Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

ระบบหัวฉีดน้ำมันแบบคอมม่อนเรล [Common Rail Injection System]

                                             


คอมม่อนเรล สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล  ในขณะที่เทคโนโลยีนี้ พัฒนามากว่า 20 ปีแล้ว คอมม่อนเรล มีสภาพเหมือนเป็นรางกักเก็บเชื้อเพลิง ที่ภายในมีความดันสูงอยู่ตลอด และความดันนี้ก็จะส่งผ่านไปที่หัวฉีด เมื่อหัวฉีดได้รับสัญญาณ ก็จะเปิดให้น้ำมันดีเซล พุ่งผ่านลงไปในห้องเผาไหม้ การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ ของเครื่องยนต์ดีเซล ขึ้นจากระบบเดิมๆ รวมไปถึงระบบไดเร็คอินเจ็คชั่นด้วย ในระบบไดเร็คอินเจ็คชั่นนั้น หัวฉีดจะได้รับการจ่ายเชื้อเพลิงโดยตรง จากปั๊มหัวฉีด สำหรับในระบบคอมม่อนเรลนี้ ปั๊มจะส่งน้ำมันไปที่รางน้ำมันเชื้อเพลิงความดันสูงที่เรียกว่าคอมม่อนเรล ซึ่งความดันอาจสูงถึง 1,350 บาร์ และที่หัวฉีดจะมีการส่งสัญญาณกลับมาที่ปั๊มด้วย รวมทั้งยังมีการควบคุมจาก ECU ร่วมอยู่ด้วย ทั้งหมดจะส่งผลให้มีการใช้น้ำมัน อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้เครื่องยนต์ดีเซลในระบบนี้ ประหยัดน้ำม้น และให้กำลังดีขึ้น มีใช้ในเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่มานานแล้ว ก่อนที่จะเริ่มมีการพัฒนา ให้อุปกรณ์ต่างๆ มีขนาดเล็กลง และนำมาใช้กับเครื่องยนต์ดีเซล สำหรับรถยนต์นั่งในปัจจุบัน เครื่องยนต์ดีเซลระบบ คอมม่อนเรล เริ่มมีวางจำหน่ายแล้วในยุโรป ดินแดนที่มีความนิยม การใช้เครื่องยนต์ดีเซลอย่างมาก ในรถยนต์นั่ง

คอมม่อนเรลเป็นระบบควบคุมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยอีเล็คทรอนิคส์ แตกต่างจากปั๊มหัวฉีดโดยทั่วไป ประกอบด้วย
1. ปั๊มจ่ายน้ำมัน (supply pump) จะถูกขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์เพื่อสร้างน้ำมันแรงดันสูงขึ้นมา



ปั๊มจ่ายน้ำมันประกอบด้วย ตัวปั๊ม(main body) feed pump และลิ้นควบคุมปั๊ม (Pump Control Valve หรือ PCV) ที่มีหน้าที่ปล่อยน้ำมันตามคำสั่งของ ECU ปั๊มนี้ถูกขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ ตัวปั๊มทำหน้าที่ดูดและจ่ายน้ำมันโดยอาศัยการทำงานของ plunger ในการเคลื่อนที่ขึ้นลง
ปั๊มดูดน้ำมัน (Feed pump)
โรเตอร์ของปั๊มดูดน้ำมันเชื้อเพลิง (feed pump) ประกอบไปด้วย
  • แกนที่ต่อกับเพลาข้อเหวี่ยง (Cam Shaft)
  • โรเตอร์ (Rotor)
  • ใบจักร (Vane)
  • ห้องแรงดัน (Pressure chamber)
ในขณะที่แกนโรเตเตอร์หมุน ก็จะทำให้ใบจักรหมุนไปด้วยในลักษณะแรงเหวี่ยงเป็นศูนย์
เพราะว่าโรเตอร์ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางในห้องแรงดัน ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ระหว่างใบจักร (Vane) ถูกบีบอัดให้เกิดแรงดันขึ้นมา
2. รางคอมม่อนเรล (common rail)


รางคอมม่อนเรลนี้จะถูกยีดติดกับท่อร่วมไอดี (intake manifold) ทำหน้าที่จ่ายน้ำมันแรงดันสูงที่ถูกสร้างโดย ปั๊มจ่ายน้ำมันไปให้หัวฉีดในกระบอกสูบแต่ละอัน อุปกรณ์ที่ยึดติดอยู่กับคอมม่อนเรล มีดังนี้
  • Flow damper
    ท่อส่งน้ำมันแรงดันสูงจะถูกต่อกับ flow damper เพื่อลด fluctuation ของแรงดันภายในรางคอมม่อนเรลและภายในท่อแรงดันสูง รวมทั้งช่วยปิดน้ำมันที่ไหลผ่านถ้ามีน้ำมันผ่าน flow damper มากเกินไป
  • Pressure limiter
    เป็นตัวจำกัดความดันภายในรางคอมม่อนเรลไม่ให้สูงเกินไป
3. หัวฉีดน้ำมัน (injetor) ถูกติดตั้งไว้ในกระบอกสูบของเครื่องยนต์แต่ละสูบ น้ำมันแรงดันสูงที่ถูกส่งมาจากปั๊มจ่ายน้ำมันจะถูกส่งให้หัวฉีดในแต่ละกระบอกสูบโดยผ่านรางคอมม่อนเรล ปริมาณการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงและจังหวะในการฉีดจะถูกควบคุมโดยระบบควบคุมหัวฉีด (controlling the injector)
หัวฉีด (Injector)


ตัวหัวฉีดประกอบด้วย
  • วาล์วโซลีนอยด์แบบสามทาง (three-way solenoid valve (TWV))
  • orifice
  • ลูกสูบไฮดรอลิก (hydraulic piston)
  • หัวฉีด (nozzle)
เมื่อ ECU ส่งสัญญาณมาให้วาล์ว TWV ทำงานน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูงในท่อควบคุมจะไหลผ่าน orifice แล้วดันเข็มหัวฉีดให้เปิดออก น้ำมันก็จะถูกฉีดออกทางหัวเข็ม และเมื่อ ECU ส่งสัญญาณมาให้วาล์ว TWV หยุดทำงาน น้ำมันที่ไหลผ่าน orifice จะถูกแรงจากลูกสูบไฮดรอลิกดันวาล์วเข็มหัวฉีดไว้ น้ำมันก็จะหยุดฉีด
 เซนเซอร์ต่างๆ ที่ทำงานร่วมกับหัวฉีด
  • เซนเซอร์ตรวจจับตำแหน่งการเร่ง (Accelerator position sensor) ทำหน้าที่เปลี่ยนแรงที่กดคันเร่งไปเป็นสัญญาณไฟฟ้าเพื่อส่งให้ ECU
  • เซนเซอร์ตรวจจับรอบเครื่องยนต์ (Engine (NE sensor) speed sensor) มีใช้ด้วยกันสองชนิด
    • engine speed sensor ติดตั้งอยู่บนเสื้อล้อช่วยแรง (fly wheel) ทำหน้าที่ตรวจจับความเร็วเครื่องยนต์และตำแหน่งข้อเหวี่ยง
    • auxiliary engine speed sensor ติดตั้งอยู่บนปั๊มจ่ายน้ำมันเพื่อส่งสัญญาณ cylinder distinction
  • เซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel temperature sensor) โดยใช้เทอร์โมมิสเตอร์ที่ความต้านทานแปรค่าตามอุณหภมิมาตรวจจับอุณหภูมิของน้ำมันเชื้อเพลิง
  • เซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น (Coolant temperature sensor) โดยใช้เทอร์มิสเตอร์เช่นเดียวกัน
  • เซนเซอร์ตรวจจับแรงดันในรางคอมม่อนเรล (Common rail pressure sensor) เซนเซอร์ตัวนี้ถูกติดตั้งอยู่ในรางคอมม่อนเรล เป็นเซนเซอร์วัดแรงดันแบบเซมิคอนดัตเตอร์ โดยความต้านทานจะแปรค่าไปเมื่อมีแรงดันมาตกกระทบซิลิคอน



มาสด้ารุกกรุงเทพขยายเครือข่ายแนวเส้นกาญจนาภิเษก เปิดดีลเลอร์น้องใหม่ไทยเพชรเกษมออโต้คาร์รับลูกค้า


กรุงเทพฯ  – ประเทศไทย, 28 สิงหาคม 2555 – บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน ประกาศเปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการแบบครบวงจรแห่งใหม่ล่าสุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ MCI (Mazda Corporate Identity) เปิดแนวรุกรอบกรุงเทพฝั่งตะวันตกเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะเส้นถนนกาญจนาภิเษก บางแค บางใหญ่ จับมือกับนักธุรกิจหนุ่มคนรุ่นใหม่ไฟแรงเจ้าของกิจการยางรถยนต์ที่เก่าแก่อย่างบริษัทไทยเพชรเกษม มาร่วมสร้างแบรนด์มาสด้าให้แข็งแกร่งพร้อมประกาศยึดพื้นที่ย่านชานเมืองกรุงเทพเป็นศูนย์บัญชาการหลักในการให้บริการด้านการขายและบริการหลังการขายแบบมืออาชีพ เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในย่านเขตเศรษฐกิจที่กำลังเฟื่องฟู


นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า มาสด้ากำลังร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อขยายเครือข่ายศูนย์บริการให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะแนวรุกในเขตกรุงเทพและปริมณฑลที่ตอนนี้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ทั่วประเทศตามแผนนโยบาย "One Mazda" เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มาสด้าในประเทศไทย และส่งมอบการบริการเต็มรูปแบบ ภายใต้มาตรฐานเดียวกันเพื่อรองรับการบริการสำหรับลูกค้าที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเปิดโชว์รูม มาสด้า ไทยเพชรเกษม ออโต้คาร์ ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากบริษัท ไทยเพชรเกษม จำกัด ซึ่งถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยางรถยนต์มายาวนาน และในฐานะตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มาสด้ารายใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการในย่านบางแค บางใหญ่ มาสด้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มาสด้าไทยเพชรเกษมได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตไปพร้อมๆ กันกับเรา และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในเขตเศรษฐกิจใหม่ที่กำลังรุ่งเรืองด้วยสาธารณูปโภคที่กำลังเกิดขึ้นอย่างมาก
สำหรับการเปิดตัวโชว์รูม พร้อมศูนย์บริการมาสด้าแห่งใหม่อย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์รูปแบบโชว์รูมใหม่ภายใต้ชื่อ MCI (Mazda Corporate Identity) ซึ่งเป็นภาพลักษณ์โฉมใหม่ของโชว์รูมมาสด้า ถูกออกแบบใหม่หมด เน้นการสื่อสารแบรนด์ และความทันสมัยในการออกแบบเป็นหลัก เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ ซูม-ซูม แบบยั่งยืนของมาสด้าทั่วโลก (Sustainable Zoom-Zoom) การเปิดมาสด้าบนถนนเพชรเกษมใหม่ในครั้งนี้ อยู่ในแผนนโยบายการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายของมาสด้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครบทั้งหมด 150 แห่ง ภายในสิ้นปี 2555 นี้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับการให้บริการด้านการขายและการบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน และมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมาสด้าตระหนักดีในการให้บริการที่เป็นเลิศ และการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า
นายวัลลภ  จิรวัฒนางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพชรเกษมออโต้คาร์ จำกัด กล่าวว่า ไทยเพชรเกษมดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจรถยนต์ โดยเฉพาะการเป็นตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์รายใหญ่ ร้านบริการออโต้เซอร์วิส ซึ่งเป็นธุรกิจบริการยางรถยนต์แบบครบวงจร รวมทั้งยางรถบรรทุกและรถโดยสารด้วยเช่นกัน ด้วยการยึดมั่นในความซื่อสัตย์และยุติธรรมต่อลูกค้ามาโดยตลอด วันนี้เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่เรากำลังจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของเรา นั่นคือ การก้าวเข้ามาเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มาสด้า ซึ่งถือเป็นแบรนด์ที่มาพร้อมกับความโดดเด่น สมรรถนะ และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่เหมาะสมต่อการสานต่อธุรกิจของบริษัทฯ คือ ดร. สันติ จิรวัฒนางกูร ซึ่งเป็นลูกชายของผมเอง และเป็นผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่เหมาะกับแบรนด์มาสด้าเป็นอย่างยิ่งจะเข้ามาดูแลและดำเนินกิจการทั้งหมดของโชว์รูมแห่งนี้

สำหรับโชว์รูมแห่งใหม่มาสด้า ไทยเพชรเกษมออโต้คาร์ ตั้งอยู่เลขที่ 10/2-10 หมู่ที่ 1 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160 โทรศัพท์ 02-804-2233 มาสด้า เพชรเกษม เป็นโชว์รูมที่มีความทันสมัยเพื่อให้สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย และมีความเป็นสปอร์ต ภายใต้แนวคิด ซูม-ซูม พร้อมรองรับการบริการเต็มรูปแบบ ด้วยอุปกรณ์อันทันสมัยและมีมาตรฐานเดียวกันกับมาสด้าทั่วโลก ทั้งฝ่ายขายรถใหม่ ศูนย์ซ่อมบำรุงและแผนกอะไหล่ พร้อมเครื่องมือพิเศษที่ทันสมัย เพื่อให้การตรวจเช็ครถยนต์ของลูกค้ามีความถูกต้อง แม่นยำ  โดยทีมช่างเทคนิคที่มากด้วยประสบการณ์ผ่านการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องจากมาสด้า และให้การรับประกันการซ่อม ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักที่มาสด้าดำเนินการมาโดยตลอด

“ปทุมธานี มอเตอร์โชว์ 2012” มอบเงิน สนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการศึกษาวิจัย รพ.จุฬาฯ




จรวย - มนต์สวรรค์ ขันมณี ประธานบริหาร-รองประธานบริหาร บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป จำกัด มอบเงิน 200,000 บาท เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านศึกษาวิจัยของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รับมอบโดย รศ.นพ.โศภณ นภาธร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พร้อมด้วย จตุพร ขันมณี รองประธานบริหาร และเจ้าหน้าที่อาวุโสของบริษัท ร่วมมอบเงิน ณ ศาลาทินทัต โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อเร็วๆ นี้

ฟิล์มนิรภัยเอสเทคบูม!!! ดีลเลอร์จ่อคิวรอเป็นตัวแทน



นุชา สีบุญเรือง ทายาทตระกูลดังตอนนี้เข้ามารับตำแหน่งเป็นรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรดักส์คอนซัลแต้นท์ จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัทสิวะดล ผู้นำเข้าสินค้ามากมายหลายแบรนด์ ล่าสุดได้เปิดตัวฟิล์มนิรภัยสำหรับติดตั้งบ้านและรถยนต์ แบรนด์เอสเทค (STEC) หวังเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สิน ตอนนี้กำลังทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต เพราะว่ามีทั้งลูกค้า ทั้งดีลเลอร์รายใหญ่ รายกลาง รายน้อยวิ่งเข้าหา คนหนุ่มไฟแรงอย่างนี้เราขออวยพรให้ยอดขายทะลุเป้า 100 ล้าน ในเร็ววันครับ

มาสด้าแรงครองมาเก็ตแชร์ 13 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายเดือน 7 ก้าวกระโดดทะลุ 7 พันคัน



    ปิกอัพสไตล์เก๋ง บีที-50 ฮีโร่ขวัญใจมหาชนมาแรงทะลุเกือบ 3,000 คัน
    ยอดขาย เดือนแรแรงทะลุ 37,000 คัน เพิ่มขึ้น 57%
กรุงเทพฯ – ประเทศไทย20 สิงหาคม 2555 – บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยตัวเลขยอดขายรถยนต์มาสด้าที่กำลังพุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้ทำสถิติใหม่อีกครั้งด้วยยอดขายทะลุ 7,000 คันเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะรถเก๋งเล็กอย่างมาสด้าที่กลายเป็นรถยนต์ยอดนิยมของกลุ่มวัยรุ่นไปแล้ว ด้วยยอดขายสูงสุดถึง 3,340 คัน ส่วนที่กำลังมาแรงนับตั้งแต่เปิดตัว ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ นั่นคือ รถปิกอัพสไตล์เก๋งมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ ที่กวาดยอดขายเกือบ 3,000 คัน เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 273 เปอร์เซ็นต์

นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าตลาดจะเข้าสู่ช่วงของโลซีซัน แต่รถยนต์มาสด้ากลับได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้าเฉพาะเดือนกรกฎาคมของปี 2555 ที่ผ่านมา รถยนต์นั่งสปอร์ตน้องใหม่อย่างมาสด้าสปอร์ตแฮตช์แบค ประตู และเอลิแกนซ์ซีดาน ประตู ที่ยังคงร้อนแรงมียอดขายรวมทั้ง รุ่น มีจำนวนทั้งสิ้นถึง 3,340 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 52 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้ามีจำนวนทั้งสิ้น 763 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญรถปิกอัฮีโร่ มาสด้า บีที-50 โปรใหม่ ซึ่งมีการเติบโตสูงสุดถึง 273% มียอดขายจำนวนทั้งสิ้น2,959 คัน ซึ่งเดือนกรกฎาคมถือเป็นเดือนที่มาสด้าสามารถทำลายทุกสถิติของตัวเองลงอย่างราบคาบด้วยตัวเลขยอดขายสูงสุดถึง 7,065 คัน สูงสุดในประวัติศาสตร์การขายรถองมาสด้าในประเทศไทยตลอดกาล และมีอัตราการเติบโตสูงถึง 93 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะที่ยอดขายรถยนต์รวมของประเทศไทยในเดือนกรกฎาคมพิ่มสูงขึ้นถึง 130,766 คัน โดยมาสด้ามียอดขายสูงถึง 7,065 คัน สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในปีนี้ถึง 5.4%  โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมาสด้ามีจำนวน 3,340 คัน มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดถึง 11% ของยอดขายในตลาดบีคาร์โดยมียอดายรวมอยู่ที่ 31,167 คัน และรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ จำนวน 2,959 คัน สามรถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดเช่นเดียวกัน 5.7% จากยอดรวมของตลาดปิกอัพอยู่ที่ 52,085 คัน และรถยนต์นั่งมาสด้าจำนวน 76คัน สามารถครองส่วนแบ่งสูงสุดถึง 6.1% จากยอดขายรวมของตลาดซีคาร์อยู่ที่ 12,561 คัน
นอกจากนี้ยอดขายรถยนต์ของประเทศไทยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคมของปี 2555 ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 730,187 คัน และในจำนวนนี้เป็นยอดขายของรถยนต์มาสด้าสูงถึง 37,642 คัน สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูสุดถึง 5.2% โดยแบ่งออกเป็นตลาดบีคาร์เซ็กเม้นต์จำนวน 158,825 และเป็นยอดขายรถยนต์นั่งมาสด้าสูงถึง 21,404 ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดถึ 13.5และในตลาดรถปิกอัพมียอดรวมอยู่ที่325,707 และเป็นยอดขายของมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ สูงถึง 13,144 คัน สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้สูงสุดถึง 5.7% และในตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางมียอดรวมอยู่ที่ 59,179 คัน และเป็นรถยนต์นั่งมาสด้า3จำนวน 3,106 ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 5.2 เปอร์เซ็นต์”  นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวเสริม
"การที่เราสามารถทำสถิติยอดขายเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับ 3,000 คัน มาจนถึง 7,000 คัน ในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ของมาสด้า นอกจากการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดแล้ว การบริการหลังขายเป็นสิ่งสำคัญที่มาสด้ายึดมั่นมาโดยตลอด เราให้ความสำคัญอย่างมากกับการขยายเครือข่ายของศูนย์บริการทั่วประเทศ รวมทั้งคุณภาพของการบริการที่ต้องเป็นเลิศ และเหนือกว่าความคาดหวังของลูกค้า” นายยูกิ กล่าวเสริม
ทางด้านแม่ทัพการตลาด นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่ หลังการเปิดตัวแนะนำมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ จนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อรถปิกอัพของไทยเปลี่ยนไปจากเดิม และถือเป็นรถปิกอัพยุคใหม่ที่มาเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้ปิกอัพ และปิดช่องว่างระหว่างรถเก๋งกับรถปิกอัพ ส่งผลให้รถปิกอัพมาสด้าบีที-50 ได้รับกระแสความนิยมอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการผนึกรวม พลังสายพันธุ์สปอร์ต มาสด้าใหม่ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เสริมทัพเข้าสู่ตลาดทั้งแฮ็ชต์แบค ประตู และซีดาน ประตู ชูความโดดเด่นด้านดีไซน์ความเป็นสปอร์ตโฉบเฉี่ยวเหนือระดับและให้ความคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด พร้อมทั้งการปรับโฉมรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2ด้วยการเพิ่มออฟชั่นเบสต์อินคลาสและใส่อุปกรณ์มาตรฐานหลายรายการเพื่อเพิ่มความโดดเด่นและความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้รถยนต์มาสด้าทั้ง รุ่น สามารถครองใจผู้บริโภคได้อย่างเหนียวแน่น
ตารางยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้า มกราคม-กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2555 และปี พ.ศ. 2554
Model
กรกฎาคม 55
กรกฎาคม 54
เปลี่ยนแปลง%
ม.ค.-ก.ค. 55
ม.ค.-ก.ค.54
เปลี่ยนแปลง%
Mazda2
3,340
2,195
+ 52%
21,404
14,775
+ 45%
Mazda3
763
668
+ 14%
3,106
3,476
- 11%
Mazda BT-50
2,959
794
+ 273%
13,114
5,687
+ 131%
Mazda MX-5
2
1
+ 100
10
13
- 23%
Mazda CX-9
1
1
na
8
12
- 33%
ยอดรวม
7,065
3,659
93%
37,642
23,963
+ 57%

http://www.mazda.co.th        
      Zoom-Zoom เราใส่ความเป็นสปอร์ตลงไปในรถทุ

กคันที่เราผลิต

              2

สมาคมรถโบราณฯ ร่วมฉลอง 50 ปี สวนสามพราน จัดยิ่งใหญ่คาราวานเที่ยวนครปฐม ปีที่ 10



สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ยกขบวนรถโบราณและรถคลาสสิคกว่า 50 คัน ท่องเที่ยวจังหวัดนครปฐม ปีที่ 10 ภายใต้ชื่องาน โอ้งามสามพราน....ปานเสกสรรค์ หนุนทุกครอบครัวทำกิจกรรมร่วมกันช่วงวันหยุด สร้างเสน่ห์การท่องเที่ยวแบบย้อนยุค

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย จังหวัดนครปฐม จัดกิจกรรมคาราวานรถโบราณท่องเที่ยวนครปฐม ปีที่10 ภายใต้ชื่อ โอ้งามสามพราน....ปานเสกสรรค์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดนครปฐม พร้อมร่วมฉลองครบรอบ 50 ปี สวนสามพรานด้วย

คาราวานรถโบราณท่องเที่ยวนครปฐมเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปีต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 แล้ว เหมือนเช่นเคยที่สมาคมฯได้รับความร่วมมือจากสมาชิกนำรถโบราณและรถคลาสสิคหลากหลายรุ่นหลายยี่ห้อมาทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเป็นเสมือนหนึ่งวันพบปะสังสรรค์ของสมาชิก รวมถึงยังเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้สัมผัสและศึกษาเรื่องราวที่น่าสนใจของรถโบราณ

ขบวนคาราวานจะออกจากกรุงเทพฯ บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (สนามหลวง) ใช้เส้นทางถนนบรมราชชนนี - พุทธมณฑลสาย 4 และถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม ซึ่งตลอดการเดินทางในปีที่ผ่านมาได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้คนที่พบเห็นและชื่นชมความสวยงามแบบคลาสสิคทั้งตัวรถและเครื่องแต่งกายในยุคเดียวกันกับรุ่นรถนั้นๆ ถือเป็นเสน่ห์ของการเดินทางท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งเลยทีเดียว

ขวัญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ความพิเศษของกิจกรรมปีนี้ คือ การร่วมกิจกรรมฉลอง 50 ปีสวนสามพราน ที่ปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และน่าสนใจ โดยเฉพาะการอนุรักษ์วีถีไทยและสืบอดศิลปวัฒนธรรมสู่คนรุ่นหลัง

ยิ่งกว่านั้น  ผู้ร่วมคาราวานยังจะได้รับชมารแสดงช้าง และจระเข้จากฟาร์มจระเข้สามพราน  พร้อมเลือกชมและซื้อผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากชาวสวนช่วยสร้างรายได้แก่ชุมชนอีกทางหนึ่ง และที่ขาดไม่ได้คือการทำบุญร่วมกัน ซึ่งปีนี้สมาคมฯและสมาชิกจะร่วมบริจาคสมทบทุนแก่ศูนย์ฝึกอาชีพหญิงตาบอดสามพราน

รถพลังงานลม








ตาต้ามอเตอร์ บริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย ประกาศผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานลมในการขับเคลื่อน โดยจะทยอยนำส่งเข้าสู่โชว์รูมในปี พ.ศ. 2552 รถยนต์พลังลม หรือ AirCar นี้ ใช้การปล่อยอากาศจากระบบบีบอัดอากาศด้วยความดันสูง โดยอากาศที่ปล่อยออกมาจะทำหน้าที่หมุนเพลา ทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ โดยการเติมอากาศ สามารถเติมได้ตามสถานีอัดอากาศด้วยราคาไม่แพง โดยความเร็วสูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ประมาณ 200กิโลเมตรต่อการเติมอากาศหนึ่งครั้ง บริษัทผู้ออกแบบรถยนต์พลังลมคันนี้ คือ บริษัท MDI จากประเทศลักเซมเบิร์ก ซึ่งให้สิทธิบัตรแก่ตาต้าในการผลิตรถยนต์พลังลมในประเทศอินเดีย โมเดลแรกของตาต้า CityCAT ตั้งราคาไว้ประมาณ 400,000 บาท โดยตาต้าหวังไว้ว่าจุดเด่นของ CityCAT ที่ไม่มีการปล่อยมลพิษทางอากาศ และราคาไม่แพง จะทำให้รถพลังลมรุ่นแรกนี้ จะทำยอดขายได้ดีในตลาดอินเดีย

เคย มีผลงานวิจัย หรือจะเรียกว่าพยากรณ์ก็ได้ ว่าอีก 50 ปีข้างหน้า น้ำมันจะถูกขุดขึ้นมาใช้และหมดไป เรื่องดังกล่าว ไม่มีใครทราบว่าจะเป็นจริงหรือไม่ แต่ก็สร้างกระแส ตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติ หรือตามหลักการตลาดทั่วไป เมื่อสินค้าใดมีอยู่จำกัด แต่มีความต้องการสูงในตลาด ราคามันก็สูงมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่มาของการเก็งกำไร ของพวกกองทุนต่างๆ ด้านกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันหรือโอเปค ก็เมินที่จะเพิ่มกำลังผลิต ทำให้ประเทศที่ผลิตน้ำมันได้น้อย และไม่มีการผลิต ต้องหาซื้อมาใช้อย่างเดียว เดือดร้อนกันถ้วนหน้า กรณีดังกล่าวรวมพี่ไทยด้วย ก่อให้เกิดกระแสการใช้พลังงานทดแทนกันทั่วโลก มีนวัตกรรมยานยนต์รูปแบบใหม่ เกิดขึ้น เช่น รถที่ใช้พลังงานน้ำมันที่ผลิตจากพืช เช่น เอทานอล ที่ใช้ผสมน้ำมันก๊าซโซฮออล์ หรือไบโอดีเซลที่ผลิตจากน้ำมันปาล์ม ซึ่งไทยก็ใช้อยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งรถพลังงานไฟฟ้า รถพลังงานไนโตเจน รถพลังงานแสงอาทิตย์ จนถึงรถพลังงานลม ซึ่งแต่ละชนิด ก็ยังมีข้อดี และข้อจำกัดแตกต่างกันไป
สุดท้ายต้องบอกว่า ยังไม่รู้ว่าสมรรถนะของรถพลังงานลมจะเป็นอย่างไร เพราะยังไม่ได้ทดสอบ แต่เรื่องนี้ก็จุดประกายให้ทุกคนคิดเรื่องพลังงานใหม่ ทุกวันนี้ เราหนีการซื้อพลังงานน้ำมันที่เขาขายให้ราคาแพง ไปหาพลังงานอื่นๆ ทั้งก๊าซธรรมชาติ ที่ก็เป็นพลังงานใช้หมดไปเช่นกัน ส่วนเอทานอล หรือไบโอดีเซล ก็มีข้อจำกัด หากความต้องการใช้พลังงานสูงขึ้นมาก ทำให้เราต้องเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกพืชน้ำมันมากเช่นกัน ซึ่งสุดท้ายก็มีข้อจำกัด เพราะจะไปเบียดเบียนการปลูกพืชเพื่อใช้บริโภคของมนุษย์ ดังนั้นพลังงานลมอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดในอนาคตก็ได้







“เวสป้า” ส่ง “Matt Series” รุกตลาดพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ ฉลองสถิติยอดขายที่มีอัตราเติบโตต่อเนื่องตลอด 2 ปี พร้อมเปิดโฉมแคมเปญใหม่ “Scoot in Style”


    บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด  ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลี  เวสป้า และ พิอาจิโอ รายเดียวในประเทศไทย  ส่งเวสป้ารุ่นใหม่ล่าสุดที่จะสร้างความฮือฮาอีกครั้งกับรุ่น Vespa S 150ie “Titanium Matt Series”  พร้อมเผยแคมเปญใหม่“SCOOT IN STYLE”  มาเอาใจสาวกเวสป้า พร้อมเปิดตัวโชว์รูมเต็มรูปแบบอีก 24 แห่งทั่วประเทศในปี 2555  โอกาสนี้ทีมผู้บริหาร บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด โดย ประณิธาน พรประภากรรมการบริหารวิสุทธิ์ เตชะไพบูลย์กรรมการบริหาร และ พรนฎา เตชะไพบูลย์กรรมการผู้จัดการ ร่วมจัดแถลงผลประกอบการของบริษัทฯ พร้อมเผยแผนการตลาดในปี 2555   เมื่อวันอังคารที่ 7 สิงหาคม 2555 ณ ห้องบอลรูม 2 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ

พรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากการทำการตลาดนำเข้ารถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ยอดนิยมตลอดกาล เวสป้า เข้ามาลุยตลาดในประเทศไทยเข้าสู่ปีที่ 3 ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น บ่งบอกไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่อย่างชัดเจน กระแสตอบรับจากสาวกเวสป้ายังแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มียอดจัดจำหน่ายที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น    มาในปีนี้ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ส่งเวสป้ารุ่นใหม่ล่าสุด ดีไซน์หรู  คลาสสิก รูปลักษณ์แนวสปอร์ต โฉบเฉี่ยว เท่อย่างมีสไตล์สมกับเป็นสกู๊ตเตอร์ยอดนิยมอันดับ 1 ในฝั่งยุโรป กับรุ่น เวสป้า เอส 150 ไออี  ไทเทเนี่ยม แมท ซีรี่ส์   Vespa S 150ie “Titanium Matt Series”  สีเทาด้าน ลุคสปอร์ต โดดเด่นด้วยไฟหน้าทรงเหลี่ยม เครื่องยนต์ระบบหัวฉีด 150 ซีซี ลดอัตราการสิ้นเปลือง ส่งกำลังต่อเนื่อง และเสริมสมรรถนะในการขับขี่ ราคา 116,000 บาท และ Vespa GTV 300ie  สีโกโก้เย็น ชิ้นงานสุดอมตะของเวสป้าในอดีตกำลังจะถูกนำกลับมาฟื้นใหม่อีกครั้ง โดดเด่นด้วยสีโกโก้เย็น โฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใคร VESPA GTV 300ie "Vie della Moda" ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ดึงดูดเหนือกาลเวลา คงแบบฉบับความเป็นVespa ด้วยการวางตำแหน่งโคมไฟส่องสว่าง หน้าบังโคลน เช่นเดียวกับ แฮนด์บังคับเลี้ยว มาพร้อมเบาะสองที่นั่ง บุหนัง ECO-LEATHERสวยสง่า นั่งสบาย ถอดแบบงาน Vespa ยุคดั้งเดิมด้วยการแยกเบาะหน้า-หลังจากกัน พละกำลังจากเทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ ที่สุดของความแรง เร็ว เต็มสมรรถนะ ทุก


เส้นทางขับขี่ เครื่องยนต์ขั้นสูง 300 ซีซี เครื่องยนต์สูบเดียว หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ที่มาพร้อมแผงอุปกรณ์ Analog กึ่งสปอร์ต ขอบโครเมียม เบาะหนังชั้นดี อาจพูดได้ว่าเป็นสกู๊ตเตอร์สมบูรณ์แบบทั้งแรง สะดวกสบาย หรูหรา และมีคาแร็กเตอร์ในหนึ่งเดียว ราคาอยู่ที่ 345,000 บาทซึ่งในปี 2555 บริษัทฯ คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี พร้อมยอดขายเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้

            พรนฎา เตชะไพบูลย์  กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่า สำหรับกลยุทธ์การทำการตลาด ในปี 2555 บริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ตรงกับคอนเซปต์ Scoot in Style แนว MOD’s ที่เราวางไว้เพราะเรามองว่ายุคปัจจุบันเทรนด์ต่างๆ ย้อนกลับไปสู่สไตล์ย้อนยุค และเราคิดว่าผู้ขับขี่รถเวสป้าในยุค MOD’s นั้นเป็นบุคคลชื่นชอบในดนตรี, แฟชั่น ศิลปะ และการเข้าสังคม ซึ่งก็ไม่ต่างกับผู้ขับขี่รถเวสป้าในปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้จะสะท้อนบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลและเป็นเทรนด์สังคมเมืองที่ไม่ตายอยู่ได้ทุกยุคทุกสมัย  นอกเหนือจากนี้ทางเราจะมีการทำการตลาดโดยตรงกับทางลูกค้า ซึ่งจะมี Pop up Store โดยสามารถไปทำกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ กับลูกค้าในจังหวัดทั่วประเทศได้อีกด้วย ทั้งยังพัฒนาด้านบริหารลูกค้าสัมพันธ์, การเจาะกลุ่มสื่อออนไลน์, การให้บริการแก่ลูกค้ารวมถึงอุปกรณ์อะไหล่ต่างๆ  ไม่เพียงแต่เท่านี้ทางบริษัทฯ ยังเปิดตัวโชว์รูมเต็มรูปแบบใหม่ หรือ 3S SHOWROOM อีก มากกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ พร้อมให้บริการหลังการขาย  และรุกหนักกับแคมเปญ  “SCOOT IN STYLE”  เพราะมองว่าเวสป้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่ยานพาหนะทั่วไป แต่คนที่ขับขี่เวสป้านั้นคือ คนที่มีสไตล์ สะท้อนบุคลิกและเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของแต่ละบุคคล”

นอกจากนี้ เวสป้า ยังเตรียมจัด “Scoot in Style Exclusive Charity Party”  โดยให้ 5 ดีไซเนอร์คนดัง  หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภาปลาเข็ม-กรัชเพชร อิสสระ,  แก้ม-มลลิกา  เรืองกฤตยา หมู-จุฬาลักษณ์  ปิยะสมบัติกุล,  แอมป์-มาสิริ ตามสกุล  และ จก-ธนิกานต์ สุขวัฒนศิริ มาร่วมดีไซน์เวสป้าในแบบฉบับของตัวเองกับคอนเซปต์ Scoot in Style เพื่อประมูลนำเงินสมทบทุนการมอบหมวกนิรภัยให้แก่เด็กและเยาวชน ในโครงการ "Help safe one life by giving a child a helmet” ในวันพุธที่ 29 สิงหาคม 2555 เวลา 19.30 น ณ สตูดิโอ 61
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved