สกล ชีวมงคล บอสใหญ่ บ.เล็กซ์ซัส กรุงเทพ จำกัด (สนญ.พระราม 9) สั่งลุยจัดโรดโชว์บุกอีสาน
Posted by Contemporary industry
Posted on 23:44
นายใหญ่สั่งลุย!! นายสกล ชีวมงคล กรรมการผู้จัดการ บ.เล็กซ์ซัส กรุงเทพ จำกัด (สนญ.พระราม 9) จัดโรดโชว์บุกอีสาน ประกาศศักดาลีดเดอร์ตัวแทนจำหน่ายเลกซัสที่มียอดขายสูงสุด บุกกระตุ้นยอดขายไม่หยุดหย่อน จัดขบวนทัพนำ Lexus IS300h, IS250 F-sport สปอร์ตซีดานพลังไฮบริดหรูหราเหนือระดับ มาให้ชาวอุดรได้ยลโฉมพร้อมเป็นเจ้าของด้วยข้อเสนอพิเศษ ผ่อน 0% นาน 3 ปี แถมฟรี 1ปี ประกันภัยชั้น1 และเอกสิทธิ์เหนือระดับอื่นๆ อีกมากมาย เริ่ม 21-27 ก.ค. ศกนี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า อุดรธานี สอบถามรายละเอียดโทร. 02-716-8999
เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ในเรื่องของสมรรถนะที่เหนือชั้น ควบคู่ไปกับความหรูหราอย่างมีระดับ
Posted by Contemporary industry
Posted on 23:43
- ได้รับแรงบันดาลใจจากคอนติเนนทัล จีที3 (Continental GT3) รถยนต์ GT ที่เหนือชั้น: 2 ที่นั่งผลิตพละกำลังเครื่องยนต์ได้สูงถึง 572 แรงม้า, 700 นิวตันเมตร และน้ำหนักเบากว่าจีที V8 เอส (GT V8 S) ถึง 100 กิโลกรัม
- ผลิตจำนวนจำกัดแค่เพียง 300 คันเท่านั้น เพื่อความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
- การกระจายแรงบิดที่ผสมผสานเข้ากับการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่เคยมีมา
- สร้างขึ้นจากงานหัตถกรรมชั้นเยี่ยม ณ เมือง Crewe และเสร็จสิ้นการผลิตที่แผนกมอเตอร์สปอร์ตของเบนท์ลี่ย์
(Crewe). เบนท์ลี่ย์เผยโฉมรถแข่งคันใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวคอนติเนนทัล (Continental) แกรน ทัวริสโม่ นั่นคือ คอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) ใหม่ล่าสุด ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งคอนติเนนทัล จีที3 (Continental GT3) ซึ่งคว้าอันดับ 2 มาครองได้สำเร็จในการแข่งขันรายการ Blancpain Endurance Series ที่สนามแข่ง Silverstone และเป็นการกลับมาร่วมการแข่งขันอีกครั้งในรายการแข่งขันของประเทศอังกฤษ สำหรับเบนท์ลี่ย์หลังจากห่างหาย ไปนานถึง 84 ปี คอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) ได้รับการพัฒนาและทดสอบอย่างหนักเพื่อให้ได้มาซี่งความเหนือชั้นทั้งบนสนามแข่งและพื้นผิวถนนธรรมดา เป็นการผสมผสานกันระหว่างสมรรถนะของรถที่ยอดเยี่ยมและความหรูหรา อีกทั้งมีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 300 คันเท่านั้น
คอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) ทั้ง 300 คันนี้ จะสร้างขึ้นจากงานหัตถกรรมชั้นเยี่ยม ณ เมือง Crewe และเก็บรายละเอียดไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายของการผลิตที่แผนกมอเตอร์สปอร์ตของเบนท์ลี่ย์
วิศวกรจากเบนท์ลี่ย์พัฒนาคอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) ขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพสูงด้วยเครื่องยนต์ขนาด 4.0 ลิตร twin-turbo V8 ซึ่งสามารถผลิตพละกำลังเครื่องยนต์ได้สูงสุดถึง 572 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 700 นิวตันเมตร น้ำหนักรถลดลงถึง 100 กิโลกรัม อีกทั้งยังสามารถลดระยะเวลาการทดเกียร์ลงได้อีกด้วย อัตราเร่งของคอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) ถือได้ว่าเร็วที่สุดสำหรับเบนท์ลี่ย์เลยทีเดียว และอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในระยะเวลา 3.8 วินาที
ระบบขับเคลื่อนได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมดโดยมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ติดตั้งระบบการกระจายแรงบิดมาด้วยเป็นครั้งแรก ทำงานร่วมกับระบบ Electronic Stability Control (ESC)
และตัวถังที่ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำและแข็งแกร่ง คอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) คือรถที่คล่องตัวที่สุด ตอบสนองได้ดีที่สุด และสอดคล้องกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ใช้วิ่งบนท้องถนนอีกด้วย
Wolfgang Dürheimer ประธานกรรมการและบอร์ดบริหารของเบนท์ลี่ย์ได้กล่าวไว้ว่า:
“ประสบการณ์จากการขับขี่คอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) คือแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ และทำให้สมรรถนะความคล่องตัวของรถแกรนด์ ทัวเร่อ ของเราก้าวขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ พวกเราได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์บางสิ่งที่พิเศษสุดสำหรับรถที่ใช้บนท้องถนนครบครันด้วยประสิทธิภาพดั่งคอนติเนนทัล จีที3 (Continental GT3) ของเรา ถือได้ว่าเป็นการสรรสร้างขึ้นมาจากความหลงใหลใน เบนท์ลี่ย์และความต้องการสร้างรถที่เหนือชั้นให้กับผู้ขับขี่ได้ใช้งานตามความเป็นเบนท์ลี่ย์อย่างแท้จริง ดังนั้นคอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) คันนี้จึงเป็นรถแกรน ทัวเร่อ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสนามแข่งและความหรูหราอย่างที่สุด ส่งผลให้รถรุ่นนี้สร้างเครื่องหมายการค้า (Trademark) ให้กับพวกเราในเรื่องของการผสมผสานกันระหว่างความหรูหราและประสิทธิภาพที่เหนือชั้นของรถได้อย่างลงตัว
ปรับเปลี่ยนการขับเคลื่อนใหม่เพื่อพัฒนาอัตราเร่งให้ดียิ่งขึ้น
เบนท์ลี่ย์ทำการพัฒนาและผสมผสานประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน รวมถึงระบบไอเสียให้มีประสิทธิภาพและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมสำหรับ GT3-R โดยเครื่องยนต์มีขนาด 4.0 ลิตร Twin-Turbo V8 ซึ่งได้รับการพิสูจน์ถึงความเหนือชั้นมาแล้วบนสนามแข่ง โดยคอนติเนนทัล จีที3 (Continental GT3) มาพร้อมด้วย Turbo chargers ที่มีกำลังสูงและแม่นยำ อีกทั้งยังพัฒนาซอฟแวร์ในการควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้ได้พละกำลังเครื่องยนต์ที่เหนือชั้นถึง 572 แรงม้า ที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 700 นิวตันเมตร จากรอบเครื่องยนต์ 1,700 รอบต่อนาทีเลยทีเดียว
ระบบส่งกำลังของเครื่องยนต์หรือระบบเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด ของคอนติเนนทัล ยังช่วยเพิ่มพละกำลังเครื่องยนต์ให้มากขึ้น ระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์สั้นลงเพื่อเพิ่มศักยภาพสำหรับอัตราเร่งของเครื่องยนต์ให้ดียิ่งขึ้น มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ล่าสุด และเสริมระบบการกระจายแรงบิดเข้าไปเพื่อช่วยในการควบคุมแรงบิดบนล้อหลังแต่ละล้อเพื่อการขับเคลื่อนที่สมบูรณ์แบบเป็นครั้งแรกในรถคันนี้อีกด้วย ซอฟแวร์ที่ใช้ในการควบคุมระบบได้รับการตั้งค่าใหม่หมดซึ่งนั่นหมายถึงโหมดขับขี่แบบ Drive และ Sport ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเช่นกัน แต่ละโหมดมีคุณลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป สำหรับโหมด Sport จะให้สัมผัสถึงการขับขี่ที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของความเป็นรถสปอร์ต ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการขับขี่ผ่านฟังก์ชั่นบนก้านเกียร์
ระบบไอเสียแบบไทเทเนี่ยมใหม่ล่าสุดทำให้รถมีเสียงของเครื่องยนต์ที่ไพเราะและเหมาะกับระดับของสมรรถนะเครื่องยนต์ ไม่ใช่แค่เพียงช่วยลดน้ำหนักของรถลง 7 กิโลกรัม เท่านั้น ยังช่วยให้ได้มาซึ่งเสียงของเครื่องยนต์ที่ดุดันและไพเราะอีกด้วย
ระบบตัวถังเพื่อการขับขี่ที่เหนือชั้น
เพื่อให้ได้มาซึ่งสมรรถนะการขับเคลื่อนที่มีความคล่องตัวสูงเหมาะกับกลุ่มตลาดแกรนด์ ทัวริ่ง (Grand Touring) คอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) จึงได้พัฒนาระบบตัวถังใหม่โดยเน้นในเรื่องของประสิทธิภาพเป็นหลัก ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ สปริงแบบ Air Springs และโช้คช่วงล่างได้รับการพัฒนาใหม่ โดยการตั้งค่าให้เน้นความเป็นสปอร์ตเป็นสำคัญ เหมือนกับที่ใช้กับรถรุ่นคอนติเนนทัล V8 เอส (Continental V8 S) ซึ่งถือได้ว่าเป็นรถที่มีศักยภาพในการรักษาเสถียรภาพได้ดีที่สุดจากเบนท์ลี่ย์ ล้อมีขนาด 21 นิ้ว น้ำหนักเบา ติดตั้งยาง Pirelli เพื่อทำการส่งผ่านพละกำลังของเครื่องยนต์
ระบบเหล่านี้จะทำงานร่วมกับระบบ Electronic Stability Control programme ที่เน้นความเป็นสปอร์ต ส่งผลให้รถมีเสถียรภาพในการทรงตัวในระดับที่ดีเยี่ยม เกาะถนนได้เป็นอย่างดี ตัวถังและระบบขับเคลื่อนจะตอบสนองต่อคันเร่งได้โดยทันที
การลดอัตราเร่งของเครื่องยนต์ด้วยระบบเบรก Carbon Silicon Carbide (CSiC) braking system โดยจานเบรกทางด้านหน้ามีขนาด 420 มิลลิเมตร มาพร้อมกับ คาลิปเปอร์เบรกแบบ 8 สูบ และพ่นสีเขียวสร้างความโดดเด่น ทางด้านหลังมีขนาด 356 มิลลิเมตร ระบบเบรก CSiC นี้คือผลงานชิ้นโบว์แดงของวิศวกรจากเบนท์ลี่ย์
Rolf Frech สมาชิกบอร์ดบริหารฝ่ายวิศวกรของเบนท์ลี่ย์ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับสมรรถนะของ คอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) ไว้ว่า:
“พวกเราต้องการพัฒนาระบบขับเคลื่อนและระบบตัวถังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าแต่ก่อนสำหรับโปรเจคคอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) นี้ ผลลัพธ์ที่ได้คือคอนติเนนทัล จีที (Continental GT) คันนี้มีความคล่องตัวที่มากที่สุดตั้งแต่เคยมีมา และมาพร้อมกับระบบการกระจายแรงบิด torque vectoring system เพื่อลดอาการปัด ตัวถังได้รับการปรับเปลี่ยนให้มีการตอบสนองโดยตรงมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านี้เรายังสร้างความแตกต่างให้กับโหมด Drive และโหมด Sport มากขึ้น เพื่อให้ผู้ขับขี่มีตัวเลือกในการใช้งานได้หลายรูปแบบ เช่น แบบสะดวกสบายผ่อน
คลายหรือต้องการการตอบสนองแบบกระชับทันทีอย่างแกรนด์ ทัวเร่อ (Grand Tourer) และการตอบสนองแบบซูเปอร์คาร์อย่างแท้จริง เครื่องยนต์ V8 ได้รับการพัฒนาให้มาพร้อมกับ Turbo chargers ใหม่ล่าสุดเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียกำลังจากเทอร์โบ เบนท์ลี่ย์คือรถที่มีความคล่องตัวสูง เรียกได้ว่าเป็นรางวัลสำหรับผู้ขับขี่นั่นเอง”
มอบความหรูหราควบคู่ไปกับประสิทธิภาพที่เหนือชั้น
เบนท์ลี่ย์คือการผสมผสานความหรูหราควบคู่ไปกับประสิทธิภาพที่เหนือชั้น คอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) เช่นเดียวกัน ห้องโดยสารแบบ 2 ที่นั่งเต็มไปด้วยงานหัตถกรรมชั้นเยี่ยมจากคาร์บอน ไฟเบอร์และหนัง Alcantara® ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้เหมาะกับประสิทธิภาพการขับขี่ที่คล่องตัว
เบาะ 2 ที่นั่งออกมาในรูปแบบเบาะสปอร์ต bespoke sporting seats ใหม่ล่าสุด ซึ่งมีหมอนเบาะด้านข้างที่ลึกมากยิ่งขึ้นรวมถึงการออกแบบชั้นโฟมใหม่เพื่อความสะดวก สบายมาก หนังเป็นสี Beluga black ควบคู่กับหนัง Alcantara® ที่มีรอยตะเข็บแบบ diamond-quilted คอนโซลกลางและแผงหน้าปัดด้านหน้าของรถทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ประตูได้รับการเติมแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ด้วยเช่นกัน และเสริมด้วยหนัง Alcantara® ลาย diamond-quilted ห้องโดยสารด้านหลังได้รับการออกแบบ และตกแต่งลายขอบใหม่หมด มาพร้อมกับชิ้นส่วนของคาร์บอนไฟเบอร์โดยรอบและปิดท้ายด้วยหนัง Alcantara®
เส้นขอบตกแต่งบริเวณที่นั่งด้านหลังได้รับการออกแบบใหม่ให้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกับคาร์บอน ไฟเบอร์ และหนังโดยรอบ โดยหนังจะเป็นสี Beluga ผสมผสานกับสีของมอเตอร์สปอร์ตนั่นคือ Vivid accent Green ที่ตัดกันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นแผงหน้าปัด แผงประตู และเบาะนั่ง โลโก้ GT3-R ติดตั้งอยู่บนคอนโซลกลาง และสลักด้วยสีเขียวบนที่พักศรีษะด้วยเช่นกัน
รูปลักษณ์ภายนอกที่แสดงให้เห็นถึงจุดประสงค์ภายในของรถได้อย่างชัดเจน
ภายนอกของ คอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) ทีมออกแบบได้เน้นการออกแบบให้เห็นถึงความทรงพลังของเครื่องยนต์ ด้านหน้ารถมีความดุดันเหมาะกับปีกหลังที่ติดตั้งมากับฝากระโปรงหลังรถด้วยเช่นกัน โดยทั้ง 2 ชิ้นทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ฝากระโปรงของเครื่องยนต์มาพร้อมกับที่ระบายอากาศ 2 ตัวเพื่อทำการดักอากาศให้เข้ามาระบายความร้อนของระบบขับเคลื่อนสำหรับการเร่งเครื่องซ้ำ ดังนั้นที่รูปลักษณ์และสัดส่วนของรถแข่งคอนติเนนทัล จีที3
(Continental GT3) คันนี้เน้นในเรื่องของการออกแบบตามฟังก์ชั่นการทำงานนั่นเอง (Form follows function)
การใช้คาร์บอนไฟเบอร์แบบเงาจะตัดกับสีขาว Glacier White ของรถทั้ง 300 คันได้เป็นอย่างดี ความโดดเด่นของรถแข่งคอนติเนนทัล จีที3 (Continental GT3) เพิ่มเติมโดยการใช้เส้นสายของสีเขียวทูโทนให้เป็นลายของรถทางด้านข้างเริ่มจากด้านหลังของล้อหน้าเรื่อยไปจนถึงด้านหลังอีกด้วย
เพื่อให้คอนติเนนทัล จีที3 (Continental GT3) สะท้อนและให้สัมผัสถึงความโดดเด่นมากขึ้น แผงโครงไฟหน้า ตะแกรงเมทริกซ์ ขอบกระจกและเส้นของกันชนออกมาในรูปแบบสีดำเงา
รูปลักษณ์ของคอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) ถูกเสริมด้วยล้อน้ำหนักเบาขนาด 21 นิ้วใหม่ล่าสุด ทำจากล้ออัลลอยด์คุณภาพสูงเพื่อความแข็งแกร่งและพ่นสีดำเงาเพื่อความดุดัน
คอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Continental GT3-R) พร้อมให้ท่านจับจองได้แล้ววันนี้และพร้อมส่งมอบในช่วงปลายปี 2014
เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที3-อาร์ (Bentley Continental GT3-R) | |
เครื่องยนต์ | |
ชนิด | 4.0 ลิตร twin-turbo V8 |
พละกำลังของเครื่องยนต์สูงสุด | 572 แรงม้า / 426 กิโลวัตต์ @ 6,000 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด | 700 นิวตันเมตร / 1,700 รอบต่อนาที |
ระบบส่งกำลังเครื่องยนต์ |
ชนิด | เกียร์อัตโนมัติ ZF 8-speed มาพร้อมกับระบบ Quickshift, Block Shifting และ separate Drive, โหมด Sport และโหมด Tiptronic , พวงมาลัยแบบก้านเกียร์ paddle shift |
ระบบขับเคลื่อน | ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบต่อเนื่อง Continuous all-wheel drive (40:60 เน้นไปทางด้านหลัง) มาพร้อมกับระบบการกระจายแรงบิด |
อัตราการทดเกียร์ | 1st : 4.71; 2nd: 3.14; 3rd: 2.1; 4th: 1.67; 5th: 1.29; 6th: 1.00; 7th: 0.839; 8th: 0.667 |
Final Drive | 3.50 |
เบรก | |
หน้า | 420 มิลลิเมตร Carbon Silicon Carbide, cross-drilled |
หลัง | 356 มิลลเมตร Carbon Silicon Carbide, cross-drilled |
ล้อและยาง | |
ล้อ | 9.5J x 21” |
ยาง | 275/35 ZR21 |
พวงมาลัย | |
ชนิด | Rack & pinion, power assisted, speed-sensitive ZF Servotronic |
Turns lock-to-lock | 2.6 รอบ |
Turning circle | 11.3 เมตร / 37.1 ฟุต |
ระบบช่วงล่าง |
ด้านหน้า | ช่วงล่างแบบ Four link double wishbones, ระบบช่วงล่างแบบถุงลมลดระดับอัตโนมัติโดยการควบคุมของคอมพิวเตอร์, มาพร้อมกับ anti-roll bar |
ด้านหลัง | ช่วงล่างแบบ Trapezoidal multi-link, ระบบช่วงล่างแบบถุงลมลดระดับอัตโนมัติโดยการควบคุมของคอมพิวเตอร์, มาพร้อมกับ anti-roll bar |
Damping | Continuous Damping Control และได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้ได้มาซึ่งสมรรถนะความคล่องตัวมากที่สุด |
ขนาด | |
ระยะห่างของฐานล้อ | 2,746 มิลลิเมตร / 108.1 นิ้ว |
ความยาวโดยรวม | 4,806 มิลลิเมตร / 189.2 นิ้ว |
ความกว้าง (รอบรถ) | 1,944 มิลลิเมตร / 76.5 นิ้ว |
ความกว้าง (รวมกระจกข้าง) | 2,227 มิลลิเมตร / 87.7 นิ้ว |
ความสูงโดยรวม | 1,394 มิลลิเมตร / 54.9 นิ้ว |
ความจุของถังน้ำมัน | 90 ลิตร |
ความจุของช่องเก็บสัมภาระ | 358 ลิตร |
น้ำหนักรถเปล่า (EU) | 2,195 กิโลกรัม |
น้ำหนักรวมของรถ | 2,750 กิโลกรัม |
สมรรถนะ | |
ความเร็วสูงสุด | 273 กิโลเมตร/ชั่วโมง |
0-60 ไมล์/ชั่วโมง | 3.6 วินาที |
0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง | 3.8 วินาที |
อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง (EU cycle)* | |
ในเมือง | 18.5 ลิตร/100 กิโลเมตร (5.4 กิโลเมตร/ลิตร) |
นอกเมือง | 9.2 ลิตร/100 กิโลเมตร (10.87 กิโลเมตร/ลิตร) |
เฉลี่ย | 12.7 ลิตร/100 กิโลเมตร (7.87 กิโลเมตร/ลิตร) |
อัตราการปล่อย CO2 | 295 กรัม/กิโลเมตร |
อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง (EPA cycle)** | |
ในเมือง (US mpg) | 13 |
ทางหลวง (US mpg) | 20 |
เฉลี่ย (US mpg) | 15 |
การควบคุมมลพิษ | EU 6 และ US LEV II |
* ตัวเลขเกี่ยวกับอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นอยู่กับมาตรฐานที่ได้รับการรับรอง
** อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นอยู่กับการรับรองจาก EPA
- เบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ คือแบรนด์รถหรูหนึ่งแบรนด์ของโลก ในปี 2013 ที่ผ่านมาเบนท์ลี่ย์ถือเป็น 1 ใน 4 ของรถหรูที่ส่งมอบให้ลูกค้าทั่วโลกได้มากที่สุด และถือได้ว่าเป็นปีที่ดีที่สุดของเบนท์ลี่ย์ในรอบ 95 ปีที่ผ่านมา โดยมียอดส่งมอบรถให้ลูกค้าทั่วโลกที่เติบโตขึ้น 19% จากปี 2012 นั่นคือ 10,120 คันเลยทีเดียว ตลาดที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดของเบนท์ลี่ย์คือตลาดในอเมริกา โดยส่งมอบรถไปแล้วถึง 3,140 คัน ส่วนประเทศจีนยังคงเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 และมียอดส่งมอบถึง 2,191 คัน ในขณะที่ทวีปยุโรปนั้นส่งมอบไปถึง 1,480 คัน สำหรับประเทศอังกฤษซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของเบนท์ลี่ย์ส่งมอบถึง 1,381 คันและในตลาดตะวันออกกลางส่งมอบไป 1,185 คัน ซึ่งในปี 2013 เบนท์ลี่ย์มีตัวแทนจำหน่ายถึง 200 แห่งใน 54 ประเทศ
- สำนักงานใหญ่ของเบนท์ลี่ย์ตั้งอยู่ ณ เมือง Crewe โดยเป็นสถานที่รวมตัวของทีมออกแบบ ทีม R&D ทีมวิศวกรและเป็นที่ที่ใช้ในการผลิตรถทั้ง 3 รุ่นของเบนท์ลี่ย์ นั่นคือ คอนติเนนทัล (Continental) ฟลายอิ้ง สเปอร์ (Flying spur) และมูซาน (Mulsanne) การใช้งานหัตถกรรมชั้นเยี่ยมเข้ามาผสมผสานนั้นได้ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมด้วยความเชี่ยวชาญทางทักษะของวิศวกรและเทคโนโลยีชั้นนำคือความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่หรูหราอย่างเบนท์ลี่ย์ และเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของโรงงานผลิตรถยนต์คุณภาพสูงของอังกฤษ ที่มีพนักงานถึง 3,700 คน ณ เมือง Crewe เลยทีเดียว
อินเดียน-วิคตอรี่ อวดโฉม “2014 INDIAN CHIEF” สุดยอดบิ๊กไบค์ระดับตำนาน พร้อมระดมรถหลากหลายรุ่นจัดโปรโมชั่นเด็ดหนเดียวในรอบปีที่งาน “BMF 2014”
Posted by Contemporary industry
Posted on 22:01
บริษัท อินเดียน วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถจักรยานยนต์สัญชาติอเมริกัน INDIAN MOTORCYCLE และ VICTORY MOTORCYCLES อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการเติบโตของตลาดรถบิ๊กไบค์ของเมืองไทยที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีความชื่นชอบและรักในการขับขี่รถบิ๊กไบค์เป็นการส่วนตัว บริษัทมีความพร้อมในการทำตลาดรถบิ๊กไบค์ทั้ง 2 แบรนด์อย่างจริงจัง
ล่าสุดปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้เปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานประเทศสหรัฐอเมริกา บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ ถนนพัฒนาการ (ซอยพัฒนาการ 76) ครอบคลุมการบริการต่างๆ อาทิ คาเฟ่-ร้านอาหาร การสต็อกรถ อะไหล่-อุปกรณ์ตกแต่ง คอลเลคชั่นเครื่องแต่งกายและกิจกรรมการขับขี่ทุกรูปแบบ เพื่อรองรับและตอบสนองทุกความต้องการของผู้มีรสนิยมในการขับขี่แบบเดียวกัน รวมทั้งนำเข้ารถบิ๊กไบค์ “2014 INDIAN CHIEF” จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นรถบิ๊กไบค์ที่มีความเก่าแก่ระดับตำนาน เป็นที่รู้จักและนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้หลงใหลสองล้อทั่วโลก นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1901
ซึ่งวันนี้ บริษัท อินเดียน วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด จะใช้เวทีของงาน “แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัลหรือ BMF 2014” เทศกาลเพื่อคนที่หลงใหลรถจักรยานยนต์ จัดในรูปแบบ “Mid Year Sale เทศกาลลดราคาพิเศษแห่งปี” ระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคม 2557 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) เพื่อสานต่อความยิ่งใหญ่ของสุดยอดรถบิ๊กไบค์คลาสสิกระดับตำนาน ด้วยการเปิดตัว “2014 INDIAN CHIEF” ที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา จำนวน 3 รุ่น อย่างเป็นทางการครั้งแรกในเมืองไทยต่อหน้าสาธารณชน ภายในบูธ A3 และ A4 โซน Eden
รถบิ๊กไบค์คลาสสิกระดับตำนาน “2014 INDIAN CHIEF” ทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด Thunder Stroke 111 ขนาด 1,811 ซี.ซี. ผลิตแรงบิดสูงสุดที่ 102.4 ฟุต-ปอนด์ ส่งถ่ายกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 สปีด ให้กำลังดีแม้จะขับขี่ในรอบความเร็วเครื่องต่ำ เพียงแค่บิดสามารถกระชากความเร็วได้ดังใจ และให้ความมั่นใจได้ในประสิทธิภาพความทนทานแข็งแกร่ง โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ได้รับการทดสอบเพื่อพิสูจน์สมรรถนะผ่านการวิ่งระยะทางกว่า 2 ล้านไมล์ ทั้งบนถนนจริงและในห้องทดสอบ พร้อมทั้งรับประกันตัวรถนานถึง 2 ปี หรือระยะทาง 20,000 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับระยะใดถึงกำหนดก่อน) เพื่อรองรับทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้ขับขี่ “2014 INDIAN CHIEF” ทั้ง 3 รุ่น ประกอบด้วย
INDIAN CHIEF CLASSIC สุดยอดครุยเซอร์ทรงพลัง เกิดจากการผสมผสานอย่างลงตัวของเทคโนโลยีแห่งการขับขี่สมัยใหม่ ผนวกเข้ากับจิตวิญญาณอันเป็นตำนานของ INDIAN ก่อให้เป็นรูปลักษณ์สวยงาม โดดเด่นด้วยบังโคลนแบบคลุมล้อ เบาะหนังแท้ แผงคอนโซลขนาดใหญ่ติดตั้งเข้ากับถังน้ำมันทรงหยดน้ำ (Tear-Drop) และอัตลักษณ์อันทรงคุณค่าเครื่องหมายการค้าหัวหน้าชนเผ่าอินเดียนแดง (War Bonnet) บนบังโคลนหน้าของตัวรถ และยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานคุณภาพสูงครบครัน เพื่อสุนทรียภาพและความมั่นใจในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบสตาร์ทเครื่องแบบไม่ใช้กุญแจ ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Cruise Control คันเร่งไฟฟ้า ท่อไอเสีย True Dual ฝาครอบคาลิปเปอร์ และอีกหลายรายการ มีราคาจำหน่าย 1,475,000 บาท
INDIAN CHIEF VINTAGE รถสไตล์ Soft Bagger เกิดจากพัฒนาดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ INDIAN มารวมเป็นหนึ่งเดียวกับอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนังและกระเป๋าหนังด้านข้างสำหรับใส่สัมภาระ และสามารถถอดประกอบได้อย่างง่ายดายในเวลาไม่กี่วินาที ปลายบังโคลนตกแต่งโครเมียม นอกจากนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงานเช่นเดียวกับ INDIAN CHIEF CLASSIC อาทิ บังโคลนแบบคลุมล้อ ล้อซี่ลวด ยางขอบขาว แผงคอนโซลสีโครเมียมที่ติดตั้งเข้ากับตัวถังน้ำมัน โดย INDIAN CHIEF VINTAGE มีราคาจำหน่าย 1,585,000 บาท
INDIAN CHIEFTAIN รถสไตล์ ฮาร์ด แบ็กเกอร์รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของอินเดียน มาพร้อมความทันสมัย และสามารถมอบความสะดวกสบายเพื่อการขับขี่ที่เหนือระดับไปอีกขั้น โดยติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานสำคัญคือ กระเป๋าสัมภาระแบบสามารถเปิด-ปิดได้ด้วยรีโมทคอนโทรล ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูง พร้อมระบบบลูทูธไว้รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ราคาจำหน่าย 1,695,000 บาท
ขณะที่รถบิ๊กไบค์ Victory Motorcycles ที่นำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกาเช่นกันจำนวน 12 รุ่น โดยราคาจำหน่ายเริ่มตั้งแต่ 1.015-1.995 ล้านบาท นับเป็นรถที่เกิดจากการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและดีไซน์สวยหรูสุดคลาสสิก ระดับเวิลด์คลาส แบ่งเป็น 3 ตระกูล ประกอบด้วยตระกูล Cruisers, ตระกูล Baggers, และตระกูล Touring
พร้อมกันนี้ เพื่อเป็นการขานรับในการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ของ “แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล” หรือ “BMF 2014” เทศกาลเพื่อคนที่หลงใหลรถจักรยานยนต์ ในรูปแบบ “Mid Year Sale เทศกาลลดราคาพิเศษแห่งปี” บริษัท อินเดียน วิคตอรี่ ประเทศไทย จำกัด มอบข้อเสนอพิเศษให้กับคนรักมอเตอร์ไซค์ทุกท่านด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษให้แก่ลูกค้าที่ต้องการจะเป็นเจ้าของรถบิ๊กไบค์ที่มีความเก่าแก่ระดับตำนาน INDIAN MOTORCYCLEและรถบิ๊กไบค์ดีไซน์คลาสสิก VICTORY MOTORCYCLE มากมาย ดังต่อไปนี้
INDIAN MOTORCYCLE มอบโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะผู้ที่จองหรือซื้อรถ (ภายในงานนี้เท่านั้น)
- ซื้อรถบิ๊กไบค์ INDIAN MOTORCYCLE ทุกรุ่น วางเงินจองเพียง 50,000บาท
รับทันที GIFT VOUCHER 20,000 บาท เพื่อนำไปแลกซื้อสินค้าในเครือและ
รับส่วนลด 10% เมื่อซื้อสินค้าเป็นเวลา 1 ปี
VICTORY MOTORCYCLE จัดโปรโมชั่นร้อนแรง HOT4 เพื่อคนรักมอเตอร์ไซค์ (ภายในงานนี้เท่านั้น)
HOT 1 – ราคาลดพิเศษสุด!!! (เฉพาะในงานเท่านั้น)
“Victory Motorcycles” ตระกูล Cruisers ประกอบด้วย
- Vegas 8-Ball ราคา 899,000 บาท
- High Ball ราคา 1,029,000 บาท
- Hammer 8-Ball ราคา 1,039,000 บาท
- Hammer S ราคา 1,169,000 บาท
- Judge ราคา 1,099,000 บาท
- Jackpot ราคา 1,149,000 บาท
“Victory Motorcycles” ตระกูล Baggers ประกอบด้วย
- Cross Country ราคา 1,299,000 บาท
“Victory Motorcycles” ตระกูล Touring ประกอบด้วย
- Vision Tour ราคา 1,489,000 บาท
HOT 2 - ซื้อเงินสดลดอีก 5% ทันที!
HOT 3 - ดาวน์เริ่มต้นที่ 15%
HOT 4 - รับสิทธิ์ผ่อน 0% หรือนาน 2 ปี หรือดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.99%
นาน 3 ปี หรือดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.99% นาน 4 ปี
สัมผัสประสบการณ์อันยิ่งใหญ่และจับจองเป็นเจ้าของรถบิ๊กไบค์ระดับตำนานทั้ง 3 รุ่นของ INDIAN MOTORCYCLE โมเดล “2014 INDIAN CHIEF” และรถบิ๊กไบค์ Victory Motorcycles ที่เกิดจากผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและดีไซน์สวยหรูสุดคลาสิก ระดับเวิลด์คลาสหลากรุ่น และเลือกช็อปสินค้าเสื้อผ้าของแต่งรถทั้ง 2 แบรนด์ พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษครั้งแรกในรอบรอบปี (เฉพาะในงานเท่านั้น) ณ บริเวณ ชั้น 1 โซน Eden บูธ INDIAN MOTORCYCLE (A3) และบูธ VICTORY MOTORCYCLE (A4) ภายในงาน “แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล หรือ “BMF 2014” จัดระหว่าง 2-6 กรกฎาคม 2557 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ ราชประสงค์
หมวดหมู่ยานยนต์
- 014 Chevrolet Silverado HD (1)
- 10 เคล็ดลับขับปลอดภัยเมื่อน้ำท่วม (1)
- 2014 Volvo S80 (1)
- 2015 Lincoln MKC crossover (1)
- 2015 Volvo S60 T6 (1)
- 2015 Volvo V40 (1)
- 2016 Chevrolet (1)
- 2016Chevrolet Colorado (1)
- 2016 Toyota Fortuner (1)
- 2018 Mazda CX-5 (1)
- 2018 Toyota Rush (2)
- 2 Stroke Engine (1)
- 5 ประตู (6)
- กระบวนการผลิต (19)
- กระบอกสูบ (1)
- กราฟกำลัง (1)
- กราฟแรงบิด (1)
- ก้านสูบ (1)
- การขับรถอย่างปลอดภัย (1)
- การใช้ไฟอย่างถูกต้อง เมื่อฝนตกหนัก (1)
- การดูแลรักษารถด้วยตนเอง (2)
- การเติมลม (1)
- การเติมลม กับ ล้อแม็กซ์ (1)
- การถ่วงล้อ (1)
- การบำรุงรักษา (4)
- การบำรุงรักษาและตรวจเช็คประจำวันรถยนต์คู่ใจ ควรทำอย่างไร (1)
- การปลี่ยนขนาด ยางรถยนต์ (1)
- การเปลี่ยนพลังงานความร้อนเป็นพลังงานกลของเครื่องยนต์ (1)
- การเผาไหม้ (11)
- การเผ่าไหม้ (1)
- การวิเคราะห์ปัญหาเครื่องยนต์ (1)
- การหยุดรถ และการจอดรถ (1)
- การออกแบบ (10)
- แก๊สโซลีน (3)
- ข้อควรปฏิบัติทั่วไป ในการใช้รถยนต์ (1)
- ข้อควรปฏิบัติ เมื่อการขับขี่ในพื้นที่ลักษณะต่างๆ (1)
- ขับเคลื่อน (13)
- ขับอย่างไรเพื่อยืดอายุยาง (1)
- ข่าวยานยนต์ (4)
- ควรจะทำอย่างไรเมื่อยางรถระเบิดขณะขับรถอยู่ (1)
- คว้านเสื้อสูบ (2)
- ความรู้ (3)
- คอมมอนเรล (1)
- คอยล์จุดระเบิด (8)
- คำศัพท์น่ารู้ (1)
- เครื่องมือ (1)
- เครื่องยนต์ (64)
- เครื่องยนต์ 2 จังหวะ (1)
- เครื่องยนต์ 4 จังหวะ (1)
- เครื่องยนต์คอมมอนเรล (1)
- เครื่องยนต์ดีเซล (3)
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร (1)
- เครื่องยนต์ดีเซลตระกูล GD รุ่นใหม่ (1)
- เครื่องยนต์เบนซิน (1)
- เครื่องยนต์แบบโรตารี่ (1)
- เครื่องยนต์ร้อนแล้วดับ สตาร์ทติดยาก เกิดจากสาเหตุใด และแก้ไขอย่างไร (1)
- เครื่องยนต์เล็ก (2)
- เครื่องยนต์สตาร์ทติดยากตอนอากาศชื้นเกิดจากอะไร ? (1)
- เครื่องยนต์สันดาปภายใน (3)
- เครื่องยนต์หัวฉีด (1)
- เครื่องยนต์ EFI (2)
- เครื่องยนต์V8 (1)
- เคล็ดลับ (2)
- จอดรถให้ปลอดภัย (1)
- จักรยานยนต์ (1)
- จังหวะการฉีดเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ EFI (1)
- ชิ้นส่วนยานยนต์ (1)
- ชื่อชิ้นส่วนเครื่องยนต์ภาษาไทย และอังกฤษพร้อมรูป คลิปวีดีโอ (1)
- เชฟโรเลต (1)
- เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 (1)
- โช๊คอัพ (5)
- ซ่อม (21)
- ซ่อมเครื่องยนต์ (7)
- ซ่อมบำรุง (6)
- ซุปเปอร์คาร์ (3)
- ซูซุูกิ (2)
- ซูซูกิ ไฮบริด (1)
- โซลินอย (1)
- ดัดแปลง (3)
- ไดชาร์จ (2)
- ไดร์สตาร์ท (10)
- ไดสตาร์ท (12)
- ตรวจสอบเครื่องยนต์ (1)
- ตลับลูกปืน (2)
- ตัวอักษรบนยาง บอกอะไร? (1)
- ตีปลอก (1)
- โตโยต้า (21)
- โตโยต้า 2015 (1)
- ถุงลมนิรภัย (1)
- ที่นั่งเด็ก (5)
- เทคนิคการขับรถป้องกันเชิงอุบัติเหตุ (1)
- เทคนิคการใช้รถและการดูแลรถอย่างง่ายๆ (1)
- เทคโนโลยียานยนต์ (53)
- เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ (8)
- เทอร์โบ (1)
- เทอร์โบแปรผัน (7)
- น้ำมันเชื้อเพลิง (14)
- น้ำมันดีเซล (6)
- น้ำมันเบนซิน (4)
- นิตยสาร (3)
- นิสสัน (11)
- บำรุงรักษาเครื่องยนต์ (1)
- บีเอ็มดับเบิ้ลยู (1)
- เบรค (22)
- เบาะรถยนต์ (5)
- เบาะสำหรับเด็ก (5)
- แบตเตอรี่ (3)
- แบรนด์รถยนต์ (1)
- แบริ่ง (1)
- ไบโอดีเซล (2)
- ประกอบเครื่องยนต์ (5)
- ประกอบรถยนต์ (13)
- ประดับยนต์ (5)
- ประเภทรถยนต์ (1)
- ปอร์เช่ (2)
- ปัญหารถยนต์ (1)
- ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ 2015 (1)
- ปิกอัพ (4)
- ปี2017 (3)
- เปลี่ยนอะไหล่ (3)
- ผลิตรถยนต์ (16)
- แผนภาพจังหวะการเปิดของลิ้น (Valve Timing Diagram) เครื่องยนต์ 4 สูบ และ 6 สูบ (1)
- แผนภาพต้นกำลังงานของรถยนต์ (1)
- ฝาสูบ (4)
- พจนานุกรมศัพท์ยานยนต์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๔๒ (1)
- พูเล่ (1)
- เพลาข้อเหวี่ยง (1)
- เพลาท้าย (2)
- ฟอร์ด (1)
- ฟิล์มกรองแสง ติดดี หรือ ไม่ติดดี มีประโยชน์อย่างไร วันนี้ทีคำตอบ (1)
- เฟอรารี่ (3)
- เฟืองท้าย (14)
- ไฟฉุกเฉิน ไม่จำเป็นและไร้สาระ (1)
- ไฟฟ้ารถยนต์ (24)
- ภาพโครงสร้างเครื่องยนต์ EFI (1)
- ภาพรวมรถยนต์ (9)
- มาสด้า (3)
- มิตซูบิชิ (6)
- มินิ (2)
- โมเดลรถยนต์ (3)
- ยนตกรรม (1)
- ยานยนต์ อุตสาหกรรม (26)
- ยาริส (15)
- รถกระบะ (9)
- รถกระบะ Revo (1)
- รถเก๋ง (51)
- รถแข่ง (2)
- รถจิ๊บ (1)
- รถเบนซ์ (19)
- รถยก (27)
- รถยก อุตสาหกรรม (26)
- รถยก อุตสาหกรรมม (1)
- รถยนต์ (3)
- รถยนต์ไฟฟ้า (4)
- รถรุ่นเก่า (1)
- รถศูนย์ (16)
- รถสปอร์ต (10)
- รถหรู (1)
- รถใหม่ (41)
- ระบบขับอัตโนมัติ (1)
- ระบบความร้อน (2)
- ระบบจุดระเบิด (10)
- ระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีน (Gasoline Fuel Injection System) (1)
- ระบบช่วงล่าง (27)
- ระบบเบรค (22)
- ระบบไฟฟ้า (14)
- ระบบรองรับ (5)
- ระบบระบายความร้อน (6)
- ระบบลม (3)
- ระบบส่งกำลัง (1)
- ระบบหล่อเย็น (2)
- ระบบหัวฉีด (1)
- ระบบห้ามล้อ (14)
- ระบบ Hybrid (1)
- ราคารถยนต์ (5)
- รางร่วม (1)
- รีเลย์ (6)
- รีวิว (15)
- รีวิวรถยนต์ (11)
- รู้ไว้ก่อน : การเปลี่ยนขนาดยาง (1)
- เรื่อง น้ำมันเครื่อง (1)
- โรงงานผลิตรถยนต์ (13)
- ล้อตุนกำลัง (1)
- ลักษณะดอก ยางรถยนต์ (1)
- ลากรถอย่างไรเมื่อรถเสีย (1)
- ลำดับการจุดระเบิด (1)
- ลูกปืนกลม (1)
- ลูกสูบ (3)
- วงจรไฟฟ้า (7)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด ECCS Nissan RB20E (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด ECI-multi Mitsubishi 4G61 (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด EFI เครื่องยนต์ Toyota 4A-GE (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด Honda B16A VTEC DOHC รุ่นแรก (1)
- วิชาช่างยนต์ (10)
- วี8 (1)
- สเปกรถยนต์ (5)
- สร้างเครื่องยนต์ (1)
- สร้างโมเดลรถยนต์ (1)
- สายพานเครื่องยนต์ (2)
- สีรถ (8)
- เสื้อสูบ (5)
- หนังสือรถยนต์ (7)
- หม้อน้ำ (2)
- หลักการทำงาน (2)
- หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน 4 จังหวะ (1)
- หลักการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซล 4 จังหวะ (1)
- หัวเทียน (24)
- ห้ามล้อ (14)
- แหวนลูกสูบ (1)
- องค์ประกอบการสันดาปของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน (1)
- ออกแบบรถยนต์ (22)
- อะไหล่เครื่องยนต์ (3)
- อะไหล่ยนต์ (1)
- อัตราค่าปรับ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 (1)
- อัตราส่วนผสมอากาศต่อเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน (1)
- อาการหัวเทียน (12)
- อินเตอร์คูลเลอร์ (6)
- อีโก้คาร์ (5)
- อุตสาหกรรม รถยก (27)
- อุปกรณ์เสริม (6)
- แอร์เริ่มไม่เย็น และส่งกลิ่นอับเวลาเปิดแอร์ใหม่ ควรทำอย่างไร ? (1)
- ไอดี (3)
- ไอเสีย (6)
- ฮอนด้า (6)
- ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด (2)
- Accessories (5)
- All New toyota yaris 2013 2014 (1)
- Alternator (1)
- alternators (1)
- Ativ (7)
- Audi (2)
- Audi A4 (1)
- Automatic drive (1)
- Ball Bearing (1)
- bearing (1)
- biodiesel (2)
- BMW (4)
- Brake (23)
- Brake system (23)
- BT-50 (1)
- Car Family (1)
- Cars (61)
- CAT (Catalytic Converter) เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยา (1)
- Check Engine (1)
- Chevrolet (1)
- CHEVROLET COLORADO (2)
- Colorado (1)
- commonrail (1)
- Common Rail (1)
- Common Rail Engine (1)
- Concept Car (1)
- Connecting rod (1)
- Crankshaft (1)
- Cylinder head (1)
- Diesel Engine (3)
- Diesel fuel (6)
- differential (12)
- DIY (8)
- DURAMAX ENGINE (1)
- DURAMAX VIN CHART (1)
- ECCS (1)
- EFI (1)
- EGR (Exhaust Gas Recirculation) หรือการหมุนเวียนไอเสีย (1)
- Electric car (4)
- Electric cars (4)
- Electronic Fuel Injection Engine (1)
- Engine (37)
- Engine Block (1)
- Engine Curve (1)
- Ferrari (3)
- Flywheel (1)
- Ford (4)
- Ford Ranger (2)
- Fuel (14)
- gasoline (3)
- Gasoline engine (1)
- General Motors (2)
- GMC Canyon (1)
- Honda (11)
- Honda Accord (1)
- HONDA ACCORD HYBRID ใหม่ (1)
- Honda CR-V 2015 (1)
- Honda HR-V (1)
- Honda HRV 2015 (1)
- Honda Jazz (1)
- Honda Vezel (1)
- Hydrogen cars (1)
- i-DTEC (1)
- Ignition Coil (8)
- Ignition System (1)
- i-MMD (1)
- Intercooler (6)
- internal combustion engine (3)
- Jeeb (1)
- lamborghini (4)
- Lamborghini Revuelto (2)
- Mazda (4)
- Mercedes Benz (21)
- Mini (2)
- MINI Cooper (2)
- Mitsubishi (9)
- Mustang (1)
- Navara (2)
- NGV (1)
- Nissan (11)
- nissan np300 navara (1)
- NP300 (1)
- NP300 NAVARA Single Cab (1)
- pickup (6)
- pickup truck. (5)
- Piston (3)
- Piston Ring (1)
- Porsche (2)
- Port Timing Diagram ของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ (1)
- Ranger (1)
- Rear axle (1)
- Relay (6)
- Revuelto (1)
- Rotary Engine (1)
- S60 (1)
- S90 (1)
- SEAT (1)
- Self Diagnosis System (1)
- Shock Absorbers (5)
- SKODA (1)
- SKYACTIV-D เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล (1)
- solenoid (4)
- Spark Plugs (20)
- Starter (6)
- Supper Car (4)
- Suspension System (3)
- Suzuki (2)
- TCCS (1)
- Tesla Model X (1)
- TOYOTA (29)
- Toyota และ Lexus (1)
- Toyota Hilux Revo (1)
- Triton (1)
- V60 (1)
- Ⅴ8 (1)
- Variable Nozzle Turbo (2)
- VGT (5)
- Volkswagen (1)
- Volvo (4)
- Volvo purchased the Polestar brand (1)
- Volvo S90 (1)
- Wankel Engine (1)
- XC90 (1)
- Yaris (15)