Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

“Volkswagen” มอบแพ็คเก็จ Thaiyarnyon Privilege รับทอง 10 บ.พร้อม Warrantty ฟรี ในงานมอเตอร์โชว์



Volkswagen มอบแพ็คเก็จ Thaiyarnyon Privilege ในงาน Motor Show 2013 เลือกจอง VW GTIรับทอง 10 บ.+ ฟรี Warrantty 3 ปี, เลือกจอง Caravell หรือ Multivan รับเอกสิทธิ์พิเศษ Worry Free 5 Years หรือจอง Scirocco รับชุดแต่งสปอร์ต R-Line + Warranty 3 ปี จำกัดเฉพาะในช่วงงานนี้เท่านั้น

นายสมรรถ  รอบบรรเจิด ผู้จัดการฝ่ายการตลาดรถยนต์โฟล์คสวาเกน  บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ผู้นำเข้าและผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ Volkswagen ในเครือ “ไทยยานยนตร์ กรุ๊ป” เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ มีนโยบายในการเข้าร่วมแสดงรถยนต์ Volkswagen ในงาน Bangkok International Motor Show 2013 ที่อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงศักยภาพ และเทคโนโลยีให้แก่ผู้บริโภคคนไทยได้มีโอกาสสัมผัสอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญ ในช่วงเวลาดังกล่าวนับเป็นวาระที่พิเศษสุดสำหรับในปีนี้ที่จะมอบโอกาสแห่งความคุ้มค่าสูงสุดสำหรับการเป็นเจ้าของยนตรกรรมระดับ Premium จาก Volkswagen
ด้วยแพ็คเก็จพิเศษ Thaiyarnyon Privilege สำหรับลูกค้าที่สั่งจองเป็นเจ้าของรถยนต์ Volkswagen รุ่น GTI รถแฮทซ์แบค 5 ประตู สุนทรีย์ภาพในการขับขี่ที่แตกต่างและเร้าใจ รับทองคำแท่ง หนัก 10 บาท มูลค่ารวม 230,000 บาท  พร้อมบำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 75,000 กิโลเมตร หรือเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ Volkswagen รุ่น Sciroccoสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู 2.0 TSI รับชุดตกแต่งสปอร์ต R-Line เพิ่มความหรูหรา สง่างามสไตล์สปอร์ต พร้อมบำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 75,000 กิโลเมตร
และครั้งแรกกับเอกสิทธิ์พิเศษสุดที่มอบให้แก่ลูกค้าที่ต้องการเป็นเจ้าของยนตรกรรมระดับ Premium สำหรับรถยนต์ Volkswagen รุ่น The New Caravelle Touring, รุ่น The New Caravelle Businessline และรุ่น The New Multivan รถยนต์เอนกประสงค์ 7 ที่นั่ง รับเอกสิทธิ์พิเศษในโปรแกรม Worry Free 5 Years ที่มอบทุกความคุ้มครอง และครอบคลุมทุกค่าใช้จ่ายในส่วนของการบำรุงรักษา การรับประกันคุณภาพ และการซ่อมบำรุง ตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รวมทั้งการเปลี่ยนอะไหล่แท้ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพจาก Volkswagen โดยการเปลี่ยนอะไหล่แท้จะครอบคลุมในส่วนของแบตเตอรี่ และใบปัดน้ำฝนด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความสุขในการขับขี่รถยนต์โฟล์คสวาเกน โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อคุณภาพ และสมรรถนะของโฟล์คสวาเกน
นายสมรรถ กล่าวเพิ่มเติมว่า  สำหรับการร่วมแสดงรถยนต์ในครั้งนี้  ทางบริษัทฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร  และผลิตภัณฑ์ Volkswagen ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายแก่ผู้บริโภคคนไทย ดังนั้น จึงได้ออกแบบและตกแต่งบู๊ธ ภายใต้แนวคิด A Perfect Blend – การผสมผสานอย่างลงตัว
“จากการผสมผสานความโดดเด่น และรูปลักษณ์ที่หลากหลายสไตล์ของรถยนต์ในแต่ละรุ่นระหว่างความเป็นรถสปอร์ต  ขับขี่สนุกสนาน เร้าใจ กับรถระดับ Premium ที่นำมาประสานความเป็นหนึ่ง ด้วยบู๊ธสีขาว เน้นความเรียบ หรู พร้อมสร้างสีสันความเป็นสปอร์ตแฟชั่น ด้วยลวดลายธงหมากรุกสีแดง เพิ่มความโดดเด่น และสดใสได้อย่างลงตัว
ดังนั้น จึงอยากเชิญชวนผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสนวตกรรมยานยนตร์ของ Volkswagen ได้ที่บู๊ธ Volkswagen A14 ในงาน Bangkok International Motor Show 2013 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-2 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27 มี.ค. – 7 เม.ย. ศกนี้

“SBRAND” 1 ปี กับความสำเร็จศูนย์ซ่อมสี-ตัวถังรถยนต์ ชูบริการใหม่ SBRAND COATING เพื่อรถยนต์คันโปรด


 “SBRAND” ฉลองครบรอบ 1 ปี กับความสำเร็จของศูนย์ซ่อมบำรุงสี และตัวถังรถยนต์ ที่เร็วที่สุดในโลกเพียงชั่วโมงเดียว ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมเปิดบริการเคลือบแก้วรถยนต์ (Glass Coating) กับบริการ SBRAND SUPERCOAT รองรับกลุ่มลูกค้าคนรักรถระดับบน ทั้งรถใหม่ และรถที่ใช้งานในปีแรกเพื่อทำให้สีรถดูเงางามตลอดเวลารับประกันคุณภาพ ยกระดับมาตรฐานบริการ ด้านการดูแลรักษา ซ่อมบำรุงและปกป้องรถยนต์ในประเทศไทยให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล 

นายประณัย พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม เอสแบรนด์ จำกัด เปิดเผยว่า “1 ปี กับความสำเร็จ หลังจาก “SBRAND” ศูนย์บริการซ่อมบำรุงสีและตัวถังรถยนต์ ที่เน้นซ่อมเร็ว คุณภาพดี และราคาประหยัด ด้วยสุดยอด นวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตชั้นสูจากประเทศญี่ปุ่น ที่เร็วที่สุดในโลกแห่งแรกในเมืองไทยทั้งรถใหม่ และรถที่ใช้งานในปีแรก ซึ่งจุดเด่นเน้นการซ่อมสีเฉพาะจุด คือ การใช้เทคโนโลยีไมโครรีแพร์ [Micro Repair] รวมถึงงานซ่อมทั้งชิ้นงาน [Panel Repair]  ด้วยเทคนิคการซ่อมในระดับมาตรฐาน สามารถซ่อมเฉพาะบริเวณที่เกิดความเสียหายโดยไม่ต้องถอดแยกชิ้นส่วนในระหว่างการซ่อม ทำให้หมดปัญหาเรื่อง การประกอบชิ้นส่วนที่อาจกลับมาไม่เหมือนเดิม

บริษัท  สยาม เอสแบรนด์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อมีนาคม ปี 2555 ที่มองเห็นว่า ปัจจุบัน ประเทศไทย ธุรกิจการให้บริการซ่อมบำรุงและปกป้องผิวสีรถยนต์ เปิดให้บริการเป็นจำนวนมากตั้งแต่ร้านซ่อมเล็กๆ ไปจนถึงระดับศูนย์บริการ แต่ไม่สามารถรองรับ และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทยที่มี อัตราการใช้รถยนต์ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ รูปแบบการให้บริการ รวมถึงบุคลากร และทีมช่างที่ไม่ได้มาตรฐานของการให้บริการ บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงโอกาสและความสำคัญ ของบริการที่ตอบสนองผู้ใช้รถยนต์ และใส่ใจในทุกรายละเอียดที่ส่งผลต่อคุณภาพการให้บริการที่จะส่งมอบ ไปสู่ผู้บริโภค

“สยาม เอสแบรนด์” เริ่มเปิดตัวครั้งแรกกับการให้บริการซ่อมสี และตัวถังรถยนต์ โดยมุ่งยกระดับคุณภาพ ของการให้บริการที่เหนือกว่าศูนย์บริการในประเทศ บริษัทฯ ได้เลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และเทคโนโลยี ล่าสุดของการซ่อมบำรุงผิวสีและตัวถังรถยนต์ รวมถึงการฝึกฝน และพัฒนาฝีมือช่างชาวไทยส่ง ไปฝึกอบรมจาก ประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการผู้บริโภคในประเทศไทย โดยคำนึงถึงปัจจัยในเรื่อง “เวลา” ที่ใช้ เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด เนื่องจากปัจจุบันศูนย์ให้บริการซ่อมสีและตัวถังในประเทศไทยหลายแห่งยังคง ใช้เวลานานในการซ่อม


รถยนต์อย่างน้อยที่สุด 1-2 สัปดาห์ยังไม่รวมเวลาในการจองคิวก่อนเข้าซ่อมจริง ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วเกือบ 1 เดือนที่ผู้บริโภคต้องเสียเวลาไปกับการรอและไม่มีรถใช้ อีกทั้ง งานส่งมอบยังไม่ได้คุณภาพที่ดีเพียงพอ ด้วยมาตรฐานของศูนย์บริการที่มุ่งเน้นคุณภาพการให้บริการ และระยะเวลาของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด บริษัทฯ จึงนำเทคโนโลยีการซ่อมสี/ตัวถังจากประเทศญี่ปุ่น ที่ช่วยลดระยะเวลาในการซ่อมให้เหลือเพียงแค่ 1 วัน โดยไม่ต้องทิ้งรถไว้ข้ามวัน ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาเป็นเดือนไปกับการไม่มีรถใช้ อีกทั้งคุณภาพสูงสุดของ การซ่อมที่ส่งมอบกลับให้ลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นสวนทางกับระยะเวลาการซ่อมที่ลดลง ด้วยระดับมาตรฐานคุณภาพ ที่เหนือกว่าศูนย์บริการมาตรฐานทั่วไป ทำให้กลุ่มลูกค้าที่เข้าใช้บริการ และเกิดความประทับใจไว้วางใจกับบริการเป็นจำนวนมาก จนบอกต่อปากต่อปากถึงบริการที่มีคุณภาพของ “สยาม เอสแบรนด์” ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี เมื่อเทียบให้เห็นภาพชัดเจนจากตัวเลขรายได้ในไตรมาสแรก ที่เปิดให้บริการจนถึงไตรมาสสุดท้ายในปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตถึง 204% และจำนวนรถยนต์ (จากการให้บริการในปีที่ผ่านมา) กว่า 30 แบรนด์ ทั้งรถยุโรป และเอเชียที่ให้ความไว้วางใจเลือกบริการ SBRAND ดูแลซ่อมบำรุงรถยนต์คันโปรดของคุณ

SBRANDประสบความสำเร็จได้รับการตอบสนองอย่างดีต่อกลุ่มผู้ใช้รถในประเทศไทย บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจตามแนวทาง และเป้าหมายที่ตั้งไว้เพื่อส่งมอบบริการที่ดีที่สุดไปยังผู้บริโภคครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้รถในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จากการค้นคว้าและวิจัยถึงพฤติกรรมการใช้รถของคนในประเทศไทย ที่มีอายุการใช้รถยนต์ค่อนข้างนานเฉลี่ย 5-6 ปี อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการ ดูแลรักษารถ เพื่อคงสภาพความเงางามอยู่เสมอ บริษัทฯ ได้นำเข้าเทคโนโลยีใหม่ของการปกป้อง รักษาผิวสีรถยนต์ โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่รักรถ และให้ความสำคัญต่อการป้องกันผิวสีรถยนต์จากมลภาวะเศษฝุ่นผงภายนอก และการบำรุง รักษาผิวสีรถยนต์เพื่อคงความเป็นเอกลักษณ์ และให้ความเงางามที่มากกว่ารถคันใหม่ ด้วยการนำนวัตกรรมล่าสุดของการเคลือบรถยนต์ จากการพัฒนาของ 3 ประเทศ คือ ไทย ญี่ปุ่น และอเมริกา ที่รองรับและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจ    และ ให้ความสำคัญกับการปกป้อง และเพิ่มความสวยงามให้กับรถคันโปรดเป็นพิเศษ

ที่สำคัญ บริการเคลือบรถยนต์ของ “สยาม เอสแบรนด์”เป็นนวัตกรรมใหม่ของการเคลือบรถที่ได้รับการคิดค้น และพัฒนา จากสถาบันวิจัย และพัฒนาจากผู้ผลิตประจำประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เคลือบรถมีคุณสมบัติในการ ปกป้อง คงความเป็นเอกลักษณ์ และเพิ่มความเงางามที่ให้มากกว่าที่เคยเห็นในโชว์รูม อีกทั้งบริการเคลือบรถยนต์ที่ บริษัทฯ นำเข้ามานั้นยังแบ่งเป็น 2 ระดับคือ บริการเคลือบรถยนต์ระดับพรีเมียม หรือที่เป็นที่นิยมเรียกกันในชื่อ บริการเคลือบแก้วรถยนต์ (Glass Coating) กับบริการ SBRAND SUPERCOAT เพื่อตอบสนองกลุ่ม    ผู้รักรถยนต์  ที่ต้องการคุณภาพเหนือระดับอย่างแท้จริง ที่ให้มากกว่าคำโฆษณา  ด้วยระยะเวลาการปกป้องรถที่ถึง 10 ปี และเป็นผลิตภัณฑ์ได้รับการทดสอบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทคงรูป คงทน และไม่กลายสภาพ (inorganic) จึงมีอายุของการปกป้องยาวนานสูงสุด และสร้างความสวยงามที่ให้คุณมากกว่าที่เคยพบ และอีกหนึ่งระดับ รองลงมาของการบริการเคลือบรถ ที่เจาะกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ในเมืองไทยที่มีอัตราการเพิ่มสูงขึ้นกับบริการ SBRAND

PROTECTOR หรือ Silicon Coat ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มผู้รักรถและต้องการการปกป้อง ซึ่งมีอายุ การปกป้องถึง 1 -1.5 ปี  และคงความเงางามขึ้นอีกระดับ ที่ให้มากกว่าผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดจำพวก wax ที่มีอายุการใช้งานเพียง 1 เดือน และละลายเมื่อถูกแดด (หมายเหตุ ผลิตภัณฑ์ wax ค่อนข้างเป็นที่นิยมใน ประเทศไทย แต่กลับมีอายุความคงทนค่อนข้างต่ำ อีกทั้งส่งผลกระทบกับผิวสีรถยนต์เมื่อใช้ไปนานๆ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่คงรูป      เมื่อถูกสภาวะอากาศร้อนจะละลาย และกลายสภาพเป็นสารเคมีตกค้างที่ ส่งผลเสียต่อคุณภาพผิวสีรถยนต์)

นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มช่องทางความมั่นใจกับพันธมิตรทางธุรกิจ ถึงโอกาสในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด บริษัท สยาม เอสแบรนด์ จำกัด ได้ร่วมมือกับ เอสแบรนด์ ประเทศญี่ปุ่น และอเมริกา ในปี 2013 นี้ บริษัทฯ วางแผนและเตรียมพร้อมที่จะเปิดธุรกิจในรูปแบบ Franchise โดยจะเริ่มขยายภายในสิ้นปี 2013 และไม่หยุดนิ่งที่จะเลือกสรรในการนำเข้าบริการใหม่ๆ ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถอย่างครบวงจร” นายประณัย กล่าวในที่สุด

พิเศษ....ฉลองครบรอบ ปี กับส่วนลดสูงสุด 15% ทั้งบริการเคลือบรถ และบริการซ่อมสี/ตัวถัง เพียงคุณลงทะเบียนสมัคร SBRAND Member Card  ได้ทั้ง 2 สาขา คือ  SBRAND ศรีนครินทร์ (สำนักงานใหญ่) โทร.02-721-3111 และ   SBRAND ปทุมวัน (Siam @ Siam) โทร.02-217-3028 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31พฤษภาคม 2556 

Vision
การเป็นบริษัทผู้นำ การให้บริการซ่อมบำรุงรักษา และปกป้องรถยนต์ที่ให้บริการในระดับมาตรฐานสากล โดยมุ่งพัฒนาคุณภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสรรหาเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ รองรับและตอบสนอง ความต้องการของผู้ใช้รถในประเทศที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ด้วยบริการมืออาชีพเพื่อส่งมอบความประทับใจสูงสุด

Mission
การแสวงหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการซ่อมบำรุง และปกป้องรถยนต์ และพัฒนาคุณภาพของการบริการ
 เพื่อส่งมอบคุณค่าที่สำคัญ 4 ประการ คือ
1 มอบความประทับใจต่อการใช้บริการด้วยบุคลากรที่มีความสามารถ และรอบรู้
    โดยการให้บริการอย่างมืออาชีพ ระดับมาตรฐานสากล
2ส่งมอบบริการที่เหนือระดับ ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ได้รับการวิจัย
    และพัฒนามาเพื่อตอบสนองผู้ใช้รถยนต์ในประเทศไทย
3 ส่งตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถที่คำนึงถึงคุณภาพและเวลาเป็นเรื่องสำคัญ
4 มุ่งขยายการให้บริการเข้าสู่ธุรกิจ Franchise เพื่อเข้าถึงความต้องการของกลุ่มผู้ใช้รถ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่

มาสด้าเสริมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ มาร์เก็ตติ้ง จับมือ GTH และ SF ฉีกตำนานแม่นาคสนับสนุนภาพยนตร์ไทย พี่มากพระโขนง ฮาสนุกลุ้นรับมาสด้า2 ลิมิเต็ด เอดิชั่น


กรุงเทพฯ – ประเทศไทย – 21 มีนาคม 2556 – บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นบริษัทขายรถยนต์ที่ปลุกกระแสสร้างความฮือฮาได้ตลอดเวลา ด้วยแนวทางการตลาดที่สร้างความแตกต่างและโดดเด่นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในส่วนของการรุกเข้าสู่เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มาร์เก็ตติ้งที่ได้ฝากผลงานกับภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง จนประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม สามารถสื่อสารแบรนด์มาสด้าให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ Multi-screen Generation ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการให้การสนับสนุนภาพยนตร์ทั้งของไทยและต่างประเทศ ส่งผลให้รถยนต์มาสด้าเป็นที่จดจำได้อย่างรวดเร็วควบคู่ไปกับความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ อาทิ แวมไพร์ ทไวไลท์ เกือบทุกภาค โดยเฉพาะเรื่อง “กวน มึน โฮ” ที่ส่งให้มาสด้า2 ฮอตฮิตติดลมบน พร้อมๆ กับหนังที่สามารถทำรายได้ถล่มทลาย และล่าสุดมาสด้าได้ทุ่มทุนอีกครั้งกับผู้กำกับคนเดิม โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล จากค่าย GTH ผู้กำกับร้อยล้านที่กำลังจะส่ง “พี่มาก...พระโขนง”  เข้าฉายในวันที่ 28 มีนาคมนี้
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า มาสด้าเน้นการตลาดที่เจาะเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยดำเนินกิจกรรมทางการตลาดที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละกลุ่ม ที่สำคัญคือ การวางตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ในแต่ละโปรดักซ์นั้นมีความแตกต่างกันออกไป อาทิรถปิกอัพฮีโร่ มาสด้า บีที-50 โปร ก็จะเน้นการสื่อสารเพื่อตอกย้ำตำแหน่งทางการตลาดในแนวซูเปอร์ ฮีโร่ อย่างเรื่อง การสนับสนุนภาพยนตร์เรื่อง The Avengers ขวัญใจเด็กๆ และครอบครัว ส่วนการสนับสนุนภาพยนตร์ หรือการทำโปรโมชั่นร่วมสำหรับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างเจรจาในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะเป็นภาพยนตร์จากต่างประเทศเช่นเดียวกัน  ส่วนมาสด้า3 ภาพยนตร์ที่จะสนับสนุนก็จะออกไปแนวทางที่สะท้อนบุคลิกของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มคนวัยทำงาน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่นเดียวกับที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วจากภาพยนตร์ เรื่อง หรือ30+ โสด on Sales ส่วนมาสด้า2 ซึ่งเป็นรถขวัญใจวัยรุ่น นักศึกษา กลุ่มคนทำงานตอนต้น ก็จะมองหาภาพยนตร์ที่เข้ากับกลุ่มนี้ ซึ่งคราวนี้ เราได้จับมือกับทาง GTH และโรงภาพยนตร์ในเครือเอสเอฟ สนับสนุนภาพยนตร์เรื่อง พี่มาก...พระโขนง โดยผู้ชมภาพยนตร์ทุก 2 ที่นั่ง ที่โรงภาพยนตร์เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า, เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า และเอสเอฟซีเนม่า ซิตี้ ทุกสาขาทั่วประเทศ วันที่ 28 มี.ค. – 16 เม.ย. ได้ลุ้นเป็นเจ้าของสปอร์ตพรีเมียมใหม่ มาสด้า2 ลิมิเต็ด เอดิชั่น รุ่นสปอร์ต ที่โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED หนึ่งเดียวในคลาส จำนวน 1 คัน มูลค่า 691,000 บาท
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง  “พี่มาก...พระโขนง” ซึ่งหลายๆ คนที่เคยชมเรื่องนี้มาแล้วจากหลายๆ เวอร์ชั่นอาจจะมองว่ามาสด้า2 เข้าไปเกี่ยวข้องได้อย่างไร ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องดังกล่าวเป็นการหยิบยกตำนานแม่นาคขึ้นมาทำใหม่ โดยมีการตีความในมุมมองของผู้กำกับที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นอื่นๆ ในอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะพี่มากในเวอร์ชั่นนี้จะแตกต่างไปจากแนวเดิมๆ จะกลายเป็นหนังวัยรุ่น ที่ผสมผสานทั้งความฮามาก และความรักมากไว้ด้วยกันซึ่งก็ได้ดารานำอย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ รับบทเป็น พี่มากที่รักเมียมาก และใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ รวมถึงแก๊งเพื่อนพี่มาก 4 คน เผือก (พงศธร จงวิลาส), เต๋อ (ฟรอยด์-ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์), ชิน (เชน-อัฒรุต คงราศรี), เอ (บอมบ์-กันตพัฒน์ เพิ่มพูนพัชรสุข) ที่จะมาเรียกเสียงฮากระจาย ถึงแม้ว่าจะมีมุขตลกผสมอยู่ แต่ในส่วนของความรักเรื่องนี้ก็โรแมนติคสุดๆ ถือเป็นงานที่ทีมงานทุกคนจัดเต็มมาก สุรีทิพย์ กล่าวเพิ่มเติม
บรรยายรูป
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บจ. มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จับมือกับนายสุพัฒน์ งามวงศไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด ร่วมสนับสนุนภาพยนตร์ GTH เรื่อง “พี่มาก...พระโขนง” โดยชมภาพยนตร์ทุก 2 ที่นั่ง ที่โรงภาพยนตร์ในเครือเอส เอฟ ทุกสาขา ลุ้นเป็นเจ้าของรถสปอร์ตพรีเมียมใหม่ มาสด้า2 ลิมิเต็ด เอดิชั่น รุ่นพิเศษที่โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED หนึ่งเดียวในคลาส จำนวน 1 คัน มูลค่า 691,000 บาท โดยมีผู้กำกับคนดัง โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล พร้อมด้วยดารานักแสดงในเรื่อง เผือก พงศธร จงวิลาส จาก GTH ให้เกียรติร่วมถ่ายภาพ
ติดตามกิจกรรมดีๆ  และรายละเอียดของกิจกรรมของมาสด้า2 กับภาพยนตร์ “พี่มาก...พระโขนง” ได้ที่ http://www.facebook.com/mazda2life
Zoom-Zoom เราใส่ความเป็นสปอร์ตลงไปในรถทุกคันที่เราผลิต

YOKOHAMA ท้าพิสูจน์ยางรถยนต์ “BluEarth AE01 (บลูเอิร์ธ เออี 01)” ชูจุดเด่นเปี่ยมสมรรถนะ รักษ์สิ่งแวดล้อม ยึดเกาะถนน มั่นใจทุกการขับขี่




YOKOHAMA จัดงานทดสอบยาง “BluEarth AE01 (บลูเอิร์ธ เออี 01)” ยางรถยนต์รักษ์สิ่งแวดล้อม (เพื่อโลกและเพื่อคุณ) ณ ซาฟารีเวิลด์ กรุงเทพฯ พร้อมโชว์ประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมัน ยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นใจในทุกภาวะการขับขี่ ก่อนวางจำหน่ายในเดือน เมษายนศกนี้

โดยกิจกรรมการทดสอบยางรถยนต์ YOKOHAMA BluEarth AE01 (บลูเอิร์ธ เออี 01) ในครั้งนี้ มร.ยูทากะ ฟูรูกาวา กรรมการผู้จัดการ (Mr.Yutaka Furukawa : Managing Director) บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยต่อนักทดสอบยางและสื่อมวลชนว่า ยางรถยนต์ BluEarth AE01 (บลูเอิร์ธ เออี 01) นอกจากจะเป็นยางที่เปี่ยมสมรรถนะและให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนที่ดีแล้ว ยังเป็นยางรถยนต์ที่รักษ์สิ่งแวดล้อม โดยส่วนผสมของเนื้อยางใช้เทคโนโลยี “Nano Blend” สูตรใหม่ พัฒนาโดยเฉพาะเพื่อยาง BluEarth AE01 (บลูเอิร์ธ เออี 01) ประกอบด้วยโพลิเมอร์หลายชนิด ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการประหยัดน้ำมันและทนทานต่อการสึกหรอ ผสานส่วนผสมของ (น้ำมันส้ม) สิทธิบัตรเฉพาะของยาง YOKOHAMA ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะสูงสุดในการยึดเกาะถนนอย่างมั่นใจ

สำหรับร่องยางถูกออกแบบเป็นทรงครีบโลมา ที่โค้งโดดเด่นเข้าหาศูนย์กลางของยาง ช่วยเพิ่มสมรรถนะการรีดน้ำ ยึดเกาะที่ดีบนถนนเปียกได้เป็นอย่างดี และป้องกันการเหินน้ำได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบร่องยางตรง 3 ร่องบนตัวยาง ขณะที่ดอกยางแบบผสมที่ไหล่ยาง ระหว่างดอกยางขนาดใหญ่และเล็ก มีคุณสมบัติสำคัญในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวขณะขับขี่บนถนนเปียกแล้ว ยังคงความแข็งแกร่งขณะหมุน ร่องยางเล็กลดการสึกหรอแบบไม่เรียบ

นอกจากนี้ ยาง BluEarth AE01 (บลูเอิร์ธ เออี 01) ยังมีคุณลักษณะอันโดดเด่นคือ ให้ความประหยัดน้ำมันมากกว่าอย่างเหนือชั้น โดยเป็นยางที่ช่วยลดการใช้พลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผลมาจากเทคโนโลยี Nano-power rubber อันเกิดจากการคิดค้นสูตรขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับยางรุ่นนี้ ประกอบด้วย ซิลิก้า น้ำมันส้ม และโพลิเมอร์ โดยเนื้อยางสูตรใหม่นี้ช่วยลดการเกิดความร้อนจากตัวยาง ผสานโครงสร้างยางออกแบบใหม่คุณสมบัติลดการสูญเสียพลังงาน ทำให้ค่าความต้านทานการหมุนลดลง

ด้วยดีไซน์ดอกยางและเนื้อยางรองรับการใช้งานของรถยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง เพื่อให้การใช้งานได้ยาวนานขึ้น ผสานโพลิเมอร์ในเนื้อยางสูตรใหม่ ช่วยลดการสึกแบบไม่เรียบทั้งด้านในและด้านนอกของยางขณะที่ซิลิก้าที่กระจายตัวอยู่ในเนื้อยาง จะช่วยควบคุมความร้อนส่วนเกินและเพิ่มแรงยึดเกาะบนผิวถนนเปียก ส่วนโพลิเมอร์มีคุณสมบัติลดการสึกหรอ

ด้วยเทคโนโลยีของการผลิต ทั้งในส่วนของลายดอกยางซึ่งผสานกับนวัตกรรมอันล้ำสมัยของ YOKOHAMA ยังส่งผลให้เพิ่มความนุ่มนวลขณะขับขี่ ด้วยการใช้หลักการกระจายความถี่ของเสียง เพื่อช่วยลดเสียงจากยางและพื้นถนนขณะขับขี่

“น้องปอปลา”สาวใสวัย 21 ปี จากม.กรุงเทพ ชนะใจกรรมการคว้ามงกุฎ “มิสมอเตอร์โชว์”ประจำปี 2556



 บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้จัดงาน “ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34” และผู้จัด กิจกรรมการประกวด “มิสมอเตอร์โชว์ 2013” เพื่อเฟ้นหาสาวมั่น ที่จะมาครองมงกุฏ “ มิสมอเตอร์โชว์ ประจำปี 2556” โดยตัดสินจากผู้ผ่านเข้ารอบ 20 คน จากการประกวดรอบแรก และที่ได้ทำการเก็บตัวและร่วมทำกิจกรรมต่างๆมากมายกับทางกองประกวด ซึ่งทุกคนต่างประทับใจและเป็นประสบการณ์ที่จะอยู่ในความจำของ สาวๆที่ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมกับเวทีการประกวด “มิสมอเตอร์โชว์ 2013” แห่งนี้ 

 โดยทางคณะผู้จัดการประกวด ร่วมกับผู้สนับสนุน ได้รังสรรค์เวทีการประกวดสุดยิ่งใหญ่สมกับที่ห่างหายกันมา 1 ปีเต็มกับการประกวดรอบตัดสิน ในค่ำคืนวันที่ 13 มีนาคม 2556 ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม ชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ท่ามกลางบรรดาสื่อมวลชนและแขกผู้ทรงเกียรติที่ร่วมเป็นสักขีพยานในการตัดสิน โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายวงการร่วมตัดสินการประกวด นำโดย ท่านดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์, คุณปิยาภรณ์ สามประทีป รองผู้จัดการส่วนการตลาด เครื่องสำอางค์ บริษัท โอซีซี จำกัด มหาชน,นายแพทย์ปิยะศิลป์ จันทร์ภู่ ศัลยแพทย์ทั่วไป โรงพยาบาลนนทเวช, คุณอรุโณชา ภาณุพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บรอดคาซท์ ไทยเทเลวิชั่น จำกัด, คุณชาติชาย พยุหนาวิชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด มหาชน,พลเอกนิพนธ์ สีตบุตร อดีตราชองครักษ์เวร, คุณสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด, นายแพทย์มารุต มัสยวาณิช อดีตสมาชิกวุฒิสภา , คุณกัลช์ฎาภรณ์ (กัน-ดา-พร) ศิริเยี่ยม ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพบาบิซอน, คุณบุญชัย คงปักไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล เอ็ม อี จำกัด, Mr. Ralf Bissinger (มร.ราล์ฟ บิสซิงเกอร์) Director Of Sales And Marketing BMW (Thailand) Company Limited, คุณประพันธ์ พลธนะวิสิทธิ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด, Mr. Stefan Schwirtz General Manager Corporate Sales BMW (Thailand) Company Limited และ คุณวิชชา วัชรานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สปอตโซไซตี้ จำกัด ร่วมด้วยคุณรุจิโรจ เอี่ยมลำเนา ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ บริษัทฯ ,คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัทฯและประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์,คุณอโณทัย เอี่ยมลำเนาและ คุณพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่ได้เดินทางมาร่วมเป็นเกียรติภายในงาน


บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความทันสมัย โดยยึดคอนเซปต์“Street of automotive fashion” หรือ “แฟชั่นแห่งโลกยนตรกรรม” บวกกับความน่ารัก สวยใส มากความสามารถของผู้เข้าประกวดทั้ง 20 คน จนมาถึงรอบ 10 คนสุดท้าย ที่ต่างงัดความสามารถที่มีของตัวเองออกมาโชว์ เรียกคะแนนจากคณะกรรมการ, ผู้ร่วมงาน และพี่ๆสื่อมวลชนกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งผู้ที่มีความสามารถโดดเด่น โดนใจกรรมการที่สุด และชนะใจกรรมการด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ สามารถคว้ามงกุฏมิสมอเตอร์โชว์ในปีนี้ไปครองนั้น ได้แก่ หมายเลข 20 “น้องปอปลา” ปาริชาติ บุญยืน สาวสวยใสจากรั้วมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และรองอันดับ 1 ได้แก่ หมายเลข 7 “น้องลูกน้ำ” ชัชฎาวรรณ ศรีอนันต์, รองอันดับ 2 หมายเลยเลข18 “น้องน้ำหวาน” รักษ์ณภัค วงศ์ธนทัศน์, รองอันดับ 3 หมายเลข 1 “น้องฟีม” ปัญจพร ศรีสัตตรัตน์กุล และ รองอันดับ 4 หมายเลข 13 “น้องส้มโอ ” ประภัสสร ชะอุ้ม ส่วนสาวงามหนึ่งเดียวที่คว้าตำแหน่ง Miss Congeniality หรือ นางงามมิตรภาพไปครองได้แก่ หมายเลข 11 “น้องแคท” กล้วยไม้ พิกุลแย้ม

โดยสาวสวยทั้งหมดนี้จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาสัมพันธ์พิเศษของงาน “ The 34th Bangkok International Motor Show ” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มี.ค. – 7 เม.ย.56 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี และจะเริ่มปฏิบัติภารกิจเดินสายขอบคุณบรรดาพี่ๆ สื่อมวลชน และผู้ให้การสนับสนุน เป็นลำดับต่อไป

ฮอนด้าเปิดตัวคลิก125ไอใหม่ เน้นโฉบเฉี่ยวเอาใจโจ๋ ดุดันด้วยสีดำด้านและเทคโนโลยี Idling Stop พร้อมดึงโดม-บี้ ประชันความเท่แบบ Hot & Cool ภายใต้คอนเซปต์ “ตัวจริงมีแค่หนึ่งเดียว”



ค่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รีเฟรชไลน์อัพเอาใจวัยรุ่นในเมืองด้วยการเปิดตัวฮอนด้าคลิก125อ ใหม่ ปราดเปรียวด้วยโทนสีโฉบเฉี่ยวและกราฟฟิกสุดเท่ยิ่งกว่าเดิม ภายใต้คอนเซปต์ “The Unbeatable ตัวจริง มีแค่หนึ่งเดียวโชว์ความโดดเด่นเหนือใครด้วยโทนสีดำด้านที่ให้ความดุดันเป็นพิเศษ ขับเคลื่อนเต็มสมรรถนะด้วยขุมพลัง eSP และเครื่องยนต์ระบบหัวฉีดPGM-FI ขนาด 125cc. ก้าวล้ำไปกับเทคโนโลยีหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติIdling Stop พร้อมดึงโดม-ปกรณ์ ลัม และ บี้-สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว สองพรีเซนเตอร์ดังมาประชันความเป็นหนึ่ง เพื่อเสริมภาพลักษณ์ความเป็นรถจักรยานยนต์ของลูกผู้ชายตัวจริง เปิดราคาเริ่มต้นที่48,900 บาท วางจำหน่ายพร้อมกันแล้วทั่วประเทศ

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า คาแรกเตอร์ที่โดดเด่นได้ส่งผลให้ฮอนด้าคลิก125ไอ กลายเป็นรถเอ.ที.สปอร์ตที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดตัวสู่ตลาดเมื่อต้นปี2012 อย่างไรก็ตาม เราไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาสินค้าให้มีความทันสมัยโดยเฉพาะดีไซน์ที่ต้องมีความสดใหม่โดนใจวัยรุ่นอยู่เสมอ โดยในครั้งนี้ ฮอนด้าคลิก125ไอ ใหม่ จะมาพร้อมกับโทนสีที่มีความเข้มแข็งอย่างสีดำด้านที่ให้อารมณ์สปอร์ตแบบซุปเปอร์คาร์ พร้อมด้วยกราฟิกรอบคันที่มีมิติและดูโฉบเฉี่ยวมีพลังยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเสริมภาพลักษณ์ของความเป็นรถจักรยานยนต์สำหรับผู้ชายมาดเข้ม เรายังได้ดึงโดม-ปกรณ์ ลัม และ บี้-สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว สองซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทย มาประชันความเท่ในรูปแบบฮอทแอนด์คูลอีกด้วย โดยโดมจะเป็นตัวแทนของความฮอทในแบบฉบับของรถสีดำด้าน ในขณะที่บี้จะเป็นตัวแทนของความคูลด้วยเทคโนโลยีหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ Idling Stop ทั้งนี้ ทุกคนจะได้พบกับศิลปินทั้งสองคนในภาพยนตร์โฆษณาเปิดตัวฮอนด้าคลิก125ไอใหม่ ซึ่งกำลังจะออนแอร์ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมนี้เป็นต้นไป

สำหรับฮอนด้าคลิก125ไอ ใหม่ ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “The Unbeatable ตัวจริง มีแค่หนึ่งเดียว” ด้วยโทนสีแบบทูโทน และกราฟิกที่เน้นความเข้ม เฉียบคม มาพร้อมกับเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นขุมพลัง eSP (Enhanced Smart Power) ที่ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์จังหวะขนาด 125cc. ระบบหัวฉีด PGM-FI,ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำแบบ Built-in Liquid Cooledและระบบลดแรงเสียดทาน Intelligent Low Friction จึงให้ทั้งสมรรถนะ และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 55.8 กิโลเมตร/ลิตร จากการวัดตามมาตรฐาน สมอ. Mode ECE R40 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานไอเสียระดับ และรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์E20

ฮอนด้าคลิก125ไอ ใหม่ แบ่งออกเป็นรุ่นย่อย รุ่น ประกอบด้วยรุ่น Idling Stop, Racing, Street, และ Tune Up มีคู่สีให้เลือกรวมทั้งสิ้น 11 แบบ โดยรุ่นIdling Stop ซึ่งเป็นรุ่นท็อปจะมาพร้อมกับระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อหยุดรถนานเกิน3 วินาที และทำงานต่อทันทีเมื่อบิดคันเร่ง พร้อมคอมบายเบรก และล้อแม็กแบบสปอร์ตก้าน

ฮอนด้าวางแผนการจำหน่ายคลิก125อ ใหม่ ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2556 เป็นต้นไป ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 48,900 บาท ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่http://www.aphonda.co.th/

ฮอนด้าเปิดตัวแอคคอร์ด ใหม่ เจนเนอเรชั่น 9 ที่สุดแห่งความปรารถนาของยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยม




· ฮอนด้า แอคคอร์ด สานตำนาน 37 ปี สู่ยนตรกรรมเหนือระดับ ด้วยดีไซน์หรูหรา สง่างาม พร้อมความสะดวกสบายในการขับขี่ชั้นยอด
· เปิดตัวเครื่องยนต์อัจฉริยะ “เอิร์ธ ดรีม” รุ่นแรกในไทย ครบครันด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำหน้าสมรรถนะสมบูรณ์แบบ ประหยัดน้ำมัน และรองรับ E85
· มั่นใจรอบด้านด้วยระบบความปลอดภัยล้ำสมัย

กรุงเทพฯ วันที่ 11 มีนาคม 2556  บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัว ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ยนตรกรรมสุดหรูเจนเนอเรชั่นที่ 9 ที่มีการออกแบบใหม่ทั้งคัน ด้วยดีไซน์หรูหรา สง่างามเหนือระดับ เพื่อสะท้อนรสนิยมและเติมเต็มความต้องการยนตรกรรมระดับหรูของลูกค้าภายใต้การออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวล ครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมี่ยม นวัตกรรมเทคโนโลยีอัจฉริยะให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ความปลอดภัยสูงสุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  มีจำหน่าย รุ่น ราคาเริ่มต้น 1,299,000 บาท พร้อมแล้วที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งเป้ายอดขายที่  20,000 คันภายในหนึ่งปี

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "นับตั้งแต่ฮอนด้า แอคคอร์ด เจนเนอเรชั่นที่หนึ่งได้เปิดตัวสู่ตลาดเป็นครั้งแรกในปี 2519 และสามารถครองใจผู้ขับขี่จากทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง จวบจนปัจจุบัน มียอดขายสะสมถึงสิ้นปี 2555 รวมทั้งสิ้นมากกว่า 19 ล้านคันใน 160 ประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทย มียอดขายสะสมตั้งแต่ปี 2527 จนถึงปลายปี 2555 รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 138,229 คัน"

"ตลอดระยะเวลา 37 ปี ฮอนด้า แอคคอร์ด ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับนำเสนอนวัตกรรมแห่งโลกยานยนต์อันล้ำสมัยในแต่ละช่วงเวลา จึงทำให้ฮอนด้า แอคคอร์ด เป็นสุดยอดยนตรกรรมที่สะท้อนเอกลักษณ์อันโดดเด่น และส่งมอบความสุขในการขับขี่ให้กับลูกค้าทั่วโลกในทุกยุคทุกสมัย สำหรับฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่นี้เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 9  ที่มีดีไซน์สะท้อนถึงความหรูหรา สง่างามเหนือระดับ และสะดวกสบายมากที่สุดที่เคยมีมา ทั้งยังครบครันด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ และความคุ้มค่าสูงสุด"

การเปิดตัว ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่นี้ นับเป็นการพลิกโฉมการออกแบบยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมเหนือระดับของฮอนด้าอีกครั้ง ด้วยองค์ประกอบแห่งความเหนือชั้น ได้แก่

ดีไซน์หรูหรา สง่างามเหนือระดับ ผสานอารมณ์สปอร์ตอย่างลงตัว นอกจากประสิทธิภาพอันโดดเด่นทางด้านหลักอากาศพลศาสตร์แล้ว ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ยังมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ทันสมัย เฉียบคมทุกตารางนิ้ว การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกของแอคคอร์ดใหม่ได้รับการพัฒนาให้โดดเด่นด้วยกระจังหน้าที่ล้ำสมัย เคร่งขรึมด้วยเสากลางรถสีดำหรูแบบเปียโนแบล็ค และไฟท้ายแอลอีดี

ความสะดวกสบายเหนือจินตนาการ ด้วยการออกแบบภายในห้องโดยสาร ที่เน้นการเพิ่มความสบายสูงสุดให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร  ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขึ้นกว่าเดิม และที่นั่งโดยสารทั้งตอนหน้าและตอนหลังมีพนักพิงที่กว้างขวางสะดวกสบาย ครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมี่ยม เช่น เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Memory Seat) และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (Active NoiseControl) และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวาเพื่อสุนทรียภาพในการขับขี่ อีกทั้งยังมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) ที่ใช้งานง่ายสะดวก และรวดเร็ว

ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงข้อมูลแบบอัจฉริยะ i-MID หน้าจอแสดงข้อมูลขนาด 8 นิ้ว ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ โดดเด่นด้วยระบบสั่งการแบบ Smart Interface ที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานของระบบเครื่องเสียง ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth และข้อมูลรถยนต์ผ่านหน้าจอควบคุมอัจฉริยะระบบสัมผัส (On-demand Touch Panel)

ขุมพลังเหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 2.4 ลิตร DOHC ใช้เทคโนโลยีเอิร์ธ ดรีม(Earth Dreams) เป็นรุ่นแรกของฮอนด้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ฮอนด้าพัฒนาขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่และเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันสูงสุด ด้วยการพัฒนาองค์ประกอบการสันดาปภายในและการใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สมรรถนะเครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุดที่ 225 นิวตัน-เมตร (23.0 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 174 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที  และเครื่องยนต์ สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร SOHC สมรรถนะเครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุดที่ 190 นิวตัน-เมตร (19.4 กก.-ม.) ที่ 4,300 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 155 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที  ทั้งนี้ เครื่องยนต์ทั้งสองขนาดยังรองรับการใช้น้ำมัน E85 พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด

เทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือชั้น ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ล่าสุดครอบคลุมรอบคันรถ เปิดมุมมอง 360 องศาให้แก่ผู้ขับขี่ อาทิ ระบบ CMBS ซึ่งเป็นระบบเตือนการชนด้านหน้าด้วยเรดาห์พร้อมระบบช่วยเบรก เพื่อช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็ว หรือเบรกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการชนหรือลดความรุนแรงจากการชน เทคโนโลยี Honda LaneWatch ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ช่วยลดจุดบอดและเพิ่มทัศนวิสัยด้านข้างขณะเปลี่ยนเลน ระบบไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติ Active Cornering Light เพิ่มความสว่างขณะเลี้ยวรถในเวลากลางคืน กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ช่วยเติมเต็มทัศนวิสัยด้านหลัง พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบแอลอีดี Daytime Running Lights  ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ Dual i-SRS  ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbag  ม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags  ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว VSA  ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย MA-EPS  ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA  ระบบป้องกันล้อล็อก ABS  และระบบกระจายแรงเบรก EBD  ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer  สัญญาณฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS  และกระจกหน้าต่างคู่หน้าลดการเกาะตัวของหยดน้ำ Water Dispersing  รวมทั้งกระจกมองข้างลดการเกาะตัวของหยดน้ำเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ (อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น)

เพื่อตอกย้ำว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เป็นที่สุดแห่งยนตรกรรม และเป็นที่สุดแห่งความปรารถนาของผู้ขับขี่อย่างแท้จริง ฮอนด้าได้วางแนวทางการสื่อสารการตลาดภายใต้แนวคิด All My Desire โดยได้สร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาเพื่อสะท้อนแนวคิดดังกล่าว ผ่านบทเพลง “เสน่หา” ซึ่งได้ประพันธ์เนื้อร้องภาษาอังกฤษ และมีการเรียบเรียงดนตรีขึ้นมาใหม่ มีกำหนดออกอากาศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่น ขนาดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ได้แก่ รุ่น 2.0EL และ 2.0EL (Navi) และขนาดเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ได้แก่ 2.4EL,  2.4EL (Navi)  และ 2.4 TECH ในราคาตั้งแต่ 1,299,000 บาท ถึง 1,799,000 บาท มีให้เลือก 5 สี คือ สีขาวออร์คิด (ขาวมุก-เพิ่ม 12,000 บาท)  สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก-เพิ่ม 8,000 บาท) และมี 2 สีใหม่ คือ สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และสีทองแชมเปญฟรอสต์ (มุก-เพิ่ม 8,000 บาท)

“เรามั่นใจว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ จะมาสร้างตำนานบทใหม่ของตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมที่ให้ความหรูหรา สง่างาม และความสะดวกสบายเต็มพิกัด พร้อมด้วยนวัตกรรมเทคโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัยให้ความคุ้มค่าสูงสุด และจะได้รับการต้อนรับอย่างดีจากลูกค้าชาวไทยเช่นเดียวกับทุกๆ เจนเนอเรชั่นที่ผ่านมา โดยเราตั้งเป้ายอดจำหน่ายไว้ที่ 20,000 คันภายในหนึ่งปี” นายพิทักษ์ กล่าวปิดท้าย

“กรังด์ปรีซ์ กรุ๊ป”แถลงข่าวจัดงาน“The 34th Bangkok International Motor Show”ภายใต้คอนเซ็ปต์“แฟชั่นแห่งโลกยนตรกรรม” คาดยอดจองไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นคัน ตั้งเป้าผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่า 1.9 ล้านคน


“กรังด์ปรีซ์ กรุ๊ป” ยักษ์ใหญ่ยานยนต์เมืองไทย จัดงานแถลงข่าวความพร้อมการจัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34” ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายนนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Street of automotive fashion-แฟชั่นแห่งโลกยนตรกรรม” เผยค่ายรถยนต์เตรียมขนขบวนรถใหม่โชว์ตัวในงานหลากหลายรุ่น เชื่อทุบสถิติยอดจองปีที่แล้ว คาดทำตัวเลขทะลุ 60,000 คัน

บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แถลงข่าวจัดการจัดงานแสดงยนตรกรรมระดับโลกอย่าง“บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34” อย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา ที่ อิมแพค เมืองทองธานี โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นงานภายใต้คอนเซ็ปต์ “Street of automotive fashion-แฟชั่นแห่งโลกยนตรกรรม” ซึ่งถือเป็นทิศทางของการตลาดรถยนต์ในปี 2556 ที่ฝ่ายจัดงานเชื่อว่าบรรดาค่ายรถยนต์ต่างก็ต้องการนำเสนอยนตรกรรมที่มีความแตกต่างด้านดีไซน์ และเทคโนโลยีที่โดดเด่น เพื่อช่วงชิงพื้นที่ในตลาดรถยนต์

ทางคณะผู้จัดงานฯยังได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในแวดวงยานยนต์และผู้ให้การสนับสนุนการจัดงานขึ้นร่วมแถลงบนเวที นำโดย ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และประธานจัดงาน“บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34”,คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานกรรมการบริหารอาวุโสฯและการจัดงานฯ,คุณสมบัติ คุรุพันธ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรี การท่องเที่ยวและกีฬา ,คุณเพียงใจ แก้วสุวรรณ นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ,คุณอดิศักดิ์ โรหิตะศุน นายกสมาคมวิศวะกรรมยานยนต์ไทย,คุณอัชณา ลิมป์ไพฑูรย์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย,รศ.ดร.ณกร อินทร์พยุง อุปนายกสมาคมระบบขนส่งการจราจรอัจฉริยะ,คุณณรงค์ ไกรสวัสดิ์ เลขาธิการราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (ร.ย.ส.ท.)และคุณพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เมเนจเม้นท์ จำกัด พร้อมด้วย คุณอโณทัย – คุณพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา รองประธานกรรรมการบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่ร่วมเป็นเกียรติงานแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เปิดเผยว่า “ ต้องยอมรับว่าปีที่ผ่านมานับเป็นปีทองของวงการยานยนต์ไทย หลังทำยอดขายรถยนต์ในปีพ.ศ.2555ทะลุถึง 1.4 ล้านคัน ถือเป็นอีกประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งแห่งวงการรถยนต์เมืองไทย ความสำเร็จดังกล่าวมาจากปัจจัยบวกรอบด้าน อาทิ ภาษีรถคันแรก ที่หลายบริษัทได้รับอานิสงส์จากโครงการนี้”

“ขณะเดียวกันยังมีผลมาจากหลังเกิดวิกฤติน้ำท่วม ซึ่งทำให้ความต้องการซื้อรถยนต์สะสมมาจากช่วงปลายปี 2011 คนไทยจำนวนมากต้องเปลี่ยนรถ ขณะเดียวกันบางรายก็ต้องการรถที่สามารถใช้กับสภาพน้ำท่วม อย่างรถปิกอัพ ซึ่งกลายเป็นรถยอดนิยมในปีที่ผ่านมา”

“นอกจากนี้ รวมถึงการที่ค่ายรถยนต์หลายรายทำการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรถอีโคคาร์ รถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือรถกระบะ ที่อยู่ในโครงการของภาครัฐ ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จของยอดขายรถยนต์โดยรวมของเมืองไทยในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มียอดค้างส่งแบบข้ามปีด้วย” ดร.ปราจิน เผย

อย่างไรก็ดี ดร.ปราจิน ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า“แม้กระแสของวงการรถยนต์ในปีนี้จะไม่แรงเท่ากับปีที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะยังเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากในค่ายรถยนต์ต่างก็ต้องเร่งทำการตลาดสำหรับช่วงต้นปีนี้ ด้วยการทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ขณะที่การแข่งขันในกลุ่มอีโคคาร์ ก็ยังคงดำเนินต่อ เพราะค่ายรถยนต์อย่างมิตซูบิชิ ก็มีการนำ มิตซูบิชิ คอนเซ็ปต์ จี 4 อีโคคาร์ 4 ประตูรุ่นใหม่ มาโชว์ตัวในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ด้วยด้วย นอกจากนี้กระแสของอีโคคาร์ฝั่ง โตโยต้า ก็ยังคงมีข่าวลือออกมาให้เห็นเป็นระยะด้วย แต่ที่แน่นอนแล้วคือ โตโยต้า วีออส ใหม่ ที่จะมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานเราด้วย”

สำหรับไฮไลต์ของงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 จะอยู่ที่การนำยนตรกรรมจากค่ายรถยนต์ต่างๆ มาจัดแสดงให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด อาทิ การเปิดตัวของ มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 สกายแอคทีฟ, มาสด้า 2 รุ่นลิมิเต็ด, ฟอร์ด เอคโค่ สปอร์ต, ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ และ เชฟโรเลต สปิน

นอกจากนี้ จะรวมไปถึง ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่, นิสสัน พัลซาร์ และนิสสัน เออร์แวน รถตู้รุ่นใหม่ ฮุนได เวลอสเตอร์ และ ซูซูกิ เออร์ติก้า รถสไตล์ “MPV” รุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย ซูซูกิ ด้วย ขณะเดียวกันในกลุ่มรถหรูก็มีรถไฮไลต์อย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี 300, เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอ สปอร์ตซีดาน คูเป้, บีเอ็มดับเบิลยู แอคทีฟไฮบริด ซีรีส์ 3, ซีรีส์ 5, และซีรีส์ 7 แอล มาร่วมโชว์ตัวด้วย

ส่วน “คอนเซ็ปต์คาร์” หรือ “รถต้นแบบ” ซึ่งถือเป็นตัวที่กำหนดทิศทางเทคโนโลยียานยนต์ของแต่ละแบรนด์ และนับเป็นไฮไลต์ของงานมอเตอร์โชว์ทั่วโลก ก็จะมีมาจัดแสดงใน บางกอก มอเตอร์โชว์ด้วย โดยขณะนี้ได้รับการยืนยันจากหลายค่ายที่น่าจะนำเข้ามา โดยคอนเซ็ปต์คาร์ที่จะมาแสดงใน บางกอก มอเตอร์โชว์แน่นอนแล้วคือ มิตซูบิชิ คอนเซ็ปต์ จี 4 อีโคคาร์ 4 ประตู, เมอต์เซเดส เบนซ์ ซีแอลเอ คอนเซ็ปต์ (Mercedes Benz CLA Concept) และ นิสสัน เอลลัวร์ (Nissan Ellure) ซึ่งเป็นรถต้นแบบสำหรับ นิสสัน ซิลฟี่ ในปัจจุบัน ส่วนค่ายอื่นๆ อาทิ ยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้า รวมถึงแบรนด์อื่นๆ ก็มีการเตรียมนำรถต้นแบบเข้ามาแสดงในงานอย่างคับคั่ง

“ผมเชื่อว่า มอเตอร์โชว์ปีนี้น่าจะคึกคักไม่แพ้ปีที่ผ่านมา สำหรับยอดจองภายในงาน ปีที่แล้ว 57,000 คัน ปีนี้ผมไม่อยากไปสร้างความกดดันให้กับบริษัท แต่เท่าที่จับกระแสทุกค่ายหวังจะสร้างยอดจองไม่ต่ำกว่าเดิม เมื่อประเมินอย่างนี้ ผมก็คาดการณ์ยอดจองน่าจะไม่ต่ำกว่า 60,000 คัน อย่างแน่นอน” ดร.ปราจิน กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เปิดเผยว่า “รถยนต์เป็นเสมือนแฟชั่นแห่งโลกยนตรกรรม ที่ทุกบริษัทต้องออกแบบเพื่อนำเสนอเป็นทางเลือกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ การออกแบบภายในและภายนอก แม้กระทั่งสีสันและลายเส้น รถยนต์และเทคโนโลยีก้าวล้ำไปเยอะมาก ในฐานะที่เราเป็นผู้นำในการจัดงานมอเตอร์โชว์ เราก็ต้องมองอนาคตของยานยนต์ ควรจะไปในทิศทางใด ตลาดโลกจะเป็นอย่างไร

“ฉะนั้นทิศทางของ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ในปีนี้ จึงอิงไปทางแฟชั่น เพื่อปลุกกระแสให้ผู้เข้าชมได้เห็นสีสันรวมถึงแนวทางที่ชัดเจน และแตกต่างของค่ายรถยนต์แบรนด์ต่างๆ ในฐานะผู้จัดงานจึงอยากให้ผู้เข้าชม ได้สัมผัสแนวคิดและการเปลี่ยนแปลงของทาง บางกอก มอเตอร์โชว์ และค่ายรถยนต์ต่างๆ ที่เข้าร่วมแสดงยนตรกรรมในงานของเราด้วย”

คุณจาตุรนต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ขณะนี้มีค่ายผู้ผลิตรถยนต์ตอบรับเข้าร่วมงานแล้วทั้งสิ้น 36 ราย ส่วนค่ายผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ตอบรับร่วมงาน 7 ราย ด้านสินค้าอุปกรณ์ตกแต่ง และชิ้นส่วนยานยนต์ตอบรับเข้าร่วมทั้งสิ้น 230 แบรนด์ ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างความคึกคักให้กับงานได้อย่างมาก”

“โดยรถไฮไลต์ที่คาดว่าจะมีราคาแพงที่สุดในงานคือ โรลส์-รอยซ์ รุ่นใหม่ราคากว่า 30 ล้านบาท และ ลัมบอร์กินี รุ่นใหม่ซึ่งยังคงเป็นความลับของค่ายดังกล่าว ส่วนรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 2-3 ปีหลัง ก็นับเป็นออกไฮไลต์หนึ่งของงาน โดยจะมีบิ๊กไบค์รุ่นใหม่อย่างน้อย 3 รุ่น ที่จะมาเปิดตัวภายใน บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ด้วย” นายจาตุรนต์ เผย

ทั้งนี้ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ นับเป็น งานมอเตอร์โชว์ที่ได้รับการรับรองจาก OICA ให้บรรจุเข้าไปอยู่ในปฏิทินมอเตอร์โชว์โลก โดย “กรังด์ปรีซ์ กรุ๊ป” ในฐานะฝ่ายจัดงาน ได้พยายามพัฒนามุมมอง และการนำเสนอที่แปลกใหม่ในทุกๆ ปี นอกจากไฮไลต์ด้านการแสดงยนตรกรรมของค่ายรถยนต์ รถจักยานยนต์ต่างๆ รวมถึงค่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แล้ว บางกอก มอเตอร์โชว์ยังมีจุดเด่นอยู่ที่ กิจกรรมภายในงานที่มีให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสอย่างต่อเนื่องในทุกวันของการจัดงาน นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่สำหรับการทดสอบรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่กว่า 33,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นสนามที่ได้ มาตรฐานสำหรับการทดสอบรถยนต์โดยเฉพาะ ขณะเดียวกันการประกวดมิสมอเตอร์โชว์ที่เว้นวรรคไป 1 ปีก็จะกลับมาประกวดอีกครั้งในปีนี้ 

สำหรับงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34” จะมีขึ้นอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - วันที่ 7 เมษายน 2556 ที่จะถึงนี้ ณ ชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี โดยเปิดให้เข้าชม ในวันธรรมดา ตั้งแต่เวลา 12.00 – 22.00 น.และในวันหยุด ตั้งแต่เวลา 11.00 – 22.00 น. บัตรเข้าชมงานยังคงจำหน่ายที่ 100 บาท และหางบัตรยังสามารถใช้ชิงโชครับของรางวัลต่างๆอาทิ รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ รวมถึงของรางวัลอีกมากมายเช่นเดิม

“ทีเอสแอล” ส่ง Porsche Carera S by LUMMA Design ลงสนามสู้ศึกตลาดรถแต่งเมืองไทย หวังครองใจสาวกปอร์เช่


“LUMMA Design” ชุดแต่งสัญชาติเยอรมันพันธุ์แท้ จับมือ “ทีเอสแอล” พันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง เดินหน้ารุกตลาดชุดแต่งรถหรูในประเทศไทยเน้นเอาใจคนรักปอร์เช่โดยเฉพาะ เผยโฉมพระเอกหน้าใหม่Porsche Carrera S by LUMMA Design มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวสะท้อนความเป็นสปอร์ตโรดสเตอร์ได้อย่างแท้จริง

นางสาวสุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยนตรกรรมชั้นนำจากต่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า “ในปีนี้ ทีเอสแอลยังคงเดินหน้าทำตลาดรถหรูควบคู่ไปกับการนำเสนอชุดแต่งรถสปอร์ต เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกรูปแบบ โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมาทีเอสแอลได้ร่วมกับสำนักแต่ง “LUMMA Design” ผู้นำด้านการผลิตและออกแบบชุดแต่งสัญชาติเยอรมัน เพื่อเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในการทำตลาดชุดแต่งรถยนต์ในเมืองไทย โดยเฉพาะรถยนต์ปอร์เช่ อาทิ Panamera, Carrera และ Cayenne เป็นต้น”

“ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ LUMMA Design เชื่อว่าลูกค้าจะได้รับความพึงพอใจสูงสุดในการเลือกรถที่สะท้อนความเป็นตัวตนอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น สีของรถยนต์ที่มีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการของลูกค้า ขณะที่การตกแต่งภายในก็เต็มไปด้วยออปชั่นเสริมมากมาย เช่น บริเวณแผงประตู พวงมาลัย และคอนโซลหน้า ซึ่งได้รับการออกแบบและตกแต่งให้ลงตัว หรูหรา โฉบเฉี่ยวมากขึ้นตามแบบฉบับของลูกค้าทุกคน” คุณสุรีย์ภรณ์กล่าวเสริม

คุณสุรีย์ภรณ์ กล่าวต่อว่า “ปัจจัยหลักที่ตัดสินใจเลือก LUMMA Design เป็นพันธมิตรธุรกิจที่ใกล้ชิดต่อกัน เพราะนอกจากเป็นบริษัทชุดแต่งระดับโลกแล้วยังสามารถผลิตรถที่มีการปรับแต่งทั้งคัน เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบการดีไซน์ที่ดุดันและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยตั้งเป้าว่าปีนี้จะสร้างแบรนด์ LUMMA Design ภายใต้การจำหน่ายโดยทีเอสแอลให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ขณะเดียวกันกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณามอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ LUMMA Design ซึ่งสิทธิประโยชน์จะนอกเหนือจากบัตรมิราเคิล การ์ด ที่ลูกค้าได้รับอยู่แล้วเพิ่มขึ้นอีกด้วย”

สำหรับขั้นตอนและระยะเวลาการส่งมอบ กรณีลูกค้าสนใจซื้อรถยนต์นำเข้าสำเร็จรูปทั้งคัน ลูกค้าสามารถเลือกแบบและลงรายละเอียดชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิตได้ตรงตามความต้องการทั้งหมดโดย LUMMA Design ประเทศเยอรมนี จะใช้ระยะเวลาในการปรับแต่งประมาณ 2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน หลังจากนั้นจะจัดส่งมอบรถให้กับลูกค้าตามขั้นตอน นอกจากนั้นบริการหลังการขายจากทีเอสแอลจะยังคงความโดดเด่นด้วยศูนย์บริการ SMRT ที่ได้มาตรฐานพร้อมช่างผู้ชำนาญการโดยเฉพาะและพร้อมที่จะให้บริการแก่ลูกค้าตลอด 24 ชม.

สำหรับรถยนต์ที่เป็นชุดแต่งรุ่นล่าสุดของ LUMMA Design คือ Porsche Carrera S by LUMMA Design CLR 9 S ถูกดีไซน์ภายนอกให้มีความโค้งมนสวยงาม พร้อมชุดแต่งสปอยเลอร์ที่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวด้วยความหลากหลายทั้งในเรื่องของสีและวัสดุสุดเนียบรอบคันที่คัดสรรมาเพื่อลูกค้าของทีเอสแอลไม่ว่าจะเป็นล้อขนาด 20 นิ้ว รวมถึงความปราณีตในการปรับแต่งภายในให้หรูหราลงตัวทุกสัดส่วนโดดเด่นด้วยโลโก้ LUMMA Design ที่บ่งบอกถึงรสนิยมของผู้ขับขี่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นต้น

ด้าน มร.ซาช่า คาสโพรเวียค ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเซีย LUMMA Design เปิดเผยว่า “LUMMA Design มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ ทีเอสแอล พันธมิตรธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งมากด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี เพื่อเปิดตลาดชุดแต่งและนำเข้ารถภายใต้แบรนด์ LUMMA Design ในประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ลูกค้าชาวไทยที่หลงใหลในความแรงของรถสัญชาติเยอรมัน โดยหวังว่าลูกค้าในประเทศไทยจะเข้ามาสัมผัสจับจองเป็นเจ้าของพร้อมกับสร้างจินตนาการในการออกแบบรถตามสไตล์ที่ชื่นชอบร่วมกัน และการที่ทีเอสแอลมีแผนธุรกิจที่จะขยายไปประเทศพม่า นับเป็นโอกาสที่ดียิ่งของ LUMMA Design ซึ่งจะได้ขยายธุรกิจไปในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พร้อมๆ กับทีเอสแอล”

นอกจากนี้ “ทีเอสแอลตั้งเป้ายอดขายรถ LUMMA Design แบบสำเร็จรูปหรือ Complete Car ไว้เพียง 6 คันเท่านั้น ส่วนอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์นั้นทางทีเอสแอลยังคงตอบรับตามความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพราะทีเอสแอลมีความตั้งใจที่จะสร้างแบรนด์ LUMMA Design จากประเทศเยอรมนีให้เป็นที่รู้จักและกลายเป็นชุดแต่งที่ชื่นชอบสำหรับลูกค้าในประเทศไทยที่หลงใหลในการตกแต่งรถยนต์ทั้งสมรรถนะและรูปลักษณ์ โดยลูกค้าสามารถชมและเลือกสรรชุดแต่งรถแบรนด์ LUMMA Design ได้ที่โชว์รูมทีเอสแอลที่เดียวเท่านั้น” คุณสุรีย์ภรณ์ กล่าวปิดท้าย
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved