Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

สมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่เข้ม จี้สมาชิกยึดปฎิบัติตามระเบียบหน่วยงานรัฐเคร่งครัด


สมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่เข้ม จี้สมาชิกยึดปฎิบัติตามระเบียบหน่วยงานรัฐเคร่งครัด หวังสร้างพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ  ระบุก้าวสู่ปีที่ 6 พร้อมทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เข้มสมาชิกให้ดำเนินธุรกิจถูกต้อง   ปลื้ม กรมศุลฯ ปรับวิธีคำนวณภาษีรถนำเข้าใหม่คืบหน้าไปเยอะ

นายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส นายกสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่  เปิดเผยว่า  สมาคมได้ก่อตั้งมาครบ 5 ปี และกำลังจะก้าวสู่ปีที่ 6 โดยขณะนี้มีบริษัทสมาชิกกว่า 60 บริษัท โดยในเดือนมิถุนายนนี้ในการประชุมครั้งล่าสุด สมาคมฯได้แสดงจุดยืนชัดเจน ว่า จะยึดปฏิบัติดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และจะให้การช่วยเหลือสนับสนุนสมาชิกพร้อมทั้งทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างเป็นระบบ

นอกจากนี้สมาคมฯ ยังได้มีมติว่าจะเข้มงวดกับการรับสมาชิกใหม่ โดยมีกติกาการรับสมาชิกใหม่จะต้องมีคุณสมบัติไม่ขัดกับระเบียบของสมาคม ไม่มีประวัติเสื่อมเสีย และต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสมาคมมากกว่าครึ่งหนึ่ง

"ที่ผ่านมาก่อนจะมีสมาคม สมาชิกแต่ละรายดำเนินงานตามแบบฉบับของตนเอง ถูกบ้าง ผิดบ้าง ไม่มีความชัดเจน ไม่มีใครชี้นำว่าควรทำแบบไหนถึงถูกต้อง จึงเกิดปัญหาต่างๆ ขึ้นมากมาย พอมีสมาคมฯ ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการดำเนินธุรกิจ ระยะหลังการทำธุรกิจง่ายขึ้น กฎระเบียบต่างๆ ก็ถูกต้องชัดเจน"

หลังจากที่มีการก่อตั้งสมาคมฯ แล้ว ทุกอย่างก็เริ่มเข้ากระบวนการมากขึ้น มีการประชุมหารือ และนำเสนอถึงแนวทางปฏิบัติร่วมกันก่อนที่จะออกกฏระเบียบต่างๆ และทางคณะกรรมการก็ได้มีการทำความเข้าใจกับหน่วยงานราชการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมศุลฯ, กรมสรรพสามิต, หรือกระทั้ง สมอ. (สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม) โดยเฉพาะเรื่องการชำระภาษีอย่างถูกต้อง เฉพาะอย่างยิ่งภาษีนำเข้า

นายสมศักดิ์ กล่าวถึง เรื่องสำแดงราคารถและชำระภาษีนำเข้าว่า ที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้ประสานงานกับกรมศุลกากรมาโดยตลอด เพื่อให้ได้แนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนและนำมาถ่ายทอดให้สมาชิกถือปฏิบัติตาม ซึ่งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาสมาชิกของสมาคมฯ ได้ยึดปฏิบัติอย่างดีส่งผลให้การทำธุรกิจราบรื่นขึ้น

“สมาชิกของสมาคมฯ มีความตั้งใจตรงกันที่ต้องการให้ธุรกิจรถยนต์นำเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ให้เกิดการจ้างงาน เกิดการแข่งขันทางด้านการตลาดรถยนต์ ให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ไม่ถูกผูกขาดทางด้านราคา และภาครัฐเองมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีต่างๆ อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยทั้งภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิต ภาษีมหาดไทย และภาษีมูลค่าเพิ่ม”

สมาคมฯ ยังรณรงค์ให้สมาชิกร่วมกันต่อต้านการนำเข้ารถยนต์ที่ผิดกฎหมาย หรือรถยนต์หนีภาษี เพราะนอกจากจะลดความมั่นใจแก่ผู้บริโภค ยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติด้วย

นายสมศักดิ์ เสริมว่า ธุรกิจรถยนต์นำเข้าถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่ดำเนินงานโดยคนไทย ในรูปแบบบริษัท SME เป็นส่วนมาก และได้นำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ ในแบบพาราอิมพอร์ต ซึ่งในต่างประเทศเองมีรถยนต์หลายๆ รุ่น ที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคคนไทย แต่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการไม่ได้นำเข้ามาจำหน่าย ดังนั้นการที่มีธุรกิจรถยนต์นำเข้า จึงเหมือนเป็นการเติมเต็มให้แก่ผู้บริโภค ทำให้มีทางเลือกมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แม้อยู่ในจังหวัดที่ไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพราะบริษัทรถยนต์นำเข้าจะมีความคล่องตัวสูงกว่าในด้านการให้บริการ รวมถึงยังเกิดการแข่งขันในด้านการบริการหลังการขายที่สามารถไปบริการลูกค้าได้ถึงที่ตามจังหวัดต่างๆ เกิดการพัฒนางานฝีมือสายอาชีพช่าง ที่ต้องตามให้เท่าทันเมืองนอก ดังนั้นธุรกิจนี้ จึงเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศได้ ซึ่งในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเองก็มีธุรกิจประเภทนี้ดำเนินอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น , จีน ,ฮ่องกง , สิงค์โปร์ , มาเลเซีย , หรือกระทั้งอเมริกา เป็นต้น

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึง ความคืบหน้า การนำเสนอกรมศุลฯ ถึงแนวทางการปรับวิธีจัดเก็บภาษีนำเข้า โดยทางสมาคมฯ ได้วิงวอนให้ทางกระทรวงการคลัง พิจารณาเรื่องโครงสร้างอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ ที่ทุกวันนี้เรียกเก็บในอัตราสูงสุดที่ 328 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น ลาว , เขมร , พม่า , มาเลเซีย หรือ ฮ่องกง และโครงสร้างนี้ก็ใช้มามากกว่า 25 ปีแล้ว ซึ่งไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทางสมาคมจึงขอเสนอแนวทางการคำนวณภาษีใหม่ โดยลดอัตราภาษีลงแต่เม็ดเงินภาษีที่เข้ารัฐยังเท่าเดิมหรือมากกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งจะได้นำเสนอกรมศุลฯ ผ่านไปยังกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณา สมาคมขอวิงวอนเรื่องนี้ก็เพื่อให้ธุรกิจนี้เกิดการแข่งขันในตลาดรถยนต์ได้มากขึ้น และสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

ทั้งนี้ทางสมาคมยังขอให้ทางผู้บริโภคมีความมั่นใจในธุรกิจรถยนต์นำเข้าต่อไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการนำเข้ารถยนต์อย่างถูกต้อง การชำระภาษี การจดทะเบียน หรือกระทั้งการบริการหลังการขายที่ดี โดยเฉพาะกับบริษัทสมาชิกของสมาคม

กลุ่มตรีเพชรนำทัพผู้จำหน่ายอีซูซุฉลอง 60 ปียิ่งใหญ่ สัมผัสต้นกำเนิด ณ แม่น้ำ “อีซูซุ” ประเทศญี่ปุ่น พร้อมร่วมพิธีเสริมบารมีอันศักดิ์สิทธิ์


กลุ่มตรีเพชรนำทัพผู้จำหน่ายอีซูซุฉลอง 60 ปียิ่งใหญ่ สัมผัสต้นกำเนิด ณ แม่น้ำ “อีซูซุ” ประเทศญี่ปุ่น พร้อมร่วมพิธีเสริมบารมีอันศักดิ์สิทธิ์

กลุ่มตรีเพชร นำโดย มร.โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ และผู้บริหารระดับสูง บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด นำทัพผู้จำหน่ายอีซูซุทั่วประเทศมากกว่า 200 ชีวิตเดินทางสู่เมืองอิเสะ ประเทศญี่ปุ่น ย้อนรอยสู่แม่น้ำ “อีซูซุ” ที่มาแห่งยนตรกรรม “อีซูซุ”พร้อมจัดพิธีเสริมบารมี ณ มหาวิหาร “อิเสะ” (Ise Grand Shrine) อันศักดิ์สิทธิ์ ในวาระฉลองครบรอบ 60 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เหมือนเมื่อ 10 ปีก่อนที่ได้เดินทางมาฉลองครบรอบ 50 ปี ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการก้าวสู่อนาคตข้างหน้าอย่างมั่นคงตลอดไป พร้อมกับจัดงานเลี้ยงฉลอง 60 ปีอย่างยิ่งใหญ่ ณ กรุงโตเกียว โดยมีผู้บริหารสูงสุดจากบริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศญี่ปุ่น) และบริษัทมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น มาร่วมยินดีกับความสำเร็จของธุรกิจอีซูซุในประเทศไทยซึ่งถือเป็นธุรกิจอีซูซุที่ประสบความสำเร็จที่สุด


มร.โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า ในประเทศญี่ปุ่นมีวิหารมากกว่า 88,000 แห่ง แต่มหาวิหารอิเสะ ซึ่งมีอายุกว่า 2,000 ปี ที่มีแม่น้ำ “อีซูซุ” ไหลผ่านนั้น เป็นมหาวิหารที่ชาวญี่ปุ่นเคารพและศรัทธาว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด โดยเชื่อว่าเป็นที่สถิตย์ขององค์สุริยเทพ “อามะเทราสุ โอมิคามิ” (Amaterasu Omikami) ซึ่งถือเป็น ต้นกำเนิดของราชวงศ์ญี่ปุ่น ดังนั้นสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นจึงเสด็จมาสักการะอย่างต่อเนื่อง


กลุ่มตรีเพชรรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำผู้จำหน่ายอีซูซุทั่วประเทศกลับไปทำพิธีเสริมบารมี ณ มหาวิหารแห่งนี้ พร้อมยังได้สัมผัสแม่น้ำ “อีซูซุ” เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตและความเจริญรุ่งเรืองของธุรกิจ “อีซูซุ” สืบไป เหมือนกับในวาระครบรอบ 50 ปีเมื่อปี พ.ศ. 2550



นอกจากนี้ 2 ประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก มร.เอ็ม. ทาคายามะ (Mr.M.Takayama) ประธาน บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศญี่ปุ่น) และ มร.ที. คาคิอุจิ (Mr.T.Kakiuchi) ประธาน บริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) บริษัทแม่ต้นสังกัดของบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ยังได้ให้เกียรติร่วมงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 60 ปีธุรกิจอีซูซุในประเทศไทย และร่วมสังสรรค์อย่างเป็นกันเองร่วมกับผู้จำหน่ายอีซูซุจากประเทศไทย ณ โรงแรมนิว โอทานิ กรุงโตเกียว เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และตอกย้ำความสำคัญของตลาดรถอีซูซุในประเทศไทย พร้อมกับตั้งเป้าหมายที่จะครองอันดับ 1 ในใจผู้ใช้รถชาวไทยตลอดไป


โอกาสนี้ผู้จำหน่ายอีซูซุยังได้ไปเยี่ยมชม“อีซูซุ พลาซ่า” อาคารขนาดใหญ่ 3 ชั้นที่รวบรวมประวัติศาสตร์ความเป็นมาและเทคโนโลยีต่างๆของรถ “อีซูซุ” ซึ่งใช้มัลติมีเดียในการจัดแสดงไว้อย่างน่าสนใจ เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ณ เมืองฟูจิซาวะ ใกล้กับที่ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์อีซูซุใน ประเทศญี่ปุ่น โดยเริ่มเปิดดำเนินการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ไฮไลท์สำคัญ อาทิ


· เมืองจำลองขนาดใหญ่ที่มีรถอีซูซุวิ่งอยู่เพื่อให้ผู้ชมได้เข้าใจถึงความสัมพันธ์ของ แบรนด์อีซูซุที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินชีวิตของผู้คน

· นิทรรศการกิจกรรมต่างๆ ของอีซูซุทั่วโลก ภายใต้แนวคิด “อีซูซุสนับสนุนทุกการขนส่ง”


· การจัดแสดงรถบรรทุกรุ่นต่างๆ ของอีซูซุ ตั้งแต่รุ่น “วูลสเล่ย์ ซีพี” ซึ่งเป็นรุ่นเก่าแก่ที่สุด ตลอดจนรถรุ่นที่มีชื่อเสียงในอดีต พร้อมอธิบายภูมิหลังของยุคสมัยใน แต่ละช่วง

· รถปิกอัพ “อีซูซุดีแมคซ์” จากฐานการผลิตประเทศไทยที่ส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก


กลุ่มอีซูซุมุ่งมั่นจะอยู่เคียงคู่สังคมไทยตลอดไปและจะดำเนินธุรกิจภายใต้ปรัชญาในการดำเนินธุรกิจที่ยึดถือปฏิบัติเสมอมา หว่างการดำเนินชีวิตของผู้คนกับแบรนด์อีซูซุ
💙เมื่อผ่านเมืองจำลอง ผู้ชมสามารถทดลองนั่งในรถบรรทุกหรือรถบัสได้
💙ชั้น2 แบ่งเป็น 2 โซน --โซนการผลิตรถยนต์อีซูซุ และโซนประวัติศาสตร์ของอีซูซุ
ข้อมูลจากvdoแนะนำอีซูซุพลาซ่าภาษาญี่ปุ่น โดยคุณ Panatda Chennavasinให้ความกรุณาแปลเป็นไทยนั่นคือ “วิถีอีซูซุ - - ผู้ใช้สุขใจ เพิ่มพูนรายได้ ช่วยให้สังคมพัฒนา”

ตอกย้ำที่สุดของงานแสดงสินค้ารถบรรทุกและการขนส่งแห่งภูมิภาคอาเซียน



ตอกย้ำที่สุดของงานแสดงสินค้ารถบรรทุกและการขนส่งแห่งภูมิภาคอาเซียน


เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับมหกรรมรถบรรทุกประเทศไทย ครั้งที่ 2 หรือ Thailand International TRUCK SHOW 2017 พร้อมทัพนวัตกรรมรถบรรทุกและรถประกอบการเพื่อการพาณิชย์ มุ่งเชื่อมโยงระบบการขนส่งในภูมิภาคอาเซียน เสริมทัพด้วย ATF ร่วมจัดประชุมสามัญประจำปี กับ 10 ประเทศอาเซียน โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 10 มิถุนายน 2560 ณ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี



คุณอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศคนที่ 1 กล่าวว่า จากความตั้งใจของทางผู้จัดงานที่เล็งเห็นความสำคัญของระบบการขนส่งของประเทศไทยที่พร้อมขับเคลื่อนสู่การเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งผู้แสดงสินค้าและผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน ต่างก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดงานครั้งนี้ด้วย

“สำหรับในด้านเศรษฐกิจในประเทศ ทางรัฐบาลได้มีการอนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้รถบรรทุกเพื่อการอุปโภคและบริโภค บวกกับสัญญาณการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว การเติบโตของการท่องเที่ยว และมูลค่าการค้าในกลุ่ม AEC ที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่อาจประเมินคุณค่าทางเศรษฐกิจได้ในอนาคต” นายอลงกรณ์กล่าว


คุณยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางรถบรรทุกแห่งอาเซียน กล่าวว่า ATF เกิดขึ้นมาได้ด้วยการสนับสนุนจาก บริษัท นิชิโอะ เร้นท์ ออล จำกัด และก่อตั้งขึ้น ในปี 2015 ที่ผ่านมา ซึ่งตลอดระยะเพียง 1 ปี เราได้มีการบรรลุข้อตกลงของกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน ทั้ง 10 ประเทศ และภายในงานปีนี้จะมีการลงนามของประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะทำให้ ASEAN TRUCKING FEDERATION มีความสมบูรณ์ และนับเป็นโอกาสอันดีที่งานนี้จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจภาคการขนส่งทางถนนของประเทศ ให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นด้วย



คุณศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ กล่าวเสริมว่า งานนิทรรศการนี้มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน นับว่ามีความแตกต่างจากการจัดงานอื่นๆ ที่ผ่านมา ในฐานะทางสำนักงานได้ร่วมเป็นอีหนึ่งแรงในการประชาสัมพันธ์ เพื่อเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าชมงาน โดยเรามั่นใจว่าจะได้รับความสนใจทั้งจากผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน รวมถึงจะมีผู้ประกอบการจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกเข้าร่วมงาน เพื่อนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านยานยนต์บรรทุกอย่างแน่นอน


และปิดท้ายด้วย Mr.Masashi Nishio ประธานคณะกรรมการจัดงาน Thailand International TRUCK SHOW กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานแสดงสินค้าในครั้งนี้ สำหรับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 ของการจัดงานภายใต้แนวคิด “Move Forward with ASEAN Truck Logistics”


ซึ่งมีผู้แสดงสินค้ามากกว่า 70 บริษัทชั้นนำทั่วโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์ อาทิ HINO, ISUZU, FUSO, Iveco, CIMC, Komatsu, Nittsu Shoji, Furukawa, PTT และสินค้าอื่นๆ อีกมากมายทั้งเคมีภัณฑ์, อะไหล่ที่เกี่ยวข้อง, อุปกรณ์เกี่ยวเนื่องด้านโลจิสติกส์ ซึ่งทางบริษัทล้วนเตรียมโชว์นวัตกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด และเสริมด้วยโปรโมชั่นต่างๆ มาจัดแสดง




“นอกจากนี้ไฮไลต์อีกอย่าง คือ กิจกรรมประชุมใหญ่สามัญของ ATF ซึ่งมีผู้นำจากกลุ่มประเทศอาเซียน บวก 1 เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือการเข้าร่วมเป็นสมาชิก ATF ของ 2 สมาคมยักษ์ใหญ่จากประเทศฟิลิปปินส์ ทำให้ ASEAN

Trucking Federation มีสมาชิกครบ 10 ประเทศในภูมิภาคอาเซียนอย่างสมบูรณ์ในด้านวิชาการนั้น โดยจัดสัมมนานานาชาติ One Belt One Road และ Myanmar the last frontier in Asia เป็นต้น รอบรองว่างานครั้งนี้ครบวงจรและยิ่งใหญ่กว่าครั้งแรกแน่นอน” Mr.Nishio กล่าว

พบกันที่งาน Thailand International TRUCK SHOW 2017 ได้ตั้งแต่วันที่ 8 – 10 มิถุนายน 2560 ณ ฮอลล์ 1-2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี


“MSX125SF พรีเซ็นต์ The Clutcher Night Ride Battle” เทศกาลที่เหล่าสาวก MSX ต้องห้ามพลาด!!!



“MSX125SF พรีเซ็นต์ The Clutcher Night Ride Battle” เทศกาลที่เหล่าสาวก MSX ต้องห้ามพลาด!!!

ครั้งแรกกับปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของ MSX125SF กับ “The Clutcher Night Ride Battle” งานเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ที่รวมพลสาวก MSX จากทั่วเมืองไทย กับครั้งแรกที่เหล่าเดอะครัชเชอร์จะได้สัมผัสกับสนามแข่ง Pinball ยักษ์ พร้อมประลองความสามารถเพื่อเฟ้นหาเดอะครัชเชอร์ที่ใช้ฝีมือการคอนโทรลขั้นสุด กับ 5ด่านสุดท้าทาย พร้อมฟินส์ไปกับวงดนตรีสุดมันส์ อาทิ AB Normal, Musketeers, Rap is now & กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมายภายในงานให้คุณได้เปิดไอเดียการตกแต่ง ช็อปปิ้งเสริมความเท่ให้กับรถมินิไบค์ยอดฮิตจากสำนักแต่งและร้านแต่งชื่อดังกว่า 20 ร้าน พร้อมคำแนะนำจากกูรูแต่งรถ MSX เจ้าของเพจModifin Thailand โดยงานจัดขึ้นวันที่ 17 มิถุนายน 2560 ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป ที่เมกาบางนา ลานหน้าห้างอิเกีย

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/hondamotorcyclethailand/

จองพื้นที่ “MOTOR EXPO 2017” คึกคัก ทุกค่ายมั่นใจยอดขายกระฉูดส่งท้ายปี



จองพื้นที่ “MOTOR EXPO 2017” คึกคัก
ทุกค่ายมั่นใจยอดขายกระฉูดส่งท้ายปี

          ผู้ผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง แห่ร่วมงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34" ดันตลาดโตต่อเนื่องถึงปีหน้า
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” เปิดเผยว่า “บรรยากาศการจองพื้นที่งานเป็นไปอย่างคึกคัก บางค่ายต้องการเพิ่มพื้นที่มากกว่าปีที่ผ่านมา ด้วยความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย จากช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มียอดจำหน่ายรถยนต์เติบโตกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมถึงศักยภาพของผู้จัด คุณภาพของงานที่ได้มาตรฐานสากล กำลังซื้อของผู้เข้าชมงาน ประกอบกับช่วงเวลาจัดงานเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปี สามารถสร้างยอดขายส่งท้ายปีได้เป็นอย่างดี”
 มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” มีพื้นที่จัดงานรวมทั้งสิ้น 80,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น ภายในอาคารชาเลนเจอร์ 60,000 ตารางเมตร สำหรับจัดแสดงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง โดยผังพื้นที่ใกล้เคียงกับงานปีที่ผ่านมา ปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยตามความเหมาะสม และพื้นที่ภายนอกอาคารริมทะเลสาบอีก 20,000ตารางเมตร สำหรับจัดกิจกรรมอื่นๆ มากมาย
ขวัญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับยอดจองภายในงานตั้งเป้าหมายที่รถยนต์ 40,000 คัน รถจักรยานยนต์ 7,000 คัน ส่วนจำนวนผู้ชมคาดว่าจะสูงถึง 1.5 ล้านคน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท
พลาดไม่ได้กับงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 ณ อาคารชาเลนเจอร์IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคม 2560 สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง http://www.motorexpo.co.th และhttp://www.facebook.com/motorexpo

ปอร์เช่เปิดตัวศูนย์นวัตกรรมแห่งใหม่ใน Tel Aviv แหล่งรวมแนวคิดสร้างสรรค์และพันธมิตรร่วมทุนทางธุรกิจรายใหม่



ปอร์เช่เปิดตัวศูนย์นวัตกรรมแห่งใหม่ใน Tel Aviv แหล่งรวมแนวคิดสร้างสรรค์และพันธมิตรร่วมทุนทางธุรกิจรายใหม่

ปอร์เช่ ทุ่มงบพัฒนาจำนวนมหาศาลในประเทศอิสราเอล

สตุ๊ทการ์ท/เทล อวีฟ. ปอร์เช่คือบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตชั้นนำของโลกที่ให้ความสำคัญกับการค้นคว้านวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดมา: การเปิดตัว “ศูนย์นวัตกรรม” ใหม่ล่าสุดในประเทศอิสราเอล คือข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน สำนักงานแห่งนี้มีที่ตั้งอยู่ในกรุง เทล อวีฟ เมืองหลวงของประเทศอิสราเอล โดยปอร์เช่มีความตั้งใจใช้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งรวมความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี และอัจฉริยภาพในการพัฒนาต่างๆ ช่วงระยะเริ่มแรกของการปฏิบัติงาน ปอร์เช่ได้ลงทุนด้วยงบประมาณมหาศาลเพื่อร่วมทุนกับกิจการของ Magma และ Grove สำหรับการดำเนินงานตามแผนในขั้นตอนต่อไป คือการสนับสนุนธุรกิจ start-ups และ กองทุนต่างๆ

“ประเทศอิสราเอล เป็นอีกหนึ่งตลาดแรงงานที่มีความโดดเด่นในแง่ของบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้าน IT และ วิศวกรรมศาสตร์ ที่นี่เต็มไปด้วยธุรกิจ start-ups อันน่าสนใจ มากกว่าประเทศอื่นๆ ในโลก ความปราดเปรื่องและองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีเติบโตควบคู่ไปกับทักษะความชำนาญที่แสดงให้เห็นจากบรรดาบุคลากรภายในของเรา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสรรสร้างแนวคิดใหม่ๆ เพื่อพัฒนาหน่วยงานธุรกิจของเราตั้งแต่ระดับพื้นฐาน”, ข้างต้นคือความเห็นของ Lutz Meschke, รองประธานและสมาชิกคณะกรรมการบริหารผู้กำกับดูแลด้านการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศของปอร์เช่ นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมถึงความจำเป็นอย่างยิ่งในการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญในประเทศอิสราเอลซึ่งจะเป็นการสนับสนุนให้องค์กรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ส่งเสริมให้เกิดความสัมพันธ์อันดีและเป็นจุดเริ่มต้นของกลวิธีในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม



หลังจากบริษัท Magma Venture fund ได้ริเริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปี 1999 ปัจจุบันบริษัทแห่งนี้มีแนวทางที่ชัดเจนในการมุ่งเน้นไปในทิศทางการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ หรือ artificial intelligence และ นวัตกรรมด้านยานยนต์ ผลจากการส่งเสริมสนับสนุนงบประมาณดังกล่าว ช่วยให้ธุรกิจ start-ups หลายต่อหลายรายประสบความสำเร็จ ตัวอย่างเช่น Waze เป็นต้น บริษัท Magma Venture เป็นหนึ่งในองค์กรหลักผู้ให้การสนับสนุนเงินทุนให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจอื่นๆ ในประเทศอิสราเอล ภายใต้งบประมาณการดำเนินกิจการกว่า 600 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในส่วนของ Grove Ventures เป็นบริษัทร่วมทุนทางธุรกิจที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี 2015, ภายใต้งบประมาณดำเนินกิจการกว่า 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการสนับสนุนเงินทุนสำหรับระยะเริ่มต้นให้แก่ธุรกิจด้าน Internet of Things (IoT) เทคโนโลยี คลาวด์ และ ปัญญาประดิษฐ์

“นวัตกรรมสามารถเกิดขึ้นได้ทุกแห่งหน สิ่งที่ทุกคนต้องการคือแนวทางพัฒนาที่เป็นระบบระเบียบ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เราตัดสินใจเริ่มต้นทำสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา: มันคือเส้นขนานของความปรารถนาและความเป็นตัวตน สำหรับเรามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับแรงกระตุ้นที่มาจากอุตสาหกรรมอื่นๆ เห็นได้จากการที่เราร่วมแรงร่วมใจทำงานกับธุรกิจ start-ups ต่างๆนั่นเอง, เรายังคงเฟ้นหาแนวร่วมทางธุรกิจ รวมทั้งแหล่งรวมของสถาบันทางวิทยาศาสตร์อื่นๆ เพื่อจับมือเป็นพันธมิตรและร่วมลงทุนในส่วนงานที่มีความเกี่ยวข้องกับเราต่อไป”, Meschke กล่าวทิ้งท้าย ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดของกิจกรรมข้างต้นคือการทุ่มงบประมาณของศูนย์วิจัยและพัฒนา Porsche Digital GmbH ในการทำงานกับธุรกิจ start-up เช่น Evopark, และยังรวมไปถึงความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาด้านการบริหารจัดการอย่าง HHL Leipzig Graduate School of Management หรือแม้แต่การเข้าไปมีส่วนร่วมลงทุนกับองค์กรด้านหลักทรัพย์อย่าง e.ventures

ในอดีตที่ผ่านมา ปอร์เช่ริเริ่มดำเนินโครงการที่มีส่วนในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาด้านดิจิตอลเอาไว้มากมาย หนึ่งในนั้นคือ Porsche Digital GmbH, ซึ่งได้รับการก่อตั้งขึ้นในเดือน มิถุนายน ปี 2016 โดยมี Thilo Koslowski ดำรงตำแหน่งหัวหน้าศูนย์วิจัย ด้วยระยะเวลาสั่งสมความเชี่ยวชาญอันยาวนานตลอด 20 ปี ที่ Gartner ใน ซิลิคอน วัลเลย์ หน่วยงานย่อยของปอร์เช่แห่งนี้จึงได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ดูแลงานด้านการพัฒนา การบริหารประสบการณ์ลูกค้า ผลิตภัณฑ์ โครงข่ายธุรกิจและกรรมวิธีการผลิตที่เกี่ยวข้องกับโลกดิจิตอล นอกจากนี้ Porsche Digital, Inc., คืออีกหนึ่งหน่วยงานย่อยของ Dr. Ing. h.c. F. Porsche AG และมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับ Porsche Digital GmbH, ซึ่งในปัจจุบันได้เปิดสาขาใหม่ที่     ซานตา คลารา แคลิฟอเนียร์ เป็นที่เรียบร้อย บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตชั้นนำจากประเทศเยอรมนีแห่งนี้ยังได้เปิดดำเนินการศูนย์ค้นคว้าวิจัย Porsche Digital Lab ในกรุงเบอร์ลิน เมื่อเดือน กันยายน ปี 2016 อีกด้วย โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการทดลองและทดสอบเพื่อหาแนวทางให้แก่นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

ในทุกๆ การลงทุน ล้วนแล้วแต่มีพื้นฐานตั้งอยู่บนกระบวนการการเปลี่ยนแปลงทางดิจิตอลของแต่ละหน่วยธุรกิจ โดยมีจุดมุ่งหมายให้เกิดกรรมวิธีการปฎิบัติงานที่ทันสมัย และสร้างสรรค์ขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผลลัพธ์ทั้งหมดมีส่วนสำคัญในการเสริมแรงผลักดันจากภายในองค์กรของปอร์เช่ ให้พัฒนาไปข้างหน้าพร้อมๆ กับการเติบโตของนวัตกรรม ระบบการบริหารจัดการ การสร้างกระบวนการทำงานที่เป็นระเบียบและสนับสนุนให้เกิดความคิดสร้างสรรค์

สามารถรับชมภาพประกอบเนื้อหาข่าวได้ที่ Porsche Newsroom (www.newsroom.porsche.com) และฐานข้อมูลสำหรับสื่อมวลชนที่ Porsche press database (www.presse.porsche.de)

เกี่ยวกับ AAS Auto Service
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกรของเราให้มีคุณภาพสูงสุดตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า AAS The Name you can Trust ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี

ยามาฮ่า รับรางวัล The Best Brand Performance “Automobile” 2 ปีซ้อน



ยามาฮ่า รับรางวัล The Best Brand Performance “Automobile” 2 ปีซ้อน

นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า (คนกลาง) พร้อมผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมถ่ายภาพกับ นายกล้า ตั้งสุวรรณ (คนที่ 4 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โธธ โซเชียล จำกัด ที่เข้าร่วมแสดงความยินดีในโอกาสที่ยามาฮ่าได้รับรางวัล The Best Brand Performance “Automobile” จากงานประกาศรางวัล Thailand Zocial Awards 2017 ซึ่งเป็นงานประกาศรางวัลของคนออนไลน์งานแรกของประเทศไทย โดยถูกจัดขึ้นเพื่อให้ความสำคัญกับโซเชียลมีเดียที่ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อภาคธุรกิจในยุค Thailand 4.0 และเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่มอบให้เพื่อเชิดชูผลงาน และเป็นกำลังใจให้กับแบรนด์ที่ใช้โซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในภาคธุรกิจสาขาต่างๆ ซึ่ง ยามาฮ่า เป็นแบรนด์ที่ได้รับรางวัลอันดับที่ 1 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันในธุรกิจรถจักรยานยนต์ และ ยามาฮ่า ยังเป็นหนึ่งในสามแบรนด์ที่ทำผลงานบนโซเชียลมีเดียได้อย่างยอดเยี่ยมในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ (Automobile) อีกด้วย

เปิดตัว Honda Bigwing หาดใหญ่ ศูนย์ใหม่ใหญ่สุดในภาคใต้ตอนล่าง



เปิดตัว Honda Bigwing หาดใหญ่ ศูนย์ใหม่ใหญ่สุดในภาคใต้ตอนล่าง

เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถฮอนด้า บิ๊กไบค์ในประแทศไทย ผนึกกำลังร่วมกับบริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด เปิดตัวศูนย์Honda Bigwing แห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ตอนล่างบนพื้นที่ 1,500 ตารางเมตรตั้งอยู่ใจกลางเขตเศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้อย่าง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพียบพร้อมด้วยมาตราฐานการบริการ 6S ในแบบฉบับของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ ตั้งเป้าเป็นอีกหนึ่งในจุดศูนย์กลางการขับขี่หรือDestination for Riders สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบรถบิ๊กไบค์ในจังหวัดสงขลาและในเขตภาคใต้ตอนล่าง

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหารกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าตลาดรถบิ๊กไบค์ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องและถือเป็นเทรนด์อย่างหนึ่งก็ว่าได้ ซึ่งกลุ่มผู้ใช้มีตั้งแต่ระดับไฮเอนด์ไปถึงกลุ่มที่ใช้เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น ขับขี่เพื่อท่องเที่ยว ขับขี่ใช้ชีวิตในเมือง หรือผู้ที่ชอบในความท้าทาย ซึ่งเรามีทั้งผลิตภัณฑ์ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า รวมถึงการบริการที่เน้นกลยุทธ์การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าเป็นหลักด้วยการให้บริการแบบครบวงจรภายใต้แนวคิด Destination for Riders ด้วยมาตรฐาน 6S ที่ประกอบด้วย Sales, Service, Spare Parts, Safety, Second Hand และ Society”


กับการเปิดศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิงแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ ฮอนด้าบิ๊กวิงหาดใหญ่ ที่เราได้ร่วมมือกับบริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด มีเป้าหมายเพื่อให้เป็น Destination for Riders หรือจุดหมายปลายทางทางสำหรับคนรักฮอนด้าบิ๊กไบค์ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ทั้งนี้บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด ถือเป็นหนึ่งในผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ในภาคใต้ ซึ่งตลอด ปีที่มีการเปิดศูนย์บริการชั่วคราวก็สามารถทำยอดขายรถบิ๊กไบค์ได้ถึง 600 คัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30 ของยอดขายรถบิ๊กไบค์ฮอนด้าทั้งหมดของภาคใต้ นอกจากการขาย ทางบริษัทฯ ยังมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในพื้นที่เป็นอย่างดี เราจึงมั่นใจว่าศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิงแห่งใหม่นี้จะสามารถมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าได้"

ฮอนด้าบิ๊กวิงหาดใหญ่ถือเป็นศูนย์ฯที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ตอนล่าง โดยตั้งอยู่ที่ถนนนิพัทธอุทิศ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และมีพื้นที่ใช้สอยในส่วนของสำนักงานถึง 1,500ตารางเมตร อัดแน่นด้วยอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตราฐานของฮอนด้าบิ๊กวิง นอกจากนี้นี้ลูกค้ายังสามารถเข้ารับการอบรมขับขี่ปลอดภัยสำหรับรถบิ๊กไบค์ได้ที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยที่ตั้งอยู่ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่อีกด้วย

สำหรับใครที่อยากติดตามข่าวสารของ ฮอนด้า บิ๊กไบค์ และเครือข่ายศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิงได้ที่ hondabigbike.com พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆได้ที่แฟนเพจของฮอนด้าบิ๊กไบค์facebook.com/HondaBigbikeTH

โรลส์-รอยซ์ “SWEPTAIL” สู่ฝันที่เป็นจริงของยนตรกรรมสั่งผลิตหนึ่งเดียวใน


โรลส์-รอยซ์ “SWEPTAIL” สู่ฝันที่เป็นจริงของยนตรกรรมสั่งผลิตหนึ่งเดียวใน

29 พฤษภาคม 2560 – กรุงเทพฯเมื่อครั้งที่โรลส์-รอยซ์เปิดตัวยานยนต์วิสัยทัศน์รุ่น 103EX สู่สายตาชาวโลก ได้ปลุกความปรารถนาของบรรดาลูกค้าในการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่สั่งผลิตตัวถังพิเศษเพียงคันเดียวในโลกที่ไม่เหมือนใครในแบบฉบับของตนเอง ยานยนต์แห่งจินตนาการของโรลส์-รอยซ์รุ่นนี้ได้นำเสนอปรากฏการณ์แห่งยานยนต์สั่งผลิตที่มอบความหรูหราและสื่อถึงเอกลักษณ์ของผู้เป็นเจ้าของได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถเนรมิตรถยนต์ในฝันของทุกคนได้ในทุกรายละเอียด และถือเป็นนิยามแห่งยานยนต์สั่งผลิตระดับหรูที่แสดงถึงตัวตนของผู้ครอบครองได้อย่างแท้จริง

แนวคิดของยานยนต์สั่งผลิตแห่งอนาคตของโรลส์-รอยซ์นี้ได้ปลุกความปรารถนาขึ้นในตัวชายผู้หนึ่ง ซึ่งต่อมา เขาได้เดินทางมายังโรลส์-รอยซ์และบอกเล่าถึงความฝันการผลิตรถยนต์แบบ 2 ที่นั่งในแบบฉบับของเขาเอง ซึ่งโรลส์-รอยซ์ได้เนรมิตขึ้นและขนานนามว่า“สเวพเทล (Sweptail)” ซึ่งมีกลิ่นอายของยานยนต์โรลส์-รอยซ์ยอดนิยมในยุค 1920 โดยชายผู้นี้ได้ขอให้โรลส์-รอยซ์ปรับรูปลักษณ์ใหม่ เพื่อสร้างสรรค์สุดยอดมอเตอร์คาร์ที่ไม่เหมือนใครในแบบฉบับของเขาเอง

งานเปิดตัว โรลส์-รอยซ์ สเวพเทล รอบสื่อมวลชนจัดขึ้นภายในงานคอนคอร์โซ เดอ'เอเลแกนซา ณ วิลลา เดสเต (Concorso d’Eleganza at Villa d’Este) เมื่อวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2560 โดย มร.ทอร์สเทน มูลเลอร์ ออทวอส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส กล่าวว่า “สเวพเทล คือรถยนต์ที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง ซึ่งเปี่ยมด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหลแห่งการเดินทางในแบบฉบับของตัวเองและถือเป็นอนุสรณ์อันน่าเกรงขามแห่งโลกของยานยนต์สั่งผลิตที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก โรลส์-รอยซ์คือผู้นำในโลกของรถยนต์สั่งผลิตระดับหรูที่สั่งสมเกียรติประวัติมาอย่างยาวนานจนได้รับการยอมรับไปทั่วโลก การเปิดตัวยานยนต์รุ่น 103EX ได้ฉายแสงสู่อนาคตแห่งธุรกิจนี้ให้แก่โรลส์-รอยซ์ และวันนี้ สเวพเทล คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์แห่งความสำเร็จของโรลส์-รอยซ์ ในฐานะผู้นำของแบรนด์ยานยนต์สั่งผลิตตัวจริง เรารับฟังความต้องการของลูกค้าคนสำคัญอย่างละเอียด เพื่อนำเงินลงทุนของเขามาสู่การสร้างสรรค์ยานยนต์ในฝันเพียงหนึ่งเดียวในโลกให้เป็นจริง ในขณะเดียวกัน เราก็พยายามเสาะหาเฉพาะทรัพยากรที่ดีที่สุดเพื่อการนำเสนอบริการที่โดดเด่นเพื่อลูกค้าชั้นเลิศของเรา”

สเวพเทล – จากจินตนาการสู่ความเป็นจริง

“สเวพเทล เปรียบเสมือนยานยนต์แห่งแฟชั่นระดับโอต์ กูตูร์” จิลส์ เทย์เลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายนักออกแบบ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส กล่าว “รถยนต์คันนี้ได้รับการออกแบบและผลิตตามคำสั่งเฉพาะโดยโรลส์-รอยซ์ เพื่อสนองความต้องการของลูกค้าเพียงรายเดียว โดยลูกค้ารายนี้เดินทางมายังสำนักงานใหญ่พร้อมแนวคิดการสร้างรถยนต์ เสมือนเราให้คำปรึกษาเรื่องเสื้อผ้าแก่เขา และเราก็ทำหน้าที่ตัดเสื้อผ้าชุดนั้นด้วย อาจกล่าวได้ว่า เราเป็นผู้ตัดชุดสูทที่แสดงถึงตัวตนของเขานั่นเอง”

ด้วยแรงบันดาลใจจากรถยนต์สั่งผลิตอันงดงามของโรลส์-รอยซ์ในช่วงทศวรรษที่ 1920 และ 1930 ลูกค้าต้องการรถยนต์คูเป้สั่งผลิตแยกตัวถังแบบ 2 ที่นั่ง โดยมีหลังคากระจกขนาดใหญ่แบบพานอรามิกยาวตามแนวรถ และเช่นเดียวกับลูกค้ารถยนต์สั่งผลิตของโรลส์-รอยซ์ทั่วไป เขามีแรงบันดาลใจจากรถยนต์ยอดนิยมหลายรุ่นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 รวมถึงความหรูหราสง่างามจากรูปทรงของเรือยอชท์ทั้งแบบคลาสสิกและแบบโมเดิร์นในหลากหลายรุ่น

เทย์เลอร์และทีมนักออกแบบของเขาต้องทำงานกับลูกค้ารายนี้เป็นเวลาหลายปี เสมือนการเดินทางที่ต้องใช้สติปัญญาอย่างมากเพื่อมอบชีวิตให้แก่รถยนต์ในจินตนาการของลูกค้ารายนี้ และผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมที่ปรากฏในท้ายที่สุดคือ โรลส์-รอยซ์ สเวพเทล สุดยอดยานยนต์ที่มอบความโดดเด่นเหนือใคร



สเวพเทล – จินตนาการแห่งเอกลักษณ์ยานยนต์

สเวพเทลนำเสนอเอกลักษณ์อันเป็นแบบฉบับของรถยนต์โรลส์-รอยซ์ทุกรุ่นอย่างชัดเจน ซึ่งโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ด้านหน้าตัวรถที่สื่อถึงความมั่นใจและบึกบึน ดึงดูดทุกสายตาด้วยดีไซน์ตะแกรงหน้าอันงามสง่าในสไตล์ Rolls-Royce Pantheon ซึ่งผลิตจากอลูมิเนียมแข็งและขัดเงาอย่างประณีตโดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญให้ใสเงางามดั่งกระจกเงา พร้อมแต่งขอบด้านหน้าทั้งหมดด้วยกรอบอลูมิเนียมขัดขาวที่มอบความเด่นชัดให้แก่ด้านหน้าของตัวรถ

ส่วนดีไซน์ด้านข้างมอบความงดงามที่สะกดสายตาด้วยเส้นสายที่หรูหราและพลิ้วไหว ให้ล้อรับกับดีไซน์อันสง่างามด้านหน้าของตัวรถและสื่อถึงยานยนต์คูเป้ชั้นสูงอย่างชัดเจน ด้วยการออกแบบกระจกหน้าและแนวเส้นหลังคาที่ต่อเนื่องกันอย่างไร้ที่ติ ดึงสายตาสู่ส่วนท้ายของตัวรถอย่างราบรื่นประหนึ่งมอเตอร์คาร์ชั้นสูง และนำสายตาไปจนถึงส่วนกระโปรงท้ายที่ออกแบบให้ยื่นยาวออกไปอย่างหรูหรา

ส่วนท้ายรถนำเสนอดีไซน์ที่เปี่ยมเสน่ห์และงดงามไร้ที่ติ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากโลกแห่งการแข่งขันเรือยอชท์ของลูกค้าที่เสาะหารูปทรงที่ชื่นชอบมาอย่างพิถีพิถัน เมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าส่วนท้ายที่ลู่ลงแบบสอบเข้านั้นให้ความรู้สึกตรงข้ามกันอย่างมากกับส่วนหน้ารถที่ดูบึกบึนแข็งแกร่งแบบมอเตอร์คาร์ และนี่คือการนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่อันน่าหลงใหลของยานยนต์โรลส์-รอยซ์คูเป้แห่งยุคนี้

รูปทรงที่ลู่ลมด้านท้ายยังได้รับการตกแต่งด้วยตัวเลข 08 ที่ทำจากแท่งอลูมิเนียมและขัดเงาโดยช่างฝีมือ เพื่อสร้างเอกลักษณ์และยังเป็นหมายเลขทะเบียนของยานยนต์คันนี้

ความหรูหราทันสมัยของการตกแต่งภายในห้องโดยสาร

ด้วยรูปทรงที่หรูหราสะอาดตาและภูมิฐานของตัวรถด้านข้าง ประกอบกับหน้าต่างขนาดยาวพิเศษและหลังคากระจกแบบพานอรามิก ได้ถูกนำมาใช้เป็นแนวทางการออกแบบตกแต่งภายในของรถคูเป้ 2 ที่นั่งคันนี้ เพื่อสะท้อนถึงความเป็นหนึ่งเดียว ความทันสมัย และความเรียบง่ายที่เปี่ยมด้วยผลงานของช่างฝีมือชั้นสูงของโรลส์-รอยซ์

ในขณะขับขี่และมองเห็นภูมิทัศน์ภายนอกเคลื่อนผ่านหน้าต่างขนาดใหญ่ไปนั้น ผู้โดยสารยังจะได้สัมผัสถึงปรัชญาการออกแบบภายในที่เน้นความเรียบง่ายและโปร่งสบายตา อันเกิดจากการผสมผสานองค์ประกอบและรูปทรงที่บริสุทธิ์อย่างลงตัว การตกแต่งภายในเน้นการใช้ไม้มากัสซาอีโบนีและไม้พัลดาโอขัดเงาเพื่อสร้างมิติการมองและสัมผัสอันหรูหราที่แตกต่าง ซึ่งให้ทั้งความรู้สึกคลาสสิกและร่วมสมัยไปพร้อมกัน พร้อมเสริมความโดดเด่นด้วยหนังมอคเคซินและหนังดาร์กสไปซ์ในส่วนของเบาะนั่ง ที่พักแขน และส่วนบนของแผงควบคุม

ด้วยแรงบันดาลใจจากรายการแข่งขันจีทีในอีกฝากฝั่งทวีปที่โรลส์-รอยซ์ เป็นผู้ริเริ่มจัดขึ้นในยุค 1920 และ 1930 บริเวณที่นั่งด้านหลังจึงถูกแทนที่ด้วยแผงไม้ตกแต่งขนาดใหญ่และประดับด้วยแผ่นกระจกขัดเงา ส่วนบริเวณใต้ฝากระโปรงท้ายที่ติดตั้งไฟแบ็กไลท์ ติดตั้งที่แขวนหมวกที่ออกแบบมาอย่างสวยหรู เงางาม พร้อมด้วยรางเก็บกระเป๋าสัมภาระพร้อมสรรพ

บริเวณด้านหลังเบาะนั่ง ติดตั้งด้วยส่วนประกอบที่เรียกว่า พาสซาเรลล์ (Passarelle) ที่ไล่จากขอบหลังของกระจกหน้าและเชื่อมไปถึงที่แขวนหมวกด้านหลัง เพื่อให้เกิดเส้นนำสายตาเชื่อมโยงทุกองค์ประกอบภายในเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน

ดีไซน์ส่วนแผงหน้าปัดให้ความรู้สึกเรียบหรูและมีเอกภาพเป็นหนึ่งเดียว เรื่อยไปจนถึงส่วนสวิตช์เกียร์ที่ถูกปรับเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ให้สอดคล้องกับหน้าปัด ซึ่งหน้าปัดดีไซน์แบบชิ้นเดียวครั้งแรกของโลกโดยโรลส์-รอยซ์นี้เป็นงานฝีมือที่ผลิตจากไม้วีเนียร์มากัสซาที่มีความบางที่สุด ติดตั้งนาฬิกาฝังลงบนแผงหน้าปัด โดดเด่นด้วยกลไกเข็มไทเทเนียมอันเที่ยงตรง ซึ่งเข็มทั้งสามบนแผงหน้าปัดที่ประกอบด้วยมือนี้ใช้วัสดุไทเทเนียมทั้งหมด



นอกจากนี้ สเวพเทล ยังมีฟังก์ชั่นการทำงานลับอีก 2 จุดที่น่าประทับใจซุกซ่อนอยู่

ภายใต้แผงปิดเครื่องยนต์ส่วนท้ายของด้านข้างรถ ซึ่งอยู่หลังประตูแบบ Coach Door ติดตั้งช่องสัมภาระที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ซึ่งภายในบรรจุช่องใส่เอกสารแบบแฮนด์เมดที่ติดกระดุมสวยหรู โดยทั้งสองช่องถูกออกแบบให้มีที่เก็บสัมภาระแบบฟูลเซ็ตเหมือนกัน ด้วยดีไซน์ในแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์สำหรับยานยนต์สเวพเทลคันนี้เท่านั้น

เสน่ห์ที่แท้จริงของสเวพเทล คือรายละเอียดแห่งงานดีไซน์ระดับมาสเตอร์ที่งดงามอย่างเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะคอนโซลกลางซึ่งติดตั้งระบบกลไกที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในรถยนต์คันนี้เท่านั้น พร้อมช่องใส่ขวดแชมเปญและช่องวางแก้วแชมเปญคริสตัลอีกสองช่อง เพื่อการเฉลิมฉลองการเดินทางอันน่ารื่นรมย์

การรังสรรค์ยานยนต์สั่งผลิตรุ่น โรลส์-รอยซ์ สเวพเทล คันนี้มีความสมบูรณ์แบบในทุกองค์ประกอบ โดยเลือกใช้วัสดุคัดเกรดพรีเมี่ยม ติดตั้งโดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญด้วยความใส่ในใจทุกรายละเอียดอย่างแท้จริง และนี่คืออีกหนึ่งสุดยอดยานยนต์ที่มีเพียงคันในโลกจากโรลส์-รอยซ์

อีซูซุเปิดเวที Isuzu Creative Brains Challenge ค้นหานักออกแบบรถอีซูซุในฝัน



อีซูซุเปิดเวที Isuzu Creative Brains Challenge ค้นหานักออกแบบรถอีซูซุในฝัน


อีซูซุเปิดเวทีประชันไอเดีย ค้นหานักออกแบบยานยนต์รุ่นใหม่ไฟแรงในกิจกรรม“ISUZU DREAM CAR” Design Contest ในโครงการ “Isuzu Creative Brains Challenge 2017” อีซูซุ... คิดให้ต่างอย่างคนรุ่นใหม่ โดยเชิญชวน นิสิต นักศึกษา ที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี จากสถาบันอุดมศึกษา หรือระดับอนุปริญญาจากสถาบันอาชีวศึกษา จัดทีมระดมสมองออกแบบรถอนาคตของอีซูซุในจินตนาการ ชิงรางวัลทุนการศึกษา รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หมดเขตส่งผลงาน 11 กรกฎาคม ศกนี้


กลุ่มตรีเพชร โดย คุณปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “ตลอด 60 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย อีซูซุไม่เคยหยุดยั้งการคิดค้นนวัตกรรมแห่งยานยนต์ เพื่อให้ผู้ใช้รถชาวไทยและทั่วโลกได้ใช้รถที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านการออกแบบที่ตอบรับทุกความต้องการของผู้ใช้รถ สมรรถนะที่เป็นเยี่ยมในทุกด้าน และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับโครงการ “Isuzu Creative Brains Challenge 2017” อีซูซุ...คิดให้ต่างอย่างคนรุ่นใหม่ ในปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 6โดยจัดการประกวดในหัวข้อ “Isuzu Dream Car” Design Contest เพื่อเป็นเวทีให้น้องๆ นิสิต นักศึกษารุ่นใหม่ในสถาบันเดียวกัน จัดกลุ่มรวมกันเป็นทีมมาร่วมสร้างสรรค์ และโชว์ศักยภาพในการออกแบบยานยนต์อีซูซุแห่งโลกอนาคตตามจินตนาการ และแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะเป็นรถปิกอัพ รถยนต์นั่งเอนกประสงค์ หรือรถบรรทุก ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีให้น้องๆ ได้ฝึกฝนฝีมือ และสร้างสรรค์ไอเดียสุดครีเอทีฟได้อย่างไม่จำกัด”


กิจกรรม “Isuzu Dream Car” Design Contest ในโครงการ “Isuzu Creative Brains Challenge 2017” เป็นการประกวดออกแบบรถอนาคตในจินตนาการ เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี จากสถาบันอุดมศึกษา หรือระดับอนุปริญญาจากสถาบันอาชีวศึกษา ทั่วประเทศ อายุไม่เกิน 25 ปี ทีมละ 3 – 5 คน จากสถาบันเดียวกัน ไม่จำกัดคณะ และชั้นปี มาร่วมสร้างสรรค์ออกแบบยานยนต์แห่งโลกอนาคต ได้ทั้งรถปิกอัพ รถยนต์นั่งเอนกประสงค์ และรถบรรทุก โดยสร้างสรรค์ผลงานได้ทั้งวาดมือ และผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยผู้สมัครจะต้องออกแบบรถใน 3 มุม คือ ด้านหน้ารถ ข้างรถ และหลังรถ พร้อมอธิบายแรงบันดาลใจในการออกแบบ โดยไม่จำกัดจำนวนผลงานที่ส่งเข้าประกวด ชิงรางวัลทุนการศึกษารวมมูลค่ากว่า 1 ล้าน หมดเขตส่งผลงานวันที่ 11 กรกฎาคม 2560

ติดตามรายละเอียดการแข่งขัน และสมัครได้ที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด www.isuzucreativebrainschallenge.comและ Facebook: ISUZU ICBC

donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved