นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย มร.โคจิ โทโยชิม่า หัวหน้าวิศวกร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์เปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และนายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมแถลงข่าวแนะนำ “โตโยต้า พริอุส ใหม่” เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2555 ที่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำ โตโยต้า พริอุส อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2553 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า เช่นเดียวกับลูกค้าทั่วโลกที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยยอดขายทั่วโลกมากกว่า 2,500,000 คัน (ยอดขายสะสมตั้งแต่ พ.ศ.2540 ถึง มกราคม 2555) ซึ่งสามารถยืนยันความสำเร็จของ พริอุส ได้เป็นอย่างดี
สำหรับ พริอุส ใหม่นั้น ยังคงเป็นรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว และมีเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมายที่ช่วยลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดเชื้อเพลิง อาทิ ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดที่สามารถขับเคลื่อนรถด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวหรือขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยสนับสนุน กระบวนการผลิตที่มีการนำวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่มาเป็นวัตถุดิบ ตลอดจนมีการนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมาใช้มากขึ้น โดยยังคงไว้ซึ่งความสนุกสนานในการขับขี่
เทคโนโลยี อัจฉริยะ… Intelligent Equipment
ระบบระบายอากาศอัตโนมัติด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Ventilation System)*... แผงโซลาร์บนหลังคารถจะเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ในการทำงานของพัดลมสำหรับระบายความร้อนออกจากห้องโดยสารขณะจอดกลางแดด เพื่อลดอุณหภูมิห้องโดยสาร ช่วยลดการทำงานของระบบปรับอากาศ ทำให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่โตโยต้า นำมาใช้กับรถยนต์
ระบบปรับอากาศ เปิด-ปิดด้วยกุญแจรีโมท (Remote Air-Conditioning System) *...สามารถควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศจากภายนอกห้องโดยสารเพื่อเปิดแอร์ก่อนขึ้นรถ ช่วยให้ห้องโดยสารเย็นสบาย โดยไม่สิ้นเปลืองน้ำมันเพราะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีไฮบริด
ระบบนำทางบนกระจกหน้า (Head-up Display)...จอแสดงผลอัจฉริยะบนกระจกหน้าสามารถเลือกแสดงผลได้หลากหลาย อาทิ แสดงทิศทางการเดินทางตามข้อมูลจากระบบนำทาง (Navigator) แสดงมาตรวัดความเร็ว หรือแสดงผลการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ภายนอกดีไซน์ใหม่… Intelligent Exterior
กระจกมองข้างปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า... เพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
กันชนหน้าดีไซน์ใหม่...ลงตัวทุกมุมมอง บ่งบอกสไตล์ในแบบที่เป็นคุณ
ไฟเลี้ยวด้านหน้าและไฟตัดหมอก...ชัดเจนทุกมุมมอง และช่วยเสริมความปลอดภัย
ไฟหน้า...แบบ LED** ทนทานและประหยัดพลังงาน มาพร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิด อัตโนมัติ ระบบปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ พร้อมหัวฉีดล้างทำความสะอาดโคมไฟหน้า
ไฟท้าย...แบบ LED เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ...น้ำหนักเบา ช่วยลดแรงเสียดทานในการหมุนวนของอากาศบริเวณซุ้มล้อ
ภายในใหม่สุดล้ำ… Intelligent Interior
เบาะคนขับ...ปรับเลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ปรับระดับได้ 8 ทิศทาง เพิ่มความสะดวกสบาย
แผงคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง และพวงมาลัย... สีดำ คมเข้มเติมอารมณ์สปอร์ต
ช่องต่อ USB/AUX**...ตอบรับทุกความบันเทิง
ระบบนำทาง พร้อมDVD หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว 1CD/MP3, WMA ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย (Bluetooth) พร้อมลำโพง 8 จุดและเพาเวอร์แอมป์จาก JBL* ... เพิ่มความสุนทรีย์ตลอดการเดินทาง
3 รุ่น ให้คุณครอบครอง
1.8 Top Option ราคา 1,369,000 บาท
1.8 Top ราคา 1,299,000 บาท
1.8 Standard ราคา 1,199,000 บาท
5 สี ให้เลือกสรร
White Pearl Crystal**
True Blue Metallic
Silver Metallic
Attitude Black Mica
Red Mica Metallic
พบกับ โตโยต้า พริอุส ใหม่... นวัตกรรมอัจฉริยะที่ตอบทุกจินตนาการ
ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ 2012 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2555
และที่โชว์รูมโตโยต้า 334 แห่งทั่วประเทศ
** เฉพาะรุ่น Top Option และรุ่น Top
สำหรับสี White Pearl Crystal ราคาเพิ่มอีก 10,000 บาท
รายละเอียดรถยนต์ โตโยต้า พริอุส ใหม่
ระบบส่งกำลัง
เครื่องยนต์ ที่ผสานความล้ำหน้าแห่งเทคโนโลยี Atkinson Cycle และระบบควบคุมการหมุนเวียนไอเสีย EGR(Exhaust Gas Recirculation) ที่มีการติดตั้งระบบระบายความร้อน ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมมลภาวะจากไอเสีย พร้อมระบบวาล์วอัจฉริยะ VVT-i เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่ประหยัดคุ้มค่า
รุ่น 2ZR – FXE / 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VVT-i
ความจุกระบอกสูบ 1,797 ซีซี
แรงม้าสูงสุด 73 กิโลวัตต์ (99 แรงม้า) ที่ 5,200 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
มาตรฐานไอเสีย ยูโร 4
รองรับพลังงานทางเลือก E10
มอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Motor) ที่พัฒนาระบบเกียร์ทดกำลังให้มีขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบายิ่งขึ้น แต่สามารถรองรับการทำงานของเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงขึ้น
ชนิด มอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร
แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 650 โวลต์
กำลังสูงสุด 60 กิโลวัตต์ (82 แรงม้า)
แรงบิดสูงสุด 207 นิวตัน-เมตร
เกียร์ไฟฟ้าอัตโนมัติ (Electronic Gear Shift) เทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนที่รองรับทุกการสั่งงาน พร้อมระบบคันเกียร์ที่กลับคืนสู่ตำแหน่งกลางโดยอัตโนมัติทุกครั้งหลังการเข้าเกียร์ เพิ่มความสะดวกในการเปลี่ยนเกียร์
เกียร์ทดกำลัง (Reduction Gear) เพื่อเพิ่มแรงบิดให้มอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมให้ความนุ่มนวลในจังหวะการเปลี่ยนเกียร์
อุปกรณ์แยกกำลัง (Power Split Device) ที่ผสานการทำงานระหว่าง เครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า และ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า อย่างลงตัว
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ตอบสนองการเร่ง โดยการเสริมพลังไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ขับเคลื่อน
หน่วยควบคุมไฟฟ้า (Power Control Unit) ทำหน้าที่ควบคุมไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี และไฟฟ้ากระแสสลับจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าให้ทำงานได้อย่างเหมาะสม พร้อมช่วยขยายกำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรีได้สูงถึง 650 โวลต์
แบตเตอรีไฮบริด Ni-MH (Nickel–Metal Hydride) ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าทำให้แบตเตอรี ไฮบริดมีน้ำหนักเบาขึ้น ทนทานยิ่งขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งการจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างดีเยี่ยม
รูปแบบการขับขี่ ตอบสนองทุกอารมณ์ในการขับขี่
โหมดการขับขี่ทรงพลัง (PWR Mode) ระบบจะผสานกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ เพื่อตอบสนองการขับขี่อย่างทันใจ
โหมดการขับขี่ประหยัดน้ำมัน (ECO Mode) ระบบจะเลือกใช้กำลังในการขับเคลื่อน จากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ให้เหมาะสม โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
โหมดการขับขี่เงียบสนิท (EV Mode) ระบบจะใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ให้การขับขี่ที่เงียบสนิท เหมาะสำหรับการเดินทางในบริเวณที่ใช้ความเร็วต่ำ
ความปลอดภัย ทุกการเดินทางคือความอุ่นใจ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก
ความปลอดภัย แบบป้องกัน (Active Safety)
กระจกมองข้างลดการเกาะตัวของหยดน้ำ (Hydrophilic) เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ขณะฝนตก
ระบบควบคุมการปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor) ที่สามารถปรับระดับความเร็วในการปัดให้สัมพันธ์กับความเร็วได้โดยอัตโนมัติ
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) รักษาระดับความเร็วให้คงที่ เพิ่มและลดความเร็วได้โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่งหรือเบรค
กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ (EC Mirror) ช่วยลดแสงสะท้อนจากไฟหน้าของรถคันหลัง เพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่เวลากลางคืน
สัญญาณไฟเบรกกระพริบเมื่อเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Lamps) เพิ่มความปลอดภัย เมื่อเกิดการเบรกกะทันหัน ด้วยสัญญาณไฟเบรกอัตโนมัติแจ้งเตือนรถที่อยู่ด้านหลังทันที
ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC – Vehicle Stability Control) ที่ทำงานร่วมกับ EPS (Electronic Power Steering) รักษาการทรงตัวของรถในทุกสภาพการขับขี่ โดยการสั่งให้เครื่องยนต์ลดความเร็วอัตโนมัติ และควบคุมแรงดันน้ำมันเบรกทั้ง 4 ล้ออย่างอิสระเพื่อรักษาการทรงตัวของรถให้สมดุลที่สุด
ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution) ในทุกๆการเบรก ระบบจะปรับแรงดันน้ำมันเบรกทั้ง 4 ล้อให้เหมาะสมกับน้ำหนักที่กดลงในแต่ละล้อ เพื่อประสิทธิภาพการเบรกที่ดีขึ้น
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC – Traction Control System) คอยควบคุมและป้องกันการลื่นไถลของล้อ เมื่อมีการเหยียบคันเร่งมากเกินไปขณะออกตัว หรือการเร่งความเร็วแบบกะทันหันบนถนนลื่น
ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS – Anti-lock Braking System) สำหรับการเบรกแบบกะทันหันบนถนนที่เปียก ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถบังคับควบคุมทิศทางของรถได้ดีขึ้น
ความปลอดภัย แบบปกป้อง (Passive Safety)
ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 จุดรอบคัน เสริมความปลอดภัย โดยติดตั้งไว้รอบคัน (ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง / ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง / ม่าน 2 ตำแหน่ง และ เข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง)
หมอนพิงศีรษะคู่หน้าแบบช่วยลดแรงกระแทก (Active Headrest) เมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง หมอนพิงศีรษะจะปรับองศาอัตโนมัติเพื่อรองรับสรีระบริเวณคอทันที ช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บที่กระดูกคอ
โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA ช่วยดูดซับแรงกระแทก เทคโนโลยีเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริเวณห้องโดยสารจากการชนทั้งด้านหน้าและด้านข้าง เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับและกระจายแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างมีประสิทธิภาพ