Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

ยานยนต์อุตสาหกรรม | ระบบรักษาเสถียรภาพขณะขับเคลื่อน(SAS)


ระบบรักษาเสถียรภาพขณะขับเคลื่อน(SAS)
การควบคุมเสายกขณะขับเคลื่อน
                การควบคุมเสายกขณะขับเคลื่อนเป็นฟังก์ชั่นที่ช่วยรักษาเสถียรภาพขณะกำลังยกหรือเอียงเสา อันประกอบไปด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ ซึ่งช่วยรักษาเสถียรภาพและช่วยให้เสาทำงานได้เร็วและง่ายขึ้นดังต่อไปนี้ เช่น (1) การควบคุมองศาการเอียงด้านหน้าของเสายกขณะขับเคลื่อน,  (2) การควบคุมความเร็วของการเอียงไปด้านหลังของเสายกขณะขับเคลื่อน,   (3) การเปลี่ยนระดับงายกอัตโนมัติ,  (4) ระบบล๊อคการยกอัตโนมัติ  และ (5) ระบบวาล์วกันการรั่วซึม
(1) การควบคุมองศาการเอียงด้านหน้าของเสายกขณะขับเคลื่อน
                ระบบนี้ช่วยจำกัดองศาการเอียงด้านหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้อัตโนมัติเมื่อทำการลำเลียงสิ่งของที่ความสูงมากๆ  (ความสูงมากกว่า 2,000 มม.)
                มีจุดที่ยานยนต์อุตสาหกรรมจะคว่ำไปด้านหน้าได้หากเสายกนั้นเอนไปด้านหน้า  เมื่อใช้เสายกความสูงมาก ๆ  บรรทุกของ น้ำหนักของสิ่งที่บรรทุก   กึ่งกลางศูนย์ถ่วงของสิ่งที่บรรทุก  และความสูงของเสายกที่ใช้ในการบรรทุกส่งผลให้รถคว่ำได้   ระบบการควบคุมองศาการเอียงด้านหน้าของเสายกขณะขับเคลื่อนจะจับความสูงของเสายก  และน้ำหนักของสิ่งที่บรรทุกไว้   และหยุดการเอียงของเสายกก่อนที่จะถึงจุดที่อาจทำให้ยานยนต์อุตสาหกรรมคว่ำไปด้านหน้าได้





(2) การควบคุมความเร็วของการเอียงด้านหลังของเสายกขณะขับเคลื่อน
                ความเร็วของการเอียงไปด้านหลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่ง  เมื่อทำการเอียงเสาไปด้านหลัง  ระบบการควบคุมความเร็วของการเอียงด้านหลังของเสายกขณะขับเคลื่อนควบคุมความเร็วการเอียงไปด้านหลัง  เมื่อเสายกต้องลำเลียงสิ่งของหนัก ๆ  โดยใช้ความสูงของเสามาก ๆ
                ในยานยนต์อุตสาหกรรมแบบเดิม  ความเร็วในการเอียงไปด้านหลังของเสายกนั้น จะใช้ระดับเดียวกันไม่ว่าจะใช้ความสูงของเสายกมากเพียงใดก็ตาม   นั่นหมายความว่า    ความเร็วที่แท้จริงที่เคลื่อนสิ่งของบรรทุกจะเพิ่มขึ้นเมื่อใช้ความสูงของเสายกที่มากขึ้น  (ทั้งนี้เนื่องจากใช้ระยะเวลาเท่ากันในระยะทางที่ยาวกว่า)  ระบบควบคุมความเร็วของการเอียงด้านหลังของเสายกขณะขับเคลื่อนจะลดความเร็วในการเอียงไปด้านหลังของเสายกลงเมื่อความสูงของเสายกมากกว่า 2,000 มม.  ผลที่ได้ก็คือ  จะเกิดแรงกระแทกนิดหน่อยเมื่อเสายกยกถึงตำแหน่งการเอียงไปด้านหลังสูงสุด อันเป็นการช่วยลดการร่วงของสิ่งที่บรรทุกได้





(3) การเปลี่ยนระดับงายกอัตโนมัติ
                ฟังก์ชั่นนี้ช่วยให้สอดงายกไปใต้พาเลทได้ง่ายกว่ามาก   โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ปฏิบัติงานที่ยังไม่มีประสบการณ์ เมื่อเสายกเอนไปด้านหลัง   ผู้ปฏิบัติงานเพียงแค่กดปุ่มบนคันโยกควบคุมการเอน เสายกก็จะกลับ
ไปอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากโดยอัตโนมัติ   หากไม่มีฟังก์ชั่นนี้   ผู้ปฏิบัติงานต้องโยกคันโยกควบคุมการเอนซ้ำแล้ว
ซ้ำอีกจนกว่างายกจะอยู่ในระดับที่ต้องการ






(4) ระบบอกการยกอัตโนมัติ
                ระบบบอกการยกอัตโนมัติช่วยป้องกันงายกไม่ให้เลื่อนลงมา  หากเครื่องไม่ได้ทำงาน  แม้ว่าคันโยกบังคับการยกจะทำงานก็ตาม  (พึงระลึกว่าคุณสามารถเลื่อนงายก ลงมา  เมื่อใดก็ตามสำหรับยานยนต์อุตสาหกรรมแบบเดิม)
                ความปลอดภัยในการใช้ยานยนต์อุตสาหกรรมขั้นพื้นฐานคือ เมื่อจอดยานยนต์อุตสาหกรรม ควรลดระดับงายกให้อยู่ในต่ำแหน่งต่ำสุดและให้เสายกเอนไปด้านหน้าจนจรดพื้น  บุคคลทั่วไปไม่ควรยืน  หรือลอดใต้งายก   กฎความปลอดภัยพื้นฐานเหล่านี้นั้นเป็นความรับผิดชอบของผู้ปฏิบัติงาน   แต่ความผิดพลาดต่าง ๆ  ก็อาจเกิดขึ้นได้
                ระบบบอกการยกอัตโนมัติ   เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดผลลัพธ์อันตรายต่าง ๆ  จากความผิดพลาดของมนุษย์ หากผู้ปฏิบัติงานไม่สามารถวางงายกให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้ก่อนดับเครื่องยนต์ ระบบบอกการยกอัตโนมัติช่วยป้องกันการทำงานของคันโยกควบคุมการยก   ไม่ให้งายกเคลื่อนที่แบบไม่ได้คาดคิดไว้ก่อนได้
(5) ระบบวาล์วกันการรั่วซึม
                แรงโน้มถ่วง   และการรั่วซึมภายในตามธรรมชาติของระบบไฮดรอลิก   จะทำให้งายกเลื่อนตกลงมาอย่างช้า ๆ  เอง หากงาอยู่ในตำแหน่งที่ถูกยกไว้  เมื่อเครื่องยนต์ดับการรั่วซึมนี้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับระบบไฮดรอลิก
ทุกประเภท    ซึ่งเกิดจากแรงดันที่ลดลงเรื่อย ๆ   ของน้ำมันไฮดรอลิกในสายไฮดรอลิก   ซึ่งอออยู่ที่ซีลของวาล์วเนื่องจากน้ำมันจะไหลย้อนกลับไปที่ถังน้ำมันไฮดรอลิกนั่นเอง  ระบบวาล์วกันการรั่วซึมช่วยลดการรั่วซึมภายในตามธรรมชาตินี้ได้ประมาณ 30 %
                พึงจำไว้ว่าจำเป็นต้องใช้ระบบนี้เมื่อผู้ปฏิบัติงาน ไม่สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัยขั้นพื้นฐานของยานยนต์อุตสาหกรรมที่กล่าวไว้ด้านบนได้   และปล่อยให้ยานยนต์อุตสาหกรรมอยู่ในตำแหน่งยกงาเท่านั้น





ระบบรักษาเสถียรภาพขณะขับเคลื่อน
ระบบประสานการทำงานของพวงมาลัยขณะขับเคลื่อน
                รถยกไฟฟ้าใช้ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฮโดรสถิตย์   พวงมาลัยพาวเวอร์ไฮโดรสถิต อีกประเภทหนึ่งมี
ชื่อเรียกว่า  ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฮโดรลิกเต็มขั้น หรือ Full Hydraulic Power Steering (FHPS) ดังที่ชื่อบอก ระบบนี้คือ   การออกแบบที่เป็นไฮดรอลิกอย่างเต็มรูปแบบ;   ดังนั้นจึงไม่มีการเชื่อมต่อด้วยกลไกใด ๆ  ทั้งสิ้น ในขณะที่ระบบนี้ให้ประโยชน์ต่าง ๆ  มากมาย   อย่างเช่น   สมรรถนะการหมุนพวงมาลัยที่องศาการหมุนสูงสุดขณะที่ยานยนต์อุตสาหกรรมหยุดเคลื่อนที่    แต่ระบบนี้ก็มีความไม่สะดวกที่สร้างความลำบากใจอย่างหนึ่ง   นั่นก็คือเมื่อเลี้ยวซ้ำ ความสัมพันธ์   ระหว่างตำแหน่งของขอบพวงมาลัย   และล้อบังคับเลี้ยวด้านหลังจะไม่อยู่ในต่ำแหน่งเดิม  ด้วยเหตุผลนี้เองผู้ปฏิบัติงาน   จึงไม่สามารถอิงพวงมาลัยหากต้องการขับเคลื่อนเป็นเส้นตรงได้





ข้อควรจำ:  อัตราบังคับเลี้ยวเสถียรคือ จำนวนที่ยางบังคับเลี้ยวด้านหลังสามารถเลี้ยวตามการหมุนของพวงมาลัยไป 
                  ยังตำแหน่งล๊อกสูงสุด 100% หมายถึง ยางหลังจะเลี้ยวด้วยองศาการเลี้ยวหักสูงสุดเมื่อพวงมาลัยถูกหมุน
                 ไปถึงตำแหน่งล๊อกสูงสุด มีรถยกรุ่นปัจจุบันประมาณ 80% ที่มีระบบบังคับเลี้ยวเสถียร














ยานยนต์อุตสาหกรรม | ระบบรักษาเสถียรภาพขณะขับเคลื่อน (SAS)

ระบบรักษาเสถียรภาพขณะขับเคลื่อน (SAS)
จุดประสงค์และฟังค์ชั่นต่างๆ ของระบบ SAS
                ระบบรักษาเสถียรภาพขณะขับเคลื่อน (SAS)  มักจะถูกเรียกว่า  ระบบในฝันของวิศวกรยานยนต์อุตสาหกรรม มันถูกใช้ครั้งแรกในมี 1998 ในซีรี่ย์ 7  อันโด่งดังระดับโลกของยานยนต์อุตสาหกรรม  ภายหลังระบบ SAS ถูกใช้ในซีรี่ย์ 7FB พลังไฟฟ้าและหลังจากนั้นกรอบความคิดของระบบนี้ก็ถูกใช้เพื่อพัฒนาการยึดเกาะและการควบคุมระบบเบรก (TBC) ซึ่งใช้ในยานยนต์อุตสาหกรรมแบบยืนซีรี่ย์ 7FBR
                กรอบความคิดต่าง ๆ  ที่ใช้ในระบบ SAS  นั้นมีความคล้ายคลึงกับระบบเบรกป้องกันการล๊อกตาย (ABS) และระบบการควบคุมเสถียรภาพของยานยนต์ (VSC)  ในหลาย ๆ ด้าน  จุดประสงค์ของระบบ SAS  ก็เพื่อให้ฟังก์
ชั่นการควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ   ซึ่งช่วยผู้ปฏิบัติงานรักษาช่วงเสถียรภาพของยานยนต์อุตสาหกรรม   ระบบ SAS ได้รับการออกแบบเพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุรถคว่ำ   และการทำสิ่งบรรทุกร่วงหล่น
                ระบบ SAS  ประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์และมอเตอร์ควบคุมต่าง ๆ   ที่ถูกเชื่อมต่อกับตัวควบคุม   (ไมโคร
คอมพิวเตอร์)  เซ็นเซอร์ต่าง ๆ   นี้จะแสดงสถานะของพื้นที่สำคัญ ๆ   ของการทำงานของยานยนต์อุตสาหกรรมและส่งข้อมูลนี้ไปยังตัวควบคุมซึ่งก็จะควบคุมการทำงานของตัวมอเตอร์ควบคุมทดแทนต่างๆ ที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของยานยนต์อุตสาหกรรมอีกทีหนึ่ง เป็นเรื่องสำคัญที่ควรจำไว้ว่าในขณะที่ระบบ SAS  สามารถช่วยลดอุบัติเหตุรถคว่ำ และการทำของตกหล่นที่อาจเกิดขึ้นได้   แต่ระบบนี้ก็ไม่สามารถทดแทนการทำงานที่ประมาทได้    ดังนั้นการทำงานด้วยความปลอดภัยจึงเป็นความรับผิดชอบของผู้ปฏิบัติงานเสมอ
สรุปสาระสำคัญของระบบควบคุมเสถียรภาพด้านหลังขณะขับเคลื่อน
                การรักษาเสถียรภาพเมื่อยานยนต์อุตสาหกรรมทำการเลี้ยวคือ   สิ่งที่ควรให้ความสำคัญ   ด้วยสาเหตุนี้เองจึงทำให้ยานยนต์อุตสาหกรรมพัฒนาระบบควบคุมเสถียรภาพด้านหลังในขณะขับเคลื่อน  ทฤษฎีต่าง ๆ    ที่อยู่เบื้องหลังเสถียรภาพของยานยนต์และการทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพด้านหลัง   ในขณะขับเคลื่อนได้ถูกแสดงไว้ด้านล่าง
                ระบบควบคุมเสถียรภาพด้านหลัง    ในขณะขับเคลื่อนใช้ข้อมูลที่ถูกส่งมาจาก   เซ็นเซอร์หลายตัว   เพื่อ
ประเมิน  ว่ายานยนต์อุตสาหกรรมกำลังตกอยู่ในสภาวะที่อาจเป็นอันตราย  อย่างเช่น  การแกว่งเอียงไปด้านหนึ่งในขณะที่เลี้ยวรถหรือเมื่อต้องทำการเร่งเครื่องเนื่องจากมีแรงดูดจากด้านข้างในขณะที่เลี้ยวรถ  เป็นต้น หากมีการประเมินว่ารถอาจตกอยู่ในสภาวะที่เป็นอันตราย  ระบบควบคุมเสถียรภาพด้านหลังในขณะขับเคลื่อน  จะทำการล๊อกการแกว่งของเพลาหลังชั่วคราวเพื่อให้ยานยนต์อุตสาหกรรมมีเสถียรภาพด้านข้างในระดับสูง  การล๊อกเพลาหลังชั่วคราวนี้มีชื่อว่า  การล๊อคการแกว่ง
ปิดการทำงานระบบควบคุมเสถียรภาพด้านหลังในขณะขับเคลื่อน
                ภายใต้สภาวะปรกติ กระบอกสูบล๊อคการแกว่งจะยืดและหดพร้อมกับการแกว่งของเพลาหลัง ซึ่งทำให้เพลาหลังแกว่งไปด้านข้างที่สลักกลางได้เหมือนกับในยานยนต์อุตสาหกรรม



เปิดการทำงานระบบควบคุมเสถียรภาพด้านหลังในขณะขับเคลื่อน
                เมื่อใดก็ตามที่มีการตรวจจับสภาวะที่อาจเป็นอันตรายได้  เช่น  ระหว่างการหักเลี้ยว  ตัวควบคุมจะส่งคำสั่งให้หยุดการไหลของน้ำมันภายในกระบอกสูบล๊อคการแกว่ง ซึ่งจะป้องกันไม่ให้กระบอกสูบล๊อคการแกว่งเคลื่อนที่ อันจะเป็นการป้องกันไม่ให้เพลาแกว่ง





ทฤษฎีต่าง ๆ  ที่อยู่เบื้องหลังเสถียรภาพของยานยนต์อุตสาหกรรม และการทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพด้านหลังในขณะขับเคลื่อน
                สำหรับยานยนต์อุตสาหกรรม  เพลาหลังถูกรองรับ โดยสลักกลางที่มีตำแหน่งอยู่ที่จุดกึ่งกลางของเพลา  การออกแบบนี้ทำให้เพลาสามารถแกว่งขึ้นลง    ซึ่งเป็นการยก  และลดระดับยางในแต่ละด้าน  และเป็นการรองรับแรงกระแทกจากพื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอขณะขับเคลื่อน  ด้วยรูปแบบสลักกลางนี้เอง  ทำให้จริง ๆ  แล้ว  ยานยนต์อุตสาหกรรมถูกรองรับด้วยจุด 3  จุด ตามที่แสดงด้วยรูปสามเปลี่ยนในภาพประกอบ 1  ยานยนต์อุตสาหกรรมจะมั่นคงได้ก็ต่อเมื่อ จุดกลางศูนย์ถ่วงอยู่ที่ด้านในของเส้นรูปสามเหลี่ยมนั้น ณ  จุดนี้เองที่ระบบควบคุมเสถียรภาพด้านหลังในขณะขับเคลื่อนเข้ามาช่วย  ระบบช่วยล๊อคการแกว่งของเพลาหลัง   และจึงเพิ่มพื้นที่โซนเสถียรภาพได้
                ดังที่คุณได้เห็นในภาพประกอบ  2    เมื่อกระบอกสูบล็อกการแกว่งทำการล๊อคเพลาหลัง    มันได้เปลี่ยนจำนวนของจุดรองรับจาก 3  ไปเป็น 4 จุด  สี่เหลี่ยมที่ได้จากจุด 4  จุดนั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงพื้นที่ ๆ ใหญ่
กว่าที่จุดศูนย์ถ่วงสามารถเคลื่อนได้    นี่แสดงให้เห็นว่าระบบควบคุมเสถียรภาพด้านหลัง  ในขณะขับเคลื่อนของ
ยานยนต์อุตสาหกรรมให้เสถียรภาพด้านข้างในระดับสูงได้อย่างไร


ยานยนต์อุตสาหกรรมแบบเดิมที่ไม่มีระบบควบคุมเสถียรภาพด้านหลังในขณะขับเคลื่อน
                แรงหนีจุดศูนย์ถ่วงอาจเกิดขึ้นกับรถยกได้ระหว่างการเลี้ยวหักศอก  และอาจทำให้ตัวรถเอนไปด้านหนึ่งซึ่งทำให้ยานยนต์อุตสาหกรรมอยู่ในสถานะที่ไม่มั่นคง   สาเหตุคือรูปแบบจุดรับน้ำหนัก 3   จุดของรถยกตามที่แสดงด้านบน เมื่อยานยนต์อุตสาหกรรมหยุดจุดกลางศูนย์ถ่วงจะอยู่ใกล้โซนเสถียร   อย่างไรก็ตาม   ระหว่างการเลี้ยวหักศอก   แรงหนีจุดศูนย์ถ่วงได้เคลื่อนจุดศูนย์ถ่วงไปยังด้านนอกของโซนเสถียร   ซึ่งอาจทำให้ล้อหน้ายกขึ้นหรือรถคว่ำเลยก็ได้

 
ยานยนต์อุตสาหกรรมที่มีระบบควบคุมเสถียรภาพด้านหลังในขณะขับเคลื่อน
                เซ็นเซอร์หลายตัว  เช่นเซ็นเซอร์จับความสูงเสายก,  เซ็นเซอร์จับน้ำหนักการบรรทุกและเซ็นเซอร์จับอัตราการเอน  ส่งข้อมูลไปยังตัวควบคุมซึ่งจะประเมินเกี่ยวกับการล๊อคเพลาหลังทันทีต่อการทำงานในสภาพ เช่นการหักเลี้ยวเมื่อทำการล๊อคเพลาหลังเรียบร้อยแล้ว   ยานยนต์อุตสาหกรรมจะมีเสถียรภาพ 4  จุด  และมีโซนเสถียรภาพที่ใหญ่กว่าซึ่งทำให้สามารถป้องกันการเอียงได้
คำเตือน
                ในขณะที่ระบบควบคุมเสถียรภาพด้านหลังในขณะขับเคลื่อนสามารถช่วยรักษาเสถียรภาพของยานยนต์อุตสาหกรรม  แต่ระบบนี้ก็ไม่สามารถทดแทนการขับขี่ที่ไม่ระมัดระวัง หรือประมาทได้  ภายใต้สภาพที่ยาก  อย่างเช่น  การเลี้ยวหักศอกเมื่อขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูง ทำให้กึ่งกลางจุดศูนย์ถ่วงเคลื่อนไปนอกโซนเสถียรภาพ 4  จุดและอาจทำให้ยานยนต์อุตสาหกรรมคว่ำได้











donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved