ทีเอสแอล เผยแผนธุรกิจปี 2558 เน้นศักยภาพของศูนย์บริการ เปิดรับดูแลรถนำเข้าทุกแบรนด์ จากทุกค่าย
Posted by Contemporary industry
Posted on 21:44
ทีเอสแอล เปิดแผนธุรกิจ ปี 2558 ตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากงานบริ การหลังการขายเป็นหลัก ทุ่มพัฒนาเทคโนโลยีและบุคคลากร เพื่อให้ศูนย์บริการทั้ง 4 สาขา พร้อมรองรับการให้บริการอย่ างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งเปิดให้บริการกับรถนำเข้ าทุกแบรนด์ จากทุกค่าย ไม่ว่าจะออกรถกับที่ใดก็ตาม นำรถเข้ามาใช้บริการที่ที เอสแอลได้ ด้านแคมเปญโปรโมชั่นและกิ จกรรมลูกค้าสัมพันธ์ จัดเต็มทุ่มงบประมาณกว่า 15 ล้านบาท ด้วยรายการคืนกำไรในรูปแบบต่างๆ อัดแน่นตลอดทั้งปี
นางสาวสุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัดเปิดเผยว่า “ในปี 2558 นี้ ทีเอสแอลจะมุ่งเป้าไปที่การเพิ่ มศักยภาพของศูนย์บริการ ทั้งในด้านกำลังคน สถานที่ เทคโนโลยี เพื่อความรวดเร็วที่ควบคู่ไปกั บประสิทธิภาพของรถลูกค้าที่เข้ ามารับบริการ และที่สำคัญที่ลูกค้าส่วนใหญ่ยั งไม่ทราบคือ ศูนย์บริการของทีเอสแอล เป็นทั้งศูนย์เครื่อง ศูนย์สีและตัวถัง แบบครบวงจร”
“โดยปรกติลูกค้าที่จะใช้บริ การศูนย์ได้ต้องเป็นลูกค้าที่ ออกรถกับทีเอสแอลเท่านั้น สำหรับรถที่มาจากค่ายอื่นๆ หากประสงค์จะใช้บริการต้องมีค่ าแรกเข้า 100,000 บาท แต่เนื่องจากมีรถจากที่อื่นๆ จำนวนหนึ่งที่ประสงค์จะมาใช้บริ การ โดยได้รับการบอกเล่าเรื่ องความเป็นมาตรฐานของศูนย์ต่ อจากลูกค้าของทีเอสแอล ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 ศูนย์บริการของทีเอสแอลทุกสาขา เปิดให้ลงทะเบียนเป็นลูกค้าที เอสแอล โดยไม่มีค่าแรกเข้า
ในปัจจุบันศูนย์บริการของที เอสแอลมีทั้งสิ้น 4 สาขา ในกรุงเทพ 3 แห่ง คือ ณ สำนักงานใหญ่
ทีเอสแอล (แจ้งวัฒนะ) สาทร และทองหล่อ ส่วนต่างจังหวัดจะมีที่ภูเก็ต และในขณะนี้กำลังอยู่ในช่ วงของการขยายและปรับปรุงพื้นที่ ศูนย์บริการ สำนักงานใหญ่ แจ้งวัฒนะอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมเปิ ดให้บริการในช่วงหลังสงกรานต์”
ยิ่งไปกว่านั้นในปีนี้เรามี แผนขยายศูนย์บริการเพิ่มขึ้นอีก 2 สาขา ด้วยงบลงทุนประมาณ 60 ล้านบาท ดังนั้นทีเอสแอลจะมีศูนย์บริ การรวมทั้งสิ้น 6 สาขา ภายในสิ้นปี 2558 นี้ อย่างแน่นอน” คุณสุรีย์ภรณ์ กล่าวเสริม
ด้านกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ และแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวกับการจำหน่ ายรถและศูนย์บริการ จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่ องตลอดทั้งปี ตัวอย่างเช่น กิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ โครงการ “จอด จับ แจก” สำหรับลูกค้าร่วมลุ้นรับบั ตรกำนัล หรือ คูปองเงินสด สำหรับรับประทานอาหาร ดูหนัง หรือ สปา ไปได้ง่ายๆ เพียงแต่นำรถมาจอดในที่ จอดรถของทีเอสแอลที่ให้บริ การในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ได้แก่ ห้างเซ็นทรัล สาขาแจ้งวัฒนะ ลาดพร้าว และ เซ็นทรัลเวิลด์ ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลทันที
ส่วนแคมเปญส่งเสริมการขาย ทีเอสแอล จัดตารางเดินสายออกบูธตามห้ างสรรพสินค้าต่างๆ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ าที่ต้องการเลือกซื้อรถ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกั บกำหนดการออกบูธ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็ บไซต์ www.tsl.co.th หรือ โทรสอบถามได้ที่ ทีเอสแอล คอลเซ็นเตอร์ หมายเลข 02-269-9999
ทีเอสแอล ยังคงเดินหน้าสรรหาและคั ดสรรรถที่มีคุณภาพในราคาที่ สมเหตุสมผลให้ลูกค้าผู้มีอุ ปการะคุณได้เลือกสรรเช่นเดิม ภายใต้ชื่อ ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น สำหรับงานดูแลรับผิดชอบด้ านการให้บริการหลังการขาย (ศูนย์บริการ) นั้น จะทำงานภายใต้ชื่อ ทีเอสแอล ออโต้ เซอร์วิส
YOKOHAMA ท้าพิสูจน์ (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ยางรุ่นใหม่เพื่อรถ Pick-up, SUV, PPV นุ่มเงียบ ใช้งานได้อย่างมั่นใจและขับขี่ปลอดภัย ยึดเกาะได้ดีเยี่ยมทั้งบนถนนแห้งและเปียก
Posted by Contemporary industry
Posted on 02:23
YOKOHAMA เชิญสื่อมวลชนเข้าร่ วมทดสอบสมรรถนะยางรถยนต์รุ่ นใหม่ล่าสุด “GEOLANDAR H/T G056” (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ เชียงราก จ.ปทุมธานี ผลิตในประทศไทยและนำเข้าจากฟิลิ ปปินส์ ชูจุดเด่น ให้สมรรถนะดีเยี่ยม เรื่องความนุ่มเงียบ ใช้งานได้อย่างมั่นใจและปลอดภั ยในการยึดเกาะถนนทั้งบนนถนนแห้ งและเปียก รองรับกลุ่มรถ Pick-up, SUV, PPV ยอดนิยมในตลาดเมืองไทยราคาจำหน่ าย 2,125-6,500 บาท เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ 1 เมษายนนี้ ณ ร้านค้าผู้แทนจำหน่ายของ YOKOHAMA กว่า 300 แห่งและศูนย์บริการยางมาตรฐาน YOKOHAMA CLUB NET WORK (YCN) 30 แห่งทั่วประเทศไทย
มร.ทาเคโตชิ โมริตะ (Mr.Taketoshi Morita) กรรมการผู้จัดการ บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ยางรถยนต์โยโกฮามารุ่นใหม่ Geolandar G056 (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ยางรถยนต์ที่ถูกคิดค้นและพั ฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยีใหม่ล่ าสุด เพื่อให้การขับขี่รถ Pick-up, SUV, PPV ที่นุ่มเงียบ ภายใต้นวัตกรรม การออกแบบโครงสร้างยาง, ส่วนผสมของเนื้ อยางและดอกยางใหม่ ที่ให้ความมั่นใจในความนุ่มเงี ยบได้ยาวนาน ด้วยการพัฒนาบล็อกดอกยางให้มี ขนาดต่างกันถึง 5 ขนาด นอกจากจะช่วยลดเสียงรบกวนได้ดี แล้ว ร่องยางแบบ 3D และร่องยาง Multiple Lug ช่วยให้ผู้ขับขี่บังคับควบคุ มรถได้อย่างแม่นยำ ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง ให้สมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ดี เยี่ยม ให้ระยะเบรกที่สั้นกว่า และยังมีอายุการใช้งานที่ ยาวนานมากกว่ารุ่นเดิมถึง 21%
ยาง GEOLANDAR H/T G056 ผลิตในประทศไทยและนำเข้าจากฟิลิ ปปินส์ สามารถตอบ
เทรนด์ความต้องการการขับขี่รถ Pick-up, SUV, PPV ที่ต้องการความนุ่มเงียบ มีให้เลือกตั้งแต่ขอบ 15-20 นิ้ว หน้ากว้าง 215-285 และซีรี่ส์มีให้เลือกตั้งแต่ 50-80 รวม 26 ขนาด ราคาจำหน่าย 2,125-6,500 บาท ครอบคลุมรถยนต์Pick-up, SUV, PPV ที่ใช้งานเน้นบนถนนเป็นหลัก เช่น Toyota Vigo, Toyota Fortuner, Nissan Navara, Mazda BT50, Isuzu D-Max, Isuzu Mu7, Isuzu Mu-X, Mitsubishi Triton, Chevrolet Trailblazer และ Ford Rangerเป็นต้น
GEOLANDAR H/T G056 (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ถือเป็นผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ของ YOKOHAMA ในปีนี้ ที่จะมาช่วยต่อยอดความสำเร็ จในการจำหน่ายยางรถยนต์ของ YOKOHAMA รุ่นต่างๆ ที่วางตลาดไปก่อนหน้า โดยตั้งเป้าจำหน่ายยางไว้ที่ 65,000 เส้น ภายในสิ้นปีนี้ โดยเริ่มวางจำหน่าย ณ ร้านค้าผู้แทนจำหน่ายของ YOKOHAMA กว่า 300 แห่งและศูนย์บริการยางมาตรฐาน YOKOHAMA CLUB NETWORK (YCN) 30 แห่งทั่วประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ได้จัดแคมเปญมอบให้ แก่ผู้ใช้ในช่วงเปิดตัวแนะนำ เมื่อซื้อยาง GEOLANDAR H/T G056 จำนวน 4 เส้น รับฟรีทันที Sport Bags (กระเป๋ากีฬาพรีเมียม) ที่จัดทำขึ้นมาเป็ นการเฉพาะจำนวน 1 ใบ”
(จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ตอบโจทย์ตรงใจ เพื่อกลุ่มรถ Pick-up, SUV, PPV แท้จริง
สำหรับการทดสอบสมรรถนะยางรุ่ นใหม่ในครั้งนี้ YOKOHAMA มุ่งหวังให้ผู้ร่วมทดสอบได้สั มผัสถึงสมรรถนะยาง “GEOLANDAR H/T G056” (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) อย่างครบถ้วนในทุกรูปแบบ และทุกสภาพพื้นผิวที่ใช้งานจริง โดยเฉพาะจุดเด่นเรื่องของการให้ สมรรถนะดีเยี่ยม เรื่องความนุ่มเงียบ ใช้งานได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัยในการยึดเกาะถนนทั้ งบนนถนนแห้งและเปียกแล้ว ยังสามารถตอบโจทย์การขับขี่ใช้ งานรถยนต์กลุ่ม Pick-up, SUV, PPV ที่ใช้งานเน้นบนถนนเป็นหลัก โดยใช้ยาง “จีโอแลนดา จี051” ขนาด 265/65R17 ซึ่งเป็นยางรุ่นเก่าที่ เคยวางจำหน่าย เปรียบเทียบสมรรถนะในทุกมิติกั บยาง “จีโอแลนดา จี056” รุ่นใหม่ล่าสุดขนาดเดียวกัน ติดตั้งรถยนต์ ทดสอบแบบอเนกประสงค์รุ่นยอดนิ ยมอย่าง โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จำนวน 12 คัน มิตซูบิชิ ปาเจโรสปอร์ต จำนวน 3 คัน และรถปิกอัพ ฟอร์ด เรนเจอร์ จำนวน 1 คัน
สถานี YOKOHAMA Comfort Station : ผู้ร่วมทดสอบต้องขับรถยนต์ผ่ านผิวถนนบนที่มีเส้นเชือกขึ งขวางระยะๆ เสมือนกับการขับรถผ่านร่องผิ วถนน เพื่อให้รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทื อนจากยางรถยนต์เข้าสู่ห้ องโดยสารจนถึงพวงมาลัย จากการทดสอบทำให้สัมผัสถึงประสิ ทธิภาพอันยอดเยี่ยมในการซึมซั บแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือนของ (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ที่ให้ผลลัพธ์ดีกว่ายางรุ่นเก่ าอย่างชัดเจน และยังรับรู้ถึงสมรรถนะของยางที ่นุ่มเงียบ ซึ่งมีโครงสร้างยาง ส่วนผสมของเนื้อยาง และดอกยางใหม่ ที่ให้ความมั่นใจในความนุ่มเงี ยบได้ยาวนาน ด้วยการพัฒนาบล็อกดอกยางให้มี ขนาดต่างกันถึง 5 ขนาด ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดี
สถานี YOKOHAMA Slalom-Figure & Lane Change Station : ผู้ทดสอบต้องขับรถยนต์ซิ กแซกไปตามไพร่อน ด้วยความเร็วประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อสัมผัสถึงการตอบสนองของแก้ มยางในรูปแบบของการเลี้ยวกะทั นหัน จากการทดสอบทำให้รับรู้ถึ งสมรรถนะและประสิทธิภาพอั นยอดเยี่ยมของยางรุ่นใหม่ล่าสุด (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ที่ให้ความมั่นใจและปลอดภั ยในการยึดเกาะถนน และให้ประสิทธิภาพในการบังคั บควบคุมรถได้อย่างแม่นยำเหนื อกว่ายางรุ่นเดิม
สถานี YOKOHAMA Dry Handling Station : กำหนดโจทย์ให้ผู้ทดสอบขับขี่ รถยนต์ที่ติดตั้งยางรุ่นใหม่ล่ าสุด (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) เปรียบเทียบกับยางรุ่นเดิม บนทางโค้งมุมกว้าง ขับด้วยความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลลัพธ์คือ ยางรุ่นใหม่ล่าสุด (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ให้สมรรถนะการบังคับควบคุมง่าย และให้การคืนตัวของวงเลี้ยวที่ ดีกว่ายางรุ่นเก่าอย่างชัดเจน
สถานี YOKOHAMA Wet Brake Station : ผู้ทดสอบต้องขับรถยนต์ทำความเร็ วให้ได้ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนพื้นผิวถนนเปียกลื่น แล้วกระทืบเบรกอย่างแรง เสมือนว่ากำลังเกิดเหตุฉุกเฉิ นในระหว่างขับขี่ เพื่อพิสูจน์ถึงประสิทธิ ภาพระยะเบรกของยางทั้ง 2 รุ่น โดยจะวัดประสิทธิภาพจากระดั บความเร็วตั้งแต่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนลดลงเหลือ 2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ว่าใช้ระยะการเบรกที่เท่าใด ผลการทดสอบปรากฏว่า รถยนต์ที่ติดตั้งยางรุ่นใหม่ล่ าสุด (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ให้ประสิทธิภาพการเบรกในระยะที่ สั้นกว่ายางรุ่นเดิมอย่างชัดเจน
สถานี YOKOHAMA Road Tour Station : โดยทีมทดสอบของ YOKOHAMA พาสื่อมวลชนร่วมพิสูจน์ สมรรถนะยางบนถนนหลวงหลากหลายรู ปแบบ เสมือนกับการขับรถยนต์จริงในชี วิตประจำวัน ซึ่งมีทั้งพื้นผิวถนนแบบคอนกรี ตอัดแรง ผิวถนนยางแอสฟัลท์ Asphalt รวมทั้งเปิดโอกาสให้ขับขี่ผ่ านเส้นทางชุมชนและบุกตะลุ ยไปตามผิวถนนออฟโรดแบบสมบุกสมบั น และร่วมเล่นเกมระหว่างการเดิ นทาง โดยใช้เส้นทางถนนวงแหวนตะวันตก จากเชียงราก จ.ปทุมธานี มุ่งหน้าสู่พระราชวังบางปะอิน ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร
จากการทดสอบสมรรถนะในทุกมิติ บนท้องถนนหลวง ทำให้สัมผัสถึงสมรรถนะแท้จริ งของยาง “GEOLANDAR H/T G056” (จีโอแลนดา จีศูนย์ห้าหก) ในทุกมิติ สะท้อนให้ผู้ร่วมทดสอบรับรู้ถึ งความมั่นใจในความนุ่มเงียบ ช่วยลดเสียงรบกวนได้ บังคับควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง และให้สมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ ดีเยี่ยม
จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ร่วมงานเลี้ยงฉลองสุดยอดแบรนด์ “Best of British” ของหอการค้าอังกฤษ - ไทย การันตีความเป็นสุดยอดของผลิตภัณฑ์ระดับตำนานแห่งสหราชอาณาจักร
Posted by Contemporary industry
Posted on 02:19
ภาพข่าว: มร.ริชาร์ด เฮก (ขวา) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จํากัด, ฯพณฯ มาร์ค เคนท์ (กลาง) เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย, มร.เซิร์จ ทูรอน (ซ้าย) ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จํากัด ภายในงาน
“Life & Style - an evening of exquisite British music, cars, motorcycles, food and drinks”
จัดโดย หอการค้าอังกฤษ – ไทย ณ สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ
กรุงเทพฯ 27 มีนาคม 2558 – จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ สุดยอดแบรนด์ยนตกรรมจากอังกฤษ ร่วมงาน “Life & Style, an evening of exquisite British music, cars, motorcycles, food and drinks” จัดโดยหอการค้าอังกฤษ – ไทย ภายในบริเวณสวนของสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ โดย จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ มีผลงานที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์แห่งสหราชอาณาจักร (Best of British) คือรถยนต์ลีมูซีนรุ่นเอ็กซเจ (XJ) รุ่นฐานล้อยาวที่เป็นหนึ่งในยานยนต์ที่งามสง่ามากที่สุด โดยมีตราสินค้าชั้นนำอื่นๆ จากสหราชอาณาจักร ที่ได้รับคัดเลือกในครั้งนี้ อาทิ เฮนดริกส์ ยิน, ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ และ ชาทไวนิงส์ ภายในงานคับคั่งไปด้วยบุคคลสำคัญจำนวนมาก ซึ่งได้มาร่วมพบปะสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน และใช้โอกาสนี้ในการสร้างเครือข่ายระดับสูงระหว่างนักธุรกิจชั้นนำและบุคคลากรทางการทูตของเมืองไทย
ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยานยนต์และข้อมูลเชิงเทคนิคได้ที่เว็บไซต์ www.landroverthailand.com และ www.jaguarthailand.com
ครั้งแรกในประเทศไทยกับปอร์เช่ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) รถแข่งสุดยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ปอร์เช่เผยโฉม 919 ไฮบริด พร้อมขนทัพรถหรูร่วมโชว์ในงานมอเตอร์โชว์ 2015
Posted by Contemporary industry
Posted on 01:13
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์
ครั้งที่ 36 (Bangkok International Motor Show 2015) เพื่อเป็นการประกาศและตอกย้ำความเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยภายในงานท่านจะได้พบกับสุดยอดรถแข่งระดับโลกเจ้าของความสำเร็จรายการ Le Mans และ WEC ในปี 2014 นั่นคือ ปอร์เช่ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) นอกจากนี้ เอเอเอสฯ ได้ขนทัพสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก ประกอบด้วย ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) รถ Plug-in Hybrid คันแรกของโลกในคลาสรถสปอร์ตอเนกประสงค์ , พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S
E-Hybrid) รถสปอร์ต ซาลูนสุดหรูที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีระบบขับเคลื่อนแบบ plug-in ไฮบริดคันแรกของโลกในคลาสรถหรู , พานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel) รถยนต์ที่มาพร้อมพละกำลังและแรงบิดสูงแต่มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดอย่างเหลือเชื่อ , มาคันน์ (Macan) รถสปอร์ตอเนกประสงค์ SUV ขนาด Compact ที่โดดเด่นและพร้อมมอบความสนุกสนานในทุกการขับขี่ , และ เคย์แมน (Cayman) รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลาง 2 ที่นั่งมาพร้อมกับความสปอร์ตและเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอย่างเต็มพิกัด พร้อมให้ท่านสัมผัสอย่างใกล้ชิด
ครั้งที่ 36 (Bangkok International Motor Show 2015) เพื่อเป็นการประกาศและตอกย้ำความเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยภายในงานท่านจะได้พบกับสุดยอดรถแข่งระดับโลกเจ้าของความสำเร็จรายการ Le Mans และ WEC ในปี 2014 นั่นคือ ปอร์เช่ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) นอกจากนี้ เอเอเอสฯ ได้ขนทัพสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก ประกอบด้วย ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) รถ Plug-in Hybrid คันแรกของโลกในคลาสรถสปอร์ตอเนกประสงค์ , พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S
E-Hybrid) รถสปอร์ต ซาลูนสุดหรูที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีระบบขับเคลื่อนแบบ plug-in ไฮบริดคันแรกของโลกในคลาสรถหรู , พานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel) รถยนต์ที่มาพร้อมพละกำลังและแรงบิดสูงแต่มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดอย่างเหลือเชื่อ , มาคันน์ (Macan) รถสปอร์ตอเนกประสงค์ SUV ขนาด Compact ที่โดดเด่นและพร้อมมอบความสนุกสนานในทุกการขับขี่ , และ เคย์แมน (Cayman) รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลาง 2 ที่นั่งมาพร้อมกับความสปอร์ตและเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอย่างเต็มพิกัด พร้อมให้ท่านสัมผัสอย่างใกล้ชิด
ครั้งแรกในประเทศไทยกับ ปอร์เช่ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) รถแข่งในคลาส Le Mans prototype ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย การันตีความสำเร็จจากรายการ Le Mans และ WEC ในปี 2014 พร้อมให้ทุกท่านยลโฉมภายในงาน ปอร์เช่ 919 ไฮบริด (Porsche 919 Hybrid) มาพร้อมเครื่องยนต์สันดาป เครื่องยนต์ตัว V ขนาด 4 สูบ โดยเครื่องยนต์มีขนาด 2 ลิตร ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรงและ Mono-turbocharging เครื่องยนต์สามารถวิ่งไปได้จนถึงความเร็วที่ 9,000 รอบต่อนาที และมีกำลังขับประมาณ 500 แรงม้า ไม่เพียงเท่านี้ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) ยังมีระบบการนำพลังงานกลับมาใช้อยู่ถึง 2 ระบบ ซึ่งมีพื้นฐานการทำงานโดยนำพลังงานความร้อนจากแก๊สไอเสียผ่านตัวกำเนิดไฟฟ้ามาใช้ใหม่ โดยระบบไฮบริดสำหรับรูปแบบที่ 2 มีฟังก์ชั่นการทำงานคล้ายกับรุ่น 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) ซึ่งระบบนี้จะมีตัวสร้างพลังงานบนเพลาหน้า เมื่อเกิดการเบรกจะทำการเปลี่ยนพลังงานจลน์ไปเป็นพลังงานไฟฟ้า แบตเตอรี่ ลิเธียม ไอออน จะทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บพลังงาน เมื่อผู้ขับขี่ต้องการพลังงานเหล่านี้ มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำการขับเคลื่อนเพลาหน้า และทำให้ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) กลายมาเป็นรถที่มีระบบการขับเคลื่อน 4 ล้ออย่างสมบูรณ์
เอเอเอสฯ ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้ความมั่นใจว่ารถยนต์ทุกคันที่ทางเอเอเอสฯ นำเข้าและจัดจำหน่ายได้ผ่านการทดสอบโฮโมโลเกชั่น (Homologation) ของประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายและครบทุกกระบวนการที่จำเป็นและสำคัญสำหรับการนำมาใช้งานในประเทศไทย ระบบจัดการของเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับกฎระเบียบและสภาพ ภูมิประเทศของประเทศไทยอย่างดีที่สุด รวมถึงยังมีศูนย์บริการของรถยนต์ปอร์เช่ที่ได้มาตรฐานตามโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีกำหนดไว้ พร้อมทั้งมีทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานโดยตรง พร้อมให้การดูแลและบริการรถยนต์ปอร์เช่ของท่าน โดยลูกค้าสามารถมั่นใจในบริการที่จะได้รับ หากซื้อรถยนต์กับทางเอเอเอสฯ อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขายที่ได้คุณภาพโดยตรงจากโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนี ราคาที่เสียภาษีนำเข้ารถยนต์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และคุณภาพของรถยนต์ปอร์เช่ที่ได้มาตรฐาน
เอเอเอสฯ ขอมอบแคมเปญและข้อเสนอพิเศษสำหรับท่านที่จองรถยนต์ปอร์เช่ภายในงาน
- แคมเปญผ่อน 1.99% นาน 60 เดือน สำหรับ Macan
- ประหยัดยิ่งกว่าด้วยบัตรเติมน้ำมัน PTT Cash Card มูลค่ากว่า 100,000 บาท
- เพลิดเพลิน ไปกับ Paragon Gift Voucher มูลค่า 100,000 บาท
- และที่สำคัญเอเอเอสฯ ยังมอบความเชื่อมั่นให้แด่ลูกค้าที่ซื้อรถจากเอเอเอสฯ ทุกคัน
ด้วยจดหมายรับรองการนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อมอบความมั่นใจให้แด่ลูกค้า
- การรับประกันจากโรงงานปอร์เช่เยอรมันนีนานถึง 9 ปี
*Terms & Conditions Apply
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมายที่ทางเอเอเอสฯ ได้จัดเตรียมให้ทุกท่านร่วมสัมผัสและค้นหา ความสุนทรีย์ของสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์กันอย่างใกล้ชิด รวมถึงรถยนต์ไฮไลท์ประจำบูธที่จะสะกดสายตาคุณให้หลงใหลไปกับสมรรถนะอันลือเลื่องที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และมี Accessories ต่างๆ จาก Porsche Driver’s Selection มาให้ท่านเลือกสรรมากมายในราคาพิเศษ ภายในงาน Motor Show 2015 ณ อิมแพค เมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ 2 ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม - 5 เมษายน 2015 นี้
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงาน ปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่ “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th
เบนท์ลี่ย์ขนทัพรถหรู ร่วมงานมอเตอร์โชว์ 2015
Posted by Contemporary industry
Posted on 01:07
เบนท์ลี่ย์ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ขนทัพรถหรู เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 เพื่อเป็นการประกาศและตอกย้ำความเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยภายในงานท่านจะได้สัมผัสสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกจากประเทศอังกฤษอย่างใกล้ชิด อาทิเช่น เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที วี8 เอส (Continental GT V8 S) คูเป้สุดหรู 2 ประตู 2 ที่นั่ง พร้อมด้วย เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ดับเบิ้ลยู12 (Flying Spur W12) รถที่ได้รับการขนานนามว่า
เป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมซาลูน 4 ประตูสุดหรูจากประเทศอังกฤษ และ เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ วี8 (Flying Spur V8) รถซาลูน 4 ประตู เครื่องยนต์ วี8 (V8) ทรงพลังใหม่ล่าสุด พร้อมอวดโฉมภายในงาน
เป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมซาลูน 4 ประตูสุดหรูจากประเทศอังกฤษ และ เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ วี8 (Flying Spur V8) รถซาลูน 4 ประตู เครื่องยนต์ วี8 (V8) ทรงพลังใหม่ล่าสุด พร้อมอวดโฉมภายในงาน
เบนท์ลี่ย์ จีที วี8 เอส (GT V8 S) คอนติเนนทัล (Continental) ใหม่ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 คันนี้มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา เครื่องยนต์ขนาด 4 ลิตร twin-turbo พละกำลังสูงสุดถึง 521 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด เสริมด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่งจาก 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 4.5 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดที่ 309 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นอย่างยิ่ง สำหรับโลโก้ “V8 S” แสดงให้เห็นถึงความเป็นสปอร์ต อย่างแท้จริง ภายในห้องโดยสารมาพร้อมสีแบบทูโทนอย่างหรูหรา เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ดับเบิ้ลยู12 (Flying Spur W12) ที่มาพร้อม เครื่องยนต์ขนาด 6 ลิตร
Twin-turbo W12 และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 616 แรงม้า
ให้แรงบิดอันมหาศาลถึง 800 นิวตันเมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นเบนท์ลี่ย์ 4 ประตูที่ทรงพลังมากที่สุดตั้งแต่ เบนท์ลี่ย์เคยมีมา อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 4.3 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้มีประสิทธิภาพในการเกาะถนนและทรงตัวบนพื้นผิวถนนได้อย่างดีเยี่ยม เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ วี8 (Flying Spur V8) มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 4 ลิตร Twin-turbo V8 สร้างพละกำลังแรงม้าถึง 507 แรงม้า
และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 660 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในระยะเวลาเพียง 5.2 วินาทีและความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 295 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากเติมน้ำมันเต็มถังจะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรเลยทีเดียว"
Twin-turbo W12 และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 616 แรงม้า
ให้แรงบิดอันมหาศาลถึง 800 นิวตันเมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นเบนท์ลี่ย์ 4 ประตูที่ทรงพลังมากที่สุดตั้งแต่ เบนท์ลี่ย์เคยมีมา อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 4.3 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้มีประสิทธิภาพในการเกาะถนนและทรงตัวบนพื้นผิวถนนได้อย่างดีเยี่ยม เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ วี8 (Flying Spur V8) มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 4 ลิตร Twin-turbo V8 สร้างพละกำลังแรงม้าถึง 507 แรงม้า
และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 660 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในระยะเวลาเพียง 5.2 วินาทีและความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 295 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากเติมน้ำมันเต็มถังจะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรเลยทีเดียว"
เอเอเอสฯ ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้ความมั่นใจว่ารถยนต์ทุกคันที่ทางเอเอเอสฯ นำเข้าและจัดจำหน่ายได้ผ่านการทดสอบโฮโมโลเกชั่น (Homologation) ของประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายและครบทุกกระบวนการที่จำเป็นและสำคัญสำหรับการนำมาใช้งานในประเทศไทย ระบบจัดการของเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับกฎระเบียบและสภาพภูมิประเทศของ
ประเทศไทยอย่างดีที่สุด รวมถึงยังมีศูนย์บริการของรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ได้มาตรฐานตามโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษกำหนดไว้ พร้อมทั้งมีทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานโดยตรง พร้อมให้การดูแลและบริการรถยนต์เบนท์ลี่ย์ของท่าน โดยลูกค้าสามารถมั่นใจในบริการที่จะได้รับ หากซื้อรถยนต์กับทางเอเอเอสฯ อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขายที่ได้คุณภาพโดยตรงจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ ราคาที่เสียภาษีนำเข้ารถยนต์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และคุณภาพของรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ได้
สำหรับข้อเสนอสุดพิเศษเมื่อซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากเอเอเอสฯ ภายในงาน
- รับทันทีประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- พร้อมทั้ง รับการบริการดูแลและบำรุงรักษารถยนต์เบนท์ลี่ย์จากผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม ตลอด 5 ปี (5 Years Free Service Package)
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมายที่ทาง เอเอเอสฯ ได้จัดเตรียมให้ทุกท่าน ร่วมสัมผัสและค้นหาความสุนทรีย์ของสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์กันอย่างใกล้ชิด รวมถึงรถยนต์ไฮไลท์ประจำบูธ ที่จะสะกดทุกสายตาให้หลงใหลไปกับสมรรถนะอันลือเลื่อง ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และมี Bentley Collection ของเบนท์ลี่ย์มาให้ท่านเลือกสรรมากมายในราคาพิเศษ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2558 นี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่ 02-261-1050-51 หรือ เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.bentleymotors.com
มาสด้าส่งเทคโนโลยีสกายแอคทีฟเบนซินลงมาสด้า2 ใหม่ เขย่าตลาดเก๋งเล็ก เพิ่มทางเลือกที่ตอบทุกความต้องการ ตั้งเป้าขายสวนกระแสตลาด 5 หมื่นคัน
Posted by Contemporary industry
Posted on 00:08
กรุงเทพฯ – ประเทศไทย - 24 มีนาคม 2558, บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ยังคงความแข็งแกร่ง เสริมทัพต่อยอดความสำเร็จจากเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล เปิดตัวแนะนำรถยนต์นั่ง ออลนิว มาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน สกายแอคทีฟ-จี ขนาด 1300 ซีซี อย่างเป็นทางการ มาพร้อมความคุ้มค่า คุ้มราคา แถมอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน เอาใจวัยรุ่นยุคดิจิตอลเชื่อมต่อกับโลกโซเชียลด้วยระบบ MZD Connect เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์บี-คาร์ ประกาศขึ้นแท่นผู้นำรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับพรีเมียมหนึ่งเดียวในคลาส วางราคาขายเริ่มต้นเพียง 5 แสนกว่าบาท พร้อมตั้งเป้าการขายสูงถึง 30,000 คัน
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าว มาสด้าถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่มุ่งมั่นเพื่อพัฒนารถยนต์นั่งซับคอมแพ็คคาร์ภายใต้มาตรฐานใหม่ ด้วยการแนะนำมาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ ที่มีเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดลงในตลาดถึง 2 เครื่องยนต์ เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าชาวไทย ทั้งสกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1500 ซีซี ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงอยู่ในขณะนี้ และล่าสุดส่งเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1300 ซีซี ที่ให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่เปี่ยมด้วยพลังแรง ให้กำลังสูงสุดที่ 93 แรงม้าที่ 5,800 รอบ แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ เป็นเครื่องยนต์เบนซินประสิทธิภาพสูงประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร พร้อมมาตรฐานด้านความปลอดภัยทั้งเชิงป้องกัน (Active Safety) และเชิงปกป้อง (Passive Safety) รวมถึงการออกแบบให้ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มการรับรู้และการคาดการณ์ต่อสถานการณ์ที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์มาสด้า2 สกายแอคทีฟเบนซิน สกายแอคทีฟ-จี1.3L เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านมาตรฐานข้อบังคับมลพิษของยุโรป EURO 5เป็นครั้งแรกของรถที่จำหน่ายในประเทศ ด้วยการปล่อยไอเสียต่ำเพียง 100 กรัมต่อกิโลเมตร อีกทั้งการใส่อุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครันตอบสนองการใช้งาน ดังนั้นมาสด้า2 สกายแอคทีฟ-จี เบนซิน ใหม่ จึงเป็นรถยนต์ในกลุ่มบีเซ็กเม้นต์ที่เหนือความคาดหมายของลูกค้า ซึ่งจะเข้ามาเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ และจะเป็นทางเลือกสำคัญหนึ่งเดียวในคลาส
การเสริมทัพในครั้งนี้มาสด้าวางกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของมาสด้า2 ออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ กลุ่มแรกสำหรับเครื่องยนต์คลีนดีเซลมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความต้องการชัดเจนในเรื่องของการใช้งานของรถที่ให้สมรรถนะสูง มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดี คุณภาพและมาตรฐานการขับขี่ขั้นสูง กลุ่มที่สองคือกลุ่มลูกค้าที่เน้นเครื่องยนต์เบนซิน ต้องการรถที่ขับสนุก คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน กลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาความคุ้มค่า คุ้มราคา และเป็นรถยนต์ที่ให้อรรถประโยชน์มากกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน ซึ่งทั้งสองกลุ่มเป็นตลาดหลักที่สำคัญของตลาดรถยนต์ประเทศไทย สำหรับมาสด้า2 สกายแอคทีฟ ใหม่ ทั้งสองรุ่น มาสด้าตั้งเป้าการขายไว้สูงถึง 30,000 คัน และจะตัวจักรสำคัญที่จะช่วยผลักดันยอดจำหน่ายโดยรวมให้ประสบความสำเร็จในปีนี้ของมาสด้าที่ตั้งเป้าไว้สูงถึง 50,000 คัน โดยประมาณ หรือเพิ่มขึ้นถึง 40% ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 5.5% ในขณะที่ตลาดรถยนต์โดยรวมคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 900,000 คัน
จุดเด่นที่สำคัญของมาสด้า2 สกายแอคทีฟเบนซิน ใหม่ อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ มาพร้อมรูปลักษณ์การออกแบบภายใต้ “โคโดะ ดีไซน์” ที่สุดของการดีไซน์ที่ผสานจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันงดงาม พร้อมเทคโนโลยีแห่งความปลอดภัยขั้นสูง มิติใหม่ของรถซับคอมแพ็คคาร์ระดับโลกที่สามารถเชื่อมต่อสู่โลกออนไลน์ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ MZD Connect ที่สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารบนโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา มาสด้าตั้งใจที่จะสร้างรถมาสด้า2 สกายแอคทีฟเบนซิน ใหม่ ให้แตกต่างเหนือชั้น ก้าวข้ามรถยนต์ที่มีอยู่ในตลาดทุกคัน เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ให้ประสิทธิภาพสูงและประหยัด ใส่อุปกรณ์มาตรฐานครบครัน คุณภาพที่พิถีพิถัน จึงมีความคุ้มค่าและทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย
เป้าหมายในการสร้างมาตรฐานการออกแบบภายในขึ้นใหม่ให้โลกได้รับรู้ เราใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างจริงจังรวมถึงความพิถีพิถันในการขึ้นรูปทรงที่สวยงาม คุณภาพที่เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน การสร้างสิ่งแวดล้อมภายในห้องโดยสารที่ยึดเอาผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง การเลือกสรรและการผสมผสานคู่สีที่สวยงาม จนเป็นห้องโดยสารที่เพิ่มความเพลิดเพลินให้กับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถมาสด้า2 สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ใหม่ ความสุขในทุกครั้งที่ได้อยู่บนรถคันนี้ ทำให้เกิดความกระตือรือร้นทุกครั้งและอยากจะขับรถคันนี้ให้บ่อยครั้งที่สุด
เทคโนโลยี SKYACTIV-DRIVE คือ เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ที่รวมเอาข้อดีของเกียร์ทุกระบบเข้าไว้ด้วยกัน ให้อารมณ์ตอบสนองที่แม่นยำเฉกเช่นเกียร์ธรรมดา โดยกำลังจากเครื่องยนต์ถูกส่งไปยังตัวถังและล้ออย่างสมบูรณ์และลดการสูญหายของกำลัง จึงยังคงความแรงและให้ประสิทธิภาพของการประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม
โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ SKYACTIV-BODY ซึ่งเป็นโครงสร้างของรถยนต์ยุคใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้มีน้ำหนักที่เบาลงเหมาะสมกับขนาดและกำลังของเครื่องยนต์ และเพิ่มโลหะเกรดพรีเมียมเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High Tensile Steel) ที่แข็งแกร่งแต่มีน้ำหนักเบาทดแทนเหล็กประเภทเดิม อีกทั้งยังเพิ่มจุดเชื่อมยึดเพื่อให้โครงสร้างหลักกับโครงสร้างส่วนอื่นของรถเป็นมวลเดียวกัน จึงให้ความมั่นคงกว่า ปลอดภัยกว่า พร้อมทั้งประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวสกายแอคทีฟ SKYACTIV-CHASSIS ให้ความรู้สึกในการขับที่เกาะถนนมั่นคง ขณะที่ความนุ่มนวลของช่วงล่างยังคงอยู่ ซึ่งระบบบังคับเลี้ยวระบบใหม่ให้ความมั่นใจในการควบคุมรถขณะเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซินขนาด 1.3 ลิตร SKYACTIV-G และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE ที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อ อีกทั้งติดตั้งระบบ i-stop (idling stop system) และระบบช่วยประหยัดน้ำมันอัจฉริยะ i-ELOOP หรือระบบเปลี่ยนรูปพลังงานที่สูญเสียจากการชะลอหยุดรถกลับมาใช้ ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟเพื่อให้การประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม
รถยนต์มาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ สามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรติมากมาย ล่าสุดคือ Japan Car of the Year 2014 ประเทศญี่ปุ่น และรางวัล Germany Golden Steering Wheel จากประเทศเยอรมัน สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่ารถมาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ ได้เอาชนะข้อจำกัดต่างๆ และสร้างมาตรฐานขึ้นมาใหม่ให้กับรถยนต์ในเซ็กเม้นต์นี้แล้ว
รถยนต์มาสด้า2 สกายแอคทีฟเบนซินใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่น ประกอบด้วยรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู 3 รุ่น และรุ่นซีดาน 4 ประตู 3 รุ่น สำหรับสีภายนอกเป็นอีกหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการออกแบบรถยนต์มาสด้า และเป็นการนำเสนอรถยนต์ที่น่าดึงดูดใจ โดยสีภายนอกมีความสำคัญเช่นเดียวกับอุปกรณ์อื่นๆ สีใหม่ที่มาสด้านำนวัตกรรมและเทคโนโลยีการพัฒนาแบบใหม่ที่มีลักษณะเฉพาะของสีที่มีความงดงาม เงาวาวเป็นประกายเมทัลลิก ดูมีมิติเชิงลึก คือ สีแดง โซล เรด รถยนต์นั่งมาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 8 สี ประกอบด้วย สีแดง โซล เรด, สีขาวมุก สโนว์เฟลก, สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช, น้ำเงิน ไดนามิก บลู, สีเงิน อลูมินัม, สีดำ แบล็ก, สีขาว อาร์กติค ไวท์ และสีเทา เมโทรโพลิตัน เกรย์
มาสด้าวางเป้าหมายเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับพรีเมียมด้วยกลยุทธ์ด้านราคาที่เป็นอีกหนึ่งความ สำคัญเพื่อให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้และเพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบสมรรถนะของเครื่องยนต์คลีนดีเซล ซึ่งหาไม่ได้จากรถในระดับเดียวกัน มาสด้านำมาพิจารณาในการนำมาสด้า2 สกายแอคทีฟเบนซินใหม่ ลงสู่ตลาดด้วยราคาเริ่มต้นที่ 5 แสนกลางๆ ในขณะที่รุ่นท็อป ซึ่งทั้งภายนอก ภายในมาพร้อมกับชุดเสริมความสปอร์ตที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ราคาเพียง 6 แสนกว่าบาท เมื่อเทียบคุณสมบัติและอุปกรณ์มาตรฐานที่มาสด้า2 ใหม่ มีมาให้กับราคา นับว่าเป็นรถยนต์อีกรุ่นหนึ่งในตลาดที่คุ้มค่ามาก มาสด้า2 สกายแอคทีฟ ใหม่ มีให้เลือกด้วยกัน 6 รุ่นคือ
o Mazda2 Sports แฮตช์แบค รุ่น Standard เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 550,000 บาท
o Mazda2 Sports แฮตช์แบค รุ่น High เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 610,000 บาท
o Mazda2 Sports แฮตช์แบค รุ่น High Plus เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 665,000 บาท
o Mazda2 Sedan รุ่น Standard เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 550,000 บาท
o Mazda2 Sedan รุ่น High เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 610,000 บาท
o Mazda2 Sedan รุ่น High Plus เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 665,000 บาท
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการเปิดตัวรถยนต์มาสด้า2 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ใหม่ ในงานมอเตอร์โชว์แห่งนี้แล้ว มาสด้ายังยกทัพยานยนต์ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟมากันครับทุกรุ่น อาทิ รถยนต์มาสด้า2 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล ที่ทั้งแรงทั้งประหยัด โดยเฉพาะล่าสุดมาสด้าจัดกิจกรรม Mazda SKYACTIV Clean Diesel Challenge โดยการพิสูจน์อัตราการประหยัดน้ำมันจากกรุงเทพถึงประเทศมาเลเซียด้วยน้ำมันเพียงถังเดียว ซึ่งเป็นการทดสอบที่ออกแบบให้มีความใกล้เคียงกับการใช้งานจริงมากที่สุด ผลปรากฏว่ามาสด้า2 สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5L มีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 33.22 กิโลเมตรต่อลิตร
อีกทั้งงานมอเตอร์โชว์นี้ยังมี รถสปอร์ตอเนกประสงค์เอสยูวี All New Mazda CX-5 ตามมาด้วยรถยนต์นั่งคอมแพ็คคาร์ All New Mazda3 พร้อมทั้งการเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ตพรีเมียมของมาสด้า3 ให้มีความสดใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วยรุ่นพิเศษMazda3 Racing Series ซึ่งเป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น หนึ่งเดียวแห่งจิตวิญญาณสปอร์ตพรีเมียม ยากที่ใครจะเหมือน เติมเต็มอารมณ์เรซซิ่งด้วยชุดแต่งแอร์โร่พาร์ทแท้จากประเทศญี่ปุ่นที่ดีไซน์เฉพาะตัว ทั้งสเกิร์ตหน้าและสเกิร์ตด้านข้างสีดำ และสปอยเลอร์หลังสีดำ มาพร้อมล้ออัลลอยด์สีพิเศษสีดำ Gun Metallic ขนาด 18 นิ้ว คอนโซลหน้าสีดำเปียโนแบล็ก พร้อมโลโก้ Racing Series เบาะหนังดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยวัสดุหนังสีดำ-แดงแต่งขอบด้วยด้ายแดง พร้อมโลโก้ Racing Series บนพนักพิงศีรษะ มีให้เลือก 2 สี คือสีแดงโซลเรดและสีขาวมุก สโนว์เฟลก วางราคาจำหน่ายเพียง 968,000 และ 973,000 บาท มีให้เลือกทั้งรุ่นแฮตช์แบคและซีดาน มาสด้ามีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าเสียงตอบรับอย่างดียิ่งของลูกค้าที่มีต่อเทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ในรถยนต์ทุกรุ่นของมาสด้า จะส่งผลให้มาสด้าสามารถทำยอดจองในงานมอเตอร์โชว์แห่งนี้ได้ในอันดับต้นๆ ได้
หมวดหมู่ยานยนต์
- 014 Chevrolet Silverado HD (1)
- 10 เคล็ดลับขับปลอดภัยเมื่อน้ำท่วม (1)
- 2014 Volvo S80 (1)
- 2015 Lincoln MKC crossover (1)
- 2015 Volvo S60 T6 (1)
- 2015 Volvo V40 (1)
- 2016 Chevrolet (1)
- 2016Chevrolet Colorado (1)
- 2016 Toyota Fortuner (1)
- 2018 Mazda CX-5 (1)
- 2018 Toyota Rush (2)
- 2 Stroke Engine (1)
- 5 ประตู (6)
- กระบวนการผลิต (19)
- กระบอกสูบ (1)
- กราฟกำลัง (1)
- กราฟแรงบิด (1)
- ก้านสูบ (1)
- การขับรถอย่างปลอดภัย (1)
- การใช้ไฟอย่างถูกต้อง เมื่อฝนตกหนัก (1)
- การดูแลรักษารถด้วยตนเอง (2)
- การเติมลม (1)
- การเติมลม กับ ล้อแม็กซ์ (1)
- การถ่วงล้อ (1)
- การบำรุงรักษา (4)
- การบำรุงรักษาและตรวจเช็คประจำวันรถยนต์คู่ใจ ควรทำอย่างไร (1)
- การปลี่ยนขนาด ยางรถยนต์ (1)
- การเปลี่ยนพลังงานความร้อนเป็นพลังงานกลของเครื่องยนต์ (1)
- การเผาไหม้ (11)
- การเผ่าไหม้ (1)
- การวิเคราะห์ปัญหาเครื่องยนต์ (1)
- การหยุดรถ และการจอดรถ (1)
- การออกแบบ (10)
- แก๊สโซลีน (3)
- ข้อควรปฏิบัติทั่วไป ในการใช้รถยนต์ (1)
- ข้อควรปฏิบัติ เมื่อการขับขี่ในพื้นที่ลักษณะต่างๆ (1)
- ขับเคลื่อน (13)
- ขับอย่างไรเพื่อยืดอายุยาง (1)
- ข่าวยานยนต์ (4)
- ควรจะทำอย่างไรเมื่อยางรถระเบิดขณะขับรถอยู่ (1)
- คว้านเสื้อสูบ (2)
- ความรู้ (3)
- คอมมอนเรล (1)
- คอยล์จุดระเบิด (8)
- คำศัพท์น่ารู้ (1)
- เครื่องมือ (1)
- เครื่องยนต์ (64)
- เครื่องยนต์ 2 จังหวะ (1)
- เครื่องยนต์ 4 จังหวะ (1)
- เครื่องยนต์คอมมอนเรล (1)
- เครื่องยนต์ดีเซล (3)
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร (1)
- เครื่องยนต์ดีเซลตระกูล GD รุ่นใหม่ (1)
- เครื่องยนต์เบนซิน (1)
- เครื่องยนต์แบบโรตารี่ (1)
- เครื่องยนต์ร้อนแล้วดับ สตาร์ทติดยาก เกิดจากสาเหตุใด และแก้ไขอย่างไร (1)
- เครื่องยนต์เล็ก (2)
- เครื่องยนต์สตาร์ทติดยากตอนอากาศชื้นเกิดจากอะไร ? (1)
- เครื่องยนต์สันดาปภายใน (3)
- เครื่องยนต์หัวฉีด (1)
- เครื่องยนต์ EFI (2)
- เครื่องยนต์V8 (1)
- เคล็ดลับ (2)
- จอดรถให้ปลอดภัย (1)
- จักรยานยนต์ (1)
- จังหวะการฉีดเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ EFI (1)
- ชิ้นส่วนยานยนต์ (1)
- ชื่อชิ้นส่วนเครื่องยนต์ภาษาไทย และอังกฤษพร้อมรูป คลิปวีดีโอ (1)
- เชฟโรเลต (1)
- เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 (1)
- โช๊คอัพ (5)
- ซ่อม (21)
- ซ่อมเครื่องยนต์ (7)
- ซ่อมบำรุง (6)
- ซุปเปอร์คาร์ (3)
- ซูซุูกิ (2)
- ซูซูกิ ไฮบริด (1)
- โซลินอย (1)
- ดัดแปลง (3)
- ไดชาร์จ (2)
- ไดร์สตาร์ท (10)
- ไดสตาร์ท (12)
- ตรวจสอบเครื่องยนต์ (1)
- ตลับลูกปืน (2)
- ตัวอักษรบนยาง บอกอะไร? (1)
- ตีปลอก (1)
- โตโยต้า (21)
- โตโยต้า 2015 (1)
- ถุงลมนิรภัย (1)
- ที่นั่งเด็ก (5)
- เทคนิคการขับรถป้องกันเชิงอุบัติเหตุ (1)
- เทคนิคการใช้รถและการดูแลรถอย่างง่ายๆ (1)
- เทคโนโลยียานยนต์ (53)
- เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ (8)
- เทอร์โบ (1)
- เทอร์โบแปรผัน (7)
- น้ำมันเชื้อเพลิง (14)
- น้ำมันดีเซล (6)
- น้ำมันเบนซิน (4)
- นิตยสาร (3)
- นิสสัน (11)
- บำรุงรักษาเครื่องยนต์ (1)
- บีเอ็มดับเบิ้ลยู (1)
- เบรค (22)
- เบาะรถยนต์ (5)
- เบาะสำหรับเด็ก (5)
- แบตเตอรี่ (3)
- แบรนด์รถยนต์ (1)
- แบริ่ง (1)
- ไบโอดีเซล (2)
- ประกอบเครื่องยนต์ (5)
- ประกอบรถยนต์ (13)
- ประดับยนต์ (5)
- ประเภทรถยนต์ (1)
- ปอร์เช่ (2)
- ปัญหารถยนต์ (1)
- ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ 2015 (1)
- ปิกอัพ (4)
- ปี2017 (3)
- เปลี่ยนอะไหล่ (3)
- ผลิตรถยนต์ (16)
- แผนภาพจังหวะการเปิดของลิ้น (Valve Timing Diagram) เครื่องยนต์ 4 สูบ และ 6 สูบ (1)
- แผนภาพต้นกำลังงานของรถยนต์ (1)
- ฝาสูบ (4)
- พจนานุกรมศัพท์ยานยนต์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๔๒ (1)
- พูเล่ (1)
- เพลาข้อเหวี่ยง (1)
- เพลาท้าย (2)
- ฟอร์ด (1)
- ฟิล์มกรองแสง ติดดี หรือ ไม่ติดดี มีประโยชน์อย่างไร วันนี้ทีคำตอบ (1)
- เฟอรารี่ (3)
- เฟืองท้าย (14)
- ไฟฉุกเฉิน ไม่จำเป็นและไร้สาระ (1)
- ไฟฟ้ารถยนต์ (24)
- ภาพโครงสร้างเครื่องยนต์ EFI (1)
- ภาพรวมรถยนต์ (9)
- มาสด้า (3)
- มิตซูบิชิ (6)
- มินิ (2)
- โมเดลรถยนต์ (3)
- ยนตกรรม (1)
- ยานยนต์ อุตสาหกรรม (26)
- ยาริส (15)
- รถกระบะ (9)
- รถกระบะ Revo (1)
- รถเก๋ง (51)
- รถแข่ง (2)
- รถจิ๊บ (1)
- รถเบนซ์ (19)
- รถยก (27)
- รถยก อุตสาหกรรม (26)
- รถยก อุตสาหกรรมม (1)
- รถยนต์ (3)
- รถยนต์ไฟฟ้า (4)
- รถรุ่นเก่า (1)
- รถศูนย์ (16)
- รถสปอร์ต (10)
- รถหรู (1)
- รถใหม่ (41)
- ระบบขับอัตโนมัติ (1)
- ระบบความร้อน (2)
- ระบบจุดระเบิด (10)
- ระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีน (Gasoline Fuel Injection System) (1)
- ระบบช่วงล่าง (27)
- ระบบเบรค (22)
- ระบบไฟฟ้า (14)
- ระบบรองรับ (5)
- ระบบระบายความร้อน (6)
- ระบบลม (3)
- ระบบส่งกำลัง (1)
- ระบบหล่อเย็น (2)
- ระบบหัวฉีด (1)
- ระบบห้ามล้อ (14)
- ระบบ Hybrid (1)
- ราคารถยนต์ (5)
- รางร่วม (1)
- รีเลย์ (6)
- รีวิว (15)
- รีวิวรถยนต์ (11)
- รู้ไว้ก่อน : การเปลี่ยนขนาดยาง (1)
- เรื่อง น้ำมันเครื่อง (1)
- โรงงานผลิตรถยนต์ (13)
- ล้อตุนกำลัง (1)
- ลักษณะดอก ยางรถยนต์ (1)
- ลากรถอย่างไรเมื่อรถเสีย (1)
- ลำดับการจุดระเบิด (1)
- ลูกปืนกลม (1)
- ลูกสูบ (3)
- วงจรไฟฟ้า (7)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด ECCS Nissan RB20E (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด ECI-multi Mitsubishi 4G61 (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด EFI เครื่องยนต์ Toyota 4A-GE (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด Honda B16A VTEC DOHC รุ่นแรก (1)
- วิชาช่างยนต์ (10)
- วี8 (1)
- สเปกรถยนต์ (5)
- สร้างเครื่องยนต์ (1)
- สร้างโมเดลรถยนต์ (1)
- สายพานเครื่องยนต์ (2)
- สีรถ (8)
- เสื้อสูบ (5)
- หนังสือรถยนต์ (7)
- หม้อน้ำ (2)
- หลักการทำงาน (2)
- หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน 4 จังหวะ (1)
- หลักการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซล 4 จังหวะ (1)
- หัวเทียน (24)
- ห้ามล้อ (14)
- แหวนลูกสูบ (1)
- องค์ประกอบการสันดาปของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน (1)
- ออกแบบรถยนต์ (22)
- อะไหล่เครื่องยนต์ (3)
- อะไหล่ยนต์ (1)
- อัตราค่าปรับ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 (1)
- อัตราส่วนผสมอากาศต่อเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน (1)
- อาการหัวเทียน (12)
- อินเตอร์คูลเลอร์ (6)
- อีโก้คาร์ (5)
- อุตสาหกรรม รถยก (27)
- อุปกรณ์เสริม (6)
- แอร์เริ่มไม่เย็น และส่งกลิ่นอับเวลาเปิดแอร์ใหม่ ควรทำอย่างไร ? (1)
- ไอดี (3)
- ไอเสีย (6)
- ฮอนด้า (6)
- ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด (2)
- Accessories (5)
- All New toyota yaris 2013 2014 (1)
- Alternator (1)
- alternators (1)
- Ativ (7)
- Audi (2)
- Audi A4 (1)
- Automatic drive (1)
- Ball Bearing (1)
- bearing (1)
- biodiesel (2)
- BMW (4)
- Brake (23)
- Brake system (23)
- BT-50 (1)
- Car Family (1)
- Cars (61)
- CAT (Catalytic Converter) เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยา (1)
- Check Engine (1)
- Chevrolet (1)
- CHEVROLET COLORADO (2)
- Colorado (1)
- commonrail (1)
- Common Rail (1)
- Common Rail Engine (1)
- Concept Car (1)
- Connecting rod (1)
- Crankshaft (1)
- Cylinder head (1)
- Diesel Engine (3)
- Diesel fuel (6)
- differential (12)
- DIY (8)
- DURAMAX ENGINE (1)
- DURAMAX VIN CHART (1)
- ECCS (1)
- EFI (1)
- EGR (Exhaust Gas Recirculation) หรือการหมุนเวียนไอเสีย (1)
- Electric car (4)
- Electric cars (4)
- Electronic Fuel Injection Engine (1)
- Engine (37)
- Engine Block (1)
- Engine Curve (1)
- Ferrari (3)
- Flywheel (1)
- Ford (4)
- Ford Ranger (2)
- Fuel (14)
- gasoline (3)
- Gasoline engine (1)
- General Motors (2)
- GMC Canyon (1)
- Honda (11)
- Honda Accord (1)
- HONDA ACCORD HYBRID ใหม่ (1)
- Honda CR-V 2015 (1)
- Honda HR-V (1)
- Honda HRV 2015 (1)
- Honda Jazz (1)
- Honda Vezel (1)
- Hydrogen cars (1)
- i-DTEC (1)
- Ignition Coil (8)
- Ignition System (1)
- i-MMD (1)
- Intercooler (6)
- internal combustion engine (3)
- Jeeb (1)
- lamborghini (4)
- Lamborghini Revuelto (2)
- Mazda (4)
- Mercedes Benz (21)
- Mini (2)
- MINI Cooper (2)
- Mitsubishi (9)
- Mustang (1)
- Navara (2)
- NGV (1)
- Nissan (11)
- nissan np300 navara (1)
- NP300 (1)
- NP300 NAVARA Single Cab (1)
- pickup (6)
- pickup truck. (5)
- Piston (3)
- Piston Ring (1)
- Porsche (2)
- Port Timing Diagram ของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ (1)
- Ranger (1)
- Rear axle (1)
- Relay (6)
- Revuelto (1)
- Rotary Engine (1)
- S60 (1)
- S90 (1)
- SEAT (1)
- Self Diagnosis System (1)
- Shock Absorbers (5)
- SKODA (1)
- SKYACTIV-D เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล (1)
- solenoid (4)
- Spark Plugs (20)
- Starter (6)
- Supper Car (4)
- Suspension System (3)
- Suzuki (2)
- TCCS (1)
- Tesla Model X (1)
- TOYOTA (29)
- Toyota และ Lexus (1)
- Toyota Hilux Revo (1)
- Triton (1)
- V60 (1)
- Ⅴ8 (1)
- Variable Nozzle Turbo (2)
- VGT (5)
- Volkswagen (1)
- Volvo (4)
- Volvo purchased the Polestar brand (1)
- Volvo S90 (1)
- Wankel Engine (1)
- XC90 (1)
- Yaris (15)