Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

มาสด้าแรงครองมาเก็ตแชร์ 13 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายเดือน 7 ก้าวกระโดดทะลุ 7 พันคัน



    ปิกอัพสไตล์เก๋ง บีที-50 ฮีโร่ขวัญใจมหาชนมาแรงทะลุเกือบ 3,000 คัน
    ยอดขาย เดือนแรแรงทะลุ 37,000 คัน เพิ่มขึ้น 57%
กรุงเทพฯ – ประเทศไทย20 สิงหาคม 2555 – บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยตัวเลขยอดขายรถยนต์มาสด้าที่กำลังพุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้ทำสถิติใหม่อีกครั้งด้วยยอดขายทะลุ 7,000 คันเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะรถเก๋งเล็กอย่างมาสด้าที่กลายเป็นรถยนต์ยอดนิยมของกลุ่มวัยรุ่นไปแล้ว ด้วยยอดขายสูงสุดถึง 3,340 คัน ส่วนที่กำลังมาแรงนับตั้งแต่เปิดตัว ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ นั่นคือ รถปิกอัพสไตล์เก๋งมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ ที่กวาดยอดขายเกือบ 3,000 คัน เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 273 เปอร์เซ็นต์

นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าตลาดจะเข้าสู่ช่วงของโลซีซัน แต่รถยนต์มาสด้ากลับได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้าเฉพาะเดือนกรกฎาคมของปี 2555 ที่ผ่านมา รถยนต์นั่งสปอร์ตน้องใหม่อย่างมาสด้าสปอร์ตแฮตช์แบค ประตู และเอลิแกนซ์ซีดาน ประตู ที่ยังคงร้อนแรงมียอดขายรวมทั้ง รุ่น มีจำนวนทั้งสิ้นถึง 3,340 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 52 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้ามีจำนวนทั้งสิ้น 763 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญรถปิกอัฮีโร่ มาสด้า บีที-50 โปรใหม่ ซึ่งมีการเติบโตสูงสุดถึง 273% มียอดขายจำนวนทั้งสิ้น2,959 คัน ซึ่งเดือนกรกฎาคมถือเป็นเดือนที่มาสด้าสามารถทำลายทุกสถิติของตัวเองลงอย่างราบคาบด้วยตัวเลขยอดขายสูงสุดถึง 7,065 คัน สูงสุดในประวัติศาสตร์การขายรถองมาสด้าในประเทศไทยตลอดกาล และมีอัตราการเติบโตสูงถึง 93 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะที่ยอดขายรถยนต์รวมของประเทศไทยในเดือนกรกฎาคมพิ่มสูงขึ้นถึง 130,766 คัน โดยมาสด้ามียอดขายสูงถึง 7,065 คัน สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในปีนี้ถึง 5.4%  โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมาสด้ามีจำนวน 3,340 คัน มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดถึง 11% ของยอดขายในตลาดบีคาร์โดยมียอดายรวมอยู่ที่ 31,167 คัน และรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ จำนวน 2,959 คัน สามรถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดเช่นเดียวกัน 5.7% จากยอดรวมของตลาดปิกอัพอยู่ที่ 52,085 คัน และรถยนต์นั่งมาสด้าจำนวน 76คัน สามารถครองส่วนแบ่งสูงสุดถึง 6.1% จากยอดขายรวมของตลาดซีคาร์อยู่ที่ 12,561 คัน
นอกจากนี้ยอดขายรถยนต์ของประเทศไทยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคมของปี 2555 ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 730,187 คัน และในจำนวนนี้เป็นยอดขายของรถยนต์มาสด้าสูงถึง 37,642 คัน สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูสุดถึง 5.2% โดยแบ่งออกเป็นตลาดบีคาร์เซ็กเม้นต์จำนวน 158,825 และเป็นยอดขายรถยนต์นั่งมาสด้าสูงถึง 21,404 ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดถึ 13.5และในตลาดรถปิกอัพมียอดรวมอยู่ที่325,707 และเป็นยอดขายของมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ สูงถึง 13,144 คัน สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้สูงสุดถึง 5.7% และในตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางมียอดรวมอยู่ที่ 59,179 คัน และเป็นรถยนต์นั่งมาสด้า3จำนวน 3,106 ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 5.2 เปอร์เซ็นต์”  นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวเสริม
"การที่เราสามารถทำสถิติยอดขายเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับ 3,000 คัน มาจนถึง 7,000 คัน ในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ของมาสด้า นอกจากการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดแล้ว การบริการหลังขายเป็นสิ่งสำคัญที่มาสด้ายึดมั่นมาโดยตลอด เราให้ความสำคัญอย่างมากกับการขยายเครือข่ายของศูนย์บริการทั่วประเทศ รวมทั้งคุณภาพของการบริการที่ต้องเป็นเลิศ และเหนือกว่าความคาดหวังของลูกค้า” นายยูกิ กล่าวเสริม
ทางด้านแม่ทัพการตลาด นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่ หลังการเปิดตัวแนะนำมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ จนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อรถปิกอัพของไทยเปลี่ยนไปจากเดิม และถือเป็นรถปิกอัพยุคใหม่ที่มาเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้ปิกอัพ และปิดช่องว่างระหว่างรถเก๋งกับรถปิกอัพ ส่งผลให้รถปิกอัพมาสด้าบีที-50 ได้รับกระแสความนิยมอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการผนึกรวม พลังสายพันธุ์สปอร์ต มาสด้าใหม่ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เสริมทัพเข้าสู่ตลาดทั้งแฮ็ชต์แบค ประตู และซีดาน ประตู ชูความโดดเด่นด้านดีไซน์ความเป็นสปอร์ตโฉบเฉี่ยวเหนือระดับและให้ความคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด พร้อมทั้งการปรับโฉมรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2ด้วยการเพิ่มออฟชั่นเบสต์อินคลาสและใส่อุปกรณ์มาตรฐานหลายรายการเพื่อเพิ่มความโดดเด่นและความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้รถยนต์มาสด้าทั้ง รุ่น สามารถครองใจผู้บริโภคได้อย่างเหนียวแน่น
ตารางยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้า มกราคม-กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2555 และปี พ.ศ. 2554
Model
กรกฎาคม 55
กรกฎาคม 54
เปลี่ยนแปลง%
ม.ค.-ก.ค. 55
ม.ค.-ก.ค.54
เปลี่ยนแปลง%
Mazda2
3,340
2,195
+ 52%
21,404
14,775
+ 45%
Mazda3
763
668
+ 14%
3,106
3,476
- 11%
Mazda BT-50
2,959
794
+ 273%
13,114
5,687
+ 131%
Mazda MX-5
2
1
+ 100
10
13
- 23%
Mazda CX-9
1
1
na
8
12
- 33%
ยอดรวม
7,065
3,659
93%
37,642
23,963
+ 57%

http://www.mazda.co.th        
      Zoom-Zoom เราใส่ความเป็นสปอร์ตลงไปในรถทุ

กคันที่เราผลิต

              2

สมาคมรถโบราณฯ ร่วมฉลอง 50 ปี สวนสามพราน จัดยิ่งใหญ่คาราวานเที่ยวนครปฐม ปีที่ 10



สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ยกขบวนรถโบราณและรถคลาสสิคกว่า 50 คัน ท่องเที่ยวจังหวัดนครปฐม ปีที่ 10 ภายใต้ชื่องาน โอ้งามสามพราน....ปานเสกสรรค์ หนุนทุกครอบครัวทำกิจกรรมร่วมกันช่วงวันหยุด สร้างเสน่ห์การท่องเที่ยวแบบย้อนยุค

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย จังหวัดนครปฐม จัดกิจกรรมคาราวานรถโบราณท่องเที่ยวนครปฐม ปีที่10 ภายใต้ชื่อ โอ้งามสามพราน....ปานเสกสรรค์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดนครปฐม พร้อมร่วมฉลองครบรอบ 50 ปี สวนสามพรานด้วย

คาราวานรถโบราณท่องเที่ยวนครปฐมเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปีต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 แล้ว เหมือนเช่นเคยที่สมาคมฯได้รับความร่วมมือจากสมาชิกนำรถโบราณและรถคลาสสิคหลากหลายรุ่นหลายยี่ห้อมาทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเป็นเสมือนหนึ่งวันพบปะสังสรรค์ของสมาชิก รวมถึงยังเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้สัมผัสและศึกษาเรื่องราวที่น่าสนใจของรถโบราณ

ขบวนคาราวานจะออกจากกรุงเทพฯ บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (สนามหลวง) ใช้เส้นทางถนนบรมราชชนนี - พุทธมณฑลสาย 4 และถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม ซึ่งตลอดการเดินทางในปีที่ผ่านมาได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้คนที่พบเห็นและชื่นชมความสวยงามแบบคลาสสิคทั้งตัวรถและเครื่องแต่งกายในยุคเดียวกันกับรุ่นรถนั้นๆ ถือเป็นเสน่ห์ของการเดินทางท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งเลยทีเดียว

ขวัญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ความพิเศษของกิจกรรมปีนี้ คือ การร่วมกิจกรรมฉลอง 50 ปีสวนสามพราน ที่ปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และน่าสนใจ โดยเฉพาะการอนุรักษ์วีถีไทยและสืบอดศิลปวัฒนธรรมสู่คนรุ่นหลัง

ยิ่งกว่านั้น  ผู้ร่วมคาราวานยังจะได้รับชมารแสดงช้าง และจระเข้จากฟาร์มจระเข้สามพราน  พร้อมเลือกชมและซื้อผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากชาวสวนช่วยสร้างรายได้แก่ชุมชนอีกทางหนึ่ง และที่ขาดไม่ได้คือการทำบุญร่วมกัน ซึ่งปีนี้สมาคมฯและสมาชิกจะร่วมบริจาคสมทบทุนแก่ศูนย์ฝึกอาชีพหญิงตาบอดสามพราน

รถพลังงานลม








ตาต้ามอเตอร์ บริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย ประกาศผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานลมในการขับเคลื่อน โดยจะทยอยนำส่งเข้าสู่โชว์รูมในปี พ.ศ. 2552 รถยนต์พลังลม หรือ AirCar นี้ ใช้การปล่อยอากาศจากระบบบีบอัดอากาศด้วยความดันสูง โดยอากาศที่ปล่อยออกมาจะทำหน้าที่หมุนเพลา ทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ โดยการเติมอากาศ สามารถเติมได้ตามสถานีอัดอากาศด้วยราคาไม่แพง โดยความเร็วสูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ประมาณ 200กิโลเมตรต่อการเติมอากาศหนึ่งครั้ง บริษัทผู้ออกแบบรถยนต์พลังลมคันนี้ คือ บริษัท MDI จากประเทศลักเซมเบิร์ก ซึ่งให้สิทธิบัตรแก่ตาต้าในการผลิตรถยนต์พลังลมในประเทศอินเดีย โมเดลแรกของตาต้า CityCAT ตั้งราคาไว้ประมาณ 400,000 บาท โดยตาต้าหวังไว้ว่าจุดเด่นของ CityCAT ที่ไม่มีการปล่อยมลพิษทางอากาศ และราคาไม่แพง จะทำให้รถพลังลมรุ่นแรกนี้ จะทำยอดขายได้ดีในตลาดอินเดีย

เคย มีผลงานวิจัย หรือจะเรียกว่าพยากรณ์ก็ได้ ว่าอีก 50 ปีข้างหน้า น้ำมันจะถูกขุดขึ้นมาใช้และหมดไป เรื่องดังกล่าว ไม่มีใครทราบว่าจะเป็นจริงหรือไม่ แต่ก็สร้างกระแส ตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติ หรือตามหลักการตลาดทั่วไป เมื่อสินค้าใดมีอยู่จำกัด แต่มีความต้องการสูงในตลาด ราคามันก็สูงมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่มาของการเก็งกำไร ของพวกกองทุนต่างๆ ด้านกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันหรือโอเปค ก็เมินที่จะเพิ่มกำลังผลิต ทำให้ประเทศที่ผลิตน้ำมันได้น้อย และไม่มีการผลิต ต้องหาซื้อมาใช้อย่างเดียว เดือดร้อนกันถ้วนหน้า กรณีดังกล่าวรวมพี่ไทยด้วย ก่อให้เกิดกระแสการใช้พลังงานทดแทนกันทั่วโลก มีนวัตกรรมยานยนต์รูปแบบใหม่ เกิดขึ้น เช่น รถที่ใช้พลังงานน้ำมันที่ผลิตจากพืช เช่น เอทานอล ที่ใช้ผสมน้ำมันก๊าซโซฮออล์ หรือไบโอดีเซลที่ผลิตจากน้ำมันปาล์ม ซึ่งไทยก็ใช้อยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งรถพลังงานไฟฟ้า รถพลังงานไนโตเจน รถพลังงานแสงอาทิตย์ จนถึงรถพลังงานลม ซึ่งแต่ละชนิด ก็ยังมีข้อดี และข้อจำกัดแตกต่างกันไป
สุดท้ายต้องบอกว่า ยังไม่รู้ว่าสมรรถนะของรถพลังงานลมจะเป็นอย่างไร เพราะยังไม่ได้ทดสอบ แต่เรื่องนี้ก็จุดประกายให้ทุกคนคิดเรื่องพลังงานใหม่ ทุกวันนี้ เราหนีการซื้อพลังงานน้ำมันที่เขาขายให้ราคาแพง ไปหาพลังงานอื่นๆ ทั้งก๊าซธรรมชาติ ที่ก็เป็นพลังงานใช้หมดไปเช่นกัน ส่วนเอทานอล หรือไบโอดีเซล ก็มีข้อจำกัด หากความต้องการใช้พลังงานสูงขึ้นมาก ทำให้เราต้องเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกพืชน้ำมันมากเช่นกัน ซึ่งสุดท้ายก็มีข้อจำกัด เพราะจะไปเบียดเบียนการปลูกพืชเพื่อใช้บริโภคของมนุษย์ ดังนั้นพลังงานลมอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดในอนาคตก็ได้







“เวสป้า” ส่ง “Matt Series” รุกตลาดพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ ฉลองสถิติยอดขายที่มีอัตราเติบโตต่อเนื่องตลอด 2 ปี พร้อมเปิดโฉมแคมเปญใหม่ “Scoot in Style”


    บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด  ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลี  เวสป้า และ พิอาจิโอ รายเดียวในประเทศไทย  ส่งเวสป้ารุ่นใหม่ล่าสุดที่จะสร้างความฮือฮาอีกครั้งกับรุ่น Vespa S 150ie “Titanium Matt Series”  พร้อมเผยแคมเปญใหม่“SCOOT IN STYLE”  มาเอาใจสาวกเวสป้า พร้อมเปิดตัวโชว์รูมเต็มรูปแบบอีก 24 แห่งทั่วประเทศในปี 2555  โอกาสนี้ทีมผู้บริหาร บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด โดย ประณิธาน พรประภากรรมการบริหารวิสุทธิ์ เตชะไพบูลย์กรรมการบริหาร และ พรนฎา เตชะไพบูลย์กรรมการผู้จัดการ ร่วมจัดแถลงผลประกอบการของบริษัทฯ พร้อมเผยแผนการตลาดในปี 2555   เมื่อวันอังคารที่ 7 สิงหาคม 2555 ณ ห้องบอลรูม 2 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ

พรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากการทำการตลาดนำเข้ารถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ยอดนิยมตลอดกาล เวสป้า เข้ามาลุยตลาดในประเทศไทยเข้าสู่ปีที่ 3 ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น บ่งบอกไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่อย่างชัดเจน กระแสตอบรับจากสาวกเวสป้ายังแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มียอดจัดจำหน่ายที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น    มาในปีนี้ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ส่งเวสป้ารุ่นใหม่ล่าสุด ดีไซน์หรู  คลาสสิก รูปลักษณ์แนวสปอร์ต โฉบเฉี่ยว เท่อย่างมีสไตล์สมกับเป็นสกู๊ตเตอร์ยอดนิยมอันดับ 1 ในฝั่งยุโรป กับรุ่น เวสป้า เอส 150 ไออี  ไทเทเนี่ยม แมท ซีรี่ส์   Vespa S 150ie “Titanium Matt Series”  สีเทาด้าน ลุคสปอร์ต โดดเด่นด้วยไฟหน้าทรงเหลี่ยม เครื่องยนต์ระบบหัวฉีด 150 ซีซี ลดอัตราการสิ้นเปลือง ส่งกำลังต่อเนื่อง และเสริมสมรรถนะในการขับขี่ ราคา 116,000 บาท และ Vespa GTV 300ie  สีโกโก้เย็น ชิ้นงานสุดอมตะของเวสป้าในอดีตกำลังจะถูกนำกลับมาฟื้นใหม่อีกครั้ง โดดเด่นด้วยสีโกโก้เย็น โฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใคร VESPA GTV 300ie "Vie della Moda" ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ดึงดูดเหนือกาลเวลา คงแบบฉบับความเป็นVespa ด้วยการวางตำแหน่งโคมไฟส่องสว่าง หน้าบังโคลน เช่นเดียวกับ แฮนด์บังคับเลี้ยว มาพร้อมเบาะสองที่นั่ง บุหนัง ECO-LEATHERสวยสง่า นั่งสบาย ถอดแบบงาน Vespa ยุคดั้งเดิมด้วยการแยกเบาะหน้า-หลังจากกัน พละกำลังจากเทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ ที่สุดของความแรง เร็ว เต็มสมรรถนะ ทุก


เส้นทางขับขี่ เครื่องยนต์ขั้นสูง 300 ซีซี เครื่องยนต์สูบเดียว หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ที่มาพร้อมแผงอุปกรณ์ Analog กึ่งสปอร์ต ขอบโครเมียม เบาะหนังชั้นดี อาจพูดได้ว่าเป็นสกู๊ตเตอร์สมบูรณ์แบบทั้งแรง สะดวกสบาย หรูหรา และมีคาแร็กเตอร์ในหนึ่งเดียว ราคาอยู่ที่ 345,000 บาทซึ่งในปี 2555 บริษัทฯ คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี พร้อมยอดขายเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้

            พรนฎา เตชะไพบูลย์  กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่า สำหรับกลยุทธ์การทำการตลาด ในปี 2555 บริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ตรงกับคอนเซปต์ Scoot in Style แนว MOD’s ที่เราวางไว้เพราะเรามองว่ายุคปัจจุบันเทรนด์ต่างๆ ย้อนกลับไปสู่สไตล์ย้อนยุค และเราคิดว่าผู้ขับขี่รถเวสป้าในยุค MOD’s นั้นเป็นบุคคลชื่นชอบในดนตรี, แฟชั่น ศิลปะ และการเข้าสังคม ซึ่งก็ไม่ต่างกับผู้ขับขี่รถเวสป้าในปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้จะสะท้อนบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลและเป็นเทรนด์สังคมเมืองที่ไม่ตายอยู่ได้ทุกยุคทุกสมัย  นอกเหนือจากนี้ทางเราจะมีการทำการตลาดโดยตรงกับทางลูกค้า ซึ่งจะมี Pop up Store โดยสามารถไปทำกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ กับลูกค้าในจังหวัดทั่วประเทศได้อีกด้วย ทั้งยังพัฒนาด้านบริหารลูกค้าสัมพันธ์, การเจาะกลุ่มสื่อออนไลน์, การให้บริการแก่ลูกค้ารวมถึงอุปกรณ์อะไหล่ต่างๆ  ไม่เพียงแต่เท่านี้ทางบริษัทฯ ยังเปิดตัวโชว์รูมเต็มรูปแบบใหม่ หรือ 3S SHOWROOM อีก มากกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ พร้อมให้บริการหลังการขาย  และรุกหนักกับแคมเปญ  “SCOOT IN STYLE”  เพราะมองว่าเวสป้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่ยานพาหนะทั่วไป แต่คนที่ขับขี่เวสป้านั้นคือ คนที่มีสไตล์ สะท้อนบุคลิกและเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของแต่ละบุคคล”

นอกจากนี้ เวสป้า ยังเตรียมจัด “Scoot in Style Exclusive Charity Party”  โดยให้ 5 ดีไซเนอร์คนดัง  หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภาปลาเข็ม-กรัชเพชร อิสสระ,  แก้ม-มลลิกา  เรืองกฤตยา หมู-จุฬาลักษณ์  ปิยะสมบัติกุล,  แอมป์-มาสิริ ตามสกุล  และ จก-ธนิกานต์ สุขวัฒนศิริ มาร่วมดีไซน์เวสป้าในแบบฉบับของตัวเองกับคอนเซปต์ Scoot in Style เพื่อประมูลนำเงินสมทบทุนการมอบหมวกนิรภัยให้แก่เด็กและเยาวชน ในโครงการ "Help safe one life by giving a child a helmet” ในวันพุธที่ 29 สิงหาคม 2555 เวลา 19.30 น ณ สตูดิโอ 61

ฮอนด้าเปิดตัว แจ๊ช ไฮบริดรุ่นแรกในรถซับคอมแพคท์ ราคาเพียง 768,000 กินน้ำมันเพียง 21.3 ก.ม.ต่อลิตร


* แจ๊ช ไฮบริด IMA ยนตรกรรมรักษ์โลก  รถไฮบริดรุ่นแรกของกลุ่มซับคอมแพคท์ประเทศไทย

*รับประกัน 5 ปี ทั้งระบบ ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์ควบคุม แบตเตอรี่ไฮบริด และระบบสายไฟไฮบริด แบบไม่จำกัดระยะทาง พร้อมรับสิทธิคืนภาษีรถยนตร์คันแรก

*ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ Eco Assist ระบบช่วยการขับขี่แบบประหยัดน้ำมันอย่างเต็มประสิทธิภาพ


26-7-2555    บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว แจ๊ซ ไฮบริด ยนตรกรรมไฮบริด IMA รุ่นแรกของกลุ่มซับคอมแพคท์ในประเทศไทย  เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนทันสมัย รักษ์สิ่งแวดล้อม ที่มาในคอนเซ็ปต์ "เงียบ" และ "ล้ำสมัย" แตกต่างด้วยกระจังหน้า ไฟหน้า และไฟท้ายแบบใหม่สไตล์ไฮบริด ครบครันด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ  Eco Assist  ระบบช่วยการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน มาตรวัดแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน เพิ่มสมรรถนะการประหยัดเชื้อเพลิงเต็มขั้น เพื่อให้ทุกการขับขี่โลดแล่นอย่างมีสไตล์


นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า " แจ๊ช ไฮบริด ที่เปิดตัวในประเทศไทยตัวนี้นับเป็นหนึ่งในนวัตกรรมของฮอนด้าที่ใช้เทคโนโลยี ไฮบริด ผสานการทำงานร่วมกับเครื่องยนตร์อัจฉริยะ i-VTEC ขนาด 1.3 ลิตร ทำให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ  เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความลงตัวสำหรับการใช้งาน เปั้ยมด้วยสมรรถนะ ขับสนุก ควบคุมได้ดั่งใจ ประหยัดน้ำมัน ใช้งานได้หลากหลาย มีพื้นที่ห้องโดยสารใหญ่กว่ารถในระดับเดียวกัน ราคาย่อมเยา และประการสำคัญยังเป็นรถไฮบริดที่ทุกคนก็สามารถเป็นเจ้าของได้
มร.ชิงโกะ นากามิเนะ หัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนา ฮอนด้า แจ๊ซ ไฮบริดใหม่ บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี จำกัด ประเทศญี่ปุ่นกล่าวว่า "เป้าหมายการพัฒนาแจ๊ซไฮบริด ใหม่ คือ การสร้างสรรค์รถยนตร์ขนาดซับคอมแพคท์ที่มีความลงตัวสำหรับการใช้งาน รวมถึงการปรับปรุงนวัตกรรมด้านเทคนิคและความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ฮอนด้า แจ๊ซ ไฮบริดได้ผสมผสาน 2 เทคโลโนยีเข้าไว้ด้วยกัน
ชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ IPU ขนาดกระทัดรัดและน้ำหนักเบา จัดไว้บริเวณพื้นห้องเก็บสัมภาระด้านหลังของตัวรถ ซึ่งสามารถปรับระดับได้หลากหลายรูปแบบ มีพื้นที่ใช้สอยตอบสนองการใช้งานและจัดเก็บสัมภาระได้อย่างเต็มที่

 
แจ๊ช ไฮบริด เครื่องยนต์  i-VTEC ขนาด 1.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 88 แรงม้า(ที่5,800 รอบต่อนาที) และมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 14 แรงม้า(ที่ 1,500 รอบต่อนาที) เครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุด 121 นิวตัน-เมตร (ที่ 4,500 รอบต่อนาที) และมอเตอร์ไฟฟ้าใฟ้แรงบิดสูงสุด 78  นิวตัน-เมตร (ที่ 1,000 รอบต่อนาที) โดยเครื่องยนต์จะทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อน และเสริมแรงด้วยพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการออกตัวและเริ่งแซง เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำคงที่ เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน และเข้าสู่ EV Mode โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่หลีกในการขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว ซึ่งในขณะที่เครื่องยนต์เข้าสู่  EV Mode จะไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ช่วงลดความเร็วหรือเบรก เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน ระบบจะนำพลังงานที่สูญเสียไปขณะที่เบรกมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า 

ส่งกลับคืนสู่แบตเตอรี่ไฮบริด เพื่อเก็บพลังงานไว้ใช้ต่อไป และเมื่อรถหยุด เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะหยุดทำงานอัตโนมัติ และเข้าสู่โหมด  Iding Stop เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน และลดมลพิษ เทคโนโยไฮบริดนี้จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึงประมาณ 21.3 กิโลเมตรต่อลิตร

แจ๊ช ไฮบริด  ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานสไตล์สปอร์ตใหม่ล่าสุด อาทิ กระจังหน้า ไฟหน้าไฟท้ายแบบใหม่ดีไซน์ไฮบริด คิ้วโครเมี่ยมฝากระโปรงท้าย ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ปุ่ม ECON ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ

หน้าจอแสดงข้อมูล MID  หน้าจอแสดงข้อมูลสถานะการทำงานของเมเตอร์ไฟฟ้า ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย เครื่องเสียงแบบโมดูลพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ  AUX กล่องเก็บของใต้เบาะนั่งหลัง

ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลางอเนกประสงค์ พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายกว้างขวาง รอบรับทุกรูปแบบไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะนั่งอัลตรา ซีท ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายโหมด เสริมความมั่นใจด้วยโครงสร้างตัวถังรถยนต์แบบ G-CON นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานด้วยถุงลมคู่หน้า Dual SRS และระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS  ระบบกระจายแรงเบรก EBD"


นอกจากนี้ ฮอนด้ายังรับประกันระบบไฮบริด ซึ่งประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์ควบคุม แบตเตอรี่ไฮบริด และระบบสายไฟไฮบริด โดยรับประกันทั้งระบบ เป็นระยะเวลาถึง 5 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง ฮอนด้า แจ๊ซ ไฮบริด ยังได้รับสิทธิคืนภาษีรถยนต์คันแรกด้วย

มีให้เลือก 4 สี สีขาวบริลเลียนท์ สีเงินอลาบาสเตอร์ สีเขียวเฟรชไลม์ และสีฟ้าเซรูเลียน ภายในเบาะสีดำ และสีน้ำเงินเข้ม 

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29” เดินหน้ารับเออีซี ดึงทุกแอพพลิเคชันพัฒนามาตรฐานจัดงาน



  “สื่อสากล” เปิดเกมรุกพัฒนามาตรฐาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29” เต็มรูปแบบ เปิดให้สื่อมวลชนลงทะเบียนร่วมงานผ่านระบบออนไลน์ 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม    30 กันยายนนี้ 

             ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป เปิดเผยว่า ผู้จัดมุ่งมั่นพัฒนามาตรฐานจัดงานอย่างต่อเนื่อง และการที่งาน MOTOR EXPO ได้รับรองจากสมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก หรือ UFI นับว่ามีส่วนผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางจัดแสดงและจำหน่ายรถยนต์แห่งภูมิภาคอาเซียน

สำหรับปีนี้นับเป็นปีที่ 2 แล้วที่ผู้จัดพัฒนาโพรแกรมซอฟท์แวร์ดูแลระบบฐานข้อมูลการลงทะเบียนสื่อมวลชนที่จะเข้าร่วมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29” ผ่านทางเวบไซท์www.motorexpo.co.th แบบเปิดออนไลน์ 24 ชั่วโมง หลังจากปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จมีสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศลงทะเบียนผ่านระบบดังกล่าวประมาณ 700 คน

“สื่อมวลชนทุกแขนงสามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม – 30 กันยายน 2555 ซึ่งหลังจากลงทะเบียนแล้วระบบตอบรับอัตโนมัติจะส่งข้อความไปยังอีเมล์ส่วนตัวและส่งSMS ไปยังหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ให้ไว้เพื่อยืนยันการลงทะเบียนเสร็จสมบูรณ์” ชลัทชัย กล่าว

นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารงาน MOTOR EXPO ด้วยแอพพลิเคชันที่หลากหลายผ่านอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น ไอโฟน สมาร์ทโฟน โทรศัพท์มือถือ (Andriod และ Blackberry) แทบเลท คอมพิวเตอร์ และโนทบุค

ยิ่งกว่านั้นเพื่อเตรียมพร้อมรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 ผู้จัดอยู่ระหว่างรวบรวมฐานข้อมูลสื่อมวลชนต่างประเทศในเขตภูมิภาคอาเซียนเพื่อเชิญร่วมงานปีนี้ เนื่องจากเล็งเห็นว่าMOTOR EXPO คือ งานแสดงยานยนต์เดียวในเมืองไทยที่มีศักยภาพสะท้อนภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ รวมถึงเป็นงานหลักที่หน่วยงานภาครัฐ นักวิชาการ และภาคเอกชนให้การยอมรับนำไปวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มตลาดรถยนต์ในปีถัดไป ซึ่งมั่นใจว่าภายในงานมีข้อมูลด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิกประชาคมอาเซียนและประชาชนในระดับมหภาคด้วย

อย่าพลาด..งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29" ณ อาคารชาเลนเจอร์1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2555 เวลาเปิด-ปิดงานวันธรรมดาเวลา 12.00-22.00 น.วันเสาร์/อาทิตย์และวันหยุดราชการเวลา 11.00-22.00 น. ปิดจำหน่ายบัตรเข้างานเวลา 21.00 น.ของทุกวัน

อีซูซุร่วมสนับสนุนงานวิจัยไทย-ญี่ปุ่น “นวัตกรรมไบโอดีเซลจากพืชที่ไม่ใช่อาหาร” เพื่อวงการยานยนต์


กลุ่มอีซูซุในประเทศไทย ร่วมกับภาคีภาครัฐ และปตท. สนับสนุนความร่วมมือทางวิชาการทย-ญี่ปุ่นในโครงการนวัตกรรมไบโอดีเซลทางเลือกใหม่จากพืชที่ไม่ใช่อาหาร” ร่วมทดสอบน้ำมันไบโอดีเซลจากต้นสบู่ดำ โดยใช้นวัตกรรมใหม่ล่าสุด Partial Hydrogenation ซึ่งมีศักยภาพที่จะนำมาใช้งานเชิงพาณิชย์ในยานยนต์เพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคงทางพลังงานของชาติในอนาคต
มร. เอช. นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ  บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า ท่ามกลางวิกฤตพลังงานที่เราต้องเผชิญอยู่ขณะนี้ การค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับพลังงานทางเลือกเป็นทางออกที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่าให้ความสนใจ อีซูซุในฐานะผู้นำด้านเครื่องยนต์ดีเซลของโลกเล็งเห็นความสำคัญของปัญหานี้ จึงให้การสนับสนุนโครงการ นวัตกรรมไบโอดีเซลทางเลือกใหม่จากพืชที่ไม่ใช่อาหาร” ซึ่งเป็นความร่วมมือทางวิชาการไทย - ญี่ปุ่นในการค้นคว้าวิจัยน้ำมันไบโอดีเซลทางเลือกจาก “ต้นสบู่ดำ” ที่น่าจะเป็นทางเลือกที่มีศักยภาพสูงในการใช้งานจริงในเชิงพาณิชย์ อีซูซุภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ โดยกลุ่มอีซูซุในประเทศไทยได้มอบเงินสนับสนุนทุนวิจัย พร้อมรถปิกอัพ “อีซูซุดีแมคซ์ สเปซแค็บ รุ่นใหม่หมด! และเครื่องยนต์อีซูซุซูเปอร์คอมมอนเรล 2500 ดีดีไอแก่ทีมวิจัยในการใช้ทดสอบประสิทธิภาพของไบโอดีเซลทางเลือกใหม่จากพืชที่ไม่ใช่อาหาร รวมทั้งช่วยเหลือด้านการทดสอบรถและเครื่องยนต์ซึ่งอีซูซุมีความเชียวชาญเป็นอย่างสูงเพื่อให้เกิดความมั่นใจสูงสุดตามมาตรฐานของอีซูซุ นอกจากนี้กลุ่มอีซูซุยังจัดเตรียมห้องปฏิบัติการทดสอบสารมลพิษสำหรับการประเมินผลรถที่ใช้ไบโอดีเซลทางเลือกใหม่จากพืชที่ไม่ใช่อาหารอีกด้วย เราหวังว่าการวิจัยน้ำมันไบโอดีเซลทางเลือกใหม่จากสบู่ดำนี้จะมีศักยภาพที่จะนำมาใช้งานเชิงพาณิชย์ได้จะส่งผลให้เกิดความมั่นคง และเสถียรภาพทางด้านพลังงานของประเทศไทยในอนาคตอันใกล้"
                            
โครงการ นวัตกรรมไบโอดีเซลทางเลือกใหม่จากพืชที่ไม่ใช่อาหาร” เป็นความร่วมมือทางวิชาการระหว่างไทยและญี่ปุ่นในการค้นคว้าวิจัยน้ำมันไบโอดีเซลจากต้นสบู่ดำ โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Partial Hydrogenation ในการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลคุณภาพสูง และมีต้นทุนไม่สูงนักภายใต้ความร่วมมือของภาคีภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) หน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน  กระทรวงพลังงาน  และสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น   ต้นสบู่ดำนี้เป็นพืชที่มีอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย เติบโตง่าย มีความทนทานต่อความแห้งแล้งและแมลงได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญไม่ไปกระทบห่วงโซ่อุปทานของอาหาร  เพราะเป็นพืชที่ไม่สามารถนำมาใช้รับประทานได้ ไบโอดีเซลทางเลือกใหม่จากสบู่ดำซึ่งผ่านกระบวนการ Partial Hydrogenation นี้ทำให้สามารถผสมกับน้ำมันดีเซลได้ในสัดส่วนมากกว่า 5% (B5) ซึ่งเป็นสัดส่วนการผสมของเชื้อเพลิงดีเซลทั่วไปในท้องตลาดปัจจุบัน

ไบโอดีเซลสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ได้ หากแต่ปัจจุบันต้นทุนการผลิตยังมีราคาแพงกว่าดีเซลจากปิโตรเลียม  แต่ละประเทศจะใช้วัตถุดิบในการผลิตที่แตกต่างกันตามลักษณะภูมิอากาศและภูมิประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นวัตถุดิบที่เกี่ยวเนื่องกับอาหาร เช่น ประเทศไทยผลิตไบโอดีเซลจากปาล์มเป็นหลัก  ดังนั้น “ต้นสบู่ดำ ซึ่งเป็นพืชที่ไม่สามารถใช้เป็นอาหารได้ จึได้รับความสนใจในฐานะพืชพลังงานที่สามารถ นำมาผลิตไบโอดีเซลเพื่อความยั่งยืนในอนาคต วามร่วมมือทางวิชาการไทย - ญี่ปุ่นในโครงการ นวัตกรรมไบโอดีเซลทางเลือกใหม่จากพืชที่ไม่ใช่อาหาร” จึงเป็นอีกหนึ่งความหวังใหม่เพื่อผลิตไบโอดีเซลที่มีคุณภาพที่สูงขึ้น และมีศักยภาพในการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในอนาคตอันใกล้  เนื่องจากมีต้นทุนการสร้างโรงงานหรือต้นทุนการผลิตอื่นๆ ที่ไม่สูงนัก อีกทั้งสามารถปรับเปลี่ยนจากโรงงานผลิตไบโอดีเซลอยู่เดิมได้ ซึ่งชุมชนต่างๆยังคงใช้ประโยชน์จากโรงงานแบบเดิมไว้ได้ นับเป็นการสร้างงานและความเป็นดีอยู่ดีของชุมชนตามวิถีอีซูซุ

เมื่อเร็วๆ นี้ นายบรมกช ลีนุตพงษ์ รองประธานกรรมการบริหาร “ไทยยานยนตร์ กรุ๊ป” ได้รับเกียรติเป็นผู้จับไปรษณียบัตร ให้แก่ผู้โชคดีที่จะได้รับรางวัลพิเศษ จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ รถยนต์โฟล์คสวาเกน รุ่นกอล์ฟ จีที 1.4 รถซีดานสปอร์ตคลาสสิค 4 ประตู มูลค่า 1,980,000 บาท กับรางวัลรถยนต์เฌอรี่ รุ่นบิ๊ก-บี รถตู้เอนกประสงค์ระดับหรู 14 ที่นั่ง มูลค่า 959,000 บาท ภายในงานพิธีจับไปรษณียบัตร “โครงการทายผลแชมป์ฟุตบอลยูโร 2012 ครั้งที่14” ของหนังสือพิมพ์ “ไทยรัฐ” ณ  สำนักงานหนังสือพิมพ์ “ไทยรัฐ” ซึ่งผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลดังกล่าว ได้แก่
1.คุณฉวีวรรณ เขมะสุริจันทร์โญ จากกรุงเทพฯ    รางวัลรถยนต์โฟล์คสวาเกน รุ่นกอล์ฟ จีที 1.4
2.คุณแก้วตา วงศ์สุวรรณกิต จากปทุมธานี    รางวัลรถยนต์เฌอรี่ รุ่นบิ๊ก-ดี

ทั้งนี้ทาง “ไทยยานยนตร์ กรุ๊ป” รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนโครงการ “ไปรษณีบัตรทายผลฟุตบอลยูโร ปี 2012” ของหนังสือพิมพ์ “ไทยรัฐ” นับเป็นโครงการที่ส่งเสริมและสนับสนุนกีฬาฟุตบอลให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และร่วมสร้างสีสันในการเชียร์ฟุตบอลยูโรให้มีความสนุกสนานมากขึ้น ทั้งได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนคนไทยเป็นอย่างดี โดยมีผู้ร่วมส่งไปรษณีบัตรสูงเกือบ 160 ล้านฉบับ นับเป็นหนึ่งในโครงการที่ประสบความสำเร็จสูงสุดสำหรับในปีนี้
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved