Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

เปิดตัว MG ZS ท้าดวลครอสโอเวอร์ Honda HR-V และ Mazda CX-3

เมื่อ MG เปิดตัว ZS รถเอสยูวีรุ่นใหม่ออกทำตลาดด้วยราคาค่าตัวที่น่าสนใจ ทำให้ลูกค้าที่มองหารถอเนกประสงค์ได้มีทางเลือกเพิ่มเติมขึ้นมาทันที
ถึงแม้ MG ZS จะมีขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กกว่าคู่แข่ง แต่ด้วยราคาจำหน่ายที่ย่อมเยากว่าอย่างชัดเจน ทำให้คนที่กำลังตัดสินใจเลือกรถเอสยูวีขนาดเล็กสักคันย่อมต้องเกิดอาการลังเล เราขอรวบรวมข้อมูลของรถในกลุ่มนี้ทั้ง MG ZS, Honda HR-V และ Mazda CX-3 มาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ

Honda HR-V


โดดเด่นด้วยรูปทรงที่เน้นความสปอร์ตผสมผสานกับความหรูหราตามตำแหน่งการตลาด “สปอร์ต+พรีเมียม” มือจับเปิดประตูด้านท้ายซ่อนอยู่บริเวณเสาหลังคาหลังเพื่อให้ตัวรถดูปราดเปรียวยิ่งขึ้น อ็อปชั่นตัวท็อปค่อนข้างครบครันอย่างมาก แต่เราขอนำเสนอรุ่นล่างสุดคือรหัส S ที่ถูกตัดทอนอุปกรณ์หลายชิ้นไป

เอชอาร์-วี รุ่น S ไม่มีหลังคาซันรูฟ ไฟหน้าเป็นแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ ไม่มีเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ ไฟท้ายเป็นแอลอีดี มีระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ไม่มีไฟตัดหมอก ล้ออัลลอยใช้ขนาด 17 นิ้ว พร้อมกับมีสปอยเลอร์หลัง


โครงสร้างภายในโดยรวมคล้ายกับฮอนด้า แจ๊ส ตกแต่งด้วยสีดำ แผงคอนโซลเอียงเข้าหาคนขับซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถฮอนด้าเกือบทุกรุ่น ใช้วัสดุผ้าสลับกับหนังสังเคราะห์ มีระบบตาร์ทเครื่องยนต์แบบปุ่มสตาร์ท ระบบฮอนด้า สมาร์ท คีย์ ระบบปรับอากาศควบคุมด้วยการสัมผัส เบาะที่นั่งปรับมือ เครื่องเสียงรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธตามสมัยนิยม มีลำโพง 4 ตัว ระบบความปลอดภัยครบครันพอตัวเหมือนกับรุ่นท็อป แต่ขาดถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะและม่านนิรภัยซึ่งมีเฉพาะในรุ่นที่สูงกว่า

เครื่องยนต์มีขนาดใหญ่พอตัว บล็อกเบนซิน 4 สูบ SOHC i-VTEC ความจุ 1.8 ลิตรแบบเดียวกับฮอนด้า ซีวิค ให้พละกำลัง 141 แรงม้า แรงบิด 172 นิวตันเมตร ประกบกับเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง CVT พร้อมโหมด Paddle Shift 7 สปีด รองรับน้ำมัน E85 ขับเคลื่อนล้อหน้า

สำหรับราคาจำหน่าย รุ่นเริ่มต้น S อยู่ที่ 9.33 แสนบาท รุ่น E ราคา 9.99 แสนบาท รุ่น E Limited ราคา 1.05 ล้านบาท และรุ่นท็อปไลน์ EL ค่าตัว 1.099 ล้านบาท

Mazda CX-3


มาพร้อมแนวคิด “ฟรีสไตล์ ครอสโอเวอร์” มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่ม “YUCCIES” หรือ Young Urban Creatives ทั้งในและนอกเมือง การออกแบบภายนอกสะดุดตาด้วยเอกลักษณ์ดีไซน์โคโดะ จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว คนที่ชื่นชอบเส้นสายพลิ้วปราดเปรียวแบบสปอร์ตย่อมถูกอกถูกใจเจ้าซีเอ็กซ์-3 แน่นอน

สำหรับซีเอ็กซ์-3 รุ่นเริ่มต้นใช้รหัส 2.0 E ไฟหน้าเป็นแบบฮาโลเจน ไม่มีทั้งไฟตัดหมอกและเดย์ไลท์ บั้นท้ายมีสปอยเลอร์ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว เสาอากาศแบบครีบฉลาม และท่อไอเสียคู่แบบสปอร์ตพร้อมปลายท่อโครเมียม

ภายในห้องโดยสาร ไม่มีระบบสมาร์คีย์ แต่มีปุ่มสตาร์ทเช่นกัน การตกแต่งใช้ผ้าสีดำทั้งหมด ส่วนวัสดุหุ้มเบาะที่นั่งเป็นสีดำสลับกับสีเทา วัสดุหุ้มพวงมาลัยเป็นยูริเทนเหมือนกับเอชอาร์-วี เบาะพับแยกส่วน 60:40 เช่นกัน มีฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อบลูทูธ ระบบสั่งการด้วยเสียง เครื่องเสียงตามมาตรฐานพร้อมลำโพงติดตั้งมาให้ 4 ตัวเหมือนกับคู่แข่งจากฮอนด้า

ระบบความปลอดภัยในรุ่น 2.0 อีนั้นถูกตัดออกไปเกือบทั้งหมด แต่ก็ยังมีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ระบบป้องกันล้อล็อกเอบีเอส และถุงลมนิรภัยคู่หน้า


เครื่องยนต์ของรุ่นเริ่มต้นเป็นบล็อกเบนซิน สกายแอคทีฟ-จี ขนาด 2.0 ลิตร พละกำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตันเมตร อัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 16.4 กม./ลิตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ-ไดรฟ์ 6 สปีด

ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 2.0 E ราคา 8.35 แสนบาท รุ่น 2.0 C ราคา 9.1 แสนบาท รุ่น 2.0 S ค่าตัว 9.75 แสนบาท รุ่น 2.0 SP ราคา 1.083 ล้านบาท และตัวท็อป 1.5 XDL เคาะราคาที่ 1.193 ล้านบาท

MG ZS


เปิดตัวเรียกเสียงฮือฮาด้วยราคาจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่ายเกินคาด มาพร้อมแนวคิดสมาร์ทเอสยูวีด้วยระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ เทคโนโลยีไอสมาร์ท (i-SMART) สามารถรองรับการสั่งงานด้วยเสียงเป็นภาษาไทยครั้งแรกของโลก เอ็ทจี แซดเอสถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มการใช้งานในเมือง และพร้อมรองรับการใช้งานนอกเมืองได้อย่างสบาย

ด้วยรราคาจำหน่ายที่ย่อมเยา เราจึงหยิบแซดเอส ตัวท็อปไลน์รหัส X มาเปรียบเทียบให้เห็นกับคู่แข่ง ไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์และระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ มีไฟเดย์ไลท์ แหงนมองหลังคามีซันรูฟแบบพาโนรามา มีไฟตัดหมอกหน้า-หลัง ไฟท้ายแอลอีดี และไฟเบรกดวงที่สามแบบแอลอีดี กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว มีสปอยเลอร์หลังและราวหลัง

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีน้ำตาลและดำ วัสดุเป็นหนังสังเคราะห์แบบซอฟต์ทัชให้ผิวสัมผัสนุ่มนวล มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เบาะพับได้ 60:40 มีหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล และปุ่มสตาร์ท

ไฮไลท์อยู่ที่ระบบไอสมาร์ทที่สามารถสั่งการตัวรถได้ด้วยการออกเสียงภาษาไทย ทั้งซันรูฟ การใช้โทรศัพท์ พร้อมกับสามารถใช้หน้าจอสั่งการระบบนำทางและระบบเลขาส่วนตัว ผู้ใช้งานยังสามารถใช้โทรศัพท์เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนในการสั่งการเปิดระบบแอร์ การล็อกประตู วางแผนการเดินทาง และอื่นๆ อีกมากมาย

ระบบความปลอดภัยเริ่มจากระบบเบรกป้องกันล้อล็อก และกระจายแรงเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบควบคุมการเบรกในโค้ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและป้องกันการลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย เรียกว่าแซดเอสมาพร้อมอ็อปชั่นครบครันกว่าใครเพื่อน


แต่จุดด้อยของรถยนต์สัญชาติอังกฤษรุ่นนี้คือ เครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กกว่าเพื่อน บล็อกเบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังแรงม้าที่ 114 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Maunal Mode

ราคาจำหน่ายของ MG ZS เริ่มต้นรุ่น C ราคา 6.79 แสนบาท รุ่นกลาง D ราคา 7.29 แสนบาท และรุ่นสูงสุด X ราคา 7.89 แสนบาท

ที่มา : www.autospinn.com

Ford ติดตั้งระบบ “สตาร์ทเงียบ” ไว้ใน Mustang ไม่รบกวนชาวบ้านอีกต่อไป



ฟอร์ดอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ต้องการออกไปทำงานแต่เช้า (หรือพ่อบ้านใจกล้าที่จะหนีเที่ยว) ด้วยการติดตั้งระบบท่อไอเสียแบบแอคทีฟที่ทำงานเงียบเชียบไว้ในมัสแตง จีที รุ่นใหม่

ระบบดังกล่าวมีชื่อว่า Quiet Start ซึ่งช่วยให้มัสแตง จีทีที่มาพร้อมขุมพลังวี8 มีเสียงขณะสตาร์ทเครื่องยนต์และจอดนิ่งที่เงียบเชียบกว่าปกติ โดยสามารถปรับตั้งเวลาให้ระบบนี้ทำงานได้ อาทิช่วง 2 ทุ่มไปจนถึง 7 โมงเช้าเป็นต้นเพื่อที่จะไม่รบกวนชาวบ้านข้างเคียง

สตีฟ ฟอน โฟสเตอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของฟอร์ดกล่าวว่า “ผมชื่นชอบเสียงขุมพลังวี8 แต่บางครั้งมันอาจดังเกินไปและทำให้เพื่อบ้านรำคาญได้ เราจึงทำการติดตั้งระบบควบคุมเสียงเครื่องยนต์ให้ผู้ขับขี่ปรับได้ตามใจชอบ”

โฟสเตอร์ระบุว่า การพัฒนาระบบ Quiet Start เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรง เมื่อเพื่อนบ้านของเขาโทรแจ้งตำรวจว่าท่อไอเสียดังของเชลบี้ จีที350 ของเขามีเสียงดังเกินไปขณะสตาร์ทและถอยออกจากโรงจอดรถในบ้าน

ระบบ Quiet Start สามารถปรับตั้งได้ทั้งจากพวงมาลัยและบนหน้าจอบนคอนโซล ทางฟอร์ดระบุว่าที่เป็นครั้งแรกที่ผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งเสียงท่อไอเสียและเลือกช่วงเวลาได้อย่างยืดหยุ่น

ที่มา : www.autospinn.com

การนำเอาระบบขับขี่รถยนต์แบบอัตโนมัติ จะเริ่มใช้เต็มรูปแบบที่ประเทศอังกฤษ



รัฐบาลอังกฤษนำเสนอร่างกฎหมายที่จะเป็นการปูทางสู่การใช้งาน “รถยนต์ขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ” บนถนนสาธารณะภายในปี 2021 เป็นต้นไป

มีรายงานว่า ฟิลิปส์ แฮมมอนด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอังกฤษเตรียมประกาศเปลี่ยนแปลงงบประมาณแผ่นดินที่เกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้รถไร้คนขับบนถนนสาธารณะทั่วประเทศโดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุมหรือนั่งอยู่ภายในรถได้ ซึ่งนับเป็นประเทศแรกในโลกที่เตรียมการสู่การใช้งานเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ

หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดี้ยนรายงานว่า แฮมมอนด์ต้องการสร้างความมั่นใจว่า อังกฤษจะยืนอยู่แถวหน้าของเทคโนโลยีนี้เมื่อจะอำลาจากสหภาพยุโรปภายในปี 2019

ด้านไมค์ ฮอว์ส ประธานกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ของอังกฤษเปิดเผยว่า การนำเสนอร่างกฎหมายด้านงบประมาณดังกล่าวเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของอังกฤษอย่างมาก

“เราสนับสนุนมาตรการของรัฐบาลเพื่อให้สหราชอาณาจักรเป็นตลาดที่ดีที่สุดที่จะพัฒนา ทดสอบ และทำตลาดรถขับขี่อัตโนมัติซึ่งจะพลิกโฉมการเดินทางบนท้องถนนไปอย่างสิ้นเชิง ช่วยลดอุบัติเหตุและรักษาชีวิตผู้คนได้มากมาย” ฮอว์สกล่าว

ที่มา : www.autospinn.com

2018 Toyota Rush เหมือนกันยังกับแฝดคนละฝา Daihatsu Terios


ล่าสุด โตโยต้าก็เผยโฉมรัช (Toyota Rush) มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับไดฮัทสุ เทริออส (Daihatsu Terios)เกือบทุกกระเบียดนิ้ว ต่างกันที่โลโก้และรายละเอียดตกแต่งเพิ่มเติมอย่างแผงกันกระแทกรอบคัน ไฟส่องสว่างแอลอีดี และภายในห้องโดยสารที่ใช้วัสดุแตกต่างกันพอสมควร

โตโยต้ายังนำเสนอรัช ทีอาร์ดี สปอร์ติโว ซึ่งเสริมเส้นสายสีแดงเพิ่มเติมเข้ามาและมีโลโก้ TRD ล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 17 นิ้ว ล้อมกรอบไฟตัดหมอกด้วยวัสดุสีดำ และมีระบบคีย์เลส ขณะที่รุ่นย่อยที่ต่ำลงไปจะใช้ล้อขนาด 16 นิ้วและไม่โฉบเฉี่ยวเหมือนรุ่นทีอาร์ดี

มิติตัวถังของรัชมีขนาดยาว 4,435 มม. กว้าง 1,695 มม. และสูง 1,705 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,685 มม. เครื่องยนต์เป็นบล็อกเบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร Dual VVT-i พละกำลัง 105 แรงม้า แรงบิด 140 นิวตันเมตร

ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุที่ให้ผิวสัมผัสนุ่มมือ สีดำวสลับสีโทนอ่อนตอบสนองกลุ่มลูกค้าหลากหลาย บนคอนโซลมีหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้วเชื่อมต่อ Miracast และ Weblink บนมาตรวัดมีไฟแบ็กไลท์สีฟ้าและขาว พร้อมกับมีหน้าจอแสดงผลขนาดเล็กด้วย

2018 Mazda CX-5 เปิดตัวพร้อมระบบหยุดการทำงานของลูกสูบ




สำหรับซีเอ็กซ์-5 รุ่นเริ่มต้นในสหรัฐอเมริกาจะมีไฟหน้าแอลอีดี ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ระบบอินโฟเทนเมนท์รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ สตรีมมิ่ง และอื่นๆ มาสด้ายังแนะนำแพ็คเกจ i-Activesense ที่มีระบบควบคุมไฟหน้า ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกจากช่องจราจร ระบบรักษาช่องจราจร ระบบครูสคอนโทรลแบบเรดาร์ ระบบช่วยเบรก ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติ

เครื่องยนต์เบนซินสกายแอคทีฟ-จียังคงเป็นบล็อกเดิม มีพละกำลัง 187 แรงม้า แรงบิด 186 ฟุตปอนด์ ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ

มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ปี 2018 จะถูกส่งมอบให้ลูกค้าในช่วงปลายเดือนธันวาคมเป็นต้นไป ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 24,150 เหรียญสหรัฐ

ที่มา : Autospinn.com

เตรียมพบกับระบบเทอร์โบคู่ ในเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบของ BMW ที่เพิ่มประสิทธิภาพมากกว่าเดิม


ตกเป็นข่าวว่าจะใช้ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ 2 ตัวในเครื่องยนต์ดีเซลบล็อก 4 สูบ 2.0 ลิตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน

ระบบเทอร์โบคู่จะติดตั้งไว้ในรุ่น 18d และ 20d ซึ่งจะไม่ได้ส่งผลต่อพละกำลังมากนัก โดยจะยังคงมีเท่าเดิม 150 แรงม้า และ 190 แรงม้าตามลำดับ แต่จะช่วยด้านการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลง และยังมีมาตรฐานไอเสียทัดเทียมระดับยูโร6ซี (Euro 6c) อีกด้วย

เรายังไม่มีตัวเลขทางเทคนิคของเครื่องยนต์ทั้ง 2 รุ่น แต่คาดว่าปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์จะลดลงประมาณ 4-5% เนื่องจากประสิทธิภาพด้านความร้อนที่ดีขึ้น ขณะที่ฝาสูบและลูกสูบก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ เช่นเดียวกับการเพิ่มแรงดันหัวฉีดมากขึ้น

เมื่อติดตั้งเทอร์โบตัวที่สอง คาดว่าการตอบสนองด้านอัตราเร่งจะดียิ่งขึ้นด้วยเช่นกันโดยเฉพาะแรงบิดในช่วงรอบต่ำที่น่าจะมีให้ใช้รวดเร็วมากขึ้น อีกหนึ่งข้อดีก็คือ เสียงเครื่องยนต์อาจเบาลงด้วย

ปัจจุบัน เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบที่แรงที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยูก็คือรุ่น 25d มีพละกำลังระดับ 231 แรงม้าซึ่งใช้ระบบเทอร์โบคู่อยู่แล้ว และมีความเป็นไปได้ว่าจะได้รับการปรับปรุงกลไกภายในเพิ่มเติมเพื่อยกระดับความประหยัดและอัตราการตอบสนองให้ดีกว่าเดิม
 
ที่มา : Autospinn.com

อุปกรณ์ภายใน ของ Toyota Yaris Ativ มีอะไรบ้าง ?

พวงมาลัยหุ้มหนังตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมแถบเมทัลลิก - แนวสปอร์ตล้ำ พร้อมความสะดวกสบายกว่า ด้วยสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง, โทรศัพท์ และควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่
มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron - หรูหรามีระดับ ชัดเจนทุกรายละเอียด
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่อัจฉริยะแบบจอสี (TFT) - แจ้งเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท / สรุประยะทาง, เวลา, อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันในแต่ละทริปการเดินทาง / อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย, เวลาทั้งหมดที่ใช้ และความเร็วเฉลี่ย / อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ประหยัดได้ / ความเร็วขณะขับขี่และระยะทางที่สามารถขับขี่ได้จากปริมาณน้่ำมันที่มีอยู่ในถัง
เครื่องเล่นวิทยุ / DVD / CD / MP3 / MP4 / WMA หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมช่องต่อ USB / HDMI / Micro SD Card / ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth รองรับบริการพิเศษจาก T-Connect - เปิดความบันเทิงให้คุณได้เต็มรูปแบบ
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมจอ LCD - สะดวกสบาย เลือกปรับอุณหภูมิอย่างเหมาะสม
ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (Push Start) - สตาร์ทง่ายดาย แค่ปลายนิ้วสัมผัส
ที่เก็บสัมภาระท้ายรถ - มาพร้อมพื้นที่สุดกว้างขวาง สำหรับเก็บของที่หลากหลาย
เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ต - โฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใคร
หัวเกียร์หุ้มหนังและฐานเกียร์สีดำเปียโนแบล็ค - เติมความเท่ แฝงด้วยความหรูหราที่ลงตัว
ที่เก็บของอเนกประสงค์ข้างคนขับ พร้อมหุ้มหนังบริเวณฝาปิด - เพิ่มพื้นที่เก็บของพร้อมที่พักแขน เพื่อความผ่อนคลายทุกการขับขี่
ช่องเก็บของอเนกประสงค์ด้านคนนั่ง - จัดแบ่งเป็นสัดส่วน เพื่อการจัดเก็บที่ง่ายขึ้น
ที่วางแก้วคอนโซลด้านหน้า พร้อมไฟส่องสว่าง - เพื่อความสบายในทุกการเดินทาง
พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังแบบเรียบ - เพื่อการเข้า-ออกที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น เพื่อความสุขทุกการเดินทาง
ลำโพงรอบทิศทาง 6 ตำแหน่ง - เต็มอิ่มทุกความรู้สึก เต็มอารมณ์ทุกความบันเทิง
ระบบเซ็นทรัลล็อก - ควบคุมการล็อก และปลดล็อกประตูได้ทุกบานง่ายดายเพียงปุ่มเดียว
แผงบังแดดคู่หน้า พร้อมกระจกแต่งหน้า - ตอบรับไลฟ์สไตล์ สะดวกทุกครั้งที่ใช้งาน
ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า - ใช้งานง่าย ส่องสว่างสบายตา
ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร - สว่างครอบคลุมทั้งด้านหน้า และด้านหลัง
ห้องโดยสารพรีเมียมดีไซน์ - ขยายความสบายให้กว้างขึ้นกว่าที่เคย

อุปกรณ์ภายนอก ของ Toyota Yaris Ativ มีอะไรบ้าง ?

กระจังหน้าโครเมียมรมดำ พร้อมตกแต่งด้วยแถบสีแดงบริเวณกระจังหน้าด้านล่าง - อีกระดับของความล้ำสมัย โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ต

ไฟส่องสว่างเวลาเวลากลางวัน Daytime Running Light แบบ LED - สังเกตได้ชัดจากระยะไกล เพิ่มความปลอดภัยทุกการขับขี่

ไฟตัดหมอกหน้า - ความโฉบเฉี่ยวแฝงความเรียบหรู เพิ่มทัศนวิสัยขณะหมอกลงจัด หรือฝนตกหนัก

ไฟหน้า Projector รมดำ ตกแต่งด้วยวงแหวนสีแดง - โดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และ LED Light Guiding

กระจกมองข้างสีดำเปียโนแบล็คพร้อมไฟเลี้ยว ตกแต่งด้วยแถบสีแดง - แนวสปอร์ตเร้าใจ เพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น

มือจับประตูโครเมียม พร้อมระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry - เรียบหรู มีระดับ

เสาอากาศแบบครีมฉลาม - ดีไซน์ล้ำสมัย โดดเด่น สะดุดตา

ไฟท้ายรมดำแบบ LED Light Guiding - ดีไซน์สุดล้ำ สะกดทุกสายตา

สัญลักษณ์ ATIV - ดีไซน์สะดุดตา โดดเด่น สะท้อนความปราดเปรียว

ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED - อีกระดับของดีไซน์ เพื่อความปลอดภัยทุกการขับขี่

รีเฟลคเตอร์ท้าย - โดดเด่นสะดุดตา มองเห็นชัดเจนในระยะไกล เพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น

ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว - ดีไซน์ปราดเปรียว แข็งแกร่ง ทนทาน

กระจกไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับ - ปลอดภัยกว่า ด้วยฟังก์ชั่นหยุดอัตโนมัติ เมื่อมีสิ่งกีดขวาง

กระจกบังคมหน้า Acoustic Glass ลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ เพิ่มความเงียบ สบายใจตั้งต่เริ่มสตาร์ท

ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry - สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยฟังก์ชั่นการควบคุมการล็อก-ปลดล็อกประตู และที่เก็บสัมภาระท้ายรถ

กล้องมองหลัง - ง่ายดายทุกการถอยจอด ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ

วิธีการโมเครื่องยนต์ในแรงสมใจ

วิธีการโมดิฟายปรับพื้นผิวของช่องดูดอากาศไอดีและไอเสียที่ฝาสูบของเครื่องยนต์ด้วยเครื่อง CNC 5 axis Porting and CNC Engine Block เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องยนต์สำหรับรถแข่งแรงกว่าเดิม

หลักการพื้นฐานของระบบเบรก


หลังจากที่คุณเหยียบเบรก แรงจากเท้าของคุณจะถูกส่งผ่านไปที่เบรก โดยใช้ของเหลว และเป็นแรงที่มีขนาดมากกว่าที่คุณเหยียบ แรงที่เกิดขึ้นได้มาจากระบบทางกล 2 ทางคือ
  • ทางกล (คานดีด คานงัด)
  • แรงทางไฮดรอลิก

ล้อจะลดความเร็วโดยอาศัยแรงเสียดทาน ระหว่าง เบรก กับ จานล้อ และแรงเสียดทานของล้อกับถนน ในหน้าถัดไป ฟิสิกส์ราชมงคลจะอธิบายความหมายของระบบต่อไปนี้
  • คานดีด คานงัด
  • ไฮดรอลิก
  • แรงเสียดทาน
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved