Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ มาแรง ส่งมาสด้าขึ้นแท่นครองอันดับ 3 ครึ่งปีหลังเสริมทัพอีก 3 รุ่นรวด ทั้งปิกอัพ สปอร์ต รถอเนกประสงค์


รุงเทพฯ ประเทศไทย, 28 กรกฎาคม 2558 - บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยตัวเลขยอดขายรถยนต์มาสด้าประจำเดือนมิถุนายน 2558 ทะลุ 2,900 คัน สามารถขยับขึ้นมาครองอันดับที่ 3 ของตลาดรถยนต์นั่งได้สำเร็จ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะรถยนต์ภายใต้เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ทั้ง 3 รุ่น ในขณะที่รถยนต์นั่งมาสด้า3 ก้าวขึ้นครองอันดับที่2 ของตลาด C-Segment ส่วนแบ่งการตลาด 18% รถยนต์นั่งมาสด้า2 ครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 11% นี่คือบทพิสูจน์ในความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์จนทำให้ลูกค้าเกิดความความเชื่อมั่นใน    แบรนด์มาสด้าจนสามารถยืนหยัดและรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ได้ ส่งผลให้ยอดขายรวมครึ่งปีแรกยังสดใสสามารถเติบโตทะลุ 16,000 คัน ลั่นครึ่งปีหลังรุกหนักรอบทิศทาง เตรียมส่งรถใหม่เสริมทัพอีก 3 รุ่นรวด ครอบคลุมเซ็กเม้นต์หลักๆ ทั้งปิกอัพ รถสปอร์ต และรถอเนกประสงค์

นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยในครึ่งปีแรกยังคงชะลอตัว โดยได้รับผลพวงอย่างเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ 6 เดือนแรกของตลาดอยู่ที่ประมาณ 368,000 คัน หรือลดลงประมาณ 16% ส่วนในครึ่งปีหลังคาดว่าสถานการณ์มีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้น ในส่วนของมาสด้ายอดการขายโดยรวมยังคงทรงตัวไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 16,837 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งแม้ว่ายอดขายจะทรงตัวแต่ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
สำหรับยอดขายรถยนต์มาสด้าในเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา มียอดขายรวมทั้งสิ้น 2,939 คัน โดยรุ่นที่มียอดขายสูงสุดได้แก่รถยนต์นั่งมาสด้า2 มียอดขายสูงถึง 1,513 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 158% และครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดถึง 11% ก้าวขึ้นมาครองอันดับที่ 5 ของตลาดบีคาร์รวมกับอีโคคาร์ และกำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมียอดขายเพิ่มขึ้นทุกๆ เดือน ถัดมาได้แก่รถยนต์นั่งมาสด้า3 มียอดขาย 557 คัน สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 18% ก้าวขึ้นมาครองอันดับ 2 ของตลาดซีเซ็กเม้นต์ ตามมาด้วยรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ยอดขายรวม 653 คัน และรถอเนกประสงค์มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 มียอดขายรวม 216 คัน ทั้งนี้ในเดือนมิถุนายนสำหรับตลาดรถยนต์นั่ง มาสด้าสามารถก้าวขึ้นมาครองอันดับ 3 ในตลาดได้สำเร็จ ด้วยยอดขายรวมทั้งสิ้น 2,070 คัน
ในขณะที่ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มาสด้าดำเนินนโยบายการตลาดในเชิงรุกทั้งด้านการขายและบริการหลังการขาย จากการประเมินสภาวะการตลาดรถยนต์ไทยในช่วงที่ผ่านมาได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และกำลังจะทะยานขึ้น โดยตลาดเก๋งของมาสด้าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมาสด้า2 ได้รับกระแสตอบรับเพิ่มขึ้นอย่างมากๆ จากการประเมินตั้งแต่ต้นปีเราคิดว่าตลาดรถเก๋งเล็กและขนาดกลาง รวมถึงตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ยังมีแนวโน้มและทิศทางที่เป็นบวก และยอดขายรถเก๋งของเราเติบโตเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะมาสด้า2 เรามียอดการจำหน่ายรวมทั้งสิ้น7,220 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 110% มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 7% และคาดว่าเดือนกรกฎาคมนี้จะเพิ่มขึ้นทะลุ 1,800 คัน
ในส่วนของรถรถยนต์ภายใต้เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนให้มาสด้าเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาสด้า3 โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 3,751 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 4% ครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 17% ส่วนอเนกประสงค์เอสยูวี Mazda CX-5 ยอดการจำหน่ายก็เป็นไปในทางที่ดีเช่นกัน ปัจจุบันมียอดขายรวมทั้งสิ้นสูงถึง1,734 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 4% ส่วนยอดขายรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร อยู่ที่ 4,117 คัน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และคาดว่ายอดการจำหน่ายจะเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากมาสด้ากำลังจะเปิดตัวเข้าสู่ตลาดในเร็วๆ นี้
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่าในช่วงครึ่งปีแรกนั้นมาสด้าให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการนำรถยนต์มาสด้า2 ใหม่ ทั้งเครื่องยนต์คลีนดีเซลและเครื่องยนต์เบนซิน เข้าสู่ตลาด ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม พร้อมกับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้นส่งผลให้วันนี้มาสด้า2 กลายเป็นรถยนต์นั่งที่ร้อนแรงที่สุดในยุคนี้ และในช่วงเวลา 5 เดือนกว่าจากนี้ไป มาสด้าพร้อมรุกเต็มที่ เราคาดว่าตลาดจะกลับมาดีขึ้นอย่างมาก เห็นได้จากเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนยอดขายเริ่มดีขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าในช่วงครึ่งหลังปีนี้มาสด้าเตรียมเปิดตัวรถยนต์หลายรุ่นที่จะเสริมทัพเข้ามาทำตลาด ได้แก่ รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ รถสปอร์ตโรดสเตอร์ มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 และรถยนต์อเนกประสงค์ที่ทุกคนรอคอย มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่มีรสนิยมแตกต่างไม่เหมือนใคร
นอกจากนี้การผลักดัน เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ให้เป็นที่ประจักษ์และประสบผลสำเร็จในทุกตลาด คือ เป้าหมายหลักในการดำเนินธุรกิจของมาสด้าในอนาคต การคิดค้นนวัตกรรมใหม่คือหัวใจสำคัญของมาสด้า เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ที่มาสด้ามุ่งมั่นพัฒนาเพื่อให้เครื่องยนต์เผาไหม้ภายในทำงานได้อย่างเหมาะสมให้ผลลัพธ์สูงสุดและงานวิศวกรรมที่ใช้วัสดุน้ำหนักเบา เทคโนโลยีเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ในรถมาสด้าใหม่ทุกรุ่น และเป็นยานยนต์สีเขียวที่มีราคาไม่แพง เทคโนโลยีนี้จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้ามาสด้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่มาสด้านำมาผลิตกับรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งคัน ที่สำคัญลูกค้าสามารถรับรู้และสัมผัสถึงประสิทธิภาพของตัวรถจนเกิดการบอกต่อปากต่อปากทำให้ความร้อนแรงของมาสด้าแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
“มาสด้ามุ่งมั่นเพื่อยกระดับแบรนด์สู่ความเป็นพรีเมียม ภายใต้แนวคิด สึนาการิ (Tsunagari)” อันเป็นปรัชญาของมาสด้าในการมุ่งมั่นพัฒนาให้กลายเป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่ลูกค้าเลือก ในครึ่งหลังของปีนี้ มาสด้าก็ยังคงมุ่งเน้นการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นให้เป็นพรีเมียมแบรนด์ และสร้างความแตกต่างของแบรนด์มาสด้าให้เด่นชัดยิ่งขึ้น อันจะเห็นได้จากการปรับรูปลักษณ์ของโชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและยกระดับภาพลักษณ์ของโชว์รูมให้ดูพรีเมียมมากขึ้น” นายธีร์ กล่าวเสริม
ยอดการจำหน่ายรถยนต์มาสด้าประจำเดือนมิถุนายน 2558 เปรียบเทียบกับปี 2557
ข้อมูลขายรถ
มิถุนายน 2558
มิถุนายน 2557
ส่วนแบ่งการตลาด
มาสด้า2
1,513
586
10.6%
มาสด้า3
557
846
18.3%
มาสด้า CX-5
216
606
3.2%
มาสด้า บีที-50 โปร
653
1,084
2.3%
ยอดขายมาสด้า
2,939
3,127
4.9%
ยอดการจำหน่ายรถยนต์มาสด้าเปรียบเทียบ ปี 2557-2558
ข้อมูลขายรถ
6 เดือน ปี 2558
6 เดือน ปี 2557
เปลี่ยนแปลง%
ส่วนแบ่งการตลาด
มาสด้า2
7,220
3,435
+ 110
6.9%
มาสด้า3
3,751
3,618
+ 4
16.8%
มาสด้า CX-5
1,734
2,974
- 42
4.1%
มาสด้า บีที-50 โปร
4,117
7,109
- 42
2.6%
พรีเมียมคาร์
15
12
+ 25
na
ยอดขายมาสด้า
16,837
17,144
- 1.8
4.6%

ทำไมต้องเหมือนใคร??? ฮอนด้าปลุกกระแสความเท่นอกกรอบครั้งใหม่ เปิดตัว All New Zoomer-X เอ.ที.ดีไซน์ใหม่สไตล์ Real Naked ชูคอนเซปต์ Unblocker I AM



เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำเทรนด์แห่งเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์นอกกรอบด้วยการเปิดตัว All New Zoomer-X รถเอ.ที.แบบเปลือยดีไซน์ใหม่ ที่ให้ทั้งความเท่และดิบยิ่งกว่าเดิมด้วยโครงสร้างเหล็กแบบทัฟเฟรมรอบคัน โชว์ความเปลือยของตัวถังแบบ Real Naked รับกับขนาดของพื้นที่ใต้เบาะขนาดใหญ่ที่สะกดทุกสายตาด้วยดีไซน์โปร่งรอบด้านอย่างลงตัว ไฟหน้าแบบใหม่ออกแบบให้มีความดุดันมากขึ้น ล้ำสมัยด้วยหน้าปัดเรือนไมล์แบบ Full Digital LCD รองรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยโช้กหัวกลับที่รองรับแรงกระแทกได้ดีกว่า ขับขี่สนุกเร้าใจและประหยัดขึ้นอีกระดับด้วย Honda Smart Technology เตรียมวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่ 4 สิงหาคม 2558 ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศด้วยราคาแนะนำโดยประมาณที่ 55,300 บาท พร้อมดึง Influencers หรือผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อกลุ่มคนที่ไม่ชอบดำเนินชีวิตเหมือนใคร และมีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตแบบสร้างสรรค์มาร่วมจุดประกายแนวคิดผ่านแคมเปญออนไลน์ภายใต้คอนเซปต์ Unblocker I AM เพื่อให้กลุ่มคนที่อยากใช้ชีวิตอย่างแตกต่างได้ออกมาแสดงความเป็นตัวของตัวเอง

          นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.  ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยเปิดเผยว่า ฮอนด้าไม่เคยหยุดนิ่งในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนไทยด้วยดีไซน์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย และที่สำคัญที่สุดคือการนำเสนอไลฟ์สไตล์ใหม่ๆให้กับผู้ขับขี่ ดั่งที่เราได้เปิดตัวรถ Zoomer-X เจเนอเรชันแรกในปี 2012 จนได้รับการตอบรับอย่างเหนือความคาดหมายทันทีที่วางตลาด เพราะ Zoomer-X เป็นรถที่แตกต่างจากรถกระแสหลัก ก่อให้เกิดเทรนด์ใหม่ในกลุ่มคนที่ไม่อยากเหมือนใครได้มีโอกาสแสดงออกให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงผ่านการตกแต่ง Zoomer-X ในสไตล์ที่ชอบ

ในปี 2015 นี้ เราได้พัฒนา All New Zoomer-X ขึ้นใหม่ เป็นเจเนอร์เรชันที่ 2 ที่เหนือระดับขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการออกแบบให้เป็นรถสำหรับผู้ใช้ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และกล้าที่จะคิดและทำอย่างแตกต่าง ดังนั้นดีไซน์ของรถจึงมีรูปแบบฟรีฟอร์ม ดูแข็งแกร่งมากขึ้น มีส่วนที่โปร่งหรือพื้นที่ว่างมากขึ้น ในขณะเดียวกันเรายังได้นำเทคโนโลยีชั้นสูงอย่าง Honda Smart Technology เข้ามาติดตั้งในรถรุ่นนี้เป็นครั้งแรก เพื่อความสมบูรณ์แบบและความลงตัวระหว่างดีไซน์ สมรรถนะ ความมั่นใจและความประหยัด

ในส่วนของการทำการตลาด ครั้งนี้เราได้ดึงตัว influencers หรือผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อผู้ที่ชอบความแตกต่างและมีคาแรกเตอร์ตรงกับ All New Zoomer-X รวม 10 รายมาร่วมจุดประกายแนวคิดนอกกรอบผ่านมินิอาร์ตแกลลอรี่ แล้วนำไปจัดแสดงตามสถานที่ที่เป็นจุดนัดพบของคนรุ่นใหม่ พร้อมกับทำแคมเปญออนไลน์เพื่อสร้างการรับรู้ผ่านแฮชแท็ก I AM NOT และแฮชแท็ก Unblocker I AM ให้ทุกคนได้แสดงความเป็นตัวของตัวเองอย่างสร้างสรรค์ โดย Influencers เหล่านี้ต่างก็มาจากหลากหลายวงการ หลากหลายอาชีพ แต่ละคนล้วนแต่มีสไตล์ของตัวเองไม่นิยมเลียนแบบความคิดของใคร จึงได้รับการยอมให้เป็นผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดอย่างแท้จริง

      สำหรับ All New Zoomer-X ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งคันภายใต้คอนเซปต์ “Unblocker I AM” ให้อารมณ์ของความเท่และดิบยิ่งกว่าเดิมด้วยโครงสร้างเหล็กแบบทัฟเฟรม (Tough Frame) เน้นความโปร่งเป็นพิเศษในสไตล์เรียลเนคเกด (Real Naked) พื้นที่ Free Space ขนาดใหญ่ไซส์ XL ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ออกแบบให้มีความดุดันมากขึ้น เข้าชุดกับโช้กหัวกลับรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ทุกสภาพถนน แผงหน้าปัดสุดล้ำแบบ Full Digital LCD พร้อมล้อแม็กดีไซน์ใหม่และยางแบบจุ๊บเลส

All New Zoomer-X ล้ำหน้าด้วย Honda Smart Technology ที่รวมที่สุดของ 3 เทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบเข้าไว้ด้วยกัน ประกอบด้วยเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง eSP(Enhanced Smart Power) ขนาด110ซีซี ระบบหัวฉีด PGM-FIที่มีระบบการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ สมรรถนะสูง แรงเสียดทานต่ำ ทำงานร่วมกับระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ Idling Stop System จึงมีอัตราประหยัดน้ำมันที่สูงถึง 62.3 กิโลเมตร/ลิตร (วัดตามมาตรฐาน สมอ. ECE R40 Mode) และติดตั้งระบบกระจายแรงเบรกหน้-หลัง Combi Brake System เพื่อความมั่นใจ ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยค่าไอเสียที่สะอาดผ่านมาตรฐานระดับ 6 และรองรับน้ำมัน E20

         เอ.พี. ฮอนด้าพร้อมวางจำหน่าย All New Zoomer-X พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที4 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไป ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ ด้วยราคาแนะนำโดยประมาณที่ 55,300 บาท มีให้เลือกถึง 6 สีได้แก่สีดำออบซิเดียนแบล็ค, สีขาวไอคอนิคไวท์, สีแดงเลเซอร์เรด, สีเงินกรู๊ฟวี่ซิลเวอร์, สีน้ำเงินแมกเนติคบลู, และสีเหลืองซูพรีมเยลโลว์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนอกกรอบทางอินสตาแกรมและเฟซบุ๊คเพียงติดแฮชแท็ก #UNBLOCKERIAM

อัพเดทข่าวสารของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้ทางเว็บไซต์ www.aphonda.co.th และ เฟซบุ๊คwww.facebook.com/hondamotorcyclethailand

ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด จับมือ โตโย ไทร์ ค่ายยางยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น ลุยขยายตลาดยางรถยนต์ในไทย เดินหน้าเต็มกำลังเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด



เดินหน้าสร้างปรากฎการณ์ให้กับวงการยางรถยนต์เมืองไทยอย่างต่อเนื่อง สำหรับ “บริษัท          ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยางรถยนต์นำเข้าชั้นนำของเมืองไทย ที่ล่าสุดผนึกกำลังครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งกับ “บริษัท โตโย ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด (Toyo Tire & Rubber Co.,Ltd.) ประเทศญี่ปุ่น” แถลงข่าวเปิดตัว ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย ยางโตโย ไทร์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยมี นายอภิชัย  ตั้งวงศ์ศิริ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด พร้อมด้วย Mr.Takashi Shimizu, Senior Corporate Officer. General Manager, Tire Planning Division, Tire Business Group Headquarters. บริษัท โตโย ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด (Toyo Tire & Rubber Co.,Ltd.) เป็นประธานในการแถลงข่าว ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2558
จากความสำเร็จของ บริษัท ต.สยามฯ ในการเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยางรถยนต์นำเข้า ตลอดระยะเวลา 46 ปี ที่ผ่านมา รวมถึงการขยายตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง และการได้รับการยอมรับจากทั้งร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และจากลูกค้าทั่วประเทศ ในประสิทธิภาพของยางรถยนต์ภายใต้การนำเข้า และบริการหลังการขายของ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด จึงทำให้  บริษัท โตโย ไทร์ ประเทศญี่ปุ่น บริษัทแม่ผู้ผลิตยางรถยนต์โตโย ไทร์ เล็งเห็นศักยภาพของ บริษัท ต.สยามฯ จึงได้แต่งตั้งให้เป็นผู้นำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายยางโตโย ไทร์ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมเปิดตัวแคมเปญใหม่ “ขับสบายไร้กังวล บาด บวม แตก ตำ เปลี่ยนฟรี 60 วัน” เมื่อซื้อยางโตโย ไทร์ และยางนิตโตะ ทุกรุ่น ตั้งแต่      1 ส.ค. – 31 ธ.ค. 2558 นี้ ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ ทั่วประเทศ
ยางโตโย ไทร์ ยางนำเข้าจากต่างประเทศ 100% ชูจุดเด่น เป็นยางรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูง สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ยางสำหรับรถสปอร์ต, รถซีดาน, รถยนต์ประเภทเอสยูวีและรถขับเคลื่อน ล้อ, รถปิคอัพหรือรถบรรทุกขนาดเล็ก ตลอดจนรถยนต์นั่งขนาดกลางหรือขนาดเล็ก ด้วยเทคโนโลยีวิศวกรรมการผลิตขั้นสูงจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ได้ยางรถยนต์ที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นผิวถนนของประเทศไทยมากที่สุด ทั้งสมรรถนะการยึดเกาะถนนและความนุ่มนวลในการขับขี่ รวมถึงประสิทธิภาพในการลดเสียงรบกวนขณะขับขี่บนพื้นถนน จึงทำให้ยางโตโย ไทร์ มีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมพร้อมมอบความปลอดภัยสูงสุดบนท้องถนน

“นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัทฯ ที่ได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท โตโย ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย “ยางโตโย ไทร์” ซึ่งเป็นแบรนด์ยางรถยนต์อันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นยางรถยนต์ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ทั้งจากในด้านมอเตอร์สปอร์ต และการสนับสนุนกีฬาระดับโลกอย่างมากมาย ซึ่งหลังจากนี้ทางบริษัทฯ เตรียมเดินหน้ารุกตลาดยางรถยนต์แบบเต็มกำลัง พร้อมกลยุทธ์และแผนการตลาดสำหรับการจัดจำหน่ายยางโตโย ไทร์ ผ่านการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ อย่างครบวงจรเต็มรูปแบบ อาทิ โทรทัศน์, วิทยุ, ป้ายโฆษณา, สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อด้านดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง ทั้งเฟสบุ๊ค, อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ รวมถึงการเป็นผู้สนับสนุนรายการมอเตอร์สปอร์ตแถวหน้าของเมืองไทยหลากหลายรายการ พร้อมกิจกรรมทางการตลาด และการส่งเสริมการขายอื่นๆ ทั้งที่จัดร่วมกับร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และการจัดโรดโชว์ไปยังหัวเมืองต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคทั่วประเทศ โดยในปีนี้ ตั้งเป้าขยายร้านค้าตัวแทนจำหน่ายให้ครบ 500 ร้านค้าทั่วประเทศ เพื่อรองรับความต้องการตลาดยางรถยนต์ในไทย และการบริการลูกค้าที่ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่มากยิ่งขึ้น
และด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ในการเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยางรถยนต์ชั้นนำระดับแนวหน้าของประเทศ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาโดยตลอด จากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศและลูกค้าที่ไว้วางใจในประสิทธิภาพและสมรรถนะของยางรถยนต์ ภายใต้การนำเข้าของบริษัท ต.สยามฯ จึงทำให้ตนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ยางโตโย ไทร์ จะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ยางรถยนต์นำเข้า ที่จะได้รับการตอบรับจากตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภคที่ดีด้วยเช่นกัน และเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ยางรถยนต์ที่จะอยู่ในใจผู้บริโภคทุกครั้งที่นึกถึงยางคุณภาพ “ยางโตโย ไทร์” พร้อมให้ผู้บริโภคสัมผัสอีกหนึ่งนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะจากญี่ปุ่น ขับเคลื่อนด้วยสมรรถนะระดับโลก พร้อมการรับประกันคุณภาพจากการผลิต    ตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งมีเพียงเจ้าเดียวในประเทศไทย พร้อมอีกหนึ่งแคมเปญใหม่ “ขับสบายไร้กังวล บาด บวม แตก ตำ เปลี่ยนฟรี 60 วัน” ตั้งแต่ ส.ค. – 31 ธ.ค. 2558 นี้ ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายยางของ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล ทั่วประเทศกว่า 400 ร้านค้าในปัจจุบัน” นายอภิชัย กล่าวปิดท้าย

เปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทย เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต พบกับยานยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ในตระกูลดิสคัฟเวอรี่ ในรูปแบบเอสยูวีขนาดกะทัดรัดพร้อมความหรูหราระดับพรีเมี่ยมที่คุณต้องตะลึง





ภาพข่าว(จากซ้ายไปขวา): มร. เซิร์จ ทูรอน ผู้จัดการทั่วไป จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ประเทศไทย และนายสรรพงษ์ ชื่นโรจน์     กรรมการผู้จัดการ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ประเทศไทย ร่วมเปิดตัว เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ตยานยนต์เอสยูวีอเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัดที่มาพร้อมความหรูหราระดับพรีเมี่ยม สมาชิกเจเนอเรชั่นใหม่ในตระกูลดิสคัฟเวอรี่

·         สมาชิกเจเนอเรชั่นใหม่ในตระกูลดิสคัฟเวอรี่ มาพร้อมดีไซน์หรูเข้มดุดัน เพื่อการพุ่งทะยานอย่างเหนือชั้น
·         นอกเหนือจากรุ่นมาตรฐาน 5 ที่นั่ง นำเสนอทางเลือกรุ่น 5+2 ที่นั่ง ด้วยขนาดที่กะทัดรัด สำหรับตลาดเมืองไทย
·          ระบบเพลารุ่นใหม่แบบมัลติลิงค์ เพื่อการขับขี่ที่คล่องตัวสูงสุดบนท้องถนนและการตะลุยอย่างมั่นใจบนทุกพื้นผิวในโหมดออฟโร้ด พร้อมเพิ่มสมรรถนะขั้นสูงและดีไซน์ห้องโดยสารใหม่ทุกมุมมอง
·         ระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดประสิทธิภาพสูง
·         เทคโนโลยี Terrain Response® และทางเลือกระบบการลุยน้ำลึก Wade Sensing™เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบในทุกสภาวะ
·         ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับการควบคุมที่เฉียบคมบนท้องถนน ด้วยพวงมาลัยไฟฟ้า, แดมเปอร์แบบ MagneRide™ และทางเลือกกับระบบวัดเวคเตอร์แรงบิดจากการเบรก  (Torque Vectoring by Braking)
·         นำเสนอทางเลือกระบบเบรกฉุกเฉินอิสระ ช่วยให้ผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงการชนได้อย่างมั่นใจ
·         ระบบจอสัมผัสขนาด8 นิ้วใหม่ล่าสุด ที่ควบคุมได้อย่างง่ายดาย และเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ไฮเทคได้ตามต้องการ พร้อมช่องเชื่อมต่อแบบ USB และปลั๊กขนาด 12 โวลต์ สูงสุด 10 จุด ซึ่งมากที่สุดในรถยนต์คลาสเดียวกัน

กรุงเทพฯ 17 กรกฎาคม 2558 - จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ประเทศไทย จัดงานเปิดตัว เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ครั้งแรกในเมืองไทย นำเสนอยานยนต์เอสยูวีอเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัดที่มาพร้อมความหรูหราระดับพรีเมี่ยม และเป็นยานยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดในตระกูลดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งนอกจากรุ่นมาตรฐาน ยังมาพร้อมทางเลือกใหม่กับรุ่นที่ปรับเปลี่ยนได้แบบ 5+2 ที่นั่ง ที่ยังคงเพียบพร้อมด้วยระบบวิศวกรรมยานยนต์ที่สมบูรณ์แบบกับภาพลักษณ์ที่กะทัดรัดกว่าเอสยูวีรุ่นเดิม โดยลูกค้าในเมืองไทยสามารถสัมผัสกับ เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ได้ในเดือนกรกฎาคม 2558 เป็นต้นไป ในราคาเริ่มต้นที่ 5.99 ล้านบาท
เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “จิตวิญญาณแห่งสายพันธุ์ดิสคัฟเวอรี่ (True to Discovery DNA)” ทำให้ได้ยานยนต์ที่พร้อมผจญภัยไปกับคุณทุกสภาวะ รวมถึงการขับขี่แนวไลฟ์สไตล์ในเมืองไปพร้อมกับครอบครัว นำเสนอดีไซน์หรูเข้มดุดันเพื่อการพุ่งทะยานอย่างเหนือชั้น ซึ่งถือเป็นนิยามใหม่แห่งยานยนต์ในตระกูลดิสคัฟเวอรี่ทุกรายละเอียดของงานดีไซน์ที่หรูหราสง่างาม ล้วนแฝงไว้ด้วยประโยชน์ใช้สอยเพื่อการเสริมประสิทธิภาพการขับขี่ให้คล่องตัวในทุกสภาพอากาศแบบไร้คู่แข่ง โดยติดตั้งระบบเพลารุ่นใหม่แบบมัลติลิงค์ เพื่อการขับขี่ที่คล่องตัวสูงสุดบนท้องถนนและการตะลุยอย่างมั่นใจบนทุกสภาพพื้นผิวในโหมดออฟโร้ด พร้อมเพิ่มสมรรถนะขั้นสูงและดีไซน์ห้องโดยสารภายในใหม่หมดจดทุกมุมมอง

นอกเหนือจากดีไซน์เจเนอเรชั่นใหม่ เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ยังติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูงอย่างครบครัน หนึ่งในเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในยานยนต์แลนด์โรเวอร์เป็นครั้งแรก คือ ระบบเบรกฉุกเฉิน
อิสระ (Autonomous Emergency Braking System) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงการปะทะได้อย่างมั่นใจ ด้วยกล้อง  สเตอริโอระบบดิจิตัลซึ่งติดตั้งด้านข้างกระจกส่องหลัง เพื่อคอยตรวจจับวัตถุที่อาจพุ่งเข้ามาปะทะ โดยระบบจะส่งเสียงเตือนและแสดงภาพ พร้อมสั่งการให้ระบบเบรกทำงานโดยอัตโนมัติหากจะเกิดการปะทะกับตัวรถในระยะกระชั้นชิด

ในประเทศไทย เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต นำเสนอในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล SD4 ขนาด 2.2 ลิตร 190 แรงม้า ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ชั้นยอด การควบคุมเฉียบคมเป็นเยี่ยม และเป็นสุดยอดแห่งความคุ้มค่า ด้วยแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร (310 ฟุตปอนด์) ที่ 1,750 รอบต่อนาที และปล่อยไอเสียตามมาตรฐานยุโรปเพียง 161 กรัม/กม. ในรุ่นเกียร์ออโต้ 5 ที่นั่ง และ 166 กรัม/กม.ในรุ่น 5+2 ที่นั่ง  

โครงสร้างตัวถังแบบไร้โครง เกิดจากการผสมผสานเหล็กกล้าความแกร่งสูง เหล็กโบรอนความแกร่งสูงพิเศษ และแผ่นอลูมิเนียมน้ำหนักเบา จนเกิดเป็นวัสดุพื้นฐานที่แข็งแรงทนทานและน้ำหนักเบา ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์อย่างโดดเด่นและมอบคุณสมบัติความแข็งต้านแรงบิดที่เป็นเยี่ยม ระบบเพลาหลังรุ่นใหม่แบบมัลติลิงค์ยังช่วยเพิ่มความแม่นยำในการควบคุมและการผสานเป็นหนึ่งเดียวกับเพลารถ เมื่อผนวกกับชิ้นส่วนในระบบกันสะเทือนที่เป็นอลูมิเนียมน้ำหนักเบาและแดมเปอร์ที่ติดตั้งอย่างพิถีพิถัน จึงทำให้นักขับผสานเป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะขับขี่บนสภาพพื้นผิวแบบใดก็ตาม ระบบเพลาหลังรุ่นใหม่ยังช่วยลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารและช่วยให้อุปกรณ์ของระบบกันสะเทือนด้านหลังไม่ยื่นล้ำเข้าไปในส่วนพื้นที่เก็บของ ซึ่งทำให้ เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต มอบพื้นที่เก็บสัมภาระได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและนำเสนอทางเลือกรุ่น 5+2 ที่นั่งได้อย่างลงตัว (เฉพาะในประเทศไทย ราคาเริ่มต้น 200,000 บาท)

เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต คือตัวแทนของเทคโนโลยีแห่งอนาคตของยานยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ในตระกูลดิสคัฟเวอรี่ ด้วยเทคโนโลยี Terrain Response® และทางเลือกสำหรับลูกค้าในระบบการลุยน้ำลึก Wade Sensing™ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อการขับขี่ออฟโร้ดที่สมบูรณ์แบบ เมื่อบวกประสิทธิภาพของพวงมาลัยไฟฟ้า, แดมเปอร์แบบ MagneRide™ และระบบเพลาหลังแบบมัลติลิงค์รุ่นใหม่ที่มอบประสิทธิภาพสูงสุดบนท้องถนนและสมรรถนะที่เหนือชั้นในยามขับขี่ออฟโร้ด จึงทำให้ เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต เป็นยานยนต์ที่ขับขี่ได้อย่างภูมิฐานสง่างามบนท้องถนนในเมืองใหญ่ และวาดลวดลายยามขับขี่ทางไกลได้อย่างเต็มอารมณ์
เทคโนโลยีแห่งอนาคตของ เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ยังรวมถึงการออกแบบห้องโดยสารที่ใช้มาตรฐานระดับสูงและถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ ภายในมอบความสะดวกสบายด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์บนจอสัมผัสขนาด 8 นิ้มรุ่นใหม่ล่าสุดที่ควบคุมได้อย่างง่ายดาย และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไฮเทคได้ตามที่คุณต้องการจากแผงควบคุมกลาง

เซิร์จ ทูรอน ผู้จัดการทั่วไป จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต คือสุดยอดยานยนต์ที่ดีที่สุดในรุ่นเดียวกัน หลังจากเปิดตัวมาแล้วกว่า 4 เจเนอเรชั่น ก็ได้พัฒนามาจนถึงรุ่นปัจจุบันที่นำเสนอขีดสุดแห่งงานดีไซน์และระบบวิศวกรรมยานยนต์ขั้นสุดยอด แน่นอนว่า เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ยังคงความภูมิฐานในแบบฉบับแลนด์โรเวอร์ไว้อย่างชัดเจน หากก็ได้นำเสนอแง่มุมใหม่แห่งงานดีไซน์ที่บรรจงสร้างสรรค์มาโดยเฉพาะ เพื่อสร้างความแตกต่างจากสถาปัตยกรรมยานยนต์ในตระกูลอื่นๆ ของแลนด์โรเวอร์ ทั้งในด้านความหรูหรา (เรนจ์โรเวอร์) ประโยชน์ใช้สอยในวันหยุด (ดิสคัฟเวอรี่) และการใช้งานแบบ Dual-purpose (ดีเฟนเดอร์) จึงทำให้ เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต มีสัดส่วนการออกแบบที่สวยงามลงตัว สะท้อนถึงสัมผัสใหม่แห่งพลศาสตร์ของยานยนต์ตระกูลดิสคัฟเวอรี่ ด้วยภาพลักษณ์แห่งความมั่นใจที่ดึงดูดนักขับรุ่นใหม่ที่ต้องการยานยนต์ระดับลักชัวรี่ไว้ในครอบครอง”

“จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ประเทศไทย มุ่งมั่นนำเสนอยานยนต์จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ อย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยหนึ่งรุ่นต่อปี เนื่องจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดรถยนต์ที่กำลังเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม เราจึงนำเสนอรถยนต์หลากหลายรุ่นเพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งผู้ที่ต้องการรถยนต์ระดับหรูและเอสยูวีชั้นเลิศ ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต จะมียอดจำหน่ายที่น่าพึงพอใจอย่างแน่นอน เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ในทุกๆ ด้าน” เซิร์จ ทูรอน กล่าวเสริม

เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต นำเสนอ 12 เฉดสีภายนอกสุดเฉี่ยว Fuji White, Santorini Black, Corris Grey, Indus Silver, Loire Blue, Scotia Grey, Aintree Green, Kaikoura Stone, Firenze Red, Yulong White, Barolo Black และPhoenix Orange นอกจากนี้ยังมีออพชั่นการตกแต่งแบบ Black Pack ในแนวสปอร์ตสุดเท่ ด้วยตะแกรงหน้าสีดำวาว ครอบกระจกมองข้าง ช่องระบายอากาศบังโคลนหน้า ฝากระโปรงและประตูท้ายประดับตัวอักษร รวมถึงออพชั่นล้ออัลลอยทั้งขนาด 19 หรือ 20 นิ้ว นอกจากนี้ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่างในความเป็นคุณ ยังนำเสนอออพชั่นเฉดสีหลังคาที่แตกต่างที่คลุมถึงโครงส่วนเอ-พิลลาร์ โดยเลือกได้ทั้งโทนสี Santorini Black และ Corris Grey
ส่วนออพชั่นล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่สวยหมดจดที่สะกดทุกสายตาทั้ง 7 แบบ รวมทั้ง Aero Viper นำเสนอในหลายเฉดสี ทั้ง Sparkle Silver, Dark Grey, Gloss Black และรูปแบบ Diamond-turned Finish สำหรับดีไซน์เฉพาะแบบ
สำหรับตลาดในเมืองไทย เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ยังนำเสนอการออกแบบห้องโดยสารที่หรูหราในแบบ  HSE ทั้งรุ่นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวรมาตรฐานและทางเลือกในรุ่นที่ปรับเปลี่ยนขับเคลื่อนสองล้อได้ โดยสเปคมาตรฐานของรุ่นที่จำหน่ายในเมืองไทยคือรุ่น ZF 9HP48 เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ซึ่งครบครันทั้งเรื่องประสิทธิภาพ ความเป็นสุดยอดในการขับขี่ การผสานเป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์ และสมรรถนะในโหมดออฟโร้ด
เทคโนโลยีเพื่อช่วยในการขับขี่ที่ติดตั้งมาใน เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ได้แก่ ระบบเบรกฉุกเฉินอิสระ (Autonomous Emergency Braking System: AEB), พวงมาลัยไฟฟ้า (Electric Power-Assisted Steering:  EPAS), ระบบช่วยจอด (Park Assist), ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High-Beam Assist), ระบบช่วยเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวส่วนพ่วงลาก (Trailer Stability Assist), ระบบช่วยในการพ่วงลาก (Tow Assist & Tow Hitch Assist), ระบบตรวจจับจุดบอดและตรวจจับรถยนต์ที่พุ่งมาด้านหลังจากระยะไกล (Blind-Spot Monitor & Closing Vehicle Sensing), ระบบตรวจจับด้านหลังตัวรถ (Reverse Traffic Detection), ระบบกล้องมุมมองรอบด้านความละเอียดสูง (HD Surround Camera System), ระบบดาวเทียมนำร่อง (SD satellite-navigation system), ไฟส่องสว่างอัตโนมัติในที่มืด (Automatic headlamps), ที่ปัดน้ำฝนเซ็นเซอร์ฝน (Rain-sensitive wipers) และ ระบบสัญญาณช่วยจอดรถ (Parking sensors)   โครงตัวรถเป็นโลหะและโบรอนความแข็งแกร่งสูง ส่วนโครงหลังคามีความแข็งแรงมากเป็นพิเศษและสามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 4.5 เท่าของตัวรถ สมบูรณ์แบบด้วยแพ็คเกจระบบความปลอดภัยระดับโลกซึ่งมีทั้ง ถุงลมสำหรับผู้ขับและผู้โดยสาร ถุงลมรองรับบริเวณเข่าของผู้ขับ ถุงลมด้านข้างลำตัว และถุงลมรองรับบริเวณทรวงอก

เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต คือยานยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ขับขี่ในเมืองไทย ซึ่งเหมาะทั้งการใช้เป็นรถประจำวัน ทั้งในเขตเมืองและการขับขี่ออกไปผจญภัยบนถนนนอกเมือง โดย เซิร์จ ทูรอน
อธิบายว่า “เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต คือยานยนต์เอสยูวี 5 ที่นั่ง และนำเสนอทางเลือกแบบ 5+2 ที่นั่งรุ่นแรกในตลาดเมืองไทย ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในรูปแบบใดก็ตาม การได้ขับขี่รถยนต์ที่ผลิตในสหราชอาณาจักรและมีสเปคเครื่องที่กำหนดมาเพื่อตลาดเมืองไทยโดยเฉพาะ ถือเป็นประโยชน์พิเศษสำหรับผู้บริโภคชาวไทย และยังถือเป็นรถยนต์รุ่นเดียวในตลาดระดับนี้ที่นำเสนอความเป็นรถสปอร์ตเปี่ยมสมรรถนะแก่ผู้ขับขี่ ด้วยเหตุนี้ เราจึงมั่นใจว่า รถยนต์รุ่นนี้จะทำให้เราได้ส่วนแบ่งการตลาดมากยิ่งขึ้นในตลาดรถยนต์ทุกระดับ เนื่องจากสามารถมอบโซลูชั่นการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ด้วยสมรรถนะที่เป็นเลิศในทุกสภาวะ ภายใต้ดีไซน์ขั้นสุดยอดไว้ในคันเดียว”

จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ประเทศไทย ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์ โรเวอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ทุ่มงบลงทุนสูงกว่า 300 ล้านบาท สร้างโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่สุดยิ่งใหญ่บนถนนพระราม 4 เพื่อให้เป็นโชว์รูมต้นแบบของจากัวร์แลนด์โรเวอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสมบูรณ์แบบด้วยการดำเนินงานทั้งสามด้าน (3S) นั่นคือ Services (บริการ), Sales (การขาย) และ Spare Parts(ชิ้นส่วนอะไหล่) เพื่อมอบ ประสบการณ์แห่งบริการชั้นเลิศจากการให้บริการที่ครบครัน และทำให้ทั้งแบรนด์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในหมู่นักขับระดับสูง ทั้งยังเป็นการยกระดับให้ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ประเทศไทยเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยานยนต์ชั้นนำที่ดีที่สุดของโลก

ผู้ที่สนใจสามารถสัมผัส เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้งสามแห่ง ได้แก่ บริษัท เพรสทีจ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด ถ.วิทยุ กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 02-651-4545, บริษัท จีที คาร์ส จำกัด ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 02-716-5556-7 และ บริษัท จีบี ออโต้โมบิลส์ จำกัด ถ.เทพกระษัตรี ภูเก็ต โทรศัพท์ 084-655-3535   

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ประเทศไทย ที่หมายเลข 02-713 6777 และสามารถเยี่ยมชมโชว์รูมของเราได้ที่สาขาพระราม 4 หรือติดตามข่าวสารได้ที่ www.landrover-asia.com/th

donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved