Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

อุปกรณ์ภายใน ของ Toyota Yaris Ativ มีอะไรบ้าง ?

พวงมาลัยหุ้มหนังตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมแถบเมทัลลิก - แนวสปอร์ตล้ำ พร้อมความสะดวกสบายกว่า ด้วยสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง, โทรศัพท์ และควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่
มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron - หรูหรามีระดับ ชัดเจนทุกรายละเอียด
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่อัจฉริยะแบบจอสี (TFT) - แจ้งเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท / สรุประยะทาง, เวลา, อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันในแต่ละทริปการเดินทาง / อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย, เวลาทั้งหมดที่ใช้ และความเร็วเฉลี่ย / อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ประหยัดได้ / ความเร็วขณะขับขี่และระยะทางที่สามารถขับขี่ได้จากปริมาณน้่ำมันที่มีอยู่ในถัง
เครื่องเล่นวิทยุ / DVD / CD / MP3 / MP4 / WMA หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมช่องต่อ USB / HDMI / Micro SD Card / ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth รองรับบริการพิเศษจาก T-Connect - เปิดความบันเทิงให้คุณได้เต็มรูปแบบ
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมจอ LCD - สะดวกสบาย เลือกปรับอุณหภูมิอย่างเหมาะสม
ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (Push Start) - สตาร์ทง่ายดาย แค่ปลายนิ้วสัมผัส
ที่เก็บสัมภาระท้ายรถ - มาพร้อมพื้นที่สุดกว้างขวาง สำหรับเก็บของที่หลากหลาย
เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ต - โฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใคร
หัวเกียร์หุ้มหนังและฐานเกียร์สีดำเปียโนแบล็ค - เติมความเท่ แฝงด้วยความหรูหราที่ลงตัว
ที่เก็บของอเนกประสงค์ข้างคนขับ พร้อมหุ้มหนังบริเวณฝาปิด - เพิ่มพื้นที่เก็บของพร้อมที่พักแขน เพื่อความผ่อนคลายทุกการขับขี่
ช่องเก็บของอเนกประสงค์ด้านคนนั่ง - จัดแบ่งเป็นสัดส่วน เพื่อการจัดเก็บที่ง่ายขึ้น
ที่วางแก้วคอนโซลด้านหน้า พร้อมไฟส่องสว่าง - เพื่อความสบายในทุกการเดินทาง
พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังแบบเรียบ - เพื่อการเข้า-ออกที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น เพื่อความสุขทุกการเดินทาง
ลำโพงรอบทิศทาง 6 ตำแหน่ง - เต็มอิ่มทุกความรู้สึก เต็มอารมณ์ทุกความบันเทิง
ระบบเซ็นทรัลล็อก - ควบคุมการล็อก และปลดล็อกประตูได้ทุกบานง่ายดายเพียงปุ่มเดียว
แผงบังแดดคู่หน้า พร้อมกระจกแต่งหน้า - ตอบรับไลฟ์สไตล์ สะดวกทุกครั้งที่ใช้งาน
ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า - ใช้งานง่าย ส่องสว่างสบายตา
ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร - สว่างครอบคลุมทั้งด้านหน้า และด้านหลัง
ห้องโดยสารพรีเมียมดีไซน์ - ขยายความสบายให้กว้างขึ้นกว่าที่เคย

อุปกรณ์ภายนอก ของ Toyota Yaris Ativ มีอะไรบ้าง ?

กระจังหน้าโครเมียมรมดำ พร้อมตกแต่งด้วยแถบสีแดงบริเวณกระจังหน้าด้านล่าง - อีกระดับของความล้ำสมัย โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ต

ไฟส่องสว่างเวลาเวลากลางวัน Daytime Running Light แบบ LED - สังเกตได้ชัดจากระยะไกล เพิ่มความปลอดภัยทุกการขับขี่

ไฟตัดหมอกหน้า - ความโฉบเฉี่ยวแฝงความเรียบหรู เพิ่มทัศนวิสัยขณะหมอกลงจัด หรือฝนตกหนัก

ไฟหน้า Projector รมดำ ตกแต่งด้วยวงแหวนสีแดง - โดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และ LED Light Guiding

กระจกมองข้างสีดำเปียโนแบล็คพร้อมไฟเลี้ยว ตกแต่งด้วยแถบสีแดง - แนวสปอร์ตเร้าใจ เพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น

มือจับประตูโครเมียม พร้อมระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry - เรียบหรู มีระดับ

เสาอากาศแบบครีมฉลาม - ดีไซน์ล้ำสมัย โดดเด่น สะดุดตา

ไฟท้ายรมดำแบบ LED Light Guiding - ดีไซน์สุดล้ำ สะกดทุกสายตา

สัญลักษณ์ ATIV - ดีไซน์สะดุดตา โดดเด่น สะท้อนความปราดเปรียว

ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED - อีกระดับของดีไซน์ เพื่อความปลอดภัยทุกการขับขี่

รีเฟลคเตอร์ท้าย - โดดเด่นสะดุดตา มองเห็นชัดเจนในระยะไกล เพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น

ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว - ดีไซน์ปราดเปรียว แข็งแกร่ง ทนทาน

กระจกไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับ - ปลอดภัยกว่า ด้วยฟังก์ชั่นหยุดอัตโนมัติ เมื่อมีสิ่งกีดขวาง

กระจกบังคมหน้า Acoustic Glass ลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ เพิ่มความเงียบ สบายใจตั้งต่เริ่มสตาร์ท

ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry - สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยฟังก์ชั่นการควบคุมการล็อก-ปลดล็อกประตู และที่เก็บสัมภาระท้ายรถ

กล้องมองหลัง - ง่ายดายทุกการถอยจอด ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ

วิธีการโมเครื่องยนต์ในแรงสมใจ

วิธีการโมดิฟายปรับพื้นผิวของช่องดูดอากาศไอดีและไอเสียที่ฝาสูบของเครื่องยนต์ด้วยเครื่อง CNC 5 axis Porting and CNC Engine Block เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องยนต์สำหรับรถแข่งแรงกว่าเดิม

หลักการพื้นฐานของระบบเบรก


หลังจากที่คุณเหยียบเบรก แรงจากเท้าของคุณจะถูกส่งผ่านไปที่เบรก โดยใช้ของเหลว และเป็นแรงที่มีขนาดมากกว่าที่คุณเหยียบ แรงที่เกิดขึ้นได้มาจากระบบทางกล 2 ทางคือ
  • ทางกล (คานดีด คานงัด)
  • แรงทางไฮดรอลิก

ล้อจะลดความเร็วโดยอาศัยแรงเสียดทาน ระหว่าง เบรก กับ จานล้อ และแรงเสียดทานของล้อกับถนน ในหน้าถัดไป ฟิสิกส์ราชมงคลจะอธิบายความหมายของระบบต่อไปนี้
  • คานดีด คานงัด
  • ไฮดรอลิก
  • แรงเสียดทาน

ระบบเบรกรถยนต่ทำงานอย่างไร?

   เมื่อเราเหยียบเบรก  ความเร็วของรภจะลดลง  และหยุดในที่สุด    แต่คุณทราบไหมว่า มีอะไรเกิดขึ้นบ้างขณะที่คุณเหยียบมัน   แรงที่เท้าของคุณส่งไปที่ล้อได้อย่างไร    และทำไมเกิดแรงมากมายที่สามารถหยุดรถขนาดหนักเป็นตันได้

ข้อดีและข้อเสียของระบบเบรค ABS


ข้อดีของ ABS

- ป้องกันล้อล็อกเมื่อต้องเบรกกะทันหัน ควบคุมพวงมาลัยให้ไปตามทิศทางที่ต้องการ
- ยางไม่สึกหรอไว

ข้อเสีย

- มีเสียงดังเมื่อระบบทำงาน อาจทำให้ตกใจได้
- มีอาการสะเทือนเข้ามาถึงภายในรถ
- เพิ่มระยะเบรกยาวขึ้น
- มีค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงแพงกว่าเบรกธรรมดา

ระบบเบรค ABS ทำงานอย่างไร ?


ระบบเบรก ABS เป็นการผสมผสานระหว่างระบบกลไก และระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำหน้าที่คือป้องกันล้อไม่ให้เกิดการล็อกเมื่อมีการใช้เบรกหนัก

ABS จะประกอบด้วยฟันเฟืองวงแหวนที่ติดตั้งอยู่กับเพลาหมุนพร้อมเซ็นเซอร์ เมื่อล้อรถเริ่มหมุนฟันเฟืองจะหมุนตาม จากนั้นเซ็นเซอร์ก็จะทำการตรวจจับความเร็วการหมุนของฟันเฟือง แล้วรายงานอัตราความเร็วที่ได้มาไปให้กล่องสมองกล ABS ซึ่งปกติทั่วไปทุกล้อจะมีเซ็นเซอร์เพื่อตรวจสอบความเร็วติดอยู่ทุกล้อ

เมื่อทำงานสมองกล ABS จะสั่งการให้ชุดปั๊มเบรกทำงาน โดยจะมีการจับและปล่อยระหว่างจานเบรกกับผ้าเบรกที่ 16-50 ครั้งต่อวินาที หรือเปรียบได้ว่าเบรกและปล่อยรัว ๆ แบบอัตโนมัติทำให้ล้อไม่ล็อก ผู้ขับสามารถควบคุมทิศทางของรถได้

ระบบเบรค ABS คืออะไร?



ระบบเบรค ABS คืออะไร ทำงานอย่างไร
ระบบเบรค ABS ย่อมาจาก Anti-Lock Brake System หรือระบบป้องกันการเบรคจนล้อล็อกตาย ซึ่งเกิดมาจากการแก้ไขปัญหาการเบรครถแล้วเกิดการลื่นไถล ระบบ ABS จะประกอบด้วยฟันเฟืองวงแหวนที่ติดตั้งอยู่กับเพลาหมุน และจะมีเซนเซอร์ติดตั้งอยู่ใกล้กับฟันเฟือง เมื่อล้อรถเริ่มหมุนฟันเฟืองจะหมุนตาม แล้วเซนเซอร์ก็จะทำการตรวจจับอัตราการหมุนของฟันเฟือง แล้วรายงานอัตราความเร็วดังกล่าว ไปให้ระบบ ABSซึ่งโดยปกติทั่วไปทุกล้อจะมีเซนเซอร์เพื่อตรวจสอบความเร็วติดอยู่ทุกล้อ โดย ABS จะสั่งการผ่านเซนเซอร์ตัวนี้ เพื่อให้ชุดปั้มเบรคทำงาน โดยจะมีการจับและปล่อยระหว่างจานเบรคกับผ้าเบรคที่ 16-50 ครั้ง/วินาที เพราะการที่จับกันเร็วอย่างนี้จะทำให้ผู้ขับสามารถควบคุมทิศทางของรถได้ในขณะที่เหยียบเบรคกระทันหันเพื่อหลบสิ่งกีดขวาง หรืออุบัติเหตุ หรือเบรคในระยะที่สั้นกว่าปกติ

ABS จะทำงานก็ต่อเมื่อ ผู้ขับเหยียบเบรคเร็วและแรงกว่าปกติ หรือประมาณ 80% ซึ่งระบบจะเริ่มทำงานเองโดยอัตโนมัติ เราจะรู้สึกว่าระบบเริ่มทำงานนั่นก็คือ จะเกิดเสียงดังครืดเข้ามาในห้องผู้โดยสาร เนื่องจากการควบคุมแรงดันน้ำมันของระบบ ABS ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ขับเกิดอาการตกใจได้ แต่ห้ามถอนน้ำหนักจากเบรค ให้ผู้ขับเหยียบเบรคค้างไว้แล้วหักหลบจากสิ่งกีดขวาง แล้วจึงค่อยถอนแรงเหยียบจากเบรค อีกข้อที่ห้ามทำคือการย้ำเบรค เพราะจะไปทำให้แรงดันน้ำมันจะลดลง จึงทำให้ระบบ ABS ไม่ทำงาน แต่จากที่มีการพัฒนาระบบ ABSมากขึ้น ทุกวันนี้จึงกลายมาเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญส่วนหนึ่งในรถยนต์ เช่น HONDA JAZZ, TOYOTA YARIS, MAZDA 2 ตัวใหม่ทั้งหลายก็มีติดตั้งมากับตัวรถ

จะสังเกตุอาการของเบรครถยนต์ของคุณอย่างไรว่า ใกล้จะมีปัญหาแล้ว


สัญญาณเตือนว่าเบรกรถเริ่มมีปัญหา ให้คุณสังเกตุอาการด้วยตัวเองดังนี้

1. เบรกดัง

มักมาจากเสียงเสียดสีของผ้าเบรคกับจาน เบรครถยนต์ เช่น จานเบรคเป็นรอยเนื่องจากฝุ่น หรือผ้าเบรคไม่ได้มาตรฐาน ผ้าเบรคมีรอยร้าว หรือแม้แต่เปลี่ยนผ้าเบรค แล้วไม่ได้เจียร์จานเบรค ทำให้ผ้าเบรคและจานเบรคไม่แนบกันสนิท จนเกิดเสียงเสียดสีขึ้น

อาการ : มีเสียงดังขณะเบรกให้สังเกตว่าดังมาจากจุดใด ดังทุกล้อ หรือแค่ล้อใดล้อหนึ่ง ถ้าดังเป็นคู่ เช่น คู่หน้าหรือหลัง ส่วนใหญ่เกิดจากผ้าเบรกและจานเบรกที่อาจจะหมดแล้วเสียดสีกัน

แต่ถ้าดังบางจุด อาจเกิดจากมีฝุ่นหรือหินหลุดเข้าไปเสียดสีระหว่างผ้าเบรกกับจานเบรก จึงควรตรวจสอบและแก้ไข บางกรณีก็อาจเกิดจาการใช้ผ้าเบรกที่ผลิตไม่ได้มาตรฐาน ทางที่ดีควรเลือกใช้ผ้าเบรกจากโรงงานหรือยี่ห้อที่มีมาตรฐานเท่านั้น

2. เบรกแตก

หากมีปัญหาเบรกแตกนับได้ว่าอันตรายที่สุด

สาเหตุ

- น้ำมันเบรครั่วจากระบบ อาจมีการแตกชำรุด ของอุปกรณ์จนทำให้น้ำมันเบรคไหลออก จนไม่สามารถส่งถ่ายแรงดันไปกดกระบอกสูบเบรคได้ เช่น ท่อแป๊บน้ำมันเบรค ลูกยาง ตามจุดต่างๆเสื่อมสภาพ

- ผ้าเบรคหมด จนหลุดออกมา กรณีที่ไม่สังเกตผ้าเบรค และปล่อยจนผ้าเบรคหมด ตัวผ้าเบรคจะบางจนหลุดจากฝักก้ามเบรค และจะทำให้ลูกสูบเบรคหลุด

- ส่วนประกอบหลุดหลวม ซึ่งก็มีหลายจุดที่ให้ตรวจเช็ค เช่น สากแป้นเบรค น็อตยึดขาเบรค ฝักเบรก คาริบเปอร์ ซึ่งขับไปนานๆก็อาจมีการหลวม เคลื่อนได้ และอาจมากจนหลุดออกมา

- สายอ่อนเบรคแตก เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด สายอ่อนเบรคนั้น เวลาจอดจะไม่เห็นสิ่งผิดปกติ แต่เมื่อเสื่อมสภาพ สายพวกนี้เวลาเบรคจะพองตัว ไม่สามารถส่งน้ำมันไปยังกระบอกเบรคได้เต็มที่ และกรณีที่เบรคแรงๆ สายอ่อนนี้อาจแตกได้ ทำให้เบรคแตกอันตรายที่สุด หรือ บางทีช่างที่เปลี่ยนผ้าเบรกควลาใส่แล้วางตำแหน่งสายอ่อนเบรคไม่ดีจะทำให้สายเสียดสีกับล้อจนเสียหายได้ในที่สุด

อาการ : เวลาเหยียบแป้นเบรกจะจม จนกดติดพื้น และไม่มีการลดหรือชะลอความเร็ว ซึ่งจะเกิดอุบัติเหตุไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

3. เบรกสั่น


สาเหตุเกิดจากจานเบรกคดบิดตัว สึกหรอไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเกิดขึ้นได้เมื่อใช้งานอย่างรุนแรงเกินไป หรือจานเบรกไม่ได้มาตรฐาน สาเหตุอื่นๆ เช่น เบรกความร้อนสูงแล้วลุยน้ำ อาการนี้เกิดได้ทั้งระบบดิสก์เบรกและดรัมเบรก ควรไปตรวจเช็คและเจียรจานเบรก

อาการ : เหยียบเบรกเบา ๆ แล้วแป้นเบรกสั่นขึ้น-ลง ระยะเริ่มแรกจะส่งอาการมาเบา ๆ ที่แป้นเบรก แต่ถ้าเยอะมาก ๆ อาจรู้สึกสั่นถึงพวงมาลัย หากปล่อยไว้ถึงชั้นรุนแรงอาจสั่นสะท้านไปทั้งคัน

4. เบรกทื่อ


เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น หม้อลมเบรกเริ่มรั่วซึมจากชุดผ้าใบภายในหรือวาล์ว PVC หรือ Combo Vale เสีย ทำให้แรงสุญญากาศของหม้อลมน้อย สำหรับรถเครื่องยนต์ดีเซล อาจเป็นที่ปั๊มสุญญากาศที่บริเวณตูดไดชาร์จเสียรวมทั้งสายลมรั่ว เป็นต้น ควรรีบแก้ไขโดยด่วน

อาการ : เหยียบเบรกแล้วรู้สึกไม่ค่อยอยู่ จะรู้สึกเบรกแข็งๆ ต้องออกแรงเหยียบเบรกมากกว่าปกติ อาการเบรกตื้อๆ

ส่วนมากเกิดจากลูกยางแม่ปั๊มเบรกตัวบนสึกหรอ หรือบวม ทำให้แรงดันเบรกลดลง ต้องออกแรงเบรกมากขึ้น หรือทำให้ต้องย้ำเบรก ควรรีบแก้ไขโดยด่วน เพราะสิ่งที่จะตามมาคือเบรกแตก

อาการ
: เหยียบเบรกแล้วแป้นเบรกจมลงต่ำกว่าปกติ หากเหยียบค้างไว้แล้วแป้นเบรกค่อย ๆ จมลง ๆ นั่นเป็นอาการของเบรกจมบ้างก็เรียกเบรกต่ำ

6. เบรกหมด

คือ ผ้า เบรกรถยนต์ ที่ใช้ไปหมดจนเหลือแต่แผ่นรองเบรก จนเกิดการเสียดสีกับจานเบรกอย่างรุนแรง ก่อนจะเกิดอาการนี้ ผ้าเบรคทั่วไปจะมีลิ้นยื่นออกมาเพื่อเป็นตัวเตือน เวลาผ้าเบรคใกล้หมด ซึ่งลิ้นนี้จะขุดกับจานเบรค จิ๊ดๆ บอกเราว่าผ้าเบรคบางแล้ว ซึ่งกลหากไม่แก้ไขจนผ้าเบรคหมดก็คงต้องเปลี่ยนจานเบรค สำหรับในรถรุ่นใหม่ๆ จะมีเซนเซอร์เตือนผ้าเบรคบอกบนหน้าปัดแล้ว

อาการ : เบรกแล้วเกิดเสียงดังเหมือนเหล็กเสียดสีกัน หากเริ่มได้ยินเสียงเหมือนเหล็กเสียสีกัน และเบรกมีอาการลื่นๆ นี่คืออาการของผ้าเบรกหมด จนโลหะของแผ่นผ้าเบรกสีกับจานเบรก ต้องรีบเปลี่ยนโดยทันที หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ผ้าเบรกสีกับจานเบรกจนเสียหาย เผลอ ๆ ล

7. เบรกติด


สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการที่ลูกยางกันฝุ่นของแม่ปั๊มเบรกฉีกขาด ทำให้มีน้ำซึมเข้าไปในกระบอกเบรกจนเกิดสนิท ติดขัดลูกสูบเบรกไม่สามารถเคลื่อนตัวเข้า-ออกได้ รวมถึงปัญหาซีนยางบวมผิดรูป ทำให้ลูกสูบที่คาลิปเปอร์เบรกไม่เลื่อนกลับ

อาการ : ปล่อยเบรกแล้ว แต่ยังมีแรงเบรกทำงานอยู่ อาการนี้เบรกจะทำงานอยู่ตลอดเวลา โดยที่เราไม่ทันได้เหยียบเบรก รถจะตื้อ ๆ เบรกร้อนมีกลิ่นเหม็นไหม้ จอดแล้ว เข็นรถยาก หรือไม่ได้เลย เป็นอาการของเบรกติด

8. เบรกปัด

อาจเกิดจากคราบน้ำมันหรือสารหล่อลื่นของชุดช่วงล่างกระเด็นมาโดนจานเบรก ทำให้ผิวลื่นมัน ความฝืดลดลง หรือเกิดจากประสิทธิภาพการสึกหรอของชุดคาลิปเปอร์เบรกที่มีแรงกดในแต่ละฝั่งแตกต่างกัน

อาการ : เบรกแล้วรถปัดเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง หากเบรกแล้วรถมีอาการปัดเอียงไปทางซ้าย แสดงว่าจุดที่คุณจะต้องตรวจสอบระบบเบรกอยู่ทางด้านขวา

9. เบรกเฟด

เกิดจากความร้อนของจานเบรกกับผ้าเบรดที่สูงเกินไป มาจากการใช้งานหนักเกินไป อาการเบรกเฟดนี้ ถือเป็นปัญหาของนักแข่งรถที่ชอบใช้เบรกแบบรุนแรง เบรกบ่อยๆ ติดต่อกันและมักเกิดกับรถที่ขับด้วยความเร็วสูง หากเคยมีอาการก็ควรปรับใช้ผ้าเบรกที่คุณภาพสูงขึ้นและน้ำมันเบรกที่มีค่า DOT สูงขึ้นกว่าเดิม

อาการ
: เบรกแล้วลื่น เบรกไม่อยู่ในขณะที่ใช้ความเร็วสูงในเส้นทางขึ้นลงเขา อาจทำให้เราใช้เบรกต่อเนื่องมากเกินไป หรือในช่วงที่ใช้ความเร็วสูงมาก ๆ พอแตะเบรกครั้งแรกก็ปกติ แต่พอแตะเบรกอีกหลายๆ ที่กลับเกิดอาการลื่นเบรกไม่ตอบสนองซึ่งอันตรายมาก

10. เบรกสะท้าน


อาการ
: เบรกกะทันหันแล้วเกิดเสียงดังกระพือ แป้นเบรกสั่นสะท้าน ถ้าเคยเจอกับอาการนี้ แต่ไม่ได้เป็นทุกครั้ง เจอแค่ตอนเบรกอย่างเต็มที่ และถ้ารถของคุณมีระบบเบรก ABS ก็ไม่ต้องตกใจ นั่นคืออาการจากการทำงานของชุดปั๊ม ABS ซึ่งจะเข้ามารับหน้าที่สร้างแรงเบรก 15-17 ครั้ง ต่อวินาทีแทนคุณทันที ที่คุณเบรกแบบฉุกเฉินจนล้อล็อค นั่นก็เพื่อให้คุณสามารถควบคุมทิศทางรถขณะเบรกกะทันหันอย่างเต็มที่ได้ ซึ่งเป็นอาการปกติเมื่อระบบ ABS ทำงาน

ดรัมเบรค Drum brakes คือ ?


ดรัมเบรค เป็นอุปกรณ์เบรคมาตรฐาน สำหรับรถยนต์ รุ่นเก่าหน่อย ต่อมาเมื่อมีการใช้ดิสก์เบรคกันมากขึ้น ก็จะเห็น ระบบดิสก์เบรคสำหรับล้อคู่หน้า และดรัมเบรคสำหรับล้อคู่หลัง และในปัจจุบัน ก็สามารถเห็นรถยนต์ที่ ติดตั้งดิสก์เบรคมาทั้ง 4 ล้อ แต่อย่างไรก็ตาม การจะใช้ระบบเบรคแบบดิสก์ หรือดรัมนั้น ขึ้นอยู่กับการ ออกแบบ ระบบของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์แต่ละรุ่นอยู่แล้ว เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดี

donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved