Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

เชื่อมั่นกำลังซื้อฟื้น เตรียมจัดงาน Fast Auto Show Thailand 2014 กรกฎาคมนี้ เปิดเวทีคนรักรถเลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่ พร้อมแคมเปญ โปรโมชั่นพิเศษเพียบ



พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ (กลาง) ประธาน บริษัท คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ จำกัด และประธานจัดงานมหกรรม FAST Auto Show Thailand 2014 ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ (ที่ 4 จากซ้าย) รองประธานจัดงาน ฝ่ายรถใหม่ และ อัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ (ที่ 2 จากซ้าย) รองประธานจัดงาน ฝ่ายรถใช้แล้ว พร้อมผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว มหกรรมแสดงและจำหน่ายรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้ว “FAST Auto Show Thailand 2014” รวบรวมค่ายรถยนต์ใหม่ป้ายแดงจาก 12 ค่ายรถยนต์ชั้นนำ และศูนย์รถยนต์มือสองรายใหญ่ จากทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 6 ค่าย ภายใต้คอนเซปต์ FAST เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่ ตลอด 5 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 2–6กรกฎาคม 2557     ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ฮอลล์ 106พร้อมอัดแคมเปญโปรโมชั่นพิเศษเพียบ



กรุงเทพฯ — 12 พฤษภาคม 2557 — มหกรรมแสดงและจำหน่ายรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใหม่ใช้แล้ว Fast Auto Show Thailand 2014 จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เอาใจคนอยากมีรถ ทั้งรถใหม่ป้ายแดงจาก 12 ค่ายรถยนต์ชั้นนำ หรือรถยนต์ใช้แล้วจากศูนย์รถมือสองชั้นนำที่วางใจได้ ภายใต้คอนเซปต์ FAST ให้เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่ ระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคม 2557 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ฮอลล์ 106 บนพื้นที่จัดงานกว่า 10,000 ตร.. หวังกระตุ้นตลาดรถในช่วงครึ่งปีหลัง และโซนกรุงเทพตะวันออกกลับมาคึกคักอีกครั้ง

นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานบริษัท คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ จำกัด และประธานจัดงาน มหกรรม Fast Auto Show Thailand 2014 กล่าวว่า งาน มหกรรม Fast Auto Show Thailand 2014” ปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมงาน 270,000 คน ยอดจองรถ 3,900 คัน ปีนี้ถึงแม้ว่าสถานการณ์ตลาดโดยรวมจะชะลอตัว แต่ก็ยังมีความต้องการ รถยนต์ใหม่และรถยนต์ใหม่ใช้แล้ว โดยจุดเด่นของงานในปี 2557 นี้ จะเป็นแหล่งรวมรถยนต์ใหม่ป้ายแดงจาก 12ค่ายรถยนต์ชั้นนำ และศูนย์รถยนต์มือสองที่เชื่อถือได้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ FAST ซื้อง่าย ขายคล่อง ถูกใจคันไหนก็ตัดสินใจซื้อเป็นเจ้าของได้เลย โดยตั้งเป้าผู้เข้าชมงานปีนี้ทะลุ 300,000 คน      ยอดจองรถมากกว่า 4,000 คัน

“งาน Fast Auto Show Thailand 2014 จะจัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค   บางนา ฮอลล์ 106 เช่นเดิม เนื่องด้วยความสะดวกในการเดินทางและจากผลสำรวจพบว่ากลุ่มผู้บริโภคในโซนกรุงเทพตะวันออก และสมุทรปราการ ซึ่งเป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่มีกำลังซื้อสูง และยังคงตอบรับงานเป็นอย่างดี เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคในย่านนี้และพื้นที่ใกล้เคียงในภาคตะวันออกได้มีโอกาสเข้าถึงรถยนต์ที่ต้องการได้ง่ายขึ้น” นายพัฒนเดช กล่าว

นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ฝ่ายรถใหม่ กล่าวถึงภาพรวมตลาดรถใหม่ (รถยนต์มือหนึ่ง) ว่า ตลาดรถยนต์ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ชะลอตัว เนื่องจากสภาวะทางการเมืองและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ จากการคาดการณ์ในช่วงกลางปีนี้จะเป็นช่วงที่ดีในการกระตุ้นตลาดโดยรวม ทั้งนี้ ความต้องการซื้อรถยังคงเป็นวัฏจักร ของการระยะเวลาในการเปลี่ยนรถ ซึ่งมีกลุ่มผู้บริโภคที่ยังรอซื้ออยู่

ในปีนี้มีค่ายรถยนต์ชั้นนำตอบรับเข้าร่วมงานมากมายเช่นเคย รวมทั้งสิ้น 12 ราย ไม่ว่าจะเป็น ซีตรอง (Citroen) เดวา (Deva) ฟอร์ด (Ford) ฮอนด้า (Honda) ฮุนได (Hyundai) อีซูซุ (Isuzu) มาสด้า (Mazda) มิตซูบิชิ (Mitsubishi) นิสสัน(Nissan) สโกด้า (Skoda) ซูซูกิ (Suzuki) และ โตโยต้า(Toyota)

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อและจองรถยนต์ ลุ้นรับบัตรเติมน้ำมันฟรี จากบริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด มูลค่า 100,000 บาท จำนวน 5 รางวัล สำหรับผู้เข้าชมงาน มีสิทธิ์ลุ้นรับ LCD Samsung TV ในงาน และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ

นายอัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ รองประธานจัดงาน ฝ่ายรถใช้แล้ว กล่าวถึงภาพรวมตลาดรถยนต์มือสองว่า ตลาดรถยนต์มือสองในขณะนี้ยังถือว่าทรงตัว แต่ก็ยังมีความต้องการอยู่ ซึ่งเป็นความต้องการที่สะท้อนตลาดที่แท้จริง และสะท้อนพฤติกรรมการเลือกใช้รถที่เหมาะสมกับปัจจัยทางเศรษฐกิจที่แท้จริงมากขึ้นด้วย สำหรับเทรนด์ความนิยมรถยนต์มือสองปีนี้นับว่าเป็นโอกาสทองของตลาดรถยนต์มือสองที่มีรถยนต์ให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่มีการแข่งขันสูง ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสได้เลือกรถยนต์ที่ตรงกับความต้องการได้ง่ายมากขึ้น สำหรับรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ระดับ 1,500 ซีซี ยังเป็นกลุ่มที่น่าสนใจเนื่องจากคนส่วนใหญ่ให้ความนิยม ประกอบกับราคาที่เหมาะสม อยู่ที่ประมาณ 3-4 แสนบาท สำหรับเทรนด์ความนิยมรถที่มีเครื่องยนต์ 1,500 ซีซี    ขึ้นไป รวมไปถึงรถยุโรป นับว่ายังคงเป็นไปตามกลไกตลาด

งาน Fast Auto Show Thailand 2014 ได้รับความร่วมมือจากศูนย์รถยนต์มือสองรายใหญ่ จากทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้ง 6 ค่ายมาร่วมภายในงานประกอบด้วย โต ออโต้คาร์, วิสาร   ออโต้ คาร์, 54 นิวัฒน์, โย รัชดา, ก้องเจริญยนต์และ เบสท์ เซอร์วิส ซึ่งผู้ประกอบการรถยนต์มือสอง  แต่ละราย ล้วนแต่มีประสบการณ์และความชำนาญมายาวนาน ดังนั้นจึงมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพของรถยนต์ที่นำมาจำหน่าย ความหลากหลายของรถยนต์ที่นำมาจำหน่ายในงานและการตรวจสอบคุณภาพ และผ่านการคัดเลือกโดย อาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์มือสองคุณภาพดีได้อย่างรวดเร็ว

“งานมหกรรม Fast Auto Show Thailand 2014 ต้องการให้ผู้ซื้อผู้ขายสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้อย่างรวดเร็ว พึงพอใจทั้งสองฝ่าย นอกจากการแสดงและจำหน่ายทั้งรถใหม่และรถใช้แล้วทุกประเภท ยังมีเวทีกลางเพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย สนามทดลองขับสำหรับผู้ต้องการซื้อไว้ไม่ไกลจากบริเวณงาน รถใช้แล้วทุกคันผ่านการตรวจสอบคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญรถมือสอง และเชื่อมั่นว่างานนี้จะสร้างบรรยากาศการซื้อขายทำให้อุตสาหกรรมคึกคักในช่วงกลางปี ส่งผลบวกแก่ธุรกิจรถยนต์ไปตลอดทั้งปีแน่นอน” นายพัฒนเดช กล่าวทิ้งท้าย

ฮอนด้าเปิดตัวสกู๊ปปี้ไอใหม่ “ดิ แอดเวนเจอร์ สุดหล้า ซ่านิยม” และ “คลับทเวลฟ์ ล้อ 12 นิ้ว ต่างคนต่างแนว” ตอกย้ำผู้นำแฟชั่นเอ.ที.อย่างเหนือชั้น ด้วยดีไซน์ที่โดนใจวัยรุ่นยิ่งกว่าเดิม ทั้งยังดึงตัว สงกรานต์ - พีค - ปาล์มมี่ ผนึกกำลังสร้างเทรนด์แฟชั่นเอ.ที. ระลอกใหม่



            ค่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถเอ.ที.อย่างยิ่งใหญ่สะเทือนวงการอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวนิวสกู๊ปปี้ไอพร้อมกันรวดเดียวถึง 2 โมเดล ได้แก่นิวสกู๊ปปี้ไอ ดิ แอดเวนเจอร้ (New Scoopy i The Adventure) ดีไซน์แสบซ่าแนวซาฟารีภายใต้คอนเซปต์ สุดหล้า ซ่านิยมกราฟิกเหมือนจริงด้วยเทคนิคซีเอ็มวายเค และนิวสกู๊ปปี้ไอ คลับทเวลฟ์ ล้อ 12 นิ้ว คอมบายเบรก (New Scoopy i Club12) เจาะตลาดกลุ่มบนสำหรับวัยรุ่นในเมือง โดดเด่นด้วยแถบสีเออร์แบนบาร์ ล้อแม็กดำด้าน 12 นิ้ว มาพร้อมกับระบบคอมบายเบรกพร้อมคาลิปเปอร์ 3 ลูกสูบ เท่โดนใจเด็กแนวตามคอนเซปต์ “Live Your Line ต่างคน ต่างแนวพร้อมเปิดตัว 2 พรีเซนเตอร์ใหม่ล่าสุด สงกรานต์-รังสรรค์ ปัญญาเรือง ผู้ชนะเลิศจากเดอวอยซ์ซีซั่น 2 และพีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ นักแสดงสาวขวัญใจวัยรุ่น เสริมทัพกองกำลังชาวซ่ากับไทยเทเนียม ในขณะที่ปาล์มมี่-อีฟ ปานเจริญ ร่วมถ่ายทอดคาแรกเตอร์แนวคนเมืองของนิวสกู๊ปปี้ไอ คลับทเวลฟ์ เตรียมเปิดตัวลงสู่ตลาดพร้อมกันทั้ง 2 รุ่นตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป โดยนิวสกู๊ปปี้ไอ ดิ แอดเวนเจอร์สนนราคาเริ่มต้นที่ 46,000 บาท มีให้เลือก 3 สไตล์กับ 8 คู่โทนสี ในขณะที่นิวสกู๊ปปี้ไอ คลับทเวลฟ์ล้อ 12 นิ้ว คอมบายเบรก เปิดตัวด้วยราคาแนะนำที่ 50,200 บาท มีให้เลือก 4 สีได้แก่ส้ม, น้ำเงิน, เทา และดำ
            มร.โนบุฮิเดะ นางาตะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2012 เราได้เปิดตัวออลนิวสกู๊ปปี้ไอ ฟันรีพับลิค ซ่านิยม รถเอ.ที.แฟชั่นแนวโมเดิร์นเรโทรที่เปี่ยมไปด้วยความซ่ากับดีไซน์ที่โดนใจวัยรุ่น และเทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI ที่มีทั้งสมรรถนะและความประหยัด ทำให้รถรุ่นดังกล่าวตอบโจทย์การใช้งานของคนรุ่นใหม่จนกลายเป็นรถเอ.ที.ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งของไทยโดยทันทีด้วยยอดจำหน่ายกว่า 330,000 คัน ต่อมาในปี 2013 เราได้เพิ่มดีกรีความสนุกเข้าไปอีกขั้นในรุ่นสกู๊ปปี้ไอ อโลฮ่า ซ่านิยม เช่นเดียวกับการเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคกลุ่มบนด้วยรุ่นคลับทเวลฟ์ล้อ 12 นิ้ว คอมบายเบรก สำหรับวัยรุ่นในเมืองที่ชอบความโดดเด่นมีระดับ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน จนมาถึงในปี 2014 ภายใต้แบรนด์แคมเปญใหม่ล่าสุด มาสนุกเปลี่ยนโลกกัน Power of Fun Project” เรามีความตั้งใจที่จะส่งมอบความสนุกอย่างสร้างสรรค์จากเทคโนโลยีของฮอนด้าให้กับผู้บริโภคจนเป็นที่มาของการพัฒนา นิวสกู๊ปปี้ไอ ดิ แอดเวนเจอร์ สุดหล้า ซ่านิยม และนิวสกู๊ปปี้ไอ คลับทเวลฟ์ล้อ 12 นิ้ว คอมบายเบรก ให้มีดีไซน์ที่โดดเด่น อัดแน่นไปด้วยความสนุกยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ เรายังได้ติดตั้งเทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI ยุคล่าสุดที่ได้รับการรีดีไซน์ให้ดูแลรักษาง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิมลงในรถทั้ง 2 รุ่นนี้อีกด้วย
            นิวสกู๊ปปี้ไอ ดิ แอดเวนเจอร์ (New Scoopy i The Adventure) มาพร้อมกับความซ่าในรูปแบบที่แตกต่างแต่โดนใจวัยรุ่นภายใต้คอนเซปต์ สุดหล้า ซ่านิยมให้อัดแน่นไปด้วยความสนุกของโลกซาฟารีและการผจญภัยผ่านกราฟิกเหมือนจริงด้วยเทคนิคซีเอ็มวายเค (CMYK) ทำให้รถแต่ละคันมีเสน่ห์ไม่เหมือนใครจากความหนักเบาของสีสันในลายกราฟิกที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็น 3 สไตล์ดังนี้
-          นิวสกู๊ปปี้ไอ ดิ แอดเวนเจอร์ สไตล์ Active Boy - Fun Hunter!
ซ่าท้าแสบด้วยกราฟิก Golden Riches โซ่ แซ่ กุญแจ สร้อย
มีให้เลือก 2 คู่โทนสีได้แก่ขาว-แดง, ดำ-แดง
-          นิวสกู๊ปปี้ไอ ดิ แอดเวนเจอร์ สไตล์ Vivid Me – Sweety Tiger!
ดุนิท สวีทหน่อยด้วยกราฟิก Animally
มีให้เลือก 3 คู่โทนสีได้แก่ขาว-ชมพู, ขาว-น้ำเงิน, ดำ-น้ำเงิน
-          นิวสกู๊ปปี้ไอ ดิ แอดเวนเจอร์ สไตล์ Prestige Guy – King of Safari!
เรียบหรูดูมีชั้นเชิงสไตล์พรีเมียม
มีให้เลือก 3 คู่โทนสีได้แก่ดำ, ขาว, แดง-เทา
            ทางด้านเทคนิค นิวสกู๊ปปี้ไอ ดิ แอดเวนเจอร์ สุดหล้า ซ่านิยม ทันสมัยด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์แท้ Exclusive Projector Headlight ผสานด้วยหลอดฮาโลเจน และวงแหวนสีฟ้าแบบ Blue Ring ให้ทั้งความสวยงาม และความสว่างคมชัด, Upper Arm Winker Light เท่และปลอดภัยด้วยชุดไฟเลี้ยวแบบบิลท์อินบนตัวถัง, Senior Tail Light ไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบโคมใส, Chronograph Meter เรือนไมล์มัลติมิเตอร์ดีไซน์สุดคูล รวมทุกฟังก์ชันไว้ในหนึ่งเดียว, Seat for All เบาะนั่งที่ได้รับการออกแบบให้รองรับผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายได้อย่างสะดวกสบาย, Helmet-In L Size U-Box กล่องเก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ถึง 15.4 ลิตร เก็บหมวกกันน็อคแบบเจ็ตได้เต็มใบ
            นิวสกู๊ปปี้ไอ ดิ แอดเวนเจอร์ สุดหล้า ซ่านิยม ติดตั้งเครื่องยนต์ 4 จังหวะขนาด 110cc. ระบบหัวฉีด PGM-FI ยุคใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนาให้ดูแลรักษาง่ายขึ้น ให้แรงบิดเต็มพลังแต่ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 53 กม./ลิตร จากการวัตตามมาตรฐาน สมอ. Mode ECE R40 ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ทั้งยังมีค่าไอเสียที่สะอาดถึงระดับ 6 และรองรับน้ำมัน E20
            นอกจากนี้ เอ.พี.ฮอนด้ายังได้เปิดตัวรถนิวนิวสกู๊ปปี้ไอ คลับทเวลฟ์ ล้อ 12 นิ้ว คอมบายเบรก (New Scoopy i Club12)เพื่อเจาะตลาดกลุ่มบนสำหรับวัยรุ่นในเมืองที่ชอบรถเทรนด์ใหม่ โดดเด่นมีระดับ มีภาพลักษณ์ที่เรียบหรูและเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี โดยนิวสกู๊ปปี้ไอ คลับทเวลฟ์ ล้อ 12 นิ้ว คอมบายเบรก (New Scoopy i Club12) ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Live Your Line ต่างคน ต่างแนว!ด้วยกราฟิกแถบสีเออร์แบนบาร์ (Urban Bar) เรียบๆ แต่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร พร้อมล้อแม็กดำด้านขนาด 12 นิ้ว ลงตัวกับรูปลักษณ์โมเดิร์นเรโทรและสีสันใหม่ สะท้อนอัตลักษณ์ของผู้ขับขี่ได้ในทุกๆมุมมอง ทั้งยังมีระบบกระจายแรงเบรกหน้า-หลังแบบ Combi Brake System ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์ไฮดรอลิค 3 ลูกสูบเพื่อความปลอดภัยสำหรับการขับขี่ในเมืองอีกด้วย
            และเพื่อให้การสื่อสารภาพลักษณ์ทางการตลาดเป็นไปอย่างชัดเจน ฮอนด้ายังได้เปิดตัว 2 พรีเซนเตอร์ใหม่สำหรับนิวสกู๊ปปีไอ ดิ แอดเวนเจอร์ สุดหล้าซ่านิยม ได้แก่ สงกรานต์-รังสรรค์ ปัญญาเรือน นักร้องผู้ชนะเลิศจากรายการเดอะวอยซ์ซีซั่น 2 ในภาพลักษณ์แบบ ซ่า ยะฮู้วววสำหรับรถสไตล์แอคทีฟบอย และพีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ นักแสดงสาวสวยขวัญใจวัยรุ่นในภาพลักษณ์ดุซ่า น่ารักสำหรับสไตล์วิวิดมี ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ร่วมกับไทยเทเนียม สุดยอดศิลปินฮิปฮอปของเมืองไทยกับภาพลักษณ์ โชว์เข้มสำหรับสไตล์เพรสทีจกาย ในขณะเดียวกัน ฮอนด้ายังได้เลือกปาล์มมี่-อีฟ ปานเจริญ ศิลปินอินดี้ป๊อปชื่อดัง มาถ่ายทอดคาแรกเตอร์แนวๆตามสไตล์คนเมืองของนิวสกู๊ปปี้ไอ คลับทเวลฟ์ ล้อ 12 นิ้วคอมบายเบรก ในโฆษณาชุดใหม่ของรถรุ่นนี้ด้วย โดยภาพยนตร์โฆษณาทั้ง 2 เวอร์ชันจะเริ่มออกอากาศทั้งทางดิจิตอลทีวีและเคเบิลทีวีตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป
            ทั้งนี้ ฮอนด้าวางแผนการจำหน่ายนิวสกู๊ปปี้ไอ ดิ แอดเวนเจอร์ และนิวสกู๊ปปี้ไอ คลับทเวลฟ์ล้อ 12 นิ้ว พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม 2557 ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ โดยนิวสกู๊ปปี้ไอ ดิ แอดเวนเจอร์ สุดหล้า ซ่านิยม มีให้เลือก 3 สไตล์กับ 8 คู่โทนสี ราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 46,000 บาท และนิวสกู๊ปปี้ไอ คลับทเวลฟ์ล้อ 12 นิ้ว คอมบายเบรก มีให้เลือก 4 สีได้แก่ส้ม, น้ำเงิน, เทา และดำ ราคาแนะนำที่ 50,200 บาท ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.aphonda.co.th และ www.facebook.com/hondamotorcyclethailand

“อินเดียน-วิคตอรี่” ทุ่มกว่า 100 ล้านบาท เปิดโชว์รูม-ศูนย์บริการมาตรฐานแห่งแรกในไทย สานตำนานอมตะกว่า 1 ศตวรรษ INDIAN MOTORCYCLE เปิดตัว 2014 INDIAN CHIEF




อินเดียน-วิคตอรี่ ทุ่มกว่า 100 ล้านบาท สานต่อตำนานและความคลาสสิกกว่า 1 ศตวรรษอันยิ่งใหญ่ของ INDIAN MOTORCYCLE สุดยอดรถบิ๊กไบค์ระดับไฮเอนด์ของโลก เผยโฉม “2014 INDIAN CHIEF” อมตะแห่งตำนานสู่ที่สุดของการขับขี่ 3 รุ่น เปิดจำหน่ายแล้ววันนี้ พร้อมเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานแห่งแรกในเมืองไทย เนื้อที่ 1 ไร่เศษบนถนนพัฒนาการ (ซอยพัฒนาการ 76) ครบครันครอบคลุมทุกการบริการ ภายใต้มาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้มีรสนิยมการขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร

นายณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเดียน วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถจักรยานยนต์สัญชาติอเมริกัน INDIAN MOTORCYCLE และ VICTORY MOTORCYCLES อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมในการทำตลาด INDIAN MOTORCYCLE รถบิ๊กไบค์ที่มีความเก่าแก่ระดับตำนาน เป็นที่รู้จักและนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้หลงใหลสองล้อทั่วโลกนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีค..1901 ซึ่งวันนี้ INDIAN ได้กลับมาสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งในเมืองไทย เพื่อตอบรับกระแสความต้องการผู้บริโภค และถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จอีกครั้งของบริษัท หลังจากบุกเบิกตลาดด้วยการแนะนำ VICTORY MOTORCYCLES บิ๊กไบค์สัญชาติอเมริกันเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งรถทั้งสองแบรนด์นี้วิจัยพัฒนาและทำตลาด โดย บริษัท โพลาริส อินดัสทรีส์ จำกัด (Polaris Industries) ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารโชว์รูมและศูนย์บริการ บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ (ไม่รวมที่ดิน) ถนนพัฒนาการ (ซอยพัฒนาการ 76)  ครอบคลุมการบริการต่างๆ อาทิ คาเฟ่-ร้านอาหาร การสต็อกรถ อะไหล่-อุปกรณ์ตกแต่ง คอลเลคชั่นเครื่องแต่งกายและกิจกรรมการขับขี่ทุกรูปแบบ

ปีที่ผ่านมาเราแนะนำรถบิ๊กไบค์ VICTORY MOTORCYCLES ซึ่งเป็นแผนที่ได้กำหนดไว้แต่แรก เพื่อรอความพร้อมด้านต่างๆ ทั้งในส่วนของโชว์รูม-ศูนย์บริการ การบริการหลังการขายและกิจกรรมต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ที่จะมาขับขี่รวมกับเรา และรองรับการทำตลาดรถบิ๊กไบค์ระดับตำนาน INDIAN MOTORCYCLE ที่วันนี้ได้นำเข้ารถระดับไฮเอนด์ "2014 INDIAN CHIEF" มาจำหน่ายพร้อมกัน 3 รุ่น ประกอบด้วย INDIAN CHIEF CLASSIC ราคา 1,475,000 บาท INDIAN CHIEF VINTAGE ราคา 1,585,000 บาท และ INDIAN CHIEFTAIN ราคา 1,695,000 บาท”

พร้อมกันนี้ อินเดียน วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล ได้วางกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ 360 องศา เช่น โรดโชว์ตามงาน Bike Week ที่จัดขึ้นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์และเปิดบริการภายใต้มาตรฐานเดียวกับ INDIAN MOTORCYCLE สหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย Sales : จำหน่ายรถที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาที่ถูกต้องตามกฎหมาย Service : ซ่อมบำรุงด้วยเครื่องมือทันสมัยพร้อมทีมช่างที่ผ่านการอบรมมาจาก INDIAN MOTORCYCLE สหรัฐอเมริกา Spare Parts : จัดหาและสต็อกอะไหล่แท้ Second Hand : เป็นสื่อกลางซื้อขายแลกเปลี่ยน Safety Riding : จัดฝึกอบรมการขับขี่รถบิ๊กไบค์อย่างถูกวิธีและปลอดภัย และ Society : เป็นศูนย์กลางจัดกิจกรรมสันทนาการพบปะสังสรรค์ เพื่อชาวไบค์เกอร์ INDIAN MOTORCYCLE และ VICTORY ทุกคน










การดีไซน์ของโชว์รูมและศูนย์บริการของ INDIAN VICTORY MOTORCYCLE ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตำนานอันเก่าแก่ และยาวนานของ INDIAN เพื่อมุ่งหวังให้เป็นจุดหมายปลายทางของผู้มีรสนิยมเดียวกัน ที่มีความหลงใหลในตำนานอันเก่าแก่และยิ่งใหญ่ เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังที่สืบทอดมาอย่างยาวนานกว่า 1 ศตวรรษ นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในโลกเมื่อปี ค..1901 รวมทั้งสถานที่สามารถตอบทุกความต้องการของชาวไบค์เกอร์ที่มีหัวใจเดียวกัน โดยโชว์รูมและศูนย์บริการของ INDIAN VICTORY MOTORCYCLE ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ ย่านถนนพัฒนาการ (ซอยพัฒนาการ 76) มีความยิ่งใหญ่ทั้งสถานที่และการบริการภายใต้มาตรฐาน INDIAN VICTORY MOTORCYCLE ประเทศสหรัฐอเมริกา ลูกค้าจึงไว้วางใจได้ว่าจะได้รับแต่สิ่งที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้มีรสนิยมได้อย่างเหนือความคาดหมาย

โชว์รูมและศูนย์บริการ INDIAN VICTORY MOTORCYCLE แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนหลัก ประกอบด้วย
ส่วนที่ 1 โชว์รูมมีพื้นที่จัดแสดงรถบิ๊กไบค์นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกาทั้ง INDIAN MOTORCYCLE และ VICTORY MOTORCYCLE และพื้นที่จัดแสดงตำนานอันเก่าแก่กว่า 1 ศตวรรษจากอดีตสู่ปัจจุบันของ INDIAN MOTORCYCLE รวมทั้งประวัติความเป็นมาของ VICTORY MOTORCYCLESนอกจากนี้ยังมีโซน Accessories ซึ่งเป็นศูนย์รวมของ INDIAN และ VICTORY MOTORCYCLES Collection จัดแสดงและจำหน่ายอะไหล่แต่งรถ เสื้อผ้าและชุดแต่งกายลิขสิทธิ์แท้ และเพื่อให้เป็นจุดศูนย์รวมของคนที่มีรสนิยมเดียวกัน ภายในโชว์รูมและศูนย์บริการยังมีมุมพบปะสังสรรค์ HDP Cafe’ สำหรับสมาชิกทุกท่าน
ส่วนที่ 2 ศูนย์บริการหลังการขายครบวงจร ประกอบด้วยส่วนของการจัดหาอะไหล่แบบรวดเร็วทันใจ และส่วนซ่อมบำรุงที่มีแท่นซ่อมรถบิ๊กไบค์สามแท่น พร้อมทีมช่างที่ได้รับการอบรมโดยตรงจากประเทศสหรัฐอเมริกา คอยให้บริการตรวจสอบและแก้ไขทุกปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวรถ นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีรถทดลองขับอีกด้วย

นายณัฐพล ไตรณัฐี กล่าวเสริมว่า ด้วยใจที่รักในการขับขี่มอเตอร์ไซค์ ทำให้ผู้บริหาร บริษัท โพลาริส อินดัสทรีส์ จำกัด (Polaris Industries) ประเทศสหรัฐอเมริกา มั่นใจต่อการบุกเบิกเปิดตลาดรถบิ๊กไบค์ INDIAN MOTORCYCLE ของบริษัทว่า สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีทั้งผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีภายใต้มาตรฐาน INDIAN MOTORCYCLE ให้ตรงใจลูกค้าอย่างเหนือความคาดหมาย

เรามีแผนกอีเว้นท์เพื่อดูแลการทำกิจกรรมการขับขี่ร่วมกับลูกค้าโดยเฉพาะ เช่น จัดกิจกรรมขับขี่ One Day Trip ทั้งในกรุงเทพฯ หรือจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงการขับขี่ทางไกลที่มากกว่า 1 วัน โดยจะจัดแพ็กเกจการเดินทางที่มีทั้งอาหาร, ที่พัก และประสานกับลูกค้าเพื่อร่วมขับขี่ไปด้วยกัน”

สิทธิพิเศษช่วง Grand Opening
INDIAN VICTORY MOTORCYCLE ยังเตรียมสิทธิพิเศษเอาไว้มากมาย สำหรับลูกค้า INDIAN MOTORCYCLE ในช่วง Grand Opening ด้วยข้อเสนอพิเศษ เมื่อวางเงินจองซื้อ INDIAN MOTORCYCLE ทุกรุ่นวันนี้ จำนวน 50,000 บาท รับ Gift Voucher มูลค่า 20,000 บาท เพื่อซื้ออุปกรณ์ตกแต่งหรือซื้อเสื้อผ้าลิขสิทธิ์แท้ และยังได้รับสิทธิ์ส่วนลด 10% สำหรับสินค้าในเครือ รวมถึงสิทธิพิเศษการเข้าร่วมกิจกรรมกับ INDIAN MOTORCYCLE ที่จัดเตรียมไว้เพื่อผู้มีรสนิยมเดียวกันอีกมากมาย

ปาร์ตี้เปิดตัว เลกซัส New ES300h สปอร์ตซีดานไฮบริด



สกล ชีวมงคล กรรมการผู้จัดการ (ที่ 3 จากซ้าย) และสุทธิกัญญา ไทยเพ็ชร ผู้อำนวยการขาย (ที่ 3 จากขวา) บริษัท เล็กซ์ซัส กรุงเทพ จำกัด ให้การต้อนรับ ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา (กลาง) และ              ลูกค้าเลกซัสคลับในงาน The Peak of Luxury with Beatles Concert เปิดตัวเลกซัสรุ่นล่าสุด                     New ES300h สปอร์ตซีดานไฮบริด หรูหราโดดเด่นมีระดับ คงความล้ำสมัยแตกต่างจากรถที่            เคยสัมผัส ณ โชว์รูมเล็กซ์ซัส กรุงเทพ สนญ.พระรามเก้า เมื่อเร็วๆ นี้

เอ.พี.ฮอนด้า รุกตลาดคนรุ่นใหม่ด้วยแบรนด์แคมเปญ “มาสนุกเปลี่ยนโลกกัน Power of Fun Project” เปิดตัวโฆษณาพร้อมแบรนด์แอมบาสเดอร์ใหม่หวังสร้างการรับรู้สู่กลุ่มเป้าหมาย นำทีมโดยย้ง-ทรงยศ ผู้กำกับชื่อดังและมาร์ช-จุฑาวุฒิ ดาวรุ่งจากซีรีย์ดัง “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” พร้อมเผยโฉมประธานฯคนใหม่ รับไม้ต่อส่งมอบความสนุกให้คนไทยแล้ว


 เปิดแบรนด์แคมเปญ   มร.โนบุฮิเดะ นางาตะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์
ฮอนด้าในประเทศไทย แถลงข่าวกตลาดด้วยแบรนด์แคมเปญใหม่ “มาสนุกเปลี่ยนโลกกัน Power of Fun Project” ภายใต้แนวคิดของการส่งต่อความสนุกอย่างสร้างสรรค์ ร่วมเปลี่ยนโลกทั้งใบให้เป็นโลกที่ปลอดภัยและไร้มลพิษผ่านเทคโนโลยีของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า
 พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ นำทัพโดยแบรนด์แอมบาสเดอร์คน ใหม่ล่าสุด ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ ผู้กำกับชื่อดัง และมาร์ช-จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล ดาวรุ่งพุ่งแรงจากซีรีย์ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น มาร่วมผนึกกำลังกับน้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา พิธีกรฝีปากกล้าผู้มีบุคลิกไม่เหมือนใคร และ ศิลปินวง 25Hours วงดนตรีสุดแนวขวัญใจวัยโจ๋
 เพื่อส่งต่อความสนุกแบบเปลี่ยนโลกให้กับวัยรุ่น พร้อมกันนี้ เอ.พี.ฮอนด้ายังได้เปิดตัว มร.โนบุฮิเดะ นางาตะ ในฐานะประธานกรรมการบริหารคนใหม่ของบริษัทฯ

เอ.พี.ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย รุกตลาดด้วยแบรนด์แคมเปญใหม่ “มาสนุกเปลี่ยนโลกกัน Power of Fun Project” อย่างเต็มรูปแบบภายใต้แนวคิดของการส่งต่อความสนุกอย่างสร้างสรรค์ ร่วมเปลี่ยนโลกทั้งใบให้เป็นโลกที่ปลอดภัยและไร้มลพิษผ่านเทคโนโลยีของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เดินหน้าสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นยุคใหม่ทันทีด้วยภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ นำทัพโดยแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ล่าสุด ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ ผู้กำกับชื่อดัง และมาร์ช-จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล ดาวรุ่งพุ่งแรงจากซีรีย์ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น มาร่วมผนึกกำลังกับน้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา พิธีกรฝีปากกล้าผู้มีบุคลิกไม่เหมือนใคร และ ศิลปินวง 25Hours วงดนตรีสุดแนวขวัญใจวัยโจ๋ เพื่อส่งต่อความสนุกแบบเปลี่ยนโลกให้กับวัยรุ่น พร้อมกันนี้ เอ.พี.ฮอนด้ายังได้เปิดตัว มร.โนบุฮิเดะ นางาตะ ในฐานะประธานกรรมการบริหารคนใหม่ของบริษัทฯ เข้ามาร่วมสืบทอดตำแหน่งผู้นำความสนุกของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าไปพร้อมๆกันอีกด้วย สำหรับโฆษณาชุด “มาสนุกเปลี่ยนโลกกัน Power of Fun Project” จะเริ่มออนแอร์ทั้งทางฟรีทีวีและเคเบิลทีวีทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน นี้เป็นต้นไป ผู้สนใจยังสามารถติดตามชมผ่านทางเว็บไซต์ได้อีกด้วยที่ www.youtube.com/hondamotorcycleTHA
    มร.โนบุฮิเดะ นางาตะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า “เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ครั้งล่าสุด เราได้ประกาศเปิดตัวแบรนด์แคมเปญใหม่ “มาสนุกเปลี่ยนโลกกัน Power of Fun Project” ต่อสาธารณะชนเป็นครั้งแรก ซึ่งแบรนด์แคมเปญดังกล่าวถือเป็นการต่อยอดความสนุกจากแคมเปญเดิม “ชีวิตสนุกถ้าไม่หยุดค้นหา Discover Your Fun” ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ทั้งยังเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับแผนระยะกลางฉบับใหม่ระหว่างปี 2014-2016 ที่เราได้ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปี ในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รักและเป็นที่ยอมรับของสังคมไทย เพื่อนำไปสู่เป้าหมายของการเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนอย่างแท้จริง ต่อจากนี้ไป ภายใต้แบรนด์แคมเปญ “มาสนุกเปลี่ยนโลกกัน Power of Fun Project” เราจะส่งมอบความสนุกที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์สู่สังคมไทยทั้งด้านผลิตภัณฑ์และกิจกรรม โดยในฐานะที่เราเป็น Technology Leader หรือผู้นำด้านเทคโนโลยีเราจะพัฒนาและติดตั้งเทคโนโลยีระดับสูงให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถเอ.ที.ของฮอนด้ารุ่นใหม่ๆ ซึ่งนอกจากระบบหัวฉีด PGM-FI ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันแล้ว เรายังพัฒนาระบบกระจายแรงเบรก Combi Brake System เพื่อความปลอดภัย และ ระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ Idling Stop System เพื่อลดการสูญเสียน้ำมันโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย นอกจากนี้ ในส่วนของกิจกรรมความสนุก เรามีกิจกรรมมากมายที่ให้ประโยชน์กับคนในสังคมทุกวัย เริ่มจากการแข่งขันวิ่ง 31 ขาสามัคคีในระดับประถมศึกษา, ฟุตบอลเยาวชนฮอนด้าเรดแชมเปี้ยนในระดับมัธยม, การแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิงในระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา, การขยายเครือข่ายศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าไปยังภูมิภาคต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทั่วประเทศ เช่นเดียวกับการร่วมมือกับสภากาชาดไทยในการเป็นศูนย์กลางรับบริจาคโลหิต ทั้งนี้ ในฐานะประธานกรรมการบริหารคนใหม่ของเอ.พี.ฮอนด้า ผมพร้อมแล้วที่จะเข้ามาสานต่อแนวทางในการสร้างแบรนด์ของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าให้เป็น The Most Loved Brand”
    สำหรับแนวคิดในการสื่อสารของแบรนด์แคมเปญ “มาสนุกเปลี่ยนโลกกัน Power of Fun Project” นางจุฑามาศ อินปริงกานันท์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ได้เปิดเผยว่า “เราจะสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นวัยรุ่นด้วยภาพยนตร์โฆษณาเชิงทัศนคติรูปแบบใหม่ จากการที่แบรนด์รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามีภาพลักษณ์ของความสนุกอยู่แล้ว เราจะต่อยอดความสนุกดังกล่าวให้เป็นความสนุกที่เปลี่ยนโลกได้ด้วย โดยจากนี้ไปวัยรุ่นจะไม่ได้เพียงแค่ขับขี่รถเพื่อความสนุกเท่านั้น แต่จะต้องเป็นความสนุกอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้สังคมของเราน่าอยู่ขึ้น จากมลพิษที่ลดลง และความปลอดภัยที่มีมากขึ้น ซึ่งในภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จะมีน้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ผู้นำความสนุกเจเนอเรชั่นใหม่, แหลมและสมาชิกวง 25Hours ศิลปินขวัญใจวัยรุ่นมาร่วมกันจุดประกายแนวคิดใหม่ๆ นอกจากนี้ เพื่อให้การสื่อสารตรงกับกลุ่มวัยรุ่นในเมืองมากยิ่งขึ้นเราได้เลือก ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ และมาร์ช-จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล 2 หนุ่มฮอตในวงการบันเทิงเข้ามาร่วมเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ใหม่ของฮอนด้าอีกด้วย โดยย้ง-ทรงยศ นั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้กำกับหนังหรือซีรีย์ชื่อดังเท่านั้น แต่ยังเป็นทั้งไอดอลและผู้มีอิทธิพลทางความคิดต่อเด็กรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก ในขณะที่มาร์ช-จุฑาวุฒิ ก็เป็นเหมือนตัวแทนของวัยรุ่นยุคใหม่ที่มีความสนุกสนานอยู่ในตัว เมื่อทุกคนมารวมตัวกันก็ก่อให้เกิดพลังความสนุกที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆให้วัยรุ่นไทยร่วมกันเปลี่ยนโลกใบนี้ไปสู่โลกที่ดีและสดใสกว่าเดิมได้”
    สำหรับภาพยนตร์โฆษณาแบรนด์แคมเปญชุดใหม่ “มาสนุกเปลี่ยนโลกกัน Power of Fun Project” จะเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 29 เมษายนนี้เป็นต้นไป ทางสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลและเคเบิลทีวีทั่วประเทศ เพื่อสร้างการรับรู้และจุดประกายแรงบันดาลใจใหม่ๆให้กับวัยรุ่น
    ผู้ที่สนใจยังสามารถรับชมโฆษณาชุดนี้ได้ทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.youtube.com/hondamotorcycleTHA พร้อมติดตามข่าวสารของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และกิจกรรมความสนุกแบบเปลี่ยนโลกได้ตลอดทั้งปีที่ www.facebook.com/hondamotorcyclethailand

บ็อกซเตอร์ จีทีเอส (Boxster GTS) และเคย์แมน จีทีเอส (Cayman GTS) เปิดตัวอย่างเป็นทางการสู่สายตาสาธารณชนแล้ว





สตุ้ดการ์ด. ปอร์เช่เปิดตัวบ็อกซเตอร์ จีทีเอส (Boxster GTS) และเคย์แมน จีทีเอส (Cayman GTS) อย่างเป็นทางการสู่สายตาสาธารณชน ในงานมหกรรมยานยนต์ Auto China ณ กรุงปักกิ่ง รถสปอร์ตทั้ง 2 รุ่น จากปอร์เช่จะกลายเป็นรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางที่ทรงพละกำลังและเร็วที่สุด พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับกลุ่มตลาดรถสปอร์ตได้อย่างแน่นอน ปอร์เช่จะนำเสนอรถรุ่นสูงสุดใหม่ทั้ง 2 รุ่น เป็นครั้งแรกในงานแถลงข่าว วันที่ 20 เมษายน เวลา 11:30. ที่ Hall E5 booth 05 ที่ผ่านมา

ไม่เพียงแค่รถสปอร์ต จีทีเอส (GTS) ใหม่ล่าสุดทั้ง 2 รุ่นที่ได้รับการเผยโฉมเท่านั้น ยังมีปอร์เช่รุ่นอื่นที่ได้รับการเผยโฉมในตลาดจีนด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นรถแข่งใหม่ล่าสุด 2 รุ่น นั่นคือ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) และ 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) พร้อมด้วย 918 สไปเดอร์ ไฮบริด (918 Spyder Hybrid) รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ต ที่สุดแห่งนวัตกรรมยานยนต์จากปอร์เช่ ที่ได้นำมาจัดแสดงในงานนี้ด้วยเช่นกัน

ด้วยรูปลักษณ์ที่สปอร์ตอย่างเหนือชั้น สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของกลุ่มตลาดลูกค้าในประเทศจีน  ที่นิยมรถสปอร์ตระดับหรู รถยนต์ปอร์เช่เป็นที่ชื่นชอบในตลาดเอเซียเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตลาดรถหรู 2 ประตู ไม่ว่าจะเป็น 911, บ็อกซเตอร์ (Boxster) และเคย์แมน (Cayman) สำหรับประเทศจีนนี้คือตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา รถสปอร์ตปอร์เช่มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 19.9 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2013 และนั่นคือ ยอดส่งมอบที่ 37,425 คันเลยทีเดียว

บ็อกซเตอร์ จีทีเอส (Boxster GTS) : อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง: ในเมือง 12.7 – 11.4 ลิตร/100 กิโลเมตร; นอกเมือง 7.1 – 6.3 ลิตร/100 กิโลเมตร; อัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 9.0 – 8.2 ลิตร/100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ระหว่าง 211 – 190 กรัม/กิโลเมตร

เคย์แมน จีทีเอส (Cayman GTS): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง: ในเมือง 12.7 – 11.4 ลิตร/100 กิโลเมตร; นอกเมือง 7.1 – 6.3 ลิตร/100 กิโลเมตร; ผสมผสานทั้ง 2 รูปแบบ 9.0 – 8.2 ลิตร/100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ระหว่าง 211 – 190 กรัม/กิโลเมตร

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงาน   ปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง   (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า    เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณหรือ “AAS Looking after YOU and your CAR”สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th

เวสป้า เปิดตัว พรีมาเวร่า พร้อมพาเซเลบเพ้นท์หมวกบริจาคเด็กๆ ทั่วไทย


บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้ารถพรีเมี่ยม สกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลี “เวสป้า”และ        “พิอาจิโอ”รายเดียวในประเทศไทย โดย 3 ผู้บริหารรุ่นใหม่ นายประณิธาน พรประภา กรรมการบริหาร,    นายวิสุทธิ์ เตชะไพบูลย์ กรรมการบริหาร และ นางพรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ เปิดตัว       สกู๊ตเตอรในตำนานตัวใหม่ “เวสป้า พรีมาเวล่า” ภายใต้แคมเปญใหญ่ประจำปี 2557 “More Than Just A Ride” ที่เวสป้าไม่ได้เป็นแค่ยานพาหนะแต่ยังเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน พร้อม  สานต่อโครงการรณรงค์การสวมหมวกนิรภัยและมอบหมวกนิรภัยให้แก่เด็กระหว่างช่วงอายุ 3 – 12 ปี กับแคมเปญ “Help Save One Life by Giving a Kid a Helmet” Great Room ชั้น 3 โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ (สาทรเหนือ) เมื่อวันพุธที่ 23 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา

 “Vespa Primavera” สกู๊ตเตอร์รุ่นยอดนิยมในอดีตกลับมาโลดแล่นบนท้องถนนอีกครั้ง มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 ขนาดได้แก่ 125 ซีซี ราคา 95,400 บาท และ 150   ซีซี ราคา 115,900 บาท งานนี้ได้รับเกียรติจากเซเลบริตี้หลายท่านมาร่วมงานเปิดตัวนำโดย ปลาวาฬ วรสิทธิ์ อิสสระ, ปิ่น-  สุวดี พึ่งบุญพระ, มาริสา   ตามสกุล, วิชดา สีตกะลิน และ พราวพรรณ เลาหพงศ์ชนะ
นอกจากนี้ทาง บริษัทฯ ตอบแทนสังคมกับแคมเปญ Help Save One Life by Giving a Kid a Helmet”  ผลิตหมวกนิรภัยเพื่อให้เหมาะสมับกลุ่มช่วงอายุของเด็กที่กว้างขึ้นสำหรับการมอบหมวกนิรภัยในปีนี้ทางบริษัทฯ ตั้งใจที่จะขยายฐานกลุ่มเด็กเป็นระหว่างช่วงอายุ 3 – 12 ปี
ร่วมสัมผัสสุดยอดนวัตกรรมพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ Vespa Primavera ได้แล้ววันนี้ ที่ Vespa Flagship Store โครงการ เอ  สแควร์ ( A square ) สุขุมวิท 26 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 02-2620888, 02-7160617-23 หรือตัวแทนจำหน่ายเวสป้าทั่วประเทศwww.vespa.co.th หรือรับข่าวสารประชาสัมพันธ์จากเวสป้า ผ่านทาง www.facebook.com/vespathailandและ Instagram : vespathailand

“650Series” บิ๊กไบค์ “Honda” ดีไซน์เฉี่ยวสมรรถนะโดนขับขี่สนุก


เอ.พี.ฮอนด้าและ Honda BigWing เปิดประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ ด้วยเทคโนโลยีและดีไซน์ที่ล้ำสมัยเหนือระดับ ผ่านฮอนด้าบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ๆ ทั้งที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นและที่ผลิตในประเทศไทย ล่าสุดได้จัดกิจกรรมพิเศษพร้อมเชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์กว่า 50 ชีวิตร่วมอบรมและขับขี่ทดสอบฮอนด้าบิ๊กไบค์ CBR650F และ CB650F ณ ศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า กรุงเทพฯ (ถนนรามคำแหง) โดยมี ฟีม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดดีกรีระดับโลกหนึ่งเดียวของไทย เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า ตลอดทปีที่ผ่านมา ตลาดบิ๊กไบค์ซึ่งเจาะฐานลูกค้ากลุ่มบนมีอัตราเติบโตมากขึ้นกว่า 2 เท่า และคาดยังมีอัตราเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ โดยหนึ่งในบิ๊กไบค์ฮอนด้ารุ่นที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทันทีที่เปิดตัวคือ ตระกูล 650Series ที่ทำสถิติยอดจองสูงสุดในงาน Motor Expo 2013 รวมทั้งในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35” ที่เพิ่งปิดฉากไปไม่กี่วันที่ผ่านมา จนได้รับการกล่าวถึงเป็นอย่างมากถึงความเป็นรถบิ๊กไบค์สายพันธุ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่ ทั้งด้านอารมณ์และการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
กิจกรรมอบรมและขับขี่ทดสอบฮอนด้าบิ๊กไบค์ CBR650F และ CB650F ครั้งนี้ Honda ได้เตรียมรถมาให้ทดสอบกว่า 20 คัน พร้อมจัดอบรมเทคโนโลยีอันทันสมัยในด้านต่างๆ ของตัวรถ เริ่มตั้งแต่การพัฒนารูปลักษณ์ การออกแบบเบาะนั่ง สมรรถนะขุมพลังเครื่องยนต์ รวมทั้งระบบความปลอดภัยต่างๆ ทำให้เข้าใจถึงคุณสมบัติพิเศษและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของรถตระกูล 650Series มากยิ่งขึ้น
โดย CBR650F เป็นรถสปอร์ตแบบฟูลริ่ง ขณะที่ CB650F เป็นรถสปอร์ตแบบเนคเก็ต โดยรถทั้ง 2 แบบ มีความแตกต่างกันในเรื่องของดีไซน์ แต่ใช้ขุมพลังขับเคลื่อนเดียวกันคือ เครื่องยนต์ขนาด 650 cc. 4 สูบ แถวเรียง DOHC ระบบหัวฉีดแบบ PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำและ Oil Cooler เพื่อให้ขุมพลังทรงประสิทธิภาพตลอดการใช้งาน และขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ที่สำคัญคือ ระบบความปลอดภัยเหนือชั้นล้ำสมัย ด้วยระบบเบรก ABS และใช้สวิงอาร์มแบบอะลูมิเนียม เพื่อการทรงตัวที่ดีกว่า

ดีไซน์ต่างแต่เทคโนโลยีล้ำสมัยเดียวกัน
หากจะสรุปโดยรวมรถตระกูล 650Series แล้ว CB ดีไซน์ตัวรถจะเน้นความเป็นสปอร์ต สะท้อนเทคโนโลยีการขับขี่จากสนามแข่งสู่ท้องถนน ขณะที่ CBR หรือที่ชาวบิ๊กไบค์เรียกขานกันติดปากว่าแบบเนคเก็ต จะเป็นรถที่ถูกพัฒนาให้ใช้งานในเมืองได้ดี ให้ความคล่องแคล่วสะดวกสบาย
แม้รถทั้ง 2 รุ่นจะมีดีไซน์แตกต่างกัน แต่ด้วยพื้นฐานที่ฮอนด้าพัฒนาตัวรถขึ้น ทำให้ CBR650F
และ CB650F มีมิติตัวรถกระทัดรัดให้ความปราดเปรียว ขับขี่ใช้งานคล่องตัว ขับขี่ได้ดีในชีวิตประจำวัน สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบรถบิ๊กไบค์ได้อย่างตรงจุด โดยเฉพาะสมรรถนะขุมพลังให้อัตราเร่งดี ด้วยเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ถือเป็นจุดขายและเป็นสิ่งที่ชาวบิ๊กไบค์เมืองไทยรอคอยมานาน

สมรรถนะเฉียบคมขับขี่สนุก
แม้พื้นที่ของสนามทดสอบภายในศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าจะมีจำกัด แต่จากการออกแบบเส้นทางขับขี่ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย ทำให้มีลู่วิ่งและเส้นทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางโค้งกว้าง ทางซิกแซก และทางโค้งแคบๆ รวมถึงทางตรงยาวๆ ให้ลองอัตราเร่งช่วงออกตัว นอกจากนี้ยังมีทางขึ้นลงสะพาน และจุดวัดระยะเบรก ทำให้ผู้ขับขี่ทุกคนได้รับรู้ถึงสมรรถนะของตัวรถในทุกมิติ
โดยเฉพาะการตอบสนองขุมพลังเครื่องยนต์ 650 cc. 4 สูบ แถวเรียง DOHC ระบบหัวฉีดแบบ PGM-FI ให้สมรรถนะดีทุกย่านความเร็ว ตั้งแต่ช่วงการออกตัว ความเร็วระดับกลางและความเร็วสูง เครื่องยนต์และระบบเกียร์ถ่ายทอดกำลังออกมาอย่างต่อเนื่องและลื่นไหล เรียกกำลังเครื่องยนต์ออกมาใช้งานได้ดีตั้งแค่รอบต่ำ จึงให้ความครบเครื่องในทุกด้านและขับขี่ได้อย่างสนุกสนาน อัตราเร่งจากระยะ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเฉลี่ยที่ 11 วินาทีเศษเท่านั้น
         ประสิทธิภาพการทรงตัวของรถ ถือว่าทำได้ดีเกินคาด การเลี้ยวในช่วงที่ใช้ความเร็วสูงระดับ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้อย่างคล่องตัว ทั้งในรุ่น CBR650F และ CB650F เชื่อว่าหากมีโอกาสได้ขับทางไกลบนถนนไฮเวย์ ที่มีทางโล่งๆ CBR650F จะให้ความสนุกสนานมากว่านี้อย่างแน่นอน
ขณะที่ท่านั่งและการออกแบบเบาะนั่ง ต้องขอชมว่า ดีไซน์ได้ดี นอกจากทำให้นั่งสบายไม่เมื่อยตัวแล้ว ยังให้ความกระชับ ทำให้ผู้ขับขี่กับตัวรถรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เวลาเลี้ยวรถหรือเทโค้งจะรับรู้ถึงความมั่นคง ซึ่งมีส่วนช่วยให้ควบคุมรถได้ง่าย อีกทั้งแฮนเดอริ่งของแฮนด์ให้การตอบสนองดี โดยในช่วงความเร็วต่ำทำได้โดยง่าย หรือในช่วงที่ใช้ความเร็วสูงก็ให้ความมั่นใจดี
ประสิทธิภาพของระบบเบรก ต้องยกนิ้วให้อีกเช่นกัน ด้วยเทคโนโลยีระบบเบรกดิกส์คู่หน้า และดิกส์เบรกหลัง พ่วงด้วยระบบวงจรช่วยเบรกแบบ ABS เพิ่มความมั่นใจในการหยุดรถได้ดั่งใจ สามารถรองรับกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ตลอดการนั่งอยู่บนหลังอาน

สรุปการทดสอบขับขี่ Honda ตระกูล 650Series ทั้ง CBR650F และ CB650F ในครั้งนี้ ทำให้ได้สัมผัสกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และสมรรถนะอันเหนือชั้นของรถทั้งรุ่นนี้เป็นอย่างดี ส่วนรุ่นไหนแบบใดจะตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคุณได้มากน้อยเพียงใดนั้น คงต้องหาเวลาไปชมและทดลองขับขี่ด้วยตัวคุณเอง
 
ข้อมูลทางเทคนิค
มิติตัวรถ กว้างXยาวXสูง
                    CBR650F       753 X 2,107 X 1,149 มม.
                   CB650F         775 X 2,107 X 1,120 มม.
เครื่องยนต์                         เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำและ Oil Cooler
ปริมาตรความจุกระบอกสูบ    6649  cc.
ระบบหัวฉีด                        แบบ PGM-FI
อัตราส่วนกำลังอัด              11.4:1
ระบบเบรก                         ดิกส์หน้าแบบคู่ และหลังดิกส์เบรก พร้อมวงจร ABS       
ระบบเกียร์                         6 สปีด
ความจุถังน้ำมัน                  17.3 ลิตร

เผยโฉมเอ็มจี 6 รถยนต์รุ่นแรกที่จะทำตลาดในประเทศไทย ในงานมหกรรมยายนต์ บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35




มร.หวู่ ฮวน (ที่สี่จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด เผยโฉมเอ็มจี 6 รถยนต์รุ่นแรกที่จะทำตลาดในประเทศไทย ในงานมหกรรมยายนต์ บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมิถุนายนปีนี้อย่างแน่นอน โดยมี มร.กาย โจนส์ (ที่สองจากขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เอ็มจี มอเตอร์ (ประเทศอังกฤษ) จำกัด พร้อมด้วย มร.จาง ไห่โป (ที่สามจากขวา) นภดล เจียรวนนท์ (ที่สามจากซ้าย) ประเสริฐ เจนจิติกุล (ที่สองจากซ้าย) และ ทัศนา พิริยพฤทธิ์ (ที่สี่จากขวา) ร่วมเป็นเกียรติและแสดงความยินดีกับการกลับมาอีกครั้งของรถยนต์สัญญาติอังกฤษ แบรนด์เอ็มจี ณ บูธ เอ็มจี  อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ 2 เมืองทองธานี

donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved