Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ชูนโยบาย “พัฒนาคุณภาพ” ตลอดปี 2556 เร่งสร้างความพึงพอใจภายใต้คอนเซ็ปต์ “Hyundai Everywhere” พร้อมเปิดตัวรถใหม่อย่างต่อเนื่องหลายรุ่น ตั้งเป้ายอดขายเติบโตอย่างน้อยร้อยละ 10 ตอกย้ำความสำเร็จที่ยั่งยืนต่อเนื่องจากปี 2555


คอนเซ็ปต์ใหม่ปี 2556 “Hyundai Everywhere” ยกระดับความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนการขาย และบริการหลังการขาย ที่มี Quality หรือ “คุณภาพ” เป็นหัวใจ
- พร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ และไมเนอร์เชนจ์ รองรับความต้องการลูกค้า Premium อย่างต่อเนื่องคาดจำนวนรถยนต์ฮุนไดบนท้องถนนเมืองไทยทะลุ 20,000 คัน ภายในสิ้นปี
ยกระดับความมั่นใจของลูกค้าให้สูงขึ้น ด้วยจำนวนเครือข่ายโชว์รูม และศูนย์บริการเพิ่มมากขึ้นเป็น 26 แห่ง ผุด National Service and Parts Center รองรับยอดขาย ไร้กังวลเรื่องบริการ
มุ่งเน้นกิจกรรมเข้าถึงกลุ่มลูกค้า และกิจกรรมตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รถยนต์ และแบรนด์ฮุนไดเป็นที่รู้จัก และมีส่วนในการสร้างความสุขให้สังคม

กุมภาพันธ์ 2556 – บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมก้าวขึ้นสู่ปีที่ อย่างมั่นใจด้วยยอดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องบนพื้นฐานของการเน้นคุณภาพในทุกขั้นตอน สรุปผลงานปี 2555 ด้วยยอดจำหน่ายรถยนต์ที่สูงถึง 5,010 คัน คิดเป็นอัตราเติบโตกว่าร้อยละ 10 โดยมียอดจำหน่ายของ All-New Hyundai Elantra มาช่วยผลักดันยอดขายให้โตขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5

มร. โยชิอากิ อิชิมูระ ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “จากการดำเนินการตามแนวทางการตลาดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ทำให้รถยนต์ฮุนไดเป็นที่ยอมรับและรู้จักเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทยทุกๆปีอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2555 บริษัทฯ ได้เดินตามแผนพัฒนาแบรนด์ด้วยนโยบายการสร้างความประทับใจ AAA หรือ Triple A ประกอบไปด้วยคำว่า – Assurance หรือ รับประกันความมั่นใจ – Accountability  หรือ มุ่งสร้างความน่าเชื่อถือ และ – Aspiration หรือ ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีแรงบันดาลใจ ซึ่งเมื่อประกอบกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาดอีก รุ่น ได้แก่ All-New Elantra ที่การันตีคุณภาพ และสมรรถนะด้วยรางวัล 2012 North American Car of the Year และ The New Grand Starex Premium ที่เรียกเสียงฮือฮาและความนิยมจากลูกค้ากลุ่ม Luxury MPV ได้อย่างล้นหลาม ก็ยิ่งทำให้รถยนต์ฮุนไดสามารถเข้าถึงผู้ใช้รถยนต์ได้ในระดับต่างๆอีกมากขึ้น ซึ่งพิสูจน์ได้จากยอดจำหน่ายที่ทะลุ 5,000 คัน ทำให้ตลาดรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกับรถยนต์ฮุนไดในตลาดโลก”

 “อัตราความพึงพอใจของลูกค้าในปี 2555 ปรับตัวสูงขึ้น ไปพร้อมๆกับยอดจำหน่ายรถยนต์โดยรวม ทำให้ในปัจจุบันมีรถยนต์ฮุนไดในท้องถนนเมืองไทยกว่า 15,000 คัน ซึ่งเป็นอีกปีที่ ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) สร้างการรับรู้และการยอมรับในรถยนต์รุ่นหลักๆ รวมไปถึงรถยนต์ใน segment ใหม่ อย่าง All-New Hyundai Elantra” มร. อิชิมูระกล่าว

นับตั้งแต่บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด นำแบรนด์รถยนต์ฮุนไดกลับเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้งปลายปี 2550ยอดจำหน่ายของรถยนต์ฮุนไดพัฒนาขึ้นตามลำดับอย่างมั่นคง ถึงแม้ว่าในวันนี้รถยนต์ฮุนไดจะเน้นการเป็นรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมและมีคุณภาพในการใช้งาน รวมไปถึงสมรรถนะที่มากกว่าในสมัยก่อน แต่ความคุ้มค่าคุ้มราคายังคงเป็น “หัวใจ” ในการช่วยผลักดันให้รถยนต์ฮุนไดรุ่นต่างๆเข้าไปอยู่ในใจของผู้ใช้รถยนต์ระดับไฮเอนด์ในปัจจุบัน

ยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำปีของรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทย นับตั้งแต่ปี 2551 ถึง 2555 มีดังนี้

          ปี 2551         มียอดจำหน่ายรวม     880 คัน
          ปี 2552         มียอดจำหน่ายรวม     1,788 คัน
          ปี 2553         มียอดจำหน่ายรวม     3,048 คัน     
          ปี 2554         มียอดจำหน่ายรวม     4,514 คัน
    และปี 2555        มียอดจำหน่ายรวม 5,010 คัน

ซึ่งยอดจำหน่ายรถยนต์ในปี 2555 ที่ส่งมอบไปยังโชว์รูมต่างๆมีรายละเอียดแยกตามรุ่นดังต่อไปนี้  H-1 series มียอดจำหน่ายที่ 3,467คัน Grand Starex อยู่ที่ 820 คัน Tucson อยู่ที่ 381 คัน Sonata Sport อยู่ที่ 121 คัน Elantra อยู่ที่ 205 คัน และ H100 16 คัน ยอดจำหน่ายของรถยนต์รุ่นต่างๆนี้คือ “ภาพสะท้อน” การยอมรับในการทำการตลาดที่เป็น “เอกลักษณ์” ของรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทย ซึ่งมีพระเอกเป็นรถยนต์ Luxury MPV อย่างเช่น H-1 Series และ Grand Starex Series

มร. โยชิอากิ ให้รายละเอียดของนโยบายปี 2556 ว่า “ในปีนี้จะเป็นปีที่รถยนต์ฮุนไดยกระดับความพึงพอใจ และความมั่นใจให้ลูกค้าได้อย่างชัดเจน ผ่านนโยบายพัฒนาคุณภาพในหลายๆส่วน เพื่อให้ความนิยมในรถยนต์ฮุนไดแพร่หลายออกไปเพิ่มมากยิ่งขึ้น ตามคอนเซ็ปต์ “Hyundai Everywhere” ที่ในวันนี้ผู้ใช้รถยนต์ในเมืองไทยจะเห็นรถยนต์ฮุนไดรุ่นต่างๆบนท้องถนนมากขึ้น จนแทบจะเรียกได้ว่าในทุกๆที่ที่ไปจะต้องได้พบกับรถยนต์ฮุนได
 “คุณภาพ หรือ Quality คือหัวใจสำคัญในการสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืนในทุกขั้นตอนการปฏิบัติงาน และจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ยอดจำหน่ายของรถยนต์ฮุนไดในปี 2556 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องให้สมกับเป้าหมาย Hyundai Everywhere ที่กำหนดเอาไว้ โดยการชูคุณภาพเป็นประเด็นหลักในการสร้างแบรนด์ช่วยให้รถยนต์ฮุนไดประสบความสำเร็จมาแล้วอย่างท่วมท้นทั้งในฝั่งยุโรปและอเมริกา จนเป็นที่ยอมรับไม่แพ้รถยนต์ชั้นนำจากฝั่งตะวันตก และเอเชีย โดยการพัฒนาการคุณภาพคือ Road Map ที่ชัดเจนในการนำแบรนด์ฮุนไดให้เข้าไปนั่งอยู่ในใจของผู้ใช้รถยนต์ระดับพรีเมี่ยมที่ต้องการ เอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร ในรถยนต์ที่ตนเลือก รวมไปถึงความคุ้มค่าคุ้มราคา และความประทับใจในการใช้งาน ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่ยืนอยู่บนแนวคิดการยกระดับคุณภาพให้สูงขึ้น” มร. อิชิมูระกล่าว
บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) นำนโยบายหลักของบริษัทฮุนได มอเตอร์ คอมปานี ที่ว่าด้วยการยกระดับคุณภาพเพื่อเร่งยกระดับความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า รวมทั้งเสริมสร้างความ “ไว้วางใจ” หรือ Assurance ให้มั่นคง และเพิ่มเติมความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์ ดังนั้นคุณภาพ หรือ quality จึงเป็นบทบัญญัติในการดำเนินแนวทางการขายและการตลาดเพื่อทำให้รถยนต์ ฮุนไดเป็นที่ประทับใจแก่ลูกค้ามากขึ้นในปี 2013  โดยนโยบายดังกล่าวมีประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้:

  1. นำเสนอรถยนต์ในขั้นตอนการจำหน่าย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุดไปใช้งานอย่างพึงพอใจ พร้อมข้อมูลจำเป็นต่างๆเกี่ยวกับตัวรถที่จะเพิ่มประโยชน์ในการใช้งานจริง
  2. เลือกสรรรถยนต์ที่มีสมรรถนะ และศักยภาพสูงมาตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถ เพื่อรองรับความหลากหลายของรสนิยมการใช้รถยนต์ เพราะฮุนไดต้องการเติมเต็มตลาดมากกว่าการแข่งขัน
  3. มุ่งยกระดับการบำรุงรักษาและซ่อมแซมรถยนต์ฮุนได ให้เป็นที่ประทับใจมากขึ้น เพราะผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดทุกคนคือลูกค้า VIP ของเรา
  4. เน้นสร้างความพึงพอใจให้กับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดมากขึ้น ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นการมอบสิทธิประโยชน์แก่ลูกค้า
  5. มุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมผ่านกิจกรรม CSR ที่มีประโยชน์อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ “เมาไม่ขับ...คุณทำได้” เพราะวันนี้รถยนต์ฮุนไดคือส่วนหนึ่งของสังคมไทย
“นอกจากนี้ เราจะเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้รับรู้ข้อมูลและข่าวสารเกี่ยวกับรถยนต์ฮุนไดมากขึ้น รวมไปถึงโอกาสที่ให้ลูกค้าทั่วไปได้สัมผัสรถยนต์ฮุนไดผ่านกิจกรรมทดสอบรถมากขึ้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจและเห็นภาพของประโยชน์ที่รถยนต์ฮุนไดสามารถมอบให้ในการใช้งานที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ซึ่งวิธีการนี้ได้สร้างความสำเร็จให้รถยนต์ฮุนไดมาทั่วโลก จนในวันนี้ยอดจำหน่ายรวมของกลุ่มฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ปอยู่ที่ 7.1 ล้านคันในปี 2012 ซึ่งเฉพาะรถยนต์  ฮุนไดมียอดจำหน่ายสูงถึง 4.4 ล้านคัน โดยในปี 2013 ฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ปตั้งเป้าจำหน่ายรถยนต์ไว้สูงถึง 7.41 ล้านคัน” มร. อิชิมูระกล่าว
 “ในปีนี้เรามีแผนที่จะขยายเครือข่ายศูนย์บริการของรถยนต์ฮุนไดให้เพิ่มมากขึ้นอย่างมีคุณภาพ จาก 23 แห่ง เป็น 26 แห่งภายในสิ้นปี2013  โดยปัจจุบันมีโชว์รูมฮุนไดทั้งหมด 11 แห่งในกรุงเทพฯ และ 12 แห่งในต่างจังหวัด ซึ่งยังไม่รวมโชว์รูมแห่งใหม่ในจังหวัดภูเก็ตที่เพิ่งเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อรองรับลูกค้าในพื้นที่ไปแล้วเมื่อเร็วๆนี้ และเพื่อเป็นการรับประกันศักยภาพในการให้บริการ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จึงได้ก่อสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ พร้อมศูนย์ซ่อมบริการและคลังอะไหล่ระดับ National Service and Parts Center ที่มี Facilities พร้อมในการฝึกอบรมด้านทรัพยากรบุคคลหรือ Human Resource Development และเป็นศูนย์กลางในการให้บริการที่มีคุณภาพด้วยช่องให้บริการจำนวนมากถึง 22 ช่อง รวมไปถึงแผนกซ่อมตัวถังที่ทันสมัย และคลังอะไหล่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว และเมื่อรวมกับพื้นที่โชว์รูมและอาคารต่างๆบนพื้นที่กว่า ไร่ บนถนนวิภาวดีรังสิต ก็ยิ่งเป็นเครื่องยืนยันความมุ่งมั่นในการทำการตลาดของรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดขึ้นไปอีกระดับ” มร. อิชิมูระย้ำ
 ในปี 2556 ฮุนได มอเตอร์ ไทยแลนด์ จะให้ความสำคัญกับนโยบายเสริมสร้างการรับรู้ของ    แบรนด์ Hyundai ให้กระจายไปสู่ลูกค้าทั้งที่เป็นกลุ่มเป้าหมายและนอกกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นกว่าปีก่อนๆ รวมถึงเน้นการสื่อสารที่มีคุณภาพเพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์ฮุนไดเกิดความเข้าใจในตัวสินค้าและได้รับความพึงพอใจในสินค้าเพื่อประโยชน์สูงสุด  นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวรถรุ่นใหม่อีกหลายรุ่นเพื่อเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้า อาทิ Hyundai Veloster & Veloster TURBO, Hyundai Sonata & Sonata Sport Minor Change, Hyundai H-1 Series Minor Change ที่หรูหรากว่าเดิมขึ้นไปอีกระดับ และ Hyundai Grand Starex Series Minor Change ที่พร้อมเชิญชวนให้ลูกค้ารถยนต์พรีเมี่ยมได้ทดลอง  ซึ่งคาดว่าจะสามารถเรียกความสนใจจากบรรดาแฟนๆรถยนต์ฮุนไดได้เป็นอย่างดี  ซึ่งเป้ายอดจำหน่ายของปีนี้จะเติบโตขึ้นอย่างน้อยที่ร้อยละ 10

Hyundai Veloster รถยนต์ที่มาในมาดไฮเอนด์สปอร์ตแฮชแบ็ค (1 + 2 ประตู) ที่ได้รับการออกแบบให้มีความพิเศษ และ Unique อย่างชัดเจน เพื่อสะท้อนรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง โดยยังคงเป็นรถยนต์ที่ขับขี่สนุกและเน้นสมรรถนะไม่ว่าจะเป็นในรุ่นธรรมดา หรือรุ่น GDI Turbo ก็ตาม สำหรับ Hyundai Sonata Sport มีการปรับโฉม Minor Change ให้มีบุคคลิกที่ทันสมัย และมีรสนิยมที่โดดเด่น สมกับความเป็นรถยนต์ D-segment ที่ Unique กว่ารถทุกรุ่นที่อยู่ในตลาดเมืองไทย ด้วยการออกแบบให้เป็นรถสปอร์ต และมีหลังคาแก้วที่ผสมผสานกันได้อย่าง “ลงตัว” สำหรับ Hyundai H-1 Series และ Grand Starex Series ในปีนี้จะมีการปรับโฉมภายนอก และอุปกรณ์ภายในต่างๆให้หรูหรามีระดับเพื่อขยายขอบเขตตลาดไปสู่ลูกค้ากลุ่มที่ใหญ่กว่าเดิม สมศักดิ์ศรีความเป็นPremium MPV ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของฮุนไดอย่างเต็มภาคภูมิ ซึ่งคาดว่ากองทัพรถยนต์ใหม่ในปีนี้จะสามารถผลักดันยอดรถยนต์ฮุนไดบนท้องถนนให้พุ่งเกินระดับ 20,000 คัน ไปได้ตามความคาดหมาย
 “นอกเหนือจากนี้บริษัทฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อขอบคุณสังคม และขอบคุณผู้สนับสนุนรถยนต์ฮุนไดอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นประชาสัมพันธ์ข้อมูลกิจกรรมสู่กลุ่มลูกค้าผ่านทางเว๊ปไซต์ฮุนได และหน้าเฟชบุ๊คฮุนไดแฟนเพจ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมชมภาพยนตร์ Hyundai Movie Pass และกิจกรรม เมาไม่ขับ...คุณทำได้” ที่เริ่มรณรงค์โครงการมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วและได้รับความร่วมมือจากสื่อมวลชนและลูกค้าเป็นอย่างดี โดยฮุนไดจะเป็นกำลังใจให้กับทุกคนในสังคม ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายตอบแทนสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตในแต่ละประเทศที่รถยนต์ฮุนไดเข้าไปทำตลาดในฐานะผู้ที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่ง ที่พร้อมมอบความหลากหลายในลักษณะของการเติมเต็มมากกว่าการแข่งขัน และคำนึงถึงความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าเป็นหลัก” มร. อิชิมูระกล่าวปิดท้าย

กระหึ่มแล้ว !!! “แบงค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2013” “อาร์ต” สะใจ ได้ซิ่งรถลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์



 เปิดงานแล้วอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับเทศกาลของคนรักมอเตอร์ไซค์ “แบงค็อค มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2013” “อาร์ต – พศุตม์” ประเดิมสนามลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ โชว์ทักษะการขี่แบบจิมคาน่าปะทะ “เปิ้ล – ณัฐบูร”


เมื่อวันพุธ ที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ “ณัฐบูร – ณัฐพล ไตรณัฐี” สองผู้จัดงานงาน ได้จัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก พลตำรวจตรี พิชิตชัย ศรียานนท์ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 เป็นประธานในพิธี ซึ่งแม้จะเป็นเพียงวันแรกของงาน แต่ผู้จัดบอกว่าได้รับการตอบรับดีเกินความคาดหมาย

นอกจากนี้ในพิธีเปิด ยังมีการโชว์พิเศษจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจักรยานยนต์เกียรติยศ ก่อนที่หนุ่ม “พีท ทองเจือ” จะขับรถเอทีวีหรู “โพลาริส” ที่เอามาเปิดตัวในงานนี้เป็นที่แรก เข้าร่วมในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการด้วยเสียงที่กระหึ่มไปทั่วลานเซ็นทรัลเวิลด์ ตามด้วยไฮไลท์ของวันนี้ เมื่อหนุ่ม “อาร์ต – พศุตม์” นักแสดงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งไบเกอร์ตัวยง ขึ้นวาดลวดลายบนมอเตอร์ไซค์เรือนล้าน “วิคตอรี่” โชว์ทักษะการขับขี่แบบจิมคาน่าสุดเท่ให้สาวๆ ได้กรี๊ดกัน



“โอ้โห สนุกมากเลยครับวันนี้ คือการขี่แบบจิมคาน่าไม่ได้ใช้ความเร็วสูง แต่ต้องมีทักษะการควบคุมรถ การเลี้ยว การทรงตัว ซึ่งก็ท้าทายไปอีกแบบ ที่วันนี้สะใจมากคือได้มาขับรถบนลานหน้าเซ็นทรัล เวิลด์ (หัวเราะ) เพราะปกติพื้นที่ตรงนี้เราก็มาเดินเล่น หรือมาเดินดูงาน แต่คราวนี้ได้เอามอเตอร์ไซค์ขึ้นมาขี่เลย ก็เป็นความแปลกใหม่ที่รู้สึกดี คงมีไม่กี่คนที่มีโอกาสได้ทำยังงี้ เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตจริงๆ ใครอยากลองแบบผมบ้างก็เอารถมาลองได้นะครับ ถ้าถูกใจก็สมัครแข่งไปเลย ได้ลุ้นเงินรางวัลอีกต่างหาก”
โดยการแข่งขัน “BMF Gymkhana 2013” เป็นหนึ่งในกิจกรรมของงาน “แบงค็อค มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2013” ที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจ ร่วมแข่งขันทักษะการขับขี่แบบจิมคาน่า โดยสามารถนำรถจักรยานยนต์มาลองสนามได้ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม ถึง 2 กุมภาพันธ์ และสามารถสมัครที่หน้างานเพื่อลงแข่งขันในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ได้ทันที
                 
งาน “แบงค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2013” สุดยอดมหกรรมเพื่อคนรักรถจักรยานยนต์ นอกจากค่ายรถ 14 ค่ายที่มาร่วมงานแล้ว ยังมีกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทอล์คโชว์ คอนเสิร์ตจากศิลปินดัง การประกวดแต่งรถ การแสดงรรถวินเทจหาดูยาก ให้ได้เติมเต็มความสุขกันทั้งวัน ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม ถึง 3 กุมภาพันธ์ 2556 เต็มพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตรทั่วเซ็นทรัล เวิลด์ !

ฮอนด้าเปิดตัว CBR1000RR 2 ลายใหม่โดนใจคนรักบิ๊กไบค์ในงานบางกอกไบค์เฟสฯ พร้อมเปิดรับจอง CB500X แล้วตั้งแต่ 30 มกราคมนี้เป็นต้นไป





ศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิง สร้างความร้อนแรงให้กับงาน Bangkok Motorbike Festival 2013 ด้วยการเปิดตัว Honda CBR1000RR สองลายใหม่ล่าสุดนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ทั้งแบบ Tri-Color สุดโฉบเฉี่ยว กับการผสมผสานที่ลงตัวที่สุดของเส้นสายสีแดงและน้ำเงิน บนตัวรถสีขาว หรือเลือกเติมเต็มความสปอร์ตในหัวใจกับ Repsol Version ที่ถอดแบบความเท่มาจากรถแข่งของทีม Repsol Honda แห่งศึกโมโตจีพี สนนราคา 829,000 บาท และ 843,000 บาท ตามลำดับ พร้อมทั้งเปิดรับจอง Honda CB500X บิ๊กไบค์แบบ Crossover สำหรับคนชอบผจญภัย ที่ถูกเปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้วด้วยราคา 215,000 บาท

          สำหรับ Honda CBR1000RR ถูกออกแบบให้สะกดทุกสายตาตั้งแต่หัวจรดท้ายด้วยไฟหน้าคู่ และแฟริ่งที่ผสานเข้ากับโครงสร้างตัวถังที่ปราดเปรียว ทะยานแรงด้วยเครื่องยนต์ สูบ 16 วาล์ว หัวฉีด PGM-FI 1,000cc. เกียร์ สปีด ระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ BPF(Big Piston Fork) และกันสะเทือนหลังแบบอิสระออกแบบพิเศษจากค่าย Showa ดิสก์เบรกหน้าแบบจานคู่พร้อมคาลิปเปอร์รวมลูกสูบ ทำงานควบคู่ไปกับระบบกระจายแรงเบรก Combined ABS เพื่อความปลอดภัยในทุกระดับความเร็ว

          


ในส่วนของ Honda CB500X ใช้เครื่องยนต์ สูบแบบ DOHC หัวฉีด PGM-FI ขนาด 500 cc. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขับขี่คล่องตัวด้วยโครงสร้างที่เพรียวลม ระบบกันสะเทือนหน้าถูกปรับให้มีระยะยุบที่มากกว่า พร้อมระบบกันสะเทือนหลังแบบโปรลิงค์ ท่านั่งของผู้ขับขี่ถูกปรับให้มีความเหมาะสมสำหรับทุกเส้นทางเพื่อความสนุกทั้งบนทางเรียบ และทางฝุ่น ทันสมัยด้วยมาตรวัดแสดงผลความเร็ว รอบเครื่อง และน้ำมันแบบ LCD

          ผู้ที่สนใจ Honda CBR1000RR และ Honda CB500X สามารถแวะชมรถจริงพร้อมทั้งจับจองเป็นเจ้าของได้ภายในงาน Bangkok Motorbike Festival 2013 ซี่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มกราคม จนถึง 3กุมภาพันธ์นี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

เอเอเอสฯ เปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมหรูจากอังกฤษ เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที สปีด (CONTINENTAL GT SPEED) รุ่นที่เรียกว่าเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา


บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมหรูจากอังกฤษ ที่สุดของความสมบูรณ์แบบและความทรงพลังอย่างเต็มพิกัด เบนท์ลี่ย์  คอนติเนนทอล จีที สปีด(Continental GT SPEED) ในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ณ โชว์รูม Performance Auto Gallery (PAG) ชั้น สยามพารากอน

·          เปิดตัวในงาน Goodwood Festival of Speed 2012
·          625 PS,  800 นิวตันเมตร สามารถทะยานไปได้ถึง 205 ไมล์ต่อชั่วโมง (329 กม./ชม.)
·          ลดระดับความสูงของตัวถัง เพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบช่วงล่าง เพื่อความเป็นสปอร์ตมากขึ้นและให้ประสบการณ์การขับขี่อย่างเบนท์ลี่ย์ที่สมบูรณ์แบบ
·          การออกแบบในรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์แบบ Speed design cues และห้องโดยสารที่ตกแต่งด้วย Mulliner
·          ระบบส่งผ่านกำลังอัตโนมัติ สปีด  

เมือง Creweประเทศอังกฤษ. เบนท์ลี่ย์ส่งรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพความเร็วสูงสุดออกมาให้ได้ยลโฉมแล้ว นั่นคือ คอนติเนนทัล จีที สปีด คูเป้ (Continental GT Speed Coupeซึ่งสามารถทะยานไปได้ไกลอย่างไม่หยุดยั้งถึง 205 ไมล์ต่อชม. (329 กม./ชม.จีที สปีด (GT Speedคันนี้จะออกมาตอบโจทย์บรรดาแฟนๆ ผู้ที่      ชื่นชอบและหลงใหลรถที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพที่โดดเด่น ปราดเปรียว มีรูปลักษณ์การออกแบบที่ไม่เหมือนใครและเต็มไปด้วยความสปอร์ตที่หรูหราอย่างมีระดับได้เป็นอย่างดี
 พละกำลังเครื่องยนต์ของคอนติเนนทัล จีที สปีด (Continental GT Speedใหม่ล่าสุดได้มาจากเครื่องยนต์ขนาด ลิตร 48 วาล์ว ทวินเทอร์โบW12 และสามารถสร้างกำลังเครื่องยนต์ได้สูงสุดถึง 616 แรงม้า หรือ 460 กิโลวัตต์ ที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 800นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 4.2 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 329 กม./ชม.

พละกำลังเครื่องยนต์ที่เหนือชั้นของรุ่นจีที สปีด (GT Speed) ใหม่ล่าสุดนี้จะส่งผ่านกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ จังหวะที่มีอัตราการทดเกียร์ที่สั้นและทรงประสิทธิภาพเหนือใคร ผู้ขับขี่จะปรับเปลี่ยนระดับเกียร์ผ่านการควบคุมด้วยซอต์ฟแวร์เพื่อการทำงานที่ลงตัว อีกทั้งยังช่วยในการลดอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงลงอีก 12% และช่วยลดอัตราการปล่อยมลพิษอีกด้วย

ความท้าทายในการพัฒนาประสิทธิภาพของจีที สปีด (GT Speed) คันนี้คือการปรับเปลี่ยนตัวถังซึ่งรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบพวงมาลัย ระบบกันสะเทือน และระดับความสูงต่ำของรถด้วยเช่นกัน ล้อมาตรฐานกับล้อ 21 นิ้วลาย Speed Wheels ที่มาพร้อมกับยาง Pirelli PZeroขนาด 275 35 R21 ที่ทำงานคู่กันได้อย่างลงตัว ผลลัพธ์ที่ได้คือความสปอร์ตที่เพิ่มมากขึ้น การรักษาเสถียรภาพของรถได้มากขึ้น และแน่นอนการทรงตัวและการเกาะถนนก็ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

มร. Wolfgang Dürheimer ประธานกรรมการและกรรมการบริหารจากเบนท์ลี่ย์ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ จีที สปีด         (GT Speed) ใหม่ล่าสุดนี้ไว้ว่า:

เกือบจะทศวรรษแล้วที่เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที (Continental GT) ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นแกรนด์ทัวริ่งที่ เหนือชั้นทั้งในเรื่องของความหรูหรา ความทรงพลัง และพละกำลังที่มหาศาลจากเครื่องยนต์ W12 ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และในตอนนี้จีที สปีด (GT Speed) ใหม่ล่าสุดนี้จะออกมาพร้อมกับความเป็นสปอร์ตมากขึ้น และพร้อมจะเข้าไปทำตลาดในส่วนของตลาดคูเป้แล้ว
 การออกแบบเน้นในเรื่องของรูปลักษณ์ที่ให้สัมผัสถึงความเป็นสปอร์ตที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างตัวรถที่แข็งแกร่ง หรือความลงตัวของรูปทรงที่สง่างาม ตามรูปแบบความเป็นคอนติเนนทัล คูเป้ (Contiental Coupe) อีกชิ้นส่วนที่โดดเด่นคือตระแกรงหน้าแบบเมทริกซ์สีดำที่มาพร้อมกับช่องดักอากาศด้านล่างและปลายท่อไอเสียแบบ ‘rifled’ ที่ผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว
จีที สปีด (GT Speed) ใหม่ล่าสุดนี้เต็มไปด้วยประสิทธิภาพของรถที่เหนือชั้น และมาพร้อมกับความสะดวกสบาย และงานฝีมือที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ อุปกรณ์และชิ้นส่วนภายในต่างๆ ได้รับการคัดสรรและเลือกใช้แต่วัสดุที่มีคุณภาพ ภายในห้องโดยสารได้รับการตกแต่งด้วย Mulliner Driving Specification มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการผสมผสานความร่วมสมัยที่หรูหราอย่างมีระดับเข้าไว้กับลักษณะความเป็นสปอร์ตได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
ระบบขับเคลื่อนจะใช้ระบบเดียวกันกับที่ใช้ในคอนติเนนทัล (Continental) รุ่นอื่นๆ นั่นคือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Permanent all-wheel driveที่ติดตั้งควบคู่กับชุดเฟืองท้าย Torsen differential เพื่อให้ได้มาซึ่งพละกำลังที่มหาศาลรวมไปถึงแรงบิดที่เหนือชั้นสำหรับจีที สปีด (GT Speed)ใหม่ล่าสุดคันนี้ อีกทั้งยังสร้างความมั่นใจในเรื่องของการ เกาะถนนและทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยมไม่ว่าจะอยู่สภาพถนนหรือสภาพอากาศแบบใดก็ตามที   
จีที สปีด (GT Speed) ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Goodwood Festival of Speed ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และจะเริ่มส่งมอบได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นต้นไป
สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาหรือสอบถามเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้จาก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ พร้อมให้บริการรถเบนท์ลี่ย์ของท่าน และซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากทางเอเอเอสฯ เท่านั้นที่สามารถได้สิทธิ์การรับประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมการบริการดูแลและบำรุงรักษารถยนต์เบนท์ลี่ย์จากผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ ตลอด 5 ปี (5 Years Free Service Package) มากกว่านั้นเอเอเอสฯ ยังมอบบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงตลอดระยะเวลารับประกัน และบริการสายด่วนให้คำแนะนำปรึกษาทางเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมง* โดยรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ซื้อจากทางเอเอเอสฯ เท่านั้น ที่จะสามารถเข้ารับบริการจากศูนย์บริการของทาง        เอเอเอสฯ ได้ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่ ทร. 02-522-6703 หรือ 02-610-9911 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่  www.bentleymotors.com
*Terms & Condition Apply

 ข้อความจากผู้เขียน
1. จีที สปีด (GT Speed) ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่น ‘Speed’ ที่เป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่ของเบนท์ลี่ย์ในปี 1923 จากนั้นเบนท์ลี่ย์ประสบความสำเร็จอย่างมากในเรื่องของการเกาะถนน การรักษาเสถียรภาพของรถ และการเบรกจากเครื่องยนต์เบนท์ลี่ย์ขนาด ลิตร แต่ W.O. Bentley ผู้ก่อตั้งบริษัทได้มองเห็นความเป็นไปได้ว่าบรรดาผู้ที่ชื่นชอบเบนท์ลี่ย์นั้นคงต้องการประสิทธิภาพของรถที่เหนือชั้นขึ้นไปอีก เขาจึงตอบสนองความต้องการนี้ด้วยการสร้างรุ่น ‘Speed Model’ ขึ้นมา ซึ่งเป็นรุ่นที่ติดตั้ง SU carburettors เข้าไป และทำให้เครื่องยนต์มีสัดส่วนกำลังอัดที่สูงขึ้น และได้กลายมาเป็นหลักการในการพัฒนารถยนต์เบนท์ลี่ย์เรื่อยมา จีที สปีด (GT Speed) เจเนอเรชั่นแรกได้รับการแนะนำขึ้นในปี 2007 และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและได้รับการตอบรับอย่างดีทั่วโลกอีกด้วย
2. เบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ คือบริษัทผลิตรถยนต์ในประเทศอังกฤษที่มีอัตราการลงทุนเพื่อการพัฒนามาเป็นอันดับสาม และเปิดทำการมานาน บริษัทมีพนักงานกว่า 4,000 คนที่เมือง Crewe ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งของบริษัท มีทั้งแผนกออกแบบ แผนกวิจัยและพัฒนา วิศวกร และโรงงานผลิต เกือบทุกชิ้นส่วนของรถนั้นทำจากงานฝีมือของช่างที่มีความเชี่ยวชาญมาหลายยุคหลายสมัย และรถทุกคันยังได้รับการพัฒนาขึ้นจากวิศวกรยานยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและแตกต่างจากโรงงานผลิตรถยนต์หรูหราค่ายอื่นๆ อีกทั้งรถยนต์จากเบนท์ลี่ย์เป็นรถยนต์จากอังกฤษที่มีคุณค่าสูง เบนท์ลี่ย์มีการส่งออกสินค้าที่มีมูลค่ากว่า 500 ล้านปอนด์ในแต่ละปี เพื่อสร้างฐานตลาดให้ มากขึ้นเหมือนในสหรัฐอเมริกา เช่น เจาะตลาดในประเทศจีน และประเทศทางอเมริกาใต้

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์บนท์ลี่ย์  ได้ที่
แผนก
การตลาดและประชาสัมพันธ์  โทร. 02-522-6655 ต่อ 448
บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด  
ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย 

“ทีเอสแอล” จัดกิจกรรม TSL Film Festival 2013 ครั้งที่ 100 กระชับสัมพันธ์ลูกค้าร่วมชมภาพยนตร์แอคชั่น Hansel and Gretel


จากภาพ   บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายยนตรกรรมชั้นนำจากต่างประเทศแบบครบวงจร ขอประเดิมศักราชใหม่ปี 2556 ด้วยการจัดกิจกรรม “TSL Film Festival” ในคอนเซปท์ “ชมภาพยนตร์ครั้งที่ 100” เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างบริษัทฯ และลูกค้าคนพิเศษให้แนบแน่นยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ได้เชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์เข้าร่วมสัมผัสกับความตื่นเต้นสุดระทึกในภาพยนตร์เรื่อง Hansel and Gretel:นักล่าแม่มดพันธุ์ดิบ ภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น-ทริลเลอร์ฟอร์มใหญ่แห่งปี ณ โรงภาพยนตร์ SF World Cinema ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา

ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำอันดับหนึ่งรถยนต์นำเข้าอิสระ “ทีเอสแอล” ทุ่มงบสนับสนุนด้านการกีฬา ประเดิมที่แรก “สโมสรภูเก็ต เอฟซี”


“ทีเอสแอล” ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งรถยนต์นำเข้าอิสระของเมืองไทย เดินหน้าเสริมภาพลักษณ์มุ่งเน้นด้าน Sport Marketing ทุ่มงบ 1 ล้านบาท สานต่อโครงการ “ทีเอสแอล แชร์ริ่ง เลิฟ” ให้การสนับสนุนสโมสร “ภูเก็ต เอฟซี” ทีมฟุตบอลประจำจังหวัดภูเก็ต
นายชนาสิน บำรุงชน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายยนตรกรรมชั้นนำจากต่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า “หลังจากการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแบบครบวงจร ณ จังหวัดภูเก็ต เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา ทีเอสแอลก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณและร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับชาวภูเก็ต ทีเอสแอลจึงได้เข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ตมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรม TSL Film Festival @ Central Festival Phuket ครั้งที่ 1 ที่ทีเอสแอลเชิญชวนลูกค้าของสาขาภูเก็ตมาชมภาพยนตร์ร่วมกัน เพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างบริษัทกับลูกค้า, กิจกรรมสืบสานประเพณีท้องถิ่น “อิ่มบุญกับเทศกาลกินเจภูเก็ต” ที่จัดขึ้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา” ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงกิจกรรมบางส่วนที่ ทีเอสแอลเข้าร่วมกับชาวภูเก็ต

และในปีนี้ ทีเอสแอลยังคงสานต่อเจตนารมณ์ในการเข้าร่วมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งกับชาวภูเก็ต โดยบริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เข้าร่วมสนับสนุนทีมฟุตบอล “ภูเก็ต เอฟซี” นำทีมโดย “คุณปมุข อัจฉริยะฉาย” ดำรงตำแหน่งประธานสโมสรภูเก็ต เอฟซี โดยในฤดูกาล 2556 นี้ ทีมภูเก็ต เอฟซี ได้เลื่อนชั้นเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 1 จากตารางการแข่งขันของปี 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งสโมสรภูเก็ต เอฟซี มีเป้าหมายที่สำคัญในการแข่งขันก็คือ การก้าวไปสู่การแข่งขันไทย พรีเมียร์ ลีกภายในระยะเวลา 2 ปี และจากความมุ่งมั่นดังกล่าวของสโมสรภูเก็ต เอฟซี ยิ่งทำให้ ทีเอสแอล ต้องการที่จะให้การสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อทางสโมสรฯ ได้มีการจัดตั้ง “โครงการนักเตะภูเก็ต” และ “โครงการคลีนิกฟุตบอลเพื่อเยาวชน” ขึ้น ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์หลักของโครงการ “ทีเอสแอล แชร์ริ่ง เลิฟ” ที่มีแผนจะสนับสนุนเยาวชนในจังหวัดภูเก็ตที่มีความสามารถด้านกีฬา แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้ได้พัฒนาทักษะเฉพาะด้าน เพื่อก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพในอนาคต

นอกจากนี้ ด้วยงบประมาณจำนวน 1 ล้านบาท ที่ดำเนินการผ่านโครงการ ทีเอสแอล แชร์ริ่ง เลิฟ ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักๆ คือ เพื่อต้องการตอบแทนสังคมผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ในรูปแบบต่างๆ โดย ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด “ดำรงค์ นิลรังษี” ได้กล่าวถึงความตั้งใจของบริษัทฯ กับโครงการ ทีเอสแอล แชร์ริ่ง เลิฟ เพิ่มเติมว่า “โครงการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาโครงการนี้มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับเยาวชนในรูปแบบของการให้ทุนการศึกษา โดยเยาวชนทั้งหมดของโครงการนี้ได้ผ่านการคัดสรรจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แต่ในปีนี้โครงการ ทีเอสแอล แชร์ริ่ง เลิฟ ไม่ได้มุ่งเน้นที่จะให้การสนับสนุนเฉพาะเยาวชนเท่านั้น เพราะทีเอสแอลได้มุ่งเน้นการเข้าไปมีส่วนร่วมกับสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมท้องถิ่นอย่างจังหวัดภูเก็ต ที่เป็นบ้านอีกหนึ่งหลังของทีเอสแอล

สำหรับความเคลื่อนไหวของสโมสรภูเก็ต เอฟซี หลังจากจบฤดูกาล 2555 ที่ผ่านมานั้น ทีมภูเก็ต เอฟซี ได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในหลายๆ ด้าน โดย “โกเอี๊ยม” คุณเอี่ยม ถาวรว่องวงศ์ ได้ส่งมอบตำแหน่งผู้จัดการทีมให้แก่ “โกเจี๊ยบ” คุณจักภพ สู้งาน รับหน้าที่ต่อ พร้อมทั้งได้ “โค้ชตู่” คุณพนิพล เกิดแย้ม จากทีมอาร์มี่ ยูไนเต็ด มาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ซึ่งทั้งสองท่านนี้ก็ได้ช่วยกันคัดสรรนักเตะจากหลากหลายทีมที่มีคุณภาพเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมภูเก็ต เอฟซี อาทิ “ดูดู้” หลุยซ์ เอดูอาร์โด้ ปูร์ซิโน ดาวยิงชาวบราซิเลียนจากทีมโอสถสภา เอ็ม150 สระบุรี, จอร์จี้ มาคูลิเซ่ ปีกจอมเทคนิคจากทีมบางกอกกล๊าซ เอฟซี, เจฟฟี่ย์ ดูแม็งก์ จอมทัพชาวฝรั่งเศสจากทีมชลบุรี เอฟซี ร่วมด้วย อดิศักดิ์ ดวงศรี, ยากิน ชุน และธนาเทพ เจียระดับ จากทีม ปตท.ระยอง, กฤษดา สาแก้ว กองกลางจากทีมสิงห์ ท่าเรือ, สะการียา กอและ และ นินูรุดดีน นิเดร์หะ เจ้าของฉายา “สไปเดอร์-มิง” จากทีมปัตตานี เอฟซี เป็นต้น

ทั้งหมดนี้คือ ความตั้งใจของทีเอสแอลและชาวภูเก็ตทุกคนที่ต้องการจะทำให้ “ทีมภูเก็ต เอฟซี” กลายเป็นทีมฟุตบอลที่เป็นความภาคภูมิใจของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งนอกเหนือจากภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวทางชายทะเลในระดับโลกแล้ว รวมทั้งยังเป็นการดำเนินงานตามนโยบายส่งเสริมการกีฬาควบคู่กับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอีกด้วย
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved