· ประกาศสร้างโรงงานแห่งใหม่ ด้วยเงินลงทุนกว่า 17,150 ล้านบาท ด้วยกำลังการผลิต 120,000 คันต่อปี
ฮอนด้าประกาศลงทุนเพิ่มกว่า 20,060 ล้านบาทในไทย สร้างโรงงานแห่งใหม่ที่จังหวัดปราจีนบุรีพร้อมขยายกำลังการผลิตที่อยุธยา
Posted by Contemporary industry
Posted on 00:39
· ประกาศสร้างโรงงานแห่งใหม่ ด้วยเงินลงทุนกว่า 17,150 ล้านบาท ด้วยกำลังการผลิต 120,000 คันต่อปี
· ลงทุนเพิ่มอีก 2,910 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตที่ โรงงานอยุธยาให้เป็น 300,000 คันต่อปี ในปี 2557
· ในปี 2558 เมื่อรวมกำลังการผลิตโรงงานทั้ง 2 แห่ง ฮอนด้าจะมีกำลังการผลิตรวมสูงถึ ง 420,000 คันต่อปี เพื่อรองรับการเติ บโตของตลาดรถยนต์ ในประเทศไทยและการส่งออก
กรุงเทพมหานคร – 6 กุมภาพันธ์ 2556 – บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้ าในประเทศไทย ประกาศแผนการลงทุนสร้ างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่มู ลค่า 17,150 ล้านบาทในจังหวัดปราจีนบุรี โดยโรงงานแห่งใหม่จะมีกำลั งการผลิต 120,000 คันต่อปี เริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดื อนกรกฎาคม 2556 นี้ และจะเริ่มเปิดเดินสายการผลิ ตได้ในปี2558 พร้อมทั้งประกาศขยายกำลังการผลิ ตในโรงงานผลิตรถยนต์ที่สวนอุ ตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มเป็ น300,000 คันต่อปีภายในต้นปี 2557 เมื่อรวมกำลังการผลิ ตจากโรงงานทั้งสองแห่งจะส่ งผลให้ฮอนด้ามีกำลังการผลิ ตรถยนต์โดยรวมที่420,000 คันต่อปี ในปี 2558
มร. ฮิโรชิ โคบายาชิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อปีที่ แล้ว ฮอนด้าต้องเผชิญกับความท้ าทายมากมายสืบเนื่องจากมหาอุ ทกภัยในปลายปี 2554 ที่ทำให้ต้องหยุดการผลิตที่ โรงงานอยุธยา แต่ด้วยความมุ่งมั่นของพนั กงานฮอนด้า ประกอบกับแรงสนับสนุนอย่างดีเยี ่ยมจากทุกภาคส่วนล้วนเป็นกำลั งใจให้สามารถกลับมาเดิ นสายการผลิตได้ในปลายเดือนมี นาคม 2555 และหลังจากนั้นภายในเวลาเพียง 9 เดือน ฮอนด้ามีการรุกตลาดด้วยการเปิ ดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ถึง 10 รุ่น ตลอดจนความสำเร็จของรถยนต์รุ่ นบริโอ้ อเมซ เหล่านี้ล้วนส่งผลให้ฮอนด้ าสามารถสร้างยอดจำหน่ายได้สูงสุ ดเป็นประวัติการณ์ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า พันธสัญญาของฮอนด้าที่มีต่ อประเทศไทยไม่เคยสั่นคลอน ทั้งยังทำให้กลับมาได้อย่างแข็ งแกร่งกว่าเดิม
"ฮอนด้าจะผลิตรถยนต์และชิ้นส่ วนยานยนต์เพื่อตลาดในอาเซียน โอเชียเนีย และประเทศต่างๆ ทั่วโลก การขยายการลงทุ นในประเทศไทยในครั้งนี้ เป็นการแสดงความมุ่งมั่ นในการเติบโตเคียงข้างสังคมไทย และยังเป็นการเพิ่มขี ดความสามารถในการผลิตเพื่อรองรั บการเติบโตในอนาคต รวมทั้งแนวโน้มความต้ องการรถยนต์ในประเทศที่เพิ่มขึ้ นอันเนื่องมาจากระดับรายได้ ของคนไทยที่เพิ่มสูงขึ้น และพร้อมตอบสนองความต้ องการรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ ประหยัดเชื้อเพลิงในตลาดโลก โดยฮอนด้าจะลงทุนสร้างโรงงานผลิ ตรถยนต์แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวั ดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุนกว่า 17,150 ล้านบาท พร้อมกับการเพิ่มการลงทุนเพื่ อขยายกำลังการผลิตของโรงงานผลิ ตรถยนต์ฮอนด้าที่จังหวัดอยุธยา" มร.โคบายาชิ กล่าว
ภายใต้แผนการดำเนินธุรกิ จระยะกลางในช่วงต่อไป ซึ่งจะสิ้นสุดปีงบประมาณในเดื อนมีนาคม 2560 ฮอนด้าตั้งเป้าหมายในการส่งต่ อความสุขให้กับลูกค้าทั่ วโลกมากถึง 39 ล้านคน ซึ่งประกอบไปด้วยลูกค้าผู้ใช้ รถจักรยานยนต์ 25 ล้านคน ลูกค้าผู้ใช้เครื่องยนต์ อเนกประสงค์ 8 ล้านคน และลูกค้าผู้ใช้รถยนต์อีก 6 ล้านคน ด้วยความมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิ ตภัณฑ์ที่มอบความพึงพอใจสูงสุ ดแก่ลูกค้า ด้วยความรวดเร็ว ในราคาที่ย่อมเยา และมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ท้ าทายนั้น ฮอนด้าต้องเพิ่มประสิทธิ ภาพการดำเนินงานในระดับโลก เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์ ยานยนต์ที่ดีที่สุด ในต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ โดยมีการปรับเปลี่ยนการดำเนิ นงานใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปพร้อมๆ กันใน 6 ภูมิภาคโดยแต่ละภูมิภาคจะมีส่ วนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการพัฒนา การแนะนำรถยนต์รุ่นเดียวกันในทุ กภูมิภาคในเวลาไล่เลี่ยกัน จะช่วยให้กำหนดภาพรวมการผลิ ตในระดับโลกได้ ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการจัดหาชิ้ นส่วน 2) ประยุกต์การออกแบบให้เข้ากับแต่ ละพื้นที่ เพื่อใช้วัตถุดิบ และโครงสร้างการผลิตที่มีอยู่ ในแต่ละท้องถิ่นให้มากที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของลู กค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิ ทธิภาพ 3) การปรับปรุงประสิทธิ ภาพและขยายขี ดความสามารถในการผลิต
"สำหรับโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้ าแห่งใหม่ ที่จังหวัดปราจีนบุรี เบื้องต้นมีมูลค่า 17,150 ล้านบาท ครอบคลุมเนื้อที่กว่า 1,600 ไร่ (ประมาณ 2.56 ล้านตารางเมตร) โดยมีพื้นที่อาคารสำนั กงานและอาคารโรงงาน 134 ไร่ (ประมาณ 214,000 ตารางเมตร) โรงงานแห่งใหม่นี้ จะมีกำลังการผลิต 120,000 คันต่อปี มีกำหนดเปิดเดินสายการผลิตในปี 2558 สร้างโอกาสในการจ้างงานประมาณ 2,500 อัตรา รวมพนักงานอัตราจ้างตามฤดูกาล” มร. โคบายาชิ กล่าว
ฮอนด้ามุ่งมั่นที่จะสร้ างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่นี้ ให้เป็นโรงงานที่มีเทคโนโลยีทั นสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชี ยและโอเชียเนีย โดยจะนำนวัตกรรมการผลิตอันล้ ำสมัยของโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้ าที่โยริอิ ประเทศญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้ ซึ่งจะช่วยลดเวลาในกระบวนการผลิ ตแต่ละขั้นตอนและเป็นมิตรต่อสิ่ งแวดล้อมมากขึ้น ตั้งแต่กระบวนการเชื่อมตัวถัง การพ่นสี ไปจนถึงการประกอบรถยนต์ให้มี ประสิทธิภาพสูงสุด จึงทำให้โรงงานผลิตรถยนต์แห่ งใหม่นี้เป็นโรงงานที่มีความก้ าวหน้าในการลดการปล่อยก๊าซคาร์ บอนไดออกไซด์ และมีระบบการใช้น้ำหมุนเวียน เพื่อลดการใช้น้ำในทุกขั้ นตอนการผลิตด้วย
“โรงงานแห่งใหม่นี้จะผลิ ตรถยนต์ซับคอมแพคท์ เพื่อรองรับตลาดที่มีแนวโน้มเพิ ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยฮอนด้าจะเดินหน้าเพื่อเพิ่ มกำลังการผลิตควบคู่ไปกับการเพิ ่มจำนวนรุ่น เพื่อตอบสนองความต้ องการของตลาดที่ขยายตั วในประเทศไทย รวมไปถึงป้อนตลาดต่างประเทศในภู มิภาคอาเซียน โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา กลุ่มประเทศในแถบทะเลแคริบเบียน และนานาประเทศทั่วโลก" มร.โคบายาชิ กล่าว
ในส่วนของโรงงานฮอนด้าในสวนอุ ตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันได้มีการปรับเพิ่มกำลั งการผลิตจาก 240,000 คันเป็น 280,000 คันต่อปี เมื่อสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยใช้เงินลงทุนขยายกำลังการผลิ ตในระยะแรกประมาณ 880 ล้านบาท เพื่อยกระดับเครื่องมืออุปกรณ์ และระบบต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังเตรียมเพิ่มการลงทุ นระยะที่ 2 ในเดือนเมษายนนี้ อีก 2,030 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้ นเป็น 300,000 คันต่อปีภายในต้นปี 2557
“เมื่อผนวกรวมการขยายกำลังผลิ ตของโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าที่ อยุธยาและโรงงานแห่งใหม่ที่ ปราจีนบุรีเข้าด้วยกัน ฮอนด้าจะมีกำลังผลิตรวม 420,000 คันต่อปี ในปี 2558 สำหรับสัดส่วนการจำหน่ ายในประเทศและการส่งออกอยู่ที่ 70:30 หรือผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศ 300,000 คันและส่งออกอีก 120,000 คัน” มร. โคบายาชิ อธิบาย
ฮอนด้ามองภาพรวมตลาดรถยนต์ ในประเทศไทยในปี 2556 ว่า จะสามารถคงยอดจำหน่ายได้ใกล้เคี ยงหรือต่ำกว่าปีที่แล้วเพียงเล็ กน้อย โดยคาดการณ์ยอดจำหน่ายไว้ประมาณ 1.2 ล้านคัน สำหรับฮอนด้าเอง ตั้งเป้ายอดจำหน่ายรถยนต์ ในประเทศไว้มากกว่า200,000 คัน
มร. โคบายาชิ กล่าวสรุปว่า “ในปี 2555 ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็ นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิ ภาคอาเซียน ทั้งยังเป็นตลาดที่สำคัญยิ่ งของฮอนด้า บทบาทของฮอนด้าจะไม่หยุดอยู่ที่ การเป็นบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ที่ มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าชาวไทยเท่ านั้น เรามุ่งมั่นในการสร้างสรรค์องค์ กรให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ในการเป็นองค์กรที่สังคมไทยต้ องการให้ดำรงอยู่ ควบคู่ไปกับการพัฒนาการดำเนิ นงานและขยายการลงทุนเพื่อให้ ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักเพื ่อการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนทั ้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก แผนการลงทุนครั้งสำคัญนี้ นับเป็นความท้าทายอีกครั้งที่ พนักงานฮอนด้าทุกคนพร้อมที่ จะเดินหน้าสู่ความสำเร็ จในอนาคตเคียงข้างไปกับการเติ บโตของสังคมไทย"
เอเอเอสฯ ผู้นำเข้ารถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัว รถสปอร์ตในตำนานที่ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยกับ 911 คาร์เรร่า 4 เอส ใหม่ล่าสุด - เบาขึ้น เร็วขึ้น และปราดเปรียวมากขึ้น
Posted by Contemporary industry
Posted on 00:36
บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (911 Carrera 4S) ซึ่งได้รับการสรรสร้างให้ออกมาเป็น 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) ใหม่ล่าสุดที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและศักยภาพเครื่องยนต์ที่เหนือชั้นและมาพร้อมกับจุดเด่นในเรื่องของความคล่องตัวว่องไว และมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ active all-wheel drive system ที่มาพร้อมกับระบบ PTM (Porsche Traction Management) อีกด้วย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เป็นแบบฉบับของปอร์เช่ ซึ่งเน้นที่ทางด้านหลังใน 911 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดนี้จะเป็นเสมือนเครื่องการันตีได้ถึงความคล่องตัวของรถที่เหนือชั้นไม่ว่าจะอยู่บนสภาวะท้องถนนในรูปแบบใดหรือในสภาวะอากาศใดก็ตาม 911 คาร์เรร่า 4 เอส (911 Carrera 4S) ใหม่นี้จะเต็มไปด้วยประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่คล่องตัวและเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม
ซึ่งในวันนี้เอเอเอสฯ พร้อมแล้วที่จะนำท่านสัมผัสกับอีกหนึ่งสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์จากปอร์เช่ ที่สรรสร้างและรวบรวมเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมาสู่ ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (911 Carrera 4S) คันนี้ได้อย่างใกล้ชิด และเมื่อซื้อรถยนต์ ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) และ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (911 Carrera 4S) ใหม่จากทาง เอเอเอสฯ ท่านสามารถเลือกรับข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับการรับประกันจากโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีนาน 9 ปี และ Service Package นานถึง 4 ปี* (Terms & Condition Apply)
911 แบบขับเคลื่อนสี่ล้อใหม่ล่าสุดนี้จะเริ่มทำการเปิดตัวสู่ตลาดถึง 4 เวอร์ชั่นด้วยกัน นั่นคือ 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4), 911 คาร์เรร่า 4S (911 Carrera 4S) ทั้งในรูปแบบคูเป้ (Coupe) และคาบริโอเลต (Cabriolet) ซึ่งความเป็นสปอร์ตจะเต็มพิกัดเสมือนเวอร์ชั่นขับเคลื่อนล้อหลัง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบรถให้เน้นเรื่องน้ำหนักเบา ระบบกันสะเทือน (ช่วงล่าง) เครื่องยนต์ และระบบส่งผ่านกำลัง ซึ่งมีเพียงระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อเท่านั้นที่แตกต่างออกไป เครื่องยนต์จะมีประสิทธิการขับเคลื่อนในระดับสูง ทั้งสี่รุ่นมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่น้อยกว่ารุ่นเดิมถึง 16% เลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านี้รุ่น 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) ใหม่นี้จะมีน้ำหนักที่เบากว่าเดิมถึง 65 กิโลกรัมเลยทีเดียว
คุณสมบัติที่โดดเด่นและแตกต่างของ 911 แบบขับเคลื่อนสี่ล้อคือความกว้างของด้านหลังรถ หากเปรียบเทียบกับรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง ซุ้มล้อทางด้านหลังจะขยายกว้างขึ้นข้างละ 22 มิลลิเมตร ยางหลังจะมีความกว้างกว่าเดิม 10 มิลลิเมตร ไฟท้ายแดงที่เชื่อมยาวจากไฟท้ายข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ยังคงอยู่แต่ได้มีการพัฒนาออกมาในรูปแบบใหม่อีกด้วย
ประสิทธิภาพการทำงานอย่างอัจฉริยะจากปอร์เช่ (Porsche Intelligent Performance): ประสิทธิภาพการขับขี่ มาพร้อมกับอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำ
ทุกรุ่นจะติดตั้งระบบส่งผ่านกำลังหรือระบบเกียร์ธรรมดา 7 จังหวะมาเป็นมาตรฐานให้กับตัวรถ และยังสามารถเลือกติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ PDK เป็นอุปกรณ์เสริมได้ รุ่น 911 คาร์เรร่า 4 คูเป้ (911 Carrera 4 Coupe) มีพละกำลังแรงม้าสูงสุดถึง 350 แรงม้า (257 กิโลวัตต์) และสามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลาเพียงแค่ 4.5 วินาทีเท่านั้น (รุ่นคาบริโอเลตทำได้ในเวลา 4.7 วินาที) ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 285 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (รุ่นคาบริโอเลต: 282 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ซึ่งขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งด้วย อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงหากติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ PDK มาด้วยแล้ว สำหรับรุ่นคูเป้จะอยู่แค่เพียง 8.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 203 กรัม/กิโลเมตร) ส่วนรุ่นคาบริโอเลตอยู่ที่ 8.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 205 กรัม/กิโลเมตร)
ทั้งรุ่นคูเป้และคาบริโอเลตของ 911 คาร์เรร่า 4 เอส นี้ต่างมีเครื่องยนต์ขนาด 3.8 ลิตรแบบ boxer ติดตั้งทางด้านหลัง และสร้างพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 400 แรงม้า (294 กิโลวัตต์) ทำให้สร้างอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 4.1 วินาทีเท่านั้น (รุ่นคาบริโอเลต: 4.3 วินาที) ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 299 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (รุ่นคาบริโอเลต: 296 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงหากติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ PDK สำหรับรุ่นคูเป้อยู่ที่ 9.1 ลิตร/100 กิโลเมตร (อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 215 กรัม/กิโลเมตร) ส่วนรุ่น คาบริโอเลตอยู่ที่ 9.2 ลิตร/100 กิโลเมตร (อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 217 กรัม/กิโลเมตร)
ใหม่ล่าสุด: ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ all-wheel drive indicator, ระบบ Porsche Active Safe, หลังคาซันรูฟแบบ Sliding Glass Sunroof และแพ็คเกจ Sport Chrono
ใน 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) ใหม่นี้จะมีเมนูใหม่ที่แผงหน้าปัดเพื่อทำการแจ้งเตือนผู้ขับขี่ว่าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ PTM นั้นกำลังกระจายพละกำลังเครื่องยนต์อย่างไร ไม่เพียงเท่านี้ยังมีระบบ Adaptive Cruise Control (ACC) ให้เลือกติดตั้งได้ในทุกๆ รุ่น เพื่อควบคุมระยะห่างและความเร็วของรถอีกด้วย หากติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ PDK มาด้วยแล้วนั้นระบบ ACC จะเพิ่มฟังก์ชั่นความปลอดภัย Porsche Active Safe (PAS) เพื่อช่วยป้องกันการชนทางด้านหน้า ไม่เพียงเท่านี้ปอร์เช่ยังนำเสนอกระจกซันรูฟใหม่ล่าสุดให้ติดตั้งเป็นอุปกรณ์เสริมที่สามารถเลือกติดตั้งได้สำหรับ 911 คาร์เรร่า คูเป้ (911 Carrera Coupe) อีกด้วย หาก 911 ติดตั้งระบบเกียร์มาตรฐานและระบบ Sport Chrono Pack มาด้วยนั้นจะสามารถเพิ่มความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น หากอยู่ในโหมดสปอร์ต พลัส แล้วนั้นระบบจะทำการ double-declutches ระหว่างลดระดับเกียร์อีกด้วย
รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อใหม่นี้ออกมาทดแทนเจเนอเรชั่นเดิมที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งมียอดขายถึง 24,000 คันตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา ถือได้ว่ามีส่วนแบ่งการตลาดจากยอดขาย 997 เจเนอเรชั่นที่ 2 ถึง 34% เลยทีเดียว แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาของระบบขับเคลื่อนที่ยอดเยี่ยม นั่นคือ 911 ที่มาพร้อมกับการขับเคลื่อนสี่ล้อ อีกทั้งยังมีเครื่องยนต์ที่มาพร้อมกับระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรง (Direct petrol injection) ระบบเกียร์อัตโนมัติ (Porsche Doppelkupplung (PDK)) และระบบควบคุมการทรงตัว Porsche Traction Management (PTM) แบบไฟฟ้า ต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2011 ปอร์เช่ส่ง 911 คาร์เรร่า 4 จีทีเอส (911 Carrera 4 GTS) ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 3.8 ลิตรและมีพละกำลังสูงสุดถึง 408 แรงม้า (300 กิโลวัตต์) ออกมาด้วยเช่นกัน
สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาหรือสอบถามเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) และ ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (911 Carrera 4S) ได้จาก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรง พร้อมให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ ได้ที่ แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th
ไทยแลนด์ มอเตอร์ เฟสติวัล 2013 มหกรรมแสดงรถยนต์แห่งประเทศไทย มิติใหม่สู่ตลาดรถยนต์ต่างจังหวัดกับบริษัทรถยนต์และรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ประเดิมภาคแรก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ. ขอนแก่น
Posted by Contemporary industry
Posted on 00:34
6-2-2556 ไทยแลนด์ มอเตอร์ เฟสติวัล 2013 มหกรรมแสดงรถยนต์แห่งประเทศไทย มิติใหม่ครั้งแรกของไทย งานเดียวที่แสดงและจำหน่ายรถยนต์พร้อมรถจักรยานยนต์ รวบรวมจากค่ายรถยนต์ทั้งเอเชียและยุโรปรวมทั้งบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ บุกตลาดทั้ง 5 ภาคใน 7 จังหวัดของไทย ขานรับการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ในต่างจังหวัด พร้อมพัฒนางานแสดงรถยนต์ประจำภูมิภาคสู่เวทีการจัดงานแสดงและจำหน่ายยานยนต์รูปแบบมาตรฐานระดับสากล จับมือพันธมิตรบริษัทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ชั้นนำของไทย ประเดิมภาคแรก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1, ขอนแก่นฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาจังหวัดขอนแก่น 8-17 กุมภาพันธ์ นี้
ไทยแลนด์ มอเตอร์ เฟสติวัล 2013 จัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ณ ลานอีเดน ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นการผนึกกำลังร่วมกันของบริษัทผู้เชี่ยวชาญทางด้านรถยนต์และการจัดงานอีเวนท์ระดับชาติ โดย นายจตุพร ขันมณี และ นายวิลักษณ์ โหลทอง ร่วมกันเป็นประธานการจัดงาน พร้อมด้วยบริษัทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ชั้นนำ อาทิ ซูซูกิ, ฟอร์ด, อีซูซุ, นิสสัน, มาสด้า, โตโยต้า, ยามาฮ่า ฯลฯ รวมทั้งบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์
นายจตุพร ขันมณี ประธานการจัดงานร่วม ไทยแลนด์ มอเตอร์ เฟสติวัล 2013 เปิดเผยว่า “มหกรรมแสดงรถยนต์แห่งประเทศไทยในชื่อ ไทยแลนด์ มอเตอร์ เฟสติวัล 2013 นับเป็นการจัดงานแสดงและจัดจำหน่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ออกสู่ภูมิภาคเป็นครั้งแรกของไทย ซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับจากบริษัทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น ซูซูกิ, ฟอร์ด, อีซูซุ, นิสสัน, มาสด้า, โตโยต้า, ยามาฮ่า รวมทั้งบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ เข้าร่วมงาน
การจัดงานครั้งนี้จะเป็นการเปิดตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จากกรุงเทพและปริมณฑลให้ได้ขยายวงกว้าง สู่ตลาดต่างจังหวัด ซึ่งในปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยมีอัตราการเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สืบเนื่องจาก ผลของนโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรก และแต่ละบริษัทรถได้มีการเปิดตัวรถยนต์หลายรุ่นรวมทั้งรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นใหม่ที่ทั้งประหยัดพลังงาน สะดวกในการใช้งาน และมีราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้
จากการเติบโตที่ผ่านมาทำให้มองเห็นกำลังซื้อของผู้บริโภคทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงผู้บริโภคในต่างจังหวัดอีกด้วย เห็นได้จากการจัดงานไทยแลนด์ อีโคคาร์ 2012 ด้วยการสำรวจภายในงานพบว่ามีผู้บริโภคจากต่างจังหวัดให้ความสนใจ และเดินทางเข้ามาเลือกซื้อเลือกชมในงานนั้นเป็นจำนวนมาก
การจัดงานไทยแลนด์ มอเตอร์ เฟสติวัล 2013 มหกรรมแสดงรถยนต์แห่งประเทศไทย ถือเป็นการขานรับการเติบโตดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ตลาดรถยนต์ต่างจังหวัดมีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนั้นยังถือเป็นการอำนวยความสะดวกทำให้ผู้บริโภคในต่างจังหวัดได้เลือกชม-เลือกซื้อง่ายขึ้น โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภาคแรกของการจัดงาน ตั้งแต่วันที่ 8-17 กุมภาพันธ์ 2556
คณะผู้จัดงานขอขอบคุณผู้สนับสนุน บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ตรีเพชร อีซูซุ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, ธนาคารกสิกรไทย, บริษัท แมนทัส จำกัด, บริษัท ดันลอป ไทร์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท มาร์แชล แอร์โรพาท จำกัด, พีเค ออโต้ซาลอน, บริษัท แวนด้า แพค จำกัด รวมทั้งบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ และสื่อมวลชนทุกแขนงที่ได้ให้การสนับสนุนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การจัดงานครั้งนี้ เป็นอย่างดี”
นายวิลักษณ์ โหลทอง ประธานการจัดงานร่วม ไทยแลนด์ มอเตอร์ เฟสติวัล 2013 เผยว่า “การจัดงานไทยแลนด์ มอเตอร์ เฟสติวัล 2013 มีรูปแบบการจัดงานที่มีความทันสมัยและได้มาตรฐานสูง เป็นการพัฒนาการจัดงานแสดงรถยนต์และรถจักรยานยนต์ประจำภูมิภาคเข้าสู่รูปแบบสากลครั้งแรกของเมืองไทย โดยได้รับการสนับสนุนพื้นที่การจัดงานเป็นอย่างดีจาก บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ตลอดทั้ง 10 วันที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น แบ่งเป็น 2 ส่วนคือลานโปรโมชั่น ชั้น 1 และ ขอนแก่นฮอลล์ ชั้น 5 ภายในงานจะมีการแสดงรถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์ตกแต่งใหม่ล่าสุด พร้อมกิจกรรมส่งเสริมการขายโปรโมชั่นพิเศษ และยังได้ร่วมกับคาร์คลับของจังหวัดขอนแก่นในการจัดพาเหรดเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมครั้งนี้
นอกจากนั้นจะได้พบกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินดาราชื่อดัง พอร่ช ศรันย์, รุจ เดอะสตาร์, ตุ้ย เอเอฟ 3, ซานิ เอเอฟ 6 , ซาร่า เอเอฟ 3, เนส เอเอฟ 9 และดาราจากเวทีมิสทีน ไทยแลนด์, ไฮไลท์พิเศษโชว์ล้างรถจากดาราชื่อดัง “นก-อุษณีย์” ร่วมด้วยสาวข้างบ้านสุดเซ็กซี่ FHM GND, การเล่นเกมส์ลุ้นรับของรางวัลและกิจกรรมอีกมากมาย คณะผู้จัดงานเชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเท่านั้น แต่จะกระตุ้นให้ตลาดรถยนต์ต่างจังหวัดมีความคึกคัก ส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ”
ไทยแลนด์ มอเตอร์ เฟสติวัล 2013 จัดจะขึ้นอีกครั้งใน ภาคใต้ 19–28 เมษายน เซ็นทรัลพลาซา สุราษฏร์ธานี,ภาคตะวันออก 10-19 พฤษภาคม แปซิฟิค-พาร์ค ศรีราชา ชลบุรี, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9-18 สิงหาคม เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี, ภาคกลาง 7–17 กันยายน เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ, ภาคเหนือ 18–27 ตุลาคม เซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซา เชียงใหม่ และภาคใต้ 14-23 ธันวาคม เซ็นทรัลพลาซา หาดใหญ่ ผู้สนใจเข้าชมฟรีทุกงาน
รายละเอียดเพิ่มเติม www.thailandmotorfestival.com โทร. 02-508-8183
นอกจากนั้นจะได้พบกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินดาราชื่อดัง พอร่ช ศรันย์, รุจ เดอะสตาร์, ตุ้ย เอเอฟ 3, ซานิ เอเอฟ 6 , ซาร่า เอเอฟ 3, เนส เอเอฟ 9 และดาราจากเวทีมิสทีน ไทยแลนด์, ไฮไลท์พิเศษโชว์ล้างรถจากดาราชื่อดัง “นก-อุษณีย์” ร่วมด้วยสาวข้างบ้านสุดเซ็กซี่ FHM GND, การเล่นเกมส์ลุ้นรับของรางวัลและกิจกรรมอีกมากมาย คณะผู้จัดงานเชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเท่านั้น แต่จะกระตุ้นให้ตลาดรถยนต์ต่างจังหวัดมีความคึกคัก ส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ”
ไทยแลนด์ มอเตอร์ เฟสติวัล 2013 จัดจะขึ้นอีกครั้งใน ภาคใต้ 19–28 เมษายน เซ็นทรัลพลาซา สุราษฏร์ธานี,ภาคตะวันออก 10-19 พฤษภาคม แปซิฟิค-พาร์ค ศรีราชา ชลบุรี, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9-18 สิงหาคม เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี, ภาคกลาง 7–17 กันยายน เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ, ภาคเหนือ 18–27 ตุลาคม เซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซา เชียงใหม่ และภาคใต้ 14-23 ธันวาคม เซ็นทรัลพลาซา หาดใหญ่ ผู้สนใจเข้าชมฟรีทุกงาน
รายละเอียดเพิ่มเติม www.thailandmotorfestival.com โทร. 02-508-8183
บิ๊กบอสโยโกฯ แย้มดีลเลอร์ตื่นตัวแห่สมัคร YOKOHAMA CLUB NETWORK (YCN) “HI SPEED 2009” ทุ่ม 10 ล้านบาทขึ้นชั้นเป็น (YCN) แห่งที่ 2 ฟันธงยอดขายยางโตแน่
Posted by Contemporary industry
Posted on 00:32
YOKOHAMA CLUB NETWORK หรือ (YCN) ประสบความสำเร็จเกินคาด บิ๊กบอสค่ายยาง YOKOHAMA เผยดีลเลอร์หลายรายแห่ขอสมัครร่
มร.ยูทากะ ฟูรูกาวา กรรมการผู้จัดการ (Mr.Yutaka Furukawa : Managing Director) บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงศูนย์ “โยโกฮามา คลับเน็ตเวิร์ก (YOKOHAMA CLUB NETWORK)” ศูนย์ต้นแบบแห่งแรกภายใต้ การดำเนินธุรกิจของ “มิตรไทร์ แอ๊ดแวน จังหวัดเชียงใหม่” ที่เปิดดำเนินการเมื่อปลายปีที่ ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้แนวคิด “เน็ตเวิร์คที่เป็นพันธมิ ตรทางธุรกิจ ที่พร้อมเติบโตไปด้วยกัน” ว่า ประสบความสำเร็จเกินคาดหมาย ทั้งการตอบรับที่ดีจากผู้บริ โภคและมียอดจำหน่ายยางสูงขึ้น สะท้อนถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ ทางการตลาดของบริษัทแบบ 360 องศา ที่มีทั้งในรูปแบบ Push, Pull, Motor Sport Marketing เพื่อร่วมกันต่อยอดความสำเร็ จในการดำเนินธุรกิจของเครือข่าย YOKOHAMA อย่างยั่งยืน เพื่อต่อยอดทางธุรกิจได้อย่ างแข็งแกร่งและมั่นใจกับความเป็ นศูนย์ (YCN) พร้อมสนับสนุนการตกแต่งตัวทั้ งภายนอกและภายในตัวศูนย์ รูปแบบเฉพาะของ YOKOHAMA รวมถึงมอบเครื่องมือช่างที่ทั นสมัยต่างๆ เช่น เครื่องตั้งศูนย์ล้อรถยนต์ เครื่องมือช่างที่จำเป็น ซึ่งมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาทต่อ 1 ร้าน ขึ้นอยู่กับยอดการจำหน่ายยางเป็ นสำคัญ
“เราไม่ได้กังวลใจกับการบริ หารสต็อกยาง หากร้านผู้แทนจำหน่ายต่างๆ ที่จะถูกยกระดับเป็นศูนย์ (YCN) ให้ครบ 11 แห่งภายในปีนี้ มียอดจำหน่ายยาง YOKOHAMA สูงขึ้น เนื่องจากมีสินค้ารองรับไว้อย่ างพร้อมสรรพ โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นในส่วนนี้ ได้ผนวกไว้ในเป้ายอดขายรวมทั้ งปีของบริษัทตั้งไว้ 370,000 เส้นแล้ว และความสำเร็จในด้านต่างๆ ของศูนย์ (YCN) ที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้มีร้านผู้แทนจำหน่ายยาง YOKOHAMA กว่า 260 แห่งตื่นตั วและแสดงความจำนงขอเข้าร่วมธุ รกิจ เพื่อเปิดเป็นศูนย์ (YCN) หลายราย ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่ มจำนวนศูนย์ (YCN) มากกว่า 11 แห่งที่ตั้งเป้าไว้ โดยกำลังพิจารณาความพร้อมทั้ งในส่วนของบริษัทและคุณสมบัติร้ านค้าผู้แทนจำหน่าย YOKOHAMA”
อย่างไรก็ตาม YOKOHAMA ยังคงยึดนโยบายการทำตลาดที่ชั ดเจนคือ “Make Everything High Quality” เน้นคุณภาพผลิตภัณฑ์และการให้ บริการมากกว่าปริ มาณการขายและเพิ่มจำนวนผู้ แทนจำหน่าย โดยกำหนดคุณสมบัติเฉพาะร้านค้ าเครือข่ายที่จะเข้าร่วมธุรกิ จกับ YOKOHAMA ในรูปแบบนี้ มาเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี และมียอดการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ สม่ำเสมอ รวมทั้งให้ความร่วมมือกับบริษั ทเป็นอย่างดีในการขับเคลื่อนธุ รกิจไปด้วยกัน ซึ่งร้าน “HI SPEED 2009” (ไฮสปีด 2009) ตั้งอยู่ใกล้สามแยกการไฟฟ้า ริมถนนศรีนครินทร์ จังหวัดสมุทรปราการ นับเป็นศูนย์ (YCN) แห่งที่ 2 ที่เพิ่งเปิดดำเนินธุรกิจเมื่ อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นยอดจำหน่ายยางและมี ฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่ อเนื่อง
คุณพยงค์ วงศิริทรัพย์ เจ้าของร้าน “HI SPEED 2009” (ไฮสปีด 2009) กล่าวว่า จากที่ทำธุรกิจยางรถยนต์ YOKOHAMA มาร่วม 8 ปี มั่นใจว่า การตัดสินใจยกระดับมาตรฐานภาพลั กษณ์และการบริการให้การเป็น “HI SPEED 2009 YOKOHAMA CLUB NETWORK ในครั้งนี้ คาดว่ายอดจำหน่ายยาง YOKOHAMA ของศูนย์จะเติบโตเพิ่มขึ้นภายใน 3 ปีจากนี้ถึง 20% อย่างแน่นอน
“การลงทุนในครั้งนี้ใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท ทั้งตัวตึกและเครื่องมืออันทั นสมัยต่างๆ มั่นใจว่า ปีนี้ยอดขายจะเติบโตเพิ่มขึ้ นจากเดิมเกือบ 500 เส้นต่อเดือน เนื่องจากแบรนด์ YOKOHAMA เป็นผลิตภัณฑ์ที่คุณภาพ มีสมรรถนะสูง เป็นที่ยอมรับจากผู้ใช้ทั่วโลก สามารถดึงดูดลูกค้าให้เลือกใช้ ยางสมรรถนะสูงที่ให้ความคุ้มค่ ากับเงินทุกบาท ยิ่งผนวกกับมาตรฐานในการบริ การที่ครอบคลุมทั้งก่อนและหลั งการขายอย่างครบวงจรของเรา จะช่วยให้ขยายฐานลูกค้ากลุ่ มใหม่ได้เพิ่มขึ้น”
สำหรับ (HI SPEED 2009 YCN) มีพื้นที่ในการให้บริ การแบบครบวงจรที่เกี่ยวกั บยางรถยนต์ YOKOHAMA ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ ยนยางรถยนต์เส้นใหม่ ดูแลรักษายาง ซ่อมบำรุงระบบช่วงล่าง และตั้งศูนย์ถ่วงล้อ โดยมี 6 ช่องซ่อมบริการ พร้อมทีมช่างมืออาชีพที่มี ประสบการณ์สูงในการดูแลบำรุงรั กษารถยนต์มาอย่างยาวนาน รวมถึงการบริการหลังการขาย ด้วยแนวคิด “ส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลู กค้า ภายใต้ความถูกต้อง ทั้งการใช้งาน การดูแลบำรุงรักษา และบริการหลังการขาย”
“ธุรกิจยางรถยนต์บนถนนศรีนคริ นทร์มีการแข่งขันรุนแรง สังเกตได้จากตลอดเส้นทางจะมีทั้ งศูนย์ประเภทควิกเซอร์วิสแบรนด์ เนมและร้านจำหน่ายยางรถยนต์ มากมาย เปรียบเหมือน “ปลายิ่งเยอะ ล่อไซย่อมเยอะเป็นธรรมดา” ผมถือว่าคู่แข่งมีส่วนสำคัญที่ ทำให้เราพัฒนาตนเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิ ภาพในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้ องการลูกค้าได้อย่างครบถ้วน”
คุณพยงค์ วงศิริทรัพย์ กล่าวต่อว่า จากการดำเนินธุรกิจยางรถยนต์ YOKOHAMA ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา มีความมั่นใจว่า ธุรกิจจะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่ อเนื่อง เนื่องจากแบรนด์ของ YOKOHAMA เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เป็นยางสมรรถนะสูงที่ผู้ใช้ทั่ วโลกให้การยอมรับ สามารถดึงดูดลูกค้าให้เลือกใช้ ยางสมรรถนะสูงที่ให้ความคุ้มค่ ากับเงินทุกบาท คาดว่าภายใน 3 ปีนี้จะมียอดขายเติบโตได้ถึง 20% อย่างแน่นอน
เผยโฉม 20 สาวมั่น วัยใส ผ่านรอบคัดเลือก รอชิงมงกุฎ“มิสมอเตอร์โชว์ 2013
Posted by Contemporary industry
Posted on 01:36
บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้จัดงาน “ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34” หลังประชาสัมพันธ์ข่าวการเปิดเวทีการประกวด เพื่อเฟ้นหาสาวสวย มั่นใจ มีปฏิภาณไหวพริบ เฉลียวฉลาด และเป็นคนรุ่นใหม่ ในกิจกรรมการประกวด “มิสมอเตอร์โชว์ 2013” ล่าสุด ผู้จัดฯและคณะกรรมการฯได้ทำการตัดสิน เพื่อเฟ้นหาสาวมั่น ในรอบคัดเลือกกันไปแล้ว ณ ห้องจูปิเตอร์ 4-7 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา โดยมีผู้ผ่านเข้ารอบทั้งสิ้นจำนวน 20 คน ท่ามกลางบรรดาสื่อมวลชนและแขกผู้ทรงเกียรติที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน กันอย่างล้นหลาม
โดยในการประกวดฯได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรางคุณวุฒิ นำโดย คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และรองประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 , มร. ราล์ฟ บิสซิงเกอร์ Director Sales and Marketing จาก BMW (Thailand) Company Limited,คุณอัฉรา จิรศาสตร์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท คิวรอน คอเปอร์เรชั่น จำกัด, คุณวิชชา วัชรานันท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สปอร์ตโซไซตี้ จำกัด,คุณชญาดา งามสมกลิ่นAssistant Director of Sales บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด, คุณกชแก้ว เชวงศักดิ์สงคราม บริหารงานลูกค้าอาวุโสบริษัท บรอดคาซท์ไทย เทเลวิชั่น จำกัด และคุณคุณธนพงศ์ โกมลมิศร์บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และสาวสวยทั้งหมดนี้จะต้องเก็บตัว ประกวดในรอบตัดสินอีกครั้ง ในวันที่ 13 มีนาคม 2556 ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม ชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาสัมพันธ์พิเศษของงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2556 นี้ณ ชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
ซูบารุรุกหนักจัดกิจกรรมโรดโชว์ต่อเนื่อง พร้อมมอบส่วนลดสูงสุด 2 แสนบาท เมื่อสั่งจองรถยนต์ในงาน “Thailand Impressive Car 2013”
Posted by Contemporary industry
Posted on 02:08
นายอภิชัย ธรรมศิรารักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซู บารุอย่างเป็นทางการ เปิดเผยถึง แผนการตลาดในปี 2556 ว่า บริษัทฯ มีแผนรุกตลาดรถยนต์ ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการขาย การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ การจัดแคมเปญและโปรโมชั่นพิเศษ รวมถึงการจัดกิจกรรมโรดโชว์อย่ างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการรับรู้และความเชื่ อมั่นให้แก่ลูกค้า หลังจากปีที่ผ่านมาบริษัทได้ นำโปรดักซ์ไฮไลท์ SUBARU XV 2.0i PREMIUM รถครอสส์โอเวอร์เจเนอเรชันใหม่ มาจำหน่ายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 “The 29th Thailand International Motor Expo 2012” ปรากฎว่าได้รับความสนใจจากลูกค้ าเป็นจำนวนมาก รวมยอดจองกว่า 600 คัน ภายในเวลา 2 เพียงเดือน
ทั้งนี้ เพื่อให้แผนการตลาดของบริษัทเป็ นไปอย่างมีมีประสิทธิภาพ จึงเดินหน้าจัดกิจกรรมโรดโชว์ อย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทฯเตรียมไปร่วมออกบูทที่ งาน Thailand Impressive Car 2013 ซึ่งเป็นงานมหกรรมยานยนต์ที่ รวบรวมค่ายรถยนต์ชั้นนำ เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาสั มผัสถึงนวัตกรรมที่ทันสมัย รวมทั้งความโฉบเฉี่ยวและศั กยภาพของรถยนต์ซูบารุอย่างใกล้ ชิด ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นที่ศูนย์ การค้าเซ็นทรัลพลาซา บางนา ระหว่างวันที่ 1 – 7 กุมภาพันธ์ 2556 ชั้น 1 บูท A1 ,ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ปิ่นเกล้า ระหว่างวันที่ 5 – 11 กุมภาพันธ์ 2556 ชั้น 1 บูท E2 และศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา พระราม 2 ตั้งแต่วันที่ 16 – 22 กุมภาพันธ์ 2556 ชั้น 1 บูท C2
สำหรับงาน Thailand Impressive Car 2013 ในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้นำรถยนต์ไปร่วมแสดง 3 รุ่น ประกอบด้วย Subaru XV 2.0i PREMIUM, Subaru Outback 2.5i และ Subaru Legacy 2.5GT โดยบริษัทมอบสิทธิพิเศษสุดสำหรั บลูกค้าที่สั่งจองรถยนต์ ภายในงาน เช่น Subaru Outback 2.5i จะได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 200,000 บาท ซึ่งสิทธิพิเศษดังกล่าวมี จำนวนจำกัด
นอกจากนี้ ในเรื่องของบริการหลังการขาย ซูบารุมีโชว์รูมและศูนย์บริการ จำนวน 14 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็น กรุงเทพและปริมณฑล 7 แห่ง ในต่างจังหวัด 7 แห่ง ขณะที่ปี 2556 จะเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการอี ก 6 แห่ง รวมเป็น 20 แห่งครอบคลุมทั่วทุ กภาคของประเทศ ซึ่งสามารถรองรับการเติ บโตของบริษัทได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเป็นการเพิ่มช่ องทางการจัดจำหน่าย และบริการหลังการขายได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้น
ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ชูนโยบาย “พัฒนาคุณภาพ” ตลอดปี 2556 เร่งสร้างความพึงพอใจภายใต้คอนเซ็ปต์ “Hyundai Everywhere” พร้อมเปิดตัวรถใหม่อย่างต่อเนื่องหลายรุ่น ตั้งเป้ายอดขายเติบโตอย่างน้อยร้อยละ 10 ตอกย้ำความสำเร็จที่ยั่งยืนต่อเนื่องจากปี 2555
Posted by Contemporary industry
Posted on 02:02
- คอนเซ็ปต์ใหม่ปี 2556 “Hyundai Everywhere” ยกระดับความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนการขาย และบริการหลังการขาย ที่มี Quality หรือ “คุณภาพ” เป็นหัวใจ
- พร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ และไมเนอร์เชนจ์ รองรับความต้องการลูกค้า Premium อย่างต่อเนื่องคาดจำนวนรถยนต์ฮุนไดบนท้องถนนเมืองไทยทะลุ 20,000 คัน ภายในสิ้นปี
- ยกระดับความมั่นใจของลูกค้าให้สูงขึ้น ด้วยจำนวนเครือข่ายโชว์รูม และศูนย์บริการเพิ่มมากขึ้นเป็น 26 แห่ง ผุด National Service and Parts Center รองรับยอดขาย ไร้กังวลเรื่องบริการ
- มุ่งเน้นกิจกรรมเข้าถึงกลุ่มลูกค้า และกิจกรรมตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รถยนต์ และแบรนด์ฮุนไดเป็นที่รู้จัก และมีส่วนในการสร้างความสุขให้สังคม
1 กุมภาพันธ์ 2556 – บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมก้าวขึ้นสู่ปีที่ 6 อย่างมั่นใจด้วยยอดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องบนพื้นฐานของการเน้นคุณภาพในทุกขั้นตอน สรุปผลงานปี 2555 ด้วยยอดจำหน่ายรถยนต์ที่สูงถึง 5,010 คัน คิดเป็นอัตราเติบโตกว่าร้อยละ 10 โดยมียอดจำหน่ายของ All-New Hyundai Elantra มาช่วยผลักดันยอดขายให้โตขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5
มร. โยชิอากิ อิชิมูระ ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “จากการดำเนินการตามแนวทางการตลาดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ทำให้รถยนต์ฮุนไดเป็นที่ยอมรับและรู้จักเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทยทุกๆปีอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2555 บริษัทฯ ได้เดินตามแผนพัฒนาแบรนด์ด้วยนโยบายการสร้างความประทับใจ AAA หรือ Triple A ประกอบไปด้วยคำว่า – Assurance หรือ รับประกันความมั่นใจ – Accountability หรือ มุ่งสร้างความน่าเชื่อถือ และ – Aspiration หรือ ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีแรงบันดาลใจ ซึ่งเมื่อประกอบกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาดอีก 2 รุ่น ได้แก่ All-New Elantra ที่การันตีคุณภาพ และสมรรถนะด้วยรางวัล 2012 North American Car of the Year และ The New Grand Starex Premium ที่เรียกเสียงฮือฮาและความนิยมจากลูกค้ากลุ่ม Luxury MPV ได้อย่างล้นหลาม ก็ยิ่งทำให้รถยนต์ฮุนไดสามารถเข้าถึงผู้ใช้รถยนต์ได้ในระดับต่างๆอีกมากขึ้น ซึ่งพิสูจน์ได้จากยอดจำหน่ายที่ทะลุ 5,000 คัน ทำให้ตลาดรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกับรถยนต์ฮุนไดในตลาดโลก”
“อัตราความพึงพอใจของลูกค้าในปี 2555 ปรับตัวสูงขึ้น ไปพร้อมๆกับยอดจำหน่ายรถยนต์โดยรวม ทำให้ในปัจจุบันมีรถยนต์ฮุนไดในท้องถนนเมืองไทยกว่า 15,000 คัน ซึ่งเป็นอีกปีที่ ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) สร้างการรับรู้และการยอมรับในรถยนต์รุ่นหลักๆ รวมไปถึงรถยนต์ใน segment ใหม่ อย่าง All-New Hyundai Elantra” มร. อิชิมูระกล่าว
นับตั้งแต่บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด นำแบรนด์รถยนต์ฮุนไดกลับเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้งปลายปี 2550ยอดจำหน่ายของรถยนต์ฮุนไดพัฒนาขึ้นตามลำดับอย่างมั่นคง ถึงแม้ว่าในวันนี้รถยนต์ฮุนไดจะเน้นการเป็นรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมและมีคุณภาพในการใช้งาน รวมไปถึงสมรรถนะที่มากกว่าในสมัยก่อน แต่ความคุ้มค่าคุ้มราคายังคงเป็น “หัวใจ” ในการช่วยผลักดันให้รถยนต์ฮุนไดรุ่นต่างๆเข้าไปอยู่ในใจของผู้ใช้รถยนต์ระดับไฮเอนด์ในปัจจุบัน
ยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำปีของรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทย นับตั้งแต่ปี 2551 ถึง 2555 มีดังนี้
ปี 2551 มียอดจำหน่ายรวม 880 คัน
ปี 2552 มียอดจำหน่ายรวม 1,788 คัน
ปี 2553 มียอดจำหน่ายรวม 3,048 คัน
ปี 2554 มียอดจำหน่ายรวม 4,514 คัน
และปี 2555 มียอดจำหน่ายรวม 5,010 คัน
ซึ่งยอดจำหน่ายรถยนต์ในปี 2555 ที่ส่งมอบไปยังโชว์รูมต่างๆมีรายละเอียดแยกตามรุ่นดังต่อไปนี้ H-1 series มียอดจำหน่ายที่ 3,467คัน Grand Starex อยู่ที่ 820 คัน Tucson อยู่ที่ 381 คัน Sonata Sport อยู่ที่ 121 คัน Elantra อยู่ที่ 205 คัน และ H100 16 คัน ยอดจำหน่ายของรถยนต์รุ่นต่างๆนี้คือ “ภาพสะท้อน” การยอมรับในการทำการตลาดที่เป็น “เอกลักษณ์” ของรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทย ซึ่งมีพระเอกเป็นรถยนต์ Luxury MPV อย่างเช่น H-1 Series และ Grand Starex Series
มร. โยชิอากิ ให้รายละเอียดของนโยบายปี 2556 ว่า “ในปีนี้จะเป็นปีที่รถยนต์ฮุนไดยกระดับความพึงพอใจ และความมั่นใจให้ลูกค้าได้อย่างชัดเจน ผ่านนโยบายพัฒนาคุณภาพในหลายๆส่วน เพื่อให้ความนิยมในรถยนต์ฮุนไดแพร่หลายออกไปเพิ่มมากยิ่งขึ้น ตามคอนเซ็ปต์ “Hyundai Everywhere” ที่ในวันนี้ผู้ใช้รถยนต์ในเมืองไทยจะเห็นรถยนต์ฮุนไดรุ่นต่างๆบนท้องถนนมากขึ้น จนแทบจะเรียกได้ว่าในทุกๆที่ที่ไปจะต้องได้พบกับรถยนต์ฮุนได”
บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) นำนโยบายหลักของบริษัทฮุนได มอเตอร์ คอมปานี ที่ว่าด้วยการยกระดับคุณภาพเพื่อเร่งยกระดับความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า รวมทั้งเสริมสร้างความ “ไว้วางใจ” หรือ Assurance ให้มั่นคง และเพิ่มเติมความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์ ดังนั้นคุณภาพ หรือ quality จึงเป็นบทบัญญัติในการดำเนินแนวทางการขายและการตลาดเพื่อทำให้รถยนต์ ฮุนไดเป็นที่ประทับใจแก่ลูกค้ามากขึ้นในปี 2013 โดยนโยบายดังกล่าวมีประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้:
- นำเสนอรถยนต์ในขั้นตอนการจำหน่าย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุดไปใช้งานอย่างพึงพอใจ พร้อมข้อมูลจำเป็นต่างๆเกี่ยวกับตัวรถที่จะเพิ่มประโยชน์ในการใช้งานจริง
- เลือกสรรรถยนต์ที่มีสมรรถนะ และศักยภาพสูงมาตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถ เพื่อรองรับความหลากหลายของรสนิยมการใช้รถยนต์ เพราะฮุนไดต้องการเติมเต็มตลาดมากกว่าการแข่งขัน
- มุ่งยกระดับการบำรุงรักษาและซ่อมแซมรถยนต์ฮุนได ให้เป็นที่ประทับใจมากขึ้น เพราะผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดทุกคนคือลูกค้า VIP ของเรา
- เน้นสร้างความพึงพอใจให้กับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดมากขึ้น ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นการมอบสิทธิประโยชน์แก่ลูกค้า
- มุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมผ่านกิจกรรม CSR ที่มีประโยชน์อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ “เมาไม่ขับ...คุณทำได้” เพราะวันนี้รถยนต์ฮุนไดคือส่วนหนึ่งของสังคมไทย
“นอกจากนี้ เราจะเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้รับรู้ข้อมูลและข่าวสารเกี่ยวกับรถยนต์ฮุนไดมากขึ้น รวมไปถึงโอกาสที่ให้ลูกค้าทั่วไปได้สัมผัสรถยนต์ฮุนไดผ่านกิจกรรมทดสอบรถมากขึ้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจและเห็นภาพของประโยชน์ที่รถยนต์ฮุนไดสามารถมอบให้ในการใช้งานที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ซึ่งวิธีการนี้ได้สร้างความสำเร็จให้รถยนต์ฮุนไดมาทั่วโลก จนในวันนี้ยอดจำหน่ายรวมของกลุ่มฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ปอยู่ที่ 7.1 ล้านคันในปี 2012 ซึ่งเฉพาะรถยนต์ ฮุนไดมียอดจำหน่ายสูงถึง 4.4 ล้านคัน โดยในปี 2013 ฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ปตั้งเป้าจำหน่ายรถยนต์ไว้สูงถึง 7.41 ล้านคัน” มร. อิชิมูระกล่าว
Hyundai Veloster รถยนต์ที่มาในมาดไฮเอนด์สปอร์ตแฮชแบ็ค (1 + 2 ประตู) ที่ได้รับการออกแบบให้มีความพิเศษ และ Unique อย่างชัดเจน เพื่อสะท้อนรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง โดยยังคงเป็นรถยนต์ที่ขับขี่สนุกและเน้นสมรรถนะไม่ว่าจะเป็นในรุ่นธรรมดา หรือรุ่น GDI Turbo ก็ตาม สำหรับ Hyundai Sonata Sport มีการปรับโฉม Minor Change ให้มีบุคคลิกที่ทันสมัย และมีรสนิยมที่โดดเด่น สมกับความเป็นรถยนต์ D-segment ที่ Unique กว่ารถทุกรุ่นที่อยู่ในตลาดเมืองไทย ด้วยการออกแบบให้เป็นรถสปอร์ต และมีหลังคาแก้วที่ผสมผสานกันได้อย่าง “ลงตัว” สำหรับ Hyundai H-1 Series และ Grand Starex Series ในปีนี้จะมีการปรับโฉมภายนอก และอุปกรณ์ภายในต่างๆให้หรูหรามีระดับเพื่อขยายขอบเขตตลาดไปสู่ลูกค้ากลุ่มที่ใหญ่กว่าเดิม สมศักดิ์ศรีความเป็นPremium MPV ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของฮุนไดอย่างเต็มภาคภูมิ ซึ่งคาดว่ากองทัพรถยนต์ใหม่ในปีนี้จะสามารถผลักดันยอดรถยนต์ฮุนไดบนท้องถนนให้พุ่งเกินระดับ 20,000 คัน ไปได้ตามความคาดหมาย
กระหึ่มแล้ว !!! “แบงค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2013” “อาร์ต” สะใจ ได้ซิ่งรถลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์
Posted by Contemporary industry
Posted on 02:22
เปิดงานแล้วอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับเทศกาลของคนรักมอเตอร์ไซค์ “แบงค็อค มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2013” “อาร์ต – พศุตม์” ประเดิมสนามลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ โชว์ทักษะการขี่แบบจิมคาน่าปะทะ “เปิ้ล – ณัฐบูร”
เมื่อวันพุธ ที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ “ณัฐบูร – ณัฐพล ไตรณัฐี” สองผู้จัดงานงาน ได้จัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก พลตำรวจตรี พิชิตชัย ศรียานนท์ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 เป็นประธานในพิธี ซึ่งแม้จะเป็นเพียงวันแรกของงาน แต่ผู้จัดบอกว่าได้รับการตอบรับดีเกินความคาดหมาย
นอกจากนี้ในพิธีเปิด ยังมีการโชว์พิเศษจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจักรยานยนต์เกียรติยศ ก่อนที่หนุ่ม “พีท ทองเจือ” จะขับรถเอทีวีหรู “โพลาริส” ที่เอามาเปิดตัวในงานนี้เป็นที่แรก เข้าร่วมในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการด้วยเสียงที่กระหึ่มไปทั่วลานเซ็นทรัลเวิลด์ ตามด้วยไฮไลท์ของวันนี้ เมื่อหนุ่ม “อาร์ต – พศุตม์” นักแสดงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งไบเกอร์ตัวยง ขึ้นวาดลวดลายบนมอเตอร์ไซค์เรือนล้าน “วิคตอรี่” โชว์ทักษะการขับขี่แบบจิมคาน่าสุดเท่ให้สาวๆ ได้กรี๊ดกัน
“โอ้โห สนุกมากเลยครับวันนี้ คือการขี่แบบจิมคาน่าไม่ได้ใช้ความเร็วสูง แต่ต้องมีทักษะการควบคุมรถ การเลี้ยว การทรงตัว ซึ่งก็ท้าทายไปอีกแบบ ที่วันนี้สะใจมากคือได้มาขับรถบนลานหน้าเซ็นทรัล เวิลด์ (หัวเราะ) เพราะปกติพื้นที่ตรงนี้เราก็มาเดินเล่น หรือมาเดินดูงาน แต่คราวนี้ได้เอามอเตอร์ไซค์ขึ้นมาขี่เลย ก็เป็นความแปลกใหม่ที่รู้สึกดี คงมีไม่กี่คนที่มีโอกาสได้ทำยังงี้ เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตจริงๆ ใครอยากลองแบบผมบ้างก็เอารถมาลองได้นะครับ ถ้าถูกใจก็สมัครแข่งไปเลย ได้ลุ้นเงินรางวัลอีกต่างหาก”
โดยการแข่งขัน “BMF Gymkhana 2013” เป็นหนึ่งในกิจกรรมของงาน “แบงค็อค มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2013” ที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจ ร่วมแข่งขันทักษะการขับขี่แบบจิมคาน่า โดยสามารถนำรถจักรยานยนต์มาลองสนามได้ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม ถึง 2 กุมภาพันธ์ และสามารถสมัครที่หน้างานเพื่อลงแข่งขันในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ได้ทันที
งาน “แบงค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2013” สุดยอดมหกรรมเพื่อคนรักรถจักรยานยนต์ นอกจากค่ายรถ 14 ค่ายที่มาร่วมงานแล้ว ยังมีกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทอล์คโชว์ คอนเสิร์ตจากศิลปินดัง การประกวดแต่งรถ การแสดงรรถวินเทจหาดูยาก ให้ได้เติมเต็มความสุขกันทั้งวัน ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม ถึง 3 กุมภาพันธ์ 2556 เต็มพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตรทั่วเซ็นทรัล เวิลด์ !
หมวดหมู่ยานยนต์
- 014 Chevrolet Silverado HD (1)
- 10 เคล็ดลับขับปลอดภัยเมื่อน้ำท่วม (1)
- 2014 Volvo S80 (1)
- 2015 Lincoln MKC crossover (1)
- 2015 Volvo S60 T6 (1)
- 2015 Volvo V40 (1)
- 2016 Chevrolet (1)
- 2016Chevrolet Colorado (1)
- 2016 Toyota Fortuner (1)
- 2018 Mazda CX-5 (1)
- 2018 Toyota Rush (2)
- 2 Stroke Engine (1)
- 5 ประตู (6)
- กระบวนการผลิต (19)
- กระบอกสูบ (1)
- กราฟกำลัง (1)
- กราฟแรงบิด (1)
- ก้านสูบ (1)
- การขับรถอย่างปลอดภัย (1)
- การใช้ไฟอย่างถูกต้อง เมื่อฝนตกหนัก (1)
- การดูแลรักษารถด้วยตนเอง (2)
- การเติมลม (1)
- การเติมลม กับ ล้อแม็กซ์ (1)
- การถ่วงล้อ (1)
- การบำรุงรักษา (4)
- การบำรุงรักษาและตรวจเช็คประจำวันรถยนต์คู่ใจ ควรทำอย่างไร (1)
- การปลี่ยนขนาด ยางรถยนต์ (1)
- การเปลี่ยนพลังงานความร้อนเป็นพลังงานกลของเครื่องยนต์ (1)
- การเผาไหม้ (11)
- การเผ่าไหม้ (1)
- การวิเคราะห์ปัญหาเครื่องยนต์ (1)
- การหยุดรถ และการจอดรถ (1)
- การออกแบบ (10)
- แก๊สโซลีน (3)
- ข้อควรปฏิบัติทั่วไป ในการใช้รถยนต์ (1)
- ข้อควรปฏิบัติ เมื่อการขับขี่ในพื้นที่ลักษณะต่างๆ (1)
- ขับเคลื่อน (13)
- ขับอย่างไรเพื่อยืดอายุยาง (1)
- ข่าวยานยนต์ (4)
- ควรจะทำอย่างไรเมื่อยางรถระเบิดขณะขับรถอยู่ (1)
- คว้านเสื้อสูบ (2)
- ความรู้ (3)
- คอมมอนเรล (1)
- คอยล์จุดระเบิด (8)
- คำศัพท์น่ารู้ (1)
- เครื่องมือ (1)
- เครื่องยนต์ (64)
- เครื่องยนต์ 2 จังหวะ (1)
- เครื่องยนต์ 4 จังหวะ (1)
- เครื่องยนต์คอมมอนเรล (1)
- เครื่องยนต์ดีเซล (3)
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร (1)
- เครื่องยนต์ดีเซลตระกูล GD รุ่นใหม่ (1)
- เครื่องยนต์เบนซิน (1)
- เครื่องยนต์แบบโรตารี่ (1)
- เครื่องยนต์ร้อนแล้วดับ สตาร์ทติดยาก เกิดจากสาเหตุใด และแก้ไขอย่างไร (1)
- เครื่องยนต์เล็ก (2)
- เครื่องยนต์สตาร์ทติดยากตอนอากาศชื้นเกิดจากอะไร ? (1)
- เครื่องยนต์สันดาปภายใน (3)
- เครื่องยนต์หัวฉีด (1)
- เครื่องยนต์ EFI (2)
- เครื่องยนต์V8 (1)
- เคล็ดลับ (2)
- จอดรถให้ปลอดภัย (1)
- จักรยานยนต์ (1)
- จังหวะการฉีดเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ EFI (1)
- ชิ้นส่วนยานยนต์ (1)
- ชื่อชิ้นส่วนเครื่องยนต์ภาษาไทย และอังกฤษพร้อมรูป คลิปวีดีโอ (1)
- เชฟโรเลต (1)
- เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 (1)
- โช๊คอัพ (5)
- ซ่อม (21)
- ซ่อมเครื่องยนต์ (7)
- ซ่อมบำรุง (6)
- ซุปเปอร์คาร์ (3)
- ซูซุูกิ (2)
- ซูซูกิ ไฮบริด (1)
- โซลินอย (1)
- ดัดแปลง (3)
- ไดชาร์จ (2)
- ไดร์สตาร์ท (10)
- ไดสตาร์ท (12)
- ตรวจสอบเครื่องยนต์ (1)
- ตลับลูกปืน (2)
- ตัวอักษรบนยาง บอกอะไร? (1)
- ตีปลอก (1)
- โตโยต้า (21)
- โตโยต้า 2015 (1)
- ถุงลมนิรภัย (1)
- ที่นั่งเด็ก (5)
- เทคนิคการขับรถป้องกันเชิงอุบัติเหตุ (1)
- เทคนิคการใช้รถและการดูแลรถอย่างง่ายๆ (1)
- เทคโนโลยียานยนต์ (53)
- เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ (8)
- เทอร์โบ (1)
- เทอร์โบแปรผัน (7)
- น้ำมันเชื้อเพลิง (14)
- น้ำมันดีเซล (6)
- น้ำมันเบนซิน (4)
- นิตยสาร (3)
- นิสสัน (11)
- บำรุงรักษาเครื่องยนต์ (1)
- บีเอ็มดับเบิ้ลยู (1)
- เบรค (22)
- เบาะรถยนต์ (5)
- เบาะสำหรับเด็ก (5)
- แบตเตอรี่ (3)
- แบรนด์รถยนต์ (1)
- แบริ่ง (1)
- ไบโอดีเซล (2)
- ประกอบเครื่องยนต์ (5)
- ประกอบรถยนต์ (13)
- ประดับยนต์ (5)
- ประเภทรถยนต์ (1)
- ปอร์เช่ (2)
- ปัญหารถยนต์ (1)
- ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ 2015 (1)
- ปิกอัพ (4)
- ปี2017 (3)
- เปลี่ยนอะไหล่ (3)
- ผลิตรถยนต์ (16)
- แผนภาพจังหวะการเปิดของลิ้น (Valve Timing Diagram) เครื่องยนต์ 4 สูบ และ 6 สูบ (1)
- แผนภาพต้นกำลังงานของรถยนต์ (1)
- ฝาสูบ (4)
- พจนานุกรมศัพท์ยานยนต์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๔๒ (1)
- พูเล่ (1)
- เพลาข้อเหวี่ยง (1)
- เพลาท้าย (2)
- ฟอร์ด (1)
- ฟิล์มกรองแสง ติดดี หรือ ไม่ติดดี มีประโยชน์อย่างไร วันนี้ทีคำตอบ (1)
- เฟอรารี่ (3)
- เฟืองท้าย (14)
- ไฟฉุกเฉิน ไม่จำเป็นและไร้สาระ (1)
- ไฟฟ้ารถยนต์ (24)
- ภาพโครงสร้างเครื่องยนต์ EFI (1)
- ภาพรวมรถยนต์ (9)
- มาสด้า (3)
- มิตซูบิชิ (6)
- มินิ (2)
- โมเดลรถยนต์ (3)
- ยนตกรรม (1)
- ยานยนต์ อุตสาหกรรม (26)
- ยาริส (15)
- รถกระบะ (9)
- รถกระบะ Revo (1)
- รถเก๋ง (51)
- รถแข่ง (2)
- รถจิ๊บ (1)
- รถเบนซ์ (19)
- รถยก (27)
- รถยก อุตสาหกรรม (26)
- รถยก อุตสาหกรรมม (1)
- รถยนต์ (3)
- รถยนต์ไฟฟ้า (4)
- รถรุ่นเก่า (1)
- รถศูนย์ (16)
- รถสปอร์ต (10)
- รถหรู (1)
- รถใหม่ (41)
- ระบบขับอัตโนมัติ (1)
- ระบบความร้อน (2)
- ระบบจุดระเบิด (10)
- ระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีน (Gasoline Fuel Injection System) (1)
- ระบบช่วงล่าง (27)
- ระบบเบรค (22)
- ระบบไฟฟ้า (14)
- ระบบรองรับ (5)
- ระบบระบายความร้อน (6)
- ระบบลม (3)
- ระบบส่งกำลัง (1)
- ระบบหล่อเย็น (2)
- ระบบหัวฉีด (1)
- ระบบห้ามล้อ (14)
- ระบบ Hybrid (1)
- ราคารถยนต์ (5)
- รางร่วม (1)
- รีเลย์ (6)
- รีวิว (15)
- รีวิวรถยนต์ (11)
- รู้ไว้ก่อน : การเปลี่ยนขนาดยาง (1)
- เรื่อง น้ำมันเครื่อง (1)
- โรงงานผลิตรถยนต์ (13)
- ล้อตุนกำลัง (1)
- ลักษณะดอก ยางรถยนต์ (1)
- ลากรถอย่างไรเมื่อรถเสีย (1)
- ลำดับการจุดระเบิด (1)
- ลูกปืนกลม (1)
- ลูกสูบ (3)
- วงจรไฟฟ้า (7)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด ECCS Nissan RB20E (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด ECI-multi Mitsubishi 4G61 (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด EFI เครื่องยนต์ Toyota 4A-GE (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด Honda B16A VTEC DOHC รุ่นแรก (1)
- วิชาช่างยนต์ (10)
- วี8 (1)
- สเปกรถยนต์ (5)
- สร้างเครื่องยนต์ (1)
- สร้างโมเดลรถยนต์ (1)
- สายพานเครื่องยนต์ (2)
- สีรถ (8)
- เสื้อสูบ (5)
- หนังสือรถยนต์ (7)
- หม้อน้ำ (2)
- หลักการทำงาน (2)
- หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน 4 จังหวะ (1)
- หลักการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซล 4 จังหวะ (1)
- หัวเทียน (24)
- ห้ามล้อ (14)
- แหวนลูกสูบ (1)
- องค์ประกอบการสันดาปของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน (1)
- ออกแบบรถยนต์ (22)
- อะไหล่เครื่องยนต์ (3)
- อะไหล่ยนต์ (1)
- อัตราค่าปรับ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 (1)
- อัตราส่วนผสมอากาศต่อเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน (1)
- อาการหัวเทียน (12)
- อินเตอร์คูลเลอร์ (6)
- อีโก้คาร์ (5)
- อุตสาหกรรม รถยก (27)
- อุปกรณ์เสริม (6)
- แอร์เริ่มไม่เย็น และส่งกลิ่นอับเวลาเปิดแอร์ใหม่ ควรทำอย่างไร ? (1)
- ไอดี (3)
- ไอเสีย (6)
- ฮอนด้า (6)
- ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด (2)
- Accessories (5)
- All New toyota yaris 2013 2014 (1)
- Alternator (1)
- alternators (1)
- Ativ (7)
- Audi (2)
- Audi A4 (1)
- Automatic drive (1)
- Ball Bearing (1)
- bearing (1)
- biodiesel (2)
- BMW (4)
- Brake (23)
- Brake system (23)
- BT-50 (1)
- Car Family (1)
- Cars (61)
- CAT (Catalytic Converter) เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยา (1)
- Check Engine (1)
- Chevrolet (1)
- CHEVROLET COLORADO (2)
- Colorado (1)
- commonrail (1)
- Common Rail (1)
- Common Rail Engine (1)
- Concept Car (1)
- Connecting rod (1)
- Crankshaft (1)
- Cylinder head (1)
- Diesel Engine (3)
- Diesel fuel (6)
- differential (12)
- DIY (8)
- DURAMAX ENGINE (1)
- DURAMAX VIN CHART (1)
- ECCS (1)
- EFI (1)
- EGR (Exhaust Gas Recirculation) หรือการหมุนเวียนไอเสีย (1)
- Electric car (4)
- Electric cars (4)
- Electronic Fuel Injection Engine (1)
- Engine (37)
- Engine Block (1)
- Engine Curve (1)
- Ferrari (3)
- Flywheel (1)
- Ford (4)
- Ford Ranger (2)
- Fuel (14)
- gasoline (3)
- Gasoline engine (1)
- General Motors (2)
- GMC Canyon (1)
- Honda (11)
- Honda Accord (1)
- HONDA ACCORD HYBRID ใหม่ (1)
- Honda CR-V 2015 (1)
- Honda HR-V (1)
- Honda HRV 2015 (1)
- Honda Jazz (1)
- Honda Vezel (1)
- Hydrogen cars (1)
- i-DTEC (1)
- Ignition Coil (8)
- Ignition System (1)
- i-MMD (1)
- Intercooler (6)
- internal combustion engine (3)
- Jeeb (1)
- lamborghini (4)
- Lamborghini Revuelto (2)
- Mazda (4)
- Mercedes Benz (21)
- Mini (2)
- MINI Cooper (2)
- Mitsubishi (9)
- Mustang (1)
- Navara (2)
- NGV (1)
- Nissan (11)
- nissan np300 navara (1)
- NP300 (1)
- NP300 NAVARA Single Cab (1)
- pickup (6)
- pickup truck. (5)
- Piston (3)
- Piston Ring (1)
- Porsche (2)
- Port Timing Diagram ของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ (1)
- Ranger (1)
- Rear axle (1)
- Relay (6)
- Revuelto (1)
- Rotary Engine (1)
- S60 (1)
- S90 (1)
- SEAT (1)
- Self Diagnosis System (1)
- Shock Absorbers (5)
- SKODA (1)
- SKYACTIV-D เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล (1)
- solenoid (4)
- Spark Plugs (20)
- Starter (6)
- Supper Car (4)
- Suspension System (3)
- Suzuki (2)
- TCCS (1)
- Tesla Model X (1)
- TOYOTA (29)
- Toyota และ Lexus (1)
- Toyota Hilux Revo (1)
- Triton (1)
- V60 (1)
- Ⅴ8 (1)
- Variable Nozzle Turbo (2)
- VGT (5)
- Volkswagen (1)
- Volvo (4)
- Volvo purchased the Polestar brand (1)
- Volvo S90 (1)
- Wankel Engine (1)
- XC90 (1)
- Yaris (15)