Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

กระทรวงพลังงานจัดทำโครงการ “เปลี่ยน โลกทุกวัน” หวังปลุกจิตสำนึกคนไทยร่วมใจประหยัดเพื่อชาติ


 
กระทรวงพลังงาน ได้ฤกษ์เปิดตัว “โครงการเปลี่ยนโลกทุกวัน” ภายใต้แนวคิด 7  วัน 7 พฤติกรรม ประหยัดพลังงาน หวังกระตุ้นคนไทยมีจิตสำนึกที่ดีในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดการใช้พลังงานด้วยวิธีปฎิบัติที่ง่ายและทำต่อเนื่องได้ทุกวัน มั่นใจหากคนไทยไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประหยัดพลังงานมีโอกาสที่ประเทศไทยจะเกิดภาวะวิกฤตความมั่นคงด้านพลังงาน

 นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน  เปิดเผยว่า  กระทรวงพลังงานได้จัดทำโครงการ “เปลี่ยนโลกทุกวัน” ายใต้แนวคิด 7 วัน 7 พฤติกรรม ประหยัดพลังงาน”  เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการประหยัดพลังงาน โดยหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานอย่างประหยัดต่อเนื่องทุกวัน เพราะปัจจุบันความต้องการใช้พลังงานในประเทศไทยได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามจำนวนประชากรและอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น ขณะที่ความต้องการใช้พลังงานกลับสวนทางกับปริมาณของพลังงานที่เริ่มปรับตัวลดลงและมีอยู่อย่างจำกัด
ทั้งนี้หากประเทศไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ จะทำให้ประเทศไทยมีโอกาสเข้าสู่ภาวะวิกฤตด้านพลังงาน เนื่องจากไทยมีแหล่งผลิตน้ำมันและแหล่งก๊าซธรรมชาติจำนวนจำกัด ต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศเป็นหลัก ดังนั้นทุกภาคส่วนจึงต้องช่วยกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้พลังงานที่มีอยู่อย่างจำกัดมีเพียงพอที่จะใช้ได้ต่อไปในอนาคต
สำหรับโครงการเปลี่ยนโลกทุกวัน ภายใต้แนวคิด “7 วัน 7 พฤติกรรม ประหยัดพลังงาน” มีรูปแบบสามารถนำไปปฏิบัติได้ง่ายและทำต่อเนื่องได้ทุกวัน ได้แก่ 1.เปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงทางเลือก โดยใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91, 95, E20, E85,Bio diesel2.เปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งมวลชน ดยนั่งรถโดยสารสาธารณะ 3.เปลี่ยนเวลาในการใช้ชีวิต โดยเลี่ยงการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วน 4.เปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงานไฟฟ้าเบอร์ 5    
5.เปลี่ยนมาใช้อย่างมีลิมิต โดยขับรถไม่เกิน 90 กม./ชม. 6.เปลี่ยนจากเปิดทิ้งมาปิดเมื่อไม่ใช้ โดยปิดไฟฟ้า น้ำ แก๊ส เมื่อไม่ใช้ 7.เปลี่ยนมาปรับใช้ตามคำแนะนำ โดยปรับอุณหภูมิแอร์เป็น 26 องศา เป็นต้น
 “ปัญหาความมั่นคงด้านพลังงานของไทย เป็นปัญหาที่สะสมมาอย่างยาวนาน และเป็นปัญหาที่คนไทยมองข้าม กระทรวงพลังงานจึงต้องการให้คนไทยมีส่วนร่วมในการประหยัดพลังงานอย่างต่อเนื่องทุกวัน ไม่ใช่ทำแค่วันใดวันหนึ่ง โดยทำให้ทุกวันเป็นวันประหยัดพลังงานตามแนวทาง 7 วัน 7 พฤติกรรมประหยัดพลังงาน หากทุกคนช่วยกันอย่างจริงจัง จะช่วยสร้างความยั่นยืนในการใช้พลังงานของประเทศ รวมทั้งลดการสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลจากการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ”ปลัดกระทรวงพลังงานกล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า โครงการเปลี่ยนโลกทุกวัน นอกจากจะมุ่งเน้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดใช้พลังงานแล้ว ยังเป็นการสานต่อหนึ่งในยุทธศาสตร์ของกระทรวงพลังงานที่ต้องการให้คนไทยหันมาใช้พลังงานทดแทนเป็นพลังงานหลักของประเทศ เนื่องจากเป็นเชื้อเพลิงสะอาด ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยลดภาวะโลกร้อน อีกทั้งยังช่วยเกื้อหนุนรายได้เกษตรกรและยกระดับราคาพืชผลเกษตรที่นำมาผลิตพลังงานทางเลือกได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม โครงการเปลี่ยนโลกทุกวันยังได้จัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ 76  จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ประชาชนหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดใช้พลังงาน รวมทั้งยังได้จัดทำเฟสบุ๊ค www.facebook.com/saveenergyeveryday ซึ่งผู้สนใจที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยชาติประหยัดพลังงานสามารถเข้าไปกดไลท์ในเฟสบุ๊คดังกล่าวได้ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการเปลี่ยนโลกทุกวันได้ตลอดทุกวัน   

นิสสัน กดสตาร์ทโครงการ “นิสสัน จีที อคาเดมี” ครั้งแรกและหนึ่งเดียวในอาเซียน หนุนคนไทยคว้าโอกาสพลิกชีวิต สานฝันเซียนเกม สู่นักขับระดับโลก



กรุงเทพ  19 มีนาคม 2557 – บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่ตื่นเต้นเร้าใจ ด้วยความร่วมมือกับบริษัท โซนี่ไทย จำกัด ประกาศเปิดตัวโครงการ “นิสสัน เพลย์สเตชั่น จีที อคาเดมี” ในประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการที่นิสสันและเพลย์สเตชั่นได้สานต่อความร่วมมือระดับโลก เพื่อส่งเสริมให้คนไทยค้นหาศักยภาพที่แท้จริงของตน และคว้าโอกาสก้าวสู่การเป็นนักขับรถแข่งมืออาชีพบนเวทีโลกกับทีมนิสโม (NISMO) สัมผัสประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตระดับอินเตอร์ ตอกย้ำแนวคิดในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจให้กับทุกคน

นายฮิโรยูกิ โยชิโมโตะ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “โครงการนิสสัน เพลย์สเตชั่น จีที อคาเดมี พลิกธรรมเนียมปฏิบัติของวงการมอเตอร์สปอร์ต ท้าทายความเชื่อเดิมๆ ด้วยการเฟ้นหาผู้ที่มีความชำนาญในการเล่นวิดีโอเกม GT6TM มาฝึกฝนทักษะเพิ่มเติมเพื่อก้าวสู่เส้นทางนักแข่งรถมืออาชีพ การเปิดตัวโครงการนิสสัน จีที อคาเดมี ขึ้นในประเทศไทย สอดคล้องกับแบรนด์ดีเอ็นเอของนิสสันที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่ตื่นเต้นเร้าใจ โดยสนับสนุนให้คนไทยค้นหาศักยภาพที่แท้จริง ก้าวไปให้ไกลสุดฝันด้วยการเข้าร่วมโครงการเพื่อคว้าโอกาสให้กับตัวเอง”

ครงการนิสสัน จีที อคาเดมี จะคัดเลือกเซียนความเร็วที่ทำเวลาได้ดีที่สุดการเล่นเกม Gran Turismo®6 (GT6TM) จากเวทีแข่งขันพิเศษ ิสสัน จีที อคาเดมี” ที่จัดขึ้นทั่วไทย 14 คน และจากการแข่งขันผ่านระบบออนไลน์ของเพลย์สเตชั่น PlayStation® Network (PSNSMอีก 14 คน รวมทั้งหมด 28 คน เพื่อเข้าแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ (National Final) บนสนามจริงเป็นเวลา 2 วัน ในวันที่ 25-26 มิถุนายน 2557 ณ สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต พัทยา
เวทีแข่งขันพิเศษ นิสสัน จีที อคาเดมี” จะ จัดขึ้นเป็นสนามแรก ณ บูธนิสสัน ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 เป็นเวลา 12 วัน ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2557 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี และมีกำหนดเดินสายจัดการแข่งขันทั่วประเทศ สู่จังหวัดขอนแก่น สุราษฎร์ธานี กรุงเทพมหานคร และเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน จนถึง 15 มิถุนายน 2557

ณ เวทีแข่งขันพิเศษ นิสสัน จีที อคาเดมี” ผู้เข้าแข่งขันจะได้สัมผัสประสบการณ์อันแปลกใหม่ในการแข่งขันด้วยเครื่อง นิสสัน จีที6 ซิมูเลเตอร์” (Nissan GT6 Simulator) ให้บรรยากาศเสมือนนั่งอยู่ในค็อกพิทรถแข่ง ตะลุยความเร็วในสนามซิลเวอร์สโตนในโลกเสมือนจริงด้วยรถยนต์นิสสัน GT-R และทำเวลาให้ดีที่สุดเพื่อรักษาตำแหน่งใน 14 อันดับต้น (Top 14) ให้ได้ตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งเวทีแข่งขันพิเศษรอบสุดท้ายจะจัดขึ้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2557

สำหรับผู้เข้าแข่งขันที่มีเครื่องเล่นวิดีโอเกมเพลย์สเตชั่น 3 และเป็นเจ้าของเกม GT6TM อยู่แล้ว สามารถเข้าแข่งขันได้ในอีกช่องทางหนึ่ง คือ เล่นเกม GT6TM เวอร์ชั่นพิเศษ ซึ่งจะเปิดให้ดาวน์โหลดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผ่านระบบออนไลน์ของเครือข่ายเพลย์สเตชั่น โดยมีเป้าหมายเหมือนกับที่เวทีแข่งขันพิเศษ นิสสัน จีที อคาเดมี”  คือ ทำเวลาให้ดีที่สุดและครองตำแหน่งใน 14 อันดับต้น (Top 14) ให้ได้ตลอดการแข่งขัน

28 สุดยอดเซียนความเร็วจากการคัดเลือกในรอบแรก จะผ่านเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นเป็นระยะเวลา วัน ณ สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต พัทยา ระหว่างวันที่ 25-26 มิถุนายน 2557 เพื่อพิสูจน์ทักษะการขับขี่บนสนามแข่งจริงด้วยรถยนต์สมรรถนะสูง นิสสัน พัลซาร์ DIG Turbo พร้อมทดสอบไหวพริบและกำลังใจที่เข้มแข็ง และท้ายที่สุด ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ เพียง 6 คน เท่านั้น ที่จะเป็นตัวแทนจากประเทศไทย เดินทางไปร่วมกิจกรรม อินเตอร์เนชั่นแนล เรซ แคมป์” (International Race Camp) ที่สนามแข่งรถซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ

ณ สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลกในฐานะสนามแข่งรถฟอร์มูล่าวัน ตัวแทนนักแข่งจากไทย 6 คน และตัวแทนจากนานาประเทศรวมอีก 2คน จะต้องเผชิญบททดสอบที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งพิสูจน์ฝีมือในการขับขี่รถซูเปอร์คาร์ของนิสสัน อาทิ Nissan 370Z Nismo และ Nissan GT-R Nismo เพื่อเฟ้นหานักแข่งจากไทยเพียง 1 คน ที่จะเข้ารอบสุดท้าย ร่วมชิงชัยกับตัวแทนจากแต่ละประเทศ ชิงตำแหน่ง แชมป์โลก Nissan GT Academy International 2014” และเข้าร่วมโปรแกรมเก็บตัวฝึกซ้อมกับทีมพัฒนานักแข่งระดับโลกของนิสสัน ก้าวสู่เส้นทางนักขับมืออาชีพระดับโลก มุ่งประชันฝีมือเวทีแรก ณ การแข่งขันรายการ ดูไบ 24 ชั่วโมง ในเดือนมกราคม 2558

“นิสสัน มีความภาคภูมิใจที่ได้เปิดตัวโครงการ จีที อคาเดมี ในประเทศไทย เป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน โดยปีนี้ นับเป็นปีที่ 6 ของโครงการ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา จีที อคาเดมี ก็ได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จอย่างต่อ เนื่องในนานาประเทศ อาทิ ในยุโรป รัสเซีย สหรัฐอเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกาใต้ ล่าสุด โครงการ จีที อคาเดมี ก็กำลังขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมหลายภูมิภาคทั่วโลกมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยก็นับเป็นหนึ่งใน ประเทศสำคัญ สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของนิสสัน ที่มีเป้าหมายระดับโลกในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มอบความตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้คน” มร.ดาร์เรน ค็อกซ์ ผู้อำนวยการ นิสสัน โกลบอล มอเตอร์สปอร์ต บริษัท นิสสัน มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าว

คุณต่อ ศรีอาชวนนท์ เกรฟส์ ยอดนักขับชาวไทยผู้คว้าชัยในการแข่งขันระดับโลก คนไทยคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการ เลอ มังส์ 24 ชั่วโมง ซึ่งร่วมงานกับโครงการนิสสัน จีที อคาเดมี ในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินและโค้ชพิเศษสำหรับ ตัวแทนจากประเทศไทยที่จะเดินทางไปร่วมกิจกรรมอินเตอร์เนชั่นแนล เรซ แคมป์ ณ ประเทศอังกฤษ ให้ความเห็นว่า “โครงการนิสสัน จีที อคาเดมี เปิดโอกาสให้คนที่มีความสนใจและความใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นนักขับรถแข่งได้ทำความฝันให้เป็นจริง โดยฝึกซ้อมจากการขับขี่รถแข่งบนสนามที่อยู่ในจอให้ชำนาญและทำเวลาให้ดีที่สุด เพื่อเข้าแข่งขันบนสนามจริงในรอบต่อไป และก้าวสู่การเป็นนักแข่งรถมืออาชีพได้จริงๆ”

“หลายคนได้ทำสำเร็จมาแล้ว พิสูจน์จากการแข่งขันชิงแชมป์ จีที อคาเดมี ในปีก่อนๆ วันนี้โอกาสเดินมาหาถึงมือคุณแล้ว เชื่อมั่นในตัวเองแล้วคว้ามันไว้ครับ” คุณต่อ กล่าวปิดท้าย

ติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการนิสสัน จีที อคาเดมี ได้ที่ http://GTAcademy.nissan.co.th

มาสด้าพลิกโฉมวงการรถยนต์ ส่งสกายแอคทีฟ สปอร์ตคอมแพ็ค มาสด้า3 ใหม่ ชูความแรง-ประหยัด อัดแน่นเทคโนโลยีสุดไฮเทคเทียบชั้นรถยุโรปเต็มคัน

กรุงเทพฯ – ประเทศไทย  18 มีนาคม 2557 – มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถยนต์นั่งสปอร์ตคอมแพ็คสายพันธุ์ใหม่ ที่ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ ออล นิว มาสด้า3 อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ เทคโนโลยีล่าสุดของมาสด้าที่ได้รับการกล่าวขานทั่วโลกฉีกทุกกฎของรถญี่ปุ่นด้วยรูปลักษณ์การออกแบบใหม่ล่าสุด โคโดะ ดีไซน์ ปรัชญาการออกแบบของมาสด้า  เสริมด้วยสุดยอดเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก ไอ-แอคทีฟเซ้นส์ ที่ล้ำหน้าด้วยนวัตกรรมความปลอดภัยที่ปกป้องรอบทิศทาง พร้อมเชื่อมต่อกับโลกโซเชียลจากระบบ เอ็มแซดดี คอนเน็ค ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ประกาศขึ้นแท่นรถยนต์ระดับพรีเมียม พร้อมตั้งเป้าการขายสูงถึง 13,000 คัน
นายโชอิชิ ยูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รถยนต์นั่งสปอร์ตคอมแพ็ค Mazda3 ใหม่ นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของมาสด้า เพราะได้รับ    การกล่าวขวัญว่าเป็นรถญี่ปุ่นที่มีคุณภาพเหนือกว่ารถยุโรปชั้นนำหลายรุ่น โดยประสบความสำเร็จ    ด้านยอดขายและคว้ารางวัลมาแล้วทั่วโลก รวมถึงเป็นรถยนต์จากญี่ปุ่นเพียงรายเดียวที่สามารถเข้าไปติด1 ใน 3 สำหรับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก และการเข้าชิงรถยนต์ที่มีการออกแบบยอดเยี่ยมของโลก ซึ่งการเปิดตัว Mazda3 เป็นครั้งแรกในเมืองไทยนี้ เชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เพราะเป็นรถที่คุณภาพเหนือกว่าคู่แข่งในทุกๆ ด้าน และถือเป็นรถยนต์คุณภาพที่ผู้บริโภครอคอยมากที่สุด ผมเชื่อมั่นว่ามาสด้า3ใหม่จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มาสด้าในประเทศไทย อีกทั้งเป็นกำลังขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับธุรกิจในอนาคตของมาสด้า
รถยนต์นั่งสปอร์ตคอมแพ็คมาสด้า3 ใหม่ เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะขับขี่อันทรงพลังผนวกกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่พาไปสู่จุดหมายบนเส้นทางที่ไม่เหมือนใคร ความสัมพันธ์อย่างยาวนานของบริษัทมาสด้า แบรนด์สินค้า และ ซูม-ซูม เป็นเหมือนสิ่งที่บ่งบอกถึงสัญลักษณ์ของมาสด้า จินบะ อิไต (Jinba Ittai)  อันหมายถึงความเป็นหนึ่งเดียวของรถและผู้ขับ เป็นปรัชญาที่เป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์มาสด้ามาช้านาน ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวที่ทุกคนสามารถรู้สึกและรับรู้ได้เมื่อได้ขับรถยนต์มาสด้า ทั้งการขับขี่แบบสบายๆ กับการเดินทางในแต่ละวันหรือการขับในสนามแข่ง รถยนต์มาสด้า3 ได้มีการวางจำหน่ายในตลาดทั่วโลก มากกว่า 120 ประเทศ คิดเป็น 30% ของยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้าทุกรุ่นทั่วโลก จึงทำให้มาสด้า3เป็นรถยนต์ที่มีความสำคัญกับมาสด้าอย่างมาก
ตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางในกลุ่ม C-Segment เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตคงที่และมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความชัดเจน ลูกค้ามีความต้องการรถยนต์ที่สามารถตอบสนองได้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ขนาดของห้องโดยสารที่เหมาะสม อัตราการประหยัดน้ำมัน รวมทั้งสะท้อนภาพลักษณ์ของ  ผู้ขับขี่ ทั้งนี้ ตลาดนี้เป็นตลาดขนาดใหญ่มีฐานลูกค้าที่กว้างและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีการแข่งขันสูง ซึ่งยอดการจำหน่ายส่วนใหญ่จะอยู่ที่กลุ่มเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนมากกว่า 50% ซึ่งเป็นตลาดที่มีความเหมาะสมกับขนาดของตัวรถ สมรรถนะการขับขี่ และอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเชื้อเพลิงที่เหมาะสม มาสด้าได้นำมาสด้า3 เข้าลงสู้ศึกในตลาดด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ที่มาพร้อมสกายแอคทีฟ เทคโนโลยี จึงได้เปรียบคู่แข่งค่อนข้างมาก และจะสามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากกลุ่มเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรได้ เนื่องจากให้ทั้งสมรรถนะความแรงที่เหนือกว่าและการประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร  โดยตั้งเป้าหมายการขายในรอบปีสูงถึง 13,000 คัน นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวเสริม
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายการตลาด กล่าวว่า สำหรับมาสด้า3 ใหม่นี้ มาสด้าได้วางกลยุทธ์ตำแหน่งผลิตภัณฑ์ ให้เป็นรถสปอร์ตระดับพรีเมียมคาร์ ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัย ให้สมรรถนะพลังแรง ให้ความปลอดภัยสูงสุดและประหยัดน้ำมันเลิศ สะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ขับขี่ ถือเป็นการอุดช่องว่างความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันที่มีความต้องการใช้รถยนต์ญี่ปุ่นที่มีความหรูหรา ซึ่งรถมาสด้า3 ใหม่ เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางที่เหมาะสมกับลูกค้าที่กำลังมองหารถญี่ปุ่นที่มีสเปคสูง เป็นทางเลือกที่ลงตัวระหว่างรุ่นท็อปของรถญี่ปุ่นและรุ่นเริ่มต้นของรถยุโรป โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่วางไว้ คือ คนหนุ่ม-สาวที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่โดดเด่น จบการศึกษาปริญญาตรีหรือสูงกว่า มีประสบการณ์ในการศึกษาหรือเติบโตในต่างประเทศ มีความคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ สามารถพูดฟังได้เป็นอย่างดี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 50,000 บาทขึ้นไป นิยมบริโภคสินค้าที่ดีไซน์หรือเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ใช้การสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ทหรือเชื่อมโลกภายนอกกับกลุ่มโซเซียลเน็ทเวิร์ค
 “ทั้งนี้เพื่อให้การการสื่อสารภาพลักษณ์ดังกล่าวเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็วชัดเจน รวดเร็ว มาสด้าเปิดตัวด้วยภาพยนตร์โฆษณาความยาว 45 วินาที รวมทั้งโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสาร สื่อป้าย และสื่อออนไลน์ วิทยุ โดยเน้นกระแสจากกรุงเทพฯและหัวเมืองหลักๆ ในต่างจังหวัด ซึ่งมาสด้าได้ทำงานร่วมกับผู้จำหน่ายในพื้นที่จัดกิจกรรมการตลาดเพื่อเปิดตัวรถอย่างเต็มที่ทั่วประเทศโดยกิจกรรมแรกมาสด้าจะเริ่มด้วยการนำลงลูกค้าที่ลงทะเบียนผ่านอินเตอร์เน็ต Excusive Test Drive และเป็นลูกค้ากลุ่มแรกที่จะได้สัมผัส มาเข้าร่วมกิจกรรมทดลองขับพร้อมรับของที่ระลึกมากมายที่มอเตอร์สปอร์ตแลนด์ในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคมนี้ตลอดทั้งวัน” สุรีทิพย์กล่าวเสริม
รถยนต์นั่งสปอร์ตคอมแพ็คมาสด้า3 เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด เป็นผู้สร้างมาตรฐานใหม่ในรถขนาดซี-เซ็กเม้นต์ด้วยการใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก ที่ให้ทั้งในเรื่องสมรรถนะขับขี่ ประหยัดน้ำมัน และปรัชญาการผลิตในอุดมคติ รวมถึงใช้แนวทางและภาษาศิลปะในออกแบบใหม่ ภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ ที่ถ่ายทอดความสวยงามของพลังผ่านรูปทรงของรถ สมบูรณ์แบบด้วย i-ACTIVSENSE ความปลอดภัยระดับโลกที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของมาสด้ามาใช้เป็นครั้งแรก และหลัก Human-Man Interface (HMI) ที่บรรลุถึงการทำงานของมนุษย์ และอุปกรณ์ควบคุมที่สมบูรณ์แบบโดยคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่เป็นสำคัญ และสุดท้ายกับระบบ MZD CONNECT ระบบเชื่อมโยงเครือข่ายการสื่อสารที่สามารถเชื่อมโยงกับอินเตอร์เน็ต และเซอร์วิสใช้งานต่างๆ
การออกแบบและความประณีตของศิลปะการออกแบบที่ถ่ายทอดถึงความสวยงามชวนให้หลงใหล จากภายในสู่ภายนอก การออกแบบกระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ Signature Wing ทรง 5 เหลี่ยม ที่ลากเส้นยาวไปถึงไฟหน้าทั้งสองข้าง จากการขึ้นรูปตัวถังและพื้นผิวด้านข้างที่ดูมีความโฉบเฉี่ยวแต่แข็งแรง ตั้งแต่โป่งล้อด้านหน้าจรดไฟท้ายที่สอดรับกับเส้นสายด้านข้าง ตัวถังให้ความปราดเปรียวคล่องแคล่วและมีพลังซ่อนเร้น โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 16” และ 18” ที่มีสไตล์สปอร์ตที่แข็งแรงปราดเปรียวมีพลังจากจุดกึ่งกลางออกไปตามขอบเส้นรอบวงของล้อ
รถยนต์มาสด้า3 เจเนอเรชั่นใหม่ ใช้เครื่องยนต์เบนซินสกายแอคทีฟ-จี (SKYACTIV-G) ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งเครื่องยนต์บล็อกใหม่นี้ใช้ระบบไอเสียแบบ 4-2-1ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะให้กำลังสูงสุดที่ 121 กิโลวัตต์ ที่ 6,000 รอบ และให้แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ ทำให้เครื่องยนต์มีแรงบิดสูงทุกช่วงความเร็วและยังประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น รถยนต์มาสด้า3 เจนเนอเรชั่นใหม่ ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เจนเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-DRIVE ที่ให้สมรรถนะสูง การเปลี่ยนเกียร์ที่ตอบสนองอย่างแม่นยำ กระชับรวดเร็ว ให้อัตราเร่งที่ดี เป็นเทคโนโลยีเกียร์อัตโนมัติเจนเนอเรชั่นใหม่ที่มีสมรรถนะดีที่สุด ต่างจากระบบเกียร์ที่ใช้ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ทั่วไป
สกายแอคทีฟ-บอดี้ (SKYACTIV-BODY) โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟที่ช่วยดูดซับรับแรงจากการชนปะทะในทุกทิศทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างตัวถังอย่างสมบูรณ์แบบ อุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยอื่นๆ ได้แก่ ถุงลมนิรภัยถึง 6 ลูก ประกอบด้วยด้านหน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย พนักพิงศีรษะด้านหน้าที่ช่วยลดการกระแทก (Whiplash-reducing front headrests)ระบบดิสค์เบรกทั้งสี่ล้อพร้อมครีบระบายความร้อน ระบบป้องกันล้อล็อค (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก Electronic Brake-force Distribution (EBD) และระบบช่วยเบรก Brake Assist (BA) ระบบไฟส่องสว่างอัตโนมัติขณะกลางวัน Daytime Running Lights ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Dynamic Stability Control (DSC) ระบบป้องกันการลื่นไถล Traction Control System (TCS) คอพวงมาลัยแบบยุบตัวอัตโนมัติเมื่อเกิดการชนปะทะ ทำงานพร้อมกับถุงลมนิรภัยด้านหน้า  เข็มขัดนิรภัยแบบ3 จุด ในทุกๆ ที่นั่ง เข็มขัดนิรภัยเบาะคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติและจุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
สมรรถนะด้านความปลอดภัยอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่าใครจะเทียบได้ มาสด้า3 เจนเนอเรชั่นใหม่ นำระบบความปลอดภัยใหม่เข้ามาใช้ภายใต้คอนเซ็ปต์ i-ACTIVESENSE การพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยโดยระบบด้านความปลอดภัยต่างๆ ที่ล้ำสมัย เพื่อเตือนภัยและเพิ่มการรับรู้สถานการณ์ล่วงหน้า ซึ่งสามารถป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นหรือช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุจากการชนปะทะลงได้
การเชื่อมโยงเครือข่ายการสื่อสารไร้สาย ด้วยระบบอินโฟเทนเมนต์ (Infotainment) ของมาสด้าที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เพื่อรองรับการทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน แท็ปเล็ทและคอมพิวเตอร์ ที่มีความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการใช้ชีวิตที่ทันสมัย มีความสอดคล้องกับพฤติกรรมการขับขี่ เพื่อให้ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสารในทุกที่ทุกแห่งหน มาสด้าได้พัฒนาระบบ MZD Connect ที่ใช้งานได้ง่ายสะดวก ทำให้เกิดความเพลิดเพลินในการขับขี่และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ระบบ MZD Connect จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ (Bluetooth) สามารถอัพเดทโปรแกรมได้ง่ายดายเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้สามารถได้รับบริการล่าสุด ในส่วนของระบบเครื่องเสียง การรับฟังทางวิทยุ AM/FM CD USB และ AUX ยังเป็นช่องทางที่มีไว้ให้เลือกอย่างครบครัน นอกเหนือจากนั้นสามารถเล่นแอพพลิเคชั่นบนอินเตอร์เน็ทได้นั่นคือ Ahaโดย HARMAN
สุรีทิพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสีภายนอกเป็นอีกหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการออกแบบรถยนต์มาสด้า และเป็นการนำเสนอรถยนต์ที่น่าดึงดูดใจ โดยสีภายนอกมีความสำคัญเช่นเดียวกับอุปกรณ์อื่นๆ สีใหม่ที่มาสด้านำนวัตกรรมและเทคโนโลยีการพัฒนาแบบใหม่ที่มีลักษณะเฉพาะของสี ที่มีความงดงาม เงาวาวเป็นประกายเมทัลลิคดูมีมิติเชิงลึก คือ สีแดง โซลเรด รถยนต์นั่งมาสด้า3 ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย สีแดง โซลเรด ซึ่งเป็นสีใหม่และเป็นสีสำหรับการเปิดตัว สีน้ำตาล ไททาเนียมแฟลช เป็นสีใหม่เช่นเดียวกัน สีฟ้า กันเมทัลบลู, สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิก, สีดำ แบล็กไมก้า, สีขาวมุก สโนว์เฟลค ไวท์เพิร์ล และสีเทา เมโทรโพลิทัลเกรย์
กลยุทธ์ด้านราคาเป็นอีกหนึ่งความสำคัญ ที่มาสด้านำมาพิจารณาในการนำมาสด้า3 ใหม่ ลงสู่ตลาด ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 8 แสนต้นๆ ในขณะที่รุ่นท็อป ซึ่งภายนอก ภายในและชุดเสริมความสปอร์ตเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ราคายังต่ำกว่า 1.1 ล้านบาท เมื่อเทียบคุณสมบัติที่มาสด้า3 ใหม่ มีมาให้กับราคา นับว่าเป็นรถยนต์อีกรุ่นหนึ่งในตลาดที่คุ้มค่ามาก มาสด้า3 ใหม่ มีด้วยกัน 7 รุ่นคือ   
o                 Mazda3 รุ่น E Sedan 4 ประตู                          เกียร์อัตโนมัติ           ราคาจำหน่าย 833,000 บาท
o                 Mazda3 รุ่น C Sedan 4 ประตู                          เกียร์อัตโนมัติ           ราคาจำหน่าย 914,000 บาท
o                 Mazda3 รุ่น S Sedan 4 ประตู                          เกียร์อัตโนมัติ           ราคาจำหน่าย 974,000 บาท
o                 Mazda3 รุ่น E Sports Hatchback 5 ประตู      เกียร์อัตโนมัติ           ราคาจำหน่าย 833,000 บาท
o                 Mazda3 รุ่น C Sports Hatchback 5 ประตู      เกียร์อัตโนมัติ           ราคาจำหน่าย 914,000 บาท
o                 Mazda3 รุ่น S Sports Hatchback 5 ประตู      เกียร์อัตโนมัติ           ราคาจำหน่าย 974,000 บา
o                 Mazda3 รุ่น SP Sports Hatchback 5 ประตู  เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 1,094,000 บาท
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved