Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

สัมผัส 5 บิ๊กไบค์สุดหรูคลาสสิก “Victory” เหนือชั้นทุกมิติ “Ride One, You'll Own One” บทสรุปของที่สุดการขับขี่


 บริษัท วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ประเทศไทย)ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย Victory Motorcycles รถบิ๊กไบค์ระดับเวิลด์คลาสจากประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ที่สุดแห่งการผสมผสานอย่างลงตัว ระหว่างเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและดีไซน์ที่โดดเด่น จัดกิจกรรมลองขับขี่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Victory Test Ride” ณ สนามมอเตอร์สปอร์ตแลนด์ (แดนเนรมิตเก่า) โดยนำรถบิ๊กไบค์ Victory รุ่นยอดนิยมตระกูล Cruisers, Baggers และ Touringจำนวน 5 คัน ประกอบด้วยรุ่น Judge, High Ball, Cross Country Zach Ness, Vision Tour Arlen Ness และ Cross Country Tour Cory Ness มาให้สื่อมวลชนได้ลองขับขี่และสัมผัสอย่างใกล้ชิด

สำหรับรถบิ๊กไบค์ Victory ทุกรุ่นที่นำมาให้ลองขับครั้งนี้ นอกจากมีดีไซน์สวยหรูสุดคลาสสิกแล้ว ยังทรงพลังและเปี่ยมสมรรถนะเมื่อยามขึ้นขับขี่ โดยรุ่น Judge เป็นรถที่ให้ความคล่องตัวสูงในการใช้งานในเมือง ระบบเบรกและอัตราเร่งตอบสนองได้ทันใจ และเป็นรถในสไตล์ Cruiser ที่ให้สมรรถนะการเข้าโค้งได้เหมือนกับรถในสไตล์สปอร์ต และขับขี่ได้อย่างสนุกสนานแม้ขณะโลดแล่นบนทางไกล

ขณะที่รุ่น High Ball เป็นรถสไตล์ Bobberยุคใหม่ เป็นรถที่ให้ผู้ขับขี่รู้สึกได้ถึงท่าการขี่ที่ออกสไตล์วินเทจ แต่ให้สมรรถนะที่ตอบสนองได้ดีในทุกอัตราเร่ง

ส่วนรุ่น Cross Country Zach Ness เป็นรถที่เหมาะสำหรับในเมืองและใช้งานได้ดีในยามเดินทางไกล ระบบช่วงล่างเปี่ยมสมรรถนะและทรงประสิทธิภาพในทุกสภาพถนนของเมืองไทย พร้อมติดตั้งกระเป๋าสัมภาระซ้าย-ขวาขนาดใหญ่ สามารถเก็บสัมภาระสำหรับการเดินทางได้มากขึ้น
สำหรับรถขนาดใหญ่อย่างรุ่น Cross Country Tour เป็นรถที่เหมาะสำหรับการเดินทางไกล แต่ยังคงให้ความรู้สึกในการควบคุมรถที่ดุดัน ถูกออกแบบท่านั่งที่สบายในยามขึ้นขับขี่ ทำให้เป็นรถที่แตกต่างจากรถรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่างชัดเจน
รถรุ่นใหญ่อีกรุ่นที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะอย่างรุ่น Vision Tourถือเป็นสุดยอดของรถสำหรับเดินทางไกล ตำแหน่งการขับขี่ถูกออกแบบให้นั่งสบาย เบาะนั่งมีความกระชับรองรับสรีระของผู้ขับขี่ สามารถเข้ากับช่วงสะโพกและหลัง ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ขับได้อย่างสนุกสนานและสะดวกสบายแม้ต้องนั่งอยู่บนรถมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน นอกจากมีดีไซน์ที่สวยหรูอย่างเหนือระดับแล้ว ยังเพียบพร้อมและอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีของความสะดวกสบายและการขับขี่ แผ่นกันลมหน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้า สามารถเปลี่ยนอารมณ์การขับขี่ในยามเข้าเมืองหรือระหว่างการเดินทางไกล สมรรถนะในการขับเข้าโค้งทำได้ทั้งแบบโหนทั้งตัวในเวลาเจอกับโค้งกว้างและต้องใช้ความเร็วสูง หรือโยกเฉพาะรถเมื่อเจอกับโค้งแคบในระดับความเร็วต่ำ

Bridgestone Continues to Promote its Brand for the 3rd Year through “Bridgestone Always with You”


[Bangkok-Siam Discovery Centre] (April 23rd, 2013) – Bridgestone Sales (Thailand) Co., Ltd., led by Mr. Shinichi Sato, Managing Director, hosts a major event at Siam Discovery Plaza to introduce a corporate brand campaign – “Bridgestone Always with You”.  Continuing into its third year, the campaign, launched based on the concept of “innovative lifestyle”, has been communicated through various activities and Concerts from famous bands like “ETC” and “Lipta”. In addition, many kinds of activities will be done throughout the year including the Innovative Lifestyle Contest and Sculpture Performance. 

This corporate brand campaign was first launched in 2011 with the communication concept – “Bridgestone Always with You”. In the second year, Bridgestone aimed to enhance customers’ perception on the superior quality of Bridgestone’s products and services, and how these are meant to support the various lifestyles of consumers, especially the young generations. Moving into the third year after receiving much positive feedback in the past 2 years, Bridgestone is going one step further to express Bridgestone’s passion to support the various lifestyles of every individual with innovation, inspiration and creativity. This year’s TV commercial clearly illustrates this concept along with the song which was originally performed by the famous band – “Titanium”, and which has been rewritten and recomposed by “Pae ” Mai band.  Bridgestone will communicate this brand campaign concept through various media – TV, radio, printed advertisements and outdoor media in various popular places, as well as through social media.  In addition, other activities will also be done to reach out to many lifestyles, including:

  • Always With You Roadshow  Extending the Campaign Launching Event, which was carried out in Bangkok, to other areas such as Khon Kaen” and Chiang Maiso as to allow the audience in these areas to experience the same event as those in Bangkok.   
  • Sculpture Performance  Presenting ideas through a new way of performance illustration at popular places throughout Bangkok, including: ASIATIQUE and MEGA Bangna.
  • Lifestyle Idea Contest  Hosting contest for constructive works and concepts which may be adapted to customers real life.

Further information regarding the activities may be found at www.facebook.com/BridgestoneAlwaysWithYou    
 
All activities and communication about this campaign are aimed at building up Bridgestone’s brand image to ensure its excellent products and services are recognized by more people, and to further expand the “No. 1” popularity to all generations and genders, including the younger generation.  Reinforcing its brand image to be innovative, always looking to the future, modern and one which supports many different lifestyles, is determined to help enhance the relationship between consumers and Bridgestone in the long term.   

“วิคตอรี่” นำเข้ารถบิ๊กไบค์สุดหรู-คลาสสิกค่าตัวเฉียด 2 ล้านบาท ตั้งเป้าขาย 60 คัน พร้อมเร่งขยายเครือข่ายทั่วทุกภูมิภาคของไทย


วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิลส์ ปลุกตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ นำเข้า Victory Motorcycles จากอเมริการวดเดียว 11 รุ่น สนนราคาค่าตัว 1.015-1.995 ล้านบาท ชูจุดเด่นที่สุดแห่งการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและดีไซน์สวยหรูสุดคลาสิกระดับเวิลด์คลาส ตั้งเป้าขาย 60 คัน พร้อมเดินหน้าขยายเครือข่ายทั้งโชว์รูมและศูนย์บริการครบทั้ง ภูมิภาคทั่วไทย หวังตอบโจทย์ลูกค้าอย่างครอบคลุม หลังมีนักธุรกิจหลายรายสนใจขอสมัครเป็นดีลเลอร์


นายณัฐบูร และนายณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย “Victory Motorcycles” รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์จากประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการเติบโตของตลาดรถบิ๊กไบค์ของเมืองไทยที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีความชื่นชอบและรักในการขับขี่รถบิ๊กไบค์เป็นการส่วนตัว ทำให้มองเห็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจ จึงนำเข้า “Victory” รถบิ๊กไบค์จากประเทศสหรัฐอเมริกาเข้ามาจำหน่ายและเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่นักขับขี่คนรุ่นใหม่ ที่ปัจจุบันหันมานิยมใช้รถบิ๊กไบค์เพื่อการท่องเที่ยวและตอบโจทย์ความเป็นไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้อย่างตรงจุด

“จากการติดตามบททดสอบรถ “Victory” ตามนิตยสารต่างประเทศมาระยะเวลาหนึ่ง จึงเกิดความสนใจและได้เดินทางไปทดลองขี่ด้วยตนเองที่สหรัฐอเมริกา โดยใช้เวลาขับขี่และคลุกคลีอยู่กับรถนาน 5 วัน จนมั่นใจในสมรรถนะตัวรถ จึงได้ตัดสินใจนำรถแบรนด์นี้เข้ามาแนะนำให้นักขับขี่ชาวไทยได้รู้จักและเปิดโอกาสให้ได้เป็นเจ้าของรถที่น่าสนใจอีกแบรนด์หนึ่งของโลก โดยบริษัทเริ่มนำเข้า “Victory” มาจำหน่ายเมื่อต้นปี 2013 ที่ผ่านมา แบ่งเป็น 4 ตระกูล คือ Cruisers, Baggers, Touring และ Ness Signature จำนวน 11 รุ่นจากทั้งหมด 14 รุ่นที่มีขายอยู่ในต่างประเทศ แต่ละรุ่นจะมีการแบ่งย่อยในเรื่องของการตกแต่งและสีของตัวรถ ส่วนรุ่นที่ไม่ได้นำเข้ามาจำหน่ายคือ Boardwalk ราคา 1,315,000 บาท Jackpot ราคา 1,385,000 บาท และ Cross Roads Classic ราคา 1,365,000 บาท หากลูกค้าต้องการรุ่นที่สนใจสามารถสั่งรุ่นที่ต้องการได้ โดยสามารถรอรับรถภายในระยะเวลา 3 เดือน”
สำหรับ “Victory” ตระกูล Cruisers ประกอบด้วย
- Vegas 8-Ball ราคา 1,015,000 บาท
- High Ball ราคา 1,135,000 บาท
- Hammer 8-Ball ราคา 1,145,000 บาท
- Judge ราคา 1,195,000 บาท
- Boardwalk ราคา 1,315,000 บาท
- Jackpot ราคา 1,385,000 บาท
ตระกูล Baggers ประกอบด้วย
- Cross Roads Classic ราคา 1,365,000 บาท
- Hard Ball ราคา 1,375,000 บาท
- Cross Country ราคา 1,425,000 บาท
ตระกูล Touring ประกอบด้วย
- Cross Country Tour ราคา 1,550,000 บาท
- Vision Tour ราคา 1,645,000 บาท
ตระกูล Ness Signature ประกอบด้วย


- Cross Country Zach Ness ราคา 1,895,000 บาท



- Cross Country Tour Cory Ness ราคา 1,995,000 บาท



- Vision Tour Arlen Ness ราคา 1,955,000 บาท
โดย “Victory” เป็นรถที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ทั่วโลกอย่างกว้างขวางว่า เป็นรถบิ๊กไบค์ที่มีสมรรถนะโดดเด่น ตามสโลแกนของรถคือ “Ride One, You'll Own One” ซึ่งนักขับขี่ที่ได้ลองขับ “Victory” ต่างเอ่ยปากบอกกันเป็นเสียงเดียวว่า เป็นรถในแบบ Cruiser ที่ขับขี่ได้เยี่ยมยอด
“รุ่นที่คาดว่าจะทำยอดขายได้ดีคือ Judge ซึ่งเป็นตัวแทนของรถตระกูล Cruisers เป็นรถไซซ์เล็กถูกออกแบบมาตามคอนเซ็ปต์ของ American Muscle Car ท่าการขี่เหมาะกับสรีระของคนไทย แต่ยังคงความบึกบึนของตัวรถในสไตล์อเมริกัน อีกรุ่นคือ Vision Tour จะเป็นตัวแทนของรถในตระกูล Touring เหมาะสำหรับใช้เดินทางท่องเที่ยวในระยะทางไกล จากท่าการขี่ที่ถูกออกแบบมาให้ขับขี่สบายเป็นระยะเวลานาน พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกและช่องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ทำให้ Vision Tour เป็นรถที่โดดเด่นที่สุดในตลาดรถทัวริ่งในปัจจุบัน โดยตั้งเป้าขายปีแรกประมาณ 60 คัน แบ่งเป็น Cruisers ประมาณ 30 คัน และตัวใหญ่อย่างตระกูล Baggers และ Touring อีกประมาณ 30 คัน”
นายณัฐพล ไตรณัฐี กล่าวถึงการแข่งขันในตลาดของรถระดับเดียวกันว่า “Victory” เป็นรถที่มีความชัดเจนในด้านสมรรถนะและท่าการขับขี่ ซึ่งรถบิ๊กไบค์ในประเภทเดียวกันที่เป็นคู่แข่งโดยตรงนั้นมีน้อยมาก อย่างไรก็ตามแนวโน้มของรถขนาดใหญ่ในตลาดเมืองไทยทีปรับราคาสูงขึ้นจากโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ โดยรถที่มีขนาดความจุปริมาตรกระบอกสูบ 1,000 ซี.ซี. จัดเก็บ 20% จัดเก็บภาษีมากกว่าเดิม 7-17% โดยคาดว่าภาพรวมตลาดรถบิ๊กไบค์เมืองไทยขนาดความจุ 1,000 ซี.ซี.ขึ้นไป ในปีนี้จะมียอดจำหน่ายประมาณ 1,000 คัน
นายณัฐบูร ไตรณัฐี กล่าวถึงความพร้อมของโชว์รูมและบริการหลังขายของ “Victory” ว่า ถือเป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทใส่ใจเป็นพิเศษ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า โดยโชว์รูมและศูนย์บริการ วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ประเทศไทย) ตั้งอยู่ปากซอยพัฒนาการ 63 พร้อมให้บริการตามมาตรฐานแบบครบวงจร ทั้งส่วนของโชว์รูม, ศูนย์บริการ, อุปกรณ์ตกแต่ง, ชิ้นส่วนอะไหล่และยังใช้เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ของเหล่านักขับขี่อีกด้วย ขณะที่ทีมช่างทุกคนได้รับการฝึกอบรมตามหลักสูตรมาตรฐานจาก “Victory USA” ทำให้มั่นใจในการดูแลและซ่อมบำรุงรถของลูกค้าอย่างสูงสุด

“ปัจจุบันมีนักธุรกิจให้ความสนใจและขอสมัครเป็นดีลเลอร์กับ วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ประเทศไทย) โดยบริษัทได้วางแผนการขยายศูนย์บริการและโชว์รูมให้ครอบคลุมในหัวเมืองใหญ่ทั้ง 4 ภาคของประเทศภายในระยะเวลา 2 ปี พร้อมทั้งจัดให้มีการอบรมทีมช่างของแต่ละภูมิภาค เพื่อสร้างความมั่นใจต่อกลุ่มลูกค้าที่ซื้อ “Victory” และนำไปใช้งานในจังหวัดต่างๆ หรือในระหว่างการเดินทาง”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณสุภาพร วรรณพิรุฬ โทร.086-397-7099

Benz NK ส่ง Official Safety Car ร่วมงาน “Super Cars Hot Laps 2013”


 ผ่านพ้นไปแล้วกับการรวมตัวกันของ 3 สุดยอดชมรม Super Car Club ในเมืองไทย Cavallino Ferrari Club, Lamborghini Club และ Porsche Club Thailand เข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ “Garage Life Super Car Hot Laps 2013” ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้รถซูเปอร์คาร์ได้เรียนรู้เทคนิคการขับขี่ที่ถูกต้องและปลอดภัย โดยผู้ฝึกสอนมืออาชีพจาก Singha Racing School ณ สนามโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์


สำหรับในงานนี้ทาง BENZ NK ได้นำรถ CLS Shooting Brake ซึ่งถือเป็นรถอนุกรมใหม่ล่าสุดในตระกูล CLS-Class โดยถือเป็น Official Safety Car ขับโดย คุณ กรัณ ศุภพงษ์ สุดยอดนักแข่งรถยนต์ทางเรียบดีกรีแชมป์ประเทศไทย เป็นผู้ขับนำเส้นทางพร้อมสอนไลน์ที่ถูกต้องและปลอดภัยในสนามโบนันซ่าแทรค ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมทดสอบสมรรถนะรถยนต์ระดับ Super Car ในรูปแบบ Track Experience เป็นครั้งแรก 
โดยมีรถ Supercar เข้าร่วมงานจากทั้ง 3 ชมรมร่วม 100 คัน อาทิ FERRARI 458 ITALIA, LAMBORGHINI LP700-4 AVENTADOR และ PORSCHE CARRERA GT เป็นต้น 
โดยวัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้รถซูเปอร์คาร์ในเมืองไทยได้มีโอกาสทดสอบสมรรถนะของรถได้อย่างเต็มที่ และยังเป็นการเรียนรู้เทคนิคการขับขี่ที่ถูกต้องและ Tips ต่างๆ จาก Instructor มืออาชีพในสนามแข่งจริง และถือเป็นการร่วมพบปะสังสรรค์ของบรรดาผู้ใช้รถในคลับต่างๆ รวมทั้งเป็นการสร้างเสริมสัมพันธภาพอันดีระหว่างผู้ใช้รถยนต์ซูเปอร์คาร์ที่มีอยู่ในเมืองไทยอีกด้วย

เอ.พี.ฮอนด้าชูคอนเซปต์ “ว้าว” เสริมแบรนด์แคมเปญปี 3 ชีวิตสนุก ถ้าไม่หยุดค้นหาอะไรใหม่ๆ ว้าว! เตรียมสนับสนุน 3 ทีมฟุตบอลดังระดับโลกยกพลเยือนไทย ทั้งผี-หงส์-บาร์ซ่า


ค่ายฮอนด้า ผู้นำไลฟ์สไตล์ความสนุกแห่งวงการรถจักรยานยนต์ไทยเปิดตัวแบรนด์คอนเซปต์ “ว้าว” เสริมแกร่งแผนการสร้างแบรนด์แคมเปญ ปีที่ 3 “ชีวิตสนุก ถ้าไม่หยุดค้นหาอะไรใหม่ๆ ว้าว!” จัดหนักด้วยกิจกรรมทางการตลาดตลอดปี ทั้งไลฟ์สไตล์ความสนุกกับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า กิจกรรมความสนุกด้านกีฬา โดยการสนับสนุนทีมฟุตบอลระดับชั้นนำของโลกอย่างแมนฯยูฯ, ลิเวอร์พูล และบาร์เซโลน่าในการมาเยือนประเทศไทยเพื่อให้คนไทยได้สัมผัสกับประสบการณ์ความสนุกกับนักเตะระดับโลกอย่างใกล้ชิด พร้อมจับมือค่ายเพลงดังและคลื่นวิทยุขวัญใจวัยรุ่นส่งมอบความมันส์ทางดนตรี โดยมีสามแบรนด์แอมบาสซาเดอร์สุดแนวอย่าง น้าเน้ก, โอปอล์ และ 25Hours มาร่วมสร้างสีสันและจุดแรงบันดาลใจให้วัยรุ่นไทยก้าวหลุดจากความจำเจของชีวิตแล้วออกมาค้นหาความ “ว้าว” กับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า

มร.จิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “จากแผนระยะกลาง 3 ปี ที่ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2011 ในการสร้างแบรนด์รถจักรยานยนต์ฮอนด้าให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งอย่างแท้จริงทั้งด้านผลิตภัณฑ์และไลฟ์สไตล์ความสนุก เราประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการสร้างการรับรู้ของกลุ่มวัยรุ่นผ่านแบรนด์แมสเสจที่ว่า “ชีวิตสนุก ถ้าไม่หยุดค้นหาอะไรใหม่ๆ” และในปี 2013 ซึ่งเป็นปีที่ 3 ของแผนงานดังกล่าว เราพร้อมแล้วที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการส่งมอบกิจกรรมที่มีดีกรีของความสนุกมากกว่าทุกๆปีให้กับคนไทย ควบคู่ไปกับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆที่โดดเด่นทั้งดีไซน์และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย โดยมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคน จนใครๆก็ต้องร้องว้าว! กลายเป็นที่มาของแบรนด์แคมเปญปีที่ 3 “ชีวิตสนุก ถ้าไม่หยุดค้นหาอะไรใหม่ๆ ว้าว!”
“จากเป้าหมายดังกล่าว เราได้เตรียมแผนงานในการทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างเข้มข้น เริ่มจากสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งโดยเฉพาะการร่วมเป็นผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลระดับสุดยอดของโลกอย่างแมนฯยูฯ ลิเวอร์พูล และบาร์เซโลน่าในการมาเยือนประเทศไทย โดยในเร็วๆนี้ เราจะมีกิจกรรมให้คนไทยทุกภูมิภาคทั่วประเทศได้มีโอกาสมาเปิดประสบการณ์ใหม่กับนักเตะระดับโลกอย่างแน่นอน ในส่วนของมิวสิคมาร์เก็ตติ้ง ฮอนด้าได้ร่วมมือกับค่ายเพลงชื่อดังอย่างบีลีฟเรคคอร์ด, คลื่นแฟตเรดิโอ และแชนแนลวีไทยแลนด์ ในการนำเสนอความสนุกผ่านเสียงดนตรีสู่วัยรุ่นตลอดปีนี้อีกด้วย เริ่มต้นด้วยคอนเสิร์ตใหญ่แห่งปีHonda presents 25Hours Color in Live ที่ได้มีการแถลงข่าวไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งคอนเสิร์ตดังกล่าวจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในเดือนพฤษภาคมนี้”
นอกจากนี้ ฮอนด้ายังได้ดึงน้าเน้ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์, โอปอล์-ปาณิสรา และศิลปินจากวง 25Hours สามแบรนด์แอมบาสซาเดอร์จากแบรนด์แคมเปญ “ชีวิตสนุก ถ้าไม่หยุดค้นหาอะไรใหม่ๆ ว้าว!” มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้วัยรุ่นไทยก้าวออกจากความซ้ำซากจำเจของชีวิตประจำวัน สู่โลกภายนอกที่ยังมีอะไรสนุกๆ ให้ลองค้นหาอีกมาก

มร.จิอากิ ได้กล่าวเสริมถึงเป็นประเด็นนี้ว่า “สองปีที่ผ่านมา แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ทั้งสามของเราได้ออกไปพบกับความสนุกนอกกรอบกับรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นต่างๆมาแล้วมากมายด้วยตัวเขาเอง ในปีนี้พวกเขาจะกลับมาแบ่งปันประสบการณ์ พร้อมทั้งเชิญชวนให้วัยรุ่นไทยได้ออกไปพบกับความ “ว้าว” ด้วยกัน”

ทั้งนี้ ฮอนด้าได้เตรียมเผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของแบรนด์แคมเปญดังกล่าวทางสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2556 เป็นต้นไป คอยพบกับกิจกรรมความสนุกและอัพเดทข่าวสารความเคลื่อนไหวของแบรนด์รถจักรยานยนต์ฮอนด้าตลอดทั้งปีได้ที่เว็บไซต์ www.aphonda.co.th และเฟซบุค www.facebook.com/hondamotorcyclethailand

SUBARU XV สร้างปรากฎการณ์ใหม่ เพียง 5 เดือนยอดจองทะลุกว่า 1,000 คัน



นายอภิชัย ธรรมศิรารักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุอย่างเป็นทางการ เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้เปิดตัวโปรดักซ์ไฮไลท์SUBARU XV 2.0i PREMIUM  นิยามใหม่ของรถครอสส์โอเวอร์ ออกสู่ตลาดและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงปลายปี 2555 ที่ผ่านมา สามารถสร้างปรากฎการณ์ใหม่ ให้ ซูบารุ ในประเทศไทย โดยมียอดจองกว่า 1,000  คัน ภายในเวลา เดือน ซึ่งบริษัทฯ คาดว่า ยอดจำหน่ายซูบารุปี 2556 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 3,000 คัน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มส่งมอบ SUBARU XV ให้กับลูกค้าตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุดสามารถส่งมอบได้แล้วกว่า 400 คัน และเพิ่มความมั่นใจด้วยโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการทั้ง14 แห่งของบริษัทฯ  ที่มีความพร้อมให้บริการขับรถทดสอบการจำหน่ายและบริการหลังการขาย เพื่อรองรับการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และบริษัทฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการเพิ่มอีก 6 แห่ง รวมเป็น 20 แห่ง ให้ครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศไทย 
โดยจุดเด่นที่ทำให้ SUBARU XV 2.0i PREMIUM ประสบความสำเร็จ คือ การออกแบบที่สวยงาม   การันตีด้วยรางวัล Good Design Award, เครื่องยนต์ Boxer ใหม่ล่าสุดระบบส่งกำลัง Lineartronic และ Symmetrical AWD เอกสิทธิ์เฉพาะซูบารุ พร้อมระบบอำนวยความสะดวกและความบันเทิงเต็มรูปแบบ ทำให้ SUBARU XV โดดเด่นสมบูรณ์แบบทั้งในเรื่องของสมรรถนะและประสิทธิภาพในการใช้งานที่มาพร้อมความประหยัดและระบบความปลอดภัยสูงสุด และที่สำคัญด้วยราคาจำหน่ายเพียง 1.35 ล้านบาท เชิญสัมผัสความแตกต่างที่เหนือกว่าด้วยตัวคุณเองที่ โชว์รูมซูบารุทั่วประเทศ หรือ www.motorimage.net/th

ฮอนด้าบิ๊กวิงประกาศความพร้อม ขยายพื้นที่ให้บริการครบทุกภาคแล้วตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2013


ฮอนด้าบิ๊กวิง ประกาศความพร้อมด้านการขายและบริการอย่างเต็มรูปแบบ ขยายพื้นที่การให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ ล่าสุดสามารถรองรับความต้องการจากลูกค้าได้ครบทุกภาคตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2013นี้เป็นต้นไป ด้วยศูนย์จำหน่ายและบริการฮอนด้าบิ๊กไบค์ใน หัวเมืองใหญ่ทั้งกรุงเทพฯเชียงใหม่,พัทยาอุดรธานี และภูเก็ต ตอบสนองทุกความต้องการด้วยมาตรฐานการให้บริการแบบ 6S ทุกศูนย์ หวังสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของเมืองไทย
            มร.จิอากิ คาโตประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้าจำกัด กล่าวว่า “โปรเจคท์ฮอนด้าบิ๊กวิงถือกำเนิดขึ้นจากการที่ฮอนด้าได้มองเห็นทิศทางการเติบโตของตลาดรถบิ๊กไบค์ในเมืองไทย จนมาถึงในไตรมาสแรกของปี 2012 ศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิงแห่งแรกก็ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นเราได้ต่อยอดแผนงานในการขยายศูนย์บริการดังกล่าวให้ครอบคลุมทั่วประเทศให้เร็วที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถจักรยานยนต์คลาสใหญ่หรือบิ๊กไบค์ที่มีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผนวกแนวคิดในการสร้างสรรค์ศูนย์จำหน่ายและบริการให้มีเอกลักษณ์ที่เข้ากับวัฒนธรรมในแต่ละพื้นที่ พร้อมทั่งกำหนดมาตรฐานให้เป็นแบบเดียวกันทั้งหมด นั่นคือการให้บริการด้วยมาตรฐาน 6S ไปประกอบด้วย Sales, Service, Spare Parts, Safety, 2nd Hand, และ Society
ล่าสุด เราสามารถขยายพื้นที่การให้บริการได้ครอบคลุมทั่วประเทศด้วยการเปิดศูนย์บริการครบทุกภาคได้สำเร็จตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี2013 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และยังทำให้ฮอนด้าบิ๊กวิงกลายเป็นศูนย์จำหน่ายและบริการรถบิ๊กไบค์รายแรกและรายเดียวในไทยทีมีเครือข่ายครอบคลุมทุกพื้นที่

            ทั้งนี้ ฮอนด้าบิ๊กวิง (Honda BigWing) ศูนย์จำหน่ายและบริการฮอนด้าบิ๊กไบค์ มีสาขารวมแล้วถึง สาขาด้วยกัน โดยแห่งแรกตั้งอยู่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม กรุงเทพมหานคร และอีก แห่งในต่างจังหวัดประกอบด้วย ฮอนด้าบิ๊กวิงเชียงใหม่(ภาคเหนือ)ฮอนด้าบิ๊กวิงพัทยา(ภาคตะวันออก),ฮอนด้าบิ๊กวิงอุดรธานี(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) และฮอนด้าบิ๊กวิงภูเก็ต(ภาคใต้)
ฮอนด้าบิ๊กวิงทั้งแห่ง ถูกสร้างด้วยเป้าหมายของการเป็น “The Destination for Riders” หรือจุดหมายปลายทางของนักบิดอย่างแท้จริง ทั้ง ศูนย์ พร้อมวางจำหน่ายรถฮอนด้าบิ๊กไบค์ครบทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่นำเข้าจากญี่ปุ่น อาทิเช่นHonda Gold Wing, NC700X, CBR1000RR หรือรุ่นที่ผลิตในประเทศไทยอย่างCBR500R, CB500F และ CB500X




จากัวร์ และ แลนด์โรเวอร์ ฉลองยอดขายทะลุเป้า จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34



กรุงเทพฯ - บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ประกาศความสำเร็จของยอดขายรถยนต์ระดับหรูจากสองแบรนด์ดัง ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 โดยมียอดจองรวม 40 คัน แบ่งเป็นรถยนต์เอสยูวีระดับพรีเมี่ยมจากแบรนด์แลนด์โรเวอร์ 30 คัน และลักชูรี่คาร์รุ่นใหม่จากจากัวร์อีก 10 คัน ซึ่งความสำเร็จของยอดขายที่ทะลุเป้าครั้งนี้ ชี้ให้เห็นถึงความนิยมรถยนต์ระดับไฮเอนด์จากสองแบรนด์ในตลาดรถยนต์ระดับหรูของไทย และสะท้อนถึงความไว้วางใจของผู้บริโภคที่เลือกซื้อรถยนต์จากผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งพร้อมมอบยนตกรรมระดับพรีเมี่ยมและบริการหลังการขายที่เป็นเลิศแก่ลูกค้า

ซิตี้ ออโต้โมบิล ได้ทุ่มงบลงทุนเพื่อปรับปรุงและพัฒนาโชว์รูมและศูนย์บริการที่ถนนวิทยุให้มีมาตรฐานระดับโลก เพื่อส่งเสริมทั้งการขายและบริการหลังการขายสำหรับรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเต็มรูปแบบ

นายดนัย จันทรงาม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล เผยว่า “เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งกับกระแสการตอบรับจากลูกค้าที่มีต่อรถยนต์ทั้งจากแบรนด์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ที่เรานำเสนอในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ซึ่งจากยอดจองกว่า 40 คัน เป็นรถยนต์จากัวร์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ถึง 10 คัน ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงเสียงตอบรับที่ดีและความไว้วางใจลูกค้าที่ทุกท่านได้เลือกซื้อรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์จาก ซิตี้ ออโต้โมบิล ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งพร้อมมอบบริการหลังการขายที่เป็นเลิศ เพื่อดูแลและสร้างความพึงพอใจที่เหนือระดับแก่ลูกค้าทุกท่าน”    

ทั้งนี้ รถยนต์แลนด์โรเวอร์ที่ได้รับความนิยมและจองซื้อมากที่สุดในงาน ได้แก่ เรนจ์โรเวอร์ อีโวค และ ดิ ออลนิว เรนจ์โรเวอร์ ส่วนรถจากัวร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ จากัวร์ XF

นายดนัยกล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับลูกค้ารถยนต์หรูชาวไทย เตรียมพบกับการเปิดตัวรถยนต์จากัวร์ F-type ครั้งแรกของเมืองไทยเร็ว ๆนี้ ซึ่งจะทำให้ท่านรู้จักกับแบรนด์ยานยนต์ชั้นนำที่สมบูรณ์แบบทั้งสมรรถนะอันเหนือชั้น การออกแบบที่สวยงาม และภาพลักษณ์แห่งผู้นำอันโดดเด่น”

สตาเลียน MiNi Serires สุดยอดนวัตกรรมใหม่ล่าสุด




บริษัท พาวเวอร์ สตาเลียน จำกัด ผู้จัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ สตาเลียน ขอแนะนำรถจักรยานยนต์ MiNi Serires สุดยอดนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ SCD Ream  SoLo RS MiNi Sport NAKEDโดดเด่นด้วยดีไซน์เนกเกด คมเข้มตั้งแต่หัวจรดท้าย ไฟหน้าตาเพชรผสานไฟหรี่แบบเลนส์โปรเจคเตอร์ ถังน้ำมันเสริมการ์ดข้าง เพิ่มความโฉบเฉี่ยวรับกับอันเดอร์คาวริ่งที่แหลมเน้นความสปอร์ตเปลือยสายพันธ์ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 125 ซีซี บาลานซ์เอนจิน เทคโนโลยีญี่ปุ่น ให้พละกำลังแรงเกินตัว แข็งแกร่งด้วยโครงสร้างถังเหล็กเหลี่ยมขนาดใหญ่ มี 3สี ให้เลือกได้แก่ เหลือง-เทา,แดง-เทา,ขาว-เทามาในราคาเพียง 54,500 บาทเท่านั้น

สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จัดปาร์ตี้ใหญ่โชว์ศักยภาพแบรนด์ไทยก้าวไกลระดับโลก ฉลองการเป็นผู้สนับสนุนหลักการแข่งขัน “เฟอร์รารี่ แชลเลนจ์ โทรฟีโอ พิเรลลี” ทุกสนาม 3 ทวีป


 บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เดินหน้าเต็มสูบร่วมเป็นพันธมิตรครั้งสำคัญ ระหว่าง                     "สิงห์ คอร์เปอเรชั่น" กับ "เฟอร์รารี่" สนับสนุนการแข่งขันสุดยอดรถยนต์ซูเปอร์คาร์ รายการใหญ่ที่สุดของเฟอร์รารี่ "เฟอร์รารี่ แชลเลนจ์ โทรฟีโอ พิเรลลี 2013" (Ferrari Challenge Trofeo Pirelli 2013) ในวาระพิเศษนี้ สิงห์ คอร์เปอเรชั่นฯ ได้จัดงาน Singha Ferrari Challenge The Party (สิงห์ เฟอร์รารี่ แชลเลนจ์               เดอะ ปาร์ตี้) เพื่อฉลองและขอบคุณลูกค้า VIP โดยมีกิจกรรมสนุกๆ มาสร้างความบันเทิงให้แขกในงานแบบขนานใหญ่ ณ R-Bar ชั้น ล็อบบี้ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ เมื่อวันก่อน ทั้งแฟนแบรนด์สิงห์ และเหล่าสาวกเฟอร์รารี่ จึงมารวมตัวกันในงานนี้อย่างคับคั่ง อาทิ วาริท อยู่วิทยา, ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี, วิศรุต   รังษีสิงห์พิพัฒน์, พัฒนพงษ์ ธนวิสุทธิ์, จักรกฤต เบเนเดทตี้, อัครพล เตชะรัตนประเสริฐ, และ พายุ เนื่องจำนงค์ ฯลฯ

รายการแข่งขันรถ เฟอร์รารี่ แชลเลนจ์ โทรฟีโอ พิเรลลี 2013 เป็นสนามการแข่งขันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดงานหนึ่ง เพราะเปิดโอกาสให้ทั้งนักขับหน้าใหม่ และเซียนสนามมากประสบการณ์มาประชันความเร็วกันเพื่อชิงถ้วย “โทรฟีโอ พิเรลลี” รางวัลสำหรับมืออาชีพ ในรุ่นเอฟ 430 แชลเลนจ์ ส่วนประเภทที่ 2 ชิงถ้วยรางวัล โทรฟีโอ พิเรลลี กับ ถ้วยคอปปา เชลล์ ในรุ่น 458 แชลเลนจ์ (F458 Challenge) สำหรับนักขับหน้าใหม่ ซึ่งรุ่นนี้แฟนๆ เฟอร์รารี่ต้องจับตามอง เพราะหลังจากที่มีการจัดการแข่งขันขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1993 ผ่านมายาวนานถึง 19 ปี ก็เพิ่งมีโอกาสได้เห็นการแข่งขันรุ่น 458 แชลเลนจ์ กลับมาสร้างความน่า   ตื่นตาในสนามประลองความเร็วรายการนี้อีกครั้ง ซึ่งเป็นรายการที่รถเข้าแข่งขันต้องเป็นรถ ”เฟอร์รารี่” ทั้งหมด

นายวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี ผู้อำนวยการกิจกรรมการตลาดและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สิงห์                  คอร์เปอเรชั่น จำกัด   ผู้รับผิดชอบในโปรเจคสำคัญ เผยว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ สิงห์ ได้เข้าร่วมสนับสนุน            แบรนด์ดังอย่าง “เฟอร์รารี่” ที่ได้รับความนิยม และโด่งดังทั่วโลก ซึ่งในอนาคตข้างหน้าจะมีกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันอย่างแน่นอน พร้อมกับทำให้คนที่ชื่นชอบในเฟอร์รารี่ ได้ใกล้ชิดกับแบรนด์ดังนี้มากขึ้นในประเทศไทย

“ในเมืองไทย สิงห์เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับของคนไทยมานาน พร้อมๆ กันนี้เราก็ต้องก้าวออกไปตลาดต่างประเทศด้วยเพราะเป็นนโยบายของ คุณสันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่ต้องการทำให้แบรนด์สิงห์ฯ เป็นโกลบอล แบรนด์ ใน 4-5 ปีข้างหน้า ปีนี้บริษัทเราครบรอบ 80 ปี เป็นนิมิตหมายที่ดีที่ได้พันธมิตรเพิ่มมาอีกรายนั่นคือ เฟอร์รารี่ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ทุกคนรู้จักกันดีทั่วโลก ทำให้สิงห์ฯ มั่นใจว่าการเข้ามาร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับเฟอร์รารี่ จะเสริมสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักกันดียิ่งขึ้น หนึ่งในสิทธิประโยชน์ที่เราได้รับคือ การสนับสนุนการแข่งรถระดับโลก รายการที่ใหญ่ที่สุดของเฟอร์รารี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในรายการที่โด่งดังนั่นคือ "เฟอร์รารี แชลเลนจ์ โทรฟีโอ พิเรลลี 2013" การแข่งขันซูเปอร์คาร์ (Supercars) ในแบบ วัน เมค เรซ (One-Make Race) ที่มีกระแสนิยมไปทั่วโลก โดยจะเข้าสนับสนุนตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ที่จะจัดขึ้นในสนามต่างๆ กว่า 21 สนามทั่วโลก แบ่งเป็น 3 ทวีป คือ อเมริกาเหนือ, ยุโรป และเอเชีย-แปซิฟิก

“เราเซ็นสัญญาสนับสนุนการแข่งขันรายการนี้กับเฟอร์รารี่ 3 ปี จะมีโลโก้สิงห์ติดอยู่หน้ากระจกและข้างๆ รถมากกว่า 90 คัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจมามอบให้ผู้บริโภคอีกหลายอย่าง เช่น สิงห์ จะมีโปรโมชั่นมอบให้กับผู้โชคดีไปดูการแข่งขันแชลเลนจ์ในแต่ละประเทศ และอาจมีสิทธิ์เข้าไปนั่งในรถแข่งและในสนาม เพื่อเป็นประสบการณ์ดีๆ ที่เรามอบให้ลูกค้า ส่วนการสนับสนุนนักแข่งไทยไปโชว์ผลงานในสนามระดับโลก ก็เป็นนโยบายของเราเช่นกัน ปีนี้ยังคงสนับสนุน พศิน อยู่ เพราะเขาทำผลงานได้ดีมากในปีที่แล้ว เราหวังว่าเขาจะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และสิงห์เองก็ต้องการไปผงาดให้คนเห็นตราสินค้าของคนไทยในต่างประเทศด้วย” ผู้บริหารแห่งสิงห์ คอร์เปอเรชั่น กล่าว

ในค่ำคืนนี้ ยังได้รับเกียรติจาก มิสเตอร์เอ็นริโก กาลิเอร่า (Mr.Enrico Galliera) รองประธานอาวุโสฝ่ายการพาณิชย์ และ การตลาด เฟอร์รารี่ เอส.พี. เอ มาร่วมงานด้วย ซึ่งเขาเผยว่า ทุกครั้งที่              เฟอร์รารี่มีการร่วมมือกับพันธมิตร จะเลือกแบรนด์ที่เข้มแข็งและเป็นที่รู้จักกันแทบจะทั่วโลก ในการร่วมมือกับสิงห์ครั้งนี้ถือเป็นการสร้างเสริมทั้ง 2 แบรนด์ที่เข้มแข็งอยู่ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
“ทั้งเฟอร์รารี่ และ สิงห์ มีสิ่งที่เหมือนกันคือ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน อย่างเฟอร์รารี่ เพิ่งฉลองครบ 65 ปีไป ส่วน สิงห์ฯ ก็มีอายุ 80 ปีในปีนี้ ความสำเร็จในอดีตจนถึงปัจจุบันของทั้งสองบริษัทนั้นมีอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือ การมองไปในอนาคตด้วยกัน เฟอร์รารี่ โด่งดังมากในอิตาลี เป็นสุดยอดในเรื่องรถซูเปอร์คาร์ ส่วน สิงห์ ครองใจคนไทย และนักดื่มทั่วโลกแล้ว  ปัจจุบันทั้งสองแบรนด์นี้ถือว่าโด่งดังทั่วโลกก็ว่าได้ การที่มาเป็นพาร์ทเนอร์กันต่อไปจะสร้างทั้งสองแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น” ผู้บริหารจากเฟอร์รารี่ กล่าว

บุคคลที่ได้รับการจับตามอง เพราะฝีมือที่โดดเด่นอีกคนหนึ่งในงานนี้ คือ พศิน ลาทูรัส ลูกครึ่งไทย-กรีก วัย 19 ปี นักแข่งรถไทยคนแรกที่ สิงห์ฯ ได้ให้การสนับสนุนลงประลองความเร็วกับนักแข่งจากอีก 11 ชาติ ในโซนเอเซียแปซิฟิก ในการแข่งขัน "เฟอร์รารี่ แชลเลนจ์ โทรฟีโอ พีราลี เอเชียแปซิฟิก 2012 และปีนี้เขาได้ลงแข่งอีกครั้งพร้อมความมุ่งมั่นที่จะคว้าแชมป์มาฝากคนไทยให้ได้

“รู้สึกภูมิใจที่  สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ให้การสนับสนุนผมเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปทำการแข่งขันรายการนี้ โดยปีที่แล้วผมได้ที่ 2 ของเอเชีย ห่างจากที่ 1 แค่ไม่กี่คะแนน แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีทำให้ปีนี้ผมเซ็ตรถได้ง่ายขึ้นรู้จักรถมากกว่าเดิม ปีนี้เพิ่งแข่งเข้ามารอบแรก ผมได้ที่ 1 และที่ 2 มา คะแนนรวมนำอยู่เป็นอันดับ 1 ในเอเชีย ผมตั้งเป้าว่าต้องได้ที่ 1 อย่างเดียวเลย ต้องคว้าแชมป์ให้ได้ นักแข่งคนอื่นๆ ส่วนมากฝีมือจะระดับเดียวกันหมด เราเห็นฝีมือจากการแข่งปีที่แล้วก็รู้วิธีที่เขาขับ จึงคิดว่ามีโอกาสที่จะเอาชนะได้มากขึ้น
“สำหรับการร่วมมือระหว่างสิงห์ฯ  กับเฟอร์รารี่ ในครั้งนี้ ผมเชื่อว่าทำให้คนไทยมีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องรถเฟอร์รารี่ และการแข่งขัน เฟอร์รารี่ แชลเลนจ์ฯ มากขึ้น การที่สองบริษัทใหญ่มาร่วมมือกัน ในอนาคตต้องมีอะไรที่ยิ่งใหญ่มาให้เมืองไทยเห็นอยู่แล้ว ผมมั่นใจว่าน่าจะเริ่มจากฟอร์มูลาวัน และอาจมีอะไรดีๆ ตามมาอีก ผมในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศไปแข่งขันก็พยายามเต็มที่อยู่แล้ว สนามต่อไปที่จะลงแข่ง คือ วันที่ 21 เมษายนนี้ ที่ประเทศญี่ปุ่น” ซึ่งนักขับหนุ่มอนาคตไกล บอกว่าเตรียมพร้อมที่จะลงชิงชัยเต็มร้อยแล้ว

ในโอกาสที่ได้กลับมาสร้างความน่าตื่นตาในสนามประลองความเร็วรายการเฟอร์รารี แชลเลนจ์ฯ อีกครั้ง ในงานนี้จึงไม่มีสิ่งใดที่ทุกคนเฝ้ารอชมมากไปกว่ารถ "เฟอร์รารี่ 458 แชลเลนจ์" ที่ใช้สำหรับการแข่งขันรายการนี้โดยเฉพาะอีกด้วย เฟอร์รารี่รุ่น 458 แชลเลนจ์เป็นรถเบอร์ลิเนตตา V8 เครื่องกลางลำค่อนหลัง (mid-rear) พัฒนามาจากรุ่น 458 อิตาเลีย นับเป็นรุ่นที่ห้าที่เฟอร์รารีใช้ในรายการ การแข่งขันซิงเกิ้ลซีรีส์ที่เฟอร์รารี่จัดขึ้น ถือเป็นรถยนต์ที่ได้ผสมผสานสมรรถนะขั้นสูงสุดเข้าไว้ด้วยกัน ให้ทุกคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยได้พบความสนุกที่ไม่เหมือนใครในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นนักขับระดับอาชีพหรือผู้ที่รักความเร็วทั่วไป ในการเปิดตัวงานนี้ วรวุฒิ ภิรมย์ภักดี ผู้บริหารจาก สิงห์ คอร์เปอเรชั่น และ มิสเตอร์เอ็นริโก  กาลิเอร่า ผู้บริหารเฟอร์รารี ได้ช่วยกันเปิดผ้าคลุมรถซูเปอร์คาร์คันงามรุ่นนี้ เพื่อให้แขกในงานได้ยลโฉมม้าลำพองคันงามมูลค่าถึง 35 ล้านบาทอย่างถนัดตา และที่ขาดไม่ได้ตามสไตล์ของเฟอร์รารี่คือ การโชว์พลังเสียงอันกระหึ่ม โดยผู้บริหารสิงห์ รับหน้าที่สตาร์ทรถให้ทุกคนได้สัมผัสกับเสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่แรง  ไม่แพ้ความเร็วเลย 

นอกจากนี้ ยังมีแฟชั่นโชว์แนวสปอร์ต ในชุดแข่งรถสุดเซ็กซี่ พร้อมด้วยแอกเซสเซอรี่เก๋ๆ อาทิ หมวก               ถุงมือ ให้หนุ่มๆ ได้ชมกันอย่างเพลินตา จากนั้น ฟังเพลงไพเราะสไตล์บอสซ่าจากกลุ่มศิลปิน“เดอะ วอยซ์” (The Voice) ต่อด้วยมินิคอนเสิร์ตของ 2 ศิลปินชื่อดัง คือ นักร้องสาวอาร์แอนด์บี ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์  วิสุทธิธาดา และ บุรินทร์ & the old school all stars ปิดท้ายด้วยการเปิดเพลงมันๆ จากดีเจมืออาชีพมาสร้างความคึกคักอย่างต่อเนื่อง

การแข่งขันถ้วยโทรฟีโอ พิเรลลีมีจุดเด่นอยู่ที่นักขับที่มีชื่อเสียงซึ่งเข้ามาประลองกันเพื่อเกียรติยศ                 ที่ยิ่งใหญ่ของตนเองและต้นสังกัด แต่ก็ยังคงมีนักขับอายุน้อยที่กำลังเริ่มสั่งสมประสบการณ์ ด้วยความเชื่อมั่นว่าการแข่งขันนี้จะนำพาตนไปสู่ความสำเร็จในอนาคตได้อย่างก้าวกระโดด และก็มักจะเป็นเช่นนั้นอยู่เสมอ  อีกทั้งการแข่งขันชิงถ้วยคอปปา เชลล์ ยังเป็นการนำเสนอการแข่งขันที่ดุเดือดของเหล่าผู้หลงใหลในความเร็วจากทุกวัย ไม่ว่ามืออาชีพหรือนักขับหน้าใหม่ ส่วนการเข้าสนับสนุนของสิงห์ คอร์เปอเรชั่นฯ ในสนามแข่งความเร็ว เฟอร์รารี แชลเลนจ์ โทรฟีโอ พิเรลลี 2013 ครั้งนี้ทำให้โลโก้สิงห์ประกาศตัวเป็นโลโก้ระดับโลกที่ปรากฏต่อทุกสายตาของนักขับและผู้ชม ถือเป็นตัวแทนแห่งความภาคภูมิใจของคนไทยและประเทศไทยด้วยเช่นกัน
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved