Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

ยามาฮ่าเขย่าวงการรถจักรยานยนต์ไทยครั้งใหม่สุดยิ่งใหญ่!!! เนรมิต “Yamaha - Beyond The Limits” กลาง Motor Show พร้อมเปิดตัว Yamaha QBIX ครั้งแรกในโลก และ Yamaha YZF-R6 ด้วยราคาสุดเร้าใจ


ยามาฮ่าเขย่าวงการรถจักรยานยนต์ไทยครั้งใหม่สุดยิ่งใหญ่!!! เนรมิต “Yamaha - Beyond The Limits” กลาง Motor Show พร้อมเปิดตัว Yamaha QBIX ครั้งแรกในโลก และ Yamaha YZF-R6 ด้วยราคาสุดเร้าใจ

มร. ชิเงโอะ ฮายาคาวะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (คนที่ 4 จากซ้าย) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง ร่วมทำพิธีเปิดบูธยามาฮ่าภายใต้ “Yamaha - Beyond The Limits” ภายในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธาน การจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 (คนที่ 5 จากซ้าย) พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติระดับวีไอพีเข้าร่วมเปิดบูธยามาฮ่าอย่างเป็นทางการ โดยในปีนี้ยามาฮ่าเนรมิตบูธจัดแสดงภายใต้คอนเซ็ปต์ “Yamaha - Beyond The Limits” ตอกย้ำแนวคิดองค์กรในการสรรค์สร้างยนตรกรรม เพื่อก้าวข้ามทุกขีดจำกัด พร้อมเปิดตัวรถจักรยานยนต์สุดล้ำครั้งแรกในโลก Yamaha QBIX และ New YZF-R6 สุดยอดรถสปอร์คลาส 600 ซีซี ที่ทุกคนรอคอยด้วยราคาสุดเร้าใจ และพร้อมให้ชาวไทยได้สัมผัสก่อนใคร ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานีเมื่อเร็วๆ นี้


“วอลโว่” จุดอุณหภูมิความร้อนแรงตลาดรถพรีเมี่ยมหรู เตรียมเปิดตัว V90 ใหม่ เสริมทัพรถยนต์พรีเมี่ยมในตระกูล 90 (S90&XC90)


“วอลโว่” จุดอุณหภูมิความร้อนแรงตลาดรถพรีเมี่ยมหรูเตรียมเปิดตัว V90 ใหม่ เสริมทัพรถยนต์พรีเมี่ยมในตระกูล 90 (S90&XC90)

“วอลโว่” สร้างความโดดเด่นอย่างต่อเนื่องในรถตระกูล 90 หลังจากเปิดตัว XC90 และ S90 เมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา ล่าสุดเปิดปี 2560 สร้างกระแสความฮือฮาอีกครั้งกับการเปิดตัว V90 D4 Inscriptionใหม่ เคาะราคาอย่างเป็นทางการ4,190,000 บาท เสริมทัพรถตระกูล 60 กับความสปอร์ตด้วยการเปิดตัว XC60 D4 Dynamic Edition และเปิดตัวรถสมรรถนะสูง S60 T5 Polestar Performance และ V60 T5 Polestar Performance วอลโว่ผู้นำด้านความปลอดภัยอันดับ 1 ขอมอบข้อเสนอสุดพิเศษ ด้วยอัตราดอกเบี้ยเพียง 1% พร้อม ฟรี ประกันภัยชั้น 1นาน 1 ปี ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 9 เมษายน2560 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
วอลโว่ V90 ถือเป็นเอนกประสงค์สุดหรูรุ่นล่าสุดของรถยนต์ตระกูล 90 ถัดจากการเปิดตัวสองรุ่นก่อนหน้านี้ นั่นก็คือรถเอสยูวีสุดหรู XC90 ที่ได้รับรางวัลมาแล้วทั่วโลก และS90 รถพรีเมี่ยมซีดาน ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปไม่นานนี้ V90 นับเป็นการสานต่อตำนานรถเอสเตทที่เยี่ยมยอดและยาวนานของวอลโว่ที่เริ่มขึ้นเมื่อกว่า 60 ปีที่แล้วกับรุ่น Duett โดยวอลโว่ V90 ใหม่นี้ได้รุดหน้าไปไกลกว่านั้นในด้านความสวยงามการออกแบบที่เรียบโก้ วัสดุทั้งภายในและภายนอก รวมถึงความประณีตในการประกอบ สะท้อนรสนิยมผู้ขับขี่ที่เป็นเลิศ

นางสาวแอนเนท แอนเดอร์สัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “หลังจากที่เราได้เปิดตัวรถวอลโว่ใหม่ในตระกูล 90 ไปถึงสองรุ่นในปีที่แล้ว ทั้งรถเอสยูวีสุดหรู XC90 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคม และ S90 รถพรีเมี่ยมซีดานที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ในครั้งนี้วอลโว่พร้อมเสริมทัพรถยนต์ตระกูล 90 อย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวรถเอสเตทเอนกประสงค์สุดหรู V90 ซึ่งเป็นรถในตระกูล 90 รุ่นล่าสุด และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากทั่วโลก ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาดรถหรูและเพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของวอลโว่ในตลาดรถหรูและสอดคล้องไปกับทิศทางของแบรนด์กับสโลแกนที่ว่า “ก้าวไปไกลกว่า..เพื่อคุณ” (We go forward, for you) อีกด้วย”


วอลโว่ V90 ใหม่ ยังเจริญรอยตามความสง่างามของรุ่นที่เราเปิดตัวและประสบความสำเร็จไปก่อนหน้านี้อย่าง XC90 และ S90 โดยยังคงไว้ซึ่งเส้นสายดั้งเดิมที่เป็นแบบฉบับของวอลโว่ อาทิ ดีไซน์ไฟหน้าแอลอีดีทรงค้อนแห่งเทพเจ้าธอร์“Thor’s Hammer” หน้ากระจังใหม่ โลโก้สัญลักษณ์ธาตุเหล็ก Iron Mark และการสะกดคำว่าวอลโว่ อย่างบรรจงบนด้านท้ายรถ สิ่งที่โดดเด่นในรถเอสเตทคันนี้คือการปรับส่วนท้ายให้เป็นพื้นที่บรรทุกสัมภาระ พร้อมกับเสริมไฟท้าย L Shape ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถต้นแบบ Volvo ConceptEstate และเสริมหลังคาพาโนรามิค ซันรูปเพื่อเพิ่มความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร

รถพรีเมี่ยมซีดาน V90 ใหม่ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มของ Scalable Product Architecture (SPA) ซึ่งมีความยืดหยุ่น สามารถใช้เป็นพื้นฐานในการพัฒนารถโมเดลใหม่ๆ ได้หลากหลายรุ่น ทั้งยังพร้อมกับเทคโนโลยีการขับขี่กึ่งอัตโนมัติ และระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยที่สุดในตลาด อาทิ ระบบการตรวจจับสัตว์ใหญ่ (Large Animal Detection) ระบบป้องกันการตกถนน Run Off Road Mitigation ผสานการเชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อของวอลโว่ หรือSensus Connect ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนระบบ iOS ด้วยระบบ Apple CarPlay และเสริมทัพประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับเข้าไปอีกขั้นด้วยระบบเครื่องเสียง “Premium Soundโดย Bowers & Wilkins”

ความปลอดภัย และระบบ semi-autonomous drive

วอลโว่ V90 ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยในวงการรถยนต์อีกครั้งด้วยเทคโนโลยี City Safety ซึ่งปัจจุบันเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์วอลโว่ ทุกรุ่นโดยประสานการทำงานของเบรกอัตโนมัติกับระบบป้องการชนเพื่อให้ครอบคลุมอุบัติเหตุหลากสถานการณ์และช่วยให้คุณปลอดภัย

ทั้งนี้ระบบ City Safety ได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นในวอลโว่ V90 ด้วยการเสริมระบบการตรวจจับสัตว์ใหญ่ (Large Animal Detection) ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันหรือหลีกเลี่ยงการปะทะกับสัตว์ใหญ่ และยังเสริมความปลอดภัยด้วยระบบป้องกันการตกถนน Run Off Road Mitigation ที่ช่วยให้พวงมาลัยทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อให้ท่านคงแล่นอยู่บนถนน

นอกจากนี้ระบบ IntelliSafe ซึ่งเป็นเสมือนศูนย์ความปลอดภัยของรถวอลโว่ จะทำหน้าที่ดูแลและสั่งการระบบความปลอดภัยย่อยทั้งที่เป็นแบบแอ็คทีฟ (ก่อนเกิดเหตุ) และแพ็สซีฟ (หลังเกิดเหตุ) จึงช่วยวอลโว่ เป็นผู้นำด้านการขับรถโดยไร้ผู้ขับ (autonomous drive) อีกด้วย สำหรับ V90ใหม่นี้เราได้มีระบบ Pilot Assist หรือระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ที่ทำงานได้ถึงความเร็ว 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนถนนที่มีเส้นจราจรที่ชัดเจน ทั้งนี้ระบบ Pilot Assist เป็นอีกก้าวหนึ่งที่จะให้วอลโว่ บรรลุวิสัยทัศน์ Vision 2020 ที่ตั้งเป้าไว้ว่า ไม่ควรมีผู้ใดได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตในรถยนต์วอลโว่รุ่นใหม่อีกต่อไป



การเชื่อมต่อ: SENSUS CONNECT และBOWERS & WILKINS
รถวอลโว่คันใหม่ทุกคันตอนนี้สามารถเชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อของวอลโว่ หรือSensus Connect แผงคอนโซลสมัยก่อนจะเต็มไปด้วยปุ่มต่างๆ แต่ในรถรุ่นใหม่จะถูกทดแทนด้วยหน้าจอแบบสัมผัสที่ใช้งานง่ายขนาด 9 นิ้วและยังสามารถควบคุมผ่านปุ่มที่พวงมาลัยและคำสั่งเสียง ช่วยให้การเข้าถึงฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ต่างๆ ง่ายดายและรวดเร็ว ด้วยการผสานฟังก์ชั่น ระบบการนำทางและแอพพลิเคชั่นความบันเทิงภายในรถ เช่น TuneIn และ Local Search เป็นต้นSensus Connect เป็นระบบแรกของโลกที่สามารถทำงานกับ Apple CarPlay ที่ช่วยเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ระบบ iOS เช่น iPhone กับซอฟท์แวร์ที่มาพร้อมกับรถ ทำให้สามารถแสดงหน้าจอiPhone บนหน้าจอขนาด 9 นิ้วได้ นอกจากนี้ล่าสุดยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Auto Andriod ได้อีกด้วย

รถ V90 รุ่นใหม่ยังมาพร้อมกับระบบเครื่องเสียงที่ดีที่สุดในโลกระบบหนึ่ง “Premium Soundโดย Bowers & Wilkins” ระบบเสียงชั้นนำชุดนี้มาพร้อมกับแอมพลิฟายเออร์ 1400 วัตต์ คลาส Dระบบขยายเสียง 12 แชนเนล ลำโพงจำนวน 19ตัว และมีซับวูฟเฟอร์แยกออกมาอีกหนึ่งตัว ทำให้เสียงเบสมีความนุ่มลึกมากยิ่งขึ้น ระบบซับวูฟเฟอร์นี้จะประกอบด้วยเทคโนโลยีพิเศษสุดอย่าง'Room Transformation' ที่เป็นผลงานการพัฒนาร่วมกับ Dirac Research ซึ่งเป็นทีมผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ระบบเสียงของสวีเดน เทคโนโลยีนี้จะช่วยสร้างห้องเฉพาะสำหรับเสียงขึ้นใหม่ภายในรถยนต์ โดยมีรูปแบบของเสียง ให้เลือกถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ Studio, Individual Stage และ Gothenburg Concert Hall ที่สร้างสรรค์ประสบการณ์การได้ยินเหมือนในGothenburg Concert Hall



เทคโนโลยีเครื่องยนต์ Drive-E Powertrain
วอลโว่ V90 D4 Inscription ขับเคลื่อนด้วยระบบเครื่องยนต์ Drive-E และเครื่องยนต์ดีเซลแบบคอมมอนเรล พร้อมเทอร์โบคู่และเทคโนโลยีi-Art ของวอลโว่ โดยบล็อกเครื่องยนต์พื้นฐานที่คว้ารางวัลมาแล้วทั่วโลกและออกแบบโดยวอลโว่ เองเป็นขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดเพื่อสมรรถนะเครื่องยนต์ ค่าไอเสีย และ การประหยัดเชื้อเพลิงที่เหนือกว่า สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลจะเป็นรุ่น V90 D4 ซึ่งมีกำลังแรงสูงสุด 190 แรงม้าที่ 4,250 รอบต่อนาทีกับแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตรที่ช่วง 1,750 ถึง2,500 รอบต่อนาที ช่วยให้มีแรงเร่งออกตัวจากความเร็ว 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 8.2 วินาที แต่จิบเชื้อเพลิงน้อยนิดเพียง19.6 กิโลเมตรต่อลิตร และมีค่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 133 กรัมต่อกิโลเมตร

วอลโว่ได้เปิดตัว V90 D4 Inscription อย่างเป็นทางการด้วยราคา 4,190,000 บาท โดยลูกค้าสามารถจองและทดลองขับได้ภายในงานมอเตอร์โชว์ ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 9 เมษายน 2560 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี นอกจากนี้ภายในงานยังเสริมทัพลูกเล่นและความน่าสนใจใหม่ๆให้กับรถวอลโว่ตระกูล 60 ด้วยการเปิดตัวรูปโฉมใหม่ของ XC60 D4 Dynamic Edition และชุดแต่งพร้อมการเพิ่มสมรรถนะความแรงและเร็วของ วอลโว่ S60 T5 Polestar Performance และวอลโว่ V60 T5 Polestar Performance

สำหรับ XC60 Dynamic Edition เปิดราคาอยู่ที่ 3,179,000 บาท ด้วยรูปโฉมที่ทรงพลังสไตล์สปอร์ตยิ่งขึ้น โดยใช้โทนสีดำเข้ามาตกแต่งตัวรถทั้งภายในและภายนอก ประกอบด้วย

การตกแต่งภายนอก

o กันชนและแผงกระจังหน้าแบบใหม่

o ใต้กันชนท้ายแบบใหม่

o ท่อไอเสียรถแบบกลม

o ล้ออัลลอยแบบใหม่ - 18 นิ้ว สีดำเงา(Leda Glossy)

o สัญลักษณ์ของ “Dynamic Edition”

o มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ดำ (Onyx Black)ขาว (Ice White) และ เทา (Osmium Grey)

การตกแต่งภายใน

o พวงมาลัยสีดำทรงสปอร์ต

o แผงประตูสีดำ

o หนังหุ้มเบาะสีดำ

o แผงควบคุมส่วนกลางตกแต่งด้วยอลูมิเนียม

วอลโว่ XC60 Dynamic Edition มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1,969 ซีซี ขุมพลัง 190 แรงม้าที่ 4,250 รอบต่อนาที แรงบิด: 400 นิวตันเมตรที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 8 สปีดพร้อมเกียร์ทรอนิค (Geartronic)สมรรถนะโดยรวม คือ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลาเพียง 8.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยในเมืองและนอกเมือง 16.4 กม./ลิตร

ไม่เพียงเท่านี้ อีกปรากฎการณ์ที่วอลโว่จะมาตอกย้ำภาพในความคิดของทุกคนนอกจากรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยวแล้วเรายังมาพร้อมกับความแรงและเร็ว กับการเปิดตัววอลโว่ S60 T5Polestar Performance ที่ราคา 2,549,000 บาท และวอลโว่ V60 T5 Polestar Performance ที่ราคา 2,649,000 บาท สมรรถนะสูงแบบครบครันทำให้รถยนต์สัญชาติสวีเดนรายนี้ไม่เป็นสองรองใครในเรื่องความแรงและเร้าใจ ท่านเจ้าของรถวอลโว่ S60 และ V60 จะได้รับการเพิ่มสมรรถนะและปรับเปลี่ยนโฉมของรถ ซึ่งครอบคลุมช่วงล่าง(คอยล์สปริง โช๊คอัพ) ระบบไอดี ระบบไส้กรอง ระบบไอเสีย และล้ออัลลอยขนาด 8X19” พร้อมกับยาง Bridgestone Potenza ขนาด 235/40 R19 96W , สตรัทบาร์หน้าโดยทุกชิ้นส่วนได้รับการพัฒนาและทดสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ขับขี่ นอกจากนี้ ชุดComplete Performance Package ยังมีชิ้นส่วนที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างรูปโฉมของรถทั้งภายนอกและภายใน เช่น สปอยเลอร์หลัง สเกิร์ตหลังสีดำเงา กระจกส่องข้างสีดำ ชุดแต่งกาบข้างประตู ชุดขอบประตูพร้อมตราสัญลักษณ์ รวมไปถึง ชุดหัวเกียร์ และ แป้นคันเร่งและคันเบรกแบบสปอร์ตจาก Polestar

การเพิ่มสมรรถนะแบบ Polestar โฉมใหม่สำหรับเครื่องยนต์ Drive-E เพื่อประสบการณ์การขับขี่ใหม่ไม่เหมือนใครจากวอลโว่ ผลลัพธ์ของการเพิ่มสมรรถนะทำให้แรงม้ามากยิ่งขึ้นจากเดิม220 แรงม้า ที่ 5500 รอบต่อนาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ 1500-4000 รอบต่อนาทีเป็น 245แรงม้า ที่ 5500 รอบต่อนาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ 1500-4800 รอบต่อนาที อัตราเร่งทำเวลาได้ดีขึ้น การตอบสนองของคันเร่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความรวดเร็วและแม่นยำในการเปลี่ยนเกียร์ดีเยี่ยม รถสามารถทรงตัวได้ดีในเวลาเข้าโค้งด้วยความเร็ว ทำให้การขับขี่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

แคมเปญมอเตอร์โชว์ (27 มีนาคม – 9 เมษายน 2560)
เมื่อซื้อรถยนต์วอลโว่รุ่น S60 T5, S60 D4, XC60 T5, XC60 D4, V40 D4 Cross Country, V60 T5 , V60 D4 เราขอมอบข้อเสนอพิเศษ

ü อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1%

ü ฟรี ประกันภัยชั้น1 ฟรี นาน 1ปี

ü ฟรี บริการบำรุงรักษาฟรี (Volvo Maintenance)5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร

ü ฟรี บริการรับประกันคุณภาพ (Volvo Warranty)3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และ

ü ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Volvo Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี

พบกับ “วอลโว่” ที่สุดแห่งยนตกรรมสุดหรูผสานที่สุดแห่งความปลอดภัยระดับโลก ได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 9 เมษายน2560 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ที่บูธ A16 สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-305-4499 หรือWWW.VOLVOCARS.COM/TH

การเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โรลส์-รอยซ์ แบล็ค แบดจ์ ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2560

การเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โรลส์-รอยซ์ แบล็ค แบดจ์
ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2560




28 มีนาคม 2560กรุงเทพมหานครตัวแทนจากผู้นำด้านยนตรกรรมซูเปอร์ลักชูรีระดับโลกอย่างโรลส์-รอยซ์จะทำการเผยโฉม โรลส์-รอยซ์ แบล็ค แบดจ์ เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 จะสะกดทุกสายตาให้จับจ้องไปยังชาเลนเจอร์ ฮอลล์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อยลโฉมโรลส์-รอยซ์ เรธ แบล็ค แบดจ์ (Wraith Black Badge) ที่เป็นสุดยอดไฮไลต์ของงานในครั้งนี้

แบล็ค แบดจ์ เหมาะกับบรรดาลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กล้าฉีกกฎเกณฑ์และขบถต่อความเชื่อแบบเดิมๆ ผู้ซึ่งทุ่มเทเต็มที่ให้กับการทำงานในยามกลางวันแต่ก็ออกไปใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยงในยามค่ำคืนด้วย จิตวิญญาณของพวกเขาห้าวหาญไม่ต่างไปจากบรรดานักบุกเบิกอย่าง มูฮัมหมัด อาลี และผู้ก่อตั้งแบรนด์ ชารล์ส โรลส์ ผู้ซึ่งไม่ยึดติดกับธรรมเนียมของสังคมและเลือกที่จะท้าทายทุกขีดจำกัดเพื่อทำให้ความปรารถนาของตัวเองเป็นจริง

ด้วยความที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เต็มไปด้วยบรรดาเจ้าของกิจการรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งเป็นการฉีกกรอบประเพณีเดิมๆ เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของตนเองให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก โรลส์-รอยซ์ แบล็ค แบดจ์ จึงถือเป็นยนตรกรรมจากโรลส์-รอยซ์ที่เพิ่มความแข็งแกร่งและลึกลับยิ่งขึ้นเพื่อตอบโจทย์แนวคิดแห่งยุคนี้ พอล แฮร์ริส ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์สกล่าว

ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นคนที่มีความมั่นใจ มีความต้องการที่ชัดเจน และกล้าที่จะเป็นผู้นำ ดังนั้นแบล็ค แบดจ์ คือรถบีสโป๊กที่สามารถตอบโจทย์บรรดาเจ้าของรถและนักขับที่โดดเด่น เด็ดเดี่ยว และคล่องแคล่วกลุ่มนี้ได้ดีที่สุดในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งประสบการณ์การขับขี่อันล้ำเลิศแบบโรลส์-รอยซ์ได้อย่างสมบูรณ์

คุณสุนทรพันธ์ เดชะเทศ ผู้จัดการของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก เผยว่า แบล็ค แบดจ์ คือนิยามใหม่สำหรับผู้ขับขี่ ขณะนี้ฐานลูกค้าของโรลส์-รอยซ์กว้างขึ้นและมีอายุเฉลี่ยที่ต่ำลงกว่าแต่ก่อน กลุ่มลูกค้าของเราจึงประกอบไปด้วยอภิมหาเศรษฐีรุ่นใหม่ที่เกิดขึ้นจากการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสูง

เสน่ห์ที่ลึกลับและแข็งแกร่งขึ้นของ เรธ แบล็ค แบดจ์ คือสิ่งที่สะท้อนความสำเร็จของบรรดานักธุรกิจรุ่นใหม่เหล่านี้ เปรียบเสมือนการแสดงออกถึงตัวตนที่ชัดเจน และรางวัลสำหรับเส้นทางชีวิตที่พวกเขาได้เลือกแล้ว

โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยสีดำสนิท
การพลิกโฉมอย่างเฉียบคมจากโรลส์-รอยซ์ เรธ เป็น แบล็ค แบดจ์ เริ่มตั้งแต่สัญลักษณ์หน้ารถ Spirit of Ecstasy หรือก็คือ ‘Flying Lady’ อันโด่งดังซึ่งยังคงไว้ซึ่งรูปร่าง ลักษณะท่าทาง และวัสดุที่ใช้ผลิต โดยมีการปรับเปลี่ยนเพียงแค่สีสันเพื่อสื่อถึงเสน่ห์อันลึกลับของแบล็ค แบดจ์ เทพีองค์นี้ได้ถูกเปลี่ยนโฉมให้กลายรูปปั้นสตรีสีดำเงาวาววับที่แสนจะโฉบเฉี่ยวท่ามกลางบรรยากาศยามค่ำคืนของเมือง

ตราสัญลักษณ์รูปตัว สองตัวที่บริเวณด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังของเรธเปลี่ยนเป็นสีเงินและสีดำ ส่วนอุปกรณ์บนพื้นผิวรถซึ่งผลิตขึ้นจากโครเมียม เช่น ตะแกรงหน้ารถ ชุดครอบฝากระโปรงหลัง ชุดครอบช่องลมเข้า และท่อไอเสียถูกเปลี่ยนเป็นสีเข้มเพื่อให้กลมกลืนไปกับเงาที่ทอดมาจากท้ายรถ

ภายในตัวรถนั้น สีดำยิ่งปรากฏให้เห็นเด่นชัดจากการลงสีและแลคเกอร์เคลือบสีซ้อนทับกันหลายชั้นอย่างพิถีพิถันที่สุดด้วยมือเพื่อให้สีมีความชัดเจน ผลที่ออกมาจึงเป็นสีดำที่มืดสนิทยิ่งกว่าท้องฟ้ายามค่ำคืน ถือเป็นเฉดสีที่เข้มที่สุดที่รถยนต์เคยมีมา
ในฐานะที่บีสโป๊กคือส่วนหนึ่งของโรลส์-รอยซ์ แน่นอนว่าลูกค้าสามารถเลือกสีภายนอกและภายในโรลส์-รอยซ์ แบล็ค แบดจ์ ของตนได้ตามต้องการ

ความหรูหราที่ลึกลับยิ่งขึ้น
ความหรูหราอันลึกลับแผ่ซ่านไปทั่วห้องโดยสารของเรธ แบล็ค แบดจ์ นับตั้งแต่ส่วนกลางของรถซึ่งผลิตจากเส้นใยคาร์บอนที่ร้อยด้วยอลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในยานอวกาศ เส้นอลูมิเนียมที่หนาเพียง 0.014 มม. ถูกร้อยเรียงและยึดเข้าไว้ด้วยกันด้วยเส้นใยคาร์บอนจากกระบวนการที่ต้องอาศัยความพิถีพิถันเป็นอย่างสูง ผลที่ออกมาจึงเป็นวัสดุสำหรับยนตรกรรมระดับซูเปอร์ลักชูรีที่ล้ำยุคที่สุดในโลก

เครื่องหมายอนันต์ที่สื่อถึง ความไร้ขีดจำกัด’ ปรากฏอยู่ทั้งบนหน้าปัทม์ของรถ พนักพิงศีรษะ และปักอยู่บนเบาะที่นั่ง โดยเป็นทั้งสัญลักษณ์ของแนวคิดที่กล้าหาญและท้าทายของแบล็ค แบดจ์ หรืออาจสื่อถึงความเป็นปฏิปักษ์ต่อกฎเกณฑ์แบบเดิมๆ ของสังคมก็ได้เช่นกัน ในส่วนของการตกแต่งในขั้นตอนสุดท้ายนั้น ภายในรถจะมีแสงไฟสลัวๆ ที่ส่องมาจากเพดานสีดำลายดาวระยิบระยับ เสมือนแสงของยามสนธยาที่ปกคลุมไปทั่วห้องโดยสาร ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูลึกลับน่าค้นหามากยิ่งขึ้น

ขุมพลังที่สัมผัสได้
 เนื่องจากเรธเป็นโรลส์-รอยซ์ที่ทรงพลังที่สุดในโลกด้วยกำลัง 624 แรงม้า รถรุ่นนี้จึงเป็นยานยนต์ที่ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่มากที่สุดในบรรดายนตรกรรมรุ่นต่างๆ ในการสร้างสรรค์เรธ แบล็ค แบดจ์ ขึ้นมานั้น วิศวกรได้ผสานแรงบิดสูงพิเศษ (+70 นิวตันเมตรเข้ากับกำลังส่งออกระดับสูงที่มีอยู่ พร้อมระบบกันสะเทือนออกแบบใหม่ทั้งหมด เพลาขับรุ่นใหม่ และชุดเกียร์ 8สปีดที่ทรงพลังยิ่งขึ้นโรลส์-รอยซ์ได้สร้างสรรค์ยนตรกรรมเรธที่คล่องแคล่วและให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่มากกว่าเดิม โดยยังคงมาพร้อมกับเทคโนโลยี Rolls-Royce Magic Carpet Rideเพื่อความสบายในการขับขี่เอาไว้อย่างครบครัน

แบล็ค แบดจ์ ขับเคลื่อนบนท้องถนนผ่านเส้นใยแบบใหม่พิเศษที่ทำจากคาร์บอนและล้ออัลลอยน้ำหนักเบา ซึ่งใช้เวลาในการพัฒนากว่า 4 ปี ประกอบไปด้วยเส้นใยคาร์บอน 22 ชั้นวางซ้อนกันบนแกนทั้งสามและพับทบอีกชั้นหนึ่งจนเกิดเป็น 44 ชั้นที่แข็งแรงและสามารถต้านการสั่นสะเทือนได้ นอกจากนี้ ยังเสริมความแข็งแกร่งด้วยดุมล้อสามมิติที่ผลิตจากอลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอากาศยานและยึดเข้ากับขอบล้อด้วยสายรัดที่ผลิตจากไทเทเนียม

เรธ แบล็ค แบดจ์ ในกรุงเทพฯ
เรธ แบล็ค แบดจ์ ที่จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือตัวอย่างรถบีสโป๊กที่ใช้คู่สีที่ฉูดฉาดอย่างสีดำและสีแดงคอนสอร์ทเป็นสีเคลือบรถ ลูกค้าสามารถสั่งจองเพื่อเป็นเจ้าของโรลส์-รอยซ์ รุ่นเรธ แบล็ด แบดจ์ ภายในปี 2560 ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ราคาเริ่มต้นที่ 34.9 ล้านบาท
ราคาจะขึ้นอยู่กับลักษณะพิเศษที่สั่งทำ

ฮอนด้าทุ่มงบ 6 ล้านบาท พัฒนารถต้นแบบ Honda 150SS Racer สุดยอดยนตกรรมที่ผสานความเท่ร่ว มสมัยสไตล์โมเดิร์นคาเฟ่เรเซอร์ จัดเต็มเปิดตัวรถโมเดลใหม่พร้อม กัน 4 รุ่นในงานมอเตอร์โชว์ 2017


ฮอนด้าทุ่มงบ ล้านบาท พัฒนารถต้นแบบ Honda 150SS Racer สุดยอดยนตกรรมที่ผสานความเท่ร่ว มสมัยสไตล์โมเดิร์นคาเฟ่เรเซอร์ จัดเต็มเปิดตัวรถโมเดลใหม่พร้อม กัน 4 รุ่นในงานมอเตอร์โชว์ 2017

มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้ าในประเทศไทย แถลงข่าวเปิดตัวบูธ ภายใต้คอนเซ็ ปต์ Honda Hub of Lifester ศูนย์รวมแรงบันดาลใจขอ งเหล่าไบค์เกอร์ที่ต้องการออกแบ บไลฟ์สไตล์ด้วยตัวเอง พร้อมเปิดตัว Honda 150SS Racer รถต้นแบบที่ผสานความเท่ร่ วมสมัยสไตล์โมเดิร์นคาเฟ่เรเซอร์ ได้อย่างลงตัว และนำเสนอช็อปรู ปแบบใหม่ C.U.B. House ช้อปที่ให้คุณได้ออกแบบไล ฟ์สไตล์การใช้รถด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังยกทัพรถโมเดลใหม่แบ บจัดเต็ม เปิดตัวรวดเดียว 4 รุ่น ได้แก่ All New Honda Scoopy i , All New Honda CBR1000RR, Honda CB1100 และ Honda X-ADV ที่บูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้า M4 ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2017 ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม ถึงวันที่ 9 เมษายน 2560 ที่ชาเ ลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี

บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้ าในประเทศไทย เนรมิตพื้นที่บูธในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2017 ระหว่างวันที่29 มีนาคม ถึงวันที่ 9 เมษายน 2560 ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี ภายใต้คอนเซ็ปต์ Honda Hub of Lifester ศูนย์รวมแรงบันดาลใจของเหล่าไบค์ เกอร์ที่ต้องการออกแบบไลฟ์สไตล์ ด้วยตัวเอง เปิดตัวรถต้นแบบที่ผสานความเท่ร่ วมสมัยสไตล์โมเดิร์นคาเฟ่เรเซอร์ ได้อย่างลงตัวกับ Honda 150SS Racer ที่ใช้งบประมาณการพัฒนากว่า 6 ล้านบาท พร้อมนำเสนอช็อปรูปแบบใหม่ที่จะ มาสร้างคุณค่าและวัฒนธรรมการขั บขี่ใหม่ๆ ให้กับตลาดรถจักรยานยนต์ในประเท ศไทยกับ C.U.B. House ช้อปที่ให้คุณได้ออกแบบไลฟ์สไตล์ การใช้รถด้วยตัวเอง พร้อมยกทัพรถโมเดลใหม่แบบจัดเต็ ม อาทิ All New Honda Scoopy i , All New Honda CBR1000RR, Honda CB1100 และ Honda X-ADV

มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้ าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในฐานะที่ฮอนด้าเป็นผู้นำแห่งวง การรถจักรยานยนต์ไทยมาอย่างยาวน านถึง 28 ปีซ้อน และบริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ที่ต้องการพัฒนาและ ผลิตรถจักรยานยนต์เพื่อตอบสนองไ ลฟ์ไตล์ใหม่ๆ อยู่ตลอด ดังนั้น จึงไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาและนำเส นอนวัตกรรมใหม่ตามที่ประจักษ์สู่ สายตาผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างต่ อเนื่อง

“จากความต้องการของผู้ใช้รถจักร ยานยนต์ในประเทศไทยที่มีความเปลี่ ยนแปลงไปตามสมัยนิยม แต่เดิมที่ใช้รถในชีวิตประจำวัน สู่การขับขี่ในเชิงสันทนาการและ ต่อยอดสู่รูปแบบการใช้งานที่ หลากหลายมากขึ้น ในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ เราจึงออกแบบและสร้างบูธภายใต้ค อนเซ็ปต์ Honda Hub of Lifesterหรือศูนย์รวมของผู้ที่รักการใช้ ชิวิตในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเมื่อเข้ามาแล้วจะได้สัมผัส ประสบการณ์ใหม่ในแบบที่ตัวเองชื่ นชอบ"

“นอกจากนี้เรายังได้จำลอง New Concept Store ร้านมอเตอร์ไซค์รูปแบบใหม่ครั้ง แรกในประเทศไทย ซึ่งจะเปิดตัวเร็วๆนี้ภายใต้ชื่ อ C.U.B. House (คับ เฮ้าส์) โดยมีแนวคิดให้ช้อปแห่งนี้เป็น House of Creation ที่ไม่ใช่แค่ร้านจำหน่ายมอเตอร์ ไซค์ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าสา มารถเข้ามามีส่วนร่วม ออกแบบไลฟ์สไตล์ของตัวเองกับฮอน ด้าได้อีกด้วย”

ในส่วนของการจัดแสดงรถจักรยานยน ต์ไฮไลท์สำคัญของงาน ได้แก่ รถต้นแบบ Honda 150SS Racer คิดค้นโดยทีมวิจัยและพัฒนา ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี ประเทศไทย ภายใต้แนวคิด Street Sport Racing รวมความเท่และร่วมสมัยในสไตล์ Modern Café Racer ผสานความเร็ว แรง และปราดเปรียวจากสนามแข่งสู่สุด ยอดแรงบันดาลใจแห่งการขับขี่ในโ ลกอนาคต
ตามด้วยการเปิดตัวโมเดลใหม่ All New Honda Scoopy i รถ เอ.ที.ยอดนิยมของคนไทยที่ได้รับ การออกแบบใหม่ในสไตล์มินิมอล นำเทรนด์ด้วยฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโ ลยี เครื่องยนต์ eSP ขนาด 110 ซีซี. 4 จังหวะ ระบบหัวฉีด PGM Fi ระบายความร้อนด้วยอากาศ ระบบหยุดเครื่องยนต์อัจฉริยะ (idling stop system) เทคโนโลยีกระจายแรงเบรค (Combi Brake system) และครั้งแรกของรถจักรยานยนต์กับ ฟั่งก์ชั่นใหม่ ไฟแจ้งเตือน Eco Mode เมื่อเข้าสู่โหมดการขับขี่แบบปร ะยัดน้ำมัน โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED Projector แบบ Ring Light ไฟท้ายแบบบิ้วท์อินติดตั้งไฟเลี้ยวในตัว เพิ่มที่ชาร์จ AC Socket ใต้คอนโซลหน้า และพื้นที่เก็บของใต้เบาะ U- box แบบจุใจถึง 15.4 ลิตร ราคาแนะนำเริ่มต้นโดยประมาณที่ 51,100 บาทในรุ่น Club 12, 48,600 ในรุ่น Prestige และ 48,100 ในรุ่น Urban team

ขณะที่กลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดให ญ่หรือบิ๊กไบค์ นำทัพโดย รถจักรยานยนต์อเนกประสงค์ New Honda X-ADV ที่ได้รับการพัฒนามาจากแนวคิด Go Everywhere with Excited feeling พกพาคุณสมบัติเด่นด้วยเครื่องยน ต์ 4 จังหวะ 2 สูบ ขนาด 750 ซีซี. พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีการส่งกำลั งด้วยระบบDCT แบบคลัตซ์คู่ สามารถตอบสนองการใช้งานทั้งในเมื องและนอกเมือง ตลอดจนรูปแบบออนโร้ดหรือออฟโร้ด เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายเป็นครั้ งแรก ราคา415,000 บาท

ถัดมาเป็นการเปิดตัวคลาสสิกไบค์ ระดับตำนาน All New Honda CB1100 เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 1,140 ซีซี. โมเดลล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในต่ างประเทศ ซึ่งเป็นโฉมที่ได้รับการพัฒนาด้ านรูปลักษณ์ให้มีความสปอร์ตยิ่ง ขึ้น จากถังน้ำมันดีไซน์ใหม่ที่มีควา มปราดเปรียว ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED เช่นเดียวกับสมรรถนะการควบคุมที่ดีขึ้น จากการรีดน้ำหนักตัวรถโดยรวมที่ ลดลง 5กิโลกรัม พร้อมกับการลดแรงบีบคลัทช์ลง 16% ช่วยให้ขับขี่ง่ายขึ้น พร้อมวางจำหน่ายราคาพิเศษเฉพาะช่ วงเปิดตัว โดยมี 2 รุ่นให้เลือก CB1100EX ราคา549,000 และรุ่นใหม่ CB1100RS ราคา 559,000 บาท

สำหรับอีกหนึ่งรุ่นสำคัญ คือ All New Honda CBR1000RR ซูเปอร์สปอร์ตไบค์ที่ถ่ายทอดเทค โนโลยีจากสนามแข่งสู่การขับขี่ บนท้องถนน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยน ต์ 4 สูบเรียง ขนาด 1,000 ซีซี. ได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบา มีอัตราส่วนกำลังอัดที่ 13.0 สามารถทำกำลังสูงสุดได้ 141 กิโลวัตต์ที่ 13,000รอบต่อนาที พร้อมวางจำหน่าย ราคา 643,000 บาท รวมถึงยังมีเวอร์ชั่น SP ซึ่งเป็นรุ่นท็อปที่อัพเกรดสมรร ถนะเทียบเท่ารถที่ใช้ในการแข่ งขัน จัดแสดงพร้อมวางจำหน่ายในประเทศ ไทยเป็นครั้งแรก ราคา 779,000 บาท

ขณะเดียวกันฮอนด้ายังจัดแสดงรถ ที่จะใช้ลงทำการแข่งขัน รายการSuzuka 4 Hrs Endurance ตามที่เคยประกาศนโยบายมอเตอร์สป อร์ตประจำปี2017 ไปแล้วว่า ต้องการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทั้ง นักแข่งและทีมช่างโค้ชรวมถึงสมา ชิกในทีมแข่งอย่างเป็นระบบ เพื่อก้าวสู่รายการแข่งขันระดับ โลก และยังได้ผสานความร่วมมือกับ Kushitani แบรนด์ผู้เชี่ยวชาญการผลิตชุดเร ซซิ่งสูทในการออกแบบชุดแข่งให้ กับทีม A.P. Honda Racing Thailand สำหรับลงชิงชัยในเกมการแข่งขันที่ ทรหดที่สุดรายการนี้อีกด้วย

ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมบูธรถจั กรยานยนต์ฮอนด้าได้ที่บูธ M4 ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2017 ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ถึงวันที่ 9เมษายน 2560 ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.aphonda.co.th และ www.face book.com/hondamotorcyclethaila nd และฮอนด้าบิ๊กไบค์https://www.facebook.com/Honda BigBikeTH

“เอช เซม มอเตอร์” เปิดบูธ “SEV” เปิดตัวครั้งแรก รถกอล์ฟไฟฟ้าพวงมาลัยขวา พลังงานแสงอาทิตย์ และระบบชาร์จไร้สาย ในงานมอเตอร์โชว์ 2017


เอช เซม มอเตอร์” เปิดบูธ SEV
เปิดตัวครั้งแรก  รถกอล์ฟไฟฟ้าพวงมาลัยขวา พลังงานแสงอาทิตย์
และระบบชาร์จไร้สาย ในงานมอเตอร์โชว์ 2017

เอช เซม มอเตอร์” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะพุ่งทะยานสู่โลกแห่งเทคโนโลยียานยนต์ พร้อมเผยโฉมเป็นครั้งแรก รถกอล์ฟไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์” และ WIRELESS CHARGERระบบชาร์จพลังงานแบบไร้สาย สัญชาติไทย ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 ตั้งแต่วันนี้ – 9 เมษายน 2560
คุณวันชัย ลี้นะวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงาน และการเป็นพลังงานที่สะอาด เราจึงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์รถไฟฟ้ SEV (Siam Electric Vehicle) ให้สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ ไทยแลนด์ 4.0 และทิศทางตลาดโลก ด้วยการเปิดตัวรถกอล์ฟไฟฟ้าพวงมาลัยขวา พลังงานแสงอาทิตย์” และระบบชาร์จพลังงานแบบไร้สายWIRELESS CHARGER” เป็นครั้งแรก ณ บูธ SEV(A17/1) ภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38
รถกอล์ฟไฟฟ้า พวงมาลัยขวา พลังงานแสงอาทิตย์ มีขนาดตั้งแต่ 2 ที่นั่ง ถึง 23 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 48 โวลต์ 3 กิโลวัตต์ ใช้เวลาในการชาร์จไฟฟ้า 6-8 ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทาง 60 กิโลเมตร พร้อมติดตั้งแผงโซล่าเซลล์เพื่อช่วยประหยัดพลังงานจากการชาร์จไฟฟ้า โดยสามารถประหยัดพลังงานได้สูงสุดถึง 35 เปอร์เซ็นต์ ลูกค้าสามารถเลือกขนาดของแผงโซล่าที่จะติดตั้งได้ขึ้นอยู่กับขนาดและความต้องการของการใช้งาน เริ่มตั้งแต่ขนาด 180-600 วัตต์ สำหรับราคา รถกอล์ฟพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 2 ที่นั่ง ราคาคันละ 250,000 บาท
สำหรับระบบชาร์จพลังงานแบบไร้สายWIRELESS CHARGER สามารถส่งสัญญาณชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย มีส่วนประกอบหลัก 2 ส่วนคือ อุปกรณ์รับสัญญาณแบบไร้สายโดยติดตั้งที่ด้านขวาของตัวรถ และแท่นส่งสัญญาณเพื่อส่งพลังงานการชาร์จจากแท่นส่งสู่อุปกรณ์รับสัญญาณ ซึ่งการคิดค้นระบบชาร์จพลังงานแบบไร้สายนี้ทำขึ้นเพื่อประหยัดเวลาและพลังงานในการชาร์จไฟฟ้าจากการเสียบปลั๊กเข้าไฟบ้านทั่วไป เพียงผู้ขับขี่รถไฟฟ้าขับรถมาจอด ณ บริเวณที่มีWIRELESS CHARGER ก็สามารถชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ได้ทันที สะดวก ง่ายดาย และประหยัด
นอกจากนั้น ภายในบูธได้จัดแสดงรถไฟฟ้าSEV รุ่นอื่น อาทิ รถสามล้อไฟฟ้า จอแอลอีดี สำหรับเป็นรถโฆษณาเคลื่อนที่ รถสามล้อไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์สำหรับขนสินค้าภายในฟาร์ม รถสามล้อไฟฟ้าสำหรับผู้สูงอายุ เป็นต้น ด้านรถสามล้ออเนกประสงค์ STC (Siam Tricycle) นำรถสามล้อ Food Truck มาจัดแสดง มีทั้งแบบมาตรฐาน หรือ จะเป็นแบบสั่งทำพิเศษ โดยบริษัทมีสถาปนิกให้ความช่วยเหลือและนำเรื่องการออกแบบ เพื่อให้รูปลักษณ์ออกมาตรงกับสินค้าหรือธุรกิจของลูกค้าอีกด้วย 
ด้านโปรโมชั่นสำหรับลูกค้า เพียงซื้อสินค้าในบูธ เอช เซม มอเตอร์ ลุ้นรับรางวัลตั๋วเครื่องบินตะลุยแดนญี่ปุ่น เพิ่มเติมสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถไฟฟ้า SEV รับสิทธิ์ผ่อนนานสูงสุด 3 ปี หรือฟรีดอกเบี้ย สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถสามล้ออเนกประสงค์ STC รับส่วนลดสูงสุด 20,000 บาท
คุณวันชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีความตั้งใจจริงและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพจากฝีมือคนไทย เพื่อคนไทย พร้อมร่วมส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรยานยนต์ไฟฟ้าไทยให้มีความก้าวไกล เราจึงเดินหน้าวิจัยและพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์ก้าวสู่เวทีระดับสากลต่อไป และหวังว่าผลิตภัณฑ์ฝีมือคนไทยจะได้รับการสนับสนุนจากคนไทยด้วยดีตลอดไป
          พบกันที่บูธ SEV และ STC ของ เอช เซม มอเตอร์” ได้ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 บูธ A17/1 อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี วันนี้ – 9 เมษายน2560 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์ 092-276-5005

แบงค็อก ไรเดอร์ ทุ่มงบกว่า 400 ล้านเปิดโชว์รูม ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ย่านวิภาวดี-รังสิต



แบงค็อก ไรเดอร์ ทุ่มงบกว่า 400 ล้านเปิดโชว์รูม ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ย่านวิภาวดี-รังสิต

กรุงเทพฯ, 25 มีนาคม 2560 - บริษัท แบงค็อก ไรเดอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์รถจักรยานยนต์สัญชาติอเมริกัน ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน (Harley-Davidson®) ได้เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรมาตรฐานระดับสากลแห่งที่ 6 ของประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “AAS Harley-Davidson® of Bangkok” บนถนนวิภาวดี-รังสิต โดย AAS Harley-Davidson® of Bangkok เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม รวมถึงตั้งเป้าบุกเบิกลูกค้ากลุ่มใหม่ซึ่งเป็น Young Generation พร้อมมุ่งนำเสนอไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้ของชาวสองล้อแบบครบวงจรบนพื้นที่ให้บริการที่กว้างขวางและทันสมัยที่สุดในประเทศไทย
จากความสำเร็จของโชว์รูม ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน สาขาแรกของบริษัทในเครือที่พัทยาภายใต้ชื่อ Harley-Davidson® of Pattaya ที่เปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2559 ซึ่งได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าหลากหลายกลุ่ม และในการเปิดตัวครั้งนั้นเองก็ยังถือเป็นการเปิดตลาดในภาคตะวันออกอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน อีกด้วย



มิสเตอร์ ปีเตอร์ แม็คเคนซีย์ กรรมการผู้จัดการ ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน เขตตลาดเศรษฐกิจใหม่ในเอเชีย กล่าวว่า “ฮาร์เล่ย์ - เดวิดสัน มีการเติบโตอย่างเหลือเชื่อในประเทศไทย ต้องขอขอบคุณบรรดาแฟนๆ ฮาร์เล่ย์ ที่ให้การสนับสนุนเราเป็นอย่างดีตลอดมา ฮาร์เล่ย์ – เดวิดสัน เองนั้นเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะของตัวแทนแห่งอิสรภาพ ความเป็นปัจเจกชนแต่ก็เต็มไปด้วยการแสดงออกของความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นฉันพี่น้องระหว่างเพื่อนผู้หลงใหลในสิ่งเดียวกันนั่นก็คือการได้ครอบครองและขับขี่ฮาร์เล่ย์ฯ ที่จะนำพาพวกเขาไปสู่อิสรภาพที่ไม่สามารถหาได้จากแบรนด์รถจักรยานยนต์อื่นใด เราขอเชิญชวนทุกท่านมาสัมผัสกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในโชว์รูม AAS Harley-Davidson® of Bangkok แห่งนี้”

บริษัท แบงค็อก ไรเดอร์ จำกัด โดย คุณอนุวัชร อินทรภูวศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ ผู้มีประสบการณ์ในวงการยานยนต์มาอย่างยาวนาน ได้สานต่อนโนยบายที่วางไว้ พร้อมเชื่อมั่นเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยเฉพาะตลาดในกรุงเทพมหานครและภาคตะวันออก จึงทุ่มงบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท เปิดโชว์รูม Flagship Dealership และศูนย์บริการแห่งใหม่ที่พรั่งพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อันทันสมัย บนถนนวิภาวดี-รังสิต บนพื้นที่กว่า 2,400 ตารางเมตรภายใต้ชื่อ “AAS Harley-Davidson® of Bangkok”

คุณอนุวัชร เผยว่า “สำหรับโชว์รูม AAS Harley-Davidson® of Bangkok แห่งนี้ เปรียบเสมือน Homequarter (บ้านหลังที่ 2) ของชาวไบค์เกอร์และผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ความชอบที่เหมือนกัน เราจะสร้างโชว์รูมแห่งนี้ให้เป็นคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ของชาวสองล้อที่ครบครัน ทั้งในส่วนของโชว์รูมและศูนย์บริการซึ่งเราจะเน้นระบบการทำงานและเทคโนโลยีทันสมัยต่างๆ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ให้สมกับเป็นศูนย์บริการที่ได้รับการคาดหมายจาก ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน อเมริกาว่าจะเป็น Flagship Dealership แห่งใหม่ของภูมิภาคนี้ นอกจากนั้นทางเรายังมีความตั้งใจที่จะสร้างประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์แบบฉบับฮาร์เล่ย์ฯแก่ลูกค้าผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า และที่จะขาดไม่ได้เลยก็คืองานบริการที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาถึงโชว์รูมแห่งนี้ 


สำหรับภายในพื้นที่โชว์รูมมีการจัดแสดงรถฮาร์เล่ย์ฯ รุ่นล่าสุด สินค้าเสื้อผ้าแฟชั่น อุปกรณ์การขับขี่ และอุปกรณ์ตกแต่งรถมากมายพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายที่หลงใหลในแบรนด์ไม่แพ้กัน ศูนย์บริการเองก็สามารถรองรับรถที่จะเข้ามาใช้บริการได้เดือนละกว่า 400 คัน โดยทีมงานที่มีความชำนาญเป็นพิเศษ นอกจากนี้ภายในโชว์รูมยังมี Exclusive Customer Lounge ไว้บริการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเป็นพิเศษอีกด้วย

ในส่วนของสมาชิก H.O.G (Harley-Davidson Owners Group) จะมีห้องรับรองโดยเฉพาะที่ได้รับการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมี่ยม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ ครบครันเพื่อให้บริการกลุ่ม

ผู้ขับขี่ฮาร์เล่ย์ฯ รวมถึงเป็นศูนย์กลางสังคมของผู้ขับขี่ ฮาร์เล่ย์ – เดวิดสัน ประเทศไทย ที่จะรองรับการพบปะสังสรรค์ เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งการสร้างสาธารณะประโยชน์แก่สังคมอีกด้วย”


“อีกหนึ่งในไฮไลท์มากมายในงานนี้ก็คือแอพลิเคชัน “AAS H-D” ที่ได้รวบรวมเอาข้อมูลสินค้า บริการ การนัดหมายเข้ารับบริการซ่อมบำรุง ข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ มาไว้เพียงปลายนิ้วสัมผัสแล้ว
ที่พิเศษยิ่งขึ้นไปอีกสำหรับสมาชิก H.O.G Chapter ในกลุ่มของ AAS Harley-Davidson® of Bangkok และ Pattaya ก็คือสิทธิพิเศษในการใช้บริการกับ partner อันหลากหลายของเราตั้งแต่ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฟิตเนส และโรงแรมชื่อดังต่างๆ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์แห่งอิสรภาพแบบฮาร์เล่ย์ในสไตล์ของ AAS Harley-Davidson® ที่รับรองว่าจะไม่มีที่ใดเหมือนแน่นอน” คุณอนุวัชร กล่าว

AAS Harley-Davidson® of Bangkok ตั้งอยู่เลขที่ 99 ถนนวิภาวดีรังสิต (ติดซอยวิภาวดีรังสิต 66) แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 ผู้ที่สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
www.aasharley-davidsonbangkok.com ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว



AAS Harley-Davidson® of Bangkok ได้ที่ https://www.facebook.com/aasharleybangkok อินสตาแกรม @aasharleybkk สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02 521 4545

“มร.โทชิอากิ มาเอคาวะ” คว้ารางวัล“ผู้นำธุรกิจดีเด่นแห่งเอเชียแปซิฟิก”



มร.โทชิอากิ มาเอคาวะ” คว้ารางวัลผู้นำธุรกิจดีเด่นแห่งเอเชียแปซิฟิก

กลุ่มตรีเพชร โดย มร. โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด รับรางวัล ผู้นำธุรกิจดีเด่นแห่งเอเชียแปซิฟิก 2560 (Asia Pacific Entrepreneurship Awards 2017) ในฐานะผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ดีเด่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค จัดโดย Enterprise Asiaองค์กรอิสระที่สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ณ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ

มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ผู้พิชิตรางวัลอันทรงเกียรติคว้ารถยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย Thailand Car of The Year 2016



มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ผู้พิชิตรางวัลอันทรงเกียรติคว้ารถยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย Thailand Car of The Year 2016
กรุงเทพฯ – ประเทศไทย - 20 มีนาคม 2560, สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย จัดงานใหญ่มอบรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี หลังจากที่กรรมการสมาคมและสมาชิกทุ่มเททำงานกันมาอย่างหนักเพื่อเฟ้นหาสุดยอดรถยนต์ที่ดีที่สุดในประเทศไทยมานานหลายเดือน กว่าจะได้รถยนต์ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาทั้งสิ้น 10 คัน โดยมีผู้ทรงคุณด้านการทดสอบรถยนต์ ประกอบด้วย สมาชิกผู้คร่ำหวอดในการทดสอบรถยนต์

ค่ำคืนแห่งการรอคอยก็มาถึง ณ สโมสรทหารบก บนถนนวิภาวดีรังสิต ได้ก็เวลาประกาศผลรถยนต์ที่พิชิตความเป็นรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2559 ผลปรากฏว่าปีนี้ มาสด้า CX-3 คว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ไปครองได้สำเร็จ ด้วยคุณสมบัติความโดดเด่นของสมรรถนะการขับขี่ เทคโนโลยีล้ำสมัย ความสวยงาม ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความคุ้มค่าคุ้มราคา

สำหรับโครงการประกวด “รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี” หรือ THAILAND CAR OF THE YEAR ได้ริเริ่มรางวัลนี้ขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2558 โดยมีวัตถุประสงค์หลักสำคัญเพื่อยกระดับและพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ให้มีความก้าวหน้าทัดเทียมกับนานาประเทศ รวมถึงต้องการให้สมาชิกได้นำเสนอรายละเอียดต่างๆ เพื่อผู้บริโภคใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ที่มีคุณภาพ โดยรางวัลดังกล่าวของสมาคมฯ ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการสักขีพยานผู้ทรงคุณวุฒิด้านยานยนต์ และสื่อมวลชนผู้เชี่ยวชาญด้านทดสอบรถยนต์ คอลัมน์นิสต์ ผู้สื่อข่าว บรรณาธิการข่าวสายยานยนต์ ซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมฯ โดยรอบแรกนั้นสมาชิกทั้งหมดได้คัดเลือกรถยนต์ที่เปิดตัวแนะนำในปี 2559 และรอบสุดท้ายมีเพียง 10 คันเท่านั้น แล้วจัดการทดสอบขึ้นที่สนามแข่งรถไทยแลนด์ เซอร์กิต จังหวัดนครปฐม โดยมีคณะกรรมเข้าร่วมทำการทดสอบครั้งนี้กว่า 50 คน เพื่อเฟ้นหารถยนต์ที่ดีที่สุดแห่งปี

มาตรฐานและหลักเกณฑ์การพิจารณาเพื่อคัดเลือกของสมาคมฯ คือ ต้องเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ (Model Change) ที่เปิดตัวแนะนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดในช่วง 12 เดือน (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคมถึง 30 กันยายนของทุกปี) เป็นรถยนต์ที่เปิดตัวแนะนำ (Official Launching) และเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ มีการประกาศราคาขายอย่างเป็นทางการ, เป็นรถยนต์ที่ประกอบในประเทศ (CKD) กรณีที่ผู้ผลิตเปลี่ยนการผลิตจากรถ CBU เป็นรถ CKD ให้ถือการ Re-Launch รถยนต์ประกอบในประเทศ (CKD, SKD) เป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วย

โดยรถยนต์ที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายและได้เข้าชิงรางวัลในปีนี้มีทั้งหมด 10 รุ่น ประกอบด้วย มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 (Mazda CX-3), เอ็มจี5 (MG5), เอ็มจี จีเอส (MG GS), บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ วัน (BMW X1), บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีย์ 7 (BMW 7 Series), ฮอนด้า บีอาร์-วี (Honda BR-V), ฮอนด้า ซีวิค (Honda Civic), ไทยรุ่ง ทีอาร์ ทรานส์ฟอเมอร์ ทู (Thairung TR Transformer2), เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี (Mercedes-Benz GLC) และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี (Mercedes-Benz GLE)

กระบวนการตัดสินของคณะกรรมการได้แบ่งออกเป็น 2 รอบ ได้แก่ รอบแรก คณะกรรมการเลือกรถยนต์ที่เข้าคุณสมบัติ (Qualify) ครึ่งหนึ่งของจำนวนที่เข้ารอบมาทั้งหมด (ปีนี้มีรถยนต์เข้ารอบสุดท้าย 10 คันให้เลือกเพียง 5 คัน) โดยรถยนต์ที่ถูกเลือกจะได้รับคันละหนึ่งคะแนน ต่อกรรมการหนึ่งท่าน และเมื่อได้ผลการคัดเลือกแล้ว ให้นำรถทั้งหมดที่เข้าคุณสมบัติ (Qualify) ไปลงคะแนนในรอบตัดสิน (Final Round) ต่อไป

ขณะที่รอบตัดสิน (Final Round) คณะกรรมการจะพิจารณาตัดสินรถยนต์ที่ผ่านการคัดเลือกจากรอบแรกให้ได้รับรางวัลเพียง 1 คันเท่านั้น โดยหลักเกณฑ์ คือ คณะกรรมการแต่ละคนจะมีคะแนนอยู่ 25 คะแนน กรรมการจะต้องให้คะแนนอย่างน้อย 5 คัน คันใดที่กรรมการพิจารณาตามองค์ประกอบแล้วชื่นชอบที่สุดจะต้องให้คันนั้น 10 คะแนน ส่วนที่เหลืออีก 15 คะแนน ให้กระจายไปยังรถคันอื่น ห้ามมิให้คะแนนเต็ม 10 เท่ากับรถที่เลือกไว้เป็นลำดับแรก รถคันใดที่ได้คะแนนรวมสูงสุดจึงเป็นคันที่ได้รับรางวัลไป ซึ่งในปีนี้ ผลปรากฏว่าผู้ชนะที่ได้รับคะแนนสูงสุด ก็คือ มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 นั่นเอง

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับกิจรรมต่างๆ ของทางสมาคมฯ และสมาชิกทุกคน การที่มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ คือ รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย ประจำปี 2559 หรือ Thailand Car of the Year 2016 จากสรยท. นั้น ถือเป็นบทพิสูจน์แล้วว่า เทคโนโลยีสกายแอคทีฟอันล้ำสมัยของมาสด้านั้นเป็นที่ยอมรับจากผู้ทรงคุณวุฒิจากสื่อมวลชนสายยานยนต์ที่มาจากหลากหลายความเชี่ยวชาญ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่สามารถพิสูจน์ได้จริงในหมู่ลูกค้าชาวไทยและทั่วโลก ทั้ง เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ที่ให้ทั้งสมรรถนะแรงและประหยัดน้ำมัน รวมทั้งรูปลักษณ์การออกแบบภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ Soul of Motion หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันงดงาม ความทันสมัยของ MZD Connect และเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลกที่จับต้องได้ของ i-ACTIVSENSE โดยมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 นั้นมีจุดเด่นที่รูปลักษณ์โดดเด่นล้ำสมัย สะท้อนตัวตนและไลฟ์สไตล์ที่ชัดเจนของคนรุ่นใหม่ เป็นรถที่ไม่เพียงแต่มีบุคลิกภาพอันโดดเด่นเท่านั้นแต่ยังให้คุณภาพที่เหนือชั้นทั้งการขับขี่ การประหยัดน้ำมัน และความปลอดภัยอีกด้วย 



มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 รถอเนกประสงค์ฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์จากมาสด้า ที่เปิดตัวครั้งแรกของโลกในงาน Los Angeles Auto Show เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 ถือเป็นรถยนต์รุ่นที่ 5 ในบรรดารถยนต์มาสด้าเจนเนอเรชั่นที่ 6 ที่มีความโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟและรูปลักษณ์สวยงามลุ่มลึกแบบ KODO – จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว โดยในรถมาสด้าซีเอ็กซ์-3 รูปโฉมของ โคโดะ ดีไซน์ ที่สื่อออกมาได้รับการปรับให้เฉียบคมขึ้นเพื่อเน้นความรู้สึกถึงสปีดของรถ มาสด้าซีเอ็กซ์-3 ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินสกายแอคทีฟ 2.0 ลิตรและเครื่องยนต์ดีเซลสกายแอคทีฟ 1.5 ลิตร เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 จนถึงปัจจุบันได้รับการยอมรับอย่างล้นหลามมียอดขายไปแล้วกว่า 7,000 คัน

มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ไม่ได้ประสบความสำเร็จเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น นับตั้งแต่เปิดตัว ความสวยงามโดดเด่นและสมรรถนะของรถยนต์มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ก็เป็นที่ยอมรับในวงการรถยนต์ทั่วโลก ได้รับรางวัลระดับโลกมาแล้วมากมาย อาทิเช่น
พิชิตรางวัล “คุณภาพการออกแบบยอดเยี่ยมแห่งปี” ประเทศเยอรมนี ปี 2015 ( 2015 Red Dot Design Award – Outstanding Design Quality)
คว้ารางวัล “การออกแบบภายนอกยอดเยี่ยมแห่งปี” ประเทศเยอรมนี ปี 2015 ( 2015 German Design Council – “Best of the Best” in the Exterior Volume Brand Category)
เข้าชิงรอบสุดท้าย 1 ใน 10 ของรถยนต์ที่ได้เข้าชิงรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก 2016 หรือ World Car of the Year ประจำปี 2016
เข้าชิงรอบสุดท้าย 1 ใน 3 ของรถยนต์ที่ได้เข้าชิงรางวัลรถยนต์ออกแบบยอดเยี่ยมของโลก 2016 หรือ World Car Design of the Year ประจำปี 2016 (Top 3 in the World)
คว้ารางวัล 2016 IIHS Top Safety Pick Plus จาก Insurance Institute for Highway Safety ประเทศสหรัฐอเมริกา

นี่คือเหล่ารางวัลระดับโลกซึ่งการันตีความยอดเยี่ยมของมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก จากชัยชนะอันงดงามของมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 กับรางวัล Thailand Car of The Year 2016 (รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย ประจำปี 2559) ที่ได้รับในวันนี้ จึงเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสำเร็จอีกขั้นของมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ที่ได้รับการยอมรับจากทั้งสื่อมวลชน ผู้ทรงคุณวุฒิชาวไทยเพื่อสร้างมาตรฐานไปสู่เวทีระดับโลก

ซึ่งเร็วๆนี้ มาสด้าซีเอ็กซ์-3 ก็จะมีการปรับโฉมให้ทันสมัยโดนใจลูกค้ายิ่งขึ้นอีก ซึ่งลูกค้าก็จะได้พบกับการปรับโฉมครั้งใหม่นี้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 ปลายเดือนมีนาคมนี้

ทางด้านนายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) นายยุทธพงศ์ ภาษี ประธานดำเนินการจัดงานฯ กล่าวว่า โครงการ “รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2559” (THAILAND CAR OF THE YEAR 2016) นี้ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยทางคณะกรรมการสมาคมฯ ได้จัดให้สมาชิกฯ ได้ลงคะแนนและกิจกรรมทดสอบรถยนต์ที่มีคุณสมบัติเข้าชิงรางวัล ทั้ง 10 รุ่น ซึ่งรถยนต์มาสด้าซีเอ็กซ์-3 ก็ได้รับมติอย่างเป็นเอกฉันท์จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแล้วว่าเป็นรถยนต์ที่มีคุณภาพ, สมรรถนะดี, มีความสะดวกสบาย,ปลอดภัย, เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญที่สุด คือ ให้ความคุ้มค่าของราคาแก่ผู้บริโภคได้อีกด้วย

สาวสวยดีกรีมีมงกุฎระดับโลก "Mrs International 2016" และเป็น 1 เดียวของไทย กับอีกหนึ่งภารกิจขอประลองความเร็วสู่ครอบครัว "ม้าลำพอง" เพื่อนำความภาคภูมิใจสู่ประเทศอีกครั้ง


21 มีนาคม 2560 / บริษัท คาวาลลิโน่ มอเตอร์ จำกัด
สาวสวยดีกรีมีมงกุฎระดับโลก "Mrs International 2016" และเป็น 1 เดียวของไทย กับอีกหนึ่งภารกิจขอประลองความเร็วสู่ครอบครัว "ม้าลำพอง" เพื่อนำความภาคภูมิใจสู่ประเทศอีกครั้ง

เป็นที่ทราบกันดีว่า เฟอร์รารี่เป็นรถยนต์หรู ยิ่งเป็นรถแข่งก็ระดับรถหรูเฟิร์สคลาส ที่ให้ความเร็วที่เหนือชั้น กับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม รถเฟอร์รารี่จึงเป็นที่นิยมสำหรับทุกสนามแข่งและยังได้รับชัยขนะจากการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน ความหรูหรา และความร่ำรวยฉายาที่คนไทยรู้จักกันดีอีกชื่อหนึ่งของเฟอร์รารี่คือว่า "ม้าลำพอง"

วันนี้ ดร. กันธิชา ฉิมศิริ (ยุ้ย) สาวสวยดีกรีที่ไม่ธรรมดาเพราะเธอเป็นทั้งนางงาม นักธุรกิจ ดารา นางแบบ พิธีกร นักสะสมรถยนต์ และบทบาทล่าสุดคือ การเป็นนักแข่งรถสปอร์ตหรูอย่าง " Ferrari 488 Spider" ด้วยความที่ ดร. กินธิชา ฉิมศิริ เธอชอบเดินทาง ท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ชอบไลฟ์สไตล์ชีวิตที่ตื่นเต้น ท้าทาย การแข่งรถจึงตอบโจทย์ของการเป็นสาวนักผจญภัย ปัจจุบันสนามแข่งที่ดี มีมาตรฐานที่ทั่วโลกยอมรับก็ต้องการแข่งขันระดับเวิลด์คลาสอย่างรถเฟอร์รารี่ ที่หรูหราลงตัว กับสมรรถภาพเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยม ความเร็วที่ท้าทาย และการันตรีเรื่องความปลอดภัยขั้นสูง

ดร. กันธิชา ฉิมศิริ ผู้หลงไหลการแข่งรถถึงขนาดบินไปฝึกอบรมที่ประเทศอิตาลี ต้นกำเนิดรถเฟอร์รารี่ จนได้ใบประกาศหรือไลเซนส์ที่ถูกต้องตามหลักสากล สามารถไปแข่งขันที่สนามไหนก็ได้ตามตารางทัวร์นาเม้นท์ของปี



สำหรับตารางการแข่งขันแข่งรถเฟอร์รารี่ 7 สนามทั่วโลกทั้งเอเชียและแปซิฟิค ของปี 2017
(Ferrari 488 Challenge Racing Asia Pacific 2017)

1, 6-8 เม.ย 2017 กรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

2, 27-29 พค. 2017 กรุงเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

3, 9-11 มิ.ย. 2017 มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

4, 7-9 ก.ค. 2017 บริเวณแถบภูเขาฟุจิ ประเทศญี่ปุ่น

5, 25-27 สิงหาคม 2017 สนามเซปัง ประเทศมาเลเซีย

6, 15-17 กันยายน 2017 สนามฟอร์มูล่าวัน ประเทศสิงคโปร์ (F1GP)

7, 26-29 ตุลาคม 2017 สนาม มูเจลโล่ ประเทศอิตาลี

การแข่งรถ Ferrari 488 Challenge Racing Asia Pacific 2017 รายการนี้สามารถรับชมการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกผ่านสถานีช่องกีฬาอันดับหนึ่งของโลกอย่าง" FOX Sport News" กว่าร้อยประเทศ สำหรับประเทศเอเชียและแปซิฟิค ที่สามารถรับชมการถ่ายทอดได้แก่ ประเทศ บรูไน กัมพูชา สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง มาเก๊า มาเลเซีย อินโดนีเซีย มองโกเลีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เวียดนามและประเทศไทย ขอเชิญชวนแฟนคลับคุณยุ้ย ตลอดจนพี่น้องชาวไทยที่ชื่นชอบการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ รถยนต์หรูหรา สง่างาม ม้าลำพองกับรถเฟอร์รารี่ สามารถติดตามชมได้ตามช่องกีฬา Fox sport news หรือ ติดตามไปเชียร์ติดขอบสนามแข่งจริงได้ตามตารางข้างบน คุณจะได้อรรถรส ความตื่นตา ตื่นใจยิ่งขึ้น และสามารถติดตามตารางการแข่งรถและรายละเอียดต่างๆ ได้ทางเว็บไซต์ http://www.ferrari.com/en_th/

วันนี้เธอพร้อมแล้วสำหรับสนามแรกของปี 2017 ที่จะประเดิมขึ้น ระหว่างวันที่ 6-8 เม.ย. 60 ที่ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดินแดนทะเลทรายและน้ำมัน เธอหวังว่าจะนำชัยชนะและความภาคภูมิใจมาให้ประชาชนชาวไทย พวกเรามาให้กำลังใจและแรงเชียร์ สาวสวยผู้มากความสามารถคนนี้ งานนี้ต้องขอขอบคุณ ผู้บริหารและพนักงาน บริษัท คาวาลลิโน่ มอเตอร์ จำกัด ที่สนับสนุนและอำนวยความสะดวกตลอดระยะเวลาแข่งรถฯตลอดปี 2017 นี้



ดร. กันธิชา ฉิมศิริ (คุณยุ้ย) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มาแสดงความยินดีและรอทำข่าวว่า "วันนี้ดิฉันพร้อมมากๆ กับอีกบทบาทการการเป็นนักแข่งรถ ซุปเปอร์คาร์ "Ferrari 488 Challenge Racing Asia Pacific 2017" ที่ตัดสินใจเลือกรถเฟอร์รารี่ เพราะความแกร่งแต่มีสมรรถภาพที่เหนือชั้น ความเร็วที่ท้าทาย กับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ความปลอดภัยที่ไว้ใจได้ มีรูปลักษณ์ที่สวยงาม การจะไปแข่งในรายการนี้ได้ต้องผ่านการฝึกฝน การเรียนรู้ จนได้ไลเซนส์ระดับสากลที่จะแข่งได้ทุกสนาม ต้องมีใจรักและทุ่มเทอย่างมาก ดิฉันชอบการสะสมรถและการประลองความเร็ว อยากทำหน้าที่อีกหน้าที่หนึ่ง นอกจากภารกิจช่วยเหลือสังคม นอกเหนือจากการเป็นนางงาม การแข่งรถยนต์หรู ก็เป็นโอกาสๆหนึ่งที่ดีที่ควรคว้ามันมาไว้ มิใช่ว่าจะมีมาได้ง่ายๆ ในการGo inter แบบนี้ และเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยเผยแพร่ชื่อเสียงคนไทย ในฐานะผู้หญิงไทยคนแรกในสนามเฟอร์รารี่นี้ สนามแรกที่เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 6-8 เม.ย.นี้ ฝากให้คนไทยและแฟนคลับ อย่าลืมให้กำลังใจและเชียร์ยุ้ยนะคะ ผ่านทางช่องกีฬาดังอย่าง Fox sport news หรือจะไปเชียร์ที่ขอบสนามฯได้ ยุ้ยพร้อมอำนวยความสะดวกเรื่องที่นั่งระดับวีไอพีให้ค่ะ " คุณยุ้ย สาวนักแข่งเฟอร์รารี่คนใหม่กล่าว

ด้านคุณนันทมาลี ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาวาลลิโน่ มอเตอร์ จำกัด ผู้นำเข้ารถเฟอร์รารี่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน "วันนี้ดิฉันรู้สึกยินดี และดีใจมากที่ คุณยุ้ยได้เป็นตัวแทนคนไทยและผู้หญิงไทยคนแรกในสนามการแข่งขันรถซุปเปอร์คาร์ "Ferrari 488 Challenge Racing Asia Pacific 2017" ซึ่งเป็นสนามแข่งระดับโลก และภูมิใจที่เธอเลือกรถ "Ferrari 488 Spider" รถสปอร์ตหรู ที่คู่ควรกับ นางงาม และคนสวยอย่างเธอ เฟอร์รารี่ มี ประวัติมายาวนาน เกิดขึ้นที่ประเทศอิตาลี่ และปีนี้ก็จะครบรอบ 70 ปีแล้ว มิใช่ใครๆจะไปขับได้ต้องผ่านการฝึกฝนและมีใบใบอนุญาตขับขี่ หรือ license เฉพาะของเฟอร์รารี่ บริษัท คาวาลลิโน่ มอเตอร์ จำกัด ยินดีสนับสนุนคุณยุ้ย และขอเป็นกำลังใจให้เธอนำชัยชนะมาสู่ประเทศไทยขอให้เธอได้ขึ้นโพเดี่ยม เปิดแชมเปญ ฉลองชัยทุกสนาม ด้วยค่ะ "


เกี่ยวกับ ดร. กันธิชา ฉิมศิริ (คุณยุ้ย)
ตำแหน่ง Mrs.International 2016
Mrs.Universe Thailand 2016
Mrs.international Thailand 2016

อาชีพ นักแสดง,นางแบบ,เดินแบบ พิธีกรรายการทีวีและพิธีกรงานอีเว้นท์ นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์,นักบริหารพอทหุ้น มีลูกชายวัย 2 ขวบกว่า มีสามีเป็นเศรษฐีชาวเยอรมัน ชื่อ อเล็กซานเดอร์ ปาเป้ เธอยังทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ อีกหลายอย่าง และมีกิจกรรมที่โปรดปรานสุดท้าทายอย่างการแข่งรถ สะสมรถโบราณ และท่องเที่ยวไปทั่วโลก คุณยุ้ยชอบสะสมรถยนต์หลากหลายแบรนด์เช่น Ferrari R430, Porsche Limited 91150, BMW i8, BMW i640, Porsche Cayenne, MG รุ่น MGB เป็นรถโบราณ Rolls Royce รุ่น Silver Shadow และรุ่น 1973 และมี Camaro รุ่น 1979 Gen 1 สะสมมาหลายปีแล้ว จึงแรงบันดาลใจทำให้อยากเป็นนักแข่งรถ

ก่อนหน้านี้คุณยุ้ยเป็นผู้หญิงไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน BMW Driving Academy Maisach ประเทศเยอรมนี.สำหรับประวัติการแข่งรถที่เมืองไทย เคยได้แชมเปี้ยน ที่สนามเทพนคร ถ.พระราม 2 เคยลงสนามรถปอร์เช่ของไทยเมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้เธอก็ได้ไลเซนส์มาเรียบร้อยแล้วเพื่อเปิดทางลงสนามแข่งในต่างประเทศ คุณยุ้ยไปลงสนามฝึกของเฟอร์รารีที่ต่างประเทศจนจบคอร์สและได้ไลเซนส์เฉพาะสำหรับการแข่งขันเฟอร์รารี่ในที่สุด



เกี่ยวกับ Ferrari 488 Spider

เฟอร์รารี่ เจ้าแห่งสนามแข่งเฟอร์รารี่เป็นผู้นำของแบรนด์รถแข่งหรูจากอิตาลี ก่อตั้งขึ้นในปี 1947 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่มาราเนลโล่ และเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของรถแข่งระดับหรูที่ให้ความเร็วที่เหนือชั้น ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม รถเฟอร์รารี่เป็นที่นิยมสำหรับทุกสนามแข่งและยังได้รับชัยขนะจากการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน ทั่วโลกอีกด้วย เฟอร์รารี่ยังนำเสนอรถสำหรับวิ่งบนท้องถนนให้ลูกค้าทั่วไปได้เลือกด้วยซึ่งรถรุ่นนี้จะถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเร็ว ความหรู และความร่ำรวยฉายาที่คนไทยรู้จักกันดีอีกชื่อหนึ่งของเฟอร์รารี่คือว่า "ม้าลำพอง"

ประวัติการก่อตั้งเฟอร์รารี่ก่อตั้งโดย เอนโซ่ เฟอร์รารี่ ในปี 1929 ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มกันของนักแข่งในเมืองมาดีนา ประเทศอิตาลี หลังจากนั้นก็ได้กลายเป็นหัวหน้าของฝ่ายกีฬาแข่งรถเร็วที่สำนักงานใหญ่แอลฟ่า โรมิโอ ในปี 1938 อีกทั้งยังได้ก่อตั้งบริษัท "ออโต้ อวิโอ คอสทรูซซิโอนิ เฟอร์รารี่" ในปี 1941 ซึ่งจะทำการผลิตอุปกรณ์เสริมสำหรับเครื่องบิน และอุปกรณ์เครื่องยนต์อื่นๆหลังจากที่มีการโดนห้ามจากการแข่งขันโดยรัฐบาลเบนิโต้ มูสสโลลินี่ แต่ว่าหลังจากช่วงเวลานั้น เอนโซ่ เฟอร์รารี่ก็สามารถที่จะผลิตรถเฟอร์รารี่คันแรกออกมาได้ ซึ่งคือ ทิโป 815 การผลิตรถยนต์ก็ได้ถูกย้ายไปผลิตที่มาราเนลโล ในปี 1943 และได้ทำการสร้างใหม่ในปี 1946 หลังจากที่ถูกระเบิดในปี 1944

Ferrari 488 Spider เป็นรถซุปเปอร์คาร์เปิดประทุนที่มีความสวยงาม และสปอร์ตที่ลงตัว โดยเน้นการออกแบบให้เป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ เสริมด้วยสเกิร์ตรอบคันที่เน้นในเรื่องความสปอร์ต อีกทั้งยังใช้เวลาเปิด-ปิดหลังคาเพียงแค่ 14 วินาทีเท่านั้นที่สำคัญ และเป็นจุดเด่นของ Ferrari 488 Spider ก็คือ การที่แชสซีส์สเปซเฟรมผลิตมาจากอลูมิเนียมอัลลอยถึง 11 ชนิด ผสมผสานเข้ากับแม็กนีเซียม ซึ่งจะทำให้ได้ความแข็งแกร่ง และความเหนียวของแชสซีส์เพิ่มขึ้นถึง 25% เลยทีเดียว

โดย Ferrari 488 Spider มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ความจุกระบอกสูบ 3.9 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้พละกำลังสูงสุด 670 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิด 760 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบ/นาที สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3 วินาที และสามารถทำความเร็วจาก 0-200 กม./ชม. ได้ในเวลา 8.7 วินาทีเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นรถที่มีเครื่องยนต์แรงสุดๆ อันดับต้นๆ ของทางค่ายก็ว่าได้

"เฟอร์รารี 488 GTB ให้ประสิทธิภาพสูงสุดบนสนามแข่งที่ผู้ขับขี่สามารถสนุกสนานกับการขับเคลื่อนอย่างเต็มที่แม้ว่าจะเป็นมือสมัครเล่นหรือผู้ขับขี่ที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยการตอบสนองที่รับประกันความเป็นเอกลักษณ์ของสุนทรียะในการขับขี่ที่เหนือชั้นและได้รับการตอบรับที่ดีมาตั้งแต่ก่อนเปิดตัวในประเทศไทย เรามีความมั่นใจว่า 488 GTB จะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง"

เครื่องยนต์เบอลิเน็ตต้าใหม่ล่าสุดนี้ซ่อนเร้นประสบการณ์แห่งเฟอร์รารี่ทั้งในการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง และการแข่งขันทดสอบความทนทานของรถยนต์และผู้ขับขี่ระดับโลก ที่ 458 GT คว้าตำแหน่งแชมป์โลกไปครองและได้ยังได้ชัยชนะในการแข่งขันทดสอบความทนทานยาวนานถึง 24 ชั่วโมงที่ Le Mans อีกด้วย โดยรถรุ่นใหม่นี้ได้รวบรวมสุดยอดช่างเทคนิคของเฟอร์รารี่ในทศวรรษที่ผ่านมาเข้าด้วยกันเพื่อส่งมอบโปรแกรม XX ที่ทำให้รถแข่งกลายเป็นรถที่นิ่มนวลต่อผู้ขับขี่ โดยได้มีการปรับแต่งระบบไฟฟ้าและระบบการควบคุมตัวรถที่เฉียบคม เพื่อผู้ขับขี่จะสามารถสัมผัสประสบการณ์อันยอดเยี่ยมอย่างไม่น่าเชื่อของรถคันใหม่คันนี้

ตัวเลข 488 ในชื่อเล่นของรถยนต์คันนี้บ่งชี้ถึงหน่วยของเครื่องยนต์ ในขณะที่ชื่อ GTB นั้นมาจาก แกรน ทัวริสโม เบอลิเน็ตต้า (Gran Turismo Berlinetta) อันเป็นที่มาอันยาวนานแห่งประวัติศาสตร์ของเฟอร์รารี่

***ราคา 600,000 ยูโร หรือประมาณ 24 ล้านบาท

สำหรับประเทศไทย บริษัท คาวาลลิโน่ มอเตอร์ จำกัด ผู้นำเข้ารถเฟอร์รารี่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย


New Honda MSX125SF โฉมใหม่ จัดเต็มเทคโนโลยีเบรก ABS ครั้งแรกของมินิสปอร์ตไบค์เมื องไทย




New Honda MSX125SF โฉมใหม่ จัดเต็มเทคโนโลยีเบรก ABS ครั้งแรกของมินิสปอร์ตไบค์เมื องไทย

บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าในประเทศไทย เอาใจนักบิดผู้ชื่นชอบการขับขี่ มินิสปอร์ตไบค์ เผยโฉม New Honda MSX125SFโฉมใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ “Endorphins Clutcher ฟินไม่มีสะดุด สนุกทุกการคอนโทรล” มินิไบค์สายพันธุ์สปอร์ตที่ มาพร้อมการออกแบบอันโฉบเฉี่ยวล้ำ สมัย ชูสมรรถนะการควบคุมด้วยระบบคลั ทช์มือที่ให้ความสนุก เร้าใจ ใช้งานในเมืองได้อย่างสะดวกคล่ องแคล่ว พร้อมอัดแน่นเทคโนโลยี ตวามปลอดภัยด้วยระบบเบรกABS โดดเด่นลงตัวกับการจับคู่สีสั นใหม่ เริ่มทยอยวางจำหน่ายตั้งแต่วั นนี้เป็นต้นไป ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ 

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า “ตลาดรถจักรยานยนต์ประเภทสปอร์ ตไบค์ในเมืองไทยกำลังขยายสัดส่ วนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของฮอนด้าที่ มีความโดดเด่นและได้รับการยอมรั บจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี นั่นคือ รุ่น Honda MSX125SF ซึ่งหลังจากเปิดตัวโฉมแรกตั้ งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา มินิไบค์สายพันธุ์สปอร์ตรุ่นนี้ ก็ครองความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง ในกลุ่มรถสปอร์ตขนาดไม่เกิน 150 ซีซีโดยทันที รวมถึงล่าสุดในปีที่ผ่านมา ด้วยยอดขายรวมสูงสุดถึง 125,000 คัน”

“ในฐานะที่ฮอนด้าเป็นผู้ นำตลาดจักรยานยนต์ในเมืองไทย 28 ปีซ้อน พร้อมให้คำยืนยันว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภั ณฑ์เพื่อตอบสนองความต้ องการของผู้บริโภคชาวไทยอย่างดี ที่สุดต่อไป และในปี 2017 นี้ ฮอนด้าจึงได้ยกระดับ New Honda MSX125SF ขึ้นมาใหม่ให้มีความสมบูรณ์ และเหนือกว่าไปอีกขั้น ด้วยการเติมเต็มเทคโนโลยี ระบบเบรก ABS นับเป็นครั้งแรกจากบิ๊กไบค์หรื อรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่สู่มินิ สปอร์ตเมืองไทย ซึ่งทำให้ New Honda MSX125SFโฉมใหม่ นอกจากจะมีรูปลักษณ์การออกแบบที่ โฉบเฉี่ยวล้ำสมัย ให้สมรรถนะการขับขี่ที่สนุ กสนานเร้าใจแล้ว ยังให้การควบคุมสั่งการทำงานหยุ ดรถได้อย่างมั่นใจ และมีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นด้วย”
New Honda MSX125SF ปี 2017 โฉมใหม่ ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซปต์“Endorphins Clutcher ฟินไม่มีสะดุด สนุกทุกการคอนโทรล” โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์มินิไบค์ สายพันธุ์สปอร์ต มาพร้อมการจับคู่สีสั นลวดลายใหม่, ฝาครอบเครื่องยนต์สีทอง, ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟสูงแยกดวง, แผงหน้าปัดแบบฟูลดิจิตอล แสดงทุกสถานะการทำงานของตัวรถ, ฝาถังน้ำมันแบบติดกับตัวถังให้ ความสะดวกขณะเติมน้ำมันเชื้ อเพลิง, กุญแจแบบพับได้เพื่ อความสะดวกสบายในการพกพา, ระบบช่วงล่างสไตล์สปอร์ต โช้คหน้าแบบหัวกลับ-หลังโช็คเดี่ ยว ลงตัวกับขอบล้อสีเดียวกันขนาด 12 นิ้ว
ด้านขุมพลังเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 125 ซีซี. ระบบหัวฉีด PGM-FI ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ 6 และรองรับน้ำมัน E20 ตัดต่อการส่งกำลังด้วยระบบคลั ทช์มือ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่สนุก เร้าใจ และมีความคล่องตัว ขณะที่ความปลอดภัยเหนือกว่า ด้วยระบบเบรก ABS พร้อมดิสก์เบรกหน้า-หลัง
นอกจากการปรับโฉมครั้งใหม่ของ New Honda MSX125SF ปี 2017 แล้ว เอ.พี.ฮอนด้ายังได้นำเสนอเวอร์ ชั่นพิเศษ The Ultimate Pink ที่มาพร้อมชุดแต่งH2C ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คัน เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ รักการแต่งรถอีกด้วย

เอ.พี.ฮอนด้า พร้อมเริ่มทยอยวางจำหน่าย New Honda MSX125SF ปี 2017 โฉมใหม่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ โดยรุ่น Standard มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ ดำ-ชมพู (สีใหม่) และดำ-น้ำเงิน (สีใหม่) ดำ-เหลือง แดง-ดำ ราคาแนะนำโดยประมาณเริ่มต้นที่ 70,500 บาท ส่วนรุ่นABS มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ แดง-เทา และดำ-เทา ราคาแนะนำโดยประมาณเริ่มต้นที่78,000 บาท ขณะที่รุ่นตกแต่งพิเศษ The Ultimate Pink ผลิตจำนวนจำกัด 1,000คัน ราคาแนะนำโดยประมาณที่ 83,600 บาท ทั้งนี้ สำหรับผู้สนใจสามารถติ ดตามรายละเอียดเพิ่มเติม New Honda MSX125SF ปี 2017 โฉมใหม่ ได้ที่www.aphonda.co.th
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved