Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

อาการเบรกแตก เป็นอย่างไร สาเหตุเกิดจากอะไร


เบรกแตก คืออาการ เหยียบเบรกแล้ว แป้นเบรกที่ขาเบรกจม จนแป้นเบรกกระทบกับพื้นรถ หรือนิ่มหยุ่นๆก่อนแล้วจมลงติดพื้น เมื่อเหยียบเบรกแล้วรถยังคงวิ่งที่ความเร็วเท่าเดิม เหมือนไม่มีเบรก


สาเหตุ
1. เกิดจากรั่วของน้ำมันเบรก เช่นสายอ่อนเบรกแตก ท่อแป๊ปเบรกแตก หรือน้ำมันเบรกรั่วซึมมาเป็นเวลานาน ลูกยางแม่ปั้มเบรก และแม่ปั้มเบรกเก่า เสียหายจนน้ำมันเบรกรั่วไหลออกจนหมด
2. ผ้าเบรกหมด จนหลุดออก เป็นไปได้บ่อยครั้งที่ เวลาที่ผ้าเบรกหมดนานๆ และยังปล่อยไว้ไม่ได้รับการเปลี่ยน ผ้าเบรกจะบางมากจนหลุดออกจากฝักก้ามปูเบรก จะทำให้ลูกสูบเบรกหลุด เบรกจะแตกทันที
3. ส่วนประกอบในระบบเกิดการหลุดหลวม เกิดได้หลายสาเหตุ เช่นสากแป้นเบรก (ที่ตั้งได้ไขไม่แน่นหลุดเกลียว หรือไม่ได้ใส่สลักล็อค) น็อตยึดขาเบรกหลุด ฝักเบรก หรือคาริบเปอร์เบรกยึดไม่แน่น และส่วนประกอบต่างๆในระบบเบรกประกอบไม่แน่นหลุดออก
4. สายอ่อนเบรกแตก สายอ่อนที่เก่ามากๆ จะเกิดอาการบวม เวลาปกติก็ดูดี แต่พอเหยียบเบรกกลับ พองตัวเหมือนลูกโป่ง พวกนี้อันตรายมาก เวลาเหยียบเบรกเบาๆแรงดันน้ำมันเบรกต่ำก็รู้สึกดี แต่พอเวลาคับขัน เหยียบเบรกกะทันหันอย่างแรง สายอ่อนเบรกก็เกิดการรับแรงดันไม่ไหวแตกออก และการติดตั้งสายอ่อนเบรกไม่ดี เสียดสีกับล้อ และยาง หรือเสียดสีกับระบบช่วงล่างของรถ

อาการเบรกติด เป็นอย่างไร สาเหตุเกิดจากอะไร


เบรกติด อาการเหมือนรถมีอาการเบรกทำงานอยู่ตลอดเวลา รถจะตื้อ เบรกร้อนมีกลิ่นเหม็นไหม้ เบรกปัดซ้าย-ขวา รถวิ่งไม่ออก จอดแล้วเข็นรถไม่ได้ เป็นอาการของเบรกติด ส่วนมากเกิดจาก การลูกยางกันฝุ่นของแม่ปั้มเบรกเสีย ทำให้มีน้ำซึมเข้าไปในกระบอกเบรก จนเกิดสนิมติดขัด ลูกสูบเบรกไม่สามารถเคลื่อนตัวเข้าออกได้
การแก้ไข เปลี่ยนชุดซ่อมแม่ปั้มเบรกล่าง ถอดมาขัดสนิมออก ทั้งแม่ปั้ม และกระบอกเบรก หรือถ้ามีสนิมมากจนเกิดตามด จะทำให้น้ำมันเบรกรั่วซึมได้ ต้องเปลี่ยนลูกสูบเบรก หรือแม่ปั้มทั้งชุด

อาการเบรกต่ำ เป็นอย่างไร สาเหตุเกิดจากอะไร


เบรกต่ำ เวลาเหยียบเบรกแล้วรู้สึกว่า แป้นเบรกจมลงต่ำกว่าปรกติ เหยียบค้างไว้เบรกค่อยๆจมลงๆ เป็นอาการของเบรกต่ำ ส่วนมากเกิดมาจาก ลูกยางแม่ปั้มเบรกบน มีอาการสึกหรอ หรือบวม ทำให้แรงดันเบรกลดลง ต้องออกแรงเบรกมากขึ้น หรือต้องเหยียบเบรกซ้ำๆกัน หลายๆครั้ง

อาการเบรกตื้อ เป็นอย่างไร สาเหตุเกิดจากอะไร


เบรกตื้อ เป็นอาการที่เวลาเหยียบเบรก แล้วรู้สึกว่า เบรกมันไม่ค่อยอยู่ เบรกแข็งๆ ต้องออกแรงเหยียบเบรกมากๆ อาการเบรกตื้อ เกิดมาจากหลายสาเหตุ เช่น แรงดูดสุญญากาศของหม้อลมน้อย เพราะปั้มตูดไดชาร์จเสีย หรือผ้าในหม้อลมรั่ว วาล์ว PVC หรือ Combo Vale เสีย สายลมรั่ว

เปิดตัว MG ZS ท้าดวลครอสโอเวอร์ Honda HR-V และ Mazda CX-3

เมื่อ MG เปิดตัว ZS รถเอสยูวีรุ่นใหม่ออกทำตลาดด้วยราคาค่าตัวที่น่าสนใจ ทำให้ลูกค้าที่มองหารถอเนกประสงค์ได้มีทางเลือกเพิ่มเติมขึ้นมาทันที
ถึงแม้ MG ZS จะมีขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กกว่าคู่แข่ง แต่ด้วยราคาจำหน่ายที่ย่อมเยากว่าอย่างชัดเจน ทำให้คนที่กำลังตัดสินใจเลือกรถเอสยูวีขนาดเล็กสักคันย่อมต้องเกิดอาการลังเล เราขอรวบรวมข้อมูลของรถในกลุ่มนี้ทั้ง MG ZS, Honda HR-V และ Mazda CX-3 มาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ

Honda HR-V


โดดเด่นด้วยรูปทรงที่เน้นความสปอร์ตผสมผสานกับความหรูหราตามตำแหน่งการตลาด “สปอร์ต+พรีเมียม” มือจับเปิดประตูด้านท้ายซ่อนอยู่บริเวณเสาหลังคาหลังเพื่อให้ตัวรถดูปราดเปรียวยิ่งขึ้น อ็อปชั่นตัวท็อปค่อนข้างครบครันอย่างมาก แต่เราขอนำเสนอรุ่นล่างสุดคือรหัส S ที่ถูกตัดทอนอุปกรณ์หลายชิ้นไป

เอชอาร์-วี รุ่น S ไม่มีหลังคาซันรูฟ ไฟหน้าเป็นแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ ไม่มีเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ ไฟท้ายเป็นแอลอีดี มีระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ไม่มีไฟตัดหมอก ล้ออัลลอยใช้ขนาด 17 นิ้ว พร้อมกับมีสปอยเลอร์หลัง


โครงสร้างภายในโดยรวมคล้ายกับฮอนด้า แจ๊ส ตกแต่งด้วยสีดำ แผงคอนโซลเอียงเข้าหาคนขับซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถฮอนด้าเกือบทุกรุ่น ใช้วัสดุผ้าสลับกับหนังสังเคราะห์ มีระบบตาร์ทเครื่องยนต์แบบปุ่มสตาร์ท ระบบฮอนด้า สมาร์ท คีย์ ระบบปรับอากาศควบคุมด้วยการสัมผัส เบาะที่นั่งปรับมือ เครื่องเสียงรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธตามสมัยนิยม มีลำโพง 4 ตัว ระบบความปลอดภัยครบครันพอตัวเหมือนกับรุ่นท็อป แต่ขาดถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะและม่านนิรภัยซึ่งมีเฉพาะในรุ่นที่สูงกว่า

เครื่องยนต์มีขนาดใหญ่พอตัว บล็อกเบนซิน 4 สูบ SOHC i-VTEC ความจุ 1.8 ลิตรแบบเดียวกับฮอนด้า ซีวิค ให้พละกำลัง 141 แรงม้า แรงบิด 172 นิวตันเมตร ประกบกับเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง CVT พร้อมโหมด Paddle Shift 7 สปีด รองรับน้ำมัน E85 ขับเคลื่อนล้อหน้า

สำหรับราคาจำหน่าย รุ่นเริ่มต้น S อยู่ที่ 9.33 แสนบาท รุ่น E ราคา 9.99 แสนบาท รุ่น E Limited ราคา 1.05 ล้านบาท และรุ่นท็อปไลน์ EL ค่าตัว 1.099 ล้านบาท

Mazda CX-3


มาพร้อมแนวคิด “ฟรีสไตล์ ครอสโอเวอร์” มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่ม “YUCCIES” หรือ Young Urban Creatives ทั้งในและนอกเมือง การออกแบบภายนอกสะดุดตาด้วยเอกลักษณ์ดีไซน์โคโดะ จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว คนที่ชื่นชอบเส้นสายพลิ้วปราดเปรียวแบบสปอร์ตย่อมถูกอกถูกใจเจ้าซีเอ็กซ์-3 แน่นอน

สำหรับซีเอ็กซ์-3 รุ่นเริ่มต้นใช้รหัส 2.0 E ไฟหน้าเป็นแบบฮาโลเจน ไม่มีทั้งไฟตัดหมอกและเดย์ไลท์ บั้นท้ายมีสปอยเลอร์ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว เสาอากาศแบบครีบฉลาม และท่อไอเสียคู่แบบสปอร์ตพร้อมปลายท่อโครเมียม

ภายในห้องโดยสาร ไม่มีระบบสมาร์คีย์ แต่มีปุ่มสตาร์ทเช่นกัน การตกแต่งใช้ผ้าสีดำทั้งหมด ส่วนวัสดุหุ้มเบาะที่นั่งเป็นสีดำสลับกับสีเทา วัสดุหุ้มพวงมาลัยเป็นยูริเทนเหมือนกับเอชอาร์-วี เบาะพับแยกส่วน 60:40 เช่นกัน มีฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อบลูทูธ ระบบสั่งการด้วยเสียง เครื่องเสียงตามมาตรฐานพร้อมลำโพงติดตั้งมาให้ 4 ตัวเหมือนกับคู่แข่งจากฮอนด้า

ระบบความปลอดภัยในรุ่น 2.0 อีนั้นถูกตัดออกไปเกือบทั้งหมด แต่ก็ยังมีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ระบบป้องกันล้อล็อกเอบีเอส และถุงลมนิรภัยคู่หน้า


เครื่องยนต์ของรุ่นเริ่มต้นเป็นบล็อกเบนซิน สกายแอคทีฟ-จี ขนาด 2.0 ลิตร พละกำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตันเมตร อัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 16.4 กม./ลิตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ-ไดรฟ์ 6 สปีด

ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 2.0 E ราคา 8.35 แสนบาท รุ่น 2.0 C ราคา 9.1 แสนบาท รุ่น 2.0 S ค่าตัว 9.75 แสนบาท รุ่น 2.0 SP ราคา 1.083 ล้านบาท และตัวท็อป 1.5 XDL เคาะราคาที่ 1.193 ล้านบาท

MG ZS


เปิดตัวเรียกเสียงฮือฮาด้วยราคาจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่ายเกินคาด มาพร้อมแนวคิดสมาร์ทเอสยูวีด้วยระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ เทคโนโลยีไอสมาร์ท (i-SMART) สามารถรองรับการสั่งงานด้วยเสียงเป็นภาษาไทยครั้งแรกของโลก เอ็ทจี แซดเอสถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มการใช้งานในเมือง และพร้อมรองรับการใช้งานนอกเมืองได้อย่างสบาย

ด้วยรราคาจำหน่ายที่ย่อมเยา เราจึงหยิบแซดเอส ตัวท็อปไลน์รหัส X มาเปรียบเทียบให้เห็นกับคู่แข่ง ไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์และระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ มีไฟเดย์ไลท์ แหงนมองหลังคามีซันรูฟแบบพาโนรามา มีไฟตัดหมอกหน้า-หลัง ไฟท้ายแอลอีดี และไฟเบรกดวงที่สามแบบแอลอีดี กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว มีสปอยเลอร์หลังและราวหลัง

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีน้ำตาลและดำ วัสดุเป็นหนังสังเคราะห์แบบซอฟต์ทัชให้ผิวสัมผัสนุ่มนวล มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เบาะพับได้ 60:40 มีหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล และปุ่มสตาร์ท

ไฮไลท์อยู่ที่ระบบไอสมาร์ทที่สามารถสั่งการตัวรถได้ด้วยการออกเสียงภาษาไทย ทั้งซันรูฟ การใช้โทรศัพท์ พร้อมกับสามารถใช้หน้าจอสั่งการระบบนำทางและระบบเลขาส่วนตัว ผู้ใช้งานยังสามารถใช้โทรศัพท์เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนในการสั่งการเปิดระบบแอร์ การล็อกประตู วางแผนการเดินทาง และอื่นๆ อีกมากมาย

ระบบความปลอดภัยเริ่มจากระบบเบรกป้องกันล้อล็อก และกระจายแรงเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบควบคุมการเบรกในโค้ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและป้องกันการลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย เรียกว่าแซดเอสมาพร้อมอ็อปชั่นครบครันกว่าใครเพื่อน


แต่จุดด้อยของรถยนต์สัญชาติอังกฤษรุ่นนี้คือ เครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กกว่าเพื่อน บล็อกเบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังแรงม้าที่ 114 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Maunal Mode

ราคาจำหน่ายของ MG ZS เริ่มต้นรุ่น C ราคา 6.79 แสนบาท รุ่นกลาง D ราคา 7.29 แสนบาท และรุ่นสูงสุด X ราคา 7.89 แสนบาท

ที่มา : www.autospinn.com

Ford ติดตั้งระบบ “สตาร์ทเงียบ” ไว้ใน Mustang ไม่รบกวนชาวบ้านอีกต่อไป



ฟอร์ดอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ต้องการออกไปทำงานแต่เช้า (หรือพ่อบ้านใจกล้าที่จะหนีเที่ยว) ด้วยการติดตั้งระบบท่อไอเสียแบบแอคทีฟที่ทำงานเงียบเชียบไว้ในมัสแตง จีที รุ่นใหม่

ระบบดังกล่าวมีชื่อว่า Quiet Start ซึ่งช่วยให้มัสแตง จีทีที่มาพร้อมขุมพลังวี8 มีเสียงขณะสตาร์ทเครื่องยนต์และจอดนิ่งที่เงียบเชียบกว่าปกติ โดยสามารถปรับตั้งเวลาให้ระบบนี้ทำงานได้ อาทิช่วง 2 ทุ่มไปจนถึง 7 โมงเช้าเป็นต้นเพื่อที่จะไม่รบกวนชาวบ้านข้างเคียง

สตีฟ ฟอน โฟสเตอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของฟอร์ดกล่าวว่า “ผมชื่นชอบเสียงขุมพลังวี8 แต่บางครั้งมันอาจดังเกินไปและทำให้เพื่อบ้านรำคาญได้ เราจึงทำการติดตั้งระบบควบคุมเสียงเครื่องยนต์ให้ผู้ขับขี่ปรับได้ตามใจชอบ”

โฟสเตอร์ระบุว่า การพัฒนาระบบ Quiet Start เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรง เมื่อเพื่อนบ้านของเขาโทรแจ้งตำรวจว่าท่อไอเสียดังของเชลบี้ จีที350 ของเขามีเสียงดังเกินไปขณะสตาร์ทและถอยออกจากโรงจอดรถในบ้าน

ระบบ Quiet Start สามารถปรับตั้งได้ทั้งจากพวงมาลัยและบนหน้าจอบนคอนโซล ทางฟอร์ดระบุว่าที่เป็นครั้งแรกที่ผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งเสียงท่อไอเสียและเลือกช่วงเวลาได้อย่างยืดหยุ่น

ที่มา : www.autospinn.com

การนำเอาระบบขับขี่รถยนต์แบบอัตโนมัติ จะเริ่มใช้เต็มรูปแบบที่ประเทศอังกฤษ



รัฐบาลอังกฤษนำเสนอร่างกฎหมายที่จะเป็นการปูทางสู่การใช้งาน “รถยนต์ขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ” บนถนนสาธารณะภายในปี 2021 เป็นต้นไป

มีรายงานว่า ฟิลิปส์ แฮมมอนด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอังกฤษเตรียมประกาศเปลี่ยนแปลงงบประมาณแผ่นดินที่เกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้รถไร้คนขับบนถนนสาธารณะทั่วประเทศโดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุมหรือนั่งอยู่ภายในรถได้ ซึ่งนับเป็นประเทศแรกในโลกที่เตรียมการสู่การใช้งานเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ

หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดี้ยนรายงานว่า แฮมมอนด์ต้องการสร้างความมั่นใจว่า อังกฤษจะยืนอยู่แถวหน้าของเทคโนโลยีนี้เมื่อจะอำลาจากสหภาพยุโรปภายในปี 2019

ด้านไมค์ ฮอว์ส ประธานกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ของอังกฤษเปิดเผยว่า การนำเสนอร่างกฎหมายด้านงบประมาณดังกล่าวเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของอังกฤษอย่างมาก

“เราสนับสนุนมาตรการของรัฐบาลเพื่อให้สหราชอาณาจักรเป็นตลาดที่ดีที่สุดที่จะพัฒนา ทดสอบ และทำตลาดรถขับขี่อัตโนมัติซึ่งจะพลิกโฉมการเดินทางบนท้องถนนไปอย่างสิ้นเชิง ช่วยลดอุบัติเหตุและรักษาชีวิตผู้คนได้มากมาย” ฮอว์สกล่าว

ที่มา : www.autospinn.com

2018 Toyota Rush เหมือนกันยังกับแฝดคนละฝา Daihatsu Terios


ล่าสุด โตโยต้าก็เผยโฉมรัช (Toyota Rush) มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับไดฮัทสุ เทริออส (Daihatsu Terios)เกือบทุกกระเบียดนิ้ว ต่างกันที่โลโก้และรายละเอียดตกแต่งเพิ่มเติมอย่างแผงกันกระแทกรอบคัน ไฟส่องสว่างแอลอีดี และภายในห้องโดยสารที่ใช้วัสดุแตกต่างกันพอสมควร

โตโยต้ายังนำเสนอรัช ทีอาร์ดี สปอร์ติโว ซึ่งเสริมเส้นสายสีแดงเพิ่มเติมเข้ามาและมีโลโก้ TRD ล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 17 นิ้ว ล้อมกรอบไฟตัดหมอกด้วยวัสดุสีดำ และมีระบบคีย์เลส ขณะที่รุ่นย่อยที่ต่ำลงไปจะใช้ล้อขนาด 16 นิ้วและไม่โฉบเฉี่ยวเหมือนรุ่นทีอาร์ดี

มิติตัวถังของรัชมีขนาดยาว 4,435 มม. กว้าง 1,695 มม. และสูง 1,705 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,685 มม. เครื่องยนต์เป็นบล็อกเบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร Dual VVT-i พละกำลัง 105 แรงม้า แรงบิด 140 นิวตันเมตร

ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุที่ให้ผิวสัมผัสนุ่มมือ สีดำวสลับสีโทนอ่อนตอบสนองกลุ่มลูกค้าหลากหลาย บนคอนโซลมีหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้วเชื่อมต่อ Miracast และ Weblink บนมาตรวัดมีไฟแบ็กไลท์สีฟ้าและขาว พร้อมกับมีหน้าจอแสดงผลขนาดเล็กด้วย

2018 Mazda CX-5 เปิดตัวพร้อมระบบหยุดการทำงานของลูกสูบ




สำหรับซีเอ็กซ์-5 รุ่นเริ่มต้นในสหรัฐอเมริกาจะมีไฟหน้าแอลอีดี ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ระบบอินโฟเทนเมนท์รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ สตรีมมิ่ง และอื่นๆ มาสด้ายังแนะนำแพ็คเกจ i-Activesense ที่มีระบบควบคุมไฟหน้า ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกจากช่องจราจร ระบบรักษาช่องจราจร ระบบครูสคอนโทรลแบบเรดาร์ ระบบช่วยเบรก ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติ

เครื่องยนต์เบนซินสกายแอคทีฟ-จียังคงเป็นบล็อกเดิม มีพละกำลัง 187 แรงม้า แรงบิด 186 ฟุตปอนด์ ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ

มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ปี 2018 จะถูกส่งมอบให้ลูกค้าในช่วงปลายเดือนธันวาคมเป็นต้นไป ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 24,150 เหรียญสหรัฐ

ที่มา : Autospinn.com

เตรียมพบกับระบบเทอร์โบคู่ ในเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบของ BMW ที่เพิ่มประสิทธิภาพมากกว่าเดิม


ตกเป็นข่าวว่าจะใช้ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ 2 ตัวในเครื่องยนต์ดีเซลบล็อก 4 สูบ 2.0 ลิตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน

ระบบเทอร์โบคู่จะติดตั้งไว้ในรุ่น 18d และ 20d ซึ่งจะไม่ได้ส่งผลต่อพละกำลังมากนัก โดยจะยังคงมีเท่าเดิม 150 แรงม้า และ 190 แรงม้าตามลำดับ แต่จะช่วยด้านการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลง และยังมีมาตรฐานไอเสียทัดเทียมระดับยูโร6ซี (Euro 6c) อีกด้วย

เรายังไม่มีตัวเลขทางเทคนิคของเครื่องยนต์ทั้ง 2 รุ่น แต่คาดว่าปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์จะลดลงประมาณ 4-5% เนื่องจากประสิทธิภาพด้านความร้อนที่ดีขึ้น ขณะที่ฝาสูบและลูกสูบก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ เช่นเดียวกับการเพิ่มแรงดันหัวฉีดมากขึ้น

เมื่อติดตั้งเทอร์โบตัวที่สอง คาดว่าการตอบสนองด้านอัตราเร่งจะดียิ่งขึ้นด้วยเช่นกันโดยเฉพาะแรงบิดในช่วงรอบต่ำที่น่าจะมีให้ใช้รวดเร็วมากขึ้น อีกหนึ่งข้อดีก็คือ เสียงเครื่องยนต์อาจเบาลงด้วย

ปัจจุบัน เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบที่แรงที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยูก็คือรุ่น 25d มีพละกำลังระดับ 231 แรงม้าซึ่งใช้ระบบเทอร์โบคู่อยู่แล้ว และมีความเป็นไปได้ว่าจะได้รับการปรับปรุงกลไกภายในเพิ่มเติมเพื่อยกระดับความประหยัดและอัตราการตอบสนองให้ดีกว่าเดิม
 
ที่มา : Autospinn.com
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved