Custom Search
donate car tax deduction | donate car to charity | donate car to charity california | donate car to charity los angeles | donate car without title | donate cars for kids | donate my car | donate my car to charity | donate your car | donate your car bay area | donate your car california | donate your car for kids | donate your car in maryland | donate your car nyc | donate your car tax deduction | donate your car to charity
รauto donation charities | best car donation program | best charity car donation program | best place to donate car | best place to donate car for tax deduction | california car donation | california donate car | car donation | car donation bay area | car donation ca | car donation california | car donation dc | car donation deduction | car donation in california |

อัตราการสิ้นเปลีองน้ำมันเชื้อเพลิงของ Mercedes-Benz C-Class Saloon


C 350 e ความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 2.4 - 2.1 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร
ค่าเฉลี่ยไอเสียจากคาร์บอนไดออกไซด์: 54 - 48 กรัมต่อกิโลเมตร

ตัวเลขค่าความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าไอเสียก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นผลที่ได้จากกระบวนการตรวจวัดตามที่มีการกำหนดใช้ (§2 Nos. 5, 6, 6a ของ "Pkw-EnVKV" [German Ordinance of Fuel Consumption Labelling for Cars] ตามที่มีการแก้ไขปรับปรุงใหม่) ตัวเลขดังกล่าวไม่ได้ใช้เป็นพื้นฐานอ้างอิงสำหรับรถยนต์รุ่นพิเศษเฉพาะบุคคลและไม่ได้ใช้เป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอของผลิตภัณฑ์ ตัวเลขดังกล่าวถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการเปรียบเทียบระหว่างรถยนต์ต่างโมเดลรุ่นเท่านั้น ค่าตัวเลขอาจมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงเนื่องจากขนาดของล้อและยางที่ใช้

Mercedes-Benz C-Class Saloon การขับขี่อัจฉริยะ Mercedes-Benz Intelligent Drive

ความสะดวกสบายที่เปลี่ยนเป็นพลังงานและความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม


ไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาเร่งด่วน การขับขี่ในช่วงเวลากลางคืนหรือบนเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย
C-Class Saloon รับรู้ถึงความเครียดโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น
สิ่งนี้ใช้พื้นฐานของแนวคิดการรวมรถยนต์ทั้งหมดของเราไว้ด้วยกัน และการทำให้ทุกการเดินทางในรถยนต์ Mercedes มีรูปแบบพิเศษเฉพาะตัว การขับขี่อัจฉริยะ Intelligent Drive

เพราะว่าเวลาที่คุณใช้ไปหลังพวงมาลัยเป็นเวลาของคุณเอง เวลาเพื่อการผ่อนคลาย เวลาเพื่อฟื้นฟูพลังงานของคุณ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการนำคุณสู่จุดหมายปลายทางด้วยความปลอดภัย ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ในเวลาที่อยู่กับเรา



Mercedes-Benz C-Class Saloon เหมาะสมเป็นพิเศษด้วยชุดแต่ง AMG Line


AMG ชื่อที่บ่งบอกถึงดีไซน์ในการแสดงออกถึงพลังในการขับเคลื่อนด้วยรูปแบบสปอร์ตเร้าใจ
ชุดแต่ง AMG Line พร้อมชุดแต่งตัวถัง AMG bodystyling ให้ความโดดเด่นดึงดูดความสนใจได้สูงสุดไม่ว่าจะมองจากมุมไหน

Mercedes-Benz C-Class Saloon มาพร้อมคุณภาพแจ่มกับคุณสมบัติที่ดีเยี่ยม



ความสามารถรอบตัว
เพียงแค่กำหนดให้เป็นรูปแบบมาตรฐานก็ประทับใจได้แล้ว: C-Class Saloon เพิ่มความสะดวกสบายที่โดดเด่นมากขึ้น
การผลิตด้วยความประณีตพิถีพิถันเป็นพิเศษและยังประกอบด้วยนวัตกรรมทางเทคนิคที่ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
ความงดงาม พลังในการขับเคลื่อน และประสิทธิภาพสามารถยกระดับเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการ

ภาพออกแบบ 2018 Suzuki Jimny รถยนต์ซีรีส์ตำนานอีกรุ่นของ Suzuki

ชมภาพ ซูซูกิ จิมนี่ (Suzuki Jimny) รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2018 นี้

ถือเป็นอีกรุ่นตำนานของค่าย Suzuki ที่ไม่ว่าจะออกรุ่นใหม่ เจนเนเรชั่นใหม่ขนาดไหน ก็ยังสามารถคงเอกลักษณ์ และเค้าโครงรุ่นเดิมได้ตลอดเวลา แถมยังมีความสวยงามทันสมัยตามยุคอีกด้วย กับ Suzuki Jimny

วันนี้ใกล้เวลาเปิดตัวโฉมใหม่อีกครั้ง ซึ่งแน่นอนภาพที่นำมาให้ชมกันยังคงเป็นแค่ภาพร่างการออกแบบ แต่คาดว่าคันจริงจะไม่แตกต่างจากในภาพสักเท่าใดนัก เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ก่อนมีผู้พบเห็นและถ่ายระหว่าง ทดสอบการขับขี่บนถนนจริงๆ พร้อมพรางตัวตามปรกติ
สำหรับรุ่นใหม่คาดการณ์ว่าจะมีมิติตัวถังรถยนต์ที่ใหญ่มากยิ่งขึ้น ความเป็นเหลี่ยมสันชัดเจนมากขึ้น เมิงเผินๆ อาจนึกว่าเป็นรถสมบุกสมบันแบรนด์ Jeep ก็เป็นได้ แต่นี่คือเอกลักษณ์อีกอย่างของ Suzuki Jimny อย่างที่บอกไปในช่วงต้นว่า รูปแบบการออกแบบเส้นสายเค้าเป็นแบบนี้มาเป็นสิบๆ ปี แล้ว
ในส่วนการเปิดตัวน่าจะมีความเป็นไปได้สูงที่จะได้พบกันในงาน โตเกียว มอเตอร์โชว์ 2017 ที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือน ตุลาคม นี้้ และพร้อมขายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2018 ต่อไป

ที่มา : www.autospinn.com

Suzuki เตรียมผลิตรถยนต์พลังไฟฟ้าให้ Toyota ในอินเดีย


โตโยต้าและซูซูกิ บรรลุข้อตกลงการผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในอินเดีย ซึ่งจะเกิดขึ้นภายในปี 2020

กรอบข้อตกลงดังกล่าวถูกลงนามโดยทั้งสองฝ่ายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะบรรลุข้อตกลงในรายละเอียดซึ่งซูซูกิจะไม่เพียงผลิตรถยนต์พลังไฟฟ้าเพื่อจัดจำหน่ายเองเท่านั้น แต่ยังผลิตและจัดส่งรถยนต์ให้โตโยต้าอีกด้วย ขณะที่โตโยต้าจะให้การสนับสนุนทางเทคนิค

ทั้งสองบริษัทยังร่วมมือกับศึกษาและดำเนินมาตรการหลายด้านที่จะช่วยกระตุ้นความนิยมในรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในอินเดียให้ลูกค้ายอมรับในวงกว้าง

มาตรการต่างๆ ครอบคลุมถึงการขยายสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้า การพัฒนาทรัพยากรบุคคลทั้งก่อนและหลังการขาย รวมถึงการศึกษาระบบการจัดการแบตเตอรี่ที่หมดอายุการใช้งานแล้วด้วย

ซูซูกิยังประกาศด้วยว่ากำลังวางแผนก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในอินเดียเพื่อทำการผลิตทั้งแบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนสำคัญอื่นๆ โดยโรงงานดังกล่าวจะตั้งอยู่ภายในพื้นที่โรงงานประกอบรถยนต์แห่งใหม่ที่ซูซูกิเพิ่งเปิดทำการเมื่อไม่นานนี้

ค่ายรถจากญี่ปุ่นรายนี้ระบุด้วยว่า แผนการส่งเสริมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอินเดียภายใต้แนวคิดริเริ่ม “Make in India”

ที่มา : www.autospinn.com

นักวิชาการชี้ควรวางแผนพัฒนา “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” อย่างเป็นระบบ



นักวิชาการเตือนรัฐวางแผนรับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นระบบ ก่อนกระทบเศรษฐกิจมหภาคสูญเสียภาษีเงินได้มหาศาล

นักวิชาการเตือนรัฐวางแผนรับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นระบบ ก่อนกระทบเศรษฐกิจมหภาคสูญเสียภาษีเงินได้มหาศาล บีโอไอพร้อมส่งเสริมการลงทุนทุกรูปแบบ ด้านศูนย์วิจัยกสิกรชี้ปีหน้าเศรษฐกิจดียอดขายรถเพิ่ม

ธิบดี หาญประเสริฐ นายกสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ไทย เปิดเผยในการเสวนาทศวรรษใหม่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย หัวข้อ “A New Vision for Mobility” ว่า รัฐบาลหันมาส่งเสริมการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงไปถึงเป้าหมาย แต่สิ่งที่ต้องการสะท้อนให้เห็นจากนี้จะเป็นภาพรวมที่รัฐต้องตระหนักและควรวางแผนอย่างเป็นระบบเพื่อไม่ให้ไทยก้าวก้าวผิดจังหวะกระทบเศรษฐกิจมหภาคและสูญเสียภาษีเงินได้

ทั้งนี้ หากพิจารณาผลกระทบด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค ปัจจุบันรัฐไทยเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2559 ประมาณ 7 แสนกว่าล้านบาท เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกองทุนอนุรักษ์พลังงานได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากไทยเน้นเรื่องการผลิตและใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง มาตรการทางด้านภาษีตรงนี้จะเป็นอย่างไรเพราะรัฐต้องสูญเสียรายได้ในส่วนนี้ รวมทั้งยังไม่สามารถเก็บภาษีรายได้นิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจน้ำมันอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์



“ผมไม่ได้คัดค้านเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า แต่ต้องการให้ภาครัฐช่วยวิเคราะห์การเกิดขึ้นในภาพรวม และช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยให้อยู่รอด เพราะที่ผ่านมาเราส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ปีละประมาณ 5.8 แสนล้านบาท หากรัฐก้าวผิดจังหวะ นักลงทุนต่างชาติอาจขยับไปลงทุนที่เวียดนามกับอินโดนีเซียแทน”

นอกจากนี้ ผลกระทบที่จะตามมาจะทำให้จำนวนการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหลังการขายระบบดีลเลอร์ทั้งหมดจะล่มสลาย เพราะรถยนต์ไฟฟ้าไม่ต้องมีการบริการ

โชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ในส่วนของบีโอไอพร้อมสนับสนุนการลงทุนทุกรูปแบบ อาจแตกต่างตรงส่งเสริมชิ้นส่วนเก่าน้อยกว่าชิ้นส่วนใหม่ ซึ่งที่ผ่านมา เทคโนโลยีไฮบริด มีบริษัทโตโยต้ารายเดียวที่ยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ แต่ก็ยังมีเวลาถึงสิ้นปีนี้ ส่วนปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า ยังมีเวลาถึงปีหน้า

พิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์โดยยังเป็นปัจจัยบวกมากกว่าปัจจัยลบ อัตราดอกเบี้ยน่าจะทรงตัวในระดับต่ำเป็นปีสุดท้าย และตลาดรถยนต์จะฟื้นตัวในส่วนของผู้มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป เช่นเดียวกับเศรษฐกิจที่ยังเติบโตไม่ทั่วถึงทุกธุรกิจ

จาการสำรวจผู้บริโภคไทยสนใจรถยนต์ไฟฟ้าแต่ราคาหรือส่วนต่างกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต้องไม่ถึง 2 แสนบาท ซึ่งในส่วนนี้ไทยอาจได้รับผลกระทบจาก FTA ไทย-จีน ที่มีสิทธิ์นำเข้ารถโดยมีภาษีที่ 0%

ณัฐพล รังสิตพล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย รัฐบาลสนับสนุนให้ผู้ผลิตในตลาดปรับเปลี่ยนการผลิตสู่เทคโนโลยีใหม่
ซึ่งหากพิจารณาปริมาณการผลิตภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะประเทศจีน ผลิตรถเกินความต้องการอยู่มา ขณะที่ประเทศอังกฤษและอเมริกา ตัวเลขคนรุ่นใหม่เริ่มมีผูัทำใบขับขี่น้อยลง ความต้องการรถยนต์ของคนรุ่นใหม่ลดลงจากผลกระทบของเทคโนโลยี จึงเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังสำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นฐานการผลิต

“เราอาจต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของโลก ซึ่งอนาคตไทยอาจต้องปรับตัวใหม่ไม่ใช่เป็นเพียงฐานการผลิตเท่านั้น”

ที่มา : www.autospinn.com

Toyota Rush มินิเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง พี่ไทยไม่ต้องรอ มีขายเฉพาะอินโดนีเซีย


ผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะชวาเป็นร้อยๆ ล้าน ทำให้ Toyota หาหนทางที่จะปรุงแต่งรถครอบครัวแบบเอ็มพีวี หรือรถที่มีทรงแบบกล่องสำหรับขนครอบครัวเดินทางไปทั้งหมดเพื่อส่งขายในประเทศมุสลิมแห่งนี้ รถแนวเอ็มพีวีได้รับความนิยมอย่างมากบนเกาะชวา จากรูปแบบความอเนกประสงค์ แม้จะขับไม่ค่อยจะได้เรื่องได้ราว แต่ความจุผู้โดยสารที่เป็นจุดขายของรถประเภทนี้โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซียที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมเดินทางไปกันทีเดียวทั้งครอบครัว ทำให้บรรดาค่ายรถญี่ปุ่นซึ่งนำโดยหัวเรือใหญ่อย่างค่ายสามห่วง Toyota ปล่อยรถเอ็มพีวีออกมาอย่างต่อเนื่อง

Toyota Rush เป็นมินิเอ็มพีวีแบบ 7 ที่นั่ง วางเครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2NR แบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร DOHC Dual VVT-i กำลังสูงสุด 104 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 136 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังหรือเกียร์มีให้คนอินโดฯ เลือกสองแบบ แบบแรกคือเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ แบบที่สองเป็นเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ Toyota Rush เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง คาดว่าการขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลังจะทำให้มันขับได้ดีกว่าการใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า

มิติตัวถังของ Toyota Rush ยาว 4,435 กว้าง 1,695 สูงประมาณ 1,680 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,685 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องล่อไปถึง 220 มิลลิเมตร สูงปรี้ดอย่างกับเอสยูวีกันเลยทีเดียว เทียบกับรถคู่แข่งอย่าง Honda BR-V ที่มีความยาว 4,455 กว้าง 1,735 x และสูง 1,650 มิลลิเมตร จะพบว่าทั้งพี่โตและ BR-V มีเรือนร่างที่สูสีกันมาก สำหรับประเทศไทยไม่ต้องรอให้เมื่อย เพราะ Rush จะขายแค่ในอินโดนีเซียเท่านั้น.


ที่มา : www.thairath.co.th

การดูแลรักษาระบบเบรก และข้อควรระวัง

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก แม้ว่าจะไม่มีการรั่วหรือลดระดับลงอย่างใดก็ตาม น้ำมันเบรกควรได้รับการเปลี่ยนถ่ายปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพราะน้ำมันเบรกมีส่วนประกอบมาจากน้ำมันแร่ จึงมีการรวมตัวกับไอน้ำได้ง่าย ทำให้ระบบเบรกเกิดสนิม ความร้อนที่สูงเกินไปทำให้เกิดฟองอากาศในท่อน้ำมัน ฝุ่นผงที่สึกหรอของลูกยางเบรกจะเสียดสี กับแม่ปั้มเบรก ทำให้กระบอกเบรกเสียหายเร็วขึ้น น้ำมันเบรกต้องเลือกใช้ให้ตรงกับมารตราฐานที่ผู้ผลิตกำหนด เช่น DOT3 จะไม่สามารถนำน้ำมันเบรก DOT อื่นผสม หรือนำน้ำมันอื่นๆเติมแทน เพราะจะทำให้ลูกยางเบรกบวมได้ การเช็คระยะห่างผ้าเบรก ในระบบดรั้มเบรก ระยะห่างระหว่างผ้า และจานเบรกที่มากขึ้น จะสังเกตได้จากการเหยียบเบรกจะต่ำลง และการดึงเบรกมือที่สูงขึ้น ระดับน้ำมันเบรกลดต่ำลง ควรต้องทำการถอดจานเบรกมาทำความสะอาด เป่าฝุ่นทิ้ง และตั้งระยะผ้าเบรกให้ชิดขึ้น การตั้งจะใช้ไขควงเขี่ยเฟืองตั้งให้หมุนตามฟันตั้ง ด้านหลังจานเบรก ใส่ล้อไขให้แน่นแล้วหมุนสังเกตถ้าล้อเริ่มหมุนฝืดขึ้น ถือว่าใช้ได้ ทำทั้ง 2 ล้อ หรือสังเกตจากเสียงแกรกๆ เวลาดึงเบรกมือควรจะอยู่ที่ 5 – 7 แกรก


การตรวจสอบผ้าเบรก ผ้าเบรกเป็นส่วนที่สึกหรอเร็วกว่าส่วนอื่น เพราะมีการเสียสีทั้งจานเบรก และฝุ่นต่างๆ ควรถอดเช็คเป็นประจำ สังเกตเปรียบเทียบกับผ้าเบรกของใหม่แกะกล่อง จะมีความหนาเป็น 100 % ผ้าเบรกที่ใช้แล้วความหนาจะลดลงเรื่อยๆ ในจุดที่ต่ำกว่า 40 – 30 % นั้นถือว่าไม่ปลอดภัย เพราะผ้าเบรกในช่วงที่เหลือน้อย การสึกหรอจะรวดเร็วกว่าหลายเท่าตัว จนถึงระดับบางมาก เนื้อผ้าเบรกอาจหลุดร่อนได้อย่างกะทันหัน เป็นผลให้แผ่นเหล็กสีกับจานเบรกจนเสียหาย เสียเงินเพิ่ม หรือถ้าผ้าเบรกหลุดออกจากฝักเบรก ลูกสูบปั้มเบรก และน้ำมันเบรกจะหลุดออก ที่เรียกกันว่าเบรกแตกนั้นเองการเปลี่ยนจานเบรก และการเจียรจานเบรก การใช้ผ้าเบรกที่มีโลหะผสมอยู่มาก ฝุ่น หิน และการปล่อยให้ผ้าเบรกหมด จะทำให้จานเบรกเป็นรอย การขับรถลุยน้ำขณะที่จานเบรกร้อน จะทำให้จานเบรกคด หรือบิดตัว ต้องทำการเจียรจาน ด้วยเครื่องมือเจียรจานเบรก ทำได้ 2 วิธี การถอดจานเบรกมาเจียรด้วยเครื่องเจียรจาน แบบนี้ต้องใช้ค่าแรงสูงและอาจต้องมีการเปลี่ยนจารบีลูกปืนล้อใหม่ เสี่ยงต่อเศษฝุ่นผงเหล็กปะปนกับการประกอบจานเบรกคืน และการใช้เครื่องเจียรจานแบบประชิดล้อ แบบนี้ไม่ต้องเสียเวลาถอดจานเบรก และลูกปืนล้อ แต่ความเที่ยงตรงไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาพดุมล้อ และลูกปืนล้อ ว่าหลวมหรือคดหรือไม่ การเจียรจะทำให้จานเบรกบางลง จานเบรกที่บางจะทำให้เกิดการแตกร้าว และคดได้ง่าย ควรเปลี่ยนจานเบรกใหม่ถือเป็นการดีที่สุดการทำความสะอาดจานเบรก ถ้ามีจารบี หรือสิ่งแปดเปื้อน ติดอยู่ที่จานเบรก ควรใช้น้ำยาล้างจานเบรกโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้น้ำมันอื่นๆมาทำความสะอาด หรือถ้าไมมีจริงๆ ควรใช้ทินเนอร์ 100% หรือ แอลกอลฮอลบริสุทธิเท่านั้นการตรวจสอบสายอ่อนเบรก ควรตรวจสอบเป็นประจำสม่ำเสมอ ถ้าเห็นว่ามีอาการบวม บิดคดเสียรูป ปลอกหุ้มภายนอกฉีกขาด หรือมีการเสียดสี ควรรีบเปลี่ยนทันที เพราะอาจจะเกิดการแตกได้ง่ายๆ


การล้างและเปลี่ยนชุดซ่อมเบรก เบรกที่ได้รับการใช้งานอยู่เป็นประจำ ควรได้รับการเปลี่ยนชุดซ่อม จำพวกลูกยางแม่ปั้มเบรก ลูกยางลูกสูบเบรก และยางกันฝุ่น อย่างน้อย 2 – 4 ปีครั้ง หรือถ้ามีมีการลุยน้ำ ต้องรีบตรวจเช็คทันที เพระลูกยางกันฝุ่นที่เก่าหมดสภาพ จะไม่สามารถกันน้ำและฝุ่นได้ น้ำที่ซึมผ่านเข้าไปในกระบอกเบรก และแม่ปั้มเบรก จะทำลายลูกสูบเบรกให้เกิดสนิม เป็นตามด ในกระบอกเบรก ทำให้เกิดอาการเบรกติด หรือน้ำมันเบรกรั่วซึม

อาการเบรกเฟด เป็นอย่างไร สาเหตุเกิดจากอะไร

เบรกเฟด คืออาการเบรกลื่นๆ เบรกไม่อยู่ในขณะที่ใช้ความเร็วสูง หรือติดต่อกันหลายๆครั้ง หรือใช้เบรกแบบหักโหม อาการนี้เกิดขึ้นเช่น เวลาที่ขับรถมาด้วยความเร็วสูงมากๆ พอแตะเบรกครั้งแรกก็เบรกอยู่ดี พอแตะเบรกอีกหลายๆทีกลับเกินอาการลื่นเหมือนยังไม่เหยียบเบรกเลย ถือว่าน่ากลัวมาก


สาเหตุเกิดจาก ความร้อนของจานเบรกที่สูงเกินไป จานเบรกที่ใช้งานหนักอาจจะเกิดความร้อนสูงกว่า 1,000 องศา จานเบรกอาจเกิดการไหม้แดง เหมือนเหล็กถูกเผาไฟ และเกิดการขยายตัวมาก การระบายความร้อนของจานเบรกไม่ดี ผ้าเบรกที่มีคุณสมบัติในการทนความร้อนต่ำ จะเกิดการลุกไหม้เสียหาย ไม่สามารถจับจานเบรกให้อยู่ได้ รวมถึงน้ำมันเบรกที่คุณสมบัติในการทนความร้อนต่ำ จะทำให้น้ำมันเบรกเดือด เกิดการขยายตัวเป็นฟองอากาศ ทำให้แรงดันไฮโดลิคลดต่ำลง อาการเบรกเฟดนี้ ถือเป็นปัญหาของนักซิ่ง ที่ชอบใช้เบรกแบบรุนแรง เบรกบ่อยๆติดต่อกัน และ รถที่ขับด้วย ความเร็วสูง
donate your car today | donate your vehicle | donating a car for taxes | donating car in california | donating my car tax deduction | donating used cars to charity | donation for cars | how donate car | how to donate a car | how to donate a car in california | how to donate my car | how to donate your car | i want to donate my car | junk car donation | places to donate cars | sacramento car donation | tax break for donating a car | tax deduction car donation | tax deduction for car donation | vehicle donate | vehicle donation | where can i donate my car | where to donate a car | where to donate car | where to donate my car

หมวดหมู่ยานยนต์

 
Support : A | B | C
Copyright © 2016. เทคโนโลยียานยนต์ - All Rights Reserved