนย์บริการและจำหน่ายยางรถยนต์ และ สินค้าตกแต่งรถยนต์ ให้บริการครบทุกด้าน เช่น จำหน่ายยางรถยนต์ ภายใต้แบรนด์ระดับโลก อาทิ TOYO TIRES, NITTO TIRE และKUMHO TIRE และจำหน่ายล้อแม็กซ์มากมายหลายรูปแบบ และหลายขนาดให้เลือกสรร นอกจากนั้นยังมีบริการ ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ ซึ่งครบครันด้วยเครื่องมือ และอุปกรณ์ในการตรวจสอบที่ทันสมัยพร้อมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่มากด้วยประสบการณ์ในด้านการดูแลรักษารถยนต์ โดยเปิดให้บริการลูกค้า ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ถึง 18.30 น.

สำหรับชาวกรุงเทพฯ และที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียงที่สนใจใช้บริการเปลี่ยนยางรถยนต์ สามารถเข้าไปใช้บริการได้แล้ววันนี้ ที่ร้าน GRIP by จรัส ล้อแม็กซ์ เซอร์วิส สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 091-112-1113 และเตรียมพบกับร้าน GRIP สาขาต่อไปใกล้บ้านท่านเร็วๆนี้




เอ.พี. ฮอนด้า เปิดเกมบุกวางกลยุทธ์พลิกวงการรถจักรยานยนต์ไทยสู่ยุคดิจิตอล เผย 3 กลยุทธ์เด็ดมัดใจผู้บริโภคคนไทย พร้อมประเดิมศักราชด้วย Honda Rebel 300



เอ.พี. ฮอนด้า เปิดเกมบุกวางกลยุทธ์พลิกวงการรถจักรยานยนต์ไทยสู่ยุคดิจิตอลเผย 3 กลยุทธ์เด็ดมัดใจผู้บริโภคคนไทย พร้อมประเดิมศักราชด้วย Honda Rebel 300

เอ.พี. ฮอนด้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งวงการรถจักรยานยนต์ไทยเป็นปีที่ 28 ติดต่อกันด้วยยอดจำหน่าย 1.37 ล้านคัน จากตลาดรวมทั้งสิ้น 1.74 ล้านคัน วางเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน ผ่านกลยุทธ์หลักที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เหนือความคาดหวังของลูกค้า ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ของรถจักรยานยนต์ ด้วยการนำเสนอโมเดลใหม่ถึง 19 รุ่นภายใน 3 ปีข้างหน้า และตั้งเป้าวางจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมส่งมอบประสบการณ์ การขับขี่หลากหลายในแบบฉบับของฮอนด้าเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไป นอกจากนี้ฮอนด้ายังมุ่งแบ่งปันความสุขสู่สังคม โดยเน้นเรื่องความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมอันเป็นแกนหลัก พร้อมผนึกกำลังดำเนินกับเครื่อข่ายผู้จำหน่ายฯ เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่สังคมปรารถนาให้ดำรงอยู่อย่างแท้จริง วางเป้าการจำหน่ายปี 2017 ไว้ที่ 1.38 ล้านคัน จากตลาดรวม 1.75 ล้านคัน ประเดิมเปิดศักราชด้วยการเปิดตัว รถรุ่นแรกHonda Rebel 300 รถคัสต้อมบ็อบเบอร์ โดดเด่นสะดุดตาด้วยโครงสร้างแบบ มินิมอล

มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยเปิดเผยว่า “ในปี 2016 ที่ผ่านมา ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยได้เริ่มมีสัญญาณเติบโตที่ดีขึ้นหลังจากตกติดต่อกันมาเป็นเวลา 3 ปี โดยมีปริมาณตลาดรวม 1.74 ล้านคัน เติบโตเพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนหน้า สำหรับฮอนด้ามียอดการจำหน่าย 1.37 ล้านคัน เติบโตขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านม่า ในส่วนของตลาดรถ Big Bike เรามียอดจำหน่าย 9,000 คัน จากตลาดรวม 23,000 คัน ซึ่งทำให้ฮอนด้าเป็นอันดับ 1 ในรถทุกประเภท และเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ติดต่อกันถึง 28 ปีติดต่อกัน”
“ความเป็นผู้นำตลาดยิ่งถือเป็นแรงผลักดันให้ฮอนด้าก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง เราคำนึงถึงสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนไปสู่ยุคดิจิตอลที่ทุกผลิตภัณฑ์สามารถเชื่อมโยงกับอินเตอร์เน็ต และนำเราไปสู่สิ่งที่เราคาดไม่ถึงมากมาย ส่งผลให้วิถึการดำเนินชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก รวมถึงความคาดหวังของลูกค้าที่ต้องการสิ่งที่ดีขึ้นและแสดงความเป็นตัวตนมากขึ้น จากแนวโน้มที่เกิดขึ้นฮอนด้าได้วางแผนการดำเนินงานในอีก 3 ปีข้างหน้า (ปี 2017 – 2019) มุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนด้วยการสร้างสรรค์และแบ่งปัน ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก”

กลยุทธ์ที่หนึ่ง คือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เหนือความคาดหวังของลูกค้า ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ของรถจักรยานยนต์ นำเทคโนโลยีที่ยกระดับความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ สะดวกสบายต่อผู้ใช้มาบรรจุในรถจักรยานยนต์ อาทิเช่น ไฟหน้าLED, Smart Technology, AC Socket มาสู่รถทุกรุ่น ตลอดจนนำเสนอสินค้าคุณค่าใหม่ที่ไม่เพียงมอบความสุขในการขับขี่ แต่ยังมอบความภาคภูมิใจในการครอบครอง รวมไปถึงนำเสนอรถสำหรับอนาคตโดยเตรียมวางจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถตอบสนองการใช้งานในประเทศไทยอย่างแท้จริง ทั้งนี้ฮอนด้าตั้งเป้าวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ 19 รุ่นภายใน 3 ปีต่อจากนี้

กลยุทธ์ที่สอง คือการสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายในแบบฉบับของฮอนด้า (Honda Experiences) เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ในยุคดิจิตัล ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงการบริการและเครื่องมือส่งเสริมการขายต่างๆภายใน ฮอนด้า วิง เซ็นเตอร์ ให้ตอบรับยุคดิจิตอลมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่สะดวกกว่า เร็วกว่า มั่นใจกว่า ให้แก่ผู้บริโภค นอกจากนั้นเรายังมุ่งมั่นพัฒนาเครือข่ายใหม่เพื่อส่งเสริมไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่แตกต่าง เริ่มจากการขยายสาขา Honda BigWing เพิ่มอีก 5 แห่ง รวมเป็น 24 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2017 รวมไปถึงมอบประสบการณ์การขับขี่เพื่อให้ผู้ใช้ได้เพิ่มความรู้และทักษะความปลอดภัยในการขับขี่กับ Honda Safety Riding Park และสร้างMotorsport Experience ของฮอนด้า ที่สร้างนักแข่งและทีมช่างไทยสู่การแข่งขันระดับโลก โดยปี 2017 นี้วางเป้าหมายสำหรับทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในการคว้าแชมป์รายการแข่งขัน Asia Road Racing Championship”

และกลยุทธ์สุดท้าย คือการแบ่งปันความสุขสู่สังคม ฮอนด้าได้ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมเป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจมาตลอด และเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุในประเทศไทย ฮอนด้าได้ริเริ่มโครงการสำรวจอุบัติเหตุเชิงลึก เป็นจำนวน 1,000 เคส ในระยะเวลา 4 ปี เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์และหลักสูตรการฝึกอบรมต่อไป สำหรับด้านสิ่งแวดล้อมที่ผ่านมาเราได้ร่วมกับเครือข่ายผู้จำหน่ายฯ ดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการ Green Dealer ซึ่งปีนี้เราตั้งเป้ายกระดับให้ลูกค้าได้รับรู้และเชิญชวนเข้าร่วมโครงการบริหารจัดการของเสียที่ Honda Wing Center ให้เพิ่มขึ้น

สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปี 2017 คาดการณ์ว่าตลาดรถจักรยานยนต์เติบโตรวมจะมีปริมาณ 1.75 ล้านคัน โดยฮอนด้าตั้งเป้าหมายการจำหน่านที่ 1.38 ล้านคัน ในส่วนของตลาดรถบิ๊กไบค์น่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องคาดการณ์ที่ 27,000 คัน โดยฮอนด้าตั้งเป้าหมายไว้ที่ 10,800 คัน
พร้อมกันนี้ เอ.พี. ฮอนด้า ยังได้เปิดตัว Honda Rebel 300 รถคัสต้อมบ็อบเบอร์ดีไซน์ ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Express Yourself เป็นตัวเอง…ให้ที่สุด” ดีไซน์โดดเด่นสะดุดตาด้วยโครงสร้างแบบมินิมอลโชว์ให้เห็นความดุดัน ขับขี่สบายด้วยเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ขนาด 300ซีซี เตรียมวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศด้วยราคาแนะนำโดยประมาณที่ 145,000 บาท

พิเศษสุดในช่วงเปิดตัวฮอนด้าได้จัด Honda Rebel 300 รุ่นแต่งพิเศษ Rebel Raw Edition Red และ Honda Raw Edition Black ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คัน ด้วยราคาแนะนำโดยประมาณที่ 154,200 บาทและ 162,200 บาทตามลำดับ ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.aphonda.co.th และติดตามกิจกรรมต่างๆของเอ.พี. ฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊ค www.facebook.com/hondamotorcyclethailand.com

เผยแนวคิด “MOTOR EXPO 2017” “ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง”



เผยแนวคิด “MOTOR EXPO 2017”
“ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง”
“IMC-สื่อสากล” แถลงแนวคิดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” จุดประกายให้ผู้ผลิต จัดแสดงยานยนต์ที่มีคุณสมบัติสมบูรณ์แบบทุกด้าน ซึ่งเป็นจริงแล้วในปัจจุบัน

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34" เปิดเผยถึงความเป็นมาของแนวคิดปีนี้ว่า “ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ความฝันของผู้ผลิตและผู้บริโภคถึงยานยนต์ที่มีคุณสมบัติสมบูรณ์พร้อมไม่อาจเป็นจริงด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยีที่ยังไม่ก้าวหน้าเพียงพอ เช่น เราไม่สามารถผลิตเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูง แต่ประหยัดเชื้อเพลิง หรือสร้างสรรค์ช่วงล่างที่เกาะถนนทรงตัวดีเยี่ยม แต่ให้ความรู้สึกนิ่มนวลแก่ผู้โดยสาร ตลอดจนไม่สามารถแก้ปัญหามลพิษจากไอเสียที่ปล่อยออกมา รวมถึงป้องกันอุบัติเหตุอันเกิดจากความบกพร่องและความประมาทของผู้ขับ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความพยายามอย่างแข็งขันของวิศวกร ประกอบกับเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ทำให้ยานยนต์ยุคใหม่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ฝันไว้ทุกประการ นั่นคือ เป็นยานยนต์ที่ทั้งแรง ประหยัด สะดวกสบาย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ความฝันถึงยานยนต์ที่มีคุณสมบัติหลากหลายในหนึ่งเดียว นำไปสู่การพัฒนาอันน่าทึ่งหลายประการ เช่น การใช้วัสดุที่แข็งแรง ทนทาน ไม่แพ้เหล็กกล้า แต่มีน้ำหนักเบากว่า เช่น อลูมิเนียม และพลาสติคคุณภาพสูงมาผลิตโครงสร้าง และตัวถัง การผลิตเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลง แต่ให้กำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ การนำมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ขับเคลื่อนร่วมกับเครื่องยนต์ ที่เรียกว่าระบบไฮบริด รวมถึงการขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ทั้งแบบที่ใช้แบทเตอรี เป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้า และแบบที่ใช้ไฮโดรเจน หรือเซลส์เชื้อเพลิง ซึ่งทำให้ปลอดมลพิษโดยสมบูรณ์

ขณะเดียวกัน ระบบรองรับ และระบบความปลอดภัย ทั้งเชิงป้องกัน และเชิงแก้ไข ก็มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมมาก โดยการนำระบบเซนเซอร์ และระบบสั่งการอัตโนมัติมาเสริม ช่วยให้นั่งสบาย และลดการเกิดอุบัติเหตุอย่างได้ผล ในทุกระดับความเร็ว และทุกสภาพเส้นทาง

นอกจากนี้ ห้องโดยสารเต็มไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ ภายในรถ เพื่อรับทราบข้อมูล และควบคุมผ่านการสั่งการด้วยเสียงและการสัมผัส รวมทั้งยังเชื่อมต่อสื่อสารกับโลกภายนอก ซึ่งเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ยุคยานยนต์อัตโนมัติ หรือยานยนต์ไร้คนขับในอนาคตอันใกล้

คุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมา ล้วนเคยเป็นเพียงฝันไกล ที่ไม่มีทางเป็นไปไม่ได้ ในความคิดของคนยุคก่อน แต่ได้ปรากฏเป็นจริงแล้วในยานยนต์ยุคปัจจุบัน และจะล้ำหน้ายิ่งขึ้นในยุคต่อๆ ไป

ด้วยเหตุนี้ เราจึงกำหนดคำขวัญซึ่งเป็นแนวคิดของงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” ว่า “ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง” หรือ “New Age Vehicles … A Distant Dream Come True” เพื่อให้ผู้บริโภคได้ชมยานยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติที่พวกเขาเคยฝันไว้ และเพื่อยืนยันว่า ทุกความฝันเป็นจริงได้ในโลกยานยนต์”

พบกับงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” ณ อาคาร CHALLENGERIMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคม 2560 และสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.motorexpo.co.th

โรลส์-รอยซ์ บีสโป๊ก แฟนธอม รุ่นฐานล้อยาว ที่แพงที่สุด 2 คัน ใช้ทองคำในการตกแต่งให้กับโรงแรม THE 13 ที่มาเก๊า



โรลส์-รอยซ์ บีสโป๊ก แฟนธอม รุ่นฐานล้อยาว ที่แพงที่สุด 2 คัน
ใช้ทองคำในการตกแต่งให้กับโรงแรม THE 13 ที่มาเก๊า 


24 มกราคม 2560 – กู้ดวูด 

สืบเนื่องจากที่มร. สตีเฟน ฮุง ประธานบริหารร่วม บริษัท เดอะ 13 โฮลดิ้ง จำกัด ได้สั่งผลิตยนตรกรรม      โรลส์-รอยซ์ แฟนธอม รุ่นฐานล้อยาว จำนวน 30 คัน โดยมี 2 คันที่ตกแต่งด้วยสีผสมทองคำนั้น ขณะนี้      ยนตรกรรมที่สร้างสรรค์ผ่านบริการสั่งทำพิเศษ (บีสโป๊ก) ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ และแนวคิดการออกแบบของเขาและของโรงแรม พร้อมรับรองแขกพิเศษของโรงแรม THE 13 ในมาเก๊า  

แขกพิเศษของโรงแรมเท่านั้นที่จะได้รับการรับรองโดยยนตรกรรมหรูที่สร้างสรรค์โดยมร. ฮุง ผ่านบริการบีสโป๊ก เพื่อมอบประสบการณ์แห่งความหรูหรา สะดวกสบายและง่ายดายในแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์  ยนตรกรรมหรูนี้มีความโดดเด่นและง่ายต่อการจดจำ ด้วยการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในด้วยทองคำ 24 เค จึงทำให้         ยนตรกรรมทั้ง 2 คันเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมของคอลเล็กชั่นนี้ และยังเป็นโรลส์-รอยซ์ที่มีราคาสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมานับจาก ณ เวลาที่สั่งผลิต  

มร.ฮุง ตัดสินใจเลือกโรลส์-รอยซ์ เพราะทราบดีว่าทีมงานและช่างฝีมือของโรลส์-รอยซ์นั้นจะสามารถถ่ายทอดจินตนาการและความปรารถนาของเขาออกมาได้อย่างไร้ที่ติ  ความใส่ใจในเรื่องของเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลและในรายละเอียด สามารถเห็นได้จากสีภายนอกของรถ ที่มีส่วนผสมของทองคำ 23.75 เค ซึ่งเป็นน้ำหนักที่พอเหมาะเพื่อให้ทองคำถูกเกลี่ยผสมได้อย่างทั่วถึง ผลลัพท์ที่ได้คือ สีภายนอกที่ราคาสูงที่สุดและใช้เทคนิคในการผสมสีอย่างพิถีพิถันมากที่สุดเท่าที่เคยทำมา ซึ่งนับว่าเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับผู้เชี่ยวชาญของเราที่บ้านของโรลส์-รอยซ์ที่กู้ดวูด 

มร. ไจล์ส เทย์เลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด กล่าวว่า “ยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ถูกสั่งผลิตขึ้นเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงรสนิยม ความปรารถนา และไลฟสไตล์ของลูกค้า และเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงทักษะด้านงานหัตถศิลป์ของโรลส์-รอยซ์อันยอดเยี่ยมที่ส่งผ่านในผลงานยนตรกรรมหรู  และนี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราต้องเผชิญกับความท้าทายในเรื่องเทคนิคการออกแบบ แต่ในที่สุดเราสามารถทำได้สำเร็จอย่างงดงาม”    

ศูนย์ตกแต่งและทำสีที่บ้านของโรลส์-รอยซ์ในกู้ดวูด ได้ติดตั้งเครื่องมือเฉพาะทางเครื่องใหม่เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดความเสียหายในขณะที่มีการพ่นสีของยนตรกรรมทั้ง 2 คัน ซึ่งในการพ่นสีนั้นได้ใช้สีมากกว่าปกติที่ใช้ในโรลส์-รอยซ์ แฟนธอมถึง 250% ด้วยการพ่นถึง 10 ชั้น โดยชั้นหนึ่งจะมีส่วนผสมของทองคำปริมาณ            40 ไมครอน แก้ว และอลูมิเนียมเพื่อให้สีมีความวาวสะดุดตา  

“มีเพียงที่บ้านของโรลส์-รอยซ์ที่ทีมงานทั้งหมดจะช่วยกันระดมสมองในการสร้างสรรค์ผลงานประหนึ่งว่าทีมงานทุกคนคือเจ้าของยนตรกรรม พวกเรายอมรับผลงานที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน การผสมสีใช้ความพยายามถึง 8 ครั้งกว่าจะได้เฉดสีที่ใช่ตามต้องการ และเลข 8 ยังเป็นเลขมงคลของมาเก๊าบ้านของโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม 2 คันนี้อีกด้วย” มร. นิค กีแฮน ผู้ชำนาญด้านวัสดุศาสตร์ บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด กล่าว

สัญลักษณ์ สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี ชุบทองคำ 24 เค ประดับโดดเด่นอยู่บนกระจังหน้าและป้ายโลโก้ RR สีทองที่ทำจากทองคำ 18 เคในปริมาณ 97.1 กรัม ก่อนที่จะชุบด้วยทองคำ 24 เคอีกครั้ง เพื่อให้เข้ากับห้องโดยสารที่ใช้สีทองในการตกแต่ง   ส่วนป้ายโลโก้ RR บนกระจังหน้านั้นอักษร RR ทำมาจากพอร์ซเลนเคลือบชั้นดี ล้อมรอบด้วยเพชรน้ำงามจำนวน 336 เม็ด  ในส่วนของเส้นคู่โคชไลน์รังสรรค์ขึ้นจากการวาดด้วยมือของมร.มาร์ค คอร์ท ผู้เชี่ยวชาญด้านการวาดเส้นโคชไลน์ โดยใช้พู่กันขนกระรอกในการวาด  

ภายในบานประตูเป็นที่เก็บร่มโรลส์-รอยซ์ที่มีชื่อเสียง และได้ถูกรังสรรค์ขึ้นเฉพาะโดยมีด้ามร่มสีทอง เข้ากับตัวร่มขอบทอง เพื่อให้เป็นไปในแนวการตกแต่งเดียวกับของโรงแรม อีกทั้ง ยังตกแต่งกาบบันได้ด้วยป้ายแกะสลักเขียนว่า “‘PHANTOM Specially Commissioned by Stephen Hung’ เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้กับผู้โดยสารว่ายนตรกรรมหรูคันนี้เป็นการสั่งผลิตขึ้นพิเศษโดยมร. สตีเฟน ฮุง   

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการจารึกประวัติศาสตร์เหตุการณ์สำคัญของโรงแรม THE 13 ผ่านยนตรกรรมหรูแฟนธอมทั้ง 2 คัน การตกแต่งภายในด้วยหลังคาสตาร์ไลท์ ช่วยจำลองบรรยากาศท้องฟ้ายามค่ำคืนของวันที่มีการวางศิลาฤกษ์ในการก่อสร้างโรงแรม ด้ายทองถูกถักทอด้วยมือได้เรียงร้อยเป็นท้องฟ้า และกลุ่มดาวที่ปรากฏในค่ำคืนนั้น พร้อมด้วยป้ายทองคำสลักรายละเอียดของวันเดือนปีและสถานที่ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงสถานที่ตั้งของโรงแรมหรูแห่งใหม่ในมาเก๊า  

บริเวณทางเข้าของโรงแรมที่โอ่อ่าสะท้อนถึงภายในห้องโดยสารของยนตรกรรมแฟนธอมทั้ง 2 คันนี้ได้เป็นอย่างดี เมื่อก้าวขึ้นโรลส์-รอยซ์แฟนธอม รุ่นฐานล้อยาว แขกจะได้พบกับเบาะที่นั่งลายหมากรุกขาว-ดำที่เป็นลายเดียวกับพื้นหินอ่อนบริเวณทางเข้าของโรงแรม  ด้วยฝีมือด้านงานหัตถศิลป์อันยอดเยี่ยมของทีมช่าง         โรลส์-รอยซ์ที่มีประสบการณ์ในการทำอานม้า จึงสามารถสร้างสรรค์เบาะที่นั่งบุด้วยหนังทอมือสีขาว-ดำที่งดงามเพิ่มความมีมิติให้กับห้องโดยสาร  หนังเย็บขอบเบาะสีทองประกายมุกช่วยมอบประสบการณ์การเดินทางอันเพลิดเพลินในมาเก๊าให้แก่ผู้โดยสาร     

การออกแบบยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ทุกคันได้รับการใส่ใจในทุกรายละเอียด รวมถึงการออกแบบแผงหน้าปัดและนาฬิกาที่มาในสีแดงและทองเข้ากับโรงแรม THE 13 ตัวเรือนนาฬิกาเป็นผลงานจากการร่วมงานกับ Graff ร้านเครื่องประดับหรูชื่อดังของอังกฤษ  

ยนตรกรรมแฟนธอมบีสโป๊กทั้ง 30 คันเพื่อโรงแรม THE 13 นี้ ถือว่าเป็นการสั่งซื้อภายในครั้งเดียวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโรลส์-รอยซ์ที่เคยมีมา
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved