(เมือง Crewe / กรุงเจนีวา) เบนท์ลี่ย์โชว์นวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตและคำตอบของคำว่าหรูหราและประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมด้วยรถรุ่น EXP 10 Speed 6 ในงานมหกรรมยานยนต์ 2015 Geneva International Motor Show โดยรถคันนี้มีแนวคิดคือการผสมผสานความเป็นรถหรูจากประเทศอังกฤษแบบรถสปอร์ต 2 ที่นั่งเข้าไว้กับการออกแบบที่ล้ำสมัย งานฝีมือจากช่างที่มีทักษะสูง วัสดุที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และเทคโนโลยีชั้นนำ
จากความสำเร็จของรถแข่งจากเบนท์ลี่ย์ในปีที่ผ่านมา จนมาถึงความสำเร็จในวงการมอเตอร์สปอร์ตแบบสากลทั่วโลกในวันนี้ ทำให้ ‘Speed’ กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของสายเลือดเบนท์ลี่ย์ และแรงบันดาลใจเหล่านี้ได้ถูกส่งออกมาให้เห็นผ่าน EXP10 Speed 6 ซึ่งมีรูปลักษณ์การออกแบบที่เฉพาะจากเบนท์ลี่ย์ เต็มไปด้วยงานเทคนิคหัตถกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ส่วนประกอบ Copper ได้ถูกนำมาใช้ทั้งกับภายนอกและภายในของรถ เพื่อเป็นการเน้นให้เห็นถึงประสิทธิภาพของไฮบริดที่นำมาใช้เป็นระบบขับเคลื่อนใหม่ล่าสุด อีกหนึ่งจุดประสงค์หลักในเรื่องสมรรถนะของรถคือความเร็ว ที่ได้รับการตั้งค่าไว้ให้มีความท้าทายมากที่สุด และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ อีกด้วย
Wolfgang Dürheimer ประธานบริหารของเบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ ได้กล่าวว่า:
“EXP 10 Speed 6 คือเบนท์ลี่ย์ในอนาคตที่เต็มไปด้วยความทรงพลังของพละกำลังเครื่องยนต์ ความโดดเด่น และมีแนวคิดเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร จะกลายมาเป็นรถสปอร์ต 2 ประตูสุดหรูใหม่ล่าสุด เน้นประสิทธิภาพของผู้ขับขี่เป็นหลัก และจะเป็นเบนท์ลี่ย์ที่หรูหราและทันสมัยอีกด้วย”
รถรุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ในอนาคต พร้อมกับคอนติเนนทัล จีที (Continental GT) ที่โดดเด่นในกลุ่มตลาดรถเดียวกัน ด้วยรูปลักษณ์ของ EXP 10 Speed 6 จะสามารถสร้างอิทธิพลในการขยายสมาชิกให้กับเบนท์ลี่ย์ได้อย่างแน่นอน และนี่ไม่ใช่แค่แนวคิดรถสปอร์ตแบบใหม่ แต่นี่คือโอกาสที่จะทำให้เบนทลี่ย์มีความมั่นคงในอนาคตมากยิ่งขึ้น
รูปลักษณ์ที่ร่วมสมัย และไม่ผิดเพี้ยนจากความเป็นเบนท์ลี่ย์
รูปลักษณ์ภายนอกของ EXP 10 Speed 6 แสดงให้เห็นถึงความทรงพลัง รูปลักษณ์ที่ถูกต้องและแรงบันดาลใจในการพัฒนาตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งนำหลักการของอากาศยานมาใช้ในส่วนปีกรถอีกด้วย รูปแบบและรูปลักษณ์ ของรถได้รับการพัฒนาขึ้นให้มีความร่วมสมัย แต่ยังคงหลักการของรูปลักษณ์เบนท์ลี่ย์ ซึ่งเป็นการผสมผสานความสวยงามเข้าไว้กับความแม่นยำได้อย่างลงตัว ผลลัพธ์ที่ได้คือ ความเป็นเบนท์ลี่ย์ที่ไม่ผิดเพี้ยนนั่นเอง
ไอเดียที่ใช้ในการสร้างสรรค์ความทันสมัย จากจุดคลาสสิคมีให้เห็นในทุกรายละเอียดโดยด้านหน้าจะพบกับกระจังหน้าแบบตะแกรงเมทริกซ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลี่ย์ ไฟหน้าแบบ 4 วง สีของรถที่มีความลึกหลายชั้น เข้ม และเคลือบเมทัลลิกอย่างดี คือ British Racing Green เป็นการสร้างความหรูหราให้กับเบนท์ลีย์ ได้รับการนำมาใช้ในหนทางใหม่ๆ และใช้ร่วมกับเทคโนโลยีและเทคนิคของรถ
เส้นสายและสัดส่วนของ EXP 10 Speed 6 นำเสนอถึงรูปลักษณ์ของรถที่เปี่ยมไปด้วยความคล่องตัวสูง สร้างความกลมกลืนได้ดีระหว่างเส้นสายของรถที่คมชัด ไปถึงพื้นผิวรถที่โดดเด่น มีการออกแบบให้ฝากระโปรงมีความยาว ทรงพลังมากขึ้น และยังเป็นรูปลักษณ์ภายนอกที่แสดงให้เห็นถึงความเร็วแรงของรถด้วยเช่นกัน
วัสดุและรายละเอียดของรูปลักษณ์ภายนอกได้รับการออกแบบในรูปแบบทันสมัยที่มีความเฉพาะตามรูปแบบเบนท์ลี่ย์ ตะแกรงลายตาข่ายทางด้านหน้าทำจากเทคโนโลยี 3D รวมถึงปลายท่อ ที่จับประตู ช่องดักอากาศด้านข้าง ล้วนแล้วแต่ทำจากเทคโนโลยีชั้นนำและการใส่ใจในการออกแบบรายละเอียดต่างๆ ตะแกรงตาข่ายทางที่เป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลี่ย์ ซึ่งจะมีมิติความลึกมากยิ่งขึ้นตามรูปแบบ 3D และมองเห็นรายละเอียดได้หลายมุมองศา
ส่วนต่างๆ ของภายนอกรถเหล่านี้คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงเบนท์ลี่ย์สำหรับเจเนอเรชั่นต่อไป เรียบหรู แม่นยำ รวมถึงรายละเอียดที่นำมาใช้ในการออกแบบล้วนแต่เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นเบนท์ลี่ย์ความโดดเด่น ทั้งจากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
เบนท์ลี่ย์กับประสิทธิภาพที่มากที่สุด – ภายในห้องโดยสารที่เน้นความหรูหรา
ภายในห้องโดยสารได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นสายต่างๆ ที่ทอดยาวภายในอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่คอนโซลไปยังด้านข้างก่อนจะเข้าสู่ส่วนของประตูและย้อนกลับเข้าสู่ที่พักแขน เบาะหนังแบบสปอร์ตได้รับการวางตำแหน่งทั้งสองข้างอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานของรถได้อย่างง่ายดาย และมาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว คุณสมบัติและจุดเด่นเหล่านี้ได้ถูกรวบรวมขึ้นจากเทคโนโลยีของโลกอนาคตและผสมผสานเข้ากับงานหัตถกรรมชั้นเลิศที่โด่งดังตามรูปแบบเบนท์ลี่ย์นั่นเอง
แต่ละรายละเอียดนำมาจากหลักการและแบบเฉพาะของเบนท์ลี่ย์ เช่น ปุ่มต่างๆ คือจุดเด่นในการใช้ควบคุมรถ และถูกทำขึ้นจากเหล็กรวมถึงนำเทคโนโลยี 3D เข้ามาใช้ในการผลิต
ประตูของ EXP 10 Speed 6 มีรอยตะเข็บแบบ 3D และเย็บเข้าร่วมกับเนื้อไม้แบบ Cherry โดยตรง สร้างความโดดเด่นได้อย่างสง่างาม
คอนโซลกลางได้กลายเป็นศูนย์รวมข้อมูลแบบดิจิตอลที่ทำการควบคุมผ่านหน้าจอระบบสัมผัสที่มีโครงสร้างและก้านเกียร์ที่ทำจากอลูมิเนียม ผสมผสานเข้ากับ Copper และเนื้อไม้ Cherry รอบเครื่องยนต์แสดงผลแบบดิจิตอล ซึ่งผสมผสานระหว่างความสมดุลของความทันสมัยและอนาล็อกได้อย่างลงตัวเช่นกัน
ที่ว่างทางด้านหลังได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่องเพื่อเก็บสัมภาระและสามารถใส่กระเป๋าเดินทางได้ถึง 4 ใบ ขอบต่างๆ ทางด้านหลังได้รับการตกแต่งโดยงานฝีมือชั้นเยี่ยมของเบนท์ลี่ย์ด้วยหนังแบบ Poltrona Frau ที่มีคุณภาพสูง
ข้อความจากผู้เขียน
เบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ คือแบรนด์รถหรูที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง บริษัทแม่ตั้งอยู่ที่เมือง Crewe โดยเป็นที่ตั้งของทีมออกแบบ ทีมวิจัยและพัฒนา ทีมวิศวกร และเป็นสถานที่ใช้ในการผลิตรถทั้ง 3 รุ่นของเบนท์ลี่ย์นั่นคือ คอนติเนนทัล (Continental) ฟลายอิ้ง สเปอร์ (Flying Spur) และมูซาน (Mulsanne) ฝีมือและทักษะงานหัตถกรรมชั้นเยี่ยมได้ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมด้วยความเชี่ยวชาญทางทักษะของวิศวกรและเทคโนโลยีชั้นนำคือความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่หรูหราอย่างเบนท์ลี่ย์ และเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของโรงงานผลิตรถยนต์คุณภาพสูงของอังกฤษ ซึ่งมีพนักงานถึง 3,800 คนที่เมือง Crewe เลยทีเดียว
สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาหรือสอบถามเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ได้จาก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษโดยตรง คอยให้บริการรถยนต์เบนท์ลี่ย์ของท่าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ได้ที่แผนกขายโทร.
02-261-1050-1 หรือ 02-610-9880 และท่านสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.thailand.bentleymotors.com