Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

บริดจสโตนตอกย้ำความสำเร็จ แคมเปญส่งเสริมภาพลักษณ์ ประกาศพร้อมรุกต่อเนื่อง ด้วยแนวคิด“Bridgestone Always with you”


 
[กรุงเทพฯ-สยามดิสคัพเวอรี่] (15 มิถุนายน 2555)  บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย มร.โนบุยูกิ   ทะมุระ กรรมการผู้จัดการ จัดกิจกรรมครั้งใหญ่ เพื่อแนะนำแคมเปญส่งเสริมภาพลักษณ์ ภายใต้แนวคิด Bridgestone Always with you - เคียงข้างคุณทุกเส้นทาง ณ ลานสยามดิสคัพเวอรี่พลาซ่า โดยในงานมีกิจกรรมแนว Lifestyle ที่หลากหลายและน่าสนใจ อาทิ สนุกกับการถ่ายและตกแต่งภาพ เข้าร่วมเวิร์คช็อปของทำมือจากวัสดุรีไซเคิลกับเหล่าเซเลปชื่อดัง พร้อมมันส์ไปกับบูธดีเจ  และพบกับคอนเสิร์ตจากศิลปินสุดคูลอย่าง ป๊อด โมเดิร์น ด็อก และRoom 39 นอกจากนี้ ในงานยังมีกิจกรรม iButterfly ที่ทุกคนจะสามารถร่วมสนุกเพื่อชิง The New iPad และของรางวัลดีๆ มากมาย

แคมเปญส่งเสริมภาพลักษณ์ของบริดจสโตน ได้แนะนำครั้งแรก เมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา โดยการนำเสนอกลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์ เพื่อสร้างความชื่นชอบ และขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ทันสมัย ให้เกิดความใกล้ชิด และเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น ผ่านสื่อต่างๆ ที่อยู่ในกระแสนิยมเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

สำหรับปีนี้ บริดจสโตนยังคงใช้ “Bridgestone Always with You - เคียงข้างคุณทุกเส้นทาง เป็นแนวคิดหลักในการสื่อสารไปยังผู้บริโภค เพื่อให้รับรู้ถึงสินค้าและการบริการที่ดีเยี่ยมของบริดจสโตน ซึ่งพร้อมอยู่เคียงข้างและตอบสนองทุกรูปแบบไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทุกกลุ่ม และเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น ในครั้งนี้ บริดจสโตนได้มอบให้วง Groove Riders และคุณบุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ ทำเพลง“Always with You” ขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อประกอบภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ รวมทั้งสื่อสารแคมเปญนี้อย่างต่อเนื่องผ่านทางสื่อทีวี วิทยุ สิ่งพิมพ์ ตลอดจนสื่อกลางแจ้งตามสถานที่ยอดนิยมต่างๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอันหลากหลายในรูปแบบของไลฟ์สไตล์ อาทิ
·        iButterfly Mobile Application ที่ประสบผลสำเร็จอย่างสูงที่ประเทศญี่ปุ่น
·        You 2 play Concert
·        MV Contest
·        Facebook : www.facebook.com/BridgestoneAlwaysWithYou
ทุกรูปแบบของกิจกรรมและการสื่อสารต่างๆ นั้น ได้เสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์บริดจสโตนและสร้างการรับรู้ถึงสินค้าและการบริการที่ดีเยี่ยมในวงกว้าง เพื่อครองความเป็นที่หนึ่งในใจของผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ทันสมัยและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตมีส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความผูกพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับบริดจสโตนในระยะยาวต่อไป

“สิทธิผล” รุกเต็มพิกัดส่งหัวเทียน “DENSO” เจาะตลาดรถจักรยานยนต์ออโตเมติก




บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด รุกตลาดครึ่งปีหลังส่งผลิตภัณฑ์หัวเทียน “DENSO” สำหรับรถจักรยานยนต์ออโตเมติกโดยเฉพาะ เนื่องจากเล็งเห็นว่ากำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ชูจุดเด่นสินค้าด้านประสิทธิภาพความแข็งแกร่งและทนทานต่อความร้อนได้เป็นอย่างดี โครงสร้างประกอบด้วยฉนวนต้านทานแรงดันไฟฟ้าสูงสามารถป้องกันการรั่วซึมของแก๊สในกระบอกสูบและระบายความร้อนดียิ่งขึ้นด้วย
พบกับหัวเทียน เด็นโซ่ พลังที่ต้องลองด้วยตัวคุณเอง ที่ให้พลังขับเคลื่อนเต็มพิกัด พร้อมทั้งยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานขึ้นได้แล้ววันนี้ ตามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอะไหล่รถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่: ฝ่ายขาย โทร 02-639-1919 ต่อ 159,160
###
เกี่ยวกับ กลุ่มสิทธิผล
กว่า 90 ปี บนเส้นทางธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เริ่มขึ้นจากธุรกิจเล็กๆ รับปะยางและซ่อมรถจักรยาน บริเวณใต้ต้นโพธิ์ ในวัดญวน ย่านตลาดน้อย ด้วยความมานะอุตสาหะจากรุ่นสู่รุ่น ได้ขยายอาณาจักรธุรกิจสู่ กลุ่มสิทธิผล ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ อาทิ  ยางรถจักรยานยนต์ ไออาร์ซี โคมไฟและหลอดไฟ สแตนเลย์” โซ่และชุดโซ่-สเตอร์ ดี.ไอ.ดี” หัวเทียน เด็นโซ่” สายพานแบนโด และน้ำมันเครื่องเอลฟ์” ที่มีรากฐานธุรกิจแข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยคุณภาพผลิตภัณฑ์มาตรฐานระดับโลกและบริการที่ลูกค้าต่างเชื่อมั่น..ในคำมั่นสัญญาของสิทธิผล ที่จะสร้าง ประสิทธิผล ให้ลูกค้าพึงพอใจต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

นิสสัน เปิดตัวประธานคนใหม่อย่างเป็นทางการ ในงานเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชน



7 มิถุนายน 2555 – บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน “ประกาศผลประกอบการปีงบประมาณ 2554 และแนะนำ คุณ ทาคายูกิ คิมูระ ประธานคนใหม่” พร้อมกันนี้ทางบริษัทฯ ยังได้จัดงานเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์และกิจกรรมของบริษัทฯ ดัวยดีตลอดมาซึ่งผลประกอบการปีงบประมาณ 2554 ที่ผ่านมานิสสันมียอดขายทั่วโลกสูงเป็นประวัติการณ์ที่จำนวน 4.845 ล้านคันเติบโตขึ้น 15.8 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของทั้งตลาดทั่วโลก สำหรับประเทศไทย นิสสันมียอดขายทั้งปีอยู่ที่ 76,524 คัน เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน มา และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 9.2% เป็นไปเป้าหมายตามแผนธุรกิจ ภายใต้ชื่อ NMT Power Up 2016 ที่ได้ประกาศไว้เมื่อปีที่ผ่านมา 

นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ปิดปีงบประมาณ 2554 ด้วยยอดขายเดือนมีนาคมที่ 12,698 คัน นับเป็นยอดขายที่สูงสุด ตั้งแต่นิสสันก่อตั้งธุรกิจในประเทศไทย มาเป็นระยะเวลา 59 ปี และในปีงบประมาณ 2555 นี้ บริษัทคาดหวังที่จะสามารถบรรลุเป้าขายได้มากกว่า 100,000 คัน ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 10 เปอร์เซ็นต์ และตั้งเป้าที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ได้ภายในปี 2559 





ในปีนี้บริษัทฯ มีเป้าหมายในการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มขึ้นอีก 20 แห่งในเขตยุทธศาสตร์ที่สำคัญพร้อมไปกับการพัฒนาคุณภาพการให้บริการเพื่อรองรับความต้องการซื้อรถและสร้างความพึงพอใจ สูงสุดให้กับลูกค้า และสุดท้าย นิสสันเตรียมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวรถยนต์นั่งคอมแพ็คระดับกลาง แบบ 4 ประตู รุ่นใหม่ล่าสุดในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณนี้ และอีก 2 รุ่นใหม่ในปลายปีนี้ ซึ่งรวมถึงรถยนต์นั่งคอมแพ็คระดับกลางรุ่นใหม่ อีกหนึ่งตัวถังอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม

นาย ทาคายูกิ คิมูระ ยังได้รับการแต่งตั้งเป็น ประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ เอเซีย แปซิฟิค จำกัด และรองผู้จัดการใหญ่ส่วนภูมิภาคของทวีปเอเซียและโอเชียเนีย (ยกเว้นประเทศจีน ) อีกด้วย

นาย ทาคายูกิ มีประสบการณ์การทำงานทางด้านอุตสาหกรรมยานยนต์มามากกว่า 20 ปี และยังเคยดำรงตำแหน่ง ประธานบริษัท พีที.นิสสัน มอเตอร์ อินโดนิเซีย


นาย ทาคายูกิ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา และ ระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมโลหการ มหาวิทยาลัยโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

บางส่วนจากคำกล่าวท่านประธานบริษัทฯ ในงานขอบคุณผู้สื่อข่าว

“สวัสดีท่านสื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ผม ทาคายูกิ คิมูระ ประธานคนใหม่ของ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด วันนี้ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะมารายงานถึงผลประกอบการของนิสสันในปีที่ผ่านมา รวมทั้งเป้าหมายประจำปีงบประมาณ 2555…

วันนี้ นิสสันมียอดขายสูงสุดในตลาดรถอีโค คาร์ และเราจะยังคงมุ่งมั่นในการผลิตรถยนต์ที่มี คุณภาพระดับเดียวกับรถที่ส่งออกไปขายยังประเทศญี่ปุ่น พร้อมทำการส่งมอบรถให้กับลูกค้าอย่าง รวดเร็วตามกำหนด นิสสัน จะยังคงยืนหยัดอยู่เคียงข้างคนไทยต่อไป พร้อมดำเนินธุรกิจของเราด้วยวิสัยทัศน์ “เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” และในวันนี้ นอกจากการประกาศผลประกอบการธุรกิจแล้ว ผมใคร่ขอใช้โอกาสนี้ แนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการให้ทุกท่านได้รู้จัก

รถยนต์ คือ สิ่งที่ผมหลงใหลมาตลอด และผมได้สั่งสมประสพการณ์อยู่ในสายอาชีพนี้มาเป็นเวลานานถึงกว่า 20 ปีแล้ว ในความเห็นของผม รถยนต์ คืออุตสาหกรรมที่ท้าทายและต้องใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้ทั้งชีวิต พฤติกรรมการซื้อรถแตกต่างจากการซื้อสินค้าอื่นๆ เพราะลูกค้าใช้ทั้งเหตุผลและอารมณ์ในกระบวนการตัดสินใจเลือกซื้อ ด้วยประสบการณ์ของผมและ ทีมงานนิสสันประเทศไทยที่แข็งแกร่ง ผมเชื่อมั่นว่า เราจะสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ได้ตั้งไว้ หรือมากกว่านั้น

นอกเหนือจากความสนใจด้านรถยนต์แล้ว ผมยังชอบศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ทำให้ผมได้รับใบอนุญาตประกอบอาชีพ 2 ใบ คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์หรือ “ซอมเมอลิเย่” และมัคคุเทศน์ประจำชาติภาคภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ ผมยังเล่นแซกโซโฟน และมีความสนใจที่จะเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยอีกด้วย ก่อนที่ผมจะส่งมอบเวทีให้กับงานขอบคุณท่านสื่อมวลชนในค่ำคืนนี้ ในนามของบริษัท นิสสัน ประเทศไทย ผมขอแสดงความซาบซึ้งและขอกล่าว “ขอบคุณมากครับ” สำหรับการสนับสนุนด้วยดีของทุกท่านเสมอมา ขอบคุณมากครับ” 

สมาคมรถโบราณฯ ผนึกฟิวเจอร์พาร์ค จัด “งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 36” ชมรถหายากนับ 100 คัน 20-24 มิถุนายนนี้




สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ จัดงานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 36 (THE GLOSSY HERITAGE AWARDS 2012) ภายใต้แนวคิด องค์ประกอบที่ขาดไม่ได้" ชวนผู้สนใจและคนรุ่นใหม่สัมผัสโบราณทรงคุณค่ากว่าร้อยคัน 5 วันเท่านั้น ณ Alive Park Hall ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ยังคงเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นกับศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค จัดงานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 36 (THE GLOSSY HERITAGEAWARDS 2012) ละที่พิเศษยิ่งขึ้น คือ เพิ่มระยะเวลาจัดงานเป็น 5 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่สนเข้าชมและใกล้ชิดกับรถโบราณหาชมยากกว่าร้อยคัน

สำหรับแนวคิด องค์ประกอบที่ขาดไม่ได้” หรือ “Things We Cannot Do Without” มีที่มาจากการที่สมาคมฯ เล็งเห็นว่า เมื่อโลกล่วงเข้าสู่ยุคแห่งการผลิตและการบริโภค สินค้านานาชนิดก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คน ยิ่งกว่านั้นบางชนิดกลายเป็น “องค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะรถยนต์ นับเป็นนวัตกรรมที่โดดเด่นและผูกพันกับชีวิตคนเรามายาวนานกว่าสินค้าอื่นใด ขวัญชัย กล่าว

นายกสมาคมฯ เผยอีกว่า ภายในงานจะรวมรถโบราณ รถคลาสสิค และรถจักรยานยนต์โบราณที่หาดูยากกว่าร้อยคัน คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 400 ล้านบาท โดยไฮไลท์ของงานปีนี้ ได้แก่ MG VA ปี 1937 รถโบราณที่ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 132 กม./ชม. MG TB ปี 1939 ซึ่งเป็นรถก่อนสงครามโลกครั้งที่สองที่หายาก เพราะผลิตมาขายในตลาดแค่ปีเดียว เพียง 379 คันเท่านั้น  MG TF-1500 ปี 1955 รถหลังสงครามรุ่นสุดท้ายในอนุกรม“T” และใช้เครื่องยนต์ใหญ่ที่สุด  นอกจากนี้ยังมี รถโบราณ PEUGEOT รุ่นปี 1916      รถหลังสงคราม ARMSTRONG SIDDELEY HURRICANE ปี 1949 และ รถคลาสิ BENTLEY MULSANNE TURBO ปี 1982

ด้านรัตนา อนันทนุพงศ์ ผู้อำนวยการด้านการตลาด ผู้บริหารศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค กล่าวว่า เนื่องจากปีที่ผ่านมาประชาชนให้การตอบรับดีเกินความคาดหมาย และคาดหวังที่จะได้เห็นภาพบรรยากาศความน่าประทับใจเช่นนั้นอีกครั้ง ปีนี้จึงขยายเวลาจัดงานเป็น 5 วัน พร้อม เนรมิตบรรยากาศให้อบอวลไปด้วยกลิ่นไอของยุค 20s 70ซึ่งเป็นยุคเฟื่องฟูของเพลงและแฟชั่นเก๋ไก๋สไตล์เรทโทร ให้ผู้เข้าชมงานได้ดื่มด่ำและร่วมย้อนวันวานไปในยุคนั้นๆ
            
ปีนี้ฟิวเจอร์พาร์ค ได้เพิ่มสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น โดยการเข้าถึงรั้วมหาวิทยาลัยรอเขตรังสิต  ปทุมธานี เพื่อเชิญชวนนิสิต นักศึกษา ตลอดจนกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรม เพื่อศึกษาหาความรู้จากรถโบราณและรถคลาสสิค ทั้งด้านความเป็นมา จุดเด่นรูปลักษณ์ ตลอดจนสมรรถนะเครื่องยนต์ ซึ่งหาชมได้ยากยิ่งและจัดขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้น มั่นใจว่าปีนี้จะเต็มไปด้วยบรรยากาศที่คึกคักและได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมกว่า 200,000 คน” รัตนา กล่าวทิ้งท้าย

พลาดไม่ได้กับ งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 36 ผู้สนใจสามารถเข้าชมฟรี  Alive Park Hall ชั้น G ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค ระหว่างวันที่ 20 - 24 มิถุนายนศกนี้

สุดยอดนวัตกรรม จากัวร์ XJ Ultimate ที่เปิดตัวครั้งแรกในงานปักกิ่งมอเตอร์โชว์

สุดยอดนวัตกรรม จากัวร์ XJ Ultimate ที่เปิดตัวครั้งแรกในงานปักกิ่งมอเตอร์โชว์ กับการผสมผสานระหว่างความหรูหราปราณีต และเทคโนโลยี ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเข้าด้วยกันอย่างลงตัว บวกกับเทคโนโลยี Entertainment ที่มาพร้อมกับ  iPad ถึง 2 เครื่อง โดยสามารถใช้งานได้ทั้งที่เบาะหลัง และยังสามารถชาร์ตไฟเพื่อนำไปใช้งานนอกตัวรถได้อีกด้วย 
พิเศษยิ่งขึ้นกับสุนทรียภาพในการเดินทางของห้องโดยสาร ที่มาพร้อมความสะดวกสบายและบ่งบอกถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้ขับขี่ กับคอนโซลกลางที่แยกอิสระระหว่างห้องโดยสารซ้าย-ขวา พร้อมด้วยเบาะหลังที่ปรับนวดได้ถึงสี่ทิศทาง และตู้เย็นที่สามารถแช่เครื่องดื่มเย็นๆ ขนาด 1.5 ลิตร และระบบสุดยอดเครื่องเสียง Meridian 825 W ที่เป็นมาตรฐานของรถยนต์จากัวร์ XJ Ultimateคันนี้
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่ http://www.jaguar.com/gl/en/allnewxj/models_features/models/xj_ultimate/)

BENZ NK เปิดเบนซ์ C63 AMG COUPE เวอร์ชั่นพิเศษ PERFORMANCE PACKAGE PLUS+


              เพื่อตอบรับกับแผนการตลาดเชิงรุก Revolution to The New Era เบนซ์ เอ็น.เค. ออโต อิมพอร์ต ได้นำเข้าเบนซ์สปอร์ตคูเป้ตัวโหด The New C63 AMG Coupe เวอร์ชั่นพิเศษ“Performance Package Plus+อัพเกรดความแรงเหนือกว่ารุ่น C63 AMG มาตรฐาน พร้อมภายในตกแต่งพิเศษแบบ Designo Design เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่รักความแรงโดยเฉพาะ
นายพิตินันทน์ กฤษดาธานนท์ กรรมการผู้จัดการ เบนซ์ เอ็น.เค. ออโต อิมพอร์ต เปิดเผยว่า ทางบริษัทต้องการตอกย้ำนโยบายที่ต้องการสร้างประสบการณ์พิเศษใหม่ๆให้กับลูกค้า รวมถึงนโยบายการทำตลาดที่ชัดเจน โดยต้องการให้เป็นศูนย์รวมเบนซ์ ครบทุกรุ่น ทุกคลาส ครบทุกความต้องการ และเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความแรงเหนือระดับ ขณะนี้ ทางบริษัทได้นำเข้าเบนซ์ C63 AMG COUPE โดยสั่งมาเป็นเวอร์ชั่นพิเศษPerformance Package Plus+  ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ เครื่องยนต์ AMG 6.3ลิตร V8 เหนือกว่ารุ่นมาตรฐาน พร้อมอัพเกรดความแรงเพิ่มขึ้นถึง 3แรงม้า จาก 457 เป็น 487 แรงม้า แรงบิดมหาศาลถึง 600 นิวตันเมตรที่ 5000รอบต่อนาทีอัตราเร่ง 0-100 กม/ชมใน4.4 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกล็อคไว้ที่ 250กม/ชมระบบเกียร์พิเศษ AMG SPEEDSHIFT MCT 7Speed ที่ช่วยส่งกำลังได้เร็วขึ้น โดยใช้คลัตช์ถึงสองตำแหน่งในการส่งถ่ายแรงม้า จากเครื่องลงสู่พื้นถนน

ความพิเศษเพิ่มเติมที่มาพร้อมกับ Performance Package Plus+ คือชุดแต่ง AMG Carbon Fiber รอบคัน ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษจากโรงงาน AMG ด้วยชุดโป่งล้อหน้าซ้าย-ขวา ที่ถูกขยายออกให้กว้างขึ้นกว่าเดิมอยู่มาก  รับกับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมช่องดักลมด้านข้าง  ฝากระโปรงหน้าขนาดใหญ่ขึ้น และสันฝากระโปรงดีไซน์โหดเพื่อรองรับเครื่องยนต์ขนาด 6.3ลิตร สปอยเล่อร์ฝาท้ายคาร์บอนเคฟล่าน้ำหนักเบา เสริมความดุดันกับCaliper Brake AMG สีแดง ด้านหน้า 6 Pot พร้อมจานเบรกคาร์บอนเซรามิคขนาดใหญ่ถึง 360มม. Caliper หลัง 4 Pot จานเบรกขนาด 330มม.พวงมาลัยหุ้มหนัง Alcantara, เบาะ AMG Racing Seat, ช่วงล่าง AMG Sport Plus, ชุดท่อไอเสีย AMG Sport Exhaust System และ ล้อแม็ก AMG ขอบ 19 นิ้ว จับคู่กับยาง 235/35/19 ที่ด้านหน้า และ 255/30/19 ที่ด้านหลัง

ภายในห้องโดยสารสั่งตกแต่งพิเศษแบบ Designo Design เพิ่มอารมณ์สปอร์ตผสานกันระหว่างความหรูหราและดุดันของ Nappa Leather และ Alcantara เข้าด้วยกัน พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและออปชั่นแบบเต็มๆ อาทิ ไฟหน้าอัจฉริยะ ILS ( Intelligent Light System )จอ Command Online พร้อมเชื่อมต่อฟังชั่นอินเตอร์เน็ตผ่านระบบ Bluetooth, หลังคาแก้วแบบ Panoramic Glass Roof, เครื่องเสียง Harman Kardon,เสริมความปลอดภัยสูงสุดด้วยอ็อพชั่น Lane Tracking Package มาพร้อมฟังชั่น Blind Spot Assist และ Lane Keeping Assist

พบที่สุดของพลังการขับเคลื่อน The New C63 AMG Coupe Performance Package Plus+ สัมผัสตัวจริงพร้อมรับรถได้ทันที ที่โชว์รูม BENZ N.K. โดยมีให้เลือกสองสีสุดฮอตกับ สีขาว Diamond White และ สีดำObsidian Black ในราคาที่คุณสัมผัสได้ ชมรูปภาพพร้อมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.benznk.com หรือที่ Call Center 02-885-7755

เซ็นทรัลเวิลด์ จัดงาน “ฟอร์เอเวอร์ คาบริโอเลท์ 2012” สัมผัสความหรูหรา ของรถคลาสสิค พบสุดยอดยนตรกรรมแห่งกาลเวลาหนึ่งเดียวในไทย



30 พฤษภาคม 2555 - ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จัดงาน Forever Cabriolet 2012 @ CentralWorld งานแสดงสุดยอดรถคลาสสิคหนึ่งเดียวในประเทศไทย ในคอนเซ็ปต์ “ดิ อัลติเมท ลักซูรี่ คาร์” (The Ultimate Luxury Car) เผยโฉมรถคลาสสิครุ่นไฮไลท์เป็นรุ่นหายากหนึ่งเดียวในประเทศ กว่า 18 คัน พร้อมไฮไลท์พิเศษ ที่ไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน ภายในงานเปิดตัวด้วยดาราสาวสุดฮ็อต ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ ที่มาปรากฏกายเคียงข้างรถคลาสสิคสุดพิเศษ พร้อมโชว์ลีลาในบทเพลงสุดเพลิดเพลินจาก วงมัสคีเทียร์ (Musketeers) โดยมีเซเลบริตี้ผู้หลงใหลในรถคลาสสิค อาทิ สยาม-คริสติน่า เศรษฐบุตร, ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา, บุญชัย คงปักไพศาล, ชัญญ่า ทามาดะ,ศรัยฉัตร กุญชร จีระแพทย์, ปณิธี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา, กัญญารัตน์ พลาดิศัย, ดร.เชษฐา ส่งทวีผล, ชนัญชิตา เจริญศิริ, กรณ์วิภา โชติกเสถียร, ไอลฎา ศศิประภา, กฎทัสน-วิภาดา ธรรมชัยปราการ, ดร.อุสาห์ สวัสดิ์-ชูโต และ พจน์ วิจิตรานนท์ ร่วมงานด้วย




อิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์จะมีการจัดงาน Forever Cabriolet 2012 @ CentralWorld ขึ้นในคอนเซ็ปต์ The Ultimate Luxury Car เพื่อเป็นการตอกย้ำ ความเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ แลนด์มาร์ค ซึ่งภายในงานได้มีการจัดแสดงโชว์รถคลาสสิคในรุ่นซึ่งเป็นรถหรูที่หาดูได้ยาก พร้อมแสดงข้อมูลของรถให้ผู้ที่มาร่วมงานได้รับทราบข้อมูลของรถต่างๆ โดยรถคลาสสิคที่นำมาจัดแสดง ส่วนหนึ่งได้รับความอนุเคราะห์จาก สยาม- คริสติน่า เศรษฐบุตร, ดร.อุสาห์ สวัสดิ์-ชูโต และ พจน์ วิจิตรานนท์ 




สำหรับรถรุ่นไฮไลท์ที่จะนำมาจัดแสดง อาทิ Bentley Continental S1 fastback coupe ปี 1957, Rolls-Royce Silver Wraith ปี 1947, Ferrari246 GTS Dino, Porsche 356 ปี 1961, Mercedes Benz 30 SL gullwing ปี 1955, MG Magna L1 ปี 1933, Citroen 2 CV เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจำหน่ายหนังสือ “THAILAND’S ULTIMATE CLASSIC CARS” หนังสือรวบรวมรถคลาสสิคที่หายากในประเทศไทย 25 คัน มีเนื้อหาแสดงให้เห็นในทุกแง่มุมโดยเฉพาะด้านรายละเอียดของรถและความพิเศษของรถแต่ละคัน โดยผู้จัดทำหนังสือเล่มนี้ได้รับ พระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บันทึกรูปรถยนต์แข่งยี่ห้อ“ERA–ENGLISH RACING AUTOMOBILES ชื่อ “หนุมาน II” ซึ่งเคยเป็นรถยนต์แข่งของ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช (พ.พีระ) โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดจำหน่ายหนังสือภายในงานนี้ เมื่อรวมกันกับรายได้จาก ความร่วมมือร่วมใจของบุคคลที่มีชื่อเสียงที่มาร่วมงาน จะนำไปซื้อรถเข็น หรือ WHEEL CHAIR ให้กับเด็กพิการ จำนวน 84 คัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมมายุ 84 พรรษา ในปี 2554 และเป็นการแสดงน้ำใจที่เต็มเปลี่ยมด้วยพลังแห่งความดีงามของกลุ่มคนที่ชื่นชอบในความสวยงามและความมีเสน่ห์ของ CLASSIC CARS ให้กลับคืนสู่สังคม เป็นสังคมที่สวยงามและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันเช่นดั่งเดิม


“ตงฟง V27” รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง (Compact MPV) หนึ่งในตระกูล “V-Series”



ค่ายรถยนต์ ตงฟง มอเตอร์ส แนะนำ “ตงฟง V27” รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง (Compact MPV) หนึ่งในตระกูล “V-Series” สู่ตลาดเมืองไทยเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ เพื่อขยายฐานลูกค้าในประเทศสู่ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ให้ครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มั่นใจได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากตลาด

นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ นายแสงอรุณ ธนาดำรงศักดิ์ ประธานกรรมการผู้จัดการ จากค่ายรถยนต์ ตงฟง มอเตอร์ส พร้อมด้วย นายจาง ซิง เยียน (Mr. Zhang Xing Yan) รองผู้อำนวยการใหญ่จาก บริษัท DFSK Motors (China) ร่วมแถลงข่าวแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ “ตงฟง V27” รถยนต์อเนกประสงค์ 5 ประตู 7 ที่นั่ง เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2555 ที่โรงแรม เรอเนสซองซ์ กรุงเทพ

สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ “ตงฟง V27” นั้นเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 5 ประตู 7 ที่นั่ง (Compact MPV) หนึ่งในตระกูล “V-Series” ที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากทั่วโลกโดยได้รับรางวัลต่างๆมาแล้วมากมาย จึงสามารถช่วยยืนยันถึงความสำเร็จของ “ตงฟง V27” ได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารและรูปลักษณ์ภายนอก โดยรถยนต์ “ตงฟง V27” เป็นรถขนาดเล็กที่ได้ถูกออกแบบให้มีความทันสมัยและคล่องตัวด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งผสมผสานความเป็นสปอร์ตอย่างลงตัว พร้อมด้วยระบบโครงสร้างที่แข็งแรงและกว้างขวางซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายของทุกคนในครอบครัว นอกจากนั้นยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยเครื่องยนต์ที่ปล่อยไอเสียน้อยและประหยัดกว่าด้วยเชื้อเพลิง 2 ระบบ (Dual Fuel) ที่สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ และหายห่วงเรื่องความปลอดภัยด้วยระบบก๊าซ LPG ที่ติดตั้งมาจากโรงงาน รวมไปถึงระบบความปลอดภัยต่างๆที่มีมากับตัวรถเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถมั่นใจได้ในทุกสภาพการเดินทาง

รถยนต์ “ตงฟง V27” จึงเป็นรถยนต์ที่มีความคุ้มค่าและเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งกับการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมืองด้วยรูปแบบของรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กที่มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมด้วยอรรถประโยชน์ใช้สอยสูงสุงที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 ที่นั่ง เบาะโดยสาร 3 แถว สามารถพับเพื่อเพิ่มเนื้อที่เก็บสัมภาระได้มากขึ้น สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เติมความสุขตลอดการเดินทางด้วยเครื่องเล่นวิทยุ DVD/CD/MP3 จอแอลซีดีฝังหมอนพิงศีรษะเบาะโดยสารคู่หน้าซ้าย/ขวา ควบคุมด้วยระบบรีโมทคอนโทรล ระบบปรับอากาศแบบ 2 ตอน ทั้งตอนหน้าและตอนหลังกระจายความเย็นทั่วทั้งห้องโดยสาร สะดวกยิ่งขึ้นด้วยประตูสไลด์ซ้าย/ขวา ก้าวขึ้นลงได้อย่างคล่องตัว ตอบรับในทุกความต้องการของชีวิตเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางสำหรับทุกคน รถยนต์ “ตงฟง V27” มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1,310 ซีซี พร้อมด้วยระบบจุดระเบิดแบบ EFI และหัวฉีดอิเลคทรอนิค ให้กำลังสูงสุด 81 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 102 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันด้วยเชื้อเพลิง2 ระบบ โดยระบบก๊าซ LPG ได้รับการติดตั้งมาจากโรงงาน


ในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์ ตงฟง มอเตอร์ส ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดย่อมในประเทศไทยที่ได้ใช้รถของเราในการประหยัดต้นทุนทางธุรกิจ สำหรับ “ตงฟง V27” รุ่นนี้ ทาง ตงฟง มอเตอร์ส มุ่งหวังที่จะขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นในตลาดประเทศไทยเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการใช้ยานยนต์ของ ตงฟง ในชีวิตประจำวันนอกเหนือจากการใช้เพื่อเชิงพาณิชย์เพียงอย่างเดียว ทั้งนี้เราเชื่อว่าความนิยมของยานยนต์ประหยัดพลังงานทั้งในภาคบุลคลและพาณิชย์ของประชาชนไทยในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงความพร้อมของผู้แทนจำหน่ายทั้ง 38 ที่ทั่วประเทศจะส่งผมให้รถยนต์ “ตงฟง V27” ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีอย่างแน่นอน นายพิทยา กล่าว

โดยลูกค้าสามารถเลือกเป็นเจ้าของความคุ้มค่าได้ทั้งหมด  3 รุ่น
ตงฟง  V27  1.3L  ราคา 499,000    บาท
ตงฟง  V27  1.3L DVD  ราคา 519,000    บาท
ตงฟง  V27  1.3L EQUIPPED ราคา 543,000    บาท

ทั้ง 3 รุ่นมี 3 สี ให้เลือก คือ เขียว Forest Green, เงิน Satin Silver และดำ Midnight Black

ตงฟง V27…..Free Yourself รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง สะดวกสบายภายใต้สมรรถนะแกร่ง

ห้ามพลาดงาน! บางกอก ซูเปอร์คาร์ แอนด์ ออโต้โชว์ 2012 ณ ศูนย์การค้า เดอะมอลล์บางแค 21-27 มิ.ย.นี้



บริษัท บ๊อบแม็กซ์ อีเว้น แอ่น เอ็กซิบิชั่น จำกัด ร่วมกับ เดอะมอลล กรุ๊ป จำกัด ระดมค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่พร้อมโชว์รูมรถนำเข้าและรถรถซูเปอร์คาร์ชั้นนำที่จะมาอวดโฉมภายในงาน บางกอก ซเปอร์คาร์ แอนด์ ออโต้โชว์ 2012 (BANGKOK SUPER CARS & AUTO SHOW 2012) งานนี้บริษัทรถแบรนด์ดังขนขบวนถหรูและรถรุ่นใหม่ล่าสุดมาโชว์กันอย่างเต็มสตรีม ซึ่งมาพร้อมกิจกรรมและโปรโมชั่นที่โดนใจที่รวมไว้ในงานเดียวเท่านั้นยังไม่พอ! เตรียมพบกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินดาราที่จะมาให้ความบันเทิงตั้งแต่วัน ศุกร์ที่ 22 มิถุนายน เวลา 15.00 น. ท่านจะได้พบกับคาราวานนางแบบสาวสวยเซ็กซี่ จากนิตยสารชื่อดัง ในวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน เวลา 15.00 น. ชมมินิคอนเสริต์จาก แคน-เดอะสตาร์, สต๊อป- เดอะสตาร์ ในวันวันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน เวลา 15.00 น. ชมมินิคอนเสริต์จาก ไมค์- พิรัชต์ และวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน เวลา 15.00 น.ชมมินิคอนเสริต์จาก พอร์ช - ศรัณย์ ที่จะมาร่วมสร้างความสนุกสนานให้ทุกท่าน และปรโมชั่นโดนๆ ของค่ายรถภายในงานที่นำมามอบให้คุณแบบจุใจ
ตั้งแต่วันที่ 21-27 มิถุนายน 2555 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ณ ลาน อีเว้นท์ ฮอล ชั้นG โซน A,B เดอะมอลล์ บางแค


ระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีน, Gasoline Fuel Injection System


ระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีน (Gasoline Fuel Injection System)
หมายเหตุ  

หัวฉีด (Injector) ในพจนานุกรมศัพท์ยานยนต์ ฉบับบัณฑิตยสถาน ๒๕๔๒ เรียกว่า "ตัวฉีด"
มาตรวัดการไหลอากาศ (Air Flow Meter) ในพจนานุกรมฯ เรียกว่า "มาตรอากาศไหล"
ตัวตรวจจับ (Sensor) ในพจนานุกรมฯ เรียกว่า "ตัวรับรู้"


รูปที่ 1 เครื่องยนต์ระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีนแบบหัวฉีดกลไกร่วมกับอิเล็กทรอนิกส์ (KE-Jetronic)

          เครื่องยนต์ระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีน (โดยทั่วไปแล้วใช้กับเครื่องยนต์แก๊สโซลีน 4 จังหวะ) ถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิดตามการทำงานของหัวฉีด (หรือตัวฉีด) ดังต่อไปนี้
          1.  หัวฉีดกลไก เริ่มถูกนำมาใช้กับรถยนต์เมอร์เซดิส-เบนซ์ (MERCEDES–BENZ) ตั้งแต่ปี พ.. 2497 (.. 1954) โดยเป็นแบบฉีดเชื้อเพลิงตรงเข้ากระบอกสูบ ต่อมาจึงพัฒนาเป็นการฉีดเชื้อเพลิงแบบฉีดโดยอ้อม คือฉีดเชื้อเพลิงที่ปลายท่อร่วมไอดี โดยคูเกลฟิสเชอร์ (Kugelfischer) ซึ่งระบบนี้เป็นการฉีดเชื้อเพลิงด้วยกลไก  (Mechanical Fuel Injection) 
            1.1  หัวฉีดกลไกล้วน (K–Jetronic ) ใช้กับวอลโว่ (VOLVO) และเมอร์เซเดส-เบนซ์  W-123
            1.2  หัวฉีดกลไกร่วมกับอิเล็กทรอนิกส์ (KE–Jetronic) ระบบนี้นำมาใช้ในประเทศไทยกับรถยนต์ เมอร์เซดิส-เบนซ์ W-124 (เช่นในรุ่น 190E, 230E และ 300E เป็นต้น) โดยเรียกชื่อย่อว่า CIS-E (Continuous Injection System-Electronic Adaptation of Mixture) ดังแสดงในรูปที่ 1  สำหรับตัวอย่างของระบบ KE-Jetronic นี้ในสหรัฐอเมริกาใช้กับรถยนต์ Ferrari GTSi QV ปี ค.ศ. 1984 
          2.  หัวฉีดไฟฟ้า หัวฉีดไฟฟ้าได้เริ่มนำมาใช้กับรถยนต์เมอร์เซดิส-เบนซ์ เมื่อปี พ.. 2511 (.. 1968) ออกแบบโดยบอสช์ (BOSCH) ต่อจากนั้นมา รถยนต์ของญี่ปุ่นจึงเริ่มใช้ในปี พ.. 2514 (.. 1971)
            ระบบการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้หัวฉีดไฟฟ้านี้ถูกเรียกว่าระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีนควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์หรือเรียกสั้น ๆ ว่า EFI (Electronic Fuel Injection)  เครื่องยนต์รุ่นเก่าบางรุ่นการฉีดเชื้อเพลิงจะเป็นแบบฉีดโดยอ้อม ถ้าหัวฉีดถูกติดตั้งที่ตัวเรือนลิ้นเร่งเรียกว่า การฉีดแบบจุดเดียว (Single Point Injection) หรือ SPI แต่บางบริษัทเรียกว่า การฉีดที่ตัวเรือนลิ้นเร่ง (Throttle Body Injection) หรือ TBI ดังแสดงในรูปที่ 2 สำหรับการฉีดเชื้อเพลิงแบบจุดเดียวนี้บางบริษัทใช้หัวฉีดเพียงหัวเดียวแต่บางบริษัทใช้ 2 หัว ระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบนี้รถยนต์ใหม่ในปัจจุบันไม่ผลิตแล้ว


รูปที่  2  หัวฉีดไฟฟ้าแบบจุดเดียว

            ระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีนควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากและใช้อยู่ปัจจุบัน คือหัวฉีดถูกติดตั้งที่ปลายท่อร่วมไอดีเรียกว่าการฉีดแบบหลายจุด (Multi Point Injection) หรือ MPI แต่มีบางบริษัทเรียกว่า การฉีดเชื้อเพลิงที่ท่อ (Port Fuel Injection) หรือ PFI ดังแสดงในรูปที่ 3

รูปที่ 3 หัวฉีดไฟฟ้าแบบหลายจุด
(จังหวะการฉีดเชื้อเพลิงมีอยู่ 3 แบบ)

            ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี ค.ศ.1996 โตโยต้าเริ่มพัฒนาต้นแบบเครื่องยนต์ระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีนเข้าห้องเผาไหม้โดยตรง เรียกระบบนี้ว่า D-4 ซึ่งหมายถึงการฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง 4 โหมด (4 Modes Direct Injection  Gasoline) แต่มิตซูบิชิได้ผลิตเครื่องยนต์ระบบเดียวกันนี้ใช้เชิงพาณิชย์เมื่อปี ค.ศ.1997 โดยเรียกระบบว่า GDI (Gasoline Direct Injection) ซึ่งต่อมาหลายบริษัทได้พัฒนามาใช้จนถึงปัจจุบันโดยเรียกหลายชื่อเช่น Petrol Direct Injection หรือ Direct Petrol Injection หรือ Spark Ignited Direct Injection (SIDI) หรือ Fuel Stratified Injection (FSI)
          ระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีนควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EFI) สามารถแบ่งตามวิธีการตรวจจับปริมาณอากาศที่ประจุเข้ากระบอกสูบได้ 2 แบบ คือ
          2.1  ระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบ L (L-Type EFI หรือ L–Jetronic) (L มาจากภาษาเยอรมันว่า Lüft Mengen Messer หมายถึงวัดส่วนผสมจากอากาศ) EFI แบบ L นี้ใช้การตรวจจับปริมาตรของอากาศที่ประจุเข้ากระบอกสูบจากมาตรวัดการไหลอากาศ (หรือมาตรอากาศไหล(Air Flow Meter) หรือบางบริษัทเรียกว่า มาตรวัดมวลอากาศ (Air Mass Meter) เป็นสัญญาณหลักที่ส่งเข้าหน่วยควบคุมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Control Unit) หรือ ECU  โดย ECU จะประมวลผลร่วมกับสัญญาณความเร็วรอบเครื่องยนต์และอื่น ๆ แล้วกำหนดปริมาณการฉีดเชื้อเพลิงของหัวฉีด  สำหรับมาตรวัดการไหลอากาศนั้นมีอยู่ 4 ชนิด คือแบบครีบหรือแผ่นวัด (Flap หรือ Vane) แบบคลื่นไหลวนคาร์มาน (Karman Vortex) แบบขดลวดร้อน (Hot Wire) และแบบฟิล์มร้อน (Hot Film) ซึ่งมาตรวัดการไหลอากาศ 2 แบบแรกนั้นปัจจุบันเลิกผลิตแล้ว



รูปที่ 4  โครงสร้างระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบ  L

            2.2  ระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบ D (D–Type EFI หรือ D–Jetronic) (D มาจากภาษาเยอรมันว่า Druckfühler หมายถึงวิธีวัดจากความดัน) (EFI แบบ D นี้ ใช้การตรวจจับความดันอากาศในห้องประจุไอดีจากตัวตรวจจับความดันในท่อร่วมไอดี (Manifold Pressure Sensor) หรือเรียกได้ว่า ตัวตรวจจับ (หรือตัวรับรู้) สุญญากาศ (Vacuum Sensor) สำหรับรถยนต์ยุโรปและฮอนด้าจะเรียกว่า ตัวตรวจจับความดันสมบูรณ์ในท่อร่วมไอดี (Manifold Absolute Pressure Sensor) (MAP Sensor) ซึ่ง ECU จะประมวลผลของสัญญาณนี้ร่วมกันกับสัญญาณความเร็วรอบเครื่องยนต์และสัญญาณอื่น ๆ สำหรับการกำหนดปริมาณการฉีดเชื้อเพลิงโดยควบคุมระยะเวลาการฉีดเชื้อเพลิงที่หัวฉีด


รูปที่ 5 โครงสร้างระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบ D

ระบบฉีดเชื้อเพลิงด้วยอิเล็กทรอนิกส์แบบต่างๆ
            หน่วยควบคุมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือ ECU (Electronic Control Unit) หรือบางบริษัทเรียกว่า ECM (Electronic Control Module) ระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิม (Conventional EFI) หรือ EFI ธรรมดา ภายใน ECU ยังไม่ได้นำระบบไมโครคอมพิวเตอร์มาใช้ โดยใช้เพียงไอซีขยายสัญญาณการทำงาน (IC-Op Amp) ECU จึงมีหน้าที่ควบคุมการฉีดเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว จึงมิได้ควบคุมจังหวะการจุดระเบิด และความเร็วรอบเดินเบา (ที่จานจ่ายมีชุดเร่งไฟด้วยสุญญากาศ (Vacuum Advance) และชุดเร่งไฟด้วยกลไก (Mechanical Advance) ต่อมาได้นำระบบไมโครคอมพิวเตอร์มาใช้ใน ECU โดยมีหน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU 8 บิต (Bit) ทำให้ ECU มีความสามารถมากขึ้นด้วยการควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์มิใช่แค่ควบคุมระบบฉีดเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว (เช่นควบคุมอัตราส่วนผสมอากาศต่อเชื้อเพลิง, ควบคุมจังหวะและมุมการจุดระเบิด, ควบคุมความเร็วรอบเดินเบา, ควบคุมการประจุอากาศ และการวินิจฉัยข้อบกพร่องตัวเองเป็นต้น) โดยแต่ละบริษัทได้ตั้งชื่อเรียกระบบเหล่านี้ไว้เช่น
            ECCS (Electronic Concentrated Engine Control System) หรือระบบควบคุมเครื่องยนต์ด้วยศูนย์กลางทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นระบบของนิสสัน (NISSAN) เริ่มใช้ในปี  ..2522  (..1979)
            TCCS (Toyota Computer-Controlled System) หรือระบบควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ของของโตโยต้า เริ่มใช้ในปี พ..2526  (..1983)      
            PGM-FI (Programmed-Fuel Injection) หรือการฉีดเชื้อเพลิงด้วยโปรแกมของฮอนด้า (HONDA) 
            โมโทรนิค (Motronic) (Digital Motor Electronics) หรือ DME ซึ่งบอสช์ (BOSCH) เป็นผู้ผลิตให้กับหลายบริษัท เช่นบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) เริ่มใช้ในปี พ..2522 (..1979)

รูปที่ หน้าที่การควบคุมของ ECU

             ปัจจุบัน CPU ของ ECU มีระบบปฏิบัติการประมวลผล 32 บิต (Bit) มีหน้าที่ควบคุมการฉีดเชื้อเพลิงด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Fuel Injection) การจุดระเบิดล่วงหน้าด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Spark Advance) หรือ ESA ควบคุมความเร็วรอบเดินเบา (Idle Speed Control) หรือ ISC การวิเคราะห์ข้อบกพร่องตัวเอง (Self Diagnostic) ควบคุมระบบเสริมประสิทธิภาพต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ รวมทั้งยังสามารถควบคุมระบบการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ และควบคุมความเย็นของระบบปรับอากาศรถยนต์อีกด้วย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของเครื่องยนต์ EFI

คลิปที่ 1 การทำงานของเครื่องยนต์ระบบฉีดเชื้อเพลิงด้วยอิเล็กทรอนิกส์
(ขอขอบคุณที่มาของคลิปจากบางส่วนของไฟล์ภาพเคลื่อนไหวรักษาหน้าจอของ Deutz Engine)


คลิปที่ 2 การทำงานของหัวฉีด (หรือตัวฉีด) 
(ขอขอบคุณที่มาของคลิปจาก Wikipedia.com)
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved