Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

มาสด้าคว้าตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุด จากสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน


มาสด้าคว้าตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุด
จากสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน


ฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น – มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ได้ประกาศผลรายงานแนวโน้มการประหยัดน้ำมันของรถยนต์นั่ง หรือ Light Duty Fuel Economy Trends Report*1 จัดทำโดยสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ US Environmental Protection Agency (EPA) เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา โดยรถยนต์มาสด้าได้คะแนนสูงสุดด้านอัตราประหยัดน้ำมันในประเภทรถยนต์ที่พัฒนาโดยผู้ผลิต สำหรับรถยนต์รุ่นปี 2015*2 ซึ่งนับเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันแล้วที่มาสด้าได้รับการจัดลำดับให้เป็นที่รถที่ประหยัดน้ำมันดีที่สุด

รายงานของ EPA สรุปผลของแนวโน้มการประหยัดน้ำมันในรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาในแต่ละปี และจัดลำดับอัตราการประหยัดน้ำมันของผู้ผลิตรถยนต์ หรือ Manufacturer Adjusted Fuel Economy โดยรถยนต์มาสด้านั้น มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ 29.6 ไมล์/แกลลอน หรือ 12.6 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งนับว่าเป็นอัตราที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอยู่ 0.2 mpg หรือ 0.1 กิโลเมตร/ลิตร

มาสด้าได้พัฒนาเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ เจนเนอเรชั่นใหม่ อันรวมถึงเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง โครงสร้างตัวถังและช่วงล่าง ด้วยความมุ่งหมายที่จะนำเสนอทั้งความสนุกสนานในการขับขี่ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสมรรถนะทางความปลอดภัยให้แก่ลูกค้า ความพยายามของมาสด้าในการปรับใช้เทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ในรถยนต์รุ่นต่างๆ นั้นกลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้มาสด้าได้รับการจัดลำดับเป็นรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันที่สุดถึง 4 ปีติดต่อกัน

ด้วยความสำเร็จที่เราได้รับ มาสด้าจะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมต่อไป เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าและยกระดับคุณค่าของแบรนด์

มาสด้า3 2015 (รุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา)

*1 รายงานแนวโน้มการประหยัดน้ำมัน: เป็นรายงานรายปีที่จัดทำขึ้นโดย EPA โดยสรุปทิศทางอัตราการประหยัดน้ำมันในรถยนต์นั่งและรถกระบะ ตั้งแต่ พ.ศ. 2518 http://www3.epa.gov/otaq/fetrends-complete.htm

*2 Manufacturer Adjusted Fuel Economy: คืออัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ยของรถยนต์ทั้งหมดที่จำหน่ายโดยผู้ผลิตรถยนต์ในระยะเวลา 1 ปี โดย

รายงาน EPA จะพิจารณาจากอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยของการขับขี่ในเมืองและนอกเมืองของรถแต่ละรุ่นและในแต่ละ model year และหาค่าเฉลี่ยโดยคิดตามสัดส่วนของยอดขาย

เอ.พี.ฮอนด้าจุดพลังฝัน ปั้นเด็กไทยสู่การเป็นวิศวกรคุ ณภาพ จัดการแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิ งครั้งที่ 19 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ





เอ.พี.ฮอนด้าจุดพลังฝัน ปั้นเด็กไทยสู่การเป็นวิศวกรคุ ณภาพ
จัดการแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิ งครั้งที่ 19 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ

เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้ าในประเทศไทย จุดพลังฝันให้เด็กไทยเติบโตสู่การเป็นวิศวกรที่มีคุณภาพ ด้วยการจัดกิจกรรมการแข่งขันรถป ระหยัดเชื้อเพลิงHonda Eco Mileage challenge ครั้งที่ 19 ประจำปี 2559 เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนที่กำลั งศึกษาอยู่ในสายอาชีวศึกษาและอุ ดมศึกษาได้แสดงความสามารถในการอ อกแบบและประดิษฐ์ยานพาหนะที่ ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากที่ สุด เตรียมจัดการแข่งขันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 23-24 พฤศจิกายน 2559


นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “ภายใต้โครงการเอ.พี. ฮอนด้าจุดพลังฝัน เรามีปณิธานที่จะจุดพลังฝันให้กั บเยาวชนไทย เพราะเราเชื่อว่าพลังฝันของเยาว ชนจะทำให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่ งดีๆให้กับสังคม แนวคิดดังกล่าวจึงเป็นที่มาของกิ จกรรมการแข่งขันฮอนด้าประหยั ดเชื้อเพลิง ถือเป็นความตั้งใจของเราที่จะส่ งเสริมศักยภาพด้านวิศวกรรมยานยน ต์ให้กับเด็กไทย เติบโตสู่การเป็นวิศวกรที่มีคุณ ภาพ โดยการแข่งขันรายการนี้ถือเป็นก ารเปิดโอกาสให้นักศึกษาในสาขาช่ างยนต์และวิศวกรรม ได้รับประสบการณ์จริงจากการนำคว ามรู้ในห้องเรียนมาต่อยอดด้ วยการลงมือประดิษฐ์รถ และค้นหานวัตกรรมที่ทำให้รถมีอั ตราการประหยัดน้ำมันมากที่สุด ถือเป็นการเรียนรู้ในมุมมองที่ก ว้าง และเสริมสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแ วดล้อมไปพร้อมๆกัน”

“การแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิง ของฮอนด้าจะเปิดโอกาสให้เยาวชนไ ด้คิดตั้งแต่จุดเริ่มต้น ต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโ ครงสร้างตัวถัง เครื่องยนต์ระบบหัวฉีด ระบบขับเคลื่อน หลักอากาศพลศาสตร์ ต้องออกแบบและผลิตตัวรถได้เองทั้งคัน ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ทำให้กิจกรร มของเราได้รับการตอบรับที่ดี จากสถาบันการศึกษาต่างๆมาโดยตลอ ด ซึ่งในปีนี้จะมีทีมที่เข้าแข่งขั นทั้งสิ้น 482 ทีม”

สำหรับการแข่งขันรถประหยัดเชื้อ เพลิง Honda Eco Mileage Challenge จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วยประเภทรถประดิษฐ์ และประเภทรถตลาด โดยในประเภทรถประดิษฐ์จะแบ่งออก เป็น 3 ระดับ ได้แก่ระดับอาชีวศึกษา ระดับอุดมศึกษา และระดับประชาชนทั่วไป กำหนดกติกาให้รถทุกคันใช้ตัวถัง ที่มาจากการประดิษฐ์ขึ้นเองเท่า นั้น และติดตั้งเครื่องยนต์ระบบหัวฉี ด PGM-FI ที่ฮอนด้าให้การสนับสนุน ส่วนในประเภทรถตลาด จะเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าแ ข่งขันได้โดยใช้รถจักรยานยนต์ฮอ นด้าเวฟ110ไอ, ฮอนด้าซีแซดไอ และ ฮอนด้าดรีม110ไอ โดยสามารถปรับแต่งเครื่องยนต์ได้ ตามกติกาที่กำหนดไว้ และลงแข่งขันโดยใช้น้ำมันแก๊ซโซ ฮอลล์ 91 ด้วยความเร็วเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 25 กิโลเมตร/ชั่วโมงขึ้นไป

ทีมชนะเลิศสถิติสูงสุดจะได้รับถ้ วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรั ตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี และได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขันรถปร ะหยัดเชื้อเพลิงระดับนานาชาติที่ ประเทศญี่ปุ่น ทีมรองชนะเลิศสถิติสูงสุดจะได้ไ ปร่วมแสดงผลงานที่ประเทศจีน

ทั้งนี้ การแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิงค รั้งที่ 19 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-24 พฤศจิกายน 2559 ที่สนามช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

“กลุ่มอีซูซุ” หนุนการศึกษาเยาวชนไทย มอบทุนเรียนยอดเยี่ยมระดับอุดมศึกษา ประจำปี 2559


“กลุ่มอีซูซุ” หนุนการศึกษาเยาวชนไทย มอบทุนเรียนยอดเยี่ยมระดับอุดมศึกษา ประจำปี 2559

กลุ่มอีซูซุในประเทศไทย ยังคงเดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์แห่งการเป็น “นิติบุคคลที่ดีของสังคมไทย” จัดพิธีมอบทุนการศึกษาพิเศษประจำปี 2559 ให้แก่นิสิต นักศึกษา ที่มีผลการเรียนยอดเยี่ยมในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และบริหารธุรกิจ รวมทั้งสิ้น 59 ทุน มูลค่ากว่า 1,820,000 บาท เพื่อสนับสนุนโอกาสในการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการให้แก่เยาวชนที่เปี่ยมความสามารถระดับแถวหน้าของประเทศ

มร. โทชิอากิ มาเอคาวะ ประธานกรรมการมูลนิธิกลุ่มอีซูซุ และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะบริษัทรถยนต์ชั้นนำและนิติบุคคลที่ดีของสังคม อีซูซุไม่ได้มีเป้าหมายแค่เพียงการผลิตยานยนต์ที่มีคุณภาพแต่ยังรวมถึงการเติบโตอย่างยั่งยืนเคียงคู่กับสังคมไทย ดังนั้นจึงได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ครอบคลุมและเกิดประสิทธิผลสูงสุด ได้แก่ ทุนการศึกษาสำหรับเยาวชนผู้มีผลการเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์จากสถาบันการศึกษากว่า 235 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงทุนการศึกษาและเงินสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ผ่านองค์กรต่างๆ มากมาย เพราะเราเชื่อว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาโดยรวมของบุคคลและสังคม เพื่อก่อให้เกิดความรากฐานที่แข็งแกร่งของประเทศต่อไปในอนาคต”

ทั้งนี้ “ทุนการศึกษาพิเศษ ประเภทผลการเรียนยอดเยี่ยม” เป็น 1 ในทุนการศึกษาประจำปีที่ทางกลุ่มอีซูซุในประเทศไทยจัดขึ้นเพื่อมอบให้นิสิต และนักศึกษาที่กำลังศึกษาในสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และบริหารธุรกิจ จากสถาบันการศึกษาของประเทศไทย ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการ เพื่อเฟ้นหาเยาวชนต้นแบบในแต่ละสาขาวิชาเข้ารับมอบทุนการศึกษาดังกล่าว แล้วนำโอกาสที่ได้ไปใช้เพิ่มพูนศักยภาพทางการศึกษาให้เกิดความต่อเนื่องยิ่งขึ้นไป และเติบโตเป็นบุคลากรคุณภาพเยี่ยมของสังคมไทยต่อไปในอนาคต สมดังปณิธาน “วิถีอีซูซุ” ที่กลุ่มอีซูซุตั้งมั่น นั่นคือ “ผู้ใช้สุขใจ เพิ่มพูนรายได้ ช่วยให้สังคมพัฒนา”

นางสาวกานพลู บุรินทร์รัตน์ นิสิตคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมเปิดใจถึงความรู้สึกที่ได้รับมอบทุนครั้งนี้ว่า “รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจเป็นอย่างมากค่ะ ที่ได้รับมอบทุนผลการเรียนยอดเยี่ยมในครั้งนี้ สำหรับเกรดเฉลี่ย 3.89 ที่ได้มานั้นก็เกิดขึ้นจากที่เราตั้งใจเรียนในชั้นเรียนและกลับมาทบทวนตำราที่บ้านอย่างต่อเนื่อง อยากฝากให้เพื่อนๆ ให้ความสำคัญกับการเรียนมากๆ เพื่ออนาคตที่ดีในวันข้างหน้า และต้องขอขอบคุณอีซูซุมากๆ ที่ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ โดยจะนำทุนการศึกษาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเรียนต่อไปค่ะ”

เช่นเดียวกับน้องๆ เยาวชนจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ โดยนายฐิติวุฒิ พิริยะกุลชัย กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจเพราะเป็นทุนที่ต้องผ่านการคัดเลือกเข้มข้น ทำให้พวกผมมีกำลังใจ ตั้งใจจะนำทุนที่ได้ไปแบ่งเบาภาระเรื่องเรียนให้กับครอบครัว แล้วก็อยากฝากถึงเพื่อนๆ ทุกคนว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ การตั้งใจเรียนอย่างสม่ำเสมอก็ถือเป็นความดีอีกอย่างหนึ่งที่พวกเราทุกคนทำได้ง่ายๆ เพื่อตัวเองและคุณพ่อ – คุณแม่ ครับ”


เอ.พี.ฮอนด้า ร่วมมอบน้ำมันเครื่องให้อาชีวศึกษาใช้ในกิจกรรมทำดีเพื่อพ่อ


ทำดีเพื่อพ่อ นายอรัญ ใจกันทะ (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการฝ่ายอบรมผู้จำหน่าย ส่วนงานบริการลูกค้า บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย มอบน้ำมันเครื่องจำนวน 720 ขวด ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพื่อใช้ในกิจกรรมทำความดีเพื่อพ่อ ณ กระทรวงศึกษาธิการ โดยมี ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ (ที่ 3 จากขวา) เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นตัวแทนรับมอบ เมื่อเร็วๆ นี้

บีอาร์จี & มูลนิธิณัฐธิมาฯ ร่วมสร้างความดี มอบเครื่องมือแพทย์ให้ รพ.สมเด็จพระสังฆราช






บีอาร์จี & มูลนิธิณัฐธิมาฯ ร่วมสร้างความดี
มอบเครื่องมือแพทย์ให้ รพ.สมเด็จพระสังฆราช


“บีอาร์จี กรุ๊ป” จับมือ “มูลนิธิณัฐธิมาฯ” ร่วมสร้างความดี นำเครื่องมือแพทย์ มูลค่า 1 ล้าน มอบให้แก่ผู้ป่วยยากไร้ ผ่าน รพ.สมเด็จพระสังฆราช อยุธยา มุ่งนโยบายสร้างประโยชน์ตอบแทนคุณสังคมไทย

นายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส ประธานกรรมการบริหาร “บีอาร์จี กรุ๊ป” ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ชั้นนำจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เปิดเผยว่า จากนโยบายของ “บีอาร์จี กรุ๊ป” ในการมุ่งมั่นเป็นผู้นำด้านการนำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ที่มีคุณภาพ หลากหลายและตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคคนไทย ด้วยการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ ซื่อสัตย์ และยุติธรรม เพื่อสร้างความพึ่งพอใจสูงสุดให้แก่ผู้บริโภค และอีกนโยบายที่สำคัญ คือ การสนับสนุนกิจกรรมที่สร้างเสริมประโยชน์ให้แก่สังคมไทย

ล่าสุด “บีอาร์จี กรุ๊ป” ได้ส่งมอบอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ มูลค่า 1,000,000 บาท ให้แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช อ.นครหลวง จ.อยุธยา ในโครงการ “จัดหาเครื่องมือแพทย์เพื่อผู้ป่วยยากไร้” โดย “บีอาร์จี กรุ๊ป” ได้ร่วมสมทบทุนทรัพย์และเป็นสื่อกลางในการรวบรวมผู้มีจิตศรัทธาที่มีความประสงค์จะร่วมสมทบทุนทรัพย์ในโครงการดังกล่าว เพื่อนำไปจัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ให้แก่ผู้ป่วยยากไร้ ผ่านทางโรงพยาบาลของหน่วยงานราชการที่อยู่ในท้องถิ่นทุรกันดาร หรือขาดแคลนทุนทรัพย์ในการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ในการรักษาผู้ป่วย โดยปีนี้ “บีอาร์จี กรุ๊ป” ได้เลือกโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช อ.นครหลวง จ.อยุธยา ตามพระดำริของ “สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมพโร)” เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ที่มุ่งสร้างประโยชน์สูงสุด ให้แก่ผู้เจ็บป่วยใน อ.นครหลวง และพื้นที่ใกล้เคียง ให้ได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

“สำหรับปีนี้ เป็นปีแรกที่ “มูลนิธิณัฐธิมาศรีรัตนประภาส” ได้เข้ามาร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักในการมอบทุนทรัพย์ในการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ ด้วยนโยบายการสนับสนุนและช่วยเหลือด้านสาธารณสุขและด้านสังคมให้แก่ประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของ “บีอาร์จี กรุ๊ป” ส่งผลทำให้ปีนี้ สามารถรวบรวมทุนทรัพย์สำหรับโครงการดังกล่าวได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยนำเงินที่ได้รับไปจัดซื้อชุดยูนิตทันตกรรม, เครื่องให้ความอบอุ่นและช่วยชีวิตทารกแรกเกิด, เครื่องอัลตราซาวด์ และวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย เพื่อรองรับการดูแลรักษาสำหรับผู้ป่วยตั้งแต่วัยแรกเกิดจนถึงวัยชรา

และในโอกาสนี้ ผมต้องขอขอบคุณ “มูลนิธิณัฐธิมาศรีรัตนประภาส”, พันธมิตรทางธุรกิจ กลุ่มพนักงานและลูกค้า “บีอาร์จี กรุ๊ป” ที่มีจิตศรัทธาร่วมกันสมทบทุนทรัพย์ในครั้งนี้ และขอขอบคุณคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช ที่ทำให้โครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้” นายสมศักดิ์ กล่าว

ด้าน “นายแพทย์ประเสริฐ ตั้งจิตธรรม” ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนด้านอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์จากโครงการ “จัดหาเครื่องมือแพทย์เพื่อผู้ป่วยยากไร้” ของ “บีอาร์จี กรุ๊ป” และ “มูลนิธิณัฐธิมาศรีรัตนประภาส” ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ดีและมีประโยชน์ต่อโรงพยาบาลเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากโรงพยาบาลของรัฐส่วนใหญ่ จะขาดแคลนงบประมาณสำหรับการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ซึ่งมีราคาสูงมาก ดังนั้น การได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้ ทำให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการผู้ป่วยที่มีฐานะยากจนเพิ่มมากขึ้น และมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลยังขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉิน และผู้ป่วยที่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกเป็นจำนวนมาก

“โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช” ก่อตั้งขึ้นเนื่องในมหามงคลดิถีที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสนมหาเถระ) สมเด็จพระสังฆราช เจริญพระชนมายุครบ 84 พรรษา เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2525 เป็นโรงพยาบาลระดับอำเภอ ขนาด 30 เตียง มีบุคลากร จำนวน 128 คน สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 34 ไร่ ในอำเภอนครหลวง จ.อยุธยา เปิดบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป แพทย์แผนไทย และกายภาพบำบัด

บรรยายใต้ภาพ

1.นายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส (นั่งคนที่ 3 จากขวา) ปะธานกรรมการบริหาร, นางกาญจนา ศรีรัตนประภาส (นั่งคนที่ 2 จากซ้าย) รองประธานกรรมการบริหาร, นางสาวอัจจิมา ศรีรัตนประภาส (ยืนคนที่ 2 จากซ้าย) กรรมการบริหาร ฝ่ายขาย, นางสาวชลลธร ศรีรัตนประภาส (ยืนคนที่ 3 จากซ้าย) กรรมการบริหาร ฝ่ายการตลาดและฝ่ายต่างประเทศ พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน บีอาร์จี กรุ๊ป ร่วมกับนางสาวณัฐธิมา ศรีรัตนประภาส (นั่งคนที่ 1 จากซ้าย) ประธาน “มูลนิธิณัฐธิมาศรีรัตนประภาส” ให้เกียรติร่วมถ่ายภาพกับนายแพทย์ประเสริฐ ตั้งจิตธรรม (นั่งคนที่ 3 จากซ้าย) ผู้อำนวยการ รพ.สมเด็จพระสังฆราช พร้อมพลอากาศเอกปอง มณีศิลป์ (นั่งคนที่ 2 จากขวา) อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ และแขกผู้มีเกียรติที่ร่วมสมทบทุนทรัพย์ในโครงการ “จัดหาเครื่องมือแพทย์เพื่อผู้ป่วยยากไร้

2.นายสมศักดิ์ฯ และพลอากาศเอกปองฯ ร่วมส่งมอบเครื่องมือแพทย์ ให้แก่ รพ.สมเด็จพระสังฆราช โดยมีนายแพทย์ประเสริฐฯ เป็นผู้รับมอบ

3.-6 คณะผู้บริหารระดับสูง บีอาร์จี กรุ๊ป และมูลนิธิณัฐธิมาศรีรัตนประภาส เยี่ยมชมการสาธิตการใช้งานเครื่องแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ของพยาบาลและเจ้าหน้าที่ รพ.สมเด็จพระสังฆราช

“วอลโว่” เตรียมเผยโฉมV40 T4 Facelift ใหม่ ในเมืองไทยเปิดราคาครั้งแรก!ในงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2016


   “วอลโว่” เตรียมเผยโฉมV40 T4 Facelift ใหม่ ในเมืองไทยเปิดราคาครั้งแรก!ในงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2016

วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) ขอแนะนำ V40 T4 Facelift ใหม่ เครื่องยนต์ Drive-E เบนซินเทอร์โบ รถพรีเมี่ยมแฮทช์แบ็ค 5 ประตูที่คงเอกลักษณ์การออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนที่โก้หรู ด้วยโฉมใหม่ที่มีไฟหน้าทรงค้อนของเทพเจ้าแห่งเจ้าธอร์ (Thor Hammer) ปราดเปรียว และเปี่ยมสมรรถะด้วยเครื่องยนต์Drive-E Powertrain เบนซินเทอร์โบ2,000 ซีซี 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 300 นิวตันเมตร ด้วยอัตราเร่งจาก0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 210กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยในเมืองและนอกเมือง 16.4 กม.ต่อลิตร ปล่อยไอเสียเพียง 142 กรัมต่อก.ม. เปลี่ยนพลังความรู้สึกใหม่ ขับสนุก โลดเล่นดั่งใจ ปลอดภัยสูงสุด

นางสาวแอเน็ต แอนเดอร์สัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “วอลโว่ V40 เป็นรถยนต์แฮทช์แบ็คห้าประตูขนาดกลางระดับพรีเมียม ที่ได้เริ่มต้นการผลิตตั้นแต่ปี 2012 และได้กลายเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของวอลโว่ในยุโรปและขายดีเป็นอันดับสองของแบรนด์ทั่วโลก สำหรับประเทศไทย V40 ถือเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่เขามาทำตลาดในไทยและได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้เราได้กลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น และเร็วๆ นี้ จะมีการเปิดตัว วอลโว่ V40 T4 ใหม่ อย่างเป็นทางการกับการปรับโฉมใหม่ที่โฉบเฉี่ยวและทรงพลังมากขึ้นและคงความโก้หรูในเอกลักษณ์ของวอลโว่เช่นเคย ด้วยกระจังหน้าและโลโก้ พร้อมไฟหน้าที่มีรูปทรงจำลองมาจากค้อนเทพแห่งเจ้าธอร์ ซึ่งจะเป็นโฉมหน้าใหม่ของวอลโว่รุ่นใหม่ๆ ต่อจากนี้ไป เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้น V40 T4 มีสีให้เลือกมากถึง 5 สี ได้แก่

· สีขาว (Ice White Solid)

· สีเงินเมทัลลิค (Bright Silver Metallic)

· สีน้ำเงินเมทัลลิค (Power Blue Metallic)

· สีเทาเมทัลลิค (Osmium Grey Metallic)

· สีดำ (Onyx Black Metallic)

และเพื่อสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ออกแบบและพัฒนารถที่ปล่อยไอเสียในปริมาณที่ต่ำลง วอลโว่จึงได้ออกแบบและพัฒนารถรุ่น V40 T4 ให้มีการปล่อยค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เฉลี่ยอยู่ที่ 142 กรัมต่อกิโลเมตร ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ 150 กรัมต่อกิโลเมตร ซึ่งนอกจากจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว รถรุ่นนี้ยังทำราคาได้น่าสนใจและคาดว่าจะดึงดูดกำลังซื้อเพิ่มขึ้นช่วงปลายปี

V40 T4 มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินความจุ 2,000 ซี.ซี. ขนาด 4 สูบ เครื่องยนต์ใหม่ Drive-E Powertrain นวัตกรรมเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่ตอบสนองรวดเร็ว ขับสนุก มอบความเร้าใจในการขับขี่และการใช้เชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่าด้วยเครื่องยนต์ T4 เบนซิน ทวินเทอร์โบ 190แรงม้า ที่ 4,700 รอบต่อนาที และแรงบิดที่300 นิวตันเมตรที่ช่วง 1,300 – 4,000 รอบต่อนาที ด้วยความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถทำความเร็วจาก 0-100กม.ต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.9 วินาทีเท่านั้น อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยในเมืองและนอกเมือง 16.4 กม.ต่อลิตรเหมาะกับเป็นรถคู่ใจในทุกๆการเดินทาง

ออกแบบภายในห้องโดยสารได้สวยงาม ภายใต้แนวคิด “ออกแบบมาเพื่อคุณ” (Designed Around You) ด้วยโทนสีทันสมัย สะท้อนอิสระแห่งการเดินทาง เบาะนั่งใหม่สไตล์สปอร์ตบุหนังคุณภาพสูงสีดำชาโคล พวงมาลัยสีดำด้าน โลโก้วอลโว่ iron markแบบใหม่บนพวงมาลัย แผงหน้าปัด-ตกแต่งด้วยขอบอลูมีเนียมสีดำคงความหรูหราและประณีตด้วยเอกลักษณ์การออกแบบจากสวีเดนเปี่ยมไปด้วยรสนิยมชั้นเลิศของผู้ขับขี่

นวัตกรรมที่ให้ความสะดวกเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสหรือสั่งการด้วยเสียงอย่าง VolvoSensus Connect ให้คุณค้นหาข้อมูลและควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆของรถ ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านสัญญาณบลูทูธ เพื่อให้คุณสามารถสื่อสารผ่านโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างสะดวกและปลอดภัย รวมทั้งฟังเพลงจากเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาโดยผ่านการเชื่อมต่อด้วยสัญญาณบลูทูธได้อย่างรื่นรมย์ พร้อมจอแสดงผลแบบ TFT ขนาด 8 นิ้วที่มีรายละเอียดสูงติดตั้งอยู่เหนือคอนโซลกลางเพื่อแสดงข้อมูลสำคัญต่างๆให้ผู้ขับขี่ทราบในแต่ละสถานการณ์ พร้อมสะท้อนอารมณ์ในการขับขี่ด้วยธีมสีและรูปแบบการแสดงผลที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับได้ถึง 3 รูปแบบ คือElegance Eco และ Performance

ระบบกรองอากาศอัจฉริยะ CleanZone air purification system ซึ่งเป็นระบบกรองอากาศในห้องโดยสารรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากสุด ที่มีประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาคเล็ก ละอองเกสร และฝุ่นผง ที่ปะปนมากับอากาศได้ดีที่สุด เพื่อบรรยากาศห้องโดยสารที่สะอาด ปลอดโปร่ง

รวมถึงยังมีเทคโนโลยีทันสมัยมากมายทั้งในด้านความปลอดภัยและฟังก์ชั่นช่วยในการขับขี่เช่นเดียวกับที่มีในรถรุ่นใหญ่ ท อาทิระบบช่วยในการจอดรถอัตโนมัติ (Park assist pilot) ช่วยให้การจอดแบบขนานขอบทางง่ายดายขึ้นโดยที่ระบบอัจฉริยะจะควบคุมการบังคับเลี้ยวของรถเอง ผู้ขับขี่เพียงแค่ควบคุมความเร็วรถและปรับเปลี่ยนเกียร์เท่านั้น ระบบนี้ทำงานโดยเซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิคที่ติดตั้งไว้ที่ด้านหน้า หลัง และข้างรถ

ยิ่งกว่านั้น ยังมี ระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำ City Safety ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เมื่อรถวิ่งในระดับความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. ระบบจะใช้เลเซอร์ที่ฝังอยู่ส่วนบนของกระจกบังลมหน้า สแกนพื้นที่ด้านหน้ารถในระยะห่างออกไป 10เมตร เพื่อตรวจจับยานพาหนะด้านหน้ารถว่าหยุดอยู่กับที่หรือกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ถ้าระบบประเมินว่าการชนกำลังจะเกิดขึ้น เบรกจะถูกชาร์จเตรียมไว้เพื่อให้คุณเหยียบเบรกได้ทันท่วงที หรือหากคุณไม่เหยียบเบรก ระบบจะทำการเบรกโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีเพื่อการเดินทางสู่เป้าหมายที่วอลโว่ตั้งไว้ว่าภายในปี ค.ศ. 2020 จะต้องไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสในรถวอลโว่รุ่นใหม่อีกต่อไป

พบกับ V40 T4 Facelift ปี 2017 ยนตกรรมโฉมหน้าใหม่ ที่จะอวดโฉมให้ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด พร้อมเปิดราคาเป็นครั้งแรก! ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่1-12 ธันวาคม 2559 สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-305-4499หรือ WWW.VOLVOCARS.COM/TH



ฮอนด้าเผยโฉม CBR300R –CB300F เวอร์ชั่นปี 2016เผ็ดร้อนเร้าใจทุกองศา!


ฮอนด้าเผยโฉม CBR300R –CB300F เวอร์ชั่นปี 2016เผ็ดร้อนเร้าใจทุกองศา!
            
รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ตอกย้ำผู้นำเทรนด์สปอร์ตด้วยการเปิดตัวNew Honda CBR300R และ CB300F เวอร์ชันปี 2016 พร้อมสมรรถนะที่โดดเด่นจากเครื่องยนต์ 300ซีซี วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ

          นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยเปิดเผยว่า รถในตระกูล 300Series ของฮอนด้าซึ่งประกอบด้วย Honda CBR300R และ CB300F ล้วนแต่เป็นโมเดลที่ได้รับความนิยมสูงมากในประเทศไทยเพราะตัวรถตอบโจทย์ผู้ใช้ทั้งในเรื่องดีไซน์ที่ให้ความเป็นรถสปอร์ตขั้นสุด และสมรรถนะจากเครื่องยนต์หัวฉีด PGM-FI ที่ให้แรงบิดเต็มซีซี ความลงตัวนี้ทำให้รถทั้งสองรุ่นได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง

          แม้จะได้รับความนิยมเพียงใด แต่ตลาดก็ยังต้องการความสดใหม่อยู่เสมอ ในปี 2016 นี้เราจึงได้ปรับโฉม Honda CBR300R และHonda CB300F ให้มีความดุดันเหนือความคาดหมาย โดยใช้การผสมผสานที่ลงตัวของสีสันที่ร้อนแรง และกราฟิกที่โฉบเฉี่ยว ในขณะที่โครงสร้างของรถยังคงความเป็นสปอร์ตขนาดกลางที่ขับขี่คล่องตัว มีแรงบิดดี เหมาะทั้งกับการใช้งานในเมือง และขี่ทะยานระยะไกล

          New Honda CBR300R และ CB300F เวอร์ชันปี 2016 โดดเด่นในแบบ Urban Style ท้าทายทุกสายตาให้เหลียวมองด้วยการผสมผสานที่ลงตัวของดีไซน์ที่ดุดันและสีสันที่ร้อนแรง กราฟิกใหม่แบบ CBR Signature และโลโก้ Honda ขนาดใหญ่ที่แฟริ่งด้านล่างของรถซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถซูเปอร์ไบค์ CBR1000RRเพิ่มกลิ่นอายความเป็นบิ๊กไบค์ด้วยแครงค์เคสสีทอง โคมไฟหน้าคู่แบบ Dual Multi Reflector (รุ่น CBR300R) และแบบ V-Shape (รุ่นCB300F) เท่มีสไตล์ติดตั้งท่อไอเสียแสตนเลส Sport Mufflerพร้อมชีลด์กันความร้อนระบบกันสะเทือนหลังแบบ Pro-Link® Rear Suspension ให้ความนุ่มนวลและเพิ่มความสามารถในการทรงตัว ปลอดภัยทุกเส้นทางด้วยระบบเบรก ABS

          New Honda CBR300R และ CB300F แรงด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ จังหวะ 300ซีซี ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ วาล์ว ระบบหัวฉีด PGM-FI ที่คำนวณการฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างอัจฉริยะ ให้แรงต้นที่จัดจ้าน ขับขี่สนุกคล่องตัว เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยค่าไอเสียที่สะอาดถึงระดับ ทั้งยังปลอดภัยด้วย Engine Stop Switch ที่สามารถหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส

          เอ.พี. ฮอนด้า พร้อมวางจำหน่าย New Honda CBR300R และCB300F ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ศูนย์ Honda Wing Center  ทั่วประเทศ โดยราคาแนะนำสำหรับ Honda CBR300R อยู่ที่ 133,000บาท มีให้เลือก สไตล์ได้แก่ สีส้ม-ดำสีแดง-ดำ, สีเหลือง-ดำ, สีดำ และ Honda CB300F สนนราคาแนะนำอยู่ที่ 126,000 บาท มีให้เลือก สไตล์ได้แก่ สีเทา-เหลืองสีแดง-ดำสีดำ

          พร้อมกันนี้ ฮอนด้ายังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อHonda CBR300R สีส้ม-ดำ และ Honda CB300F สีเทา-เหลือง รับฟรีทันทีแจคเก็ตลิมิเต็ดอิดิชั่นจากฮอนด้า จำนวนจำกัดเพียง 1,000ตัวเท่านั้น ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.aphonda.co.th
                                                

โดนใจนักศึกษา “ขับเป็น..ขับปลอดภัย กับสื่อสากล” เต็มทุกรอบ


โดนใจนักศึกษา “ขับเป็น..ขับปลอดภัย กับสื่อสากล” เต็มทุกรอบ

ชไมพร ปภัสร์พงษ์ ผู้อำนวยการ โครงการ “ขับเป็น..ขับปลอดภัย กับสื่อสากล” (Skill Driving Experience) เปิดเผยว่า โครงการปีนี้ ประสบความสำเร็จมาก นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรังสิต และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สมัครเข้าร่วมอบรมเต็มทั้ง 2 รอบ

“นักศึกษาทั้งหมดได้รับการอบรมการขับขี่ปลอดภัยทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ อาทิ การรับมืออาการรถหมุนและดื้อโค้ง (Over-steering & Under-steering)การควบคุมรถเวลาเสียหลัก (Lane Change & ELK Test) รวมทั้งการเบรคฉุกเฉินและหักหลบสิ่งกีดขวาง (Emergency Brake & Brake Avoiding) ปิดท้ายด้วยการแสดงขับรถแข่ง และ Hot Lap ซึ่งเมื่ออบรมจบหลักสูตร นักศึกษาจะได้รับประกาศนียบัตรจากโครงการ”

ผู้สนใจ สามารถสมัครเรียนคอร์สสุดท้ายของปีนี้ได้ที่งาน MOTOR EXPO 2016 หรือสอบถามตารางการอบรม ค่าใช้จ่ายในการสมัคร และรายละเอียดอื่นๆ ได้ที่ http://www.skilldriving-imc.com/ https://www.facebook.com/skilldriving หรือ โทร.0-2641-8444 ต่อ 214

ฮอนด้าเอาใจวัยรุ่น เปิดตัวสกู๊ปปี้ไอ โดโมะคุง ลิมิเต็ด อิดิชั่น จำนวนจำกัด 2,000 คันเท่านั้น

 
ฮอนด้าเอาใจวัยรุ่น เปิดตัวสกู๊ปปี้ไอ โดโมะคุง ลิมิเต็ด อิดิชั่น จำนวนจำกัด 2,000 คันเท่านั้น
            
แบรนด์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เอาใจสาวกแอนิเมชั่นญี่ปุ่นด้ วยการเปิดตัวรถแฟชั่นเอ.ที.รุ่ นพิเศษ ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ โดโมะคุง ลิมิเต็ด อิดิชั่น ลิขสิทธิ์แท้จากญี่ปุ่น ส่งมอบคาแรกเตอร์สดใสของโดโมะคุ งซึ่งเป็นมาสคอตชื่อดังของญี่ปุ่ น วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็ นต้นไป
          นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าในประเทศไทยเปิดเผยว่า ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอถือว่าเป็ นรถแฟชั่นเอ.ที.ที่วัยรุ่นให้ การยอมรับมากที่สุด นอกจากขับขี่สนุกปลอดภัย และประหยัดน้ำมันแล้ว ดีไซน์ของรถยังมีความร่วมสมั ยจากไอเดียใหม่ๆที่เรานำเสนออย่ างต่อเนื่อง เพราะแฟชั่นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ ตลอดเวลา ครั้งนี้เราได้นำโดโมะคุงซึ่ งเป็นตัวการ์ตูนยอดฮิตของญี่ปุ่ นที่โด่งดังไปทั่วโลกมาเป็ นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอรุ่นพิเศษซึ่ งจะถูกผลิตในรูปแบบลิมิเต็ดอิดิ ชั่น เพื่อให้ผู้ที่ชื่ นชอบคาแรกเตอร์ป่วนซนปนซ่ าของโดโมะคุงหรือผู้ที่ชอบแอนิ เมชั่นจากญี่ปุ่นได้มีโอกาสเป็ นเจ้าของ

          ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอโดโมะคุงลิมิ เต็ดอิดิชั่น (Honda Scoopy i Domo-kun Limited Edition) โดดเด่นด้วยกราฟิกโดโมะคุงที่ กำลังสนุกสนานกับสายฝนและหิมะ ลงตัวกับรูปทรงสไตล์วินเทจสี แดงดำ เท่ด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้ อมวงแหวนบลูริง เรือนไมล์แบบมัลติมิเตอร์ สดใสไม่เหมือนใคร พร้อมกล่องเก็บของใต้ เบาะขนาดใหญ่ถึง 15.4 ลิตร  สนุกกับการขับขี่ด้วยเครื่ องยนต์ จังหวะขนาด110cc ระบบหัวฉีด PGM-FI เวอร์ชันล่าสุดที่ให้แรงบิดเต็ มพลังแต่ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 53 กม./ลิตร (วัตตามมาตรฐาน สมอ. Mode ECE R40 ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก) มีค่าไอเสียที่สะอาดถึงระดับ 6และรองรับน้ำมัน E20 อีกด้วย

          สำหรับโดโมะคุงถือเป็นตัวการ์ตู นที่มีชื่อเสียงมากในประเทศญี่ ปุ่น โดดเด่นจากคาแรกเตอร์สัตว์ ประหลาดที่มีรูปร่างเหมือนก้ อนขนมปังสีน้ำตาล อ้าปากโชว์ซี่ฟันแหลมๆอยู่ ตลอดเวลาแต่กลับมีนิสัยขี้เล่น ใสซื่อเหมือนเด็ก ถือกำเนิดขึ้นในปี 1999 ในรูปแบบแอนิเมชั่นเพื่อเป็ นมาสคอตประจำสถานีโทรทัศน์เอ็ นเอชเคของญี่ปุ่น ก่อนจะโด่งดังไปทั่วโลกในเวลาต่ อมา

เอ.พี. ฮอนด้าจะวางจำหน่ายฮอนด้าสกู๊ ปปี้ไอโดโมะคุงลิมิเต็ดอิดิชั่ นจำนวนจำกัดเพียง 2,000 คันเท่านั้น เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ ศูนย์ Honda Wing Center ด้วยราคาแนะนำที่ 48,400 บาท โดยทุกคันจะมาพร้อมกับลิมิเต็ ดไอเท็มเซ็ทประกอบไปด้วยกระเป๋ าแบ็คแพ็คและหมวกกันน็อกดีไซน์ พิเศษลายโดโมะคุงซึ่งไม่เคยมี จำหน่ายที่ไหนมาก่อน

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์www.aphonda.co.th และอัพเดทกิจกรรมความสนุกได้ที่www.facebook.com/ hondamotorcyclethailand

The New Porsche Panamera revealed, marks grand appearance in Thailand


The New Porsche Panamera revealed, marks grand appearance in Thailand

Thailand, 30 September 2016. – For the first time in Thailand, AAS Auto Service (AAS), the official importer of Porsche in Thailand showcased its new Porsche Panamera Turbo to a select group of media, bloggers and prospective customers at the spectacular Sneak Preview. The event signals the arrival of the second generation Gran Turismo in the country, following its World Premiere in Berlin and appearance at the Paris Motor Show <only a day before>. Porsche spe-cially flown in the Panamera Turbo to Thailand to allow media and an exclusive group of Porsche enthusiasts to witness the all new Panamera in person. The Panamera Sneak Preview marks the introduction of the Panamera Turbo with 550 hp, Panamera 4S with 440 hp, the Panamera 4 E-Hybrid with 462 hp.

Redeveloped, rethought and realigned, the new Porsche Panamera reconciles two contrasting characteristics more than ever before: it offers both the performance of a genuine sports car and the comfort of a luxury saloon. Systematically improved down to the very last detail, the Panamera is advancing to become a performance icon in the luxury class. Its engines and transmissions have been redesigned, its chassis perfected, and its display and control concept reinterpreted for the future. The design language of the new Panamera creates a link to the Porsche 911 by its even more dynamic fly line and specific design elements of the sports car icon.

“With the first generation of the Panamera, we tapped into the luxury sport saloon segment of the market. Since its launch in 2009 more than 150,000 units of the Panamera have been sold. In the new model, you see a completely redeveloped automobile – with new engines, a new design and new technologies. With design language borrowed from the iconic 911, the Panamera is on its way to becoming an icon in its own right for the sports luxury segment,” Peter Rohwer Managing Director of Porsche Thailand said.

All new V6 and V8 biturbo engines – a unique blend of efficiency and extraordinary
performance

A highly innovative family of new V6 and V8 biturbo engines has been created for the Porsche Panamera. All engines in the range feature more power, but not at the expense of economy and emissions, which have been lowered. When mated to the new eight-speed dual-clutch transmission (PDK II) the engines are up to 16 percent more efficient than previous generations.

Three new biturbo direct injection engines are being introduced at the market launch: in the Panamera Turbo, the Panamera 4S. All of them may be equipped with a permanent all-wheel drive system and a new eight-speed Porsche dual-clutch transmission (PDK). A V8 petrol engine that delivers 404 kW / 550 hp powers the Panamera Turbo and a V6 petrol engine with 324 kW / 440 hp drives the Panamera 4S.

Initially, the Panamera Turbo has the most powerful petrol engine of the model series. Its 4.0-litre biturbo V8 develops 404 kW / 550 hp (at 5,750 rpm) and a maximum torque of 770 Nm (between 1,960 and 4,500 rpm). It has 30 hp more power than the previous model, and its maximum torque has been increased by 70 Nm. The eight-cylinder engine accelerates the Panamera Turbo to 100 km/h in 3.8 seconds; with the Sport Chrono Package the sprint time is just 3.6 seconds. The Porsche can reach a top speed of 306 km/h. These are impressive figures that illustrate just how easily the engine can propel the Panamera with its power-to-weight ratio of just 3.6 kg/hp. These extraordinary performance figures contrast with lower combined fuel consumption figures which, at 9.4 – 9.3 l/100 km, are up to 1.1 l/100 km less than that of the previous model (New European Driving Cycle or NEDC). These figures equate to CO2 emissions of 214 – 212 g/km.

In addition, the fourth model in the new Panamera line will also be launched. The Panamera 4 E-Hybrid with controlled all-wheel drive and an electric range of 50 kilometres generates some 340 kW (462 hp) of system power and delivers fuel consumption figures of 2.5 l/100 km in the New European Driving Cycle (NEDC) for plug-in hybrid models. That corresponds to CO2 emissions of 56 g/km. The new Porsche plug-in hybrid always starts in purely electric mode and continues as a zero-emission vehicle up to a range of 50 kilometres and a maximum speed of 140 km/h. The all-wheel Porsche also achieves a top speed of 278 km/h and delivers a sys-tem torque of 700 Nm from stationary without hesitation. The four-door hybrid sports car breaks the 100 km/h barrier in just 4.6 seconds. The torque is transferred to all four wheels and the standard three-chamber air suspension ensures an optimum balance between comfort and dynamism at all times.


Unique 911 design language and the perfect blend of comfort and sportiness

Visually, the unique concept of this large Porsche is reflected in the new expressive design: un-mistakably a Panamera, unmistakably a sports car – with long, dynamic proportions, pronounced shoulders and athletic flanks. A roofline lowered by 20 mm at the rear creates an extremely ‘fast’ roof line, stylistically reminiscent of Porsche’s design icon, the 911.

For an even larger spread between comfort and sportiness, the Panamera now has features such as a new three-chamber air suspension, rear axle steering and the new electronic 4D Chassis Control chassis management system. Many new assistance systems also enhance ride comfort as well as safety.

Porsche is also introducing a future-oriented display and control concept for the second generation Gran Turismo. The new Porsche Advanced Cockpit with its smartphone-like user interfaces and configurable LED screens impresses with its intuitive functionality. In addition, the new Porsche Communication Management (PCM 4.1)

Price for Panamera 4 E-Hybrid 9.8 MB. (Special price)
Price for Panamera 4S is 13.5 MB.
Price for Panamera Turbo is 21.9 MB.


About AAS Auto Service
AAS Auto Service (AAS), the sole authorized importer and distributor of Porsche cars in Thailand, is an excellent service centre along with experienced engineers trained by Porsche Germany and quality guaranteed by Porsche Service Excellence Award. 10 of our engineers also qualified from ZPT3 Gold Theory Test & Recertification, in which AAS contains the highest number of qualified engineers among 13 countries of Porsche Asia Pacific. Over 30 years, AAS continued to practice the company policy “AAS Looking after You and Your Car”, in order to achieve our mission of “AAS The Name you can Trust”.
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved