Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

มาสด้าเดินหน้าพัฒนาคุณภาพเซอร์วิส ช่างเทคนิคไทยผงาดคว้าแชมป์เอเชีย



กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 7 เมษายน 2558 บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมยกระดับคุณภาพของการบริการหลังการขาย เพื่อก้าวขึ้นไปครองอันดับหนึ่งด้านความพึงพอใจสูงสุดจากลูกค้า พร้อมส่งช่างเทคนิคจากศูนย์บริการมาสด้าในประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ความเป็นสุดยอดของช่างบริการมาสด้าประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ในรายการ MAZTECH Mazda Technician Contest 2015 ครั้งที่ 3 โดยมีตัวแทนช่างเทคนิคที่ชนะเลิศในแต่ละประเทศเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ทั้งหมด 8 ทีม จากมาสด้าในกลุ่มประเทศในโซนเอเชียและโอเชียเนีย ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่สองในประเทศไทย
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการบริการหลังการขายเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดเกินความคาดหมายของลูกค้า โดยจัดให้มีการฝึกอบรมช่างเทคนิคมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาทักษะให้เกิดความเชี่ยวชาญในด้านการบริการ สำหรับการแข่งขันทักษะช่างเทคนิครายการ MAZTECH Mazda Technician Contest Asia & Oceania 2015 ในครั้งนี้ เป็นการแข่งขันฝีมือช่างเทคนิคของมาสด้าในทวีปเอเชียรวมถึงประเทศใกล้เคียง ซึ่งจัดขึ้นมาเป็นครั้งที่ 3 การจัดแข่งขันในครั้งนี้จัดขึ้นในประเทศไทย โดยใช้พื้นที่ของศูนย์ฝึกอบรมมาสด้า หรือ Mazda Thailand Training Center ซึ่งนับเป็นความภูมใจของคนไทยอีกครั้งที่ Mazda Motor Corporationประเทศญี่ปุ่น ได้เลือกประเทศไทยเพื่อจัดการแข่งขันลักษณะนี้ขึ้นเป็นครั้งที่สอง และถือว่าการแข่งขันครั้งนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพและมาตรฐานฝีมือช่างเทคนิคของมาสด้าทุกคนให้เกิดความมุ่งมั่นและใส่ใจในการให้บริการลูกค้าเพิ่มสูงขึ้น
มาสด้าประสบผลสำเร็จในระดับโลกนั้น ไม่ใช่เพียงแค่การผลิตรถยนต์ออกมาภายใต้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยเท่านั้น หากแต่มาสด้ายังได้ผนวกเอาสุดยอดแห่ง เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ที่ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน รวมทั้งรูปลักษณ์การออกแบบภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ Soul of Motion หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันงดงาม ที่ทำให้รถยนต์มาสด้าทุกคันมีเอกลักษณ์เฉพาะ ให้ความสนุกสนานและตืนเต้นเร้าใจในการขับขี่ แต่สิ่งที่สำคัญสูงสุดของมาสด้า คือ การเอาใจใส่ดูแลลูกค้าเสมือนหนึ่งในครอบครัว เพื่อรักษาความพึงพอใจและสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า สำหรับประเทศไทยนั้นการสร้างยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นต้องอาศัยระยะเวลา อาศัยความผูกพันเป็นเวลานาน ในการให้บริการกับลูกค้าของแต่ละโชว์รูมต้องกระตุ้นให้มีการบริการที่ยอดเยี่ยม ฉะนั้นมาสด้าจึงต้องมีการปรับปรุงความรู้ความสามารถต่างๆ เพิ่มทักษะของบุคลากรในศูนย์บริการให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น ความชำนาญและความเชี่ยวชาญนั้นต้องมีการพัฒนาทุกวัน ยุทธศาสตร์สำคัญที่มาสด้าตั้งใจไว้ นั่นก็คือต้องการพัฒนาเรื่องทีมช่าง  การให้บริการหลังการขายสู่ความเป็นเลิศ สามารถตอบสนองเกินความคาดหวังของลูกค้าอย่างเต็มที่ เราต้องการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี การแก้ไขปัญหาในทุกๆด้านด้วยความพร้อมของทักษะที่ดี การสร้างมาตรฐานการบริการที่ดีในทุกๆศูนย์บริการมาสด้าคือเป้าหมายที่สำคัญเพราะมาสด้ามุ่งมั่นมอบสิ่งดีๆ ให้กับลูกค้าทุกๆ วัน มร.ฮิเดสึเกะ กล่าวเสริม
สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ต้องการหาผู้ชนะเลิศ 3 ทีม เพื่อเข้าไปแข่งขันช่างเทคนิคในระดับโลกที่ญี่ปุ่น ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้นั้นมีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 8 ทีม จากทั้งหมด 8 ประเทศ โดยแต่ละทีมมีอยู่ 3 ท่าน ประกอบด้วยผู้ประสานงาน 1 ท่าน และช่างเทคนิคที่เข้าแข่งขันอีก 2 ท่าน การแข่งขันแบ่งออกเป็น 4 สถานีย่อยแต่ละสถานีก็วางปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งคาดว่าการแข่งขันในครั้งนี้เป็นการแข่งขันที่สนุกสนานและเข้มข้นมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาว่าใครคือผู้ชนะนั้นไม่สำคัญเท่ากับการตั้งใจให้บริการกับลูกค้าในตลาดของมาสด้าให้ดีที่สุด
สำหรับช่างเทคนิคที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้มีทั้งหมด 8 ประเทศ ประกอบไปด้วย  ทีมแรก คือ เจ้าภาพจากประเทศไทย ถัดมาเป็นทีมจากประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม ออสเตรเลีย และจากประเทศจีนอีก 2 ทีม สำหรับทีมมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ที่ส่งเข้าแข่งขันในครั้งนี้มากจากผู้ชนะเลิศจากการแข่งขันที่มาสด้าได้จัดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาจากการจัดการแข่งขันช่างเทคนิคที่เข้าร่วมงานจากทั่วประเทศ ประกอบด้วย อาจารย์ธนาสิทธิ์ สิทธิ์ฤทธิ์ ผู้ประสานงาน กับผู้เข้าแข่งขัน 2 คน คือ นายสุริยงค์ พุ่มศิริ จากศูนย์บริการมาสด้า โชคชัย (1991) สวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย และนายกฤษณะ กนกวัฒนะพันธ์ จากศูนย์บริการ มาสด้าบิซ มอเตอร์ส สาขาสุขุมวิท 65 กรุงเทพมหานคร
สรุปผลการแข่งขัน “MAZTECH Mazda Technician Contest Asia & Oceania 2015”   ทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศมาครองในครั้งนี้ ได้แก่ทีมจากประเทศไทย รองชนะเลิศตกเป็นของทีมจากประเทศออสเตรเลีย โดยทั้ง 2 ทีมนี้ จะได้เข้าร่วมงานฉลองความสำเร็จพร้อมกับผู้แทนจากแต่ละภูมิภาค ในงาน “MAZTECH World Final” ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนกรกฎาคม 2558 ซึ่งถือเป็นการชุมนุมใหญ่ด้านช่างเทคนิคของโลก

มูลนิธิสันติภาพนานาชาติ วางใจเลือก “VW Caravelle”


เมื่อเร็วๆ นี้ ศาสตร์จารย์บรู๊ซ เอ. บอทเลอร์ : Prof.Bruce A.Beutler (คนซ้ายมือ)  ผู้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาแพทย์ ปี 2011 และดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์พันธุศาสตร์ ศูนย์การแพทย์เท็กซัสตะวันตกเฉียงใต้  ในรัฐดัสลัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แสดงปาฐกถา เรื่อง “การต่อสู้กับโรคติดเชื้อของคนทั่วโลก” ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริ อันเป็นหนึ่งในกิจกรรมของโครงการ “สานสัมพันธ์สู่สันติวัฒนธรรม ครั้งที่ 5 ประจำภูมิภาคอาเซียน” The 5th ASEAN event series “Bridges - Dialogues Towards a Culture of Peace”)  ที่จัดขึ้นโดยมูลนิธิสันติภาพนานาชาติ (The International Peace Foundation) และมอบความไว้วางใจในการเลือกรถยนต์  โฟล์คสวาเกน รุ่นเดอะ นิว คาราเวล จาก บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ในเครือ “กลุ่มไทยยานยนตร์” เป็นยานพาหนะสำหรับการเดินทางในกิจกรรมครั้งนี้

ค่าย “เด็กปั้น: ปันความสุข ปลูกความรู้ สู่อนาคตยั่งยืน” ค่ายเยาวชน น้องม.ต้น จากทั่วประเทศ ต่อยอดความคิด ประกวดโครงการพัฒนาโรงเรียน โตโยต้า ลีสซิ่ง ร่วมมือกับ สพฐ. และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปั้นเด็กไทยรู้จักคิด วิเคราะห์ มอบโอกาส และทุนการศึกษา



บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ และ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดโครงการ “เด็กปั้น ปันความสุข ปลูกความรู้ สู่อนาคตยั่งยืน” เพื่อปั้นเยาวชน ในระดับมัธยมต้น (ม.1-ม.3) จากทั่วประเทศ ร่วมสร้างสรรค์โครงการคิดดี ทำดี แก้ไขปัญหาภายในโรงเรียน  มอบทุนการศึกษามูลค่ากว่า 600,000 บาท พร้อมจัดค่ายเยาวชนเรียนรู้ การคิดวิเคราะห์ตามหลักไคเซ็น (Kaizen) ซึ่งสร้างความสำเร็จในการทำงานภายในองค์กร  ขยายผล ปั้นเด็กไทยให้รู้จัก คิด วิเคราะห์ พัฒนาได้อย่างยั่งยืนในอนาคต  โดยมีโรงเรียนทั่วประเทศไทยร่วมสมัคร และผ่านการคัดเลือกแผนงาน ร่างโครงการที่จะช่วยแก้ปัญหาและเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน  ภายใต้หัวข้อ “เด็กปั้น:  รวมพลังความคิด พิชิตปัญหา พัฒนาโรงเรียนให้ยั่งยืน" จำนวน 30 โรงเรียน 



 'ค่ายเด็กปั้นจะมีขึ้นในวันที 24-26 มี.ค. 2558 นี้  เพื่อติดอาวุธ "ไคเซ็น" ให้เป็นเครื่องมือที่เด็กจะนำไปใช้พัฒนาตนเอง และชุมชนต่อไป  โดยหลังจากจบค่ายแล้ว แต่ละโรงเรียนจะส่งแผนโครงการที่ถูกจัดทำขึ้นตามหลักไคเซ็นส่งเข้าประกวด เพื่อเฟ้นหา 3 สุดยอดโรงเรียนเด็กปั้น ชิงเงินรางวัล โรงเรียนละ 1 แสนบาท ให้สามารถนำไปจัดทำโครงการพัฒนาให้เกิดขึ้นจริงที่โรงเรียน โดยตลอดระยะเวลาในการทำแผนและดำเนินโครงการ จะมีพนักงานจิตอาสาของ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ที่อยู่ตามสำนักงานสาขาจังหวัดต่างๆ ที่แต่ละโรงเรียนตั้งอยู่ ไปช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้ในแต่ละ โรงเรียน ด้วย ซึ่งโครงการได้เริ่มดำเนินการรับสมัคร มาตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา เพื่อผ่านเข้าสู่กระบวนการประกวดโครงการ เพื่อคัดเลือกผู้ชนะ ซึ่งจะเสร็จสิ้นราวเดือนกรกฎาคม

ทีเอสแอล เผยแผนธุรกิจปี 2558 เน้นศักยภาพของศูนย์บริการ เปิดรับดูแลรถนำเข้าทุกแบรนด์ จากทุกค่าย


ทีเอสแอล เปิดแผนธุรกิจ ปี 2558 ตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากงานบริการหลังการขายเป็นหลัก ทุ่มพัฒนาเทคโนโลยีและบุคคลากร เพื่อให้ศูนย์บริการทั้ง 4 สาขา พร้อมรองรับการให้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งเปิดให้บริการกับรถนำเข้าทุกแบรนด์ จากทุกค่าย ไม่ว่าจะออกรถกับที่ใดก็ตาม นำรถเข้ามาใช้บริการที่ทีเอสแอลได้ ด้านแคมเปญโปรโมชั่นและกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ จัดเต็มทุ่มงบประมาณกว่า 15 ล้านบาท ด้วยรายการคืนกำไรในรูปแบบต่างๆ อัดแน่นตลอดทั้งปี

นางสาวสุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัดเปิดเผยว่า “ในปี 2558 นี้ ทีเอสแอลจะมุ่งเป้าไปที่การเพิ่มศักยภาพของศูนย์บริการ ทั้งในด้านกำลังคน สถานที่ เทคโนโลยี เพื่อความรวดเร็วที่ควบคู่ไปกับประสิทธิภาพของรถลูกค้าที่เข้ามารับบริการ และที่สำคัญที่ลูกค้าส่วนใหญ่ยังไม่ทราบคือ ศูนย์บริการของทีเอสแอล เป็นทั้งศูนย์เครื่อง ศูนย์สีและตัวถัง แบบครบวงจร

“โดยปรกติลูกค้าที่จะใช้บริการศูนย์ได้ต้องเป็นลูกค้าที่ออกรถกับทีเอสแอลเท่านั้น สำหรับรถที่มาจากค่ายอื่นๆ หากประสงค์จะใช้บริการต้องมีค่าแรกเข้า 100,000 บาท แต่เนื่องจากมีรถจากที่อื่นๆ จำนวนหนึ่งที่ประสงค์จะมาใช้บริการ โดยได้รับการบอกเล่าเรื่องความเป็นมาตรฐานของศูนย์ต่อจากลูกค้าของทีเอสแอล ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 ศูนย์บริการของทีเอสแอลทุกสาขา เปิดให้ลงทะเบียนเป็นลูกค้าทีเอสแอล โดยไม่มีค่าแรกเข้า

ในปัจจุบันศูนย์บริการของทีเอสแอลมีทั้งสิ้น 4 สาขา ในกรุงเทพ 3 แห่ง คือ ณ สำนักงานใหญ่
ทีเอสแอล (แจ้งวัฒนะ) สาทร และทองหล่อ ส่วนต่างจังหวัดจะมีที่ภูเก็ต และในขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการขยายและปรับปรุงพื้นที่ศูนย์บริการ สำนักงานใหญ่ แจ้งวัฒนะอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการในช่วงหลังสงกรานต์”

ยิ่งไปกว่านั้นในปีนี้เรามีแผนขยายศูนย์บริการเพิ่มขึ้นอีก 2 สาขา ด้วยงบลงทุนประมาณ 60 ล้านบาท ดังนั้นทีเอสแอลจะมีศูนย์บริการรวมทั้งสิ้น 6 สาขา ภายในสิ้นปี 2558 นี้ อย่างแน่นอน” คุณสุรีย์ภรณ์ กล่าวเสริม
                 
ด้านกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์และแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวกับการจำหน่ายรถและศูนย์บริการ จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ตัวอย่างเช่น กิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ โครงการ “จอด จับ แจก” สำหรับลูกค้าร่วมลุ้นรับบัตรกำนัล หรือ คูปองเงินสด สำหรับรับประทานอาหาร ดูหนัง หรือ สปา ไปได้ง่ายๆ เพียงแต่นำรถมาจอดในที่จอดรถของทีเอสแอลที่ให้บริการในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ได้แก่ ห้างเซ็นทรัล สาขาแจ้งวัฒนะ ลาดพร้าว และ เซ็นทรัลเวิลด์ ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลทันที

ส่วนแคมเปญส่งเสริมการขาย ทีเอสแอล จัดตารางเดินสายออกบูธตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ต้องการเลือกซื้อรถ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกำหนดการออกบูธ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.tsl.co.th หรือ โทรสอบถามได้ที่ ทีเอสแอล คอลเซ็นเตอร์ หมายเลข 02-269-9999

ทีเอสแอล ยังคงเดินหน้าสรรหาและคัดสรรรถที่มีคุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผลให้ลูกค้าผู้มีอุปการะคุณได้เลือกสรรเช่นเดิม ภายใต้ชื่อ ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น สำหรับงานดูแลรับผิดชอบด้านการให้บริการหลังการขาย (ศูนย์บริการ) นั้น จะทำงานภายใต้ชื่อ ทีเอสแอล ออโต้ เซอร์วิส

YOKOHAMA ท้าพิสูจน์ (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ยางรุ่นใหม่เพื่อรถ Pick-up, SUV, PPV นุ่มเงียบ ใช้งานได้อย่างมั่นใจและขับขี่ปลอดภัย ยึดเกาะได้ดีเยี่ยมทั้งบนถนนแห้งและเปียก


YOKOHAMA เชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมทดสอบสมรรถนะยางรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด “GEOLANDAR H/T G056” (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก)  ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ เชียงราก จ.ปทุมธานี ผลิตในประทศไทยและนำเข้าจากฟิลิปปินส์ ชูจุดเด่น ให้สมรรถนะดีเยี่ยม เรื่องความนุ่มเงียบ ใช้งานได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยในการยึดเกาะถนนทั้งบนนถนนแห้งและเปียก รองรับกลุ่มรถ Pick-up, SUV, PPV ยอดนิยมในตลาดเมืองไทยราคาจำหน่าย 2,125-6,500 บาท เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ 1 เมษายนนี้ ณ ร้านค้าผู้แทนจำหน่ายของ YOKOHAMA กว่า 300 แห่งและศูนย์บริการยางมาตรฐาน YOKOHAMA CLUB NET WORK (YCN) 30 แห่งทั่วประเทศไทย

          มร.ทาเคโตชิ โมริตะ (Mr.Taketoshi Morita) กรรมการผู้จัดการ บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ยางรถยนต์โยโกฮามารุ่นใหม่ Geolandar G056 (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก)  ยางรถยนต์ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เพื่อให้การขับขี่รถ Pick-up, SUV, PPV ที่นุ่มเงียบ ภายใต้นวัตกรรม การออกแบบโครงสร้างยางส่วนผสมของเนื้อยางและดอกยางใหม่ ที่ให้ความมั่นใจในความนุ่มเงียบได้ยาวนาน ด้วยการพัฒนาบล็อกดอกยางให้มีขนาดต่างกันถึง 5 ขนาด นอกจากจะช่วยลดเสียงรบกวนได้ดีแล้ว ร่องยางแบบ 3และร่องยาง Multiple Lug ช่วยให้ผู้ขับขี่บังคับควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง ให้สมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ให้ระยะเบรกที่สั้นกว่า และยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่ารุ่นเดิมถึง 21%

          ยาง GEOLANDAR H/T G056 ผลิตในประทศไทยและนำเข้าจากฟิลิปปินส์ สามารถตอบ
เทรนด์ความต้องการการขับขี่รถ Pick-up, SUV, PPV ที่ต้องการความนุ่มเงียบ มีให้เลือกตั้งแต่ขอบ 15-20 นิ้ว หน้ากว้าง 215-285 และซีรี่ส์มีให้เลือกตั้งแต่ 50-80  รวม 26 ขนาด ราคาจำหน่าย 2,125-6,500 บาท ครอบคลุมรถยนต์Pick-up, SUV, PPV ที่ใช้งานเน้นบนถนนเป็นหลัก เช่น Toyota Vigo, Toyota Fortuner,  Nissan Navara,  Mazda BT50, Isuzu D-Max, Isuzu Mu7, Isuzu Mu-X, Mitsubishi Triton, Chevrolet Trailblazer และ Ford Rangerเป็นต้น

GEOLANDAR H/T G056 (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ถือเป็นผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ของ YOKOHAMA ในปีนี้ ที่จะมาช่วยต่อยอดความสำเร็จในการจำหน่ายยางรถยนต์ของ YOKOHAMA รุ่นต่างๆ ที่วางตลาดไปก่อนหน้า โดยตั้งเป้าจำหน่ายยางไว้ที่ 65,000 เส้น ภายในสิ้นปีนี้ โดยเริ่มวางจำหน่าย ณ ร้านค้าผู้แทนจำหน่ายของ YOKOHAMA กว่า 300 แห่งและศูนย์บริการยางมาตรฐาน YOKOHAMA CLUB NETWORK (YCN) 30 แห่งทั่วประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ได้จัดแคมเปญมอบให้แก่ผู้ใช้ในช่วงเปิดตัวแนะนำ เมื่อซื้อยาง GEOLANDAR H/T G056  จำนวน 4 เส้น รับฟรีทันที Sport Bags  (กระเป๋ากีฬาพรีเมียม) ที่จัดทำขึ้นมาเป็นการเฉพาะจำนวน 1 ใบ

          (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ตอบโจทย์ตรงใจ เพื่อกลุ่มรถ Pick-up, SUV, PPV แท้จริง

สำหรับการทดสอบสมรรถนะยางรุ่นใหม่ในครั้งนี้ YOKOHAMA มุ่งหวังให้ผู้ร่วมทดสอบได้สัมผัสถึงสมรรถนะยาง “GEOLANDAR H/T G056” (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) อย่างครบถ้วนในทุกรูปแบบ และทุกสภาพพื้นผิวที่ใช้งานจริง โดยเฉพาะจุดเด่นเรื่องของการให้สมรรถนะดีเยี่ยม เรื่องความนุ่มเงียบ ใช้งานได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัยในการยึดเกาะถนนทั้งบนนถนนแห้งและเปียกแล้ว ยังสามารถตอบโจทย์การขับขี่ใช้งานรถยนต์กลุ่ม Pick-up, SUV, PPV ที่ใช้งานเน้นบนถนนเป็นหลัก โดยใช้ยาง จีโอแลนดา จี051” ขนาด 265/65R17 ซึ่งเป็นยางรุ่นเก่าที่เคยวางจำหน่าย เปรียบเทียบสมรรถนะในทุกมิติกับยาง จีโอแลนดา จี056” รุ่นใหม่ล่าสุดขนาดเดียวกัน ติดตั้งรถยนต์ทดสอบแบบอเนกประสงค์รุ่นยอดนิยมอย่าง โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จำนวน 12 คัน มิตซูบิชิ ปาเจโรสปอร์ต จำนวน 3 คัน และรถปิกอัพ ฟอร์ด เรนเจอร์ จำนวน 1 คัน



สถานี YOKOHAMA Comfort Station : ผู้ร่วมทดสอบต้องขับรถยนต์ผ่านผิวถนนบนที่มีเส้นเชือกขึงขวางระยะๆ เสมือนกับการขับรถผ่านร่องผิวถนน เพื่อให้รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากยางรถยนต์เข้าสู่ห้องโดยสารจนถึงพวงมาลัย จากการทดสอบทำให้สัมผัสถึงประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมในการซึมซับแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือนของ (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ที่ให้ผลลัพธ์ดีกว่ายางรุ่นเก่าอย่างชัดเจน และยังรับรู้ถึงสมรรถนะของยางที่นุ่มเงียบ ซึ่งมีโครงสร้างยาง ส่วนผสมของเนื้อยาง และดอกยางใหม่ ที่ให้ความมั่นใจในความนุ่มเงียบได้ยาวนาน ด้วยการพัฒนาบล็อกดอกยางให้มีขนาดต่างกันถึง 5 ขนาด ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดี

สถานี YOKOHAMA Slalom-Figure & Lane Change Station : ผู้ทดสอบต้องขับรถยนต์ซิกแซกไปตามไพร่อน ด้วยความเร็วประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อสัมผัสถึงการตอบสนองของแก้มยางในรูปแบบของการเลี้ยวกะทันหัน จากการทดสอบทำให้รับรู้ถึงสมรรถนะและประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของยางรุ่นใหม่ล่าสุด (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ที่ให้ความมั่นใจและปลอดภัยในการยึดเกาะถนน และให้ประสิทธิภาพในการบังคับควบคุมรถได้อย่างแม่นยำเหนือกว่ายางรุ่นเดิม

สถานี YOKOHAMA Dry Handling Station : กำหนดโจทย์ให้ผู้ทดสอบขับขี่รถยนต์ที่ติดตั้งยางรุ่นใหม่ล่าสุด (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) เปรียบเทียบกับยางรุ่นเดิม บนทางโค้งมุมกว้าง ขับด้วยความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลลัพธ์คือ ยางรุ่นใหม่ล่าสุด (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ให้สมรรถนะการบังคับควบคุมง่าย และให้การคืนตัวของวงเลี้ยวที่ดีกว่ายางรุ่นเก่าอย่างชัดเจน

สถานี YOKOHAMA Wet Brake Station : ผู้ทดสอบต้องขับรถยนต์ทำความเร็วให้ได้ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนพื้นผิวถนนเปียกลื่น แล้วกระทืบเบรกอย่างแรง เสมือนว่ากำลังเกิดเหตุฉุกเฉินในระหว่างขับขี่ เพื่อพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพระยะเบรกของยางทั้ง 2 รุ่น โดยจะวัดประสิทธิภาพจากระดับความเร็วตั้งแต่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนลดลงเหลือ 2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ว่าใช้ระยะการเบรกที่เท่าใด ผลการทดสอบปรากฏว่า รถยนต์ที่ติดตั้งยางรุ่นใหม่ล่าสุด (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ให้ประสิทธิภาพการเบรกในระยะที่สั้นกว่ายางรุ่นเดิมอย่างชัดเจน 
         
          สถานี YOKOHAMA Road Tour Station : โดยทีมทดสอบของ YOKOHAMA พาสื่อมวลชนร่วมพิสูจน์สมรรถนะยางบนถนนหลวงหลากหลายรูปแบบ เสมือนกับการขับรถยนต์จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีทั้งพื้นผิวถนนแบบคอนกรีตอัดแรง ผิวถนนยางแอสฟัลท์ Asphalt รวมทั้งเปิดโอกาสให้ขับขี่ผ่านเส้นทางชุมชนและบุกตะลุยไปตามผิวถนนออฟโรดแบบสมบุกสมบัน และร่วมเล่นเกมระหว่างการเดินทาง โดยใช้เส้นทางถนนวงแหวนตะวันตก จากเชียงราก จ.ปทุมธานี มุ่งหน้าสู่พระราชวังบางปะอิน ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร


จากการทดสอบสมรรถนะในทุกมิติบนท้องถนนหลวง ทำให้สัมผัสถึงสมรรถนะแท้จริงของยาง “GEOLANDAR H/T G056” (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ในทุกมิติ สะท้อนให้ผู้ร่วมทดสอบรับรู้ถึงความมั่นใจในความนุ่มเงียบ ช่วยลดเสียงรบกวนได้ บังคับควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง และให้สมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม

จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ร่วมงานเลี้ยงฉลองสุดยอดแบรนด์ “Best of British” ของหอการค้าอังกฤษ - ไทย การันตีความเป็นสุดยอดของผลิตภัณฑ์ระดับตำนานแห่งสหราชอาณาจักร


ภาพข่าว: มร.ริชาร์ด เฮก (ขวา) ผู้จัดการทั่วไป  บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จํากัด, ฯพณฯ มาร์ค เคนท์ (กลาง) เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย, มร.เซิร์จ ทูรอน (ซ้าย) ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จํากัด ภายในงาน
“Life & Style - an evening of exquisite British music, cars, motorcycles, food and drinks”
จัดโดย หอการค้าอังกฤษ – ไทย ณ สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ

กรุงเทพฯ 27 มีนาคม 2558 – จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ สุดยอดแบรนด์ยนตกรรมจากอังกฤษ ร่วมงาน “Life & Style, an evening of exquisite British music, cars, motorcycles, food and drinks” จัดโดยหอการค้าอังกฤษ – ไทย ภายในบริเวณสวนของสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ โดย จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ มีผลงานที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์แห่งสหราชอาณาจักร (Best of British) คือรถยนต์ลีมูซีนรุ่นเอ็กซเจ (XJ) รุ่นฐานล้อยาวที่เป็นหนึ่งในยานยนต์ที่งามสง่ามากที่สุด โดยมีตราสินค้าชั้นนำอื่นๆ จากสหราชอาณาจักร ที่ได้รับคัดเลือกในครั้งนี้ อาทิ เฮนดริกส์ ยิน, ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ และ ชาทไวนิงส์ ภายในงานคับคั่งไปด้วยบุคคลสำคัญจำนวนมาก ซึ่งได้มาร่วมพบปะสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน และใช้โอกาสนี้ในการสร้างเครือข่ายระดับสูงระหว่างนักธุรกิจชั้นนำและบุคคลากรทางการทูตของเมืองไทย

ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยานยนต์และข้อมูลเชิงเทคนิคได้ที่เว็บไซต์ www.landroverthailand.com  และ www.jaguarthailand.com  

ครั้งแรกในประเทศไทยกับปอร์เช่ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) รถแข่งสุดยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ปอร์เช่เผยโฉม 919 ไฮบริด พร้อมขนทัพรถหรูร่วมโชว์ในงานมอเตอร์โชว์ 2015


ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์
ครั้งที่ 36 (Bangkok International Motor Show 2015)  เพื่อเป็นการประกาศและตอกย้ำความเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยภายในงานท่านจะได้พบกับสุดยอดรถแข่งระดับโลกเจ้าของความสำเร็จรายการ Le Mans และ WEC ในปี 2014 นั่นคือ ปอร์เช่ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) นอกจากนี้ เอเอเอสฯ ได้ขนทัพสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก ประกอบด้วย ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) รถ Plug-in Hybrid คันแรกของโลกในคลาสรถสปอร์ตอเนกประสงค์ , พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S
E-Hybrid) รถสปอร์ต ซาลูนสุดหรูที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  มีระบบขับเคลื่อนแบบ plug-in ไฮบริดคันแรกของโลกในคลาสรถหรู , พานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel) รถยนต์ที่มาพร้อมพละกำลังและแรงบิดสูงแต่มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดอย่างเหลือเชื่อ , มาคันน์ (Macan) รถสปอร์ตอเนกประสงค์ SUV ขนาด Compact ที่โดดเด่นและพร้อมมอบความสนุกสนานในทุกการขับขี่ , และ เคย์แมน (Cayman) รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลาง 2 ที่นั่งมาพร้อมกับความสปอร์ตและเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอย่างเต็มพิกัด พร้อมให้ท่านสัมผัสอย่างใกล้ชิด


ครั้งแรกในประเทศไทยกับ ปอร์เช่ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) รถแข่งในคลาส Le Mans prototype ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย การันตีความสำเร็จจากรายการ Le Mans และ WEC ในปี 2014 พร้อมให้ทุกท่านยลโฉมภายในงาน ปอร์เช่ 919 ไฮบริด (Porsche 919 Hybrid) มาพร้อมเครื่องยนต์สันดาป เครื่องยนต์ตัว V ขนาด 4 สูบ โดยเครื่องยนต์มีขนาด 2 ลิตร ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรงและ Mono-turbocharging เครื่องยนต์สามารถวิ่งไปได้จนถึงความเร็วที่ 9,000 รอบต่อนาที และมีกำลังขับประมาณ 500 แรงม้า ไม่เพียงเท่านี้ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) ยังมีระบบการนำพลังงานกลับมาใช้อยู่ถึง 2 ระบบ ซึ่งมีพื้นฐานการทำงานโดยนำพลังงานความร้อนจากแก๊สไอเสียผ่านตัวกำเนิดไฟฟ้ามาใช้ใหม่ โดยระบบไฮบริดสำหรับรูปแบบที่ 2 มีฟังก์ชั่นการทำงานคล้ายกับรุ่น 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) ซึ่งระบบนี้จะมีตัวสร้างพลังงานบนเพลาหน้า เมื่อเกิดการเบรกจะทำการเปลี่ยนพลังงานจลน์ไปเป็นพลังงานไฟฟ้า แบตเตอรี่ ลิเธียม ไอออน จะทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บพลังงาน เมื่อผู้ขับขี่ต้องการพลังงานเหล่านี้ มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำการขับเคลื่อนเพลาหน้า และทำให้ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) กลายมาเป็นรถที่มีระบบการขับเคลื่อน 4 ล้ออย่างสมบูรณ์


เอเอเอสฯ ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้ความมั่นใจว่ารถยนต์ทุกคันที่ทางเอเอเอสฯ นำเข้าและจัดจำหน่ายได้ผ่านการทดสอบโฮโมโลเกชั่น (Homologation) ของประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายและครบทุกกระบวนการที่จำเป็นและสำคัญสำหรับการนำมาใช้งานในประเทศไทย ระบบจัดการของเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับกฎระเบียบและสภาพ   ภูมิประเทศของประเทศไทยอย่างดีที่สุด รวมถึงยังมีศูนย์บริการของรถยนต์ปอร์เช่ที่ได้มาตรฐานตามโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีกำหนดไว้  พร้อมทั้งมีทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์  ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานโดยตรง พร้อมให้การดูแลและบริการรถยนต์ปอร์เช่ของท่าน โดยลูกค้าสามารถมั่นใจในบริการที่จะได้รับ  หากซื้อรถยนต์กับทางเอเอเอสฯ อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขายที่ได้คุณภาพโดยตรงจากโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนี ราคาที่เสียภาษีนำเข้ารถยนต์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และคุณภาพของรถยนต์ปอร์เช่ที่ได้มาตรฐาน

เอเอเอสฯ ขอมอบแคมเปญและข้อเสนอพิเศษสำหรับท่านที่จองรถยนต์ปอร์เช่ภายในงาน
  • แคมเปญผ่อน 1.99% นาน 60 เดือน สำหรับ Macan
  • ประหยัดยิ่งกว่าด้วยบัตรเติมน้ำมัน PTT Cash Card มูลค่ากว่า 100,000 บาท
  • เพลิดเพลิน ไปกับ Paragon Gift Voucher มูลค่า 100,000 บาท
  • และที่สำคัญเอเอเอสฯ ยังมอบความเชื่อมั่นให้แด่ลูกค้าที่ซื้อรถจากเอเอเอสฯ ทุกคัน
ด้วยจดหมายรับรองการนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อมอบความมั่นใจให้แด่ลูกค้า
  • การรับประกันจากโรงงานปอร์เช่เยอรมันนีนานถึง 9 ปี
*Terms & Conditions Apply


นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมายที่ทางเอเอเอสฯ ได้จัดเตรียมให้ทุกท่านร่วมสัมผัสและค้นหา ความสุนทรีย์ของสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์กันอย่างใกล้ชิด รวมถึงรถยนต์ไฮไลท์ประจำบูธที่จะสะกดสายตาคุณให้หลงใหลไปกับสมรรถนะอันลือเลื่องที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และมี Accessories ต่างๆ จาก Porsche Driver’s Selection มาให้ท่านเลือกสรรมากมายในราคาพิเศษ ภายในงาน Motor Show 2015 ณ อิมแพค เมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ 2 ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม - 5 เมษายน 2015 นี้

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงาน ปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่ “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th

เบนท์ลี่ย์ขนทัพรถหรู ร่วมงานมอเตอร์โชว์ 2015

เบนท์ลี่ย์ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ขนทัพรถหรู เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 เพื่อเป็นการประกาศและตอกย้ำความเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยภายในงานท่านจะได้สัมผัสสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกจากประเทศอังกฤษอย่างใกล้ชิด อาทิเช่น เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที วี8 เอส (Continental GT V8 S) คูเป้สุดหรู 2 ประตู 2 ที่นั่ง พร้อมด้วย       เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ดับเบิ้ลยู12 (Flying Spur W12) รถที่ได้รับการขนานนามว่า
เป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมซาลูน 4 ประตูสุดหรูจากประเทศอังกฤษ และ เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ วี8 (Flying Spur V8) รถซาลูน 4 ประตู เครื่องยนต์ วี8 (V8) ทรงพลังใหม่ล่าสุด พร้อมอวดโฉมภายในงาน

เบนท์ลี่ย์ จีที วี8 เอส (GT V8 S) คอนติเนนทัล (Continental) ใหม่ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 คันนี้มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา เครื่องยนต์ขนาด 4 ลิตร twin-turbo พละกำลังสูงสุดถึง 521 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด เสริมด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่งจาก 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 4.5 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดที่ 309 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นอย่างยิ่ง สำหรับโลโก้ “V8 S” แสดงให้เห็นถึงความเป็นสปอร์ต อย่างแท้จริง ภายในห้องโดยสารมาพร้อมสีแบบทูโทนอย่างหรูหรา เบนท์ลี่ย์       ฟลายอิ้ง สเปอร์ ดับเบิ้ลยู12 (Flying Spur W12) ที่มาพร้อม เครื่องยนต์ขนาด 6 ลิตร
Twin-turbo W12 และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 616 แรงม้า
ให้แรงบิดอันมหาศาลถึง 800 นิวตันเมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นเบนท์ลี่ย์ 4 ประตูที่ทรงพลังมากที่สุดตั้งแต่ เบนท์ลี่ย์เคยมีมา อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 4.3 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้มีประสิทธิภาพในการเกาะถนนและทรงตัวบนพื้นผิวถนนได้อย่างดีเยี่ยม เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ วี8 (Flying Spur V8) มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 4 ลิตร Twin-turbo V8 สร้างพละกำลังแรงม้าถึง 507 แรงม้า
และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 660 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในระยะเวลาเพียง 5.2 วินาทีและความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 295 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากเติมน้ำมันเต็มถังจะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรเลยทีเดียว"

เอเอเอสฯ ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้ความมั่นใจว่ารถยนต์ทุกคันที่ทางเอเอเอสฯ นำเข้าและจัดจำหน่ายได้ผ่านการทดสอบโฮโมโลเกชั่น (Homologation) ของประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายและครบทุกกระบวนการที่จำเป็นและสำคัญสำหรับการนำมาใช้งานในประเทศไทย ระบบจัดการของเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับกฎระเบียบและสภาพภูมิประเทศของ
ประเทศไทยอย่างดีที่สุด รวมถึงยังมีศูนย์บริการของรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ได้มาตรฐานตามโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษกำหนดไว้  พร้อมทั้งมีทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์  ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานโดยตรง พร้อมให้การดูแลและบริการรถยนต์เบนท์ลี่ย์ของท่าน โดยลูกค้าสามารถมั่นใจในบริการที่จะได้รับ  หากซื้อรถยนต์กับทางเอเอเอสฯ อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขายที่ได้คุณภาพโดยตรงจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ ราคาที่เสียภาษีนำเข้ารถยนต์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และคุณภาพของรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ได้

สำหรับข้อเสนอสุดพิเศษเมื่อซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากเอเอเอสฯ ภายในงาน
  • รับทันทีประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • พร้อมทั้ง รับการบริการดูแลและบำรุงรักษารถยนต์เบนท์ลี่ย์จากผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม ตลอด 5 ปี (5 Years Free Service Package)


นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมายที่ทาง เอเอเอสฯ ได้จัดเตรียมให้ทุกท่าน ร่วมสัมผัสและค้นหาความสุนทรีย์ของสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์กันอย่างใกล้ชิด รวมถึงรถยนต์ไฮไลท์ประจำบูธ ที่จะสะกดทุกสายตาให้หลงใหลไปกับสมรรถนะอันลือเลื่อง ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และมี Bentley Collection ของเบนท์ลี่ย์มาให้ท่านเลือกสรรมากมายในราคาพิเศษ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2558 นี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่ 02-261-1050-51 หรือ เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.bentleymotors.com
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved