Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

เครื่องD4D Commonrail

เครื่องยนต์ 2KD-FTV D-4D 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC เทอร์โบ

แรงม้าสูงสุด 75 กิโลวัตต์ / 3800 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร / 1600-2400 รอบต่อนาที
ความเร็วสูงสุด 158 กม. / ชม.
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 19.07 กม. / ลิตร ( 60 กม./ชม. ขับความเร็วคงที่ )
ประเภทของเครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบ
ปริมาตรกระบอกสูบ 2494 ซีซี
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก 92.0 x 93.8
อัตราส่วนกำลังอัด 18.5 : 1

1.อัตราเร่งที่ทำให้การขับขี่สนุก ช่วงแรงบิดที่กว้างครอบคลุม รอบใช้งานปกติ ส่งผลให้ขับขี่ง่าย ตอบสนอง ทันที และเร่งกำลังเครื่องได้ดังใจ ช่วยให้ขับ เคลื่อนขณะบรรทุกหนักได้สบาย
2.ไม่กินน้ำมันเครื่อง ประหยัดน้ำมันที่สุดในบรรดารถกระบะ นอกเหนือจากที่ประหยัดน้ำมันได้มากกว่าแล้ว ยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้อีกเท่าตัว เมื่อเทียบกับเครื่อง 2L เท่ากับเป็นการประหยัด ค่าใช้จ่ายในการ ซ่อมบำรุง
3.เงียบ และนุ่มเหมือนรถที่ใช้เครื่องเบนซิน เครื่องยนต์ทำงานเงียบ และมีแรงสั่นสะเทือนน้อยขณะหยุดรอ สัญญาณไฟ หรือขณะรอบเครื่องเดินเบา ระดับเสียงรบกวน และแรงสั่นสะเทือนน้อยเทียบได้กับรถที่ใช้ เครื่องยนต์เบนซิน โดย ระดับเสียงที่รอบเดินเบาเพียง 49.0 เดซิเบล เทียบได้กับความเงียบของห้องพักใน โรงแรมระดับ 5 ดาว
4.ไอเสียสะอาด ปราศจากควันดำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควันดำถูกลดลงอย่าง มหาศาลเช่นกัน เพื่อร่วมรักษาสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น และเพื่อรองรับกับมาตรการ ทางด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต ผ่านมาตรฐาน Euro Step III ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุด ของการควบคุมมลพิษในสิ่งแวดล้อม แรงบิดของเครื่องยนต์จะเพิ่มขึ้นที่ประมาณ 1000 รอบต่อนาที และถึงจุดสูงสุดที่ประมาณ 1600 รอบต่อนาที และ จะมีแรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ตั้งแต่ 1600 ถึง 2400 รอบต่อนาที เพื่อประโยชน์ในการใช้งานซึ่งหาไม่ได้ใน เครื่องยนต์รุ่นอื่น ๆ
เครื่องยนต์แบบ DOHC เทอร์โบ แรง เร็ว เต็มพลัง เครื่องยนต์ 2KD-FTV แบบ DOHC 4 วาล์วต่อสูบ ระบบเดียวกันกับที่ใช้ใน รถแข่ง และรถสปอร์ตซึ่งมีรอบ เครื่องยนต์ และสมรรถนะสูง ด้วยการติดตั้งท่อ ไอดีแบบคู่ และวาล์วไอเสียในแต่ละกระบอกสูบ ที่ส่งกำลังขับโดย เพลาลูกเบี้ยวคู่ ช่วยเพิ่มปริมาณไอดี ลดปริมาณไอเสียด้วยประสิทธิภาพการเผาไหม้ที่หมดจด สมบูรณ์แบบ ระบบชาร์จเทอร์โบช่วยเพิ่มปริมาณไอดีเข้าสู่กระบอกสูบ เป็นผลให้ได้แรงม้า และแรงบิดเพิ่มขึ้น พร้อมหัวฉีด น้ำมันเชื้อเพลิง ติดตั้งแนวตั้งที่จุดศูนย์กลางห้องเผาไหม้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้หมดจด ให้ไอเสีย สะอาดปราศจากมลพิษ

คอมมอนเรล ให้อัตราเร่งเต็มสมรรถนะในรอบต่ำ แรงบิดสูงสุดจาก 1,400 รอบต่อนาทีถึง 3,200 รอบต่อนาทีช่วยเพิ่มความคล่อง ตัวในการขับขี่ พร้อมให้อัตราเร่ง เต็มพลังได้ทุกสภาพการขับขี่อย่างไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะขับขี่ระยะใกล้ในเมืองหรือบนเส้นทางไกล ให้อัตราเร่ง ตอบสนองทันใจทันทีที่เหยียบคันเร่งด้วยพลังขับเคลื่อนสมรรถนะสูงตั้งแต่ออกตัวหรือขับเคลื่อนตามกันบน หน้าด่านทางด่วน แรงบิดสูงของเครื่องยนต์ จะช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ได้มากข้นด้วย

เครื่องยนต์ใหม่ D-4D แบบคอมมอนเรล ไดเร็ค อินเจ็คชั่น ประหยัดน้ำมันได้สูงสุด

1.ได้ระยะทางไกลกว่า และมลพิษต่ำกว่า หัวฉีดแบบคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่นฉีดน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ได้สมบูรณ์แบบที่สุด จึงประหยัดน้ำมันได้สูงสุดต่างจากหัวฉีดแบบเก่าที่ผสมน้ำมันกับอากาศในห้องเผาไหม้ที่ทำให้ สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่า ระบบอิเล็คทรอนิกส์ควบคุมองศาการเปิดปิดวาล์วและจังหวะการฉีดน้ำมัน พร้อมหัวฉีดสมรรถนะสูงแบบคอมมอนเรลไดเร็คอินเจ็คชั่นที่พร้อมทำงานเต็มประสิทธิภาพทุกสภาพการขับขี่
2.สมรรถนะของไอลักซ์ ไทเกอร์ใหม่ พิสูจน์แล้วว่า เหนือชั้นกว่ายี่ห้อใดในรุ่นเดียวกันหนึ่งในคุณสมบัติ โดดเด่นของไฮลักซ์ ไทเกอร์ใหม่ คือประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันได้สูงสุดซึ่งพิสูจน์แล้วจากหลากหลาย สภาพการขับขี่
3.เครื่องยนต์ใหม่แข็งแกร่ง ทนทานด้วยระบบ คอมมอนเรล เสียงเครื่องเงียบและสั่นสะเทือนน้อย ส่วนประกอบ เครื่องยนต์ 2KD-FTV ของไฮลักซ์ ไทเกอร์ใหม่ ทั้งเสื้อสูบ ข้อเหวี่ยง แข็งแกร่ง ทนทานสูง สายพานไทม์มิ่งและ ฝาครอบเรซินได้รับการออกแบบใหม่ให้ลดแรงสั่นสะเทือน พร้อมด้วยระบบคอมมอนเรลที่ช่วยลดเสียงและแรง สั่นสะเทือนจากการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ผลที่ได้คือเสียงการทำงานของเครื่องยนต์เงียบและสั่นสะ เทือนน้อยที่สุด ซึ่งแตกต่างไปจากเครื่องยนต์ดีเซลแบบ ไดเร็ค อินเจ็คชั่นธรรมดา
4.คอมมอนเรล ทำให้เครื่องยนต์สะอาดปราศจากมลพิษ ไอเสียควันดำมักเกิดกับเครื่องยนต์ดีเซลระหว่าง การสตาร์ทเครื่องหรือไต่ทางชันด้วยความเร็วต่ำ อันเป็นผลเสียต่อรถที่วิ่งตามหลัง และคนเดินถนน ไฮลักซ์ ไทเกอร์ใหม่ ลดปริมาณ ไอเสียควันดำให้เหลือน้อย จนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ปริมาณของไนโตรเจน ออกไซด์ และคาร์บอนไดออกไซด์จึงลดลงจนทำให้เป็นเครื่องยนต์ที่สะอาด ปราศจากมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
รายละเอียดของระบบคอมมอนเรล
คอมมอนเรลเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซล ที่ควบคุมการฉีดน้ำมัน เชื้อเพลิงใหี้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้ปั๊มแรงดันสูงเพื่อให้น้ำมันเชื้อเพลิงแตกเป็นฝอยละออง ผลลัพธ์ที่ได้

•เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้สะอาดหมดจดที่สุด
•ให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันได้สูงสุด ทั้งปราศจากเสียงดังรบกวน และแรงสั่น สะเทือน
•ให้เครื่องยนต์มีแรงบิดสูงสุดในรอบต่ำ ระบบควบคุมการฉีดน้ำมันเครื่องเชื้อเพลิงด้วยอิเล็คทรอนิกส์ในระบบคอมมอนเรล
1. ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิง ทำหน้าที่ปั๊มน้ำมันเข้าสู่ห้องเครื่องด้วยแรงดันสูง
=> ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงแตกเป็นฝอยละอองด้วยแรงดันสูง
2.คอมมอนเรล ทำหน้าที่กักเก็บน้ำมันที่มีแรงดันสูงแล้วจ่ายเข้าสู่หัวฉีด
=> การรักษาระดับแรงดันน้ำมันสูง และทำให้น้ำมันแตกเป็นฝอยละอองจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจ่าย น้ำมันเข้าสู่หัวฉีดในปริมาณที่เครื่องยนต์ต้องการ ตามสภาพของการขับขี่
3.ระบบควบคุมหัวฉีดด้วยคอมพิวเตอร์ ECU ทำหน้าที่ควบคุมการฉีดน้ำมันในปริมาณที่พอเหมาะโดยการ วัดจากรอบเครื่อง การปิดเปิดวาล์ว การหมุนเวียนอุณหภูมิของน้ำ และปัจจัยอื่นๆ
=> ให้สมดุลในการควบคุมแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงตามสภาพรอบเครื่องจากรอบต่ำจนถึงรอบสูง
4.ระบบหัวฉีด ทำหน้าที่ฉีดฝอยละอองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยการอัดแรงดันสูงจากคอมมอนเรลพร้อมส่งคำสั่ง ควบคุมอัตราการฉีดน้ำมันตามสภาพการขับขี่ ให้การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงในปริมาณและเวลาที่เหมาะสม ตามสภาพการขับขี่ มีการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงนำร่องก่อนการฉีดจริงในการจุดระเบิด
4.1 การฉีดน้ำมันเป็นฝอยละอองจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ได้ดี และสะอาดหมดจดที่สุด ทำให้ลดปริมาณควันดำจากท่อไอเสียได้มากที่สุด
4.2 ระบบการฉีดน้ำมันทดสอบ (Pilot Injection ) ที่ป้องกันการจุดระเบิดที่ล่าช้า จะช่วยทำให้
- ลดปริมาณไนโตรเจนออกไซด์ได้มากที่สุด
- ลดเสียงดังรบกวน และแรงสั่นสะเทือน
- เพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันได้สูงสุด
- ทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่าย

น้ำมันหอมระเหยปรับอากาศอโรม่า (Aroma Kit) ภายในรถยนต์

ในปัจจุบันนี้เราใช้ชีวิตบนท้องถนนกันมากขึ้น ซึ่งการที่ต้องอยู่ในรถเป็นเวลานานๆ จะทำให้เกิดความเครียด อ่อนเพลียและเหนื่อยล้า จึงขอนำเสนออุปกรณ์เสริมในรถยนต์ ที่จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นด้วยชุดน้ำหอมอโรม่า (Aroma kit) ชุดน้ำหอมระเหยปรับอากาศภายในรถยนต์แท้จากโตโยต้า เพื่อให้ตลอดระยะเวลาในการเดินทางของคุณ เต็มไปด้วยความหอมสดชื่นสดใส

อุปกรณ์บำบัดที่ใช้น้ำมันหอมระเหยกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน จากแนวคิดนี้เอง ทางโตโยต้าจึงได้ผลิตอุปกรณ์ในรถยนต์ขึ้นในชื่อ “ชุดน้ำหอมอโรม่า หรือ Aroma kit” เพื่อเพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่ของคุณ ช่วยบรรเทาความอ่อนล้าจากการทำงาน หรือ จากการขับรถเป็นเวลานานๆ ซึ่งการติดตั้งอุปกรณ์ชนิดนี้ก็ทำได้สะดวกง่ายดายเพียงแค่ต่อเข้ากับที่จุดบุหรี่หรือที่เสียบปลั๊ก 12 โวลต์ ในรถยนต์ หยดน้ำมันหอมระเหยลงบนแผ่นฟิลเตอร์ และเปิดสวิทช์ ให้อุปกรณ์ทำงาน โดยขดลวดความร้อนภายในอุปกรณ์จะส่งความร้อนไประเหยน้ำมันที่แผ่นฟิลเตอร์ให้หอมกระจายไปทั่วห้องโดยสารโดยสามารถปรับเร่งความแรงของน้ำหอมได้ 2 ระดับ คือระดับปานกลางโดยจะขึ้นเป็นไฟสีเขียว และระดับแรงโดยจะขึ้นไฟสีส้ม

น้ำมันหอมระเหยอโรม่า สกัดมาจากธรรมชาติแท้ๆ จึงมีความบริสุทธิ์ 100 % โดยมีกลิ่นให้เลือก 3 กลิ่นด้วยกัน คือ Orange Harmony (กลิ่นส้ม) ให้กลิ่นหอมสดชื่นอันคุ้นเคยของผลไม้อาทิ ส้ม เกรฟฟรุ้ต ช่วยให้รู้สึกสด ชื่น และเพิ่มความตื่นตัวมากขึ้นยามขับขี่ด้วยกลิ่นโรสแมรี่ของ Mint Fresh (กลิ่นมินต์) ซึ่งเป็นกลิ่นที่ช่วยปลุกให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง กระตุ้นความคิดเหมาะมากสำหรับวันทำงาน และสุดท้าย Smart Drive (กลิ่น Smart Drive) มีจุดเด่นพิเศษที่ช่วยแก้อาการเมารถ ด้วยกลิ่นหอมของเปปเปอร์มินต์ผสมยูคาลิปตัสและลาเวนเดอร์ที่ทำให้คุณรู้สึกสดชื่นตลอดเวลา

นอกจากกลิ่นหอมที่จะช่วยให้อากาศภายในรถของท่านสดชื่นขึ้นแล้ว สำหรับรูปลักษณ์ในการออกแบบก็ดีไซน์ที่มีความสอดคล้องสวยงามเหมาะสำหรับรถยนต์โตโยต้าอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นอุปการณ์เสริมที่ทันสมัยในรถยนต์ของคุณ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี คืนความสดชื่น ภายในรถยนต์ และให้ความรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

หากลูกค้าโตโยต้าท่านใดต้องการหรือสนใจอุปกรณ์ “ชุดน้ำหอมอโรม่า (Aroma kit)” นี้สามารถติดต่อได้ที่ บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (กรุงเทพฯ) ได้ทั้ง 3 สาขา

อุปกรณ์ “ชุดน้ำหอมอโรม่า (Aroma kit)” สามารถติดตั้งได้กับรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น ซึ่งชุดน้ำหอมอโรม่า 1 ชุดจะมีน้ำหอม 1 กลิ่น ราคาประมาณ 800 บาท (ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ราคาดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า (ELECTRIC POWER STEERING)


เป็นการปฏิบัติระบบบังคับเลี้ยวรูปแบบใหม่ ซึ่งทางโตโยต้าพัฒนาไปอีกขั้น ปัจจุบันได้บรรจุอยู่ในรถยนต์โตโยต้าด้วยกันหลายรุ่น สำหรับในประเทศไทย ณ ปัจจุบัน ได้แก่ YARIS, VIOS, COROLLA 2008 ระบบบังคับเลี้ยวแบบนี้ จะมีการทำงานด้วยพลังงานไฟฟ้า มีการทำงานที่แม่นยำ เบาแรงเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ และมีความรู้สึกว่าหนักขึ้น เมื่อความเร็วรถยนต์เพิ่มขึ้น พูดอย่างเข้าใจง่ายๆว่า พวงมาลัยแปรผันตามความเร็วของรถยนต์นั่นเอง

ชิ้นส่วนของระบบบังคับเลี้ยวนี้นั้น ชิ้นส่วนหลักก็คล้ายกับระบบบังคับเลี้ยวทั่วไป เพียงแต่ว่าชุดสร้างแรงดันไฮโดรลิค (ปั้มน้ำมัน) ไม่ว่าจะเป็น ตัวปั้มแรงดัน, ท่อแรงดัน, สายพาน และน้ำมันไฮโดรลิคไม่มี ทำให้ตัดภาระของเครื่องยนต์ หรือ การกินกำลังของเครื่องยนต์ได้อย่างมาก ด้านการทำงานจะมีมอเตอร์เป็นตัวทำงานโดยอาศัยพลังงานไฟฟ้า พร้อมกับเซ็นเซอร์ของการตรวจจับการเลี้ยว เพื่อให้เวลาทำการเลี้ยวนั้น จะได้สมบูรณ์และเที่ยงตรงที่สุด

สิ่งที่ได้จากระบบบังคับเลี้ยวประเภทนี้ คือ การบำรุงรักษาที่ต่ำ ไม่จำเป็นจะต้องบำรุงรักษาตามระยะทาง คือ มีการเปลี่ยนแปลงตามระยะทาง เช่น น้ำมันไฮโดรลิค, สายพาน และอื่นๆถูกตัดไป แต่ชิ้นส่วนหลักก็ยังมีอยู่ เช่น ลูกหมากคันชัก, คันส่ง, ยางกันฝุ่น นอกจากนั้น หากมีหารขัดข้องภายในระบบจะมีการแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามีการขัดข้องเกิดขึ้น แต่การที่จะมีการขัดข้องนั้น ถือว่ายากมาก ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของรถประหยัดได้เป็นอย่างมาก

สิ่งที่ได้ตามมาอีก คือ ลดปริมาณของเสียที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อนและอีกหลายๆด้าน เพราะทางโตโยต้าห่วงใยในสิ่งแวดล้อม ในอนาคตทางโตโยต้า คงจะมีการติดตั้งระบบบังคับเลี้ยวแบบไฟฟ้านี้ ในรถยนต์อีกหลายๆรุ่น อย่างแน่นอน

สำหรับรถยนต์ที่มีระบบบังคับเลี้ยวอย่างอื่น แล้วจะทำการเปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้านั้น ไม่สามารถกระทำได้เพราะจะมีระบบอิเล็กทรอนิคส์ เข้ามาเกี่ยวข้องกับระบบดังกล่าว อาจจะมีคำถามว่า ทำไมไม่บรรจุหรือตืดตั้งกับรถยนต์ทุกรุ่นของโตโยต้า การออกแบบในรถยนต์แต่ละรุ่นแต่ละแบบ แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในหลายๆด้าน ถึงแม้ว่าจะเป็นระบบบังคับเลี้ยวแบบใดในรถยนต์โตโยต้าก็ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ และเต็มประสิทธิภาพ เช่นเดียวกัน

ยางอะไหล่

ผู้ขับขี่หลายท่านอาจมองข้ามชิ้นส่วนอยู่ชิ้นหนึ่ง หรือไม่นึกถึงเลยก็ว่าได้นั่นก็คือ “ยางอะไหล่” หากเป็นรถเก๋งไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเพราะอยู่ภายในฝากระโปรงและมีวัสดุปิดทับอีก เวลาทำการตรวจสอบยางอะไหล่จะกระทำได้ยากกว่ารถยนต์ประเภทอื่น เลยถูกมองข้ามกันไป จริงอยู่ว่าขับขี่รถยนต์แล้วไม่เคยยางแตกเลย หรือ ทำการเปลี่ยนยางตามระยะที่กำหนดอยู่แล้ว 2 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ทำให้โอกาส ที่เกิดปัญหาเกี่ยวกับยางน้อยลง แต่ถึงอย่างไรผู้ขับขี่ต้องเอาใจใส่ยางอะไหล่ไว้บ้าง เผื่อว่าวันใดเกิดยางแตกขึ้นมากะทันหันจะได้หยิบใช้อย่างไร้ปัญหา หมายความว่า ยางอะไหล่ต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้ ไม่ว่าจะเป็นสภาพเนื้อยาง , ดอกยาง รวมถึงความดันลมยาง ( อันนี้สำคัญ ) ขึ้นชื่อว่ายางอะไหล่ จะถูกใช้ยามจำเป็นและชั่วคราวเท่านั้น ยกเว้นยางอะไหล่ที่เป็นลักษณะเช่นเดียวกับยางล้อเส้นอื่น ( กระทะล้อและยางเหมือนกัน )

สมมุติว่า เกิดยางแตกที่ล้อหลัง ก็ให้ทำการถอดเปลี่ยนตามวิธีการที่ระบุอยู่ในคู่มือการใช้รถเสร็จแล้วก็ให้ตรวจความดันลมยางด้วย ถ้าสามารถทำได้ เพราะมิฉะนั้นจะมีอาการอื่นตามมา เช่น อาการกระด้างกรณียางแข็ง หรือ ยวบยาบในกรณีลมยางอ่อน เป็นต้น หลังจากนั้นก็ให้นำล้อที่ชำรุดไปทำการซ่อมอย่างด่วนที่สุด เหตุผลก็คือว่า หากมีการชำรุดของล้ออื่นอีก จะไม่มีล้อเปลี่ยน ดังนั้น ควรรีบทำการซ่อมโดยเร็วที่สุดพร้อมกับใส่ลงไปยังล้อเดิม เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องยางอะไหล่

ในกรณีที่ล้อชำรุดนั้นเป็นล้อหน้า หลังจากทำการซ่อมแล้วจะต้องทำการถ่วงล้อด้วยทุกครั้ง มิฉะนั้นจะควบคุมพวงมาลัยไม่มั่นคง นั่นก็คือ พวงมาลัยจะสั้นไม่มีทางที่จะเป็นไปได้หากมีการปะยางแล้ว ล้อจะหมุนอย่าง “สมดุล” ดังนั้นจะต้องทำการถ่วงยางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเป็นล้อหลังจะไม่เกิดปัญหาเท่าใดนัก แต่ถึงอย่างไรก็ควรทำการถ่วงยางเพื่อความสมดุลในการหมุนของล้อ

สำหรับยางอะไหล่ที่เก่ามาก ก็ควรจะเปลี่ยนยางใหม่ ถึงแม้ว่าไม่เคยถูกใช้เลยก็ตาม ขึ้นชื่อว่ายางย่อมมีอายุการใช้งานอยู่แล้ว ตรงนี้ขอให้พิจารณากันไว้ด้วย กรณีซื้อรถใหม่ป้ายแดง ยางอะไหล่ ก็จะมีอายุเหมือนกับรถยนต์อย่างนี้คิดง่ายแต่ถ้าใช้มานานหลายปีแล้ว ต้องตรวจสอบที่ตัวยางถึงจะทราบ ควรมิควรแล้วแต่ท่านเจ้าของรถ

ยางอะไหล่ของรถกระบะหรือรถตู้ยิ่งต้องตรวจสอบ ถ้าไม่มีอุปกรณ์ล็อคยางอะไหล่ ยิ่งต้องดูบ่อยมิฉะนั้นอาจจะหายอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ทางที่ดีควรจะมีอุปกรณ์ล็อคยางอะไหล่ นอกจากนั้น หากติดตั้งอุปกรณ์ล็อคยางอะไหล่แล้ว ควรหล่อลื่นอุปกรณ์นั้นด้วย ประเดี๋ยวจะถูกใช้งานแล้วไขไม่ออก

การติดตั้งยางอะไหล่ก็สำคัญ ขอให้สังเกตตำแหน่งจุ๊บเติมลมแล้วหันไปทางทิศทางของการเติมลมได้อย่างสะดวก พร้อมกับ ให้เติมลมยางสูงกว่ามาตรฐานเล็กน้อย เพื่อให้ยางนั้นไม่เสียรูป และเมื่อต้องการใช้งานก็เพียงปล่อยลมยางออกง่ายกว่าที่จะเติมลมเข้าไป หากมีที่วัดความดันลมยางก็ให้วัดอยู่ในค่ามาตรฐานหรือเท่ากับล้ออื่นๆ ก็ได้ ท่านผู้ขับขี่ทุกท่านสามารถทำได้อยู่แล้ว ขึ้นชื่อว่ายางอะไหล่ ใช้ชั่วคราวเท่านั้นครับ

ยางกันโคลน คือ อะไร ?


คำว่า “ยางกันโคลน” คือ อุปกรณ์ของรถยนต์ชิ้นหนึ่ง ซึ่งคนส่วนใหญ่มิได้กล่าวถึง และมิได้ระบุอยู่ในแคตตาล็อก หรือ โบว์ชัวร์ อุปกรณ์ชิ้นนี้รถยนต์บางรุ่นก็มีโรงงานประกอบเลย บางรุ่นก็มีเพียงแค่สองชิ้น บางรุ่นอาจจะไม่มีการติดตั้งเลย ขึ้นอยู่กับเกรดรถยนต์นั้นๆ อีกอย่างหากมีการติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างเข้ากับตัวรถยนต์ จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องเอาอุปกรณ์ดังกล่าวออก ที่เป็นเช่นนั้น เพราะไม่สามารถติดตั้งเข้ากับตัวรถยนต์ได้ และที่ว่าอุปกรณ์บางอย่างนั้น ก็คือสเกิร์ต ไม่ว่าจะเป็นสเกิร์ตข้างและสเกิร์ตกันชนหลัง จะไม่สามารถใส่ยางกันโคลนกลับเข้าไปได้นั่นเอง

อุปกรณ์ทุกอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับตัวรถยนต์ที่มาจากโรงงาน แสดงว่าต้องเกิดประโยชน์อย่างแน่นอน และอุปกรณ์ยางกันโคลนนั้น หากมีการติดตั้งมาจะอยู่ทางด้านหลังของล้อแต่ละล้อ และแต่ละด้าน ป้องกันการกระด็นของสิ่งของและน้ำ ไม่ใช่ว่า มันคือ “ยางกันโคลน” จะป้องกันแค่โคลนหรือขี้โคลนเท่านั้น มันยังมีประโยชน์ทางด้านอื่นด้วย สำหรับเจ้าของรถที่สังเกตหรือมองไปที่บริเวณล้อ พบว่ามีอุปกรณ์บางอย่างอยู่ทางด้านหน้าของล้อเป็นแผ่นดักลม มิใช่ ยางกันโคลน แต่อย่างใด

ไม่ทราบว่าเคยขับรถยนต์ตามรถจักรยานยนต์ หรือ รถยนต์ (ปกติ) ที่ไม่มียางกันโคลนกันบางไหมครับ ในกรณีฝนตกหรือวิ่งผ่านน้ำจะสังเกตได้ว่า การกระเด็นของน้ำจะเลยมายังรถยนต์ของเราที่ขับตาม หากเป็นน้ำก็ไม่เท่าไหร่ ยังพอทน แต่หากเป็นวัสดุที่แข็ง ไม่ว่าจะเป็นก้อนอิฐ ก้อนหิน และอื่นๆ อาจทำให้กระจกรถยนต์มีปัญหาได้ หากลองสังเกตรถบรรทุกขนาดใหญ่ ที่ทีการติดตั้งยางกันโคลนที่มีขนาดแปลกๆใหญ่ๆนั้น ไม่ใช่ป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับรถยนต์ของเขาเอง แต่เป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับรถยนต์ของคนอื่น ไม่เพียงแต่จะมียางกันโคลนขนาดใหญ่แล้ว ยังมีพู่อยู่ทางด้านข้างของล้อแต่ละล้อ นั้นก็หมายความว่าป้องกันการกระเด็นของน้ำและสิ่งของที่จะไปทำให้เกิดปัญหากับรถยนต์คันอื่นได้อีกด้วย

สำหรับรถยนต์ของเราเองนั้น หากไม่มียางกันโคลน ลองนึกภาพดูว่า หากรถยนต์สะอาดอยู่ เมื่อมีการขับผ่านสิ่งสกปรก โดยที่ล้อรถยนต์ขับทับไปนั้น สิ่งที่กระเด็นมาติดรถยนต์ จะเป็นอย่างไร ท่านต้องทำความสะอาดใหม่อีกครั้ง สิ่งบางสิ่งมีกลิ่นที่รุนแรง เมื่อได้สูดดมแทบจะอาเจียนออกมา (คงไม่ต้องบอกนะครับว่าสิ่งนั้นจะเป็นลักษณะอย่างไร) แต่เมื่อมียางกันโคลนก็จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้หรือผ่อนหนักให้กลายเป็นเบาได้ เพราะสิ่งเหล่านี้จะถูกปิดกันด้วยยางกันโคลนนั่นเอง หากเป็นสิ่งของที่ล้างออกลำบาก เช่น ยางมะตอย, ปูนซีเมนต์, กาวต่างๆ และอื่นๆ ท่านต้องทำความสะอาดอย่างมากทีเดียว ดังนั้น รถยนต์ของท่านหากไม่มี หรือ ชำรุด ควรรีบทำการแก้ไข แล้วท่านจะพบว่ามีประโยชน์จริงๆ

จริงอยู่ รถยนต์บางรุ่น อาจที่ต้องทำสีเพิ่มเติม เพราะยางกันโคลนในแต่ละรุ่นผู้เขียนเชื่อว่าเป็นสีดำทั้งหมด แต่ถ้ารถยนต์ของท่านยางกันโคลนเป็นสีดำ ก็สามารถติดตั้งได้เลย หากท่านไม่ทำสีเพิ่ม ก็มิได้น่าเกลียดแต่อย่างใด เพียงแค่ไม่สวยงามหรือดูแตกต่างเท่านั้น ราคาที่จำหน่ายคงไม่สูงจนเกินไปนัก การซื้อใส่ก็แล้วแต่ท่านเจ้าของรถ ถ้าหากเป็นรถยนต์รุ่นเก่าที่เลิกผลิตไปแล้ว ก็หาทางดัดแปลงของรุ่นอื่นใส่แทนได้ ไม่ว่าจะเป็นของแท้หรือแม้กระทั่งของเทียมก็ตาม

ในรถยนต์ที่มีสเกิร์ตรอบคัน สังเกตได้ว่าจะไม่มียางกันโคลนให้ มิได้ผิดแปลกแต่อย่างใด การเกิดร่องรอยที่บริเวณตัวรถยนต์ ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะไม่มีอะไรปิดบังนั่นเอง และอีกอย่างในการที่จะติดตั้งยางกันโคลนนั้น ก็ไม่สามารถติดตั้งได้ ดังนั้นจึงต้องใช้งานอย่างนั้นไป

ยางกันโคลนเป็นอุปกรณ์ที่คนส่วนใหญ่มองข้ามกันไปนั้น หากคิดกันอย่างดีแล้วถือว่ามีประโยชน์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าอุปกรณ์อื่นเลย อย่างน้อยก็เป็นผลดีต่อรถยนต์ขอคุณและรถยนต์คันอื่นด้วย สำหรับรถยนต์ที่มีอุปกรณ์ดังกล่าวติดตั้งมา หากมีการถอดออกเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ไม่ว่าจะเป้นการใส่สเกิร์ตหรือโหลดเตี้ย ควรเก็บยางกันโคลนไว้ เผื่อวันหน้าต้องการติดตั้งกลับเข้าไปใหม่ จะได้ไม่เสียเงินซื้อใส่นั่นเอง หากต้องการสอบถามข้อมูลต่างๆ เพื่อเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ CALL CENTER โทร 02-9731268-9 ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ

ทำความสะอาดรถยนต์ด้วยตนเอง


ในกรณีที่รถยนต์ของท่านสกปรกเพียงเล็กน้อย ไม่ต้องถึงขนาดใช้น้ำจำนวนมากในการล้างรถ เพียงแค่เช็คก็เพียงพอแล้ว โดยที่ท่านทำความสะอาดได้ด้วยตนเอง ก็มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น

•ใช้น้ำในการทำความสะอาดน้อย
•ใช้อุปกรณ์ในการทำความสะอาดน้อย
•ใช้เวลาในการปฏิบัติน้อย
•ไม่มีน้ำเกาะตามชิ้นส่วนต่างๆของตัวรถ
•สามารถนำไปได้ทุกที่
•ฯลฯ
การทำความสะอาดรถยนต์ โดยใช้น้ำปริมาณน้อย จะช่วยประหยัดค่าน้ำ (ประปา) ได้ เพียงแค่น้ำ 1 ถัง ไม่น่าจะเกิน 10 ลิตร ผสมกับน้ำยาทำความสะอาดและเคลือบเงา ที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วไป ตามปริมาณที่กำหนด คนให้เข้ากัน จากนั้นให้นำผ้าที่สะอาดแช่ลงในน้ำ แล้วบิดให้หมาดๆ เช็ดรอบๆ ตัวรถ หากผ้าเช็ดสกปรก ก็นำลงซักใหม่ในถังเช่นเดิม ทำอย่างนี้เรื่อยไปจนทั่วทั้งคัน หรือ ไม่ก็ใช้ผ้าเปียกที่ผสมน้ำยาทำความสะอาดและเคลือบเงา เช็ดให้ทั่วทั้งคัน ทิ้งไว้จนเห็นเป็นคราบขาวๆจากนั้นให้ใช้ผ้านุ่มและสะอาดที่แห้ง เช็ดตามอีกครั้ง แล้วท่านจะพบกับความเงางามรอบคัน ไม่ว่าจะที่ตัวถังรถและกระจก นอกจากนั้นหากมีการใช้ปัดน้ำฝนในหน้าฝน หรือ ตัวรถยนต์โดนน้ำ จะเห็นได้ว่าจะมีน้ำเกาะที่ตัวรถยนต์น้อยลงเท่านั้นยังไม่พอ หากมีการใช้ปัดน้ำฝน จะมีการทำงานที่ดี และปัดให้สะอาด นอกจากนั้น หากมีสิ่งสกปรกเล็กน้อยมาติดที่ตัวรถ ก็จะเช็ดออกได้โดยง่าย

สิ่งที่กล่าวถึงนั้น สามารถกระทำได้โดยไม่ยากเย็นนัก และสามารถนำไปยังจุดหมายได้ เจ้าของรถบางท่านอยู่คอนโดฯ, แฟลต, อาคารชุด และอื่นๆ ก็ไม่มีปัญหา อุปกรณ์ที่ใช้ก็เพียงไม่กี่อย่าง ได้แก่ ถัง+น้ำ, ผ้าสะอาด, น้ำยาทำความสะอาดและเคลือบเงา เพียงแค่นี้ท่านก็ทำความสะอาดรถได้ สังเกตไหมครับว่า รถยนต์ของผู้บริหาร จะมีความเงางามตลอดเวลา ก็เพราะว่า พนักงานขับรถคอยทำความสะอาดตลอด ที่น่าสังเกต คือ ใช้น้ำเพียงแค่ 1 ถัง เท่านั้น

ถ้าหากรถยนต์ของท่านสกปรกมาก ก็ต้องใช้น้ำล้างทำความสะอาด หรือ ไม่ก็ไปยังสถานบริการล้างรถ เพราะที่เหล่านั้น จะมีแรงดันน้ำที่สูง, มีเครื่องดูดฝุ่น, มีลมแรงดันสูงเป่า เพียงแต่เราต้องเสียค่าบริการให้เขาเท่านั้นเอง

วันไหนหยุดงานอยู่ที่บ้าน ให้ตื่นแต่เช้ารับอากาศบริสุทธิ์ พร้อมกับการเช็ดรถ ถือว่าเป็นการออกกำลังกายดังโฆษณาที่ว่า “การทำความสะอาดบ้านถือว่าเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง” ช่วงเช้าอาจจะมีน้ำค้างเกาะอยู่บนตัวรถบ้าง ก็ให้เช็ดออกเสียก่อน แล้วเริ่มตามวิธีการดังกล่าวข้างต้น เพียงเท่านี้รถยนต์ของท่านจะสวยงามอย่างชัดเจน

ชิ้นส่วนของระบบเบรก ABS

น้ำมันเบรกเป็นของเหลวชนิดหนึ่ง สามารถดูดความชื้นได้ง่าย จะสัมผัสกับอากาศที่อยู่ในกระปุกน้ำมันเบรก เพราะว่าจะมีอากาศเข้าไปภายในได้ ผ่านทางรูหายใจ เมื่อมีการเบรก น้ำมันเบรกจะดูดซับไอน้ำจากอากาศ เพราะฉะนั้น จำนวนไอน้ำที่ผสมอยู่ในน้ำมันเบรก จะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่ใช้ และจึงทำให้จุดเดือดลดต่ำลง น้ำมันเบรกจึงกลายเป็นไอได้ง่ายเมื่อน้ำมันเบรกร้อน ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพในการส่งแรงดันไปยังผ้าเบรกต่ำลง และในบางครั้งเกิดฟองอากาศในระบบ จะทำให้เวลาเบรกเกิดอาการจมหาย ซึ่งการเบรกจะเกิดอันตรายอย่างมาก

ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก ก็เหมือนกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ซึ่งจะต้องมีการบำรุงรักษาตามระยะทางที่กำหนด หมายความว่า จะต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก รถยนต์โตโยต้าทุก ๆ 40,000 กิโลเมตร นั่นเอง นอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนของระบบเบรกด้วย เช่น ลูกยางเบรก, กระบอกเบรก, แม่ปั้มเบรก และอื่นๆ ถ้ารถยนต์คันนั้นมีระบบเบรก ABS ก็อาจทำให้ตัวสร้างแรงดันในระบบเบรก ABS เกิดการขัดข้องได้

เห็นมั้ยครับว่า น้ำมันเบรกมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะนำพาแรงเบรกส่งต่อไปยังชุดเบรกในการห้ามล้อ หรือ หยุดรถ คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า ขับรถแล้วไม่ใช้เบรก” เพราะฉะนั้นอย่ามองข้าม หรือ ละเลยน้ำมันเบรกนะครับ (จำเป็นจริง ๆ)

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกจะต้องทำการเปลี่ยนถ่ายทั้งระบบไม่ว่าจะมีระบบ ABS หรือไม่ก็ตาม และในการเปลี่ยนถ่ายจะต้องมีการบริการอย่างถูกวิธี ผู้ปฏิบัติจะต้องมีทักษะค่อนข้างดี และการปฏิบัติจะกระทำเพียงคนเดียวไม่ได้ (ยกเว้นใช้เครื่องมือพิเศษ) จะต้องมีอย่างน้อย 2 คน กล่าวโดยรวม ต้องอาศัย ผู้ชำนาญงานเป็นดีที่สุดครับ

เพิ่มเติม การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเบรกควรเลือกซื้อชนิดที่มีคุณสมบัติตามคู่มือการใช้รถกำหนดและเลือกที่มีสีใส เพราะสามารถสังเกตความสกปรกได้ง่ายกว่าชนิดที่มีสีเข้มครับ

แรงดันลมยาง

แรงดันลมมาตรฐานของยางรถยนต์ทุกรุ่น มีระบุไว้บนสติกเกอร์ที่ตัวรถยนต์หรือคู่มือประจำรถยนต์ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 28-32 ปอนด์/ตารางนิ้วสำหรับรถยนต์นั่ง การวัดแรงดันลมยาง ต้องใช้อุปกรณ์ตรวจเช็คแรงดันลมยางที่ได้มาตราฐานและวัดตอนที่ยางเย็นหรือร้อนไม่มาก ( ขับไปไม่เกิน2-3 กม. ) และไม่ควรใช้เพียงสายตาในการเดาแรงดันลมยางโดยดูจากการยุบตัวของ แก้มยางเพราะ แม้ลมยางจะอ่อนลง 10 ปอนด์/ตารางนิ้ว ก็อาจมองไม่เห็น ความแตกต่าง

หากละเลยการตรวจสอบลมยาง มักเกิดปัญหาแรงดันลมน้อย-ยางอ่อน ทำให้แก้มยางมีการบิดตัวมากและร้อนง่าย สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น และอัตรา เร่งลดลง จากแรงต้านการหมุนที่เพิ่มขึ้น และหากลมยางอ่อนมากๆ จะทำให้ โครงสร้างภายในเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และมีการลึกหรอบริเวณนอกซ้าย-ขวาของยางมากกว่าแนวกลาง

บางคนอ่อนแล้วอาจคิดว่า ถ้าอย่างนั้นเติมยางเกินไว้น่าจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องตรวจสอบบ่อยๆซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะแรงดันลมยางที่มากเกิน ไปทำให้ประสิทธิภาพการเกาะถนนลดลง จากหน้าสัมผัสที่ลดลง กระด้าง และถ้าลมยางแข็งมากๆ จะเลี่ยงต่อการระเบิด และมีการสึกหรอบริเวณแนวกลางมากกว่าริมนอกซ้าย-ขวา

เดินทางไกล เติมแรงดันลมเพิ่ม

ควรเติมแรงดันลมยางมากกว่าปกติ 2-3 ปอนด์/ตารางนิ้ว เพื่อป้องกันยางร้อนอันเนื่องมาจากการบิดตัวของแก้มยาง อาจตรงข้ามกับความคิด ที่ผิดๆที่ว่า เมื่อเดินทางไกลยางหมุนด้วยความเร็วสูงต่อเนื่อง ยางน่าจะร้อนและแรงดันเพิ่มขึ้นจากหลักการของก๊าชอากาศร้อนจะขยายตัว ทำให้แรงดัน ลมยางจากปกติ ซึ่งไม่ถูกต้อง

หากมีการลดแรงดันลมยางต่ำกว่าค่าแรงดันลมยางปกติในการเดินทางไกล โครงสร้างของยางมีโอกาสการเสียรูปสูง อันเนื่องมาจากการบิดตัวของ แก้มยางต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน และทำให้อุณหภูมิของยางสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเพิ่มโอกาสการเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากยางระเบิดได้ นอกจากนี้ยังทำให้ยางมีอายุการใช้งานสั้นลงมากอีกด้วย

วิธีที่ถูกต้อง คือ เมื่อเดินทางไกล ควรเติมลมยางมากกว่าปกติ 2-3ปอนด์/ตารางนิ้ว แรงดันลมที่เพิ่มขึ้นจะช่วยต้านการบิดตัวของแก้มยาง การบิดตัวของแก้มยาง การบิดตัวของแก้มยางน้อยลง ทำให้ไม่เกิดความร้อนมากเกินไปขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง ลดฌอกาสเลี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากยางระเบิด

**เมื่อเสร็จจากการเดินไกลแล้ว ก็ควรลดแรงดันลมยางมาเป็นแรงดันลมปกติ**

ยางอะไหล่ต้องพร้อม
ยางรถยนต์ยุคใหม่มีโอกาสรั่วน้อยมาก ถ้าไม่โชคร้ายเกินไปก็ไม่น่าเกิน1-2 ครั้ง/ปี ยางอะไหล่จึงมักไม่ค่อยได้รับความสนใจหรือตรวจสอบเหมือนยางเส้นที่ใช้งานจึงควรเติมลมยางอะไหล่ไว้มากหน่อย คือ 40 ปอนด์/ตารางนิ้วเมื่อต้องการใช้ยางอะไหล่ ถ้าแรงดันลมที่มีอยู่สูงเกินไปก็แค่ปล่อยออกให้เท่าปกติ

การบำรุงรักษายางรถยนต์


รถยนต์ที่สามารถวิ่งอยู่บนถนนได้อย่างสมบูรณ์นั้น ล้วนแล้วแต่ประกอบด้วยอุปกรณ์มีความสำคัญยิ่งทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์ เกียร์ เบรก ระบบช่วงล่าง และยาง รถยนต์

แต่วันนี้เราจะขอพูดเรื่องของยางรถยนต์ และวิธีการบำรุงรักษา เพราะยางรถเปรียบเสมือนรองเท้า ที่เราสวมใส่ ถ้ารองเท้าไม่พอดี อาจจะทำให้ผู้ใส่เกิดอาการเจ็บเท้าหรือเดินไม่ถนัด ทำให้เสียบุคลิกในการเดินได้ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ยางรถยนต์ เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนของรถยนต์ เพราะยางรถยนต์จะต้องหมุนไปตลอด เมื่อรถยนต์เคลื่อนที่ยางรถยนต์ทำหน้าที่ รองรับน้ำหนักรถ และน้ำหนักบรรทุก ลดแรงกระแทก และแรงสั่นสะเทือน ทำหน้าที่ส่งแรงม้าจากเครื่องยนต์ สู่พื้นผิวถนนและยึดเกาะถนนในการเข้าโค้ง ยางรถยนต์ จะมีประโยชน์และให้สมรรถนะสูงสุดนั้นขึ้นอยู่กับ การใช้งาน และการดูแลบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง ทำให้ผู้ใช้รถมีความปลอดภัย และประหยัดค่าใช้จ่าย อีกด้วย การตรวจยางในชั้นพื้นฐานที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ก็คือ เรื่องการวัดลมยางหรือการสูบลมยาง สาเหตุที่ต้องวัด หรือสูบ หรือเติมลมยางเข้าไปเนื่องจาก ยางรถยนต์ของรถแต่ละประเภท แรงดันของลมในยาง จะไม่เท่ากันซึ่งต้องดูถึงสภาพของรถที่ท่านใช้ด้วย อย่างเช่น รถยนต์นั่งต้องการความนิ่มนวลในการขับขี่ ส่วนยางของรถบรรทุก ต้องมีความสามารถในการรับ น้ำหนักบรรทุก นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงขนาดของยาง และจำนวนชั้นของผ้าใบ ถ้ายางที่มีจำนวนชั้นผ้าใบน้อย ถ้าเติมลมมากไป อาจจะทำให้ยางระเบิดขึ้นมาได้

ข้อควรปฏิบัติบำรุงรักษายางรถยนต์

1. ตรวจเช็คลมยางทั้ง 4 ล้อ อย่างน้อย อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
2. ควรสูบ หรือเติมลมยางมาตรฐานที่ทางโรงงานผู้ผลิตกำหนด (ขณะที่ยางเย็น)
3. การเพิ่ม หรือลดลงยางให้มีความสัมพันธ์กับน้ำหนักบรรทุก
4. เมื่อขับรถออกต่างจังหวัด หรือใช้ความเร็วสูง ควรเพิ่มลมยางมากกว่าปกติ 3-5 ปอนด์/ตารางนิ้ว
5. อย่าลดลมยางในขณะที่ฝนตกหรือวิ่งบนถนนเปียก เพราะอาจจะทำให้ การยึดเกาะถนนและประสิทธิภาพการรีดน้ำของดอกยางลดลงด้วย

เชื้อเพลิงเครื่องดีเซล


สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนมาก หรือ เกือบทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศไทย สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล จะมีให้เลือกอยู่ 2 ชนิด (ตามหัวจ่าย) มีดังนี้

1.น้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลหมุนเร็ว
2.น้ำมันเชื้อเพลิงไบโอดีเซล
ซึ่งทั้ง 2 ชนิด มีอัตราส่วนผสมของ เมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันไม่เท่ากัน แต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของรัฐบาล สำหรับ น้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลหมุนเร็ว ปัจจุบันทางรัฐบาลให้มีการผสม เมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันไม่ต่ำกว่า 1.5% แต่ต้องไม่เกิน 2% ซึ่งการที่กำหนดไว้อย่างนี้ ถือว่าเป็นการช่วยชาติในเรื่องของการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้มีราคาจำหน่ายที่ถูกลง พร้อมทั้งช่วยเหลือเกษตรกรอีกด้วย เช่นเดียวกันกับน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน ที่เรียกว่า “แก๊สโซฮอล์” ที่นำพืชผลทางการเกษตรมาผลิตเป็นเอทานอล ผสมลงในน้ำมันเบนซินอ๊อกเทนต่างๆ ดังที่ใช้กันอยู่ ณ ปัจจุบันนั่นเอง แต่น้ำมันดีเซลหมุนเร็วนั้น ที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ยังคงใช้หัวจ่ายว่าดีเซลเหมือนเดิม

ในด้านน้ำมันเชื้อเพลิงไบโอดีเซลก็คล้ายกับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว แต่มีการผสมของเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมัน ไม่ต่ำกว่า 4% แต่ไม่เกิน 5% ซึ่งเชื้อเพลิงประเภทนี้ จะมีราคาถูกกว่าดีเซลหมุนเร็ว ไม่ว่าการเลือกใช้งานแบบใด จะมีอัตราสิ้นเปลืองใกล้เคียงกัน ยกเว้นในเรื่องของราคาจำหน่าย ส่วนการเลือกใช้ก็แล้วแต่ท่านเจ้าของรถที่จะเติมประเภทไหน เพียงแค่บอกเจ้าหน้าที่บริการของปั้มน้ำมันนั้นๆ แต่ก็มีหลายสถานีที่ยังคงมีหัวจ่ายดีเซลเพียงแค่อย่างเดียว ซึ่งไม่ผิดกฎบังคับแต่อย่างใด การเข้าเติมคงจะต้องให้ตรงช่อง หากว่าสถานีนั้น มีเชื้อเพลิงเครื่องดีเซลหลายประเภท ถ้าเข้าเติมแล้วบอกว่า “ดีเซลเต็มถัง” อาจจะมีการผิดพลาดได้ ดังนั้น ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ดี ว่าต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างไร ก็มีบ่อยครั้งที่เครื่องยนต์ดีเซลเติมเบนซิน หรือ เครื่องยนต์เบนซินเติมดีเซล เป็นเพราะการเข้าจอดตรงช่องเติม ทำให้เข้าใจว่า เติมน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทนั้น นั่นเอง

แต่ยังมีน้ำมันดีเซลอีกประเภทหนึ่ง คือ ไบโอดีเซลชุมชน หรือ ไบโอดีเซล สำหรับเครื่องยนต์ทางการเกษตร ซึ่งเชื้อเพลิงประเภทนี้ไม่สามารถใช้ในรถยนต์ได้ จะใช้กับเครื่องยนต์ทางการเกษตรเท่านั้น โดยทางรัฐบาลได้กำหนด คุณสมบัติของเชื้อเพลิงประเภทนี้ไว้อยู่แล้ว

ส่วนทางด้านไบโอดีเซล B5 นั้น มีบางสถานีได้มีการจำหน่ายกันบ้างแล้ว แต่ทางรัฐบาลมี นโยบายว่า จะให้มีการจำหน่ายในปี 2554 ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์กำลังอยู่ในขั้นตอนทดสอบรถยนต์ดีเซล, เพื่อรองรับเชื้อเพลิง B5 หากผู้ที่จะใช้เชื้อเพลิงประเภทนี้ขอให้ศึกษาให้ดีก่อนก็จะส่งผลดีแก่รถยนต์ของท่าน หากยังไม่มีการประกาศเป็นทางการของผู้ผลิตรถยนต์ ไม่ควรเติมใช้งานอย่างเด็ดขาด ขอย้ำ อย่างเด็ดขาด เพราะส่งผลโดยตรงต่อเครื่องยนต์ของรถยนต์ ดังนั้น ไม่ควรเติม ถึงแม้ว่าจะมีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่าเชื้อเพลิงดีเซลหมุนเร็วก็ตาม

มีบางท่านได้ทดลองใช้ B5 แล้ว พบว่า ไม่มีผลใดๆ เลย ใช้ได้เหมือนปกติ บางท่านก็บอกว่า อัตราเร่งสู้ดีเซลหมุนเร็วไม่ได้ บางท่านก็บอกว่าไม่ใช้ดีกว่า เพราะกลัวว่าไม่เห็นผลตอนนี้ แต่อาจจะออกอาการในอนาคต ซึ่งก็ยังไม่มีใครกล้าฟันธงว่า สามารถใช้ได้หรือไม่ คงต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ดังนั้น ในการเลือกใช้ ขอให้พิจารณาให้ดี เพื่อรถยนต์ของท่านมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved