Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

แรงดันลมยาง

แรงดันลมมาตรฐานของยางรถยนต์ทุกรุ่น มีระบุไว้บนสติกเกอร์ที่ตัวรถยนต์หรือคู่มือประจำรถยนต์ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 28-32 ปอนด์/ตารางนิ้วสำหรับรถยนต์นั่ง การวัดแรงดันลมยาง ต้องใช้อุปกรณ์ตรวจเช็คแรงดันลมยางที่ได้มาตราฐานและวัดตอนที่ยางเย็นหรือร้อนไม่มาก ( ขับไปไม่เกิน2-3 กม. ) และไม่ควรใช้เพียงสายตาในการเดาแรงดันลมยางโดยดูจากการยุบตัวของ แก้มยางเพราะ แม้ลมยางจะอ่อนลง 10 ปอนด์/ตารางนิ้ว ก็อาจมองไม่เห็น ความแตกต่าง

หากละเลยการตรวจสอบลมยาง มักเกิดปัญหาแรงดันลมน้อย-ยางอ่อน ทำให้แก้มยางมีการบิดตัวมากและร้อนง่าย สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น และอัตรา เร่งลดลง จากแรงต้านการหมุนที่เพิ่มขึ้น และหากลมยางอ่อนมากๆ จะทำให้ โครงสร้างภายในเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และมีการลึกหรอบริเวณนอกซ้าย-ขวาของยางมากกว่าแนวกลาง

บางคนอ่อนแล้วอาจคิดว่า ถ้าอย่างนั้นเติมยางเกินไว้น่าจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องตรวจสอบบ่อยๆซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะแรงดันลมยางที่มากเกิน ไปทำให้ประสิทธิภาพการเกาะถนนลดลง จากหน้าสัมผัสที่ลดลง กระด้าง และถ้าลมยางแข็งมากๆ จะเลี่ยงต่อการระเบิด และมีการสึกหรอบริเวณแนวกลางมากกว่าริมนอกซ้าย-ขวา

เดินทางไกล เติมแรงดันลมเพิ่ม

ควรเติมแรงดันลมยางมากกว่าปกติ 2-3 ปอนด์/ตารางนิ้ว เพื่อป้องกันยางร้อนอันเนื่องมาจากการบิดตัวของแก้มยาง อาจตรงข้ามกับความคิด ที่ผิดๆที่ว่า เมื่อเดินทางไกลยางหมุนด้วยความเร็วสูงต่อเนื่อง ยางน่าจะร้อนและแรงดันเพิ่มขึ้นจากหลักการของก๊าชอากาศร้อนจะขยายตัว ทำให้แรงดัน ลมยางจากปกติ ซึ่งไม่ถูกต้อง

หากมีการลดแรงดันลมยางต่ำกว่าค่าแรงดันลมยางปกติในการเดินทางไกล โครงสร้างของยางมีโอกาสการเสียรูปสูง อันเนื่องมาจากการบิดตัวของ แก้มยางต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน และทำให้อุณหภูมิของยางสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเพิ่มโอกาสการเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากยางระเบิดได้ นอกจากนี้ยังทำให้ยางมีอายุการใช้งานสั้นลงมากอีกด้วย

วิธีที่ถูกต้อง คือ เมื่อเดินทางไกล ควรเติมลมยางมากกว่าปกติ 2-3ปอนด์/ตารางนิ้ว แรงดันลมที่เพิ่มขึ้นจะช่วยต้านการบิดตัวของแก้มยาง การบิดตัวของแก้มยาง การบิดตัวของแก้มยางน้อยลง ทำให้ไม่เกิดความร้อนมากเกินไปขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง ลดฌอกาสเลี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากยางระเบิด

**เมื่อเสร็จจากการเดินไกลแล้ว ก็ควรลดแรงดันลมยางมาเป็นแรงดันลมปกติ**

ยางอะไหล่ต้องพร้อม
ยางรถยนต์ยุคใหม่มีโอกาสรั่วน้อยมาก ถ้าไม่โชคร้ายเกินไปก็ไม่น่าเกิน1-2 ครั้ง/ปี ยางอะไหล่จึงมักไม่ค่อยได้รับความสนใจหรือตรวจสอบเหมือนยางเส้นที่ใช้งานจึงควรเติมลมยางอะไหล่ไว้มากหน่อย คือ 40 ปอนด์/ตารางนิ้วเมื่อต้องการใช้ยางอะไหล่ ถ้าแรงดันลมที่มีอยู่สูงเกินไปก็แค่ปล่อยออกให้เท่าปกติ

การบำรุงรักษายางรถยนต์


รถยนต์ที่สามารถวิ่งอยู่บนถนนได้อย่างสมบูรณ์นั้น ล้วนแล้วแต่ประกอบด้วยอุปกรณ์มีความสำคัญยิ่งทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์ เกียร์ เบรก ระบบช่วงล่าง และยาง รถยนต์

แต่วันนี้เราจะขอพูดเรื่องของยางรถยนต์ และวิธีการบำรุงรักษา เพราะยางรถเปรียบเสมือนรองเท้า ที่เราสวมใส่ ถ้ารองเท้าไม่พอดี อาจจะทำให้ผู้ใส่เกิดอาการเจ็บเท้าหรือเดินไม่ถนัด ทำให้เสียบุคลิกในการเดินได้ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ยางรถยนต์ เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนของรถยนต์ เพราะยางรถยนต์จะต้องหมุนไปตลอด เมื่อรถยนต์เคลื่อนที่ยางรถยนต์ทำหน้าที่ รองรับน้ำหนักรถ และน้ำหนักบรรทุก ลดแรงกระแทก และแรงสั่นสะเทือน ทำหน้าที่ส่งแรงม้าจากเครื่องยนต์ สู่พื้นผิวถนนและยึดเกาะถนนในการเข้าโค้ง ยางรถยนต์ จะมีประโยชน์และให้สมรรถนะสูงสุดนั้นขึ้นอยู่กับ การใช้งาน และการดูแลบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง ทำให้ผู้ใช้รถมีความปลอดภัย และประหยัดค่าใช้จ่าย อีกด้วย การตรวจยางในชั้นพื้นฐานที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ก็คือ เรื่องการวัดลมยางหรือการสูบลมยาง สาเหตุที่ต้องวัด หรือสูบ หรือเติมลมยางเข้าไปเนื่องจาก ยางรถยนต์ของรถแต่ละประเภท แรงดันของลมในยาง จะไม่เท่ากันซึ่งต้องดูถึงสภาพของรถที่ท่านใช้ด้วย อย่างเช่น รถยนต์นั่งต้องการความนิ่มนวลในการขับขี่ ส่วนยางของรถบรรทุก ต้องมีความสามารถในการรับ น้ำหนักบรรทุก นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงขนาดของยาง และจำนวนชั้นของผ้าใบ ถ้ายางที่มีจำนวนชั้นผ้าใบน้อย ถ้าเติมลมมากไป อาจจะทำให้ยางระเบิดขึ้นมาได้

ข้อควรปฏิบัติบำรุงรักษายางรถยนต์

1. ตรวจเช็คลมยางทั้ง 4 ล้อ อย่างน้อย อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
2. ควรสูบ หรือเติมลมยางมาตรฐานที่ทางโรงงานผู้ผลิตกำหนด (ขณะที่ยางเย็น)
3. การเพิ่ม หรือลดลงยางให้มีความสัมพันธ์กับน้ำหนักบรรทุก
4. เมื่อขับรถออกต่างจังหวัด หรือใช้ความเร็วสูง ควรเพิ่มลมยางมากกว่าปกติ 3-5 ปอนด์/ตารางนิ้ว
5. อย่าลดลมยางในขณะที่ฝนตกหรือวิ่งบนถนนเปียก เพราะอาจจะทำให้ การยึดเกาะถนนและประสิทธิภาพการรีดน้ำของดอกยางลดลงด้วย

เชื้อเพลิงเครื่องดีเซล


สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนมาก หรือ เกือบทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศไทย สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล จะมีให้เลือกอยู่ 2 ชนิด (ตามหัวจ่าย) มีดังนี้

1.น้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลหมุนเร็ว
2.น้ำมันเชื้อเพลิงไบโอดีเซล
ซึ่งทั้ง 2 ชนิด มีอัตราส่วนผสมของ เมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันไม่เท่ากัน แต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของรัฐบาล สำหรับ น้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลหมุนเร็ว ปัจจุบันทางรัฐบาลให้มีการผสม เมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันไม่ต่ำกว่า 1.5% แต่ต้องไม่เกิน 2% ซึ่งการที่กำหนดไว้อย่างนี้ ถือว่าเป็นการช่วยชาติในเรื่องของการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้มีราคาจำหน่ายที่ถูกลง พร้อมทั้งช่วยเหลือเกษตรกรอีกด้วย เช่นเดียวกันกับน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน ที่เรียกว่า “แก๊สโซฮอล์” ที่นำพืชผลทางการเกษตรมาผลิตเป็นเอทานอล ผสมลงในน้ำมันเบนซินอ๊อกเทนต่างๆ ดังที่ใช้กันอยู่ ณ ปัจจุบันนั่นเอง แต่น้ำมันดีเซลหมุนเร็วนั้น ที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ยังคงใช้หัวจ่ายว่าดีเซลเหมือนเดิม

ในด้านน้ำมันเชื้อเพลิงไบโอดีเซลก็คล้ายกับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว แต่มีการผสมของเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมัน ไม่ต่ำกว่า 4% แต่ไม่เกิน 5% ซึ่งเชื้อเพลิงประเภทนี้ จะมีราคาถูกกว่าดีเซลหมุนเร็ว ไม่ว่าการเลือกใช้งานแบบใด จะมีอัตราสิ้นเปลืองใกล้เคียงกัน ยกเว้นในเรื่องของราคาจำหน่าย ส่วนการเลือกใช้ก็แล้วแต่ท่านเจ้าของรถที่จะเติมประเภทไหน เพียงแค่บอกเจ้าหน้าที่บริการของปั้มน้ำมันนั้นๆ แต่ก็มีหลายสถานีที่ยังคงมีหัวจ่ายดีเซลเพียงแค่อย่างเดียว ซึ่งไม่ผิดกฎบังคับแต่อย่างใด การเข้าเติมคงจะต้องให้ตรงช่อง หากว่าสถานีนั้น มีเชื้อเพลิงเครื่องดีเซลหลายประเภท ถ้าเข้าเติมแล้วบอกว่า “ดีเซลเต็มถัง” อาจจะมีการผิดพลาดได้ ดังนั้น ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ดี ว่าต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างไร ก็มีบ่อยครั้งที่เครื่องยนต์ดีเซลเติมเบนซิน หรือ เครื่องยนต์เบนซินเติมดีเซล เป็นเพราะการเข้าจอดตรงช่องเติม ทำให้เข้าใจว่า เติมน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทนั้น นั่นเอง

แต่ยังมีน้ำมันดีเซลอีกประเภทหนึ่ง คือ ไบโอดีเซลชุมชน หรือ ไบโอดีเซล สำหรับเครื่องยนต์ทางการเกษตร ซึ่งเชื้อเพลิงประเภทนี้ไม่สามารถใช้ในรถยนต์ได้ จะใช้กับเครื่องยนต์ทางการเกษตรเท่านั้น โดยทางรัฐบาลได้กำหนด คุณสมบัติของเชื้อเพลิงประเภทนี้ไว้อยู่แล้ว

ส่วนทางด้านไบโอดีเซล B5 นั้น มีบางสถานีได้มีการจำหน่ายกันบ้างแล้ว แต่ทางรัฐบาลมี นโยบายว่า จะให้มีการจำหน่ายในปี 2554 ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์กำลังอยู่ในขั้นตอนทดสอบรถยนต์ดีเซล, เพื่อรองรับเชื้อเพลิง B5 หากผู้ที่จะใช้เชื้อเพลิงประเภทนี้ขอให้ศึกษาให้ดีก่อนก็จะส่งผลดีแก่รถยนต์ของท่าน หากยังไม่มีการประกาศเป็นทางการของผู้ผลิตรถยนต์ ไม่ควรเติมใช้งานอย่างเด็ดขาด ขอย้ำ อย่างเด็ดขาด เพราะส่งผลโดยตรงต่อเครื่องยนต์ของรถยนต์ ดังนั้น ไม่ควรเติม ถึงแม้ว่าจะมีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่าเชื้อเพลิงดีเซลหมุนเร็วก็ตาม

มีบางท่านได้ทดลองใช้ B5 แล้ว พบว่า ไม่มีผลใดๆ เลย ใช้ได้เหมือนปกติ บางท่านก็บอกว่า อัตราเร่งสู้ดีเซลหมุนเร็วไม่ได้ บางท่านก็บอกว่าไม่ใช้ดีกว่า เพราะกลัวว่าไม่เห็นผลตอนนี้ แต่อาจจะออกอาการในอนาคต ซึ่งก็ยังไม่มีใครกล้าฟันธงว่า สามารถใช้ได้หรือไม่ คงต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ดังนั้น ในการเลือกใช้ ขอให้พิจารณาให้ดี เพื่อรถยนต์ของท่านมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ

ใช้หัวเชื้อน้ำมันเครื่องดีหรือไม่


การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องในแต่ละครั้งจะต้องเป็นไปตามที่ระบุไว้อยู่ในคู่มือการใช้รถ เพื่อให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์คงทนสามารถที่จะใช้งานได้ยาวนาน ช่วยประหยัดด้านค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และความพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งที่ได้นั้นเป็นสิ่งที่เจ้าของรถต้องการอยู่แล้ว เพราะหัวใจของรถยนต์คือเครื่องยนต์ และทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก็ควรจะเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องด้วย เพียงเท่านี้เครื่องยนต์ของท่านที่มีการหล่อลื่นโดยน้ำมันเครื่องนั้น จะคงทนและทำงานได้อย่างสมบูรณ์

ในการเลือกใช้หรือเลือกเติมหัวเชื้อน้ำมันเครื่องไม่มีข้อกำหนดที่ตายตัว หากต้องการเติมหัวเชื้อน้ำมันเครื่อง ท่านย่อมมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นของการซื้อเติมใส่ ซึ่งมีราคาพอประมาณ ในการเติมใส่นั้นในจำนวนที่พอเหมาะ เครื่องยนต์ก็ยังพอรับได้ ถึงแม้ว่าเครื่องยนต์ไม่มีความต้องการก็ตาม แต่ท่านจะได้ความรู้สึกว่าเครื่องยนต์ของท่านเวลาเครื่องยนต์ติดแล้ว จะมีเสียงการทำงานที่เงียบลง ตรงนี้ถือว่าเป็นส่วนที่ดี แต่ถ้ามีการเติมใส่อย่างไม่เหมาะสมมีจำนวนที่มากเกินไป ก็จะทำให้เครื่องยนต์มีปัญหาได้เช่นกัน

การเติมหัวเชื้อน้ำมันเครื่องย่อมทำให้น้ำมันเครื่องมีค่าความหนืดที่เพิ่มขึ้น ขออนุญาตอ้างอิงถึงน้ำมันเครื่องสักหน่อย เมื่อสมัยก่อนน้ำมันเครื่องยังไม่ถูกพัฒนา ยังไม่มีการเติมแต่งสารใดๆ เท่าที่ควร สังเกตได้ว่าจะมีความข้นใส รวมถึงความหนืดมาก ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนก่อนที่จะทำการติดเครื่องยนต์ แต่เมื่อเครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงขึ้นแล้ว จะมีความหนืดที่น้อยลง เพราะเป็นผลมาจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นนั่นเอง แต่พอน้ำมันเครื่องได้ถูกพัฒนามาเรื่อย จะเห็นได้ว่าจะมีค่าความหนืด รวมถึงความข้นใสน้อยลง แต่ประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าเครื่องยนต์จะเย็นจะเย็นหรือแม้แต่อุณหภูมิสูง การเปลี่ยนแปลงสภาพของน้ำมันเครื่องสมัยใหม่นั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงน้อยลง ไม่ว่ารถยนต์จะเป็นรุ่นเก่า ก็สามารถใช้เครื่องยนต์สมัยใหม่ได้ ยิ่งเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ยิ่งไปกันใหญ่ ขนาดรถแข่งส่วนใหญ่ ก็เลือกใช้นำมันเครื่องสังเคราะห์เพียงอย่างเดียว

สำหรับผู้ใช้รถยนต์และผู้รักรถยนต์ทุกท่าน ขอให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนดและเลือกใช้เกรดของน้ำมันเครื่อง ตรงตามคู่มือที่ระบุไว้เท่านั้น เครื่องยนต์ของท่านก็จะสามารถใช้งานได้ยาวนาน สังเกตไหมครับว่า บริษัท ผู้ผลิตรถยนต์ ก็มิได้กล่าวถึงหัวเชื้อน้ำเครื่องแต่อย่างใด จากสำรวจของผู้เขียน โดยการสอบถามจากรถแท็กซี่(โตโยต้า) เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า รถแท็กซี่วิ่งใช้งานเกือบ 24 ชั่วโมง เต็มเวลา ก็มิได้เติมหัวเชื้อน้ำมันเครื่อง (อาจจะถามไม่ถูกคนก็เป็นได้) ดังนั้น การที่จะใช้หัวเชื้อน้ำมันเครื่องหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ใช้รถยนต์เองและความต้องการขณะนั้น ว่าเหมาะในการใช้อย่างไร เพื่ออะไร ผู้ที่มีรถยนต์ถูกใช้งานมานานแล้วนั้น ขอแนะนำให้โอเวอร์ฮอล (ยกเครื่อง) เพื่อทำการฟิตเครื่องสัก 1 ครั้ง ในกรณีรถยนต์ของท่านโทรมจริงๆ แล้วยังไม่ทำการขายรถออกไป ให้ทำการซ่อมใหญ่ ถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง อย่างน้อยก็ดีต่อรถยนต์ของท่าน และการใช้งานของท่านอีกด้วยครับ หากต้องการใช้หัวเชื้อน้ำมันเครื่องจริงๆ ให้สังเกตประเภท, ชนิด, คุณสมบัติ, ค่ากำหนดต่างๆ ก็จะช่วยให้ใช้งานได้ตรงตามความต้องการของท่าน

การสังเกตระบบปรับอากาศ (แอร์รถยนต์)


ในรถยนต์โตโยต้า ระบบปรับอากาศ (แอร์) ถือว่ายอดเยี่ยมมาก หากไม่มีการขัดข้องใด ๆ เกิดขึ้น ผู้ใช้รถยนต์โตโยต้าส่วนใหญ่ยอมรับตรงจุดนี้ว่าดี จริง ๆ ระบบปรับอากาศ (แอร์) จำเป็นมากสำหรับรถยนต์ที่ใช้ในเมืองไทย เพราะประเทศไทยตลอดทั้งปี จะมีอากาศร้อนถึงร้อนมาก หลายคนต่างบ่นออกมาว่ามีอากาศที่ร้อน กับ โ-ตรร้อน ดังนั้น นอกจากตัวรถยนต์จะต้องพร้อมใช้งานแล้ว ระบบปรับอากาศ ( แอร์ ) ก็เช่นเดียวกันจะต้องพร้อมใช้งานตลอดเวลาและที่สำคัญจะต้องทำงานได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน สมัยก่อนรถยนต์โตโยต้าบางรุ่น จะถูกติดตั้งระบบทำความร้อนมาด้วยพร้อมกับตัวรถยนต์ ( ไม่รู้ให้มาทำไม ) หากเปิดใช้งานลองคิดดูว่า เมืองไทยเมืองร้อน แล้วยังเปิดระบบทำความร้อนอีก แต่ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่า ไม่มีใครเปิดอย่างแน่นอน ยกเว้นเปิดโดยไม่ตั้งใจ

คราวนี้กลับมาเรื่องระบบปรับอากาศ ( แอร์ ) ขึ้นชื่อว่าแอร์ จะต้องทำความเย็นแน่นอน ระบบทำความเย็นก็เหมือนกับของใช้อื่น ๆ ที่ถูกใช้งานย่อมมีการสึกหรอ ความเสียหาย ความทรุดโทรม เป็นต้น การบำรุงรักษา การตรวจสอบ การซ่อมแซม ถือเป็นเรื่องที่จำเป็น น้อยมากที่เจ้าของรถระบบเป็นปกติดี แต่อยากให้ทำความสะอาดทั้งระบบแอร์เพราะบางท่านคิดว่าแอร์ในรถยนต์ก็เหมือนกับแอร์บ้าน จะต้องทำความสะอาดบ่อยจะช่วยให้ระบบปรับอากาศมีการสึกหรอน้อยลง และประสิทธิภาพคงเดิม ถ้าทุกท่านคิดอย่างนี้ ถือว่าดีมากครับ ปัจจุบันนี้มีการทำความสะอาดตู้แอร์ ( คอยล์แอร์ ) ชนิดไม่ต้องถอดตู้ ไว้บริการแล้ว ค่าบริการก็ไม่แพงมากนัก ผิดกับการถอดตู้แอร์ออกมา ต้องใช้เวลามากแล้วยังมีราคาค่าใช้จ่ายที่สูงอีก แต่สิ่งที่ได้คือ ทั้งระบบจะมีความสะอาดเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ถึงอย่างไร หากเจ้าของรถมีความเอาใจใส่ต่อระบบปรับอากาศเป็นต้นว่า รักษาความสะอาดภายในรถยนต์, สังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้น จากการใช้งานที่ปกติเพราะปัญหาที่ร้ายแรงอาจจะมาจากสาเหตุเล็ก ๆ ก็เป็นได้จริงอยู่ว่าระบบปรับอากาศไม่ทำงาน ก็สามารถขับรถยนต์ได้อยู่แล้ว ช่วงเวลาตอนเช้า ก็ยังพอรับได้ แต่ถ้าเป็นช่วงเวลากลางวันและช่วงเวลาบ่าย ลองคิดดูว่า เหมือนตู้อบเคลื่อนที่อย่างใดอย่างนั้นเลย เหมือนกับโฆษณาฟิล์มกรองแสงยี่ห้อหนึ่งที่สามารถทำไก่ย่างได้ ดั้งนั้น ผู้ขับขี่หากมีการสังเกตอาการเบื้องต้นได้ ก็จะเป็นผลดีต่อระบบรถยนต์ของท่านและระบบปรับอากาศอย่างแน่นอน ดังตัวอย่างที่คอยสังเกตดังต่อไปนี้

1.ปริมาณความเย็นที่ออกมาจากช่องแอร์เหมือนเดิมหรือไม จากที่ทำการเปิดความเย็นเท่าเดิมและแรงลมเทาเดิม แต่ก็มีปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นอยู่ ๆ แรงดันแอร์ลดลงเป็นไปได้ว่าตู้แอร์เป็นน้ำแข็งเนื่องจากตัวควบคุมอุณหภูมิไม่ตัดการทำงานขณะความเย็นถึงระดับกำหนด ดังนั้น ถ้าเป็นเช่นนี้ไห้ลดปริมาณความเย็นลงหรือทำการปิดแอร์ชั่วคราวก่อน ก็เป็นการแก้ไขเบื้องต้นได้หลังจากนั้นมีเวลาก็นำรถเข้าซ่อมต่อไป
2.ความร้อนเครื่องยนต์ขึ้นสูง ( สังเกตจากมาตรวัด ) บางคนสังเกตว่าส่งผลถึงระบบแอร์ด้วย หรือ เกิดขึ้นได้แน่นอน หากเครื่องยนต์มีความร้อนเพิ่มมากขึ้นไม่ว่ามาจากชิ้นส่วนใดก็ตาม เช่นหม้อน้ำอุดตัน ไม่ว่าจะภายในหรือภายนอกหม้อน้ำก็ตาม , พัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน หรือทำงานผิดปกติ เพราะระบบปรับอากาศจะมีการควบแน่นด้อยลง คือ การระบายความร้อนที่รังผึ้งหม้อน้ำ และแผงคอนแดนเซอร์แอร์ไม่ดี เลยทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นได้ นอกจากนั้น การรั่วของน้ำในระบบหล่อเย็นก็เช่นกัน ผลกระทบต่อเครื่องยนต์โดยตรง แล้วยังส่งผลไปยังแอร์ได้เหมือนกัน ดังนั้น ควรสังเกตมาตรวัดควบคู่กันไปก็จะได้ประโยชน์หลายด้านครับ

3.เปิดระบบปรับอากาศแล้วมีเสียงดังเกิดขึ้น บริเวณ ตู้แอร์ หรือ โบว์เวอร์แอร์ เลียงดังกล่าวอาจแสดงว่ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งติดอยู่บริเวณนั้น ไม่ว่าจะเป็น ใบไม้ , ใบไผ่ , ใบมะขาม เป็นต้น ที่เป็นเช่นนี้เพราะ มีการเปิดอากาศภายนอกเข้ามา ( ทางหน้าต่าง ) ดังนั้นสิ่งเหล่านั้นจึงหลุดเข้ามาได้ ไม่เพียงแต่ใบไม้ พวกถุงพลาสติก, กระดาษชำระ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวได้เช่นกัน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ หากติดอยู่บริเวณโบว์เวอร์ ก็แล้วไป ยังเอาออกหรือทำความสะอาดได้โดยง่าย แต่ถ้าหลุดไปถึงตู้แอร์ก็เป็นเรื่องใหญ่เลยเพราะนอกจากไปอุดตันแล้วยังสามารถทำให้เกิดเชื้อโรคได้โดยง่าย ไหนจะแอร์ไม่เย็นอีกดังนั้น เหตุการณ์ลักษณะนี้ต้องเริ่มต้นจากผู้ขับขี่ เช่น ไม่เปิดช่องทางอากาศภายนอกเข้า เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่ามีอะไรอยู่ตรงหน้าต่างแอร์บ้าง ไม่นำวัสดุที่สามารถถูกดูดโดยโบเวอร์แอร์ได้ไว้บริเวณนั้น เป็นต้น


ตามที่กล่าวมาทั้ง 3 อย่างนั้น เป็นการสังเกตได้โดยง่ายของเจ้าของรถ ยังมีสิ่งอื่น ๆ อีกที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถสังเกตได้โดยง่าย ดังนั้น วิธีที่แนะนำมาทุก ๆ ท่านนำไปปฏิบัติได้อย่างแน่นอนครับ นอกจากนั้นการสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วแจ้งอาการตรงประเด็นเจ้าหน้าที่ก็จะทำการแก้ไข หรือซ่อมแซมได้ตรงจุดและรวดเร็วอีกด้วย ผลที่ตามมา รถยนต์ของท่านก็ใช้งานได้เร็วและดีนั้นเอง ท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขและสุขภาพแข็งแรงครับ

เทคโนโลยีจากสนามแข่ง สู่ รถยนต์ของคุณ


สำหรับผู้ที่ต้องการ การตอบสนองในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม เปี่ยมประสิทธิภาพ
เครื่องยนต์ได้รับกำลังจากพลังงานในการจุดระเบิดของส่วนผสมระหว่าง น้ำมันเชื้อเพลิง กับ อากาศ ถ้าหัวเทียนไม่สามารถที่จะทำให้เกิดการจุดระเบิดที่เหมาะสมรถยนต์ก็ไม่สามารถสร้างอัตราเร่งได้ ดังนั้น หัวเทียนจึงเป็นส่วนหลักของเครื่องยนต์ และเป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของรถยนต์
สำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ โตโยต้า เครื่องยนต์เบนซิน การนำรถเข้าเช็คที่ศูนย์บริการตามระยะทางที่กำหนด จะมีการเปลี่ยนอะไหล่ชิ้นนั้นๆ ตามคู่มือการใช้รถกำหนดไว้ บางชิ้นส่วนถ้ามีการเปลี่ยนเพื่อให้ดีขึ้น ก็จะทำให้ประสิทธิภาพของรถยนต์ดีขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน บัดนี้ หัวเทียนประสิทธิภาพสูง ได้กำเนิดขึ้นแล้ว “อิริเดียม ทัฟ (IRIDIUM TOUGH) ”
เป็นการปฏิวัติหัวเทียน อิริเดียม เร็วกว่า แรงกว่า ด้วยแกนกลางอิริเดียม ขนาด 0.4 มิลลิเมตร เทคโนโลยีนำมาจากสุดยอดมอเตอร์สปอร์ต อัตราเร่งที่เหนือชั้น การเผาผลาญน้ำมันน้อยลงครั้งแรกในโลก สำหรับหัวเทียน อิริเดียม เราได้พัฒนาแกนกลาง อิริเดียมอัลลอยด์ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.4 มิลลิเมตร ซึ่งแกนกลางที่มีขนาดเล็ก ทำให้การจุดระเบิดที่แม่นยำ และมีกำลังมากขึ้น วัสดุผลิตจากอิริเดียมอัลลอยด์ เป็นโลหะที่มีค่าจุดหลอมเหลวสูง ขณะที่เขี้ยวหัวเทียนมีแผ่นแพลตตินั่ม เพื่อเพิ่มความคงทน เมื่อได้จับคู่กันจะทำให้ลดอัตราการสึกกร่อน รักษาประสิทธิภาพการจุดระเบิดตลอดอายุการใช้งานที่ยาวนาน (100,000 กิโลเมตร, หนึ่งแสนกิโลเมตร) ในด้านของราคาไม่แพงอย่างที่คิดครับ

อะไหล่น่ารู้เกี่ยวกันสายพานเซอร์เพนไทม์ ( SERPENTINE BELT DRIVE )

ในสมัยก่อนนั้นเราจะเห็นสายพานหน้าเครื่องยนต์มีอยู่ด้วยกันหลายเส้น เช่น สายพานเครื่อง,สายพานแอร์ และสายพานเพาเวอร์ ซึ่งจะต้องมีการปรับตั้งสายพานกันอยู่เรื่อยๆ ส่วนอายุของการใช้งานนั้นก็จะสั้น แต่พอมาถึงในสมัยนี้สายพานหน้าเครื่องยนต์ก็จะเปลี่ยนเป็นสายพานขับแบบเส้นเดียว หรือที่เรียกว่าสายพานเซอร์เพนไทม์ (Serpentine Belt Drive) ซึ่งสายพานเซอร์เพนไทม์จะถูกออกแบบให้ใช้ขับเคลื่อนทั้งอัลเทอร์เนเตอร์, คอมเพรสเซอร์แอร์ และปั๊มน้ำ โดยการใช้สายพานเส้นเดียวเป็นตัวขับ

ผลดีสำหรับการใช้สายพานแบบเส้นเดียว คือทำให้การทำงานไม่ซับซ้อนบวกกับการที่มีลูกรอกที่ปรับตั้งสายพานอัตโนมัติ ซึ่งตัวลูกรอกนี้จะไปบังคับให้สายพานอยู่ในสภาวะที่ไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไปตลอดการใช้งาน สภาพการทำงานแบบพอดีดังกล่าวนั้นก็จะเป็นผลทำให้สายพานมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่าสายพานแบบเก่า

และที่สำคัญเมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนสายพานเราก็จะเปลี่ยนเพียงแค่เส้นเดียวเท่านั้น ซึ่งจะช่วยทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วยังช่วยประหยัดเวลาในการเปลี่ยนอีกด้วย

แบตเตอรี่ (Betterry)


แบตเตอรี่ เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้า ส่วนใหญ่ใช้ในการสตาร์ทเครื่องยนต์ และจ่ายไฟให้กับระบบไฟฟ้าขณะเครื่องยนต์

ทำงาน..... แบตเตอรี่ถูกจ่ายไฟออกไปแล้วก็จะสามารถประจุไฟซ้ำกลับเข้าใหม่ โดยอัตเทอร์เนเตอร์ (ไดชาร์ท) อย่างไรก็ตามเมื่อแบตเตอรี่ถูกใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน แม้ว่าจะได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพที่ดีก็ตาม จำนวนกระแสไฟฟ้าที่สามารถเก็บสะสมจะด้อยลงเรื่อยๆ และจะเสื่อมสภาพไปในที่สุด อายุของแบตเตอรี่จะแปรเปลี่ยนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการใช้งานของแบตเตอรี่เป็นสำคัญ

การใช้งานทั่วไปอยู่ราวๆ 2-4 ปี อาการที่เห็นอย่างชัดแจน คือ เมื่อทำการสตาร์ทเครื่องยนต์หมุดช้า หรือ เครื่องยนต์ไม่หมุนเลย อาจเป็น ไปได้ว่าแบตเตอรี่น่าจะมีปัญหา เบื้องต้นให้สังเกตขั้วบวกและขั้วลบของแบตเตอรี่หลวมคลอนหรือไม่ ลำดับต่อมาให้ดูระดับของน้ำยาอิเล็คโทรไลท์ (น้ำกลั่น) ว่ามีปริมาณน้ำยาอยู่ในระดับที่กำหนดหรือไม่ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่าขั้ว และน้ำกลั่นปกติ ก็แสดงว่า “แบตเตอรี่หมดอายุ”
สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่อายุสั้นก่อนเวลาอันควร

1.รถยนต์ใช้งานตอนกลางคืนอย่างเดียวเท่านั้น (แบตเตอรี่ถูกใช้งานหนัก)
2. รถยนต์ที่จอด หรือ ติดเครื่องยนต์เดินเบาเป็นระยะเวลานานๆ (ไฟจะชาร์ทกลับเข้าแบตเตอรี่น้อย)
3.สตาร์ทเครื่องยนต์บ่อยครั้ง ขณะที่ใช้งานต่อวัน (แบตเตอรี่จ่ายไฟมาก)
4.ระดับของน้ำยาอิเล็คโทรไลท์ ไม่อยู่ในระดับที่กำหนดแบตเตอรี่จะเสื่อ
5.สภาพได้ในกรณีไม่ได้ถูกใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน พลังงานที่เก็บอยู่จะค่อยๆ ลดลง
เหตุผลที่ทำให้พลังงานลดลงได้

•ปฎิกิริยาทางเคมีเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ระหว่างแผ่นธาตุบวกและลบในแบตเตอรี่ จะคลายประจุด้วยตัวมันเอง
•กำลังไฟจะสิ้นเปลืองไปกับนาฬิกา ชุดกันขโมยและอุปกรณ์อื่นๆ แม้ว่ารถยนต์ไม่ได้ใช้งานก็ตาม
ข้อแนะนำ
ถ้ารถของท่านไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลานานๆ ควรติดเครื่องยนต์บ้างเป็นระยะเวลาประมาณ 5-10 นาที เพื่อชาร์ทแบตเตอรี่

แก๊สโซฮอล์ 95 (GASSOHOL)


คำว่า “แก๊สโซฮอล์” มาจากคำว่า GASSOLINE (แก๊สโซลีน) บวกกับคำว่า ALGOHOL (แอลกอฮอล์) ซึ่งนำ 2 คำแรกของแก๊สโซลีน+คำสุดท้ายของแอลกอฮอล์ ก็จะได้ แก๊สโซฮอล์ (GASSOHOL)

สำหรับประเทศไทย ณ ปัจจุบัน (พ.ศ.2550) ได้ใช้แก๊สโซฮอล์ 95 (E10) ได้มาจากใช้น้ำมันเบนซิน ออกเทน 91 (พิเศษ) จำนวน 90% ผสมกับ เอทานอล 10% จึงได้ E10 นั่นเอง อนาคตสำหรับประเทศไทยในปี พ.ศ.2551 จะมี E20 ใช้ในประเทศไทย หลายคนยังวิตกว่าสามารถใช้งานเหมือนออกเทน 95 หรือ 91 ได้หรือไม่ บางคนก็บอกว่าใช้แล้วไม่แตกต่าง บ้างก็ว่าแตกต่าง แต่อย่างน้อยก็มีข้อดีมากกว่าข้อเสียอยู่ดี เช่น

1.ลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ
2.ลดการขาดดุลการค้า ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ
3.สนับสนุน และใช้ประโยชน์ต่อพืชผลทางการเกษตร
4.ประหยัดเงินค่าเติมน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะแก๊สโซฮอล์ ถูกกว่า (ประมาณ 4 บาท/ลิตร ธันวาคม 2550)
5.ใช้แล้วช่วยลดมลพิษไอเสียในอากาศ
6.ช่วยเรื่องโลกร้อน ลดก๊าซเรือนกระจก
7.สามารถปลูกทดแทนได้ อย่างต่อเนื่องไม่มีวันหมด
ข้อดีที่กล่าวมานั้น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ และสิ่งแวดล้อม หลายๆประเทศในโลก ได้ใช้แก๊สโซฮอล์ 95 (E10) ได้แก่ สหภาพยุโรป, อินเดีย, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, แคนนาดา, โคลัมเบีย, ปารากวัย, เปรู, แอฟฟิกา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และประเทศไทย ส่วนประเทศที่ใช้เอทานอล มากกว่า 10% ได้แก่ บราซิล, สหรัฐอเมริกา, แคนนาดา และสวีเดน

ประเทศที่มีการยกเลิกสารตะกั่วในน้ำมันเบนซิน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้สารเพิ่มค่าออกเทนชนิดอื่นมาทดแทน ซึ่งสารที่สามารถนำมาใช้ได้ และไม่มีผลกระทบต่อสมรรถนะของเครื่องยนต์ คือ สาร MTBE และ เอทานอล บริษัท รถยนต์ได้ทำการทดสอบแล้ว ไม่ส่งผลกระทบต่อท่อยาง หรือ พลาสติก ได้มีการพัฒนาวัสดุที่ใช้ในระบบฉีดเชื้อเพลิงให้สามารถทนต่อสาร MTBE และ เอทานอลได้ ดังนั้นผู้ผลิตรถยนต์จึงได้ให้ความมั่นใจว่า รถยนต์ที่ผลิตมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1995 เป็นต้นมา สามารถใช้น้ำมันเบนซินที่ผสมเอทานอลได้ ในประเทศไทยได้ใช้น้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 95 (E10) มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2544

ข้อมูล การทดสอบแก๊สโซฮอล์ 95 เปรียบเทียบกับ น้ำมันเบนซิน 95 ของ ปตท. ดังนี้
1. จากการประเมินด้านสมรรถนะและมลพิษทางไอเสีย

•มลพิษไอเสีย, คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ลดลงประมาณ 20%
•อัตราการสิ้นเปลืองของน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1-2 %
•กำลังรถยนต์ และอัตราเร่งไม่แตกต่างกัน
•การเร่งแซง แก๊สโซฮอล์ อาจจะดีกว่าเบนซินเล็กน้อย;
2. ทดสอบโดยการขับภาคสนาม ระยะ 100,000 กิโลเมตร

•ความสะอาดของเครื่องยนต์อยู่ในเกณฑ์ดี
•ผลการวิเคราะห์ของน้ำมันเครื่องใช้งานทุกๆ 10,000 กิโลเมตร อยู่ในเกณฑ์ปกติ
•การประเมินชิ้นส่วนเครื่องยนต์ หลังวิ่งครบ 100,000 กิโลเมตร ไม่พบความผิดปกติด้านการสึกหรอของเครื่องยนต์ เช่น หัวฉีด, ท่อยาง, โอริง และพลาสติก
และนี่ก็เป็นผลของการทดสอบของ บริษัท ปตท. หลังจากการใช้ แก๊สโซฮอล์ 95 (E10) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แก๊สโซฮอล์ 95 (E10) ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง

สำหรับโครงการ แก๊สโซฮอล์ 95 (E20) ที่จะมีใช้ในประเทศไทยถือว่าเป็นเรื่องใหม่ ขนาดปัจจุบันที่มีจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 95 (E10) ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่พอสมควร การที่เรียกว่า E20 หมายความว่าใช้น้ำมันเบนซิน 91 พิเศษ จำนวน 80% ผสมกับเอทานอล จำนวน 20% = 100% จึงได้ E20 นั่นเอง ตามที่มีข่าวทางการประกาศว่า ผู้ผลิตรถยนต์รายใด สามารถรองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E20 ได้ สามารถลดภาษีอีก 5% รถยนต์หลายยี่ห้อก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงก็จะต้องเตรียมความพร้อมไปพร้อมๆ กัน ก็ต้องรอต่อไปว่าเครื่องยนต์เก่า สามารถรองรับกับ E20 ได้หรือไม่ คงจะต้องมีการใช้งานหรือทดสอบระยะหนึ่ง ว่าจะเป็นอย่างไร ดังนั้น คงต้องรอผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องประกาศอย่างเป็นทางการ

กรองอากาศ ของแท้ แน่นอนกว่า

กรองอากาศ หรือ ไส้กรองอากาศ คือ ชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ ที่ช่วยในการกรองฝุ่นที่อยู่ในอากาศให้มีความสะอาดมากขึ้น มีหลายคนยังเข้าใจว่า มันก็คือ ชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ที่ดักฝุ่นเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว กรองอากาศหรือไส้กรองอากาศที่เป็นของแท้ (ของแท้ขอย้ำอีกครั้ง) ให้มากกว่าที่คิด ดังนั้น มาทำความเข้าใจกันเลย ครับ
ข้อแนะนำ

การที่จะใช้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุดในการเผาไหม้ จำเป็นอย่างยิ่งจะ
ต้องมีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งจะได้มาเต็มกำลังงาน ทั้งแรงม้าและแรง
บิด ดังนั้น กรองอากาศมีหน้าที่สำคัญมาต่อขบวนการดังกล่าว


กรองอากาศ หรือ ไส้กรองอากาศที่เป็นของแท้ ทำมาจากวัสดุคุณภาพสูงตามมาตรฐานของผู้ผลิตรถยนต์กำหนด เพราะมิฉะนั้นจะส่งผลถึงรถยนต์ของเขาเองและลูกค้าด้วย ดังนั้น จึงต้องมีการผลิตอย่างเข้มงวด ถึงแม้จะมีราคาสูง แต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในการทำงาน ส่วนของลอกเลียนแบบหรือของเทียมนั้น ทำมาจากวัสดุคุณภาพต่ำ, กรองฝุ่นละอองได้น้อย ไม่สามารถลดความชื้นในอากาศได้ อัตราเสี่ยงต่อเครื่องยนต์มีปัญหาค่อนข้างสูง สังเกตได้จากราคาจำหน่ายถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด
หน้าที่ของกรองอากาศนั้น สำคัญไฉน
- กรองฝุ่นละออง ในอากาศให้มีเฉพาะอากาศที่สะอาดเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ เพื่อการเผาไหม้ที่สมบูรณ์
- ลดเสียงดังของอากาศที่ไหลเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ทำให้เครื่องยนต์มีเสียงเงียบ
- กรองความชื้นในอากาศ เพราะในบรรยากาศ จะมีไอน้ำปะปนอยู่ เพราะฉะนั้นจะต้องทำให้มีเฉพาะอากาศเท่านั้นไหลเข้าห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์
- ไส้กรองอากาศของแท้ จะทำให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งเพิ่มขึ้น สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยลง
- ไส้กรองอากาศของเทียม จะส่งผลให้เครื่องยนต์มีการสึกหรอสูง การบำรุงรักษาก็จะสูงตามไปด้วย เมื่อเครื่องยนต์มีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ก็จะทำให้คุณขับขี่รถยนต์ด้วยความสบายใจ เพราะว่า หัวใจของรถยนต์ คือ “เครื่องยนต์” เมื่อเป็นเช่นนี้ ต้องถามตนเองว่า จะเลือกใช้กรองอากาศประเภทใด แต่สำหรับผู้เขียน ใช้ของแท้แน่นอนครับ
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved