Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

แอ็กซอลตา (Axalta) และ คินลิตา (Kinlita) ลงนามในสัญญาร่วมทุน สีพ่นเคลือบตลาดรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ของจีน



แอ็กซอลตา (NYSE: AXTA) ผู้นำระบบสีพ่นรถยนต์อันดับหนึ่งของโลก และ เซี่ยงไฮ้คินลิตาเคมิคอล (SZSE: 300225) มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมการเคลือบของจีน ได้เกิดความร่วมมือลงนามข้อตกลงในรูปแบบบริษัทร่วมทุนในประเทศจีน

 วัตถุประสงค์จากความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อเข้าถึงตลาดรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ของจีน กับความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการเคลือบผิวขั้นสูงของแอ็กซอลตา และความแข็งแกร่งในตลาดรถบรรทุกของคินลิตา ที่จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพและความน่าสนใจในตลาดรถบรรทุกเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมของจีน ซึ่งมีบทบาทสำคัญจากการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งสินค้า ที่จะสนับสนุนการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในการสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีน

 เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะลงนามในสัญญาร่วมทุนนี้กับคินลิตา ไมเคิล แคช รองประธานอาวุโสของแอ็กซอลตา กล่าว การร่วมทุนนี้ เป็นประโยชน์ต่อตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยีการเคลือบผิวขั้นสูง องค์ประกอบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเบสโค้ทของเราที่สามารถช่วยให้ผู้ผลิตรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม บวกกับประวัติศาสตร์อันยาวนานและตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งของคินลิตา นี่คือการพัฒนาเพื่อลูกค้าของเราและสำหรับทั้งสองบริษัทของเราในประเทศจีน
 
ความเห็นของเขาถูกสะท้อนโดยคินลิตาประธานวู โกซเฮง (Wu Guozheng) ที่ระบุว่า "ด้วยความสามารถทางการตลาดที่แข็งแกร่งในตลาดรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ของคินลิตา และประสิทธิภาพของแอ็กซอลตา เรามีความคาดหวังสูงสำหรับอนาคตของธุรกิจนี้ ผมมีความยินดีที่จะร่วมมือกับแอ็กซอลตาในการพัฒนาตลาดรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ในประเทศจีน"

แอ็กซอลตา มีการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีในประเทศจีนเมื่อปีที่ผ่านมา จากความเป็นมาและการสนับสนุนอันยาวนานของบริษัทแม่ กว่า 145ปี แห่งนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สีพ่นรถยนต์ ได้ช่วยให้แอ็กซอลตารักษาบทบาทความเป็นผู้นำในการพัฒนาที่ทันสมัย เป็นผลิตภัณฑ์ที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับตลาดการขนส่งในประเทศจีน

จากรายงานของแอลเอ็มซี ออโต้โมทีฟ (LMC Automotive) การผลิตรถบรรทุกนประเทศจีน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 895,000 คัน ในปี 2015 เป็น1,049,000 คัน ในปี 2017

เกี่ยวกับ แอ็กซอลตา (Axalta)
แอ็กซอลตา โค้ทติ้ง ซิสเต็มส์ เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก ด้วยประสบการณ์กว่า 145 ปี ในธุรกิจสีเคลือบสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ การขนส่ง อุตสาหกรรมทั่วไป สถาปัตยกรรมเฉพาะด้าน และการตกแต่งภายใน เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลาย ด้วยการทำงานของพนักงานราว 12,000 คนในการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้ากว่า 120,000 คนใน 130 ประเทศ ดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.axaltacoatingsystems.com
  
         
เกี่ยวกับ คินลิตา (Kinlita)
บริษัท เซี่ยงไฮ้ คินลิตา เคมิคอลจำกัด (Shanghai Kinlita Chemical Co. Ltd.) ก่อตั้งขึ้นในปี 1993 เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น (300,225) เป็นผู้นำนการผลิตสีพ่นเคลือบในอุตสาหกรรมระดับกลางและระดับสูงที่ใช้แบรนด์อิสระและมีการบูรณาการการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การผลิต การขาย และการบริการ คินลิตา มีที่ตั้ง 2 แห่ง คือในเซี่ยงไฮ้และกว่า 30 สำนักงานขายและการให้บริการทั่วทั้งประเทศจีน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.knt.cn/en

ปอร์เช่ในงานมหกรรมยานยนต์ 2015 North American International Auto Show ณ เมืองดีทร้อยต์ 911 ทาร์ก้า 4 จีทีเอส (911 Targa 4 GTS) และคาเยนน์ เทอร์โบ เอส (Cayenne Turbo S): เปิดตัวเป็น 2 รุ่นแรกสำหรับปีใหม่นี้


สตุ้ดการ์ท. 911 ทาร์ก้า 4 จีทีเอส (911 Targa 4GTS) และคาเยนน์ เทอร์โบ เอส (Cayenne Turbo S) ทำการเปิดตัวสู่สายตาสาธารณะชนอย่างเป็นทางการที่งานมหกรรมยานยนต์ 2015 North American In-ternational Auto Show แล้ว ณ เมืองดีทร้อยต์ 911 ทาร์ก้า 4 จีทีเอส (911 Targa 4 GTS) ได้ผสมผสานแนวคิดของจีทีเอส (GTS) เข้าไว้กับความเป็นทาร์ก้า (Targa) สุดคลาสสิคได้อย่างลงตัว เครื่องยนต์ทรงพละกำลังสูงสุดถึง 430 แรงม้า (315 กิโลวัตต์) มาพร้อมกับแพ็คเกจ Sport Chrono package เพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่มากขึ้น ล้อมาตรฐานที่ได้รับการติดตั้งมาด้วยขนาด 20 นิ้วสีดำ Matt Black มาพร้อมกับ central wheel locks ให้สัมผัสถึงความเป็น GTS โดยเฉพาะ ด้านหลังได้รับการออกแบบแนวสปอร์ต ช่องดักอากาศสีดำ และประดับด้วยโลโก้ GTS บนประตู ด้านหลังรถ และบน  rollover protection bar ส่วนพวงมาลัยและเบาะนั่งออกมาในรูปแบบหนัง Alcantara สีดำ ส่วนขอบตกแต่งทำจากอลูมิเนียมสีดำสร้างความเป็นสปอร์ตให้มากยิ่งขึ้น

ส่วนคาเยนน์ (Cayenne) รุ่นโดดเด่นที่สุดจะแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ด้วยแนวคิดของเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ และผสมผสาน Turbochargers เข้ากับ exhaust manifolds ส่งผลให้พละกำลังเครื่องยนต์ของคาเยนน์ เทอร์โบ เอส (Cayenne Turbo S) สูงถึง 570 แรงม้า (419 กิโลวัตต์) ซึ่งถือได้ว่ามากกว่ารุ่นเดิมถึง 20 แรงม้าเลยทีเดียว ส่วนแรงบิดสูงสุดของรถเพิ่มขึ้นอีก 50 นิวตันเมตร (36.8 ft lb) เป็น 800 นิวตันเมตรเลยทีเดียว ส่งผลให้รถมีความคล่องตัวสูง และตัว Turbochargers จะทำให้เครื่องยนต์ Biturbo ทำการตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น

ทั้ง 2 รุ่นใหม่จะมอบความสุนทรีย์ในการขับขี่ได้อย่างมากที่สุด เพราะระดับความสปอร์ตที่มีอยู่สูงและถือเป็นตัวแทนของความสมบูรณ์แบบซึ่งจะทำให้ตลาดรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) ที่ใหญ่ที่สุดอย่างสหรัฐอเมริกายังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่แนะนำรุ่น 356 ไปในช่วงปี 1950 นั้นปอร์เช่ได้กลายเป็นหนึ่งแบรนด์ที่อยู่ในใจของลูกค้าในสหรัฐอเมริกามาโดยตลอด เป็นเสมือนตัวแทนของการผสมผสานความเป็นสปอร์ต ประสิทธิภาพ สมรรถนะที่สูง และรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบไว้ได้อย่างลงตัวที่สุดอีกด้วย ส่งผลให้ตลาดในสหรัฐอเมริกากลายมาเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับปอร์เช่มาโดยตลอด และในปี 2014 นี้ยอดขาย 1 ใน 3 ของปอร์เช่นั้นได้มาจากตลาดแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
 

911 ทาร์ก้า 4 จีทีเอส (911 Targa 4 GTS) ใหม่ล่าสุด: พละกำลังเครื่องยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น คล่องตัวยิ่งขึ้น พร้อมกับรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปีให้กับ 911 ทาร์ก้า (911 Targa) ปอร์เช่จึงได้นำเสนอเรื่องราวของ จีทีเอส (GTS) ที่ทรงพลังและคล่องตัวสูงออกมาให้ยลโฉมกัน แนวคิดทาร์ก้า (Targa) ของ 911 ทาร์ก้า 4 จีทีเอส (911 Targa 4 GTS) จะทำให้รถสามารถมอบความสุนทรีย์ในการขับขี่ และมีความปลอดภัยสูงจากระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ และบาร์ป้องกัน Rollover protection bar รวมถึงการขับขี่แบบเปิดประทุนหลังคาทาร์ก้า (Targa) จะทำการพับเก็บโดยอัตโนมัติ พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 430 แรงม้า (316 กิโลวัตต์) อีกทั้งยังติดตั้งแพ็คเกจ Sport Chrono, ตัวถัง PASM, ล้อขนาด 20 นิ้วและ ท่อไอเสียสปอร์ตมาเป็นระบบมาตรฐานให้กับรถด้วยเช่นกัน

นอกเหนือจากการเสริมจุดเด่นของรถเพิ่มเติมแล้ว อัตราส่วนของน้ำหนักต่อขุมพละกำลังเครื่องยนต์ ที่มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดที่ 430 แรงม้า ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยเช่นกันจาก 3.9 กิโลกรัมเหลือเพียง 3.6 กิโลกรัมต่อแรงม้าหากเทียบกับรุ่น S แรงบิดสูงสุดอยู่เกิน 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ PDK มาด้วย  อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 4.3 วินาทีเท่านั้น แม้เครื่องยนต์จะสามารถผลิตพละกำลังเครื่องยนต์ได้เพิ่มขึ้น 30 แรงม้า (22 กิโลวัตต์) แต่อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงกลับต่ำเพียงแค่ 9.2-10.0 ลิตร/100 กิโลเมตร (10 กิโลเมตร/ลิตร) เท่านั้นขึ้นอยู่กับชนิดของระบบส่งกำลังด้วยเช่นกัน

ความเป็นทาร์ก้า (Targa) รุ่นใหม่ล่าสุดสามารถสังเกตได้ทันทีสำหรับรุ่น GTS เพราะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ หากเทียบกับรุ่น 911 ขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นอื่นๆ ด้านหลังรถขยายใหญ่เพิ่มขึ้น 22 มิลลิเมตร และยางหลังกว้างกว่าถึง 10 มิลลิเมตร ด้านหน้าโดดเด่นด้วยชุดแต่งแบบสปอร์ตมาพร้อมกับ Auxiliary middle radiator และไฟหน้าไบซีนอลแบบ Smoked bi-xenon headlights มาพร้อมกับระบบ Porsche Dynamic Light System (PDLS)

หากมองจากด้านข้างจะพบกับความโดดเด่นของ GTS ด้วยล้อขนาด 20 นิ้วลาย 911 เทอร์โบ เอส (911 Turbo S) แบบ Silky Gloss Black เคลือบเงาสีดำมาพร้อมกับ Central Locks ที่โดดเด่น กระจกมองข้างแบบสปอร์ต และประดับโลโก้ “GTS” อยู่ด้านบนประตูด้วยเช่นกัน ส่วนโลโก้ “Targa” บน Rollover protection bar สีเงินได้รับการพ่นเคลือบเงาสีดำ และสีดำได้ถูกนำมาใช้ในการเน้นความดุดันทางด้านหลังเพิ่มเติม ทั้งแผ่นของช่องดักอากาศ โลโก้รุ่น และปลายท่อไอเสียของรถ

สายพันธุ์ GTS ได้รับการขยายความเพิ่มเติมไว้ภายในห้องโดยสารของ 911 ทาร์ก้า 4 จีทีเอส (911 Targa 4 GTS) แผงตรงกลางจะพบกับนาฬิกาจับเวลาของแพ็คเกจ Sport Chrono เบาะด้านหน้าออกมาในรูปแบบเบาะสปอร์ต Sport Plus Seats ปรับเปลี่ยนได้ 4 ทิศทาง พร้อมด้วยโลโก้ GTS สีดำบนที่พักศรีษะ เบาะลักษณะนี้จะช่วยทำให้สะดวกสบายและกระชับตัวมากยิ่งขึ้นเมื่อต้องเดินทางในระยะไกลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร วัสดุภายในห้องโดยสารส่วนมากเป็นหนัง Alcantara สีดำ มีน้ำหนักเบากว่าครึ่งเลยทีเดียว

ทาร์ก้า (Targa) เป็นสมาชิกของ 911 นับตั้งแต่ปี 1965 และยอดขาย 1 ใน 8 คันของตระกูล 911 นั่นคือทาร์ก้า (Targa) ส่วนแบ่งตลาดรุ่นล่าสุดของ 911 สุดคลาสสิคที่มาพร้อมกับ Rollover protection bar คือ 13% ซึ่งจะเติบโตยิ่งขึ้นไปอีก และด้วยการขยายรุ่นโดยเพิ่ม 911 ทาร์ก้า 4 จีทีเอส (911 Targa 4 GTS) เข้าไปจึงทำให้ปอร์เช่เต็มไปด้วยความทันสมัยสุดคลาสสิค โดยการเพิ่มรุ่นและแพ็คเกจรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานให้กับรถได้ทรงประสิทธิภาพสูงสุด

ปอร์เช่ 911ทาร์ก้า 4จีทีเอส (911 Targa 4 GTS) จะเปิดตัวที่ประเทศเยอรมนีประมาณช่วงกลางเดือนมีนาคม 2015


คาเยนน์ เทอร์โบ เอส (Cayenne Turbo S) ใหม่ล่าสุด: ทรงพลังที่สุดสำหรับรถสปอร์ตอเนกประสงค์

ปอร์เช่ได้ทำการแนะนำคาเยนน์ เทอร์โบ เอส (Cayenne Turbo S) ใหม่ล่าสุดที่งาน 2015 North American          International Auto Show ที่เมืองดีทร้อยด้วยเช่นกัน ถือได้ว่าเป็นรถสปอร์ตอเนกประสงค์ที่ดีที่สุด มาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ ขนาด 4.8 ลิตร V8 Biturbo ผลิตพละกำลังเครื่องยนต์ได้สูงสุด 570 แรงม้า (419 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 800 นิวตันเมตร (590 ft lb) และด้วยตัวถังที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อการขับขี่ที่คล่องตัวมากที่สุด รวมถึงระบบต่างๆ ในการควบคุมที่หลากหลายจึงทำให้คาเยนน์ เทอร์โบ เอส (Cayenne Turbo S) กลายเป็นรุ่นที่โดดเด่นอย่างแท้จริง ทำเวลารอบสนามแข่งชั้นนำของโลกอย่าง Nürburgring ได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 7:59.74 นาที เท่านั้น สร้างตำนานหน้าใหม่ให้กับวงการรถสปอร์ตอเนกประสงค์ SUV ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และยังเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าปอร์เช่ทุกคันคือรถสปอร์ตอย่างแท้จริงไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มตลาดรถแบบใดก็ตาม

การตอบสนองของเครื่องยนต์ Biturbo ทำได้ดีมากขึ้น เพราะการทำงานร่วมกับตัว Turbochargers ซึ่งติดตั้งกับ Exhaust manifolds โดยตรง ลักษณะแบบนี้ทำให้เครื่องยนต์เผาไหม้ทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถผลิตพละกำลังเครื่องยนต์ได้มากขึ้นกว่า 20 แรงม้า มีแรงบิดที่มากกว่าเครื่องยนต์รุ่นเดิมอีก 50 นิวตันเมตร (36.8 ft lb)    เลยทีเดียว อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในเวลาเพียงแค่ 4.1 วินาทีเท่านั้น เร็วกว่ารุ่นเดิมถึง 0.4 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 284 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ระบบตัวถังของคาเยนน์ เทอร์โบ เอส (Cayenne Turbo S) เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมและเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมเช่นกัน ระบบเบรกเซรามิก Porsche Composite Ceramic Brakes (PCCB) ที่มาพร้อมกับจานเบรก 420 มิลลิเมตร ทางด้านหน้า และ 10 สูบคาลิปเปอร์ ได้รับการติดตั้งมาเป็นระบบเบรกมาตรฐาน ส่วนด้านหลังมีขนาด 370 มิลลิเมตร 4 สูบคาลิปเปอร์ ระบบชั้นนำและเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอื่นๆ ต่างได้รับการติดตั้งมาเป็นระบบมาตรฐานให้กับรถอย่างครบครัน อาทิเช่น ระบบ Active roll stabilization system, ระบบ Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) ซึ่งเน้นในการช่วยลดการลื่นไถลทางด้านข้างขณะเข้าโค้ง, ระบบ Porsche Torque Vectoring Plus (PTV Plus) เพื่อเพิ่มการรักษาเสถียรภาพของรถให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยการใช้วิธีการเบรกที่เฉพาะบริเวณล้อหลังด้านซ้ายหรือขวา และจะช่วยให้รถบังคับเลี้ยวเข้าโค้งและควบคุมพวงมาลัยมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น  ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Active hang-on all-wheel drive system Porsche Traction Management (PTM) ได้รับการติดตั้งมาเป็นระบบขับเคลื่อนให้การกระจายพละกำลังเครื่องยนต์ไปทางด้านหน้าอย่างเต็มที่ ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำงานร่วมกันระหว่างระบบเหล่านี้คือ การขับขี่ที่คล่องตัวอย่างเป็นเลิศ และการทรงตัวที่เกาะถนนไม่ว่าจะอยู่ในความเร็วเท่าใดก็ตาม

จุดเด่นของคาเยนน์ เทอร์โบ เอส (Cayenne Turbo S) ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานยังคงไม่หมดเพียงเท่านี้ หากเรายังได้นำเสนอล้อขนาด 21 นิ้วลาย 911 เทอร์โบ ดีไซน์ (911 Turbo design) พ่นสีดำเพื่อความดุดัน และไฟหน้าแบบ LED ที่มาพร้อมกับระบบ Porsche Dynamic Light System Plus (PDLS Plus), หนังแท้สำหรับภายในห้องโดยสารมาพร้อมกับโลโก้ปอร์เช่ที่ประดับอยู่บนที่พักศรีษะ รวมถึงชุดแต่งภายในห้องโดยสารแบบคาร์บอน สีภายในห้องโดยสารเป็นแบบสีผสม ดำ/ครีม ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในรถคาเยนน์ เทอร์โบ เอส (Cayenne Turbo S) ส่วนภายนอกจะพบกับช่องดักอากาศทางด้านหน้ารถที่ได้รับการพ่นเป็นสีดำเงา ฐานกระจกมองข้างและสปอยเลอร์หลังคารวมถึงบังโคลนล้อจะเป็นสีเดียวกันกับตัวรถด้วยเช่นกัน  ระบบท่อไอเสียสปอร์ต sport exhaust system สามารถเลือกติดตั้งให้คู่กับระบบ sound symposer ที่จะทำให้เสียงของเครื่องยนต์ V8 ถูกส่งออกมาได้อย่างกระหึ่มและดุดัน สร้างความสุนทรีย์ภายในห้องโดยสารได้อย่างยอดเยี่ยม 

ปอร์เช่ คาเยนน์ เทอร์โบ เอส (Cayenne Turbo S) จะเปิดตัวที่ประเทศเยอรมนี ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2015

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรง พร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award และ The Highest Score of Porsche Service Support Mission 2014 จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง(Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่านตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า  เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณหรือ AAS Looking after YOU and your CAR” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th


ปอร์เช่ 911ทาร์ก้า 4 จีทีเอส (911 Targa 4 GTS): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ยอยู่ที่10.0-9.2 ลิตร/100 กิโลเมตร (10-10.8 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) อยู่ที่ 237-214 กรัม/กิโลเมตร

ปอร์เช่ คาเยนน์ เทอร์โบ เอส (Cayenne Turbo S): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ยอยู่ที่ 11.5 ลิตร/100 กิโลเมตร (8.6 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) อยู่ที่ 267 กรัม/กิโลเมตร

เอ.พี.ฮอนด้าเดินเกมรุกตลาดจักรยานยนต์ไทยตั้งแต่ไตรมาสแรก เปิดตัวรถใหม่รวม 4 รุ่น นำโดย All New Click125i และ Moove Limited Edition แมนฯยูฯ-ลิเวอร์พูล วางเป้ากวาด 1.39 ล้านคันปี 2015 จากตลาดรวม 1.75 ล้านคัน พร้อมสานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน




เอ.พี.ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ประกาศความสำเร็จในปี 2014ครองอันดับ 1 ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยเป็นปีที่ 26 ติดต่อกันด้วยยอดจำหน่าย 1,356,749 คัน จากตลาดรวมทั้งสิ้น 1,701,532 คัน สานต่อเป้าหมายระยะยาวสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และกิจกรรมเพื่อสังคมหลากหลายรูปแบบ พร้อมกับตั้งเป้าจำหน่ายปี 2015 ไว้ที่ 1,390,000 คัน จากตลาดรวมที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,750,000 คัน เตรียมเดินเกมรุกตั้งแต่ไตรมาสแรกด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่พร้อมกันทีเดียว 4 รุ่น ได้แก่ All New Click125i รถสปอร์ตเอ.ที.ดีไซน์ใหม่หมดทั้งคันภายใต้คอนเซปต์ The Rise of Super Sport A.T. นิยามใหม่แห่งผู้นำตัวจริง เฉียบคมด้วยรูปทรงที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากซูเปอร์คาร์ ล้ำสมัยด้วยฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยีอันประกอบไปด้วยเครื่องยนต์ eSP (Enhanced Smart Power) ขนาด 125ซีซี ระบบหัวฉีด PGM-FI, ระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ Idling Stop System, และระบบกระจายแรงเบรกหน้า-หลัง Combi Brake System โดยมี 2 ซูเปอร์สตาร์อย่างโดม-ปกรณ์ ลัม และบี้-สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว มาถ่ายทอดคาแรกเตอร์หนุ่มมาดเท่ผู้รักความแรง ตามด้วย  Moove Limited Edition รถสมาร์ทเอ.ที.รุ่นพิเศษลายแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและลิเวอร์พูลลิขสิทธิ์แท้จากอังกฤษ, New CRF250L และ New CRF250M สปอร์ตกราฟิกใหม่โฉบเฉี่ยวยิ่งกว่าเดิมสำหรับขาลุยที่ไม่ชอบความธรรมดา พร้อมกันนี้ยังเพิ่มสีสันในไลน์อัพวัยรุ่นด้วยการวางจำหน่าย Zoomer-X สีฟ้าบลูชาร์ค ก่อนจะทยอยส่งโมเดลใหม่ลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้ เพื่อสร้างความคึกคักและตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน

มร.โนบุฮิเดะ นางาตะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยเปิดเผยว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยนั้นยังอยู่ในสภาวะที่ต้องจับตาดูอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2013ตลาดก็เริ่มปรับตัวลดลงมาจนถึงปัจจุบัน โดยยอดจดทะเบียนรวมของปี 2014 มีปริมาณทั้งสิ้น 1,701,532 คัน ปรับตัวลดลงราว 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และยังคงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการชะลอตัวดังกล่าวนี้หากมองในแง่ของระยะเวลาและปริมาณแล้วถือเป็นการถดถอยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในเอเชียเมื่อปี 1997 ในขณะที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 1,356,749 คัน ลดลง 9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ยังคงครองตำแหน่งผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ไทยเป็นปีที่ 26ติดต่อกัน โดยแบรนด์ฮอนด้าสามารถครองแชมป์ยอดจำหน่ายสูงสุดได้ในทุกประเภทรวมถึงรถบิ๊กไบค์

แม้ตลาดรถจักรยานยนต์จะปรับตัวลดลง แต่กลุ่มรถแบบสปอร์ตยังคงมีการเติบโตได้ดี ล่าสุดมีสัดส่วนอยู่ที่ 11% จากตลาดรวมทั้งหมดและมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไป ซึ่งทางเอ.พี.ฮอนด้าได้เตรียมเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตอย่างเต็มที่ หลังจากที่ได้ร่วมเป็น Founder Sponsor ของสนาม CIC เมื่อปีที่ผ่านมาโดยจะนำความสนุกระดับโลกมาให้ชาวไทยได้สัมผัส เพื่อกระตุ้นตลาดรถสปอร์ตที่กำลังขยายตัวให้เติบโตยิ่งขึ้นไปอีก

ในส่วนของการจำหน่ายรถบิ๊กไบค์ เอ.พี.ฮอนด้ามีแผนงานที่จะขยายเครือข่าย Honda Wing Center จาก 10 สาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยการเปิดสาขาเพิ่มอีก 2-3 แห่งในภูมิภาคต่างๆภายในปีนี้ ควบคู่ไปกับการขยายเครือข่ายศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยขนาดใหญ่แห่งใหม่ที่จังหวัดภูเก็ตและเชียงใหม่ โดยศูนย์เหล่านี้จะเป็นทั้งศูนย์กลางของการเรียนรู้ขับขี่ปลอดภัยของรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก เทคนิคการขับขี่รถบิ๊กไบค์และการขับขี่แบบออฟโรด เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น และยกระดับไปสู่การเรียนรู้ในรูปแบบ Riding Culture

นอกจากนี้ปี 2015ยังเป็นปีที่ 2 ของแผนระยะกลาง 3ปีระหว่างปี 2014-2016 มุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน ซึ่งทางเอ.พี.ฮอนด้าได้เตรียมสานต่อการทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกับเครือข่ายศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมบริจาคโลหิตทั่วไทย การรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย กิจกรรมกีฬาเพื่อเยาวชน พร้อมกับสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งมอบให้กับผู้บริโภค

สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปี 2015 คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป แม้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศปรับ GDP เหลือ 4% แต่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ประกาศเมื่อเร็วๆนี้นั้นอยู่ที่ 81.1 ถือเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 18 เดือน และยังมีข่าวดีในเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนั้นแม้การฟื้นตัวของตลาดในช่วงครึ่งปีแรกอาจจะยังไม่สามารถคาดหวังได้ แต่เราน่าจะได้เห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าปีนี้ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยจะอยู่ประมาณ 1,750,000 คัน เติบโตขึ้นประมาณ 3% ในขณะที่เอ.พี.ฮอนด้าตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1,390,000 คัน โดยฮอนด้าได้เตรียมกระตุ้นดีมานด์ให้กับตลาดตั้งแต่ไตรมาสแรกภายใต้แบรนด์แคมเปญมาสนุกเปลี่ยนโลกกัน Power of Fun Project ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆในหลายเซกเมนท์ เริ่มจาก All New Click125i ซึ่งถือเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ของสปอร์ตเอ.ที.ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย โฉบเฉี่ยวด้วยดีไซน์ใหม่สไตล์รถซูเปอร์คาร์ ติตตั้ง Honda Smart Technology ที่ให้ทั้งความประหยัด สมรรถนะและความมั่นใจในการขับขี่ พร้อมกับเปิดตัว Honda Moove Limited Edition ลาย Man Utd. และ Liverpool F.C. ลิขสิทธิ์แท้จากประเทศอังกฤษ รวมไปถึง New CRF250L และ New CRF250M รถสปอร์ตรุ่นใหม่ที่ได้รับการปรับโฉมให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้นไปอีก ในขณะเดียวกันเรายังได้เพิ่ม Zoomer-X สีใหม่ ฟ้าบลูชาร์ค เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังมองหาความแตกต่างอีกด้วย

สำหรับ All New Click125i ได้รับการออกแบบใหม่หมดทั้งคันภายใต้คอนเซปต์ The Rise of Super Sport A.T. นิยามใหม่แห่งผู้นำตัวจริง ดีไซน์ด้วยแรงบันดาลใจจากรถซูเปอร์คาร์ โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าและไฟหรี่แบบ LED ไฟท้ายดีไซน์พรีเมียมสปอร์ต หน้าปัดเรือนไมล์แบบดิจิตอล หรูหราด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ LCD สีฟ้า ล้อแม็กดำด้านดีไซน์ใหม่พร้อมยางแบบจุ๊บเลส ล้ำหน้าเหนือระดับด้วย Honda Smart Technology ที่รวม 3เทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบเข้าไว้ด้วยกัน ประกอบด้วยเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง eSP (Enhanced Smart Power) ขนาด125ซีซี ระบบหัวฉีด PGM-FI ที่มีระบบการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ สมรรถนะสูง แรงเสียดทานต่ำ ทำงานร่วมกับระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ Idling Stop System จึงมีอัตราประหยัดน้ำมันที่สูงถึง 58.9กิโลเมตร/ลิตร (วัดตามมาตรฐาน สมอ. ECE R40 Mode) และติดตั้งระบบกระจายแรงเบรกหน้า-หลัง Combi Brake System เพื่อความมั่นใจ โดยมี 2 ซูเปอร์สตาร์หนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ อย่างโดม-ปกรณ์ ลัม และบี้-สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว มาเป็นพรีเซนเตอร์เพื่อถ่ายทอดคาแรกเตอร์หนุ่มมาดเท่ผู้รักความแรงของรถรุ่นนี้

เอ.พี.ฮอนด้าพร้อมวางจำหน่าย All New Click125i ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 21 มกราคมเป็นต้นไป โดยมีให้เลือกทั้งแบบล้อซี่ลวด 5 สี (สีแดง-ดำ, ขาว-ดำ, น้ำเงิน-ดำ, ชมพู-ดำ, ดำ-แดง) และรุ่นล้อแม็ก 4 สี (สีดำ, ขาว-ดำ, แดง-ดำ, น้ำเงิน-ดำ) ด้วยราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 49,500 บาท

New CRF250L รถสไตล์เอ็นดูโร่ที่รองรับทั้ง On-Road และ Off Road กับกราฟิกใหม่ภายใต้คอนเซปต์ The Boundless Adventure ถ่ายทอดความเป็นสปอร์ตจากสนามแข่งทางฝุ่นระดับโลกได้อย่างโฉบเฉี่ยว ราคาแนะนำ 134,600 บาท, New Honda CRF250M รถโมตาร์ดยอดฮิตที่มาพร้อมกราฟิกใหม่แบบจีโอเมทริคแพทเทิร์น (Geometric Pattern) ภายใต้คอนเซปต์ Energize Your Motard Spirit เทรนด์ใหม่โดนใจคนเมือง ราคาแนะนำ 140,600 บาท วางจำหน่ายพร้อมกันทั้ง 2 รุ่นทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคมนี้

All New Moove Liverpool F.C. Limited Edition และ Honda Moove Man Utd. Limited Edition ดีไซน์พิเศษลายลิขสิทธิ์แท้จากสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและลิเวอร์พูลเพื่อแฟนบอลของทั้ง 2 ทีมโดยเฉพาะ ผลิตจำนวนจำกัด พร้อมวางจำหน่ายเร็วๆนี้

“ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” พร้อมเปิดศึกระดับโลก เอฟ ไอ เอ็ม ซูเปอร์ไบค์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2015 สนาม 2 ร่วมเชียร์นักแข่งไทย “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ คว้าแชมป์ประวัติศาสตร์ในโฮมเรซ



14 ม.ค. 2558 โรงแรมพูลแมน คิง พาวเวอร์, กรุงเทพฯ : บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด จับมือกับผู้สนับสนุนหลัก และ ดอร์น่า ดับเบิลยูเอสบีเค ออร์แกไนเซชั่น (DWO) เตรียมเปิดศึก     การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รายการ เอฟ ไอ เอ็ม ซูเปอร์ไบค์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2015  สนาม 2 ที่ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 20-22 มีนาคม 2558 นี้ แฟนความเร็วสามารถหาซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันได้ที่ ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ออลล์ ทิคเก็ต ใน เซเว่น อีเลเว่น ทุกสาขา   ทั่วประเทศ และร้านค้าที่มีสัญลักษณ์เคาน์เตอร์เซอร์วิส
เมื่อวันพุธ ที่ 14 มกราคม 2558 ที่ห้องอินฟินิตี้ บอลรูม ชั้น 1 โรงแรมพูลแมน คิง พาวเวอร์ ซอยรางน้ำ พญาไท กรุงเทพฯ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษาฯ, นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต, นายวรรัตย์ จรูญสมิทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด       บริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, นายอารักษ์ พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด,  นาย   บุรณิน รัตนสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), นายกรธัช แก่นจันทร์ดา ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายกิจกรรมการตลาดและกีฬายานยนต์ บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด, คุณสุพรรณี ถวิลหวัง ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และดูแลภาพลักษณ์องค์กร     บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน), คุณกมลชนก จะโนภาษ Assistance Vice President-Corporate Branding ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), คุณตวงพร บุณยะสาระนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านสื่อสารการตลาด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน), บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), คุณภาสวรรณ จันทร์คู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), กลุ่มบริษัท คิงพาวเวอร์ และ คุณภัททิยา ภาชนะทิพย์รองผู้จัดการทั่วไป  บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส  จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รายการ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2015
นายเนวิน กล่าวว่า การจัดการแข่งขันเอฟ ไอ เอ็ม ซูเปอร์ไบค์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2015  เป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของวงการมอเตอร์ไซค์ทางเรียบของไทย ความพร้อมของช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ FIM มาตรวจสอบสภาพความพร้อม และรับรองให้เป็นสนามระดับ เอฟ ไอ เอ็ม เกรดเอ เรียบร้อยแล้ว รวมถึงจัดอบรมและสัมมนาการทำงานของกรรมการภาคสนามเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคมนี้
นี่ไม่ได้เป็นเพียงประวัติศาสตร์ ที่มีการจัดการแข่งขันระดับโลกในประเทศไทย แต่ยังเป็นการได้ชมนักแข่งไทยถึง 5 คน ด้วยสิทธิ์ไวด์การ์ด 4 คน จากยามาฮ่า ได้แก่ เฉลิมพล ผลไม้ และ เดชา ไกรศาสตร์ ส่วน ฮอนด้า ได้แก่ จักกฤษณ์ แสวงสวาท และ รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ด้านอีกคนคือ ฟิล์ม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ที่แข่งอยู่ในซีรีส์นี้อยู่แล้ว โดยทุกคนจะได้ขับต่อหน้าแฟนๆ ชาวไทย ในบ้านของเราเอง
นอกจากนี้ จะมีซัพพอร์ตเรซ ที่วัดกันระหว่าง 2 ค่าย อย่าง ฮอนด้า และ ยามาฮ่า ซึ่งสามารถนำนักบิดในเอเซียมาดวลความเร็วได้ ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 CC. ขณะเดียวกันเรายังสร้างสถิติใหม่ของโลก ด้วยราคาบัตรที่ถูกที่สุดในโลกคือ 500 บาทเท่านั้น เราอยากให้ชาวไทยได้ชมเกมการแข่งขันระดับโลกด้วยงบประมาณที่ถูกที่สุด และนี่คือการประกาศว่าไทยคือประเทศในแถวหน้าของวงการมอเตอร์สปอร์ตโลก
สำหรับบริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด บรรลุสัญญากับ ดอร์น่า ดับเบิลยูเอสบีเค      ออร์แกไนเซชั่น (DWO) ผู้ดูแลลิขสิทธิ์การแข่งขัน เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ ระยะเวลา 3 ปี          ตั้งแต่ปี 2015-2017 และในปีนี้ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ได้รับการบรรจุเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รายการ เอฟ ไอ เอ็ม ซูเปอร์ไบค์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2015 สนาม 2        ซึ่งจะมีการแข่งขันในวันที่ 20-22 มีนาคม 2558 นี้ ถือเป็นการแข่งขันระดับเวิลด์ ซีรีส์ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมืองไทย และเป็นชาติที่ 24 ที่ได้เป็นเจ้าภาพ
ด้านบัตรเข้าชมการแข่งขัน แฟนความเร็วชาวไทย สามารถซื้อบัตรได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ออลล์ ทิคเก็ต   ใน เซเว่น อีเลเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ และร้านค้าที่มีสัญลักษณ์เคาน์เตอร์เซอร์วิส ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.allticketthailand.com บัตร VIP LOUNGE ราคา 3,000 บาท สำหรับ 1 วัน / 5,000 บาท สำหรับ 3 วัน บัตร Grandstandราคา 1,500 บาท สำหรับ 1 วัน  / 2,000 บาท สำหรับ 3 วัน และ        บัตร Side Stand 300 บาท สำหรับ 1 วัน / และ 500 บาท สำหรับ 3 วัน เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันศุกร์            ที่ 16 มกราคมนี้ เป็นต้นไป ติดตามส่วนลด พิเศษสุดๆ 25-50 เปอร์เซ็นต์ จากผู้สนับสนุนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02-711 7788 หรือที่ www.changbric.com

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตไทย ในรายการชิงแชมป์ระดับโลก ส่งแรงเชียร์ให้นักแข่งไทยคว้าแชมป์ในการแข่งขันรายการ เอฟ ไอ เอ็ม ซูเปอร์ไบค์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2015 ณ           สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 20 - 22 มีนาคม 2558 ถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 13.00-14.00 น.
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved