จากัวร์ เปิดตัว ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ คูเป้ สุดยอดรถสปอร์ตสมรรถนะเหนือชั้นและสมบูรณ์แบบที่สุดจากจากัวร์ครั้งแรกของเมืองไทยกับมิติใหม่แห่งความแรงสุดขีดของรถสปอร์ตสายพันธุ์แกร่งจากสหราชอาณาจักร
Posted by Contemporary industry
Posted on 00:22
กรุงเทพฯ 26 มิถุนายน 2557 – ซิตี้ ออโต้โมบิล ผู้แทนจัดจำหน่ายรถยนต์จากัวร์ และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็ นทางการเพียงรายเดี ยวในประเทศไทย เปิดตัว ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ คูเป้ สุดยอดนวัตกรรมยานยนต์แห่ งความเร็วและสมรรถนะที่สมบูรณ์ แบบที่สุดจากจากัวร์ ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็ จจากรถสปอร์ตคูเป้รุ่น เอฟ-ไทป์ คอนเวอร์ทิเบิล ที่เคยคว้ารางวั ลงานออกแบบรถยนต์โลก(World Car Design of the Year) ประจำปี 2013 โดย จากัวร์ ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ คูเป้ ถูกออกแบบด้วยกระบวนการผลิ ตทางวิศวกรรมขั้นสูงเพื่ อมอบความสมบูรณ์แบบทั้งด้านพลั งในการพุ่งทะยาน ความคล่องตัวในการขับขี่ และมนต์เสน่ห์ที่จะสะกดทุกสายตา เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมเครื่ องยนต์ระบบซูเปอร์ชาร์จ ตัวถังอะลูมิเนียมน้ำหนักเบารุ่ นใหม่ และเทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่ อมอบประสบการณ์แห่งการขับขี่ ระดับโลกที่จะกระตุ้นอะดรีนาลิ นของผู้ขับขี่ให้สูบฉีดสุดแรงด้ วยประสบการณ์แห่งความเร็วที่แท้ จริง โดยเฉพาะยานยนต์รุ่นท้อปอย่าง เอฟ-ไทป์ อาร์ คูเป้ ที่ล้ำหน้าด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 680 นิวตันเมตร และความเร็วสูงสุดกว่า 300 กม./ชม. ผสานโครงสร้างและตัวถังอะลูมิ เนียมน้ำหนักเบารุ่นใหม่ของจากั วร์ในเครื่องยนต์ระบบซูเปอร์ ชาร์จ V6 ทำให้ เอฟ-ไทป์ อาร์ คูเป้ เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม.ในเวลาเพียง 4.2 วินาที ปลุกทุกประสาทสัมผัสของผู้ขับขี ่ให้โลดแล่นไปอย่างไร้ขีดจำกั ดด้วยความแรง แกร่ง และเฉียบคมเหนือใคร
ภาพลักษณ์อันสง่างามของ จากัวร์ เอฟ-ไทป์ คูเป้ เกิดจากการออกแบบต่อยอดจากงานดี ไซน์ของรุ่น จากัวร์ ซี-เอ็กซ์ 16 (C-X16) ซึ่งเป็นต้นแบบรถสปอร์ตคูเป้ที่ กวาดรางวัลระดับโลกจากงาน 2011 Frankfurt Motor Show ผ่านการใช้เส้นดีไซน์หลัก 3 เส้นในการสร้างสรรค์ โดยเส้นดีไซน์แรกซึ่ งถอดแบบมาจากรุ่น เอฟ-ไทป์ คอนเวอร์ทิเบิล ถูกใช้ในการออกแบบช่องลมให้แลดู น่าเกรงขามด้วยรูปทรง “เหงือกฉลาม” ที่เปิดอยู่ด้านข้าง ซึ่งเป็นตัวสร้างรูปทรงที่เพรี ยวสวยของโครงรถ จากนั้นพาดผ่านโค้งล้อหน้ าและกรอบประตู ก่อนจะโค้งลงอย่างนุ่มนวลสู่ช่ วงท้ายที่แลดูแข็งแกร่ งแบบชายหนุ่ม ส่วนเส้นดีไซน์ที่สองซึ่งยั งคงนำมาจากรุ่นคอนเวอร์ทิเบิล เริ่มต้นจากขอบหลังของประตูรถ โดยดึงแนวสายตาให้แผ่ออกด้านข้ างและเฉียงขึ้นด้านบน เพื่อเน้นส่วนโค้งของกรอบล้อหลั งให้แลดูใหญ่และทรงพลังในการขั บขี่ ก่อนเคลื่อนต่ำผ่านไฟท้ ายลงในแนวดิ่ง และเส้นดีไซน์ที่สามถือเป็นเส้ นสำคัญที่สร้างความอัศจรรย์แห่ งงานดีไซน์ให้แก่ ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ คูเป้ ใช้ในส่วนของห้องโดยสารด้านหลั งและโครงหลังคารถเพื่อเน้นรู ปทรงลู่ลม ทำให้ห้องโดยสารเสมือนได้รั บการปกป้องจากช่วงท้ายที่ให้ ความรู้สึกทรงพลัง
โครงสร้างภายนอกของ จากัวร์ ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ คูเป้ ผลิตจากอะลูมิเนียมชิ้นเดียวด้ วยเทคโนโลยีการบีบอัดขั้นสูง เป็นโครงสร้างอะลูมิเนี ยมภายนอกที่ใช้ระบบการขึ้นรู ปเย็นที่ดีที่สุดในอุ ตสาหกรรมรถยนต์เกรดพรีเมี่ยมทั้งยังทำให้ตัวถังของ จากัวร์ ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ คูเป้ มีค่าความแข็งตึงต่อการรับแรงบิ ดสูงถึง 33,000 นิวตันเมตร/ดีกรี ซึ่งเป็นโครงสร้างที่แข็งแกร่ งที่สุดเท่าที่จากัวร์เคยผลิตมา
จากัวร์ ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ คูเป้ ยังติดตั้งเทคโนโลยีและอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์สุดล้ำเพื่ อการควบคุมอย่างง่ายดายเพี ยงปลายนิ้วสัมผัส อาทิ ระบบทดแทนแรงบิด (Electronic Active Differential) รุ่นพัฒนาใหม่ และระบบวัดเวคเตอร์แรงบิด (Torque Vectoring) ซึ่งตอบสนองการควบคุมอย่างฉั บไวเต็มประสิทธิภาพ, ระบบเบรกคาร์บอนเซรามิกเมตริกซ์ (Carbon Ceramic Matrix:CCM) ที่มาพร้อมจานเบรกหน้า 398 มม. และจานเบรกหลัง 380 มม. มอบพลังการเบรกที่เฉียบคมสำหรั บพื้นผิวแบบระลอกคลื่น ทั้งยังเพิ่มสมรรถนะในการควบคุ มและแรงต้านการดื้อเบรกได้อย่ างดีเยี่ยม โดยช่วยลดน้ำหนักนอกสปริงรวมได้ ถึง 21 กก. อีกทั้งระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ ตที่มาพร้อมโหมดการขับขี่ แบบไดนามิกหรือ Adaptive Dynamics Damping และ Configurable Dynamic Mode ยังเพิ่มความฉับไวในการตอบสนอง ให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดี ยวกับยานยนต์ และสัมผัสถึงประสบการณ์แห่ งความเร็วระดับพรีเมี่ยมได้ แบบเต็มอารมณ์
จากัวร์ เอฟ-ไทป์ อาร์ คูเป้ นำเสนอสุดยอดยนตกรรมจากตระกูล เอฟ-ไทป์ ด้วยเครื่องยนต์ระบบซูเปอร์ชาร์ จ V8 ขนาด 5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 550 แรงม้า/แรงบิด 680 นิวตันเมตร พร้อมอัตราเร่ง 0-97 กิโลเมตร/ชม. ในเวลาเพียง 4 วินาที และพุ่งทะยานด้วยความเร็วสูงสุ ดที่ 300 กิโลเมตร/ชม. โดยใช้เวลาเร่งที่ระดับความเร็ว 80-120 กิโลเมตร/ชม.ในเวลาเพียง 2.4 วินาที สำหรับรุ่นจากัวร์ เอฟ-ไทป์ เอส คูเป้ ใช้เครื่องยนต์เบนซินระบบซู เปอร์ชาร์จ V6 ขนาด 3 ลิตร ที่ให้กำลัง 380 แรงม้า/แรงบิด 460 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-97 กิโลเมตร/ชม. ในเวลา 4.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 275 กิโลเมตร/ชม. และมาพร้อมหลังคากระจกพานอรามิ กเพื่อเปิดมุมมองเต็มตาแบบ 360 องศา ประสานกับระบบวัดเวคเตอร์แรงบิ ดด้วยแรงเบรก จึงช่วยเพิ่มการตอบสนองที่ฉั บไวและการควบคุมอย่างเต็มประสิ ทธิภาพ
เช่นเดียวกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ในตระกูลเอฟ-ไทป์ การตกแต่งห้องโดยสารของ ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ คูเป้ ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถั นเพื่อถ่ายทอดถึงเอกลักษณ์ ของสายพันธุ์แห่งรถสปอร์ตตัวจริ งผ่านการสร้างสรรค์รูปแบบทั้ งในเชิงเทคนิค การออกแบบอินเตอร์เฟซให้เป็นหนึ ่งเดียวกับผู้ใช้งาน และการเลือกใช้องค์ประกอบและวั สดุบุรองเกรดพรีเมี่ยมเท่านั้น อาทิ เบาะนั่งของ เอฟ-ไทป์ อาร์ คูเป้ เป็นแบบ Performance seats โดยมีปีกเบาะด้านข้างที่ขยายได้ เพื่อให้โอบอุ้มสรีระของผู้ขั บขี่และผู้โดยสารในขณะขับขี่ด้ วยความเร็วสูง บุด้วยหนังเนื้อดีเกรดพรีเมี่ ยมพร้อมประทับตราสัญลักษณ์ “R” อย่างเด่นชัดบนเบาะรองศีรษะ พร้อมมอบความหรูหราด้วยงานบุ ระดับพรีเมี่ยมทั้งบริ เวณแผงควบคุมและกล่องใส่ของ ที่พักแขน แผงครอบมือจับด้านในประตู และคอนโซลกลาง นอกจากนี้ ยังมีออพชั่นการตกแต่ งภายในสไตล์ใหม่ที่เลือกได้ทั้ งวัสดุหนังหรือผ้าหนังกลับ ส่วนที่นั่งคนขับเน้นสัมผัสแห่ งความเร็วแบบรถสปอร์ตด้ วยพวงมาลัยแบบวงเล็กและแบนด้ านล่าง พร้อมหุ้มหนังสไตล์เครื่องบิ นเจ็ทและประทับตราสัญลักษณ์ “R” โดยสามารถเลือกติดตั้งออพชั่ นพวงมาลัยกลมแบบมาตรฐานได้ฟรี นอกจากนี้ เอฟ-ไทป์ ทุกรุ่นยังมีออพชั่นการตกแต่ งภายในสไตล์ใหม่ที่ใช้หนังและผ้ าหนังกลับเต็มรูปแบบ โดยใช้ด้ายเย็บสีซีทรัสให้มี โทนสีตัดกันอย่างสวยงาม
พร้อมกับการเปิดตัว ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ อาร์ คูเป้ ซึ่งสมบูรณ์แบบด้วยสมรรถนะที่ เหนือชั้นและจิตวิญญาณแห่ งความแกร่งตามแบบฉบับจากัวร์ ซิตี้ ออโต้โมบิล ยังได้เปิดตัว แบรนด์เฟรนด์ ชาวไทย 3 ท่าน ซึ่งเป็นตัวแทนของเอกลักษณ์อั นโดดเด่นทั้ง 3 ด้านของจากัวร์ ซึ่งได้แก่ งานดีไซน์ที่โดดเด่นโดยมีตัวแทนคือ อาทิตย์ อัสสรัตน์ ผู้กำกับภาพยนตร์ไฟแรง, นวัตกรรมอันล้ำสมัยโดย เชฟเอียน กิตติชัย เชฟแถวหน้าของเมืองไทย และ พิเชษฐ กลั่นชื่นศิลปินโขนร่วมสมัย เป็นตัวแทนแห่งสมรรถนะที่เหนื อชั้น โดยแบรนด์แอมบาสเดอร์ทั้งสามถื อเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ทุ่ มเทในการทำงานและยังเป็นแรงบั นดาลใจแก่ผู้อื่นในการก้ าวตามความฝันของตนเองได้อย่างน่ าชื่นชม โดยเฉพาะการเข้าถึงสุนทรีศาสตร์ ระดับสูงซึ่งเป็นส่วนสำคั ญในการสร้างสรรค์ผลงานชั้นเยี่ ยมด้วยจิตวิญญาณที่แท้จริง สิ่งนี้ยังถือเป็นหัวใจสำคั ญในการสร้างสรรค์ยานยนต์สปอร์ ตของจากัวร์
ริชาร์ด เฮก ผู้จัดการทั่วไป จากัวร์แลนด์โรเวอร์ กล่าวว่า “จากัวร์แลนด์โรเวอร์ ทุ่มเทเพื่อการขยายธุรกิ จและฐานลูกค้าระดับสูงในเมื องไทยมาอย่างยาวนาน ทั้งยังมีแผนการเปิดตัวรถยนต์รุ ่นใหม่ในตลาดเมืองไทยทุกปี โดยปี 2557 ถือเป็นปีของ ดิ ออล-นิวเอฟ-ไทป์ คูเป้ ซึ่งเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นสำคั ญของจากัวร์ เนื่องจากเป็นการนำเสนอสุ ดยอดสมรรถนะแห่งความแรงขั้นสุ ดยอดของรถสปอร์ตจากัวร์และเป็นนวัตกรรมอันล้ำหน้าที่สุ ดเท่าที่เคยมีมา เพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดแก่ลู กค้าที่ต้องการความเป็นเลิศทั้ งด้านสไตล์ที่เหนือล้ำ งานประกอบระดับพรีเมี่ยม พร้อมด้วยสมรรถนะและดีไซน์ที่ โดดเด่นเหนือใคร โดยเฉพาะเหล่าผู้ขับขี่ตัวจริ งที่มีความเชี่ยวชาญระดับสูง หลงใหลในการขับขี่ และแสวงหาประสบการณ์แห่งการพุ่ งทะยานขั้นสุดยอด ย่อมทราบดีว่า ดิ ออล-นิว เอฟ-ไทป์ คูเป้ คือยานยนต์ที่เหนือชั้นในทุกด้ าน ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์อันหรูหรา ประสิทธิภาพการขับขี่ และการควบคุมที่เฉียบคม ที่พร้อมตอบสนองทุกความต้ องการของไลฟ์สไตล์ระดับสูงได้ อย่างครอบคลุม
“นอกจากนี้ ซิตี้ ออโต้โมบิล ยังได้แต่งตั้งบริษัทตัวแทนผู้ ให้บริการรถยนต์จากัวร์อย่างเป็ นทางการเพิ่มอีก 3 ราย เพื่อให้ผู้บริ โภคในประเทศไทยสามารถเข้าถึงศู นย์จำหน่ายและบริการซ่อมบำรุ งระดับเวิลด์คลาสของจากัวร์ได้ สะดวกสบายยิ่งขึ้น”
F-Type Coupe = 7,999,000 บาท
F-Type S Coupe = 8,899,000 บาท
F-Type V8 SC R Coupe = 11,250,000 บาท
เบนท์ลี่ย์ วี 8 เอส (V8 S) ใหม่ล่าสุด เปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย
Posted by Contemporary industry
Posted on 00:19
· จีที วี8 เอส (GT V8 S) รุ่นคูเป้ (coupe) และรุ่นเปิดประทุน (convertible) เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน IAA แฟรงก์เฟิร์ต
· มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนท์ลี่ย์ ขนาด 4 ลิตร twin-turbo V8
· พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดที่ 521 แรงม้า ที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบ/นาที
· GT V8 S Coupe มีอัตราเร่งจาก 0-100กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา4.5 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 309 กิโลเมตร/ชั่วโมง
· GT V8 S Convertible มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 308 กิโลเมตร/ชั่วโมง
· ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นอย่างยิ่งโดยหากเติมน้ำมันเต็มถังนั้นทั้ง 2 รุ่นสามารถวิ่งได้ยาวไกลถึง 805 กิโลเมตร
· การออกแบบเน้นในเรื่องของความเฉียบคมและเต็มไปด้วยสไตล์รูปลักษณ์ที่โดดเด่นตามรูปแบบรถสปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน
· ตัวถังต่ำลง 10 มิลลิเมตร พร้อมระบบช่วงล่างแบบสปอร์ตและคาลิปเปอร์เบรกสีแดง
· โลโก้ “V8 S”จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นสปอร์ตอย่างแท้จริง
กรุงเทพฯ. เบนท์ลี่ย์ ประเทศไทย โดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยของยนตรกรรมหรูรุ่นใหม่ล่าสุดจากเบนท์ลี่ย์The New Continental GT V8 S and GT V8 S Convertible เชิญชวนทุกท่านสัมผัสโลกของ ‘S’ กับคำนิยามใหม่แห่งสปอร์ต บนความหรูหราที่สุดของเบนท์ลี่ย์เมื่อวันอังคารที่ 24 มิถุนายน 2557 ณ โชว์รูม PAG ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ที่ผ่านมา
เบนท์ลี่ย์เพิ่มสมาชิกใหม่ให้กับครอบครัวคอนติเนนทัล (Continental) นั่นคือรุ่น จีที วี8 เอส (GT V8 S) ใหม่ล่าสุดที่ทำการเปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์ IAA Frankfurt Motor Show โดยจะออกมาในรูปแบบ 2 เวอร์ชั่นนั่นคือรุ่นคูเป้และรุ่นเปิดประทุน รุ่น V8 S ใหม่ล่าสุดนี้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ Twin-turbo ขนาด 4 ลิตร ให้พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 521 แรงม้า (528 PS / 389 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 680 นิวตันเมตร ระบบช่วงล่างได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ รวมถึงเพิ่มสีภายนอกและภายในห้องโดยสารเพื่อเพิ่มจุดเด่นด้วยเช่นกัน
Dr Wolfgang Schreiber ประธานกรรมการและบริหารของเบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ ได้กล่าวไว้ว่า:
“วี8 เอส (V8 S) ใหม่ล่าสุดของเรานี้จะกลายมาเป็นรุ่นที่เข้ามาเสริมและสร้างความตื่นเต้นให้กับครอบครัวคอนติเนนทัล (Continental) พละกำลังเครื่องยนต์และแรงบิดที่เพิ่มมากขึ้น ช่วงล่างเน้นในเรื่องของความคล่องตัว ทำให้รถที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 เวอร์ชั่นนี้ของเรามีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา และเปี่ยมไปด้วยคุณภาพชั้นเลิศตามแบบฉบับเบนท์ลี่ย์ทุกประการ นี่คือรถที่มีลักษณะโดดเด่นเป็นของตัวเอง มีความคล่องตัวสูง และให้ความแตกต่างอย่างชัดเจน”
คอนติเนนทัลใหม่ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และมีความคล่องตัวสูง
รุ่น วี 8 เอส (V8 S) ใหม่ล่าสุดนี้ถูกสร้างขึ้นจากความสำเร็จของรุ่นคอนติเนนทัล จีที V8 (Continental GT V8) มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนท์ลี่ย์ ขนาด 4 ลิตร twin-turbo V8 ให้พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดที่ 521 แรงม้า (528 PS / 389 กิโลวัตต์) ที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุดที่ 680 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ประมาณ 1,700 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังหรือเกียร์ออกมาในรูปแบบระบบเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด เสริมด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่เน้นการกระจายแรงบิดไปทางด้านหลัง 40:60 เป็นหลัก เพื่อให้มั่นใจว่าการกระจายพละกำลังเครื่องยนต์นั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มพละกำลังมากขึ้นและไม่สะดุดอีกด้วย รุ่น จีที วี8 เอส คูเป้ (GT V8 S coupe) มีอัตราเร่งจาก 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 4.5 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 309 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนสมรรถนะของ จีที วี8 เอส (GT V8 S) รุ่นเปิดประทุนมีความน่าประทับใจเช่นกันโดยมีอัตราเร่งจาก 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 308 กิโลเมตร/ชั่วโมง อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นอย่างยิ่งโดยหากเติมน้ำมันเต็มถังนั้นทั้ง 2 รุ่นสามารถวิ่งได้ไกลถึง 805 กิโลเมตรเลยทีเดียว
การเพิ่มประสิทธิภาพของตัวถังให้กับรุ่นคอนติเนนทัล (Continental) จะทำให้รถมีสมรรถนะการทรงตัวที่ดียิ่งขึ้นและสามารถควบคุมได้ง่ายเหมาะสมกับเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังสูง ทำให้รถขับเคลื่อนไปได้อย่างสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพ หากตั้งค่าตัวถังในรูปแบบสปอร์ต จะพบว่าความสูงของตัวถังจะต่ำลงมาอีก 10 มิลลิเมตร ทางด้านหน้าและหลัง ในขณะที่ค่าความแข็ง-อ่อนคงที่ของสปริงที่จะยุบตัวเป็นสัดส่วนตามน้ำหนักที่กดทับและบาร์ป้องกัน (Anti-roll bar) ทางด้านหลังจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ไม่เพียงเท่านี้เบนท์ลี่ย์ยังทำการตั้งค่าโช้คอัฟ, พวงมาลัย, และระบบ ESC ใหม่ เพื่อให้ได้มาซึ่งประสบการณ์การขับขี่อย่างสุนทรีย์ที่สุด
การออกแบบจะเน้นในเรื่องของความเฉียบคมและเต็มไปด้วยสไตล์รูปลักษณ์ที่โดดเด่นตามรูปแบบรถสปอร์ต แพ็คเกจสำหรับตกแต่งตัวรถส่วนล่างมาพร้อมกับการลดระดับช่วงล่างลงเพื่อให้เหมาะสมตามหลักอากาศพลศาสตร์ อีกทั้งยังมาพร้อมกับครีบด้านข้างและครีบกระจายอากาศด้านหลังที่สง่างามสีดำ Beluga gloss black ส่วนล้อมีขนาด 20 นิ้วที่เพิ่มความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และพิเศษเฉพาะสำหรับรุ่น วี8 เอส (V8 S) เท่านั้น เบรกคาลิปเปอร์สีแดง ส่วนโลโก้ “V8 S” จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นสปอร์ตอย่างแท้จริง ปลายท่อออกมาในรูปแบบสปอร์ตใหม่ล่าสุด
ภายในห้องโดยสารของ วี8 เอส (V8 S) นำเสนอถึงความทันสมัยและหรูหราตามแบบฉบับของเบนท์ลี่ย์ มาพร้อมกับภายในห้องโดยสารแบบทูโทน สีขอบตกแต่งภายในห้องโดยสารสามารถเลือกได้ถึง 17 สีเลยทีเดียว จีที วี8 เอส คูเป้ (GT V8 S Coupe) ยังมีความโดดเด่นด้วยเส้นขอบตัดภายในที่โดดเด่นและตัดกับเส้นลายหลังคาได้อย่างหรูหราสง่างาม ปุ่มสวิทซ์ไปจนถึงก้านเกียร์รวมถึงปุ่มควบคุมเบาะพ่นลมมีความสง่างามและตัดกับลายไม้ Piano Black ได้อย่างลงตัว ไม่เพียงเท่านี้ยังได้รับการเสริมทัพด้วยโลโก้ “V8 S” แสดงความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย
ข้อความจากผู้เขียน
เบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ มีพนักงานกว่า 4,000 คนที่เมือง Crewe ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานในการปฎิบัติงาน ทั้งในเรื่องของการออกแบบ การวิจัยและพัฒนา วิศวกรและสายการผลิต ที่แห่งนี้รวบรวมไว้ซึ่งช่างฝีมือชั้นเยี่ยม ที่ส่งผ่านทักษะที่โดดเด่นของพวกเขาสู่เจเนอเรชั่นใหม่ เบนท์ลี่ย์ถือได้ว่าเป็นโรงงานผลิตรถหรูที่เต็มไปด้วยวิศวกร ผู้เชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วยเช่นกัน ไม่เพียงเท่านี้เบนท์ลี่ย์ยังได้รับการขนานนามว่าเป็นโรงงานผลิตรถยนต์หรูที่โดดเด่นมากในประเทศอังกฤษ ที่สำคัญคือการสร้างคุณค่าของรถยนต์จากประเทศอังกฤษให้เพิ่มมากขึ้น เบนท์ลี่ย์ส่งออกสินค้าที่มีมูลค่ากว่า 1 พันล้านปอนด์ในปี 2012 ที่ผ่านมา บริษัทได้กลายมาเป็นนักพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศอังกฤษ
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ได้ที่ แผนกการตลาดและประชาสัมพันธ์ โทร. 02-522-6655 ต่อ448 บริษัท เอเอเอสออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
Bus & Truck’14 ภายใต้แนวคิด “More Power No Border” 6 – 8 พ.ย. 57 งานเพื่อชาวรถใหญ่ ค้นหาโอกาสทางธุรกิจ เร่งพลังขานรับ AEC
Posted by Contemporary industry
Posted on 01:30
เตรียม พบกับ Bus & Truck’14 ... งานแสดงรถเพื่อการพาณิชย์สุดยิ่งใหญ่ งานแรกแห่งอาเซียน กลับมาอีกครั้งในปีนี้ ภายใต้แนวคิด ‘More Power No Border’ เปิดรับการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยพื้นที่ทั้งหมดกว่า 15,000 ตร.ม. ทั้งภายในอาคารและกลางแจ้งของไบเทค กรุงเทพฯ ได้ถูกปรับพื้นที่ให้ชาวรถใหญ่ รถเพื่อการพาณิชย์ และรถที่ใช้ในกิจการพิเศษหลากหลายประเภท ได้เข้าร่วมโชว์สมรรถนะการเร่งพลังขับเคลื่อนธุรกิจด้านการขนส่ง เตรียมความพร้อมสู่การเปิดโลกเสรี AEC อย่างเต็มศักยภาพ
งาน Bus & Truck’14 .. คือเครื่องมือการตลาดสำคัญที่ TTF สร้างสรรค์และจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เป็นงานแรกในอาเซียนที่ให้บรรดาผู้ประกอบการรถใหญ่ทุกประเภทได้ มีพื้นที่โชว์นวัตกรรมด้านยนตรกรรมยานยนต์ขนาดใหญ่ ทั้งรถหัวลาก รถบรรทุก รถโดยสาร ฯลฯ รวมไปถึงผู้ผลิต-จำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง เช่น อะไหล่ เทคโนโลยีงานระบบ หรือเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ตลอดจนธุรกิจขนส่งและบริการโลจิสติกส์ที่เข้าร่วมจัดแสดงในงานนี้ ก็จะได้มีโอกาสพบกับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการตรงในผลิตภัณฑ์และบริการใน อุตสาหกรรมรถเพื่อการพาณิชย์และกิจการพิเศษ ไม่นับรวมถึงความต้องการใหม่จากผู้บริโภคกลุ่มอื่นที่ต่างอยู่ในช่วงของการ ค้นหาโอกาสทางธุรกิจในยุคของการเปิดเสรีการค้าในกลุ่มประเทศ AEC นับเป็นความคุ้มค่าของผู้จัดแสดงทั้งในเชิงการตลาดและการขยายฐานกลุ่มลูกค้า ของธุรกิจให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
Bus & Truck’14 งานแสดงรถเพื่อการพาณิชย์และกิจการพิเศษ ... จัดโดย TTF
สมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่สุดทน ผนึกกำลัง เดินหน้าร้องขอความเป็นธรรมกับ สมอ. กรณีตรวจสอบมาตรฐานรถนำเข้า แนวทางการทำงานไม่ชัดเจน เลือกปฎิบัติ ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการเดือดร้อนกันถ้วนหน้า
Posted by Contemporary industry
Posted on 04:07
นายอภิชาติ สมรพิทักษ์กุล นายกสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ เปิดเผยว่า “ในขณะนี้กลุ่มผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์ใหม่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก สืบเนื่องจากนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ออกระเบียบให้ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระต้องนำรถยนต์ที่นำเข้ามาทำการตรวจสอบมาตรฐานก่อนการจำหน่ายทุกคัน ในขณะที่บริษัทผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (Authorizer Dealers) ในประเทศไทยได้รับยกเว้นหรือผ่อนผัน ทั้งๆ ที่รถยนต์ที่ผู้นำเข้าอิสระกับผู้แทนจำหน่ายนั้น สั่งนำเข้ารถยนต์มาจากแหล่งผลิตหรือโรงงานเดียวกันจากต่างประเทศ”
แนวทางการปฏิบัติงานของ สมอ.ดังกล่าวนี้ เป็นการปฎิบัติที่ไม่เป็นธรรมส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ให้กับผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์อิสระ อาทิ ต้นทุนที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคขาดเสรีภาพและโอกาสในการเลือกซื้อ ระยะเวลาที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริงตามที่ระบุไว้ในหลักเกณฑ์ กล่าวคือ สมอ. ระบุว่าจะสามารถตรวจสอบมาตรฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่ในทางปฎิบัติจริงแล้วใช้เวลาตรวจสอบอย่างน้อย 90 ถึง 120 วัน ส่งผลให้การส่งมอบรถให้ลูกค้าเกิดความล่าช้าเสียหาย
อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ไม่มีมาตรฐานในการจัดเก็บที่แน่นอน โดยในช่วงระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน มีการปรับเปลี่ยนหลักการจัดเก็บถึง 3 ครั้ง กล่าวคือ ครั้งแรกประมาณต้นปี 2556 ผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์อิสระ ได้ยื่นขอตรวจสอบรถยนต์นำเข้า สมอ. คิดค่าธรรมเนียมใบอนุญาต มูลค่าประมาณ 100,000 บาท ต่อมา สมอ. ได้มีการเปลี่ยนแปลงคิดค่าธรรมเนียมโดยแยกตามประเภทของเครื่องยนต์ โดยดีเซลคิดค่าธรรมเนียม 19,000 บาท และ เบนซินคิดค่าธรรมเนียม 49,000 บาท ซึ่งในขณะนั้นใบอนุญาตใบแรกก็ยังไม่ออกเสียด้วยซ้ำ ล่าสุดมีการปรับค่าธรรมเนียมการจัดเก็บเครื่องยนต์ดีเซลอยู่ที่ 46,000 บาท และ เครื่องยนต์เบนซินอยู่ที่ 78,000 บาท ซึ่ง สมอ. ไม่เคยชี้แจงรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงการจัดเก็บเงินจำนวนเงินดังกล่าวเลย
“และด้วยคำสั่งล่าสุด ให้รถยนต์นำเข้าต้องผ่านการตรวจมาตรฐานเพื่อรับใบอนุญาตจาก สมอ. ทุกชิฟเม้นท์ ก่อให้เกิดความตระหนกตกใจ รวมถึงความไม่เชื่อถือในหมู่ผู้บริโภคทั้งที่เป็นลูกค้าเก่า ลูกค้าใหม่ และบริษัทไฟแนนซ์ต่างๆ อีกทั้งคำว่า “ทุกชิฟเม้นท์” นี้ก็ไม่มีความชัดเจนว่าคืออะไร สมาคมฯได้ทำหนังสือถามเพื่อความชัดเจนไปที่ สมอ. ซึ่งยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจนถึงทุกวันนี้
ถ้าเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (Authorized Dealers) สมอ.กลับผ่อนผันยกเว้นด้วยการใช้วิธีตรวจสอบจากการเทียบเคียงในรถรุ่นเดียวกันสามารถใช้ใบอนุญาต 1 ใบ ต่อรถจำนวน 5,000 คัน หรือไปตรวจสอบ ณ โรงงานผู้ผลิต แต่สำหรับผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์อิสระแล้ว สมอ.ระบุว่าต้องตรวจทุก ชิฟเม้นท์ ซึ่งสมาคมฯ ถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากในขณะนี้”
ทั้งนี้ สมาคมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจได้เข้าพบเพื่อหารือหาแนวทางแก้ไขกับผู้มีอำนาจรับผิดชอบในสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) หลายๆ ครั้ง แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนออกมา โดยล่าสุดสมาคมฯ ได้ยื่นคำร้องลงวันที่ 25 เมษายน 2557 ต่อ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ให้พิจารณาให้ความเป็นธรรมในเรื่องการขอปรับเกณฑ์ในการตรวจสอบเพื่อการอนุญาตสำหรับผู้นำเข้ารถยนต์รายย่อย แต่คำร้องดังกล่าวยังไม่ได้รับการตอบรับจาก สมอ. แต่อย่างใด
“ดังนั้น ในนามสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่จึงได้ร่วมกันชี้แจ้งข้อเท็จจริง เพื่อให้มีการตรวจสอบอำนาจหน้าที่ และการทำงานของสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ที่มีหน้าที่ต้องทำงานด้วยความสุจริต โปร่งใส ยุติธรรม และสามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ และนับจากวันนี้สมาคมฯ ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อพิจารณาและสรุปการดำเนินการในขั้นต่อไป” นายอภิชาติ กล่าวทิ้งท้าย
มาสด้าชูเทคโนโลยี สกายแอคทีฟ สุดยอดเทคโนโลยียานยนต์ของโลก
Posted by Contemporary industry
Posted on 01:39
กรุงเทพฯ – ประเทศไทย – 20 มิถุนายน 2557, มาสด้า ประกาศศักดาเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ในงานประชุมสุดยอดด้านวิชาการ Automotive Summit 2014: Green Mobility Changing the World ตามคำเชิญจากนายวิชัย จิราธิยุต (ที่ 4 จากขวา) ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ ด้วยการส่ง มร. มิตซูโอะ ฮิโตมิ (ที่4 จากซ้าย) เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูง มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น รับผิดชอบศูนย์วิจัยด้านเทคนิค การพัฒนาระบบขับเคลื่อนและระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าของมาสด้า มานำเสนอสุดยอดเทคโนโลยี SKYACTIV Technology ที่ใช้ในการพัฒนายานยนต์ที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีเยี่ยมและคุ้มค่า โดยมีผู้บริหารจากมาสด้า เซลส์ ประเทศไทยเข้าร่วมงาน
สกายแอคทีฟ เทคโนโลยี” SKYACTIV Technologyเป็นชื่อเรียกขานของนวัตกรรมเทคโนโลยียนตรกรรมใหม่ล่าสุดซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับเราชาวมาสด้า ทั้งหมดนี้ได้ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นจากวิสัยทัศน์ของพัฒนาการทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นแผนงานระยะยาวเพื่อสร้างความยั่งยืนของมาสด้า หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "ซูม-ซูม แบบยั่งยืน" หรือ “Sustainable Zoom-Zoom” ซึ่งนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่นี้ถูกตั้งขึ้นเพื่อสะท้อนถึงความตั้งใจจริงและความปรารถนาอย่างแรงกล้าของมาสด้าในความมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ด้านการขับขี่ ไปพร้อมๆ กับความห่วงใยที่มีต่อสิ่งแวดล้อมของมนุษยชาติ รวมถึงระบบความปลอดภัยสูงสุดสำหรับยนตรกรรมที่กำลังจะถูกพัฒนาขึ้นต่อจากนี้
หมวดหมู่ยานยนต์
- 014 Chevrolet Silverado HD (1)
- 10 เคล็ดลับขับปลอดภัยเมื่อน้ำท่วม (1)
- 2014 Volvo S80 (1)
- 2015 Lincoln MKC crossover (1)
- 2015 Volvo S60 T6 (1)
- 2015 Volvo V40 (1)
- 2016 Chevrolet (1)
- 2016Chevrolet Colorado (1)
- 2016 Toyota Fortuner (1)
- 2018 Mazda CX-5 (1)
- 2018 Toyota Rush (2)
- 2 Stroke Engine (1)
- 5 ประตู (6)
- กระบวนการผลิต (19)
- กระบอกสูบ (1)
- กราฟกำลัง (1)
- กราฟแรงบิด (1)
- ก้านสูบ (1)
- การขับรถอย่างปลอดภัย (1)
- การใช้ไฟอย่างถูกต้อง เมื่อฝนตกหนัก (1)
- การดูแลรักษารถด้วยตนเอง (2)
- การเติมลม (1)
- การเติมลม กับ ล้อแม็กซ์ (1)
- การถ่วงล้อ (1)
- การบำรุงรักษา (4)
- การบำรุงรักษาและตรวจเช็คประจำวันรถยนต์คู่ใจ ควรทำอย่างไร (1)
- การปลี่ยนขนาด ยางรถยนต์ (1)
- การเปลี่ยนพลังงานความร้อนเป็นพลังงานกลของเครื่องยนต์ (1)
- การเผาไหม้ (11)
- การเผ่าไหม้ (1)
- การวิเคราะห์ปัญหาเครื่องยนต์ (1)
- การหยุดรถ และการจอดรถ (1)
- การออกแบบ (10)
- แก๊สโซลีน (3)
- ข้อควรปฏิบัติทั่วไป ในการใช้รถยนต์ (1)
- ข้อควรปฏิบัติ เมื่อการขับขี่ในพื้นที่ลักษณะต่างๆ (1)
- ขับเคลื่อน (13)
- ขับอย่างไรเพื่อยืดอายุยาง (1)
- ข่าวยานยนต์ (4)
- ควรจะทำอย่างไรเมื่อยางรถระเบิดขณะขับรถอยู่ (1)
- คว้านเสื้อสูบ (2)
- ความรู้ (3)
- คอมมอนเรล (1)
- คอยล์จุดระเบิด (8)
- คำศัพท์น่ารู้ (1)
- เครื่องมือ (1)
- เครื่องยนต์ (64)
- เครื่องยนต์ 2 จังหวะ (1)
- เครื่องยนต์ 4 จังหวะ (1)
- เครื่องยนต์คอมมอนเรล (1)
- เครื่องยนต์ดีเซล (3)
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร (1)
- เครื่องยนต์ดีเซลตระกูล GD รุ่นใหม่ (1)
- เครื่องยนต์เบนซิน (1)
- เครื่องยนต์แบบโรตารี่ (1)
- เครื่องยนต์ร้อนแล้วดับ สตาร์ทติดยาก เกิดจากสาเหตุใด และแก้ไขอย่างไร (1)
- เครื่องยนต์เล็ก (2)
- เครื่องยนต์สตาร์ทติดยากตอนอากาศชื้นเกิดจากอะไร ? (1)
- เครื่องยนต์สันดาปภายใน (3)
- เครื่องยนต์หัวฉีด (1)
- เครื่องยนต์ EFI (2)
- เครื่องยนต์V8 (1)
- เคล็ดลับ (2)
- จอดรถให้ปลอดภัย (1)
- จักรยานยนต์ (1)
- จังหวะการฉีดเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ EFI (1)
- ชิ้นส่วนยานยนต์ (1)
- ชื่อชิ้นส่วนเครื่องยนต์ภาษาไทย และอังกฤษพร้อมรูป คลิปวีดีโอ (1)
- เชฟโรเลต (1)
- เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 (1)
- โช๊คอัพ (5)
- ซ่อม (21)
- ซ่อมเครื่องยนต์ (7)
- ซ่อมบำรุง (6)
- ซุปเปอร์คาร์ (3)
- ซูซุูกิ (2)
- ซูซูกิ ไฮบริด (1)
- โซลินอย (1)
- ดัดแปลง (3)
- ไดชาร์จ (2)
- ไดร์สตาร์ท (10)
- ไดสตาร์ท (12)
- ตรวจสอบเครื่องยนต์ (1)
- ตลับลูกปืน (2)
- ตัวอักษรบนยาง บอกอะไร? (1)
- ตีปลอก (1)
- โตโยต้า (21)
- โตโยต้า 2015 (1)
- ถุงลมนิรภัย (1)
- ที่นั่งเด็ก (5)
- เทคนิคการขับรถป้องกันเชิงอุบัติเหตุ (1)
- เทคนิคการใช้รถและการดูแลรถอย่างง่ายๆ (1)
- เทคโนโลยียานยนต์ (53)
- เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ (8)
- เทอร์โบ (1)
- เทอร์โบแปรผัน (7)
- น้ำมันเชื้อเพลิง (14)
- น้ำมันดีเซล (6)
- น้ำมันเบนซิน (4)
- นิตยสาร (3)
- นิสสัน (11)
- บำรุงรักษาเครื่องยนต์ (1)
- บีเอ็มดับเบิ้ลยู (1)
- เบรค (22)
- เบาะรถยนต์ (5)
- เบาะสำหรับเด็ก (5)
- แบตเตอรี่ (3)
- แบรนด์รถยนต์ (1)
- แบริ่ง (1)
- ไบโอดีเซล (2)
- ประกอบเครื่องยนต์ (5)
- ประกอบรถยนต์ (13)
- ประดับยนต์ (5)
- ประเภทรถยนต์ (1)
- ปอร์เช่ (2)
- ปัญหารถยนต์ (1)
- ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ 2015 (1)
- ปิกอัพ (4)
- ปี2017 (3)
- เปลี่ยนอะไหล่ (3)
- ผลิตรถยนต์ (16)
- แผนภาพจังหวะการเปิดของลิ้น (Valve Timing Diagram) เครื่องยนต์ 4 สูบ และ 6 สูบ (1)
- แผนภาพต้นกำลังงานของรถยนต์ (1)
- ฝาสูบ (4)
- พจนานุกรมศัพท์ยานยนต์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๔๒ (1)
- พูเล่ (1)
- เพลาข้อเหวี่ยง (1)
- เพลาท้าย (2)
- ฟอร์ด (1)
- ฟิล์มกรองแสง ติดดี หรือ ไม่ติดดี มีประโยชน์อย่างไร วันนี้ทีคำตอบ (1)
- เฟอรารี่ (3)
- เฟืองท้าย (14)
- ไฟฉุกเฉิน ไม่จำเป็นและไร้สาระ (1)
- ไฟฟ้ารถยนต์ (24)
- ภาพโครงสร้างเครื่องยนต์ EFI (1)
- ภาพรวมรถยนต์ (9)
- มาสด้า (3)
- มิตซูบิชิ (6)
- มินิ (2)
- โมเดลรถยนต์ (3)
- ยนตกรรม (1)
- ยานยนต์ อุตสาหกรรม (26)
- ยาริส (15)
- รถกระบะ (9)
- รถกระบะ Revo (1)
- รถเก๋ง (51)
- รถแข่ง (2)
- รถจิ๊บ (1)
- รถเบนซ์ (19)
- รถยก (27)
- รถยก อุตสาหกรรม (26)
- รถยก อุตสาหกรรมม (1)
- รถยนต์ (3)
- รถยนต์ไฟฟ้า (4)
- รถรุ่นเก่า (1)
- รถศูนย์ (16)
- รถสปอร์ต (10)
- รถหรู (1)
- รถใหม่ (41)
- ระบบขับอัตโนมัติ (1)
- ระบบความร้อน (2)
- ระบบจุดระเบิด (10)
- ระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีน (Gasoline Fuel Injection System) (1)
- ระบบช่วงล่าง (27)
- ระบบเบรค (22)
- ระบบไฟฟ้า (14)
- ระบบรองรับ (5)
- ระบบระบายความร้อน (6)
- ระบบลม (3)
- ระบบส่งกำลัง (1)
- ระบบหล่อเย็น (2)
- ระบบหัวฉีด (1)
- ระบบห้ามล้อ (14)
- ระบบ Hybrid (1)
- ราคารถยนต์ (5)
- รางร่วม (1)
- รีเลย์ (6)
- รีวิว (15)
- รีวิวรถยนต์ (11)
- รู้ไว้ก่อน : การเปลี่ยนขนาดยาง (1)
- เรื่อง น้ำมันเครื่อง (1)
- โรงงานผลิตรถยนต์ (13)
- ล้อตุนกำลัง (1)
- ลักษณะดอก ยางรถยนต์ (1)
- ลากรถอย่างไรเมื่อรถเสีย (1)
- ลำดับการจุดระเบิด (1)
- ลูกปืนกลม (1)
- ลูกสูบ (3)
- วงจรไฟฟ้า (7)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด ECCS Nissan RB20E (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด ECI-multi Mitsubishi 4G61 (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด EFI เครื่องยนต์ Toyota 4A-GE (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด Honda B16A VTEC DOHC รุ่นแรก (1)
- วิชาช่างยนต์ (10)
- วี8 (1)
- สเปกรถยนต์ (5)
- สร้างเครื่องยนต์ (1)
- สร้างโมเดลรถยนต์ (1)
- สายพานเครื่องยนต์ (2)
- สีรถ (8)
- เสื้อสูบ (5)
- หนังสือรถยนต์ (7)
- หม้อน้ำ (2)
- หลักการทำงาน (2)
- หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน 4 จังหวะ (1)
- หลักการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซล 4 จังหวะ (1)
- หัวเทียน (24)
- ห้ามล้อ (14)
- แหวนลูกสูบ (1)
- องค์ประกอบการสันดาปของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน (1)
- ออกแบบรถยนต์ (22)
- อะไหล่เครื่องยนต์ (3)
- อะไหล่ยนต์ (1)
- อัตราค่าปรับ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 (1)
- อัตราส่วนผสมอากาศต่อเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน (1)
- อาการหัวเทียน (12)
- อินเตอร์คูลเลอร์ (6)
- อีโก้คาร์ (5)
- อุตสาหกรรม รถยก (27)
- อุปกรณ์เสริม (6)
- แอร์เริ่มไม่เย็น และส่งกลิ่นอับเวลาเปิดแอร์ใหม่ ควรทำอย่างไร ? (1)
- ไอดี (3)
- ไอเสีย (6)
- ฮอนด้า (6)
- ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด (2)
- Accessories (5)
- All New toyota yaris 2013 2014 (1)
- Alternator (1)
- alternators (1)
- Ativ (7)
- Audi (2)
- Audi A4 (1)
- Automatic drive (1)
- Ball Bearing (1)
- bearing (1)
- biodiesel (2)
- BMW (4)
- Brake (23)
- Brake system (23)
- BT-50 (1)
- Car Family (1)
- Cars (61)
- CAT (Catalytic Converter) เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยา (1)
- Check Engine (1)
- Chevrolet (1)
- CHEVROLET COLORADO (2)
- Colorado (1)
- commonrail (1)
- Common Rail (1)
- Common Rail Engine (1)
- Concept Car (1)
- Connecting rod (1)
- Crankshaft (1)
- Cylinder head (1)
- Diesel Engine (3)
- Diesel fuel (6)
- differential (12)
- DIY (8)
- DURAMAX ENGINE (1)
- DURAMAX VIN CHART (1)
- ECCS (1)
- EFI (1)
- EGR (Exhaust Gas Recirculation) หรือการหมุนเวียนไอเสีย (1)
- Electric car (4)
- Electric cars (4)
- Electronic Fuel Injection Engine (1)
- Engine (37)
- Engine Block (1)
- Engine Curve (1)
- Ferrari (3)
- Flywheel (1)
- Ford (4)
- Ford Ranger (2)
- Fuel (14)
- gasoline (3)
- Gasoline engine (1)
- General Motors (2)
- GMC Canyon (1)
- Honda (11)
- Honda Accord (1)
- HONDA ACCORD HYBRID ใหม่ (1)
- Honda CR-V 2015 (1)
- Honda HR-V (1)
- Honda HRV 2015 (1)
- Honda Jazz (1)
- Honda Vezel (1)
- Hydrogen cars (1)
- i-DTEC (1)
- Ignition Coil (8)
- Ignition System (1)
- i-MMD (1)
- Intercooler (6)
- internal combustion engine (3)
- Jeeb (1)
- lamborghini (4)
- Lamborghini Revuelto (2)
- Mazda (4)
- Mercedes Benz (21)
- Mini (2)
- MINI Cooper (2)
- Mitsubishi (9)
- Mustang (1)
- Navara (2)
- NGV (1)
- Nissan (11)
- nissan np300 navara (1)
- NP300 (1)
- NP300 NAVARA Single Cab (1)
- pickup (6)
- pickup truck. (5)
- Piston (3)
- Piston Ring (1)
- Porsche (2)
- Port Timing Diagram ของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ (1)
- Ranger (1)
- Rear axle (1)
- Relay (6)
- Revuelto (1)
- Rotary Engine (1)
- S60 (1)
- S90 (1)
- SEAT (1)
- Self Diagnosis System (1)
- Shock Absorbers (5)
- SKODA (1)
- SKYACTIV-D เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล (1)
- solenoid (4)
- Spark Plugs (20)
- Starter (6)
- Supper Car (4)
- Suspension System (3)
- Suzuki (2)
- TCCS (1)
- Tesla Model X (1)
- TOYOTA (29)
- Toyota และ Lexus (1)
- Toyota Hilux Revo (1)
- Triton (1)
- V60 (1)
- Ⅴ8 (1)
- Variable Nozzle Turbo (2)
- VGT (5)
- Volkswagen (1)
- Volvo (4)
- Volvo purchased the Polestar brand (1)
- Volvo S90 (1)
- Wankel Engine (1)
- XC90 (1)
- Yaris (15)